Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คำยาก ม.ปลาย

คำยาก ม.ปลาย

Published by kruuntikamee, 2019-05-14 23:03:58

Description: คำยาก ม.ปลาย

Keywords: คำยาก

Search

Read the Text Version

คาํ ศพั ท คาํ แปล พิไล ทีม่ ลี ักษณะซงึ่ เห็นแลว ช่นื ชอบพอใจ พศิ วง ทีน่ าประหลาดใจ, ทน่ี าแปลกใจอยา งสงสัย พิศวาส รักใคร พสิ ดาร ทผี่ ิดปกต,ิ ทแี่ ปลกประหลาดไปจากธรรมดา พิสุทธิ์ ไมมีส่งิ อื่นเจือปน, ปราศจากมลทนิ พื้นเพ หลักแหลงเดิม, ถน่ิ กําเนิดเดมิ พทุ ธประวัติ เร่อื งราวของพระพุทธเจา พทุ ธภาษติ ภาษติ ทางศาสนาพุทธ พทุ ธศาสนกิ ชน ผูท ่ีนับถือพระพทุ ธศาสนา พทุ ธาทบิ ณั ฑติ ผรู มู พี ระพุทธเจาเปน ตน เพชรนาํ้ คา ง แกวสีขาว เพด็ ทูล พูดกบั เจานาย เพทุบาย ทาํ เลห ก ล, ทาํ อบุ าย เพรา มอ้ื , คร้งั , หน เพรางาย เวลาเชาและเวลาเย็น เพริศพราย งามระยับ เพรศิ พร้ิง งามเฉิดฉาย เพล็ด ผลิ เพอ่ื เพราะ แพศยา ที่ชอบยว่ั ยวนหรือคบหาผชู ายมากหนาหลายตา โพยม ทอ งฟา อากาศ ไพรี ขา ศกึ หมวดอกั ษร ฟ คําศัพท คําแปล ฟองรอ ง กลา วหาบคุ คลใดบคุ คลหน่ึง โดยมีคาํ ขอใหศ าลพิจารณาพพิ ากษา ฟกขา ว ไมเ ถาชนดิ หนงึ่ ผลมีหนามสัน้ ๆ กนิ ไดแ ละใชทาํ ยาไดต อ ไปขา งหนา ฟนเฝอ ยุง , วนุ วาย, พวั พัน, ยงุ เหยิง ฟาดฟน ตอ สูหรอื แขงขนั กันเพอ่ื ใหร แู พรูชนะกันไป คําศพั ทภาษาไทยระดับช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 6 Page 33  

คาํ ศัพท คําแปล เฟน หา คัดเอาแตท ด่ี ,ี คัดเอาแตท ่ตี อ งการ หมวดอกั ษร ภ คาํ ศพั ท คําแปล ภพ โลกหรอื แผนดนิ (ทางศาสนา) ภวงั ค ความเปนอยูโดยไมรูสกึ ตวั , จติ ท่ีกําลงั ลืมตวั ภัต ขา ว ภาพพจน คาํ พดู ท่เี ปน สาํ นวนโวหารทาํ ใหน กึ เหน็ เปน ภาพ ภาโรปกรณ (จดั ทาํ ) เคร่ืองมอื ตามที่ไดร บั มอบหมาย ภาว ความเปน ความปรากฎ ภาวะการณ ความเปน ไปของสภาพนัน้ ภาวะวกิ ฤติ สภาพท่ีอยูใ นขนั้ อันตราย หรอื ชว งหวั เลยี้ วหวั ตอ ภาวะแวดลอม สง่ิ ตา งๆ ทีม่ ลี ักษณะทางกายภาพและชวี ภาพทีอ่ ยรู อบตัวมนษุ ยซ ึง่ เกดิ ขนึ้ โดย ธรรมชาติและสิง่ ท่มี นษุ ยไ ดท าํ ขนึ้ ภาวะสงคราม ชวงเวลาทีเ่ กิดการสรู บกัน ภาษาทอ งถนิ่ ภาษาทมี่ สี าํ เนยี งหรือถอ ยคําท่พี ูดกนั เปนพน้ื เฉพาะถนิ่ ภาษาทาทาง การใชท า ทางตา งๆ สอ่ื สารแทนคําพดู ภาษาใบ กรยิ าอาการทท่ี าํ ใหเขา ใจแทนการพูด ภาษามนษุ ย เสยี งหรอื กิรยิ าอาการท่ที ําความเขา ใจกนั ได, คาํ พดู , ถอยคาํ ทใ่ี ชพ ูดกนั ภาษาศาสตร วชิ าที่ศกึ ษาภาษาในแงต างๆ เชน เสียง โครงสราง ความหมาย โดยอาศยั วิธกี าร วทิ ยาศาสตร ภินท แตก ทําลาย ภนิ ทนะ การแตกแยก ภยิ โย ยิ่งขนึ้ ไป ภีรกุ กลวั ข้ีขลาด ภูธร พระเจาแผน ดนิ ภมู ิภาค อาณาบรเิ วณทมี่ ลี กั ษณะบางอยาง เชน ลกั ษณะทางธรรมชาติ ทางเศรษฐกจิ คลายคลึงกันจนสามารถจัดเขาพวกกันได และแตกตางกบั บริเวณใกลเ คยี ง โดยรอบ คาํ ศัพทภาษาไทยระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 34  

คําศพั ท คาํ แปล ภมู ิลําเนา บานเกิด, ถิน่ กาํ เนิด ภูมศิ พระราชา ภมู หิ ลงั ประวตั คิ วามเปน ไปแตด ัง้ เดมิ ภมู ี พระเจา แผน ดนิ เภสัชวทิ ยา วิทยาศาสตรแ ขนงทว่ี าดว ยฤทธิ์ของยาหรอื ของสารทมี่ ตี อสงิ่ มชี ีวิต โภชนาการ ความสมั พนั ธร ะหวา งอาหารกบั กระบวนการตางๆ ทีเ่ กยี่ วขอ งกบั สขุ ภาพและ การเจรญิ เตบิ โตของส่ิงมชี วี ติ หมวดอกั ษร ม คําศัพท คาํ แปล มงคล ดายท่ที าํ เปน วงสาํ หรบั สวมศีรษะเพ่ือเปน สริ มิ งคล มณฑล เขตปกครองทีแ่ บง ออกเปนสวนใหญๆ มติ ขอ วินจิ ฉยั ญตั ติทเ่ี สนอตอ ที่ประชมุ , ขอ ตกลงรว มกนั มน ใจ มนตรา คําเสกเปาทถ่ี อื วา ศักดสิ์ ทิ ธิ์ มนสิการ การกําหนดไวใ นใจ, การทาํ ในใจ มนารมณ สมดงั ท่คี ดิ หรอื สมดังใจ มนุษยธรรม ธรรมของมนษุ ย มกั หมายถงึ ความเมตตาผอู น่ื มนุษยโลก ทีอ่ ยูของมนุษย มโนทศั น ความคิดเหน็ เปนภาพข้นึ ในใจ มโนภาพ ความคดิ เหน็ เปน ภาพขึ้นในใจ มรณา ตาย มลทิน ความมัวหมอง, ความไมบรสิ ทุ ธิ์ มลพิษ พิษเกดิ จากความมัวหมองหรือความสกปรก มลงั เมลือง สกุ ใส, อรา มเรอื ง มลาย แตก ตาย ทําลาย มหรสพ การแสดงหรอื การละเลนตางๆ ทีจ่ ัดขนึ้ เพอ่ื ความรืน่ เรงิ มหาดเล็ก ขาราชการในพระราชสาํ นกั มหี นาทรี่ ับใชพ ระเจา แผน ดนิ , ผูท ร่ี บั ใชป ระจํา คําศัพทภ าษาไทยระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ี่ 6 Page 35  

คําศัพท คําแปล เจา นาย หรอื ผูท ่ถี วายตวั เปน ผรู บั ใชเ จานาย มโหรี วงเครอื่ งดีดสตี ีเปา ทม่ี ขี ับรอ งรวมเปน พวกเดยี วกัน มะเมอ นอนละเมอ มัจฉา ปลา มัตสยา ปลา มัธยมศกึ ษา การศกึ ษาระหวา งประถมศึกษากบั อดุ มศกึ ษา มัสยา ปลา มาตร วดั ดว ยมาตรวดั / เคร่ืองวดั มาตรวา คาํ ท่ใี ชหนา ประโยคแสดงเหตุการณที่สมมติขึ้น และเปน เงื่อนไขใหบ งั เกิดผล มาน ใจ ดวงใจ มาโนชญ เปนทพ่ี อใจ, เปนทถี่ กู ใจ มาศ ธาตแุ ทชนิดหน่งึ เนอ้ื แนน มาก สีเหลอื งสุกปลั่ง เปนโลหะมคี า มง่ิ ขวญั สงิ่ หรอื ผเู ปน ที่รักหรอื เคารพนบั ถือ มินหมอ เขมา ดาํ ทีต่ ิดกน หมอ มี่ เสียงดัง มึนตงึ แสดงอาการออกจะโกรธๆ มขุ สวนของตกึ หรอื เรือนทยี่ ืน่ ออกมาจากสว นใหญ อยูด านหนา มทุ ิตาจิต จิตพลอยยนิ ดใี นลาภยศสรรเสริญสขุ ของผูอ่นื มสุ า การกลาวเท็จ การพดู เท็จ มสุ าวาท การพูดเท็จ, การพดู ปด, การโกหก เม็ดโลหิต เซลลซ ่งึ อยใู นกระแสเลือด มี 2 ชนดิ คอื เมด็ เลือดแดง ซ่งึ มีหนาทน่ี าํ ออกซเิ จน ไปสเู ซลลในสว นตา งๆ ของรางกาย และเม็ดเลือดขาวซงึ่ มีหนาที่เกย่ี วกับการ เมรุ ปอ งกันและทาํ ลายเชอ้ื โรคในรา งกาย เมรไุ กร ภูเขา เมิน ภูเขา เมยี ง ไมส นใจไยดี เมี่ยง มอง เมือหนา ของกนิ ทีใ่ ชใบไมห อกิน มหี ลายชนิด เรยี กช่อื ตางๆ กนั เชน เม่ียงคํา เมี่ยงลาว โมหนั ธ ตอไปขา งหนา ความมืดมนดว ยความหลง คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 6 Page 36  

คําศพั ท คาํ แปล โมหาคติ ไมตรจี ติ ความลําเอยี งเพราะโมหะ ความหวงั ด,ี ความปราถนาดี หมวดอักษร ย คําศพั ท คําแปล ยมบาล เจา พนกั งานเมอื งนรก มีหนา ทล่ี งโทษทรมานคนที่ตกนรกตามคาํ สั่งของพญายม ยรรยง งามสงา , กลา หาญ ยล มองดู ยวดยาน เครอ่ื งขบั ขี่มีรถและเรือเปน ตน ยวน ทาํ ใหกําเรบิ รกั ยอ งเยื้อง เดนิ เบา ๆ อยางไวทา ยอมจํานน ยอมแพเพราะไมม ที างสู ยอ หยอน ออนกาํ ลัง, ออ นแอ, ถดถอย ยกั คิว้ หลิ่วตา ทําอาการยัว่ เยา โดยยกั คิ้วและหลิ่วตาเปน ตน ยงั ไมแจง ยังไมร แู นชดั ยาเขา ปรอท ยาที่ประสมสารปรอทซึ่งอาจทาํ ใหเ ปน พิษได ยาน แถบหรอื บริเวณทตี่ าํ แหนงนน้ั ยาม ชือ่ สวนแหง วนั ยามหนึ่งมี 3 ชั่วโมง รวมวนั หนึ่งมี 8 ยาม ยามวกิ าล กลางคนื ยําเกรง เกรงดว ยความเคารพนับถือ ยา่ํ อก ตอี ก แสดงอาการทกุ ขโศก ยืดเยือ้ กินเวลา, ไมจ บสิ้น ยุทธวธิ ี วธิ แี ละอบุ ายในการรบ ยบุ ล ขอความเร่อื งราว เย็นยะเยอื ก อาการที่รสู กึ หนาวสะทานถึงขวั้ หวั ใจ, เย็นเยือก หรือ เยอื กเย็น กว็ า เยือกเย็น มีจิตใจหนักแนนสุขมุ ไมฉ นุ เฉยี ว แยงมังกร แยง คอื ลายกานแยง เปนลายชนิดหนงึ่ มรี ปู โครงเปนตาขา ย มีลายดอกและ กานเฉยี งทแยงกนั แยง มังกร คอื ลายกา นแยงท่ีมีลวดลายเปนรูปมังกร คําศัพทภาษาไทยระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 6 Page 37  

คําศพั ท คาํ แปล แยบคาย เขาที่ หมวดอกั ษร ร คําศพั ท คาํ แปล รจนา ตกแตง งาม รวนเร มนี ิสยั ไมแนนอนไมม ่ันคง, เอาแนเ อานอนไมได รวบยอด รวมเบด็ เสร็จ, รวม, รวมทง้ั สน้ิ รวมสมยั ระยะเวลาเดียวกนั รสนิยม ความพอใจ, ความชอบ รหฐุ าน รโหฐาน หมายถงึ ทส่ี งัด ทล่ี บั รโหฐาน ท่เี ฉพาะสว นตวั รอ งเกน รองตะโกนดัง ๆ รอ งสง รอ งเพลงใหเ ครอื่ งดนตรีรบั ระกําใจ ทกุ ขใ จ ระคนกนั ปน หรือผสมใหเ ขากนั คละกนั เปนกลุม เปนพวก ระบอบ ระบบที่กษัตรยิ มอี ํานาจสูงสดุ ในการปกครอง ผูใดจะฝา ฝน มิได สมบรู ณาญาสิทธริ าชย ระบลิ เลา ลือ แพรหลาย รกู นั ทวั่ ระยา เคร่ืองหอ ย, พวง ระโยงระยาง สายโยงเปนแถว ระเรงิ บนั เทิงใจจนเกินไป ระลอก คราว, งวด ระวางโทษ การลงโทษ ระหง สงางาม รงั รอง ซ่ึงเจริญรงุ เรอื ง, มั่งค่ัง รญั จวน กระวนกระวายใจดวยความกระสนั ถงึ รัฐบาล องคกรทใี่ ชอ ํานาจบรหิ ารในการปกครองประเทศ รัฐมนตรี ผูเปนสมาชิกของคณะรฐั มนตรี รบั ผดิ ชอบรว มกับคณะรฐั มนตรใี นนโยบาย ทัว่ ไปของรฐั บาลในการบรหิ ารราชการแผนดิน คาํ ศัพทภาษาไทยระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 6 Page 38  

คําศัพท คาํ แปล รฐั วสิ าหกจิ องคก ารของรัฐบาลหรือหนว ยงานธรุ กิจซึง่ รฐั เปนเจา ของ หรอื กจิ การของรัฐ หรอื บริษัทและหางหนุ สวนนิตบิ คุ คลท่ีสว นราชการองคก ารของรัฐบาลหรอื รัดกุม หนวยงานธรุ กจิ ของรฐั มที ุนรวมอยดู ว ยเกนิ กวารอ ยละ 50 รัต รอบคอบ, ละเอียด ราชะ ยอ มสี ราชาศัพท ยันต ราวี ถอยคําสําหรบั พระเจา แผน ดนิ ราศี รบกวน หรือเบียดเบยี น โดยใชก ําลังรงั แก รปิ ุ ความสงา, ลกั ษณะความดีงามของคน รุจเิ รข ขาศึก ปรปก ษ คนโกง รูปธรรม มีลายงาม, มีลายสกุ ใส ส่ิงที่รูไดท างตา หู จมกู ลิน้ กาย อนั ไดแ ก รปู เสียง กลิ่น รส และสง่ิ ที่สามารถ เรณู สมั ผัสไดดวยกาย เรอรา นวลละอองเกสรดอกไม เรา อารมณ ซมุ ซา ม, เซอ ซา, เซอะซะ, รุมราม ลา สมัย เริม กระตนุ จติ ใจใหคกึ คัก หรอื กระตอื รือรน เรยี กรอ ง ไชชอน ดนุ เรยี บเรียง แสดงความตอ งการใหใ หหรอื ใหกระทํา เรย่ี ไร เขยี นโดยอาศยั ขอมูลตางๆ เรือตน ขอรองใหชวยออกเงินตามความสมคั รใจ เรือนกระจก เรือของพระเจา แผนดิน ปรากฏการณท ค่ี วามรอนภายในโลก ถูกกบั ดับความรอ นหรอื กาซเรือนกระจก เร้อื รัง เกก็ กกั เอาไวไ มใ หส ะทอนหรอื แผออกสภู ายนอกโลก แรงงานสัมพนั ธ ทีไ่ มห ายจากอาการ (ของโรค) เปนเวลานาน ความสัมพนั ธใ นดา นการจางงานระหวางนายจา งกบั ลูกจา งในเร่อื งตา งๆ เก่ยี วกบั แรงจูงใจ การวาจา งทาํ งาน รวมทัง้ สาเหตุตา งๆ ท่มี ีผลตอสัมพันธภาพระหวา งนายจา งกบั โรคกลัวนํา้ ลกู จาง ตลอดจนการรวมเจรจาตอ รอง และการสรางความเขา ใจอนั ดีตอ กนั เพือ่ การอยูรวมกนั ตอ ไป สง่ิ ที่เปน เหตุกระตนุ ใหเ กดิ การกระทาํ โรคพษิ สนุ ขั บา คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 6 Page 39  

คําศพั ท คาํ แปล โรคจติ โรคทางจติ ใจทีม่ คี วามผดิ ปกติของความรสู กึ ความคดิ อารมณ หรอื พฤตกิ รรม อยา งแรงถึงขนาดคุมสติไมอ ยู โรคประสาท โรคทีม่ คี วามผิดปกตขิ องจติ ใจ โดยทีไ่ มพ บมีความผิดปกติของเน้อื สมองหรอื เสนประสาท คนไขอ าจมีอาการแสดงออกเปน ความกังวล เชน กลมุ ใจ หงดุ หงดิ โรงภาพยนตร สถานท่ีเฉพาะสาํ หรับฉายภาพยนตร หมวดอักษร ฤ คําศพั ท คําแปล ฤกษ คราว หรอื เวลาทก่ี ําหนด หรอื คาดวาจะใหผ ล หมวดอกั ษร ล คาํ ศัพท คาํ แปล ลงดว ยใจ ยอมปลงใจ ยอมเขา ขาง ลดตน เก่ียวของกบั ผทู อี่ ยใู นฐานะตา่ํ กวา ลดเล้ียว ออมไปออมมา, คดไปคดมา ลดหลนั่ ตาํ่ เปน ช้ันๆ, ตามลาํ ดบั ชั้น ลมกรรมชวาต ลมเกดิ แตก รรม หมายถึงลมทเ่ี กดิ ในเวลาท่ีมารดาจะคลอดบุตร ลมลกุ คลกุ คลาน ซวดเซ, ตั้งตัวไมตดิ , กระเสอื กกระสน ลหุ เบา ลอนแกน สน้ิ เนอื้ ประดาตัว ไมม ีติดตัว ลอ ลวง ใชอบุ ายทุจรติ ใหหลงเช่ือในส่งิ ทเี่ ปน เท็จ ละครราํ ละครรายราํ ไปตามคนพากย การรอ งนนั้ มีคนรองตา งหาก ตวั ละครจะราํ ไปตาม บทเพลงแตจะพดู เองเมอื่ ถงึ บทเจรจา ละตนิ ภาษาทใี่ ชในกรงุ โรมและอาณาจกั รโรมนั โบราณ ละเมดิ ฝาฝน จารตี ประเพณี หรอื กฎหมายท่มี ีบญั ญัติไว ละโมบ อยากไดไมร ูจกั พอ ละลาละลงั หวงหนาหว งหลงั ดวยอาการลกุ ลลี้ ุกลน ละแวกบาน เขตบรเิ วณรอบๆ บาน คาํ ศัพทภ าษาไทยระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 6 Page 40  

คําศัพท คําแปล ละหมาด พธิ กี รรมเกย่ี วกบั การนมสั การในศาสนาอสิ ลาม เพอ่ื ชาํ ระจิตใจใหบ รสิ ทุ ธ์ิ ปฏบิ ตั ิวนั ละ 5 เวลา ละหอ ย รูสกึ สะเทือนใจ ชวนใหโศกเศรา เพราะคิดถงึ หรอื ผิดหวงั ละออ งาม ละเอียดลออ ถถ่ี วน, รอบคอบ ลักษณสาสน จดหมาย ลางราย เครือ่ งหมายทป่ี รากฏใหเหน็ อันบอกผลรา ย ลายพระหัตถ ลายมือ ลายลักษณอ กั ษร ขอความอันเขยี นเปนหนังสอื ลาวณั ย ความงาม, ความนารัก ลาสกิ ขา ลาจากเพศสมณะ, ลาสึกจากพระเปน ฆราวาส ลําเคญ็ ลําบาก, ยากแคน , ลําบากยากเข็ญ ลําเนาไพร ปา , ราวปา, แนวปา ลําพอง ฮึกหา ว ลํายอง งาม ลิขสิทธิ์ สทิ ธิแตผ ูเ ดยี วท่กี ฎหมายรบั รองใหผ สู รางสรรคก ระทําการใดๆ เกี่ยวกบั งานทต่ี น ไดท าํ ข้ึน อันไดแ ก สิทธิท่จี ะทาํ ซาํ้ ดัดแปลง หรอื นาํ ออกโฆษณา ไมวาใน ลิขติ รูปลักษณะอยา งใดหรอื วธิ ีใด รวมทง้ั อนญุ าตใหผอู ่ืนนาํ งานน้นั ไปทาํ เชน วานน้ั ลนิ ลาศ ดวย ลือชา เขียน, นิยมใชเ ฉพาะจดหมายของพระสงฆ ลุ ลลี าศไป หรอื เยือ้ งกรายดวยทที า อนั งาม ลุกลาม โดงดงั , ระบอื , เล่ืองช่อื , เลื่องลือ, ลอื เลือ่ ง, ลอื นาม, ลือชื่อ ลุมลึก ถงึ ลู แผกวา งออกไปโดยเร็ว ลูทาง ทม่ี ีความสุขุมละเอยี ดออนหรือมีปญญารอบคอบ ลบู ไล อาการทเี่ อนราบเปนแนวไป เพราะมีสิง่ อื่นบังคับใหเปนเชน นั้น เลา รองรอยหรือแนวทางที่นาํ ใหด าํ เนินการตา งๆ ตอไปยังจุดหมายได เลอื กเฟน สัมผสั อยางเบาๆ รปู ความ ขอ ความ เคา คัดเอาแตทีด่ ,ี คดั เอาแตท่ีตอ งการ คําศัพทภาษาไทยระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 6 Page 41  

คําศัพท คําแปล เลือดรอ น โกรธงา ย, โมโหงา ย เลื่อนเปอ น อาการทพี่ ดู จาเลอะเทอะ โลกทศั น ทศั นะที่มองโลก โลกาภิวัตน สังคมโลกในปจจบุ นั ท่มี กี ารรวมตวั เปน หนึง่ เดยี วกนั เพม่ิ มากข้นึ เพราะผลสืบ เน่ืองมาจากความกาวหนาหรอื การเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีดา นการ โลกุตร ตดิ ตอ สอ่ื สาร โลกุตรธรรม ธรรมทีพ่ นวสิ ัยของโลก, ธรรมอันประเสรฐิ โลเล ธรรมทพี่ นวิสัยของโลก, ธรรมอันประเสรฐิ มนี สิ ยั ไมแ นนอนไมมน่ั คง, เอาแนเอานอนไมไ ด หมวดอักษร ว คําศัพท คําแปล วงจรชีวิต การดาํ เนนิ ชวี ติ ตงั้ แตจดุ กําเนดิ จนถึงจดุ ส้ินสุด วงดนตรี กลุมคนทปี่ ระกอบดว ยคนท่เี ลน ดนตรชี นิดตางๆ เพอื่ บรรเลงประสานกนั เปน เพลง วจี ถอยคํา คาํ พูด วณิพก คนขอทาน วร ดี ,ประเสรฐิ วคั ซนี ผลติ ผลท่ปี ระกอบดวยเชื้อไวรสั หรอื แบคทีเรยี ทถ่ี ูกฆาหรอื ทาํ ใหมีฤทธ์ิออนแรง จนไมเ ปน อันตราย สาํ หรบั ฉีดเขา สูรา งกายเพื่อกระตุน ใหเ กดิ ภมู ิคมุ กนั โรคซง่ึ วญั จโนบาย เกิดจากเชอื้ นนั้ ๆ วฒั นธรรม อุบายหลอกลวง วัตถา สิ่งที่ทาํ ใหเจรญิ งอกงามแกห มูค ณะ, วถิ ชี ีวติ ของหมคู ณะ วัลลภ เสอ้ื ผา เครือ่ งนงุ หม วลั ลภชน คนโปรด คนสนทิ วัวเคยขามา เคยขี่ คนสนิท วากย คนุ เคยกนั มาอยางดี รูท กี ัน เขาใจในทาํ นองของกันและกนั ถอ ยคาํ คาํ พดู คําศพั ทภาษาไทยระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 6 Page 42  

คําศพั ท คาํ แปล วางบท ถกู กาํ หนดใหก ระทําตามที่กาํ หนด วาท ถอ ยคํา คําพดู วาทศิลป ศิลปะการใชถ อ ยคําสาํ นวนโวหารใหป ระทบั ใจ วาร วนั หนงึ่ ๆ ในสปั ดาห วารสาร หนงั สอื ทอ่ี อกเปนคราวๆ วาสุกรี เรือทีม่ โี ขนเปนรปู นาค วกิ ฤต ถงึ ข้ันอันตราย, ในระยะหวั เลย้ี วหวั ตอขั้นแตกหกั วิเคราะห พิจารณาอยา งละเอียด วญิ ชู น ผคู นทีเ่ ปน นกั ปราชญหรอื ผูรู วิตก หนักใจ, วุนวายใจ, กังวล, เปน ทกุ ข, วติ กกงั วล, กลุมใจ วิตกกงั วล ไมสบายใจ, กงั วล, วนุ วายใจ วถิ ี แนว, แนวทาง วถิ ที าง วธิ ปี ฏบิ ตั ิท่วี างไว วิถีแหงชวี ติ ความเปนไปแหงชวี ติ วทิ ยากร ผทู รงความรคู วามสามารถในศลิ ปวทิ ยาของตน วทิ ยาศาสตร ความรูท่ไี ดโ ดยการสงั เกตและคนควา จากการประจกั ษท างธรรมชาติ แลวจดั เขา เปนระเบยี บ วินจิ ฉยั พิจารณาเพอื่ ตดั สิน วบิ ตั ิ ความฉบิ หาย, ความลม จม, ความหายนะ วิปโยค พลดั พราก, กระจัดกระจาย, จากกนั , แยก วิปรติ ผดิ ปกติ วิปสสนา การฝก อบรมปญญาใหเกดิ ความเหน็ แจง ในสังขารท้งั หลายวาเปน ของไมเท่ยี ง เปน ทกุ ข เปนอนตั ตา วิพากษวจิ ารณ ใหค าํ ตดั สินวามีขอ ดอี ยางไร หรอื มขี อขาดตกบกพรองอยา งไรบาง วิภษู า เคร่อื งประดบั , เครือ่ งแตง, เครือ่ งตกแตง วิมล ทีป่ ราศจากมลทิน, ท่ีไมมีตําหนิ วโิ ยค การจากไป, การพลดั พราก, ความรา ง, ความหา งเหนิ วริ ธุ ผดิ ปกติ วลิ าส ทีง่ ามอยา งมีเสนห ววิ าหะ แตง งาน คาํ ศัพทภ าษาไทยระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 6 Page 43  

คําศัพท คาํ แปล วเิ วกวังเวง ทมี่ บี รรยากาศเงยี บสงัดหรือท่ีสงบเยือกเยน็ วิเศษ ทดี่ เี ลศิ หรือท่ียอดเยย่ี ม วหิ ค นก, ปก ษ,ี ปกษา เวท ความรู ความรทู างศาสนา เวไนย ผคู วรแนะนาํ ส่ังสอน, ผพู ึงดดั ไดสอนได เวรา เวรกรรม เวฬุ ไมไ ผ เวงิ้ วา ง ท่โี ลงกวางทาํ ใหวา เหวใจ โวหาร ชั้นเชงิ หรือสาํ นวนแตงหนังสือหรอื พดู , ถอ ยคาํ ทเ่ี ลนเปน สาํ บดั สาํ นวน ไวพจน คําท่ีเขยี นตางกนั แตม คี วามหมายเหมือนกนั หรอื ใกลเคยี งกันมาก คําศัพท หมวดอกั ษร ศ ศตวรรษ ศรีเสาวภาคย คาํ แปล ศศิ ลกั ษณนามทบ่ี อกจํานวนแตล ะรอบ 100 ป ศักดา สวยงาม ศพั ทบ ญั ญตั ิ ดวงจนั ทร, พระจันทร ศาสดา อํานาจ, แรง, พลงั , ศกั ด์ิ ศลิ ปศาสตร คาํ ทีก่ าํ หนดใหใ ชจ ากคาํ ทแ่ี ปลมาจากภาษาอน่ื โศกนาฏกรรม อาจารยผอู บรมสงั่ สอน โดยเฉพาะผตู ้ังลัทธิศาสนา โศกศัลย วิชาตางๆ ซ่ึงไมใชวชิ าทางเทคนคิ หรือทางอาชพี โศกา เรอื่ งราวหรอื เหตุการณท ว่ั ๆ ไปท่เี ปน เร่ืองเศราสลดใจ โศภติ เปนทุกขเดอื ดรอน ไศล รอ งไห ศตวรรษ งาม, ด,ี สวย เขาหนิ , หิน ลกั ษณนามทบ่ี อกจํานวนแตล ะรอบ 100 ป คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 6 Page 44  

หมวดอกั ษร ส คาํ ศัพท คาํ แปล สกัด เคน แยกเอาออกมา สงกา สงสัย, เคลอื บแคลง, ขอ งใจ, กังขา, สนเทห  สงทกุ ข เขาสวม สงา ผา เผย ดูนา นบั ถอื ยําเกรง สดบั ตั้งใจฟง สดดุ ี กลาวแซซ อง, ยกยอ ง, เชดิ ช,ู สรรเสริญ, ชมเชย สถานพยาบาล สถานรักษาพยาบาลขนาดเล็ก สถาบนั ส่งิ ซ่งึ คนในสว นรวม คอื สงั คม จัดตั้งใหมขี ้ึนเพราะเห็นประโยชนว ามคี วาม ตอ งการ และจาํ เปน แกว ิถีชีวติ ของตน โดยมากต้งั ขึ้นโดยพระราชบญั ญัติ สถลุ หยาบ, ตาํ่ ชา , เลวทราม สนทนา พดู กันไปมาดว ยเร่อื งตางๆ สภาพแวดลอม สิ่งตางๆ ท่อี ยโู ดยรอบตวั มนษุ ย ท้ังทมี่ นษุ ยประดษิ ฐขน้ึ และทเ่ี กดิ ขน้ึ ตาม ธรรมชาติ สมดลุ เสมอกัน, เทา กัน. สมเพช สลดใจอยางมาก สมโภช เฉลมิ ฉลอง สมมติฐาน ขอ สมมุติที่ใชเ ปน มูลฐานแหง การหาเหตุผล การทดลอง หรอื การวิจยั สมรรถภาพ คณุ ลกั ษณะทที่ ําใหทาํ งานไดดี สมคั รภาพ ความสมัครสมานสามคั คี สมาคม แหลง หรอื ทีป่ ระชุมของบคุ คลหลายคนมารวมกันดว ยมจี ดุ ประสงคเ พอ่ื ประโยชนบางประการ สโมสร ท่ีสาํ หรับรวมประชุมคบหากัน สรรพ ทง้ั หมด ท้งั ปวง สรรพสิ่ง สิง่ ท้ังหมดทั้งปวง สรรเสริญ กลา วคาํ ยกยอง เชิดชู หรือ เทิดทูน, กลาวคาํ ชมดว ยความนยิ มพอใจ หรอื เยินยอ ในคณุ ความดี สราง ทเุ ลาอาการลง สฤษฎ การทาํ การสรา ง คําศัพทภ าษาไทยระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 6 Page 45  

คําศัพท คําแปล สลอน เห็นเดน สะพรงั่ สละสลวย สวยงาม, เปนระเบยี บ สว นกศุ ล สว นของสิ่งทีด่ สี ่งิ ทช่ี อบ สวมหนากาก เสแสรง เขาหากัน, ทําเปนดใี สกัน สวรรคต สนิ้ พระชนม สหกรณ งานรว มมือกนั เชนทางธรุ กจิ หรอื อตุ สาหกรรม เพ่อื หากําไรหรอื เพ่อื ประโยชน อื่นๆ ในงานนน้ั ๆ รว มกนั , (กฎ) คณะบคุ คลซ่งึ รว มกนั ดาํ เนินกจิ การ โดยมี สหกรณ วัตถุประสงคเพ่อื ชว ยเหลอื ซงึ่ กันและกัน และไดจ ดทะเบยี นเปนสหกรณต าม สหภาพ กฎหมายวา ดว ยสหกรณ หมเู หลา สอดแนม การรวมตวั ขององคการตั้งแต 2 องคการข้ึนไป เพือ่ ทํากิจการท่ัวไปหรอื กิจการ สะเดาะกลอน เฉพาะอยางตามวตั ถุประสงคขององคการท่เี ขา รวมกันนน้ั สะพรัง่ ลอบเขาไปสบื ความลบั สะสวย ทาํ ใหกลอนประตหู ลุดออกดว ยคาถาอาคม สะหนอ ย มมี ากมายทวั่ ไป สกั การะ สวย, งาม สักการะบชู า สักหนอ ย สกั เล็กนอ ย สกั วา บชู าดวยส่งิ หรือเครอ่ื งอันพึงบูชา บูชา, สักการะ, บวงสรวง สั่งการ ชอ่ื กลอนแบบหน่ึง บทหนง่ึ มี 4 คํากลอน ข้ึนตน ดว ยคําสักวา และลงทา ยดว ยคาํ สังขาร วา เอย สงั เขป สง่ั , ออกคําสัง่ สงั เคราะห ส่งิ ท่ปี ระกอบและปรุงแตง ขน้ึ เปน รางกายและจิตใจรวมกัน สงั เคราะหแ สง ยอ, สรุป, รวบรดั ที่สรางขึ้นโดยกรรมวิธที างเคมี สังวาส กระบวนการทพี่ ชื สรางคารโบไฮเดรตโดยรวมกับคารบ อนไดออกไซดแ ละน้ํา สังเวช เมือ่ มแี สงกับคลอโรฟลล การรว มประเวณ,ี การรวมเพศ รสู ึกเศราสลดหดหตู อ ผูทีไ่ ดร บั ทุกขเวทนา หรือตองตายไป หรอื ตอ ผทู ต่ี นเคารพ นบั ถือซ่งึ ประพฤตติ นไมเ หมาะสมเปนตน คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดับชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 6 Page 46  

คาํ ศัพท คาํ แปล สังสรรค คบหาสมาคม, พบปะ สงั สารวัฏ การเวยี นวายตายเกดิ ซ่ึงเปนความเชอ่ื วาชวี ิตเม่อื ตายแลว จะเกดิ อกี ในรางใหม ตอไป สัจธรรม ความจรงิ สญั จร ผา นไปมา สญั ชาตญาณ ความรทู ม่ี ีมาแตกาํ เนดิ ของคนและสัตว ทาํ ใหมีความรูสกึ และกระทาํ ไดเ องโดย ไมต อ งมใี ครสั่งสอน สญั ญา ขอ ตกลง, คํามั่น, คาํ สญั ญา สญั ลักษณ สงิ่ ทก่ี าํ หนดนยิ มกันขน้ึ เพอ่ื ใชใ นหมายความแทนอกี สงิ่ หนึ่ง สดั มาตรตวงโบราณ หนง่ึ สดั มี 25 ทะนาน แสนสัดหมายถงึ จาํ นวนมาก สตั วเลือ้ ยคลาน สัตวจําพวกหนึง่ ทผี่ วิ หนังมีเกลด็ ปกคลุมท่ัวไป หายใจดว ยปอด ออกไขบ นบก ลูกออนทฟ่ี ก ออกจากไขม รี ปู รา งเหมือนพอ แม สนั ดาน อปุ นิสัยทมี่ ีมาแตก าํ เนดิ มกั ใชไปในทางไมส ูจ ะดี สนั ดาป ความรอ นทเ่ี กดิ จากการเผาไหม สันติวิธี วิธที ไ่ี มตอ งใชก าํ ลงั สั่นเทา อาการสั่นรวั ๆ อยา งคนเปนไข สัพยอก เลน หรือลออยา งไมไดค ิดจริงจงั สัมผสั นอก คําคลอ งจองแหง คําประพนั ธท ี่อยูต างวรรคกนั ตามขอ บงั คับ สมั ผัสใน คําคลองจองทอ่ี ยูในวรรค สมั ผสั สระ คําคลอ งจองแหงคําประพันธทม่ี สี ระและมาตราสะกดอยา งเดยี วกัน สัมผัสอกั ษร คาํ คลอ งจองท่ีใชอักษรตวั เดยี วกนั หรอื ตัวอกั ษรประเภทเดียวกนั คอื มเี สียง เหมือนกนั แตร ูปไมเหมอื นกนั สัมพนั ธมติ ร ประเทศท่ตี กลงรว มมือและชว ยเหลอื กันและกนั สมั มาคารวะ การมคี วามเคารพนอบนอมตอ ผูอนื่ สัมมาชพี การเลย้ี งชีวิตในทางทชี่ อบทถ่ี กู ตอ ง สัมมาทฐิ ิ ความเหน็ ชอบตามทาํ นองคลองธรรม สัมฤทธผิ ล เปนผลสําเร็จ สาธารณชน ประชาชนทั่วไป สาธชุ น คนท่มี ีคุณงามความดี (ใชในการยกยอง) สาบาน กลาวคําปฏญิ าณโดยอางสิง่ ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์เปนพยาน คําศพั ทภาษาไทยระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 6 Page 47  

คําศัพท คาํ แปล สามเกลอ เคร่ืองมือสําหรับตอกกระทงุ เสาเขม็ ลักษณะเปน ไมท อนกลมมีที่จบั สาํ หรับยก 3 ท่ี สามัญชน คนที่ไมใ ชเจา นาย สามัญสาํ นกึ ความรสู ึกธรรมดาๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากประสบการณ ไมใ ชเกดิ จากการศึกษาเลาเรียน โดยตรง สามานย ชว่ั ชา, ตา่ํ ทราม, เลวทราม, เลวทรามตํา่ ชา สามิภักดิ์ ยอมตนหรอื มอบตนอยใู ตอํานาจดว ยความเตม็ ใจ สายใย ความผูกพันภายในครอบครวั หรอื กลุมบุคคลเปนตน สารคดี เร่อื งที่เขียนขน้ึ จากเคาความจริง ไมใ ชจากจินตนาการ สารทศิ ทว่ั ทุกทิศ, ทกุ ทศิ ทุกทาง สารพัน สารพัด สารสนเทศ การแสดงหรอื ชแ้ี จงขา วสารขอ มลู ตา งๆ สาระแน แสไมเ ขา เร่อื ง, สูรไู มเ ขาเร่อื ง สารานกุ รม หนงั สอื ท่ีรวบรวมความรทู ุกแขนงหรือเฉพาะแขนงใดแขนงหนง่ึ มกั เรยี ง ตามลาํ ดับอักษร สาวก ศิษยของศาสดา สาวแส ผูห ญงิ ทอ่ี ยใู นชว งวยั รนุ สาสน จดหมายของประมุขของประเทศ หรอื ประมขุ สงฆท ีใ่ ชใ นการเจรญิ สมั พันธไมตรีระหวางประเทศ สาํ่ หมเู หลา พวก สําแดง ทาํ ใหเหน็ ปรากฏ, ทําใหเหน็ สําทบั พูดยา้ํ หรือพูดซํ้าๆ เพ่อื เนน ใหหนกั แนน มนั่ คง สํารวย ทร่ี กั สวยรักงามเปนพเิ ศษ สาํ เรงิ รสู ึกสนกุ สนานเบิกบานใจ สาํ สอน ทีป่ ะปนโดยไมเ ลอื ก เชน ในการคบคาสมาคมหรือในการซอ งเสพเปนตน สาํ อาง ที่รกั สวยรกั งาม, ทีใ่ หความสาํ คัญกบั รปู รางหนาตา สกิ ขสภา หอ งเรียน สง่ิ แวดลอ ม สงิ่ ตา งๆ ทม่ี ลี ักษณะทางกายภาพและชีวภาพทอ่ี ยูรอบตัวมนุษยซ ่ึงเกดิ ขนึ้ โดย ธรรมชาติและส่ิงทมี่ นษุ ยไดท าํ ขนึ้ สง่ิ เสพตดิ ยาหรอื สารเคมีซงึ่ เม่ือเสพหรอื ฉีดเขาสรู า งกายตดิ ตอกนั ช่วั ระยะเวลาหน่งึ ก็จะตดิ คาํ ศพั ทภาษาไทยระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 6 Page 48  

คําศัพท คําแปล กอ ใหเ กิดพษิ เรอื้ รงั ทาํ ใหร างกายและจติ ใจเสื่อมโทรม สงิ หนาท พระราชดํารสั ของพระมหากษัตรยิ อ นั เปน ทนี่ าเกรงขาม สน้ิ ชีพิตักษยั ตาย สนิ ธุ แมนาํ้ น้ํา สบื ตระกลู สืบตอวงศต ระกลู สบื เสาะ พยายามเท่ียวคน หาเพ่อื ใหไ ดมา สื่อมวลชน สอื่ กลางทนี่ ําขา วและความรไู ปสูมหาชน เชนหนงั สอื พมิ พ วทิ ยุ โทรทศั น และ ภาพยนตร สือ่ สารมวลชน การติดตอส่ือสารสูมหาชนโดยอาศัยเคร่อื งมอื หรอื ส่อื กลางตางๆ เชน วิทยุ โทรทัศน หนงั สอื พิมพ สุขภาพ ภาวะทปี่ ราศจากโรคภัยไขเ จบ็ สุขภาพจติ ภาวะของจิตใจ สุขาลยั ท่ที ่ีมีความสุข สคุ ติ ภมู ิทไ่ี ปเกิดมคี วามสุขความสบาย สจุ รติ ซอื่ สตั ย, ซ่อื ตรง สนุ ทรพจน คําพดู ทป่ี ระธานหรอื บุคคลสําคัญเปน ตนกลา วในพธิ กี ารหรอื ในโอกาสสําคญั ตางๆ สนุ ทรียะ ทเี่ ก่ียวกับความนยิ มความงาม สภุ าษิต ถอยคําหรอื ขอความทีก่ ลาวสบื ตอกันมาชา นานแลว มคี วามหมายเปน คตสิ อนใจ สรุ เสยี ง เสยี งกอ งกงั วาน หมายความวา เสียงของผมู ีอํานาจ สุราลยั ท่อี ยูของเทวดา สรุ ิยุปราคา ปรากฏการณท ่เี กิดข้นึ เมื่อดวงอาทิตย ดวงจนั ทร และโลก โคจรมาอยูในแนว เดียวกัน ดวงจนั ทรจ งึ บังแสงอาทิตยท ่สี องมายงั โลก เปนเหตุใหเ หน็ ดวงอาทิตย สูงตระหงา น มืดเปนบางสวนหรอื ทั้งหมด เสกสรร ที่สูงเดน เปน สงา เสถียรภาพ เลอื กทาํ หรอื พดู เอาเอง เสน ความมัน่ คง, ความคงตวั เสน ประสาท ชอื่ มาตราวดั 20 วา เปน 1 เสน สว นของรา งกายทมี่ ลี กั ษณะคลายเสนใย มหี นาทน่ี ําคาํ สง่ั และความรูสกึ ไปสู หรอื ออกจากสมอง หรอื อวัยวะสว นอน่ื ของรางกาย คาํ ศัพทภาษาไทยระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 49  

คาํ ศัพท คาํ แปล เสนหา ความรกั , ความชอบพอ เสนยี ด สง่ิ ท่ีไมเ ปน สริ มิ งคล เสภา ช่ือกลอนชนิดหนง่ึ ใชข บั เปน เร่อื งยาวดว ยจังหวะและดนตรอี ยา งหนึ่ง เสมียน เจาหนา ทเี่ กยี่ วกบั หนังสอื เสรภี าพ มอี ิสระ เสวย กิน เสา ไมกระทงุ จังหวะ เสาเขม็ ไมท ่เี สย้ี มใหแหลมหรือวัตถอุ ่ืนทีม่ ลี กั ษณะเชน นนั้ สําหรบั ฝงเปนรากสง่ิ กอสรา ง กนั ทรุด เสาวน ฟง เสาวภาคย ความเจริญ โชคลาภ งามยง่ิ เสาวภาพ สุภาพ เรียบรอย เสีย่ ง มีความนา จะเปน, มคี วามเปน ไปได เสียวไส รสู กึ หวาดเมอื่ เห็นสง่ิ ทีน่ า กลวั อาจเกิดอนั ตรายได เสอื่ มศรทั ธา ไมเ ชื่อถอื , ไมมีศรัทธา แสงเงนิ แสงทอง แสงที่ปรากฏบนขอบฟา ทางทิศตะวนั ออกเม่ือเวลาจะรงุ สวาง เมื่อแรกเปน สขี าว เรียกวา แสงเงนิ แลวแปรเปน สแี ดง เรยี กวา แสงทอง แสงสี แสงอาทติ ย แสตมป ดวงตราที่ปดเปนคาสงทางไปรษณีย แสนยากร หมูท หาร แสลง ไมถ กู กัน แสวงหา เที่ยวหา, คน หา, เสาะหา โสด กระทงความสว นหน่งึ โสตประสาท ประสาททใ่ี ชฟ ง เสียง โสภณ งาม โสมนสั ความสขุ ใจ ความเบิกบาน คาํ ศพั ทภาษาไทยระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 6 Page 50  

หมวดอกั ษร ห คําศัพท คาํ แปล หนวง ดงึ ไวแ ตน อ ยๆ, เหนย่ี วไว, ทาํ ใหช า หนักหนว ง เอาจริงเอาจัง, รนุ แรง หนา จว่ั เครือ่ งบนแหงเรอื นทีย่ ดึ ดานสกดั หลังคา สําหรับกั้นลมและแดดฝน มรี ปู เปน สามเหลีย่ ม หมทา ยเยิ่น หม คอื ขยม ในทีน่ ห้ี มายถงึ ทา ยเรือไหวข้นึ ลงเปน จงั หวะจากการออกแรงพาย อยา งพรอ มเพรียงของฝพาย หมนไหม มที ุกขร อ นจนเศราหมอง หมวกนริ ภยั หมวกกันนอ็ ก หมวดหมู พวก, หม,ู หมวด หมกั หมม ซบั ซอนกนดว ยการทคี่ า งอยมู าก, ปนคละกันไมเ ปน ระเบยี บ หมั่นไส ชงั น้ําหนา หมายตา ดไู วเปน ที่ตอ งประสงค หม่ํา กิน, รบั ประทาน หยาบโลน อยา งไมส ภุ าพ, อยา งไมเ รยี บรอย, อยางทะลงึ่ ตึงตงั หยุดยัง้ หยดุ , ยบั ย้ัง, สกดั กน้ั , สกัด, ระงบั , หา ม หลบล้ี หนภี ยั , หลบภยั หลบหลีก ไปใหพ น ส่ิงที่จะปะทะ และสง่ิ ท่ีกดี ขวาง หลักขาดดี ความมั่นคง หวนั่ อุรา หวาดหวัน่ หว่ันใจ หวาดผวา นึกระแวงเหตรุ ายอยูต ลอดเวลา หวาดระแวง หวนั่ เกรงสงสัย หววิ มีความรสู กึ ที่ดูเหมือนใจจะขาดไป, หวาดอยา งใจหาย หอน เคย หอมตลบ หอมหวน, หอมหวาน, หอมกรุน หอมหืน่ ห่นื หมายถงึ ปรารถนาอยา งแรงกลา หอมห่นื หมายถงึ กล่ินหอมแรง หอสมุด หอ งหรืออาคารท่มี ีระบบจดั เกบ็ รวบรวมรกั ษาหนังสอื ประเภทตางๆ ซง่ึ อาจ รวมท้งั ตน ฉบบั ลายมอื เขียน ไมโครฟลม เปน ตน เพื่อใชเ ปนทคี่ น ควาหาความรู หักลาง ลบลาง คําศัพทภาษาไทยระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที่ 6 Page 51  

คําศพั ท คําแปล หันเห เบนจากที่ต้งั เดิม หับ ปด งบั หวั โขน รปู หวั ยกั ษ ลิง ฤษี ท่ีใชสวมเวลาเลนโขน หรือละคร หัวโจก หวั หนาผปู ระพฤติเกกมะเหรก หัวรุนแรง ทีม่ คี วามคิดเหน็ เกี่ยวกับส่ิงใดส่ิงหนง่ึ อยางเอาจริงเอาจังและรุนแรง หัวหมน่ื มหาดเลก็ ตาํ แหนงขา ราชการมหาดเลก็ ถัดจากตําแหนง จางวาง ซ่งึ เปน ตําแหนงหวั หนาขา รับใชของเจา นายชั้นบรมวงศห รอื ทรงกรมลงมา หาบเร ผทู ห่ี าบของไปเรข าย หามรุงหามคํา่ ตลอดวันตลอดคืน หายน ความเส่อื ม หติ ะ ความเก้อื กลู ประโยชน หนิ ปนู หินทมี่ ีเนือ้ สารเปนแคลเซียมคารบอเนตเกอื บท้ังส้นิ สารประกอบหนิ ดังกลา ว เกิดจากการตกตะกอนเนื่องจากปฏิกิรยิ าเคมี หิริโอตตัปปะ ความละอายบาป, ความเกรงกลัวบาป หีบ หนีบ หุนหนั ไมย ง้ั ใจ, ไมรัง้ รอ หูดับตับไหม ลกั ษณะทีด่ ังมากจนกลบเสยี งอ่ืน หูนํ้าหนวก หูท่ีมีนาํ้ อยใู นชอ งหูซ่งึ มีอาการอกั เสบ มีกลน่ิ เหมน็ อาจมลี ักษณะใส เปนมูกขน หรือเปน หนอง เหง ทบั เหตุเภทภยั เร่ืองราวท่ีทาํ ใหเดอื ดรอน วนุ วาย เหน็บ อาการชาและเจ็บแปลบปลาบตามแขนขาเปน ตน เกิดจากหลอดเลือดและ เสน ประสาท หรืออยา งใดอยางหน่ึงในบรเิ วณนั้นถูกกดทบั ระยะหน่งึ เหมอ ไมต งั้ ใจระวัง, ไมต งั้ ใจด,ู เผลอใจลอย เหเรือ ขบั รอ งทํานองเพลงเหเรือ เหลอ ท่มี หี นา ตาเซอ ๆ เหลาะแหละ ไมจ รงิ จงั , ไมแนนอน, เอาแนไมไ ด เหลอื แสน เหลือเกนิ , มากมาย เหิมใจ กาํ เรบิ ใจ ลําพองใจ เหิมหน่ื ยนิ ดีอยา งแรงกลา ฮกึ เหิม คาํ ศัพทภาษาไทยระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 6 Page 52  

คําศพั ท คําแปล เห้ียมน้ัน เหตนุ ั้น เหือดหาย หมดไป, ไมมเี หลอื , ไมเหลอื หรอ แหงนเถอ คางอยู แหนง ระแวง โหราศาสตร วชิ าวาดว ยการพยากรณโดยอาศยั การโคจรของดวงดาวเปนหลกั ไหปลารา หลมุ ขา งคอถัดกระดกู ไหปลาราขึ้นไป, เรยี กกระดกู ทง้ั คทู อ่ี ยูตนคอขางหนา ไหวพรบิ ปญญาไวรเู ทา ทนั หมวดอกั ษร อ คาํ ศัพท คําแปล อกุศลกรรม บาป, ความชั่วราย อคติ ความลาํ เอยี ง มี 4 อยาง คือ ฉนั ทาคติ = ลาํ เอยี งเพราะรัก โทสาคติ = ลาํ เอยี ง เพราะโกรธ ภยาคติ = ลําเอียงเพราะกลวั โมหาคติ = ลําเอียงเพราะเขลา องครักษ ผูทาํ หนาทใี่ หค วามคมุ ครองปองกนั องคุลี นิ้วมอื อดิศูร ผเู ปน เจาเปนใหญ อดีตกาล เวลาที่ลวงแลว อติพจน คาํ พดู ทข่ี ยายเกินความจริง อธรรม ซึ่งไมย ุติธรรม อนัตถ ไมเปน ประโยชน ไมเปนผล อนาถา ไมมที ่ีพ่ึง ยากจน เข็ญใจ อนาทร เปน ทกุ ขเ ปน รอ น, รอ นอกรอ นใจ, เปนกังวล อนิจจงั ไมเทีย่ ง, ไมแ นนอน อนกุ รม ตามลาํ ดบั อนุกรรมการ กรรมการสาขาของคณะกรรมการ อนชุ า ผเู กิดทหี ลัง อนุมตั ิ ใหอ ํานาจกระทาํ การตามระเบยี บที่กาํ หนดไว อนมุ าน คาดคะเนตามหลกั เหตผุ ล อนโุ มทนา ยินดีตาม, ยินดีดว ย, พลอยยนิ ดี คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 6 Page 53  

คาํ ศัพท คําแปล อนศุ าสน การสอน อนุสาวรีย สง่ิ ทสี่ รา งไวเปน ทร่ี ะลกึ ถึงบุคคลหรอื เหตกุ ารณสําคญั อภิเผา ผูเปน ใหญ อยธู รหอ ย โคลงเคลงไปมา ทรงตัวไมไ ด อยูยงคงกระพนั คงกระพนั ชาตรี, ทนทานตอศัสตราวธุ อรชร งามอยา งเอวบางรางนอย อรรถ เน้อื ความ อรรถรส รสแหง ถอ ยคํา, ถอยคาํ ท่ีทาํ ใหเ กดิ ความซาบซงึ้ , ถอยคาํ ท่ีทาํ ใหเ กดิ อารมณ สะเทอื นใจ อรรถาธบิ าย การอธบิ ายขยายความ อรหนั ตาขีณาสพ พระอรหันตผหู มดกเิ ลสแลว อรา ม สวยงาม, แพรวพราว, งาม อรุโณทยั เวลาต้ังขึ้นแหง อรุณ อรปู ทไ่ี มมีรปู , ทไี่ มใชร ปู อลงกต ตกแตง, ประดบั ประดา อลวน ยุงเหยงิ , ชลุ มุน, สับสน, วุน อลหมา น วนุ วายเพราะมเี หตอุ นั ทําใหตกใจ อลองฉอง งามผุดผองนา ชม อวกาศ บริเวณทอี่ ยูนอกบรรยากาศของโลก อวิชชา ความรเู ทาไมถ ึงการณ, ความไมรอู ริยสัจสี่, การปราศจากความรู อวนิ ิโภครูป รปู ทแ่ี บงแยกออกไมได รปู ที่ไมแยกจากกนั มี 8 คือ ปฐวี (รูปคือความแข็ง และออน) อาโป (รปู คือความเอบิ อาบเชอ่ื มประสานใหเ กาะกมุ ) เตโช (รูปคือ อวิวันทน ความรอนและความเยน็ ) วาโย (รปู คอื ความพดั ไหว) วณั โณ (รปู คอื สี) คันโธ อสัญกรรม (รปู คอื กลนิ่ ) รโส (รปู คอื รส) โอชา (รปู คือสี) โอชา (รูปคือสวนท่ีหลอเล้ียง อสภุ ใหรูปอยไู ด) ออนหยับ กราบไหว อะเคอ้ื ความตาย ซากศพ ข้ึนลงอยา งเนบิ ๆ งาม คําศพั ทภาษาไทยระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 6 Page 54  

คาํ ศัพท คําแปล อักขรวธิ ี วธิ เี ขยี น และอา นหนังสอื ใหถ ูกตอง อักเสบ มพี ิษกําเรบิ เนอื่ งจากแผล อัคคภี ัย ภัยท่ีเกิดจากไฟ องั สา บา , ไหล อชั ฌาสยั นิสัยใจคอ กริ ิยาดี อญั ชลี การประนมมอื กราบไหว อัญเชญิ เชิญดวยความเคารพนับถอื อญั มณี รตั นชาตทิ ่เี จยี ระไนแลว , แกว มณอี นื่ ๆ นอกจากเพชรพลอย อฒั จันทร ทีน่ งั่ เปนข้ันๆ สําหรบั ดูการแสดงมลี กั ษณะเปนรปู ครงึ่ วงกลม, ช้นั ทีต่ ้งั ของขาย หรือกาวขน้ึ ลงทําเปน ขน้ั ๆ อัตภาพ ลักษณะความเปน ตัวตนหรอื บุคคล อัตวิสยั ทเ่ี ปน การสอบแบบทผี่ ูสอบมักไมมโี อกาสแสดงความคดิ เห็นสว นตัว เปนคําถาม ทต่ี องการคาํ ตอบตายตวั วา การสอบแบบวตั ถุวสิ ัย อบั จน ไมร ูจะแกปญหาอยา งไร อปั มงคล ปราศจากมงคล, ไมเจริญ, เปน ลางราย อปั ยศ เสอ่ื มเสียช่ือเสียง, นา อับอาย อปั ราชัย ชยั ชนะ อปั รีย ไมเ ปน มงคล อัมพฤกษ อาการที่แขนขาออ นแรง อมั พุทะ รูปของการกอ กาํ เนดิ มนุษยในชวงสปั ดาหท ่ี 2 ของการตงั้ ครรภ ในชว งท่ี พฒั นาจากกลละ อัยการ เจาพนกั งานผมู ีหนา ทีฟ่ อ งผตู องหาตอศาล ทัง้ นี้จะเปนขา ราชการในสํานกั งาน อยั การสงู สุดหรอื เจาพนักงานอน่ื ผูมีอาํ นาจเชนนนั้ กไ็ ด อัสดง ตกไป (ใชแกพ ระอาทติ ย) อสั สุชล นาํ้ ตา อาคม มา มาถงึ อาคนั ตุกะ แขกผูมาหา อาจม ข้ี (ของคน) อาชญากรรม การกระทําความผดิ ทางอาญา อาชา มา คําศัพทภ าษาไทยระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 6 Page 55  

คําศัพท คําแปล อาณาเขต เขตแดนในอํานาจปกครอง อาณาประชาราษฎร พลเมืองทอ่ี ยใู นอาํ นาจปกครอง อาดรู เดอื ดรอน ทกุ ขเวทนาท้งั กายและใจ อาถรรพณ สง่ิ ขอที่ทําพธิ ีตามตําราไสยศาสตรเ พอื่ ปองกันภยันตราย อาธรรม ช่วั , ไมเ ปนธรรม, ไมเทย่ี งธรรม, ไมยตุ ธิ รรม อาเพศ เหตทุ เี่ กดิ ขน้ึ อยา งผดิ ปกตวิ สิ ยั ถอื วา เปนลางไมด ี อายุขยั อตั รากําหนดอายจุ นสนิ้ อายุ อารญั ปา อารมั ภบท คําปรารภ, คาํ เร่มิ ตน , คํานํา, บทนํา อาราธนา ขอ อาสัตย ไมซ ือ่ ตรง อํานวยการ ส่ังการงาน, สัง่ งาน อาํ ไพ งาม,สวา ง.สุกใส อดิ โรย ออนเพลีย, ละเหี่ย อมิ่ ตัว เตม็ ที่แลว อม่ิ เอบิ อิ่มอกอิ่มใจ, ปลาบปล้ืม, อมิ่ ใจ อริ ิยาบถ อาการท่ีรา งกายอยใู นทา ใดทา หนง่ึ คือ ยนื เดนิ นง่ั นอน อิสรภาพ ความเปน ไทแกตวั อสิ รยิ าภรณ ตราเครือ่ งประดับเกยี รติยศ อึงอล ดังล่นั อุโฆษ กึกกอ ง อุดมการณ อดุ มคติอนั สงู สงทจ่ี ูงใจมนษุ ยใหพ ยายามบรรลุถึง อุดมคติ จนิ ตนาการที่ถอื วาเปนมาตรฐานแหง ความดี ความงาม และความจรงิ เรื่องใด เร่อื งหนง่ึ ที่มนษุ ยถ อื วาเปน เปาหมายแหงชวี ติ ของตน อุดหนนุ ชวยเหลอื , เกื้อกูล, สนับสนุน อุตกุ าล ฤดูกาล อุทกภยั ภยั อันตรายท่เี กิดจากน้ําทว ม อุทยาน สวนเปน ทรี่ ืน่ รมย อุทร ทอ ง อทุ าหรณ ตวั อยา งทย่ี กขน้ึ มาอา งใหเหน็ , ส่ิงหรอื เรื่องทยี่ กขน้ึ มาเทยี บเคียงเปน ตวั อยา ง คําศัพทภ าษาไทยระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 6 Page 56  

คาํ ศัพท คาํ แปล อุทิศ แผสว นบญุ ใหแ กผตู ายตามประเพณี อุธัจ ความประหมา ความฟงุ ซาน อบุ าทว ไมเ ปนมงคล อบุ าย วิธกี ารอันแยบคาย อปุ เฉทไมตรี ตัดไมตรี อุปนยั วิธีการใหเ หตผุ ลโดยอาศยั ขอ เท็จจรงิ หรือขอมูลตางๆ แลว สรปุ ลงเปนกฎ อุปนิสัย ความประพฤติท่ีเคยชินเปน พ้นื มาในสันดาน, ความประพฤติที่เคยชนิ จนเกือบ เปนนสิ ัย อปุ มา สง่ิ หรอื ขอ ความทยี่ กมาเปรยี บ อุปลักษณ การพูดเปรียบเทยี บ อุปสมบท บวชเปน ภิกษุ อปุ ฏฐาก ผอู ปุ ถมั ภบ าํ รงุ พระภกิ ษุ สามเณร อรุ ส ลูกชาย อฬุ ุมปเวฬุ แพไมไ ผ เอกภาพ ความเปน อนั หนง่ึ อันเดยี วกนั , ความสอดคลอ งกลมกลืนกัน เอกสิทธ์ิ สทิ ธเิ ฉพาะบคุ คลหรอื คณะ เอาใจออกหา ง หางเหนิ ไปไมร วมมอื รวมใจเหมอื นเดมิ ตีตนจากไป เอาธรู เอาใจใสเปน ธุระ เอาภาร รบั ภาระ รบั ผิดชอบ เออื น พยาธใิ นทอ งชนดิ หนง่ึ เอือ้ อาทร เออ้ื อารี, มีนาํ้ ใจ, เอ้ือเฟอ , เอื้อเฟอ เผ่อื แผ แอนยนั คดเพราะตวั ถูกกดดันดว ยลมกรรมชวาต แอรม งามแพรวพราว โอฆะ หว งนํ้า โอชา มีรสดี อรอ ย โอษฐ ปาก โอสถ ยาแกโรค โอหงั แสดงกิริยาวาจาหยิ่งยโส โออา สะสวยอยางมสี งา คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปท่ี 6 Page 57  

คําศพั ท หมวดอักษร ฮ โฮกฮาก คาํ แปล อาการพดู กระชากเสยี ง หรอื กระแทกเสียง คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 6 Page 58  

รายช่ือหนงั สอื ท่ีใชรวบรวมคาํ ศัพท  หนงั สือแบบเรียนวิชาภาษาไทย ระดับชนั้ ม. 6 จาํ นวน 18 เลม ไดแก 1) หนังสอื เรยี นภาษาไทย ภาษาเพ่ือพฒั นาการคดิ ม.6 ขององคการคา สกสค. ศธ. 2) หนังสือเรยี นภาษาไทย วรรณคดวี จิ กั ษ ม.6 ขององคก ารคา สกสค. ศธ. 3) หนงั สือเรยี นภาษาไทย ม.6 เลม 1 ของบรษิ ทั อักษรเจริญทัศน 4) หนังสือเรยี นภาษาไทย ม.6 เลม 2 ของบริษทั อักษรเจริญทัศน 5) หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ม.6 ชุดพฒั นาทกั ษะภาษา เลม 5 ของ สาํ นักพิมพว ัฒนาพานชิ 6) หนงั สือเรียนภาษาไทย ม.6 ชดุ พฒั นาทกั ษะภาษา เลม 6 ของ สํานกั พมิ พว ฒั นาพานชิ 7) หนงั สือเรียนภาษาไทย ม.6 ของบรษิ ัทโรงพมิ พไ ทยวฒั นาพานิช 8) หนังสือเรยี นภาษาไทย ม.6 ของบริษัท พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 9) หนงั สือเรียนภาษาไทย ม.6 เลม 1 (หลกั สูตรแกนกลาง 2551) ของบริษัทสาํ นักพมิ พแ มค็ 10) หนงั สือเรยี นภาษาไทย ม.6 เลม 2 (หลกั สตู รแกนกลาง 2551) ของบริษทั สาํ นักพิมพแ ม็ค 11) หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ม.6 เลม 1 (หลักสตู รฯ 2544) ของบรษิ ทั สาํ นกั พิมพแ มค็ 12) หนงั สือเรยี นภาษาไทย ม.6 เลม 2 (หลกั สูตรฯ 2544) ของบรษิ ัทสาํ นกั พิมพแ มค็ 13) คูมอื สอบเขา มหาวิทยาลยั ภาษาไทย ม.6 สาํ นกั พมิ พ Science Center (Bangkok) 14) คูมือวรรณลักษณว ิจารณ ภาษาไทย ม.6 เลม 1 สํานกั พิมพ Science Center (Bangkok) 15) คูมอื วรรณลักษณว ิจารณ ภาษาไทย ม.6 เลม 2 สํานักพมิ พ Science Center (Bangkok) 16) คมู ือเตรยี มสอบภาษาไทย ม.4-5-6 สาํ นักพมิ พไ ฮเอด็ พบั ลชิ ชิง่ จํากดั 17) คมู อื สอบเทยี บ ม.6 สายวิทย( บงั คับ) สาํ นกั พมิ พไ ฮเอด็ พับลชิ ชง่ิ จาํ กัด 18) แผนการจดั การเรียนรสู องแนวทาง ภาษาไทย ม.6 สถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)   คําศพั ทภ าษาไทยระดับชน้ั มัธยมศึกษาปท ่ี 6 Page 59  


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook