Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทเรียนโมดูลที่1 หน่วย การฟังคำสั่งและข้อแนะนำการปฏิบัติงาน

บทเรียนโมดูลที่1 หน่วย การฟังคำสั่งและข้อแนะนำการปฏิบัติงาน

Published by Ddfhhj Dfbnn, 2021-02-20 02:32:02

Description: บทเรียนโมดูลที่1 หน่วย การฟังคำสั่งและข้อแนะนำการปฏิบัติงาน

Search

Read the Text Version

การฟงั คาสง่ั หรอื ขอ้ แนะนาการปฏบิ ตั งิ าน วชิ า ภาษาไทย ผจู้ ดั ทา นางสาวณัชจริ า บตั ทมิ

ก คำนำ บทเรียนโมดูล เร่ือง การฟังคาสั่งหรือข้อแนะนาการปฏิบัติงาน ฉบับน้ี ข้าพเจ้าเรียบ เรียงข้ึนเพ่ือใช้ในการเรียนการสอน แผนกสามัญสัมพันธ์ เพื่อให้นักเรียนเข้าใจง่ายข้ึนและ สามารถศึกษาด้วยตนเองได้ เพอ่ื ให้มคี วามร้คู วามเขา้ ใจพน้ื ฐานของการฟงั คาสงั่ และข้อแนะนา การปฏบิ ตั ิงาน โมดูลการสอนมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพ วิชา ภาษาไทยเพื่ออาชีพ ฉบับนี้ ผู้จัดทาได้ จัดการเรียนการสอน ตามรายละเอียดเนื้อหาวิชา ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2545 (ปรับปรุงครั้งท่ี 1 พ.ศ. 2546) โมดูลการสอนเป็นแนวทางในการจัด กจิ กรรมการเรียนการสอน โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ผู้สอนเป็นผู้จัดการหรือเป็นผู้อานวย ความสะดวกในกระบวนการจัดการเรียนรู้ผู้สอนต้องเตรียม ทุกอย่างให้พร้อม โดยเฉพาะ อย่างย่ิง เอกสารท่ีใช้ในการศึกษาค้นคว้า ส่ือการเรียนการสอน การวัดผลและประเมินผล ดังน้ัน โมดูลการสอนฉบับนี้ จึงเป็นโมดูลการสอนที่ครบกระบวนการเรียนการสอน หน่วยท่ี 1-9 พร้อมเฉลยแบบทดสอบ เพื่ออานวยความสะดวกแก่ครูผู้สอน เพื่อสะดวกในการ นาไปใช้อย่างสรา้ งสรรค์และสวยงาม ผู้สอนสามารถนาไปประยุกตไ์ ดต้ ามความเหมาะสม ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างย่ิงว่าโมดูลการสอนฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างย่ิงต่อครูผู้สอน ซง่ึ สามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ หเ้ หมาะสมตอ่ ไป ณชั จิรา บตั ทิม ผ้จู ดั ทา

ข สารบัญ รายการตรวจสอบและอนญุ าตใหใ้ ช้แผนการจัดการเรียนรู้ หนา้ คานา ก สารบญั ข คาชแ้ี จงในการใช้มอดูลสาหรบั นักเรียน 1 คาแนะนาในการใชบ้ ทเรียนโมดลู 1 ข้ันตอนการใชบ้ ทเรยี นโมดูล 2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 3 แบบทดสอบก่อนเรียน 4 ใบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 5 เนื้อหา 6-10 กิจกรรม(ย่อย)ระหว่างเนื้อหา 11 แบบทดสอบหลงั เรยี น 12 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 13

คำชแ้ี จงในกำรใชม้ อดลู สำหรับนกั เรียน 1 องคป์ ระกอบของบทเรยี นโมดลู (Learning Module) บทเรียนโมดูล มี 1 ชุด ประกอบดว้ ย จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. คาแนะนาในการใช้บทเรียนโมดูล 2. วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 3. แบบทดสอบก่อนเรยี น 4. ใบเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5. ใบเน้อื หา 6. กจิ กรรม(ยอ่ ย)ระหวา่ งเนอื้ หา 7. แบบทดสอบหลังเรยี น ( Post – Assessment) 8. ใบเฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน คำแนะนำในกำรใชบ้ ทเรยี นโมดลู 1. นกั เรยี นตอ้ งศกึ ษาบทเรียนโมดูลทุกบทเรยี นตามลาดับ หา้ มขา้ มบทเรยี นใด บทเรยี นหน่งึ 2. ให้นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น โดยทาเฉพาะข้อทีน่ ักเรยี นรแู้ ทจ้ ริง โดยอยา่ เดา คาตอบ ถา้ ขอ้ ใดไม่มคี วามรู้ กข็ ้ามขอ้ นั้นไป โดยทาลงในกระดาษคาตอบทีแ่ จกให้ 3. ดูเฉลยแบบทาสอบกอ่ นเรยี นแล้วประเมินผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียน ซงึ่ เปน็ การวัด พนื้ ฐานความรขู้ องผ้เู รยี น

2 ขน้ั ตอนการใช้บทเรยี นโมดลู 1. ขอใหน้ กั เรยี นปฏิบัตติ ามคาแนะนาและข้ันตอนการใช้อย่างเคร่งครดั 2. นกั เรียนต้องมคี วามซ่ือสัตยต์ อ่ ตนเอง โดยไม่เปดิ ดขู อ้ เฉลยคาตอบก่อนทา แบบทดสอบก่อนเรียน และแบบทดสอบหลงั เรยี น เพราะจะทาให้นกั เรยี นขาดความ มั่นใจ ในการเรียนด้วยตนเอง และไมเ่ กิดความเข้าใจทีแ่ ท้จรงิ 3. บทเรยี นโมดูลนี้ นักเรียนสามารถใชเ้ รยี นไดต้ ามความต้องการ ความพรอ้ มและ ความสะดวกโดยไมจ่ ากัด เวลาเรยี น และสถานท่เี รยี น 4. ขอใหน้ ักเรยี นศกึ ษาวตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 5. ใหน้ กั เรยี นศึกษาเนอื้ หา บทเรยี นจากใบเนอ้ื หาให้เกดิ ความเขา้ ใจตามลาดบั 6. เม่ือศกึ ษาเน้อื หาบทเรียนเข้าใจดแี ลว้ ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนใน บทเรียนน้ันๆ 7. เมือ่ ทาแบบทดสอบแล้วให้ตรวจคาตอบจากใบเฉลยในหนา้ ถดั ไป 8. ถา้ หากผลการประเมินไม่ผา่ นเกณฑ์ นักเรยี นต้องเรียนซอ่ มเสริมทบทวนเนอื้ หาของ บทเรียนน้สี ามารถกลบั ไปศกึ ษาเน้ือหาเดมิ ไดต้ ามต้องการ ความพรอ้ มและความ สะดวกโดยไมจ่ ากัดเวลาและสถานท่เี รยี น 9. นักเรียนทผี่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ บทเรยี นโมดลู ชดุ ท่ี 1 แล้วใหเ้ รยี นบทเรยี นโมดลู ในชุดถัดไปและต้องผา่ นเกณฑ์จนครบทุกชดุ ของบทเรียนโมดลู ตอ่ จากนั้นให้นักเรียน มาสอบภาคทฤษฎีกับครูผู้สอนทส่ี ถานศกึ ษาตอ่ ไป

3 จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ด้านความรู้ (k) ๑. ความหมายของการฟังคาส่ัง ๒. ความหมายของข้อแนะนาการปฏบิ ตั งิ าน ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ๑. ฟงั คาส่งั ในการปฏบิ ัติงาน ๒. ฟังขอ้ แนะนาในการปฏิบตั ิงาน ดา้ นคุณลกั ษะณะ (A) ๑. นักเรยี นมีเจตคติทดี่ ตี ่อการเรยี นรูว้ ิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ ๒. นกั เรยี นนกั ศกึ ษามีคณุ ลกั ษะอันพงึ ประสงค์ ได้แก่ความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบ

4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑. การฟังคาสัง่ หรอื ข้อแนะนาการปฏิบัตงิ าน หมายถึง ๒. การฟงั คาสง่ั หรอื ขอ้ แนะนาการปฏิบตั งิ าน มหี ลกั การอะไรบา้ ง ๓. ประเภทของการฟังข้อแนะนาในการปฏบิ ัตงิ าน ได้แกอ่ ะไรบา้ ง

ใบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 5 1. การฟังคาสั่งจากผ้บู ังคับบัญชาหรือผ้ทู ี่มสี ่วนรว่ นในงานนนั้ ๆเพ่อื นาคาสัง่ ท่ไี ดร้ ับไปปฏบิ ัติได้ อย่างถูกต้องและมปี ระสิทธิภาพ 2. ใชค้ วามคิดทาความเขา้ ใจ และจับใจความสาคัญ ๒. ตัง้ ใจ มสี มาธิ เพื่อตดิ ตามคาสั่ง หรือขอ้ แนะนา ๓. จดบันทึกคาสั่ง เพ่ือนาไปปฏบิ ตั ใิ ห้ถกู ต้อง ๔. อาจทวนคาสง่ั เพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเอง ๕. ถ้าไม่เขา้ ใจให้ขอคาแนะนาเพม่ิ เติมจากผู้สั่งให้เข้าใจ 3. 1. การฟังขอแนะนาทบี่ อกวิธีการหรอื ข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน 2. การฟงั ขอ้ แนะนาเพ่อื แนะแนวทางการแกไ้ ข 3. การฟังข้อแนะนาเพ่ือป้องกัน 4. การฟังข้อแนะนาเพื่อเสริมสร้างและพัฒนา

6 เนือ้ หา การฟงั คาสั่งในการปฏบิ ัตงิ าน หมายถึง การฟังคาสั่งจากผ้บู งั คับบัญชาหรือผ้ทู ี่มีส่วนร่วนในงานนัน้ ๆเพอ่ื นาคาสงั่ ท่ไี ด้รบั ไปปฏิบัตไิ ด้อยา่ งถกู ตอ้ งและมีประสิทธภิ าพ ความสาคญั ของการฟังคาสั่งในการปฏิบัตงิ าน 1. ทาให้การปฏิบตั ิงานดาเนนิ ไปอย่างรวดเรว็ 2. ชว่ ยพัฒนาทกั ษะการปฏบิ ตั งิ าน 3. เปน็ การสรา้ งขวัญและกาลงั ใจที่ดีให้แก่ผู้ปฏิบัตงิ าน 4. เปน็ การกระจายการทางานใหก้ ว้างข้นึ 5. เปน็ การสร้างความสามคั คใี หเ้ กดิ ข้นึ ภายในองค์กร 6. เปน็ การสร้างโอกาสใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านแลกเปลย่ี นความรู้ ความคดิ และประสบการณ์รว่ มกัน ประเภทของการฟงั คาสั่งในการปฏบิ ัติงาน 1. การฟังคาสง่ั โดยตรง คอื การฟงั คาสั่งอย่างเร่งดว่ น 2. การฟังคาส่งแบบขอร้อง คอื การรบั มอบหมายงานท่ไี ม่เร่งดว่ น 3. การฟงั คาสง่ั แบบใหข้ ้อแนะนา คอื การฟังคาสัง่ สาหรับผูฟ้ ังที่มคี วามรับผิดชอบผิดสูงและมี หน้าทด่ี ูแลในเรอื่ งน้ันๆอย่แู ล้ว 4. การฟงั คาสงั่ แบบอาสาสมัคร คือการฟงั คาสั่งท่ีให้ความรว่ มมือดี หลกั การฟงั คาส่งั ในการปฏบิ ัตงิ าน 1. มีความพร้อมในการับคาส่งั 2. มีความกระตือรอื รน้ ในการฟงั คาสงั่ 3. ฟงั คาส่ังโดยใชส้ ติและสมาธิ 4. เข้าใจวตั ถปุ ระสงค์ของคาสัง่ 5. ฟงั คาสงั่ โดยปราศจากอคติ

7 อปุ สรรคของการฟงั คาส่ังในการปฏบิ ตั งิ าน 1. อุปสรรคที่เกิดจากผู้ฟงั คาสั่ง ขาดแรงจงู ใจและทัศนคติที่ดีตอ่ การฟงั คาสง่ั ขาดสมาธแิ ละความต้ังใจในการฟังคาสั่ง ขาดทักษะหรือความรเู้ ก่ยี วกับคาสง่ั มคี วามเชื่อหรือค่านิยมท่ีขดั แยง้ กับคาสั่ง ขาดความพร้อมดา้ นร่างกาย 2. อปุ สรรคท่ีเกดิ จากผู้ออกคาสัง่ พูดเสยี งเบา พดู ชา้ หรือพดู เร็วไป ขาดความรแู้ ละความเข้าใจในการออกคาสงั่ การเทคนคิ ในการพดู มีการแสดงกิรยิ าท่าทางทีไ่ ม่เหมาะสม ขาดความชดั เจนในคาสัง่ ไมว่ เิ คราะห์ผู้ฟังกอ่ นออกคาส่ัง 3. อปุ สรรคทีเ่ กิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก สถานทฟี่ งั ไม่เหมาะสม เหตุขัดขอ้ งทางเทคนิคหรือเครอื่ งมืออิเล็กทรอนิกส์ชารดุ มารยาทในการฟงั คาสัง่ ในการปฏบิ ัติงาน 1.ต้งั ใจฟังและรับมอบหมายงานด้วยความเตม็ ใจ 2. จับใจความสาคญั ของคาส่ังใหเ้ ข้าใจ

3. สบตาผู้ออกคาสงั่ 8 4. มีปฏิกริ ิยาตอบสนองต่อคาสัง่ อย่างเหมาะสม 5. ฟงั อยา่ งมสี มาธิ จดจอ่ กับสง่ิ ทีฟ่ ัง 6. ไม่พูดแทรกขณะท่ผี ู้ออกคาส่งั ยงั พูดไมจ่ บ 7. หากปฏิบตั ติ ามคาสัง่ ไมไ่ ด้ ให้ชีแ้ จงดว้ ยเหตผุ ล 8. หากเปน็ การฟงั คาสัง่ จากสือ่ อื่น ควรมีการจดบันทกึ 9. ไม่พะวงกับส่งิ ตา่ งๆรอบตัวขณะรบั ฟังคาสั่ง 10. ไม่พดู ตดั บทหรอื ปฏิเสธทันที การฟงั ขอ้ แนะนาในการปฏบิ ัติงาน หมายถึง การต้งั ใจฟังคาพดู เพอ่ื ชแ้ี จงให้ปฏิบัติ เพื่อให้งานเปน็ ไป ตามระเบียบแบบแผนท่ถี กู ต้อง ความสาคัญของการฟังข้อแนะนาในการปฏิบัติงาน 1. เข้าใจขอบเขตของงานมากขน้ึ 2.สร้างขวัญและกาลังใจใหผ้ ู้ปฏิบตั งิ าน 3. ได้รับรถู้ งึ สถานการณ์และปัญหาขณะปฏิบัติงาน 4. เป็นแรงกระต้นุ ให้ผ้ปู ฏบิ ัติงานปรบั ปรงุ ตนเอง 5. ทาใหร้ ้จู ดุ แข็งและจดุ อ่อนในการปฏิบัตงิ านของตนเอง 6.ได้รบั รปู้ ัญหาทเี่ กิดข้ึนในระหว่างการทางานกบั เพอ่ื นร่วมงาน และชว่ ยกันแกไ้ ขปัญหา 7. รู้จกั วางแผน ลาดับความสาคัญ ประเภทของการฟงั ข้อแนะนาในการปฏบิ ัตงิ าน 1. การฟงั ขอแนะนาทบี่ อกวิธกี ารหรือข้นั ตอนการปฏิบัติงาน 2. การฟังข้อแนะนาเพื่อแนะแนวทางการแกไ้ ข 3. การฟังข้อแนะนาเพอื่ ป้องกนั 4. การฟังข้อแนะนาเพ่อื เสริมสรา้ งและพัฒนา

9 หลกั การฟงั ข้อแนะนาในการปฏิบตั งิ าน 1. ฟังด้วยความตั้งใจ 2. ฟงั ด้วยความคดิ 3. ไมม่ ีอคตแิ ละเปิดใจให้กว้าง 4. แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เห็น 5. จดบันทึกข้อมลู 6. ทบทวนหลังการฟัง อปุ สรรคของการฟงั ข้อแนะนาในการปฏิบัติงาน 1. อปุ สรรคท่เี กดิ จากผฟู้ ังข้อแนะนา ขาดแรงจูงใจและทัศนคติท่ีดีต่อการฟงั ขาดสมาธแิ ละความต้ังใจในการฟังคาแนะนา ขาดความร้แู ละความเขา้ ใจในขอ้ แนะนา ไมส่ ามารถแยกแยะได้วา่ ข้อแนะนาน้นั สอดคลอ้ งกับข้อเท็จจรงิ หรือเป็นเพียงขอ้ คิดเหน็ ขาดความพร้อมด้านร่างกาย จติ ใจ และสติปัญญา ไมน่ าไปประยุกตใ์ ช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงาน อุปสรรคทเ่ี กดิ จากผูแ้ นะนา เลอื กจงั หวะเวลาในการแนะนาไม่เหมาะสม ใช้คาไมส่ ุภาพ ไม่รเู้ ร่อื งที่แนะนาอย่างถอ่ งแท้ พดู เบา พดู ช้าหรือเร็วเกนิ ไป

อปุ สรรคทเี่ กิดจากสภาพแวดลอ้ มภายนอก 10 สถานท่ีฟังไม่เหมาะสม 00 เหตุขัดข้องทางเทคนคิ หรือเครอ่ื งมือทางอเิ ลก็ ทรอนิกสช์ ารดุ 0 มารยาทในการฟังข้อแนะนาในการปฏิบัตงิ าน 1.ตั้งใจฟังอย่างมีสมาธิ 2. ฟังอยา่ งเปิดใจและไมม่ ีอคติ 3. ไมค่ วรยิ้มหรือทักทายผู้อ่ืนในขณะที่ผู้แนะนากาลงั พูด 4. ไม่โตแ้ ย้งขณะท่ีฟงั ข้อแนะนา 5.แสดงอาการสนใจ แมจ้ ะเปน็ เรื่องท่ีรู้อยแู่ ลว้ 6. ประมวลข้อแนะนาอยา่ งมเี หตุผล 7. มีการตอบสนองขณะฟัง

กิจกรรม(ย่อย)ระหวา่ งเนอ้ื หา 11 ขั้นนาเขา้ สกู่ ารเรยี น ๑. ผู้สอนให้นักเรียนเล่นเกมลุกน่ังโดยครูเป็นผู้ออกคาสั่ง ใครทาผิดให้ออกมาอยู่หน้าห้องเล่นจนเหลือ ผ้เู รียนทีส่ ามารถปฏบิ ตั ิตามได้ถกู ต้องคนสดุ ท้าย ๒. ผู้สอนถามผู้เรียนเป็นเพราะเหตุใดเพื่อนคนสุดท้ายจึงปฏิบัติตามคาส่ังได้ถูกต้อง ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า เพราะมีสมาธใิ นการฟงั คาส่ัง ข้ันสอน ๓. ผู้สอนอธบิ ายความสาคญั ของการฟงั คาสงั่ หรอื ขอ้ แนะนาการปฏิบตั ิงาน ๔. ผู้สอนอธิบายองค์ประกอบของการส่ังการและหลักการฟังคาสั่งหรือข้อแนะนาการปฏิบัติงานแล้วร่วมกัน อภปิ ราย ๕. ผู้สอนให้นักเรียนเสนอผลการอภิปรายและใหเ้ พื่อนในช้ันวจิ ารณ์ ๖. ผู้สอนอธบิ ายเรอ่ื งข้อบกพรอ่ งของการฟังคาสั่งหรอื ข้อแนะนาการปฏิบัตงิ าน ๗. ผู้สอนอธิบายเรือ่ งพฤตกิ รรมของผฟู้ ังคาสั่งหรอื ข้อแนะนาการปฏิบัติงาน ๘. ผสู้ อนสมมตุ ิสถานการณ์การฟังคาสงั่ หรือขอ้ แนะนาการปฏบิ ตั ิงานให้นกั เรยี นร่วมกันวิเคราะห์ข้อบกพร่อง ของการฟงั คาสง่ั หรือขอ้ แนะนาการปฏบิ ัตงิ านและพฤติกรรมของผ้ฟู ังคาส่ัง ๙. ผู้สอนให้นกั เรยี นเสนอผลการวเิ คราะห์ ๑๐. ผ้สู อนใหเ้ พือ่ นในชน้ั ชว่ ยกันอภปิ ราย ข้นั สรุป ๑๑. ผสู้ อนให้นกั เรียนทาคาถามทา้ ยหนว่ ยการเรียนรู้ ๑๒. ผู้สอนให้นักเรียนจบั ค่กู นั เปรียบเทียบคาตอบ ๑๓. ผู้สอนเฉลยพร้อมนักเรียนท้งั ชน้ั

แบบทดสอบหลงั เรียน 12 1. การฟงั ขอ้ แนะนาในการปฏบิ ตั งิ าน หมายถึง 2. อปุ สรรคทเี่ กดิ จากผฟู้ งั ข้อแนะนา ได้แกอ่ ะไรบา้ ง 3. มารยาทในการฟังข้อแนะนาในการปฏบิ ตั ิงาน ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง

13 เฉลย แบบทดสอบหลงั เรียน 1. การต้งั ใจฟังคาพดู เพ่ือชี้แจงใหป้ ฏบิ ัติ เพอ่ื ให้งานเปน็ ไปตามระเบียบแบบแผนท่ีถกู ตอ้ ง 2. – อปุ สรรคท่ีเกดิ จากผูฟ้ ังขอ้ แนะนา - ขาดแรงจูงใจและทัศนคตทิ ดี่ ตี ่อการฟัง - ขาดสมาธิและความตง้ั ใจในการฟงั คาแนะนา - ขาดความรแู้ ละความเข้าใจในข้อแนะนา - ไมส่ ามารถแยกแยะได้ว่าขอ้ แนะนานั้นสอดคลอ้ งกบั ข้อเทจ็ จรงิ หรอื เป็นเพียงขอ้ คิดเหน็ - ขาดความพร้อมดา้ นร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา - ไมน่ าไปประยกุ ต์ใช้ให้เกิดประโยชนใ์ นการปฏบิ ัติงาน - เลือกจังหวะเวลาในการแนะนาไมเ่ หมาะสม - ใช้คาไมส่ ุภาพ - ไมร่ เู้ รื่องท่ีแนะนาอยา่ งถ่องแท้ - พูดเบา พดู ชา้ หรือเร็วเกินไป - แสดงกริ ยิ าท่ไี มเ่ หมาะสม - ขาดเทคนคิ การพูดโนน้ น้าวใจในการแนะนาใหป้ ฏบิ ัตงิ าน 3. - ตัง้ ใจฟงั อย่างมสี มาธิ - ฟังอย่างเปดิ ใจและไม่มีอคติ - ไม่ควรยิ้มหรือทักทายผูอ้ ่ืนในขณะทผี่ ู้แนะนากาลงั พูด - ไมโ่ ตแ้ ยง้ ขณะทีฟ่ งั ขอ้ แนะนา - แสดงอาการสนใจ แม้จะเปน็ เรื่องท่รี ้อู ยู่แล้ว - ประมวลขอ้ แนะนาอยา่ งมเี หตผุ ล - มกี ารตอบสนองขณะฟงั