Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Book12

Book12

Published by kaow172537, 2020-08-22 00:14:06

Description: Book12

Search

Read the Text Version

สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.1 ขอ้ ที่ 1. เราใช้อวัยวะใดมองภาพตา่ งๆ 1 จมกู 2 ปาก 3 ตา ข้อท่ี 2. อวยั วะใดใช้สาหรบั หายใจ 1.ตา 2.จมูก 3.ปาก ขอ้ ที่ 3.ข้อใดเปน็ วธิ กี ารรกั ษาหูทถ่ี กู ต้อง 1.ฟงั เพลงดงั ๆ 2.ใช้ไมแ้ คะหู 3.อาบนาเสรจ็ แลว้ ใชผ้ ้าเชด็ หูใหแ้ ห้ง ขอ้ ท่ี 4. อวัยวะใดใช้บดเคียวอาหาร 1.ปาก 2.ฟนั 3.ลนิ ข้อท่ี 5. เราควรแปรงฟนั และลนิ อย่างนอ้ ยวนั ละีกค่ รงั

1. 1 ครัง 2. 2 ครงั 3. 3 ครัง ข้อที่ 6.เรารสู้ กึ ร้อน หนาว เพราะเรามอี วัยวะใด 1.มือ 2.จมกู 3.ผิวหนัง ขอ้ ที่ 7.การทาความสะอาดผิวหนังทถ่ี กู ต้องคอื ข้อใด 1.ใช้นาหอม 2.อาบนาทกุ วัน 3.ใชเ้ สอื ผ้าราคาแพง ข้อท่ี 8.เราไม่ควรขยีตาเพราะอะไร 1.ทาใหต้ าอกั เสบ 2.ทาใหส้ ายตาสนั 3.ทาใหแ้ สบตา ข้อที่ 9.วิธกี ารรกั ษาจมกู ทถี่ กู ตอ้ งคือข้อใด 1.ตดั ขนจมกู ใหส้ ัน 2.ใชผ้ ้าปิดจมกู ในบรเิ วณทีม่ ฝี ุ่นมากๆ

3.ใช้นาลา้ งจมกู ขอ้ ท่ี 10.ถ้ามือและเท้าของเราสกปรกควรทาอยา่ งไร 1.ล้างดว้ ยนาสบู่ 2.ลา้ งดว้ ยนาสบู่แล้วเช็ดใหแ้ หง้ 3.ใสร่ องเทา้ เมือ่ ออกจากบา้ น …………………………………………………………………………………………………………………………… รู้จกั ตนเอง ผมู้ กี ารพฒั นาตนตอ้ งรูจ้ กั ตน วเิ คราะห์ตนเองให้ชดั เจนว่า ตนเปน็ ใคร มาจากไหน ทาอะไร มอี ะไร เป็นเป้าหมายของชวี ิต · โสกราตสิ นักปราชญ์ชาวกรกี กล่าววา่ “ชวี ิตทไี่ มไ่ ด้ตรวจสอบ เปน็ ชวี ติ ทไี่ รค้ า่ ” · คนทีห่ วังความก้าวหนา้ ควรกาหนดจดุ มุ่งหมายปลายทางชวี ิตตน พจิ ารณาวา่ จะนาตนไปสู่ จดุ มุ่งหมายชวี ิตไดอ้ ยา่ งไร ต้องทาตนอยา่ งไรจงึ เผชิญสถานการณไ์ ด้อยา่ งเหมาะสม · การรู้จักตนเองจงึ เป็นรากฐานแหง่ การนาชีวิตไปสู่จุดมุ่งหมายได้อย่างราบเรยี บ มนษุ ยเ์ รามคี วามเสมอภาคกนั คนเราทกุ คนมอี ิสรเสรีภาพ มคี วามเสมอภาคเท่าเทียมกนั ที่จะเลือกทางเดินของชวี ติ · แม้คนเราจะมคี วามแตกตา่ งกนั อันเนื่องมาจาก o ประการแรก คือ พนั ธกุ รรม เปน็ ลกั ษณะทถ่ี ่ายทอดจากบรรพบรุ ษุ เช่น สูง-ตา่ ดา-ขาว

o ประการทีส่ อง คอื สภาพแวดล้อม เกิดการกระทบผ่านเข้ามาทางประสาทรับรู้ คอื ตา หู จมกู ลนิ กาย ใจ กอ่ ใหเ้ กิดแนวคิด ปรัชญา คา่ นยิ ม เจตคติ ความเช่อื § สภาพแวดลอ้ มนีรวมถึงกระบวนการทางสังคม เช่น การอบรม เลียงดู การศึกษา จากโรงเรียน กลมุ่ เพือ่ น อิทธิพลทางสังคม การเมอื ง เศรษฐกจิ วัฒนธรรม ศาสนา § นอกจากนนั สงั คมก็ควบคุมพฤตกิ รรมของคนให้ทาตาม หรอื เว้นการกระทา การ ควบคมุ ทางจติ ใจของคน กเ็ ป็นเคร่อื งส่งเสรมิ หรือสกัดกนั ความรู้สกึ นึกคิด และ การกระทาของคน ทาให้คนเราแตกต่างกัน · การพฒั นาตน เกดิ จากการรจู้ กั ตนเอง o การร้จู ดั ตนเอง หมายถึง การเข้าใจตนเอง รู้จกั อุปนิสัยใจคอตนเอง o มีความรับผิดชอบต่อการกระทาของตน ยินดกี ับความสาเร็จ วพิ ากษก์ ารกระทาที่ผดิ พลาด ควบคมุ ความร้สู ึก o มีความรู้ ความสามารถ มีทกั ษะ การสารวจตนเองทาใหร้ สู้ ่วนดี-ขอ้ เด่น สว่ นดอ้ ย-ข้อบกพร่อง ซึ่งจะไดร้ ักษาส่งเสริมส่วนดี แกไ้ ขสว่ นด้อยหรอื บกพร่อง ในการสารวจนนั ต้องใจกวา้ ง ยอมรบั ข้อบกพรอ่ ง รับคาวิพากษ์ โดยระลกึ วา่ “ผ้ตู าหนิ คือ ผู้ บอกขมุ ทรพั ย์แหง่ การพฒั นา เปน็ กระจกเงาท่สี ่องให้มองเห็นตัวตนของเรา” ขณะเดยี วกนั ก็หาขอ้ มูล ความรมู้ าประกอบพจิ ารณา และหม่ันสารวจตนอย่างสม่าเสมอ เนอ่ื งจากสภาพแวดลอ้ ม เปล่ยี นแปลง เทคโนโลยเี กดิ ขึ้นตลอดเวลา สังคมเปลย่ี นแปลงไปอย่างรวดเรว็ · การพฒั นาตน ควรพฒั นาใหม้ คี วามสมดลุ ระหวา่ งชวี ติ และการงาน

เพื่อให้คนเรามกี ารพัฒนาการสมดุล ทงั ชีวิตสว่ นตัวและการงาน คนเราต้องพัฒนาชีวติ หก ด้านควบค่กุ ันไปใหไ้ ดด้ ลุ กนั 1. จรยิ ธรรม และ จิตวญิ ญาณ จติ วิญญาณ เปน็ แหลง่ แห่งพลังของมนษุ ยอ์ ยเู่ หนือสภาพวัตถุมพี ลังมหาศาลไร้ขีดจากัด เราจึง จะตอ้ งพฒั นาปรัชญา ความเช่อื ศลี ธรรม จรรยามารยาท ซ่งึ จะกอ่ เกดิ จริยธรรมทดี่ ีงาม เพอ่ื ใหเ้ กิด การสร้างสรรค์ เพม่ิ พูนเกลือหนนุ แก่ตัวเรา และแก่คนรอบข้างของเรา 2. สตปิ ญั ญา และ การศกึ ษา การศึกษาความรตู้ า่ งๆ ซงึ่ มีอยู่อย่างมากมาย เพือ่ ให้เติบโตทงั ความคิดและจติ ใจ และให้ ก้าวหน้าทันเทคโนโลยีท่ีเกดิ ขึน วัตถุประสงค์เพื่อนามาปรับใชก้ บั การดาเนินชีวิตของเรา จึงต้อง อาศยั การพัฒนาสตปิ ญั ญาอันฉลาด ที่จะสามารถนาความรู้ทเี่ ลา่ เรยี นมาสามารถนามาประยุกตใ์ ช้ ให้เกิดผลการดาเนนิ ชวี ิตทดี่ ีขึน 3. สุขภาพ และ ร่างกาย คนเราสามารถทาอะไรไดใ้ นขณะทีเ่ รามีชีวิตอยู่ หากตายไปก็ไม่สามารถทาอะไรได้ เวลาทีเ่ รา เจ็บปว่ ยไม่วา่ ทางกายหรอื ทางจติ ใจ เรากท็ าอะไรได้น้อยลง หรืออาจไม่สามารถทาได้ อาจเหมือน คนตายไปแลว้ ย่งิ ร้ายกวา่ นนั ถา้ ป่วยทางจติ ใจ กลับสร้างคนเสยี หายอย่าใหญห่ ลวงได้ แย่ยิง่ กว่า คนตายเสยี อีก การรกั ษาร่างกาย ใหแ้ ขง็ แรง มีสุขภาพดที งั กาย และใจ จึงเป็นสง่ิ สาคญั ซ่งึ จะก่อใหเ้ กดิ การ ดารงชวี ติ ที่มีความสขุ ได้ 4. ครอบครวั และ บา้ นเรอื น

บา้ นเรือนท่ีอยอู่ าศัย เปน็ สังคมหน่วยเล็กท่ีมคี วามหมายมาก เราตอ้ งพัฒนาบา้ นเรอื นของเรา ใหเ้ ป็นที่น่าอย่อู าศยั สรา้ งสัมพันธ์ภาพของคนในครอบครัวให้แนน่ เหน่ียว มีจิตใจม่ันคง เป็นแรงใจ แก่กัน (ทุกคนในบ้านต้องออกไปเผชญิ สงั คมภายนอก เมอ่ื ครอบครัวเขม็ แขง็ ทที่ างานจะเข้มแข็ง ชมุ ชนสงั คมก็จะเขม้ แข็ง) 5. การเงนิ และ อาชีพ เราประกอบอาชพี การงาน เพอ่ื หารายได้ การมอี าชีพการงานจงึ เป็นเรือ่ งสาคญั ท่จี ะชว่ ยให้ เรามีรายไดท้ ด่ี ี เราควรมอี าชพี ท่เี หมาะสมกับทักษะ และทางานใหม้ ีความสนกุ สนาน มีเจตคติใน ทางบวก และ มงุ่ มั่นปรับปรุงคุณภาพ ให้เกดิ ประสทิ ธิภาพ และประสทิ ธิผลตามมงุ่ หวังไว้ 6. สังคม และ วัฒนธรรม เราต้องมกี ารพัฒนาทักษะความรบั ผิดชอบต่อชมุ ชนและสงั คม ให้มคี วามเปน็ อยู่ทีด่ ีขึน วัฒนธรรมเป็นส่วนรอ้ ยจติ ใจใหเ้ ราอยรู่ ว่ มกันเป็นสงั คมทดี่ ีงาม ทาใหเ้ ราเข้ากนั ไดก้ บั ผอู้ ่นื อยู่ ร่วมกันในสงั คมโลกไดอ้ ยา่ งกลมเกลยี ว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook