Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่อประกอบหลักสูตรการทำโลชั่นสมุนไพรทาก

สื่อประกอบหลักสูตรการทำโลชั่นสมุนไพรทาก

Published by รัตน์สุดา จันทะนะ, 2020-11-25 13:20:29

Description: สื่อประกอบหลักสูตรการทำโลชั่นสมุนไพรทาก

Search

Read the Text Version

ก คานา การทาโลชั่นสมุนไพรทากันยุง เป็นผลิตภัณฑ์เน้ือครีมทาจากสมุนไพร ตะไคร้หอม มะกรูด บรรจุในภาชนะต่าง ๆ เช่น ขวดหัวปั๊ม ขวดปฺอกแปฺก เพื่อใช้ทากัน ยุงไม่เปน็ อันตรายตอ่ ผิวหนัง ซึง่ สามารถทาไดใ้ นครัวเรือน หลกั สตู รการทาโลชน่ั สมนุ ไพรทากันยงุ มงุ่ เน้นให้ผู้ที่สนใจเม่ือศึกษาหลักสูตร นีแ้ ลว้ สามารถนาไป ปฏิบัตไิ ดจ้ รงิ เนือ่ งจากวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้หาได้ง่ายในท้องถิ่นสามารถ ออกแบบภาชนะบรรจุได้ตาม ความคิดสร้างสรรค์มีต้นทุนในการผลิตน้อยและสามารถ จาหน่ายไดง้ ่าย ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อันเน่ืองมาจากพระราชดาริ จึงได้จัดทาสื่อประกอบหลักสูตรการทาโลชั่นสมุนไพร ทากันยุงขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจในการศึกษาความรู้ข้อมูลหลักสูตร การทาโลช่ันสมุนไพรทากันยุง ขอขอบคุณผู้เก่ียวข้องในการจัดทาส่ือประกอบ หลักสูตรการทาโลชัน่ สมนุ ไพรทากันยุงไว้ ณ โอกาสน้ี (นายพัฒนา เพชรคชสิทธ์)ิ ผ้อู านวยการศูนย์ฝกึ และพัฒนาอาชพี เกษตรกรรม วัดญาณสงั วรารามวรมหาวหิ าร อนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ พฤษภาคม ๒๕๖๓

ข สารบญั เรอื่ ง หน้า คานา................................................................................................................................................... ก สารบญั ............................................................................................................................................... ข คาแนะนาการใชห้ ลักสูตร ............................................................................................................. ค โครงสรา้ งหลักสตู ร ..................................................................................................................ง ทดสอบกอ่ นเรยี น ................................................................................................................. จ ตอนท่ี ๑ ความร้เู บื้องต้นเก่ยี วกบั ครมี บารงุ ผวิ ..................................................................๑ ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกับครมี บารุงผิว........................................................................... ๑ ตอนที่ ๒ สมุนไพรทาโลชน่ั ทากันยุง...................................................................................๑๐ สมนุ ไพรทาโลชั่นทากันยงุ ............................................................................................๑๐ ๒.๑ ชนิดและสรรพคุณของสมุนไพรทใ่ี ชท้ าโลชน่ั .............................................๑๐ ๒.๒ ประโยชน์ของโลชนั่ ทากันยุงจากสมุนไพร...................................................๑๘ ตอนท่ี ๓ วัสดุ อปุ กรณ์โลชนั่ ทากนั ยงุ ..............................................................................๑๙ วสั ดุ อปุ กรณก์ ารทาโลชน่ั ทากนั ยุง...........................................................................๑๙ ตอนท่ี ๔ ขน้ั ตอนการวิธกี ารทาโลชัน่ ทากันยงุ ................................................................๒๓ ขน้ั ตอนการทา .................................................................................................................๒๓ ตอนที่ ๕ การจดั การและการจาหนา่ ย...............................................................................๒๖ การคานวณตน้ ทนุ ผลผลิต ...........................................................................................๒๖ แบบทดสอบหลงั เรยี น ..............................................................................................................๒๗ เฉลยแบบทดสอบกอ่ น-หลังเรียน.............................................................................................๒๙ รายการอ้างองิ .........................................................................................................๓๐ ผู้จัดทาสอื่ ประกอบหลักสตู ร .....................................................................................................๓๑

ค คาแนะนาการใชห้ ลักสูตร ๑. หลกั สตู รการทาโลช่นั สมนุ ไพรทากันยงุ ประกอบดว้ ยเนอ้ื หาและ กจิ กรรม จานวน ๕ ตอน ใช้เวลาศกึ ษา ๕ ช่วั โมง ๒. กอ่ นทผี่ ู้เรียนจะศึกษาหลักสูตร ควรทาแบบทดสอบดว้ ยตนเองก่อน เรยี นเสยี ก่อน โดยการสแกน QR แบบทดสอบ หรือ ล้งิ แบบทดสอบ แล้วดูผลคะแนนไว้ เพือ่ เปรยี บเทยี บกบั คะแนนท่ีไดจ้ ากการทดสอบหลงั เรียนต่อไป ๓. ควรศกึ ษาโครงสรา้ งหลกั สูตรน้ใี หเ้ ขา้ ใจในสาระสาคัญจุดประสงค์ ทั่วไป และขอบขา่ ยเนอ้ื หาของหลักสตู ร เพ่อื ประโยชนใ์ นการวางแผนการเรยี นรู้ ๔. ศกึ ษาเนอื้ หา และปฏบิ ัตติ ามกจิ กรรมที่ใหไ้ วท้ ุกกิจกรรมหากไม่เขา้ ใจ ให้ทบทวนใหม่ หรอื ปรึกษาผรู้ ู้ ๕. หลงั จากศึกษาขั้นตอนการทาโลชัน่ สมุนไพรทากนั ยงุ และการ บรรจุภัณฑ์แล้ว ผู้เรียนสามารถประยุกต์รูปแบบ ส่วนผสมได้ตามปริมาณของตนเอง หรอื ตามความตอ้ งการของตลาด ๖. เมอื่ ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิตามขั้นตอนดงั กล่าวมาแล้ว ควรทาแบบทดสอบหลัง เรยี นโดยการสแกน QR แบบทดสอบ หรอื ลง้ิ แบบทดสอบ แล้วตรวจจากเฉลย จากน้ัน นาคะแนนที่ได้เปรียบเทียบกับคะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรียน ผู้เรียนจะทราบ ความก้าวหน้าของตนเองในการเรียนหลกั สตู รนี้

ง โครงสร้างหลักสูตร สาระสาคญั การอาบน้าทุกวันรวมไปถึงอากาศที่ร้อนจัด เป็นสาเหตุที่ทาให้ผิวหนัง สูญเสียความชมุ่ ช่นื ซ่ึงทาให้ผิวแห้งกร้าน จึงมีวิธีการปูองกันและแก้ไขด้วยการใช้ครีม โลชั่น หรือเจลบารุงผิว เพื่อดูแลผิวกายท่ีเหมาะสมกับสภาพผิว ซ่ึงโลช่ันเป็นเนื้อครีม ประเภทหนงึ่ ทม่ี ีสว่ นผสมของนา้ มากกว่าน้ามัน ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของเหลว เหมาะ สาหรับคนท่ีมีผิวผสมและด้วยสรรพคุณของน้ามันหอมระเหยท่ีสกัดจากตะไคร้หอม ท่ีช่วยไล่ยุงและฆ่าเช้ือแบคทีเรียบนผิวหนังได้ รวมท้ังผิวมะกรูดนามาสกัดน้ามันหอม ระเหย ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ช่วยแก้อาการเป็นลม หน้ามืดวิงเวียนศรีษะ สามารถนามาใช้เป็นส่วนผสมในการทาโลชั่น จะทาให้ประโยชน์ของโลชั่นสมุนไพรทา กันยุง นอกจากจะช่วยบารุงผิวแล้วยังช่วยเร่ืองไล่ยุงและบารุงหัวใจอีกด้วย จึงได้รับ ความสนใจจากประชาชนท่รี กั ษาสุขภาพเปน็ อย่างมาก ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร อันเนื่องมาจากพระราชดาริ ได้เล็งเห็นคุณค่าของสมุนไพร จึงได้จัดทาโลช่ันสมุนไพร ทากนั ยงุ ขึ้น จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ทากันยงุ ๑. มคี วามรู้เกีย่ วกับโลชัน่ สมนุ ไพร และประโยชนข์ องโลช่ันสมุนไพร ๒. ไดร้ บั การฝึกปฏบิ ัตทิ าโลชนั่ สมุนไพรทากนั ยุง ขอบขา่ ยเน้อื หา ๑. ความรเู้ บอ้ื งต้นเกย่ี วกับโลชัน่ ๒. สมนุ ไพรท่ีใช้ทาโลชน่ั ๓. การทาโลชน่ั สมนุ ไพรทากันยุง ๔. ประโยชนข์ องโลชน่ั สมนุ ไพรทากันยุง

จ แบบทดสอบก่อนเรยี น จงเลือกตอบในช่องทีถ่ กู ต้องท่ีสุด ชื่อ- สกลุ ......................................................................... ขอ้ ที่ ๑ สาเหตุท่ที าให้เกดิ โรคไข้เลอื ดออกคือยุงลายใชห่ รอื ไม่ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ ข้อที่ ๒ ตระไคร้หอมและผวิ มะกรูดเปน็ สมนุ ไพรใชใ้ นการทาเป็นโลช่ันสมุนไพรทากันยุงใช่หรือไม่ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ ข้อท่ี ๓ กลเี ซอรนี เป็นสารท่มี สี รรพคณุ ไล่ยุงใช่หรอื ไม่ ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่ ขอ้ ท่ี ๔ อะลานโทอิน เปน็ สารให้ความช่มุ ชื่นแกผ่ วิ หนงั ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ ข้อที่ ๕ นา้ กล่ันบริสุทธิ์เป็นตัวช่วยสกัดตะไคร้หอมและมะกรดู ใหเ้ ปน็ น้ามนั หอมระเหย ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่ ขอ้ ท่ี ๖ การกวนสว่ นผสมตอ้ งกวนไปในทางเดยี วกันตลอด ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ ขอ้ ที่ ๗ โลชนั่ สมนุ ไพรทที่ าทาปอู งกันยงุ และยงั ชว่ ยให้ผวิ หนงั ชมุ ชน่ื ได้ ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่

ฉ ขอ้ ที่ ๘ การทาโลชน่ั สมนุ ไพรทากนั ยุงใช้ส่วนผสมจากสารสังเคราะห์ทง้ั หมด ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ ขอ้ ที่ ๙ การเรียนรคู้ รงั้ นี้สามารถช่วยลดรายจา่ ยและพัฒนาเป็นอาชพี ได้ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ ขอ้ ที่ ๑๐ การเรยี นรคู้ รั้งน้มี ีประโยชนต์ อ่ ตนเองและสงิ่ แวดล้อมใช่หรอื ไม่ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ QR CODE แบบทดสอบหลักสูตรการทาโลชน่ั สมนุ ไพรทากันยงุ

ตอนที่ ๑ ความรเู้ บือ้ งต้นเก่ยี วกับครีมบารุงผวิ ความรเู้ บ้อื งต้นเกยี่ วกับครมี บารงุ ผิว เวชสาอางที่ขายกันตามท้องตลาดได้มีการโฆษณาถึงคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ เช่น ลบรอยตีนกา ลบรอยด่างดา ทาให้หน้าสดใส อ่อนกว่าวัย บางชนิดก็อธิบายถึง ส่วนประกอบท้ังวิตามิน สมุนไพร สารอาหารบางชนิดก็อ้างว่าชะลอความแก่ ซึ่งการ โฆษณาอวดอ้างดังกลา่ วยังไมม่ กี ารควบคุมกันหรอื มกี ารพสิ ูจน์กัน ส่วนประกอบท่ีสาคัญ ในเวชสาอางคือ ครมี ใหค้ วามชุ่มช้ืน Moisturizers จะเหมาะสาหรับผู้ท่ีมีปัญหาผิวหนัง ดังนี้ ผิวแห้ง ผิวผู้สูงอายุ ผู้ที่มีรอยตีนกาซ่ึงจะช่วยเพียงระยะเวลาส้ัน ๆ ส่วนประกอบ ที่สาคัญสาหรับครีมให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนังได้แก่ Petroleum jelly ซ่ึงควรจะใช้ทา หลงั อาบนา้ จะทาใหผ้ วิ ชมุ ช่ืน แต่คนจะไมช่ อบ เนอ่ื งจากเมอื่ ทาบรเิ วณใบหน้าจะดูเหมอื นหนา้ มันครีมให้ความชุ่มชื้นส่วนใหญ่ จะประกอบด้วยสารท่ีสาคัญ ได้แก่ น้า, glycerin, petrolatum, stearic acid, propylene glycol, และ lanolinบางชนดิ อาจจะใสผ่ ลิตภณั ฑจ์ ากพืช เชน่ jojoba oil, น้ามันมะพร้าว coconut oil, น้ามันทานตะวัน และ linoleic acid ซ่ึงจะทาให้ผิวนุ่ม นอกจากนน้ั ยังมีสารประกอบท่ที าให้ครมี ใหค้ วามชมุ ช้ืนน่าใช้ ได้แก่สาร cetylalcohol, palmitic acid, และ dimethicone ครีมให้ความชุ่มช้ืนบางชนิดยังใส่ครีมกันแสงซ่ึงจะ

๒ ปอู งกันการเสื่อมของผวิ หนังครีมลอกผวิ สารดังกล่าวจะชว่ ยลอกเซลล์ท่ีตายแล้วให้หลุด ออกไปซงึ่ จะได้เซลล์ใหม่ ลบรอยด่างดา และรอยเห่ียวย่น สารที่เป็นตัวลอกผิวท่ีสาคัญ คือ alpha hydroxy acids (AHAs) และ beta hydroxy acids (BHAs) เวชสาอาง Cosmeceuticals สารในเวชสาอางบางชนิดมีการออกฤทธิ์เหมือนยาและมีผลต่อ ร่างกาย ซ่ึงได้แก่ วิตามิน vitamins, growth factors,และ peptides ซึ่งผสมในเวช สาอาง สารเหล่านสี้ ่วนใหญไ่ มอ่ นั ตราย บางชนดิ จะลดรอยย่น ลบรอยด่างดา ทาให้ผิวดู ดี การทท่ี ่านเลอื กซอ้ื เวชสาอางเหลา่ น้ี ทา่ นตอ้ งศกึ ษาถงึ ผลดี ผลเสยี ของเวชสาอาง เพ่ือ ปูองกันผลเสียท่ีอาจจะเกิดข้ึน ๑ Alpha hydroxy acidsAlpha hydroxy acids (AHAs) หรือกรดผลไม้ ทาจากผลไม้เช่น องุ่น ผลไม้ที่มีรสเปร้ียว แอปเปิล หากเรามอง ส่วนประกอบของเคร่ืองสาอางหากมสี ารดังตอ่ ไปน้ี glycolic acid, lactic acid, malic acid, hydroxycaprylic acid, alphahydroxyoctanoic acid, triple fruit acid, หรือ sugar cane extract แสดงวา่ งเคร่ืองสาอางน้ันมีกรดผลไม้เป็นส่วนประกอบ โดยท่ัวไป ไม่ควรใชค้ วามเข้มขน้ เกินรอ้ ยละ ๑๐ คา่ pH ไมค่ วรต่ากว่า ๓.๕ จึงจะมีความปลอดภัย แตอ่ ย่างไรก็ตามกรดผลไม้จะทาให้เกิดการระคายเคอื งผิวหน้า และควรจะใช้รว่ มกบั ครีม กันแดดสาหรับแพทย์ท่ีทาการลอกหน้าหรือทา baby face จะใช้ glycolic acid ท่ีมี ความเข้มขน้ ประมาณ ๒๐% - ๓๐% เพ่อื ทาการลอกหน้า สาหรับประชาชนไม่ควรจะใช้ ความเข้มข้นเกิน ร้อยละ ๑๐๒Beta hydroxy acidsกรดจากอุตสาหกรรม Beta hydroxy acids (BHAs) มีฤทธิ์ในการลอดเซลล์ท่ีตายดีกว่ากรดผลไม้ตัวอย่างกรด ได้แก่ salicylic acid ใชไ้ ด้ดกี ับผทู้ ่มี ผี วิ มันซึ่งจะช่วยลดการเกิดสิว ความเข้มข้นท่ีควรจะ ใชค้ อื ๑.๕% - ๒% สาหรับครีมทาลดความเหี่ยวย่นอาจจะมปี ริมาณความเข้มข้นสูงกว่า นี้ ก่อนใช้ยานี้กับใบหน้า ให้ทดลองทายานี้กับผิวท่ีแขนว่ามีอาการระคายเคืองมาก หรือไม่ และควรจะใช้ยาทากันแดดร่วมด้วยเสมอ Vitamins และสารต้านอนุมูลอิสระ antioxidants อนพุ ันธ์ของวติ ามนิ เอ vitamin A ได้แก่ Retinoids จะปูองกันการเสื่อมของ ผวิ หนงั เน่อื งจากแสงแดด และกระตนุ้ ให้มีการสรา้ ง collagen เพมิ่ ขน้ึ

๓ วติ ามนิ ซี vitamin C จะทาให้มีการซ่อมแซม elastic tissue และมีการสร้าง collagen เพ่ิมขน้ึ วิตามิน vitamin B๓ (niacinamide) จะปูองกันการเสื่อมของเซลล์และลด การเกิดมะเร็งผวิ หนัง เน่ืองจากแสงอาทิตย์ สาหรับ coenzyme Q๑๐ ยงั ขาดหลักฐานว่ามีประโยชน์ Alpha lipoic acid เป็นสารต้านอนุมูลอิสระจะลดความกระด้างของผิวหนัง ลบรอยยน่ และจดุ ดา่ งดา ธาตุทองแดง Copper เป็นสารต้านอนุมูลอิสระจะเพ่ิมการสร้าง collagen และ elastin ครีมบารุงผวิ ทม่ี ีสว่ นผสมของสารตา้ นอนมุ ลู อิสระหลายชนิดจะได้ผลดีกว่า ชนดิ เดยี ว เชน่ มสี ว่ นผสมของ vitamins C และ Eสาร Peptides สารเหล่านี้จะมีหลาย บทบาทในรา่ งกาย เชอ่ื ว่าจะกระตุ้นการสร้าง collagen และ elastin. ธาตุทองแดงจะ ลดรอยยน่ และเพ่ิมความยืดหยุน่ ใหก้ บั ผวิ หนัง Retinoids ยาทาอนุพันธ์ของวิตามิน เอ จะสามารถลดรอยย่น และตีนกา โดยการเพิ่มการสร้าง collagen ลบรอยด่างดา จะต้องใช้ยาทานี้ ๓-๖ เดือนจึงจะเห็น ผล แต่ผลข้างเคียงคอื อาจจะมีการระคายเคอื ง ผวิ แห้ง จึงจาเป็นต้องใช้ครีมกันแดดร่วม ด้วยผลติ ภัณฑเ์ กย่ี วกับผวิ หนงั อ่นื ๆโคลน ดนิ หรือแรธ่ าตุทีน่ ามาพอกใบหนา้ ทาใหร้ ู้สิกว่า ผิวสะอาด มีกลิ่นดี เชื่อว่าวิตามินและแร่ธาตุจะเข้าไปในผิวหนัง แต่ข้อเท็จจริงยังไม่มี หลกั ฐานหรอื การศกึ ษายืนยนั และโมเลกลุ ของธาตุก็ใหญ่เกินไม่สามารถผ่านผวิ หนังได้ ผลิตภัณฑ์จากพืช เช่น สาหร่ายทะเล หว่านหางจระเข้ ผลไม้ หรือสมุนไพร ถวั่ เหลอื ง ผลติ ภณั ฑ์เหลา่ นค้ี ่อนขา้ งจะปลอดภยั แตต่ อ้ งระวงั เรือ่ งแพ้ ควรจะหลีกเลีย่ งอะไร สาหรบั คนทผี่ ิวหนา้ แพ้ง่ายควรจะหลกี เล่ียงเครอื่ งสาอางทมี่ สี ว่ นผสมของสาร กันบดู เพราะสารเหล่าน้ีจะระคายเคอื งผวิ หนงั สารกันบดู ทแี่ พน้ อ้ ยไดแ้ กก่ ลุ่ม parabens เช่น methyl paraben และ butyl paraben สารจากพืช และยาทา ปฏิชีวนะกอ็ าจจะระคายเคอื งผวิ หนงั

๔ ๑.๑) ความหมายของครีมบารุงผวิ ครีมบารุง คือ อะไร ? ครีมบารุง คือ ผลิตภัณฑ์เพ่ิมความชุ่มชื้น ให้แก่ผวิ ชว่ ยฟื้นฟผู วิ แห้งกรา้ น ปรบั สผี ิวใหส้ มา่ เสมอ ปกปอู งผวิ จากสิง่ สกปรกภายนอก บรรเทาอาการผิวหนงั อักเสบชนิดไม่รุนแรง ลดเลือนร้ิวรอยร่องต้ืน และช่วยปรับสภาพ ผวิ ก่อนลงเครือ่ งสาอาง ครมี บารุงจึงเป็นผลติ ภัณฑท์ ี่สาว ๆ ควรใชแ้ ละมีตดิ ตัวไว้ ๑.๒) ประเภทของครีมบารุงผวิ ประเภทครีม บารุงผิว โลช่ันต่าง ๆ อาจเป็นท่ีคุ้นเคยกับหลายๆคน อยูบ่ า้ ง ถือเปน็ เครอื่ งประทินผิวที่มีมาช้านาน ครีมบารุงผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ผิวกาย หรือครีมบารุงเฉพาะส่วน อย่างครีมทามือ ทาส้นเท้า ฝุาเท้า ครีมทารอบดวงตา หรือ แม้แต่ครีมบารุงเล็บ ต่างก็มีความแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อ ผลิตภณั ฑซ์ ึง่ บางทเี ราอาจเรียกรวม ๆ กนั วา่ ครีม แต่แท้จริงแล้วมันอาจจะไม่ใช่ครีมก็ได้ โดยหลักแลว้ เราสามารถแบง่ เนอื้ ผลิตภัณฑ์ออกได้เปน็ ๖ ประเภท ๑. ครมี Cream เน้ือผลิตภัณฑ์ท่ีซ่ึงเป็นที่คุ้นเคยสาหรับคนส่วนใหญ่ ครีมมี ส่วนประกอบของนา้ มันเป็นหลักมีนา้ ผสมบา้ งตามแต่ละสตู รท่ีแต่ละแบรนด์คิดค้นข้ึนมา ครมี มคี วามเขม้ ข้นสงู กว่าเนือ้ ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ อีกหน่ึงเนื้อผลิตภัณฑ์ท่ีอาจเรียก ได้ว่าเป็นพี่นอ้ ง กบั ครมี แตม่ คี วามข้นมากกว่าครีมคอื ผลิตภัณฑ์ประเภท Butte จากช่ือ ก็บอกอยู่แล้วว่ามันมีลักษณะของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมือนกับเนยนั่นเองโดยเราอาจ

๕ คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า BodyButter ซึ่งก็คือครีมเนื้อบัตเตอร์ที่มักจะมาใน รูปแบบกระปุกเพราะมีความเข้มข้นสูงเน่ืองจากมีประมาณขอ งไขมันหรือน้ามัน อะครีมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ซึงลงสู่ผิวได้ช้ากว่าเน้ือผลิตภัณฑ์ชนิดอ่ืนปัจจุบันจึงมี การเพิ่มสารบารุงต่าง ๆ ลงในเน้ือครีมมากย่ิงข้ึนเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน และการบารุงผิว ครีมเหมาะสาหรับผู้ท่ีมีผิวแห้งผิวหนังลอกจากอากาศเย็นจัดหรือ ปูองกันการเกิดร้ิวรอยเพราะด้วยเน้ือสัมผัสที่หนาและส่วนประกอบของน้ามันท่ีเยอะ นี่เองจงึ ทาให้ครมี มคี วามช่มุ ชนื้ มากกวา่ ผลิต ภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ แต่สาหรับผู้ท่ีมีปัญหา หน้ามนั ควรหลีกเล่ียงผลิตภัณฑ์เน้ือครีมเพราะเน้ือสัมผัสท่ีหนาเกินไปอาจทาให้รูขุมขน อดุ ตนั และเกิดปัญหาสวิ ขึ้นได้ ๒. โลช่ัน Lotion อีกเนื้อผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นท่ีนิยมในท้องตลาดมีลักษณะคล้ายครีม แตส่ ว่ นประกอบหลกั ของโลช่นั คือน้าจงึ ทาให้โลชน่ั มลี กั ษณะท่ีเหลวกว่าใสกว่าซึมได้ง่าย รวดเรว็ ไมเ่ หนอะหนะในปจั จุบนั ท่ีคนนิยมผิวขาวใสกันมากข้ึนการปรับปรุงสูตรโลชั่นจึง เนน้ ไปท่กี ารทาให้ผวิ ขาวกระจา่ งใสโดยความท่โี ลชั่นซึมเร็วจึงทาให้สะดวกต่อการใช้งาน สามารถทาตอนเช้าก่อนไปเรียนไปทางานไปใช้ชีวติ ระหว่างวนั ไดอ้ ย่างไมเ่ หนยี วเหนอะ

๗ แม้มีเหง่อื ออกโลชัน่ เหมาะสาหรับผู้ทมี่ ผี วิ ผสมถึงผิวคอ่ นไปทางมนั แต่สาหรับการทาหน้า ผู้ ที่ มี ผิ ว มั น ก็ ต้ อ ง ร ะ วั ง ปั ญ ห า ก า ร อุ ด ตั น รู ขุ ม ข น อ ยู่ บ้ า ง เ ห มื อ น กั น เ พ ร า ะ แ ม้ ว่ า ส่วนประกอบหลักของโลช่ันจะเป็นน้าแต่ก็มีน้ามันเป็นส่วนผสมอยู่ด้วยจึงอาจทาให้สิว ขึ้นได้สาหรับผิวผสมโลช่ันถือว่าเหมาะมากท่ีจะทาให้การบารุงผิวน้ันเป็นไปอย่างดี เพราะโลช่นั สามารถบารุงผวิ ไดอ้ ยา่ งพอดี ไมแ่ ห้งไปไมเ่ หนยี วไปน่ันเอง ๓. ซรี มั่ Serum ซีรั่มถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากครีมและโลช่ันเป็นการ กล่นั เอาคุณสมบัติพิเศษตา่ ง ๆ มารวมไว้ในผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวท่ีจะช่วยดูแลผิวได้อย่าง ล้าลึกซีรั่มจะเน้นไปท่ีการดูแลผิวเพ่ือให้เห็นผลชัดเจนและเร่งด่วนหรืออาจะไวข้ึนกว่า การใช้ครีมหรือโลชั่นทั่วไปสาหรับซีรั่มมีเน้ือผลิตภัณฑ์ท่ีแตกต่างจากครีมและโลชั่นโดย สิน้ เชิงซรี ั่มจะมีเน้อื ใสลักษณะอาจคลา้ ยน้าแต่มคี วามเหนียวอยู่ใน นน้ั เนื้อเซรั่มส่วนใหญ่ จะบางเบาซึมเร็วไม่ท้ิงคราบไว้บนผิวแต่ทั้งนี้ก็ข้ึนอยู่กับแต่ละแบรนด์ว่าจะมีสูตรในการ ผลติ เช่นไรอาจจะทงั้ ซีรั่มที่เหมาะกบั ผ้มู ผี วิ มันผวิ แห้งซีรัม่ เพอื่ บารุงผิวใหช้ มุ่ ช้ืนซีรั่มที่เน้น เรื่องของการซ่อมแซมผิวหรือซีร่ัมที่เน้นเรื่องการลดเรือนริ้วรอยโดยในการใช้เซรั่ม ๓-๔ หยด อาจจะเทา่ กับการใช้ครีมหรอื โลชัน่ เต็มหนงึ่ ฝุามอื เลยทเี ดียว

๘ ๔. เจล Gel สาหรับผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสประเภทเจลน้ันจะสามารถให้ ความชุ่มชื้นไดม้ ากเพราะมี สารประกอบประเภท Polymer ที่มีคุณสมบัติในการกักเก็บ น้าทาให้เน้อื ผลติ ภัณฑส์ ามารถอุ้มน้าไว้ได้มากเมื่อทาลงบนผิวจึงทาให้ผิวได้รับความชุ่ม ช้ืนได้อย่างเต็มที่เรามักพบผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเจลได้จากผลลิตภัณฑ์บารุงผิวหน้าอย่ าง SleepingGel, NightGel ทีเ่ นน้ ใชก้ อ่ นนอนเพอ่ื บารุงผิวอย่างล้าลึกยามหลับไหลเม่ือต่ืน ขึน้ มาผวิ จะไดฟ้ ูอวบอิม่ ช่มุ ช่ืนเหมือนกับว่าผิวได้ทานน้าเยอะ นอกจากนี้ก็ยังมี EyeGel ท่ีเป็นอกี หน่ึงตวั ท่ีคนนยิ มกนั มากเพราะรอบดวงตามีลักษณะท่ลี ะเอียดออ่ นเกิดริว้ รอยได้ ง่ายการใช้เจลซ่ึงมีความชมุ่ ชืน้ สงู จึงสามารถชว่ ยปูองกนั การเกิดร้วิ รอยได้เป็นอยา่ งดี ๕. อีมลั ช่นั Emulsion เราอาจไม่คุ้นเคยกับช่ือผลิตภัณฑ์ประเภทนี้นักแต่อีมัลช่ัน ถอื เป็นอกี ผลติ ภณั ฑ์ประเภทหน่ึงที่กาลังได้รับความนิยมมากขึ้นเร่ือย ๆ อีมัลชั่นเหมือน เป็นโลชน่ั และเจลผสมกันมคี วามเขม้ ข้นแต่ก็ ไม่ข้นจนเกินไปมีความบางเบาซึมง่ายแต่ก็

๙ ไม่ทาให้ผิวแห้งมีส่วนผสมของน้าที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดีแต่ก็ไม่ทาให้ เหนอะหนะสาหรับการใช้อีมัลชั่นน้ันนิยมใช้หลังซีรั่มเพราะมีเนื้อสัมผัสท่ีหนากว่าซีรั่ม และเหมาะสาหรบั ผู้มผี ิวผสมผิวมนั อมี ัลชัน่ สามารถบารงุ ผวิ ช้ันนอกไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ซมึ เร็ว จงึ สามารถใช้เป็น Day Cream ไดเ้ ลย ๖. เอสเซ้นส์ Essence เอสเซนส์ผลิตภัณฑ์ยอดฮิตในแถบเอเซียเราอาจคุ้นหูกับ ผลิตภณั ฑ์เอสเซ้นส์หลาย ๆ แบรนด์ จากทั้งญ่ีปุนและเกาหลีเอสเซ้นส์จะเน้นไปทาการ บารุงผิวจากภายในด้วยลักษณะของเนื้อผลิตท่ีภัณฑ์ซึมลงสู่ผิวได้ง่ายจึงทาให้ผิวได้รับ ประโยชน์จากการบารงุ ได้เต็มท่ีประโยชน์ของเอสเซ้นส์มักเน้นไปที่การฟื้นฟูผิวทาให้ผิว แข็งแรงส่วนผสมหลักของเอสเซ้นส์นั้นเป็นน้าถือผลิตภัณฑ์ที่เป็น Water Base แต่มี ความเข้มข้นสูง เอสเซ้นส์จึงเหมาะมากสาหรับผู้ที่แพ้น้ามันในครีมหรือโลช่ัน แต่ใน ขณะเดียวกนั สาหรับผทู้ ตี่ อ้ งการความชุ่มช้นื ผลิตภัณฑป์ ระเภทเอสเซ้นส์ก็อาจจะไม่ตอบ โจทย์หนักแต่เราสามารถใชเ้ อสเซนส์ได้ทุกวันไม่ว่าเช้าหรือค่าแล้วสามารถทาผลิตภัณฑ์ อื่นตามไดท้ นั ทีเพราะเอสเซน้ สน์ ้ันซึมซาบเร็วนอกจากน้ีเอสเซ้นส์ยังเป็นเน้ือผลิตภัณฑ์ที่ เหมาะกบั ทุกสภาพผิวอีกดว้ ย

ตอนที่ ๒ สมุนไพรทาโลชั่นทากันยงุ สมนุ ไพรทาโลชน่ั ทากันยุง ๒.๑ ชนดิ และสรรพคณุ ของสมุนไพรทใี่ ชท้ าโลช่ัน ๑) ตะไคร้หอม ช่อื วงศ์ : GRAMINEAE ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ : Cymbopogon nardus Rendle ชื่อสามัญ : Citronella grass ชื่อพ้ืนเมืองอ่ืน : จะไคมะขูด, ตะไครมะขูด (ภาคเหนือ) ; ตะไคร้แดง (นครศรีธรรมราช) ; ตะไคร้หอม (ภาคกลาง) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ หญ้า (ExG) เป็นไม้ล้มลุกประเภทหญ้า ลาต้นเป็นกอใหญ่มีข้อเห็นชัดเจน สูงประมาณ ๑-๒ เมตร ยอดโน้มลง มีใบปกคลุมตามข้อ ลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอก ยาว แข็งและเกลยี้ ง มีรากฝอยแตกออกจากโคน

๑๑ ใบ เป็นใบเด่ียว ลักษณะใบแคบยาว รูปใบหอกแกมรูปไข่กลับ ขอบใบเรียบ และมีขนเล็กน้อย โคนใบสอบเรียว ปลายใบเรียวแหลมหรือแหลมแข็ง แผ่นใบสีเขียว ขอบและผิวใบสาก มีเส้นใบขนานตามยาว สีขาวนวล เส้นกลางใบแข็ง มีกาบใบหุ้มลา ตน้ แบบหลวม ๆ แตกใบออกเป็นกอ ดอก ออกดอกเป็นช่อเล็ก ๆ แบบชอ่ ดอกย่อย มชี อ่ ดอกย่อย ๑-๑๒ ช่อ และมี ใบประรองรับ ชอ่ ดอกยอ่ ยแบนออกเปน็ คู่ ชอ่ หนึ่งไม่มีก้าน และอีกช่อหนึ่งมีก้าน มีรังไข่ แบบเหนอื วงกลบี นิเวศวิทยาเป็นพืชเขตร้อน พบทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศ ไทยนิยมปลูกในสวนครัวเพือ่ ใชท้ ายา การปลูกและขยายพนั ธุ์ เปน็ ไมก้ ลางแจ้งท่ชี อบแสงแดด เจรญิ เติบได้ดีในดนิ ร่วนซุย ขยายพันธ์ุโดยการ แยกกอ แยกตน้ และเหงา้ ปกั ชาโดยตดั ปลายต้นให้เหลอื ประมาณ ๑๕-๒๐ เซนตเิ มตร ประโยชน์ทางยา รสและสรรพคณุ ในตารายา รากและต้น รสหอมปร่าขม เป็นยาแก้แผลในปาก แก้ปากแตกระแหง ทาให้ แท้งบุตร ขบั ระดู ขับลมในไส้ แก้อาการแนน่ จุกเสยี ด แกอ้ าเจยี น แกไ้ ข้ น้ามันจากตน้ ทา ปูองกนั ยงุ จงึ นิยมนาต้นสดมาทุบแล้ววางไว้ ปูองกันยงุ ได้ดี วธิ ีและปรมิ าณท่ีใช้ ไล่ยุงหรือไล่แมลง โดยใช้ต้นสด ๕-๗ ต้น นามาทุบให้แตกเป็นฝอย ตัดเป็น ทอ่ นนาไปวางไวใ้ นที่ทม่ี ียุงชุกชุม เม่ือกล่ินน้ามันระเหยออกมา ยุงและแมลงจะหนีหมด หรืออาจจะใช้นา้ มันหอมระเหยที่ได้จากการกล่ันทาตามตวั ก็ได้ ข้อควรทราบ ๑. สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน เพราะจะทาให้แท้งได้ เน่ืองจากมีฤทธ์ิใน การบีบรัดมดลูก ๒. ใบและก้านใบ มีสารสาคัญ คือ Essential oil และLactone เมื่อนามา กล่นั จะได้นา้ หอมระเหย ใชเ้ ป็นเครอ่ื งหอม เช่น สบู่ พ่น หรือทาผิวกันแมลง และมีฤทธิ์ ตา้ นเชือ้ รา

๑๒ มะกรูด ประโยชน์ของมะกรูดและสรรพคุณมะกรูดมีมากมายทั้งช่วยเสริมความงาม และบารงุ สุข ภาพ มะกรูดเป็นสมนุ ไพรทนี่ ยิ มใชก้ ันมาตงั้ แตใ่ นสมยั โบราณ ไม่ว่าจะนามาใช้ในการ ทาอาหาร ช่วยบารุงสุขภาพเสริมความงามหรือแม้แต่นามาปลูกเพ่ือเป็นสิริมงคล นอกจากนีม้ ะกรูดยังมี ประโยชน์และสรรพคุณดีอีกมากมายท่ีไม่ควรมองข้ามเรามาทา ความรจู้ กั กบั เจ้าพชื สมนุ ไพรผวิ ขรุขระชนิดนี้กันให้ดีข้ึนกว่าเดิมดีกว่าค่ะ พร้อมแล้วไปดู กนั เลย มะกรูด หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Kaffir lime, Leech lime, Mauritius papeda มีช่ือวทิ ยาศาสตร์วา่ Citrus x hystrix L. นอกจากน้ีในประเทศไทยยังมีช่ืออีก หลากหลายชื่อ อาทิเช่น มะขู (แม่ฮ่องสอน), มะขุน มะขูด (คเหนือภา), ส้มกรูด โดยมี ถ่นิ กาเนิดในประเทศไทย ลาวมาเลเซียและอินโดนีเซยี ลักษณะของมะกรูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เนื้อไม้แข็ง ลาต้นและกิ่งมีหนาม ยาวเลก็ นอ้ ย ใบเป็นใบประกอบชนดิ ลดรูป มใี บย่อย ๑ ใบ เรียงสลบั รปู ไข่ คือมีลกั ษณะ คล้ายกับใบไม้ ๒ ใบ ต่อกันอยู่ คอดก่ิวที่กลางใบเป็นตอน ๆ มีก้านแผ่ออกใหญ่เท่ากับ แผ่นใบ ทาให้เห็นใบเป็น ๒ ตอน กว้าง ๒.๕-๔ เซนติเมตร ยาว ๔-๗ เซนติเมตร ใบสี เขียวแก่พ้ืนผิวใบเรียบเกล้ียง เป็นมัน ค่อนข้างหนา มีกล่ินหอมมากเพราะมีต่อมน้ามัน อยู่ ซึ่งผลแบบน้ีเรียกว่า ผลแบบส้ม (hesperitium) ใบด้านบนสีเข้ม ใต้ใบสีอ่อน ดอก ออกเป็นกระจุก ๓–๕ ดอก กลีบดอกสีขาว เกสรสีเหลือง ร่วงง่าย มีกล่ินหอม มีผลสี

๑๓ เขียวเข้มคล้ายมะนาวผิวเปลือกนอกขรุขระ ขั้วหัวท้ายของผ-ลเป็นจุก ผลอ่อนมีเป็นสี เขยี วแกเ่ ม่อื ผลสกุ จะเปลย่ี นเปน็ สเี หลอื งสดพันธ์ุทม่ี ีผลเล็กผิวจะขรุขระนอ้ ยกวา่ และไม่มี จุกที่ขว้ั ภายในมเี มล็ดจานวนมาก ๆ สรรพคณุ มะกรดู กับคณุ ประโยชนท์ างยาที่ไมค่ วรมองข้าม มะกรูดเป็นพืชสมุนไพรโบราณท่ีมีคุณประโยชน์ทางยามากมาย โดยสามารถ นาส่วนต่าง ๆ มาใช้รักษาอาการต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย มะกรูดมีสารต้านอนุมูล อิสระสูง จึงมีส่วนช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายและต้านทานโรคหลายชนิด รวมทัง้ มะเร็งบางชนิดด้วย นอกจากนี้มะกรูดยังมีฤทธิ์ในการช่วยยับย้ังการเจริญเติบโต ของเช้ือจุลินทรีย์ อย่างเช่นเชื้ออีโคไล (E.coli) และซาลโมเนลลา (Salmonella) ได้ ช่วยบารุงประจาเดือน ขับระดู และมักเป็นส่วนผสมสาคัญในยาสตรีต่าง ๆ อีกด้วย ไม่ เพียงแค่น้ัน ส่วนตา่ ง ๆ ของมะกรูดยงั มีประโยชน์อีกมากมาย รากมะกรูด - รากของมะกรดู มีรสจืดเย็น สามารถช่วยแก้อาการไข้ ถอนพิษสาแดง แก้ลม จุกเสยี ด กระทุ้งพิษไข้ แก้พษิ ฝภี ายใน และช่วยอาการเสมหะเปน็ พิษ ผวิ มะกรดู - ผิวของมะกรดู สามารถช่วยแกอ้ าการนอนไมห่ ลบั ไดโ้ ดยนาผิวของมะกรูดบด รวมกับรากชะเอม ไพล เฉยี งพรา้ ขมิ้นอ้อย แลว้ นามาตม้ นา้ ด่ืม

๑๔ - เป็นยาบารงุ หวั ใจ โดนนาผิวมะกรูดฝานสดประมาณ ๑ ช้อนโต๊ะ มาผสม กับพมิ เสนหรือการบูรชงในนา้ เดือดแล้วแชท่ ิ้งไว้ จากน้นั นามาดืม่ - ช่วยแก้อาการเป็นลม หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ โดยนาเปลือกมะกรูดฝาน บาง ๆ ชงกับน้าเดอื ดแล้วเตมิ การบรู เลก็ น้อย นามาดืม่ เพื่อแก้อาการ - ช่วยขบั ลมในลาไส้ แก้อาการจกุ เสียด ทอ้ งอืด แน่นท้องได้ - ชว่ ยขบั สารพิษท่ีอยู่ในร่างกายให้ออกมาทางผิวหนังโดยการนาผิวมะกรูด มาใช้เป็นส่วนประกอบในการอบซาวนา่ สมุนไพร ใบมะกรูด - ช่วยแก้ไอ แก้อาการอาเจยี นเป็นเลือด - ชว่ ยแก้อาการช้าใน - ใบมะกรูดอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนซึ่งช่วยในการชะลอการขยายตัวของ เซลล์มะเรง็ และชว่ ยต่อต้านมะเร็งได้ ผลมะกรูด - ชว่ ยแกอ้ าการไอ ขบั เสมหะ โดยการนามะกรูดผ่าคร่ึงและนาไปลนไฟให้นิ่ม แลว้ ค่อย ๆ บบี นา้ มะกรดู ลงคอทีละนิดจะชว่ ยทาใหอ้ าการบรรเทาลงได้ - ชว่ ยฟอกโลหิต โดยนาผลมะกรูดสดมาผ่าเป็น ๒ ซีกแล้วนาไปดองกับเกลือ หรือนา้ ผึง้ ประมาณ ๑ เดอื น แล้วรินเอาแตน่ า้ ด่ืม

๑๕ - ชว่ ยแกอ้ าการปวดทอ้ ง หรอื ใช้เป็นยาแกป้ วดทอ้ งในเด็กออ่ น โดยการนาผล มะกรดู มาควา้ นไส้กลางออก นามหาหิงคใุ์ สแ่ ละปดิ จุก แลว้ นาไปเผาไฟจนดาเกรียมและ บดจนเป็นผงละลายกับนา้ ผึ้งไว้รับประทานแกอ้ าการปวดได้ - ช่วยขับระดู ขับลม โดยผลมะกรูดนามาดองทาเป็นยาดองเปรี้ยวไว้ รับประทาน - ชว่ ยแกอ้ าการน้าลายเหนียว - แกเ้ ถาดานในทอ้ ง - แกร้ ะดเู สีย ขับระดู - ชว่ ยขับลมในลาไส้ นอกจากนี้น้าจากผลมะกรูดยังสามารถใช้แก้อาการเลือดออกตามไรฟันได้อีก ด้วย โดยใช้น้ามะกรูดถูบาง ๆ บริเวณเหงือกหลังแปลงฟันเสร็จจะช่วยทาให้อาการ เลอื ดออกตามไรฟนั บรรเทาลงได้ ประโยชนข์ องมะกรดู สมุนไพรสารพดั ประโยชน์ มะกรูดเปน็ พชื สมนุ ไพรท่ีอยู่คู่กับคนไทยมานาน ถูกนามาใช้ในการปรุงอาหาร คาวหวานต่าง ๆ และยังนามาใช้ในพระราชพิธีสาคัญอย่างเช่น พระราชพิธีโสกันต์ ซ่ึงระบุไว้ว่าจะต้องมีผลมะกรูดและใบส้มปุอยในการประกอบพิธี น้าของมะกรูด

๑๖ กส็ ามารถนามาใช้แทน หรอื นามาผสมกับน้ามะนาวเพื่อใช้ปรุงอาหารได้อีกด้วย โดยน้า มะกรดู นน้ั จะมรี สเปร้ียวกลมกลอ่ มและมกี ลิ่นของน้ามนั หอมระเหยเพิ่มข้ึน มะกรดู ไลย่ ุง ไลแ่ มลง ในมะกรูดมีน้ามันหอมระเหยอยู่มาก มีกลิ่นฉุน จึงสามารถนาไปใช้ไล่แมลง บางชนิดได้ เช่น มอดและมดท่ีอยู่ในข้าวสาร ด้วยการใช้ใบมะกรูดสด ๆ ฉีกใบเป็น ๒ ส่วน ให้กลิน่ ออก แลว้ ใสไ่ ว้ในถงั ขา้ วสารกจ็ ะทาใหม้ อดและมดไม่ขน้ึ ข้าวสาร แล้วถา้ หาก ถูกปลิงกัดละก็ ให้นามะกรูดมาถูตรงบริเวณท่ีมีปลิงเกาะจะทาให้ปลิงหลุดออกมาเอง นอกจากน้ีมะกรูดสามารถใช้ในการไล่ยุงและกาจัดลูกน้าโดยนาเปลือกมาตากแห้งแล้ว นาไปเผาไฟก็จะสามารถไลย่ งุ ได้ ในปจั จุบัน มีการนามะกรูดมาแปรรปู เปน็ ผลิตภณั ฑ์ปอู งกันยุงและแมลงต่าง ๆ ซึง่ ในการเกษตรก็ไดม้ กี ารนาน้ามนั หอมระเหยมะกรูดมาผลิตในรูปของแคปซูลเพื่อใช้ไล่ แมลงและหนอนสาหรบั เกษตรกร โดยนาไปโปรยยังบรเิ วณทตี่ อ้ งการไล่แมลง แลว้ น้ามัน จะค่อย ๆ ซมึ ออกจากแคปซูล วิธีการนี้ทาให้เกษตรกรใช้สารเคมีลดลงเป็นผลให้พืชผล ทางการเกษตรปลอดสารเคมมี ากขึน้ อีกด้วยคะ่ มะกรดู บารุงผม มะกรดู ชว่ ยบารุงผมให้เงางาม แก้อาการผมร่วง โดยการนามะกรูดผ่าครึ่ง มา ชโลมบนศีรษะหลงั สระผมเสร็จทิง้ ไว้สักพกั แลว้ ล้างออก ก็จะชว่ ยทาให้ผมดาเงางามและ ลดผมรว่ งได้ หรอื จะนาน้ามะกรดู มาหมกั ผมทิ้งไว้ประมาณ ๑๐ นาที ก็สามารถช่วยล้าง สารพษิ ตา่ ง ๆ ทม่ี าจากสภาพแวดลอ้ มได้

๑๗ ผมสวยไรร้ ังแคด้วยมะกรดู สูตรนเ้ี หมาะสาหรับขจัดรังแค แก้คันศรี ษะ ใชห้ มกั ผมและหนังศรี ษะ - นามะกรดู เผาไฟให้พอมีน้ามนั ซึมออกมาจากผิว และมีกล่ินหอม แล้วนามา ผ่าครึ่ง - บบี นา้ มะกรูดมาชโลมให้ท่ัวหนังศีรษะ หมักไว้ประมาณ ๑๕-๓๐ นาที ล้าง ออกด้วยน้าสะอาด ผมน่มุ ลืน่ สลวยดว้ ยมะกรดู สตู รนี้สามารถสระแทนแชมพูไดจ้ ะทาให้ผมนิม่ ลื่น และรักษาอาการคันศีรษะ ได้อีกดว้ ย - นามะกรูดผา่ คร่งึ ตม้ กบั น้าเล็กน้อย สัดสว่ น น้า/มะกรดู คือ ๒ : ๑ ตั้งไฟพอ เดือนยกลง ปิดฝาท้งิ ไว้ จากนั้นนามาคัน้ กรองดว้ ยผ้าขาวบาง - นาน้ามะกรูดทีไ่ ด้มาชโลมใหท้ ว่ั เสน้ ผมและหนังศรี ษะ ใชท้ าความสะอาดเสน้ ผมแทนแชมพู หรอื ใชเ้ คลือบเสน้ ผมแทนครีมนวดผมก็ได้

๑๘ มะกรดู ดบั กล่นิ มะกรูดสามารถดบั กล่นิ ตา่ ง ๆ อย่างเชน่ กล่นิ คาวของอาหารคาวหาน หรอื จะ เป็นกลิน่ ที่ไมพ่ งึ ประสงคข์ องเท้าโดยการนามาผสมกับขิง ข่า และเกลือในปริมาณเท่า ๆ กัน ต้มให้น้าอุ่นแล้วแช่เท้าลงไปประมาณ ๑๕ นาที ก็จะช่วยลดกล่ินอับท่ีเท้าและช่วย คลายความเมือ่ ยลา้ ได้ มะกรูดสามารถนามาใช้ดูดกลิ่นที่มาจากรองเท้าหรือกล่ินท่ีอยู่ใน ตู้รองเทา้ ได้ ด้วยการใช้ผิวมะกรดู ตะไคร้หอม ถ่านปุน และสารส้ม มาใส่ถุงที่ทาจากผ้า ขาวบาง เอาไปใส่ไวใ้ นตู้รองเท้าหรอื ในรองเทา้ จะทาใหก้ ลิน่ ต่าง ๆ หายไป มะกรดู มีโทษหรือไม่ มะกรดู จะเปน็ พชื สมนุ ไพรทม่ี ปี ระโยชน์แต่ถ้าหากใช้น้ามันมะกรูดสัมผัสกับผิว โดยตรง เมื่อไปถูกแสงแดดก็อาจจะทาให้เกิดอาการแพ้แสงแดดจนกลายเป็นแผลไหม้ ได้ เพราะในน้ามะกรูดมีสารออกซิเพดามิน (oxypedamin) ซ่ึงจะทาให้เกิดอาการแพ้ เม่ือโดนแสงแดด (photo toxicity) และสารดีไลโมนีน (d-limonene) ซึ่งเมื่อโดน อากาศเป็นเวลานานก็อาจจะทาให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองได้ ดังนั้นเพื่อความ ปลอดภัย หากนาน้ามะกรูดมาสัมผัสกับผิวแล้วละก็ ภายในสี่ช่ัวโมงไม่ควรให้บริเวณที่ โดนนา้ มะกรดู ถกู แสงแดด ๒.๒ ประโยชนข์ องโลชนั่ สมุนไพรทากนั ยุง ใชส้ าหรับทาผวิ หนัง ออกฤทธ์ไิ ลย่ งุ ได้นานมากกว่า ๖ ช่ัวโมง ซึ่งออก ฤทธิ์ได้นานกว่าผลิตภัณฑ์โลชั่นกันยุงท่ัวไป และปูองกันยุงกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไมก่ อ่ ให้เกดิ การระคายเคืองผวิ หนัง

ตอนที่ ๓ วสั ดุ อปุ กรณโ์ ลชน่ั ทากนั ยงุ วสั ดุ อปุ กรณ์การทาโลช่ันทากนั ยงุ ๑.) Viscolam โพลีเมอร์ก่ึงสาเร็จรูปช่วยเพ่ิมความหนืดและเป็นตัวเชื่อมน้ากับน้ามัน ใหก้ ับเนอ้ื ครมี ใชไ้ ด้ท้งั ในสูตรเยน็ และสูตรร้อนเน้ือครีมซึมง่ายขี้ไคลน้อยสามารถใช้ปรับ เนื้อครมี ทีเ่ หลวให้ขน้ ข้นึ ไดด้ ี ไมจ่ ับตัวเปน็ ก้อนหรอื เม็ดสาคู ๒.) กรีเซอรนี กลีเซอรีน เป็นของเหลวท่ีไม่มีสี ไม่มีกล่ิน มีความหนืด และมีรสหวาน โดยปกติมาจากน้ามันของพืช ซึ่งโดยท่ัวไปคือ น้ามันมะพร้าว และน้ามันปาล์ม กลีเซอ รนี สามารถละลายได้ดใี นแอลกอฮอลแ์ ละนา้ แตไ่ มล่ ะลายในไขมัน เน่ืองจากกลีเซอรีนมี คุณสมบัติทางเคมีท่ีหลากหลายจึงสามารถนาไปใช้เป็นสารต้ังต้นในการสังเคราะห์ สารเคมีอ่ืน ๆ ได้ด้วยคุณสมบัติท่ีสามารถละลายในแอลกอฮอล์และน้าได้น่ีเอง จึง นาไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง ซึ่งกลีเซอรีนบริสุทธ์ิสามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้ใน หลายรูปแบบเช่นใช้เป็นส่วนผสมหรือเป็นตัวช่วยในกระบวนการผลิตเครื่องสาอาง ผลิตภัณฑ์ในห้องน้าและสุขอนามัยส่วนบุคคล อาหาร ยาสีฟัน ยาสระผม และนิยมใช้ มาหในอุตสาหกรรมสบู่ เพราะกลีเซอรีนเป็นส่วนช่วยหล่อล่ืนเหมือนมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เพ่ือปกปูองผิวไม่ให้แห้งและดูดซับความชื้นเม่ือสัมผัสกับอากาศซึ่งจะทาให้รู้สึกว่าผิวมี

๒๐ ความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิว ขจัดความสกปรกที่ฝังแน่น ไม่ทาให้อุดตันรูขุมขน รวมท้ัง ปลอดภยั ตอ่ ผวิ หนงั ๓.) ครีมกนั เสีย สารกันเสียเป็นสารยับย้ังการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ได้แก่ แบคทีเรีย เช้ือรา และเช้ือยีสต์ เพ่ือปูองกันมิให้เครื่องสาอางเสียง่าย อาจมาจาก ธรรมชาตหิ รอื สารท่สี งั เคราะห์ขึ้น เพื่อปอู งกันการเน่าเสียทง้ั จากการเจรญิ เตบิ โตของเชื้อ แบคทีเรียและการแปรสภาพทางเคมี

๒๑ ๔.) ไวท์ออยล์ ไวออยล์เป็นสารท่ีมาจากปิโตรเลียม นามาใช้ในการปูองกันศัตรูพืชโดย การปกคลมุ หรอื แทรกซึมเข้าไปในศัตรูพชื (โดยเฉพาะแมลง) เท่านั้น ๕.) ALANTOUN อะลานโทอิน Allantoin สารสงั เคราะห์ท่ีเกิดข้ึนโดยธรรมชาติของต้น Comfrey ถูกใช้ อยา่ งแพรห่ ลายในเครือ่ งสาอางและยา โดยทาหน้าที่ลดการระคายเคือง ต่อต้านการแพ้ ต่างๆ ของผิว (Soothing and Anti-Irritating) และเสริมสร้างการสร้างเนื้อเยื่อ )Granulation Tissue) ทส่ี มบูรณ์ขึ้นมาใหม่ ปลอดภัยและไร้ผลข้างเคียง สามารถใช้ได้ แมใ้ นผลติ ภัณฑ์สาหรบั เด็กทารก

๒๒ ๖.) น้าสะอาดช่วยผสมเนอ้ื ครมี ลดความเหนยี วหนืด ๗.) น้ามนั ตะไครห้ อม ๙) ขวดบรรจุภัณฑ์

ตอนท่ี ๔ ข้ันตอนการวิธกี ารทาโลชนั่ สมนุ ไพรทากนั ยุง ขั้นตอนการทา ๑. นา ALANTOIN ๑๐ กรัม ผสมกับน้าสะอาด ๗ กิโลกรัม กวนผสมให้เข้า กนั ๒. นาไวทอ์ อย ๔๕๐ ซีซี ใส่ลงไปกวนใหเ้ ขา้ กนั

๒๔ ๓. นาวิสคอแลม ๖๔P (๒๐๐ ซีซี) ค่อยเทไปกวนไปจนโลช่ันเร่ิมข้นข้ึนและ เปน็ เน้ือครมี ๔. นากรีเซอรนี ใส่ลงไปกวนให้เขา้ กนั กลเี ซอรีน ๕. นากันเสยี , นา้ มนั ตะไครห้ อม, น้าหอม ใส่ลงไปกวนใหเ้ ขา้ กนั

๒๕ ๖. จัดเตรียมใสภ่ าชนะบรรจุ หมายเหตุ สามารถเพม่ิ สารสกัดบารุงผวิ ชนิดต่าง ๆ รวมท้งั น้ามันบารุงผวิ

ตอนที่ ๕ การจดั การและการจาหน่าย การคานวณต้นทุนผลผลติ การกาหนดหรือการตัง้ ราคาสนิ คา้ ควรต้องอยู่ในระดับที่ผู้ซ้ือพึงพอใจ และใน ขณะเดียวกันผู้ผลิตกต็ ้องมกี าไร ซ่งึ มหี ลกั ในการกาหนดราคาสนิ ค้าอย่างง่าย ๆ คอื กาไร = ตน้ ทนุ การผลติ - คา่ ใชจ้ า่ ย ตัวอยา่ ง ตน้ ทนุ การผลิต ๑,๐๐๐ บาท บาท คา่ วัตถุดิบ ๘๙๐ บาท ขวด คา่ แรง ๑๑๐ บาท จานวนสินคา้ ที่ผลิตได้ ขนาดขวดบรรจภุ ณั ฑ์ ขนาด ๕๐๐ ML ได้ ๑๖ บาท ราคาสนิ ค้าขายขวดละ ๒๕๐ บาท จานวนเงนิ ทไ่ี ดร้ ับจากการจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ ๔,๐๐๐ กาไรท่ีได้รบั จากการจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ ๓,๐๐๐

๒๗ แบบทดสอบหลงั เรยี น จงเลอื กตอบในช่องทีถ่ ูกตอ้ งท่ีสุด ช่อื - สกลุ ......................................................................... ข้อท่ี ๑ สาเหตุทท่ี าให้เกิดโรคไข้เลือดออกคือยุงลายใชห่ รอื ไม่ ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่ ข้อที่ ๒ ตระไคร้หอมและผวิ มะกรดู เปน็ สมนุ ไพรใชใ้ นการทาเป็นโลชน่ั สมนุ ไพรทากนั ยุงใชห่ รอื ไม่ ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่ ข้อที่ ๓ กลเี ซอรีนเป็นสารท่ีมสี รรพคุณไลย่ ุงใช่หรอื ไม่ ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่ ข้อท่ี ๔ อะลานโทอนิ เป็นสารให้ความชมุ่ ช่ืนแก่ผิวหนงั ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่ ขอ้ ที่ ๕ นา้ กล่ันบริสทุ ธเิ์ ป็นตัวช่วยสกดั ตะไคร้หอมและมะกรูดให้เปน็ นา้ มันหอมระเหย ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่ ข้อที่ ๖ การกวนสว่ นผสมต้องกวนไปในทางเดยี วกนั ตลอด ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่ ขอ้ ท่ี ๗ โลชั่นสมุนไพรทที่ าทาปูองกันยุงและยังชว่ ยให้ผิวหนังชุมชนื่ ได้ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ ขอ้ ท่ี ๘ การทาโลชั่นสมุนไพรทากันยุงใช้ส่วนผสมจากสารสงั เคราะห์ทงั้ หมด ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่

๒๘ ข้อที่ ๙ การเรยี นรคู้ รงั้ น้ีสามารถชว่ ยลดรายจา่ ยและพัฒนาเป็นอาชพี ได้ ( ) ใช่ ( ) ไมใ่ ช่ ข้อท่ี ๑๐ การเรียนรู้ครั้งนีม้ ีประโยชนต์ ่อตนเองและสิ่งแวดลอ้ มใช่หรอื ไม่ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ QR CODE แบบทดสอบหลักสตู รการทาโลชน่ั สมนุ ไพรทากันยุง

๒๙ เฉลย แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลงั เรยี น ๑. ใช่ ๒. ใช่ ๓. ไม่ใช่ ๔. ไมใ่ ช่ ๕. ใช่ ๖. ไมใ่ ช่ ๗. ใช่ ๘. ไมใ่ ช่ ๙. ใช่ ๑๐.ใช่

๓๐ รายการอา้ งองิ ความสาคัญของพืชสมุนไพร.โลกแห่งสมุนไพร:รังสรรค์ ชณุ หวรากรณ.์ (ออนไลน)์ เข้าถงึ ได้จากhttp://www.angelfire.com/ri๒/rangsan/important.html สบื คน้ เมื่อวนั ที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๓. ประโยชนข์ องสมุนไพร.สมนุ ไพร healthherb (ออนไลน)์ เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://healthherb.wordpress.com สบื คน้ เมอ่ื วันที่๑๘ เมษายน ๒๕๖๓. มะกรดู ประโยชนข์ องมะกรดู สมนุ ไพรหลากสรรพคุณคูค่ รวั ไทย.(ออนไลน์) เข้าถงึ ไดจ้ าก http://health.kapook.com/view๙๗๘๑๑.html สืบค้นเม่ือวนั ที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๓.

๓๑ ผูจ้ ัดทาสื่อประกอบหลักสตู ร ท่ปี รกึ ษา นายพัฒนา เพชรคชสิทธ์ิ ผู้อานวยการศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมวัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร อนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ นางสาวไพจติ ร คงแกว้ รองผู้อานวยการศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมวัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร อนั เนื่องมากจากพระราชดาริ ผู้จัดทา นางสาวรตั นา ตะราษี ครู ศนู ย์ฝกึ และพัฒนาอาชพี เกษตรกรรมวัดญาณสงั วรารามวรมหาวหิ าร อนั เนอื่ งมากจากพระราชดาริ ผูจ้ ดั ทาขอ้ มลู /เรยี บเรยี งเน้อื หา/รปู เล่ม

๓๒