Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore nutrinote

nutrinote

Published by wannida kepan, 2019-11-26 10:28:35

Description: nutrinote

Search

Read the Text Version

Nutri note

2

3 สารบัญ Drug and food interaction 7 Effect of drug on food intake 7 ความรุนแรงของภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ระดบั 10 ภาวะนำ้ ตาลต่ำในเลอื ดระดับไม่รุนแรง ใหก้ ินอาหารท่ีมีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม 10 ภาวะน้ำตาลต่ำในเลอื ดระดับปานกลาง ใหก้ ินอาหารทม่ี ีคารโ์ บไฮเดรต 30 กรัม 10 ข้อควรปฏิบัตเิ พอื่ ปอ้ งกนั กระดูกหกั เน่อื งจากกระดกู พรุน (Fracture liaison service : FLS) 11 ตวั อย่างอาหารทม่ี ีแคลเซียม 11 การคำนวณพลงั งานจากนำ้ ยาลา้ งไตผา่ นช่องทอ้ ง CAPD 12 ธาลสั ซีเมยี (Thalassemia) 12 ปรมิ าณโฟเลทในอาหาร 12 Classifications of nutritional status 15 Overweight and obesity 15 DASH diet 17 Screening and assessment tool 20 Screening tool 20 Assessment tool 23 การแปลผลเครือ่ งมือคัดกรองและประเมนิ ภาวะโภชนาการ 29 ค่าในการวินิจฉยั และเปา้ หมายในการติดตามโรคเบาหวาน 30 ตารางการแปลผลระดบั พลาสมากลูโคสและ A1C เพื่อการวนิ จิ ฉัย 30 เป้าหมายในการติดตามโรคเบาหวาน 32 เป้าหมายการควบคมุ เบาหวานสาหรับผใู้ หญ่ 32 เป้าหมายในการควบคุมระดบั น้าตาลในเลือดสาหรบั ผปู้ ่ วยเบาหวานสูงอายุ และผปู้ ่ วยระยะสุดทา้ ย 32 เป้าหมายการควบคมุ ปัจจยั เสี่ยงของภาวะแทรกซอ้ นท่ีหลอดเลือด 33 การตรวจวินจิ ฉยั โรคและตรวจคดั กรองเบาหวานขณะตง้ั ครรภ์ 34

เกณฑข์ อง Carpenter และ Coustan 4 เปา้ หมายของระดับนำ้ ตาลในเลอื ดของผู้ป่วยเบาหวานขณะตั้งครรภ์ 34 คา่ ในการวนิ จิ ฉยั ความดันโลหิตสงู 34 Classification of Blood Cholesterol Levels 35 ค่าท่ีใชใ้ นการตดิ ตาม 36 การแบ่งระยะของCKD 36 พยากรณโรคไตเร้ือรงั ตามความสัมพันธของ GFR และระดบั อลั บูมินในปสสาวะ 37 การตรวจระดบั นำ้ ตาลในเลือดดว้ ยตนเอง 37 ขอ้ บ่งช้กี ารทำ SMBG 38 ความถี่ของการทำ SMBG ความถขี่ องการทำ SMBG 38 กำหนดคารบ์ ในแต่ละม้ือสำหรบั หญิงต้งั ครรภ์ (GDM) 38 BMI ผ้สู งู อายุ คำนวณIBWอยา่ งงา่ ย 40 นำ้ หนักท่ีลดลงโดยไมไ่ ด้ตง้ั ใจ (%weight loss) 41 ศัพท์ทางการแพทย์ 42 สมนุ ไพรกบั ผปู้ ่วยโรคไต 42 42 สมนุ ไพรที่มโี พแทสเซียม 47 สมุนไพรทม่ี ีฟอสฟอรัส สมนุ ไพรท่ีควรหลีกเลีย่ งในผู้ป่วยโรคไต 47 48 อาหารคีโตเจนิค (Ketogenic diets) 49 การคำนวณพลงั งานอาหารทางหลอดเลือดดำ 51 ข้อบ่งชใ้ี นการใชอ้ าหารทางหลอดเลือดดำ 52 การใหส้ ารอาหารผา่ นทางหลอดเลอื ดดำใหญ่ (TPN) การให้สารอาหารทางหลอดดำส่วนปลาย (PPN) 52 52 ความต้องการโปรตนี และพลังงานในผู้ใหญ่ 53 54

ชนดิ /สตู รนมผงเด็กตามวยั 5 Percent of free water in enteral formulas 55 การคำนวณพลงั งานอย่างง่ายจากดัชนีมวลกายเทยี บกบั ระดบั กจิ กรรม 56 ชนดิ ของ Insulin แบง่ เป็น 4 ชนดิ ตามระยะเวลาออกฤทธ์ิ ได้แก่ ไตอกั เสบเฉียบพลัน (Nephrotic Syndrome) 56 ภาวะนำ้ ตาลในเลือดสงู ชนดิ Diabetic ketoacidosis 56 เกณฑก์ ารวนิ จิ ฉัยภาวะนำ้ ตาลในเลอื ดสูงชนิด diabetic ketoacidosis 59 61 การดแู ลรักษาเมอ่ื ผา่ นพน้ ภาวะ DKA 62 กระบวนการใหโ้ ภชนบำบดั (Nutrition Care Process) 62 64

categories company Name Caloric distribution (%) Com CHO PRO FAT CHO 11.25 fresenius kabi Fresubin 45 20 35 14 15.68 abbott Ensure 56 15 29 11.7 12.5 abbott Jevity 62.72 16.32 31.68 12.5 13.72 polymeric formula Nestle Boost optimum 46.8 16.8 36 11.25 10.75 Nestle Nutren-fibre 50 16 34 11.25 8.25 Nestle Isocal 50 13 37 11.85 13.14 Thai-otsuka Blendera-MF 54.88 16.28 29.79 15.4 12.43 Nestle Nutren-balance 45 15 40 12.43 13.25 abbott GlucernaSR triple care 43 20 37 15.25 8.75 diabetic abbott GlucernaSR triple care 45 20 35 10.68 abbott Glucerna liquid 33 18 49 12.5 Thai-otsuka ONCE PRO 47.4 19.52 40.05 Thai-otsuka Gen-DM 52.56 16.92 30.51 disease- hepatic Thai-otsuka Aminoleban-oral 61.6 25.6 15.3 specific Thai-otsuka Neo-mune 49.72 24.6 25.65 immuno- Neo-mune 49.72 24.64 25.74 modulatin Thai-otsuka oral-impact 53 22 25 Prosure 61 21 18 g Nestle abbott renal abbott Nepro 35 18 47 semi- Thai-otsuka Pan-Enteral 42.72 12 45.27 elemental Nestle Peptamen 50 16 34

6 mposition (g/100kcal) Electrolyte and Remark micronutrients (mg or O PRO FAT Na mEq/1K00kcal) P 2kcal fiber drink 5 5 3.89 30 80 60 fiber and FOS 84.35 156.52 54.78 mixed fiber and FOS 3.75 3.22 94.56 159.52 60.96 synbiotic added 8 4.08 3.52 37 120.6 47 7 4.2 4 74.40 107.60 49.20 prebiotic 5 4 3.78 50 125 50 only for tube feeding | fiber free 5 3.25 4.2 78.35 108.76 55.72 2 4.07 3.31 87.00 126.00 68.00 FOS 5 3.75 4.44 93.78 164.44 74.67 fructose free | high soluble fiber 5 5 4.11 98.21 154.71 61.88 5 5 3.89 93.20 156.00 72.00 oral/ feeding (powder) 5 4.5 5.44 97.4 162.5 66.5 only for oral (liquid in box) 5 4.88 4.45 70.11 130.46 50.14 oral/ feeding (liquid in can) 4 4.23 3.39 22.6 77.1 39.9 whey PRO | omega-3,6,9 4 6.4 1.7 78.49 99.32 22.43 3 6.15 2.85 78.61 99.46 22.46 FOS | plant-based 3 6.16 2.86 105.94 132.67 71.29 BCAA 5 5.5 2.78 119.05 158.73 83.49 5 5.25 2 58.82 58.82 40 Vanilla flavor 5 4.5 5.22 44 110.46 43 melon flavor 8 3 5.03 67.97 89.45 55.86 100% whey | tropical fruit 5 4 3.78 energy dense for dialysis | high protein | low Na, K, P whey pro 100% | MCT:LCT = 70:30

7 Drug and food interaction Effect of drug on food intake • Nutrition Absorption : ยาบางชนิดอาจเพมิ่ ลดลง หรือปอ้ งกันการดูดซมึ อาหารในลำไส้ • Nutrition Excretion : ยาสามารถเพ่ิมหรอื ลดการขบั ปัสสาวะของสารอาหาร ยา amphetamine ซ่ึงเป็นยากระตุ้นประสาทส่วนกลางโดยหล่ังสารโดพามีนในสมอง ทำให้รู้สึกกระตือรือร้น ผลข้างเคียง ทำใหเ้ บือ่ อาหาร ยา Carboplatin เป็นยารักษาโรคมะเร็งหลายชนิด ยาจะยับยั้งการสังเคราะห์สารพันธุกรรมของเซลล์มะเร็ง เช่น DNA อาการข้างเคยี ง คล่ืนไส้ อาเจียน Drug that may increase apatite • Anticonvulsant : เป็นยารกั ษาอาการชักต่างๆอาจเกดิ การเสยี สมดลุ ของเกลือแร่ • Antipsychotic : ยารักษาโรคจติ , ไบโพลาร์ • Antidepresant : ยารกั ษาอาการซึมเศรา้ Drug can decrease nutrition absorption • Laxatives : เปน็ ยาบรรเทาอาการท้องผกู ทำให้อจุ จาระอ่อนตัวลง หรอื กระตนุ้ การบีบตวั ของลำไส้ • Aluminum hydroxide : เปน็ ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร • Statin : เปน็ ยาลดคลอเลสเตอรอลในเลือด Drug can increase a loss of a nutrition • Diuratics : เป็นยาขับปัสสาวะ ใชใ้ นการรักษาความดนั โลหิตสูง • Aspirin : ยาลดการอักเสบ เช่น ปวดประจำเดอื น • Clobazam : ยาลดอาการวิตกกังวล

8 Absorption : การเคลอ่ื นท่ขี องยาภายในกระแสเลือดขนึ้ อยกู่ บั ปจั จยั ต่อไปน้ี • โครงสร้างของยาทส่ี ามารถผ่านเย่ือบลุ ำไส้ • ระยะเวลาทท่ี ำใหก้ ระเพาะอาหารวา่ ง • ชอ่ งทางการใหย้ า • คุณภาพของยา Distribution (การกระจายตัวของยา) ยาเข้าสกู่ ระแสเลอื ด กระจ่ายไปยังเน้ือเย่อื ต่างๆ • จับกับ Plasma protein ยาไมอ่ อกฤทธ์ิ • Albumin ต่ำ ทำให้เกิด Toxic ได้ Metabolism (การเปลี่ยนแปลงของยา) • เป็นกระบวนการท่ียาถูกเปล่ียนแปลงทางเคมีในร่างกาย ซึ่งมีผลมาจากปฏิกิริยาของยาระหว่างยากับ เอนไซม์ เกดิ ขนึ้ ที่ตับ Excretion (การขบั ยาออกจากรา่ งกาย) • ยาจะถูกขบั ออกไดท้ างไต ตบั ปอด • อาจจะขบั ออกทางน้ำนมและเหง่ือได้ในปรมิ าณเล็กน้อย • อวัยวะในการขับยาออก คอื ไต Benefits of minimizing food drug interactions • ยามีประสทิ ธิภาพในการทำงานสงู • ไมเ่ กดิ พษิ จากยา • ชว่ ยลดคา่ ใช้จา่ ย • แก้ไขปัญหาภาวะโภชนาการผิดปกติ • ผ้ปู ว่ ยไดร้ ับการรักษาจากยาสงู สุด • การใหบ้ รกิ ารดา้ นการดูแลสขุ ภาพลดลง • ความรับผิดชอบทางดา้ นวชิ าชพี นอ้ ยลง

9 Effect of food or drug intake • Drug absorption : อาหารหรือสารอาหารในกระเพาะและลำไส้อาจทำให้ลดการดูดซึมของยา โดยการ ชะลอการย่อยอาหารหรือจับกับอนุภาคของอาหาร อาหารอาจทำหน้าที่เพิ่มหรือยับยั้งการเผาผลาญของ ยาบางชนดิ ในรา่ งกาย • Drug excretion : ยาจะถกู ขบั ถา่ ยออกทางไต • Dietary calcium : สามารถจับกับยาปฏิชีวนะ “tetracycline” ซึ่งเป็นยารักษาการติดเช้ือ ได้แก่ มาลาเรยี ซฟิ ิลิส • กรดอะมิโนในธรรมชาติ สามารถดูดซึมกับ “levodopa” ซึงเป็นยารักษาโรคพาร์กินสัน ซึ่งจะไปเพ่ิมสาร ส่อื ประสาทโดพามินในสมอง Absorption Distribution • การรับปะทานไฟเบอร์ในปริมาณมากจะรบกวนการดูดซึมของ “Digoxin” ซ่ึงเป็นยากลุ่มของ (Cardiac glycoside) ที่มีฤทธเิ์ พม่ิ การบีบตัวของกลา้ มเนอื้ หัวใจ ใช้รกั ษาหวั ใจวาย หัวใจห้องบน • Metabolism : อาหารที่มีการบ่มหรือหมัก เช่นโยเกิร์ต โดยจะทำปฏิกิริยากับยา “Tyramine” ซ่ึงเป็น การยบั ยั้งเอนไซม์ monoamine oxidase ใชร้ ักษารควติ กกงั วล โรคพาร์กินสัน • Food hight Vit.K (ผักตระกูลกะหล่ำ) ลดประสิทธิภาพของยา “Anticoagulant” ซ่ึงเป็นยาต้านการ แขง็ ตวั ของเลือด • ห้ามรับประทาน Grapefruit juice พร้อมกับยาต่อไปน้ี “Cyclosporin” ซึ่งเป็นยากดภูมิคุ้มกันใช้กับ ผู้ป่วยที่มีการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น หัวใจ ไต และตับ “Certain statins” ซ่ึงเป็นกลุ่มยาลดคลอ เลสเตอรอล

10 ความรุนแรงของภาวะน้ำตาลตำ่ ในเลอื ดแบง่ ได้เป็น 3 ระดับ ระดบั 1 (level 1) glucose alert value หมายถึง ระดบั น้ำตาลในเลอื ดที่ ≤ 70 มก./ดล. ระดับ 2 (level 2) clinically significant hypoglycemia หมายถึง ระดับน้ำตาลในเลือด ท่ี <54 มก./ดล. ระดับ 3 (level 3 ) ภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดระดับรุนแรง หมายถึง การท่ีผู้ป่วยมีอาการสมองขาด กลูโคสท่ีรุนแรง (severe cognitive impairment) ซ่ึงต้องอาศัยผ้อู นื่ ชว่ ยเหลอื ภาวะนำ้ ตาลต่ำในเลือดระดับไมร่ ุนแรง ใหก้ ินอาหารท่ีมีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม • กลโู คสเม็ด 3 เม็ด • น้ำสม้ คน้ั 180 มล. • น้ำอัดลม 180 มล. • น้ำผง้ึ 3 ช้อนชำ • ขนมปัง 1 แผ่นสไลด์ • นมสด 240 มล. • ไอศกรีม 2 สคูป • ข้าวต้มหรอื โจก๊ ½ ถว้ ยชาม • กล้วย 1 ผล ภาวะน้ำตาลตำ่ ในเลอื ดระดับปานกลาง ใหก้ นิ อาหารทมี่ ีคาร์โบไฮเดรต 30 กรัม • ผู้ป่วยเบาหวานท่ีมีสายกระเพาะอาหาร หรือสาย PEG สามารถให้น้ำหวาน น้ำผลไม้ สารละลาย กลูโูคส หรอื อาหารเหลวท่ีมีคาร์โบไฮเดรต 15-30 กรมั ทางสายกระเพาะอาหาร หรอื สาย PEG ได้ • ติดตามระดบั กลโู คสในเลือดโดยใช้เครือ่ งตรวจนำ้ ตาลในเลอื ดชนิดพกพา หรอื point-of-care device (ถ้าสามารถทำได้) ท่ี 15 นาที หลังกินคาร์โบไฮเดรตคร้ังแรก กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัมซ้ำ ถ้ำระดับ กลโู คสในเลอื ดที่ 15 นาที หลงั กินคาร์โบไฮเดรตคร้งั แรกยังคง <70 มก. /ดล. ที่มา : แนวทางเวชปฏบิ ัติสำหรบั โรคเบาหวาน 2560 Clinical Practice Guideline for Diabetes 2017

11 ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิเพ่อื ปอ้ งกันกระดกู หกั เนอื่ งจากกระดกู พรนุ (Fracture liaison service : FLS) - ควรรบั ประทานอาหารที่มแี คลเซยี มใหเ้ หมาะสม คอื ผทู้ ี่มีอายนุ อ้ ยกว่าหรือเท่ากบั 50 ปี ควรได้รับแคลเซยี ม 800 มลิ ลกิ รมั ต่อวนั ผู้ทมี่ อี ายุ 51 ปขี นึ้ ไป ควรไดร้ บั แคลเซียม 1000 มลิ ลกิ รมั ตอ่ วนั - รับแสงแดดอย่างเพียงพอ เพ่ือให้ผวิ หนังสรา้ งวิตามนิ ดี จะช่วยให้ลำไสด้ ดู ซมึ แคลเซียมได้ ตัวอย่างอาหารทม่ี แี คลเซยี ม อ้างอิงจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ.บุษบา จินดาวิจักษณ์ ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศ าสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เรอ่ื งแคลเซียมกบั โรคกระดูกพรุน ตอนที่2 ชนิดอาหาร ปรมิ าณทบ่ี ริโภค ปริมาณแคลเซยี ม (มลิ ลิกรัม) นมสดยูเอชที 200 ซซี ี (1กลอ่ ง) 240 นมสดเสรมิ แคลเซยี ม 200 ซซี ี (1กล่อง) 280 นมถว่ั เหลือง 250 ซซี ี (1กล่อง) 64 นมเปรย้ี ว 160 ซซี ี (1ขวด) 160 โยเกริร์ต 150 กรมั (1ถว้ ย) 280 กะปิ 136.64 ก้งุ แห้งตัวเล็ก 2 ชอ้ นโตะ๊ 138.30 ปลาสลิด ตม้ 1 ช้อนโตะ๊ 153.42 ปลาฉ้ิงฉา้ ง ทอด 2 ชอ้ นโต๊ะ 186.75 ไขไ่ ก่ ตม้ 2 ช้อนโตะ๊ 205.56 ไขเ่ ปด็ ตม้ 225.76 เตา้ หู้ขาว ออ่ น ตม้ 1 ฟอง 243.63 เต้าหู้ขาว แข็ง ตม้ 1 ฟอง 258.75 ผกั คะน้า ผัด 3 ชอ้ นโต๊ะ 319.26 ผักกาดเขยี ว ตม้ 3 ชอ้ นโต๊ะ 411.86 ผกั กวางตุง้ ตม้ 5 ชอ้ นโต๊ะ 450.06 ใบยอ ตม้ 5 ช้อนโตะ๊ 198.20 ใบชะพลู 5 ช้อนโตะ๊ 390.70 มะเขอื พวง ½ ทัพพี 243.62 อา้ งอิงจาก : โปรแกรมINMUCAL-N 70 กรมั 2 ชอ้ นโต๊ะ

12 การคำนวณพลงั งานจากนำ้ ยาล้างไตผ่านช่องทอ้ ง CAPD ความเข้มข้นของนำ้ ยาล้างไต Glucose/2 L (g) absorption rate calories/2 L (%w/v) (~60%) (Kcal) 1.5% 30 18 67 2.5% 50 30 110 4.25% 85 51 190 *Kcal คดิ จาก Glucose 1 g = 3.7 kcal ธาลสั ซเี มยี (Thalassemia) ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) เป็นโรคโลหิตจางท่ีมีสาเหตุจากความผิดปกติทางพันธุกรรมระดับยีน ทำให้ การสร้างฮีโมโกบิล (Hemoglobin; Hb) ซ่ึงเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ส่งผล ให้เม็ดเลือดแดงมีอายุส้ัน แตกง่าย ถูกทำลายง่าย จัดเป็นโรคโลหิตจางทางพันธุกรรมที่พบบ่อยที่สุดในโลก Vichinsky EP. Changing patterns of thalassemia worldwide. Annals of the New York Academy of Sciences. 2005;1054:18-24. อาหารท่ีเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย คืออาหารท่ีมีโปรตีน และกรดโฟลิก (Folic acid) สูง เพอ่ื ชว่ ยในการสรา้ งเม็ดเลือดแดง ปริมาณโฟเลทในอาหาร อาหาร ปรมิ าณโฟเลท (ไมโครกรัมต่อ 35 กรมั หรอื ½ ส่วน) ตำลงึ 42.70 ใบก๋ยุ ชา่ ย 50.75 ผักกาดหอม 36.75 คื่นชา่ ย 39.90 ดอกกะหล่ำ 32.90 มะเขือเทศ 8.61 ถว่ั เขียว 53.55 ถ่วั แดง 49.70 ถ่วั เหลือง 62.65 อา้ งอิงจาก : ผศ.ภญ.ดร.กลุ วรา เมฆสวรรค์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั เรอ่ื ง โภชนาการผู้ปว่ ยธาลสั ซีเมีย

13 อาหารที่ควรหลกี เล่ียงสำหรับผู้ป่วยโรคธาลัสซเี มีย คืออาหารทมี่ ีธาตเุ หล็กสูง ผลติ ภัณฑจ์ ากสตั ว์ทม่ี ีปรมิ าณธาตุเหลก็ สูง เนื้อสตั ว์ ปริมาณธาตุเหล็ก (มิลลกิ รัม สตั วน์ ้ำ ปริมาณธาตุเหลก็ (มลิ ลกิ รัม ตอ่ 40 กรัมหรือ 1 ส่วน) ต่อ 40 กรมั หรือ 1 สว่ น) ปอดหมู 47.6 กุ้งฝอยสด 28.0 เลือดหมู 25.9 หอยโขม 25.2 หมูหยอง 17.8 หอยแมลงภู่ 15.6 ตบั หมู 10.5 หอยแครง 6.4 นอ่ งไก่บ้าน 7.8 ปลาดุก 8.1 เน้ือวัวเคม็ ทอด 7.5 ปลาช่อน 5.8 กบแหง้ 3.8 ปลาตะเพียน 5.6

14 ผลิตภัณฑ์จากธญั พืชและเห็ดท่มี ีปริมาณธาตเุ หลก็ สูง ธญั พชื และ ปรมิ าณธาตุเหล็ก ผกั และเหด็ ปริมาณธาตุเหลก็ ของว่าง (มิลลกิ รัมต่อ 100 กรัม) (มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) ดาร์กช็อกโกแลต 17.0 ผกั กูด 36.3 ถัว่ ดำ 16.5 ใบแมงลัก 17.2 เตา้ เจ้ียว 15.2 ใบกระเพาแดง 15.1 เมล็ดฟกั ทอง 15.0 ยอดมะกอก 9.9 ถ่วั ลสิ ง 13.8 ดอกโสน 8.2 งาขาว 13.0 ใบชะพลู 7.6 ถ่วั แดง 10.5 ต้นหอม 7.3 ลูกเดอื ย 10.0 มะเขือพวง 7.1 งาดำ 9.9 เหด็ หูหนู 6.1 จมูกขา้ วสาลี 6.8 ยอดอ่อนขีเ้ หล็ก 5.8 ข้าวโอต๊ 6.5 ผกั กระเฉด 5.3 อา้ งอิงจาก : ผศ. ดร. ภญ. ปยิ นชุ โรจนส์ งา่ ภาควชิ าเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เร่ือง บทความเผยแพร่ความรู้ส่ปู ระชาชน ธาลัสซีเมยี (Thalassemia)...กนิ อยา่ งไรให้เหมาะสม หมายเหตุ : ควรหลีกเล่ียงการรับประทานอาหารร่วมกับอาหารท่ีมีวิตามินสูง เช่น ส้ม มะเขือเทศ เพราะ วิตามินซีจะช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก และควรรับประทานร่วมกับอาหารท่ีลดการดูดซึกธาตุเหล็ก เช่น ชา และ นมถว่ั เหลอื ง การคำนวณพลงั งาน Resting Energy Expenditure (joint FAO/WHO/UNU) อายุ(ป)ี เพศชาย เพศหญงิ 0-3 (60.9xkg)-54 (61.0xkg)-51 3-10 (22.7xkg)+495 (22.5xkg)+499 10-18 (17.5xkg)+651 (12.2xkg)+746 18-30 (15.3xkg)+679 (14.7xkg)+496 30-60 (11.6xkg)+879 (8.7xkg)+829 >60 (13.5xkg)+487 (10.5xkg)+596 -World Health organization. Energy and protein requirements. Geneva: World Health organization, 1985. Technical report Series No. 724.

15 BMR คำนวณจาก Schofield Equations อายุ (ปี) เพศชาย เพศหญิง 0-3 0.167W+15.174H-617.6 16.252W+10.232H-413.5 3-10 19.59W+1.303H+414.9 16.969W+1.618H+371.2 10-18 16.25W+1.372H+515.5 8.365W+4.65H+200 W=weight(kg), H=height(cm) -Schofield WN. Predicting basal metabolic rate, new standard and review of previous work. Hum Nutr Clin Nutr 1985; 39 (Suppl 1): 5-41. Classifications of nutritional status ดชั นี Normal Mild Moderate Severe Nutrition status %W/A >90 75-90 60-75 <50 Underweight %W/H >90 80-90 70-80 <70 Wasting %H/A >95 90-95 85-90 <85 Stunting -Gomez F, Galvan RR, Cravioto J, Frenk S. Malnutrition in infancy and childhood, with special reference to kwashiorkor. Adv Prediatr. 1955;7:131-169 -Warelow JC. Classification and definition of protein-calorie malnutrition. Br Med J. 1972;3(5826):566-9. Overweight and obesity วินิจฉยั โดยใช้เกณฑอ์ า้ งอิงได้ 2 แบบ 1. ใชก้ ราฟหรอื ตารางค่าอ้างอิง BMI ตามอายุ และเพศขององค์การอนามยั โลก เนือ่ งจากขณะน้ียังไม่มีเกณฑ์ อา้ งอิง BMI สำหรบั เด็กไทย 2. ใชค้ ่าน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูง %W/H* >110-120 >120-140 >140-160 >160-200 >200 Overweight Nutritional นำ้ หนักเกนิ Mild obesity Moderate Severe Morbid status* อ้วนเลก็ น้อย obesity obesity obesity อ้วนปานกลาง อว้ นมาก อ้วนรุนแรง Overweight เปรียบเทียบกบั กราฟ** เร่ิมอว้ น Obesity Morbid กรมอนามยั พ.ศ. 2542 โรคอ้วน obesity โรคอ้วนรนุ แรง

16 * ค่า%W/H เปน็ การประเมินความรนุ แรงของโรคอว้ นในเดก็ ในทางเวชปฏิบตั ิ **จากการเปรียบเทยี บกับกราฟเกณฑ์อา้ งอิงการเจริญเติบโตของเดก็ ไทย กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ. 2542 พบว่า เดก็ ที่ไดร้ ับการวนิ ิจฉัยว่าเปน็ “โรคอว้ น” คือ น้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงมากกวา่ ค่ามธั ย ฐาน +3SD จะมีน้ำหนักคิดเปน็ 135-153 % ของค่า ideal weight for height (W/H) และ +2SD จะมนี ้ำหนักคิด เป็น 122-135 %W/H ดงั น้นั ถ้าใชเ้ กณฑ์เดิมตามตาราง จะทำให้การวินจิ ฉยั โรคอ้วนในเด็กไทยมากเกนิ กว่าท่คี วรจะเปน็ อา้ งอิงจากแนวทางการดแู ลรักษาและปอ้ งกนั ภาวะโภชนาการเกนิ ในเดก็ ชมรมโภชนาการเดก็ แหง่ ประเทศไทย

17 DASH diet DASH Diet (Dietary Approaches to Stop Hypertension Diet) โด ย ชื่ อ DASH Diet ห ม าย ถึ ง แนวทางโภชนาการเพอ่ื หยุดความดนั โลหิตสูง หลักการ : ลดการบริโภคอาหารท่ีมีเกลือโซเดียม ไขมันอ่ิมตัว ไขมันรวมและคอเรสเตอรอลลง และเพ่ิม การรับประทานใยอาหาร โปรตีน แคลเซยี ม แร่ธาตุต่างๆอย่าง โปแตสเซยี มและแมกนีเซียม รวมถงึ ปริมาณสารไน เตรททมี่ ผี ลการศึกษาถึงการลดความดนั โลหติ สงู ได้ สดั ส่วนการรบั ประทานอาหารตามหลกั DASH ใน 1 วนั : ชนดิ อาหาร สดั ส่วน ธญั พืชชนดิ ต่างๆ โดยเน้นเปน็ ธญั พืชไม่ขัดสี 7-8 ส่วนบรโิ ภค (หรือประมาณ 7-8 ทัพพี) ผักและผลไม้ อย่างละ 4-5 สว่ นบรโิ ภค (หรือประมาณ 4-5 ทัพพี และผลไม้ 3-4 ส่วน) เนื้อสตั วไ์ ขมนั ต่ำอย่างเน้อื ปลา 2-3 ส่วนบริโภค (หรือประมาณ 4-6 ชอ้ นกินข้าว) ลดการรับประทานสัตว์เนื้อแดง การตัดส่วนไขมนั หรอื หนงั ของเน้ือสัตว์และเลือกรบั ประทานเน้ือสตั วไ์ ขมนั ตำ่ นำ้ มนั หรอื ไขมนั 2-3 ส่วนบริโภค (หรอื ไมเ่ กนิ 6 ชอ้ นชา) ถว่ั ชนดิ ตา่ งๆ เชน่ อัลมอนด์ ถว่ั เลนทิล 4-5 ส่วนบริโภค(หรอื ประมาณ 4-5 ฝ่ามอื )ต่อสัปดาห์ ของหวานชนดิ ตา่ งๆ ไมเ่ กนิ 5 สว่ นบริโภคต่อสปั ดาห์* แนะนำให้ รับประทานนานๆครง้ั แนะนำใหใ้ ชเ้ ครื่องเทศหรือสมนุ ไพรต่างๆในการเสริม รสชาตอิ าหาร และลดการใชเ้ กลอื หรือเครอื่ งปรุงทมี่ ี โซเดียมสงู ในการปรงุ แตง่ อาหาร -Mayo Clinic Staff. DASH diet: Healthy eating to lower your blood pressure [online document]. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/dash-diet/art-20048456. October 3, 2017. -Siervo, M., Lara, J., Chowdhury, S., Ashor, A., Oggioni, C., & Mathers, J. (2015). Effects of the Dietary Approach to Stop Hypertension (DASH) diet on cardiovascular risk factors: A systematic review and meta-analysis. British Journal of Nutrition, 113(1), 1-15. doi:10.1017/S0007114514003341.

18 (นิพาวรรณ, มปป)

19 ที่มา : national cholesterol Education Program Adult Treatment Panel III, 2001 TLC ยอ่ มาจาก Therapeutic Lifestyle Change Diet เป็นวธิ ีการดูแลทางโภชนบำบดั ทางการแพทยว์ ธิ หี นึ่ง ท่มี ี ประสิทธิภาพในการดแู ลผปู้ ว่ ยทมี่ ีภาวะไขมนั ในเลือดผิดปกติไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

20 Screening and assessment tool Screening tool เคร่ืองมอื อา้ งองิ Malnutrition Screening Tool (MST) Ferguson et al. (1999) Mini Nutritional Assessment Short-Form (MNA-SF) Rubenstein et al. (2001) Nutritional Risk Screening (NRS 2002) Kondrup et al. (2003) Malnutrition Universal Screening Tool (MUST) Short Nutritional Assessment Questionnaire (SNAQ) Stratton et al. (2004) Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT) Kruizenga et al. (2005) Chittawatanarat et al. (2016) MST

21 NRS If the answer is ‘Yes’ to any question, the screening in Table 2 is performed

22 MUST Score 0 BMI 1 >20 2 18.5-20 0 <18.5 1 2 Unplanned weight loss in past 3-6 months 2 <5% 5-10% >10% If patient is acutely ill and there has been or is likely to be no nutritional intake for >5 days total SNAQ

23 Assessment tool อ้างอิง เครื่องมอื Detsky et al. (1999) Guigoz et al. (2001) Subjective Global Assessment (SGA) Ottery et al. (2004) Mini Nutritional Assessment (MNA) Komindrg et al. (2005) Patient generated subjective global assessment (PG-SGA) Chittawatanarat et al. (2016) Nutrition Alert Form (NAF) Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT)

24

25

26

27

28

29 การแปลผลเคร่ืองมือคัดกรองและประเมนิ ภาวะโภชนาการ Screening Tools คะแนน เกณฑ์ No risk of malnutrition Malnutrition Screening Tool (MST) 0-1 Risk of malnutrition ≥2 Normal Mini Nutritional Assessment Short-Form 12-14 At risk of malnutrition (MNA-SF) 8-11 0-7 Malnourished Normal Nutritional Risk Screening (NRS 2002) 0-2 3 Nutritionally at-risk Low risk Malnutrition Universal Screening Tool 0 (MUST) 1 Medium risk ≥2 High risk Short Nutritional Assessment Questionnaire 0-1 Well nourished (SNAQ) 2 Moderately malnourished ≥3 Severely malnourished Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT) 0 Normal ≥1 Nutritionally at-risk Assessment Tools คะแนน เกณฑ์ Normal Subjective Global Assessment (SGA) A Mild-Moderate Malnutrition B

30 Mini Nutritional Assessment (MNA) C Severe Malnutrition Patient generated subjective global 24-30 Normal assessment (PG-SGA) 17-23.5 Nutrition Alert Form (NAF) 0-16 Risk of malnutrition Malnutrition Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT) A Normal B C Moderate Malnutrition 0-5 Severe Malnutrition 6-10 Normal-Mild Malnutrition ≥11 Moderate Malnutrition 0-4 Severe Malnutrition 5-7 8-10 Normal ≥11 Mild Malnutrition Moderate Malnutrition Severe Malnutrition ค่าในการวนิ จิ ฉยั และเปา้ หมายในการตดิ ตามโรคเบาหวาน ตารางการแปลผลระดับพลาสมากลูโคสและ A1C เพ่อื การวนิ ิจฉัย โรคเบาหวาน ปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดทเ่ี พมิ่ ความเสย่ี งการ ≥126 มก./ดล. เปน็ เบาหวาน ≥200 มก./ดล. พลาสมากลโู คสขณะอด <100 มก./ดล. impaired impaired glucose ≥200 มก./ดล. อาหาร (FPG) fasting glucose tolerance (IGT) ≥6.5% (IFG) - 100-125 มก./ดล. พลาสมากลโู คสที่ 2 <140 มก./ดล. - 140-199 มก./ดล. ช่วั โมงหลัง ดมื่ น้ำตาล กลูโคส 75 กรมั 2 h-PG (OGTT) พลาสมากลูโคสทเ่ี วลาใดๆ - - - ในผู้ทีม่ อี าการชดั เจน ฮีโมโกลบินเอวนั ซี (A1C) < 5.7 % 5.7-6.4% *IFG เปน็ ภาวะระดบั นำ้ ตาลในเลือดขณะอดอาหารผดิ ปกติ

31 *IGT เป็นภาวะระดบั นำ้ ตาลในเลอื ดสูงหลังไดร้ ับกลูโคส

32 เปา้ หมายในการติดตามโรคเบาหวาน เป้าหมายการควบคุมเบาหวานสำหรบั ผ้ใู หญ่ การควบคุม เบาหวาน เป้าหมาย ควบคมุ เข้มงวดมาก ควบคุมเข้มงวด ควบคุมไม่เข้มงวด ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร >70-110 มก./ดล. 80-130 มก./ดล 140-170 มก./ดล ระดับนำ้ ตาลในเลือดหลังอาหาร 2 ช่วั โมง <140 มก./ดล - - ระดบั นำ้ ตาลในเลือดสงู สุดหลังอาหาร - <180 มก./ดล - A1C (% of total hemoglobin) <6.5% <7.0% 7.0-8.0% เป้าหมายในการควบคมุ ระดับน้ำตาลในเลือดสำหรบั ผู้ปว่ ยเบาหวานสงู อายุ และผู้ปว่ ยระยะสดุ ท้าย สภาวะผปู้ ่วยเบาหวานสงู อายุ เป้าหมายระดับ A1C ผู้มีสขุ ภาพดี ไมม่ ีโรครว่ ม <7% 7.0-7.5% ผมู้ ีโรคร่วม ชว่ ยเหลือตัวเองได้ ผ้ปู ว่ ยท่ตี ้องได้รับการชว่ ยเหลือ ไมเ่ กนิ 8.5% มีภาวะเปราะบาง ไม่เกนิ 8.5% มีภาวะสมองเส่ือม ผปู้ ่วยที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไมน่ าน หลีกเล่ยี งภาวะนำ้ ตาลในเลอื ดสงู จนทำใหเ้ กดิ อาการ

33 เปา้ หมายการควบคมุ ปจั จยั เส่ียงของภาวะแทรกซอ้ นทหี่ ลอดเลอื ด การควบคุม/การปฏบิ ัตติ วั เป้าหมาย ระดบั ไขมนั ในเลือด* <100 มก./ดล ระดบั ไขมันในเลือด ระดบั แอล ดี แอลคเลสเตอรอล* <150 มก./ดล. ระดบั ไตรกลีเซอไรด์ ≥40 มก./ดล ระดับ เอช ดี แอล คอเลสเตอรอล: ผู้ชาย ≥ 50 มก./ดล ผูห้ ญิง <140 มม.ปรอท <90 มม.ปรอท ความดนั โลหติ ** ความดันโลหิตซิสโตลคิ (systolic BP) 18.5-22.9 กก./ม.² หรือใกล้เคยี ง ความดนั โลหติ ไดแอสโตลคิ (diastolic BP) ไมเ่ กนิ ส่วนสงู หารด้วย 2 <90 ซม. น้ำหนักตวั <80 ซม. ดัชนีมวลกาย ไมส่ บู บุหร่แี ละหลีกเลย่ี งการรับควนั บหุ รี รอบเอวจำเพาะบุคคล (ท้ังสองเพศ)*** ตามคำแนะนำของแพทย์ รอบเอว : ผ้ชู าย ผู้หญงิ การสูบบหุ ร่ี การออกกำลงั กาย * ถ้ามีโรคหลอดเลอื ดหัวใจหรือมีปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลอื ดหัวใจหลายอย่างร่วมด้วยควรควบคุมให้ LDL-C ต่ำ กว่า 70 มก./ดล. ** ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตซิสโตลิคไม่ควรต่ำกว่า 110 มม. ปรอท ผู้ป่วย ท่ีอายุน้อยกว่า 40 ปีหรือมีภาวะแทรกซ้อนทางไตร่วมด้วยควรควบคุมความดันโลหิตให้น้อยกว่า 130/80 มม.ปรอท ถ้าไมท่ ำใหเ้ กิด ภาวะแทรกซ้อนของการรกั ษา

34 การตรวจวินจิ ฉัยโรคและตรวจคดั กรองเบาหวานขณะต้ังครรภ์ เกณฑข์ อง Carpenter และ Coustan หญิงต้งั ครรภด์ ืม่ น้ำทล่ี ะลายนำ้ ตาลกลูโคส 100 กรัม (100 gm OGTT) เวลา ระดบั นำ้ ตาลในเลือด (มก./ดล.) กอ่ นด่ืมนำ้ ตาล 100 กรมั 95 หลงั ดม่ื น้ำตาล 1 ชว่ั โมง 180 หลังดม่ื นำ้ ตาล 2 ชว่ั โมง 155 หลังดื่มนำ้ ตาล 3 ช่ัวโมง 140 *ต้ังแต่ 2 ค่าข้นึ ไปจะถอื ว่าเป็นโรคเบาหวาน ขณะตัง้ ครรภ์ - เกณฑข์ อง International Diabetes Federation (IDF) หญงิ ต้งั ครรภด์ ่มื นำ้ ทล่ี ะลายน้ำตาลกลโู คส 75 กรัม (75 gm OGTT) เวลา ระดับนำ้ ตาลในเลือด (มก./ดล.) กอ่ นด่ืมนำ้ ตาล 100 กรมั 92 หลังดมื่ น้ำตาล 1 ชว่ั โมง 180 หลงั ดื่มนำ้ ตาล 2 ชั่วโมง 153 *ตั้งแต่ 1 คา่ ขนึ้ ไปจะถอื ว่าเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เปา้ หมายของระดับนำ้ ตาลในเลอื ดของผู้ป่วยเบาหวานขณะต้ังครรภ์ เวลา ระดับน้ำตาลในเลือด (มก./ดล.) ก่อนอาหารเช้าอาหารมอ้ื อน่ื และก่อนนอน 60-95 หลังอาหาร 1 ชั่วโมง <140 หลังอาหาร 2 ชวั่ โมง <120 เวลา 02.00 – 04.00 น. >60 ทมี่ า: แนวทางเวชปฏบิ ัติสำหรับโรคเบาหวาน 2559

35 ค่าในการวนิ จิ ฉยั ความดนั โลหิตสงู ตารางการจำแนกโรคความดนั โลหติ สงู ตามความรุนแรงในผใู้ หญอ่ ายุ18 ปี ข้ึนไป Category SBP DBP (มม.ปรอท) (มม.ปรอท) Optimal < 120 และ < 80 Normal 120-129 และ/หรอื 80/84 High normal 130-139 และ/หรอื 85-89 Grade 1 hypertension (mild) 140-159 และ/หรือ 90-99 Grade 2 hypertension (moderate) 160-179 และ/หรือ 100-109 Grate 3 hypertension (severe) >180 และ/หรือ >110 Isolated systolic hypertension (ISH) >140 และ < 90 หมายเหตุ:SBP = systolic blood pressure; DBP = diastolic blood pressure. เม่ือความรุนแรงของ SBP และ DBP อยู่ต่างระดับกัน ให้ ถือระดับที่รุนแรงกว่าเป็นเกณฑ์ สำหรับ ISH ก็แบ่งระดับ ความรุนแรงเหมือนกัน โดยใช้แต่SBP ท่มี า:แนวทางการรักษาโรคความดันโลหติ สงู ในเวชปฏิบตั ทิ ั่วไป พ.ศ.2558

36 Classification of Blood Cholesterol Levels คา่ ท่ีใชใ้ นการตดิ ตาม Source: American Association Of Clinical Endocrinologists Medical Guidelines for Clinical Practice, 2012

37 การแบง่ ระยะของCKD พยากรณโรคไตเร้อื รังตามความสัมพันธของ GFR และระดบั อัลบูมินในปสสาวะ ท่มี า:คำแนะนำสำหรบั การดแู ลผูป้ ว่ ยโรคไตเรอ้ื รังก่อนการบำบดั ทดแทนไต พ.ศ.2558

38 การตรวจระดบั น้ำตาลในเลือดดว้ ยตนเอง ขอ้ บ่งช้ีการทำ SMBG 1. ผปู้ ่วยเบาหวานท่ีมีความจำเปน็ ในการทำ SMBG 1.1 ผู้ท่ีต้องการคุมเบาหวานอย่างเข้มงวด ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวานท่ีมีครรภ์ (pre-gestational DM) และ ผปู้ ว่ ยเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (gestational DM) 1.2 ผ้ปู ว่ ยเบาหวานชนดิ ที่ 1 1.3 ผปู้ ่วยเบาหวานท่ีมีภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดบ่อยๆ หรือ รนุ แรง หรอื มีภาวะน้ำตาลตำ่ ในเลือด โดยไม่มี อาการเตอื น 2. ผู้ป่วยเบาหวานที่ควรทำ SMBG 2.1 ผู้ป่วยเบาหวานชนดิ ท่ี 2 ซึง่ ไดร้ ับการรักษาด้วยการฉดี อนิ ซูลนิ 3. ผ้ปู ่วยเบาหวานที่อาจพิจารณาให้ทำ SMBG 3.1 ผู้ป่วยเบาหวานชนิดท่ี 2 ซ่ึงไม่ได้ฉีดอินซูลินแต่เบาหวานควบคุมไม่ได้ พิจารณาให้ทำ SMBG เม่ือ ผู้ป่วย และ/หรือผดู้ ูแลพร้อมท่ีจะเรียนรู้ ฝึกทกั ษะ และนำผลจาก SMBG มาใช้ปรับเปล่ียน พฤติกรรมเพื่อควบคุม ระดับน้ำตาลในเลอื ดให้ได้ตามเปา้ หมาย 3.2 ผู้ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน เพื่อเรียนรู้ในการดูแลตนเองท้ังเรื่องอาหาร การออกกำลัง กาย หรอื ไดย้ าลดระดบั นำ้ ตาลในเลอื ดให้เหมาะสมกับกจิ วตั รประจำวัน ความถ่ขี องการทำ SMBG ความถีข่ องการทำ SMBG 1. ผู้ป่วยเบาหวานระหว่างการตั้งครรภ์ควรทำ SMBG ก่อนอาหารและหลังอาหาร 1 หรือ 2 ชั่วโมง ทั้ง 3 มือ้ และกอ่ นนอน (วันละ 7 ครงั้ ) อาจลดจำนวนคร้งั ลงเมอ่ื ควบคุมระดับนำ้ ตาลในเลอื ดไดด้ ี 2. ผู้ป่วยเบาหวานชนดิ ท่ี 1 ทไ่ี ดร้ ับการรกั ษาด้วย insulin pump ควรทำ SMBG วนั ละ 4-6 คร้งั 3. ผู้ป่วยเบาหวานที่ฉีดอินซูลินต้ังแต่ 3 ครั้งข้ึนไป ควรทำ SMBG ก่อนอาหาร 3 ม้ือทุกวัน ควรทำ SMBG ก่อนนอน และหลังอาหาร 2 ชม.เป็นคร้ังคราว หากสงสัยว่ามภี าวะน้ำตาลต่ำในเลือดกลางดึกหรือมี ความ เสีย่ งทจี่ ะเกดิ ควรตรวจระดบั น้ำตาลในเลอื ดช่วงเวลา 02.00-04.00 น. 4. ผู้ปว่ ยเบาหวานทฉ่ี ีดอินซูลินวันละ 2 ครงั้ ควรทำ SMBG อย่างนอ้ ยวันละ 2 คร้ัง โดยตรวจกอ่ น อาหาร เช้าและเย็น อาจมีการตรวจก่อนอาหารและหลังอาหารม้ืออ่ืนๆ เพื่อดูแนวโน้มการเปล่ียนแปลงของ ระดับน้ำตาล ในเลือด และใชเ้ ปน็ ข้อมลู ในการปรบั ยา

39 5. ควรทำ SMBG เมื่อสงสัยว่ามีภาวะน้ำตาลตำ่ ในเลือดและหลังจากให้การรักษาจนกว่าระดับน้ำตาล ใน เลือดจะกลบั มาปกติหรือใกล้เคียงปกติ 6. ควรทำ SMBG ก่อนและหลังการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น การขับรถ ในผู้ป่วย เบาหวานทไี่ ด้รบั ยาซ่ึงมีความเส่ยี งทจ่ี ะเกิดภาวะน้ำตาลตำ่ ในเลือด 7. ในภาวะเจ็บป่วยควรทำ SMBG อย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง หรือก่อนม้ืออาหาร เพื่อ ค้นหาแนวโนม้ ท่จี ะเกดิ ภาวะนำ้ ตาลตำ่ ในเลอื ดหรือระดบั น้ำตาลในเลือดสงู เกินควร 8. ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดท่ี 2 ซ่ึงฉีดอินซูลินก่อนนอน ควรทำ SMBG ก่อนอาหารเช้าทุกวันหรืออย่าง น้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ในช่วงที่มีการปรับขนาดอินซูลิน อาจมีการทำ SMBG ก่อนและหลังอาหารมื้ออื่นๆ สลับกัน เพ่ือดแู นวโน้มการเปลยี่ นแปลงของระดบั น้ำตาลในเลอื ด ถ้ายงั ไมไ่ ดค้ า่ A1C ตามเป้าหมาย ท่ีมา: แนวทางเวชปฏบิ ตั ิสำหรับโรคเบาหวาน 2559

40 กำหนดคารบ์ ในแตล่ ะมื้อสำหรบั หญงิ ตง้ั ครรภ์ (GDM) Nutrient or food type recommendation Meal planning tips Energy Intake should be sufficient to Include 3 small- to moderate promote adequate , but not sized meals and 2-4 snacks. Space excessive , weight gain to support snacks and meals least 2 hours fetal development and to avoid apart. A bedtime snack ( or even ketonuria . Daily minimum of 1700- a snack in the middle of the 1800 kcal is an appropriate starting night) is recommended to goal diminish of hours fasting. Carbohydrate A minimum of 175 g CHO daily , Common carbohydrate guidelines Protein allowing for the approximately 33 : 2 carbohydrate choices (15-30 g) needed for fetal brain development. at breakfast , 3-4 choices (45-60g) Recommendations are based on for lunch and evening meal, 1-2 effect of intake on blood glucose choices (15 to 30 g) for snacks. levels. Intake should be distributed Recommendations should be throughout the day. Frequent modified based on individual feedings, smaller portions, with assessment and blood glucose intake sufficient to avoid ketonuria. self-monitoring test results. 1.1 g/kg Protein foods do not raise post- meal blood glucose levels. Add protein to meals and snacks to help provide enough calories and to satisfy appetite. Fat Limit saturated fat. Fat intake may be increased because of increased protein take; focus on leanerprotein choices.

41 Sodium Not routinely restricted Fiber For relief of constipation , gradually Use whole grains and raw fruits increase intake and increase fluids. and vegetables.Activity and fluids help relieve constipation. Non-nutritive sweeteners Use only FDA-approved sweeteners. Saccharin crosses the placenta but has not been shown to be harmful Vitamins and mineral Preconception folate . Assess for Take prenatal vitamin, if it causes specific individual need : nausea,try taking at bedtime. multivitamin throughout pregnancy ,iron at12 weeks, and calcium, especially in the last trimester and while lactating Alcohol Avoid all alcohol even in cooking BMI ผสู้ งู อายุ BMI (kg/m2 ) ภาวะโภชนาการ 18.5-19.9 17.0-18.4 ผอม 16.0-16.9 ระดับ 1 ระดบั 2 <16 ระดบั 3 18.5-24.9 ระดบั 4 25.0-29.9 ปกติ 30.0-39.9 อว้ น >40.0 ระดับ 1 ระดับ 2 ระดับ 3

42 คำนวณIBWอยา่ งงา่ ย - ชาย: IBW (kg) = สว่ นสูง (cm) –105 - หญงิ : IBW(kg) = สว่ นสูง (cm) - 110 ระยะเวลา นำ้ หนกั ทล่ี ดลงโดยไมไ่ ด้ตง้ั ใจ (%weight loss) 1 สัปดาห์ ลดลง 1-2% 1 เดอื น ลดลง 5% 3 เดอื น ลดลง 7.5% 6 เดอื น ลดลง 10% ศัพท์ทางการแพทย์ A

43 Atrial Fibrillation (AF) โรคหวั ใจเต้นผดิ จงั หวะ ไมส่ ม่ำเสมอ Asthma โรคหอบหดื Ante natal care (ANC) การดูแลกอ่ นคลอด(การฝากครรภ)์ Allergy โรคภูมแิ พ้,แพ้ Acute Gastroenteritis (AGE) ลำไสอ้ ักเสบฉับพลนั Acidosis ภาวะเลอื ดเป็นกรด Acute Renal Failure (ARF) ไตวายฉบั พลนั Atherosclerotic heart disease โรค หลอดเลือดแดงหัวใจแขง็ B Burns แผลไหม้ Blunt chest ได้รบั การกระแทกท่ี หนา้ อก Blood pressure (BP) ความดนั โลหติ Benign Prostatic Hyperplasia (BPH) โรคต่อมลกู หมากโต Basal ganglia ปมประสาท ทมี่ หี นา้ ท่ีเก่ียวข้องกบั การส่ังการการเคล่ือนไหวของร่างกาย การเรียนรู้ การตดั สนิ ใจ และกจิ เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก C C-Spine injury การบาดเจ็บทกี่ ระดูกตน้ คอ Crushing การบดทับ Concussion สมองกระทบกระเทือน Coma ภาวะหมดสติ ไมร่ สู้ กึ ตวั Complication โรคแทรกซ้อน Cesarian Section (C/S) การผา่ คลอด Chief Complaint (CC)ประวตั ิสำคญั ที่มาโรงพยาบาล Computed Tomography (CT) การ ตรวจเอก็ ซ์เรยค์ อมพวิ เตอร์ Cerebrovascular Accident (CVA) โรคทางหลอดเลือดสมอง Constipation ทอ้ งผกู Coronary Care Unit (CCU) หออภบิ าลผูป้ ่วยหนักเฉพาะโรคหัวใจ Colonic polyp ต่งิ เน้ือท่ีลำไส้ใหญ่ Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis (CAPD) การลา้ งไตทางช่องท้องชนิดตอ่ เน่ืองด้วยตนเอง CTF (Capture the fracture) เป็นโครงการดูและผู้ปว่ ยโรคกระดกู หักจากโรคกระดูกพรนุ โดยทีมสหวชิ าชีพ ปัจจุบนั ใชค้ ำวา่ FLS (Fracture Liaison service) D Dyslipidemia (DLD) โรคไขมนั ในเลอื ดสูง Diagnosis (Dx) การวนิ ิจฉยั โรค Dyspnea หอบเหนอื่ ย Discharge ผปู้ ว่ ยออกจาก โรงพยาบาลแล้ว E Emergency room (E.R) หอ้ งฉกุ เฉนิ F Fracture Femur กระดูกต้นขา Fracture การแตกหกั ของกระดูก หกั

44 Follow up (F/U) นัดตรวจติดตามอาการ Family history (FH) ประวตั ิการเจ็บป่วย ของคนในครอบครัว G General Appearance (GA) ลักษณะภายนอกทั่วไป Global aphasia เปน็ ความผดิ ปกตขิ องภาษาพูด เกดิ จากพยาธิสภาพทส่ี มอง ผปู้ ่วยจะพดู ไมค่ ล่อง ไมช่ ัดและมี ปญั หาเรอ่ื งความเขา้ ใจ H Head injury การไดร้ ับบาดเจ็บที่ศีรษะ Hemodialysis หอ้ งลา้ งไต HT (Hypertension) ความดันโลหิตสงู I In patient Department (IPD) แผนกรักษาผปู้ ่วยใน Infection การตดิ เชือ้ Intake/Outtake (I/O) ปริมาณน้ำเข้าออกในแตล่ ะวนั Intensive care unit (I.C.U) หออภิบาล ผู้ป่วยหนักรวม Ischemic stroke โรคหลอดเลือดสมองตบี หรอื อดุ ตัน Intracerebal hemorrhage โรคหลอดเลอื ดสมองแตกจากการฉกี ขาดของหลอดเลือดในสมอง J Jaundice ดซี า่ น K L Labour room (L.R) หอ้ งคลอด LN (Lupus Nephritis) โรคไตทเ่ี ป็น ผลกระทบจากโรค SLE M Medication (MED) อายรุ กรรม Morbid obesity ภาวะอ้วนอยา่ งรุนแรง N Nervous System (N/S) สัญญาณชพี ทางระบบประสาท Not applicable (N/A) ไม่มีข้อมูล Nephrotic syndrome (NS) ไตอักเสบ Nasogastric Tube (NG Tube) การใสส่ าย ยางทางจมูกถึงกระเพาะ NASH (Nonalcoholic steatohepatitis) เปน็ ภาวะท่มี ไี ขมันสะสมในตับรวมกับการอักเสบ Non-ST Elevated Myocardial Infarction (NSTEMI) ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน O

45 Observe สังเกตอาการ Orthopedic (ORTHO) กระดูกและข้อ Out Patient Department (OPD) แผนกผู้ป่วยนอก Operating room (O.R) ผา่ ตัด ORIF (Open Reduction Internal Fixation) การผ่าตดั กระดกู ให้เขา้ ท่ี โดยการตรึงกระดูกท่ีหกั ดว้ ยโลหะซ่ึงจะ ใส่อยู่ภายนอกรา่ งกายของผูป้ ่วย P Pneumothorax ภาวะลมในชอ่ งปอด Pulse ชพี จร Pain ความปวด Pale ซดี Physical therapy แผนกกายภาพบำบดั Pharmacy หอ้ งจา่ ยยา Physical Examination (PE) การตรวจร่างกาย Past History (PH) ประวตั อิ ดตี Present Illness (PI) ประวัตปิ ัจจุบัน Physical therapy (PT) กายภาพบำบดั Past medical history (PMH) ประวตั อิ ดีตของการรักษา Q R R/O สงสัยว่าจะเป็น S Swelling อาการบวม Surgical (SUR) ศัลยกรรม (รักษาดว้ ย การผา่ ตดั ) Side effect ผลข้างเคียง Sputum เสมหะ Stress เครียด Surgery ศลั ยกรรม Septicemia ติดเชอื้ ในกระแสเลอื ด SLE (Systemic lupus erythematosus) โรคแพ้ภูมิตวั เอง Septic shock ภาวะช็อกเหตุพษิ ตดิ เช้ือ เกดิ ข้นึ หลงั จากการตดิ เชอ้ื ในกระแสเลอื ด Surgical Intensive Care Unit (SICU) หออภบิ าลผู้ป่วยวิกฤตศลั ยกรรม ST Elevated Myocardial Infarction (STEMI) ภาวะหัวใจขาดเลอื ดเฉยี บพลัน SGOT (Serum Glutamic-Oxaloacetic Transaminase) หรอื AST (Aspartate Transaminase) เปน็ เอนไซม์ ทใ่ี ช้ชว่ ยตรวจภาวะโรคตบั SGPT (Serum glutamate pyruvate transaminase) หรอื ALT (Alanine transaminase) เป็นเอนไซม์ที่ใช้ ชว่ ยตรวจภาวะโรคตับ T

46 Treatment การรกั ษา Transfer การย้ายผ้ปู ว่ ย Therapy การรักษา Traumatic Brain Injury (TBI) การ บาดเจบ็ ที่สมอง Tuberculosis วณั โรค U Unconscious ไม่รูส้ ึกตวั Urine analysis การเกบ็ ปัสสาวะสง่ ตรวจ Urticaria ลมพษิ Underlying disease (U/D) โรค ประจำตัว Upper Respiratory Infection (URI) การตดิ เช้ือทางเดินหายใจส่วนบน Urinary Tract Infection (UTI) การติดเช้ือทางเดินปัสสาวะ V Vital sign (V/S) สัญญาณชีพ Vomit อาเจียน Viral myocarditis กล้ามเน้อื หัวใจอกั เสบจากไวรัส W Wound แผล Weak ออ่ นเพลยี Ward ตกึ ผปู้ ว่ ย X Y Z

47 สมุนไพรทมี่ ีโพแทสเซยี ม สมุนไพรกบั ผู้ปว่ ยโรคไต รปู ภาพ อลั ฟลั ฟา Alfalfa ผกั ชี (ใบ) Coriander (leaf) อฟี นง่ื พริมโรส )Evening Primrose( มะระ ผล), ใบ( Bitter Melon (fruit, leaf) ขม้นิ เหง้า)) Turmeric (rhizome) ดอกคำฝอย ดอก)) Safflower (flower) ลูกยอ Noni โสมอเมรกิ ัน American Ginseng

ใบบัวบก 48 Gotu Kola รปู ภาพ แดนดไิ ลออน) ราก, ใบ( Dandelion (root, leaf) กระเทยี ม ใบ)) Garlic (leaf) ตะไคร้ Lemongrass มะละกอ) ใบ, ผล( Papaya (leaf, fruit) ชิโครรี) ใบ) Chicory (leaf) สมุนไพรท่มี ีฟอสฟอรัส เมลด็ แฟลกซ์ หรอื เมลด็ ลินนิ Flaxseed (seed) มิลค์ ทสิ เซิล Milk Thistle

ตน้ หอม (ใบ) 49 Onion (leaf) รปู ภาพ โพสเลน Purslane เมล็ดทานตะวัน Sunflower (seed) ดอกบัว Water Lotus สมนุ ไพรที่ควรหลีกเล่ยี งในผู้ปว่ ยโรคไต ปักค)้ี สมุนไพรจนี โบราณ(Astragalus บารเ์ บอรร์ ่ี Barberry เหลืองชชั วาลย)์ เล็บวิฬาร์( Cat's Claw


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook