Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รัก ( ลัก) เด็ก

รัก ( ลัก) เด็ก

Published by Nathaphan Chamnan, 2021-10-25 08:11:58

Description: รัก ( ลัก) เด็ก

Keywords: เด็ก

Search

Read the Text Version

รัก ( ลัก) เด็ก ผู้เขียน ณฐพรรณ ชำนาญ

พบกับเรื่องราวของคนที่ \"รักเด็ก\" ที่อาจจะกลายเป็น \"ลักเด็ก\" เมื่อคุณได้อ่าน....

“ทำไมฉันต้องมาเจอกับอะไรพวกนี้ ทำไมพ่อแม่ ถึงทิ้งฉัน ทำไมพวกเขาไม่เลี้ยงฉันไว้ ทำไม ทำไม” ทำไม เสียงความคิดของฉันที่มันดังก้องอยู่อยู่ภายในหัวของฉัน มาตลอด 15 ปีที่ได้เกิดมา สวัสดีค่ะ ฉันชื่อยี่หวา เด็ก กำพร้าที่ถูกเลี้ยงให้โตมากับยายร่วมด้วยผ่านมูลนิธิบ้าน ดอกแก้ว ฉันเป็นเด็กคนหนึ่งที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งให้อยู่กับ ยายเพียงในกระท่อมเล็กๆสภาพไม่น่าจะมองเป็นบ้าน เท่า ที่ฉันจำความได้ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อหน้าแม่เลยแม้แต่ สักครั้ง ไม่มีรูป ไม่มีการได้ยินเสียงพ่อแม่อยู่ในความทรง จำของฉันแม้แต่นิด บางทีฉันก็คิดน้อยใจ ว่า “ทำไมฉัน ต้องมาเจอกับอะไรพวกนี้ ทำไมพ่อแม่ถึงทิ้งฉัน ทำไมพวก เขาไม่เลี้ยงฉันไว้ ทำไม ทำไม ทำไม” แต่ก็คงได้แค่คิด เพราะเรื่องราวเหล่านี้มันได้เกิดขึ้นในชีวิตของฉันแล้ว

ฉันนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่ อยอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับมอง พระอาทิตย์ในยามเย็นที่กำลังจะตกลับขอบฟ้า ฝูงนกต่าง โบยบินกลับสู่รัง ลมโชยมาเบาๆทำให้ขนลุก ใกล้เข้าหน้า หนาวแล้ว ผ้าห่มก็มีไม่พอต้องไปขยะขายเพิ่ม ยายเพียงก็อายุ 83 ปีแล้ว ซึ่งแก่ชรามาก จึงไม่มีแรงที่จะต้องไปเก็บผักหรือ เก็บขยะขาย ยายเพียงคงทำได้เพียงแค่ทำอาหาร ปลูกผัก เล็กๆน้อยๆอยู่ที่บ้าน ฉันต้องทำงานให้มากขึ้นกว่าเดิม ฉัน ตั้งใจจะดูแลยายเพียงให้ดีที่สุด เพราะคนที่เลี้ยงฉันมาและ เป็นทั้งหมดของชีวิตฉันคือยายเพียง แต่ยายเพียงทิ้งฉันไปแล้ว “ทำไมวันนี้ยายนเพียงตื่นสายจัง” “ยายจ๋า ยายเพียง ตื่นหรือยังจ๊ะ วันนี้ยี่หวาทำของโปรด ยายให้กินนะจ๊ะ” ไม่มีเสียงตอบรับของยายเพียงแม้แต่น้อย แต่ฉันก็ ไม่ได้เอะใจอะไร จึงทำอาหารใส่ตู้กับข้าวไว้แล้วก็ออกไปเก็บ ผักไปขายที่ตลาด

ที่ตลาดชุมชนบ้านชมพู ฉันนำผักไปขายที่ ตลาดปกติ จู่ๆป้าพรก็วิ่งมาอย่างหน้าตาตื่น ดู กระวนกระวาย รีบตรงดิ่งมาหาฉันโดยเร็ว “ยี่หว่า! ยี่หวา!” “มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะป้า” ป้าพรมีท่าทีที่เหน็ดเหนื่อย และหอบ “เอ็งฟังป้าดีๆนะ ยายเพียงเสียแล้ว เมื่อกี้ป้าเอาผักกับ ปลาทอดไปให้เรียกยังไงก็ไม่ตื่น” “ป้าไปจับดูตัวก็แข็งเย็นไปหมด” ฉันเงียบไปพักใหญ่และน้ำตาก็ไหลออกมาทันที “ไม่จริงใช่ไหมป้าพร มันไม่จริงใช่ไหม” ฉันร้องไห้ ฟูมฟาย รีบวิ่งกลับบ้าน

เผอิญฉันวิ่งไปตัดหน้ารถของพี่ธนนท์ ผู้ที่ทำงานอยู่ มูลนิธิบ้านดอกแก้ว พี่ธนนท์มาถามยายเพียงเสมอว่า ให้ หลานไปอยู่กับพี่ธนนท์เถอะ แล้วยี่หวาจะได้เรียนหนังสือ ได้ อยู่ในที่ที่สบาย และปลอดภัย “หนูยี่หวา เป็นอะไรหรือเปล่าลูก รีบไปไหน” “หนูรีบไปดูยายค่ะ ป้าพรบอกว่าเสียชีวิตแล้ว แต่หนูไม่เชื่อ” ฉันร่ำไห้ไปด้วยและรีบลุกขึ้นเพื่อที่จะวิ่งไปต่อ แต่หัว เข่าทั้งสองข้างของฉันมีแผลถลอกเต็มไปหมด ไหล่ก็ถลอก แต่ฉันก็พยายามพยุงตัวเองขึ้นแล้วฝืนเดินไปบ้าน พอถึงบ้าน รถกู้ภัยของมูลนิธิบ้านดอกแก้วก็มารับยายของฉัน ชาวบ้าน ในระแวงนั้นก็ต่างพากันมามุงดู พี่ที่มาจากมูลนิธิก็เปิดใบหน้า ยายเป็นครั้งสุดท้ายให้ฉันดูและพายายของฉันไป โดยที่ไม่ให้ ฉันไปด้วย เป็นความผิดของฉันแท้ๆถ้าฉันสังเกตุให้มากขึ้นกว่า นี้ ถ้าฉันไปปลุกยายยายก็คงไม่ต้องมาเสียชีวิตเร็วแบบนี้ ฉัน ได้แต่โทษตัวเอง

อยู่มาวันหนึ่งพี่ธนนท์ก็มาพูดคุยกับฉันให้ไปอยู่ที่ มูลนิธิบ้านดอกแก้ว และฉันก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไรเมื่อฉันไม่มี ยายเพียงแล้ว และฉันก็เป็นเด็กอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ไม่ สามารถที่จะเลี้ยงตัวเองได้ ฉันจึงตัดสินใจไปอยู่มูลนิธิ บ้านดอกแก้ว “หนูยี่หวาไปอยู่กับพี่เถอะนะ หนูไม่ต้องกลัวอะไรเลย หนู จะสบายมากกว่านี้ ได้เรียนหนังสือ มีเพื่อน และมีครู มี คนที่รักหนูมากมาย ไปอยู่กับพี่เถอะ” “ได้ค่ะ หนูจะไปอยู่กับพี่ธนนท์”

เช้าวันจันทร์พี่ธนนท์มารับยี่หว่าไปอยู่ที่มูลนิธิ บ้านดอกแก้ว พี่ธนนท์เป็นคนใจดี มีน้ำใจ ฉันจึงวางใจ ที่จะไปกับพี่ธนนท์เพราะฉันเชื่อใจเขา “ป่ะ ไปอยู่กับพี่นะยี่หวา” “ค่ะพี่ธนนท์” “พี่จะดูแลยี่หวาเป็นอย่างดี เชื่อใจพี่นะ” “ยี่หวาพี่ให้เสื้อแขนยาวหนูนะ ใส่ไว้ติดตัวตลอด ถ้าเป็น ไปได้ไม่ต้องถอด เข้าใจไหมจ๊ะ” “เข้าใจค่ะพี่ธนนท์” “เสื้อแขนยาวตัวนี้จะช่วยให้หนูปลอดภัยทุกเวลาที่หนูใส่ จำคำพี่ไว้นะ” “ค่ะพี่ธนนท์”

ฉันมาอยู่ที่มูลนิธิบ้านดอกแก้วได้ 2 เดือนแล้ว ที่นี่ไม่น่ากลัวเหมือนที่ฉันคิด พี่ๆที่นี้ดูแลฉันเป็นอย่างดี พี่ๆ เจ้าหน้าที่ที่นี้ทั้งใจดี และรักเด็กสุดๆทำให้เวลาที่ผ่านมาทั้ง 2 เดือนของยี่หวามีความสุข ยี่หวาได้เรียนหนังสือ ได้กิน ของอร่อย ภายนอกของมูลนิธิบ้านดอกแก้วได้แสดงออกให้ คนอื่นเห็นว่าเป็นมูลนิธิที่รักเด็ก อบอุ่นกับเด็ก และเป็น สถานที่ที่ดูอบอุ่น แต่เรายังไม่รู้ถึงภายในของมูลนิธิบ้าน ดอกแก้ว

เวลา 00:00 ยี่หวานอนด้วยความกระวนกระวาย หลับตาปี๋ เธอฝันเห็นคุณยายที่กำลังเดินมาหาเธอและกอด เธอไว้แน่ “ยายจ๋ากลับมาหายี่หวาแล้ว” แต่ยายเพียงก็ส่งยิ้มให้กับยี่หวา และหายวับ ไปกับตา ยี่หวาจึงวิ่งตามยายไปแต่ก็หายายไม่เจอ เธอฟูมฟายร้องไห้อย่างหนัก แล้วเธอก็ได้สะดุ้งตื่นกลางดึก ของคืนนั้น เธอตื่นมาพร้อมกับคราบน้ำตาที่เปื้ อนใบหน้าและ หมอนของเธอ เธอรู้สึกตัวว่าเธอฝันร้าย ให้ตายยังไงยายของ เธอกไม่กลับมา เธอรู้สึกคอแห้ง จึงลุกออกจากห้องเพื่อไปดื่ม น้ำ เธอเดินออกจากห้องมาเพียงลำพัง ยี่หวาได้ ยินเสียงร้องไห้ และกรีดร้องดังลงมาจากด้านบน ด้วยความ เป็นเด็กของเธอก็เดินไปตามเสียงที่ได้ยิน ยี่หวาเห็นลุงแก่ๆ และเจ้าหน้าของมูลนิธิจับเด็กน้อยคนหนึ่งไป เด็กคนนั้น ร้องไห้ และขอความช่วยเหลืออย่างสุดชีวิต

“ฮื่อ ฮื่อ ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย” เด็กคนนั้นร้องไห้อย่างสุดชีวิตแต่ก็ไม่รอดพ้น คนพวกนั้นพาเด็กหญิงตัวเล็กๆเข้าไปในห้อง แล้วสักพัก เสียงของเด็กน้อยคนนั้นก็เงียบสงบไป ยี่หวาจึงเดินเข้าไปดู เธออยากรู้ว่ามันเกิด เหตุการณ์อะไรขึ้น เธอจึงแอบไปดูที่รูเล็กๆข้างผนังห้อง คนพวกนั้นนำเด็กหญิงตัวเล็กนอนบนเตียง แล้วใช้มีดผ่า ลงไปที่ท้องของเด็ก แล้วนำอวัยวะของเด็กออกมาใส่ซอง ซิปล็อกแล้วแพ็กใส่กล่อง นำไปแช่ในตู้แช่เย็น เมื่อนำ อวัยวะออกแล้ว ก็นำห่อสีเหลืองๆยัดเข้าไปในท้องเด็กซึ่ง ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร และเย็บหน้าท้องของเด็กคนนั้น พร้อมใส่เสื้อผ้าให้กับเด็ก ให้ดูเหมือนว่าเด็กแค่นอนหลับ เฉยๆ

ทุกคนค่ะ นี่คือภายในของมูลนิธิบ้านดอกแก้ว มูลนิธิบ้านดอกแก้วเป็นเพียงแค่มูลนิธิที่จัดขึ้นเพื่อบังหน้า ให้รู้ว่าเป็นมูลนิธิรักเด็กแต่ใครจะไปคิดว่า มูลนิธิบ้านดอก แก้วเป็นเพียงแค่ที่ผลิตยาบ้าและขนส่งยาบ้าผ่านศพของ เด็ก ฉันเห็นก็ร้องไห้ขึ้นมาทันทีด้วยความกลัวว่า สักวันหนึ่งฉันจะเป็นเหมือนเด็กคนนั้น ฉันกำลังจะหันหลัง และรีบวิ่งไป ฉันก็ได้สะดุดกับกระป๋องน้ำ ทำให้คนข้างใน ห้องรีบพากันออกมาดู ฉันถูกคนพวกนั้นจับได้ “อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ หนูขอร้อง” “มานี่ แส่หาเรื่องดีหนัก เอาเด็กคนนี้ไปอีกคน” “อย่าเลยนะจ๊ะ ไว้ชีวิตหนูเถอะ”

ฉันอ้อนวอนและขอความเห็นใจจาก คนพวกนั้น แต่สุดท้ายฉันก็ถูกจับเข้าไปในห้องนั้น ห้อง ที่แสนจะเยือกเย็น และเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์และ กลิ่นคาว ฉันได้แต่ร้องไห้และส่งเสียงขอความช่วยเหลือ คนพวกนั้นจับตัวฉันไว้อย่างแน่น ทันใดนั้นฉันก็ดิ้นให้ แรงสุดความสามารถที่ฉันมี และฉันก็ได้กัดไปตรงมือ ของคนที่กำลังจับตัวฉันไว้ และหยิบมืด แทงเข้าไปใน มือของเขาและรีบวิ่งหนีไปซ้อนใต้บันได “รีบไปตามเก็บเด็กคนนั้นมาให้ได้ มันจะรู้ความจริงไม่ ได้”

เมื่อเวลาผ่านไป สารวัตรธนนท์ กุญชรวิริยะ เป็น ตำรวจนอกเครื่องแบบและได้แฝงตัวเข้ามาทำงานที่มูลนิธิ บ้านดอกแก้วได้ 1 ปีแล้ว สารวัตรธนนท์ติดเครื่องดักฟังไว้ ที่เสื้อแขนยาวของยี่หวาตรงกระดุม ยี่หวาถูกส่งให้ไปปฏิบัติการช่วยเหลือตำรวจที่มูลนิธิบ้าน ดอกแก้วเพื่อจับกุมศูนย์ผลิตยาบ้ารายใหญ่ สารวัตร ธนนท์เข้าไปช่วยยี่หวาได้ทัน ฉันจึงไม่ถูกทำร้ายได้แต่ ร้องไห้เพราะความกลัว ตำรวจบุกล้อมมูลนิธิบ้านดอกแก้วไว้หมดและได้ จับกุมผู้ต้องหาที่ผลิตยาบ้า ที่ยังใช้ร่างกายของเด็กเป็น แหล่งขนส่งยา เกิดการต่อสู้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แต่ สารวัตรธนนท์ก็พายี่หวาออกมาสู่อ้อมกอดของยายเพียง

ยายเพียงยังไม่เสียชีวิต เรื่องราวทั้งหมดเป็น เหตุการณ์ที่สารวัตรและทีมได้จัดฉากขึ้นมาเพื่อล้อม จับกุมพวกที่ผลิตยาบ้าที่อยู่ภายในมูลนิธิ ทำเป็นรัก เด็ก ดูแลเอาใจใส่เด็ก ทำให้บุคคลภายนอกไว้วางใจ แล้วนำเด็กมาฆ่า นำอวัยวะเด็กไปขาย และยังใช้ ร่างกายของเด็กเพื่อยัดยาส่งขายที่ต่างประเทศ “พี่ธนนท์ค่ะ ยี่หวากับยายเพียงปลอดภัยแล้วใช่ไหม คะ” “ใช่จ๊ะ ยี่หวาปลอดภัยแล้ว”

ฉันพุ้งไปกอดยายเพียงด้วยความดีใจ ฉันรู้สึกภูมิใจ ในตัวเองมากที่ผ่านเหตุการณ์อันแสนจะเลวร้าย ฉันได้ช่วย ชีวิตอีกหลายๆชีวิตเพื่อไม่ให้ถูกฆ่า ที่จริงแล้วยายเพียงไม่ อยากให้ฉันมาทำอะไรแบบนี้ แต่เพียงเพราะฉันอยากช่วย เพื่อนของฉัน ฉันมาตามเพื่อนสนิทของฉัน เธอเป็นเด็ก กำพร้า เราเจอกันริมรั้ว เพราะฉันชอบไปเก็บผักแถวนั้นมา ขาย เธอชื่อ บีม เธอเป็นเพื่อนรักของฉัน บีมจะมารอฉันอยู่ ตรงรั้วของมูลนิธิทุกวัน เอาน้ำเอาขนมอร่อยๆมาให้ฉันกินทุก วันเลย แต่มาวันหนึ่งบีมก็ไม่มารอฉันที่รั้วเหมือนเดิม ฉันก็ รอบีมจนค่ำ แต่ยังไงบีมก็ไม่มา ฉันไปหาบีมที่ริมรั้วทุกวัน แต่เธอก็ไม่มา จนพี่ธนนท์อยากให้ฉันเข้าไปในมูลนิธิ ฉันจึง ตัดสินใจที่จะเข้าไป และความจริงที่ฉันกำลังประสบอยู่ คือ บีมได้เสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว เพราะพวกนั้นฆ่าบีม และนำ อวัยวะภายในของบีมไปขาย และแถมยังนำยาบ้ายัดเข้าทาง ช่องท้องของบีม พวกนั้นทำกับบีม เหมือนทำกับเด็กคนนั้นที่ ฉันได้พบเห็น

“โชคดีนะยายที่ยี่หวา ไม่โดนเหมือนเด็กคนนั้น” “ดีแล้วลูก หนูเป็นคนที่กล้าหาญมาก แต่ยายจะไม่ให้หนู ทำแบบนี้อีกแล้วนะ” เด็กทุกคนก็มีหัวใจ มีชีวิตที่เขาอยากจะเติบโต เราไม่ควรเอาชีวิตของพวกเขาให้มาเจอกับเรื่องราวอันโหด ร้ายเช่นนี้ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีแม้แต่พ่อ แม่หรือผู้ปกครองที่มีตัวตนอยู่ในชีวิตของเขา แต่ถ้ามีคน ดูแลเขาเป็นอย่างดี รักเขาให้มากก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ เด็กกำพร้าคนหนึ่งแล้ว แต่การที่คุณทำร้ายหรือฆ่าเด็ก ก็ ไม่ต่างจากคุณลักเด็ก ลักขโมยลูกของเขามาฆ่า เด็ก กำพร้ามีพ่อมีแม่ เพียงแต่เขาไม่มีโอกาสที่จะได้อยู่ด้วยกัน เราไม่ควรมองแต่ภายนอก บางอย่างภายนอก แสดงออกมาให้เห็นสวยหรูดูดี แต่ข้างในอาจจะเต็มไป ด้วยความมืดที่แสนจะน่ากลัว

รัก (ลัก) เด็ก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook