นางสาวกมลวรรณ สร้างวัด รหัส 008

เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑

สารบัญ บทที่ ๑ แนวคิดเชงิ นามธรรม บทท่ี ๒ การแกป้ ัญหา บทท่ี ๓ การโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอน บทท่ี ๔ การโปรแกรมดว้ ย Scratch บทที่ ๕ ขอ้ มูลและการประมวลผล บทท่ี ๖ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั

บทท่ี ๑ แนวคดิ เชงิ นามธรรม (Abstract แนวคดิ เชิงนามธรรม Thinking หรอื Abstraction) เป็น องค์ประกอบหนง่ึ ของแนวคดิ เชิงคานวณ (Computational Thinking) ใชก้ ระบวนการ คดั แยกคุณลกั ษณะทส่ี าคญั ออกจาก รายละเอียดปลกี ย่อยในปญั หา หรืองานท่ี กาลังพิจารณา เพื่อให้ได้ขอ้ มูลที่จาเปน็ และ เพยี งพอในการแก้ปญั หา

เลออนฮาร์ด ออยเลอร์ นักคณิตศาสตร์ช่ือเลออน (Leonhard Euler) ฮาร์ด ออยเลอร์ (Leonhard Euler) เป็นหน่ึงในผู้นาแนวคิดเชิงนามธรรม ลักษณะน้ีมาแก้ปัญหาการเดินข้าม สะพานท้ังเจ็ดแห่ง ในปีค.ศ.1736 โดย อาศัยรูปแบบท่ีเรียบง่ายนี้มาพิสูจน์ได้ ว่าไม่มีเส้นทางใดท่ีจะเดินข้ามสะพาน ไดต้ ามเงื่อนไขที่กาหนด

การเขยี นโปรแกรมเพอื่ แก้ปญั หา บทท่ี ๒ การแกป้ ญั หา ไมจ่ าเปน็ ต้องใชก้ ับสถานการณท์ ี่ ซับซ้อนเสมอไป แต่ยงั สามารถเขยี น โปรแกรมเพ่ือแก้ปัญหาใน ชวี ิตประจาวนั ได้

ขัน้ ตอนการแกป้ ญั หา การวเิ คราะหแ์ ละกาหนด รายละเอยี ดของปัญหา การวางแผนการแกป้ ญั หา การดาเนนิ การแกป้ ญั หา การตรวจสอบและประเมนิ ผล

การเขยี นรหสั ลาลองและผงั งาน รหัสลาลอง การเขียนรหัสลาลอง เป็นการใช้คาบรรยายอธิบายข้ันตอนอย่างชัดเจนในการ แก้ปัญหา หรือการทางานของโปรแกรมซ่ึงรูปแบบการเขียน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และ ความถนดั ของผู้เขียน โดยอาจเขยี นภาษาพูด ทาใหเ้ ขียนง่ายไม่ตอ้ งกงั วลรูปแบบ

ผงั งาน เริ่มต้นและจบ การนาขอ้ มลู เขา้ -ออก การปฏบิ ตั งิ าน การตัดสนิ ใจ ทิศทาง

บทที่ ๓ การเขยี นโปรแกรมไพทอน จะใช้ การโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอน เครอ่ื งมือชว่ ยในการพัฒนาโปรแกรมท่ี เรียกว่า ไอดีอี(IDE) ประกอบด้วยเครอื่ งมอื แก้ไขโปรแกรมต้นฉบบั เครอ่ื งมือแกไ้ ข จุดบกพรอ่ งของโปรแกรม และเคร่ืองมอื ชว่ ยให้โปรแกรมทางานหรือรนั โปรแกรม ไพทอนไอดอี (ี IDE) ท่วั ไปทางานตามคาสัง่ ได้ใน ๒ โหมด คอื ������๑. โหมดอมิ มเี ดียท ������๒. โหมดสครปิ ต์

ตัวแปร ตัวแปร ตัวแปร (Variable) ใช้ในการอ้างอิงค่าข้อมูล โดยตัวแปรจะถูก กาหนดค่าด้วยเครอื่ งหมาย “ = ”

ชนดิ ขอ้ มูลพน้ื ฐาน ขอ้ มูลประเภทข้อความ กาหนดข้อมูลที่เปน็ ขอ้ ความหรอื สตริงให้ใชเ้ คร่อื งหมาย (‘) หรือ (“) ข้อมูลจานวน จานวนเตม็ (int) สามารถเกบ็ คา่ จานวนเต็มบวกและจานวนเต็มลบ จานวนจริง (Float) สามารถเก็บคา่ ทงั้ จานวนเตม็ บวกและจานวนเต็มลบ ในรูปทศนยิ ม

การทางานแบบวนซ้า เร่มิ ตน้ for ในไพทอน มสี มาชกิ ตวั ถดั ไปใน คาส่ัง for ลิสตห์ รือไม่ จริง เท็จ ตัวแปร  สมาชิกตวั ถัดไปในลสิ ต์ จบ for คาสัง่ ท่ีต้องการใหว้ นซา้

การทางานแบบทางเลอื ก ในไพทอน คาสั่ง if เร่ิมตน้ if จริง เงื่อนไข เท็จ ชดุ คาสั่ง ทางเลือก จบ if

โปรแกรม Scratch เป็นโปรแกรมโอ บทที่ ๔ เพ็นซอรส์ พฒั นาโดยนกั วจิ ยั ที่ การโปรแกรมดว้ ย Scratch หอ้ งปฏิบตั ิการสือ่ สถาบันเทคโนโลยี แมสซาซูเซตส์ ประเทศสหรฐั อเมริกา โปรแกรม Scratch ออกแบบมาใหใ้ ช้กบั เดก็ อายุ ๘-๑๖ ปี เป็นทางเลอื กท่ีดีใน การเขียนโปรแกรมสาหรับผูเ้ ร่ิมตน้

ส่วนประกอบหลกั ของหนา้ ตา่ ง โปรแกรม Scratch ตัวละคร (Sprite) 03 สามารถกาหนดตัวละครได้ หลายตัว โดยตัวละครแตล่ ะตัว เวที (Stage) มีข้อมูลสว่ นตวั ท่แี ตกต่างกัน เป็นพน้ื ท่สี าหรับแสดงผลลพั ธก์ าร ทางาน เมอื่ ต้องการรนั โปรแกรม 01 02 สคริปต์ (Script) เปน็ พนื้ ท่ี ทใ่ี ช้สาหรบั เขียน โปรแกรม

บทท่ี ๕ ขอ้ มูล (Data) หมายถึง ความจรงิ ที่ ขอ้ มูลและการประมวลผล อย่ใู นรูปของตัวเลข ข้อความ ภาพ เสียง ข้อสังเกตท่ีรวบรวมมาจาก เหตกุ ารณห์ รอื ส่ิงใดส่งิ หน่ึง ข้อมูล ประกอบด้วย ������๑. ข้อมูลเชิงปรมิ าณ ������๒. ข้อมูลเชิงคณุ ภาพ

การรวบรวมขอ้ มลู ๑.การสมั ภาษณ์ (Interview) เปน็ ๒.การสารวจ (Survey) สร้างแบบ ๓.การสงั เกต (Observe) ใช้ ก า ร สั ม ภ า ษ ณ์ โ ด ย ต ร ง ห รื อ ผ่ า น ช่ อ ง สารวจที่กาหนดคาถามเพ่ือค้นหาข้อมูล ส า ห รั บ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล จ า ก ทางการสื่อสารอื่น เช่น โทรศัพท์เป็น หรือความเห็นท่ี เหตุการณ์ สถานการณ์ หรือ ตน้ พฤตกิ รรมที่มีการเปล่ยี นแปลง ๔.การทดลอง (Experiment) เปน็ ๕.การทบทวนเอกสาร ๖.การสามะโน (Census) เป็นการ (Document/Literature review) การรวบรวมจากการทดลอง หรือ รวบรวมขอ้ มูลด้วยการสารวจประชากร ทดสอบทม่ี ีการควบคุมปัจจัยบางประการ เ ป็ น ก า ร ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล จ า ก เ อ ก ส า ร เก่ยี วกบั เรอื่ งทก่ี าหนด เช่น การบันทึกผลการเจริญเติบโต รายงาน บทความ หรือแบบฟอรม์

ซอฟตแ์ วรจ์ ดั การข้อมูล ๑.ซอฟต์แวรป์ ระมวลคา (Word processor) ใช้สาหรับสร้าง แก้ไข และจัดรูปแบบเอกสาร โดยทางานร่วมกันผ่านทาง อินเทอร์เนต็ เช่น Google Docs และ Microsoft Words ชดุ Office 365

ซอฟตแ์ วรจ์ ดั การขอ้ มูล ๒.ซอฟตแ์ วรส์ ร้างฟอรม์ (Form) ใช้สาหรับสร้างแบบสารวจ/แบบสอบถาม เพ่ือรวบรวมข้อมูลโดยคาถามท่ี กาหนดในรูปแบบสารวจอาจเปน็ ไดท้ ้งั คาถามปลายเปิดหรือปลายปดิ

ซอฟตแ์ วรจ์ ดั การข้อมูล ๓.ซอฟตแ์ วรต์ ารางทางาน (Spreadsheet) ใช้สาหรับสร้างและแก้ไขตารางทางาน รวมถึงการประมวลผลข้อมูลใน ตาราง คาส่ังในการประมวลผล

ซอฟตแ์ วรจ์ ดั การขอ้ มูล ๔.ซอฟตแ์ วรน์ าเสนอ (Presentation) ใช้สาหรับสร้าง แก้ไข ตกแต่งแฟ้มนาเสนอ สามารถใส่ตารางข้อมูล แผนภูมิ รปู ภาพ ภาพวาด ภาพวดี ทิ ศั น์ เพอื่ ใหง้ า่ ยตอ่ ความเขา้ ใจ ๕.ซอฟตแ์ วร์สร้างผงั ความคดิ (Concept map) ใชส้ าหรบั สรา้ ง แกไ้ ข ตกแต่งผงั ความคดิ

เทคโนโลยสี ารสนเทศหรอื ไอที (IT) เปน็ บทท่ี ๖ เครื่องมอื และมีบทบาทสาคญั ต่อการเรยี นรู้ และการใช้ชวี ติ ประจาวันรวมท้ังสนบั สนนุ การ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ดาเนนิ กิจกรรมต่าง ๆ ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ อยา่ งปลอดภยั และเป้าหมายได้ บทเรียนนีจ้ ะได้รู้จักวธิ ี คกุ คามรูปแบบตา่ ง ๆ และแนวทางปอ้ งกนั เพือ่ ใหใ้ ช้งานไอทีอยา่ งปลอดภัย

ภัยคกุ คามจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการปอ้ งกัน วิธีการคกุ คาม ๒.การคุกคามด้วยเนื้อหาที่ไม่ เหมาะสม ข้อมูลและเนื้อหาท่ีมีอยู่ ๑.การคุกคามโดยใช้หลกั จิตวทิ ยา ในแหล่งต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตมี เป็นการคุกคามที่ใช้การหลอกลวง เป็นจานวนมากเพราะสามารถสร้าง เพ่ือให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ โดยไม่ต้อง และเผยแพร่ได้ง่าย ใชค้ วามรูค้ วามชานาญด้านไอที

ภยั คกุ คามจากการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการปอ้ งกนั วธิ กี ารคกุ คาม -ไวรสั คอมพิวเตอร์ (Computer virus) -เวริ ม์ (Worm) ๓.การคุกคามโดยใช้โปรแกรม -ประตูกล (Backdoor/Trapdoor) -ม้าโทรจัน (Trojan horse virus) เป็นการคุกคามโดยใช้โปรแกรมมเป็น -ระเบิดเวลา (Logic bomb) เครื่องมือสาหรับก่อปัญหาด้านไอที -โปรแกรมดักจับขอ้ มูลหรือสปายแวร์ (Spyware) โปรแกรมดงั กลา่ วเรยี กวา่ มลั แวร์ -โปรแกรมโฆษณาหรือแอดแวร์ (Adware) -โปรแกรมเรียกคา่ ไถ่ (Ransomware)

รูปแบบการปอ้ งกนั ภยั คกุ คาม การตรวจสอบเพอ่ื ยนื ยนั ตนของผใู้ ชง้ านสามารถดาเนนิ การได้ ๓ รูปแบบ ดงั น้ี ตรวจสอบจากส่ิงที่ผู้ใช้รู้ เป็นการ ตรวจสอบจากสิ่งที่ผู้ใช้มี เป็นการ ตรวจสอบจากสิ่งที่เป็นส่วหนึ่ง ของผู้ใช้ เป็นการตรวจสอบข้อมูล ตรวจสอบตัวตนจากส่ิงท่ีผู้ใช้งานรู้แต่ ตรวจสอบตัวตนจากอุปกรณ์ท่ีผู้ใช้งาน เพียงผู้เดียว เช่น บัญชีรายช่ือผู้ใช้กับ ตอ้ งมี เช่น บัตรสมารต์ การด์ โทเก้น ชี ว ม า ต ร ( Biometrics) เ ช่ น รหสั ผ่าน ลายนิ้วมือ ม่านตา ใบหน้า เสียง การตรวจสอบหนี้ ที่มีประสิทธิภาพ สูงสดุ

ข้อแนะนาในการตง้ั และใชง้ านรหสั ผา่ น รหัสผ่านควรตั้งให้เป็นไปตาม ต้ังให้จาได้ง่าย แต่ยากต่อการคาด หลีกเล่ียงการต้ังรหัสผ่านโดยใช้วัน ������ เดาด้วยบคุ คลหรือโปรแกรม เดือน ปีเกิด ชื่อผู้ใช้ ช่ือจังหวัด เง่ือนไขของระบบท่ใี ช้งาน เปน็ ต้น บัญชีรายช่ือผู้ใช้แต่ระบบ ควรใช้ ไม่บันทึกรหัสผ่านแบบอัตโนมัติบน หลีกเล่ียงการบันทึกรหัสผ่านลงใน รหัสผา่ นท่ีแตกต่างกัน โปรแกรมเบราว์เซอร์ กระดาษสมดุ โนต้ ไม่บอกรหัสผ่านของตนเองให้กับ หม่ันเปลีย่ นรหัสผ่านเปน็ ประจา ออกจากระบบทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ ผู้อน่ื ไมว่ า่ กรณีใด ๆ บรกิ ารต่าง ๆ บนอนิ เทอร์เน็ต

ผูจ้ ดั ทา นางสาวกมลวรรณ สร้างวดั รหัสนักศกึ ษา 60003126008 สาขาวชิ าคอมพิวเตอรศ์ กึ ษา คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏราชนครนิ ทร์

ThE EnD