Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คำยาก ม.ปลาย

คำยาก ม.ปลาย

Published by kruuntikamee, 2019-05-14 23:03:58

Description: คำยาก ม.ปลาย

Keywords: คำยาก

Search

Read the Text Version

คาํ ศพั ท คําแปล วันเพ็ญ วันกลางเดอื นนับตามจันทรคติ คอื วันทพ่ี ระจันทรขึน้ เตม็ ดวง วนั สารท เทศกาลทําบญุ ในวนั ส้นิ เดือน 10 โดยนาํ พชื พรรณธัญญาหารแรกเกบ็ เก่ียว มาปรุงเปนขา วทพิ ย และขาวมธปุ ายาสถวายพระสงฆ วนั ฮารรี ายอ วนั ฉลองการสนิ้ สุดการถือศลี อด วัยรนุ ระยะทเ่ี ขาสชู วงหนุมสาว วัยวฒุ ิ ความเปนผูใ หญโ ดยอายุ วาจา ถอยคํา, คํากลาว, คาํ พดู วาทศิลป ศลิ ปะการพูดทช่ี วนฟง และนาประทับใจ วาน ขอใหชว ยทําแทนตวั , ขอความชว ยเหลอื วานซืน วันกอ นเมอ่ื วานน้ี วานร ลิง วายปราณ ส้ินสดุ สภาพของการมีชีวติ วายุ เทพเจา แหงลม วารดิถี วาระซึง่ เปน วนั ทางจันทรคติ วารสาร หนังสือทอี่ อกเปน คราวๆ วาสนา กุศลทท่ี าํ ใหไ ดร ับลาภยศ วิเคราะห พิจารณาอยา งละเอียด วจิ ัย การคนควาเพอ่ื หาขอมูลอยางถ่ีถวนตามหลักวชิ า วจิ ารณญาณ ปญ ญาทสี่ ามารถรูหรอื ใหเ หตผุ ลทถี่ กู ตอง วจิ ิตร ทีง่ ามหยดยอ ย วิญญาณ ส่งิ ทเ่ี ชอื่ กันวามอี ยูในกายเมอื่ มชี ีวิต เม่ือตายจะออกจากกาย ลอ งลอยไปหาท่ี เกดิ ใหม วิดน้ํา ตกั นํ้าสาดออกไป วติ ามิน กลมุ สารอนิ ทรยี ซ ง่ึ เปน สารอาหารจําเปน ท่รี างกายตอ งการแตเพยี งจํานวน นอยๆ และจะขาดไมไ ด หากขาดจะทาํ ใหอ วัยวะในรางกายทาํ งานผิดปกติและ วถิ ี เกดิ โรคได สารกลุมนี้มสี ว นชว ยในการเจรญิ เติบโตของรางกาย บาํ รุงผวิ พรรณ วถิ ีชีวิต เหงือก ผม ตา และชวยตา นทานโรค วิทยาลัย ทาง, เสนทาง, สาย, แนว, ถนน แนว, แนวทาง ในการดําเนนิ ชวี ติ สถานศกึ ษาในระดับสูง สอนวชิ าชพี เฉพาะอยา ง คาํ ศัพทภาษาไทยระดับชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ 6 Page 51

คําศัพท คําแปล วบิ ากกรรม ความลําบากทกุ ขย ากจากผลกรรมท่ีทําไว วิโยค การจากไป, การพลัดพราก, ความราง, ความหา งเหนิ วิไล งาม, สวย, สวยงาม ววิ ัฒนาการ กระบวนการเปลย่ี นแปลงหรือคล่คี ลายไปสภู าวะทด่ี ีข้นึ หรอื เจริญขึน้ วิสยั การมีคุณสมบัตเิ หมาะแกก ารจัดทาํ สงิ่ ใดสง่ิ หน่ึงได, ลักษณะท่ีเปน อยู วหิ าร ทอี่ ยูของพระสงฆ ววู าม พูดหรือทําอยา งรบี รอ นโดยไมใครครวญใหด ีเสยี กอน เวท ถอ ยคําศักดสิ์ ทิ ธ์ทิ ่ีผกู ขน้ึ เปนมนตรหรือคาถาอาคม เม่อื นาํ มาเสกเปาหรือ บริกรรมตามลัทธวิ ธิ ีทมี่ ีกําหนดไว สามารถใหร า ยหรอื ดหี รือปอ งกนั อนั ตราย เวทนา ตา งๆ ตามคติไสยศาสตรไ ด รูสึกเหน็ ใจในความเดือดรอ นหรือความทกุ ขของผูอ่นื , รูส ึกหวงใยดว ยความ เวทยม นตร เมตตากรณุ า เวบ็ คาํ ศักดิ์สทิ ธ์ิท่ีบรกิ รรมแลว ใหส าํ เร็จความประสงค เวบ็ ไซต ระบบการเช่ือมโยงสอ่ื หลายมติ ิเพ่ือเรียกดขู อ มลุ ทางอนิ เทอรเน็ต เวร ท่อี ยขู องขอ มูลตา งๆ ทางอินเทอรเ นต็ ความทุกขท ีเ่ กดิ จากการกระทําผดิ หลกั คาํ สอนหรอื ขอหามในศาสนา,รอบผลดั เวหา ในหนา ทีก่ ารงาน เวหาหาว ฟา อากาศ โวหาร ทอ งฟา ไวพจน ช้นั เชิงหรอื สาํ นวนแตงหนงั สอื หรือพูด, ถอยคาํ ที่เลน เปน สําบัดสํานวน ไวรัส คําที่เขยี นตางกนั แตมคี วามหมายเหมือนกนั หรอื ใกลเ คยี งกนั มาก เชื้อจุลินทรียทเ่ี ลก็ มาก ไมสามารถมองเหน็ ไดด ว ยกลอ งจุลทรรศนธรรมดา ไวรสั ตบั อกั เสบ ไมจ ัดเปน เซลล มที ้งั ท่กี อ โรคและไมก อ โรค ช่ือเชือ้ โรคชนดิ หน่ึงท่เี กดิ ในตับและทําใหต บั อกั เสบ คําศัพทภาษาไทยระดับช้นั ประถมศึกษาปท ี่ 6 Page 52

คําศัพท หมวดอกั ษร ศ ศรัทธา ศรทั ธา คําแปล ศศิ ความเล่ือมใส ศศธิ ร ความศรัทธา, ความเลือ่ มใส, ความเชือ่ ถือ ศกั ดา ดวงจนั ทร ศักด์ศิ รี ดวงจนั ทร ศกั ราช อํานาจ, แรง, พลัง เกียรต,ิ เกยี รตยิ ศ, เกียรติศกั ดิ์ ศัตรพู ืช อายุเวลาซ่ึงกาํ หนดตั้งขน้ึ เปน ทางการ เริม่ แตจ ุดใดจดุ หนงึ่ ซงึ่ ถอื วาเปน ทหี่ มาย ศาล เหตกุ ารณส ําคัญ เรยี งลําดบั กนั เปน ปๆ ศขิ ราเมรมุ าศ สตั วและแมลงทท่ี ําลายตนไม ศิโรเพฐน องคก รท่มี อี ํานาจพจิ ารณาพพิ ากษาคด,ี ท่เี ทพารักษส ถิต ศิลปวิทยา เขาพระสเุ มรุ ศิลปศาสตร ผา โพกศรี ษะ ศลิ าจารกึ ศลิ ปะและวชิ าการ ศลิ าแลง วิชาตางๆ ซึ่งไมใ ชว ชิ าทางเทคนคิ หรอื ทางอาชพี แผน หนิ ที่มกี ารเขยี นตวั อกั ษรเปน รอยลกึ ศิวลงึ ค หนิ ชนดิ หนึ่ง เม่ืออยูใตดนิ มลี กั ษณะออ น แตถ ูกลมแลวแขง็ มีสแี ดงอยางอิฐเผา และเปน รูพรุนเหมือนไมเ พรยี งกิน ศภุ ฤกษ รูปนิมิตแทนองคพ ระศวิ ะหรือพระอศิ วร ทาํ เปน รูปอวยั วะเพศชาย ถอื วาเปน เศวตฉัตร วตั ถบุ ชู าอันศกั ดสิ์ ทิ ธิข์ องพวกไศวะ เวลาเหมาะสม โศก เครือ่ งประดับยศสําหรบั เปน เครอ่ื งประดบั ยศพระเจาแผน ดิน และเจานาย โศกศลั ย ชนั้ สงู , เครอื่ งหมายแหง ความเปน พระเจา แผนดิน ไศล ท่ีเศราเสยี ใจ เศรา, เศรา สรอย, เสียใจ, เขาหนิ , หิน คาํ ศัพทภาษาไทยระดับช้ันประถมศกึ ษาปที่ 6 Page 53

หมวดอักษร ส คําศัพท คาํ แปล สงกา สงสยั , เคลือบแคลง, ขอ งใจ, กงั ขา, สนเทห  สงบเสงยี่ ม ระงับกริ ยิ าวาจาดวยเจยี มตัว สงวน ถนอมรกั ษาไว, หวงแหนไว สงัด สงบเงยี บเพราะปราศจากเสยี งรบกวน, ไรศ ัพทส าํ เนยี งใดๆ สดับ ฟง สดับตรบั ฟง ฟง ดว ยความเอาใจใส, เงี่ยหฟู ง ดวยความเอาใจใส สดุดี คํายกยอง, คาํ สรรเสรญิ สติ ความรสู กึ ตวั , ความระลึกได, ความรสู ึกผดิ ชอบ สถานการณ เหตุการณท ก่ี ําลงั เปน ไป สถาบันนาฏดุรยิ างคศลิ ป สถานศกึ ษาศลิ ปะการฟอ นราํ และศิลปะการบรรเลงเครอื่ งดุรยิ างค สถาปนา ยกยองโดยแตง ตั้งใหส งู ขน้ึ สถาปต ยกรรม ศลิ ปะหรือวิชาวา ดว ยการกอสรา ง สถิติ หลักฐานทีร่ วบรวมเอาไวเ ปน ตัวเลขสําหรบั เปรียบเทยี บ สนทนา พดู กันไปมาดว ยเรือ่ งตางๆ สนทิ สนม ชอบพอ, คนุ เคยกนั ด,ี เขา กนั ไดดี สไบ ผาทม่ี ีลกั ษณะเปนแถบยาวใชห ม พาดไหลข องผหู ญิง สภา องคก ารหรือสถานทปี่ ระชมุ สภาพ ความเปนเองตามธรรมดาของมัน, ลักษณะในตัวเอง สมณเพศ เพศพระภิกษ,ุ เพศบรรพชิต สมดลุ เทา เทียม, เสมอภาค, เทากนั ,พอเหมาะ สมบรู ณ ครบถวน, พรอ ม สมประดี รสู กึ ตัว สมภาร พระที่เปนเจา อาวาส สมภาร พระท่เี ปนเจาอาวาส สมโภช งานฉลองในพธิ ีมงคล สมมติ คดิ เรอื่ งที่มไิ ดเ ปน จรงิ เสมือนวา เปน จรงิ สมอง สวนทอี่ ยภู ายในกะโหลกศรี ษะ มลี กั ษณะนุมๆ หยนุ ๆ เปนลูกคลื่น เปน ที่รวม ประสาทใหเกดิ ความรสู กึ ฯลฯ คาํ ศัพทภ าษาไทยระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที่ 6 Page 54

คําศัพท คําแปล สมองกล เคร่อื งอเิ ล็กทรอนกิ สแ บบอตั โนมตั ิ ทาํ หนา ทรี่ บั ขอมลู ประมวลผลดวย หลกั การทางคณติ ศาสตรและตรรกศาสตรด วยความเรว็ สงู และแสดงผลผาน สมาชิก อุปกรณป ระกอบตางๆ สมาธิ ผูมีสิทธิและมสี ว นรวมในสมาคมหรอื องคก ารใดๆ สมานฉนั ท ภาวะท่ีจิตสงบนิ่งอยูในอารมณอยา งเดยี ว สมุดพก ความเหน็ พองตรงกนั สมทุ ร สมดุ บันทึกผลการเรียน สมนุ ไพร ทะเลทล่ี กึ และกวา งใหญ ผลิตผลธรรมชาติไดจากพืช สตั ว และแรธาตุ ที่ใชเ ปน ยาหรือผสมกับสารอ่นื สรงนํ้า ตามตํารบั ยา เพอื่ บําบดั โรค บํารุงรางกาย หรอื ใชเ ปน ยาพิษ สรณะ เอานํา้ รดหรอื ลงในน้ําเพื่อชาํ ระกาย สรร ทีพ่ ่ึง สรรพนาม เลือก, คดั สรรพสตั ว คําแทนช่อื สรรพสนิ คา สัตวทัง้ หลาย สรรพากร สนิ คา นานาชนดิ , สินคาทุกอยา ง สรรพางค อากรท่ีเก็บจากสง่ิ ทเ่ี ปน เองหรอื มบี อเกดิ เปนรายได สรรเสริญ รา งกายท้งั หมด กลา วคํายกยอ ง เชิดชู หรอื เทดิ ทูน, กลาวคาํ ชมดว ยความนิยมพอใจ หรอื สรวล เยินยอในคณุ ความดี สรอ ย หวั เราะราเริง คาํ ตอ ทา ยชือ่ ตง้ั โคลง รา ย หรอื บทเพลง เปน ตน, คําทเี่ ติมหรือประกอบคําอ่ืน สรอยพระศอ เพื่อใหไ พเราะหรือเตม็ ความ สรา ง สรอยคอ สรางเสก คลาย, ถอย, ทุเลา, หาย สรีระ ทาํ ใหม ขี ึ้น สลดใจ รางกาย, กาย, สกนธ สลบไสล รสู กึ หดหูท่ีไดร ูเ หน็ ความทกุ ข หรอื พฤติกรรมอนั ไมเหมาะสมของผูอนื่ สละสลวย แนนง่ิ ไมต ิงกาย เปนระเบยี บเรยี บรอ ย คาํ ศพั ทภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปที่ 6 Page 55

คาํ ศพั ท คําแปล สลัก ทําใหเ ปน ลวดลายหรือรูปภาพดว ยวธิ ใี ชสว่ิ สกดั ตดั ตอก ดุน เปน ตน หรอื ใช สง่ิ อืน่ ขูด ขีด ใหเปนตัวหนงั สือ เปน ตน สลาย ส้ินสภาพไป สวนสามพราน ชื่อสถานท่ที อ งเทยี่ วอยูใ นอําเภอสามพราน จงั หวดั นครปฐม สวรรค โลกของเทวดา สวามภิ กั ด ยอมตน หรอื มอบตนอยูใ ตอ ํานาจ สวาหะ มารดาของหนมุ าน สหาย เพ่อื นรว มสขุ รว มทกุ ข สอดคลอ ง เขา กันไดเ หมาะเจาะ, ไปดวยกนั ได สอบสวน ถามเพือ่ เทยี บขอ เทจ็ จรงิ วา จะลงรอยกนั กบั หลักฐานหรอื พยานอยา งไร หรือไม สอเสยี ด พดู ใหแ ตกราว สะกด เขียนหรอื บอกตัวอกั ษรทปี่ ระกอบกนั เปนคํา,กลน้ั ไว, ขมไว สะดุง ไหวตวั ขนึ้ ทนั ทีดวยความตกใจ เพราะไมทนั รูตัวหรือไมไ ดน กึ คาดหมายไว สะทอ น เดงกลับ, ตกี ลับ, กระดอน สะเทือนใจ มจี ิตใจหวนั่ ไหวอยา งแรงและรวดเรว็ ในเมอื่ มสี ่งิ ท่นี า พอใจหรือไมน า พอใจมา กระทบ สะบดั เคล่อื นไหวหรอื ทาํ ใหเ คลื่อนไหวไปเรว็ และแรง เพ่ือใหส งิ่ ท่ีติดอยูหลุดไป สะพร่งั มมี ากมายทว่ั ไป สะลอ เครอื่ งดนตรีชนดิ หนึ่งของภาคเหนือ สะอ้นื ถอนใจสะทอนเปน ระยะๆ ตามปกตมิ กั มอี าการรองไหร ่ําไรควบคูกนั ไป เหตุ เพราะเสยี ใจระทมใจเปน ตน สงั เกต คอยจับตาด,ู หมายจดจําไว, ฟง หรือดอู ยา งละเอยี ดละออ สังขยา การนับ, การคํานวณ สังขาร สง่ิ ที่ประกอบและปรุงแตง ขน้ึ เปน รางกายและจติ ใจรวมกัน สงั วาล สรอ ยเครือ่ งประดบั ชนิดหนง่ึ ใชค ลอ งสะพายแลง สงั หาร ฆา , ประหาร, ทําลายลาง สัจ คุณลกั ษณะทป่ี ระกอบดว ยความจรงิ ความแนแท ความซ่อื ตรง ไมกลบั เปน อยางอน่ื สจั จา คณุ ลกั ษณะทป่ี ระกอบดว ยความจรงิ ความแนแท ความซอื่ ตรง ไมก ลบั เปน อยา งอน่ื คําศัพทภ าษาไทยระดบั ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 6 Page 56

คําศพั ท คาํ แปล สญั จร ผานไปมา สญั ญาณ สัญลักษณ, เคร่อื งแสดง, เครอื่ งหมาย สญั ลกั ษณ สง่ิ ท่กี าํ หนดนยิ มกันขน้ึ เพอื่ ใชใ นหมายความแทนอกี สงิ่ หนึ่ง สัตย คณุ ลกั ษณะทปี่ ระกอบดว ยความจรงิ ความแนแ ท ความซอ่ื ตรงไมก ลับเปน อยา งอนื่ สั่นเครือ ลกั ษณะของเสยี งที่สนั่ พราไมแ จม ใส เรยี กวา เสยี งเครือ สนั นิษฐาน คาดคะเนโดยพิจารณาจากหลักฐาน สันสกฤต ชือ่ ภาษาในตระกูลอินเดยี -ยุโรป ซง่ึ มีใชใ นวรรณคดอี นิ เดยี โบราณ เชน คัมภีร ฤคเวท ยชรุ เวท สามเวท สปั ระยุทธ สรู บชงิ ชัยกนั สัพยอก เลน หรือลอ อยางไมไดคดิ จรงิ จงั สัมพันธ ความผกู พนั ธ สัมมนา การประชมุ เพอ่ื แลกเปล่ยี นความรแู ละความคดิ เห็นเพอ่ื หาขอสรปุ ในเร่อื งใด เร่ืองหนง่ึ ผลของการสัมมนาถอื วา เปน เพยี งขอ เสนอแนะ ผเู กี่ยวขอ งจะนาํ ไป สมั ฤทธิ์ ปฏิบัตติ ามหรือไมก ็ได สาตรา สาํ เร็จลลุ วงไปได สาธารณ อาวธุ ของมคี ม สาธารณ ท่ธี รรมดาสามัญท่ัวไป สาบสูญ ตา่ํ , เลว สามเหลีย่ มทองคาํ สูญหายไปอยา งไมทิง้ รองรอยใดๆ ชอ่ื เรียกสถานที่ที่เปนเขตดนิ แดนตดิ ตอกันระหวาง 3 ประเทศ คอื พมา ไทย สามัญ ลาว ต้งั อยูในจงั หวดั เชยี งราย สามญั ชน ปกต,ิ ธรรมดา สายสวาท คนท่ไี มใชเจานาย สายสิญจน หญิงทร่ี กั จบั ใจ เสน ดายยาวๆ ทีพ่ ระถอื เมือ่ เวลาสวดมนตห รือทเี่ อามาวนรอบบานเพอ่ื ใหเปน สายณั ห มงคล สารคดี เวลาเยน็ , ตอนเย็น, เย็น สารท เรอ่ื งท่ีเขยี นเรยี งขนึ้ จากความจรงิ ไมใชจ ากจนิ ตนาการ เทศกาลทาํ บญุ ในวนั สน้ิ เดอื น 10 คาํ ศพั ทภาษาไทยระดับช้ันประถมศกึ ษาปท ่ี 6 Page 57

คาํ ศัพท คําแปล สารทิศ ทัว่ ทกุ ทิศ, ทุกทศิ ทุกทาง สารทกุ ขส ขุ ดิบ ขาวคราวความเปนไปหรือความเปน อยู สารพษิ ส่ิงทีเ่ ปนอันตราย เมื่อเขาสรู า งกายซึง่ อาจทาํ ใหตาย เจบ็ ปวด หรอื พกิ ารได สารภาพ ยอมรับผดิ ตามความเปน จรงิ , ยอมรับวา ไดก ระทําความผดิ สารานกุ รม หนงั สอื ทีร่ วบรวมความรูทุกแขนงหรือเฉพาะแขนงใดแขนงหนง่ึ มกั เรยี ง ตามลาํ ดบั อักษร สาวแส ผูหญิงท่อี ยใู นชว งวยั รนุ สาหรา ย ชื่อพืชชน้ั สงู ที่มดี อกบางชนดิ ซ่งึ ขน้ึ อยใู นน้ํา เชน สาหรา ยพงุ ชะโด สาํ แดง ทาํ ใหเห็นปรากฏ, ทําใหเห็น สาํ นวน ถอยคําหรือขอ ความท่ีกลา วสบื ตอ กนั มาชานาน มีความหมายไมตรงตามตัว หรอื มคี วามหมายอ่นื แฝงอยู สาํ เนียง เสยี ง, นํา้ เสยี ง, ทาํ นองเสยี ง สําเภา ชือ่ เรอื เดนิ ทะเลชนิดหน่งึ แบบจีน แลนดว ยใบ สาํ รวล เปลง เสียงแสดงความขบขนั ชอบใจหรือดใี จ สาํ รอก ขยอนเอาส่งิ ทก่ี ลืนลงไปในกระเพาะแลว ออกมาทางปาก สาํ ราญ อยางมีความสขุ เพราะไดปลอ ยอารมณ สําเรจ็ ทที่ ําไวเ สร็จเรยี บรอยแลว , ลุลว งไปไดด วยดีตามวัตถปุ ระสงค สําสอ น ท่ีปะปนโดยไมเ ลือก เชน ในการคบคาสมาคมหรอื ในการซองเสพเปน ตน สําเหนียก ฟง , กําหนดจดจํา สาํ อาง งามสะอาดหมดจด สงิ อยู, เขาอย,ู อาศัย สิ่งแกว สง่ิ ที่มคี า มาก ส่ิงทีด่ ีเยี่ยม สงิ ขร ภูเขา สงิ สู อาศัยอยใู นที่ทไ่ี มใ ชข องตน สิ้นซาก หมดสิ้นไปอยา งไมมีเหลอื , ไมเหลอื รองรอย สินธุ แมนาํ้ สิ้นเปลือง หมดเปลือง, รอยหรอ สิน้ ฤทธิ์ ไมม แี รงหรอื อาํ นาจทจ่ี ะตอสตู อไป สิริ เหตทุ น่ี ํามาซึง่ ความเจรญิ สริ ิโฉม รูปรางงาม, รูปทรงงาม, ลักษณะทีเ่ หน็ ภายนอกงดงาม คาํ ศัพทภาษาไทยระดับชัน้ ประถมศึกษาปที่ 6 Page 58

คาํ ศพั ท คาํ แปล สิละ ศลิ ปะการตอ สูปอ งกนั ตัวอยางหนึง่ ของคนไทยมสุ ลิมเปนการตอ สดู ว ยมอื เปลา เนน ลลี าการเคล่อื นไหวท่ีสงา งาม สขี า ว กะเทาะเปลือกขา วออกดว ยเครื่องสี สีหบญั ชร หนาตาง สึกหรอ กรอ นไปหรือผุพงั เสยี หายไปตามกาลเวลา สบื สวน แสวงหาขอ เทจ็ จรงิ และหลักฐาน และเพอ่ื ที่จะทราบรายละเอยี ดแหงความผดิ สบื สาน ปฏบิ ตั ิตดิ ตอ กนั มา, ถายทอดติดตอกนั มา สื่อ ผูหรือสิง่ ทที่ าํ การตดิ ตอ ใหถ งึ กนั หรอื ชกั นาํ ใหรจู กั กัน สอ่ื มวลชน สื่อกลางท่ีนําขา วและความรไู ปสูมหาชน เชน หนงั สอื พิมพ วทิ ยุ โทรทศั น และ ภาพยนตร สื่อสาร ติดตอ สุกสกาว ขาวสวา ง สุขภาพจติ ภาวะของจิตใจ สขุ ศานติ์ ความสงบสุข สคุ นธ ของหอม, เครื่องหอม สจุ ริต ความประพฤติท่ซี งึ่ ตรง สดุ า ลกู สาว, บุตรสาว, ลกู ผหู ญิง สุนทรพจน คาํ พดู ท่ปี ระธานหรอื บุคคลสาํ คัญเปน ตนกลา วในพธิ ีการหรอื ในโอกาสสาํ คัญ ตางๆ สุนทรียภาพ ความงามในธรรมชาติหรอื งานศิลปะทแ่ี ตล ะบุคคลสามารถเขา ใจและรสู กึ ได สุภาพบรุ ุษ ชายทม่ี กี ริ ิยาวาจาเรยี บรอ ย รูกาลเทศะ และมีคุณธรรม สุภาษติ ถอยคาํ หรอื ขอความที่กลา วสบื ตอกนั มาชา นานแลว มคี วามหมายเปน คติ สอนใจ สรุ าลัย ทีอ่ ยูของเทวดา สุริย พระอาทติ ย, ดวงอาทิตย, สุริยา พระอาทิตย, ดวงอาทิต สุรโิ ย พระอาทติ ย, ดวงอาทิตย สุรียศ รี พระอาทติ ย, ดวงตะวนั สุวรรณ ทอง สจู บิ ตั ร ใบแสดงรายละเอียดตางๆ ของรายการ คําศัพทภาษาไทยระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปท่ี 6 Page 59

คําศัพท คําแปล สจู ิบัตร ใบแสดงรายละเอียดตา งๆ ของรายการ สญู หาย หมดไป, ไมมเี หลือ,หาไมพบ เสดจ็ พระราชดาํ เนนิ ไป เสน โลมา เสนขน เสนหา ความรกั , ความชอบพอ เสนาบดี ขา ราชการชัน้ ผูใหญ เสนาะ นา ฟง , เพราะ, ไพเราะ เสบยี ง อาหารทีจ่ ะเอาไปกินระหวางเดินทางไกล เสเพล ประพฤตเิ หลวไหล ไมเ อางานเอาการ เสภา ชื่อกลอนชนดิ หนึ่งใชข บั เปน เร่อื งยาวดว ยจงั หวะและดนตรีอยางหนึ่ง เสวนา พดู คุย เสวย รบั ประทาน, กิน เสวยราชย ขน้ึ ครองราชสมบัติ เสาะ แสวงหา เสาะหา (เสาะ คือ คน สืบ แสวง) เสยี ดสี การบนโดยใชอ ารมณ,บน ถงึ ขอผิดพลาด เสยี สละ ละวาง, ละทง้ิ , ปลอ ยวาง, บรจิ าค เสือซอ นเล็บ ผูม ีความเกงกลาสามารถ แตไ มย อมแสดงออกมาใหป รากฎ เส่อื ม เสียไป, สิน้ ไป เส่ือมสลาย หมดลง, สน้ิ สุด แสดง บอกขอความใหร,ู ทาํ ใหปรากฏออกมา แสยง แหยง, แขยง, หวาดเกรง, เกรง แสรง จงใจทําใหผ ิดจากความจรงิ โสภา งาม โสมนัส ความสุขใจ, ความเบกิ บาน โสมม โสโครก, สกปรก,นาขยะแขยง ใสไคล หาความไมด ปี า ยผูอน่ื ไสยศาสตร ตาํ ราทางไสย, วิชาทางไสย ไสว ชสู ะพร่งั อยูไ หวๆ คาํ ศพั ทภาษาไทยระดับชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 6 Page 60

หมวดอกั ษร ห คาํ ศพั ท คําแปล หงมิ ๆ หยบิ ชน้ิ ปลามนั คนทด่ี ูสงบเสง่ยี มแตก ลับไดร ับสงิ่ ทด่ี ีท่ีสุด หงดุ หงดิ มีอารมณฉุนเฉยี ว หงบุ ฟุบหัวลงเมือ่ เวลางว งนอน หนงั ใหญ การมหรสพอยา งหนึ่งของไทย ใชหนังสลักเปนรูปภาพคลา ยหนังตะลุง แตมี ขนาดใหญกวา และเชดิ หนาจอ ใชป พ าทยบ รรเลง หมนหมอง ไมผองใส, ไมส บายใจ, ไมเบิกบาน หมอความ ทนายความ, หมอกฎหมาย, ผรู ูก ฎหมาย หมองหมาง หมองใจ, ขนุ เคอื ง หมอตําแย หญิงทม่ี ีอาชีพทําคลอดตามแผนโบราณ หมอบราบ กิรยิ าที่ยอบตวั ลงใหข าและแขนราบอยกู ับพื้น, ยอบตัวลงในอาการคลา ยคลงึ เชนนั้น หมักหมม ซบั ซอนกน ดวยการที่คา งอยมู าก, ปนคละกนั ไมเปน ระเบียบ หมางหมอง หมองใจ, ขนุ เคือง, ขนุ ของ หมายรบั สัง่ ใบแจง คาํ ส่งั , บญั ชา, คําบญั ชา ของพระเจา แผนดนิ หม่ี แปง ขาวเจา ท่โี รยเปนเสนลงในน้าํ เดือดพอสกุ แลวนาํ มาตากแหง หยดเหยาะ ไหล หรือทําใหไ หลหลุดออกมาเปนหยาดๆ หยอก เลน หรอื ลอ ไมจ ริงจงั หยอกลอ หยอกเยา , หยอก, สัพยอก, เยา แหย หยาบคาย ไมสุภาพ หยูกยา ยา หรรษา สขุ สนั ต, ร่นื เริง หฤหรรษ ยนิ ด,ี ชื่นชม, ราเริง หลงกล แพร,ู เสยี รู หลงใหล ชอบมากจนไมอาจควบคมุ สตไิ ด หว ง ชว ง, ระยะ, ตอน หวน่ั มีอาการกริง่ เกรงไป หวา น โปรย, ทาํ ใหกระจาย หอบหิว้ รว มสุขรวมทุกขไมทอดทง้ิ กนั คาํ ศัพทภ าษาไทยระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที่ 6 Page 61

คําศัพท คําแปล หอยสงั ข ชอ่ื หอยทะเลกาบเด่ียวหลายชนิดในหลายวงศ เชน ชนดิ Strombus sp. เปลอื กสี ขาว ชองเปดเรยี วงามไดร ูปทรง ใชส าํ หรบั หลงั่ นาํ้ พระพทุ ธมนตหรอื นํ้าเทพ หักใจ มนตร หตั ถกรรม ตดั ใจ, หกั อกหักใจ, หักหา มใจ หับ งานที่เกิดขน้ึ จากการทําดว ยมือทไ่ี มใชเครอ่ื งจักร หวั แขง็ ปด , งับ หวั ดี หวั ดื้อ, หัวรน้ั หัวหมอ เกง, ฉลาด หวั เหนา คนท่ชี อบอา งกฎหมายเพอื่ ประโยชนข องตน หางเสือ สวนของรางกายใตท องนอ ยลงไป หาเชา กนิ คาํ่ เครอ่ื งถือทายเรอื หา ม หามาไดพอประทังชีวติ ไปวนั หนึ่งๆ หาํ้ หน่ั จวนสกุ ห้งิ เขา ฟาดฟนใหแ หลกไป หึงหวง ท่วี างของซง่ึ แขวนหรือตดิ ไวขา งฝา เหตุ หวงแหนทางชสู าว เหนด็ เหน่อื ย สง่ิ หรือเรื่องที่ทําใหเ กิดผล เหน็บ ออนเพลยี เพราะทํางาน เหม็นสาบ พดู สะกดิ ถึงสวนทไ่ี มด ี เหมันต มีกลิน่ สาบ, มีกล่นิ สาบสาง เหยา ฤดูหนาว, หนา หนาว เหยาะ บาน เหยยี ดหยาม หยดเติมลงแตน อยใหพ อตอ งการ เหลน ดถู กู ดูหมน่ิ , ดถู ูกดูแคลน, ดถู กู เหลยี วแล ลูกของหลานที่เปนลกู ของลูก แหลกลาญ เอาใจใส, แลเหลียว โหยหวน ยอยยับ, พงั ทลาย, พัง โหรหลวง รองครํ่าครวญไมร จู ักหยดุ ผูพยากรณโดยอาศยั การโคจรของดวงดาวเปน หลกั , ผูใ หฤ กษแ ละพยากรณ โชคชะตาราศี ของพระเจาแผนดิน คําศัพทภาษาไทยระดบั ช้นั ประถมศึกษาปท่ี 6 Page 62

คาํ ศพั ท คาํ แปล โหราจารย ไหวพรบิ ผชู ํานาญในวชิ าโหราศาสตร ไหวว าน ปญ ญาไวรเู ทาทนั ขอรอ งใหช ว ยเหลอื หมวดอกั ษร อ คําศัพท คําแปล อกไก ไมเ ครื่องเรอื นท่ีพาดบนเสาดง้ั เปนสนั หลงั คา อกตญั ู ไมรูค ณุ คน, ไมร จู กั บุญคณุ , ไมส ํานึกบญคณุ องคุลี ช่อื มาตราวัดแตโ บราณ ยาวเทากับขอปลายของนิ้วกลาง อดออม ใชจ า ยอยา งประหยัดไมฟุมเฟอ ย อดีต เวลาทล่ี ว งแลว อธกิ มาส เดือนที่เพ่ิมขน้ึ ในปจ ันทรคติ คอื ในปนัน้ มี 13 เดือน มีเดอื น 8 สองหน เรยี กวา เดือน 8 สอง 8 อธิปต ย อํานาจสงู สุดของรัฐทีใ่ ชปกครองประเทศ อนงค นางงาม อนธการ ความมืด ความมดื มวั อนรรฆคา เกินทจี่ ะประเมินคาได อนาถ สังเวช, สงสาร, สลดใจ อนาถา ไมม ที พ่ี ่ึง อนามยั ภาวะของรางกายท่ีแขง็ แรง และไมเปน โรค อนจิ จา คาํ ที่เปลงออกมาแสดงความสงสารสังเวชเปนตน อนญุ าต ยอมใหต ามทข่ี อ อนุรักษ รกั ษาใหคงเดมิ อบาย สงิ่ ทีท่ าํ ใหฉ บิ หาย อพยพ ยา ยจากถ่นิ หนง่ึ ไปอยอู ีกถิน่ หน่ึง อยโู ยง อยูเฝาทแ่ี ตผ เู ดยี ว ผูอ่นื ไปกันหมด อรทยั หญงิ สาว, สาวรนุ อรไท นางผเู ปน ใหญ, นางผูม สี กลุ อรรถรส รสแหง ถอยคํา, ถอ ยคาํ ทท่ี ําใหเ กิดความซาบซงึ้ ทําใหเ กดิ อารมณสะเทอื นใจ คําศพั ทภาษาไทยระดับชนั้ ประถมศึกษาปท่ี 6 Page 63

คําศัพท คาํ แปล อรหนั ต ผสู าํ เร็จธรรมวิเศษสงู สดุ ในพระพทุ ธศาสนา, ผูบรรลุพระนพิ พาน คําศัพท หมวดอักษร ฮ แฮก น๊ึ โฮมเพจ คาํ แปล ไสกรอกทท่ี ําดวยเนอ้ื กุงบดผสมเคร่อื งชรู สตา งๆ หอ ดว ยแผน เตา หู นึ่งสุกแลว ทอดดว ยนา้ํ มนั หนา แรกของเวบ็ ไซต คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที่ 6 Page 64

รายช่อื หนังสอื ที่ใชร วบรวมคาํ ศพั ท    หนังสอื แบบเรยี นวชิ าภาษาไทย ระดบั ชนั้ ป. 6 จํานวน 15 เลม ไดแก 1) หนังสือเรยี นชุดภาษาเพือ่ ชีวติ ภาษาพาที ป.6 ขององคก ารคา สกสค. ศธ. 2) หนงั สือเรียนชุดภาษาเพ่อื ชวี ิต วรรณคดลี ํานํา ป.6 ขององคการคา สกสค. ศธ. 3) หนงั สือเรียนภาษาไทย ป.6 ของ บรษิ ัทอักษรเจรญิ ทัศน 4) หนังสอื เรียนภาษาไทย ป.6 ชุดปฏิรปู : รูวิธีการเรียนรู ของ สนพ.วฒั นาพานชิ 5) หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ป.6 ของบริษัทโรงพิมพไ ทยวฒั นาพานชิ 6) หนังสอื เรยี นภาษาไทย ป.6 ของบรษิ ัท พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 7) หนงั สอื เรียนภาษาไทย ป.6 ของบริษทั สํานกั พมิ พแมค็ 8) หนังสอื เรยี นภาษาไทย ป.6 เลม 1 ของบริษทั สํานักพมิ พเ อมพนั ธ จํากดั 9) หนงั สือเรยี นภาษาไทย ป.6 เลม 2 ของบรษิ ัท สํานักพิมพเ อมพันธ จํากดั 10) หนังสอื เรยี นภาษาไทย ป.6 เลม 1 ของบริษัท สาํ นักพมิ พป ระพันธสาสน 11) หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ป.6 เลม 2 ของบรษิ ทั สาํ นักพมิ พประพันธสาสน 12) แบบฝก หดั ภาษาไทย ป.6 (หลกั สูตรแกนกลาง 2551) สํานักพิมพแ มค็ จาํ กดั 13) เฉลยขอสอบ O-net ป.6 รวม 2 พ.ศ. (2551-2552) สาํ นักพมิ พแ มค็ จาํ กัด 14) คมู ือวิชา ภาษาไทย ป.6 สํานกั พมิ พ เดอะบคุ ส (กรงุ เทพฯ-ประเทศไทย) 15) ส่อื การเรยี นรู ภาษาไทย ป.6 บริษัทอกั ษรเจรญิ ทัศน คาํ ศัพทภาษาไทยระดับช้ันประถมศกึ ษาปท ี่ 6 Page 65

ผลการสํารวจคาํ ศัพทภาษาไทย ของนกั เรียนชัน้ ม.3 จากการสํารวจพบวามีคําศัพท จํานวน 1,236 คํา ซึ่งสามารถแยกตามหมวดหมูตามตัวอักษรได ดงั น้ี หมวดอักษร ก คําศัพท คําแปล กก กลุม, พวก, พรรค, เหลา , หมู กง สว นรอบของลอ รถหรอื เกวยี น กงสี ของกลาง, กองกลางที่ใชรวมกันสําหรับคนหมูหนึ่งๆ (จ.วาบริษัททําการคา, กจิ การท่จี ดั เปน สาธารณะ) กงสุล ชื่อตําแหนงของบุคคลซึ่งรัฐบาลของประเทศหนึ่งแตงตั้งใหเปนผูแทนประจําอยู ในเมืองตางๆ ของอีกประเทศหน่งึ เพือ่ ทาํ หนา ทีต่ างๆ แทนชาติผูแตงตัง้ กฎหมายระหวางประเทศ หลกั กฎหมายหรอื หลักปฏิบัติที่ยอมรับกนั วา ดวยรัฐ และความเกย่ี วพนั ระหวา งรฐั รวมทั้งความเกี่ยวพันระหวางรัฐกับองคการระหวางประเทศ และประชาคม กนก ระหวางประเทศ กบในกะลาครอบ ทองคํา กบ่ี ผูมคี วามรูและประสบการณนอย แตสําคัญตนวามีความรูมาก กรมหมนื่ ลงิ กรรมกร ยศของเชอื้ พระวงศท ่พี ระเจาแผนดนิ ทรงแตงตง้ั กระจง ลูกจางที่ใชแรงงาน ชอ่ื สตั วช นดิ หนง่ึ ในวงศ Tragulidae ทเี่ ล็กทีส่ ดุ รูปรางคลายกวางแตไมม เี ขา ตวั ผมู ี กระจับป เขี้ยวแหลมคมงอกออกมา กระโจม เครื่องดีดชนิดหนง่ึ มี 4 สาย กระโจมโจน สิ่งทต่ี ามปกติมยี อดเปนลอมอยา งซมุ ใชเปนเครื่องกําบังแดดลม กระฉอน โถมและพุงเขาใสเ ตม็ กําลัง กระช้นั เปน ที่รกู นั ทั่วไป กระดังงา ใกล, ชิด ช่อื ไมต นชนดิ Cananga odorata (Lamk.) Hook. f. et Th. ในวงศ Annonaceae ดอก กระเด็น หอม กลีบบาง มี 6 กลีบ ดอกใชก ลน่ั นาํ้ มนั หอมได เคลอื่ นจากทีเ่ ดมิ หรอื แตกแยกจากที่เดมิ ออกไปโดยเรว็ เพราะกระทบสิ่งใดสิ่งหนงึ่ คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับชัน้ มัธยมศึกษาปท ่ี 3 Page 1

คําศัพท คําแปล โดยแรง กระตอื รอื รน รบี รอ น, เรง รบี , ขมีขมัน กระทงความ ตอนหนึ่งๆ ของขอความ กระทบกระทั่ง ไมลงรอยกนั , ไมเหน็ พองกนั กระบวนการเรยี นรู กระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรืออารมณ ที่เปนผลของการฝกอบรมหรือ ประสบการณ กระเปาทรง กระเปา ถอื กระยาหาร เครอ่ื งกินท่ีมีขาว กระวิน หวงทเ่ี ก่ียวกันสาํ หรับโยงสัปคับชาง กระสาย เครือ่ งแทรกยา เชน น้ําเหลา กระเหมา ละอองดําๆ ที่เกดิ จากควันไฟ กราบกราน เคารพนบนอบ กมหัวลง กราบถวายบังคมลา ลา กราบบังคมทูล บอก กริ่งใจ ระแวง, แคลงใจ กริยาวลี กลุมคําของคํากริยาแตยังไมเปนประโยคสมบูรณ กลมกลืน เขา กนั ไดด ี, ไมข ดั แยง กนั กลวิธี วิธพี ลกิ แพลง, กลเมด็ , เลหเหลย่ี ม, กลอุบาย กลอกกลับ พลิกแพลง, กลับกลอก กลัน้ บังคับความรูส กึ หรือสง่ิ ทีอ่ ยูภ ายในรางกายไมใ หแสดงออกหรอื หลดุ ออกมา กลัน่ กรอง พิจารณาอยางถีถ่ ว นรอบคอบ กลาก ชอื่ โรคผิวหนังอยา งหนง่ึ มีหลายชนิด เกิดจากเช้ือรา ขึ้นเปนวง มีอาการคัน กลบี สวนของดอกไมท่เี รียงหรอื ซอนกนั เปนช้นั ๆ รอบเกสร โดยปกติเปนแผนบางๆ กวี ผรู ู ผูเชี่ยวชาญในศิลปะการประพันธบทกลอน กอบโกย ขนเอาไปเปนจํานวนมาก, รวบเอาไปเปนจํานวนมาก กะปริบกะปรอย มอี าการออกหรอื ไหลออกนอ ย ๆ หยุดบางออกบาง กะลาสี ลูกเรอื กะไหล เคลือบสงิ่ ทีเ่ ปน โลหะดวยเงนิ หรือทองเปนตน โดยวิธีใชปรอททาทําความรอน แลวจงึ ปดทองหรอื เงิน คําศัพทภาษาไทยระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3 Page 2

คําศัพท คาํ แปล กนั ชน เครื่องปองกันการกระทบกระแทกดานหนาและดานหลังรถยนต กนั แสง รอ งไห กมั ประโด ผูทําหนาที่หาลูกคาใหบ ริษัทหรือธนาคาร กาก เศษ, ขยะ กาญจน ทองคํา กาน ตดั เพอ่ื ใหแ ตกใหม กานดา หญิงท่ีรั กานท บทกลอน กาพย คํารอ ยกรองจาํ พวกหนงึ่ กายกรรม การแสดงความแขง็ แรงและยดื หยนุ ของรา งกายโดยการเลน หอ ยโหนโยนตวั เปน ตน กายิน กาย การโนมนาว การชกั ชวนใหเ หน็ ดเี หน็ งามหรอื ใหโ อนออ นตาม กาลเทศะ ความควรและไมควร กาฬ ดาํ กํากวม มีความหมายหลายนัย กาํ เดา เลือดที่ออกทางจมูก กาํ ธร สนน่ั , หวน่ั ไหว, กอ ง กําปน หีบทําดวยเหล็กหนา สําหรับใสเงินและของตางๆ รปู คอนขา งเปน สี่เหล่ียมจัตุรัส กวางยาวสูงเทากัน ฝามีหูยาวตรงกลาง ตอนปลายทําเปนชองเล็กเพื่อปดลงมาสวม กําสรวล ขอเหล็กโคง ทต่ี วั หีบสําหรับใสกุญแจ เดิมทําเปนหีบฝงตะปหู วั เห็ดทั่วตัว กาํ หนดการ คร่ําครวญ, รอ งไห, สะอ้นื , โหยไห, ครวญ กจิ กรรม ระเบียบการที่บอกถึงขั้นตอนของงานที่จะตองทําตามลําดับ กิจการ สงิ่ ที่ปฏบิ ตั ,ิ การปฏิบัติงาน กิจธุระ การงานที่ประกอบ กิตตศิ พั ท หนาที่การงานที่พึงกระทํา กนิ ใจ ชอื่ เสียง, เกยี รตคิ ุณ, เสยี งสรรเสรญิ , เสยี งเลาลอื , เสียงยกยอง กนิ นร ประทับใจ, ซาบซึ้งใจ อมนษุ ยใ นนิยาย มี 2 ชนดิ ชนดิ หน่ึงเปนคร่งึ คนครง่ึ นก ทอ นบนเปนคน ทอนลาง คําศัพทภาษาไทยระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 Page 3

คําศัพท คําแปล เปน นก ถาเปน หญิงเรยี กวากินรี กเิ ลส เครอ่ื งทาํ ใจใหเศราหมอง ไดแก โลภ โกรธ หลง กึกกอง ดงั สนน่ั , ดังมาก กญุ ชร ชาง กุมาร เด็กชาย กยุ คนเลว, คนโซ. เก ปลอมหรือเลียนแบบเพื่อใหหลงผิดวาเปนของแท, ไมใชของแท เกง็ คาดหมายไวอยางมั่นใจ เกณฑ บังคับหรือขอรองแกมบังคับ เกบ็ หอมรอมรบิ ประหยัด เกม การเลน เพอื่ ความสนุก เกรง็ ทํากลามเนอ้ื ใหแขง็ เกรด็ ขอ ปลกี ยอ ย, สว นเบด็ เตลด็ , สว นยอ ย เกลย้ี กลอ ม ชกั ชวนจงู ใจใหร ว มพวก, พูดจูงใจใหคลอยตาม หรือปฏบิ ตั ิตาม เกลอื ก กลง้ิ หรือเสือกตวั ไปมา, เอาสิง่ ใดส่ิงหนง่ึ ทาํ เชน น้นั เพื่อใหส ง่ิ อน่ื ติด เกลอื กกล้ิง พยายามกระเสือกกระสนไปตามมีตามได เกลือจิ้มเกลอื ไมย อมเสยี เปรยี บกัน แกเ ผ็ดใหส าสมกนั เกลอ้ื น ชอ่ื โรคผิวหนงั เกดิ จากเชอื้ รา (Malassezia furfur) ขึ้นเปนดวงขาวๆ อาจมีอาการคัน เกษตรกรรม การใชทด่ี ินเพาะปลูกพืชตางๆ รวมทั้งการเลี้ยงสตั ว การประมง และการทําปาไม เกสร สว นในของดอกไมโ ดยมากเปน เสน ๆ, เรณูหรอื ผงเหลอื งท่ีมอี ยูในดอกไม ติดอยู กับกานเกสรก็มี ติดกับเมลด็ เกาะอยูกบั ดอกก็มี ใชเปนสว นสืบพนั ธขุ องดอกไม เกาแกว แกว 9 ประการ เกาต ชื่อโรคอยางหนงึ่ เกิดขนึ้ เพราะมกี รดยูริกในเลือดมากเกินไป เปนผลใหเกิดการ ตกตะกอนเปน เกลอื ยเู รตในเนอ้ื เยอ่ื บรเิ วณขอ ทําใหมีอาการบวมและปวด เกาะเกียน เกาะท่ีอยูใ กล ๆ กนั เกี้ยมไฉ ผักดองเคม็ เกียรติยศ เกียรติโดยฐานะตาํ แหนงหนาท่ีหรือชาตชิ ั้นวรรณะ แกกลา เกง , เขมแข็ง โกมนิ โกเมน พลอยสแี ดงเขม คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3 Page 4

คําศัพท คาํ แปล โกลาหล ความวนุ วาย ความอลหมาน, ความไมเปนระเบียบ ใกลเกลอื กนิ ดา ง มองขามหรือไมร คู า ของดีทอ่ี ยใู กลตัว คําศัพท หมวดอักษร ข ขนบ ขนดั คําแปล ขมเหง แบบอยาง, แผน, ระเบียบ ขมิน้ กบั ปูน แถว, แนว ขยาย ใชกาํ ลงั รังแกแกลง ทําความเดือดรอนใหผ อู ่ืน ขอ คิดเห็น ชอบววิ าทกนั อยเู สมอเมอ่ื อยูใ กลก ัน ขอเทจ็ จรงิ เปด เผย ขอพระกร ความคิดวาสิ่งตางๆ เปนอยางไรบาง ขอพระบาท ขอความหรอื เหตกุ ารณท่ีเปน มาหรอื ที่เปนอยูต ามจริง ขะมักเขมน ขอ มอื ขะมุกขะมอม ขอ เทา ขดั เกลา ต้งั ใจทาํ หรอื กม หนากม ตาทําอยางรีบเรง เพื่อใหแ ลว เสร็จ ขดั ขืน เปรอะเปอ นมอซอไปดว ยสง่ิ สกปรก ขาดสติ แนะนาํ พร่ําสอนใหซ ึมซาบเขา ไปจนติดเปนนิสัย ขามหนาขามตา ไมประพฤติตาม, ไมทําตาม ขาราชบริพาร ไมร ูสกึ ผดิ ชอบหรอื ไมรูสึกตัววา กําลังทําอะไร ขาวแช ทําโดยไมไวหนาใคร คนทีถ่ วายตวั เปนขาของกษัตรยิ ห รอื เจา นายอยางจงรกั ภักดี ขา วแดงแกงรอ น ช่ืออาหารชนิดหน่งึ มีขา วสุกแชน าํ้ เย็น กินกบั เครอื่ งกับขา วตา งๆ มักทํากนิ ในหนา ขาวยากหมากแพง รอ น ขา วเหลอื เกลอื อม่ิ บุญคณุ ขาวใหมปลามัน ภาวะขาดแคลนอาหาร ขี้ไคล บานเมืองที่บริบูรณดวยขาวปลาอาหาร อะไรทีเ่ ปนของใหมก ็ถอื วา ดี เหงอ่ื ที่ปนกบั ฝนุ ละอองตดิ กรังอยกู บั หนังกําพรา คําศัพทภ าษาไทยระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3 Page 5

คําศัพท คําแปล ขรี้ ้ิว ไมสวยไมงาม, ไมช วนใหม อง ขนื ใจ ไมยอมทําตามที่ใจตองการ ข่ือ ชื่อไมเครื่องบนสําหรับยึดหัวเสาดานขวาง ขุนของหมองใจ โกรธเคืองหรอื ผดิ ใจกัน ขนุ นาง ขาราชการบรรดาศักดิ์ ขุนมัว ไมแจมใสหรือไมเบิกบานตอสิ่งรอบขาง ขุนไศล ภเู ขาใหญ ขเู ข็ญ ทําใหกลัวโดยบังคับกดขี่ เข็ดขยาด กลวั เพราะเคยรฤู ทธ์ิมาแลว, เข็ดเพราะเคยไดรับผลรายมาแลว เขด็ หลาบ กลัวจนไมกลาทาํ อีก เพราะเคยไดผลรา ยมาแลว เขน็ ดันสิ่งที่ติดขัดไมอ าจเคลอ่ื นไปไดโดยปกตใิ หเ คลือ่ นไปขา งหนา เขน ฆา ทํารายโดยใชกําลังใหถึงแกชีวิตเพราะความโกรธแคน เขมงวด กวดขนั หรือสงั่ ใหทําอยางเครงครดั เปนระเบยี บ เขม็ดแขม ใชจายอยางระมัดระวังเพราะเกรงวาจะไมพอใช เขมน จองมองดูโดยมุงเฉพาะ เข้ียว ฟนแหลมคมสําหรับฉีกเนื้อและอาหาร อยรู ะหวา งฟนหนา กบั กราม แข็งขัน ที่มีความกระตือรือรนหรือทะมัดทะแมงมาก แขวะ เอาส่งิ มคี มแหวะควา นใหก วา ง คําศัพท หมวดอกั ษร ค คชสาร คณนา คาํ แปล คณบดี ชาง คดเคีย้ ว นบั , คณานับ คดดี าํ หวั หนา คณะในมหาวทิ ยาลยั คตนิ ิยม คดไปคดมา, วกไปวกมา คนจรจดั คดีที่ยังอยูในระหวางการพิจารณาของศาล แบบอยางความคิดเห็น ความเชื่อ หรือวิธกี ารคดิ รวมกนั ที่เปนลักษณะของกลมุ ชน ผทู ีไ่ มม อี าชีพและไมมที ่อี ยเู ปน หลักแหลง คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 3 Page 6

คําศัพท คําแปล คนทจ่ี นเอง คนที่ทําตนเองใหจน คนธรรพ ชาวสวรรคพวกหนึ่ง เปนบริวารทาวธตรฐ มีความชํานาญในวิชาดนตรีและขับรอง คนนอก ผูไมเ กีย่ วขอ ง คนสามขา ผูเ ฒา ผแู กที่ถือไมเทา คนโหยกเหยก คนไมไ ดเ ร่อื ง แกไขยาก ครหา ตเิ ตยี น, ตาํ หนิ, ตโิ ทษ ครอก ฝงู ลูกสตั วที่เกิดรวมกนั คราวเดยี ว ครอบครอง เปน เจา ของ คราง รองเบาๆ เรื่อยๆ ดวยความเจ็บปวด หรือรองลากยาวๆ คร่ําครวญ รองราํ่ รําพัน ครมี โซดา นาํ้ หวานสเี ขยี วผสมโซดา ครฑุ พญานกที่เปนพาหนะของพระนารายณ คฤหัสถ ผูครองเรือน, ผูไมใชน ักบวช คฤหาสน ท่อี ยู, โดยมากหมายถึงเรือนอันสงาผาเผย คลอนแคลน ไมม น่ั คง คลอโรฟลล สารสีเขยี ว มีปรากฏในพืชซึ่งสามารถดูดกลืนพลังงานแสงอาทิตยมาใชใน กระบวนการสงั เคราะหด ว ยแสง โดยใชน าํ้ และแกส คารบ อนไดออกไซดใ นอากาศ คลัตช มาผลิตคารโบไฮเดรตได อุปกรณที่ทําหนาที่สงพลังงานซึ่งถายทอดมาจากเครื่องยนตไปยังเกีย หรอื ตัด คลับคลายคลับคลา พลังงานนั้นตามตองการ คลาไคล จําไดบางไมไดบาง, เหน็ ไมถ นดั คลางแคลง เดนิ ไป, เคลอ่ื นไป คลาดแคลว ไมวางใจเพราะสงสัยในพฤติกรรม คลายคลาย รอดไป, พนไป, รอด คลุกคลี เคล่อื นไหวไปเรอื่ ย ๆ คลกุ เคลา เขาคบหาอยางใกลชิด ควาญชาง เคลา ใหเขา กัน, ขยําใหระคนเขากัน ความจํานง ผูเลี้ยงและข่ขี บั ชาง, คนบังคับชาง ความจํานง คําศัพทภ าษาไทยระดับชน้ั มัธยมศึกษาปท ี่ 3 Page 7

คําศัพท คําแปล ความมั่งคั่ง ความร่ํารวย, ความมั่งมี ความเรียง การเรยี บเรยี งถอ ยคาํ ใหเ ปน เนอื้ เร่อื ง ความสัมพันธ ความเกี่ยวของ, ความเกี่ยวพนั , ความของเกี่ยว ความอนุเคราะห ความชวยเหลือ, ความเออ้ื เฟอ , ความเกอ้ื หนนุ , ความเจือจุน คหบดี ผูมีฐานะทางเศรษฐกิจดี, ผมู อี นั จะกิน คอ็ กเทล ช่ือเคร่ืองดมื่ , ใชเ หลา ตา งๆ มหี ลายตํารบั สว นมากมักผสมดว ยยนิ ผสมกบั นํา้ แข็ง แลวเขยา นิยมด่ืมกอนอาหาร คอนเสริ ต การแสดงดนตรสี ากลแบบหนง่ึ ใชเ ครอ่ื งดนตรวี งใหญ อาจมีนักรองประสานเสียง ดว ย คอลัมน แถวหรอื รายการทเ่ี ปน แนวตรงหรอื แนวดง่ิ คะเน คํานวณเอาอยางหยาบๆ คัดคาน ไมเ หน็ ดว ย คันปาก อาการที่อยากจะพูด คาง ชื่อลิงในวงศ Cercopithecidae ตวั สีเทาหรือดาํ ลาํ ตวั แขน ขา และหางยาวกวาลงิ ทว่ั ๆ ไป กนิ ใบไมและผลไม คาดคั้น แสดงกริยาวาจาเชิงเปนการบังคับใหเปนไปตามความประสงค คานิยม ความรูสกึ ความคิด หรือความเชื่อของมนุษยวาสิ่งใดมีความหมายหรือมี ความสําคัญตอตนหรือกลุมของตน คาํ กรยิ า หมวดคําประเภทหนึ่ง ที่แสดงอาการกริยาตางๆ คาํ กรยิ าวเิ ศษณ หมวดคําประเภทหนึ่ง ทําหนาที่ขยายคํากริยา คําตาย คําสระส้นั ที่ไมม ีตวั สะกดพวกหนง่ึ และคาํ ในมาตรา กก กด กบ คําบุพบท คําซึ่งมีหนาที่เชื่อมระหวางคํานามกับคํานาม คําประสม คาํ ท่เี กิดจากการนาํ คาํ มูลตั้งแต 2 คําขึ้นไปมาประสมกันแลวกลายเปนคําใหม ขนึ้ มาอีกคําหนึ่ง คาํ พอ งรูป คําที่เขียนเหมือนกันแตมีความหมายตางกัน คาํ พองเสียง คําที่ออกเสียงเหมือนกันแตเขียนตางกันและมีความหมายตางกัน คาํ วิเศษณ คาํ ในภาษาหมวดหนง่ึ เกิดรว มกบั คํากรยิ าหรือคาํ วเิ ศษณเพื่อบอกลกั ษณะของคํา วเิ ศษณ คําสมาส คําที่ประกอบขึ้นดวยคําตั้งแตสองคําขึ้นไปมารวมกัน คําศัพทภ าษาไทยระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 Page 8

คําศัพท คาํ แปล คําสรรพนาม คําที่ใชแทนคํานาม คําสันธาน คําที่มีหนาที่เชื่อมคํากับประโยคเขาดวยกัน คําอุทาน เสียงที่เปลงออกมาในขณะที่มีความรูสึกสะเทือนใจ คดิ คาํ นวณ คิดใครครวญ คึกคัก ลกั ษณะทมี่ ผี ูค นพลุกพลา นเขา ๆ ออกๆ มากกวาปกติ คณุ วุฒิ ความรูความสามารถที่เหมาะแกตําแหนงหนาที่ คหู า ถํา้ เครือ่ งพระสุคนธ เครอ่ื งหอม เครือ่ งวา ง ของวาง เครอ่ื งสงั เวย เครอ่ื งเซน , เครื่องบูชา, ของเซน , ของไหว เครื่องหวาน ของหวาน เคล็ดลับ วิธีการโดยเฉพาะ เคลบิ เคลิ้ม ลืมตวั ไปชว่ั ขณะหน่ึง เผลอสติไปชวั่ ขณะหนงึ่ เคลิม้ หลบั ยังไมส นทิ เคอย ชอื่ ของสตั วค ลา ยกุง ตวั เลก็ มาก ใชห มักเกลอื ทํากะปและนํา้ ปลา เคาโครง โครงเรอ่ื งยอ ๆ เคีย้ ว บดใหแ หลกดว ยฟน แคชเชียร พนกั งานรบั -จายเงินในธนาคาร สํานักงานรานคา แคร สนใจ, เอาใจใส, หว งใย, ใสใจ แคลอรี ชื่อหนวยวดั ปรมิ าณความรอน โครมคราม เสยี งดังเชน นน้ั โคลง คําประพันธป ระเภทหนงึ่ มีสัมผัสและบังคับเอกโทตามตําราฉันทลักษณ คําศัพท หมวดอกั ษร ง งบประมาณ งอนงอ คาํ แปล เงินกลางป ประมาณการรายรับและรายจาย ขอคืนดดี วยโดยไมม ีทิฐิมานะถอื โกรธ, ออ นเขา เพอ่ื ใหย อมหรอื ชว ยเหลอื เบี้ยหวัดทีจ่ ายกลางป คาํ ศัพทภ าษาไทยระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปท ี่ 3 Page 9

คําศัพท คําแปล เงนิ แผน ดนิ เงนิ หลวง เงินพระคลังขางที่ เงนิ แผน ดนิ สวนท่ถี วายพระมหากษัตรยิ เพื่อทรงใชใ นพระราชกิจตาง ๆ เงนิ เฟอ ภาวะทางเศรษฐกิจที่ปริมาณเงินหมุนเวียนในประเทศมากเกินไป ทําใหราคาสินคา แพงและเงินเส่ือมคา เงียบสงบ สาํ รวม, สงบเงียบ, อดกลนั้ เงอื ก สตั วน ํา้ ในนิยาย เลากันวาทอนบนเปนคน ทอนลางเปนปลา เง้ือมมอื อํานาจที่ครอบงําจะไมใหหลุดพนไปได คําศัพท หมวดอักษร จ จดจาํ จตรุ พธิ พร คาํ แปล กาํ หนดไวใ นใจ, จําไวในใจ จรรยา พร 4 ประการ คอื อายุ วรรณะ สุขะ พละ, ใชในการใหพร ขอใหม อี ายุยนื มี จรรโลง ผวิ พรรณผองใส มีความสุขกายสขุ ใจ และมีกําลังแข็งแรง จราจร กิรยิ าทคี่ วรประพฤติในหมูในคณะ จรติ ชว ยใหดีย่ิงขึ้น จว งจาบ การใชทางของผูขับขี่ คนเดินทาง หรือคนที่จูง ขี่ หรอื ไลต อ นสัตว จองจาํ ความประพฤติ, กิริยามารยาท จะงอย ลวงเกนิ ผูอื่นดวยวาจา จกั รวรรดิ ใสตรวนหรือเครื่องพันธนาการขังไวในคุกในตาราง ปลายหรือท่สี ดุ ที่มีลกั ษณะโคงหรืองมุ ลง จักษุ รฐั หรอื สหภาพของรัฐตางๆ ที่มจี กั รพรรดิเปนประมขุ , อาณาเขตหรืออาณาจักรที่ จญั ไร อยูภายใตอาํ นาจอธปิ ไตยการปกครองอันเดียวกัน จตั รุ งค ดวงตา, ตา จนั ทรี เปน เสนยี ด, ไมเปนมงคล จาบจว ง องค 4, 4 เหลา จาม พระจนั ทร ลว งเกนิ ผูอนื่ ดว ยวาจา ชือ่ ชนชาตหิ นึง่ ปจ จบุ นั สว นใหญม ถี น่ิ ฐานอยใู นเขตประเทศเวยี ดนามตอนใต คําศพั ทภาษาไทยระดับชนั้ มัธยมศึกษาปท ่ี 3 Page 10

คําศัพท คาํ แปล จาํ ลอง ลอก, เลยี นแบบ, ถายแบบ จนิ ตนาการ การสรา งภาพขึ้นในจิตใจ จบี พลู มว นใบพลแู ลว พนั ดว ยสาํ ลี จบุ จบิ อาการที่กินพราํ่ เพร่อื ท่ลี ะเล็กทีละนอย จลุ ศักราช เปนศักราชที่เราใชกันกอนใชศักราชรัตนโกสินทร เริ่มภายหลังพุทธศักราช 1181 ป จงู ใจ ชักนําหรอื เกลีย้ กลอ มเพอ่ื ใหค ลอยตาม จโู จม เขากระทําการโดยไมใ หร ูตัว เจตจาํ นง ความตั้งใจ, ความมุงหมาย, ความจงใจ เจตนา ตั้งใจ, มุงหมาย, จงใจ เจา จอม ตาํ แหนง พระสนมวงั หลวง เจา สัว คนทม่ี ัง่ มี (มักหมายถึงเศรษฐีจีน) เจียระไน ทําเพชรพลอยหรอื แกว ใหเปน เหล่ียมหรอื รูปตามตอ งการแลวขัดเงา เจียระบาด ผา คาดเอวชนิดหนงึ่ มชี ายหอยลงทหี่ นา ขา เจอื จาง ทําใหเขมขนนอยลงเพราะเติมตัวทําละลายเชนน้ําเพิ่มลงไป เจื้อยแจว ซึ่งมีเสียงไพเราะทอดยาวติดตอเรื่อยไปไมขาดระยะ โจมตี ใชกําลังบุกเขาโจมตี ใจความ สว นสาํ คญั ของเรอื่ ง คําศัพท หมวดอักษร ฉ ฉลองพระกรนอ ย ฉลองพระบาท คาํ แปล ฉลองพระองค เสื้อช้ันใน ฉวดั เฉวยี น รองเทา ฉิมพลี เสอ้ื ฉิวเฉียด อาการที่บินวนเวียนไปมาอยางผาดโผน, แลน เร็วอยางผาดโผน ฉุกคดิ ตน ง้วิ ตามเรื่องเลาจากไตรภูมิพระรวง ที่เชิงเขาพระสุเมรุ เปนที่อาศัยของฝูงครุฑ เฉกเชน เกอื บ, หวดุ หวดิ คิดขึ้นมาทันที, คิดไดใ นขณะนั้น, บงั เอญิ คดิ ได เหมอื นกบั , ราวกบั คําศพั ทภ าษาไทยระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 Page 11

คําศัพท คาํ แปล เฉโก ฉลาดแกมโกง ไมตรงไปตรงมา เฉลียวฉลาด มไี หวพรบิ , ฉลาด เฉากวย ขนมชนิดหนง่ึ มลี กั ษณะคลา ยวุน มีสดี ํา กินกับน้ําตาลทราย เฉยี บแหลม ปราดเปรื่อง, เฉลียวฉลาด, หวั ไว, หลกั แหลม เฉอ่ื ยชา ชกั ชา, อดื อาด โฉมเฉลา หญิงรูปงาม คําศัพท หมวดอกั ษร ช ชนก ชนนี คาํ แปล ชนกั พอ , บดิ า แม, มารดา ชมรม เครือ่ งแทงสัตวชนิดหนึง่ ทาํ ดว ยเหลก็ ปลายเปนรูปลูกศร มีดามยาว มีเชอื กชักเมือ่ ชมอย เวลาพงุ ไป ชมาย กลุมบุคคลที่มีจุดประสงคเพื่อประโยชนบางประการรวมกัน ชลนา ข้อี าย ชะงุม ชายตามอง, แวบมอง, เหลอื บดู ชะเงอ้ื ม นํา้ ตา ชง่ั ใจ เปนเพิงงุมลงมา ชั้นตน ย่ืนออกจากที่สูง ชนั หู ไตรต รองใหร อบคอบกอนตดั สนิ ใจ ชั่วนาตาป ขน้ั แรก, ขัน้ ตน ชางพูด อาการแสดงการเตรียมพรอมของสัตว เชนมา โดยยกหตู ง้ั ข้นึ ชาดก ตลอดป, ชั่วกัลปาวสาน, ตลอดไป ชาตวิ ฒุ ิ มีวาจาคมคาย ชํานาญ เรอื่ งพระพุทธเจาทม่ี ีมาในชาติกอ นๆ ตามท่ีกลาวไวใ นคัมภรี ชอื่ น้ี ชําระพระบาท ชาติกาํ เนิด เชี่ยวชาญ, คลองแคลว, จดั เจน ลางเทา คําศัพทภาษาไทยระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที่ 3 Page 12

คําศัพท คาํ แปล ชาํ ระพระหตั ถ ลางมือ ชาํ เลอื ง ชายตา, ดูทางหางตา, เมียงมอง, มองเผนิ ๆ, เหลอื บตาดู ชฟี อง ช่อื ผา ชนดิ หนงึ่ เน้อื นม่ิ บาง และเบา ใชต ดั เสอ้ื ผา สตรี. ชวี ประวตั ิ ประวัติชีวิตบคุ คล ชวี งั ชวี ิต ชุมสาย เครื่งสูงเปนรูปฉัตรสามชั้น มีสายไหมหอย เชดิ ชื่อเพลงหนาพาทยที่เกี่ยวกับอาการเยื้องกรายและการเดินของตัวละครใน นาฏกรรมไทย ใชในการเดินทางไกล เชต้ิ เส้อื คอปกชนดิ หน่ึง คําศัพท หมวดอักษร ซ ซองสุม ซองหาง คําแปล ซอ นเรน เกลี้ยกลอมผคู นใหม ารวมกนั เพ่อื กระทาํ การอยา งใดอยา งหน่ึง ซาว เครื่องคลองโคนหางชางอ(หรอื มา ) แอบแฝง, แฝง, ซอ น, แอบ, ซุกซอ น, ปกปด, ปด บงั ซา หร่ิม เอาขา วสารลางนํา้ ดว ยวธิ ใี ชมอื คนใหท ่ัวเพื่อใหส ะอาดกอนหงุ ตม เรยี กวา ซาวขา ว , โดยปริยายหมายถึง ลา งส่งิ อ่นื ดวยวิธเี ชนนน้ั ซกึ ช่อื ขนมอยางหนึง่ ทําดว ยแปง ถั่วเขยี ว ลกั ษณะคลายลอดชอง แตตวั เล็กกวา กินกบั เซซัง นาํ้ กะทิผสมนา้ํ เชอ่ื ม เซ็นช่อื แทรกอยู ลึกเขาไป เซลล เดินไมตรงทาง แซบ ลงนาม, ลงชอ่ื โซเซา หนว ยชีวิตที่เลก็ ที่สุด อรอ ย อดอยากจนไมม เี รย่ี วแรง คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 Page 13

หมวดอักษร ฌ คําศัพท คาํ แปล ฌาปนกิจ การเผาศพ, การปลงศพ คําศัพท ดงดาน หมวดอักษร ด ดลบนั ดาล ดวงมาลย คําแปล ดดั แปลง ปา ทม่ี ไี มแ นน หนาจนเกอื บไมเ หน็ แสงแดด ดน้ั ดน ใหเ ปน ไป ดาวดงึ ส ดอกไม ดาวเทยี ม เปลี่ยนแปลงใหตางไปจากสภาพเดิม ตะเวน, สญั จร, เดนิ ทาง ดาษเดยี ร ชือ่ สวรรคช ้นั ท่ี 2 แหง สวรรค 6 ชั้น มพี ระอินทรเปนผคู รอง ดิรัจฉาน วัตถุที่มนุษยสรางขึ้นเลียนแบบดาวบริวารของดาวเคราะห เพอ่ื ใหโ คจรรอบโลก ดกี รี หรือรอบเทหฟากฟาอื่น มีอปุ กรณส าํ หรบั เกบ็ รวบรวมขอ มลู เกยี่ วกับอวกาศและ ดีซาน ถายทอดขอมูลนั้นมายังโลก ทําใหกระจาย ดสุ ติ สตั วเ วนจากมนษุ ย เชน หมู หมา ววั ควาย (มกั ใชเ ปนคําดา ) เดนิ สะพดั ข้นั , ชั้น, ระดบั เดอื ดดาล ชือ่ โรคซึง่ เกดิ กับผูปว ยท่มี ีสารสีชนิดหนึ่งในนํ้าดี ซ่ึงเรยี กวา บลิ ิรูบนิ ไปปรากฏใน โดนใจ เลอื ดสงู กวา ระดบั ปกตใิ นคนธรรมดา ทําใหผ ปู ว ยมีอาการตัวเหลือง ช่ือสวรรคชัน้ ท่ี 4 แหง สวรรค 6 ช้ัน หมนุ เวยี น โกรธมาก, พลงุ พลา น, ดาลเดอื ด, เดอื ดแคน ถูกใจ, ตอ งใจ, ถูกอกถูกใจ คําศพั ทภาษาไทยระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3 Page 14

คําศัพท หมวดอักษร ต ตนทาง ตน สังกดั คําแปล ตบะ ปากทางเขาออกอยางทางเขาบอนการพนันเปนตน เชน ดูตนทาง ตรอมตรม หนว ยงานทสี่ ังกัดอยู ตระกอง ความเพียร, เครอ่ื งเผาผลาญกเิ ลส, การขมกิเลส ตระการ ทําใหโศกเศราเสียใจเปนอยางมาก ตระเตรยี ม กริ ยิ าโอบกอดไวใ นวงแขน ตระพอง อยางงดงาม, อยา งชวนใหย นิ ดหี รอื พอใจ ตระพงั จดั เตรียมใหเ รยี บรอ ยไวก อ นลว งหนา ตระเวน สวนที่นูนเปนปุม 2 ขางที่ศีรษะชาง ตระหนกั ทีซ่ ึ่งลาดลึกลงไปในดินแตน อ ยพอนํ้าขงั ได ตรชี า เทย่ี วตรวจตราสถานการณทัว่ บริเวณ ตลกขบขัน เกิดความรูความเขาใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยาง ชดั เจน ตลอดกาล ตาํ หนิ กลาวโทษ ตลบั ทน่ี า ขาํ ขนั , ท่ีนา หวั เราะ ตวาด ตลอดไปไมเ วน วา ง, ตดิ ตอ กนั ตลอดไป ตอแหล ภาชนะอยางหนึ่ง สําหรับใสสิ่งของ โดยมากมีรูปกลมๆ ขนาดไมใหญน กั มฝี าปด ตะกละตะกลาม ขเู ตม็ เสยี ง, คกุ คามดว ยแผดเสยี ง, พดู เสยี งดงั ดว ยความโกรธ ตะโกรง โกหก, พดู ปด, พูดเท็จ ตะคอก กนิ ไมเ ลือก, เหน็ แกก นิ ตะแคง ทะเยอทะยาน อยากได เต็มไปดวยความอยาก ตะกลาม ตะบนั ตวาด, ขู ตะราง เอาขางลง เชน นอนตะแคง, หันขางเขา เชน ตะแคงตัวเขาไป ตะลุมบอน คําประกอบกริยาหมายความวา ไมมียับยั้ง, เรอ่ื ยไป ตะหลวิ ที่คุมขังนักโทษ ตกั บาตร ตอ สูกนั ดวยอาวธุ อยางชลุ มุน, ตอ สูกนั อยางชลุ มุน ตงั เก เครื่องมือทําดวยเหล็ก ใชแ ซะหรือตักของทที่ อดหรอื ผดั ในกระทะ เอาของใสบาตรพระ ชื่อเรือตอชนิดหนึ่งใชจับปลาตามชายฝงทะเล ทางดานคอนมาทางหัวเรือมีเกง 2 ช้นั คําศัพทภ าษาไทยระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3 Page 15

คําศัพท คาํ แปล ตังฉาย ผักดองแหงแบบจีนชนิดหนึ่งใชปรุงอาหาร ตัง้ ลงไว กาํ หนดไว ตัดพอ ตอ วา ดว ยความนอ ยใจ ตาบอดไดแ วน ผทู ่ไี ดส ่งิ ท่ไี มเปน ประโยชนแกต น ตามประสา วสิ ยั ทเ่ี ปนไป ตามรอย ตามไปตดิ ๆ ไมใหร ตู วั โดยสังเกตจากรองรอยของสิ่งที่ตาม ตาลปต ร พดั ใบตาล มดี า มยาว สําหรับพระใชใ นพิธีกรรม เชน ในเวลาใหศ ลี ตอ มาอนโุ ลม เรยี กพัดที่ทาํ ดวยผาหรือไหมซงึ่ มลี ักษณะคลายคลงึ เชนนั้นวา ตาลปต รดว ย ตํานาน เรื่องแสดงกิจการอันมีมาแลวแตปางหลัง, เรือ่ งราวนมนานทีเ่ ลา กันสบื ๆ มา ตาํ รวจจราจร ผูมีหนาท่เี ก่ยี วขอ งกํากบั ดแู ลหรือควบคมุ การใชทางของผขู บั ข่ี คนเดนิ ทาง หรอื คนทีจ่ ูง ขี่ หรือไลต อนสตั ว ตเิ ตยี น ยกสิ่งไมด ีขนึ้ พูดเพอ่ื ตําหนิ ตีความ วิเคราะหถอยคําหรือขอความในบทกฎหมาย นิติกรรม สัญญา หรอื เอกสารอนื่ ๆ ท่ี มีปญหาสงสัย หรือที่มีความหมายไมชัดเจน เพื่อกําหนดความหมายอันแทจริงของ ตงึ เครยี ด ถอยคาํ หรือขอ ความนนั้ ๆ เตน็ ท ใกลจ ะถึงขัน้ แตกหกั เตาหู ท่ีพักหรอื ทีอ่ าศัย ยายไปได โดยมากทําดว ยผาใบ ขึงกบั เสาหรือหลัก ถั่วเหลอื งทโ่ี มเ ปนแปง แลว ทาํ เปน แผน ๆ ใชเปนอาหาร มี 2 ชนิด คือ เตาหูขาว แตกหกั และเตา หเู หลือง โตมร เดด็ ขาดถึงทส่ี ดุ ไมขางใดก็ขา งหนง่ึ เปนไดร ดู ีกนั ไตฝนุ อาวธุ สาํ หรับซัด, สามงามที่มีปลอกเปนใบโพสวมอยู ชื่อพายหุ มนุ ทมี่ ีกําลงั แรงจดั ทาํ ใหม ีฝนตกหนกั มาก เกดิ ข้ึนในบรเิ วณภาค ไตรจกั ร ตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟกและในทะเลจีน ภพทงั้ สาม คือ กามภพ รูปภพ อรปู ภพ, ตามไสยศาสตรวา สวรรค มนุษยโลก ไตรเพท บาดาล ไตรภูมิ ชอ่ื คมั ภรี ศ าสนาพราหมณในสมยั พระเวท มี 3 คัมภีร คือ ฤคเวท ยชุรเวท สามเวท ไตรมาส สามโลก ไดแ ก กามภูมิ รปู ภูมิ และ อรูปภมู ิ ไตส วน ชวงระยะเวลา 3 เดอื น ถามไปทลี ะข้ันเพื่อใหไดข อเทจ็ จริง คําศัพทภ าษาไทยระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 3 Page 16

หมวดอักษร ถ คําศัพท คาํ แปล ถลก ดึงรง้ั ใหส ูงขน้ึ อยางถกผานงุ ถกแขนเสอ้ื , ดงึ ใหห ลดุ ออกมา ถลมทลาย พังทลายลง ถลอก ผิวหลุดออกเพราะถูกกระทบ ถวงความเจริญ กระทําการเพื่อไมใหมีความกาวหนา ถวัลย ครอง (ราชสมบัติ) ถวายบังคม ไหว ถอ ยคาํ คําท่ีกลาว ถัก เอาเสน เชอื กหรอื หวาย เปน ตน ไขวสอดประสานกันใหเปนลวดลายตางๆ บาง ให เปน เสนและเปน ผืนบา ง ใหติดตอ กันบาง ถายทอด บอกความรูท ่ตี นมแี กผูอ่ืน ถา ยสาํ เนา นําตนฉบับเดิมไปจําลองแบบขึ้น ถึงพรกิ ถงึ ขิง เผด็ รอ นรนุ แรง ถอื เพทไสย เชี่ยวชาญเรื่องเวทยมนตคาถา โถม โผเขาไปอยางรวดเร็ว, รวมกําลังพุงเขาใส ไถง พระอาทิตย หมวดอกั ษร ท คําศัพท คาํ แปล ทรงบําเพ็ญพระราชกุศล ทรงปรารถนา ทําบุญ ทรงผนวช ตองการ,ปรารถนา ทรงพระกนั แสง บวช (ชาย) ทรงพระเครื่องใหญ รอ งไห ทรงพระดําเนิน ทรงพระบรรทม ตัดผม ทรงพระปนาสะ เดนิ เขา นอน จาม คําศัพทภาษาไทยระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3 Page 17

คําศัพท คําแปล ทรงพระราชปรารถนา อยากได ทรงพระราชวินิจฉัย ตัดสนิ ทรงพระสรวล หวั เราะ ทรงพระอักษร อา นหนงั สอื ทรชน คนชว่ั , คนเลว, คนพาล ทรัพยากร สิง่ ทั้งปวงอนั เปนทรัพย ทรานซสิ เตอร อปุ กรณข นาดเล็กมาก ประกอบดว ยผลกึ ของสารกง่ึ ตวั นาํ มีขว้ั ไฟฟา 3 ข้ัวสาํ หรบั ตอเขากับวงจรไฟฟาภายนอก ใชสําหรับควบคุมและขยายกระแสไฟฟา ทราบฝาละอองธุลีพระ รู บาท ทรามเชย หญิงงามนารัก, นางงามผูเปน ทีร่ ัก ทฤษฎีบท ขอความท่พี ิสจู นแ ลว วา เปนจรงิ และใชในการอา งองิ เพ่ือพสิ ูจนขอ ความอ่นื ได ทศนิยม จํานวนจริงในรูปเลขฐานสิบ โดยกาํ หนดจดุ จดุ หนง่ึ ใหอ ยขู า งหนา หรอื อยรู ะหวา ง ตัวเลขตางๆ ทอ งผูก อาการที่อุจจาระแข็งถายออกลําบาก ทอดพระเนตร ดู ทะมืน่ สูงตระหงาน, สงู เสยี ดเมฆ ทะเลสาบ หว งนาํ้ ใหญท ีม่ แี ผน ดินลอ มรอบ มี 2 ชนิด คือ ทะเลสาบน้ําเค็ม และ ทะเลสาบน้ํา จดื ทักษะ ความสามารถ, ความถนัด, ความชํานาญ, ฝไมลายมอื , ความสามารถเฉพาะ ทกั ษณิ ทิศใต, ทางใต ทัดทาน กลา วหรอื แสดงออกเปน ทาํ นองหา มหรอื ทว งเพอ่ื ใหง ดไว ทับศัพท รับเอาคําของภาษาหนึ่งมาใชในอีกภาษาหนึ่งโดยวิธีถายเสียงและถอดอักษร ทัศนา ด,ู เหน็ , สงั เกต ทศั นปู กรณ อปุ กรณชวยการเหน็ ทางมาลาย พนื้ ทที่ ีท่ ําไวสําหรับใหคนเดินเทาขา ม โดยทาํ เครอ่ื งหมายเปน เสน หรอื แนวหรอื ตอกหมดุ ไวบ นทาง ทารก เดก็ ทีย่ งั ไมเ ดยี งสา ทําไขหู ทําเปน วา ไมไ ดยิน คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 3 Page 18

คําศัพท คําแปล ทํานองเสนาะ วิธิการอานออกเสียงอยางไพเราะตามลีลาของบทรอยกรองประเภทโคลงฉันทน กาพย กลอน ทํานบุ ํารุง เอาใจใสด ูแลเลยี้ งดู ทําบุญทําทาน ประกอบกรรมดี, ทําดี, ทําบุญ ทาํ เปนเจา ทาํ ทวี า ถกู เจาเขาสงิ ทาํ รกั ทําเปนรักใคร ทําเลยี บ พดู จาแทะโลม ทฆิ ัมพร ทอ งฟา ทิชาชาติ นก ทฐิ ิ ความถือดี, ความเยอ หยงิ่ , ความทระนง, ความอวดดอ้ื ถอื ดี เทพธดิ า เทวดาผูหญิง เทพอปั สร นางฟา เทพารักษ เทวดาผดู แู ลรกั ษาทแ่ี หง ใดแหง หนง่ึ เทวรปู รูปเทพเจาหรือเทวดาที่เคารพนับถือ เทวสถาน สถานทซ่ี ่ึงถือวาเปนทปี่ ระทบั หรอื สิงสถติ ของเทพเจาหรอื เทวดา, ท่ปี ระดษิ ฐาน เทวรปู เทวญั พวกชาวสวรรคทม่ี ตี าทพิ ย หทู พิ ย และกินอาหารทิพย เทศกาล คราวสมัยท่ีกําหนดไวเปนประเพณเี พอื่ ทําบุญและการร่ืนเริงในทองถ่ิน เทอญ เถดิ เทอม ระยะเวลาทก่ี าํ หนดไวเ ปน ตอนๆ เทย่ี งธรรม ยตุ ธิ รรม, เที่ยงตรง แท็กซ่ี รถยนตร บั จางสาธารณะ โดยสารไดไมเ กิน 7 คน แทรกแซง แทรกเขาไปเกี่ยวของในกิจการของผอู นื่ โทมนัส ความเสียใจ, ความโศกเศรา, ความเศรา โทสะ ความโกรธ, ความฉุนเฉียว, ความโมโห คําศัพทภาษาไทยระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 3 Page 19

คําศัพท หมวดอักษร ธ ธนาณัติ ธรณนิ ทร คาํ แปล ธญั ญาหาร ตราสารซึ่งท่ีทําการไปรษณียแ หงหน่งึ สั่งใหท ่ที ําการไปรษณยี อกี แหง หนึ่งจา ยเงิน ธารพระกร ผูเ ปนใหญใ นแผนดิน ธํามรงค อาหารคือ ขาวเปลือก ธบิ ดนิ ทร ไมเ ทา ธรุ กรรม แหวน, วงแหวน พระราชาผเู ปน ใหญ คําศัพท กิจกรรมเกี่ยวกับการบริหารการเงิน นที นพรตั น หมวดอกั ษร น นมัสการ นรชน คําแปล นรสหี  แมน าํ้ นกั หนา แกว 9 อยาง คือ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นลิ มกุ ดา เพทาย ไพฑูรย นดั ดา การแสดงความออ นนอ มดว ยการกราบไหว นยั นา คน นาค คนปานสงิ หหรอื นักรบผมู หาโยธนิ นามธรรม มาก, หนกั หนา, อยา งย่ิง หลาน นาํ้ จัณฑ ดวงตา น้าํ ใสใจจรงิ สตั วใ นเทพนยิ าย เปน งใู หญม หี งอน นติ ยสาร สิง่ ทไี่ มสามารถรับรไู ดด วยตา หู จมูก ลิน้ และสัมผสั , ความไมมีรูป, ความไมมี นมิ มานรดี ตวั ตน, การจับตองไมได เนรเทศ เหลา จติ ใจทแี่ ทจริง หนังสือพิมพที่ออกเปนรายคาบ เชน นิตยสารรายสัปดาห นติ ยสารรายเดอื น สวรรคชน้ั ท่ี 5 บังคับใหออกไปเสียจากประเทศหรือถิ่นที่อยูของตน คําศัพทภาษาไทยระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 3 Page 20

คําศัพท คาํ แปล เนบิ นาบ มจี งั หวะยดื ยาด, คอนขางชา แนวทาง หนทาง, วิถที าง โนต เครื่องหมายดนตรี โนม นา วใจ ชกั ชวนใหเ หน็ ดเี หน็ งามหรอื ใหโ อนออ นตาม นที แมนา้ํ คําศัพท หมวดอักษร บ บงกช บงการ คาํ แปล บทพากษ อบุ ล, ปทุม, บัว, ดอกบวั บรรดา ระบชุ ใ้ี หด าํ เนินการตาม, ควบคุมดูแลสั่งการเฉียบขาด บรรดาศักดิ์ ใหเสียงตางๆ ตามบทของตัวละครแตละตัวที่แสดงในภาพยนตร เปนตน บรรทม ทั้งหลาย, ทั้งปวง, ท้ังส้นิ , ทั้งหมด บรรเทอื ง ยศ บริภาษ เขา นอน บะหมี่ ทําใหดีขนึ้ ดูถูก, ครหา, กลาวราย, ประจาน, ผรสุ วาท บญั ญตั ิ อาหารของจนี ชนดิ หนงึ่ ทาํ ดว ยแปง สาลี มสี ีเหลอื ง เปนเสนแบนเลก็ ตม สกุ แลว บัลลังก ปรุงดว ยเครือ่ ง บากบั่น ขอความที่ตราหรือกําหนดขึ้นไวเปนขอบังคับ เปน หลกั เกณฑ หรอื เปน กฎหมาย บาจี้ แทน หินท่ีใชเปน ทน่ี งั่ บาลี ทําดวยความพยายามหรือตั้งหนาฝาความยากลําบาก บํานาญ บายอ ภาษาที่ใชเปนหลักในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท บําบัด เงินตอบแทนที่ไดทํางานมาเปนเวลานาน ซึ่งจา ยเปนรายเดือนจนตลอดชีวิต เมอื่ บําบัดรกั ษา ออกจากงาน บาํ เพญ็ ทําใหเสื่อมคลาย, ทําใหทุเลาลง เยียวยาใหคลายหรือทุเลาลงจากอาการที่เปนอยู ทาํ ใหเต็มบรบิ รู ณ, เพม่ิ พนู คําศัพทภ าษาไทยระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 Page 21

คําศัพท คาํ แปล บําราบ ทําใหราบคาบสิ้นไป บําราศ หายไป, จากพรากไป บดิ เบอื น ทําใหผ ิดแผกไปจากขอเท็จจริง, ทาํ ใหผิดแผกแปลกไปจากเดิมหรอื จากขอเท็จจรงิ บิดเบือนกายนิ แปลงกาย บดิ ร พอ บกุ เบกิ เรม่ิ ทาํ เปน คนแรกหรอื พวกแรก บุกรุก ลวงล้ําเขาไปในเขตที่หวงหาม บุคลกิ ลกั ษณะ ลกั ษณะจาํ เพาะตวั ของแตละคน บุญบารมี คุณงามความดีซึ่งไดบําเพ็ญมาทําใหยิ่งใหญ บุรุษไปรษณยี  ผูท ที่ ําหนาทีส่ ง จดหมายและสิ่งของอ่ืนๆ ทางไปรษณีย บหุ งัน ดอกไม บุหงา ดอกไมช นดิ ตา งๆ มี มะลิ กระดงั งา กหุ ลาบเปน ตน บุหลัน ดวงจนั ทร เบง อวดวา มอี าํ นาจ, อวดทาํ เปน ใหญ เบญจวรรณ นกแกว ขนาดโตมหี ลายสี เบด็ เสรจ็ รวมดว ยกนั , รวมทั้งหมด, ครบถวนทุกรูปแบบ เบรก เครื่องหามลอรถใหหยุด เบ้ยี หวัด เงินที่พระมหากษัตริยพระราชทานเปนงวด ๆ ใหแ กเ จา นายหรือผูท่ีรับราชการ สนองพระเดชพระคุณ แบงก นิตบิ ุคคลทีต่ ั้งขนึ้ ตามกฎหมาย บรษิ ัทจาํ กดั หรอื บรษิ ัทมหาชนจํากดั ทีใ่ ชชื่อหรอื คําแสดงชื่อวา ธนาคาร ซ่ึงประกอบธรุ กิจเก่ยี วกับเงนิ และธรุ กิจหลกั ทรพั ย โบกขรณี สระบวั โบราณคดี วิชาที่ศึกษาคนควาเกี่ยวกับโบราณวัตถุและโบราณสถาน โบราณวตั ถุ สังหารมิ ทรพั ยท เี่ ปน ของโบราณไมว า จะเปน สง่ิ ประดษิ ฐหรอื เปนส่งิ ทีเ่ กิดขนึ้ ตาม ธรรมชาติ หรอื ท่เี ปน สว นหน่ึงสวนใดของโบราณสถาน ซากมนุษย หรือซากสตั ว โบราณสถาน ซึ่งเปนประโยชนในทางศิลปะ ประวัตศิ าสตร หรือโบราณคดี โบสถ สง่ิ ที่เคล่ือนทีไ่ มไ ด เชน โบสถ วิหาร วงั มอี ายเุ กากวา 100 ปข้นึ ไป สถานที่สําหรับพระสงฆใชประชุมทําสังฆกรรม เชน สวดพระปาติโมกข อุปสมบท มีสีมาเปนเครื่องบอกเขต, อนุโลมเรียกสถานที่ประกอบพิธีกรรมของ คาํ ศพั ทภาษาไทยระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3 Page 22

คําศัพท คาํ แปล ศาสนาอื่นวา โบสถ เชน โบสถพราหมณ โบสถคริสต คําศัพท ปกปอง หมวดอกั ษร ป ปฏิกรรมสงคราม ปฏญิ ญา คาํ แปล คมุ ครองปองกันใหพ น จากอันตรายหรือสิง่ รบกวน ปฏิญาณ การชดใชคาเสียหายที่ฝายชนะสงครามเรียกรองเอาจากฝายพายแพ ปฏิทิน การใหคําม่นั สัญญาหรือการแสดงยืนยนั โดยถอื เอาส่ิงศักดส์ิ ทิ ธิ์หรอื ความสจุ รติ ใจ ปฏิปทา เปนทต่ี ั้ง ปฐพี ใหคํามั่นสัญญา โดยมากมักเปนไปตามแบบพิธี ปฐมทัศน แบบสาํ หรบั ดวู นั เดอื น ป ปฐมวัย ทางดําเนิน, ความประพฤติ, วิถปี ฏบิ ตั ิ ปรนนบิ ตั ิ ผนื ดนิ ปรปกษ การแสดงครั้งแรก ปรเมศวร วัยตน , วยั เดก็ , วยั เยาว ปรโลก เอาใจใส, ดแู ล, เลี้ยงดู ประกวด ขาศึก, ศตั รู, ฝายตรงขาม, ขาศึก, ศตั รู, คแู ขง, คูป รับ, คูอ ริ, คกู ดั ประกอบการ ผเู ปน ใหญยงิ่ , พระอศิ วร ประกนั ชีวติ โลกหนา , ชีวิตหลังความตาย, โลกหลังความตาย แขง ขนั เพ่ือเลอื กเฟนเอาดี โดยมีการตัดสนิ ประกายพรึก ดาํ เนนิ กจิ การ ชื่อสัญญาประกนั ภัยชนดิ หนง่ึ ซึง่ บุคคลคนหนง่ึ เรียกวา ผูรบั ประกนั ภัย ตกลงจะ ประกาศ ใชเงินจํานวนหนึ่งใหแกผูรับประโยชนโดยอาศัยความทรงชีพ หรอื มรณะของ ประคอง บคุ คลคนหนงึ่ และในการน้ผี ูเ อาประกันภัยตกลงจะสง เงนิ ซง่ึ เรยี กวา เบ้ีย ประกนั ภยั ใหแ กผ ูรบั ประกันภัย ดาวรุง คอื ดาวพระศกุ รท เี่ ห็นในเวลาเชา มดื , ถา เหน็ ในเวลาหวั คํ่า เรยี กวา ดาว ประจําเมือง ขอความที่แจงใหทราบทั่วกัน พยุงใหทรงตัวอยู ชว ยพยุงไมใหเซไมใ หล ม คาํ ศัพทภาษาไทยระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปท ี่ 3 Page 23

คําศัพท คาํ แปล ประจักษ ปรากฏชัด อาจเปนทางตาหรือใจก็ได ประจาํ เดอื น เลือดประจําเดือนที่ถูกขับถายจากมดลูกออกมาทางชองคลอด ประเจดิ ประเจอ อาการกระทําท่ีถอื กนั วา นาละอายหรอื ไมบังควรใหค นอน่ื เห็น ประชด พดู แดกดนั เพราะไมพ อใจ แกลง ทาํ ใหเ กนิ ควร ประชดประชัน แดกดนั , กระทบกระแทก, กระแหนะกระแหน ประชวร เจบ็ ปวย ประชาธิปไตย ระบอบการปกครองที่ถือมติปวงชนเปนใหญ, การถือเสียงขางมากเปนใหญ ประณต ไหว, วนั ทา ประณตี ละเอยี ดลออ, เรียบรอยงดงาม, พถิ ีพถิ นั ประดดิ ประดอย บรรจงทําใหงดงามและละเอียดลออยิ่งขึ้น ประดิษฐาน ตง้ั ไว (ใชแ กส ่งิ ท่ีเคารพนับถอื ) แตงต้ังไวในตาํ แหนง สูง ประเดน็ ประเดน็ ประทักษิณ การเวยี นขวา โดยใหสง่ิ ทีเ่ รานับถือหรือผทู ่ีเรานับถอื เปน ตนอยทู างขวาของผเู วียน ประทับ นง่ั ประทับแรม พกั คา งคืนในทอ่ี ื่น ประทานโทษ ขอใหย กเวน โทษ ประธาน คํานามตําแหนงหนากริยา ประนม ยกกระพุมมือ, ยกมอื ขึ้นกระพมุ ประนอม อะลมุ อลวย, ทําการปรองดอง, รอมชอม, ผอ นหนกั ผอ นเบา ประพนั ธ แตง , เรยี บเรยี ง, รอ ยกรอง, รอ ยเรยี ง, เขยี น ประมวล รวบรวมใหเขาระเบียบเปนหมวดหมู ประเมินคา ประมาณ, ตีราคา, คดิ คาํ นวณ, ตคี า, ประเมิน ประโยค คําพดู หรอื ขอความทีไ่ ดความบรบิ รู ณตอนหนงึ่ ๆ ประโยคความเดียว ประโยคที่มีความบริบูรณเพียงความเดียว ประลอง ทดสอบความรูความสามารถดวยการตอสูหรือแขงขันกัน ประโลม ทําใหเปนที่เบิกบานพึงอกพึงใจ ประวสิ รรชนยี  ใสเคร่อื งหมายวิสรรชนยี  ประสม ผสม, รวมกนั , ปนกนั ประสาท สวนของรางกาย มลี ักษณะคลา ยเสน ใย มีหนา ที่นําคําสงั่ และความรสู ึกไปสหู รอื คาํ ศพั ทภาษาไทยระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ 3 Page 24

คําศัพท คาํ แปล ออกจากสมองหรืออวัยวะสวนอื่นของรางกาย ปรักหักพัง ชาํ รุด, ทรดุ โทรม, ชาํ รดุ ทรดุ โทรม, เสอ่ื มโทรม, ผพุ งั ปราดเปรียว วอ งไว, คลองแคลว, แคลวคลองวองไว ปราย ซัด หวา น สาดใหกระจายออกไป ปรารมภ วติ ก, ราํ พงึ , ครนุ คิด ปราศจาก พนไป, ไมมี ปรูฟ พสิ ูจน ปลอบประโลม ปลอบใจ, ปลอบ ปลอยวาง พิจารณาจนเห็นจริงแลวปลอยไปตามสภาพ ปล้าํ ใชแ ขนกอดรัดจบั กมุ เพอ่ื จะใหอ กี ฝายหนง่ึ ลม หรอื ใหอ ยูในอาํ นาจที่จะทาํ ได ตามใจตน ปลกุ ใจ เราใจใหกลาหาญ ทาํ ใหกระตือรือรน ปอน ซอมซอ อตั คัด ขดั สน ปกษา นก ปง อาหารชนิดหนึ่งทําดวยแปงผสมเชื้อ เรียกวาขนมปง ปจ จามติ ร ศตั รู ปากเปราะ พูดจาวาคนงายๆ ปากหอยปากปู ชอบนินทาเล็กนินทานอย ปากเหยี่ยวปากกา สิ่งท่ีนากลวั อันตราย, สิง่ ท่ที ําใหเ กดิ ความเสียหายเดือดรอ น ปาฏิหาริย สิง่ ทน่ี า อัศจรรย, ความอัศจรรย ปาเตะ ช่อื ผาโสรงชนิดหน่งึ ใชเคลอื บดวยข้ีผง้ึ เหลวบางตอนท่ีไมตอ งการใหมีสีสนั หรอื ลวดลาย ปารเกต แผนไมเ ล็กๆ ทีใ่ ชปูพ้ืนหอ งสลับกันเปนลายตางๆ ปดบัง ไมเ ปด เผย ปดปกเปนกกกอ โอบอุมทนุถนอมไว ปดปาก ไมพ ดู หรือหามไมใหพ ูด ปอ ธกิ สรุ ทนิ ปท่ีเดอื นกมุ ภาพันธม ี 29 วนั ปุถุชน สามัญชน, บุคคล, คน เปนการเกการกี๋ เปน เรอ่ื งโก ทันสมยั คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 Page 25

คําศัพท คาํ แปล เปนโทษ ไดร บั โทษ ตดิ คกุ เปนปเ ปนขลุย ถูกคอกัน, เขา กนั ไดด ี เปน ฝง เปน ฝา แตงงาน, มีครอบครัว เปน วรรคเปน เวร ไมห ยดุ หยอ น, ไมรูจักจบส้นิ เปน สาวเปน นาง มีอายุพนวัยที่เปน เด็กหญงิ เปน หนา เปน ตา ทโ่ี ดดเดน , ที่เชิดหนาชตู า เปราะบาง ท่หี ักงา ย, ทแ่ี ตกงา ย เปลอื งตวั เอาตวั เขา แลกกับส่ิงทไ่ี มคมุ คา เปลืองทรัพย ใชจายเงินจํานวนมากโดยใชเหตุ เปอรเ ซน็ ต จํานวนทีเ่ ทียบเปน สวนรอยหรอื รอ ยละ แปลงกาย เปลยี่ นรปู กายท้ังหมดใหกลายเปนอีกรูปกายหนงึ่ แปะ เจี๊ยะ เงนิ กนิ เปลา โปรดเกลา กรุณา โปรดปราน เอ็นดู รักใคร หรอื ชอบเปน พเิ ศษ ไปเฝา ไปหา คําศัพท หมวดอกั ษร ผ ผกา ผจง คาํ แปล ผจญ ดอกไม ผดุง ตั้งใจทําใหด ี ผนิด ตอสกู ับสง่ิ ที่เปน อันตรายหรือยากลําบาก ผมหยิก รักษา, คํ้าจุน ผลึก ปด ใหแ นน ผสมผสาน เสนผมทม่ี ีลกั ษณะงอหงกิ ผองแผว ชือ่ แกว อยางหนึ่งมีสีใสขาว, สิ่งมีลักษณะขาวใสด่ังแกว ผอนคลาย รวม, ผสม, ปนเป สดชืน่ , เบิกบาน ลดความตึงเครียด คาํ ศัพทภ าษาไทยระดับช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 3 Page 26

คําศัพท คาํ แปล ผดั ขอเลอ่ื นเวลาไป ผดั วันประกันพรุง ขอเลอื่ นเวลาออกไปครัง้ แลวครั้งเลา ผนั แปร เปลี่ยนแปลงไป, กลับกลายไป ผา ทิพย ผา ท่หี อยหนาฐานพระพุทธรูป ผายผัน กลบั ไป, เดนิ ไป ผูบรโิ ภค ผูซอ้ื , ลกู คา, ผใู ช ผวู จิ ารณ ผูใหคําตัดสินสิ่งที่เปนศิลปกรรมหรือวรรณกรรมวามีคาความงามความไพเราะดี อยางไรหรือมีขอขาดตกบกพรองอยางไรบาง, ตชิ ม เผด็จ ทําใหส้นิ ไป เผอญิ ที่เกดิ ข้ึนโดยไมรูตวั หรือไมคาดหมาย เผา พนั ธุ กลุมชนที่มเี ชอ้ื ชาตเิ ดยี วกนั แผซา น ซึมซาบกระจายไปทั่ว ไผท แผน ดนิ คําศัพท หมวดอักษร ฝ ฝาพระบาท ฝาพระหัตถ คําแปล ฝาละมี ฝา เทา ฝปาก ฝา มอื ส่งิ ทปี่ ดปากหมอ ดนิ ทเ่ี ปนหมอ ขาวหมอแกง คําศัพท คารมของผูกลาว, โวหารในการเจรจา พงศาวดาร หมวดอกั ษร พ พยคั ฆ พยับ คาํ แปล เรอ่ื งราวของเหตกุ ารณเกยี่ วกบั ประเทศชาตหิ รอื พระมหากษตั รยิ ผเู ปนประมขุ ของ ประเทศชาตินั้น เสอื ครึม้ , มดื มวั คาํ ศัพทภาษาไทยระดับชั้นมธั ยมศึกษาปท ่ี 3 Page 27

คําศัพท คาํ แปล พยางค สวนของคําพูดที่เปลงเสียงออกมาแตละครั้ง พรรณนา กลา วเปน เรอ่ื งเปน ราวอยา งละเอยี ด ใหผ ฟู งนึกเหน็ เปน ภาพ พรหมจารณิ ี หญงิ ผปู ระพฤตพรหมจรรย ไมขอ งแวะเรือ่ งเพศสมั พนั ธเ ด็ดขาด พรหมมาสตร ศรทพ่ี ระอนิ ทรประทานใหร ณพกั ตรซง่ึ ตอ มาคอื อินทรชิต พระกรรณ หู พระกระยาเสวย ขาว พระกฤษฎี เอว , สะเอว พระกลด รมดามยาว พระกลดคันสนั้ รม พระขนน หมอนองิ พระเขนย หมอนหนนุ พระจกั รี ผูถือจักร คือ พระนารายณ พระฉาย กระจกสองหนา พระชงฆ แขง พระชนมพรรษา อายุ พระชานุ เขา พระชามาดา ลกู เขย พระชายา เมยี (เจานาย) พระชวิ หา ลนิ้ พระเชษฐภคณิ ี พส่ี าว พระเชษฐา พี่ชาย พระทน่ี ง่ั เรอื น (พระราชา) พระทน่ี ่ังเกาอี้ เกา อ้ี พระแทน บรรทม เตยี งนอน พระธํามรงค แหวน พระนขา เลบ็ พระนลาฏ หนา ผาก พระนาภี สะดอื พระนาสกิ จมกู คําศพั ทภาษาไทยระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 Page 28

คําศัพท คาํ แปล พระบรมราชโองการ คําส่งั (พระราชา) พระบรมราโชวาท ถอ ยคําทีพ่ ระมหากษตั ริยแ นะนําตกั เตอื นหรอื สั่งสอน มกั กลาวแกท ี่ประชุม พระบรรจถรณ พระบัญชร เครื่องลาด , ท่นี อน พระบาท พระปราง หนา ตา ง พระปฤษฎางค พระปต จุ ฉา ขา พระปต ุลา พระปลกะ แกม พระปุจฉา พระพกั ตร หลงั พระพาหา พระมหากรณุ าธิคณุ อา (หญงิ ) พระมเหสี อา(ชาย) พระมัสสุ ไฝ พระมาลา พระยอด คําถาม พระรากขวญั พระราชชนนี หนา ผาก พระราชดาํ รสั พระราชดาํ ริ แขน พระราชธดิ า พระราชปนดั ดา บุญคุณ พระราชประสงค พระราชประสงค เมยี (พระราชา) พระราชเสาวนีย หนวด พระราชหัตถเลขา พระราชโอรส หมวก ฝ (ชอ่ื โรค) ไหปลารา แม คาํ พูด ความคิด ลกู หญงิ หลาน(ลูกของลูก) ความตองการ, ความประสงค ความตองการ, ความประสงค คาํ สง่ั (พระราชนิ )ี จดหมาย (พระราชา) ลูกชาย คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3 Page 29

คําศัพท คาํ แปล พระลักษณ พระอนุชาตางพระมารดาของพระราม พระโลหติ เลอื ด พระวิสตู ร มาน , มงุ พระศอ คอ พระสนับเพลา กางเกง พระสัสสุ แมผัว ,แมยาย พระสัสสุระ พอ ตา พระสาง หวี พระสุณสิ า ลกู สะใภ พระสรุ ยิ ศ รี พระอาทิตย พระเสโท เหง่อื พระเสมหะ เสลด พระแสงกรรบดิ มดี โกน พระแสงปนาค กรรไกร พระหนุ คาง พระหตั ถ มอื พระหารณย ปาใหญ พระอัยยิกา ยาย ยา พระอรุ ะ อก พระโอสถ ยาแกโ รค พระโอสถมวน บหุ รี่ พรน่ั พรงึ รสู กึ หวนั่ กลวั พลความ ขอความที่ไมมีสาระสําคัญ พลศึกษา การศึกษาในทางบํารุงกายโดยวิธีออกกําลัง พลัดพราก จากกันไป, แยกออกจากกันไป พลาย ชางตวั ผู พลาสมา สว นประกอบของเลอื ดทแ่ี ยกเอาเมด็ เลอื ดออกแลว พลิกแพลง ดดั แปลง, เปลย่ี นแปลง, ปรบั พสกนิกร พลเมอื ง, ประชาราษฎร, ประชากร คาํ ศพั ทภาษาไทยระดับช้นั มัธยมศึกษาปที่ 3 Page 30

คําศัพท คําแปล พสุธา ผูทรงไวซึง่ ทรัพย คือ แผน ดิน พอ ง ตรงกนั , เหมอื นกนั , ซ้ํากนั พะเนนิ คอนใหญส าํ หรบั ตีเหลก็ พชั นี พดั พดั โบก เคร่อื งสูงสาํ หรบั แสดงอสิ ริยยศ เปนพัดสาํ หรบั โบกลมถวายพระมหากษัตริยซ ่ึง ประทับ ณ ทสี่ งู พนั ธกุ รรม ลกั ษณะนสิ ัย ตลอดจนโรคหรือความวิกลวิการบางอยางที่ลูกหลานสืบมาจากพอแม พากย ใหเ สยี งตางๆ ตามบทของตัวละครแตละตัวที่แสดงในภาพยนตร เปนตน พานรนิ ทร ลิง พายัพ ทศิ ตะวนั ตกเฉยี งเหนอื พาหนะ เคร่ืองนาํ ไป, เครื่องขับขี่, สตั วสําหรับขีบ่ รรทุกหรอื ลากเขน็ พาํ นัก อย,ู พกั , อาศัย, พกั พิง พิเคราะห ใครครวญหรือพิจารณาอยางละเอียดรอบคอบ พถิ ีพถิ ัน อยา งละเอยี ดลออเกนิ ปกติ พธิ กี รรม การประกอบพิธีบูชา, การปฏิบัติในการทําพิธี พินิจ เพง ตรวจดดู ว ยความถถ่ี ว น, ตรวจตราอยา งตง้ั ใจ พิพาท โตเ ถียงกนั , โตแ ยง กัน, พดู เกีย่ งแยงกัน พพิ ธิ ภณั ฑ สถานที่ซึ่งเก็บสิ่งของตางๆ รวบรวมไวเพื่อประโยชนในการศึกษา พิภพ โลก, พ้ืนพภิ พ, ปฐพี พิไร รําพัน, รา่ํ วา , รํา่ รอง พศิ วง ที่นาประหลาดใจ, ที่นาแปลกใจอยางสงสัย พษิ ฐาน ขอรอ งตอ สิ่งทต่ี นถือวาศกั ดิส์ ิทธใ์ิ หไดสมปรารถนา พสิ ดาร แปลกพิลึก, ไมเหมอื นธรรมดา พิสจู นอักษร ตรวจแกไขคาํ ผดิ พึงระวัง ควรคอยดูหรือเอาใจใสโดยไมประมาท พื้นฐาน ส่ิงที่เปนหลักเบอ้ื งตน พุทธกาล สมยั เมือ่ พระพุทธเจา ยงั มีพระชนมอยู พุทธศักราช ปน ับตงั้ แตพ ระพุทธเจา เสดจ็ ปรินพิ พานมา เพทุบาย ทาํ เลหกล, ทําอุบาย คําศพั ทภ าษาไทยระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปท ่ี 3 Page 31

คําศัพท คําแปล เพรยี กพรอ ง รอ งเซง็ แซ เพลงศาสตรา เพลงอาวธุ เพลี่ยงพล้าํ พลั้งพลาดไป, ทําผิดพลาดไปจนเสียที เพยี งตา อยา งเสมอตา, อยูในระดับสายตา แพง ทีเ่ กย่ี วกบั สิทธสิ ว นเอกชน โพยม ทองฟา โพลเพล เวลาพลบค่ํา, เวลาจวนคาํ่ ไพรี ขาศึก, ศตั รู ไพโรจน รงุ เรอื ง, สกุ ใส ไพลพ ล้ิวพลกิ ใหรูจกั เลีย่ ง อยา พดู ตรงเพือ่ มใิ หเสียน้ําใจ คําศัพท หมวดอกั ษร ฟ ฟรี ฟน คาํ แปล ฟุงซา น ไมเสียมูลคาหรือไมไดคาตอบแทนใดๆ ฟูฟอง เฟน ฟูมฟาย คิดวุนวายสับสนไปมาอยางไมมีจุดหมาย เฟองฟุง พองตัวขึ้นอยางกระจายไปรอบๆ มีน้ําตาอาบหนา คําศัพท ขจรไป, แพรห ลาย, (ใชแ กเกียรตคิ ุณ) ภยันตราย ภกั ดี หมวดอกั ษร ภ ภกั ษา ภักษาหาร คาํ แปล ภัตตาคาร ภัยและอันตราย, อนั ตรายท่ีนากลัว จงรกั หรือซอ่ื สตั ยตอดว ยความเลือ่ มใสอยา งยงิ่ เหย่ือ, อาหาร อาหารที่กินประจาํ อาคารจําหนายอาหารและเครื่องดื่ม, ที่ขายอาหาร คําศัพทภาษาไทยระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี 3 Page 32

คําศัพท คาํ แปล ภัยสงั คม สิ่งทอ่ี นั ตรายทีเ่ กดิ ข้ึนจากจิตใจหรือการกระทาํ ท่ีมงุ รายของผูค นในสังคมดว ยกัน เอง ภัสดา สาม,ี ผัว ภาคิไนย ลูกของพส่ี าวหรือนอ งสาว ภาพพจน คาํ พดู ทเ่ี ปน สาํ นวนโวหารทาํ ใหน กึ เหน็ เปน ภาพ ภาวนา สาํ รวมใจตง้ั ความปรารถนา ภาษาเขียน ภาษาที่ใชในงานเขียนซึ่งเปนทางการมากกวาภาษาพูด ภาษาถ่นิ ภาษาทมี่ ีสาํ เนยี งพดู หรอื คําศพั ททแี่ ตกตางกนั ไปตามผูใชที่อยูในถิ่นนั้นๆ เชน ภาษาถ่นิ เหนือ ภาษาใบ กริยาอาการที่ทําใหเขาใจแทนการพูด ภาษาพูด ถอ ยคําท่ีใชพูดจากัน ภาษิต ถอยคําหรือขอความที่กลาวสืบตอกันมาชานานแลว มีความหมายเปนคติ ภเู ขาหลวง ภเู ขาใหญ ภูตผิ ปี ศาจ ส่งิ ท่ีมนษุ ยเ ชื่อวาเปนสภาพลึกลับ มองไมเ ห็นตวั แตอ าจจะปรากฏเหมอื นมตี วั ตน ได ใหค ณุ หรอื โทษได ภมู ภิ าค อาณาบริเวณที่มีลักษณะบางอยาง เชนลักษณะทางธรรมชาติ ทางเศรษฐกิจ คลายคลึงกันจนสามารถจัดเขาพวกกันได และแตกตางกับบริเวณใกลเคียงโดยรอบ ภูมศิ าสตร วิชาที่ศึกษาถึงความสัมพันธระหวางสิ่งแวดลอมทางธรรมชาติกับสังคมที่ปรากฏ ในดนิ แดนตา งๆ ของโลก เภรี กลอง โภชนาการ ความสัมพันธระหวางอาหารกับกระบวนการตางๆ ท่ีเก่ยี วขอ งกับสุขภาพและการ เจรญิ เติบโตของสง่ิ มีชีวติ คําศัพท มงคลฤกษ หมวดอกั ษร ม มณฑล มธรุ ส คาํ แปล เวลาทด่ี ี เขตปกครองที่แบงออกเปนสวนใหญๆ ไพเราะ, เพราะ คําศัพทภ าษาไทยระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3 Page 33

คําศัพท คาํ แปล มนุษยชาติ จําพวกคน มโนมัย ความสําเร็จดวยใจ มยรุ ฉตั ร เครอ่ื งสูงสาํ หรบั แสดงอสิ ริยยศ เปนเครื่องก้ันบงั เปนชั้น ๆ ทาํ ดวยหางนกยงู มรดก ทรพั ยส นิ ของผตู ายที่ตกทอดแกทายาท มรรคนายก ผูนาํ ไปสูเสนทางแหงพระพุทธศาสนา, ฆราวาสผดู แู ลผลประโยชนใหวดั มลทิน ความมัวหมอง, ความไมบริสุทธิ์, ความสกปรก มลนมลาน ลนลาน, ตะลตี ะลาน มลังเมลือง สกุ ใส, อรา มเรอื ง มล่ืน ลนื่ มหรสพ การแสดงหรือการละเลนตางๆ ทจี่ ดั ขึ้นเพ่อื ความรื่นเรงิ มหาชลาลัย ทะเล มหาศาล มากมาย, พร่งั พรอม มองการณไกล วางแผนการหรือมองลูทางไวลวงหนา มอมเมา ทาํ ใหห ลงผดิ , ทาํ ใหหมกมนุ ในทางทีผ่ ิด มอ ฮอ ม เสอ้ื คอกลม แขนส้ัน ผาอกตลอด มกั ยอ มสนี ํ้าเงนิ เขม หรอื ดํา มะงุมมะงาหรา ไปอยางไมรูทิศทาง มะซาง ชอื่ ผลไมชนิดหนึง่ ผลขนาดหมากดบิ สเี ขยี ว มียางมาก รสหวานเยน็ มะเดหวี มหเสี,เมยี (คําชวา) มะตะหะรี ดวงอาทิตย(คําชวา) มะตี ตาย(คําชวา) มะเรง็ โรคเนอ้ื รา ย ทําใหเ น้ือเนาเปอ ย รักษาไมคอยจะหาย มีหลายอยาง มังสา เนอ้ื หนงั มจั จรุ าช เจาแหงความตาย มัสม่นั ช่อื แกงชนิดหนึ่ง เปน แกงเผด็ อยา งมุสลิม ปรุงดวยเครื่องเทศ น้ําแกงขน มีรสเค็ม หวาน และ ออกเปรย้ี วเลก็ นอ ย มาตรฐาน สิง่ ที่ถือเอาเปน หลักสําหรับเทยี บกาํ หนด มาตลี สารถีของพระอินทร ซึ่งมาขับรถทรงใหพระราม มาตภุ ูมิ ประเทศที่เกิด มานะ พยายามทําแมจะมีอุปสรรค คาํ ศัพทภ าษาไทยระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 Page 34

คําศัพท คาํ แปล มารยา การแสรงทํา มารศรี นาง, นางงาม มลิ ลิกรมั ชื่อมาตราชั่งตามวิธีเมตริก มีอัตราเทากับ 1 ใน 1,000 ของ 1 กรมั มชี วี ติ ชีวา มีความสดชื่นรื่นเริงกระฉับกระเฉง, ไมเปนทุกข มุงมาด คาดหมายไว มุมมอง ความคิดเห็นเก่ียวกบั สิ่งตางๆซ่งึ แตละคนมตี า งกัน เมกะเฮริ ตซ หนว ยวัดความถี่ ใชสัญลกั ษณ MHz 1 เมกะเฮริ ตซ มีคาเทากับ 1 ลานเฮริ ตซ หรือ เทากับ 1 ลา นไซเกลิ ตอ วินาที เมฆา เมฆ เมรุ ที่เผาศพ หลังคาเปน ยอดมีร้ัวลอ มรอบ เมื่อปลายมือ ในภายหลงั แมน ยาํ ชํานาญ, ถกู ตอง แมหมาย หญงิ ทมี่ สี ามแี ลว แตสามตี ายหรือเลิกรางกันไป โมห ความมืดมนดวยความหลง ไมใกลฝ ง แกใกลจะตาย ไมเขาใครออกใคร ไมเขาขางฝายใดฝายหนึ่ง คงความเปนตัวของตัวเอง ไมชอบมาพากล ผิดปกติ ไมตรี ความเปนเพื่อน, ความเปนมิตร ไมตรจี ติ ความหวงั ดี, ความปราถนาดี ไมมีวัน ไมมีทาง คําศัพท หมวดอักษร ย ยถากรรม ยอ หนา คําแปล กรรม, โชคชะตา, ดวง ยักษิณี เขยี นหรอื พมิ พห นงั สอื ขน้ึ บรรทดั ใหมแ ละรน จากแนวซา ยสดุ เขา ไปพอสมควร ยามา เพอ่ื แสดงวา ขน้ึ ความตอนใหม นางยักษ สวรรคช ัน้ ท่ี 3 คาํ ศพั ทภ าษาไทยระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 3 Page 35


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook