Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ครูผู้มองเห็นสภาวะ การเรียนรู้ของเด็ก

ครูผู้มองเห็นสภาวะ การเรียนรู้ของเด็ก

Description: ทำไมพูดแล้วเด็กไม่ฟัง?
ทำไมเด็กชอบวิ่งเล่นเวลาครูสอน?
ทำไมเด็กเรียนรู้ไม่ได้?
คำถามที่มักเกิดขึ้นในใจแม่ครูปฐมวัยเวลาจัดการเรียนรู้ให้กับเด็กเล็ก แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปถึงความเข้าใจในพัฒนาการและธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้ ครูจะพบว่าธรรมชาติ
ของเด็กวัยนี้ยังฟังได้น้อย และยังมีคลังคำไม่มากพอ

Keywords: การเรียนรู้,เด็กปฐมวัย

Search

Read the Text Version

ครู ฟง สังเกต และอานความรูสึก เด็กแตละคน ?ทำอะไร มองการเรียนรูของเด็กเปนตัวตั้ง ปรับการเรียนรูตามความสนใจ ของผูเรียน คงเปาหมายไว ไมตองเดี๋ยวนี้ก็ได เดก็ มีสวนรวมตัดสินใจและ วางแผนการเรียนรูของตัวเอง ?เรย� นรอŒู ะไร รับฟงและยอมรับ ความคิดเห็นของกลุม 50

รอเปนš จบั ประเดน็ พาเดก็ เรย� นรูŒร‹วมกนั ระหวางเดินไปดูนก เด็กๆ ชี้ชวนกันดูตนไมที่เห็นระหวางทาง แตครูกิ่ง สังเกตเห็นวานองอนุบาล 1 คนเดิมยังคงมองหาไมไปตลอดทาง ตอนหนึ่ง เขาแหงนขน้ึ ไปเหน็ กง่ิ ไมอ ยดู า นบน แลว หนั มาบอกครกู ง่ิ วา “เราตอ งเอาไมย าวๆ เราปนขึ้นไปหยิบไมยาวๆ บนตนไมดีกวาไหม” ครูกิ่งจึงถามย้ำความเขาใจวา จะเอาไปเกบ็ แวนขยายเหรอ ก็ไดค ำตอบกลบั มาวา “ใช” 51

บทสนทนาเล็กๆ นี้ทำใหครูกิ่งรูวา ใจของนองเล็กคนนี้ยังจดจออยูกับแวนขยายในบึง จนกระทั่งเดินมาถึงจุดหมายบริเวณขางแปลงนาริมบึง จุดที่เคยเห็นนกตอนมาสำรวจ ธรรมชาติเมื่อสัปดาหกอน ขณะที่คนอื่นๆ กำลังมองหานก นองอนุบาล 1 เดินตรงเขาไป ทพ่ี มุ ไมใ กลๆ แลว พยายามดงึ ไมไ ผล ำหนง่ึ ในพมุ ไมข น้ึ มา พรอ มสง เสยี งบอกคณุ ครแู ละเพอ่ื นๆ โดยมีเด็กๆ ในกลมุ สองคนเดนิ มาดดู ว ยความสนใจ ᵋàÃÒµŒÍ§ãªŒàÇÅÒ การรับฟ˜งและ ¹Ò¹ÁÒ¡àŹРแลกเปลี่ยนความคิด เพื่อหาทางออกร‹วมกัน ¤ÃÙ¡Ôè§ äÁ¹Œ éãÕ ªŒä´Œ äÁ¹Œ ÂéÕ ÒÇÁÒ¡ ạä»äËÁ? 52

ขณะกำลังหารือเรื่องไมไผกันอยูนั้น เด็กคนหนึ่งเรียกใหทุกคนดูนกที่อยูอีกฝงของบึง เดก็ ๆ จงึ หนั เหความสนใจไปหานก รวมทง้ั นอ งอนบุ าล 1 กด็ ว ย แตเ พยี งครเู ดยี ว เขากก็ ลบั มา เดินหาไมตอ ไป ครูกิ่งเฝ‡าสังเกตท‹าทีของนองเล็กอยางเงียบๆ แมใจอยากจะรีบเขาไปรวมวงสนทนา ตอนเด็กๆ หารือกันเรื่องไมไผ แลวชวนคุยพาทุกคนกลับมาสนใจการเก็บแวนขยายที่เปน เปาหมายในใจครู แตครูกิ่งอดทนรออย‹างใจเย็น เพราะเห็นแลววานองเล็กคนนี้ยังจดจอ อยูกับเรื่องแวนขยายไมเลิก แสดงวาขางในเขากำลังอยากเรียนรูเรื่องนี้อยู ขณะที่เด็กๆ คนอื่นกำลังสนใจนก ครกู ่งิ จึงใหเ วลาเด็กแตล ะคนไดเ รียนรูในเรอื่ งท่ตี วั เองสนใจ จนกระทั่งใกลจะไดเวลานัดหมายกลับไปสรุปการเรียนรูกับเพื่อนกลุมอื่นที่หอง เด็กๆ บางคนเดินกลับมาดูไมไผ นองเล็กเห็นดังนั้นก็รีบเดินไปที่ไมไผแลวกมลงใชสองมือพยายาม ดึงไมไ ผข นึ้ มาพรอ มกบั รอ งบอกทุกคนวา “เอาไมน ้ี” สูŒไม‹ถอย (Grit) àÍÒäÁŒ¹éÕ 53

ครูกิ่งจึงฉวยเอาอาการกัดไมปลอย (Grit) ของนองเล็กมาเปนประเด็น ตั้งคำถามพาเด็กๆ ไปสูการเรียนรูที่เปนเปาหมายในใจครู โดยสรุปสถานการณ ใหเด็กๆ รูวา ตอนนี้ใกลจะไดเวลาที่นัดหมายกับกลุมอื่นไว เราจะตองกลับหอง กันแลว แตครูเหน็ วาใจของนองเล็กอยากจะเอาไมไปเกบ็ แวน ขยาย รวมท้งั เดก็ ๆ บางคนดว ย เดก็ ๆ คิดวา เราควรทำอยา งไรกนั ดี 54

จากคำถามปลายเปด ของครู เด็กๆ เสนอความเห็นวา จะเอาไมไ ผท เี่ จอกลบั ไปเก็บแวนขยาย แลวชวยกันดึงไมไผออกจากพุมไม และแบกกลับไปยังสะพาน ดวยสหี นา เบิกบานพรอมกบั สง เสียง “ฮุยเลฮุย ฮยุ เลฮุย” ไปตลอดทาง 55

ครู ฟง สังเกต รอจังหวะ สรุปสถานการณใหเด็กเขาใจตรงกัน ?ทำอะไร ฉวยเอาการเรียนรูของเด็ก มาเปนประเด็นนำสูการเรียนรู ตั้งคำถามใหเด็กไดคิดและตัดสินใจ รวมกันดวยตัวเอง ใหโอกาสเด็กไดทำดวยตัวเอง เดก็ มีสวนรวมเสนอความคิด ตัดสินใจดวยตัวเอง ?เร�ยนรูŒอะไร รูจักชวยเหลือกัน 56

วางใจ ใหŒเดก็ ทำเอง เดก็ ๆ ชว ยกนั แบกไมไ ผก ลบั มาถงึ สะพานรมิ บงึ ณ จดุ ทแ่ี วน ขยายตกลงไป แลว ให ครกู ง่ิ เปน คนเขย่ี เพราะไมใ หญแ ละหนกั เกนิ กำลงั เดก็ ๆ โดยเดก็ ๆ เกาะราวสะพาน ชะโงกดแู ละสง เสยี งใหก ำลงั ใจ ครกู ง่ิ ใชไ มเ ขย่ี จนแวน ขยายเขา มาอยใู กลฝ ง แตน ำ้ เริ่มขุน ทำใหมองไมเห็นแวนขยาย เสียงใครคนหนึ่งเสนอวานาจะตองลงไปเก็บ จากใตสะพาน ครกู ่งิ จึงปก ไมไวบริเวณท่ีแวน ขยายตก ใหเดก็ ๆ ทอ่ี าสาอยดู า นบน ชวยกันจับไมไวเปนเครื่องหมายบอกตำแหนงของแวนขยาย สวนครูกิ่งตามเด็ก ทอ่ี าสาลงไปเก็บทใี่ ตส ะพาน ซึง่ กค็ อื นองอนบุ าล 1 น่ันเอง 57

เมอ่ื ลงมาถึงใตสะพาน มองเหน็ แวนขยายอยูไมไ กล แตน อ งเลก็ กลับเกาะแขนครูกิ่งไว ไมยอมเอื้อมมือไปหยิบ สาเหตุเพราะใกลๆ กนั นน้ั มีกง่ิ ไมผทุ ีม่ ีหอยตัวเล็กๆ เกาะอยจู ำนวนหลายตัว “หนกู ลัว อนั น้ีมันคืออะไร” ถามพรอ มกบั ช้ีไปที่หอย “หอย” ครกู ่งิ ตอบ “หนไู มช อบหอย มันขยบั ได” “แลว จะทำอยางไรด”ี ครกู ิ่งหนั ไปหารือ เด็กนอ ยไมตอบ แตเ อาสองมือจบั แขนครูก่งิ ยื่นไปทางแวนขยาย “ออ เกบ็ ดว ยกนั ใชไ หม” “ใช” ครูกิ่งจึงคอยๆ เอื้อมไปหยิบแวนขยาย โดยมีสองมือนอยๆ จบั ประคองแขนครกู ่ิง สายตาจองมองไปทแ่ี วนขยาย 58

59

60

“เราเก็บไดแลว” ทนั ทที เ่ี หน็ ครกู ง่ิ หยบิ แวน ขยายขน้ึ มาจากนำ้ ไดส ำเรจ็ เสยี งเลก็ ๆ ตะโกนบอกดว ยความดใี จ ตามดว ยเสยี งเฮของทกุ คนทร่ี อลนุ อยดู า นบน ระหวางเดินกลับหองดวยความเบิกบานกับความสำเร็จในครั้งนี้ ครกู ง่ิ ชวนเดก็ ๆ พดู คยุ ไปดว ยวา รสู กึ อยา งไรทเ่ี กบ็ แวน ขยายขน้ึ มาได เด็กหลายคนตอบเปน เสยี งเดียวกันวา “รูสกึ ดีใจ” ครกู ง่ิ จึงถามตอ วา แลวรูไหมวาทำไมเราถึงเก็บได “เพราะเราชวยกัน” คำตอบหนึ่ง ดังขึ้นในกลุมเด็กๆ จากนั้นเด็กคนอื่นๆ ก็เริ่มพูดตาม “เพราะเรา ชว ยกัน” “เพราะเราชว ยกนั ” 61

วนั น้นั กงิ่ บอกเขาวา ครูก่งิ ภมู ิใจในตัวเด็กๆ ทุกคนมากเลย ทพ่ี ยายามชวยกนั เก็บแวน ขยายข้นึ มา ก่งิ อยากยำ� ใหŒเด็กๆ รูวŒ ‹าตวั เขาทำไดŒ และมันสำเร็จเพราะเขาช‹วยเหลือกนั บางทเี ขารลู ะวาเขาทำได แตถ าไมมใี ครมาบอก มนั อาจเปนภาพจางๆ แตพอมคี นมาบอก ออ ฉันเปน คนท่ีทำสงิ่ น้ไี ดดว ยตวั เอง ฉนั เปน คนทสี่ รางความภูมใิ จน้ีใหเกดิ กบั ตัวเองได เปน การยำ้ คณุ คา หรอื ทัศนคติ (Attitude) เชงิ บวกใหกับเด็กๆ อีกทหี นงึ่ 62

ครู วางใจใหเด็กคิดเอง ทำเอง แกปญหาเอง ?ทำอะไร อยูเปนเพื่อน ชวยเมื่อจำเปน เด็ก รูจักชวยเหลือกันเพื่อใหงานสำเร็จ ภูมิใจในตนเองที่ทำได ?เรย� นรูŒอะไร รับรูความสามารถของตน 63

พาเด็กสรปุ การเร�ยนรŒู ร‹วมกนั เมื่อกลับมาถึงหอ ง ครกู งิ่ และเดก็ ๆ ลอมวงสรปุ การเรียนรูรวมกัน โดยใหเ ดก็ ๆ ทบทวนเหตกุ ารณว า “เราไปทำอะไรกนั มา” เพอ่ื ใหท กุ คนเหน็ ภาพเดยี วกนั กอ น จากนั้นจึงตั้งคำถามใหเด็กๆ สะทอนการเรียนรูในดานตางๆ โดยครูกิ่งคอย บันทกึ คำตอบของเด็กๆ ข้นึ กระดานใหท ุกคนเหน็ รวมกัน 64

65

ทคกัณษิตะ ศาสตร ทแกกั ษปŒ ะญ˜ กาหราคดิ การกะประมาณ คดิ วเิ คราะห ความสั้น ความยาว คิดเชอ่ื มโยง การกะระยะ ความสงู /ลึก คดิ สรา งสรรค วท�ทกั ษยะาศาสตร ?ทำอย‹างไรบาŒ ง เแกว‹น คาดเดา ทดลอง หาไมม า ลองเอามาเขีย่ แตย าวไมพ อ ประเมิน ทดลองใหม เปลย่ี นไมใ หม สน้ั ไป เปล่ียนอกี สั้นไป ใหค รกู ง่ิ ชว ยเพราะครกู งิ่ แขนยาว หาไมใหม เกบ็ แวนกับครกู ง่ิ ภาษา สัน้ ยาว มนั สั้นไป เอามาวดั วา ไมย าวแคไหน (พรอ มทำทากางแขนออกระบคุ วามยาว) เราตอ งเอาไมย าวๆ เราปน ขึ้นไปหยบิ ไมย าวๆ บนตน ไมด กี วา ไหม อนั นมี้ นั คืออะไร หนไู มชอบหอย มันขยบั ได 66

กนบ็ ขยาย ?ทำไมเราถึงเกบ็ แว‹นขยายข�้นมาไดŒ “เพราะเราชวยกนั ” “แบบนเ้ี รยี กวา สามคั คใี ชไหมครูก่งิ ” คุณค‹า (Attitude) เด็กเห็นถึงการอยูรวมกนั การพ่ึงพาและการชว ยเหลอื กนั ความสำเรจ็ ดวยการรวมกนั ทำ 67

กระบวนการคิด ความรŒูและ กระบวนการ จากการท่ีครใู ชค ำถามเปนลำดับ ทางว�ทยาศาสตร ไปสกู ารแกป ญหา การไมท ้ิงปญหา ความเพียรพยายามทำส่ิงทค่ี ิดใหไ ด (Grit) คิดวเิ คราะห ทดลอง ประเมนิ ลองใหม เกดิ ความรูตอยอดไปเร่อื ยๆ ?เดก็ ไดŒอะไร การร‹วมมอื กนั คขกอาวรงารตมนบั สราŒู มารถ รบั รูปญหารว มกัน ชวยกนั แกปญหาเรอื่ งเดยี วกนั ม่นั ใจวาตนเองแกป ญหาได รจู กั ฟงความคดิ เหน็ ของกนั และกัน นำไปสกู ารเห็นคุณคา ในตนเองตอไป รวมแรงรว มใจกนั ทำเพื่อสวนรวม มีความรบั ผดิ ชอบตอ ส่ิงของสวนรวม 68

การวางใจ การรŒูวา‹ ในการเรย� นรขูŒ องเด็ก เด็กมคี วามเขาŒ ใจ เสริมความม่ันใจและความศรทั ธา ในปญญาการเรียนรูข องมนุษย ทางคณิตศาสตร/วทิ ยาศาสตร ความกลาŒ ปไดรจŒ าะสกบการณจ รง� ที่จะหาโอกาส พาเด็กเรย� นรูŒ ?ครู ในสถานการณอ นื่ ๆ มากข้นึ ไดอŒ ะไร ความอดทน กปารรมะสี เามยตินาวคเ� วคารมาสะหน/ ใจ รอจังหวะ และการเรย� นรูŒ การเรยี นรทู ด่ี ี ครไู มป ลอ ยและ ของเดก็ ตลอดเวลา เด็กเกิดการเรียนรูจริง 69

ปจ จัยท่จี ะทำใหครูเห็น Visible Learning ของผูเรยี นไดม ากทส่ี ุด คอื การออกแบบแผนกระบวนการเรยี นรทู เ่ี ปน แบบเปด คอื เปด พน้ื ท่ี เปด โอกาส ใหเ ดก็ เปน ผรู ว มเรยี นรไู ปกบั เพอ่ื นและครู ถา ครอู อกแบบ แผนการเรียนรูที่มีแตสิ่งที่คุณครูอยากสอนอยากบอกเด็ก เราจะ ไมมีทางเหน็ Visible Learning ของเด็กเลย กระบวนการเรยี นรตู อ งใหเ ดก็ ไดป ฏบิ ตั ิ ลงมอื ทำจรงิ มปี รากฏการณจ รงิ ใหเด็กไดมีปฏิสัมพันธกับสิ่งนั้นๆ แลวครูจะเห็น Visible Learning ทเ่ี ดก็ แสดงออกมาใหเ หน็ ทำไมเดก็ คนนจ้ี ดจอ กบั เรอ่ื งใดเรอ่ื งหนง่ึ อยู เรื่องที่เขากำลังจดจอนั้นคือเรื่องอะไร แลวครูจะสังเกตเห็นวาแววตา ของเดก็ กำลงั เบิกบาน อยากรู อยากทำตอ สงสยั อะไรบางอยา ง Visible Learning จึงมีความสำคัญมากกับครู เพราะชวยให ครูเขาใจวาผูเรียนกำลังสนใจอะไร แลวครูจะขยายเปนโอกาสแหง การเรียนรูของเด็ก ใหเขาเกิดความรูและความเขาใจในเรื่องนั้นๆ จากประสบการณต รงไดอยา งไร 70

เชนในกรณีนี้ ครูกิ่งอานเด็กออก รูวาเด็กกำลังสนใจเรื่องอะไร แลว เชอ่ื ใจวา เดก็ เรยี นรไู ดใ นสถานการณต า งๆ ไมเ พยี งแตส ง่ิ ทค่ี ณุ ครู จัดเตรียมมาใหเขาไดเรียนรูเทานั้น รูวาเมื่อเด็กไปเผชิญหรือกำลัง เจอกับปญหา นั่นคือชวงจังหวะของการเรียนรูที่ดีมาก แลวครูกิ่งก็ ใหเวลา ไมไดแกดวยครูชวยเก็บใหเลย แตขยายสวนนี้ดวยการ ชวนเดก็ คยุ กนั วา เราจะเอาแวน ขยายอนั นก้ี ลบั ขน้ึ มาดว ยกนั ไดอ ยา งไร ตรงนี้เทากับวาในใจครูกิ่งตองมีตัวกระบวนการอะไรเล็กๆ ไวแลววา เด็กกำลงั จะเรยี นรจู ากเรอ่ื งนี้ไดอยางไร นั่นคือครูมี Critical Thinking จับจุดสำคัญของการเรียนรูได แลวในขณะเดียวกันก็ออกแบบกระบวนการดวยการพาเด็กคิด ชวนทำ ทดลองทำตามที่เด็กเสนอ ใหเด็กเห็นและประเมินเองวา ไดหรือไมไดอยางไร เพื่อไปหาจุดที่จะทำใหไดตอไป โดยครูกิ่ง ไมแ ทรกแซง เพยี งอยใู กลๆ คอยสงั เกต ฟง เกบ็ ขอ มลู เพอ่ื ตอ เรอ่ื งราว กับเด็ก แลวก็ชวนใหเด็กสนใจในประเด็นเหลานั้นตอไป จนกระทั่ง เกิดเปน ความรูจากประสบการณข องตัวเดก็ เอง ครสู ุวรรณา ชวี พฤกษ ผเู ชี่ยวชาญดานการศึกษาปฐมวยั แบบเปนองคร วม ผูรบั ใบอนุญาตโรงเรียนรุงอรณุ 71

โครงการส่ือสรา งสรรค เพ่ือการเรียนรูอยางเปนองคร วม ระยะที่ 2 (แมค รหู ัวใจใหม) wwดwแาล.วhะนoรlโบัisหชtลicมดtวeหีดaนิทcงัhัศสeนือr. net LeTaerancinhgerSapsaชcaมeวLดีeVaิทirsศั nibนinleg LDeeasringinnegr 72