หลักสูตรแบบเอกัตบุคคล

หลกั สูตรแบบเอกตั บุคคล (individualized curriculum)

ลกั ษณะของหลกั สตู ร จดั ขนึ้ เพ่ือสนองความตอ้ งการ และความสนใจ ของผเู้ รยี นแตล่ ะคน สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนมีความรบั ผิดชอบ โดย ยดึ หลกั ปรชั ญาอตั ถิภาวนิยม (existentialism) ใหค้ วามสาคญั กบั ผเู้ รยี น รายบคุ คล เพ่ือใหผ้ ู้ เรยี นไดพ้ ฒั นาตนเองอยา่ งเป็นอิสระจากคนอ่ืน ครูผสู้ อนจะจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรูแ้ กผ่ เู้ รียน แตเ่ พียงลาพงั หรอื รว่ มกนั จดั กบั ผเู้ รยี นก็ได้

การเรยี นแบบเอกตั ภาพ เป็นการเรยี นดว้ ยตนเอง และเรยี นแตผ่ เู้ ดียวกบั อาจารยค์ นหน่งึ วิธีการนีเ้ ป็นวิธี โบราณท่ีครูคนหนง่ึ จะสอนศิษยเ์ พียงหน่งึ คน ซง่ึ เป็นการสอนท่ีดีท่ีสดุ ศิษยก์ บั อาจารยจ์ ะรกั ใครน่ บั ถือกนั มาก ศิษยไ์ ดเ้ รยี นอย่างเตม็ ท่ีปราศจากความกงั วลใจ แตป่ ัจจบุ นั ไมส่ ามารถจดั การเรยี นการสอนเช่นนีไ้ ดใ้ นทางปฏิบตั ิ แตอ่ าจใชส้ ่อื การสอนเชน่ คอมพิวเตอรช์ ่วยในการเรยี นแบบเอกตั ภาพ ซง่ึ ไดผ้ ลดีมาก แตอ่ าจ ทาใหน้ กั ศกึ ษาเป็นคนคบั แคบเพราะไมม่ ีโอกาสส่อื สารกบั คน

การเรยี นรูแ้ บบเอกตั ภาพมวี ิธีการในการจดั การเรยี น ดงั นี้ 1. จดั แผนการเรียนอยา่ งอิสระ (Independent Study Plans) เป็นการตกลงรว่ มกนั ระหวา่ งผสู้ อนและผเู้ รียน ใน การกาหนดจดุ ประสงคก์ ารเรยี น จากนนั้ ผเู้ รยี นทากิจกรรมเอง อยา่ งอสิ ระ แลว้ มาประเมนิ ผลการเรยี น 2. การศกึ ษาดว้ ยตนเอง (Self-directed Study) ครู อาจกาหนดจดุ ประสงคใ์ ห้ หรอื กาหนดรว่ มกนั ครูเตรยี ม เอกสาร แหลง่ ทรพั ยากรการเรียนให้ เม่ือสนิ้ สดุ การเรยี น ตอ้ งทาการทดสอบ

3. การเรยี นท่ีผเู้ รยี นเป็นศนู ยก์ ลาง (Student-center Learning) ผเู้ รยี น กาหนดจดุ ประสงคก์ ารเรยี นเอง ผเู้ รยี นประเมนิ ตนเองเม่ือเรยี นบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ลว้ 4.อตั ราการเรยี นรูข้ องตนเอง (Self-pacing) เป็นการเรียนท่ีครูกาหนด จดุ ประสงคใ์ ห้ และมีการเรยี นพรอ้ ม ๆ กนั ซง่ึ ผเู้ รยี นไดร้ บั เอกสารอปุ กรณเ์ หมือน ๆ กนั ผเู้ รยี นจะบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ นึ้ อยกู่ บั ความสามรถในการเรยี นของแตล่ ะคน 5.ผเู้ รยี นกาหนดวธิ ีการสอน (Student-determined Instruction) ผเู้ รยี นสามารถกาหนดวิธีการเรยี นการสอนดว้ ยตนเอง สามารถเลือกจดุ ประสงค์ เอกสาร วสั ดุ อปุ กรณ์ จดั ตารางเรยี นเอง กาหนดอตั ราการเรียน การประเมินผลได้ เอง

ขอ้ ดี สามารถจะแกป้ ัญหานกั เรียนท่ีมีพืน้ ฐานความรูต้ า่ งกนั ได้ นกั เรียนไดร้ บั การฝึกภาษาอยา่ งท่วั ถงึ กนั เพราะแตล่ ะกลมุ่ เป็นกลมุ่ เลก็ นกั เรียนออ่ นไมร่ ูส้ กึ มีปมดอ้ ยในการเรยี น เพราะไดเ้ รยี นตามความสามารถของตน เป็นการแขง่ ขนั กบั ตนเองมากกวา่ แข่งกบั คนอ่ืน นกั เรียนท่ีเรยี นเกง่ ไมร่ ูส้ กึ เบ่ือหน่ายในการท่ีจะตอ้ งรอนกั เรียนท่ีเรยี นชา้ มีโอกาสท่ีจะเลอื ก กิจกรรมไดม้ ากอยา่ งตามความสนใจของแตล่ ะคน ฝึกใหน้ กั เรียนรูจ้ กั การใหแ้ ละการรบั รูจ้ กั ช่วยเหลือเพ่ือนรว่ มชนั้ เป็นการฝึกนิสยั ใน การท่ีจะดาเนินชีวติ อยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งสนั ตสิ ขุ

ขอ้ เสีย ถา้ มีนกั เรยี นหลายคนในหอ้ งเรยี น จะตอ้ งอาศยั ครูหลายคนจงึ จะดแู ลนกั เรียนไดท้ ่วั ถงึ จะตอ้ งอบรมใหน้ กั เรียนมีระเบียบวนิ ยั ซ่ือตรงตอ่ ตนเอง สามารถบงั คบั ใจใหท้ างานไดเ้ อง โดยไมม่ ีใครบงั คบั บทเรยี นท่ีใชม้ กั จะมีราคาแพง เพราะตอ้ งบรรจกุ ิจกรรมมากอยา่ งเพ่ือเรา้ ความสนใจของผเู้ รยี น ครูจะตอ้ งมีความสนใจตอ่ นกั เรยี นเป็นรายบคุ คลอยา่ งแทจ้ รงิ จงึ จะชว่ ยใหก้ ารเรียนเป็นผลสาเรจ็ ในหอ้ งเรยี นท่ีนกั เรยี นมีความสามารถตา่ งกนั มาก ทาใหย้ ากตอ่ การเตรยี มการสอนในสว่ นของบทเรียนท่ีจะตอ้ ง เรยี นรว่ มกนั เพราะนกั เรยี นเกง่ จะเรยี นรูเ้ กินหนา้ นกั เรียนท่ีออ่ นไปมากแลว้ แตจ่ ะตอ้ งมาเรียนบทเรยี นยอ้ นหลงั ดงั นนั้ ครูจงึ ตอ้ งเตรยี มบทเรียนเป็นหลายระดบั และสอนแตล่ ะกลมุ่ ดว้ ยเนือ้ หาท่ีตา่ งกนั ออกไป ทาใหค้ รูทางาน หนกั มาก