Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore epidemiology

epidemiology

Published by WARISA CHANTARUNGSEEVORAKUL, 2018-08-22 10:48:18

Description: ระบาด บทที่-61-วริศา

Keywords: epidemiology

Search

Read the Text Version

การสอบสวนการระบาดของโรคเป็นการรวบรวมขอ้ มลู จากบคุ คลทร่ี ว่ มอยใู่ นเหตุการณ์ ขอ้ มลู สง่ิ แวดลอ้ มและขอ้ มลู สาเหตุของโรคเขา้ ดว้ ยกนั และใชห้ ลกั วทิ ยาการระบาดเชงิพรรณนา อธบิ ายว่า มอี ะไรเกดิ ขน้ึ (WHAT) เกดิ ขน้ึ เมอ่ื ใด (WHEN) เกดิ ขน้ึ ทไ่ี หน (WHERE) และเกดิ ขน้ึ กบั ใครบา้ ง (WHO)นอกจากนนั้ ตอ้ งใชว้ ทิ ยาการระบาดเชงิ วเิ คราะห์ เพอ่ื ตอบคาถามวา่ โรคเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร การแพรก่ ระจายของโรคเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร (HOW) และทาไมจงึ เกดิ ขน้ึ (WHY)การรวบรวมขอ้ มลู มกั จะเรมิ่ ตน้ จาก case report หรอื จากขอ้ มลู เฝ้าระวงัตามดว้ ยการใชแ้ บบสอบถาม และยนื ยนั ผลจากหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร

วตั ถปุ ระสงคข์ องการสอบสวนการระบาด1. เพอ่ื หาสาเหตุของการระบาด การกระจายของโรค แหลง่ โรคการถ่ายทอดโรค ระยะเวลาของการระบาด และกลมุ่ เสย่ี งตอ่ โรค2. เพอ่ื ยนื ยนั ประสทิ ธภิ าพของมาตรการการป้องกนั ควบคุมโรคท่ีใชอ้ ยู่3. เพอ่ื ป้องกนั มใิ หม้ กี ารถา่ ยทอดโรคจากแหลง่ โรคหรอื สาเหตุของโรคเพม่ิ ขน้ึ4. เพอ่ื หาแนวทางในการปรบั ปรงุ มาตรการการป้องกนั ควบคุมโรค

หลกั ในการสอบสวนโรค1. รวบรวมและจดั หาขอ้ มลู ทางระบาดวทิ ยาเชงิพรรณนาทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การระบาดครงั้ น้ีใหค้ รบถว้ น2. วเิ คราะหแ์ ละสรุปผลจากการวเิ คราะหข์ อ้ มลู3. ตงั้ สมมตฐิ านของการระบาด4. หาขอ้ มลู จาเพาะบางประการเพมิ่ เตมิ เพอ่ื พสิ จู น์สมมตฐิ านนนั้5. ดาเนินการพสิ จู น์สมมตฐิ าน

การสอบสวนโรค มี 2 แบบ คือ1. การสอบสวนผปู้ ่ วยเฉพาะราย (Individual investigation)เป็นการหาขอ้ มลู การป่วยของแตล่ ะบคุ คล ในรายละเอยี ดเก่ยี วกบับคุ คล เวลา สถานท่ี รวมทงั้ ประวตั ิ อาการ การรกั ษาเบอ้ื งตน้ และเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ บั การป่วยครงั้ น้ี2. การสอบสวนในท้องท่ี (Community investigation) เป็นการหาขอ้ มลู ความสมั พนั ธข์ องผปู้ ่วยกบั บคุ คล เวลา สถานท่ี ในชุมชนโดยอาศยั การสงั เกต ซกั ถาม เกบ็ วตั ถุตวั อยา่ งสง่ ตรวจ จากทงั้มนุษยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ มทส่ี งสยั วา่ จะมคี วามสมั พนั ธก์ บั การเกดิ โรค

ขนั้ ตอนการสอบสวนการระบาด1. รวบรวมขอ้ มลู ทางระบาดวทิ ยาเชงิ พรรณนาเช่น ขอ้ มลู จากสถานพยาบาลและจากสถานทเ่ี กดิ เหตุ ไดแ้ ก่- รายงานการตรวจวนิ ิจฉัยผปู้ ่วยเพ่อื ยนื ยนั การวนิ ิจฉยั โรคโดยอาจมหี รอื ไมม่ ผี ลจากหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารรว่ มดว้ ย- คน้ หาผปู้ ่วยเพม่ิ เตมิ เพราะอาจมผี ทู้ ป่ี ่วยไปรบั การรกั ษาท่อี ่นื หรอื ไมไ่ ดร้ บัการวนิ ิจฉยั วา่ ป่วย- รวบรวมขอ้ มลู อาการของผปู้ ่วย ขอ้ มลู ทอ่ี าจบอกสาเหตุของการป่ วย- แจกแจงขอ้ มลู ความถข่ี องการเกดิ โรคทจ่ี ะชว่ ยยนื ยนั ว่ามกี ารระบาดของโรค- รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั เวลาของการเกดิ อาการ

ขนั้ ตอนการสอบสวนการระบาด2. วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในแงข่ อง เวลา, สถานท,่ี บคุ คล- สรา้ ง epidemic curve วนั เวลา ทพ่ี บผปู้ ่วย- พรรณนาอาการสาคญั ทป่ี รากฎส่วนใหญ่- พจิ ารณาลกั ษณะกลมุ่ คนทเ่ี ป็นโรค ว่ามลี กั ษณะอะไรรว่ มกนั อยู่หรอื ไม่ เช่นกนิ รว่ มกนั ทางานทเ่ี ดยี วกนั (แจกแจงขอ้ มลู ตามเวลา สถานท่ี บุคคล)3. ตงั้ สมมตฐิ าน4. ใชแ้ บบสอบถามหาขอ้ มลู จาเพาะเพมิ่ เตมิ เพอ่ื พสิ จู น์สมมตฐิ าน โดยถามถงึ- จานวนผปู้ ่วยและไมป่ ่วยทไ่ี ดร้ บั และไมไ่ ดร้ บั สาเหตุของโรค- คานวณหาอตั ราการป่วย และเปรยี บเทยี บอตั ราการป่วยระหว่างกลุ่มท่ีไดร้ บั และไมไ่ ดร้ บั สาเหตุ เช่น Risk ratio- คานวณหาระยะฟักตวั ของโรค สรา้ งกราฟระยะฟักตวั

ขนั้ ตอนการสอบสวนการระบาด5. ยนื ยนั สาเหตุของโรคจากผลการวเิ คราะหใ์ นหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร6. ดาเนนิ การควบคุมโรค โดยหลกั ดงั น้ี - ทาลายแหล่งเชอ้ื โรค - ขดั ขวางการแพรก่ ระจายของเชอ้ื โรค - เพม่ิ ภมู คิ ุม้ กนั ใหแ้ ก่ susceptible host - ใหค้ าแนะนา7. เขยี นรายงานพรอ้ มแนะนาวธิ ปี ้องกนั การระบาดทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ อีก

การรายงานสถานการณ์การระบาดควรจะประกอบดว้ ยขอ้ มลู ดงั น้ี ก. โรคหรอื ภยั อะไร ถา้ ไมร่ จู้ กั ใหบ้ อกอาการสาคญั ข. ใคร ผปู้ ่วย เพศ อายุ อาชพี งานทท่ี า และอ่นื ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ค. ทไ่ี หน ทอ่ี ยขู่ ณะเรมิ่ ป่วย สถานทท่ี างาน ง. เมอ่ื ใด เวลา วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. ทเ่ี รม่ิ ป่วย จ. รายละเอยี ด เกย่ี วกบั ผปู้ ่วยรายแรก ประวตั กิ ารเดนิ ทางก่อนป่วยในช่วงเวลาระยะฟักตวั ของโรค เชน่ สงสยั ว่าจะเป็นอหวิ า ซง่ึ มรี ะยะฟักตวั 1- 5 วนั จงึ ควรมปี ระวตั กิ ารเดนิ ทาง 5 วนั ก่อนป่วยดว้ ย ฉ. เกบ็ วตั ถุส่งตรวจ อะไร และส่งไปทใ่ี ด เมอ่ื ใด ช. ไดด้ าเนินการอยา่ งไรไปแลว้ บา้ ง เป็นประโยชน์ในการวางแผนดาเนนิ การป้องกนั และควบคุมโรค

Q สวสั ดีUESTION

1. ความหมายของวทิ ยาการระบาดทถี่ ูกต้องทส่ี ุด คือ ข้อใด ก. การเกดิ และการกระจายของโรค ข. สาเหตุของการเกดิ โรคตดิ ต่อและไม่ตดิ ต่อ ค. ปัจจยั ทีม่ ผี ลต่อการแพร่กระจายของโรค ง. การเกดิ การกระจายของโรคและองค์ประกอบ ที่มอี ทิ ธิพลต่อการกระจายของโรค ง

2. ข้อใด กล่าวไม่ถูกต้องก. Host หมายถงึ มนุษย์และการเกดิ โรคของมนุษย์ข. Agent หมายถงึ ส่ิงมชี ีวติ หรือไม่มีชีวติทเ่ี ป็ นสาเหตุของการเกดิ โรคค. Environment หมายถงึ สิ่งแวดล้อมภายในตวั มนุษย์และภายนอกตวั มนุษย์ทท่ี าให้เกดิ โรคง. โรคเกดิ จากการท่ี Host Agent Environmentอยู่ในภาวะสมดุล ง

3. ข้อใด เป็ นการระบาดของโรค ก. การมจี านวนความถข่ี องโรคมากกว่า จานวนความถตี่ ามปกตทิ ี่เคยมี ข. การเกดิ ผ้ปู ่ วยโรคไขทรพษิ 1 ราย ในหมู่บ้าน ค. การเกดิ ผู้ป่ วยโรคกาฬโรค 2 ราย ในหมู่บ้าน ง. ถูกหมดทุกข้อ ง

4. เดก็ ชายคนหนึ่ง เป็ นผื่นขนึ้ ตามผวิ หนัง มอี าการ ตวั ร้อน อ่อนเพลยี แพทย์วนิ ิจฉัยว่าเป็ นโรคหดั จากวงจรธรรมชาตขิ องโรคเดก็ ชายคนนี้ อยู่ในระยะใด ก. ระยะมคี วามไวต่อการเกดิ โรค ข. ระยะก่อนมีอาการของโรค ค. ระยะมีอาการของโรค ง. ระยะหายจากโรค ค

5. ชุมชนท่ีท่านรับผดิ ชอบ มอี ตั ราความชุกของโรค ความดนั โลหติ สูง ในประชากรวยั กลางคน เพม่ิ มากขนึ้ ท่านจะปฏิบัตอิ ย่างไร เพ่ือให้อตั ราการเกดิ โรค ความดนั โลหติ สูงลดลง ภายใน 10 ปี ข้างหน้า ก. ให้ความรู้แก่เดก็ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษา ข. ให้ความรู้แก่ประชาชนทอ่ี ยู่ในช่วงอายุ 20 – 35 ปี ค. ให้ความรู้แก่ญาตผิ ู้เป็ นโรคความดนั โลหติ สูง ง. ให้ความรู้แก่ผู้เป็ นโรคความดนั โลหิตสูง ข

6. อตั ราอบุ ัตกิ ารณ์ของโรค (Incidence rate) หมายถงึ ข้อใดก. จานวนผู้ป่ วยใหม่ที่เกดิ ขนึ้ ต่อหน่วยประชากรกลุ่มเสี่ยง ในช่วงระยะเวลาที่กาหนดข. จานวนผู้ป่ วยท้ังเก่าและใหม่ต่อหน่วยประชากรท้งั หมด ในช่วงระยะเวลาทีก่ าหนดค. จานวนผู้ป่ วยท้ังหมดต่อหน่วยประชากรในช่วงระยะเวลาทก่ี าหนดง. จานวนผ้ตู ายท้งั หมดต่อหน่วยประชากรในช่วงระยะเวลาที่กาหนด ก

7. ข้อใด ทีบ่ อกให้ทราบถงึ สถานการณ์ของการให้บริการ ทางด้านการรักษาโรค พร้อมท้งั เป็ นแนวทาง ในการพจิ ารณาจดั กาลงั คน และขนาดของบริการ ก. อตั ราป่ วยอย่างหยาบ ข. อตั ราตายอย่างหยาบ ค. อตั ราความชุก ง. อตั ราอบุ ัตกิ ารณ์ ค

8. การเฝ้าระวงั โรคใช้หลกั วทิ ยาการระบาดวธิ ีใด ก. วทิ ยาการระบาดเชิงพรรณนา ข. วทิ ยาการระบาดเชิงทดลอง ค. วทิ ยาการระบาดเชิงวเิ คราะห์ไปข้างหน้า ง. วทิ ยาการระบาดเชิงวเิ คราะห์ ณ จุดเวลาใดเวลาหนง่ึ ก

9. จุดมุ่งหมายของการเฝ้าระวงั ทางระบาดวทิ ยา ทส่ี าคญั ที่สุด คือ ก. ทราบแนวโน้มในการเปลย่ี นแปลงของโรค ข. ทราบขนาดปัญหาโรคภยั ไข้เจบ็ ในชุมชน ค. ทราบข้อมูลเพ่ือนาไปควบคุมและป้องกนั โรค ง. ทราบกล่มุ ประชากรทเ่ี ส่ียงต่อการเกดิ โรค ค

10. ตาบลท่ที ่านรับผดิ ชอบมีหมู่บ้าน 4 หมู่บ้าน มปี ระชากร 1,500 คน เมื่อถงึ ฤดูร้อน พบว่า มกี ารระบาด ของโรคอจุ จาระร่วงเฉียบพลนั เกดิ ขนึ้ ใน 2 หมู่บ้าน ท่านจะดาเนินการเฝ้าระวงั ทางระบาดวทิ ยาแบบใด ก. เฝ้าระวงั เชิงรับ ข. เฝ้าระวงั เชิงรุก ค. เฝ้าระวงั เฉพาะโรค ง. เฝ้าระวงั เพื่อค้นหาการเกดิ โรคใหม่ ๆ ข

11. เกดิ โรคไข้เลือดออกขนึ้ 1 ราย ในตาบลท่ที ่านรับผดิ ชอบ ท่านจะดาเนินการอย่างไร เป็ นอนั ดบั แรก เพื่อเป็ นการควบคุมและป้องกนั โรค ก. พ่นหมอกควนั กาจดั ยุง ข. รณรงค์จดั ส่ิงแวดล้อมให้สะอาด ค. ให้ความรู้รายกลุ่ม ง. ให้ความรู้ทางหน่วยรถเคลื่อนที่ ก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook