แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 3

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 31 รายวชิ าสงั คมศึกษา 1 รหัสวชิ า ส21101 ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 กฎหมายคุ้มครองสทิ ธขิ องบคุ คล เวลา 8 ช่ัวโมง เรือ่ ง กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล เวลา 1 ชวั่ โมง ผสู้ อนนางสาวณฐั ธดิ า เขียวทองจนั ทร์ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สุราษฎรธ์ านี แนวคิดสาคัญ (สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด) ประชาชนชาวไทยทุกคนมีสิทธิตามบทบัญญัติของกฎหมาย เช่น สิทธิส่วนบุคคล สิทธิในชีวิตและ ร่างกาย สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิในการศึกษา สิทธิที่ได้รับบริการสาธารณสุขและสวัสดิการจากรัฐ สิทธิชุมชน เป็นต้น การมีสิทธิดังกล่าวทาให้ชีวิตของเราเป็นไปอย่างปกติสุข มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็น ปจั จัยสาคญั ทที่ าใหม้ ีการสรา้ งสรรคผ์ ลงานท่เี ป็นประโยชน์ต่อตนเอง สงั คม และประเทศชาติ ดังน้ัน จงึ มีความ จาเป็นที่จะต้องมีบทบัญญัติของกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล เพื่อส่งเสริม สนับสนุ น และเป็น หลกั ประกนั ว่าบุคคลได้รับความค้มุ ครองตามบทบัญญัติของกฎหมาย มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (หรอื ผลการเรียนร)ู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.1 รู้ เขา้ ใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรกั ษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ิตอยรู่ ่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสันติสขุ ตวั ช้วี ัด (หรอื ผลการเรียนร้)ู ส 2.1 ม.1/1 ปฏบิ ัติตามกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิของบคุ คล จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1.1 บอกความหมาย ความสาคญั ของกฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบุคคลได้ 2. ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process) 2.1 เขียนแนวทางการปฏิบตั ิตนตามกฎหมายในการค้มุ ครองสทิ ธิส่วนบุคคลได้ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attribute) 3.1 นกั เรยี นมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มคี วามม่งุ มัน่ และมีความรับผิดชอบในการทางาน สาระการเรยี นรู้ ความหมายและความสาคัญของกฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบุคคล

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง  2. ซือ่ สตั ย์สุจรติ  6. มงุ่ ม่ันในการทางาน  3. มวี นิ ัย  7. รักความเปน็ ไทย  4. ใฝ่เรยี นรู้  8. มจี ติ สาธารณะ เบญจวถิ ีกาญจนา  1. เทดิ ทูนสถาบนั  2. กตัญญู  3. บคุ ลิกดี  4. มีวินยั  5. ให้เกยี รติ สมรรถนะทส่ี าคัญของผเู้ รยี น  1. ความสามารถในการสอ่ื สาร  2. ความสามารถในการคิด  3. ความสามารถในการแก้ปญั หา  4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต  5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาผเู้ รยี น ความสามารถและทกั ษะทจี่ าเปน็ ในการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1 - Reading (อ่านออก)  R2 - (W)Riting (เขียนได้)  R3 - (A)Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )  C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณและ ทักษะในการแกป้ ัญหา)  C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างวฒั นธรรมตา่ งกระบวนทศั น์)  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความรว่ มมือ การทางานเป็น ทีมและภาวะผู้นา)  C5 - Communications, Information and Media Literacy (ทักษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เทา่ ทันส่ือ)  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่ือสาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้)  C8 - Compassion (ความมีเมตตากรุณา วนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม)

 L1 - Learning (ทกั ษะการเรยี นรู้)  L2 - Leadership (ทักษะความเปน็ ผู้นา) ชนิ้ งาน / ภาระงาน เล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่พลเมือง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 กฎหมายคุ้มครองสทิ ธขิ องบุคคล การวดั และประเมินผล เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การวัดผลและประเมินผลการเรยี นรใู้ นคาบนี้ มีดงั นี้ ด้านความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงค์การเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการวดั และประเมนิ ผล 1. บอกความหมาย ความสาคญั ของกฎหมายคุ้มครองสทิ ธิของบคุ คลได้ การวดั ผล วิธีการวัดผล : พิจารณาความถูกต้องของคาตอบของนักเรียนในเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่ พลเมอื ง ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 กฎหมายค้มุ ครองสทิ ธขิ องบุคคล เคร่ืองมือวัดผล : แบบฝึกหัดที่ 1 ปรศิ นาเติมความหมาย เตมิ ความสาคัญกฎหมายค้มุ ครองสทิ ธิของบุคคล การประเมนิ ผล เกณฑ์การให้คะแนน : ในแต่ละข้อคาถามจากเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่พลเมือง ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 กฎหมายคุ้มครองสิทธขิ องบคุ คล แบบฝกึ หดั ท่ี 1 ปรศิ นาเติมความหมาย เติม ความสาคัญกฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล ถา้ นักเรยี นตอบคาถามได้ถูกต้อง จะไดข้ อ้ ละ 1 คะแนน แต่ถ้านักเรียน ตอบไม่ถกู ตอ้ งจะไดข้ ้อละ 0 คะแนน เกณฑก์ ารประเมิน : แบบฝกึ หดั ท่ี 1 ปรศิ นาเตมิ ความหมาย เตมิ ความสาคัญกฎหมายคุม้ ครองสทิ ธิของบุคคล ถ้า นักเรียน (คนใด) ได้คะแนน 4 คะแนน จากคะแนนเตม็ 6 คะแนน ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process) จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการวดั และประเมนิ ผล 1. เขยี นแนวทางการปฏบิ ัติตนตามกฎหมายในการคุ้มครองสิทธสิ ่วนบุคคลได้ การวดั ผล วธิ ีการวดั ผล : พิจารณาจากความถูกต้องและความเหมาะสมของคาตอบนักเรยี นในกิจกรรมการเรยี นรู้ กระดาษ พาเพลิน 1 แผน่ ใช้ทงั้ หอ้ งเรียน เคร่อื งมอื วัดผล : กิจกรรมการเรยี นรู้ กระดาษพาเพลนิ 1 แผ่นใชท้ ้งั หอ้ งเรียน การประเมนิ ผล เกณฑ์การให้คะแนน : ในกิจกรรมการเรียนรู้ กระดาษพาเพลิน 1 แผ่นใช้ทั้งห้องเรียน ถ้านักเรียนตอบคาถามได้ ถูกต้องและไม่ซ้ากับของผู้อื่น จะได้คนละ 2 คะแนน ตอบคาถามได้ถูกต้องแต่ซ้ากับของผู้อ่ืน จะได้คนละ 1 คะแนน แตถ่ ้านกั เรยี นตอบไม่ถกู ตอ้ งจะได้คนละ 0 คะแนน

ด้านทักษะกระบวนการ (Process) เกณฑ์การประเมิน : กิจกรรมการเรียนรู้ กระดาษพาเพลิน 1 แผน่ ใชท้ ง้ั หอ้ งเรียน ถ้านกั เรียน (คนใด) ได้คะแนน 1 คะแนน จากคะแนนเตม็ 2 คะแนน ถือว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attribute) จดุ ประสงค์การเรียนรทู้ ต่ี อ้ งการวดั และประเมนิ ผล 1. นักเรียนมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มคี วามมุง่ มัน่ และมีความรบั ผิดชอบในการทางาน การวดั ผล วิธีการวัดผล : พิจารณาจากพฤติกรรมหรือความเหมาะสมในการแสดงออกของนักเรียน ขณะลงมือปฏิบัติการ จัดการเรียนการสอนเป็นรายบุคคลและอภิปรายแสดงเหตุผลในการทาใบกิจกรรมการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนเป็นคน สังเกต เครอื่ งมอื วัดผล : แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์กิจกรรมการเรยี นรู้ การประเมนิ ผล เกณฑก์ ารให้คะแนน : พิจารณาเป็นรายบุคคล เกณฑ์การประเมนิ : ถา้ นกั เรยี น (คนใด) ได้คะแนน 5 คะแนน จากคะแนนเตม็ 9 คะแนน ถือว่าผา่ นเกณฑ์ การประเมิน กิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรูแ้ บบรว่ มมอื : เทคนิคคคู่ ิดสสี่ หาย ข้ันที่ 1 ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น ( 5 นาที) 1.1 ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรยี น และเตรียมความพร้อมให้กบั นักเรยี น 1.2 ครแู ละนักเรียนร่วมกันสนทนาเพื่อนาเข้าสู่บทเรยี นกฎหมายคุ้มครองสิทธขิ องบคุ คล โดยครูมีการ ใช้ประเดน็ คาถามในการกระตนุ้ นักเรียน “นกั เรียนมีสทิ ธิตามกฎหมายอะไรบ้าง และนักเรียนปฏิบัติตนในการ ใช้สิทธนิ ั้นอย่างไร” ให้นักเรียนภายในหอ้ งเรยี นชว่ ยกันแสดงความคดิ เหน็ ขัน้ ที่ 2 ขั้นดาเนนิ การสอน (30 นาท)ี 2.1 ครูอธิบายความหมายและความสาคัญของกฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล เน้นเฉพาะเนื้อหา สาระสาคัญใหน้ ักเรียนฟังแบบครา่ ว ๆ โดยการใช้สอื่ Power Point ประกอบการบรรยาย 2.2 ครูให้นักเรียนจับคู่ทากิจกรรม DAVINCI ปริศนาถอดรหัสกฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล โดย ครูผู้สอนนาข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องสิทธิของบุคคลมาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนแต่ละคนวิเคราะห์เชื่อมโยงเข้า กับเนื้อหาท่ีได้เรียนรู้ ควบคู่กับการศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติมจากหนังสือเรียนหน้า 38 – 39 หรือจากแหล่งเรยี นรู้ อืน่ ๆ เชน่ อินเทอรเ์ นต็ เป็นตน้

2.3 นักเรยี นนาข้อมลู ท่ไี ด้จากการศึกษาค้นควา้ มาวิเคราะห์ความสาคัญของกฎหมายคุ้มครองสิทธิของ บุคคลทมี่ ีต่อการดาเนินชวี ิตของคนในสังคมลงในกระดาษขนาด A4 จากนน้ั นาผลการวเิ คราะห์มาอธิบายกับคู่ ของตนเองฟัง เพื่อสนทนาแลกเปล่ียนความรู้ซึ่งกันและกัน และให้นักเรียนแตล่ ะคูส่ รุปความคิดรวบยอดมา 1 ประโยคสน้ั ๆ กะทดั รัด ไดใ้ จความ ขนั้ ที่ 3 ข้ันสรุป (15 นาที) 3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสาระสาคัญกฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล โดยใช้วิธีการที่ครูสุ่ม เลขท่นี ักเรยี นด้วยวงลอ้ เสี่ยงทายจานวน 5 คน เพอื่ ออกมาอภปิ รายสง่ิ ทไ่ี ดจ้ ากการทากิจกรรมหน้าชนั้ เรียน 3.2 ครูสรุปสาระสาคัญของกฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล ว่า กฎหมายกฎหมายคุ้มครองสิทธิของ บุคคลมคี วามสาคญั ต่อปวงชนชาวไทยทกุ คนให้ดาเนินชีวิตอย่างปกติสุข มีความปลอดภัยในชีวติ มีคุณภาพที่ดี และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างราบรื่นและเป็นระเบียบ รวมทั้งทาให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าและ สามารถพฒั นาต่อไปได้ 3.3 ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามในประเด็นทีส่ งสยั สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ สื่อ 1) สอื่ Power point เรอ่ื ง กฎหมายน่ารู้ 2) กจิ กรรม DAVINCI ปริศนาถอดรหสั กฎหมายคุ้มครองสทิ ธิสว่ นบุคคล แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐานสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม หน้าท่ีพลเมือง วฒั นธรรมและการ ดาเนนิ ชวี ติ ในสังคม เศรษฐศาสตร์ และภมู ิศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ของอกั ษรเจรญิ ทศั น์ (อจท.) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ - https://www.youtube.com/watch?v=yx0XkOuzaAI

สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน จานวน (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ดี 5 – 6 ปานกลาง 4 ปรับปรงุ ต่ากว่า 4 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน จานวน (คน) คดิ เปน็ รอ้ ยละ ดี 2 ปานกลาง 1 ปรับปรุง ตำ่ กวา่ 1 ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งระดบั คณุ ภาพ จานวน (คน) คดิ เปน็ รอ้ ยละ ดี 8 – 9 ปานกลาง 5–7 ปรบั ปรุง ตา่ กวา่ 5 บนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ปญั หาท่พี บระหวา่ งหรือหลังจัดกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….......................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………..................... ……………………………………………………………………………………………………………………………................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………..………………………….. ลงชอื่ ..........................................................ผสู้ อน (นางสาวณัฐธดิ า เขยี วทองจันทร์) ............/................/.............

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้  สอดคล้องกับมาตรฐานและตวั ช้ีวดั ของหลักสตู รฯ  กจิ กรรมการเรียนรูเ้ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั  มีการวดั และประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผูเ้ รยี น  ใชส้ ือ่ หรอื แหล่งเรยี นรทู้ ่ที ันสมัยและส่งเสริมการเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ  สอดคล้องตามจดุ เน้นของกระทรวงศกึ ษาธิการ สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรยี น  ส่งเสรมิ ทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls  สง่ เสรมิ เบญจวถิ ีกาญจนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. (นางสาวกมลพรรณ ช่องสมบัติ) ครพู ีเ่ ลี้ยง การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้  สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวชีว้ ัดของหลกั สตู รฯ  กจิ กรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ  มกี ารวัดและประเมนิ ผลตามสภาพจริง มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผู้เรยี น  ใชส้ ื่อหรอื แหล่งเรยี นรทู้ ที่ นั สมยั และสง่ เสริมการเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ  สอดคลอ้ งตามจดุ เน้นของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรยี น  สง่ เสรมิ ทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls  ส่งเสริมเบญจวถิ ีกาญจนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. (นายเชาวลติ วมิ ล) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ  ถูกตอ้ งตามรปู แบบของโรงเรยี น  ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ  กอ่ นใชส้ อน  หลังใช้สอน  มบี นั ทกึ หลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .............................................................. (นายธนพนั ธ์ เพ็งสวัสด์ิ) หวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .................................................................... (นางสาวชนดิ าภา เวชกุล) รองผู้อานวยการโรงเรียน กลุ่มบริหารงานวชิ าการ ความคดิ เหน็ ของผอู้ านวยการโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงชอ่ื .................................................................... (นางพรทิพย์ นุกูลกจิ ) ผอู้ านวยการโรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลัย สุราษฎรธ์ านี

แบบประเมนิ ใบกจิ กรรมดา้ นความรู้ (K) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 31 คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนทาเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งคะแนนทน่ี กั เรยี นพึงได้รบั ลาดบั ชื่อ - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา รวม ระดบั ท่ี ของผรู้ บั การประเมนิ 6 คะแนน คณุ ภาพ แบบฝกึ หดั ท่ี 1 ปรศิ นาเตมิ ความหมาย เตมิ ความสาคญั 1 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล 2 3 6543210 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25

ลาดบั ช่อื - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา รวม ระดบั ที่ ของผรู้ บั การประเมนิ 6 คะแนน คณุ ภาพ แบบฝกึ หดั ท่ี 1 ปรศิ นาเตมิ ความหมาย เตมิ ความสาคญั 26 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล 27 28 6543210 29 30 31 32 33 34 35 เกณฑก์ ารประเมนิ ดา้ นความรู้ (K) ดงั นี้ ได้คะแนนขอ้ ละ 1 ถา้ นกั เรยี นตอบได้ถกู ต้อง ไดค้ ะแนนขอ้ ละ 0 ถา้ นักเรียนตอบไมถ่ ูกตอ้ ง หมายถงึ ดี ผลการประเมิน หมายถงึ พอใช้ 5 – 6 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 4 คะแนน ต่ากว่า 4 คะแนน ลงชอื่ ........................................................... (นางสาว ณัฐธดิ า เขียวทองจันทร์) นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู วันท่.ี ........เดอื น......................พ.ศ. .............

แบบประเมนิ ใบกจิ กรรมดา้ นทักษะกระบวนการ (P) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 31 คาชแี้ จง : ให้ผู้สอนทาเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องคะแนนที่นักเรยี นพึงได้รบั ลาดบั ชอ่ื - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา รวม ระดบั ที่ ของผรู้ บั การประเมนิ 2 คะแนน คณุ ภาพ เขยี นแนวทางการปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย 1 ในการคมุ้ ครองสทิ ธสิ ว่ นบคุ คลได้ 2 3 210 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25

ลาดบั ชอื่ - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา รวม ระดบั ท่ี ของผรู้ บั การประเมนิ 2 คะแนน คณุ ภาพ เขยี นแนวทางการปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย 26 ในการคมุ้ ครองสทิ ธสิ ว่ นบคุ คลได้ 27 28 210 29 30 31 32 33 34 35 เกณฑก์ ารประเมินด้านทักษะกระบวนการ (P) ดังนี้ ถ้านกั เรียนตอบไดถ้ ูกตอ้ งและไม่ซา้ กบั ของผอู้ น่ื ได้คะแนนคนละ 2 ไดค้ ะแนนคนละ 1 ถ้านกั เรียนตอบไดถ้ ูกตอ้ งและแต่ซ้ากบั ของผู้อ่ืน ได้คะแนนคนละ 0 ถา้ นักเรยี นตอบไม่ถกู ตอ้ ง ดี พอใช้ ผลการประเมนิ ควรปรบั ปรุง 2 คะแนน หมายถงึ 1 คะแนน หมายถงึ ตา่ กว่า 1 คะแนน หมายถงึ ลงชื่อ........................................................... (นางสาว ณฐั ธดิ า เขียวทองจันทร์) นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู วันที.่ ........เดอื น......................พ.ศ. .............

แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคก์ จิ กรรมการเรยี นรู้ (A) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 31 คาชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนทาเคร่อื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งคะแนนที่นกั เรยี นพงึ ได้รับ รายการประเมนิ ลาดบั ชื่อ – สกลุ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั รวม ระดบั ที่ ในการทางาน คณุ ภาพ 321032103210 9 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23

รายการประเมนิ ลาดบั ชอื่ – สกลุ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั รวม ระดบั ที่ ในการทางาน คณุ ภาพ 321032103210 9 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 ลงชอ่ื ........................................................... (นางสาว ณัฐธดิ า เขียวทองจันทร์) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู วนั ที่.........เดอื น......................พ.ศ. .............

เกณฑก์ ารประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 1. มีวินัย ดมี าก (3) ดี (2) พอใช้ (1) ปรบั ปรงุ (0) 2. ใฝ่เรียนรู้ - ปฏิบัติตนตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ิตนตาม ข้อตกลง ปฏิบัตติ นตาม ข้อตกลง ไม่ปฏบิ ตั ติ นตาม ขอ้ ตกลง 3. ม่งุ มั่นในการทางาน กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบงั คับ กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบังคับ กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบังคบั กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของโรงเรียน และ ไม่ละเมิด ของโรงเรยี น ตรงต่อเวลาใน ของโรงเรยี น ตรงต่อเวลาใน ของโรงเรียน และในการ สทิ ธขิ องผูอ้ ื่น การปฏบิ ัติกิจกรรมและ การปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัติกจิ กรรม - ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติ รับผิดชอบในการทางาน กิจกรรมและรบั ผิดชอบใน การทางาน เขา้ เรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน เขา้ เรียนตรงเวลา ต้ังใจเรยี น เขา้ เรียนตรงเวลา ตัง้ ใจเรยี น ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ศกึ ษา เอาใจใส่ในการเรียน และมี เอาใจใสใ่ นการเรียนและมี เอาใจใสใ่ นการเรยี นและมี ค้นควา้ หา ความรู้ สว่ นร่วมในการเรยี นรู้ และ สว่ นรว่ มในการเรยี นรู้ และ สว่ นร่วมในการเรยี นรู้ และ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตา่ งๆ ทง้ั ภายในและ ต่าง ๆ เปน็ บ่อยครัง้ ตา่ ง ๆ เป็นบางคร้งั ภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจา ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในการ ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบใน ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบใน ไมต่ ง้ั ใจปฏบิ ตั หิ นา้ ทีก่ าร ปฏบิ ตั ิหน้าทที่ ไ่ี ด้รบั การปฏบิ ัติหนา้ ที่ทไี่ ดร้ ับ การปฏบิ ัติหน้าทที่ ไ่ี ดร้ บั งาน มอบหมายใหส้ าเรจ็ มกี าร มอบหมายให้สาเรจ็ มกี าร มอบหมายใหส้ าเรจ็ ปรบั ปรุงและพฒั นาการ ปรบั ปรุงและพฒั นาการ ทางานใหด้ ขี ึน้ ภายในเวลาที่ ทางานให้ดีขนึ้ กาหนด เกณฑก์ ารประเมินด้านคณุ ลักษณะอังพงึ ประสงค์ 4 ระดับ ดังนี้ ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ไดค้ ะแนน 3 ไดค้ ะแนน 2 ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ไดค้ ะแนน 1 ได้คะแนน 0 ระดบั คณุ ภาพ 1 หมายถึง ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ระดบั คณุ ภาพ 0 หมายถงึ ไม่ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรม ผลการประเมนิ 8 - 9 คะแนน หมายถึง ดี 5 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ต่ำกวา่ 5 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ

สอ่ื การเรยี นรู้ กจิ กรรม DAVINCI ปรศิ นาถอดรหสั กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธสิ ว่ นบคุ คล

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 32 รายวชิ าสังคมศกึ ษา 1 รหสั วชิ า ส21101 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 กฎหมายคุ้มครองสทิ ธิของบุคคล เวลา 8 ชั่วโมง เร่อื ง กฎหมายคมุ้ ครองเดก็ เวลา 1 ช่ัวโมง ผู้สอนนางสาวณัฐธดิ า เขยี วทองจนั ทร์ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สุราษฎรธ์ านี แนวคดิ สาคญั (สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด) กฎหมายคุ้มครองเด็ก มีหลักการสาคัญในการปฏิบัติเพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และประโยชน์สูงสุด ของเด็กและเยาวชน มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (หรอื ผลการเรยี นร)ู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.1 รู้ เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรกั ษาประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดารงชีวิตอยูร่ ่วมกันในสงั คมไทย และ สงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ขุ ตวั ชี้วัด (หรือผลการเรยี นรู)้ ส 2.1 ม.1/1 ปฏิบตั ติ ามกฎหมายในการค้มุ ครองสิทธขิ องบคุ คล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1.1 จาแนกบทบาทหนา้ ที่ทีพ่ งึ ปฏบิ ัตติ อ่ เด็กได้ 1.2 อธิบายความหมายการค้มุ ครองสวสั ดภิ าพเด็กและการสงเคราะห์ได้ 1.3 จับคู่การทาผิดกฎหมายและบทกาหนดโทษได้ 2. ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process) 2.1 เขยี นลักษณะของเด็กท่ีพึงได้รบั การคุ้มครองสวัสดิภาพและเด็กที่พงึ ได้รับการสงเคราะห์ได้ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attribute) 3.1 นกั เรียนมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มีความมุง่ มน่ั และมีความรับผดิ ชอบในการทางาน สาระการเรยี นรู้ กฎหมายในการคุ้มครองสิทธิของบุคคล เช่นกฎหมายคุ้มครองเด็ก และประโยชน์ของการปฏิบัติตน ตามกฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธิของบุคคล ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง

 2. ซอื่ สัตย์สจุ ริต  6. มุ่งมัน่ ในการทางาน  3. มีวนิ ยั  7. รกั ความเป็นไทย  4. ใฝ่เรียนรู้  8. มีจิตสาธารณะ เบญจวถิ ีกาญจนา  1. เทดิ ทนู สถาบนั  2. กตญั ญู  3. บคุ ลิกดี  4. มวี ินยั  5. ใหเ้ กยี รติ สมรรถนะทส่ี าคญั ของผเู้ รยี น  1. ความสามารถในการสอื่ สาร  2. ความสามารถในการคิด  3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา  4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ  5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาผเู้ รยี น ความสามารถและทกั ษะทจี่ าเปน็ ในการเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1 - Reading (อ่านออก)  R2 - (W)Riting (เขียนได)้  R3 - (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )  C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและ ทักษะในการแก้ปัญหา)  C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรมต่างกระบวนทัศน์)  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผู้นา)  C5 - Communications, Information and Media Literacy (ทักษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันส่อื )  C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่ือสาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้)  C8 - Compassion (ความมีเมตตากรณุ า วินยั คุณธรรม จริยธรรม)  L1 - Learning (ทักษะการเรยี นรู้)  L2 - Leadership (ทักษะความเปน็ ผู้นา)

ชน้ิ งาน / ภาระงาน เล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่พลเมือง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 กฎหมายคุม้ ครองสิทธิของบคุ คล การวัดและประเมินผล เพื่อใหส้ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การวัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ในคาบน้ี มดี งั น้ี ดา้ นความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงค์การเรยี นรทู้ ตี่ อ้ งการวดั และประเมนิ ผล 1. จาแนกบทบาทหน้าที่ทีพ่ งึ ปฏิบัติตอ่ เด็กได้ 2. อธิบายความหมายการคุ้มครองสวัสดิภาพเดก็ และการสงเคราะห์ได้ 3. จับคกู่ ารทาผดิ กฎหมายและบทกาหนดโทษได้ การวัดผล วิธีการวัดผล : พิจารณาความถูกต้องของคาตอบของนักเรียนในเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าท่ี พลเมอื ง ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล เครื่องมือวัดผล : แบบฝึกหัดที่ 2 กฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล แบบฝึกหัดที่ 3 การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และการสงเคราะห์ และแบบฝึกหัด 5 ปริศนาลากเส้น จับคู่ การประเมนิ ผล เกณฑ์การให้คะแนน : ในแต่ละข้อคาถามจากเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่พลเมือง ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 กฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล แบบฝึกหัดท่ี 2 กฎหมายคุ้มครองสทิ ธิของ บุคคล แบบฝึกหัดที่ 3 การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและการสงเคราะห์ และแบบฝึกหัด 5 ปริศนาลากเส้น จับคู่ ถ้านกั เรยี นตอบคาถามได้ถกู ตอ้ ง จะไดข้ ้อละ 1 คะแนน แตถ่ า้ นกั เรียนตอบไม่ถกู ต้องจะได้ข้อละ 0 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ : แบบฝกึ หดั ที่ 2 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล แบบฝกึ หดั ท่ี 3 การคุ้มครองสวัสดภิ าพเด็ก และการสงเคราะห์ และแบบฝึกหดั 5 ปริศนาลากเส้น จับคู่ ถ้านักเรียน (คนใด) ได้คะแนน 7 คะแนน จากคะแนน เตม็ 12 คะแนน ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process) จดุ ประสงคก์ ารเรียนรทู้ ต่ี อ้ งการวดั และประเมนิ ผล 1. เขยี นลักษณะของเดก็ ท่ีพงึ ไดร้ ับการคมุ้ ครองสวสั ดภิ าพและเด็กที่พงึ ได้รบั การสงเคราะห์ได้ การวดั ผล วิธีการวัดผล : พิจารณาความถูกต้องของคาตอบของนักเรียนในเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าท่ี พลเมอื ง ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 กฎหมายค้มุ ครองสิทธิของบคุ คล เคร่ืองมือวดั ผล : แบบฝกึ หัดท่ี 4 เด็กเอ่ย เดก็ ดี

ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process) การประเมนิ ผล เกณฑ์การให้คะแนน : ในแต่ละข้อคาถามจากเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่พลเมือง ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 กฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล แบบฝึกหัดที่ 4 เด็กเอ่ย เด็กดี ถ้านักเรียน ตอบคาถามไดถ้ กู ต้อง จะได้ขอ้ ละ 1 คะแนน แตถ่ ้านกั เรยี นตอบไม่ถูกต้อง จะไดข้ ้อละ 0 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ : แบบฝึกหดั ที่ 4 เดก็ เอย่ เดก็ ดี ถ้านักเรียน (คนใด) ได้คะแนน 5 คะแนน จากคะแนนเตม็ 9 คะแนน ถือวา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attribute) จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการวดั และประเมนิ ผล 1. นกั เรียนมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ มคี วามมุง่ มัน่ และมีความรับผิดชอบในการทางาน การวดั ผล วิธีการวัดผล : พิจารณาจากพฤติกรรมหรือความเหมาะสมในการแสดงออกของนักเรียน ขณะลงมือปฏิบัติการ จัดการเรียนการสอนเป็นรายบุคคลและอภิปรายแสดงเหตุผลในการทาใบกิจกรรมการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนเป็นคน สงั เกต เคร่อื งมอื วดั ผล : แบบประเมินดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์กิจกรรมการเรียนรู้ การประเมนิ ผล เกณฑก์ ารให้คะแนน : พิจารณาเปน็ รายบคุ คล เกณฑก์ ารประเมิน : ถา้ นักเรียน (คนใด) ได้คะแนน 5 คะแนน จากคะแนนเตม็ 9 คะแนน ถือว่าผา่ นเกณฑ์ การประเมิน กิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิคการตอ่ เรื่องราว (Jigsaw) ข้ันที่ 1 ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น ( 5 นาที) 1.1 ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน และเตรียมความพร้อมให้กับนกั เรียน 1.2 ครแู ละนักเรียนร่วมกันสนทนาเพื่อนาเข้าสู่บทเรยี นกฎหมายคุ้มครองเด็ก โดยครูมีการใช้ประเด็น คาถามในการกระตุ้นนักเรียน “นักเรียนมีความประทับใจเกี่ยวกับการกระทาของบุคคลที่แสดงถึงการมีส่วน ร่วมในการค้มุ ครองสิทธิเด็กอย่างไรบ้าง จงยกตวั อย่างประกอบ” โดยให้นกั เรียนภายในห้องเรียนช่วยกันแสดง ความคดิ เหน็

ขั้นที่ 2 ขน้ั ดาเนินการสอน (25 นาที) 2.1 ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน โดยใช้วิธีการนับ 1 – 4 วนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบ ทั้งห้อง นักเรียนที่นับเลขเดียวกันอยู่ด้วยกัน และแต่ละกลุ่มให้สมาชิกแต่ละคนเลือกหมายเลขประจาตัวตาม ความสมัครใจ ตงั้ แตห่ มายเลข 1 - 4 เรียกกลุ่มนีว้ า่ กลุ่มบา้ น 2.2 สมาชิกแตล่ ะหมายเลขของกลุ่มบ้านแยกย้ายกันไปรวมกับสมาชิกหมายเลขเดียวกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกกลมุ่ นี้วา่ กลุ่มผู้เช่ยี วชาญ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง กฎหมายคมุ้ ครองเด็ก จากหนังสือ เรยี น หนังสอื คน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ อนิ เทอรเ์ นต็ ตามประเด็นท่ีกาหนด ดงั นี้ หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง หลกั การและแนวคดิ สาคญั ๆ เกี่ยวกบั สทิ ธิเดก็ หมายเลข 2 ศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง บทบาทหนา้ ที่ท่พี งึ ปฏบิ ัตติ ่อเดก็ หมายเลข 3 ศึกษาความร้เู ร่ือง ประเภทของเด็กทพ่ี ึงได้รับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวสั ดภิ าพ หมายเลข 4 ศกึ ษาความรู้เรื่อง มาตรการส่งเสรมิ ความประพฤตนิ กั เรยี นและนกั ศกึ ษา 2.3 สมาชกิ กลุม่ ผเู้ ช่ียวชาญร่วมกนั อธิบายสรา้ งความเขา้ ใจในหวั ข้อทต่ี นได้รับมอบหมาย จากนั้นกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญแยกย้ายกันกลับเข้าสู่กลุ่มบ้าน แล้วให้สมาชิกแต่ละหมายเลขผลัดกันอธิบายความรู้ที่ตนได้ศึกษา มาให้สมาชิกกลุ่มบ้านฟัง หากมีข้อสงสัยให้ซักถามจนมีความเข้าใจชัดเจน และนักเรียนภายในกลุ่มบ้านนา ความรู้ที่ได้มาทาเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่พลเมือง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วย การเรยี นรทู้ ี่ 3 กฎหมายคุ้มครองสทิ ธิของบคุ คล ขั้นที่ 3 ข้ันสรุป (20 นาท)ี 3.1 ครสู รปุ สาระสาคัญเก่ียวกบั กฎหมายคุ้มครองเด็ก ให้นักเรยี นฟังอกี หน่ึงครัง้ โดยการใชส้ อ่ื Power Point ประกอบการบรรยาย พร้อมทงั้ ให้นกั เรียนชว่ ยกนั วิเคราะห์กรณีตวั อย่าง ข่าว “ครจู มุ๋ ” ว่าครูจุ๋มกระทา ความผิดเกยี่ วกับการคมุ้ ครองเดก็ ในเร่ืองใด ? อย่างไร ? ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ แสดงความคดิ เห็นภายใน ห้องเรียน 3.2 ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามในประเดน็ ท่ีสงสยั สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ สอื่ 1) ส่ือ Power point เรอ่ื ง กฎหมายน่ารู้ แหลง่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและ การดาเนนิ ชวี ติ ในสังคม เศรษฐศาสตร์ และภูมศิ าสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ของอักษรเจรญิ ทศั น์ (อจท.) แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ - https://www.youtube.com/watch?v=xkbiwL3FU04

สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน จานวน (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ดี 10 – 12 ปานกลาง 7–9 ปรบั ปรุง ต่ากว่า 7 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน จานวน (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ดี 8 – 9 ปานกลาง 5–7 ปรบั ปรงุ ต่ำกว่า 5 ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งระดบั คณุ ภาพ จานวน (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ดี 8 – 9 ปานกลาง 5–7 ปรับปรุง ต่ากวา่ 5 บนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ปัญหาทพ่ี บระหว่างหรอื หลงั จัดกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….......................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………..................... ……………………………………………………………………………………………………………………………................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………..………………………….. ลงชอ่ื ..........................................................ผสู้ อน (นางสาวณฐั ธิดา เขียวทองจนั ทร์) ............/................/.............

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้  สอดคล้องกับมาตรฐานและตวั ช้ีวัดของหลักสตู รฯ  กจิ กรรมการเรียนรูเ้ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั  มีการวดั และประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผู้เรยี น  ใชส้ ือ่ หรอื แหล่งเรยี นรทู้ ่ที ันสมัยและส่งเสริมการเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ  สอดคล้องตามจดุ เน้นของกระทรวงศกึ ษาธิการ สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรยี น  ส่งเสรมิ ทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls  สง่ เสรมิ เบญจวิถีกาญจนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. (นางสาวกมลพรรณ ช่องสมบัติ) ครพู ่ีเลี้ยง การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้  สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวชีว้ ัดของหลกั สตู รฯ  กจิ กรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ  มกี ารวัดและประเมนิ ผลตามสภาพจริง มีความหลากหลายเหมาะสมกบั ผู้เรยี น  ใชส้ ื่อหรอื แหล่งเรยี นรทู้ ที่ นั สมยั และสง่ เสริมการเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ  สอดคลอ้ งตามจดุ เน้นของกระทรวงศกึ ษาธิการ สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรยี น  สง่ เสรมิ ทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls  ส่งเสริมเบญจวถิ ีกาญจนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. (นายเชาวลติ วมิ ล) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ  ถูกตอ้ งตามรปู แบบของโรงเรยี น  ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ  กอ่ นใชส้ อน  หลังใช้สอน  มบี นั ทกึ หลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .............................................................. (นายธนพนั ธ์ เพ็งสวัสด์ิ) หวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .................................................................... (นางสาวชนดิ าภา เวชกุล) รองผู้อานวยการโรงเรียน กลุ่มบริหารงานวชิ าการ ความคดิ เหน็ ของผอู้ านวยการโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงชอ่ื .................................................................... (นางพรทิพย์ นุกูลกจิ ) ผอู้ านวยการโรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลัย สุราษฎรธ์ านี

แบบประเมนิ ใบกจิ กรรมด้านความรู้ (K) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 32 คาชแี้ จง : ให้ผสู้ อนทาเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องคะแนนท่นี กั เรยี นพึงได้รับ ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา ลาดบั ชอ่ื - สกลุ แบบฝกึ หดั ที่ 3 รวม ระดบั แบบฝกึ หดั ที่ 2 กฎหมาย การคุ้มครอง แบบฝกึ หดั 5 ปรศิ นา ท่ี ของผรู้ บั การประเมนิ คมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล สวสั ดภิ าพเดก็ ลากเสน้ จบั คู่ 12 คะแนน คณุ ภาพ และสงเคราะห์ 543210 2 1 0 654321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23

ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา ลาดบั ช่อื - สกลุ แบบฝกึ หดั ท่ี 3 รวม ระดบั แบบฝกึ หดั ท่ี 2 กฎหมาย การคุ้มครอง แบบฝกึ หดั 5 ปรศิ นา ท่ี ของผรู้ บั การประเมนิ คมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล สวสั ดภิ าพเดก็ ลากเสน้ จบั คู่ 12 คะแนน คณุ ภาพ และสงเคราะห์ 543210 2 1 0 654321 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 เกณฑ์การประเมินดา้ นความรู้ (K) ดงั นี้ ได้คะแนนข้อละ 1 ถ้านกั เรยี นตอบไดถ้ ูกต้อง ได้คะแนนข้อละ 0 ถ้านกั เรียนตอบไม่ถกู ต้อง หมายถงึ ดี ผลการประเมนิ หมายถงึ พอใช้ 10 – 12 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ 7 – 9 คะแนน ต่ากว่า 7 คะแนน ลงชื่อ........................................................... (นางสาว ณฐั ธดิ า เขียวทองจันทร์) นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู วนั ท่ี.........เดือน......................พ.ศ. .............

แบบประเมินใบกจิ กรรมดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 32 คาชแี้ จง : ใหผ้ สู้ อนทาเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งคะแนนท่ีนกั เรียนพึงไดร้ บั ลาดบั ชอ่ื - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา รวม ระดบั ท่ี ของผรู้ บั การประเมนิ แบบฝกึ หดั ที่ 4 เดก็ เอย่ เดก็ ดี 9 คะแนน คณุ ภาพ 9876543210 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

ลาดบั ช่ือ - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา รวม ระดบั ที่ ของผรู้ บั การประเมนิ แบบฝกึ หดั ท่ี 4 เดก็ เอย่ เดก็ ดี 9 คะแนน คณุ ภาพ 9876543210 27 28 29 30 31 32 33 34 35 เกณฑ์การประเมินดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ดงั น้ี ถ้านักเรยี นตอบได้ถกู ตอ้ ง ไดค้ ะแนนขอ้ ละ 1 ถ้านักเรียนตอบไมถ่ กู ต้อง ไดค้ ะแนนข้อละ 0 ผลการประเมนิ 8 – 9 คะแนน หมายถงึ ดี 5 – 7 คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ากวา่ 5 คะแนน หมายถงึ ควรปรบั ปรุง ลงชื่อ........................................................... (นางสาว ณฐั ธิดา เขยี วทองจันทร์) นักศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู วนั ท.่ี ........เดือน......................พ.ศ. .............

แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคก์ จิ กรรมการเรยี นรู้ (A) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 32 คาชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนทาเคร่อื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งคะแนนที่นกั เรยี นพงึ ได้รับ รายการประเมนิ ลาดบั ชื่อ – สกลุ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั รวม ระดบั ที่ ในการทางาน คณุ ภาพ 321032103210 9 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23

รายการประเมนิ ลาดบั ชอื่ – สกลุ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั รวม ระดบั ที่ ในการทางาน คณุ ภาพ 321032103210 9 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 ลงชอ่ื ........................................................... (นางสาว ณัฐธดิ า เขียวทองจันทร์) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู วนั ที่.........เดอื น......................พ.ศ. .............

เกณฑก์ ารประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 1. มีวินัย ดมี าก (3) ดี (2) พอใช้ (1) ปรบั ปรงุ (0) 2. ใฝ่เรยี นรู้ - ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ิตนตาม ข้อตกลง ปฏิบัตติ นตาม ข้อตกลง ไม่ปฏบิ ตั ติ นตาม ขอ้ ตกลง 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบงั คับ กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบังคับ กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบังคบั กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของโรงเรียน และ ไม่ละเมิด ของโรงเรยี น ตรงต่อเวลาใน ของโรงเรยี น ตรงต่อเวลาใน ของโรงเรียน และในการ สิทธิของผูอ้ ื่น การปฏบิ ัติกิจกรรมและ การปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัติกจิ กรรม - ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติ รับผิดชอบในการทางาน กิจกรรมและรบั ผิดชอบใน การทางาน เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน เขา้ เรียนตรงเวลา ต้ังใจเรยี น เขา้ เรียนตรงเวลา ตัง้ ใจเรยี น ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ศกึ ษา เอาใจใสใ่ นการเรียน และมี เอาใจใสใ่ นการเรียนและมี เอาใจใสใ่ นการเรยี นและมี ค้นควา้ หา ความรู้ ส่วนร่วมในการเรยี นรู้ และ สว่ นรว่ มในการเรยี นรู้ และ สว่ นร่วมในการเรยี นรู้ และ เขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตา่ งๆ ท้ังภายในและ ต่าง ๆ เปน็ บ่อยครัง้ ตา่ ง ๆ เป็นบางคร้งั ภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจา ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบใน ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบใน ไมต่ ง้ั ใจปฏบิ ตั หิ นา้ ทก่ี าร ปฏิบตั หิ น้าทที่ ไ่ี ด้รบั การปฏบิ ัติหนา้ ที่ทไี่ ดร้ ับ การปฏบิ ัติหน้าทที่ ไ่ี ดร้ บั งาน มอบหมายใหส้ าเรจ็ มกี าร มอบหมายให้สาเรจ็ มกี าร มอบหมายใหส้ าเรจ็ ปรบั ปรุงและพฒั นาการ ปรบั ปรุงและพฒั นาการ ทางานใหด้ ขี ึน้ ภายในเวลาที่ ทางานให้ดีขนึ้ กาหนด เกณฑก์ ารประเมินด้านคุณลักษณะอังพงึ ประสงค์ 4 ระดับ ดังนี้ ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ไดค้ ะแนน 3 ไดค้ ะแนน 2 ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ไดค้ ะแนน 1 ได้คะแนน 0 ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ระดับคณุ ภาพ 0 หมายถงึ ไม่ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรม ผลการประเมิน 8 – 9 คะแนน หมายถึง ดี 5 – 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ต่ำกว่า 5 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 33 รายวิชาสังคมศกึ ษา 1 รหัสวชิ า ส21101 ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 กฎหมายคมุ้ ครองสิทธขิ องบคุ คล เวลา 8 ชว่ั โมง เรือ่ ง กฎหมายการศกึ ษา เวลา 2 ชวั่ โมง ผสู้ อนนางสาวณฐั ธดิ า เขียวทองจนั ทร์ โรงเรยี นกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สรุ าษฎรธ์ านี แนวคิดสาคญั (สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด) กฎหมายการศึกษา มีหลักการสาคัญเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคณุ ธรรม มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (หรอื ผลการเรียนร)ู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.1 รู้ เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงาม และธารงรกั ษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ติ อยรู่ ่วมกันในสงั คมไทย และ สงั คมโลกอยา่ งสนั ติสขุ ตัวชี้วดั (หรอื ผลการเรียนร)ู้ ส 2.1 ม.1/1 ปฏบิ ัตติ ามกฎหมายในการคุ้มครองสิทธขิ องบุคคล จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1.1 อธิบายความมุ่งหมายและหลักการของกฎหมายการศกึ ษาได้ 1.2 อธบิ ายระบบการศึกษาและแนวการจัดการศึกษาได้ 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process) 2.1 เขยี นสทิ ธิและหน้าท่ที างการศึกษาได้ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attribute) 3.1 นักเรยี นมีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มคี วามมุง่ มนั่ และมีความรับผดิ ชอบในการทางาน สาระการเรียนรู้ กฎหมายในการค้มุ ครองสิทธขิ องบุคคล เช่น กฎหมายการศกึ ษา และประโยชน์ของการปฏิบัติตนตาม กฎหมายคุ้มครองสทิ ธขิ องบคุ คล ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  5. อยู่อย่างพอเพยี ง  2. ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ  6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

 3. มีวินยั  7. รกั ความเป็นไทย  4. ใฝเ่ รยี นรู้  8. มีจิตสาธารณะ เบญจวถิ กี าญจนา  1. เทิดทนู สถาบัน  2. กตัญญู  3. บคุ ลิกดี  4. มวี นิ ัย  5. ใหเ้ กยี รติ สมรรถนะทส่ี าคญั ของผเู้ รยี น  1. ความสามารถในการสือ่ สาร  2. ความสามารถในการคิด  3. ความสามารถในการแก้ปัญหา  4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ  5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาผเู้ รยี น ความสามารถและทกั ษะทจี่ าเปน็ ในการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)  R1 - Reading (อ่านออก)  R2 - (W)Riting (เขยี นได้)  R3 - (A)Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )  C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและ ทักษะในการแกป้ ัญหา)  C2 - Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม)  C3 - Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวนทัศน์)  C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผูน้ า)  C5 - Communications, Information and Media Literacy (ทักษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรูเ้ ทา่ ทนั สอ่ื )  C6 - Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและ การสือ่ สาร)  C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้)  C8 - Compassion (ความมเี มตตากรุณา วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม)  L1 - Learning (ทักษะการเรยี นร้)ู  L2 - Leadership (ทักษะความเป็นผู้นา)

ชนิ้ งาน / ภาระงาน เล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่พลเมือง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 กฎหมายคุม้ ครองสทิ ธิของบุคคล การวดั และประเมินผล เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การวดั ผลและประเมินผลการเรยี นรู้ในคาบน้ี มดี ังนี้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) จดุ ประสงคก์ ารเรียนรทู้ ต่ี อ้ งการวดั และประเมนิ ผล 1. อธิบายความมุ่งหมายและหลักการของกฎหมายการศึกษาได้ 2. อธิบายระบบการศึกษาและแนวการจัดการศึกษาได้ การวดั ผล วิธีการวัดผล : พิจารณาความถูกต้องของคาตอบของนักเรียนในเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าท่ี พลเมือง ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 กฎหมายคมุ้ ครองสิทธิของบคุ คล เครื่องมอื วดั ผล : แบบฝึกหัดที่ 6 การศึกษาและระบบการศึกษา การประเมนิ ผล เกณฑ์การให้คะแนน : ในแต่ละข้อคาถามจากเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่พลเมือง ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 กฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล แบบฝึกหัดที่ 6 การศึกษาและระบบ การศกึ ษาถา้ นกั เรียนตอบคาถามได้ถูกต้อง จะไดข้ อ้ ละ 1 คะแนน แตถ่ า้ นกั เรียนตอบไมถ่ กู ต้องจะไดข้ ้อละ 0 คะแนน เกณฑ์การประเมิน : แบบฝึกหัดที่ 6 การศึกษาและระบบการศึกษา จับคู่ ถ้านักเรียน (คนใด) ได้คะแนน 4 คะแนน จากคะแนนเต็ม 7 คะแนน ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (Process) จดุ ประสงค์การเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการวดั และประเมนิ ผล 1. เขยี นสิทธแิ ละหนา้ ท่ีทางการศึกษาได้ การวดั ผล วิธีการวัดผล : พิจารณาความถูกต้องของคาตอบของนักเรียนในเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่ พลเมอื ง ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 กฎหมายค้มุ ครองสิทธิของบคุ คล เครอ่ื งมอื วัดผล : แบบฝึกหดั ท่ี 7 บทบาทหน้าที่ทางการศึกษา การประเมนิ ผล เกณฑ์การให้คะแนน : ในแต่ละข้อคาถามจากเล่มแบบฝึกหัด รายวิชาสังคมศึกษา 1 หน้าที่พลเมือง ระดับช้ัน มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 กฎหมายคุม้ ครองสิทธขิ องบคุ คล แบบฝกึ หดั ที่ 7 บทบาทหน้าท่ที างการศึกษา ถ้านักเรียนตอบคาถามไดถ้ กู ต้อง จะได้ข้อละ 1 คะแนน แตถ่ า้ นกั เรียนตอบไมถ่ กู ตอ้ ง จะไดข้ ้อละ 0 คะแนน

ด้านทกั ษะกระบวนการ (Process) เกณฑ์การประเมนิ : แบบฝกึ หดั ที่ 7 บทบาทหนา้ ทท่ี างการศกึ ษา (คนใด) ได้คะแนน 3 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attribute) จดุ ประสงค์การเรยี นรทู้ ต่ี อ้ งการวดั และประเมนิ ผล 1. นกั เรียนมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ มคี วามม่งุ มนั่ และมีความรับผิดชอบในการทางาน การวดั ผล วิธีการวัดผล : พิจารณาจากพฤติกรรมหรือความเหมาะสมในการแสดงออกของนักเรียน ขณะลงมือปฏิบัติการ จัดการเรียนการสอนเป็นรายบุคคลและอภิปรายแสดงเหตุผลในการทาใบกิจกรรมการเรียนรู้ โดยครูผู้สอนเป็นคน สงั เกต เครื่องมือวดั ผล : แบบประเมนิ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคก์ จิ กรรมการเรียนรู้ การประเมนิ ผล เกณฑ์การให้คะแนน : พิจารณาเปน็ รายบุคคล เกณฑ์การประเมิน : ถ้านักเรยี น (คนใด) ได้คะแนน 5 คะแนน จากคะแนนเตม็ 9 คะแนน ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ การประเมนิ กิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้แบบร่วมมอื : เทคนิคค่คู ดิ ส่สี หาย ชว่ั โมงท่ี 1 ขน้ั ที่ 1 ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ( 10 นาท)ี 1.1 ครกู ล่าวทักทายนกั เรียน และเตรยี มความพร้อมให้กบั นกั เรียน 1.2 ครแู ละนักเรียนร่วมกันสนทนาเพื่อนาเขา้ สบู่ ทเรียนกฎหมายการศึกษา โดยครูใหน้ ักเรียนอ่านบท กลอนสุภาษติ ท่เี ก่ียวกับการปลูกฝังให้เด็ก ๆ ศกึ ษาเลา่ เรยี น โดยครใู หน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นว่า บทกลอน ดังกล่าว มีจุดมุ่งหมายสาคัญอย่างไร และนักเรียนได้ปฏิบัติตาม บทกลอนนี้อย่างไรบ้าง และครูอธิบาย เชือ่ มโยงความรู้ให้นกั เรยี นเหน็ ความสาคัญของการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกบั กฎหมายการศกึ ษา ข้นั ท่ี 2 ขั้นดาเนินการสอน (40 นาท)ี 2.1 ครอู ธิบายเช่อื มโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า การศกึ ษาเป็นหัวใจสาคญั ของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ ประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งปัจจุบันมีกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา คือ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (แกไ้ ขเพิม่ เติม ฉบบั ท่ี 2 พ.ศ. 2545) ซงึ่ มสี าระสาคญั ของกฎหมายการศึกษาในหวั ข้อ ดงั น้ี

1) ความม่งุ หมายและหลักการ 2) สิทธิและหนา้ ทที่ างการศึกษา 3) ระบบการศกึ ษา 4) แนวการจัดการศึกษา โดยการใชส้ ือ่ Power Point ประกอบการบรรยาย 2.2 ครใู หน้ กั เรียบจับคู่ 2 คนร่วมกันศึกษาความร้เู ร่ือง กฎหมายการศึกษา จากหนงั สอื เรียน ควบคูก่ บั สอ่ื Power Point 2.3 ใหแ้ ต่ละคู่ชว่ ยกนั ทาเลม่ แบบฝกึ หัด รายวชิ าสังคมศึกษา 1 หนา้ ท่ีพลเมอื ง ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปี ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 กฎหมายคุ้มครองสิทธิของบุคคล ในแบบฝึกหัดที่ 6 การศึกษาและระบบการศึกษา และแบบฝกึ หดั ท่ี 7 บทบาทหนา้ ทีท่ างการศึกษา 2.4 นักเรยี น 2 คู่ มารวมกันเปน็ กลุ่ม แล้วผลดั กันตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาตอบ 2.5 ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคาตอบในแบบฝึกหัดที่ 6 การศึกษาและระบบการศึกษา และ แบบฝึกหัดที่ 7 บทบาทหน้าทท่ี างการศึกษา และสมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มตรวจแบบฝึกหดั ความซอื่ สัตย์ ชวั่ โมงท่ี 2 กิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้กระบวนการจดั กจิ กรรมการจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) ขั้นท่ี 3 ขน้ั สรปุ (50 นาที) 3.1 ครูสรุปสาระสาคัญเกี่ยวกับกฎหมายการศึกษาให้นักเรียนฟังอีกหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นทบทวน ความรู้ โดยครูมีการใช้ประเด็นคาถามในการกระตุ้นนักเรียน ประเด็นที่ 1 “รัฐควรจัดให้มีการจัดการศึกษา อยา่ งมคี ุณภาพตามหลักการศึกษาขั้นพน้ื ฐานอย่างไร” (แนวคาตอบ : จะตอ้ งจดั การศึกษาข้ันพ้ืนฐานให้บุคคล ทั่วไปอย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพ โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ) ประเด็นท่ี 2 “รัฐต้องจัดการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน เป็นพิเศษ สาหรบั บคุ คลประเภทใดบา้ ง” (แนวคาตอบ : บคุ คลทมี่ ีความบกพร่องในด้านตา่ ง ๆ เช่น ผู้พิการ ผู้ ยากไร้ ผดู้ อ้ ยโอกาส เป็นตน้ ) และประเดน็ ท่ี 4 “ถ้าประชาชนชาวไทยทกุ คนไดร้ บั การศึกษาขั้นต้นในระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนปลายจะส่งผลดีต่อประเทศชาติอย่างไร” (แนวคาตอบ : สามารถนาความรู้ที่ได้รับไปเป็น พื้นฐานต่อการประกอบอาชีพ มีรายได้ สง่ ผลต่อการพฒั นาประเทศหลายด้าน) โดยใหน้ กั เรียนภายในหอ้ งเรยี น ช่วยกันแสดงความคิดเหน็ 3.2 ครูส่มุ นักเรียน โดยวิธกี ารสุม่ เลขทีจ่ ากวงลอ้ เสยี่ งทาย จานวน 5 คน เพอ่ื อธิปรายเกีย่ วกับรูปแบบ ของการจัดการศึกษาของประเทศไทย พร้อมทั้งอธิบายระบบการศึกษาที่นักเรียนกาลังศึกษาอยู่ว่ามีลักษณะ อย่างไร และตวั นกั เรียนเองไดร้ ับประโยชน์หรอื สิทธอิ ย่างไรจากระบบการศึกษา 3.3 ครูสรุปให้นักเรียนเข้าใจว่า “กฎหมายการศึกษา” เป็นกฎเกณฑ์ที่รัฐหรือผู้มีอานาจกาหนดข้ึน เป็นกฎข้อบังคับการปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารและจัดการศึกษา โดยมีรูปแบบทั้งที่เป็นพระราชบัญญัติ

พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวงรวมท้ังข้อบงั คับ ระเบยี บ คาสั่ง ทีใ่ ช้บงั คบั ในการดาเนินงานทางการศึกษา และ มีลักษณะเป็นกฎหมายมหาชนในสาขากฎหมายปกครอง เนื่องจากกฎหมายการศึกษาส่วนใหญ่มลี ักษณะเปน็ ความสัมพันธ์ระหว่างรฐั กับเอกชน และระหว่างองค์กรของรัฐด้วยกัน เช่น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ พระราชบญั ญัติระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. ๒๕๕๖ พระราชบญั ญตั สิ ภาครู และบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ กฎกระทรวงกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็ก เพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ และ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการประเมินเทียบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษา ระดบั อดุ มศกึ ษาต่ากว่าปริญญา พ.ศ. ๒๕๔๖ เป็นต้น ดังนน้ั กฎหมายการศึกษามีความสาคัญเปน็ อย่างมาก เพราะทาให้ประชาชนของประเทศเกิดสิทธิและ หน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา ทาให้สามารถปฏิบัติตนตามสิทธิ และหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมด้วยบทบาทดังกล่าว กฎหมายและกฎหมายการศึกษาจึงมีความสาคัญในฐานะเปน็ เครื่องมือ ดาเนินงานเกี่ยวกับการศึกษาของชาติ หากขาดกฎหมายแลว้ อาจทาใหก้ ารจดั การศึกษาไมบ่ รรลวุ ัตถปุ ระสงค์และเปา้ หมายได้ 3.4 ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามในประเดน็ ทส่ี งสยั สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ สือ่ 1) สอื่ Power point เรือ่ ง กฎหมายนา่ รู้ 2) บทกลอนสภุ าษติ แหล่งการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรมและ การดาเนินชีวติ ในสังคม เศรษฐศาสตร์ และภมู ิศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ของอกั ษรเจรญิ ทศั น์ (อจท.) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ - https://www.youtube.com/watch?v=XSdu9ildEdU

สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้ ด้านความรู้ กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน จานวน (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ดี 6 – 7 ปานกลาง 4–5 ปรับปรงุ ต่ากวา่ 4 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งคะแนน จานวน (คน) คิดเปน็ รอ้ ยละ ดี 4 – 5 ปานกลาง 3 ปรับปรุง ตำ่ กว่า 3 ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ กลมุ่ ผเู้ รยี น ชว่ งระดบั คณุ ภาพ จานวน (คน) คดิ เปน็ รอ้ ยละ ดี 8 – 9 ปานกลาง 5–7 ปรับปรุง ตา่ กวา่ 5 บนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ปัญหาที่พบระหวา่ งหรอื หลังจดั กจิ กรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….......................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………..................... ……………………………………………………………………………………………………………………………................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………..………………………….. ลงชอื่ ..........................................................ผสู้ อน (นางสาวณัฐธดิ า เขยี วทองจนั ทร์) ............/................/.............

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้  สอดคล้องกับมาตรฐานและตวั ช้ีวดั ของหลักสตู รฯ  กจิ กรรมการเรียนรูเ้ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั  มีการวดั และประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผูเ้ รยี น  ใชส้ ือ่ หรอื แหล่งเรยี นรทู้ ่ที ันสมัยและส่งเสริมการเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ  สอดคล้องตามจดุ เน้นของกระทรวงศกึ ษาธิการ สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรยี น  ส่งเสรมิ ทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls  สง่ เสรมิ เบญจวถิ ีกาญจนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. (นางสาวกมลพรรณ ช่องสมบัติ) ครพู ีเ่ ลี้ยง การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้  สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวชีว้ ัดของหลกั สตู รฯ  กจิ กรรมการเรียนรเู้ น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ  มกี ารวัดและประเมนิ ผลตามสภาพจริง มคี วามหลากหลายเหมาะสมกบั ผู้เรยี น  ใชส้ ื่อหรอื แหล่งเรยี นรทู้ ที่ นั สมยั และสง่ เสริมการเรยี นรไู้ ดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ  สอดคลอ้ งตามจดุ เน้นของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร สพฐ. และจุดเนน้ ของโรงเรยี น  สง่ เสรมิ ทกั ษะ 3Rs x 8Cs x 2Ls  ส่งเสริมเบญจวถิ ีกาญจนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. (นายเชาวลติ วมิ ล) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

การตรวจสอบและความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ  ถูกตอ้ งตามรปู แบบของโรงเรยี น  ผ่านการนเิ ทศตรวจสอบจากหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้/กรรมการนิเทศ  กอ่ นใชส้ อน  หลังใช้สอน  มบี นั ทกึ หลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชอ่ื .............................................................. (นายธนพนั ธ์ เพ็งสวัสด์ิ) หวั หนา้ กลมุ่ บริหารวิชาการ ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .................................................................... (นางสาวชนดิ าภา เวชกุล) รองผู้อานวยการโรงเรียน กลุ่มบริหารงานวชิ าการ ความคดิ เหน็ ของผอู้ านวยการโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงชอ่ื .................................................................... (นางพรทิพย์ นุกูลกจิ ) ผอู้ านวยการโรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลัย สุราษฎรธ์ านี

แบบประเมนิ ใบกจิ กรรมดา้ นความรู้ (K) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 33 คาชแี้ จง : ให้ผูส้ อนทาเครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งคะแนนที่นกั เรียนพึงได้รบั ลาดบั ช่ือ - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา รวม ระดบั ที่ ของผรู้ บั การประเมนิ 7 คะแนน คณุ ภาพ แบบฝกึ หดั ที่ 6 การศกึ ษาและระบบการศกึ ษา 1 76543210 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

ลาดบั ช่อื - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา รวม ระดบั ที่ ของผรู้ บั การประเมนิ 7 คะแนน คณุ ภาพ แบบฝกึ หดั ท่ี 6 การศกึ ษาและระบบการศกึ ษา 27 76543210 28 29 30 31 32 33 34 35 เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นความรู้ (K) ดงั นี้ ได้คะแนนข้อละ 1 ถ้านักเรียนตอบได้ถกู ต้อง ได้คะแนนข้อละ 0 ถา้ นกั เรียนตอบไมถ่ ูกตอ้ ง หมายถึง ดี ผลการประเมิน หมายถึง พอใช้ 6 – 7 คะแนน หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ 4 – 5 คะแนน ตา่ กวา่ 4 คะแนน ลงชอ่ื ........................................................... (นางสาว ณฐั ธดิ า เขยี วทองจันทร์) นกั ศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู วันท.่ี ........เดอื น......................พ.ศ. .............

แบบประเมนิ ใบกจิ กรรมดา้ นทักษะกระบวนการ (P) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 33 คาชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนทาเครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งคะแนนทนี่ กั เรยี นพึงไดร้ บั ลาดบั ชือ่ - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา รวม ระดบั ท่ี ของผรู้ บั การประเมนิ 5 คะแนน คณุ ภาพ แบบฝกึ หดั ที่ 7 บทบาทหนา้ ทที่ างการศกึ ษา 1 543210 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

ลาดบั ชอ่ื - สกลุ ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา รวม ระดบั ที่ ของผรู้ บั การประเมนิ 5 คะแนน คณุ ภาพ แบบฝกึ หดั ที่ 7 บทบาทหนา้ ทท่ี างการศกึ ษา 27 543210 28 29 30 31 32 33 34 35 เกณฑ์การประเมินดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ดังนี้ ถ้านกั เรยี นตอบไดถ้ ูกตอ้ ง ได้คะแนนขอ้ ละ 1 ถา้ นักเรียนตอบไมถ่ ูกตอ้ ง ได้คะแนนขอ้ ละ 0 ผลการประเมิน 4 – 5 คะแนน หมายถึง ดี 3 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ต่ากวา่ 3 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ ลงชื่อ........................................................... (นางสาว ณัฐธดิ า เขยี วทองจันทร์) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู วนั ท.ี่ ........เดือน......................พ.ศ. .............

แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคก์ จิ กรรมการเรยี นรู้ (A) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 กฎหมายคมุ้ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 33 คาชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนทาเคร่อื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งคะแนนที่นกั เรยี นพงึ ได้รับ รายการประเมนิ ลาดบั ชื่อ – สกลุ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั รวม ระดบั ที่ ในการทางาน คณุ ภาพ 321032103210 9 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23

รายการประเมนิ ลาดบั ชอื่ – สกลุ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มน่ั รวม ระดบั ที่ ในการทางาน คณุ ภาพ 321032103210 9 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 ลงชอ่ื ........................................................... (นางสาว ณัฐธดิ า เขียวทองจันทร์) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู วนั ที่.........เดอื น......................พ.ศ. .............

เกณฑก์ ารประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 1. มีวินัย ดมี าก (3) ดี (2) พอใช้ (1) ปรบั ปรงุ (0) 2. ใฝ่เรยี นรู้ - ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลง ปฏบิ ตั ิตนตาม ข้อตกลง ปฏิบัตติ นตาม ข้อตกลง ไม่ปฏิบัติตนตาม ขอ้ ตกลง 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบงั คับ กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบังคับ กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบังคบั กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของโรงเรียน และ ไม่ละเมิด ของโรงเรยี น ตรงต่อเวลาใน ของโรงเรยี น ตรงต่อเวลาใน ของโรงเรียน และในการ สิทธิของผูอ้ น่ื การปฏบิ ัติกิจกรรมและ การปฏิบัติกจิ กรรม ปฏิบัตกิ จิ กรรม - ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติ รับผิดชอบในการทางาน กิจกรรมและรบั ผิดชอบใน การทางาน เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน เขา้ เรียนตรงเวลา ต้ังใจเรยี น เขา้ เรียนตรงเวลา ตัง้ ใจเรยี น ไมต่ ั้งใจเรยี น ไม่ศกึ ษา เอาใจใสใ่ นการเรียน และมี เอาใจใสใ่ นการเรียนและมี เอาใจใสใ่ นการเรยี นและมี ค้นควา้ หา ความรู้ ส่วนร่วมในการเรยี นรู้ และ สว่ นรว่ มในการเรยี นรู้ และ สว่ นร่วมในการเรยี นรู้ และ เขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตา่ งๆ ท้ังภายในและ ต่าง ๆ เปน็ บ่อยครัง้ ตา่ ง ๆ เป็นบางคร้งั ภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจา ตั้งใจและรับผิดชอบในการ ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบใน ตั้งใจและรบั ผิดชอบใน ไม่ต้ังใจปฏิบัติหนา้ ทก่ี าร ปฏิบตั หิ น้าทที่ ไ่ี ด้รบั การปฏบิ ัติหนา้ ที่ทไี่ ดร้ ับ การปฏบิ ัติหน้าทที่ ไ่ี ดร้ บั งาน มอบหมายให้สาเรจ็ มกี าร มอบหมายให้สาเรจ็ มกี าร มอบหมายใหส้ าเรจ็ ปรบั ปรุงและพฒั นาการ ปรบั ปรุงและพฒั นาการ ทางานใหด้ ขี ึน้ ภายในเวลาที่ ทางานให้ดีขึ้น กาหนด เกณฑก์ ารประเมินด้านคุณลักษณะองั พงึ ประสงค์ 4 ระดับ ดังนี้ ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถึง ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ไดค้ ะแนน 3 ไดค้ ะแนน 2 ระดับคุณภาพ 2 หมายถึง ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั ได้คะแนน 1 ได้คะแนน 0 ระดับคุณภาพ 1 หมายถึง ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ระดับคณุ ภาพ 0 หมายถงึ ไม่ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรม ผลการประเมิน 8 – 9 คะแนน หมายถึง ดี 5 – 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ต่ำกว่า 5 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ

สอ่ื การเรยี นรู้ บทกลอนสภุ าษติ บทกลอนสุภาษติ เกยี่ วกบั การศกึ ษา

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 34 รายวชิ าสังคมศึกษา 1 รหัสวชิ า ส21101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 กฎหมายค้มุ ครองสทิ ธขิ องบุคคล เวลา 8 ชั่วโมง เร่อื ง กฎหมายคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค เวลา 2 ช่วั โมง ผูส้ อนนางสาวณฐั ธดิ า เขียวทองจนั ทร์ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั สุราษฎรธ์ านี แนวคดิ สาคญั (สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด) กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค มีความสาคัญต่อสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนทุกคนในด้านการใช้ สนิ ค้าและบริการดว้ ยความเป็นธรรม มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (หรอื ผลการเรยี นร)ู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 รู้ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงาม และธารงรกั ษาประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดารงชวี ิตอยู่ร่วมกนั ในสังคมไทย และ สงั คมโลกอย่างสันตสิ ขุ ตวั ชี้วดั (หรือผลการเรยี นรู้) ส 2.1 ม.1/1 ปฏิบัติตามกฎหมายในการคุ้มครองสทิ ธิของบคุ คล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1.1 อธิบายความหมายของผู้บรโิ ภคได้ 1.2 บอกชื่อตราสัญลักษณ์ สินค้าท่ีรับรองและหน่วยงานท่รี ับผดิ ชอบของฉลากสินคา้ ได้ 2. ด้านทักษะกระบวนการ (Process) 2.1 เขยี นสทิ ธิผบู้ รโิ ภคได้ 2.2 วเิ คราะห์อานาจหนา้ ทข่ี องคณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ ริโภคได้ 3. ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attribute) 3.1 นกั เรยี นมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มคี วามมุ่งม่ันและมีความรับผิดชอบในการทางาน สาระการเรยี นรู้ กฎหมายในการคุ้มครองสทิ ธขิ องบุคคล เช่นกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค และประโยชน์ของการปฏิบัติ ตนตามกฎหมายค้มุ ครองสทิ ธขิ องบคุ คล ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์  5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง