Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รักนิรันดร์ฝันที่เป็นจริง

รักนิรันดร์ฝันที่เป็นจริง

Published by Nathaphan Chamnan, 2021-09-23 09:13:24

Description: รักนิรันดร์ฝันที่เป็นจริง

Keywords: รักนิรันดร์

Search

Read the Text Version

รั ก นิ รั น ด ร์ ฝั น ที่ เ ป็ น จ ริ ง

ความรักที่เกิดจากความฝัน เป็นความฝันที่ไม่ เคยมีใครเชื่อว่ามันจะเป็นจริง ไม่มีใครรู้ว่าความฝันที่ เป็นจริงจะมีจริงหรือไม่ พบกับความรักที่เป็นรักนิรันดร์ ฝันที่เป็นจริง

“โอ๊ย! เดินระวังหน่อยสิเธอ” นทีพูด “โอ็ย! เดินระวังหน่อยสิเธอ” ฝนพูด ทั้งสองพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน เช้าวันเปิดเทอมที่ใต้ตึกใหญ่เกิดเหตุการณ์ที่ต้องพุ่งชนของนทีและฝน เป็นวันเปิดเทอมที่แสนจะวุ่นวายของทั้งสองคนนทีรีบเดินเข้าไปใต้ตึกเพื่อที่จะไป เรียนเพราะสายแล้ว และฝนก็รีบเดินไปใต้ตึกเช่นกันเพราะเธอก็มาสาย ต่างคน ต่างรีบเดินไม่ดูทางทำให้ทั้งสองชนกันจนล้มหงายหลังไปเลย สิ่งของต่างๆ กระเป๋า แก้วน้ำ หนังสือ ตกกระจัดกระจาย น้ำหกเลอะเทอะเต็มพื้นไปหมด หน้าผากของทั้งสองชนกันอย่างจัง ทำให้นทีและฝนกระเด็นหงายหลังไปเลย “เธอเราขอโทษนะที่เดินไม่ระวัง เดินชนเธอเลย ” นทีพูด “ไม่เป็นไรหรอก เราก็ชนเธอเหมือนกัน ขอโทษนะ” ฝนพูดนทีแอบยิ้มและตกหลุมรักฝนในทันที ที่ได้เห็นหน้า ฝนเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ขาว น่ารัก ยิ้มสวย และแต่งตัวเรียบร้อยดู สะอาดตาจึงมีคนแอบชอบเธอเยอะบังเอ็ญนทีกับฝนเรียนวิชาภาษาไทย ห้องเรียนเดียวกัน จึงทำให้นทีและฝนสนิทกันมากขึ้น

วันหนึ่งนทีได้ชวนฝนไปติวภาษาไทยที่ร้านกาแฟในมหาวิทยาลัย “ฝนวันนี้เราไปติววิชาภาษาไทยกันไหม” นทีพูด “ได้สิ บ่ายโมงตรงเจอกันที่ร้าน นะ” ฝนพูด ทั้งสองต่างพัฒนาความสัมพันธ์กันไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งนทีได้ขอฝน เป็นแฟน นทีนัดเจอกับฝนใต้ตึกที่เขาเจอกับเธอครั้งแรก เพราะที่แห่งนี้เป็นจุด เริ่มต้นของความรัก นทีแอบชอบฝนมาตลอด ชอบมาตั้งแต่เจอฝนครั้งแรก เมื่อ ฝนมาถึงใต้ตึก นทีก็ไม่นอกเรื่องและพูดไปตรงๆไปตามความรู้สึกของตนว่า “ฝนเป็นแฟนกันนะ” ฝนได้แต่ทำหน้านิ่ง อึ้งไปสามสิบวินาที และส่งยิ้มให้กับนที แล้วตอบ กลับนทีตามความรู้สึกที่เธอรู้สึกว่า “ตกลงค่ะ” นทีดีใจใหญ่เมื่อฝนตอบตกลงที่จะเป็นแฟนกับนที หลังจากวันที่เป็น แฟนกันนทีก็ดูแล เทคแคร์เป็นปกติตามเดิมที่เขาเคยทำมาก่อน เขาดูแลฝน เป็น ทั้งเพื่อนทั้งแฟนที่ดีให้กับฝนมานานกว่า 2 ปี

อยู่มาวันหนึ่งฝนมีเหตุให้ต้องย้ายไปที่ต่างจังหวัด และฝนต้องย้ายที่ เรียนด้วย ฝนได้นัดกับนทีเพื่อที่จะให้สิ่งของแทนใจ ฝนนัดนทีไปที่สวน สาธารณะใกล้บ้านของเธอ “นทีเราต้องไปแล้วนะ” “นี่จ๊ะ เป็นกล่องของขวัญที่เราอยากจะให้เธอ เนื่องในวันครบรอบของเรา” ในกล่องของขวัญเป็นรูปโพรารอยด์กับตลับเทปเสียงของฝน “เราไม่อยากให้ฝนไปเลย” “เราก็ไม่อยากไปเหมือนกันนที แต่มันเป็นเหตุจำเป็นที่เราต้องไป” “ขอบคุณนะสำหรับของขวัญวันครบรอบและของขวัญแทนใจอันนี้ที่ให้เรา” “เราเต็มใจให้เธอนะนที” “นี่เป็นของที่เราอยากให้เธอเหมือนกัน” แล้วนทีก็หยิบช่อดอกกุหลาบสีขาวให้กับฝน พร้อมยื่นช่อดอกกุหลาบสีขาวถึงมือ ฝนอย่างอ่อนโยน “เรารู้ว่าฝนชอบดอกกุหลาบสีขาว สุขสันต์วันครบรอบนะ” นทีพูดพร้อมส่งยิ้มให้ ฝนเบาๆ “ขอบคุณนะนที รอเรานะ” นทีไม่พูดอะไร ได้แต่ส่งยิ้มให้กับฝน รอยยิ้มที่ซ้อนไป ด้วยความเศร้า

ก่อนที่ฝนกำลังจะเดินหันหลังจากนทีไป ความรู้สึกของนทีในตอนนั้น นทีรู้สึกคิดถึงช่วงเวลาดีๆที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน นทีทั้งร้องไห้เมื่อเขา ไม่ได้เจอหน้าของแฟนเขา ได้ดูเพียงแค่รูปถ่าย เพราะในสมัยนั้นเป็นสมัยที่ไม่มี เทคโนโลยีมากมาย มีเพียงการส่งจดหมายเท่านั้นที่จะทำให้เขารับรู้ถึงความเป็น อยู่ของอีกฝ่าย หลังจากที่นทีพูดลากับฝน นทีก็ดึงฝนเข้ามาสวมกอดอย่างอ่อนโยน ทั้ง ฝนและนทีก็ร้องไห้ “ไม่ร้องไห้สินทีเดี๋ยวเราก็กลับมา รอเรานะ” “เราจะรอเธอนะฝน” “เธอรอเราอยู่ตรงนี้ วันที่ 21 กันยายน ของทุกปีเลยนะนที” “เราจะรอเธอที่นี่ ตรงนี้ ที่เดิมครับ” นทีพูดพร้อมส่งยิ้มให้กับฝน “เราไปก่อนนะ” “โชคดีครับฝน”

ทุกสิ่งทุกอย่างหมุนเวียนไปอย่างช้า จนถึงวันครบรอบ 1 ปี ที่ฝนไป ต่างจังหวัด ตลอดระยะ 1 ปีที่ฝนย้ายต่างจังหวัดมีแค่นทีที่ส่งจดหมายไปหาฝน เป็น 10 กว่าฉบับ แต่ไม่เคยมีการตอบกลับมาสักครั้ง แต่นทีไม่ได้รู้สึกท้อหรือ น้อยใจ เขายังคงเชื่อว่าฝนจะซื่อสัตย์และรักเขาเหมือนกับที่เขารู้สึก เช้าวันที่ 21 กันยายน ปีนี้เป็นฤดูฝนที่แสนจะเงียบเหงาของทั้งนทีและฝน นทีมานั่งรอที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่สวนสาธาณะใกล้กับบ้านเก่าของฝน นทีนั่งรอด้วยความคาดหวังว่าฝนจะกลับมา นทีนั่งรอฝนตั้งแต่เช้าจนดึกฝนก็ไม่ กลับมา ฝนได้ปรอยเม็ดเล็กๆลงมาเป็นละอองเล็กๆทำให้รู้ว่าฝนกำลังจะตก ทำให้นทีต้องรีบกลับบ้านไป ในทุกวันที่ 21 กันยายนของทุกปี นทีก็มารอฝนอยู่ที่เดิม นั่งรอที่ม้านั่ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่สวนสาธาณะใกล้กับบ้านเก่าของฝน ฝนก็ไม่กลับมา นทีมารอฝน อยู่ที่นี่ทุกปีๆ จนแก่ชราลง แต่นทีก็ไม่ยอมที่จะหาคนรักใหม่ นทียังคงรอฝน หญิงซึ่งเป็นรักแรกของเขาอยู่ที่เดิมด้วยความหวังเหมือนกับปีแรกที่เขารอ

“ฝนรีบกลับมาหาเราได้ไหม เรารอเธอนานแล้วนะ” นทีพูดพลึมพลำอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ทำให้รู้ถึงการรอคอยที่เติมไปด้วยความ หวังและความคิดถึง “คุณตาครับมานั่งรอใครอยู่ตรงนี้ครับ มันดึกแล้วนะครับ” โอบพูด โอบเป็นเด็ก ข้างบ้านของนที “ตามารอคุณยาย เมื่อไหร่ยายจะกลับมาหาตาสักที” “วันนี้มีไปรษณีย์ส่งจดหมายให้กับคุณตา แต่คุณตาไม่อยู่ผมเลยเอามาให้คุณตา ที่นี่ครับ” “อ่านให้ตาฟังได้ไหมพ่อหนุ่ม ตามองไม่ชัด” “ได้ครับ” หลังจากนั้นโอบก็อ่านจดหมายที่ทางญาติของฝนส่งมาให้ “คุณตาครับ…” โอบพูดอ้ำอึ้ง “พูดมาเถอะพ่อหนุ่มตารอฟัง” “ครับคุณตา” “จดหมายบอกว่าคนที่ชื่อฝนได้เสียชีวิตตั้งแต่วันที่เดินทางออกมาจากบ้านที่ กรุงเทพครับคุณตา เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุรถชนครับ”

หลังจากที่อ่านจบนทีก็รู้ว่าคนรักของเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่วันที่ 21 กันยายนในปีนั้น ปีที่ฝนมาบอกลาและเดินทางไปต่างจังหวัด วันนั้นเป็นวันที่ฝน เสียชีวิต นทีไม่พูดอะไร ลุกขึ้นยืนพร้อมที่จะกลับบ้านไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อ นทีลุกขึ้นก็เกิดอาการหน้ามืดอย่างกะทันหัน ศีรษะของเขาเริ่มมึนและหมุน ทำให้ ความรู้สึกนึกคิดของเขามืดมัวไปหมด ร่างกายอันอ้วนท้วนของเขาก็ฟุบลงพื้น อย่างรวดเร็วจนโอบรับไม่ทัน ทำให้เกิดบาดแผลตรงศีรษะ หลังจากนั้นนทีก็ไม่รู้ สึกตัวเลย

นทีสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีและได้เห็นเพดานห้องขาวๆ และโคมไฟที่เปิดไว้ สว่างจ้า เขาพบว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝันของเขา เขารู้สึกถึง ความเสียใจ ความโศกเศร้า เพราะเขาตื่นมาโดยมีคราบน้ำตาติดอยู่ที่ปลอกหมอน และคราบน้ำตาที่ติดอยู่ตรงหน้าของเขา นทีได้แต่ภาวนาว่า “ขอให้ฝันเป็นจริงแค่ตอนที่เขามีความสุขทีเถอะ” “ขอให้คนที่ผมรักไม่ตายจากผมไปเหมือนกับความฝัน” นทีพูดขึ้นมาอีกประโยค หลับตาลงอย่างช้าๆแล้วนอนหลับต่อจนถึงตอนเช้า 09:00 น. วันเปิดเทอมที่แสนจะวุ่นวายของทั้งนทีและฝน นทีรีบเดิน เข้าไปใต้ตึกคณะศิลปศาสตร์เพื่อที่จะไปเรียนเพราะสายแล้ว และฝนก็รีบเดินไปใต้ ตึกเช่นกันเพราะเธอก็มาสาย ต่างคนต่างรีบเดินไม่ดูทางทำให้ทั้งสองชนกันจน ล้มหงายหลังไปเลย สิ่งของต่างๆ กระเป๋า แก้วน้ำ หนังสือ ตกกระจัดกระจาย น้ำหกเลอะเทอะเต็มพื้นไปหมด หน้าผากของทั้งสองชนกันอย่างจัง ทำให้นทีและ ฝนกระเด็นหงายหลังไปเลย “โอ๊ย! เดินระวังหน่อยสิเธอ” นทีพูด “โอ็ย! เดินระวังหน่อยสิเธอ” ฝนพูด

ทั้งสองพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน และยิ้มพลางหัวเราะไปด้วย นทีไม่ โกรธฝน และฝนก็ไม่โกรธนที ต่างคนต่างขำมากกว่า ที่บังเอ็ญชนกันจนของ กระจุยกระจาย แถมยังหงายหลังไปแบบน่าอาย ทั้งสองก็รีบช่วยกันเก็บของ แล้วเดินไปที่ลิฟต์ “เธอชื่ออะไรหรอ เราชื่อนทีนะ” นทีพูด “เราชื่อฝน ยินดีที่ได้ รู้จักนะนที” ฝนพูด พอทั้งสองได้ถามชื่อกันลิฟต์ก็เปิด ทั้งนทีและฝนก็เดินไปที่ ห้องเรียน ซึ่งทั้งสองเรียนห้องเรียนเดียวกัน นทีเรียนคณะศิลปะศาสตร์ สาขา ดนตรี ชั้นปีที่ 1 ส่วนฝนเรียนคณะศิลปะศาสตร์ สาขาการแสดง ทั้งสองได้เรียน วิชาเดียวกัน ห้องเดียวกัน เรียนวิชาเสริมทักษะทางด้านภาษาไทย แต่ทั้งสองก็ เข้าเรียนสาย อาจารย์จึงให้ทั้งสองคนทำงานคู่กันเป็นชิ้นงานที่ลงโทษคนเข้า เรียนสาย หลังเลิกเรียนนทีก็เดินมาหาฝนเพื่อที่จะถามเรื่องงานคู่ที่ต้องส่งคาบ หน้า “ฝนงานคู่เธอจะเริ่มทำเมื่อไหร่บอกเรานะ” “ได้ค่ะ เดียวเราไปหาที่สาขาเธอ นะ แต่วันนี้เราไม่ว่าง ไว้ค่อยนัดกันนะนที” “ได้ครับฝน เราจะรอนะ” แล้วฝนก็ เดินออกประตูห้องเรียนไป ฝ่ายนทีเมื่อกลับถึงห้องก็ยิ้มไม่หุบเมื่อได้คุยกับฝน วันนัดทำงานคู่มาถึงนทีก็เตรียมตัวที่จะไปทำงานกับฝนที่ร้านกาแฟใน มหาวิทยาลัย นทีจึงสนิทกับฝนตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะไปเรียนหนังสือ กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง เที่ยว ติวหนังสือ หรือกิจกรรม ต่างๆในชีวิตประจำวัน ฝนและนทีก็ไปด้วยกันเสมอ ทั้งสองคนสนิทกันมาก เป็นเพื่อนที่แสนดีต่อกัน จน เกิดความสัมพันธ์ที่เรียกว่า คนรักหรือแฟน

วันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นวันที่ทั้งสองคนได้รู้ความรู้สึกที่แท้จริงของ ตัวเอง ฝนคือรักแรกของนทีและเป็นแฟนคนแรกของนทีเช่นกัน นทีตามจีบฝนมา นานกว่า2ปี และวันนี้วันที่ 21 กันยายน 2562 ในปีนี้นทีจะขอฝนเป็นแฟน นทีนัดฝนให้ไปเจอที่ใต้ตึก ซึ่งเป็นสถานที่ที่นทีได้เจอกับฝนเป็นครั้งแรก แล้วเป็นครั้งที่นทีตกหลุมรักฝนเข้าอย่างจัง นทีถือดอกกุหลาบสีขาวเพื่อจะมอบ ให้กับฝน ดอกกุหลาบสีขาวเป็นดอกไม้ที่ฝนชอบมากเป็นพิเศษเพราะให้ความ หมายที่ว่า ความรักที่บริสุทธิ์และความรักที่นิรันดร์ แล้วฝนก็เดินเข้ามาหานที พร้อมส่งยิ้มทักทาย “นทีรอเรานานไหม” “ไม่นานเลย ฝน…นทีขอเข้าเรื่องเลยนะ” “ได้สิ มีอะไรหรือเปล่านที” ฝนพูดพร้อมกับอมยิ้ม “เป็นแฟนกันนะ” นทีพูดไปอย่างเขินอายและแก้มแดงไปหมด “ตกลงค่ะ” ฝนพูดขณะที่เธอยืนนิ่ง แล้วสักพักเธอก็พูดคำนี้ออกมา ฝนก็ตกหลุมรักนทีตั้งแต่ครั้งแรกเหมือนกัน พอเห็นนทีตามจีบ ตามดูแล ฝนมากว่า 2ปี และเธอก็พร้อมที่จะให้สถานะของเธอและนทีชัดเจน เธอจึงรีบ ตอบตกลงโดยไม่ลังเล นทีเป็นคนที่ดูแลเธอมาตลอด ไม่เคยทำให้เธอเสียใจ เธอ ถึงวางใจที่จะเริ่มต้นกับผู้ชายคนนี้ในฐานะแฟนได้อย่างเต็มตัว

ผ่านมา 1 ปี ที่ทั้งสองได้เป็นแฟนกัน ทั้งเรื่องเรียน เรื่องรัก ทั้งสองคน ก็เป็นไปด้วยดีไม่มีอุปสรรค แต่ก็ต้องสะดุดตรงที่ฝนกำลังจะย้ายกลับบ้านเกิดที่ เชียงใหม่ เนื่องจากเศรษฐกิจที่กรุงเทพมหานครไม่ค่อยดี พ่อแม่ของฝันจึงจะ พาฝนกลับไปเรียนต่อที่เชียงใหม่และย้ายบ้านไปอยู่เชียงใหม่โดยถาวร หลังจากที่ฝนรู้ข่าวฝนก็คิดอยู่นานว่า จะบอกนทีวันไหน เธอรู้สึกเศร้า จุกอก พูด ไม่ออก เมื่อเธอ ต้องไปจากที่นี่และทิ้งให้นทีอยู่คนเดียวโดยไม่มีเธอนั่งอยู่ข้างๆ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนฝัน ฝนรีบปลุกตัวเองให้ตื่น “นี่ไม่ใช่ฝันใช่ไหม มันคือ ความจริงใช่ไหม” เธอพูดประโยคนี้วกวนไปมา จนเธอได้สติ เธอยังยอมรับ ความจริงไม่ได้ ที่เธอต้องทิ้งเพื่อนๆและนทีซึ่งเป็นแฟนของเธอ การจากกันของ คนที่รักมันทรมาน รักทางไกลมันจะทำให้เราคิดถึงกัน ถึงจะแชทข้อความ วีดีโอ คอลหากันได้ ก็ไม่สุขใจเท่าเจอหน้ากันทุกวัน และฝนก็ตัดสินใจที่จะนัดเจอกับนที ที่สวนสาธารณะใกล้บ้านเธอ สวนสาธารณะ ฝนนั่งรอนทีอยู่ตรงม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ เมื่อนทีมาถึงฝน ก็รีบยืนขึ้นแล้วเข้าไปสวมกอดกับนที พร้อมกับบอกนทีว่า “นทีเราต้องย้ายที่เรียนและย้ายบ้านไปอยู่เชียงใหม่” ฝนพูด นทีได้แต่ยืนตัวแข็ง “นที นที ฟังเราอยู่ไหม” “ห๊ะ! ทำไมถึงย้ายล่ะครับ” “พ่อกับแม่จะย้ายไปอยู่บ้านเกิดเพราะเศรษฐกิจที่นี่ไม่ค่อยดี” ฝนพูดแล้วร้องไห้ ไปด้วย

“เราไม่อยากไปนที เราไม่อยากทิ้งเธอ” “ไม่เป็นไรนะฝน เราเข้าใจเธอ” ต่างคนต่างปรับความเข้าใจกัน นทีซึ่งมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากพอ เขาทั้งสอง คนจึงเข้าใจกันได้ง่าย วันที่ 21 กันยายน ในปีนี้ เป็นวันครบรอบและเป็นวันที่ต้องย้ายไปที่ เชียงใหม่ นทีมารอฝนที่สวนสาธารณะ นทีอาสาที่จะขับรถไปส่งฝนกับครอบครัว ฝนจนถึงเชียงใหม่ เพราะ นทีนึกถึงฝันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์ในฝันที่ เหมือนความจริงในปัจจุบันนี้ คือ การที่นทีได้เจอกับฝนที่ใต้ตึกเป็นครั้งแรก ได้ เป็นแฟนกับฝนในวันที่ 21 กันยายน และฝนก็ย้ายที่เรียนและย้ายบ้านไปต่าง จังหวัด ซึ่งเป็นวันที่ฝนต้องเสียชีวิตในวันนั้น ซึ่งนทีจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ เหล่านั้นเกิดขึ้นกับคนรักของเขา นทีจึงทำทุกวิถีทางที่จะขอร้องครอบครัวฝนให้ ไม่ย้ายไป แต่ต้องยอมจำนน และขอเสนอตัวที่จะอาสาไปส่งที่เชียงใหม่ด้วยตัว เอง นทีคิดไว้ว่า ถ้าย้ายไปอยู่กับฝนก็คงดี แต่นทีต้องอยู่กับยายเพียงและตาชุม ซึ่งเป็นคนที่เลี้ยงนทีมาตั้งแต่เด็กๆนทีทิ้งยายเพียงที่กำลังป่วยกับตาชุมไปไม่ได้

บ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างทางเจอกับรถสิบล้อที่เข้ามาเบียดรถบ้าง มือและเท้าของนทีเย็นซีดไปหมด ใบหน้าของนทีดูกังวลมาก เหงื่อไหลอยู่ตลอด เวลาขนาดเปิดแอร์แล้วก็ดับความตื่นเต้นของนทีไม่ได้ เจอสุนัขวิ่งตัดหน้ารถบ้าง แต่ก็หลบได้ทัน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ขับปาดหน้าบ้าง แต่นทีก็ยังคงเรียกสติ ของเขากลับคืนมาได้ นทีขับรถอย่างระมัดระวังจนถึงที่หมายอย่างปลอดภัย นที โล่งอกเหมือนยกภูเขาเป็นสิบๆลูกออกจากอก เพราะฝนไม่ต้องเสียชีวิตเหมือนกับ ความฝันของนทีในตอนนั้น “นทีเป็นไงบ้าง เราไม่เห็นเธอพูดตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว” “เราไม่เป็นไรแค่ตื่นเต้นได้ขับรถทางไกล” นทีพูดพร้อมส่งยิ้มให้กับฝน และฝนก็ ส่งยิ้มให้กับนทีแล้วพูดว่า “เหนื่อยแย่เลย เดียวเราไปทำอาหารมาให้กินนะ” “ได้ ครับฝน” นทีทำทุกหนทางเพื่อไม่ให้ฝนต้องเสียชีวิตเพราะฝนคือคนที่เขารักมาก ไม่ต่างจากยายเพียงและตาชุม เพราะทั้งชีวิตนี้คงไม่มีคนที่รักเขาและเขารักได้ มากขนาดนี้ หลังเรียนจบนทีและฝนก็มีงานประจำทำ มีบ้านมีรถ มีทรัพย์สินเงิน ทองที่พร้อมจะดูแลเขาทั้งสองคนและคนในครอบครัวของแต่ละฝ่าย นทีพร้อมที่ จะสร้างครอบครัวของเขากับฝนแล้ว

วันที่ 21 กันยายน ในปี 2564 ใต้ตึกคณะศิลปะศาสตร์นทีนัดกับฝน เจอกับฝนที่ตรงนี้ ที่เดิม สถานที่เดิม จุดเดิม ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นทุกอย่าง นทีมี เซอร์ไพรส์ที่จะขอฝนแต่งงานในที่แห่งนี้ วันที่ 21 กันยายน เป็นวันที่นทีขอฝน เป็นแฟน และจะเป็นวันที่ขอฝนแต่งงานด้วยเช่นกัน ใต้ตึกคณะศิลปศาสตร์ก็ เป็นสถานที่แรกที่นทีและฝนได้เจอกัน และเป็นสถานที่ที่นทีขอฝนเป็นแฟน แล้ว ล่าสุดสถานที่นี้ก็จะเป็นสถานที่ที่นทีจะขอฝนแต่งงาน “นทีทำไมถึงนัดฝนที่นี่ เราเรียนจบกันแล้วนะคะ” ฝนพูดพร้อมส่งยิ้มให้กับนที “นทีรู้ว่าเรียนจบแล้ว แต่นทีอยากมาอีก” นทีพูดแล้วส่งยิ้มให้กับฝนเช่นกัน “แล้วมีอะไรหรอ” “นทีไม่อ้อมแล้วนะฝน” นทีคุกเข่าแล้วส่งยิ้มให้ฝนอย่างเบิกบาน นทียื่นกล่องแหวนให้ฝน แล้วพูดว่า “ฝน…แต่งงานกับนทีนะ” “ตกลงค่ะ” ฝนไม่มีท่าทีที่จะลังเลเลยแม้แต่นิด ไม่มีอะไรที่ทำให้ฝนต้องคิด เพราะนทีและฝน รักกันมากและจะเป็นรักนิรันดร์ตลอดไป

วันแต่งงาน เป็นวันที่นทีมีความสุขมากที่สุดเพราะเขาได้ผ่านอุปสรรค ต่างๆมามากมาย ทั้งในความฝันของเขาที่เป็นจริงในเรื่องที่มีความสุข และฝันที่ ไม่เป็นจริงคือการที่ฝนไม่ต้องเสียชีวิต นทีพยายามรักษาชีวิตฝนอย่างเต็มที่ เท่า ที่คนๆหนึ่งจะทำให้ได้ ฝนก็รักและดูแลนที ซื่อสัตย์กับนทีมาโดยตลอด รักของ พวกเขาทั้งสองเป็นรักที่นิรันดร์จริงๆ “ผม…นทีจะขออยู่ดูแลฝนไปจนตลอดชั่วชีวิตของผมครับ” “ฉัน…ฝนจะขอดูแลนทีไปจนชั่วชีวิตของฉันค่ะ” “ดั่งดอกกุหลาบสีขาวในงาน แสดงถึง ความรักที่บริสุทธิ์และความรักที่เป็นนิรัน ดร์ เป็นสิ่งที่ผมอยากบอกฝนมาตลอด ฝนคือรักที่นิรันดร์ของผมครับ” “ฝนจะมอบความรักที่บริสุทธิ์และนิรันดร์ให้กับนทีเช่นกันค่ะ ฝนรักนทีนะคะ” แล้วทั้งสองก็กอดกันด้วยความรักที่เต็มไปด้วยความสุข หลังแต่งงานนทีกับฝนก็มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ชื่อน้องนนนนนนถูก เลี้ยงด้วยความรัก เป็นเด็กที่ได้รับความรักและความอบอุ่น นทีภูมิใจมากที่เขาได้ เห็นภาพนี้และเขาก็ดีใจมากที่เขาได้สร้างครอบครัวกับผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด ของชีวิตอย่างฝน

เมื่อนนนโตขึ้น ถึงวัยแก่ชราของนทีและฝน แต่ความรักไม่เคยจางหาย นทียังคงมอบดอกกุหลาบสีขาวให้กับฝนในทุกปีของวันครบรอบ และส่งยิ้มให้ กับฝนตลอด นทีรู้ว่าฝนป่วยตามวัย ทั้งสองคนก็แก่แล้ว แต่ฝนป่วยเป็นโรค มะเร็ง ทำให้เวลาชีวิตของฝนเหลือน้อยเต็มที ฝนยังคงนอนบนเตียงไม้ ไม่ลุก หรือเคลื่อนย้ายไปไหน และยังคงมีเก้าอี้ไม้เก่าๆที่อยู่ข้างเตียงไม้ ที่ไม่เคยหายไป ไหน นทียังคงนั่งเก้าอี้ไม้มองฝนแล้วยิ้มให้ฝนตลอด “ฝนวันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงานของเรา ฝนจะเป็นรักนิรันดร์ของนทีตลอด ไปนะ” พร้อมกับยื่นดอกกุหลาบสีขาวให้กับฝน ซึ่งนอนอยู่บนเตียงแต่พูดตอบ กลับมาไม่ได้ น้ำตาของฝนไหลออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เปี่ ยมไปด้วยความสุข แล้วหลังจากนั้น เครื่องติดตามสัญญาณชีพของฝนก็ดังขึ้น ตี๊ด! ตี๊ด! ตี๊ด! เสียง ยาว จนสัญญาณชีพจรของฝนหายไป พร้อมกับน้ำตาและรอยยิ้มที่เต็มไปด้วย ความสุขของฝน “ขอบคุณนะฝนที่ฝากชีวิตทั้งหมดของฝนให้นทีดูแล”

นทีพบเจอกับฝันที่เป็นจริงในทุกสถานการณ์แล้ว สถานการณ์ที่ทำให้ เขามีความสุขมากที่สุด และสถานการณ์ที่เสียใจมากที่สุด เพราะในชีวิตจริงฝนได้ จากเขาไปแล้ว แต่นทียอมรับความจริงได้ เพราะเขาทำใจกับเรื่องนี้มาสักพักแล้ว เขาดีใจที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับฝนมาทั้งชีวิตของเขา และนทียังคงรอคอยให้ฝนกลับ มาเจอกับนทีอีกครั้งเหมือนกับรักนิรันดร์ฝันที่เป็นจริง ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของ นที ฝนเพียงแค่ตายไปจากชีวิตจริงของนที แต่ไม่เคยตายไปจากหัวใจของนที นทีไม่จมอยู่กับความเศร้าเลยแม้แต่นิด อย่างน้อยทั้งชีวิตของนทีก็ได้มีฝนมาร่วม เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาแล้ว นทีมองดูโรงศพของฝน นทีคอยเฝ้าฝนจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตฝน เขาส่งฝนขึ้นไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ “ฝนไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์นะ” นทีพูดพร้อมส่งยิ้มให้กับฝน คำพูดสุดท้ายของนทีที่อยากบอกฝนคือ…… “เราจะรอฝนนะ” ความฝันเป็นเพียงลางบอกเหตุที่ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและ ไม่ประมาทจนถึงแก่ชีวิต ทุกคนเจอฝันที่เป็นจริงหรือยัง ถ้าเจอคุณจะดำเนินชีวิต ต่อไป

รักนิรันดร์ฝันที่เป็นจริง นักเขียน ณฐพรรณ ชำนาญ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook