Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นางสาวนติยา ตาเดอิน เลขที่ 40 Sec.2 รหัส 6117701001084

นางสาวนติยา ตาเดอิน เลขที่ 40 Sec.2 รหัส 6117701001084

Published by Natiya.7142, 2020-06-07 00:56:39

Description: นางสาวนติยา ตาเดอิน เลขที่ 40 Sec.2 รหัส 6117701001084

Search

Read the Text Version

การพยาบาล การพยาบาล ระยะพกั ท้อง (1-2สัปดาห์) ระยะหลงั พกั ท้อง -ไม่ใหแ้ ผลโดนน้า -หมนั่ ตรวจสอบสายทาความสะอาด -หา้ มเปิ ดแผลเอง -ตอ้ งไดร้ ับการยนื ยนั จากแพทยว์ า่ แผลแหง้ -ลดกิจกรรมท่ีทาใหเ้ หง่ือออก สนิท ถึงจะอาบน้าได้ -งดใส่เส้ือผา้ รัดเกินไป -หา้ มแป้งทาครีมบริเวณช่องทางออกของ -หาก ปวด บวม มีไข้ หรือบวมส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย สาย -ติดพลาสเตอร์เพื่อกนั การดึงร้ัง ใหไ้ ปพบแพทย์ -จากดั น้าด่ืม -เลี่ยงกิจกรรมที่เพ่มิ แรงดนั ในช่องทอ้ ง -ตดั ไหม 7-10วนั -หากมีเลือดออก น้ารั่วซึมใหพ้ บแพทย์

การพยาบาล ระยะล้างไตทางช่องท้อง (มักเร่ิมล้างในสัปดาห์ท่ี 4) -เนน้ การลา้ งมือ Medical hand washing -ประเมินน้ายาและจดบนั ทึก -รักษาความสะอาดสิ่งแวดลอ้ ม - เฝ้าระวงั อาการแทรกซอ้ น น้าออกนอ้ ย น้าเกิน ติดเช้ือ ความดนั โลหิตต่า บวม -ออกกาลงั กาย รับประทานอาหาร พกั ผอ่ น พบแพทยต์ ามนดั -แนะนาชงั่ น้าหนกั ทุกวนั ไม่ควรข้ึนเกิน 0.5กก/วนั -หา้ มยกของหนกั เกิน 6 กก.

การฟอกเลอื ดดว้ ยเคร่ืองไตเทยี ม ข้อบ่งชี้ ทว่ั ไป -Cr มากกวา่ mg/dl หรือ BUN มากกวา่ mg/dl -น้าเกินหรือน้าท่วมปอด -ความดนั โลหิตสูงไม่ตอบสนองต่อยา -มีภาวะเลือดออกผดิ ปกติ -ภาวะ Uremic pericarditis -N/V ตลอดเวลา เส้ นเลือดเพื่อการฟอกเลือด 1. เส้นฟอกชวั่ คราว double lumen catheter (DLC) หลอดเลือดดา ที่ คอ หรือขาหนีบ 2. เสน้ ฟอกเลือดถาวร แบ่งเป็น 3ชนิด - Perm catheter สวนสายเขา้ ไปที่ subclavian vein - Arteriovenous Fistula (AVF) - Arteriovenous graft (AVG) Arteriovenous graft (AVG) - AVF และ AVG นิยมทาท่ีแขนท่อนบน ท่อนล่าง และตน้ ขา

ข้อดี ข้อเสีย - อุปกรณ์ทางการแพทยใ์ นการรักษาพยาบาลพร้อมเพรียง - การฟอกดลือดตอ้ งมาตามเวลาและคิดตามกาหนด - ผเู้ ชี่ยวชาญใหก้ ารดูแลรักษาพยาบาลขณะทาฟอกลือด - จาเป็นตอ้ งจากดั น้า การรับประทานผกั ผลไมท้ ี่มี K สูง - สร้างสงั คมใหก้ บั ผปู้ ่ วยรู้จกั ผปู้ ่ วยรายอื่น - สามารถขอคาแนะนาจากแพทยพ์ ยาบาลไดบ้ ่อยคร้ังจากการนดั - คา่ ใชจ้ ่ายสูง สถานท่ีในบริการนอ้ ย - สามารถลดปริมาณน้าส่วนเกิน ปรับสมดุลเกลือแร่ และกรดด่างไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว - Vascular access อาจทาใหร้ ู้สึกสูญเสียภาพลกั - กาหนดปริมาณน้าที่จะดึงออกไดอ้ ยา่ งแม่ยา

บทท่ี 12 การพยาบาลผู้ป่ วยทมี่ ีภาวะช็อกและอวยั วะล้มเหลวหลายระบบ Shock and Multiple organs dysfunction syndrome : MODS

การพยาบาลผ้ปู ่ วยที่มภี าวะช็อกและอวยั วะล้มเหลวหลายระบบ Shock and Multiple organs dysfunction syndrome : MODS ความหมายของภาวะช็อกและภาวะอวยั วะล้มเหลวหลาย พยาธิสรีรวทิ ยาของภาวะช็อกชนิดต่าง ๆ เป็นภาวะที่เน้ือเยอ่ื ในร่างกายไดร้ ับเลือดไปเล้ียงไม่ พยาธิสรีรวทิ ยาช็อกจากการเสียเลือดและนา้ (Hypovolemic shock) เพียงพอ ทาใหเ้ น้ือเยอื่ อวยั วะท่ีสาคญั ของร่างกายมีการกาซาบ เม่ือปริมาณในระบบไหลเวยี นลดลง จะทาใหป้ ริมาณเลือดไหลกลบั สู่หวั ใจ ลดลงและอวยั วะตา่ ง ๆ ขาดออกซิเจนและสารอาหาร จึงเกิด ลดลง ปริมาณเลือดที่หวั ใจบีบออกแต่ละคร้ังลดลง มีผลให้ cardiac output ลดลง ทาใหก้ ารไหลเวยี นของเลือด และการกาซาบของเน้ือเยอื่ ไมเ่ พียงพอ เน้ือเยอ่ื ขาด ความผดิ ปกติต้งั แตร่ ะดบั เซลล์ เน้ือเยอื่ จนถึงอวยั วะ ต่าง ๆ ออกซิเจน ทุกอวยั วะของร่างกาย และเมื่อมีอวยั วะทางานผดิ ปกติถึงข้นั ลม้ เหลวต้งั แต่ 2 ระบบข้ึนไปและอวยั วะท่ีทางานผดิ ปกติหรือ พยาธสิ รีรวทิ ยาของภาวะช็อกชนิดต่าง ๆ ลม้ เหลวอาจเกิดข้ึนพร้อมกนั หรือเกิดข้ึนตามมา พยาธิสรีรภาพวทิ ยาของภาวะช็อกที่เกิดจากความผดิ ปกติของหวั ใจ ( Cardiogenic shock ) เม่ือกลา้ มเน้ือหวั ใจบาดเจบ็ ความสามารถในการบีบตวั ของหวั ใจจึงลดลง เลือดในหวั ใจหอ้ งล่างคง่ั ความดนั เลือดดาในปอดและแรงดนั ในปอดสูงข้ึน ทาใหก้ ารกาซาบเน้ือเยอ่ื ไม่เพียงพอ เน้ือเยอ่ื จึงขาดออกซิเจน เซลล์ และเน้ือเยอ่ื ตายทุกส่วน ทาใหเ้ สียชีวติ ได้ และจากความสามารถในการบีบตวั ลดลงยงั ส่งผลใหป้ ริมาณเลือดท่ี ออกจากหวั ใจสู่หวั ใจลดลง ทาใหค้ าร์บอนไดออกไซดล์ ดลง ความดนั โลหิตลดลง การกาซาบของเน้ือเยอื่ ไม่ เพียง และเสียชีวติ ไดเ้ ช่นกนั

พยาธสิ รีรวทิ ยาของภาวะช็อกชนิดต่าง ๆ พยาธิสรีรภาพของช็อกจากระบบประสาท ปริมาณเลือดไหลเวยี นในร่างกายลดลง ทาให้ cardiac output ลดลง ความดนั โลหิตต่าลงและมีเลือดและออกซิเจนไปเล้ียง เน้ือเยอื่ ลดลง และการสูญเสียการตอบสนองของ baroreceptor ทาใหก้ ารปรับชดเชย โดยการกระตุน้ ใหห้ วั ใจเตน้ เร็วข้ึน ทา ให้ cardiac output ลดลง ความดนั โลหิตต่า ออกซิเจนไปเล้ียงเน้ือเยอื่ ลดลง และการกาซาบเน้ือเยอื่ ไม่มีประสิทธิภาพ พยาธสิ รีรวทิ ยาของภาวะช็อกชนิดต่าง ๆ พยาธิสรีรภาพของช็อกจากภูมิแพ้ ร่างกายไดร้ ับสารที่เปรียบเสมือน antigen ไปกระตุน้ ใหเ้ กิดการสร้าง antibody ทาใหห้ ลอดเลือดส่วนปลายขยายตวั ปริมาตรเลือดไหลเวยี นลดลง ปริมาณเลือดที่ไหลกลบั หวั ใจลดลง ทาใหค้ าร์บอนไดออกไซดล์ ดลง การกาซาบของเน้ือเยอ่ื จึงไมม่ ีประสิทธิภาพ เกิดภาวะ Hypoxia เสียชีวติ ได้ และการตอบสนองใหม้ ีการกระตุน้ จากปฏิกิริยาดงั กลา่ วส่งผลใหห้ ลอดเลือดฝอยเพม่ิ การซึมผา่ นของเหลว ซ่ึงไปเพ่ิมปริมาณการไหลกลบั ของ เลือดเขา้ สู่หวั ใจ เช่น รวมท้งั ภาวะกลา้ มเน้ือเรียบหดตวั จากปฏิกิริยาการตอบสนองทาใหห้ ลอดลมหดเกร็งและหลอดลมบวม ส่งผลใหเ้ กิดภาวะ หายใจไมอ่ อกและขาดออกซิเจน เกิดภาวะ Hypoxia ซ่ึงทาใหเ้ สียชีวติ ได้

พยาธิสรีรวทิ ยาของภาวะช็อกชนิดต่าง ๆ พยาธิสรีรภาพของช็อกจากภาวะการตดิ เชื้อ จากแบคทีเรียปล่อย endotoxin เขา้ มาในกระแสเลือดมีผลต่อร่างกายเกิดการอกั เสบที่เกิดข้ึนเฉพาะจุด โดยเกิดจาก เน้ือเยอ่ื บริเวณน้นั ถูกทาลาย ผลของการตอบสนองต่อการอกั เสบเฉพาะท่ีส่งผลใหเ้ กิด การขยายตวั ของหลอดเลือด บริเวณน้นั มีการเคล่ือนท่ีของWBC ต่าง ๆ ไปยงั อวยั วะเป้าหมายมีการเปลี่ยนแปลง metabolism และ catabolism ของ บางอวยั วะเกิดข้ึน เช่น ตบั , มา้ ม และlymphatic tissue และมีการกระตุน้ ระบบภูมิคุม้ กนั เกิดข้ึนในร่างกายหลงั จากน้นั จะ เขา้ สู่ภาวะ Acute phase reaction เนื่องจากเซลลไ์ ดอ้ อกซิเจนนอ้ ยลงทาใหเ้ ซลลต์ อ้ งอาศยั กระบวนการสร้างพลงั งานโดย ไม่ใชอ้ อกซิเจน ทาใหเ้ กิดการคงั่ ของกรดแลคติก หากภาวะดงั กล่าวน้ีไม่ไดร้ ับการแกไ้ ขอาการของโรคจะลุกลามทาให้ เซลลแ์ ละอวยั วะสาคญั ของร่างกายถูกทาลายและเสียชีวติ ได้

หลกั การพยาบาลผปู้ ่ วยท่ีมีภาวะชอ็ กจากการติดเช้ือ หลกั การพยาบาลผู้ป่ วย Cardiogenic shock 1.ประเมินความรุนแรงและความเส่ียงของการเกิดภาวะชอ็ กจากการติด 1.การดูแลใหม้ ีการคงไวซ้ ่ึงสภาวะออกซิเจน ระบบไหลเวยี นเลือดที่เพยี งพอกบั ความ ตอ้ งการของร่างกาย เพอื่ ป้องกนั และลดอนั ตรายท่ีอาจเกิดข้ึนจากภาวะแทรกซอ้ น เช้ือ ของภาวะ shock 2. เฝ้าระวงั ติดตามดูแลอยา่ งใกลช้ ิดในผปู้ ่ วยที่เกิดภาวะชอ็ ก 2.การบรรเทา ความกลวั ความวติ กกงั วล จากการเจบ็ ป่ วยของผปู้ ่ วยและญาติ 3. การช่วยแพทยค์ วบคุมหรือกาจดั แหล่งการติดเช้ืออยา่ งมี ประสิทธิภาพ หลกั การพยาบาลผปู้ ่ วย ภาวะอวยั วะลม้ เหลวหลายระบบ 4. การส่งส่ิงส่งตรวจทางหอ้ งปฏิบตั ิการอยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม 5. การดูแลช่วยแพทยใ์ ส่สายสวนหลอดเลือดดาส่วนกลาง 1.กิจกรรมการพยาบาลเป็นการส่งเสริมใหม้ ีการไหลเวยี นเลือดอยา่ ง 6. การใหย้ าเพิม่ ระดบั ความดนั โลหิตเพอื่ ใหห้ ลอดเลือดส่วนปลายหด เพียงพอ ตวั เฝ้าระวงั อยา่ งใกลช้ ิดถึงความเพยี งพอของเลือดท่ีไดถ้ ูกส่งไปเล้ียงส่วนต่าง 7. การดูแลใหผ้ ปู้ ่ วยไดร้ ับออกซิเจนอยา่ งเพยี งพอตามแผนการรักษา ๆ ของร่างกาย และดูแลใหไ้ ดร้ ับสารน้า ดว้ ยเครื่องควบคุมการไหล ระวงั ภาวะน้าเกิน ดูแลใหไ้ ดร้ ับยา vasopressor และ inotropic drug ในการใหย้ า รวมท้งั การใชเ้ ครื่องช่วยหายใจ ท้งั สองชนิดอาจมีผลต่อภาวการณ์เตน้ ของหวั ใจที่ผดิ จงั หวะ และดูแลการ 8. การดูแลใหผ้ ปู้ ่ วยไดร้ ับความสุขสบาย เม่ือมีไขด้ ูแลใหไ้ ดร้ ับยาลด ไดร้ ับ sodium bicarbonate เพอื่ รักษาภาวะความเป็นกรดของร่างกาย 2.กิจกรรมพยาบาลเพอื่ ช่วยใหเ้ น้ือเยอื่ ไดร้ ับออกซิเจนอยา่ งเพียงพอ ไข้ ดูแลใหไ้ ดร้ ับออกซิเจน ดูแลทางเดินหายใจใหโ้ ล่ง ฟังเสียงปอดทุก 2 9. การเฝ้าระวงั การติดเช้ือในโรงพยาบาล ชว่ั โมงเพ่ือเฝ้าระวงั ความผดิ ปกติทางเดินหายใจ ติดตามผลภาพถ่ายรังสี 10. ร่วมมือกบั แพทยใ์ นการรักษาภาวะชอ็ ก โดยการใหย้ าที่มีผลต่อ ทรวงอกเพ่อื ประเมินความผดิ ปกติ และดูแลใหไ้ ดร้ ับยาขยายหลอดเลือด หลอดเลือด 11. ป้องกนั ภาวะโภชนาการและเสียสมดุลไนโตรเจน 12. ลดความรู้สึกกลวั และวติ กกงั วลของผปู้ ่ วยและครอบครัว

บทท่ี 13 การฟื้ นคืนชีพ

การช่วยฟื้ นคืนชีพข้ันพืน้ ฐาน (Basic Life Support: BLS) แนวทางการปฏิบตั ิการช่วยฟ้ื นคืนชีพข้นั พ้นื ฐานประกอบไปดว้ ย 3 ข้นั ตอนสาคญั โดยแต่เดิมมี คาแนะนาใหท้ าตามลาดบั A-B-C (Airway-Breathing-Circulation) แต่ปัจจุบนั ไดม้ ีการเปล่ียนแปลง ลาดบั ข้นั ตอนเป็ น C-A-B (Chest compression-Airway-Breathing) เนื่องจากการกดหนา้ อกก่อนจะทา ใหม้ ีเลือดไปเล้ียงอวยั วะส่วนสาคญั เช่น หวั ใจและสมอง โดยวธิ ีปฏิบตั ิคือ กดหนา้ อก (C) 30 คร้ัง >> เปิ ดทางเดินหายใจ (A) >> ช่วยหายใจ (B) 2 คร้ัง = 30 : 2 ท้งั น้ีใหท้ า CPR ไปจนกวา่ กชู้ ีพจะมาถึง หรือจนกวา่ ผปู้ ่ วยจะรู้สึกตวั

วธิ ีปฏิบัตใิ นแต่ละข้ันตอน C : Chest compression คือการกดหนา้ อก ปั๊มหวั ใจช่วยใหผ้ บู้ าดเจบ็ มีการไหลเวยี นของ เลือดในร่างกายอีกคร้ังหน่ึง ท้งั น้ีหลกั ในการป๊ัมหวั ใจ คือ ตอ้ งกดใหก้ ระดูกหนา้ อก (Sternum) ลงไปชิดกบั กระดูกสันหลงั ซ่ึงจะทาใหห้ วั ใจที่อยรู่ ะหวา่ งกระดูกท้งั สองอนั ถูกกด ไปดว้ ย ทาใหม้ ีการบีบเลือดออกจากหวั ใจไปเล้ียงร่างกาย เสมือนการบีบตวั ของหวั ใจ ซ่ึงมี ข้นั ตอนในการป๊ัมหวั ใจตามน้ี 1. ให้ผ้บู าดเจบ็ นอนราบกบั พืน้ แขง็ ๆ หรือใช้ไม้กระดานรองทห่ี ลงั ของผู้บาดเจ็บ ผปู้ ฐม พยาบาลคุกเข่าลงขา้ งขวาหรือขา้ งซา้ ยบริเวณหนา้ อกผบู้ าดเจบ็ คลาหาส่วนล่างสุดของกระดูก อกที่ตอ่ กบั กระดูกซ่ีโครง โดยใชน้ ิ้วสมั ผสั ชายโครงไล่ข้ึนมา (หากคุกเขา่ ขา้ งขวาใชม้ ือขวาคลา เพอ่ื หากระดูกอก แต่หากคุกเข่าขา้ งซา้ ยใหใ้ ชม้ ือซา้ ยคลา)

2. วางนิว้ ชี้และนิว้ กลางตรงตาแหน่งทกี่ ระดูกซี่โครงต่อกบั กระดูกอกส่วนล่างสุด วางสันมืออีกขา้ งบนตาแหน่ง ถดั จากนิ้วช้ีและนิ้วกลางน้นั ซ่ึงตาแหน่งของสนั มือท่ีวางอยบู่ นกระดูกหนา้ อกน้ีจะเป็นตาแหน่งที่ถูกตอ้ งในการ ปั๊มหวั ใจตอ่ ไป * หากไม่แน่ใจวา่ ตาแหน่งกระดูกซี่โครงอยตู่ รงไหน ง่ายที่สุดกค็ ือ ใหว้ างส้นมือ (ขา้ งที่ไม่ถนดั ) ตรงกลาง หนา้ อก ระหวา่ งหวั นมท้งั สองขา้ ง 3. วางมืออกี ข้าง (ควรเป็ นมือข้างทถ่ี นัด) ทบั ลงบนหลงั มือที่วางในตาแหน่งท่ีถูกตอ้ ง แลว้ เหยยี ดนิ้วมือตรง จากน้นั เก่ียวนิ้วมือท้งั 2 ขา้ งเขา้ ดว้ ยกนั เหยยี ดแขนตรง โนม้ ตวั ต้งั ฉากกบั หนา้ อกผบู้ าดเจบ็ ทิ้งน้าหนกั ลงบนแขน ขณะกดหนา้ อกผบู้ าดเจบ็ กดใหล้ ึกอยา่ งนอ้ ย 2 นิ้ว (5 เซนติเมตร) สาหรับผใู้ หญ่ แต่หากเป็นเดก็ ใหก้ ดลงอยา่ งนอ้ ย 1/3 ของความลึกทรวงอก (ประมาณ 2 นิ้ว หรือ 5 เซนติเมตร) ส่วนในเดก็ แรกเกิดหรือเดก็ อ่อน การป๊ัมหวั ใจใหใ้ ชเ้ พียงนิ้วหวั แม่มือกดกลางกระดูกหนา้ อกใหไ้ ดอ้ ตั ราเร็ว 100–120 คร้ังตอ่ นาที โดยใชน้ ิ้วมือโอบรอบทรวงอกสองขา้ งแลว้ ใชห้ วั แม่มือกด

4. เพ่ือให้ช่วงเวลาการกดแต่ละคร้ังคงท่ี และจงั หวะการสูบฉีดเลือดออกจากหวั ใจ พอเหมาะกบั ท่ีร่างกายตอ้ งการ ใหใ้ ชว้ ธิ ีนบั จานวนคร้ังที่กด ดงั น้ี...หน่ึง และสอง และ สาม และส่ี และหา้ ...โดยกดทุกคร้ังท่ีนบั ตวั เลข และปลอ่ ยตอนคาวา่ “และ” สลบั กนั ไป ใหไ้ ดอ้ ตั ราการกดอยา่ งนอ้ ย 100 คร้ังตอ่ นาที (ถา้ นอ้ ยกวา่ น้ีจะไม่ไดผ้ ล) เม่ือกดสุดใหผ้ อ่ นมือข้ึนโดยท่ีตาแหน่งมือไม่ตอ้ งเลื่อนไปจากจุดที่กาหนด และ ก่อนการกดหนา้ อกคร้ังตอ่ ไปตอ้ งทาการกดทนั ทีที่หนา้ อกคืนตวั กลบั จนสุด ขณะกด หนา้ อกป๊ัมหวั ใจ หา้ มใชน้ ิ้วมือกดลงบนกระดูกซ่ีโครงผบู้ าดเจบ็ 5. ควรกดหน้าอก 30 คร้ัง สลบั กบั การผายปอด 2 คร้ัง และควรมีผชู้ ่วยเหลืออยา่ งนอ้ ย 2 คน เพราะพบวา่ ผปู้ ฏิบตั ิจะเร่ิมเหนื่อยและประสิทธิภาพในการกดหนา้ อกลดลง หลงั จากทาไปประมาณ 1 นาที ดงั น้นั ในกรณีมีผชู้ ่วยเหลืออยา่ งนอ้ ย 2 คน ใหเ้ ปล่ียน บทบาทผทู้ าการกดหนา้ อกทุก ๆ 2 นาที หรือกดหนา้ อกสลบั การช่วยหายใจครบ 5 รอบ (30:2) และทาต่อเนื่องไปจนกระทง่ั เครื่องชอ็ กไฟฟ้าหวั ใจมาถึง และพร้อมใชง้ าน หรือมีบุคลากรทางการแพทยเ์ ขา้ มาดูแลผปู้ ่ วย

A : Airway หมายถึง การเปิ ดทางเดินหายใจใหโ้ ล่ง เพราะโดยมากผบู้ าดเจบ็ ท่ีหมดสติจะมีภาวะโคนลิ้นและกลอ่ งเสียง ตกลงไปอุดทางเดินหายใจส่วนบน ดงั น้นั จึงตอ้ งเปิ ดทางเดินหายใจใหโ้ ล่ง โดยพจิ ารณาจาก - หากผปู้ ่ วยไม่มีการบาดเจบ็ ท่ีศีรษะหรือคอ จะใชว้ ธิ ีการแหงนหนา้ และเชยคาง (Head tilt - Chin lift) - หากสงสัยวา่ ผปู้ ่ วยมีอาการเจบ็ ของไขสันหลงั ใหใ้ ชว้ ธิ ี Manual Spinal Motion Restriction โดยการวางมือสอง ขา้ งบริเวณดา้ นขา้ งของศีรษะ เพ่ือป้องกนั การเคลื่อนของศีรษะ - หากสงสัยวา่ ผปู้ ่ วยมีอาการบาดเจบ็ ท่ีกระดูกสันหลงั บริเวณคอใหเ้ ปิ ดทางเดินหายใจดว้ ยวธิ ียกขากรรไกร (Jaw Thrust) คือ ดึงขากรรไกรท้งั สองขา้ งข้ึนไปดา้ นบน โดยผชู้ ่วยเหลือจะอยเู่ หนือศีรษะของผปู้ ่ วย

B : Breathing หมายถึง การช่วยหายใจ ดว้ ยการรักษาระดบั ออกซิเจนใหเ้ พยี งพอและขบั ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ดงั น้นั ในผปู้ ่ วยท่ีหวั ใจหยดุ เตน้ เน่ืองจากการขาดอากาศ เช่น จมน้า จึงตอ้ งรีบกดหนา้ อกและช่วยหายใจ 5 รอบ หรือ 2 นาที ก่อนการร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากผปู้ ่ วยกาลงั มีระดบั ออกซิเจนท่ีตากวา่ ปกติ ซ่ึงออกซิเจนที่เป่ าออกไปน้นั มีออกซิเจน ประมาณ 16-17% ซ่ึงเพยี งพอสาหรับใชใ้ นร่างกาย ท้งั น้ี ในการช่วยหายใจ ไดก้ าหนดขอ้ ปฏิบตั ิใหเ้ ริ่มจากการกดหนา้ อก (C) ไปก่อน 30 คร้ัง แลว้ จึงสลบั กบั การช่วยหายใจ (B) 2 คร้ัง ตามสูตร 30:2 โดย - ช่วยหายใจมากกวา่ 1 วนิ าทีในแต่ละคร้ัง - ใหป้ ริมาตรเพียงพอท่ีเห็นหนา้ อกเคล่ือนไหว แต่ไม่ควรช่วยหายใจมากเกินไป เพราะ เสี่ยงต่อการสาลกั อาหาร และยงั ทาใหแ้ รงดนั ภายในทรวงอกเพ่ิมข้ึน ส่งผลใหเ้ ลือดที่กลบั ไปเล้ียงหวั ใจลดลง - ใชอ้ ตั ราการกดหนา้ อก 30 คร้ังต่อการช่วยหายใจ 2 คร้ัง (30:2) - เมื่อมีการใส่ท่อช่วยหายใจข้นั สูงแลว้ ใหช้ ่วยหายใจ 1 คร้ัง ทุก 6-8 วนิ าที (8-10 คร้ังต่อนาที) โดยที่ไม่ตอ้ งหยดุ ขณะที่ทาการกดหนา้ อก

Adrenaline รูปแบบยา 1 mg/ml กลไก กระตุน้ ß-adrenergic receptor มีผลการกระตุน้ การบีบตวั ของหวั ใจ และกระตุน้ อตั ราการเตน้ ของหวั ใจ กระตุน้ α-adrenergic receptor มีผลเพ่ิมความดนั โลหิตจากการหดตวั ของหลอดเลือด Cardiac arrest (asystole, PEA) - IV 1mg push ทุก 3-5 นาที (push NSS ตาม 10ml และยกแขนสูง ) - Intratracheal 2-3 mg +NSS 10 ml Symptomatic sinus bradycardia - ใชเ้ มื่อไม่ตอบสนองต่อ atropine - 10mg + 5%D/W 100 ml (1:10) IV 5-20 ml/hr Anaphylaxis Angioedema - 0.5 mg IM +load IV NSS - กรณีไม่ตอบสนองต่อการรักษาใหซ้ า้ 0.5 mg IM ทุก 10-15 นาที 2-3 คร้ังหรืออาจพจิ ารณาcontinuous IV drip

Cordarone (Amiodarone) กลไกการออกฤทธิ์ : antiarrhythmic drugโดยลด automaticity ของ sinus node ทาํ ใหห้ วั ใจเตน้ ชา้ ลง ข้อบง่ ใช้ -Cardiac arrest and -Recurrent VT/VF ท่ีไมต่ อบสนองตอ่ defibrillation และยา adrenaline ขนาดยา :300 mg + 5%D/W 20 ml IV slow push ใน 3นาที อาจพจิ ารณาใหซ้ า้ 150 mg อีก 5นาทีตอ่ มา ข้อห้ามใช้ : Severe hypotension Pregnancy Heart block Side effects: Hypotension, Bradycardia, Prolong QT interval, Heart block, CHF, Phlebitis ข้อควรระวัง 1.ขณะdripไมค่ วรไดร้ บั ยา - mBetablocker, digoxin, diltiazem: เพ่มิ risk bradycardia, AV block - Warfarin : เพ่มิ risk bleeding 2.การใหย้ าตอ้ งไมเ่ กิน 2,200 mg in 24 ช่วั โมง 3.ระดบั K และ Mg ตอ้ งอยใู่ นเกณฑป์ กติ เน่ืองจากอาจเกิด arrhythymia

7.5% Sodium bicarbonate รูปแบบยา HCO3 8.92 mEq/50 ml - เป็นสารละลายมีฤทธ์ิเป็นด่าง มีส่วนประกอบคือโซเดียม และไบคาร์บอเนต - เมื่อเขา้ สู่ร่างกายจะทาหนา้ ท่ีเพิ่มความเป็นด่างในร่างกายเพ่มิ ปริมาณโซเดียมและไบคาร์บอเนต - เสริมกบั ไบคาร์บอเนตซ่ึงร่างกายสร้างข้ึนท่ีไต - โซเดียมไบคาร์บอเนตมีการขบั ออกทางปัสสาวะ ทาใหป้ ัสสาวะมีความเป็นด่างมากข้ึน ข้อบ่งใช้ Severe metabolic acidosis (PH <7.15) - 50 ml IV push ซา้ ไดท้ ุก 30 นาที หรือ Continuous drip โดยใน Septic shock : rate 20-50 ml/hr โดยไม่ตอ้ งผสมกบั สารนา้ อ่ืน DKA : 100 ml + 5%D/W 400 ml IV rate 250 ml/hr *หยดุ ใหเ้ มื่อ blood PH > 7.2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook