Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปีการศึกษา 2563

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปีการศึกษา 2563

Description: กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนวัดพิชัย

Search

Read the Text Version

1 กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ในหลักสูตรโรงเรยี นวดั พิชยั พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) โรงเรยี นวัดพชิ ยั สานกั งานเขตบงึ กุ่ม สงั กัดกรุงเทพมหานคร

ก คานา หลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ได้จัดทาขึ้นตามแนวทางที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) และเป็นไปตามมาตรา 27 วรรคสอง แห่ง พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 ซ่ึงกาหนดให้ สถานศึกษามีหน้าที่จัดทาสาระของหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักการ จุดหมายของหลักสูตรแ กนกลาง การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานกาหนด เพ่ือตอบสนองตอ่ ความต้องการในสว่ นท่ีเกยี่ วกบั สภาพปัญหาในชมุ ชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ เพ่ือให้เยาวชนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคมและ ประเทศชาติ สาระการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ในหลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 )ฉบับน้ี ประกอบด้วย ความสาคัญ คุณภาพผู้เรียน โครงสร้างเวลาเรียน สาระมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัดรายปี คาอธิบายรายวิชา การจัดหน่วยการเรียนรู้ แนวทางการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ สื่อการเรียน แหล่ง เรียนรู้ ซึ่งทางโรงเรียนได้กาหนดไว้ในสาระการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ในหลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ฉบบั นี้ เพ่ือให้ผ้ทู ีเ่ กี่ยวข้องได้เข้าใจ และสามารถนาไปใช้ได้อยา่ งถูกตอ้ งและบรรลผุ ลตามท่ีต้องการ สาระการเรียนรู้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ในหลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัยพุทธศักราช 2563 ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ฉบับนี้ สาเร็จลุลว่ งไป ดว้ ยดีก็ด้วยความร่วมมือจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน ผู้ปกครองนักเรียน คณะครู และผู้ทมี่ สี ่วนเกี่ยวขอ้ งทกุ ภาคสว่ นที่มสี ว่ นร่วมดาเนนิ การ ทางโรงเรียนจงึ ขอขอบพระคณุ ทา่ นมา ณ โอกาสน้ี

ข ประกาศโรงเรยี นวัดพชิ ัย เรือ่ ง ใหใ้ ช้หลักสูตรโรงเรียนวัดพชิ ยั พุทธศกั ราช 2563 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ................................................................................ เพื่อใหก้ ารจัดการศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 และกรอบ หลักสูตรท้องถ่ินของสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาสตูล และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2545 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 27 กาหนดให้สถานศึกษาข้ันพื้นฐานมี หน้าที่จัดทาสาระของหลักสูตร ตามท่ีหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กาหนด ดังน้ันสถานศึกษาจึงได้จัดทา หลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ขึ้นซึ่งประกอบด้วย กลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม สาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และระเบียบการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ หลักสูตรโรงเรียนวัด พิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ทั้งน้ี หลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ได้รับความเห็นชอบ ให้ใช้หลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) จากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในคราวประชุม คร้ังที่ 1/2563 เมื่อวันท่ี 12 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2563 จึงประกาศ ให้ใช้หลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ดังน้ี ปีการศึกษา 2561 ให้ใช้ในชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 และ 4 ปีการศึกษา 2562 ใหใ้ ชใ้ นช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1, 2, 4 และ 5 ตั้งแต่ปกี ารศึกษา 2563 เป็นตน้ ไป ให้ใชใ้ นทุกชั้นเรียน ประกาศ ณ วันที่ 13 เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ........................................ ..................................... (นายมิตร เจริญวัลย์) (นางศรนิ รัตน์ ดารงสินศักด)์ิ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นฐาน ผู้อานวยสถานศึกษาโรงเรยี นวดั พิชัย

ค สารบญั หนา้ คานา………………………………………………………………………………………………………………………………….ก ประกาศโรงเรียนวัดพิชยั เรือ่ ง ใหใ้ ชห้ ลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชิ ัย พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ………………………………………………………………….ข กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ……………………………………………………………………………………………………1 ความสาคัญ…………………………………………………………………………………………………………..1 วิสยั ทศั น์……………………………………………………………………………………………………………….1 ธรรมชาตแิ ละลกั ษณะวชิ า……………………………………………………………………………………..1 คุณภาพผู้เรียน………………………………………………………………………………………………………2 โครงสรา้ งเวลาเรียน...........................................................................................................4 กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน........................................................................................................4 กจิ กรรมแนะแนว .................................................................................................7 กจิ กรรมนกั เรียน..................................................................................................26 กจิ กรรมลกู เสอื ยุวกาชาด....................................................................................27 กิจกรรมชมุ นุม......................................................................................................66 กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์............................................................70 การประเมินผล..................................................................................................................78 ภาคผนวก

1 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ในหลกั สตู รโรงเรียนวดั พิชัย พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) 1. ความสาคญั พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 กาหนดแนวการจัดการศึกษา โดยยึดหลักวา่ ผู้เรียน ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสาคัญที่สุดกระบวนการจัด การศึกษาต้องสง่ เสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ โดยจัดเนอ้ื หาสาระ และ กิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน คานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึก ทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกัน แก้ปัญหาและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กอปรกับ มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและ เทคโนโลยี ก่อให้เกิดท้ังผลดีและผลเสียต่อการดาเนินชีวิตในปัจจุบันของบุคคล ทาให้เกิดความยุ่งยาก ซบั ซอ้ นมากย่งิ ขึน้ จาเปน็ ตอ้ งปรับเปล่ยี นวิถีการดาเนินชวี ติ ให้สามารถดารงอย่ใู นสังคมได้อย่างมคี ุณคา่ มศี กั ด์ศิ รี และมีความสขุ หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กาหนดให้มีสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนซ่ึง เป็นกจิ กรรมท่จี ัด ให้ผเู้ รียนได้พฒั นาความสามารถของตนเองตามศกั ยภาพ มุ่งเน้นเพิ่มเติมจากกิจกรรมที่ได้ จดั ใหผ้ ู้เรียนตามกล่มุ สาระทั้ง 8 กลุ่ม การเข้าร่วมและปฏิบตั ิกิจกรรมท่เี หมาะสมรว่ มกับผอู้ น่ื อย่างมีความสุข กับกิจกรรมท่ีเลือกด้วยตนเอง ตามความถนัด และความสนใจอย่างแท้จริง การพัฒนาท่ีสาคัญ คือ การ พัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม ให้เป็นผู้มี ศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย และมีคุณภาพ ปลูกฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพื่อสังคม และประเทศชาติ 2. วิสยั ทศั น์ วิสัยทัศน์ของกลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมที่จัดอย่างเป็นกระบวนการ ด้วยรูปแบบ วิธีการท่ีหลากหลาย ให้ได้รับประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง มีความหมาย และมีคุณค่าในการพัฒนา ผ้เู รียนท้ังด้านร่างกาย จิตใจ สตปิ ัญญา อารมณ์ และสังคม มงุ่ เสริมเจตคติ คุณค่าชีวิต ปลูกฝงั คณุ ธรรมและ ค่านิยมที่พึ่งประสงค์ ส่งเสริมให้รู้เรียน รู้จักและเข้าใจตนเอง สร้างจิตสานึกในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรบั ตัวและปฏิบัติตนให้เปน็ ประโยชน์ตอ่ สังคม ประเทศชาติและดารงชีวิตไดอ้ ยา่ งมีความสขุ 3. ธรรมชาติและลักษณะวิชา กลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เน้นการจัดกิจกรรมในลักษณะของการบูรณาการ องค์ความรู้ต่างๆ ท่ีเกื้อกูลส่งเสริมการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระให้มีความกว้างขวางลึกซึ้งย่ิงขึ้น อีกท้ังให้ผู้เรียนได้ค้นพบและใช้ ศักยภาพท่มี ใี นตนอย่างเต็มที่ เลือก ตดั สนิ ใจ ได้อยา่ งมีเหตุผลเหมาะสมกับตนเอง สามารถวางแผนชวี ติ และ อาชีพได้อย่างมีคุณภาพ เน้นการเสริมสร้างทักษะชีวิต วุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรม และ จริยธรรม กิจกรรมพฒั นาทักษะชวี ิต กิจกรรมสร้างเสรมิ ประสิทธิภาพทางการเรียน เป็นต้น

2 4. คณุ ภาพของผู้เรียน  คุณภาพของผูเ้ รียนเมือ่ จบหลกั สตู ร กลมุ่ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน มุ่งพฒั นาผู้เรียนใหร้ ู้จกั และเห็นคุณคา่ ในตนเองและผู้อน่ื มวี ฒุ ิภาวะทาง อารมณ์ มีกระบวนการคิด มีทักษะในการดาเนินชีวิตอย่างเหมาะสม และมีความสุข มีจิตสานึกในการ รับผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ  คณุ ภาพของผูเ้ รียน จบชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 รคู้ วามต้องการ จดุ เด่นจุดด้อยของตนเองตลอดจนตดั สินใจแก้ไขปัญหางา่ ยๆ ของตนเองได้ ทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับวัย สามารถค้นหาข้อมูลจาก แหล่งใกล้ตัวและเลอื กใช้ข้อมลู ใหเ้ ปน็ ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั จบชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 รู้ความต้องการและความสนใจของตนเอง พัฒนาจุดเด่นและปรับปรุงจุดด้อย รู้และเข้าใจปัญหาที่ ซับซ้อน มีการควบคุมอารมณ์และมีการแสดงออกได้เหมาะสมกับวัยและสถานการณ์ ทางานร่วมกับผู้อื่นได้ อย่างมีความสุข ตัดสินในการแก้ปัญหาของตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สามารถค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ดว้ ยวิธกี ารทีห่ ลากหลายและเลือกใชข้ ้อมูลใหเ้ ป็นประโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน 5. ความหมาย กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น เป็นกิจกรรมท่ีจัดอย่างเป็นกระบวนการด้วยรูปแบบ วธิ ีการที่หลากหลาย ใน การพัฒนาผู้เรียนด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม มุ่งส่งเสริมเจตคติคุณค่าชีวิต ปลูกฝัง คุณธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สร้างจิตสานึกในธรรมชาติ และ ส่งิ แวดลอ้ ม ปรบั ตวั และปฏบิ ตั ติ นให้เปน็ ประโยชนต์ ่อสังคม ประเทศชาติ และดารงชีวติ ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. เป้าหมาย การจดั กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นมงุ่ พัฒนาให้บุคคลรจู้ ักและเห็นคณุ ค่าในตนเองและผอู้ ื่นมีวฒุ ภิ าวะทาง อารมณ์ มีกระบวนการคิด มีทักษะในการดาเนินชีวิตอย่างเหมาะสม และมีความสุข มีจิตสานึกในการ รบั ผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สงั คมและประเทศชาติ โดยกาหนดเปา้ หมายในการจัดกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ดังน้ี 1. ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย เกิดความรู้ความชานาญ ทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพ อยา่ งกวา้ งขวางมากยง่ิ ขึน้ 2. ผู้เรียนค้นพบความสนใจ ความถนัด และพัฒนาความสามารถพิเศษเฉพาะตัวมองเห็นช่องทาง ในการสรา้ งงาน สรา้ งอาชีพในอนาคตไดเ้ หมาะสมกับตนเอง 3. ผเู้ รียนเห็นคุณค่าขององค์ความรู้ต่างๆ สามารถนาความรู้และประสบการณ์ไปใช้ในการพัฒนา ตนเอง และประกอบอาชพี 4. ผเู้ รยี นพัฒนาบุคลกิ ภาพ เจตคติ ค่านิยมในการดารงชวี ิต และสร้างศลี ธรรมจรยิ ธรรม 5. ผเู้ รียนมจี ิตสานึกและทาประโยชนเ์ พื่อสงั คมและประเทศชาติ

3 7. หลกั การ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นมีหลักการ ดังนี้ 1. มีการกาหนดวตั ถปุ ระสงค์และแนวปฏบิ ตั ิที่ชดั เจนเปน็ รปู แบบ 2. จัดให้เหมาะสมกบั วัย วุฒภิ าวะ ความสนใจ ความถนดั และความสามารถของผูเ้ รียน 3. บรู ณาการวชิ าการกบั ชวี ิตจริง ให้เรียนไดต้ ระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการเรยี นรู้ตลอดชวี ติ 4. ใช้กระบวนการกลุ่มในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ฝึกให้คิดวิเคราะห์ สรา้ งสรรค์จิตนาการ ทีเ่ ป็นประโยชน์และสมั พันธ์กับชีวิตในแต่ละชว่ งวยั อยา่ งตอ่ เน่ือง 5. จานวนสมาชกิ มคี วามเหมาะสมกบั ลักษณะของกิจกรรม 6. มีการกาหนดเวลาในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายของ สถานศกึ ษา 7. ผู้เรียนเป็นผู้ดาเนินการ มีครูเป็นท่ีปรึกษา ถือเป็นหน้าที่และงานประจาโดยคานึงถึงความ ปลอดภยั 8. ยึดหลักการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรท้ังภาครัฐและ เอกชน มีส่วนร่วมในการจัดกจิ กรรม 9. มีการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม โดยวิธีการท่ีหลากหลายและสอดคล้องกับกิจกรรมอย่าง เปน็ ระบบและต่อเนื่อง โดยใหถ้ ือว่าเปน็ เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการผ่านช้ันปี 8. การจัดกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน การจัดกิจกรรมจดั ใหผ้ ู้เรยี นทุกคนเข้ารว่ มกิจกรรม โดยมแี นวการจดั กิจกรรม ดังนี้ 1. ให้ผ้เู รียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามความสนใจ 2. ให้ผเู้ รยี นได้ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมผา่ นประสบการณ์ที่หลากหลาย ฝกึ การทางานท่ีสอดคลอ้ งกบั ชีวติ จริง ตลอดจนสะทอ้ นความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์ของผู้เรียน 3. จัดกจิ กรรมอย่างสมดลุ ทัง้ 3 ลักษณะ คอื กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรยี นและกิจกรรมเพอื่ สังคม และสาธารณประโยชน์ โดยจัดกิจกรรมรายบุคคล กิจกรรมกลุ่ม ท้ังในและนอกสถานศึกษาอย่าง สมา่ เสมอและต่อเนื่อง 4. จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนเป็นผู้ดาเนินการโดยการศึกษาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็น ระบบ เนน้ การคดิ วิเคราะห์และใชค้ วามคิดสรา้ งสรรค์ในการดาเนนิ กิจกรรม 5. ใช้กระบวนการมสี ว่ นรว่ มและการเรยี นร้แู บบรว่ มมือมากกว่าเนน้ การแข่งขนั บนพนื้ ฐาน การปฏิบตั ติ ามวิถีประชาธิปไตย 6. จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรยี นร้แู ละเผยแพร่กจิ กรรม 9. ขอบข่ายการจดั กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น จดั กิจกรรมให้ครบท้ัง 3 ลักษณะ คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียนและกิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ โดยมขี อบข่าย ดังน้ี 1. จัดกิจกรรมท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้กว้างขวางลึกซึ้งยิ่งขึ้นในลักษณะเป็น กระบวนการเชิงบูรณาการโดยยึดหลักคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนสามารถบูรณาการระหว่างกิจกรรมแนะ แนว กิจกรรมนกั เรียน และกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์

4 2. จัดกิจกรรมท่ีตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่าง ระหว่างบุคคล เน้นการให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของวิชาความรู้ อาชีพ และการดาเนินชีวิตท่ีดีงาม ตลอดจนเห็น แนวทางในการศกึ ษาตอ่ และการประกอบอาชีพ 3. จัดกิจกรรมที่ปลูกฝังและส่งเสริมจิตสานึกการทาประโยชน์ต่อสังคมในลักษณะต่างๆ สนับสนุน ค่านิ ย มท่ีดี งามแล ะเส ริมส ร้างคุณ ลักษณ ะอัน พึ งป ระสงค์ตามห ลั กสูต รแกน กล างการศึกษ าขั้น พื้ น ฐาน พุทธศกั ราช 2551 4. จัดกิจกรรมท่ีฝึกการทางานและการให้บริการด้านต่าง ๆ ทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและต่อ สว่ นรวม เพื่อเสริมสรา้ งความมีนา้ ใจ ความเอ้ืออาทร ความเปน็ พลเมอื งดี ตอ่ สงั คมและประเทศชาติ โครงสรา้ งกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นและเวลาเรยี น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในหลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ประกอบด้วยกิจกรรม 3 ลักษณะ ดงั นี้ 1.กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียนและอาชีพ สามารถปรับตน ได้อย่างเหมาะสม นอกจากน้ียังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ท้ังยังเป็นกิจกรรมท่ีช่วยเหลือ และให้คาปรึกษาแก่ผู้ปกครองใน การมีส่วนร่วมพัฒนาผเู้ รยี น 2. กจิ กรรมนกั เรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นา ผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบการทางาน ร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันเอ้ืออาทรและ สมานฉันท์ โดยจดั ให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนดั และความสนใจของผ้เู รยี น ใหไ้ ด้ปฏิบัติดว้ ยตนเอง ในทุกข้ันตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมิน และปรับปรุงการทางานเน้นการ ทางานร่วมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนและบริบ ทของสถานศึกษา และท้องถ่นิ กิจกรรมนกั เรยี นประกอบด้วย 2.1 กจิ กรรมลูกเสอื เนตรนารี 2.2 กจิ กรรมชุมนุม 3. กิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถ่ินตามความ สนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพ่ือแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม และการมีจิต สาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพฒั นาตา่ งๆ กิจกรรมสร้างสรรคส์ ังคม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในหลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ท้ัง 3 ลักษณะ คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์เม่ือผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมแล้วนาไปสู่ เป้าหมายเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนใน หลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) มีความสมั พันธเ์ ช่อื มโยงกัน

5 โรงเรียนวดั พิชัย ได้กาหนดโครงสรา้ งเวลาในการจดั กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นในชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีละ 120 ชั่วโมงเป็นเวลาสาหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และ กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ สาหรับกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์โรงเรียนวัดพิชัย จดั เวลาใหผ้ เู้ รียนไดป้ ฏิบตั ิกจิ กรรม ดงั นี้ กจิ กรรม ประถมศกึ ษา ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 กจิ กรรม แนะแนว 40 40 40 40 40 40 กจิ กรรมนักเรียน 30 30 30 30 30 30 - ลูกเสือ เนตรนารี 40 40 40 40 40 40 - ชุมนุม กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 10 10 10 10 10 10 รวมท้งั ส้นิ 120 120 120 120 120 120 ซึง่ ผ้เู รยี นตอ้ งไดร้ ับการพฒั นาและฝึกปฏบิ ตั ิกจิ กรรมทั้ง 3 กิจกรรม อย่างต่อเน่ืองทุกปจี นจบการศกึ ษาตาม กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นในหลักสตู รโรงเรยี นวัดพชิ ัย พทุ ธศกั ราช 2563 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

6

7 กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมแนะแนวเป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รจู้ ักตนเอง รรู้ ักษ์สิง่ แวดล้อม สามารถ คิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตท้ังด้านการเรียนและอาชีพ สามารถปรับตนได้ อย่างเหมาะสม นอกจากน้ยี ังช่วยให้ครูรู้จกั และเขา้ ใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมท่ีช่วยเหลือและให้คาปรึกษาแก่ ผูเ้ รยี น การจัดกิจกรรมแนะแนวท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ กิจกรรมแนะแนวที่จัดนั้นจะต้องครอบคลุมทั้ง ด้านการศึกษา การงานและอาชีพ และชีวิตและสังคม รวมทั้งสอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ธรรมชาติของผู้เรียนและวิสัยทัศนข์ องสถานศึกษา และตอบสนองจุดมุ่งหมายหลักสูตรฯ ครูผู้ จดั กิจกรรมแนะแนวสามารถจัดกิจกรรมได้หลายรปู แบบ ท่ีเน้นให้ผู้เรียนมีอิสระในการคิดและตัดสินใจด้วย ตนเอง เรียนรู้ด้วยตนเองด้วยการปฏิบัติจนกระทั่งเกิดทักษะชีวิตหรือการเรียนรู้ รูปแบบการจัดกิจกรรมที่ หลากหลาย หลักการ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในหลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ได้กาหนดให้มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นกิจกรรมท่ีจัดเพิ่มเติมให้แก่ผู้เรียน นอกเหนือจากการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระท้ัง 8 กลุ่ม โดยการพัฒนาที่ สาคัญ ได้แก่ การพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และ สังคม โดยเป็นกิจกรรมท่ีจะช่วยสร้างเยาวชนให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย และมีคุณภาพ เพ่ือพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ ปลูกฝังและสร้างจติ สานึกของการทาประโยชน์เพื่อสังคม ซงึ่ สถานศกึ ษาจะตอ้ งดาเนนิ การอย่างมีเป้าหมาย มรี ปู แบบและวธิ กี ารที่เหมาะสม กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนแบ่งเป็น 2 ลกั ษณะ คือ กิจกรรมแนะแนวและกิจกรรมนักเรียน ในท่ีน้ีจะ กล่าวถึงเฉพาะกิจกรรมแนะแนว ว่าเป็นกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาความสามารถของผู้เรียนให้เหมาะสม ตามความแตกต่างระหว่างบุคคล สามารถค้นพบและพัฒนาความสามารถของตน เสริมสร้างทักษะชีวิต วุฒิ ภาวะทางอารมณ์ การเรียนรู้ในเชิงพหุปัญญา และการสร้างสัมพันธภาพอันดี ซึ่งผู้สอนทุกคนต้องทาหน้าที่ แนะแนว ให้คาปรึกษาดา้ นชวี ติ การศกึ ษาตอ่ และการพฒั นาตนเองสโู่ ลกอาชพี และการมีงานทา การจัดกิจกรรมแนะแนว จะเป็นประโยชน์ต่อครูและผู้เรียนตามขอบข่ายท้ังหมด ประถมศึกษา ปที ่ี 1 – 6 โดย แบ่งกลุ่มกจิ กรรมเปน็ 4 กลุม่ คือ 1. กล่มุ กิจกรรมรู้จกั เขา้ ใจ และเห็นคุณคา่ ในตนเองและผอู้ ืน่ 2. กลุ่มกิจกรรมการปรับตวั และดารงชวี ติ 3. กลุ่มกิจกรรมการตดั สินใจและแกป้ ญั หา 4. กลมุ่ กิจกรรมการแสวงหาและใช้ข้อมูลสารสนเทศ

8 วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ผเู้ รียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รกั และเห็นคุณค่าในตนเอง และผู้อ่นื 2. เพื่อให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ท้ังด้านการศึกษา อาชีพ ส่วนตัว สังคม เพ่ือนาไปใช้ในการวางแผน เลือกแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสม สอดคลอ้ งกับศักยภาพของตนเอง 3. เพอ่ื ให้ผู้เรียนไดพ้ ฒั นาบุคลิกภาพ และปรบั ตวั อยู่ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ 4. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์ ในงานอาชีพและมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพ สุจริต 5. เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมที่ดีงามในการดาเนินชีวิต สร้างเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมแก่ นักเรียน 6. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีจิตสานกึ ในการรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ ขอบข่าย การจดั กจิ กรรมแนะแนว มีองค์ประกอบ 3 ดา้ น ดังน้ี 1. ดา้ นการศึกษา ให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองในดา้ นการเรียนอยา่ งเต็มตามศักยภาพรู้จักแสวงหาและ ใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธภิ าพ มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีวิธีการ เรียนรู้ และสามารถวางแผนการเรียนหรอื การศึกษาต่อได้อย่างเหมาะสม 2. ด้านอาชีพ ให้ผู้เรียนได้รู้จักตนเองในทุกด้าน รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพอย่างหลากหลาย มีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจริต มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพื่อประกอบอาชีพตามที่ตนเองมีความ ถนัดและสนใจ 3. ด้านส่วนตัวและสังคม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อ่ืน รักษ์ส่ิงแวดล้อม มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติที่ดีต่อการมีชีวิตที่ดีมีคุณภาพมีทักษะชีวิต และสามารถ ปรับตัว ดารงชวี ิตอย่ใู นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข แนวการจัดกิจกรรม 1. ศกึ ษาวเิ คราะห์สภาพปัญหา ความตอ้ งการ ความสนใจ ธรรมชาติของผเู้ รยี น 2. วิเคราะห์สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ วิสัยทัศน์ของสถานศึกษา และ วิเคราะห์ข้อมูลของผูเ้ รียนเป็นรายบคุ คล 3. กาหนดสัดส่วนของกิจกรรมแนะแนวให้ครอบคลุมด้านการศึกษา ด้านอาชีพ ด้านส่วนตัวและ สังคม โดยยึดสภาพปัญหา ความต้องการ ความสนใจ ตลอดจนธรรมชาติของผู้เรียนและเป้าหมายของ สถานศกึ ษา โดยครู ผ้ปู กครอง และผเู้ รยี นมีส่วนรว่ ม 4. กาหนดวตั ถปุ ระสงคก์ ารจัดกิจกรรมแนะแนวของสถานศึกษา เป็นระดับการศกึ ษาและชั้นปี 5. ออกแบบการจัดกิจกรรมแนะแนว ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ การจัดกิจกรรม เวลาจัดกิจกรรม หลกั ฐานการทากิจกรรม และการประเมินผล 6. จัดทาแผนการจัดกิจกรรมแนะแนวรายช่ัวโมง ประกอบด้วย ช่ือกิจกรรม จุดประสงค์ เวลา เนื้อหา/สาระ วธิ ดี าเนินกิจกรรม ส่อื /อปุ กรณ์ และการประเมนิ ผล 7. จัดกจิ กรรมแนะแนวตามแผนการจดั กิจกรรมแนะแนวและประเมนิ ผลการจดั กิจกรรม 8. ประเมนิ เพอื่ ตดั สนิ ผล และสรปุ รายงาน

9 โครงสร้างกจิ กรรมแนะแนว ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง ท่ี เรื่อง จดุ ประสงคช์ ั้นปี จุดประสงค์การเรยี นรู้ จานวน ช่ัวโมง 1 ตัวหนู 1.1.1 เรียกชื่อส่วนต่างๆ ของ 1. บอกชื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ 3 ร่างกายได้ถกู ต้อง ถูกต้อง 2. ชส้ี ว่ นตา่ งๆ ของร่างกายไดถ้ ูกต้อง 3. บอกหน้าท่ีของส่วนต่างๆ ของร่างกาย ได้ถกู ต้อง 2 ชอบไหม ชอบ 1.1.2 ระบุส่วนต่างๆ ของ 1. ร่วมกับ เพ่ื อน บอกส่วนต่างๆของ 3 ไหม ร่างกายท่ีตนเองพอใจพร้อม ร่างกายที่ตนเองพอใจและรับรู้ส่วนต่างๆ เหตุผลและรับรู้ในส่วนของ ของรา่ งกายทีเ่ พื่อนพอใจได้ รา่ งกายทีเ่ พ่ือนพอใจ 2. รว่ มอภิปรายกับเพ่ือนท่ีพอใจส่วนต่างๆ ของร่างกายที่เหมือนกันเก่ียวกับเหตุผลที่ พอใจได้ 3 ปลอดภยั ไวก้ อ่ น 1.1.3 ดูแลส่วนต่างๆ ของ 1. บอกวิธีการดูแลส่วนต่างๆ ของร่างกาย 3 ร่างกายท้ังของตนเองและ ตนเอง เพื่อนให้ปลอดภยั 2. ปฏิบัติตนในการดูแลส่วนต่างๆ ของ รา่ งกายของตนและเพื่อนให้ปลอดภยั ได้ 4 บอกนิดคิดอะไร 1 .1 .4 บ อ ก อ า ร ม ณ์ แ ล ะ 1. บอกอารมณ์และความรู้สึกท่ีเคยเกิด 4 อยู่ ความรูส้ กึ ของตนเองได้ ขึ้นกับตนเอง 2. บ อกสาเห ตุการเกิดอ ารม ณ์ แล ะ ความรู้สกึ ได้ 3. บอกอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง ในภาวการณต์ ่างๆ ได้ 5 เราตา่ งกัน 1.2.1 รับ รู้ความแตกต่าง 1. ร่วมเสนอส่ิงที่แตกต่างทางด้านร่างกาย 3 ทางด้านร่างกายของตนเอง ของตนเองและเพือ่ น และเพอ่ื น 2. สรุป ได้ว่าคน เรามีความแตกต่าง 1.5.1 ยอมรับความแตกต่าง ทางดา้ นรา่ งกาย ทางด้านร่างกายของตนเอง และเพอ่ื น 6 หนูชอบแบบน้ี 1.3.1 ระบุงานและกิจกรรม 1. ร่วมสนทนาเกี่ยวกับงานและกิจกรรม 4 เพื่อนชอบแบบ เก่ียวกับการเรียนที่ชอบและ ดา้ นการเรียนทช่ี อบ

10 ท่ี เรอ่ื ง จุดประสงคช์ นั้ ปี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จานวน น้ัน ช่วั โมง ไม่ ช อ บ ร ว ม ท้ั งก า ร รั บ รู้ 2. ร่วมสนทนาเกี่ยวกับงานและกิจกรรม ความชอบและไม่ชอบของ ดา้ นการเรยี นท่ีไม่ชอบ เพื่อนในชัน้ เรยี น 3. บอกเหตุผลของการชอบและไม่ชอบ เกี่ยวกับงานและกิจกรรมด้านการเรียน ของตนเองและเพ่อื นในชน้ั เรียนได้ 7 พ่ อ แ ม่ ห นู ท า 2.1.1 บอกอาชพี ของพ่อแม่ 1. บอกชอื่ อาชพี ของพอ่ ได้ 4 3 อะไร 2. บอกข้อมลู อาชีพของพ่อได้พอสมควร 4 3. บอกช่อื อาชีพของแม่ได้ 3 3 4. บอกข้อมลู อาชีพของแม่ได้พอสมควร 3 8 หนเู ก่งไหม 3.1.1 บอกความหมายของ อธิบายความหมายของเครื่องหมาย เคร่ืองห มาย สัญ ลักษ ณ์ ท่ี สญั ลกั ษณ์ที่แสดงถึงคุณภาพด้านการเรยี น แสดงถงึ คณุ ภาพด้านการเรียน ได้ ของตน 9 สุขภาพดีชีวีเป็น 3.3.1 ดูแลตวั เองในการปฏิบัติ 1. ระบุกิจวตั รประจาวันท่ตี อ้ งปฏบิ ตั ิ สขุ กจิ วัตรประจาวัน 2. สารวจกิจวัตรประจาวันท่ีปฏิบัติได้เอง และยังไมป่ ฏบิ ตั ิ 3. ร่ว ม อ ภิ ป ราย ก ารป ฏิ บั ติ กิ จ วัต ร ประจาวนั ทตี่ นทาไดเ้ องกับกล่มุ เพอื่ น 4. บอกประโยชน์ของการปฏิบัติกิจวัตร ประจาวนั ได้ดว้ ยตนเอง 10 อะไรเอ่ย 3.4.1 รู้จักสังเกต ตั้งคาถาม 1. บอกรายละเอยี ดของสิง่ ทเี่ ห็นได้ และแสวงหาคาตอบ 2. ตงั้ คาถามในส่งิ ทตี่ นเองสงสยั ได้ 3. บอกวิธีหาคาตอบของคาถามท่ีตนสงสัย ได้ 11 อารมณห์ นู 3.4.2 รู้เท่าทนั อารมณ์ 1. บอกสภาวะของอารมณ์และความรู้สึก อารมณไ์ หน ของตนเองต่อสิ่งตา่ งๆ 2. บอกสาเหตุของภาวะอารมณ์ และ ความรู้สึกของตนเองต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว ได้ 12 ฟังอย่างไรให้รู้ 3.4.3 เปน็ ผู้ฟังทดี่ ี 1. จาแนกการปฏิบัติในการเป็นผู้ฟังที่ดี เร่ือง และไมด่ ไี ด้ 2. ร่วมกันบอกแนวปฏิบัติตนในการเป็น ผฟู้ งั ทด่ี ไี ด้

11 ท่ี เร่ือง จดุ ประสงคช์ ้ันปี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จานวน รวม ชวั่ โมง 3. ปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในการเป็นผู้ฟังท่ี ดไี ด้ 40

12 โครงสร้างกจิ กรรมแนะแนว ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 40 ช่วั โมง ที่ เร่อื ง จุดประสงค์ชน้ั ปี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จานวน ช่วั โมง 1 ส่ ว น ต่ า งๆ ข อ ง 1.1.1 อธิบายหน้าที่ของ 1. เรยี กชอื่ ส่วนตา่ งๆ ของร่างกายได้ถกู ต้อง 4 รา่ งกาย ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ 2. ร่วมกับเพ่ือนบอกหน้าท่ีของส่วนต่างๆ ถูกต้อง ของร่างกายได้ 3. ระบุช่ือและหน้าท่ีของส่วนต่างๆ ของ ร่างกายตนเองได้ 4. สรุปหน้าท่ีของส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ ถูกตอ้ ง 2 กายดี ชวี ีมสี ุข 1.1.2 ดูแลรักษาส่วนต่างๆ 1. ระบุวิธีปฏิบัติตนในการดูแลรักษาส่วน 5 ของร่างกายทั้งของตนเอง ตา่ งๆ ของรา่ งกายในชีวติ ประจาวนั ได้ และเพ่ือนใหป้ ลอดภัย 2. อภิปรายเกี่ยวกับวิธีดูแลรักษาส่วนต่างๆ ของร่างกาย 3. นาเสนอวิธีดูแลรักษาส่วนต่างๆ ของ รา่ งกายแต่ ละสว่ นอย่างปลอดภัยได้ 4. สรุปวิธีปฏิบัติตนในการดูแลรักษาส่วน ต่างๆ ของร่างกายได้อย่างปลอดภยั 5. ปฏิบัติในการดูแลรักษาส่วนต่างๆ ของ ร่างกายได้อย่างปลอดภัย และแนะนาเพื่อน ได้ 3 รู้เขา ร้เู รา 1 .1 .3 บ อ ก อ า ร ม ณ์ 1. ระบุอารมณค์ วามรู้สกึ ของตนเองได้ 4 ความรู้สึกของตน และรับรู้ 2. ระบอุ ารมณค์ วามรู้สกึ ของเพอ่ื น ครูได้ อารมณ์ความ รู้สึกของครู 3. ระบุอารมณ์ความรู้สึกของสมาชิกใน เพื่อนในห้องเรียนและ ครอบครวั ได้ สมาชกิ ในครอบครัว 4 ตา่ งจิต ต่างใจ 1 .2 . 1 รั บ รู้ อ า ร ม ณ์ 1. บอกอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง 4 ความรู้สึกของตนเองและ เม่ืออยูใ่ นสภาวการณต์ า่ งๆ เพื่อน 2. รับฟังสิ่งที่เพ่ือนบอกอารมณ์ ความรู้สึก 1 .5 .1 ย อ ม รั บ ค ว า ม ของเขาในสถานการณ์ตา่ งๆ แตกต่างด้านอารมณ์ จติ ใจ 3. บอกได้ว่าแต่ละคนมอี ารมณ์ความรสู้ ึกต่อ ของตนเองและเพื่อน สถานการณต์ ่างๆ ไมเ่ หมือนกนั 4. ทากิจกรรมร่วมกับเพื่ อนท่ี มีความ แตกต่างด้านอารมณแ์ ละจิตใจได้

13 ท่ี เร่อื ง จดุ ประสงค์ช้ันปี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน 5 อาชพี ดี มีสุข 2.1.1 บอกอาชีพในชุมชน ช่วั โมง 1. บอกชื่ออาชพี ในชุมชนท่ีนักเรยี นอาศัยอยู่ 3 ได้ 2. ให้ข้อมูลเก่ียวกับอาชีพต่างๆ ในชุมชนได้ ตามสมควร 6 เรียนดี มอี นาคต 3.1.1 บอกความหมายผล 1. อธิบายความหมายผลการเรียนในแต่ละ 4 7 น้าใจไมตรี 4 8 รู้ทนั เหตกุ ารณ์ การเรยี นของตน รายวิชาและภาพรวมของตนเองได้ 4 9 อารมณข์ องฉนั 4 10 สอ่ื สารดมี สี ัมพันธ์ 3.1.2 ระบุวิชาที่มีผลการ 2. ระบุวิชาทม่ี ีผลการเรยี นดแี ละไมด่ ไี ด้ 4 รวม 40 เรียนอยู่ในระดับท่ีดีและที่ 3. บอกสาเหตุท่ไี ด้ผลการเรยี นดแี ละไม่ดี ตอ้ งปรับปรุง 4. บอกแนวทางการปรับปรุงวิธีเรียนให้มีผล การเรียนดขี ึน้ 3.3.1 แสดงพฤติกรรมท่ี 1. บอกความหมายของความมีเมตตาได้ แสดงถึงความมีเมตตา 2. ระบุพฤตกิ รรมท่แี สดงถึงความมีเมตตาได้ แบ่งปนั ของกนิ ของใช้ 3. แสดงพฤติกรรมของบุคคลท่ีมีความ เมตตา 3 .4 .1 วิเค ราะ ห์ ค ว าม 1. บอกความสาคัญของการรับรู้ข้อมูล น่ า เช่ื อ ถื อ ข อ ง ข้ อ มู ล ขา่ วสารต่างๆ ได้ ขา่ วสารไดส้ มเหตสุ มผล 2. สบื คน้ ข้อมูลขา่ วสารจากแหลง่ ต่างๆ ที่ตน สนใจได้ 3. พิจารณ าความน่าเช่ือถือของข้อมูล ข่าวสารที่ตนศึกษาคน้ ควา้ ได้ 3.4.2 ควบคุมอารมณ์ของ 1. จาแนกอารมณ์ดแี ละไม่ดีได้ ตนเองได้ 2. พิจารณาพฤติกรรมการแสดงอารมณ์ของ บุคคลต่างๆ 3. ปฏิบัติตนในการแสดงอารมณ์ได้อย่าง เหมาะสม 3.4.3 ใช้ภาษาและกิริยาที่ 1. บอกและยกตัวอย่างการใช้ภาษาและ เหมาะสมในการส่อื สาร กริ ิยามารยาททเ่ี หมาะสมในการสือ่ สารได้ 2. แสดงบทบาทสมมติการใช้ภาษาและ กิรยิ ามารยาทท่เี หมาะสมได้ 3. สรุปความสาคัญของการใช้ภาษาและ กริ ิยามารยาทที่เหมาะสมในการส่อื สารได้

14 โครงสรา้ งกจิ กรรมแนะแนว ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลา 40 ชั่วโมง ท่ี เรอื่ ง จดุ ประสงคช์ ัน้ ปี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน ช่ัวโมง 1 บอกหน่อยได้ไหม 1.1.1 บอกประโยชน์ของ 1. บอกสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกายได้ 2 ส่วนต่างๆ ของร่างกาย 2. บอกหนา้ ทขี่ องสว่ นตา่ งๆ ของร่างกายได้ ได้ถกู ต้อง 3. บอกประโยชนส์ ว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกายได้ 2 อะไรทเ่ี ปลี่ยน 1 . 1 . 2 รั บ รู้ ก า ร 1. บอกส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีการ 2 แปลง เปลยี่ นแปลงของร่างกาย เปลย่ี นแปลงได้ ตามวัย 2. รเู้ กณฑม์ าตรฐานของร่างกายตามวยั 3. เปรียบเทียบน้าหนักและส่วนสูงของ ตนเองกับเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย 4. สรุปได้ว่าร่างกายมีการเปล่ียนแปลงตาม วัย 3 รู้แล้วยอมรบั 1 .5 .1 ย อ ม รั บ ก า ร 1. บอกสาเหตุการเปล่ียนแปลงของร่างกาย 2 เปลี่ยนแปลงของร่างกาย ตามวัย ตามวยั 2. มีความรู้สึกที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลงของ รา่ งกาย 4 ทาไม? ทาไม? 1.2.1 ระบุสาเหตุของ 1. บอกสาเหตุการเกิดอารมณ์และความรู้สึก 2 ก า ร เ กิ ด อ า ร ม ณ์ ของตนเองได้ ความร้สู ึกของตนเองและ 2. บอกสาเหตุการเกดิ อารมณ์และความรู้สึก เพื่อน ของเพอ่ื นได้ 5 เพราะวา่ ... 1 .5 .2 ย อ ม รั บ ค ว า ม 1. บอกอารมณ์ ของตนเองที่เกิดข้ึนใน 3 แตกต่าง แตกต่างด้าน อารม ณ์ สถานการณ์ตา่ งๆ ได้ จิตใจของตน เองและ 2. ระบุความแตกต่างดา้ นอารมณ์ของตนเอง เพ่ือน และเพอ่ื นในสถานการณเ์ ดยี วกนั 3. บอกเหตุผลท่บี ุคคลมอี ารมณ์แตกตา่ งกนั 4. สรุปได้ว่าบุคคลมีอารมณ์แตกต่างกันใน ด้านอารมณ์และจิตใจ 6 หนูชอบแบบน้ี 1.1.3รบั รู้อารมณ์ 1. บอกอารมณ์และความรู้สึกของครูจาก 3 เพอ่ื นชอบแบบ ความรสู้ ึกของครูเพ่ือน พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออกได้ น้ัน ตา่ งห้องเรยี นและสมาชิก 2. บอกอารมณ์และความรู้สึกของเพื่อนต่าง ในครอบครัว หอ้ งเรยี นจากพฤติกรรมทีแ่ สดงออกได้ 3. บอกอารมณ์และความรู้สึกของสมาชิกใน ครอบครัวจากพฤติกรรมทีแ่ สดงออกได้

15 ท่ี เรือ่ ง จดุ ประสงคช์ ัน้ ปี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จานวน 7 เป็นเช่นนน้ี เ่ี อง ช่วั โมง 3.3.1 แสดงความคิดและ 1. รับรู้อารมณ์ของตนเองในสถานการณ์ 2 แสดงออกด้านอารมณ์ท่ี ตา่ งๆ ได้อย่างเหมาะสม มีต่อสถานการณ์ต่างๆ 2. แสดงพฤติกรรมของตนเองทั้งทางบวก ได้อยา่ งเหมาะสม และทางลบทีม่ ีต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่าง เหมาะสม 8 สอ่ื สารดมี ีเพื่อน 3.4.2 ร้จู ักเอาใจเขามาใส่ 1. ยอมรับผอู้ ืน่ ในส่ิงทีเ่ ขาเป็น 4 2 ใจเรา 2. ไม่ทากับผู้อื่นในสิ่งท่ีไม่อยากให้ผู้อื่นทา 3 3.4.3 คานึงถึงความรู้สึก กบั เรา 3 3 ของผู้อ่นื ในการส่อื สาร 3. ไมใ่ ชก้ ารสื่อสารทีท่ าร้ายจิตใจของผู้อนื่ 9 กระจกหกด้าน 1.3.1 ระบุความสนใจ 1 . บ อ ก ค ว า ม ส น ใ จ ค ว า ม ถ นั ด ความถนัด ความสามารถ ความสามารถดา้ นการเรยี นของตนเองได้ ด้านการเรียนของตนเอง 2. บอกเหตผุ ลท่สี นับสนนุ ความสนใจ พร้อมเหตุผล ความถนัด และความสามารถด้านการเรียน ของตนเองได้ 10 หลากหลายมติ ิ 1.3.2 รับรู้ความสนใจ 1.บอกความสนใจ ความถนดั ความสามารถ ความถนัด ความสามารถ ด้านการเรียนของเพื่อนพร้อมเหตผุ ล ด้านการเรียนของตนเอง 2. จัดกลุ่มผู้ท่ีมีความสนใจ ความถนัด พร้อมเหตผุ ล ความสามารถด้านการเรียนท่ีเหมือนกันของ 1 .6 .1 ย อ ม รั บ ค ว า ม สมาชกิ ในหอ้ งเรยี น แตกต่าง ด้านความสนใจ 3. สร้างสรรค์งานจากความแตกต่างของ ความถนัด ความสามารถ ตนเองและเพอ่ื นได้ ด้านการเรียนของตนเอง และเพ่ือน 11 รับรสู้ ่มู ิตรภาพ 1 .7 .1 ย อ ม รั บ ค ว า ม 1. บอกความหมายของคาว่า บุคลิกภาพ ได้ แตกต่างด้านบุคลิกภาพ 2. บอกบุคลิกภาพที่ดีและไม่ดีของตนเอง ของตนเองและเพอื่ น และเพ่ือนได้ 3 . ไม่ ป ฏิ เส ธ เพื่ อ น ท่ี มี บุ ค ลิ ก ภ าพ ไม่ เหมือนกับตน 12 หลากหลายอาชีพ 2.1.1 บอกอาชีพที่ 1. บอกชือ่ อาชพี ในทอ้ งถิน่ หลากหลาย 2. บอกชื่ออาชีพไดอ้ ยา่ งหลากหลาย 3. บอกขอ้ มูลอาชพี ได้ตามสมควร

16 ท่ี เรอื่ ง จุดประสงคช์ ้ันปี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน ชว่ั โมง 13 เตรียมพร้อมสู่ เปา้ หมาย 3.1.1 บอกพฤติกรรม 1. ระบุวิชาที่ตนเองมีผลการเรียนอยู่ใน 3 ของตนเองที่ช่วยให้ผล ระดบั ดี การเรียนดี 3. บอกพฤติกรรมของตนเองที่ทาให้มีผล การเรยี นในวิชานน้ั อย่ใู นระดับดีขึ้นไป 4. สรปุ พฤตกิ รรมที่จะช่วยให้ผลการเรยี นอยู่ ในระดบั ดีทุกรายวิชา 14 เรียนดมี วี ธิ ี 3.1.2 ระบุพฤติกรรมที่ 1. ระบุแนวทางในการปรับตัวเพ่ือผลการ 3 อย่างไร จะนามาใช้ในการปรบั ตัว เรียนในระดับดขี ึ้น ดา้ นการเรียนให้มีผลการ 2. บ อกความ สาคัญ ของการป ระเมิ น ระ ดั บ ดี ข้ึ น ไป แ ล ะ มี ระดบั ชาติ ความพร้อมสาหรับการ 3. ปฏิบัติตนเพ่ือผลการเรียนที่ดีและเตรียม ประเมนิ ระดับชาติ ความพรอ้ มสาหรับการประเมินระดับชาติ 15 ทาอยา่ งไรดีหนอ 3.4.1ประเมนิ 1. วิเค ราะห์ ค ว าม ส ม เห ตุ ส ม ผ ล ข อ ง 3 สถานการณ์และนาไป สถานการณ์ตา่ งๆ ได้ ประยุกต์ใช้ใน 2. ประเมินผลที่อาจเกิดข้ึนจากสถานการณ์ ชวี ติ ประจาวนั ต่างๆ 3. อธิบายวิธีการคิดและตัดสินใจ เม่ือเผชิญ กับสถานการณต์ า่ งๆ รวม 40

17 โครงสร้างกิจกรรมแนะแนว ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 40 ช่วั โมง ท่ี เร่อื ง จดุ ประสงคช์ ้ันปี จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวน ช่ัวโมง 1 พั ฒ น า ก า ร 1.1.1 รับรู้การเปล่ียนแปลงของ 1. สารวจสง่ิ ท่ีเปลี่ยนแปลงของร่างกาย 1 ตามชว่ งวยั รา่ งกายตามวยั ตามวยั 2. ร่วมกับเพ่ือน สรุปส่ิงท่ีเปล่ียนแปลง ของรา่ งกายตามวัย 2 รู้เขารเู้ รา 1.1.2 บอกความคิด ความรู้สึก 1. อธิบายการเกิดความคิด ความรู้สึก 3 อารมณ์ของตนและรับรู้ความคิด อารมณ์ของบคุ คล ความรู้สึก อารมณ์ครู เพ่ือน และ 2. ระบุความคิด ความรู้สึกของตนเอง สมาชกิ ในครอบครวั เมือ่ กระทบกับเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ได้ 1.2.1 จาแนกความคิด ความรู้สึก 3. สังเกตความคิด ความรู้สึก อารมณ์ อารมณ์ท่ีดีและไม่ดีของตนเอง ของครู เพอ่ื น และสมาชกิ ในครอบครัว และผ้อู ่ืน 4 แ ย ก ได้ ว่าค วาม คิ ด ค ว าม รู้สึ ก อารมณ์ใดเป็นลบเป็นบวก 3 รับ ได้ ใจเป็ น 1.4.1 อธิบายบุคลิกภาพของตน 1. บอกความหมายของ บคุ ลิกภาพ ได้ 3 สขุ และรับรู้บุคลิกภาพของเพ่อื น 2. ร่วมกับเพื่อนอธิบายบุคลิกภาพของ 1.7.1 รับได้กับบุคลิกภาพของ ตนเองและเพ่อื น ตนเอง 3. ยอมรับบุคลิกภาพของตนเองและ 1.7.2 ยอมรับในสิ่งท่ีผู้อ่ืนเป็น ผอู้ นื่ ทง้ั ดา้ นบวกและดา้ นลบ ด้านบคุ ลิกภาพ 4 ค่าของคน 1.5.1 พอใจในส่ิงที่ดีของตนเอง 1. มีความรู้สึกท่ีดีต่อร่างกายด้านบวก 3 ด้านร่างกาย ความคิด อารมณ์ ของตนเองและผูอ้ ่นื และจิตใจ 2. มีความรู้สึกที่ดีต่อความคิดด้านบวก 1.5.2 ชน่ื ชมส่ิงทดี่ ีของผู้อ่นื ของตนเองและผู้อืน่ ด้านร่างกาย ความคิด อารมณ์ 3. มีความรู้สึกที่ดีต่ออารมณ์และจิตใจ และจิตใจ ด้านบวกของตนเองและผูอ้ นื่ 5 ความแตกตา่ ง 1.6.1 ยอมรับสิ่งท่ีตนเองมีในด้าน 1 . บ อ ก ค ว า ม ส น ใจ ค ว า ม ถ นั ด 3 ค ว า ม ส น ใ จ ค ว า ม ถ นั ด ความสามารถทางการเรียนของตนได้ ความสามารถทางการเรยี น 2 . รั บ รู้ ค ว า ม ส น ใจ ค ว า ม ถ นั ด 1.6.2 เข้าใจผู้อื่นในด้านความ ความสามารถทางการเรยี นของผูอ้ ่นื สนใจ ความถนัด ความสามารถ 3. รับได้กับสิ่งท่ีตนเองมแี ละเขา้ ใจผูอ้ ื่น ทางการเรยี น ด้ า น ค ว า ม ส น ใ จ ค ว า ม ถ นั ด ความสามารถทางการเรยี น

18 ที่ เรื่อง จุดประสงค์ชั้นปี จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวน ชว่ั โมง 6 โตข้ึนจะเป็น 2.1.1 บอกลักษณะของอาชีพที่ 1. ระบุช่ือและลักษณะของอาชีพท่ี 3 อะไร สนใจ สนใจ 2.2.1 บอกคุณลักษณะของตนเอง 2. ระบุ คุ ณ ลั กษ ณ ะขอ งตน เองที่ ทีส่ อดคล้องกับอาชพี ทีส่ นใจ สอดคล้องกบั อาชพี ที่สนใจ 7 แกไ้ ขได้ 3.3.1 วิเคราะห์ผลการเรียนของ 1. บอกระดับผลการเรียนรายวิชาภาค 4 ตน แต่ละรายวชิ า เรยี นท่ี 1 3.1.2 ระบุวิธีการพัฒนารายวิชาที่ 2. ระบุรายวิชาที่ผลการเรียนยังไม่ ผลการเรียนยงั ไมเ่ ปน็ ทีพ่ อใจ พอใจพร้อม สาเหตุที่ไดร้ ะดับผลการเรยี นเช่นนั้น 3. ร่วมอภิปรายกับเพ่ือนในการพัฒนา ให้ระดบั ผลการเรียนดีขึ้น 4. สรุปวิธีการพัฒนาผลการเรียนของ ตนเอง 8 ฝันให้ไกล 3 .4 .1 มี จิ น ต น า ก า ร แ ล ะ มี 1. บอกรายละเอียดจากภาพ 4 ไปให้ถึง ความสามารถในการคดิ เช่ือมโยง 2. บอกความสัมพันธ์ของสิ่งท่ีอยู่ใน ภาพ 3. เลา่ เรอ่ื งจากภาพได้ 4. ฝกึ การคิดเชือ่ มโยงจากสื่อตา่ งๆ 9 ผอ่ นคลาย 3.4.2 มวี ธิ ผี ่อนคลายอารมณ์ 1. บอกอารมณ์และความเครียดที่เคย 4 และความเครยี ดให้กบั ตนเอง เกดิ กับตนเอง พรอ้ มสาเหตุ 2. แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีผ่อนคลาย อารมณ์และความเครียดที่ตนเคยใช้ ไดผ้ ลมาแล้วกบั กลมุ่ เพ่ือนได้ 3. สรุปวิธีการที่จะเลือกไว้ใช้กับตนเอง ตอ่ ไป 10 ชน่ื ชมยนิ ดี 3 .4 .3 รู้ จั ก แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด 1. บอกได้ว่าการแสดงให้ผู้อื่นรู้ว่าเรา 4 ความรูส้ กึ ชนื่ ชมการกระทา ชื่นชมการกระทาท่ีดีงามของเขา เป็น ทด่ี งี ามให้ผู้อ่ืนรับรู้ วิธีหนึ่งในการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับ ผอู้ ่นื 2. ระบุวิธีการแสดงความชื่นชมผู้อ่ืน อย่างหลากหลาย 3. ปฏิบัติตนในการแสดงความชื่นชม ให้ผูอ้ ื่นรับรู้ 11 มติ รไมตรี 3.4.4 มีมารยาทในการสื่อสารกับ 1. อธิบายพฤติกรรมที่แสดงถึงการมี 4 ผูอ้ น่ื มารยาทในการสอ่ื สาร

19 ท่ี เรือ่ ง จดุ ประสงค์ชนั้ ปี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จานวน 12 สัมพนั ธภาพ ชัว่ โมง 3 .4 .5 ชื่ น ช ม ค ว า ม ส า เร็ จ 2. ฝึกการสื่อสารอย่างมีมารยาทใน ความสามารถและการกระทา สถานการณ์ต่างๆ ทีด่ งี ามของผ้อู ่ืนดว้ ยคาพดู ภาษากาย และภาพลักษณ์ 3.3.1 ค วบ คุ ม ค วาม คิ ด แ ล ะ 1. บอกได้ว่าความคิดและอารมณ์ใด 4 อารมณ์ของตนเองได้ ควรควบคุมในการแสดงออก 3.4.6 มีวิธีสร้างความมั่นคงใน 2. ศึกษาวิธีการควบคุมอารมณ์จาก อ ารม ณ์ ข อ งต น เอ งได้ อ ย่ าง แหลง่ เรียนรตู้ า่ งๆ เหมาะสม 3. สรุปวิธคี วบคุม สรา้ งความมั่นคงทาง อารมณท์ ่ีเหมาะสมสาหรบั ตนเอง รวม 40

20 โครงสรา้ งกจิ กรรมแนะแนว ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 40 ช่วั โมง ท่ี เรอ่ื ง จดุ ประสงค์ชั้นปี จุดประสงค์การเรยี นรู้ จานวน 1 ตวั ฉนั ชว่ั โมง 2 บคุ ลิกภาพ 1.1.1 รับรู้การเปล่ียนแปลงของ บอกสิ่งที่เปลี่ยนแปลงของร่างกาย รา่ งกายตามวัย ในชว่ งวัยของตนได้ 2 3 แสดงออก 1.4.1 ระบุบุคลิกภาพท่ีดีและไม่ดี 1. บอกบุคลิกภาพของตนเอง ทั้ง 4 อย่างม่ันใจ ของตนเองและรับรู้บุคลิกภาพที่ดี ดา้ นดแี ละดา้ นไมด่ ี และไมด่ ขี องเพือ่ น 2. รับรู้บุคลิกภาพของเพ่ือน ทั้ง 3 4 แสดงออก 1.7.1 ภูมิใจในบุคลิกภาพด้านดี ด้านดีและดา้ นไม่ดี 3 อยา่ ง ของตน 3. บอกบุคลกิ ภาพด้านดที ี่ตนภูมใิ จ เหมาะสม 1.7.2 ชื่นชมบุคลิกภาพด้านดีของ 4. แสดงความชื่นชมในบุคลิกภาพ 3 ผู้อนื่ ด้านดขี องผอู้ น่ื 5 คณุ คา่ ด้าน 1.5.1 แสดงออกถึงความมั่นใจใน มีพฤติกรรมท่ีแสดงถึงความม่ันใจ การเรียน สิ่งท่ีดีของตนเอง ด้านร่างกาย ในสิ่งท่ีดีของตนเอง ด้านร่างกาย ความคดิ อารมณ์ และจติ ใจ ความคดิ อารมณ์ และจติ ใจ 3.3.1 รเู้ ท่าทนั ความคิดและอารมณ์ 1.บอกความคิดและอารมณ์ของตนเองใน ของตนเอง สถานการณต์ ่างๆ 3.3.2 จัดการกับความคิดและ 2. จาแนกความคิดและอารมณ์ด้าน อ า ร ม ณ์ ข อ ง ต น เอ ง ได้ อ ย่ า ง บวกและดา้ นลบ เหมาะสม 3. ขจัดความคิดและอารมณ์ด้าน ล บ ส ถ า น ก า ร ณ์ ต่ า ง ๆ แ ล ะ 1.3.1 บอกวิชาที่ตนเองถนัดอย่างมี แสดงออกอยา่ งเหมาะสม เหตุผล 1. ระบุรายวิชาท่ีทาคะแนนได้ดี 1.3.3 รับรู้วิชาที่เพื่อนถนัดพร้อม และมีความสุขในการเรียนและรับรู้ เหตผุ ล ของเพ่ือน 1.6.1 ภูมิใจในคุณค่าของตนเองใน 2. เล่าถึงความสนใจ ความถนัดและ ด้ า น ค ว า ม ส น ใจ ค ว า ม ถ นั ด ความสามารถทางการเรียนและ ความสามารถทางการเรียนและ อาชพี ของตนดว้ ยความภาคภูมใิ จ อาชพี 3. แสดงความนิยม ยกย่องในความ 1.6.2 ช่ืนชมในคุณค่าของผู้อ่ืนใน สนใจ ความถนัด และความสามารถ ด้ า น ค ว า ม ส น ใจ ค ว า ม ถ นั ด ทางการเรียนและอาชพี ของเพื่อน ความสามารถทางการเรียนและ อาชีพ

21 ท่ี เร่ือง จุดประสงค์ชัน้ ปี จุดประสงค์การเรียนรู้ จานวน 6 อาชพี ในฝนั ช่ัวโมง 1.3.2 บอกอาชีพทีต่ นสนใจ 1. ระบชุ อ่ื อาชพี ท่อี ยใู่ นความสนใจ 4 2.1.1 บอกคุณสมบัติของบุคคลท่ี 2. อธิบายคุณสมบัติของบุคคลท่ี ประกอบอาชพี ประกอบอาชพี ท่อี ย่ใู นความสนใจ 2.2.1 ศึกษาข้อมูลด้านอาชีพที่ 3. ศึกษาข้อมูลเก่ียวกับอาชีพท่ี กวา้ งและลกึ ซึ้งมากขน้ึ สนใจใหล้ ะเอยี ดและชัดเจน 7 เธอท่ีฉนั รู้จกั 1.1.2 รับรู้ความคิด ความรู้สึก สังเกตกิริยาอาการที่ แสดงถึง 2 4 อารมณ์ของผูท้ ่ตี นคบหาสมาคม ความคิด ความรู้สึก อารมณ์ของผู้ที่ 2 เกยี่ วข้องได้ 8 เรยี นอยา่ งไร 3.1.1 วิเคราะห์ผลการเรียนของตน 1. บอกผลการเรียนของตนเองใน ได้เกรดดี แ ต่ ล ะ ร า ย วิ ช า แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง รายวิชาต่างๆ ในชนั้ ป.4 พฤติกรรมการเรียนในรายวิชาที่มี 2. ระบุรายวิชาท่ียังไม่พอใจในผล ผลการเรียนไมเ่ ปน็ ท่พี อใจ การเรยี นนนั้ 3. ระบุพฤติกรรมท่ีทาให้ผลการ เรยี นในวชิ านั้นยงั ไมเ่ ป็นทีพ่ อใจ 4. ระบุพฤติกรรมท่ีจะทาเพ่ือให้ผล การเรยี นในวิชานั้นดีขนึ้ 9 วพิ ากษ์อย่างมี 3.4.1 วิพากษ์ วิจารณ์บนพื้นฐาน พูดถึงผู้อื่นด้วยข้อมูลสารสนเทศที่ ขอ้ มูล ของขอ้ มลู สารสนเทศท่ีถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง 10 สันตวิ ิธี 3.4.2 ยุติข้อขัดแย้งในกลุ่มเพื่อน 1. วิเคราะห์สาระสาคัญของความ 3 3 ด้วยสันติวธิ ี ขดั แย้งในกลมุ่ เพอ่ื นได้ 3 2. ใช้วิธีการด้านบวกในการยุติข้อ ขัดแย้งในกลุม่ เพื่อน 11 จิตอาสานาพา 3.4.4 อาสาทางานเพ่ือส่วนรวม 1. บอกชนิดของงานเพื่อส่วนรวม สังคม และสังคม และสังคมทีส่ ามารถทาได้ 2. สมัครใจทางานเพื่อส่วนรวมและ สงั คมท่ีสนใจ 3. มีความรู้สึกที่ดีในการทางานเพื่อ สว่ นรวมและสังคม 12 ภัยทไี่ ม่ 3.4.3 รู้จักปฏิเสธ ต่อรอง และร้อง 1. บอกวิธีการหาทางออกจาก คาดคดิ ขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ สถานการณเ์ สีย่ งได้ เสยี่ ง 2. เสนอแนะการปฏิเสธ ต่อรอง และขอความช่วยเหลือผู้อ่ืนอย่าง สรา้ งสรรค์

22 ท่ี เร่อื ง จดุ ประสงคช์ ้นั ปี จุดประสงค์การเรยี นรู้ จานวน ชัว่ โมง 13 พฤติกรรมทาง 3.4.5 แสดงออกถึงพฤติกรรมที่ดีใน 1. ระบุพฤติกรรมท่ีควรทาและไม่ 4 สงั คม การอยูร่ ว่ มกับผู้อ่ืน ควรทาในการอยรู่ ่วมกับผู้อ่นื 3.4.6 รับฟังและยอมรับความ 2. แสดงพฤติกรรมท่ีเหมาะสมใน คดิ เห็นซงึ่ กนั และกนั การอย่รู ่วมกับผู้อืน่ 3. มีพฤติกรรมท่ีแสดงถึงการรับฟัง และยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและ กัน รวม 40

23 โครงสร้างกจิ กรรมแนะแนว ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 40 ช่ัวโมง ท่ี เร่ือง จุดประสงค์ชัน้ ปี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จานวน ช่วั โมง 1 WHO ARE YOU? 1.1.1 รบั รูค้ วามคิด ความรู้สึก 1. สังเกตความรู้สึก อารมณ์ ของคู่ 3 อารมณ์ของคสู่ นทนา สนทนาได้ 2. บอกประโยชน์ของการรู้ความคิด ความร้สู ึก อารมณ์ของคสู่ นทนา 3. มีความสามารถในการรับรู้ความคิด ความรสู้ ึก อารมณ์ของค่สู นทนา 2 ความมน่ั ใจ 1.6.1 แสดงออกถงึ ความมั่นใจ 1. กล้าที่จะบอกผู้อื่นถึงความสนใจ 3 ในคุณ ค่าของตน เอง ด้าน ความถนัด ความสามารถทางการเรียน ค ว า ม ส น ใจ ค ว า ม ถ นั ด และอาชีพ ความสามารถทางการเรียน 2. นาคุณค่าของตนเองในด้านความ และอาชพี สนใจ ความถนัด ความสามารถมาใช้ใน 1.6.2 เช่ือมน่ั ในคณุ ค่าของ การทากิจกรรมด้านการเรียนและ ผอู้ น่ื ด้านความสนใจความถนัด อาชพี ความสามารถทางการเรียนและ 3. ให้ความสาคัญกับความสนใจ ความ อาชีพ ถนัดความสามารถทางการเรียนและ อาชพี ของผูอ้ ่ืน 3 ความเชือ่ มน่ั ใน 1.7.1 แสดงออกถึงความมน่ั ใจ 1. บอกบุคลิกภาพด้านดีของตนเองได้ 3 บุคลิกภาพ ในบุคลิกภาพด้านดีของตนเอง 2. นาบุคลิกภาพด้านดีมาใช้ในการทา 1.7.2 เชื่อม่ันในคุณ ค่าของ กิจกรรมดว้ ยความมนั่ ใจ ผอู้ น่ื ดา้ นบุคลกิ ภาพ 3. ให้ความสาคัญกับบุคลิกภาพด้านดี ของผ้อู ่ืน 4 โลกกวา้ งทาง 2.1.1 มี ข้ อ มู ล โ ล ก ก ว้ า ง 1. แสวงหาข้อมูลด้านการศกึ ษาต่อจาก 3 การศกึ ษา ทางดา้ นการศึกษา แหลง่ เรยี นร้ตู า่ งๆ 2.1.2 มีแนวทางในการเลือก 2. มีแนวทางการศึกษาตอ่ เมอ่ื จบ ศกึ ษาต่อ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ท่ีหลากหลาย 3. เลือกแนวทางศึกษาต่อท่ีเหมาะสม กบั ตนเอง

24 ที่ เร่ือง จดุ ประสงคช์ ้ันปี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จานวน ชั่วโมง 5 อาชีพทีส่ นใจ 2.2.1 พจิ ารณาความ 1. บอกชื่ออาชพี ทตี่ นสนใจได้ 3 เหมาะสมของตนกบั อาชพี ที่ 2. บอกคุณลักษณะของผู้ประกอบ สนใจ อาชีพท่ีสนใจ 2.3.1 ระ บุ อ าชี พ ที่ ต น เอ ง 3. บอกคุณลักษณะของตนที่สอดคล้อง สนใจ กับอาชพี ทส่ี นใจ 6 วิเคราะห์ผล 3.1.1 วิเคราะห์ผลการเรยี น 1. พิจารณาระดับผลการเรียนรายวิชา 4 การเรยี น ของตนแต่ละรายวิชโดย ต่างๆ ในชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 เฉพาะวชิ าที่ตอ้ งใชป้ ระเมนิ 2. พิจารณาระดับผลการเรียนรายวิชา ระดับชาติและการเรยี นต่อ ท่ีสอบ O-NET ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น 3.1.2 เรี ย น รู้ เพ่ิ ม เติ ม เพ่ื อ 3. พิจารณาระดับผลการเรียนรายวิชา ความพร้อมในการเข้าเรียนต่อ ท่ี ใช้ ใน ก ารส อ บ เข้ าเรีย น ต่ อ ช้ั น มธั ยมศึกษาตอนตน้ 4. บอกแนวทางในการพัฒนาการเรียน ของตนเองเพื่อเตรยี มพร้อมในการสอบ และเขา้ เรียนตอ่ 7 สมาชกิ ทด่ี ีของ 3.4.3 ปฏิบัติตามกฎ กติกา 1. บอกตามกฎ กตกิ า และระเบียบของ 4 สงั คม และระเบียบของสังคม สังคมในโรงเรยี นได้ 3.4.6 ปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ 2. บอกผลดี ผลเสียของการปฏิบัติตาม ดขี องครอบครัว โรงเรียน และ กฎ และไม่ปฏิบัติตาม กติกา และ ประเทศชาติ ระเบยี บของสงั คม 3. ระบุวิธีการปฏิ บัติเพ่ื อการเป็ น สมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียน และประเทศชาติ 8 อารมณ์ 3.3.1 มีวิธีสร้างความม่ันคงใน 1. เห็นความสาคัญของการมีความ 4 อารมณ์ของตนเองได้อย่าง ม่ันคงในอารมณ์ เหมาะสม 2. บอกวิธีสร้างความม่ันคงในอารมณ์ ของตนไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. ปฏิบัติตนในการสร้างความม่ันคง ทางอารมณ์ของตน

25 ที่ เร่ือง จดุ ประสงค์ช้ันปี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จานวน ชวั่ โมง 9 คุณธรรมนาชวี ิต 3.3.2 มีคุณธรรมที่เหมาะสม 1. อ ภิ ป ราย ป ระโย ช น์ ข อ งก ารมี 4 กับวัย เช่น ซ่ือสัตย์ กตัญญู คุณธรรม กตเวที เอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ มีน้าใจ 2. ระบุคุณธรรมของนักเรียนในช่วงวัย มี จิ ต ส า นึ ก เพ่ื อ ส่ ว น ร ว ม ทคี่ วรมี สามคั คี ฯลฯ 3. มีการเรียนรู้วิธีการปฏิบัติตนที่ 3.4.5 มีจิตอาสาและกิจกรรม สะท้อนถึงการมีคุณธรรมท่ีเหมาะสม ทเี่ ปน็ ประโยชน์ต่อส่วนรวม กบั วยั 4. แสดงพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการมี คณุ ธรรม 5. ปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อ สงั คม 10 คดิ ใหด้ ไี ม่มี 3.4.1 รู้จักวิธีการตัดสินใจและ 1. บอกกระบวนการในการตัดสินใจ 3 ปัญหา แกป้ ัญหาที่ถกู ตอ้ ง และแกป้ ัญหาต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ 2. คิด วิเคราะห์หาสาเหตุของปญั หาได้ 3.กาหนดทางเลือกในการแก้ปัญหา วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสียของทางเลือกแต่ ละทางเลอื กได้ 11 ไมม่ ใี คร 3.4.4 ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมที่ทาแล้ว 1. บอกการกระทาที่ทาให้ตนเองมี 3 เดือดร้อน มคี วามสุข ผู้อืน่ ไม่เดือดรอ้ น ความสุข 2. วิเคราะห์บุคคลที่รับผลจากการ กระทาของตนเอง 3. สรุปกิจกรรมที่ควรปฏิบัติโดยทา แล้วตนเองมีความสุข และผู้อื่นไม่ เดอื ดร้อน 12 ความรว่ มมอื 3.4.2 ให้ความร่วมมือและ 1. บอกประโยชน์ของการให้ความ 3 รวม 40 ทางานร่วมกับผู้อื่นได้อย่าง รว่ มมอื กบั หมคู่ ณะ สรา้ งสรรค์ 2. บอกพฤติกรรมในการทางานร่วมกับ ผู้อน่ื อยา่ งสร้างสรรค์ 3. ปฏิบัติกิจกรรมท่ีแสดงถึงการให้ ความรว่ มมือกับผอู้ ่นื

26 การจัดกิจกรรมนักเรยี น โรงเรียนวัดพิชัย ได้จัดกิจกรรมนักเรียนเพ่ือมุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นา ผู้ตามที่ดี ความรบั ผดิ ชอบ การทางานร่วมกัน การรจู้ ักแก้ปัญหา การตัดสนิ ใจทเ่ี หมาะสม ความมเี หตุผล การช่วยเหลือ แบ่งปันเอื้ออาทรและสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของ ผูเ้ รียน ให้ไดป้ ฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผนประเมิน และปรับปรุงการทางาน เน้นการทางานร่วมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกับวุฒิภาวะของ ผ้เู รยี นและบริบทของโรงเรยี นและท้องถ่นิ กิจกรรมนักเรยี นประกอบด้วย 2.1 กิจกรรมลกู เสือ เนตรนารี 2.2 กจิ กรรมชุมนุม หลกั การ กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมตามความถนัดและสนใจ โดย เน้นเร่ืองคุณธรรมจริยธรรม ความมีระเบียบวินัย ไม่เห็นแก่ตัว มีความเป็นผู้นาผู้ตามที่ดี มีความรับผิดชอบ การทางานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจ ความมีเหตุมีผล การช่วยเหลือแบ่งปัน เอ้ืออาทร และ สมานฉนั ท์ การจดั กจิ กรรมนกั เรยี นควรดาเนินการ ดงั น้ี 1 จัดใหส้ อดคลอ้ งกบั ความสามารถและความสนใจของผูเ้ รยี น 2 เน้นใหผ้ เู้ รยี นได้ปฏิบัติดว้ ยตนเองในทุกขน้ั ตอน 3. เน้นการทางานร่วมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน ตลอดจนบริบทของสถานศึกษาและท้องถิน่ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพฒั นาผูเ้ รียนใหม้ รี ะเบียบวนิ ยั มีความเป็นผูน้ าผูต้ ามท่ดี ี และมคี วามรับผดิ ชอบ 2. เพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการทางานร่วมกัน รู้จักการแก้ปัญหา มีเหตุผล ตัดสินใจท่ี เหมาะสม ช่วยเหลือแบ่งปัน เอื้ออาทร และสมานฉนั ท์ 3. สง่ เสริมสนบั สนนุ ใหผ้ ู้เรยี นมคี ุณธรรมจรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 4. สง่ เสริมสนับสนุนให้ผ้เู รียนไดป้ ฏิบตั กิ จิ กรรมตามความถนัดและความสนใจ ขอบข่าย กิจกรรมนกั เรียน ประกอบดว้ ย 1. กจิ กรรมลกู เสือ ยุวกาชาด (ระดบั ชั้น ป.1 – ป.6) 2. กิจกรรมชมุ นมุ (ระดับชนั้ ป.1 – ป.6)

27 กจิ กรรมลูกเสือ การจัดกจิ กรรมลกู เสือ วตั ถุประสงคข์ องลูกเสอื แห่งชาติ สมรรถนะสาคัญ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5 ประการ 8 ประการ ลูกเสอื สารอง ลกู เสอื ลูกเสอื สามญั เตรยี มลกู เสอื สารอง เนตรนารี ลกู เสอื ตรี และดาวดวงท่ี 1 ลูกเสือโท ดวงท่ี2 ลูกเสือเอก ดวงที3่ ป.4 – ป.6 ป.1 – ป.3 วิชาพิเศษ 18 วชิ า วชิ าพเิ ศษ 54 วชิ า ลกู เสือวิสามญั ลูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ เตรียมลูกเสอื วสิ ามญั ลูกเสอื โลก ลกู เสอื วสิ ามัญ ม.4 – ม.6 ลูกเสือชัน้ พเิ ศษ ลูกเสือหลวง วชิ าพเิ ศษ 11 วชิ า ม.1 – ม.3 วชิ าพเิ ศษ 76 วชิ า กิจกรรมลกู เสือ ยุวกาชาด กระบวนการลูกเสอื คอื กระบวนการพัฒนาเยาวชน มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อฝึกอบรม ให้การศึกษาและพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองดี โดยไม่คานึงถึงเชื้อชาติ ศาสนา ทั้งน้ีเป็นไปตามความมุ่ง ประสงค์หลักการ และวิธีการ ซ่ึงลูกเสือโลกได้กาหนดไวป้ ัจจุบันกระบวนการลูกเสือถอื เป็นกระบวนการทาง การศึกษาส่วนหน่ึง ซ่ึงมุ่งพัฒนาสมรรถภาพของบุคคลทั้งทางสมอง ร่างกาย จิตใจ และศีลธรรม เพื่อให้เป็น บุคคลที่มีความประพฤติดีงาม ไม่กระทาตนให้เป็นปัญหาต่อสังคม และดารงชีวิตอย่างมีความหมายและสุข สบาย

28 หลักการจัดกจิ กรรมลกู เสอื กระบวนการลกู เสือ มหี ลักการสาคญั 5 ประการ ดงั นี้ 1. มีศาสนาเป็นท่ียึดทางจิตใจ จงรักภักดีต่อศาสนาท่ีตนเองนับถือ และพึงปฏิบัติศาสนกิจด้วย ความจรงิ ใจ 2. จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และประเทศชาติของตน พร้อมด้วยการส่งเสริมและสนับสนุน สันติสุข และสันติภาพ ความเข้าใจที่ดีต่อกันและกัน และความร่วมมือซ่ึงกันและกัน ตั้งแต่ ระดับทอ้ งถน่ิ ระดับชาติ ระดบั นานาชาติ 3. เข้าร่วมพัฒนาสังคม ยอมรับและให้ความเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้อ่ืน และเพื่อน มนษุ ยท์ ุกคน รวมทั้งธรรมชาติ และสรรพส่ิงทั้งหลายในโลก 4. มคี วามรบั ผิดชอบต่อการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนอ่ื ง 5. ลกู เสอื ทกุ คนตอ้ งยึดมัน่ ในคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือ วตั ถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมลกู เสือ พระราชบัญญัติลูกเสือ พุทธศักราช 2551 มาตร 8 ได้กาหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม ลกู เสือ เพื่อพัฒนาลูกเสือทั้งทางกาย สติปญั ญา จติ ใจ และศีลธรรม ให้เป็นพลเมืองดี มีความรบั ผดิ ชอบ และ ช่วยสร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสามัคคี และมีความเจริญก้าวหน้า ท้ังนี้เพ่ือความสงบสุขและความม่ันคง ของประเทศชาติ ตามแนวทางดงั น้ี 1. ใหม้ นี ิสยั ในการสังเกต จดจา เชื่อฟงั และพง่ึ ตนเอง 2. ให้มคี วามซอ่ื สัตย์ สจุ ริต มรี ะเบยี บวนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ นื่ 3. ใหร้ ู้จักบาเพญ็ ตน เพอื่ สาธารณประโยชน์ 4. ใหร้ จู้ กั ทาการฝีมือ และฝกึ ฝนการทากิจกรรมตา่ งๆ ตามความเหมาะสม 5. ใหร้ ูจ้ ักรักษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม และความมนั่ คงของประเทศชาติ ขอบข่ายกจิ กรรมลกู เสือ กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี เป็นกิจกรรมที่มุ่งปลูกฝังระเบียบวินัย และกฎเกณฑ์ เพ่ือการอยู่ รว่ มกันให้รู้จักเสียสละ และบาเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และวิถีชีวิตตามระบบประชาธิปไตย การจัดกิจกรรม ลูกเสือ เนตรนารี ให้เป็นไปตามข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ ให้สอดคล้องกับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนใน หลักสูตรโรงเรียน........พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ไดก้ าหนดหลักสตู รออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. ลูกเสือ สารอง ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1-3 - เตรยี มลูกเสอื สารอง และดาวดวงที่ 1 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 1 - ดาวดวงที่ 2 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 - ดาวดวงที่ 3 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 2. ลกู เสอื สามัญ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 – 6 - ลูกเสอื สามัญ ตรี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 - ลูกเสือสามญั โท ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 - ลกู เสือสามญั เอก ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6

29 แนวทางการจดั กิจกรรมลูกเสอื การจัดกิจกรรมลูกเสือ มีแนวทางการจัดกิจกรรมตามวิธีการทางลูกเสือ มีองค์ประกอบ 7 ประการ คือ 1. คาปฏิญาณและกฎ ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ลูกเสือทุกคนให้คามั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติตามกฎลูกเสือ เป็นหลักในการปฏิบัติ ไม่ “ ห้าม” ทาหรือ “ บังคับให้ทา” แต่ถ้าทาจะเกิดผลดี แก่ตนเอง เป็นคนดี ได้รับการยกย่องเปน็ ผูม้ ีเกยี รตเิ ชอ่ื ถือได้ 2. เรียนรู้จากการกระทา เป็นการพัฒนาส่วนบุคคล ความสาเร็จหรือไม่สาเร็จของผลงานเกิดจาก การกระทาของตนเอง ทาให้มคี วามรู้ทช่ี ัดเจน สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดว้ ยตนเอง และท้าทาย ความสามารถของตนเอง 3. ระบบหมู่ เป็นรากฐานอันแท้จริงของการลูกเสือ เป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกัน การยอมรับซึ่งกัน และกัน การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ การช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน เป็นการเรียนรู้การใช้ ประชาธปิ ไตยเบอ้ื งต้น 4. การใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน ฝึกให้มีความเป็นหน่ึงเดียวในการเป็นสมาชิกลูกเสือ เนตรนารี โดยใช้ สัญลักษณ์ร่วมกัน ได้แก่ เคร่ืองแบบ เคร่ืองหมาย การทาความเคารพ รหัส สัญญาณช่วยให้ ผู้เรียนตระหนักและภาคภูมิใจในการเป็นสมาชิกขององศ์การลูกเสือโลก เพราะลูกเสือเป็นองศ์ การที่มีสมาชกิ มากทีส่ ดุ ในโลก 5. การศึกษาธรรมชาติ ส่ิงสาคัญของการลูกเสือ คือ ธรรมชาติ เป็นท่ีปรารถนาอย่างย่ิงในการทา กิจกรรม ป่าเขา ชายทะเล พุ่มไม้ การปีนเขา การผจญภัย การบุกเบิก การอยู่ค่ายพักแรม การ เดินทางไกล เป็นท่เี สน่หาแก่เดก็ ทกุ คน ถา้ ขาดสิง่ เหล่าน้ีแลว้ กไ็ ม่เรยี กวา่ การใชช้ วี ิตแบบลกู เสือ 6. ความก้าวหน้าในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ท่ีจัดให้เด็กทา ต้องมีความก้าวหน้าและดึงดูดใจ สร้างให้เกิดความกระตือรือรน้ การเล่นเกมท่ีสนุกสนาน การแข่งขันกนั เป็นส่งิ ทด่ี ึงดูดใจและเป็น การจงู ใจท่ดี ี 7. การสนับสนุนโดยผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่เป็นผู้ชี้แนะหนทางท่ีถูกต้อง เพ่ือให้เขาเกิดความมั่นใจ เด็ก ต้องการให้ผู้ใหญ่ชี้แนะ ผู้ใหญ่ก็ต้องนาพาไปสู่หนทางที่ดี ให้ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องและดี ทสี่ ดุ จึงเป็นการร่วมมอื กนั ทั้งสองฝ่าย เงอ่ื นไข การจัดกิจกรรมลูกเสอื 1. เวลาในการจัดกจิ กรรม จัดกจิ กรรมตามระดบั ชัน้ ตามหลกั สตู ร ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1– 6 อัตราเวลาเรยี น 1 ชัว่ โมงตอ่ สปั ดาห์ หรือ 30 ช่ัวโมงต่อปกี ารศกึ ษา การจดั กิจกรรมเคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษ หรอื พธิ ีประดับดาว พิธีเขา้ ประจากอง ของลูกเสอื เนตร นารี อาจใชเ้ วลาปกติ หรือนอกเวลาเรียนก็ได้ลูกเสอื เนตรนารที กุ คนแต่งเคร่ืองแบบ ทุกครง้ั เมอ่ื มีการ ฝกึ อบรมและถูกต้องตามประเภทของตนเอง 2. การจัดกจิ กรรม การจัดกจิ กรรมลูกเสอื เนตรนารที ุกคร้ัง จดั ให้มีพธิ เี ปิดประชมุ กอง เพ่ือฝึกความมีระเบียบวนิ ัยใน ตนเอง โดยปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอน คอื - ลูกเสือสารอง การทาแกรนดฮ์ าวล์ และเปิดประชมุ กอง เรยี นตามหลักสตู ร

30 และการทาแกรนด์ฮาวล์ และ ปดิ ประชมุ กอง - ลูกเสือสามญั ทาพธิ ีเปิดประชุมกอง เรยี นตามหลกั สูตรและทาพธิ ีปดิ ประชุมกอง - การจดั กิจกรรมอยู่ค่ายพกั แรมและเดินทางไกลมวี ตั ถุประสงค์เพือ่ ฝึกใหล้ ูกเสือมคี วามอดทน อยูใ่ นระเบยี บวนิ ยั รูจ้ ักชว่ ยเหลือตนเอง รจู้ ักการอยู่และทางานรว่ มกับผอู้ ่ืน - การนาลกู เสอื สามัญ เนตรนารี ไปอยคู่ า่ ยพกั แรมนอกสถานทโี่ ดยพักค้างคนื อยา่ งน้อยปีละหนึ่งครง้ั ลูกเสือสารองอยู่ค่ายพักแรมในสถานท่ี หรอื เดินทางไกล ไม่พักค้างคืน อย่างน้อยปีละ หนงึ่ คร้งั - จัดกจิ กรรมทางศาสนา พิธีการทางลูกเสือ พธิ ีเขา้ ประจากอง พิธีทบทวนคาปฏญิ าณการ สวนสนาม พธิ ถี วายราชสดุดี พิธปี ระดบั เครอื่ งหมายวชิ าพิเศษ เพอื่ ให้เกดิ ความภาคภมู ิใจ เหน็ คุณค่าใน การเป็นลกู เสอื - จดั กิจกรรมอนื่ ๆ ตามความเหมาะสม เช่นการนาลูกเสอื เขา้ ร่วมงานชมุ นุมลูกเสอื ในระดบั ต่างๆ การนานายหมู่ลูกเสือไปอบรมนายหมู่ลูกเสือ การประกวด ระเบียบแถว และกิจกรรมอ่ืนๆ ตามความ เหมาะสม - กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ ส่งเสริมสนับสนุนให้ลูกเสือ ได้บาเพ็ญประโยชน์ตามวันสาคัญ ของชาติ หรือกจิ กรรมอื่นตามความเหมาะสม เพ่อื สนองตามอดุ มการณ์ของลูกเสือ 3. ผูบ้ งั คับบญั ชาลกู เสอื ทกุ คนในสถานศึกษาผา่ นการฝึกอบรมหลกั วชิ าผู้กากับลูกเสือข้ันความรู้ เบ้ืองต้น หรือ ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร วิชาผู้กากับลูกเสือ ข้ันความรู้ชั้นสูง ตามประเภทของตนเอง ผู้บริหารสถานศึกษา ผา่ นการฝึกอบรมหลักสูตรวิชาผู้กากับลูกเสือ ข้ันความชั้นสูง หรือหลักสูตร ระดับผู้นา และผู้บงั คับบัญชาลกู เสือทุกคนแตง่ เครื่องแบบทุกครง้ั ทีฝ่ ึกอบรม ตามประเภทของตนเอง 4. สถานศึกษา จดั ต้ังกอง กลมุ่ ลูกเสอื ตาแหน่งทางลูกเสือ ให้ผู้บังคับบญั ชาทกุ คนอยา่ งถูกต้อง ตามประเภทของลกู เสือ การประเมินผลกิจกรรมลูกเสือ เ การประเมนิ ผลเป็นกระบวนการทดสอบความสามารถและพฒั นาการด้านตา่ งๆ นอกจากจะพิจารณา ตามทฤษฎีแล้ว ต้องพิจารณาด้านความประพฤติ พฤติกรรม การเข้าร่วมท่ีเน้นทักษะ และการปฏิบัติ ด้วย วิธกี ารท่ีหลากหลายตามสภาพจริง เป็นการประเมินผลตามหลักสูตรเพ่ือใหผ้ ู้เรยี นผ่านเกณฑ์การตัดสนิ เล่อื น ช้นั หรอื หลกั สตู ร เวลาเข้าร่วมกิจกรรม ไม่น้อยกว่า 80% ของเวลาเรียนท้ังหมด การปฏิบัติกิจกรรม ผลงาน/ ชน้ิ งาน/คณุ ลกั ษณะของผู้เรยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องคณะลกู เสอื แหง่ ชาติ กจิ กรรมลูกเสือ ขอ้ 1 สงั เกต จดจา เชอ่ื ฟัง และพึ่งตนเอง ขอ้ 2 ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต มรี ะเบียบวินัยและเห็นอกเห็นใจผู้อืน่ ขอ้ 3 บาเพ็ญตนเพอื่ สาธารณประโยชน์ ขอ้ 4 ร้จู ักการทาการฝีมือ ขอ้ 5 พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม

31 คาอธบิ ายรายวิชา กจิ กรรมลูกเสอื สารอง ดาวดวงที่ 1 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ......................................... คาอธิบาย เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามฐาน โดยเนน้ ระบบหมู่ สรุปผลการปฏิบตั กิ จิ กรรม ปดิ ประชมุ กองในเร่อื ง ลูกเสือสารองดาวดวงท่ี 1 ประกอบด้วยเน้ือหา เรื่องอนามัย ,ความสามารถในเชิงทักษะ, การ สารวจ, การค้นหาธรรมชาติ ,ความปลอดภัย ,บริการ ธงและประเทศต่างๆ, การฝีมือ ,กิจกรรมกลางแจ้ง, การบันเทิง, การผูกเง่ือน, คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสารองเพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรม ลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคาปฏิญาณ กฎคติพจน์ของลูกเสือสารอง มีนิสัยในการสังเกต จดจา มีความร่า เรงิ แจ่มใส มีระเบียบวินยั ประหยัด ซื่อสัตย์ สุจรติ อดทน เสียสละ ชว่ ยเหลือตนเองและผอู้ ื่น เป็นผนู้ าและ ผ้ตู ามทด่ี ี สามารถทางานและอยูร่ ว่ มกบั ผอู้ ืน่ ได้ สนใจและอนุรกั ษธ์ รรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม หน่วยการเรยี นรู้ กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น (ลกู เสอื สารอง ดาวดวงที่ 1 ) ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 30 ชั่วโมง ชือ่ หน่วย สาระการเรียนรู้ เวลา(ช่ัวโมง) หนว่ ยท่ี 1 อนามัย 2 หน่วยท่ี 2 ความสามารถในเชิงทกั ษะ 2 หน่วยท่ี 3 การสารวจ 2 หนว่ ยที่ 4 การค้นหาธรรมชาติ 2 หนว่ ยที่ 5 ความปลอดภยั 2 หน่วยที่ 6 การบรกิ าร 2 หนว่ ยที่ 7 ธงและประเทศตา่ งๆ 3 หนว่ ยที่ 8 การฝมี ือ 2 หน่วยท่ี 9 กจิ กรรมกลางแจง้ 2 หน่วยที่ 10 การบันเทงิ 3 หนว่ ยท่ี 11 การผกู เงือ่ น 4 หนว่ ยที่ 12 การปฏิบตั ติ ามปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลกู เสอื สารอง 2 เลอื กสอบวิชาพเิ ศษ จานวน 2 วิชา 2 รวม 30

32 เวลา(ชว่ั โมง) 1 การจัดทาแผนการเรียนรู้ 1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน (ลูกเสือสารอง ดาวดวงท่ี 1 ) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 1 1 1 แผนท่ี เร่อื ง 1 อนามยั 1 - การรักษาความสะอาดฟัน มอื เท้าและเลบ็ 1 2 อนามัย 1 - การหายใจอย่างถูกวิธี ,การปฐมพยาบาลบาดแผลขนาดเล็ก 1 3 ความสามารถในเชงิ ทกั ษะ 1 - การขว้างและรับลูกบอล 4 ความสามารถในเชิงทกั ษะ 1 - การมว้ นหนา้ ,การปีนตน้ ไม้ 1 - การกระโดดกบ ,การไตเ่ ชือก 5 การสารวจ 1 - การสารวจและการเยอื นสถานท่ีใกล้เคียง 6 การสารวจ 1 - การขอความช่วยเหลอื 1 7 การค้นหาธรรมชาติ - การเรียนรธู้ รรมชาตชิ วี ิตของสตั ว์ 8 การคน้ หาธรรมชาติ - การเรยี นรู้ธรรมชาติชวี ติ ของพชื 9 ความปลอดภยั - สาเหตทุ ี่ทาให้เกิดอบุ ตั เิ หตใุ นบา้ น - อันตรายที่เกิดจากไฟไหม้ 10 ความปลอดภัย - ปฏบิ ตั ติ นในการเดินถนนและข้ามถนนอย่างปลอดภัย 11 การบริการ - การเกบ็ รกั ษาเสอ้ื ผา้ รองเท้า - การจัดและเก็บทีน่ อน 12 การบริการ - การต้มน้าร้อน - การทาความสะอาดเครอ่ื งใช้ 13 ธงและประเทศต่างๆ - เพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี 14 ธงและประเทศตา่ งๆ - ธงชาตไิ ทย ,ธงลูกเสอื โลก - ธงลูกเสือโลก

33 เวลา(ชว่ั โมง) 1 แผนท่ี เรือ่ ง 15 ธงและประเทศตา่ งๆ 1 - ธงชาตอิ งั กฤษ 1 - ธงชาตฟิ ิลิปปนิ ส์ 1 16 การฝมี อื - การประดษิ ฐ์ส่ิงของจากเศษวสั ดเุ ป็นของใช้ 1 1 17 การฝีมือ 1 - การประดษิ ฐ์ส่งิ ของจากเศษวัสดุเป็นของเล่น 1 1 18 การฝมี ือ 1 - เคร่ืองมอื งานประดษิ ฐ์ 1 - การเก็บรักษา ทาความสะอาด 1 1 19 กจิ กรรมกลางแจง้ 1 - เคร่อื งหมายตา่ งๆ ในการเดินสะกดรอย 1 1 20 กิจกรรมกลางแจง้ - การเดนิ สะกดรอย ตามเคร่อื งหมายท่ีกาหนดให้ 21 การบนั เทิง - การเลยี นแบบท่าทางการเคลอ่ื นไหวของสัตว์ 22 การบนั เทงิ - แสดงเลียนแบบท่าทางการดาเนนิ ชีวิตประจาวนั 23 การบนั เทิง - การแสดงเงียบ ,ทาทา่ ทางแสดงความรู้สึก 24 การผกู เงื่อน - การผูกเงื่อนพริ อด และประโยชน์ 25 การผูกเงือ่ น - การผกู เงื่อนขัดสมาธิ และประโยชน์ 26 การผูกเงอ่ื น - การตอ่ เชือกเง่ือนพิรอดและเง่อื นขัดสมาธิ 27 การผูกเงื่อน - การเก็บเชอื ก 28 การผกู เงื่อน - การนาเอาเชือกออกมาใชอ้ ยา่ งรวดเร็ว 29 คาปฏิญาณ กฎ คตพิ จนล์ ูกเสอื สารอง - ทอ่ ง ปฏิบัตติ ามคาปฏญิ าณลกู เสือสารอง 30 เลือกเรยี นวชิ าพเิ ศษ จานวน 2 วิชาประดับ เครื่องหมายดาวดวงท่ี 1

34

35 ผลการเรียนรู้ ลูกเสอื สารอง ดาวดวงที่ 1 หน่วยที่ 1 อนามยั 1.1 บอกเหตผุ ล และบอกวิธกี ารรักษาความสะอาด ฟัน มอื เท้า เล็บได้ 1.2 แสดงวิธีการหายใจ แสดงวธิ ีปอ้ งกันโรคหวดั ไมใ่ ห้แพร่ออกไปได้ 1.3 แสดงวิธปี ฏบิ ตั เิ มอื่ มบี าดแผลเลก็ นอ้ ย และขอความชว่ ยจากผู้ใหญเ่ มือ่ เกดิ อุบตั เิ หตเุ กิดขึน้ ได้ หน่วยที่ 2 ความสามารถในเชิงทกั ษะ 2.1 ขว้าง รบั ลกู บอล ม้วนหนา้ กระโดดข้ามส่งิ กีดขวาง ปีนต้นไม้ได้ หนว่ ยที่ 3 การสารวจ 3.1 บอกสถานที่ท่ีให้บริการในทอ้ งถ่ิน และขอความชว่ ยเหลือจากผู้ใหญ่ ตารวจหรอื หน่วยดับเพลิง ได้ หนว่ ยท่ี 4 การค้นหาธรรมชาติ 4.1 บอกชือ่ พืช สตั วท์ พี่ บเห็น และบอกลกั ษณะ ประโยชน์ โทษของพชื หรือสัตว์ท่พี บเห็นได้ หน่วยที่ 5 ความปลอดภยั 5.1 บอกสาเหตทุ ่ีทาใหเ้ กดิ อุบตั เิ หตใุ นบา้ น และอนั ตรายทเ่ี กิดจากไฟไหมไ้ ด้ 5.2 แสดงตนในการเดนิ ถนน ข้ามถนนอยา่ งปลอดภัยได้ หน่วยที่ 6 การบรกิ าร 6.1 แสดงวธิ ีเกบ็ เสือ้ ผา้ รองเทา้ จัดทน่ี อนใหเ้ กิดความเรยี บร้อยได้ 6.2 แสดงวิธีตม้ น้าร้อน และการทาความสะอาดเคร่อื งใช้หลงั จากใชเ้ สรจ็ แล้วได้ หน่วยท่ี 7 ธงและประเทศตา่ งๆ 7.1 บอกพระราชประวตั แิ ละพระราชกรณยี ์กจิ ทสี่ าคญั ของรัชกาลปัจจุบันได้ 7.2 ร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี และปฏิบัติได้ เม่ือมีการบรรเลงเพลงชาติและเพลง สรรเสรญิ พระบารมี 7.3 บอกประวัตธิ งชาติไทย บอกสิ่งประกอบ ความหมายของธงชาตไิ ทยได้ 7.4 บอกลักษณะของธงคณะลูกเสือแหง่ ชาติได้ 7.5 บอกลักษณะของธงชาติอังกฤษ และธงชาติฟิลิปปินส์ได้ หนว่ ยที่ 8 การฝมี ือ 8.1 นาเศษวสั ดุมาประดิษฐ์เปน็ หุน่ จาลองได้ หนว่ ยที่ 9 กิจกรรมกลางแจง้ 9.1 บอกเครื่องหมายท่ใี ช้ในการเดนิ ทางสะกดรอยและเดินสะกดรอยได้ หนว่ ยที่ 10 การบันเทิง 10.1 แสดงเงียบตามลาพงั หรอื รว่ มกบั เพ่ือนได้ หนว่ ยท่ี 11 การผูกเง่อื น 11.1 ผกู เง่ือนพิรอด เงือ่ นขัดสมาธิ และบอกประโยชน์และการเกบ็ เชือกได้ หน่วยที่ 12 คาปฏิญาณ กฎ คตพิ จนข์ องลูกเสือสารอง 12.1 บอกและปฏบิ ัตติ ามคาปฏิญาณของลูกเสือสารองได้ 12.2 บอกและปฏบิ ตั ติ ามกฎของลกู เสือสารองได้ 12.3 บอกและปฏิบัตติ ามคตพิ จน์ของลูกเสือสารองได้

36 คาอธิบายรายวชิ า กจิ กรรมลกู เสือสารอง ดาวดวงที่ 2 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 ......................................... คาอธบิ าย เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามฐาน โดยเนน้ ระบบหมู่ สรุปผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม ปดิ ประชมุ กองในเรื่อง ลูกเสือสารองดาวดวงที่ 2 ประกอบด้วยเน้ือหา เร่ือง อนามัย ,ความสามารถในเชิงทักษะ, การสารวจ ,การค้นหาธรรมชาติ ,ความปลอดภัย ,การบริการ ,ธงและประเทศต่างๆ ,การฝีมือ , กิจกรรม กลางแจง้ ,การบนั เทิง, การผูกเง่อื น, คาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือสารอง เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคา คาปฏิญาณ กฎ คติพจน์ของ ลกู เสอื สารอง มีนิสยั ในการสังเกต จดจา มีความร่าเรงิ แจ่มใส มรี ะเบยี บวินัย ประหยดั ซอื่ สัตย์ สจุ ริต อดทน เสียสละ ช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น เป็นผู้นาและผู้ตามที่ดี สามรถทางานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ สนใจและ อนรุ ักษ์ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม หน่วยการเรยี นรู้ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน (ลูกเสอื สารอง ดาวดวงที่ 2) ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 30 ชัว่ โมง หน่วยที่ สาระการเรียนรู้ เวลา(ชัว่ โมง) หนว่ ยที่ 1 อนามัย 2 หน่วยที่ 2 ความสามารถในเชิงทักษะ 4 หน่วยที่ 3 การสารวจ 3 หน่วยท่ี 4 การคน้ หาธรรมชาติ 2 หน่วยที่ 5 ความปลอดภัย 1 หน่วยที่ 6 การบรกิ าร 2 หน่วยท่ี 7 ธงและประเทศต่าง ๆ 2 หนว่ ยท่ี 8 การฝีมอื 3 หน่วยที่ 9 กจิ กรรมกลางแจ้ง 2 หน่วยท่ี 10 การบนั เทิง 2 หน่วยที่ 11 การผกู เง่อื น 2 หนว่ ยที่ 12 คาปฏิญาณและกฎของลูกเสอื สารอง 2 (เพอ่ื ประดบั เครอ่ื งหมายดาวดวงท่ี 2) 30 รวม

37 การจดั ทาแผนการเรียนรู้ กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น (ลูกเสอื สารอง ดาวดวงที่ 2) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เวลา 30 ชว่ั โมง แผนที่ เรือ่ ง เวลา(ชั่วโมง) 1 อนามัย 1 - ความสาคัญในการนอนหลับใหส้ นิท 2 อนามยั 1 - แสดงวธิ ีทาใหเ้ ลือดกาเดาหยดุ - การขอความชว่ ยเหลือจากผใู้ หญเ่ มอ่ื ประสบอบุ ัตเิ หตุ 3 ความสามารถในเชิงทักษะ 1 - กระโดดเชือกเทา้ ชิด ไดท้ ้งั หน้า หลัง - เดินทรงตัวบนราวไม้ 4 ความสามารถในเชิงทักษะ 1 - ใช้มอื เท้าส่งตัว ม้วนตวั ขา้ มราวไม้ 8 ความสามารถในเชงิ ทกั ษะ 1 - เคลอ่ื นยา้ ยบันได ขึ้น ลงบนั ไดได้อย่างคล่องแคลว่ 9 ความสามารถในเชงิ ทักษะ 1 - เล้ียงลกู บอลหลบหลีกสง่ิ กีดขวาง 10 การสารวจ 1 - บอกความหมาย ประโยชนข์ องการสารวจ บอกทตี่ ง้ั 11 การสารวจ 1 - เตรยี มการเดินทาง และปฏิบตั งิ านในการไปสารวจ 12 การคน้ หารธรรมชาติ 1 - เลือกวัสดุ และเพาะถั่วงอกได้ 13 การค้นหาธรรมชาติ 1 - อนรุ กั ษ์ธรรมชาติได้ ,เลอื กอาหารสัตวไ์ ด้ถูกต้อง 14 ความปลอดภัย 1 - ลักษณะการเกิดอุบัติเหตุทางน้า ,ปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในการ เดนิ ทางโดยทางน้า 15 การบรกิ าร 1 - การสง่ ขา่ ว เครอ่ื งมอื การสง่ ขา่ ว เขียนส่งขา่ วสาร 16 การบริการ 1 - ใช้โทรศพั ท์สาธารณะ - จดจา สง่ ข่าว ดว้ ยวันที่ ตัวเลข ขอ้ ความ - ตดิ ต่อส่งข่าวใหผ้ ู้ใหญห่ รือเจา้ หนา้ ท่ีทราบ 17 ธงและประเทศต่างๆ 1 - เขยี นภาพธงคณะลกู เสือโลก

38 เวลา(ชวั่ โมง) 1 แผนท่ี เร่ือง 1 - อธิบายความหมายธงคณะลูกเสอื โลก 1 18 ธงและประเทศต่างๆ 1 - ประเทศเพ่ือนบา้ น 2 ประเทศ 1 1 19 การฝมี อื 1 - การทาวา่ ว - พับกระดาษเปน็ รปู ต่างๆ 1 20 การฝมี ือ 1 - รเิ ริ่ม สร้างสรรค์ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 1 1 21 การฝมี ือ 1 - นาฬกิ าแดด 1 22 กจิ กรรมกลางแจ้ง 30 - กอ่ ไฟดว้ ยไมฟ้ นื หรือถา่ น 23 กิจกรรมกลางแจง้ - ปรุงอาหารรบั ประทาน 24 การบันเทงิ - การแสดงตลก,การเล่านทิ าน - การแสดงกล ,การร้องเพลง 25 การบนั เทิง - การเล่านิทาน - การอ่านคากลอน 26 การผกู เงอ่ื น - การเก็บเชือกอยา่ งง่าย 27 การผกู เงื่อน - การผกู เงือ่ นบ่วงสายธนูแบบตา่ งๆ เง่ือนกระหวัดไม้ 28 การผูกเง่ือน -เงื่อนกระหวดั ไม้แบบตา่ ง ๆ 29 คาปฏิญาณ กฎ คตพิ จน์ ลูกเสือสารอง - ทอ่ ง ปฏบิ ัติตามคาปฏญิ าณลูกเสอื สารอง 30 คาปฏิญาณ กฎ คติพจน์ ลูกเสือสารอง - ท่อง ปฏิบัติตามกฎลกู เสอื สารอง การสอบวชิ าพิเศษ จานวน 2 ประดับ ดาวดวงท่ี 2 รวม

39 ผลการเรยี นรู้ ลกู เสือสารอง ดาวดวงที่ 2 หน่วยท่ี 1 อนามยั 1.1 บอกความสาคญั ของการหลบั สนทิ ในเวลากลางคนื ได้ 1.2 แสดงวธิ ปี ฐมพยาบาลเมื่อมเี ลอื ดกาเดาออก 1.3 บอกความสาคญั ของการขอความชว่ ยเหลือจากผ้ใู หญ่เม่ือเกิดอุบตั เิ หตุได้ หน่วยท่ี 2 ความสามารถในเชิงทักษะ 2.1 กระโดดเชือกเท้าติดกนั โดยแกว่งเชือกด้วยตนเองได้ 2.2 เดินทรงตวั บนราวไม้ และบนกาแพงได้ 2.3 เล้ียงลกู บอลดว้ ยปลายเทา้ อย่างรวดเรว็ ออ้ มสิ่งกีดขวางได้ หน่วยที่ 3 การสารวจ 3.1 เขยี นรายงานการสารวจ และเยอื นสถานทใี่ นทอ้ งถน่ิ ได้ หน่วยที่ 4 การคน้ หาธรรมชาติ 4.1 เพาะถัว่ งอกหรือเมลด็ พันธพ์ ืชอน่ื ท่งี อกง่ายได้ 4.2 บอกชนดิ ของอาหารที่ให้แกส่ ัตว์เลยี้ งได้ หน่วยที่ 5 ความปลอดภยั 5.1 บอกวิธกี ารปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภยั ในการเดินทาง ทางน้าได้ หน่วยที่ 6 การบริการ 6.1 จา บอก หรือส่งข่าวด้วยตัวเลข ข้อความ ช่อื วิธสี ่งขา่ วให้ผใู้ หญ่ หรือเจ้าหนา้ ทท่ี ราบ 6.2 ใช้โทรศัพท์สาธารณะ และสมดุ โทรศพั ท์ได้ หนว่ ยที่ 7 ธงและประเทศตา่ งๆ 7.1 ปฏิบตั วิ ิธชี กั ธงขน้ึ ชกั ธงลง และบอกวิธเี กบ็ รกั ษาธงชาติใหเ้ รยี บร้อยได้ 7.2 เขียนภาพธงคณะลกู เสอื โลก และเขียนภาพธงประเทศอื่นๆ ได้ 4 ประเทศ 7.3 บอกชื่อ และท่ีตัง้ ของประเทศใกล้เคยี งได้ หน่วยท่ี 8 การฝีมือ 8.1 สามารถนาเศษวัสดุมาประดิษฐ์เปน็ อปุ กรณ์หรือของเล่นได้ หนว่ ยที่ 9 กจิ กรรมกลางแจง้ 9.1 สามารถก่อไฟ ปรุงอาหาร และดบั ไฟ ทาความสะอาดสถานท่ีได้ หนว่ ยที่ 10 การบันเทงิ 10.1 ทากจิ กรรม เล่านิทาน รอ้ งเพลง ได้ 10.2 มว้ นตัวท่าตา่ งๆ ตามลาพังและกับเพือ่ นลกู เสอื สารองได้ หนว่ ยที่ 11 การผกู เงื่อน 11.1 ผูกเง่ือนบ่วงสายธนู และเงื่อนกระหวัดไม้ พร้อมบอกประโยชน์ของการนาเงื่อนบ่วงสายธนู และเงือ่ นกระหวัดไม้ได้ หน่วยท่ี 12 คาปฏญิ าณ กฎ คติพจน์ ลกู เสอื สารอง 12.1 ปฏบิ ัตติ ามคาปฏญิ าณของลูกเสอื สารองได้ 12.2 ปฏบิ ตั ิตามกฎ คตพิ จน์ ของลูกเสือสารองได้

40 คาอธบิ ายรายวิชา กจิ กรรมลกู เสือ-เนตรนารี ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ......................................... คาอธบิ าย เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรปุ ผลการปฏบิ ัติกิจกรรม ปิดประชุมกองในเรอ่ื ง ลูกเสือสารองดาวดวงที่ 3 ประกอบด้วยเนื้อหา เร่ือง อนามัย ,ความสามารถในเชิงทักษะ , การสารวจ, การค้นหาธรรมชาติ ,ความปลอดภัยบรกิ าร ,ธงและประเทศตา่ งๆ ,การฝีมือ กจิ กรรมกลางแจง้ , การบนั เทงิ ,การผูกเง่อื น ,คาปฏิญาณและกฎของลกู เสือสารอง เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคา คาปฏิญาณ กฎ คติพจน์ของ ลูกเสือสารอง มนี สิ ยั ในการสังเกต จดจา มีความรา่ เริงแจ่มใส มรี ะเบียบวนิ ยั ประหยัด ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต อดทน เสียสละ ช่วยเหลือตนเองและผู้อ่ืน เป็นผู้นาและผู้ตามที่ดี สามารถทางานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ สนใจและ อนุรักษ์ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม หน่วยการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น (ลกู เสอื สารอง ดาวดวงที่ 3 ) ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จานวน 30 ชัว่ โมง หนว่ ยที่ สาระการเรยี นรู้ เวลา (ชว่ั โมง) หน่วยท่ี 1 อนามัย หนว่ ยท่ี 2 ความสามารถในเชงิ ทักษะ 4 หนว่ ยท่ี 3 การสารวจ 4 หน่วยที่ 4 การคน้ หาธรรมชาติ 2 หนว่ ยที่ 5 ความปลอดภยั 2 หนว่ ยท่ี 6 การบริการ 2 หน่วยที่ 7 ธงและประเทศตา่ ง ๆ 2 หนว่ ยที่ 8 การฝีมอื 2 หน่วยที่ 9 กจิ กรรมกลางแจ้ง 2 หน่วยที่ 10 การบนั เทงิ 2 หนว่ ยที่ 11 การผกู เงอื่ น 2 หน่วยท่ี 1 คาปฏิญาณและกฎของลกู เสอื สารอง 4 การสอบวิชาพเิ ศษ ลกู เสอื สารอง 2 รวม 30

41 การจัดทาแผนการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น (ลูกเสอื สารอง ดาวดวงท่ี 3 ) ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 30 ชั่วโมง แผนท่ี เนอ้ื หา เวลา(ช่วั โมง) 1 อนามัย 1 - จดั ทาถงุ เก็บอุปกรณ์พยาบาล - จัดเกบ็ ปัจจบุ นั พยาบาลไดอ้ ยา่ งมีระเบยี บ 2 อนามยั 1 - ขอความช่วยเหลือจากผ้ใู หญเ่ มื่อมอี บุ ตั เิ หตุ - บอกแหล่งที่จะขอความชว่ ยเหลือ 3 อนามยั 1 - ปฐมพยาบาลเมอ่ื ถกู แมลงกดั ต่อยได้ 4 อนามัย 1 - ปฐมพยาบาลเมอ่ื ได้รับอุบัตเิ หตุจากไฟไหม้ - ปฐมพยาบาลเมือ่ ถกู นา้ รอ้ นลวกได้ 5 ความสามารถในเชงิ ทกั ษะ 1 - การว่ิงไดอ้ ยา่ งถูกวธิ ี 6 ความสามารถในเชิงทักษะ 1 - ว่ิงกระโดดไกลได้ - ยนื กระโดดไกลได้ 7 ความสามารถในเชิงทกั ษะ 1 - ขวา้ ง รับลกู บอลได้อย่างถกู วิธแี ละไกลข้ึน 8 ความสามารถในเชงิ ทกั ษะ 1 - กระโดดข้ามสงิ่ กีดขวางได้สงู ขนึ้ 9 การสารวจ 1 - การดเู วลา ใน 24 ชว่ั โมง 10 การสารวจ 1 - การนบั เวลาใน 24 ชั่วโมง 11 การคน้ หาธรรมชาติ 1 - สภาพดนิ ฟ้า อากาศ ตามฤดกู าล 12 การคน้ หาธรรมชาติ 1 - แมลงตา่ งๆ ทีพ่ บเห็น ,สง่ิ มชี วี ิตในนา้ - จัดทาสมดุ แมลง หรอื สะสม 13 ความปลอดภัย 1 - เครอ่ื งหมายจราจร กฎจราจร เดินถนนทม่ี ีทางเท้าและ ไม่มที างเท้า - ขา้ มถนนตรงทางมา้ ลาย

42 เวลา(ชว่ั โมง) 1 แผนท่ี เนอ้ื หา 14 ความปลอดภยั 1 - ภยั ท่ีอาจเกดิ ข้นึ เมอ่ื ไมม่ ีคนอยู่บา้ น 1 - การป้องกนั ภยั ในเมื่อไมม่ ีคนอยู่ในบา้ น 15 การบริการ 1 - ความหมาย หลกั การบรกิ าร - วางแผนการบรกิ ารรว่ มกบั ผู้กากบั 1 16 การบริการ - ปฏบิ ัตกิ ารบริการที่วางแผนรว่ มกับเพือ่ น 1 - รายงานผลการบรกิ าร 17 ธงและประเทศต่างๆ 1 - ธงคณะลูกเสือแห่งชาติ - วาดภาพธงคณะลูกเสอื แหง่ ชาติ 1 18 ธงและประเทศตา่ งๆ 1 - ธงประเทศตา่ งๆ 5 ประเทศ - วาดภาพธงประเทศตา่ งๆ 5 ประเทศ 1 19 การฝีมือ 1 - นาวัสดเุ หลือใช้มา ประดษิ ฐข์ องเลน่ จากเศษวสั ดุ 1 - การรักษาเครือ่ งมือให้ถูกต้องและปลอดภยั 1 20 การฝมี ือ 1 - ประดิษฐข์ องเล่นจากเศษวัสดุ - ประดิษฐ์ของใชจ้ ากเศษวัสดุ 21 กจิ กรรมกลางแจง้ - ทิศทง้ั 8 22 กิจกรรมกลางแจง้ - อา่ นเขม็ ทิศ - หาเส้นทางในระยะ 400 เมตร โดยใช้เข็มทศิ 23 การบันเทงิ - การแดงละคร 24 การบันเทิง - การรอ้ งเพลงมดี นตรี ทาท่าทางประกอบ 25 การผกู เงอ่ื น - ผกู เง่ือนบว่ งสายธนู และประโยชน์ 26 การผูกเงอ่ื น - ผกู เงอ่ื นกระหวดั ไม้ 2 ชั้น และประโยชน์ 27 การผกู เง่ือน - การเก็บเชือก หรือสายยางไดเ้ รียบรอ้ ย

43 เวลา(ช่วั โมง) 1 แผนท่ี เนอื้ หา 28 การผูกเงื่อน 1 1 - ผูกเงือ่ นบ่วงสายธนู - ผกู เง่อื นกระหวัดไม้ 2 ชั้น - เก็บเชือกหรือสายยาง 29 คาปฏิญาณ กฎ คตพิ จนล์ กู เสอื สารอง - ทอ่ ง บอก คาปฏิญาณลูกเสือสารอง 30 คาปฏิญาณ กฎ คตพิ จนล์ กู เสอื สารอง - ทอ่ ง บอก กฎ ลกู เสือสารอง การสอบวิชาพเิ ศษ จานวน 2 ประดบั ดาวดวงท่ี 3 ผลการเรียนรู้ ลกู เสอื สารอง ดาวดวงท่ี 3 หนว่ ยที่ 1 อนามัย 1.1 จัดทาท่ีเก็บอุปกรณ์ ปัจจุบันพยาบาลสาหรับตนเองเพ่ือนาติดตัวออกไปเม่ือเดินทางไปนอก สถานที่ 1.2 บอกความสาคญั ของการขอความช่วยเหลอื จากผู้ใหญเ่ ม่ือมีอุบตั ิเหตุเกิดข้ึนได้ 1.3 แสดงวิธปี ฐมพยาบาล เมอื่ ถกู แมลงกดั ไฟไหม้ น้ารอ้ นลวกได้ หน่วยท่ี 2 ความสามารถเชงิ ทักษะ 2.1 ปฏิบัตกิ จิ กรรม วง่ิ 50 เมตร วง่ิ หรอื กระโดดไกล ขว้างลกู บอล กระโดดข้ามสง่ิ กดี ขวางได้ หน่วยท่ี 3 การสารวจ 3.1 ดูนาฬิกา และนบั เวลาได้ 24 ช่ัวโมง 3.2 วางแผนในการเดนิ ทางไกลได้ หนว่ ยท่ี 4 การคน้ หาธรรมชาติ 4.1 บอกสภาพดนิ ฟา้ อากาศตามฤดูกาลได้ 4.2 จดั ทาสมดุ ภาพหรือสะสมส่งิ ของเก่ยี วกบั ดิน ฟา้ อากาศได้ หนว่ ยที่ 5 ความปลอดภยั 5.1 ปฏิบัติตามกฎจราจร และบอกขอ้ ควรปฏบิ ัติในการป้องกนั ภยั เมื่อไม่มีคนอย่บู า้ นได้ หน่วยท่ี 6 การบริการ 6.1 วางแผน และดาเนนิ การให้บรกิ ารแก่ผู้อ่นื ได้ หนว่ ยที่ 7 ธงและประเทศตา่ งๆ 7.1 บอกลกั ษณะธงลูกเสอื ประจาจังหวัด และธงคณะลูกเสือแห่งชาติได้ 7.2 เขียนภาพธงประเทศตา่ งๆ ได้ 4 ประเทศ หนว่ ยท่ี 8 การฝีมอื 8.1 ประดษิ ฐส์ ่งิ ของจากเศษวัสดุ โดยเคร่อื งมือทเี่ หมาะสมได้ 8.2 บอกวิธกี ารใช้ และเก็บรักษาเครอ่ื งมือได้

44 หน่วยที่ 9 กจิ กรรมกลางแจง้ 9.1 บอกทิศทางและวิธีอา่ นเข็มทิศได้ 9.2 หาเสน้ ทางในระยะทาง 400 เมตร โดยใชเ้ ข็มทศิ ได้ หนว่ ยท่ี 10 การบันเทงิ 10.1 ทากจิ กรรม จัดและเข้าร่วมแสดงละครกบั เพอ่ื นลูกเสือหรือรอ้ งเพลงกับเพ่ือนลกู เสือได้ หน่วยท่ี 11 การผูกเงอ่ื น 11.1 ผูกเงื่อนบ่วงสายธนู แบบตา่ งๆ ได้ 11.2 ผูกเงอ่ื นกระหวัดไม้ 2 ชนั้ และขดเชอื กยาวไว้เรียบรอ้ ยได้ หน่วยที่ 12 คาปฏิญาณ กฎ และคตพิ จน์ลกู เสอื สารอง 12.1 ทอ่ ง บอกความหมาย ปฏิบตั ติ ามคาปฏิญาณของลูกเสอื สารองได้ 12.2 ทอ่ ง บอกความหมาย ปฏบิ ัติตามกฎของลกู เสอื สารองได้ 12.3 ทอ่ ง บอกความหมาย ปฏิบตั ิตามคติพจนข์ องลกู เสือสารองได้

45 คาอธิบายรายวชิ า กิจกรรมลูกเสอื สามญั ตรี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 .................................................. คาอธบิ าย เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมเป็นฐานการเรียนรู้และใช้กระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย โดยเน้นระบบหมู่ สรุปผลการ ปฏิบัติกิจกรรม ปดิ ประชมุ กองในเรอื่ ง หลักสูตรลูกเสือตรี (ความรู้เก่ียวกับขบวนการลูกเสือ คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ กิจกรรม กลางแจ้ง ระเบยี บแถว วชิ าพิเศษและสอบเครื่องหมายวชิ าพิเศษ ) เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคาปฏิญาณ กฎและคติ พจน์ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจา มีความร่าเริงแจ่มใส มีระเบียบวินัย ประหยัด ซื่อสัตย์ สจุ ริต อดทน เสียสละ ช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น เป็นผู้นาและผู้ตามท่ีดี สามารถทางานและอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้ ผลการเรยี นรู้ ลูกเสือสามญั ตรี ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ชน้ั ป.4 1. มีความรู้ความเข้าใจเนื้อหาเรื่องราวของกิจกรรม หลกั สตู รลูกเสอื ตรี และเสนอแนะการนากจิ กรรมไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ 2. ช่วยเหลือหรือแนะนาผู้อ่ืนให้ปฏิบัติกิจกรรมและ ความร้เู กย่ี วกับขบวนการลูกเสือ ชนื่ ชมยินดตี ่อผปู้ ฏบิ ตั ิได้สาเรจ็ ระเบียบแถว 3. ปฏิบัติกิจกรรมโดยการวางแผนและกาหนด คาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื สามญั ข้ันตอนดว้ ยตนเองหรือร่วมกับผูอ้ ืน่ กิจกรรมกลางแจง้ 4. พฒั นาตนเองอยู่เสมอ วิชาพิเศษและการสอบเคร่อื งหมายวชิ าพิเศษ 5. ช่วยเหลือหรือแนะนาผู้อื่นให้ทางานและปฏิบัติ ตามคาปฏิญาณ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คติพจน์ ฯลฯ และช่นื ชมตอ่ ผู้ปฏิบัติได้สาเร็จ

46 กาหนดหน่วยการเรยี นรู้ กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี (ลูกเสอื ตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 40 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรู้ เน้ือหา เวลา(ชัว่ โมง) 1. หลกั สตู รลูกเสือตรี ( 30 ) 2 2.  ความรูเ้ กีย่ วกบั ขบวนการลูกเสือ 2 3. 1.1 ประวัตสิ ังเขปของ ลอรด์ เบเดน – โพเอลล์ 4. 1.2 พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏ 2 เกล้าเจา้ อย่หู วั 2 1.3 วิวัฒนาการของขบวนการลกู เสือไทยและลกู เสอื โลก 1.4 การทาความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย และ 2 คติพจนข์ องลกู เสือ 5  คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ เขา้ ใจและยอมรบั คาปฏิญาณและกฏของลูกเสอื สามัญ 2  กิจกรรมกลางแจ้ง 1 มีส่วนร่วมในกิจกรรมของหมู่หรือกองลูกเสือนอก 2 สถานที่ 2 4  ระเบยี บแถว 4.1 ท่ามอื เปลา่ 4.2 ทา่ ถอื ไม้พลอง 4.3 การใชส้ ญั ญาณมือและนกหวดี 4.4 การตง้ั แถวและการเรียกแถว  วชิ าพิเศษและการสอบเคร่อื งหมายวิชาพิเศษ 4 การจดั ทาแผนการเรียนรู้ เวลา 40 ชัว่ โมง กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น (ลกู เสอื สามัญ ตรี ) ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 แผนที่ เรือ่ ง เวลา(ชัว่ โมง) 1. ประวัติโดยสังเขป ลอร์ด เบเดน โพเออล์ 1 - ศกึ ษาประวตั ิ ลอรด์ เบเดน โพเอลล์ 2. ประวัติโดยสงั เขป ลอร์ด เบเดน โพเออล์ 1 - แต่ละหมนู่ าเสนอผลงาน ประวตั ิ ลอร์ด เบเดน โพเออล์ 3. พระราชประวตั ิโดยสังเขปพระบาทสมเด็จพระมงุ กฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั 1 - ศึกษาพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระมงุ กฎุ เกล้าเจ้าอยู่หัว