บทท่ี 8 วงจรนับวัตถปุ ระสงค หลังจากไดเรียนจบบทเรียนน้แี ลว จะสามารถ 1. เขยี นวงจรนับแบบรปิ เปล โดยใช J-K ฟลิปฟลอปได 2. วิเคราะหก ารทํางานของวงจรนับแบบ Synchronous mod-3 และ mod-8 ได 3. เขา ใจการทาํ งานและเขยี นไดอะแกรมของวงจรหาความถ่ีได 4. อา นคา data sheet ของไอซี TTL และ CMOS ทเี่ ปน เคานเ ตอรไ ด 5. ทาํ นายการทํางานของวงจรนับจากตารางความจริงของคูม อื ไอซไี ด 6. วเิ คราะหก ารทํางานของอุปกรณอเิ ลก็ ทรอนิกสท ี่ใชว งจรนับ เชน เกมสสุมตัวเลขได 7. หาคา เอาตพุตของเคานเตอรท ไี่ ดจากสญั ญาณอินพตุ ได 8. เขยี นวงจรขับตัวตรวจจับแบบใชแ สงได 9. รจู ักเคร่อื งมอื ทใี่ ชทดสอบหาจดุ เสยี ของวงจรลอจิก 10. หาจุดบกพรอ งของวงจรริปเปล เคานเ ตอรแ ละแกป ญ หาได การทํางานของวงจรนบั หรอื เคานเตอรท ี่พบเห็นกันโดยทัว่ ไปจะมี 2ชนดิ คือ การทํางานที่สงั เกตเห็นไดง า ย เชน การนับลําดับตางๆ การในรูปแบบของคาบเวลา และการจดั ลําดับเหตุการณ อีกแบบหนึ่ง คือ การทํางานที่สังเกตไดย าก เชน ตัวหารความถ่ี การอางตําแหนง ของหนว ยความจํา ในบนนี้จะกลา วถึงชนิดและการใชงานเคานเ ตอรแบบตางๆ ทีส่ รางขึ้นจากฟลปิ ฟลอป ตัวเคานเ ตอรนั้นมใี ชอยางกวา งขวางในวงจรดิจิตอล จงึ ถกู สรางใหอยใู นรูปของไอซี ซง่ึ มที ง้ั แบบ TTL และ CMOS8.1 วงจรนบั แบบรปิ เปล ลาํ ดบั การนับแบบเลขฐานสิบแสดงไดด งั รปู ที่ 8.1 ซ่ึงจะเปนการนบั เลขฐานสองแบบ 4 หลัก (ซงึ่แทนดวย D.C.B และ A) สามารถนบั จาก 0000 ถึง 1111 (0 ถงึ 15 ในเลขฐานสิบ) ในหลกั A จะเปนตําแหนง 1s ของเลขบานสอง หรือเรียกวาบิตตา่ํ สุด (LSD : Least Significant Bit) ซ่ึงเปนบติ ที่มีความสําคัญตาํ่ สุดหรอื คา น้าํ หนักตาํ่ สดุ สวนหลัก D จะเปนตาํ แหนง 8s ของเลขฐานสอง หรือเรียกวาบิตสงู สดุ (MSD : Most Significant Bit) ซึง่ เปน บิตทีม่ คี วามสําคัญสงู สดุ หรอื คานา้ํ หนกั สงู สุด ถาสงั เกตดูจะเหน็ ตาํ แหนง 1s มีการเปล่ียนแปลงสถานะบอ ยมาก ถาออกแบบวงจรนับโดยใหน ับตัง้ แต 0000 ถึง 1111เอาตพ ตุ ที่ออกมาจะแตกตางกนั 16 สถานะ หรอื เรยี กวา modulo (mod-) 16 counter คาํ วา มอดลู ัส(modulus) ของเคานเตอร คือ จํานวนความแตกตางกันของสถานะของวงจรนับที่เปน ไปได เคานเ ตอร mod-16 จะมีสถานการณนบั แตกตางกนั ได 16 คา สามารถทาํ ไดโดยใช J-K ฟลิปฟลอป 4ตวั มาประกอบเปนวงจรนบั ดงั รปุ ที่ 8.2 (a) โดย J-K ฟลปิ ฟลอปแตล ะตัว จะถูกเคลยี รใหเ ปนเปน0000 กอ น เมื่อมี clock ลกู แรกเขา มายังฟลิปฟลอปตวั ที่ 1 (FF1) วงจรจะเรมิ่ ทาํ งานและแสดงผลเปน 191
0001 และเมื่อ clock ลกู ท่ีสองเขามาทาง FF1 เอาตพตุ Q จะกลายเปน “0” ซึ่งทาํ ให FF2 ทาํ งานโดยมีเอาตพตุ ของฟลิปฟลอปแตละตวั จะตอกับ CLK อนิ พุตของฟลปิ ฟลอปตัวถดั ไป พิจารณารปู ที่ 8.1 หลกั A(1s) จะมีการเปลยี่ นแปลงทกุ ครง้ั เม่อื มีการนับเกิดข้ึน ซึง่ หมายความวา FF1 ในรูปท่ี 8.2 (a) จะมีการทํางานเมอ่ื pulse เขามา สว น FF2 จะมกี ารเปล่ียนแปลงเพียงครงึ่ หนึ่งของ FF1 ซ่ึงสังเกตไดจากแถว Bในรปู ท่ี 8.1 รูปท่ี 8.1 ตารางแสดงผลการนับของวงจรนับอะซงิ โครนัส นับขนึ้ ขนาด 4 บิต การนบั ของเคานเ ตอร mod-16 แสดงไดด ังรปู ที่ 8.2 (a) โดยนบั สญั ญาณ clock10 ลูก ดานบนจะแสดงสัญญาณ CLK ทีเ่ ขามาทางอินพุต ถัดลงมา จะแสดงสถานะฟลิปฟลอปที่เปลีย่ นไป สวนการนับแบบเลขฐานสอง จะแสดงไวดานลา งสดุ เสนตรงที่ขดี จากบนลาง จะแสดงการทริก หรือสัญญาณกระตุนของฟลปิ ฟลอปแตล ะตวั ซงึ่ ฟลปิ ฟลอปตวั หน่ึงจะมีผลกระทบกับฟลิปฟลอปตัวถัดไปตัวอยางเชน ทจ่ี ดุ a ของ clock ลูกที่ 8 จะเหน็ วา CLK จะทริก DD1 เปน สาเหตุใหสภาวะ 1 เปลย่ี นสภาวะ 0 ทาํ ให FF2 และ FF3 เปลี่ยนจาก สภาวะ 1 ไปเปนสภาวะ 0 เชนกนัเอาทพ ุต Q ของ FF3 ทีเ่ ปลี่ยนเปน 0 จะทรกิ เกอร FF4 ทําให FF4เปลย่ี นจากสภาวะ 0 ไปเปน สภาวะ1 จะเห็นวาการเปล่ยี นสภาวะนนั้ จะมีผลกระทบเปน ลูกโซดว ยเหตนุ ้ี วงจรนับแบบนี้จงึ เรียกวา ตวั นบั ริปเปล (Ripple Counter) หรอื เรียกอกี ชื่อหนงึ่ วา วงจรนบัแบบระลอก 192
รปู ท่ี 8.2 วงจรนับอะซิงโครนสั ขนาด 4 บิต (นับขนึ้ ) และรูปคลื่นพลั สของ สญั ญาณนาฬิกา และเอาตพตุ ของฟลิปฟลอปแตละตัว วงจรนับหรอื เคานเ ตอรใ นรูปที่ 8.2 ถือไดว า เปน ตวั อยา งการอธบิ ายตัวนบั ทริปเปล mod-16และตัวนับ 4 บิต หรอื ตัวนับแบบอะซงิ โครนัส (Asynchronous) โดยช่อื ของเคานเตอรสามารถบอกลกั ษณะของเคานเตอรไ ด เชน ริปเปลและอะซงิ โครนสั จะบอกวา ฟลปิ ฟลอปทง้ั หมดไมไ ดม ีการทรกิ หรือถูกกระตุนดว ยสัญญาณ นาฬกิ าพรอมกันทกุ ตวั เตานเ ตอรแ บบ mod-16 จะบอกผลของสภาวะทงั้ หมดท่ีไดจากเคานเตอรม ี 16 สภาวะเคานเ ตอรแ บบ 4 บิต จะบอกจํานวนตาํ แหนง เลขฐานสองของเอาทพ ตุของเคานเ ตอรม จี าํ นวน 4 บิตเปนตนโจทยท ดสอบ1 อุปกรณในรปู ท่ี 8.3 เรยี กวา…………………………………-bit ripple counter2 อปุ กรณในรปู ที่ 8.3 เรียกวา mod………………………counter3 ตวั j-k ฟลปิ ฟลอป ในรปู ท่ี 8.3 จะทาํ งานเปน ....................hold ,reset ,set ,toggle) modeเพราะวา input J-K เปน ลอจิก 1 ท้ังคู4 จากวงจรในรปู ที่ 8.3 จะเขยี นไบนารีเ่ อาตพ ุต หลังจากพัลสเขา ไปทกุ ๆ จาํ นวนลกู 6 ลกู 193
รูปท่ี 8.3 โจทย ขอ 1 – ขอ 48.2 วงจรทรปิ เปล mod-10 การนบั ของวงจรเคานเ ตอร mod-10 จะมีการนับจาก 0000 ไปจนถงึ 1001 (0ถงึ 9 ในเลขฐานสิบ)ซ่งึ เปนดานบนของตางรางในรปู ท่ี 8.1 เคานเ ตอร mod-10 จะแสดงดว ยเลขฐานสอง 4 บิต คอื ตาํ แหนง8s ,4s ,2s และ1s โดยใชฟลปิ ฟลอป 4 ตัวตอ เขาดว ยกันดงั รปู ท่ี 8.4 โดยจะเพม่ิ NAND เกตเขาไปเพอื่ ใชเคลยี ฟ ลปิ ฟลอปทงั้ หมด ใหก ลายเปน 0 ทันทหี ลงั จากเคานเ ตอรนบั ไปถึง 1001 ถา หากดูตารางในรูป ที่ 8.1 จะเหน็ วา หลังจากการนับมาถึง 1001 สภาวะถัดไปคือ 1010(10) เราจะตองใชส ภาวะนี้ ไปทําให NAND เกต เคลยี ฟลปิ ฟลอป ใหกลายเปน 0000 ดังรูปท่ี 8.4 หลังจากนั้นเคานเ ตอรจะเริม่ นบั ใหมจาก 0000 ไปจนถึง 1001 อกี ครั้ง ซ่งึ กค็ อื ใช NAND เกต เปนตัวรีเซ็ต (Reset) เคานเตอรใ หกลับไปสูสภาวะ 0000 เคานเ ตอรช นดิ น้ี จะเรียกวาเปน “Decade Counter” หมายถงึ นบั สิบ ในทางอตุ สาหกรรมจะมีฟลปิ ฟลอป 4 ตวั ตอ อยเู ปนวงจรเคานเตอร ภายในชิพไอซีเพียงตวั เดียว ทําใหส ามารถหาวงจรนบัแบบนมี้ าใชไดโดยงา ย 194
รูปที่ 8.4 Logic Diagram ของ Mod-10 Ripple Counterโจทยทดสอบ5 จากรปู ท่ี 8.4 เปนลอจิกไดอะแกรมของ mod-10 ……………..(ripple หรอื synchronous counter)6 จากรูปที่ 8.5 เรียกวา ......................... (ripple หรือ synchronous ) mod………….. counter7 จากรูปท่ี 8.5 เรยี กวา จงเขยี นไบนารีเอาตพตุ หลังจากพลั สเขา ไปทกุ ๆ 6 ลกู รูปท่ี 8.5 โจทย ขอ 5 – ขอ 78.3 วงจรนับแบบซงิ โครนสั วงจรนับแบบซิงโครนัส คือวงจรนับที่ตอขาสัญญาณนาฬิกาควบคุมฟลิปฟลอปทุกตัวในวงจรใหทํางานพรอมกัน แตการควบคุมใหวงจรนบั แสดงผลการนบั เลขใดๆ นั้นขึ้นอยกู ับการออกแบบวงจรควบคุมอนิ พตุ J-K ของฟลปิ ฟลอปแตละตวั ดงั นั้น วงจรนบั แบบซงิ โครนัสจึ้งสามารถออกแบบใหน ับขน้ึ หรือรับลงไดตามท่ีผูออกแบบตองการ จํานวนครั้งของการนับสําหรับวงจรนับแบบซิงโครนัสเหมือนกันกับวงจรรบั 195
แบบอะซิงโครนัส กลาวคือ เทากับ 2������������ เมื่อ ������������ คือจํานวนฟลิปฟลอปของวงจรนับ ตัวอยางเชน วงจรนับซิงโครนัสท่ีมีฟลิปฟลอป 3 ตัว สามารถออกแบบวงจรใหนับเลขไดระหวา ง0-7 โดยกําหนดใหวงจรนับขึ้นหรือนับลงก็ได ลกั ษณะของวงจรซิงโครนัสขนาด 3 บิต และวงจรควบคุมอินพุต J-K แสดงดงั รปู ท่ี 8.6 รปู ที่ 8.6 แสดงวงจรนับแบบซงิ โครนัสขนาด 3 บติ a) Logic Diagram b) Counting Sequenceวงจรนับแบบซิงโครนัส ในรปู ที่ 8.6 a) เปนการนับแบบ 3 บติ (mod-8) สงั เกตเห็นไดว า สัญญาณ CLKจะเชื่อมตอกนั โดยตรงไปยงั input CLK ของฟลปิ ฟลอป แตละตัว หรอื กลาวไดว า เปนการเชอื่ มตอ กนัแบบขนาน ในรปู ท่ี 8.6 b) แสดงใหเห็นลาํ ดบั ในการทํางานของเคานเ ตอร หลัก A เปนหลัก 1s จะนับโดยฟลิปฟลอป FF1 หลัก B เปนหลกั 2s จะนับโดยฟลปิ ฟลอป FF2 หลัก C เปนหลกั 3s จะนับโดยฟลปิ ฟลอป FF3ข้นั ตอนของการนับเคานเ ตอร mod-8 แสดงดังรปู ท่ี 8.6 a) และ 8.6 b) มกี ารทํางานดังน้ีPulse 1- row 1 196
การทาํ งานของวงจร FF แตล ะตวั จะไดร บั สญั ญาณจาก clock แตจ ะมเี พยี ง FF1 เทา นน้ั ทส่ี ามารถtoggle เน่อื งจากอนิ พุต J-K ตอ ออยูก ับลอจกิ 1 FF1 เปลีย่ นจาก 0 เปน 1 เอาตพ ุตที่ไดคือ : 001 <1 ฐานสิบ>Pulse 2- row 3การทาํ งานของวงจร FF แตล ะตวั จะไดรบั สญั ญาณจาก clock แตจ ะมีเพียง FF2 เกิดการ toggle เพราะมีบติ 1s ทเ่ี ปน ลอจกิ 1 ถกู นําไปใชกบั อนิ พตุ J-K ของ FF2 2 ดังนน้ั FF1 กับ FF2 เกดิ การ toggle FF1 เปลี่ยนจาก 1 เปน 0 เอาตพุตที่ไดคือ : 010 <2 ฐานสิบ>Pulse 3- row 4การทํางานของวงจร FF แตล ะตวั จะไดร บั สญั ญาณจาก clock แตจ ะมี FF1 เทานนั้ ท่ีเกิดการ toggleดังนน้ั FF1 เปล่ยี นจาก 1 เปน 0 เอาตพตุ ทไี่ ดค ือ : 011 <3 ฐานสบิ >Pulse 4- row 5การทาํ งานของวงจร FF แตละตัวจะไดรับสัญญาณจาก clock และฟลิปฟลอปทกุ ตัว จะทํางานเปนtoggle เปลี่ยนเปนสภาวะตรงกนั ขา ม เห็นไดว า การทํางานในครั้งนี้ ขา J-K ของฟลิปฟลอป FF3ไดรัรบลอจิก 1 ดงั นั้น FF1 เปลีย่ นจาก 1 เปน 0 FF2 เปลย่ี นจาก 1 เปน 0 FF3 เปลย่ี นจาก 1 เปน 0 เอาตพ ตุ ทไี่ ดค ือ : 100 <4>Pulse 5 - row 6การทาํ งานของวงจร : FF แตละตัวจะไดร บั สัญญาณจาก clock แตจะมี FF 1 ทที่ าํ งานเปน toggle FF เปลยี่ นจาก 0 เปน 1 เอาตพุตท่ไี ดค ือ : 101 <5>Pulse 6 - row 7การทาํ งานของวงจร : FF แตล ะตัวจะไดร บั สัญญาณจาก clock แตจ ะมี FF 1 และ FF2 ตัวท่ที ํางานเปนtoggle FF1 เปลย่ี นจาก 1 เปน 0 FF2 เปล่ียนจาก 0 เปน 1 เอาตพุตทีไ่ ดค อื :110 <6>Pulse 7 - row 8 197
การทาํ งานของวงจร : FF แตละตวั จะไดร ับสัญญาณจาก clock แตจ ะมี FF 1 ตัวทีท่ าํ งานเปน toggle FF1 เปล่ียนจาก 1 เปน 0 เอาตพุตท่ีไดคือ :111 <7>Pulse 8 - row 9การทํางานของวงจร : FF แตล ะตัวจะไดรบั สัญญาณจาก clock และ FF ทง้ั หมดทํางานเปน toggle FF ท้งั หมด เปลีย่ นจาก 1 เปน 0 เอาตพ ุตท่ีไดคอื :000 <0> ทีผ่ า นมาเปนการศกึ ษาเคานเตอรซิงโครนัสแบบ 3 บติ โดยสรางจาก J-K ฟลปิ ฟลอปที่ใหทาํ งานแบบ toggle mode (J และ K เปน 1) และแบบ disable mode (J และ K เปน 0) ในปจจุบันไอซีภายในบรรจวุ งจรนบั แบบซงิ โครนัสเอาไวมที ง้ั แบบทีน่ าเปน TTL และ CMOSโจทยทดสอบ 8. ตวั เคานเ ตอรทม่ี กี ารทริกฟลปิ ฟลอปทกุ ตวั พรอมกันเรียกวา. . . . . . . . . . . . . (ripple ,synchronous) counter 9. สัญญาณ clock อินพุตจะตอแบบ. . . . . . . . . . . . . (paralle, series) บน synchronouscounter 10. จากรปู ที่ 8.6 (a) ฟลปิ พลอป FF1 จะทํางานแบบ. . . . . . . . . . . . . (hold , reset , set ,toggle) mpde 11. จากรูปท่ี 8.6 สาํ หรับ clock pulse ลกู ท่ี 4 จะมีฟลิบฟลอปกีต่ ัวท่ีทาํ งานเปน toggle 12. จากวงจรในรูปที่ 8.6 AND เกตมีไวทาํ อะไร8.4 วงจรนบั ลง วงจรนบั หรือเคานเตอรท ีไ่ ดศึกษามาเปนการนับแบบนบั ข้ึน (count up) < 0, 1, 2, 3 ….> แตบางครั้งเราจาํ เปนจะตอ งนับลง (count down) <9, 8, 7…..> ในระบบดจิ ิตอลการนบั หรอื เคานเตอรท ใ่ี ชนับต้ังแตจ ํานวนมากกวา ไปสจู ํานวนท่ีนอ ยกวา เรยี กวา การนับลง (down counter) หรือวงจรนบั ลง 198
รูปที่ 8.4 แสดงวงจรอะซงิ โครนสั นบั ลงขนาด 3 บิต a) วงจรนับลง 3 บติ b) ตารางแสดงผลการนบั แผนภาพของ down counter asynchronous mod-8 แสดงไดดังรูปที่ 8.7 (a) สาํ หรบั ขนั้ ตอนการนบั ของเคานเตอรชนิดน้ีแสดงไดด งั รปู ที่ 8.7 (b) จะเห็นวา วงจรนับลงในรปู ท่ี 8.7 (a) จะมลี กั ษณะคลายกับวงจรนับข้ึนในรูปที่ 8.2 (a) จะแตกตางกันเพยี งการทดจาก FF1 ไป FF2 และจาก FF2 ไป FF3วงจรนับลงจะทดจาก Q (not Q) ไปยงั อินพตุ CLK ขอลฟลิปฟลอปตัวถัดไป สวนวงจรนับข้ึนจะทดจาก Qไปยังอนิ พตุ CLKของฟลิปฟลอปตัวถดั ไป สังเกตวาจะมขี า preset control ทจ่ี ะ preset เคานเ ตอรเปน111 <7 ฐานสิบ> เพ่ือใชเ ปน การเริ่มนบั ลง ในวงจรจะมี FF1 เปนตําแหนง 1s <หลกั A> , FF2 เปนตําแหนง 2s <หลัก B> และ FF3เปนตําแหนง 4s หรอื หลัก C ของวงจร counterโจทยทดสอบ13. จากรปู ท่ี 8.7 (a) ฟลิปฟลอปทกุ ตัวในวงจรนบั จะทํางานในโหมด………………(hold, reset, set,toggle) 199
14. จากรูปท่ี 8.7 (a) ลกั ษณะของ clock pulse ชนิดใดท่ีสามารถทริก J-K ฟลิปฟลอปใหท ํางานได(High-to-Low, Low-to-High)15. จากรูปท่ี 8.7 ถา clock pulse ลกู แรกเขามาแลว สภาวะการทาํ งานของฟลิปฟลอปจะเปน อยา งไร…………..(FF1 toggle, FF1 และ FF2 toggle, FF3 toggle, ทกุ ตัว toggle) วงจรจะไดเ อาตพตุ เปน 11016. จงแสดงเอาตพ ตุ จากการนบั เลขฐานสองทกุ ๆ pulse ท่ีเขาไปในรูปท่ี 8.8 จาํ นวน 6 ลกู8.5 วงจรนบั ท่หี ยุดไดดว ยตัวเอง วงจรนบั ลงในรปู ท่ี 8.7 (a) ถา ใหคาเริม่ ตน เปน 000 จะเร่ิมนบั จาก 111 หลงั จากนัน้ จะเปน 110และลดลงตามลําดับ เราสามารถทําใหเคานเ ตอรห ยุดนบั เมอ่ื ข้ันตอนการนบั เสร็จสิ้นได วงจรในรูปที่ 8.7เมอ่ื นับมาถงึ 000 กจ็ ะเริม่ นบั ใหม แตว งจรในรูปที่ 8.9 จะเหน็ วาจะเพมิ่ OR เกตเขา ไปเพื่อใหล อจิก 0 กับอินพตุ J และ K ของ FF1 เม่อื วงจรนับมีเอาตพ ตุ C,B และ A เปน 000 วงจรจะหยดุ นับ ถาตัว presetอีนาเบลิ (ps เปน 0) จะเปน การนับเร่มิ ท่ี 111 การนับสามารถทําใหหยดุ หลงั จากเสร็จสิน้ การนบั โดยใชลอจิกเกตหรือวงจรคอมบเิ นชนั่ มาชวยได โดยใหเอาตพุตยอนกลบั ไปทอ่ี นิ พตุ J และ K ของฟลิปฟลอปตัวแรก เมือ่ ลอจกิ 0 ถกู สงกลบั ไปยังอินพตุ J และ K ของ FF1 ดงั เชนในรูปที่ 8.9 ซึง่ จะทําให FF1กลายเปน hold mode จะมีผลให FF1 หยุดทาํ งานเปน toggle นั่นคือหยดุ การทาํ งานเมอื การนบั มาถงึ000 รปู ที่ 8-9 Self-Stopping down Counter ขนาด 3 บทิโจทยท ดสอบ17. จากรูปท่ี 8.9 จะเปน วงจรแบบ self-stopping 3-bit……………..(down, up) counter18. จากรปู ที่ 8.9 เมอ่ื เอาตพตุ นบั เปน 111 ตัว OR เกตจะไดเ อาตพ ตุ เปน…………….(High, Low) โดยFF1 ทํางานเปน …………….(hold, toggle) mode19. จากรูปท่ี 8.9 เมอ่ื เอาตพตุ เปน 000 ตัง OR เกตจะมีเอาตพตุ เปน……………..(High, Low) โดย FF1ทํางานเปน ……………..(hold, toggle) mode 200
8.6 วงจรหาความถี่ ตัววงจรเคานเตอรส ามารถนาํ มาใชในการหาความถ่ไี ด ตวั อยางของระบบท่ใี ชเคานเตอรหารความถี่แสดงไดด ังรปู ท่ี 8.10 ระบบน้เี ปน พ้ืนฐานของนาฬกิ าอิเล็กทรอนิก โดยมอี ินพตุ เปนความถ่ีคลื่นสีเ่ หลี่ยมขนาด 60 Hz วงจรจะหารความถจ่ี าก 60 Hz ใหไดเอาตพ ุตเปน 1 pulse ตอ วินาที หรอื 1 Hz ซ่ึงกค็ อื คาของวนิ าทีโดยวงจรนบั จะสงสญั ญาณออกมาหนง่ึ ลูกเมอื่ มีสัญญาณนาฬกิ าเขา ไป 60 ลูก รูปที่ 8.10 บล็อกไดอะแกรมของวงจรกําเนิดสัญญาณ 1 HZ รูปที่ 8.11 ตัวอยา งวงจรหารสบิ และเอาตพุตท่ไี ด เมอ่ื มีอนิ พตุ เขาไป สาํ หรับรูปท่ี 8.11 (a) แสดงไดอะแกรมของ decade counter สวนรูปท่ี 8.11 (b)จะแสดงรปู คล่นื CLK ทางอินพตุ และตําแหนง เอาตพ ตุ หลัก 8s (QD) จากรปู จะเหน็ วา เมอื่ มีคลนื่ เขามาทางอนิ พุต 30 ลกู จะมีคลน่ื ทางเอาตพ ตุ ออกมา 3 ลกู การหารความถอ่ี ินพตุ ของวงจรนีจ้ ะเทากับ 30/3 =10ดงั นัน้ เอาตพ ุต QD ของ decade counter ในรปู ที่ 8.11 (a) กค็ ือวงจรนับแบบหารสิบ (divide-by-10counter) หรอื อาจกลา วไดว าความถเ่ี อาตพตุ QD เปน 1/10 ของความถี่ของเคานเตอรถา หากเราใชว งจรนบั จากรปู ที่ 8.11 และวงจร mod-6 (divide-by-6 counter)มาตอ อนกุ รมกันจะไดวงจรหาร60หรือdivide-by-60ไดอะปกรมของระบบตัวอยางแสดงไดใ นรปู ท8ี่ .12 ความถ่ี 60 Hzของคลื่นรปู สเ่ี หลีย่ มทางอินพุต จะถูกแบง ความถ่ีโดย mod-6counterไดเ อาตพ ุตเปน 10Hz หลงั จากนนั้ จะผา นไปยัง divide-by-10 และไดเอาตพ ตุ ออกมาเปน 1Hz 201
ถงึ ตรงนเี้ ราจะทราบวา เคานเตอรส ามารถใชเปนวงจรความถี่ได ซึ่งจะพบไดในอปุ กรณดิจิตอลที่ทํางานเกี่ยวกับเวลา เชน นาฬกิ าดิจติ อลอิเล็กทรอนกิ ส นอกจากน้เี ครื่องมือตา งๆ เชน frequency,oscilloscope ก็เปนอกี ตวั อยา งทใ่ี ชว งจร เคานเตอรในการหารดว ยโจทยทดสอบ20. จากรูปท่ี8.12 ถาอนิ พุตท่ีเขามามีความถ่ี 60,000 เอาตพุตทีไ่ ดจะมคี วามถเ่ี ทาไร21.จากรปู (a) เอาตพ ุตในบติ Aจะมคี าเทากับการหารความถ่อี นิ พตุ ดวยอะไร รปู ที่ 8.12 บล็อกไดอะแกรมของการสรางวงจรหาร 608.7 ไอซเี คานเ ตอร TTL (TTL IC Counters) ในปจ จุบันไดม กี ารประดิษฐไ อซีท่ภี ายในประกอบไปดวยวงจรเคานเตอรอ อกมาใชมากมายในท่นี ้ีจะกลา วถึงไอซเี คานเตอร แบบ TTL ที่นิยมใชก ัน ไอซีเบอรห น่ึงทเ่ี ปน ไอซเี คานเ ตอร เชน เบอร 7493ซ่งึ โครงสรา งภายในเปน แบบ TTL4 -bitbinary counter โดยมรี ายละเอียดโครงสรางภายในดงั รูปท่ี 8.13 (a) จะเห็นวาภายในการประกอบ ดว ยJ-K ฟลิปฟลอป 4 ตัวตอเปน แบบริปเปล โดย J-K ฟลปิ ฟลอป 3 ตัวตอเปน 3-bit ripple counter โดยเอาตพ ตุ QB ตอ กบั CLK ของอนิ พตุ ฟลปิ ฟลอปตัวถัดไป และเอาตพุต QC จะตอ กบั อนิ พตุ ของฟลิปฟลอปตวั ถดั ไปเชน กนั สว นประกอบท่ีสําคัญอีกสวนหนง่ึ คือเอาตพุต Qa ของฟลิปฟลอปตัวบนสุดจะไมตอกับCLK อนิ พตุ ของฟลปิ ฟลอปตวั อ่ืน 202
รูปท่ี 8.13 ไอซี TTL 7493 วงจรนบั แบบ 4 บติ 203
รปู ท่ี 8.14 วงจรลอจิกภายในของไอซีทีทีแอลนบั ขน้ึ นับลงเบอร 74192ดงั น้นั หากตอ งการใช 7493 ใหท ํางานเปน 4 bits ripple counter (mod-16) น้นั จะตอ งตอเอาตพุตQA เขา กบั อินพตุ B หรอื ขา CLK ของฟลิปฟลอป ตวั ท่ี 2 สําหรบั การนบั ของ 7493 ท่ที าํ งานเปน 4bits ripple counter แสดงไดดังรูปที่ 18.13 (c) พจิ ารณาอนิ พตุ J-K ฟลิปฟลอปแตละตวั ในรปู ที่18.13 (a) จะเหน็ ไดวา ฟลิปฟลอ็ ปทํางานเปน toggle mode ถา clock อนิ พุตเขา มายงั 7493 เปนขอบขาลง (negative going trigger) สาํ หรับ NAND เกต 2 อนิ พตุ สามารถใชเ ปล่ียน mod-16 ripplecounter เปน decade counter ในรูปท่ี 8.4 ได ในรปู ที่ 8.13 (a) แสดงตัวอยาง NAND เกต 2 อนิ พุตทบ่ี รรจอุ ยใู นไอซเี บอร 7493 โดยมอี ินพุต R0(1) และ R0(2) ในการรเี ซ็ตตัวไอซเี คานเ ตอร เมอ่ื R0(1)และ R0(2) เปน อินพุตขาเขาใน NAND เกต ในตารางรปู ท่ี 8.13 (d) จะแสดงการใชขา R0(1) และ R0(2) 204
ในการรีเซ็ตตัวไอซเี คานเตอร เม่ื R0(1) และ R0(2) เปน high ไอซีเบอร 7493 จะถกู รเซ็ตใหเปน 0ท้งั หมด (0000) ถา อินพตุ ตัวใดตัวหนึง่ เปน Low จะทาํ การนับ สิ่งท่ีตองระวัง คอื ถา R0(1) และ R0(2)ถกู ปลอ ยลอยไว จะทาํ ใหส ภาวะเปน high จะทาํ ให ไอซีเบอร 7493 อยูใ นโหมดรเี ซ็ต และจะไมท ําการนับ สาํ หรับดานลา งของรูปที่ 8.13(d) สว นทเ่ี ปน Note B จะเปนการแนะนําการใชไอซีเบอร 7493เปน biquinry counter โดยตอ เอาตพตุ QD เขากบั A โดย QA จะกลายเปน Significant Bit ไอซเี บอร 7493 ยังมไี อซีตระกูลเดยี วกนั อีก คือ เบอร 74LS93 และ 74C93 โดยมการจดั ขาเหมือนกันไอซที ีทแี อลอีกเบอรห น่ึง คอื เบอร 74192 up/down decade counter ไอซีตวั นีส้ ามารถทาํ งานไดท ั้งนบั ข้ึนและนับลง โดยรูปที่ 8.14 จะเปนคูมอื ของไอซีตวั นี้ รายละเอียดวงจรภายในของไอซีเบอรนี้แสดงใน รูปท่ี 8.14 (a) ซึ่งเปนวงจรนบั แบบ asynchronous counter และมีลอจกิ ไดอะแกรมดงั รปู ที่ 8.14 (b) เบอร 74192 นี้ บรรจอุ ยูใ นตัวถงั แบบ 16 Pins และ 20 Pins ดังแสดงในรูปที่ 8.14(c) สว นไดอะแกรมเวลาในรูปท่ี 8.14 (d) เปนการทํางานของ 74192 โดยจะเหน็ รปู คล่ืนในสภาวะท่ีเปนclear ,preset (load) ,counter up และ counter down สว นขา clear (CLR) ของ 74192 จะactive high สว นขา load จะ active Low นอกจากน้ันยงั มีไอซีเบอรอนื่ อีก ในตระกูลเดยี วกนั กับ74192 คอื 74LS192 และ 74C192 ในรูปที่ 8.15 (a) เปนการใชไอซเี บอร 7493 ถา เปรยี บเทยี บกบั รปู ที่ 8.13 จะเห็นวาในรูปท่ี8.15 (a) จะไมใชอนิ พุต A และเอาตพ ตุ QA เปน การประยกุ ตใ ชไอซเี บอร 7493 อกี แบบหน่งึ ใหเปนวงจรนบั แบบ 3 บิต สาํ หรับรูปท่ี 8.15 (b) จะแสดงไอซีเบอร 74192 ทาํ เปน decade counter โดยเลอื กใชอ นิ พตุ และเอาตพ ุตไมค รบทกุ ตวั ถงึ ตรงน้จี ะเห็นวาไอซีเคานเ ตอรเบอรหนง่ึ สามารถใชงานไดหลายชนิด ไอซี TTL อกี แบบหนง่ึ คือเบอร 74192 up/down decade counter ไอซตี วั นี้สามารถทาํ งานไดทง้ั นับข้นึ และนบั ลงโดยรปู ท่ี 8.14จะเปนคูมือไอซีตวั นีร้ ายละเอียดวงจรภายในไอซเี บอรแสดงไวใ นรปู ที่8.14(ก)ซง่ึ เปนวงจรแบบมลี อจกิ ไดอะแกรมแสดงไวใ นรปู ท8ี่ .14(ข) 74192 นอกจากนีย้ ังมีไอซเี บอรอ ่นื ที่อยใู นตระกูลเดียวกับ 74192คือ74LS192 74F192 และ 74C192 ในรปู ท่ี 8.15(a) จะเปนการใชไ อซเี บอร 7493 ถาเปรียบเทียบกบั รูปท่ี 8.13 จะเหน็ วาในรูปท่ี8.15(a) จะไมใ ชอนิ พตุ Aและเอาตพุต Qa ซึงเปนการประยกุ ตใชงานไอซี 7493 อีกแบบหนง่ึ ใหเปนวงจรนับแบบ3บิต สําหรบั รปู ที่8.15(ข)จะแสดงไอซ7ี 4192โดยใชง านเปน decade counter ซ่งึ จะเลอื กใชง านอนิ พุตและเอาตพ ุตไมค รบทกุ ตัว ถงึ ตรงน้จี ะเหน็ วา ไอซีเคานเ ตอรเ บอรห นงึ่ สามารถใชง านไดห ลายชนิด 205
รูปท่ี 8.15 (a) ไอซีเบอร 74193 ทําเปน mod-8 counter (b) ไอซีเบอร 74192 ทาํ เปนวงจรนบั ลง 206
ไอซี 7493 ตวั นจ้ี ะถูกบรรจอุ ยูในตัวถงั แบบ14-pin DIP แสดงไวในรูปที่ 8.13(b) ถา สงั เกตใหด ีจะพบวาตําแหนงของขา GND และ Vcc จะแตกตา งจากไอซีอ่ืน คอื จะไมอยตู รงมุมของไอซี นอกจากนี้ไอซี 7493 แลวก็ยงั ไอซีในตระกูลเดยี วกนั อีก ไอซี TTL อกี แบบหนึง่ คือเบอร 74192 up/down decade counter ไอซีตัวน้ีสามารถทํางานไดทงั้ นับขึน้ และนับลงโดยรปู ที่ 8.14จะเปน คูม อื ไอซตี ัวนี้รายละเอยี ดวงจรภายในไอซีเบอรแ สดงไวใ นรปู ที่8.14(a) ซึง่ เปนวงจรแบบมลี อจิกไดอะแกรมแสดงไวใ นรูปท8่ี .14(b) 74192 นอกจากน้ียงั มีไอซีเบอรอ่ืนทอี่ ยใู นตระกูลเดียวกบั 74192 คือ7 4LS192 74F192 และ74C192 ในรูปที8่ .15(b) จะเปนการใชไ อซีเบอร7 493 ถา เปรยี บเทยี บกับรูปท่ี8.13จะเห็นวา ในรปู ที่8.15(a) จะไมใ ชอ ินพุตAและเอาตพุต Qa ซงึ เปนการประยุกตใชงานไอซ7ี 493อีกแบบหน่งึ ใหเ ปน วงจรนบั แบบ3บิต สาํ หรบั รปู ที่ 8.15(b) จะแสดงไอซี 74192 โดยใชง านเปน decade counter ซ่งึ จะเลือกใชงานอินพตุ และเอาตพุตไมค รบทกุ ตัว ถึงตรงนจี้ ะเห็นวาไอซีเคานเตอรเบอรห นงึ่ สามารถใชงานไดหลายชนดิโจทยท ดสอบ22. จากรูปที่ 8.13 ถา อินพตุ ท้งั สองท่ีเขามายัง NAND เกต (ขา 2 และขา 3 ของไอซี 7493) มคี าเปนHigh เอาตพุตจาก 7493 จะนบั เปน ………………….(4บติ )23.จากรปู ที่ 8.13 ไอซีเบอร 7493 คือ……………….-bit………………………(down ,up) counter24.จากรปู ท่ี8.14 ไอซีเบอร 74192 คือ……………….(decade, mod-16) up/down……………(ripple,synchronous) counter25.จากรปู ท่ี8.14 ถา ใหสัญญาณ clock อนิ พุตใหก ับไอซเี บอร 74192 ที่ขา……………..ของไอซีจะทําใหไอซีทําการนับแบบนับข้นึ26. จากรปู 8.14 ไอซีเบอร 74192 ขาอนิ พตุ clear จะแอกตีฟทลี่ อจิกอะไร รูปท่ี 8.16 โจทยวงจรนับของคําถามขอ 27 ถึงขอ 2827. จากวงจรในรูปท่ี 8.16 จงเขยี นคาความถ่ีเอาตพ ตุ ทข่ี า B ,C และ D 207
28. ไอซเี บอร 7493 สามารถทํางานไดในโหมดตอ ไปนี้ ripple divid-by-2, divide-by-4 และ divide-by-..............................8.8 ไอซีเคานเ ตอรแ บบ CMOS ไอซีดจิ ติ อลทเี่ ปน CMOS มหี ลายชนดิ ในท่ีนี้จะยกตัวอยา งไอซี CMOS ท่ีทาํ งานเปน วงจรนับในรูปที่ 8.17 จะเปน ไดอะแกรมของเบอร 74HC393 ซึง่ เปน dual 4-bit binary ripple counter โดยมีไดอะแกรมการทํางานแสดงไวรูปท่ี 8.17 (a) สว นหนา ท่ขี องงานตา งๆ แสดงไวในรูปที่ 8.17 (b) สัญญาณอินพตุ CLK จะเขาทางขา CP ไอซี CMOS เปน เบอรท ใ่ี ชง านไดงาย เคานเ ตอรแตละตัวใน 74HC393 จะประกอบดว ย T ฟลิปฟลอป 4 ตวั โดยแตละตัวจะทํางานในโหมด toggle ซงึ่ มรี ายละเอียดดังรูปท่ี 8.17(c) จะเหน็ วาขา MR เปนขารเี ซต็ แบบอะซิงโครนสั ขา MR น้ีจะแอกตีฟ High หรอื อาจจะมองไดว า ถาขาMR เปน High จะเปนการใหเ อาตพ ตุ เปน 0000 หรือรีเซต็ วงจรนบั รปู ท่ี 8.17 ลกั ษณะของไอซีทีทีแอลเบอร 74HC193 208
รปู ท่ี 8.18 คมู อื ของไอซีทีทแี อลเบอร 74HC193 209
สาํ หรบั ลักษณะขาของ 74HC393 แสดงไวในรูปท่ี 8.17 (d) สว นการนบั ของ 74HC393 จะเรมิ่นับต้งั แต 0000 จนถงึ 1111 โดยมีเอาตพตุ คือ Q0 ,Q1 Q 2 และ Q3 รปู ที่ 8.19 ตวั อยางการใชไอซี 74HC93 เปนวงจรนับ 4 บติ ไอซปี ระเภท CMOS ที่จะกลา วตอไปนีค้ ือเบอร 74HC193 ซง่ึ เปน preset table synchronous4-bitbinary up/down counter โดยมีรายละเอยี ดมากกวาเบอร 74HC393 ลกั ษณะโครงสรางและการทาํ งานของไอซเี บอรนี้แสดงไวดงั รูปที่ 8.18 ไดอะแกรมภายในแสดงในรปู ที่ 8.18 (a) สวนการทํางานของขาตา งๆ แสดงไวในรปู ที่ 8.18 (b) ไอซี74HC193 มีขา CLK อนิ พตุ 2 ขา คอื CPUและ CPDขาอินพตุ CPU ใชส าํ หรบั นบั ขนึ้ สวนขาอนิ พุตCPD ใชส าํ หรับนบั ลง ในรูปที่ 8.18 (b) จะบอกถงึ การทรกิCLK อนิ พตุ ซึง่ จะทริกทช่ี อบเมอื่ สัญญาณเปลีย่ นจาก Low เปน High ตารางความจรงิ ของ 74HC193ในรูปที่ 8.18 (c) จะแสดงการทาํ งานในโหมดตา งๆ ของไอซีเบอรน ้ี เชน reset , parallel load , countup และ count down สวนตารางในดา นซา ยจะชวยใหเ ขา ใจทํางานของขาตา งๆ ของอินพตุ และเอาตพุต ในรูปที8่ .18 (d) จะแสดงในลกั ษณะของสญั ญาณเวลา ของการทาํ งานในโหมดตางๆ ของไอซีเบอร 74HC193 สาํ หรับรูปที่ 8.19 และ8.20 จะแสดงแผนภาพลอจิกไดอะแกรมการประยุกตใ ชง านไอซีเบอร 74HC393 และ 74HC393 จะเปนการใชง านเปน 4-dit binary counter ซ่ึงขา MR จะเปนไดท้งัลอจกิ 0 และ ลอจิก 1 ถาเปน ลอจกิ 1 เอาตพ ตุ จะอยใู ยสภาวะ CLEAR หรอื เอาตพตุ เปน 0000 แตถา ขาMR ไดรับลอจกิ 0 จะเปนการใชไอซีเปน ตัวนบั โดยการเริม่ นับจาก 0000 ไปจนถึง 1111 สว นไอซีเบอร74HC193 ในรปู ท่ี 8.20 จะเปนการทํางานแบบ mod-6 counter โดยจะเริ่มนับจาก 001 ไปจนถึง110 ( 1 ถึง 6) สามารถนาํ ไปใชท ําเปนเกมทอดลูกเตาได โดยตวั NAND เกต ใน mod-6 counter จะทําตวั เปน asynchronous parallel mode (PL) หลงั จากนับไปจนถึงคา สูงสดุ แลว ตัว counter จะถูกLoad ดวยคา 0001 โดยสัญญาณ Clock จะถกู สงผานไปยังทางขา CP และขา MR ตองตอลง groundไอซจี งึ จะทํางาน 210
รปู ที่ 8.20 ตัวอยา งการใชไ อซี 74HC93 เปนวงจรนับ mod-6โจทยทดสอบ29.จากรปู ที่ 8.17 ไอซีเบอร 74HC393 ภายในจะเปนแบบ…......................…..(4-bitbinary,decade)counter30.จากรปู ที่ 8.17ขารเี ซต็ (MR) ของไอซีเบอร7 4HC393จะแอกตีฟ…….......….(High,Low)31.จากรูปท่ี8.17ไอซเี คานเ ตอร7 4HC393ขาอนิ พุตclockจะทริกแบบ…...…..H-to-L,-to-H)สําหรับclockpulse แตล ะลูก32.วงจรในรูปที่ 8.19 คือวงจรmod-..............(number).............(ripple,synchronous)counter33.จากรูปท่ี 8.18 ไอซเี บอร 74HC193 เปนไอซแี บบ….....…..(ripple,synchronous)4-bit up/downcounter34.จากรูปท่ี 8.18 ขารีเซ็ต (MR)นี้ เปน …...…..(asynchronous,synchronous)อินพุตของไอซ7ี 4HC19335.จากรูปที่ 8.18 เอาตพ ตุ ของ 74HC193 จะเขียนวา.....……..(D0-D3,Q0,Q3)36.จากรูปท่ี 8.20 จงเขียนคาการนับแบบไบนารขี องวงจรเคานเ ตอร37.จากรปู ท่ี 8.20 ไอซNี ANDเกต3อนิ พตุ ใชท าํ อะไรในวงจรเคานเตอร38.จากรปู ท่ี 8.17(a) เคร่ืองหมาย > ตรงอินพุตหมายความวา อยางไร 211
8.9 ไอซวี งจรนบั BCD แบบ 3 หลกั ปจจุบนั การสรางวงจรทางดานดจิ ติ อลอิเล็กทรอนิกสน นั้ สามารถทําไดง ายมาก เนือ่ งจากวงจรที่นยิ มใชก ันมากๆไดถูกสรางออกมาเปนวงจรรวมเปน จํานวนมาก ในหวั ขอ น้ีจะกลาวถงึ ตัวอยางของไอซซี ง่ึทาํ หนา ท่ีเปนวงจรนบั แบบ BCD ขนาด 3 หลัก ไอซตี วั นี้เปนแบบ CMOS เบอร 4553 ไดอะแกรมโครงสรา งภายใน ของไอซีตัวนแ้ี สดงไดด ังรปู ท่ี 8.21 ในรูปท8่ี .21(a) เปน บลอ็ กไดอะแกรมแสดงโครงสรา งภายในของไอซีเบอร 4553 และขาสัญญาณของไอซีซึ่งจะเหน็ วา มวี งจรนบั จาํ นวน 3 ตวั ตอเรยี งกนั แบบลาํ ดบั ตั้งแตหลักหนว ยไปจนถึงหลักรอย แตล ะหลักมีชื่อเปน1s,10s,100s การนบั แตล ะหลกั นน้ั จะนบั แบบ BCD ซึ่งจะนับตง้ั แต 0000ไปจนถงึ 1001 สําหรับเอาตพุตที่ไดจากวงจรนับแตละหลัก จะถกู สง ใหกับวงจรแลตซ เพื่อใชในการแสดงผลตอ ไปน้ี ในสว นของการแสดงผลนัน้ คาเอาตพุตท่ีได จะเปนรหัสBCDของแตล ะหลัก (Q0 ถงึQ3) โดยใชวงจรมัลตเิ พล็กซ ในการแสดงคาของแตล ะหลกั ออกมาอยา งรวดเร็ว โดยที่ขา DS1 ถึงขา DS3จะเปน ลอจกิ ”0”ออกมาครงั้ ละหลกั วงจรมลั ตเิ พล็กซน ้ี จะควบคุมดว ยตวั เก็บประจุ C1 ท่ีตออยูทางขา 3กับขา 4 ไอซตี วั น้ีสามารถรีเซ็ตการนบั ใหเ ปน 0 ทกุ หลกั ได โดยสงสญั ญาณลอจกิ ”1” เขาไปทางขา 13สาํ หรับสัญญาณอนิ พุตทไี่ อซีตวั น้ี จะนับจะเปนสัญญาณนาฬิกาเขาไปทางขา12 โดยวงจรจะนับเมื่อมีสัญญาณขอบขาลงเขา มา และวงจรนบั สามารถแลตชข อ มูลการนบั ใหคา งไว ไดโดยการควบคุมท่ี 10 สําหรับรูปที่ 8.21(b) เปน ตารางขอมูลสําหรับควบคุมไอซีตวั นี้ จะเห็นวา ถา ใหขา MR เปนลอจิก”1” ไมว าขาอื่นๆ จะเปน อยา งไร หมายความวา วงจรนบั ถูกรีเซต็ จะทําใหเอาตพตุ ของวงจรนบั เปนลอจกิ ”0”ทุกบติ ถาหากตอ งการตอเปนวงจรนับขึน้ จะตอ งใหส ัญญาณเขามาทาง CLK โดยท่ขี า MR.DIS และ LEเปนลอจิก ”0” ทุกขา 212
รูปที่ 8.21 ไอซีซมี อสเบอร 4553 วงจรนบั BCD ขนาด 3 หลกั ตัวอยา งการประยกุ ตใชไ อซีเบอร 4553 น้ี แสดงไดดงั รปู 8.22 โดยจะออกแบบระบบใหนบัสญั ญาณนาฬิกาและแสดงผลเปน เลขฐานสิบ ออกมาทาง 7 LED สวนจํานวน 3 หลกั จากวงจรจะเหน็ 213
วา การนําเอาตพตุ ท่ีเปนรหสั BCD มาแสดงผมทาง LED 7 สว นไดดงั นี้ จะตอ งนาํ รหัส BCD ทีไ่ ดม าถอดรหสั เปน รหัสสําหรับขับหลอดแสดงผลเสียกอน ในมีน่ ้จี ะใชไอซีถอดรหสั เบอร 4543 ที่เปน แบบCMOS หรือเบอร 74HC4543 สําหรับในสว นของการมลั ติเพลก็ ในแตละหลักนนั้ จะใชทรานซิสเตอรแ บบPNP มาตอ กบั ขา DS ของไอซเี พือ่ ขับหลอด LED ใหแ สดงผมคร้งั ละหลกั ดังนน้ั วงจรนที้ าํ งานวงจรนับจะแสดงผลเปนตวั เลขตั้งแต 000 ไปจนถงึ 999 รปู ที่ 8.22 วงจรนบั ข้ึนแสดงผลแบบมัลตเิ พล็ก 3 หลักโจทยทดสอบ39. ไอซี 4553 เปนไอซแี บบใด …………(วงจรบวก.วงจรนับ)โดยการทํางานของมันจะสแกนการแสงดงผลออกมาครัง้ ละหลักอยางรวดเรว็ วิธนี เ้ี รยี กวา …………(Multiplexer.shifler)40. ขา MR ( master reset) ของไอซี 4553 จะทาํ งานเมอ่ื สญั ญาณเปน ……(High.Low) โดยจะทําใหวงจรนับมีเอาตพ ุตเปน 0 ทกุ หลกั41 .ขาอนิ พุต CLK ของวงจรนับจะนบั เม่ือสัญญาณมกี ารเปล่ยี นแปลงแบบใด42. ขา LE(Latch enable) ของไอซี 4553 จะแอกตฟี ดวยสัญญาณลอจกิ ใด8.10 การใชไ อซีเคานเ ตอรในงานอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ในหวั ขอน้จี ะกลา วถงึ การใชไ อซีเคานเ ตอรแบบ CMOS มาใชประยุกตสรางเปน วงจรเกมอิเลก็ ทรอนิกสโ ดยใหผเู ลน ใสคาตวั เลขเปน เลขไบนารี จากนัน้ วงจรเลขจะสมุ ตัวเลขออกมา และนาํ มาเปรียบเทยี บกันวาเทา กนั หรอื ไมถ า หากใครทําไดถูกตอ งมากกวา เปน ผูชนะ จากวงจรตวั อยา งในรปู ท่ี 8.23 ข้ันแรกจะเร่ิมเลนโดยการกด SW1 ซึง่ จะไดความถข่ี นาด 1 kHzเขา ไปยังไอซนี ับแบบไบนารี วิธีซ่งึ จะเปนการสุมตวั เลขระหวาง 0000 ถงึ 1111 ใหกบั อินพตุ B ของ 214
74HC85 4-bit magnitude comparator ถา คาอนิ พตุ B กบั ตัวเลขท่ีปอนเขาไป (อนิ พตุ A) มีคา เทา กนัขาเอาตพ ตุ A=Bout จะแอกตฟี (High) ทําใหห ลอดLED สีเขยี วสวา ง หลังจากนั้น จะเลน อีกคร้งั โดยการกดสวติ ซ SW 1 ถา หากตัวเลขท่ีปอนเขาไปกบั คา ที่ไดจ ากการสมุ ไมเทากัน เชนอนิ พุต A มีคานอ ยกวา Bจะเกดิ การแอคตฟี ที่ A<Bout ทาํ ให LED สีเหลืองสวา ง ทาํ นองเดียวกนั ถา อินพตุ A มีคามากกวาอนิ พตุB หลอด LED สแี ดงจะสวา ง รปู ที่ 8.23 วงจรเกมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส จากวงจรเกมอเิ ล็กทรอนกิ สใ นรปู ที่ 8.23 น้ัน จะเหน็ วาการสรา งสัญญาณนาฬกิ าความถ่ี 1kHz จะใชไอซี 555 มาเปนตวั กาํ เนดิ สัญญาณคล่ืนสี่เหลย่ี ม และใชไ อซีวงจรนบั เบอร 74HC393 สาํ หรบัวงจรเปรยี บเทยี บสัญญาณจะใชไอซเี บอร 74HC385 รปู ท่ี 8.24 จะแสดงรายระเอยี ดและการทาํ งานของไอซี 74HC85 4-bit magnitudecomparator โดยรูปท่ี 8.24 (a) จะแสดงขาตา งๆของไอซี ซงึ่ มองจากดานบนของ CMOS IC เบอร74HC85 สําหรับตารางความจริงแสดงไดด งั รูปที่ 8.24 (b) ไอซีเบอร 74HC85 จะมขี าอินพตุ พเิ ศษ 3 ขาสาํ หรบั การใชง านเปรียบเทยี บแบบ cascading ซง่ึ นําไอซตี วั เปรียบเทยี บนี้ มาตอ เรยี งกนั ใหเ ปรยี บเทยี บขอ มลู ไดม ากบติ ขน้ึ แสดงไวใ นรปู ที่ 8.25 ซึ่งวงจรนจี้ ะใชใ นการเปรียบเทยี บคา ไบนารแี บบ 8 บติ 2 ตวัโดยมีอนิ พุตเปน A7.A6,A5,A4,A3,A2,A1,A0 และ B7,B6,B5,B4,B3,B2,B1,B0 โดยคา เอาทพ ุตจาก IC2จะเปนไปได 3 คา ( A>B, A=B หรอื A<B ) 215
รูปท่ี 8.24 ไอซเี ปรยี บเทียบ CMOS เบอร 74HC85(a) เปนลักษณะการจัดขา (b)เปน ตารางการทํางาน 216
รูปที่ 8.25 การนาํ ไอซเี ปรียบเทียบมาตอ กนั แบบ Cascaded วงจรนับน้ียงั ถกู นําไปใชใ นงานดานอนื่ ๆ ไดมากมาย ตัวอยางการนับอีกแบบหนึง่ ทจี่ ะกลาวถงึเปนการนบั ท่ไี ดร บั สัญญาณอนิ พตุ จากตวั จับแสง โดยถา หากวัตถหุ รอื มใี บพัดตัดทางเดินของแสง จะมีสญั ญาณพลั สอ อกมา อปุ กรณจับแสงประเภทนี้ แสดงไดด งั รูปท่ี 8.26 โดยรปู (a) เปนลักษณะของการตอวงจร โดยในวงจร จะมีแหลง กําเนดิ แสง และมีโฟโตทรานซสิ เตอรเ อาตพ ตุ สาํ หรบั รปู รา งของตวั จบัแสงน้ที ีม่ ีขายกนั โดยท่วั ไป จะเปน ดงั รปู ท่ี 8.26 (b) ถาหากมวี ัตถทุ ึบแสงผานไปใน slot จะใหพ ัลสออกมา การนําไปใชงานจะตอ งตอ ตวั ตานทานทางขา 1 เพ่อื ใหแ หลง กาํ เนิดสามารถสง แสงออกมาไดสาํ หรับสัญญาณท่ีไดท างเอาตพ ตุ ทางขา 3 จะตอ งตอตัวตานทานพลู อัพเอาไวดว ย 217
รูปท่ี 8.26 ตัวจรวจจับแสง ตัวอยางของวงจรที่นับสญั ญาณจากการตรวจจับแสงแสดงไดดงั รปู ที่ 8.27 และเนอื่ งจากสญั ญาณพัลสไดจากตวั จับแสงจะมีลักษณะเปน รูปสเี่ หลยี่ มทไ่ี มส มบูรณ จึงตอ งนําสัญญาณทีไ่ ดออกมาแตง รูปสัญญาณท่ีไดออกมาแตงรปู สญั ญาณใหเปน สเี่ หล่ียมโดยสมบรู ณเสียกอนจากวงจรจะเห็นวาใชไอซีซมทิ ทริกเกอรเ บอร 7414 มาแตงรูปสญั ญาณและสง ใหกบั วงจรนบั ตอ ไป โดยไอซี 74192 จะทําหนาทเ่ี ปนวงจรนบั ข้นึ แบบ 4 บติ และสงเอาตพ ุตท่ไี ด ใหก ับอปุ กรณข บั หลอดแสดงผลแบบ LED 7 สวนตอ ไป 218
รูปท่ี 8.27 ตัวอยา งการประยกุ ตใชตรวจจับแสงโจทยท ดสอบ43. จากรปู ที่ 8.23 ถา การนบั แบบไบนารนี บั ได 1001 และเราใสคา 1011 เขา ไปทางอนิ พุต หลอด LED สี…………….จะสวาง แสดงวา คา ที่ใสไ ปเปนอยางไร44. จากรูปที่ 8.23 ถาจะใหว งจรสมุ ตัวเลขจะตอ งทาํ อยางไร45. จากรปู ท่ี 8.28 ไอซี 555 timer จะทํางานเปน ………….(astable,monostable) multivibrator46. จากรปู ที่ 8.28 จงเขยี นสขี อง LED สําหรบั clock ตา งๆ ในชว งเวลา (t1 ถงึ t6) รปู ที่ 8.28 วงจรเปรยี บเทียบในโจทยข อ ท่ี 46 219
8.11 การหาขอผดิ พลาดในวงจรนบั ในหวั ขอนีจ้ ะแสดงวธิ กี ารหาขอ ผิดพลาดของวงจรนับ ทอ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ ได พจิ ารณาวงจร 2-bitripple counter ดังรปู ที่ 8.29 (a) โดยไอซีทีใ่ ชใ นวงจรคอื เบอร 7476 ซง่ึ มลี กั ษณะขาดังรูปท่ี 8.29 (b)ถา สังเกตใหดจี ะเห็นวาขาอนิ พุตและเอาตพุตในรูปที่ 8.29 (a) และ (b) จะไมเหมอื นกัน ขาasynchronous preset input บนลอจิกไดอะแกรมจะแทนดวย PS สวนในตัวไอซจี ะแทนดว ย PR ซึง่เปนไอซีท่ีผลติ โดย National Semiconduction Coporation ซ่งึ สัญลกั ษณบางตวั บนขาอาจแตกตา งกนัแตอยา งไรกต็ าม การทํางานตา งๆจะยังเหมือนเดมิ วงจรในรูปท่ี 8.29 (a) นี้เราสามารถเคลียเอาตพุตใหเ ปน 00 ไดด วยสวติ ชเ ซต็ ที่อยูทางซาย มอื ของวงจร ถา หากนําดิจิตอลพัลเซอร (digital logic pulser) มาเปนตัวใหก ําเนดิ pulse ใหแ กขาอินพุตCLK ของ FF1 โดยใหป ลายของ digital pulse สมั ผัสกบั ขา 1 ของไอซี 1 ของไอซี 7476 จะเกิดการนบักลับไปกลบั มา เชน 00 (reset),01,10,11,10,11,10,11 ไปเรอื่ ยๆ โดยเอาตพุต Q ของ FF2 จะเปนHigh ตลอดแตสามารถเคลยี รห รอื รีเซ็ตดว ยสวิตชได รปู ที่ 8.29 a) ตวั อยางวงจร 2-bits ripple counter ในการหาจุดเสีย 220
รปู ที่ 8.29 b) ลักษณะของไอ๙ 7476 J-K Flipflop c) Logic Monitor จากการทดสอบ ถาหากหยุดจายไฟใหแ กวงจรในรปู ที่ 8.29 (a) และนาํ TTL logic monitor มาหนีบบนขาของไอซี 7476 จากน้ัน จายไฟใหก ับวงจรอีกคร้ังและกดสวติ ชเซต สัญญาณตา งๆ บน logic monitor จะแสดงไดใ นรปู ท่ี 8.29 (c) เปรียบเทียบสญั ญาณที่แสดงบน logic monitor โดยเทยี บกบั รปู ไดอะแกรมของขา โดยตรวจดูลักษณะลอจิกแบบขาตอ ขา ถา หากทขี่ า 7 มรี ะดับลอจกิ เปน Low จะเก่ียวของกับขา PS หรอื PR ซ่งึ จรงิ ๆแลว ควรเปน High เมื่อพิจารณาจาก logic diagram ถาเปน Low มันอาจเปนสาเหตุทที่ ําใหเ อาตพุต Qของ FF2 อยใู นสภาวะลอจิก High ถา หากนาํ logic probe มาตรวจเชค็ ทขี่ า 7 ของไอซี 7476 และหากหลอด LED บน logic probeไมสวา ง แสดงวา ทขี่ า 7 น้ันมีระดบั ลอจกิ เปน Low หรือ High สลบั กัน เปน ผลให IC รบั รวู าสัญญาณเปนLow บา งเปน High บา ง ถาหากดึงไอซอี อกมาจาก socket อาจพบวา ขา 7 อาจจะพบั งอทาํ ใหไมส ัมผสั กบัsocketของไอซีดงั รูปท8ี่ .30 ซึง่ เปน สาเหตุท่ที าํ ใหเกดิ ขอ ผิดพลาดข้ึน 221
รูปที่ 8.30 ขาไอซพี ับทําใหอ ินพุทมลี ักษณะลอยจากตัวอยางท่ผี านมา จะพบวาอปุ กรณท่ีชวยหาขอ ผดิ พลาดอนั ดบั แรก ไดแ ก logic diagram และความรคู วามเขาใจในหลักการทํางาน อนั ดบั ท่ีสองคือ โครงสรางของตัวไอซีและลกั ษณะของขาตางๆ อนั ดบั ทสี่ ามคือ digital pulser ใชสําหรบั กําเนิดสัญญาณ pulse อนั ดบั ทีส่ ่คี ือ logic monitor ใชสําหรับตรวจสอบระดับ ลอจกิ ของขาไอซี 7476 ท้งั หมด อันดบั ท่ีหา คอื logic probe ใช ตรวจสอบขาทนี่ าจะมีปญ หาของไอซแี ละสดุ ทายกค็ อื ความรูในวงจรและการพิจารณาสงั เกตแกไขปญหา ความรใู นระบบการทํางานของวงจรทวั่ ไปท่จี ะชวยแกขอผดิ พลาดไดโจทยทดสอบ47. จากรูปท่ี 8.29 ขา 4,9,12 และ 16 ขาอนิ พุต J และ K ของฟลิปฟลอปจะเปน ………(High Low)48. จากรปู ท่ี 8.29 ขา 3 และ 8 จะใชสําหรับ…………...อินพุตของฟลิปฟลอป49. จากรูปที่ 8.29 ขา 2 และ 7 จะเปน ……….อินพุตของฟลิปฟลอป โดยในวงจรจะมีลอจกิเปน…………(High Low)สรุป1. ฟลปิ ฟลอปสามารถนํามาสรา งเปนวงจรนบั แบบไบนารีได2.วงจรนบั สามารถทาํ งานได ทงั้ แบบอะซงิ โครนัสถา ทาํ งานแบบอะซิงโครนสั เรยี กวา ตัวนบั แบบ ริปเปล(ripple counter)3. การ modulus ของวงจรนบั จะมีภาวะท่แี ตกตางกนั หลายคา เชน mod5 จะตา งกัน 5 คา คือเรมิ่ นบัจาก 000,001,010,011,100 (0,1,2,3,4 ในระบบฐานสิบ)4. วงจรนบั แบบ 4-bit binary counter จะเรม่ิ นบั คา จาก 0000 ถงึ 1111 (0 ถึง 15 ในระบบฐานสิบ)5. เราสามารถสรา งวงจรนบั ใหห ยุดในคา ทตี่ อ งการไดโดยเพมิ่ เกตตางๆเขา ไป6. วงจรนบั สามารถออกแบบไดท้งั นบั ขนึ้ และนบั ลง7. วงจรหารความถสี่ ามารถออกแบบเพ่ิมจากวงจรนบั ไดอ กี หลายชนิด8. ไอซีที่ภายในบรรจุวงจรนบั ไวมีหลายเบอรท งั้ แบบ TTL และ CMOS 222
9. ในบทนี้ไดรูจ ักสัญลกั ษณแ ละเครอื่ งหมายตางๆที่ตอ งใชในวงจรนับ10. ไอซีเปรียบเทยี บคาไบนารที ไ่ี ดศ ึกษาในบทน้ีจะมเี อาตพุต 3 คา คอื A=B, A>B และ A<B ซงึ่ เราสามารถนําไปประยุกตใ ชงานไดหลายแบบ11. ในบทน้ไี ดรจู ักเคร่ืองมอื หลายชนดิ ในการตรวจหาขอ ผิดพลาดจากวงจรลอจิก เชน logic probe, volmeter, logic monitor, digital pulser, logic analyzer, IC tester และ oscilloscopeคาํ ถามทายบท8.1 จงเขียนวงจรลอจิกของวงจรนบั แบบ mod-8 ripple up counter โดยใช J-K ฟลปิ ฟลอป 3 ตวัพรอ มทง้ั แสดงคา เอาตพตุ ของบิต C,B และ A เม่ือ clock แตละลกู เขาไป8.2 จาก 8.1 จงเขยี นตารางแสดงความสมั พันธร ะหวางการนบั แบบฐานสองและฐานสิบ8.3 จงเขียนแผนภาพในลกั ษณะรูปท่ี 8.26 แสดง CLK 8 ลกู และเอาตพ ตุ ของ FF1,FF2 และ FF3 จากวงจรในขอ 8.1 สมมตวิ า ใชฟลปิ ฟลอปทีม่ กี ารทริกแบบ negative-edge-triggered8.4 วงจรนับแบบ…..(asynchronous, synchronous) เปนวงจรนบั ท่ีมีความซบั ซอน8.5 วงจรนบั แบบ synchronous สญั ญาณอนิ พุต CLK จะตอ แบบใด (ขนาน, อนุกรม)8.6 จงเขียนวงจร 4-bit ripple down counter โดยใช J-K ฟลิปฟลอป 4 ตวั พรอ มทงั้ แสดงอนิ พุต CLK ,อินพุต PS และเอาตพ ตุ 4 คา คอื D,C,B และ A8.7 วงจรนบั ในโจทยทดสอบขอ 7 ถา จะทําเปนวงจรนับลงจะทาํ ไดอ ยางไร8.8 จงออกแบบวงจรในขอ 8.7 ใหมในนบั จาก 1111 ถึง 0000 แลวหยุดโดยเพ่มิ OR เกต 4 อินพตุ เขาไป8.9 จงเขียนไดอะแกรมคลา ยกับรปู ที่ 8.12 โดยใชวงจรนบั 2 ตัวและมีอนิ พุตเขามา 100 Hz เอาตพ ุตทีไ่ ดเปน 1 Hz8.10 จากไอซี counter เบอร 7493 ในรปู ท่ี 8.13 จงตอบคําถามตอไปน้ี- จะนับไดม ากที่สดุ เทา ไร- เปนวงจรนับแบบ……….(ripple, synchronous) counter- เงอ่ื นไขรีเซ็ตเปนอยา งไร- เปนวงจรนับแบบ……….(down, up) counter- ไอซี 7493 ประกอบดวยฟลบิ ฟลอปกีต่ ัว- ตัว NAND เกตมหี นาท่อี ะไร8.11 จากไอซี counter เบอร 74192 ในรปู ที่ 8.14 จงตอบคาํ ถามตอ ไปนี้- วงจรนบั จะนับไดส งู สุดเทาไร- เปน วงจรนับแบบ………..(ripple, synchronous) counter- ในการเคลียรใ ห counter เปน 0000 จะตอ งใชล อจกิ อะไร- เปน วงจรนับแบบ……….(down, up, both up and down) counter- ถา ตอ งการใหเอาตพุตเปน 1001 จะตองทําอยางไร 223
- ถา จะใหว งจรนับนับลงจะตอ งทาํ อยางไร8.12 จงเขียนไดอะแกรมคลายกบั รูปที่ 8.15(a) โดยใชไอซีเบอร 7493 และใชร ูปท่ี 8.13ประกอบ8.13 จากรูปท่ี 8.31 ไอซีเบอร 74192 จะเปนอยางไร เมอ่ื pulse t1 เขาไป (clear, count up, load) รูปที่ 8.31 โจทยก ารนบั ของไอซี8.14 จากรปู ท่ี 8.31 จงเขียนเอาตพ ุตแบบไบนารีท่ไี ดจากไอซี counter 74192 หลักจาก pulse แตล ะลกูเขา ไป จํานวน 8 ลูก8.15 จากรปู ที่ 8.17 จงตอบคําถามเก่ยี วกบั ไอซี 74HC393 ตอไปนี้- เปน วงจรแบบ………. (ripple, synchronous) counter- เปน วงจรแบบ………..(down, up either up or down) counter- ขา MR จะเปนขา…………(asynchronous, synchronous ซงึ่ จะมแี อกตฟี ………….(High, Low) เมื่อจะเคลียรเ อาตพ ุต- ไอซวี งจรนบั ตวั นภี้ ายในจะเปนฟลปิ ฟลอปแบบใด (R-S, T)- เปนไอซี counter แบบใด (CMOS, TTL)8.16 จากไอซี 74HC193 ในรปู ท่ี 8.18 จงตอบคาํ ถามตอไปน้ี- เม่อื ใหข า MR แอกตฟี จะตอ งใชลอจกิ ………. (High, Low)และเอาตพ ุตทกุ ตัวจะเปน ...…….(0, 1)- วงจรน้ีเปนแบบ……….(ripple, synchronous) counter- ขอมูลขนานทางอนิ พตุ (D0-D3) จะออกสเู อาตพตุ (Q0-Q3) เม่ืออินพตุ แอกตฟี Low- เม่อื สญั ญาณ clock เขามาทางขา CPu ขา CPd จะตอ งตอกับ………. (+5V, GND)8.17 จากรูปที่ 8.32 จงเขียนโหมดการทาํ งานไอซเบอรนี้ เมื่อ clock ลกู t1 ถึง t8 เขาไป (parallelload, count up, count down)8.18 จากรูปท่ี 8.32 จงเขยี นเอาตพุตแบบไบนารจี ากไอซี 74HC193 หลงั จาก pulse แตล ะลกู เขา ไป 224
รปู ท่ี 8.32 โจทยปญหาวงจรนบั8.19 จากรูปที่ 8.25 ไอซ7ี 4็ฉ85 2ตัวตอ กนั แบบ . . . . . . . . . . .(cascaded, Subdivided) ซ่งึ สามารถใชเปรียบเทยี บเลขไบนารี 2จํานวน . . . . . . . . . . .บิต8.20 จารูปท่ี 8.33 จงแสดงวา หลอด LED สีใดสวางบา งในเวลาตา งๆ จาก t1 ถึง t68.21 ตวั Oscilloscope เปน เครื่องมอื ท่ีวัดสัญญาณดิจติ อล ท่มี ีลักษณะซาํ้ ๆ ไดด ี สําหรับตวั Logic . . .. . . . . . (Analyzer ,Monitor) จะดีสาํ หรับดูสญั ญาณแบบ Asynchronous8.22 เคร่ืองมอื ในรปู ท่ี . . . . . . . . [8.25(a),8.27(a)] เปน เครื่องมอื ทใ่ี ชทดสอบไอซีวาดหี รอื เสีย8.23 เครอื่ งมือที่มชี ่อื Digital . . . . . .. .( IC tester ,Pulser ) เปนเคร่ืองมือทใี่ ชส ง สัญญาณเขาสวู งจร8.24 จงบอกรายชื่อของเคร่อื งมอื ทใ่ี ชทดสอบและหาจุดผดิ พลาดของวงจรดิจติ อล 225
คาํ ตอบโจทยทดสอบ รปู ที่ 8.33 โจทยวงจรเปรียบเทียบสญั ญาณ1. Two Pulse t3=102. 4 Pulse t4=113. toggle Pulse t5=004. Pulse t1=00 Pulse t6=01 28. 8 Pulse t2=01 29. 4-bit binary5.Ripple,decade 30. High6. ripple,5 31. H-To-L8. synchronous 32. 16Ripple9. parallel 33. Synchronous10. toggle 34. Asynchronous11. ทุกตัว13. toggle 35. Q0 ถงึ Q314. Hight-to-Low 36. 0001,0010,0011,0100,0101,011015. FF1 toggles 37.ใชPresetเปน0001หลงั จากนับไปถึง011016. Pulse t1=00 226 Pulse t2=11
Pules t3=10 39. วงจรนบั ,Multiplexer Pules t4=01 40. High Pules t5=00 41. H-To-L Pules t6=11 42. Negativer-edge17. Down 43. แดง High18. Hight,toggle 44. กดและปลอ ยสวิตซ19. Low,Hole 45.Astable20. 1000 46. t6=read21. 2 t5=green22. 0000 t4=red23. Four,up t3=yellow24. Decade,synchronous t2=red25. 5 t1=green26. High 47. High27. จดุ B=200 Hz 48. Clear จดุ C=100 Hz 49. Preset,High จดุ D=50 Hz 227
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: