Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

Published by ครูภา สอนไทย, 2021-09-18 03:38:33

Description: หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

Search

Read the Text Version

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ความนา กระทรวงศึกษำธิกำรได้ประกำศใช้มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ คณิตศำสตร์ วิทยำศำสตร์ และสำระภูมิศำสตร์ในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551 ตำมคำส่ัง กระทรวงศึกษำธกิ ำรท่ี สพฐ. 1239/2560 ลงวนั ที่ 7 สิงหำคม 2560 และคำสัง่ สำนกั งำนคณะกรรมกำร กำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๕ มกรำคม ๒๕๖๑ ให้เปล่ียนแปลงมำตรฐำนกำรเรียนรู้และ ตัวช้ีวัด กลุ่มสำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์และวิทยำศำสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมีคำสั่งให้ โรงเรียนดำเนินกำรใช้หลักสูตรในปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ โดยให้ใช้ในชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑ และ ๔ ตั้งแต่ปี กำรศึกษำ ๒๕๖๑ เป็นต้นมำ ให้เป็นหลักสูตรแกนกลำงของประเทศ โดยกำหนดจุดหมำย และมำตรฐำน กำรเรียนรู้เป็นเป้ำหมำยและกรอบทิศทำงในกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียนมีพัฒนำกำรเต็มตำมศักยภำพ มี คุณภำพและมีทักษะกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เพ่ือให้สอดคล้องกับนโยบำยและเป้ำหมำยของสำนักงำน คณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พ้ืนฐำน โรงเรียนวัดพืชนิมิต (คำสวัสดิ์รำษฎร์บำรุง) จึงได้ทำกำรปรับปรุงหลักสูตรสถำนศึกษำพุทธศักรำช 2561 ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551 ในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ คณิตศำสตร์ วิทยำศำสตร์ และสำระภูมิศำสตร์ในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม เพ่ือนำไปใช้ประโยชน์และเป็นกรอบในกำรวำงแผนและพัฒนำหลักสูตรของสถำนศึกษำแ ละจัดกำรเรียน กำรสอน โดยมเี ป้ำหมำยในกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียน ให้มกี ระบวนกำรนำหลักสตู รไปสู่กำรปฏิบตั ิ โดยมีกำร กำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมำย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ และตัวช้ีวัด โครงสร้ำงเวลำเรียน ตลอดจนเกณฑ์กำรวัดประเมินผลให้มีควำมสอดคล้องกับมำตรฐำนกำร เรียนรู้ เปิดโอกำสให้โรงเรียนสำมำรถกำหนดทิศทำงในกำรจัดทำหลักสูตรกำรเรียนกำรสอนในแต่ละระดับ ตำมควำมพร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบแกนกลำงเป็นแนวทำงท่ีชัดเจนเพ่ือตอบสนองนโยบำยไทยแลนด์ ๔.๐ มคี วำมพร้อมในกำรก้ำวส่สู งั คมคณุ ภำพ มีควำมรอู้ ย่ำงแท้จริง และมีทกั ษะในศตวรรษที่ ๒๑ มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวช้ีวัดท่ีกำหนดไว้ในเอกสำรนี้ ช่วยทำให้หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง ในทุก ระดับเห็นผลคำดหวังท่ีต้องกำรในกำรพัฒนำกำรเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสำมำรถช่วยให้ หน่วยงำนที่เก่ียวข้องในระดับท้องถ่ินและสถำนศึกษำร่วมกันพัฒนำหลักสูตรได้อย่ำงม่ันใจ ทำให้กำรจัดทำ หลักสูตรในระดับสถำนศึกษำมีคุณภำพและมีควำมเป็นเอกภำพย่ิงขึ้น อีกท้ังยังช่วยให้เกิดควำมชัดเจนเรื่อง กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหำกำรเทียบโอนระหว่ำงสถำนศึกษำ ดังนั้นในกำรพัฒนำ หลักสูตรในทุกระดับต้ังแต่ระดับชำติจนกระท่ังถึงสถำนศึกษำ จะต้องสะท้อนคุณภำพตำมมำตรฐำนกำร เรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ในหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน รวมทัง้ เป็นกรอบทิศทำงในกำรจัด กำรศึกษำทกุ รปู แบบ และครอบคลุมผู้เรยี นทุกกลุ่มเป้ำหมำยในระดบั กำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน กำรจัดหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนจะประสบควำมสำเร็จตำมเป้ำหมำยที่คำดหวังได้ ทุกฝ่ำย ที่ เก่ียวข้องทั้งระดับชำติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทำงำนอย่ำงเป็นระบบ และต่อเนื่อง ในกำรวำงแผน ดำเนินกำร ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพ่ือพัฒนำ เยำวชนของชำติไปส่คู ณุ ภำพตำมมำตรฐำนกำรเรียนรทู้ ่ีกำหนดไว้ หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวสั ด์ริ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้นื ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 1

สารบญั หน้า คานา 4 เปา้ หมายของกลมุ่ สาระภาษาไทย สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 5 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6 ทาไมต้องเรียนภาษาไทย 7 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ คณุ ภาพผเู้ รียน 8 โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา 9-10 ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง 11 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี 1 13-16 โครงสรำ้ งรำยวิชำช้นั ประถมศึกษำปีที่ 1 17 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 18-19 คำอธิบำยรำยวชิ ำชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี 2 โครงสร้ำงรำยวชิ ำชั้นประถมศึกษำปีที่ 2 21-24 25 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 26 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำชั้นประถมศึกษำปีท่ี 3 โครงสรำ้ งรำยวชิ ำช้นั ประถมศึกษำปีท่ี 3 28-32 33 34-35 หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดิ์รำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพื้นฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 2

ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 37-40 คำอธบิ ำยรำยวิชำช้ันประถมศึกษำปที ี่ 4 41 โครงสรำ้ งรำยวิชำชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 42-43 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 คำอธิบำยรำยวชิ ำชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี 5 45-48 โครงสรำ้ งรำยวิชำช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี 5 49 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 50-51 คำอธบิ ำยรำยวิชำช้นั ประถมศึกษำปีที่ 6 โครงสรำ้ งรำยวิชำช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 6 53-56 กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ 57 58 อภิธานศพั ท์ 59-63 64-71 หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวัสดริ์ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พืน้ ฐำนพทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 3

เปา้ หมายของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย โรงเรียนวัดพืชนิมิต(คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรุง) มุ่งจัดกำรเรียนรู้สำระ ภำษำไทยเพื่อส่งเสริมและพัฒนำนักเรียน ให้มีควำมเป็นเลิศในทักษะกำรอ่ำน กำรเขียน กำรฟัง กำรดูกำร พูด หลักกำรใช้ภำษำ และวรรณคดีและวรรณกรรม เพ่ือใหน้ ักเรยี นสำมำรถใช้ภำษำไทยเป็นเครื่องมือในกำร ส่ือสำร และแสวงหำควำมรู้อย่ำงต่อเนื่องตลอดชีวิต ตลอดจนสำมำรถใช้ภำษำในกำรพัฒนำตน พัฒนำคน และพัฒนำงำนให้เป็นไปตำมท่ีสังคมไทย และสังคมโลกต้องกำร บนพ้ืนฐำนของคุณธรรม จริยธรรม และ ควำมพอเพียง เปา้ ประสงค์หลักสตู ร (Corporate objective) 1. ผู้เรียนใชภ้ ำษำไทยได้อย่ำงมปี ระสิทธิภำพ และสำมำรถดำรงตนในสงั คมอย่ำงมีควำมสขุ 2. ครูภำษำไทยสำมำรถจดั ระบบกำรเรียนรทู้ เ่ี นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั 3. กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย มรี ะบบกำรบริหำรและจัดกำรศึกษำท่ีมีประสิทธิภำพ 4. ผเู้ รยี นมที ักษะทำงภำษำไทยมคี ณุ ภำพตำมมำตรฐำนกำรศึกษำของชำติ วิสยั ทศั นก์ ลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภำษำไทยเป็นเครื่องมือของคนในชำตเิ พื่อกำรส่ือสำรทำควำมเข้ำใจกันและใชภ้ ำษำในกำรประกอบ กิจกำรงำนทั้งส่วนตัว ครอบครัว กิจกรรมทำงสังคมและประเทศชำติ เป็นเครื่องมือกำรเรียนรู้ กำรบันทึก เรื่องรำวจำกอดีตถึงปัจจุบัน และเป็นวัฒนธรรมของชำติ ดังน้ันกำรเรียนภำษำไทย จึงต้องเรียนรู้เพ่ือให้ เกิด ทักษะอย่ำงถูกต้อง เหมำะสมในกำรสื่อสำร เป็นเคร่ืองมือในกำรเรียนแสวงหำควำมรู้ และ ประสบกำรณ์ เรียนรู้ในฐำนะเป็นวัฒนธรรมทำงภำษำให้เกิดควำมช่ืนชม ซำบซ้ึง และภูมิใจในภำษำไทย โดยเฉพำะคุณค่ำของวรรณคดี และภูมิปัญญำทำงภำษำ ของบรรพบุรุษได้สร้ำงสรรค์ไว้ อันเป็นส่วน เสรมิ สรำ้ งควำมงดงำมในชีวิต กำรเรียนรูภ้ ำษำไทยยอ่ มเกีย่ วพันกบั ควำมคิดของมนุษย์ เพรำะภำษำเป็นสื่อของควำมคิดกำรเรียนรู้ ภำษำไทยจึงต้องส่งเสริมให้ผเู้ รยี นได้สร้ำงสรรค์ คดิ วิพำกษ์วจิ ำรณ์ คิดตัดสนิ ใจแกป้ ัญหำ และวินิจฉัยอย่ำงมี เหตุผล ขณะเดยี วกันกำรใช้ภำษำอยำ่ งมีเหตผุ ลใช้ในทำงสรำ้ งสรรค์และใชภ้ ำษำอย่ำงสละสลวยงดงำม ยอ่ ม สรำ้ งเสรมิ บุคลกิ ภำพของผใู้ ชภ้ ำษำให้น่ำเชื่อถอื และเช่อื ภมู ดิ ้วย ภำษำไทยเป็นทกั ษะท่ีต้องฝกึ ฝนจนเกดิ ควำมชำนำญในกำรใชภ้ ำษำเพ่ือกำรส่ือสำร กำรอำ่ น กำรฟัง เป็นทักษะของกำรแสดงออกด้วยกำรแสดงควำมคิดเห็น ควำมรู้และประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ภำษำไทยจึง ต้องเรียนเพื่อกำรสื่อสำรให้สำมำรถรับรู้ข้อมูลข่ำวสำรได้อย่ำงพินิจพิเครำะห์สำมำรถเลือกใช้คำ เรียบ เรียงควำมคิด ควำมรู้ และใช้ภำษำได้ถูกต้องตำมกฎเกณฑ์ ได้ตรงตำมควำมหมำย และถูกต้องตำม กำลเทศะ บคุ คล และใชไ้ ด้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพ หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวัสดิร์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 4

ภำษำไทยมีส่วนท่ีเป็นเนื้อหำสำระ ได้แก่ กฎเกณฑ์ทำงภำษำ ซึ่งผู้ใช้ภำษำจะต้องรู้และใช้ภำษำให้ ถกู ต้อง นอกจำกน้ัน วรรณคดีและวรรณกรรม ตลอดจนบทร้องเลน่ ของเด็ก เพลงกล่อมเด็ก ปริศนำคำทำย เพลงพ้ืนบ้ำน วรรณกรรมพื้นบ้ำน เป็นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรม ซึ่งมีคุณค่ำต่อกำรเรียนภำษำไทยจึงต้อง เรียนวรรณคดีวรรณกรรม ภูมิปัญญำทำงภำษำ ท่ีถ่ำยทอดควำมรู้สึก นึกคิด ค่ำนิยม ขนบธรรมเนียม ประเพณี เร่ืองรำวของสังคมในอดีตและควำมงดงำมของภำษำ ในบทประพันธ์ทั้งร้อยแก้ว ร้อยกรอง ประเภทต่ำงๆ เพื่อใหเ้ กดิ ควำมซำบซ้ึงควำมภมู ิใจในสงิ่ ทบ่ี รรพบุรุษได้ส่ังสมและสืบทอดมำจนถึงปัจจุบนั สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน มุ่งพัฒนำผู้เรียนให้มีคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรเรียนรซู้ ึ่งกำร พัฒนำผู้เรียนใหบ้ รรลมุ ำตรฐำนกำรเรียนร้ทู กี่ ำหนดนั้นจะชว่ ยให้ผู้เรียนเกดิ สมรรถนะสำคญั 5 ประกำรดังนี้ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นควำมสำมำรถในกำรรับส่งสำรมีวัฒนธรรมในกำรใช้ภำษำ ถำ่ ยทอดควำมคิด ควำมรคู้ วำมเข้ำใจ ควำมรสู้ กึ เพ่ือแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่ำวสำรและประสบกำรณ์ซึ่ง เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสงั คมรวมถึงกำรเจรจำตอ่ รองเพื่อขจดั ควำมขดั แยง้ และลดปัญหำควำม ขัดแย้ง ๒. ความสามารถในการคิด สำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์กำรคิดสังเครำะห์คิดอย่ำงสร้ำงสรรค์ คิด อย่ำงมีวิจำรณญำณ กำรคิดเป็นระบบเพ่ือนำไปสู่กำรสร้ำงองค์ควำมรู้เพื่อกำรตัดสินใจเกี่ยวกับ ตนเองและสังคม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา แก้ปัญหำและอุปสรรคต่ำงๆได้อย่ำงถูกต้องเหมำะสมบนพ้ืนฐำน ของหลักเหตุผลคุณธรรมและข้อมูลสำรสนเทศแสวงหำควำมรู้นำมำประยุกต์ใช้ในกำรป้องกันและ แกป้ ัญหำมีกำรตดั สินใจทีม่ ีประสทิ ธิภำพโดยคำนึงถงึ ผลที่เกดิ กับตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นกำรนำกระบวนกำรต่ำงๆไปใช้ในกำรดำเนิน ชีวิตประจำวัน กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง และกำรอยู่ร่วมกันในสังคมจัดกำรปัญหำควำมขัดแย้ง ปรับตวั ให้ทันกับกำรเปลย่ี นแปลงหลีกเลย่ี งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สำมำรถใช้เทคโนโลยีด้ำนต่ำงๆเพ่ือกำรพัฒนำตนเองและ สังคมในดำ้ นกำรเรยี นรู้ กำรส่ือสำร กำรทำงำนกำรแกป้ ัญหำอย่ำงสร้ำงสรรค์ ถูกต้องเหมำะสมและ มีคณุ ธรรม หลกั สูตรโรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวสั ดิ์รำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 5

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน มุ่งพัฒนำผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้ สำมำรถอย่รู ่วมกับผู้อน่ื ในสงั คมไดอ้ ยำ่ งมีควำมสขุ ในฐำนะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลกดังน้ี ๑. รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์ ๒. ซ่ือสัตยส์ จุ รติ ๓. มีวนิ ัย ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๕. อย่อู ยำ่ งพอเพยี ง ๖. มุ่งมั่นในกำรทำงำน ๗. รกั ควำมเป็นไทย ๘. มจี ติ สำธำรณะ หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 6

ทาไมต้องเรยี นภาษาไทย ภำษำไทยเป็นเอกลักษณ์ของชำติเป็นสมบัติทำงวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดควำมเป็นเอกภำพและ เสริมสร้ำงบุคลิกภำพของคนในชำติให้มีควำมเป็นไทย เป็นเคร่ืองมือในกำรติดต่อสื่อสำรเพื่อสร้ำงควำม เข้ำใจและควำมสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้สำมำรถประกอบกิจธุระ กำรงำน และดำรงชีวิตร่วมกันในสังคม ประชำธิปไตยได้อย่ำงสันติสุข และเป็นเครื่องมือในกำรแสวงหำควำมรู้ ประสบกำรณ์จำกแหล่งข้อมูล สำรสนเทศต่ำงๆ เพ่ือพัฒนำควำมรู้ พัฒนำกระบวนกำรคิดวิเครำะห์ วิจำรณ์ และสร้ำงสรรค์ให้ทันต่อกำร เปล่ียนแปลงทำงสังคม และควำมกำ้ วหน้ำทำงวทิ ยำศำสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนำไปใช้ในกำรพัฒนำอำชีพ ให้มีควำมมั่นคงทำงเศรษฐกจิ นอกจำกนี้ยงั เปน็ สือ่ แสดงภูมิปัญญำของบรรพบุรษุ ดำ้ นวัฒนธรรม ประเพณี และสุนทรียภำพ เปน็ สมบตั ลิ ้ำคำ่ ควรแก่กำรเรียนรู้ อนุรักษ์ และสบื สำนให้คงอย่คู ชู่ ำติไทยตลอดไป เรยี นร้อู ะไรในภาษาไทย ภำษำไทยเป็นทักษะท่ีต้องฝึกฝนจนเกิดควำมชำนำญในกำรใช้ภำษำเพ่ือกำรสื่อสำร กำรเรียนรู้ อยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ และเพ่อื นำไปใชใ้ นชีวติ จรงิ  การอา่ น กำรอ่ำนออกเสยี งคำ ประโยค กำรอ่ำนบทร้อยแก้ว คำประพันธช์ นิดตำ่ งๆ กำร อ่ำนในใจเพ่ือสร้ำงควำมเข้ำใจ และกำรคิดวิเครำะห์ สังเครำะห์ควำมรู้จำกส่ิงท่ีอ่ำน เพื่อนำไป ปรับใช้ใน ชวี ติ ประจำวัน  การเขียน กำรเขียนสะกดตำมอักขรวิธี กำรเขียนส่ือสำร โดยใช้ถ้อยคำและรูปแบบต่ำงๆ ของ กำรเขียน ซึ่งรวมถึงกำรเขียนเรียงควำม ย่อควำม รำยงำนชนิดต่ำงๆ กำรเขียนตำมจินตนำกำร วิเครำะห์ วิจำรณ์ และเขยี นเชงิ สรำ้ งสรรค์  การฟัง การดู และการพูด กำรฟังและดูอย่ำงมีวิจำรณญำณ กำรพูดแสดงควำมคิดเห็น ควำมรู้สึก พูดลำดับเรื่องรำวต่ำงๆ อย่ำงเป็นเหตุเป็นผล กำรพูดในโอกำสต่ำงๆ ทั้งเป็นทำงกำรและไม่ เปน็ ทำงกำร และกำรพูดเพอ่ื โนม้ น้ำวใจ  หลักการใช้ภาษาไทย ธรรมชำติและกฎเกณฑข์ องภำษำไทย กำรใช้ภำษำใหถ้ ูกต้องเหมำะสม กับโอกำสและบคุ คล กำรแต่งบทประพนั ธ์ประเภทต่ำงๆ และอิทธิพลของภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย  วรรณคดีและวรรณกรรม วิเครำะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือศึกษำข้อมูล แนวควำมคิด คุณค่ำของงำนประพันธ์ และควำมเพลิดเพลิน กำรเรียนรู้และทำควำมเข้ำใจบทเห่ บทร้องเล่นของเด็ก เพลงพ้ืนบ้ำนที่เป็นภูมิปัญญำที่มีคุณค่ำของไทย ซ่ึงได้ถ่ำยทอดควำมรู้สึกนึกคิด ค่ำนิยม ขนบธรรมเนียม ประเพณี เร่ืองรำวของสังคมในอดีต และควำมงดงำมของภำษำ เพ่ือให้เกิดควำมซำบซึ้งและภูมิใจ ใน บรรพบุรษุ ที่ได้สง่ั สมสบื ทอดมำจนถึงปัจจบุ นั หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พ้ืนฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 7

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ การอ่าน มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนกำรอำ่ นสร้ำงควำมร้แู ละควำมคดิ เพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหำในกำร ดำเนนิ ชีวติ และมนี สิ ยั รกั กำรอ่ำน สาระท่ี ๒ การเขยี น มำตรฐำน ท ๒.๑ ใช้กระบวนกำรเขียนเขียนส่ือสำร เขียนเรียงควำม ย่อควำม และเขียนเรื่องรำวในรูปแบบ ต่ำงๆ เขียนรำยงำนข้อมูลสำรสนเทศและรำยงำนกำรศึกษำค้นคว้ำอย่ำง มี ประสิทธภิ ำพ สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพดู มำตรฐำน ท ๓.๑ สำมำรถเลือกฟังและดูอย่ำงมีวิจำรณญำณ และพูดแสดงควำมรู้ ควำมคิด และ ควำมรสู้ กึ ในโอกำสตำ่ งๆ อย่ำงมีวิจำรณญำณและสร้ำงสรรค์ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มำตรฐำน ท ๔.๑ เข้ำใจธรรมชำติของภำษำและหลักภำษำไทย กำรเปล่ียนแปลงของภำษำและพลังของ ภำษำ ภมู ิปญั ญำทำงภำษำ และรกั ษำภำษำไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชำติ สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มำตรฐำน ท ๕.๑ เข้ำใจและแสดงควำมคิดเห็น วิจำรณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่ำงเห็นคุณค่ำ และนำมำประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวสั ด์ริ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พ้ืนฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 8

คุณภาพผู้เรียน จบชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓  อ่ำนออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อควำม เร่ืองส้ันๆ และบทร้อยกรองง่ำยๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว เข้ำใจควำมหมำยของคำและขอ้ ควำมท่ีอำ่ น ต้ังคำถำมเชิงเหตุผล ลำดบั เหตกุ ำรณ์ คำดคะเน เหตุกำรณ์ สรุปควำมรู้ข้อคิดจำกเรื่องที่อ่ำน ปฏิบัติตำมคำสั่ง คำอธิบำยจำกเรื่องท่ีอ่ำนได้ เข้ำใจ ควำมหมำยของข้อมูลจำกแผนภำพ แผนท่ี และแผนภูมิ อ่ำนหนังสืออย่ำงสม่ำเสมอ และ มี มำรยำทในกำรอำ่ น  มีทักษะในกำรคัดลำยมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยำย บันทึกประจำวัน เขียน จดหมำยลำครู เขียนเร่ืองเก่ยี วกบั ประสบกำรณ์ เขียนเรื่องตำมจินตนำกำรและมมี ำรยำทในกำรเขยี น  เล่ำรำยละเอียดและบอกสำระสำคัญ ต้ังคำถำม ตอบคำถำม รวมทั้งพูดแสดงควำมคิด ควำมรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องท่ีฟังและดู พูดสื่อสำรเล่ำประสบกำรณ์และพูดแนะนำ หรือพูดเชิญชวนให้ผู้อื่น ปฏิบตั ติ ำม และมมี ำรยำทในกำรฟัง ดู และพูด  สะกดคำและเข้ำใจควำมหมำยของคำ ควำมแตกต่ำงของคำและพยำงค์ หน้ำที่ของคำ ใน ประโยค มีทักษะกำรใชพ้ จนำนกุ รมในกำรค้นหำควำมหมำยของคำ แต่งประโยคงำ่ ยๆ แตง่ คำคล้อง จอง แต่งคำขวัญ และเลอื กใชภ้ ำษำไทยมำตรฐำนและภำษำถ่นิ ได้เหมำะสมกับกำลเทศะ  เข้ำใจและสำมำรถสรุปข้อคิดท่ีได้จำกกำรอ่ำนวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวนั แสดงควำมคดิ เหน็ จำกวรรณคดีท่ีอ่ำน รู้จกั เพลงพ้ืนบ้ำน เพลงกลอ่ มเด็ก ซึ่งเป็นวฒั นธรรม ของท้องถ่ิน ร้องบทร้องเล่นสำหรับเด็กในท้องถ่ิน ท่องจำบทอำขยำนและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่ำตำมควำม สนใจได้ จบช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖  อ่ำนออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนำะได้ถูกต้อง อธิบำยควำมหมำย โดยตรงและควำมหมำยโดยนัยของคำ ประโยค ข้อควำม สำนวนโวหำร จำกเรื่องที่อ่ำน เข้ำใจ คำแนะนำ คำอธิบำยในคู่มือต่ำงๆ แยกแยะขอ้ คิดเห็นและข้อเท็จจรงิ รวมทั้งจับใจควำมสำคญั ของเรื่อง ทีอ่ ่ำนและนำควำมรคู้ วำมคดิ จำกเรื่องที่อำ่ นไปตดั สนิ ใจแก้ปัญหำในกำรดำเนนิ ชีวิตได้ มมี ำรยำทและ มนี ิสัยรกั กำรอ่ำน และเหน็ คณุ คำ่ สงิ่ ทอี่ ำ่ น  มีทักษะในกำรคัดลำยมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสะกดคำ แต่งประโยคและ เขยี นขอ้ ควำม ตลอดจนเขียนสือ่ สำรโดยใชถ้ ้อยคำชัดเจนเหมำะสม ใช้แผนภำพ โครงเรอ่ื งและแผนภำพ ควำมคิด เพ่ือพัฒนำงำนเขียน เขียนเรียงควำม ย่อควำม จดหมำยส่วนตัว กรอกแบบรำยกำรต่ำงๆ เขียนแสดงควำมรู้สึกและควำมคิดเห็น เขียนเร่ืองตำมจินตนำกำรอย่ำงสร้ำงสรรค์ และมีมำรยำทในกำร เขียน  พูดแสดงควำมรู้ ควำมคิดเกี่ยวกับเร่ืองที่ฟังและดู เล่ำเรื่องย่อหรือสรุปจำกเร่ืองที่ฟังและดู ตงั้ คำถำม ตอบคำถำมจำกเรอ่ื งท่ีฟังและดู รวมท้ังประเมินควำมน่ำเชื่อถือจำกกำรฟังและดูโฆษณำอย่ำงมี เหตผุ ล พดู ตำมลำดับข้ันตอนเรอ่ื งต่ำงๆ อย่ำงชัดเจน พดู รำยงำนหรอื ประเด็นค้นคว้ำจำก กำรฟัง กำร ดู กำรสนทนำ และพูดโน้มน้ำวไดอ้ ย่ำงมีเหตผุ ล รวมทัง้ มีมำรยำทในกำรดูและพดู หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวัสด์ริ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพืน้ ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 9

 สะกดคำและเข้ำใจควำมหมำยของคำ สำนวน คำพังเพยและสุภำษิต รู้และเข้ำใจ ชนิด และหน้ำที่ของคำในประโยค ชนิดของประโยค และคำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย ใช้ คำรำชำ ศพั ท์และคำสภุ ำพไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม แตง่ ประโยค แต่งบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสี่ กลอนสุภำพ และ กำพยย์ ำนี ๑๑  เข้ำใจและเห็นคุณค่ำวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอำ่ น เลำ่ นิทำนพน้ื บำ้ น ร้องเพลงพื้นบ้ำนของ ทอ้ งถ่ิน นำขอ้ คิดเหน็ จำกเรอื่ งที่อำ่ นไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจริง และท่องจำบทอำขยำนตำมท่กี ำหนดได้ หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวัสดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำนพทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 10

ส่วนที่ 2 โครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศึกษา ๒.๑ โครงสรา้ งเวลาเรยี น หลักสตู รโรงเรยี นวัดพืชนมิ ิต (คำสวสั ดริ์ ำษฎร์บำรุง) ได้กำหนดเวลำเรียนของกล่มุ สำระกำรเรียนรู้ 8 กลุ่มสำระ ที่เป็นเวลำเรียนพน้ื ฐำน เวลำเรียนเพมิ่ เติมและเวลำในกำรจัดกจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี น จำแนกแตล่ ะชน้ั ปี ดงั น้ี กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม เวลาเรยี นระดับประถมศึกษา ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ • กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย 200 200 200 ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ คณติ ศาสตร์ 200 200 200 ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ๘๐ ๘๐ 120 120 120 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 40 40 40 80 80 80 ประวัติศาสตร์ 40 40 40 40 40 40 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 40 40 40 80 8๐ 80 ศลิ ปะ 40 40 40 40 4๐ 40 การงานอาชีพ ๔๐ ๔๐ 40 4๐ 4๐ 40 ภาษาองั กฤษ 160 160 160 120 120 120 ๘๔๐ ๘๔๐ ๘4๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘4๐ รวมเวลาเรียน (พ้นื ฐาน) • รายวิชาเพ่ิมเติม 40 40 40 40 40 40 ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร การปอ้ งกนั การทุจริต 40 40 40 40 40 40 รวมเวลาเรยี น (เพิม่ เติม) 80 80 80 80 80 80 • กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น แนะแนว 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ ลูกเสอื -เนตรนารี 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ 4๐ กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ชมุ นุม 3๐ 3๐ 3๐ 3๐ 3๐ 3๐ รวมเวลา กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ รวมเวลาเรียนตามโครงสรา้ งหลักสตู ร ๑,040 ๑,040 ๑,040 ๑,040 ๑,040 ๑,040 หมายเหตุ * จัดบรู ณำกำรกำรเรยี นรรู้ ่วมกันตำมควำมสอดคลอ้ งของเนื้อหำและกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ ที่มำ : อ้ำงองิ จำกคมู่ ือบริหำรจดั กำรเวลำเรียน ตำมนโยบำย “ลดเวลำเรียน เพิม่ เวลำรู้ หนำ้ ที่ ๗ - ๑๒ ของ สำนกั วิชำกำรและมำตรฐำนกำรศกึ ษำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้นั พื้นฐำน ทมี่ ำ : อำ้ งอิง จำก ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เรื่องกำรบริหำรจดั กำรเวลำเรียนภำษำอังกฤษ ชนั้ ประถมศึกษำปีที่ ๑ - ๓ ลงวนั ที่ ๓๑ ตลุ ำคม ๒๕๕๙ ทม่ี ำ : อ้ำงอิง จำกประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เร่ืองแนวทำงกำรบริหำรจัดกำรเวลำเรียนของสถำนศกึ ษำ ข้ันพืน้ ฐำน ลงวนั ท่ี 1๑ กรกฎำคม ๒๕6 หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสดร์ิ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพ้นื ฐำนพทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 11

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 12

ตัวช้ีวัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระท่ี 1 การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมรู้และควำมคิดเพ่อื นำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหำในกำร ดำเนินชวี ติ และมนี สิ ยั รกั กำรอำ่ น ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.1 1. อ่ำนออกเสียงคำ คำคลอ้ งจอง และ  กำรอำ่ นออกเสียงและบอกควำมหมำยของคำ ข้อควำมสั้นๆ คำคลอ้ งจอง และข้อควำมทปี่ ระกอบด้วย 2. บอกควำมหมำยของคำ และข้อควำม คำพนื้ ฐำน คือ คำทใ่ี ชใ้ นชีวติ ประจำวัน ที่อ่ำน ไมน่ ้อยกวำ่ ๖๐๐ คำ รวมท้ังคำท่ีใชเ้ รียนร้ใู น กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้อน่ื ประกอบด้วย - คำทม่ี ีรูปวรรณยุกตแ์ ละไม่มรี ูปวรรณยกุ ต์ - คำท่ีมีตัวสะกดตรงตำมมำตรำและไม่ตรง ตำมมำตรำ - คำทม่ี ีพยญั ชนะควบกล้ำ - คำที่มอี กั ษรนำ 3. ตอบคำถำมเกีย่ วกับเรอื่ งทอี่ ่ำน  กำรอำ่ นจบั ใจควำมจำกสอ่ื ตำ่ งๆ เช่น 4. เล่ำเรอ่ื งยอ่ จำกเร่ืองทอี่ ่ำน - นทิ ำน 5. คำดคะเนเหตกุ ำรณจ์ ำกเร่ืองที่อำ่ น - เรอ่ื งสั้นๆ - บทร้องเลน่ และบทเพลง - เร่อื งรำวจำกบทเรียนในกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำไทยและกลุม่ สำระกำรเรยี นรู้อ่ืน 6. อ่ำนหนงั สือตำมควำมสนใจ  กำรอำ่ นหนังสือตำมควำมสนใจ เช่น อยำ่ งสม่ำเสมอและนำเสนอเรือ่ งที่ - หนังสอื ทน่ี กั เรยี นสนใจและเหมำะสมกับวัย อำ่ น - หนงั สือทีค่ รแู ละนักเรียนกำหนดรว่ มกนั 7. บอกควำมหมำยของเครอ่ื งหมำย  กำรอำ่ นเครือ่ งหมำยหรือสัญลกั ษณ์ หรือสญั ลักษณส์ ำคัญทมี่ กั พบเหน็ ใน ประกอบดว้ ย ชวี ิตประจำวนั - เครือ่ งหมำยสญั ลักษณต์ ่ำงๆ ทีพ่ บเห็นใน ชวี ติ ประจำวนั 8. มมี ำรยำท ในกำรอำ่ น - เครื่องหมำยแสดงควำมปลอดภัยและแสดง อันตรำย  มำรยำทในกำรอ่ำน เช่น - ไม่อ่ำนเสยี งดังรบกวนผอู้ ่นื - ไม่เล่นกันขณะท่อี ่ำน - ไม่ทำลำยหนงั สอื หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คำสวสั ดริ์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพน้ื ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 13

สาระท่ี 2 การเขยี น มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนกำรเขยี นเขียนสื่อสำร เขยี นเรยี งควำม ยอ่ ควำม และเขียนเรอื่ งรำวในรปู แบบ ต่ำงๆ เขียนรำยงำนข้อมูลสำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำค้นคว้ำอยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ ช้นั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.1 1. คัดลำยมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด  กำรคัดลำยมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั ตำมรปู แบบ กำรเขียนตัวอกั ษรไทย 2. เขยี นสื่อสำรด้วยคำและประโยคงำ่ ยๆ  กำรเขียนสอ่ื สำร - คำท่ีใชใ้ นชีวติ ประจำวนั - คำพ้นื ฐำนในบทเรียน - คำคล้องจอง - ประโยคงำ่ ยๆ 3. มมี ำรยำทในกำรเขยี น  มำรยำทในกำรเขยี น เช่น - เขียนใหอ้ ำ่ นงำ่ ย สะอำด ไมข่ ดี ฆ่ำ - ไมข่ ดี เขียนในท่สี ำธำรณะ - ใชภ้ ำษำเขยี นเหมำะสมกับเวลำ สถำนที่ และ บคุ คล สาระที่ 3 การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท 3.1 สำมำรถเลอื กฟงั และดอู ย่ำงมีวจิ ำรณญำณ และพูดแสดงควำมรู้ ควำมคิด และควำมรสู้ ึกใน โอกำสตำ่ งๆ อยำ่ งมีวิจำรณญำณและสร้ำงสรรค์ ชั้น ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.1 1. ฟังคำแนะนำ คำสง่ั งำ่ ยๆ และปฏิบตั ติ ำม  กำรฟังและปฏิบตั ติ ำมคำแนะนำ คำสั่งงำ่ ยๆ 2. ตอบคำถำมและเลำ่ เรอื่ งทฟี่ ังและดู ทั้ง  กำรจับใจควำมและพดู แสดงควำมคดิ เหน็ ที่เปน็ ควำมรู้และควำมบนั เทงิ ควำมร้สู ึกจำกเรอื่ งทฟ่ี ังและดู ทง้ั ท่เี ป็นควำมรู้ 3. พดู แสดงควำมคิดเหน็ และควำมรู้สกึ และควำมบนั เทงิ เชน่ จำกเร่ืองทีฟ่ ังและดู - เรือ่ งเลำ่ และสำรคดสี ำหรับเด็ก - นทิ ำน - กำร์ตนู - เรอ่ื งขบขัน 4. พูดส่อื สำรได้ตำมวตั ถุประสงค์  กำรพูดสอื่ สำรในชวี ิตประจำวัน เช่น - กำรแนะนำตนเอง - กำรขอควำมชว่ ยเหลอื - กำรกล่ำวคำขอบคุณ - กำรกลำ่ วคำขอโทษ 5. มีมำรยำทในกำรฟงั กำรดู และกำรพูด  มำรยำทในกำรฟัง เชน่ - ต้ังใจฟงั ตำมองผพู้ ดู - ไมร่ บกวนผู้อนื่ ขณะทฟ่ี งั หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขัน้ พ้ืนฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 14

ชัน้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - ไม่ควรนำอำหำรหรอื เครื่องดื่มไปรบั ประทำน ขณะท่ีฟัง - ใหเ้ กยี รติผูพ้ ดู ดว้ ยกำรปรบมือ - ไมพ่ ูดสอดแทรกขณะทฟี่ ัง  มำรยำทในกำรดู เชน่ - ตงั้ ใจดู - ไมส่ ง่ เสียงดังหรือแสดงอำกำรรบกวนสมำธิ ของผูอ้ น่ื  มำรยำทในกำรพดู เชน่ - ใช้ถ้อยคำและกิริยำทสี่ ภุ ำพ เหมำะสมกบั กำลเทศะ - ใช้นำ้ เสียงนมุ่ นวล - ไม่พูดสอดแทรกในขณะทผี่ อู้ นื่ กำลงั พูด สาระท่ี 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้ำใจธรรมชำติของภำษำและหลักภำษำไทย กำรเปล่ียนแปลงของภำษำและพลังของภำษำ ภูมปิ ัญญำทำงภำษำ และรกั ษำภำษำไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชำติ ชัน้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.1 1. บอกและเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์  พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ และเลขไทย  เลขไทย 2. เขียนสะกดคำและบอกควำมหมำยของ  กำรสะกดคำ กำรแจกลกู และกำรอำ่ นเปน็ คำ คำ  มำตรำตัวสะกดทตี่ รงตำมมำตรำและไมต่ รงตำม มำตรำ  กำรผนั คำ  ควำมหมำยของคำ 3. เรยี บเรยี งคำเปน็ ประโยคงำ่ ย ๆ  กำรแต่งประโยค 4. ต่อคำคล้องจองงำ่ ยๆ  คำคลอ้ งจอง หลกั สตู รโรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 15

สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เขำ้ ใจและแสดงควำมคิดเหน็ วิจำรณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่ำงเหน็ คุณคำ่ และ นำมำประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง ชั้น ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป.1 1. บอกข้อคิดทีไ่ ดจ้ ำกกำรอำ่ นหรอื กำรฟัง  วรรณกรรมร้อยแกว้ และรอ้ ยกรองสำหรบั เดก็ วรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น สำหรับเด็ก - นิทำน - เร่อื งสนั้ ง่ำยๆ - ปริศนำคำทำย - บทรอ้ งเล่น - บทอำขยำน - บทร้อยกรอง - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรยี น 2. ท่องจำบทอำขยำนตำมท่กี ำหนด  บทอำขยำนและบทรอ้ ยกรอง และบทร้อยกรองตำมควำมสนใจ - บทอำขยำนตำมทก่ี ำหนด - บทรอ้ ยกรองตำมควำมสนใจ หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พื้นฐำนพทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 16

คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง ศกึ ษำ ฝึกทักษะกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรฟัง กำรดูและกำรพูด หลกั กำรใช้ภำษำไทย และวรรณคดี และวรรณกรรมในสำระต่อไปน้ี กำรอ่ำนออกเสยี งและบอกควำมหมำยของคำ คำคล้องจอง และขอ้ ควำม ท่ปี ระกอบ ด้วยคำพ้นื ฐำน คือคำที่ใช้ในชีวติ ประจำวนั ไม่น้อยกวำ่ ๖๐๐ คำ รวมท้ังคำทใี่ ชเ้ รยี นรู้ในกลุ่ม สำระ กำรเรียนรอู้ น่ื ประกอบดว้ ยคำท่มี ีรูปวรรณยุกตแ์ ละไม่มรี ปู วรรณยุกต์ คำที่มตี วั สะกดตรงตำมมำตรำ และ ไมต่ รงตำมมำตรำ คำที่มีพยญั ชนะควบกลำ้ คำท่ีมอี ักษรนำ กำรอำ่ นจบั ใจควำมจำกสื่อต่ำงๆ กำร อำ่ นหนังสือตำมควำมสนใจ กำรอ่ำนเครื่องหมำยและสญั ลักษณ์ มำรยำทในกำรอำ่ น กำรคดั ลำยมอื ตัวบรรจง เต็มบรรทัดตำมรูปแบบกำรเขียนตวั อกั ษรไทย กำรเขียนสอื่ สำร มำรยำทในกำรเขยี น กำรฟงั และปฏบิ ัติตำม คำแนะนำ คำสัง่ ง่ำย ๆ กำรจับใจควำมและพดู แสดงควำมคดิ เหน็ ควำมรสู้ กึ จำกเร่ืองทฟ่ี งั และดทู ั้งท่เี ป็น ควำมรแู้ ละควำมบันเทิง กำรพูดส่อื สำรในชวี ิตประจำวนั มำรยำทในกำรฟัง มำรยำทในกำรดู มำรยำท ในกำรพูด หลกั กำรใชภ้ ำษำ กำรบอกและเขยี นพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ เลขไทย กำรเขียนสะกดคำ กำรแจกลูกและกำรอ่ำนเป็นคำมำตรำตัวสะกดทตี่ รงตำมมำตรำและไม่ตรงตำมมำตรำกำรผนั คำ ควำมหมำย ของคำกำรแตง่ ประโยคและต่อคำคล้องจองวรรณคดีและวรรณกรรม กำรอำ่ นหรือกำรฟงั วรรณกรรมร้อย แกว้ และร้อยกรองสำหรับเด็ก กำรท่องบทอำขยำนและบทร้อยกรองตำมท่ีกำหนดและควำมสนใจ โดยใช้กระบวนกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรฟงั กำรดู กำรพดู และกำรวิเครำะห์ เพือ่ ให้เกดิ ควำมรู้ ควำมคดิ ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถสอื่ สำรสิง่ ที่เรียนรู้ จำกกำรแต่งประโยคและต่อคำคล้องจองเขียนเร่ืองจำก ภำพ กำรเรียนวรรณคดีและวรรณกรรมกำรอ่ำนหรือกำรฟังวรรณกรรมร้อยแกว้ และร้อยกรองสำหรบั เดก็ กำรท่องบทอำขยำนและบทร้อยกรองตำมทก่ี ำหนดและตำมควำมสนใจ มคี วำมสำมำรถในกำรสื่อสำร คิด วิเครำะห์ จำกเรื่องท่ีอำ่ นได้ เห็นคุณคำ่ ของกำรนำควำมรูไ้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั มเี จตคติที่ดตี ่อภำษำไทย มมี ำรยำท ในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรฟัง กำรดแู ละกำรพูด มคี วำมซำบซึง้ ภำคภูมิใจในภำษำไทย รักควำมเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรูแ้ ละมคี ่ำนิยมท่เี หมำะสม รหสั ตัวชว้ี ดั ท ๑.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕,ป.๑/๖,ป.๑/๗,ป.๑/๘ ท ๒.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓ ท ๓.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕ ท ๔.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔ ท ๕.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ รวมท้ังหมด ๒๒ ตัวชว้ี ดั หลกั สูตรโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดร์ิ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พ้ืนฐำนพทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 17

โครงสรา้ งรายวิชา กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รหัสวชิ า ท๑๑๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 จานวน น้าหนัก (ชั่วโมง) คะแนน ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ตัวชีว้ ัด ใบโบกใบบวั ท ๑.๑ ป.๑/๒ , ท ๒.๑ ป.๑ /๒ , ท ๓.๑ ป.๑/๓ ๑0 ๕ ภผู ำ ๑0 ๕ ท ๔.๑ ป.๑/๓ , ท ๕.๑ ป.๑/๑ ๑0 ๕ เพื่อนกนั ๑0 ๕ ตำมหำ ท ๑.๑ ป.๑ /๒ , ท ๒.๑ ป.๑ /๒, ท ๓.๑ ป..๑/๓ ๑0 ๕ ไปโรงเรยี น ๑๐ ๕ โรงเรียนลูกช้ำง ท ๔.๑ ป.๑/๓-4 , ท ๕.๑ ป.๑/๑ ๑๐ ๕ เพอื่ นรัก เพื่อนเล่น ๑๐ ๕ พูดเพรำะ ท ๑.๑ ป.๑/๑-2, ท ๒.๑ ป.๑/๑-2, ท๓.๑ป.๑/๑/3 ๑๐ ๕ เกือบไป ๑๐ ๕ เพื่อนรใู้ จ ท ๔.๑ ป.๑/๓ , ท ๕.๑ ป.๑/๑ ๑0 ๕ ช้ำงน้อยน่ำรัก ๑0 ๕ วนั สงกรำนต์ ท ๑.๑ ป.๑ /๑-2 , ท ๒.๑ ป.๑/๑-2, ท ๓.๑ ป.๑/๒ 10 ๕ เจ้ำเนื้ออ่อนเอย ท ๔.๑ ป.๑/๒, ท ๕.๑ ป.๑ /๑ ท ๑.๑ ป.๑/๑-2, ท ๒.๑ ป.๑/๑-2 , ท ๓.๑ ป.๑/๑ ท ๔.๑ ป.๑/๒ , ท ๕.๑ ป.๑ ๑ ท ๑.๑ ป.๑/๑/3 , ท ๒.๑ ป.๑/๑-2 , ท๓.๑ป.๑/๑-2 ท ๔.๑ ป.๑/๒ , ท ๕.๑ ป.๑/๑ ท ๑.๑ ป.๑/๑-2 , ท๒.๑ ป.๑/๑-2 , ท ๓.๑ป.๑/๒/4 ท ๔.๑ ป.๑/๒ , ท ๕.๑ ป.๑/๑ ท ๑.๑ ป.๑/๑/3, ท ๒.๑ ป.๑/๒ , ท ๓.๑ ป.๑/๒ ท ๔.๑ ป.๑/๒, ท ๕.๑ ป.๑/๑ ท ๑.๑ ป.๑/๑/3, ท ๒.๑ ป.๑/๒ , ท ๓.๑ป.๑/๒-3 ท ๔.๑ ป.๑/๓ , ท ๕.๑ ป.๑/๑ ท๑.๑ป.๑/๓/6/8, ท๒.๑ป.๑/๑-2, ท๓.๑ป.๑/๒-3 ท ๔.๑ ป.๑/๑-3, ท ๕.๑ ป.๑ ๑-2 ท ๑.๑ ป.๑ /๒-3/6/8 ท๒.๑ ป.๑/๑-2 ท ๓.๑ ป.๑ /๒-3, ท๔.๑ ป.๑/๑-3, ท๕.๑ ป.๑/๑-2 ท๑.๑ป.๑/๓/6/8 , ท๒.๑ป.๑ /๑-2 ท๓.๑ป.๑/๒-3 , ท๔.๑ป.๑/๑-3, ท ๕.๑ป.๑ ๑-2 ท๑.๑ป.๑/๒-3, ท๓.๑ป.๑ /๒, ท๔.๑ป.๑/๑-2 ท๕.๑ป.๑/๒ หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พืน้ ฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 18

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ตัวชี้วดั จานวน นา้ หนัก (ช่วั โมง) คะแนน มำเล่นกนั ไหม ท๑.๑ป.๑/๑, ท๒.๑ป.๑/๑, ท๓.๑ ป.๑/๒ ของเธอของฉัน ท๔.๑ป.๑/๓ ท๕.๑ป.๑/๒ 10 ๕ ฝนตกแดดออก ท ๑.๑ ป.๑ /๖, ท ๒.๑ ป.๑/๒, เรำรักเมืองไทย ท ๔.๑ ป.๑/๑ , ท๕.๑ ป.๑ /๒ ท ๓.๑ ป.๑/๓ 10 ๕ ต้งั ไข่ล้มต้มไข่กิน ท๑.๑ป.๑/๖, ท๒.๑ป.๑/๒, แมวเหมยี ว ท๔.๑ ป.๑/๓ ท๕.๑ ป.๑/๑-2 ท๓.๑ ป.๑/๒ 10 ๕ กระตำ่ ยกบั เต่ำ ท๑.๑ ป.๑/๓, ท ๒.๑ ป.๑/๑, ท๔.๑ ป.๑/๑ ท ๕.๑ ป.๑/๒ ท ๓.๑ ป.๑/๓ 10 ๕ รวม ท ๑.๑ ป.๑/๖, ท ๒.๑ ป.๑/๑, ท ๔.๑ ป.๑/๑ ท ๕.๑ ป.๑ /๒ ท ๓.๑ ป.๑/๒ 10 ๕ ท ๑.๑ ป.๑/๘ , ท ๒.๑ ป.๑/๑, ท ๔.๑ ป.๑/๒, ท ๕.๑ ป.๑ ๑ ท ๓.๑ ป.๑/๓ 10 ๕ ท ๑.๑ ป.๑/๖, ท ๒.๑ ป.๑/๑, ท ๔.๑ ป.๑/๓ , ท ๕.๑ ป.๑/๑ ท ๓.๑ ป.๑/๒ 10 ๕ ๒๒ ๒๐๐ ๑๐๐ หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสดิร์ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พืน้ ฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 19

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 20

ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนกำรอำ่ นสรำ้ งควำมรแู้ ละควำมคดิ เพอื่ นำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หำในกำร ดำเนินชวี ติ และมีนิสัยรักกำรอำ่ น ชั้น ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๒ ๑. อำ่ นออกเสียงคำ คำคลอ้ งจอง  กำรอ่ำนออกเสียงและกำรบอกวำมหมำยของคำ ข้อควำม และบทร้อยกรองงำ่ ยๆ คำคล้องจอง ขอ้ ควำม และบทรอ้ ยกรองงำ่ ยๆ ท่ี ได้ถกู ตอ้ ง ประกอบดว้ ยคำพนื้ ฐำนเพ่ิมจำก ป. ๑ ๒. อธิบำยควำมหมำยของคำและ ไมน่ อ้ ยกว่ำ ๘๐๐ คำ รวมทง้ั คำท่ใี ชเ้ รียนรู้ในกลมุ่ ข้อควำมทอ่ี ่ำน สำระกำรเรียนรู้อนื่ ประกอบดว้ ย - คำทีม่ ีรูปวรรณยกุ ต์และไมม่ ีรูปวรรณยกุ ต์ - คำที่มีตัวสะกดตรงตำมมำตรำและไม่ตรงตำม มำตรำ - คำทีม่ ีพยัญชนะควบกล้ำ - คำทม่ี ีอกั ษรนำ - คำทม่ี ีตัวกำรันต์ - คำทม่ี ี รร - คำท่ีมีพยญั ชนะและสระทีไ่ ม่ออกเสียง ๓. ตั้งคำถำมและตอบคำถำมเก่ียวกับ  กำรอำ่ นจบั ใจควำมจำกสือ่ ตำ่ งๆ เช่น เรือ่ งท่ีอ่ำน - นิทำน ๔. ระบุใจควำมสำคญั และรำยละเอียด - เรอ่ื งเลำ่ สั้น ๆ จำกเรื่องท่ีอำ่ น - บทเพลงและบทรอ้ ยกรองงำ่ ยๆ ๕. แสดงควำมคิดเห็นและคำดคะเน - เร่อื งรำวจำกบทเรียนในกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ เหตกุ ำรณจ์ ำกเรอื่ งที่อำ่ น ภำษำไทย และกลมุ่ สำระกำรเรยี นรอู้ น่ื - ข่ำวและเหตุกำรณ์ประจำวนั ๖. อำ่ นหนงั สอื ตำมควำมสนใจอย่ำง  กำรอำ่ นหนงั สือตำมควำมสนใจ เช่น สม่ำเสมอและนำเสนอเรอื่ งท่ีอำ่ น - หนังสอื ที่นกั เรียนสนใจและเหมำะสมกับวยั - หนังสือท่คี รูและนักเรยี นกำหนดร่วมกัน ๗. อำ่ นข้อเขียนเชิงอธิบำย และปฏบิ ตั ิ  กำรอ่ำนขอ้ เขียนเชิงอธบิ ำย และปฏบิ ตั ติ ำมคำสัง่ ตำมคำสงั่ หรือข้อแนะนำ หรือข้อแนะนำ - กำรใช้สถำนท่สี ำธำรณะ - คำแนะนำกำรใชเ้ ครื่องใชท้ ีจ่ ำเป็นในบำ้ นและ ในโรงเรียน ๘. มมี ำรยำทในกำรอำ่ น  มำรยำทในกำรอ่ำน เช่น - ไม่อ่ำนเสียงดังรบกวนผอู้ ่ืน - ไม่เล่นกนั ขณะทีอ่ ำ่ น - ไม่ทำลำยหนงั สอื หลกั สูตรโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พนื้ ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 21

ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง - ไมค่ วรแยง่ อ่ำนหรือชะโงกหนำ้ ไปอ่ำนขณะที่ ผู้อ่นื กำลังอำ่ นอยู่ สาระท่ี 2 การเขยี น มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนกำรเขียนเขยี นส่ือสำร เขียนเรยี งควำม ยอ่ ควำม และเขยี นเรอ่ื งรำวในรูปแบบ ต่ำงๆ เขยี นรำยงำนข้อมูลสำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ ชน้ั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป.๒ ๑. คดั ลำยมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัด  กำรคดั ลำยมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดตำมรปู แบบ กำรเขยี นตัวอักษรไทย ๒. เขียนเรื่องส้นั ๆ เกีย่ วกับประสบกำรณ์  กำรเขียนเร่อื งสนั้ ๆ เกย่ี วกับประสบกำรณ์ ๓. เขียนเรือ่ งสน้ั ๆ ตำมจินตนำกำร  กำรเขียนเรื่องสัน้ ๆ ตำมจนิ ตนำกำร ๔. มีมำรยำทในกำรเขยี น  มำรยำทในกำรเขยี น เชน่ - เขยี นใหอ้ ำ่ นงำ่ ย สะอำด ไม่ขดี ฆำ่ - ไมข่ ดี เขียนในทีส่ ำธำรณะ - ใช้ภำษำเขียนเหมำะสมกับเวลำ สถำนที่ และ บคุ คล - ไมเ่ ขยี นล้อเลยี นผู้อนื่ หรือทำให้ผอู้ น่ื เสียหำย สาระที่ 3 การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท 3.1 สำมำรถเลอื กฟังและดูอย่ำงมวี ิจำรณญำณ และพูดแสดงควำมรู้ ควำมคิด และควำมร้สู กึ ใน โอกำสต่ำงๆ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณและสร้ำงสรรค์ ชัน้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๒ ๑. ฟังคำแนะนำ คำส่งั ทีซ่ บั ซอ้ น และ  กำรฟงั และปฏิบตั ติ ำมคำแนะนำ คำสัง่ ทซี่ ับซอ้ น ปฏบิ ัตติ ำม ๒. เลำ่ เร่ืองทีฟ่ งั และดทู ั้งทีเ่ ป็นควำมรู้  กำรจบั ใจควำมและพดู แสดงควำมคดิ เห็น และควำมบันเทงิ ควำมรสู้ ึกจำกเรือ่ งท่ฟี งั และดู ทง้ั ทเ่ี ปน็ ควำมรู้ ๓. บอกสำระสำคัญของเรือ่ งทฟี่ งั และดู และควำมบันเทิง เชน่ ๔. ตัง้ คำถำมและตอบคำถำมเกี่ยวกับ - เรือ่ งเล่ำและสำรคดีสำหรบั เดก็ เรอ่ื งท่ฟี ังและดู - นทิ ำน กำร์ตนู และเรอื่ งขบขัน ๕. พูดแสดงควำมคิดเหน็ และควำมรสู้ กึ - รำยกำรสำหรับเดก็ จำกเร่ืองทฟี่ งั และดู - ขำ่ วและเหตกุ ำรณ์ประจำวนั - เพลง ๖. พูดสื่อสำรไดช้ ัดเจนตรงตำม  กำรพดู สอ่ื สำรในชีวิตประจำวัน เชน่ วตั ถุประสงค์ - กำรแนะนำตนเอง - กำรขอควำมชว่ ยเหลือ - กำรกล่ำวคำขอบคุณ หลกั สูตรโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดริ์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พ้ืนฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 22

ชน้ั ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - กำรกล่ำวคำขอโทษ - กำรพดู ขอร้องในโอกำสตำ่ งๆ - กำรเล่ำประสบกำรณใ์ นชวี ิตประจำวนั ๗. มมี ำรยำทในกำรฟัง กำรดู และกำรพดู  มำรยำทในกำรฟงั เชน่ - ต้ังใจฟงั ตำมองผพู้ ูด - ไมร่ บกวนผู้อนื่ ขณะท่ีฟัง - ไมค่ วรนำอำหำรหรือเครือ่ งดื่มไปรับประทำน ขณะทฟ่ี ัง - ไมพ่ ดู สอดแทรกขณะท่ฟี ัง  มำรยำทในกำรดู เชน่ - ตง้ั ใจดู - ไม่ส่งเสยี งดงั หรอื แสดงอำกำรรบกวนสมำธิ ของผู้อ่นื  มำรยำทในกำรพูด เชน่ - ใช้ถ้อยคำและกริ ยิ ำทสี่ ุภำพ เหมำะสมกับ กำลเทศะ - ใช้น้ำเสียงนุ่มนวล - ไม่พดู สอดแทรกในขณะทผี่ ูอ้ ่นื กำลังพูด - ไมพ่ ูดลอ้ เลียนใหผ้ ู้อืน่ ไดร้ บั ควำมอบั อำยหรือ เสยี หำย สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้ำใจธรรมชำติของภำษำและหลกั ภำษำไทย กำรเปลี่ยนแปลงของภำษำและพลังของภำษำ ภูมปิ ญั ญำทำงภำษำ และรักษำภำษำไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชำติ ช้นั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๒ ๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์  พยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ และเลขไทย  เลขไทย ๒. เขียนสะกดคำและบอกควำมหมำย ของ  กำรสะกดคำ กำรแจกลกู และกำรอำ่ นเปน็ คำ คำ  มำตรำตวั สะกดท่ตี รงตำมมำตรำและไมต่ รงตำม มำตรำ  กำรผนั อักษรกลำง อักษรสงู และอกั ษรตำ่  คำทม่ี ตี ัวกำรนั ต์  คำทมี่ พี ยัญชนะควบกล้ำ  คำที่มีอักษรนำ  คำทีม่ ีควำมหมำยตรงข้ำมกนั หลกั สตู รโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ดิ์รำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 23

ชน้ั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง  คำที่มี รร  ควำมหมำยของคำ ๓. เรยี บเรยี งคำเปน็ ประโยคไดต้ รงตำม  กำรแต่งประโยค เจตนำของกำรสอื่ สำร  กำรเรยี บเรยี งประโยคเปน็ ข้อควำมส้ันๆ ๔. บอกลักษณะคำคลอ้ งจอง  คำคลอ้ งจอง ๕. เลือกใชภ้ ำษำไทยมำตรฐำนและ  ภำษำไทยมำตรฐำน ภำษำถน่ิ ได้เหมำะสมกบั กำลเทศะ  ภำษำถ่นิ สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เขำ้ ใจและแสดงควำมคิดเห็น วจิ ำรณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยำ่ งเหน็ คุณคำ่ และ นำมำประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง ชนั้ ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.๒ ๑. ระบขุ อ้ คิดทไี่ ด้จำกกำรอำ่ นหรอื  วรรณกรรมรอ้ ยแก้วและร้อยกรองสำหรบั เด็ก กำรฟังวรรณกรรมสำหรับเด็ก เพ่อื เชน่ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั - นิทำน - เรือ่ งสัน้ ง่ำยๆ - ปริศนำคำทำย - บทอำขยำน - บทร้อยกรอง - วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี น ๒. รอ้ งบทรอ้ งเลน่ สำหรับเดก็ ในทอ้ งถ่ิน  บทร้องเล่นท่ีมีคณุ ค่ำ - บทร้องเล่นในท้องถิน่ - บทร้องเล่นในกำรละเล่นของเด็กไทย ๓. ท่องจำบทอำขยำนตำมทกี่ ำหนด และ  บทอำขยำนและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคณุ ค่ำ บทร้อยกรองที่มคี ุณคำ่ ตำมควำมสนใจ - บทอำขยำนตำมทกี่ ำหนด - บทรอ้ ยกรองตำมควำมสนใจ หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 24

คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง ศึกษำ ฝึกทกั ษะกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรฟงั กำรดูและกำรพูด หลักกำรใช้ภำษำไทย และวรรณคดี และวรรณกรรมในสำระต่อไปน้ี กำรอำ่ นออกเสียงและกำรบอกควำมหมำยของคำ คำคล้องจอง ข้อควำม และบทร้อยกรองง่ำย ๆ ที่ประกอบด้วยคำพน้ื ฐำนเพ่ิมจำก ป.๑ไม่นอ้ ยกวำ่ ๘๐๐ คำ รวมทง้ั คำท่ีใช้เรียนรู้ ในกลุ่มสำระกำรเรียนรูอ้ นื่ ประกอบด้วยคำท่ีมรี ูปวรรณยกุ ต์และไม่มีรปู วรรณยุกต์ คำทม่ี ีตัวสะกดตรงตำม มำตรำและ ไม่ตรงตำมมำตรำ คำควบกลำ้ คำท่ีมอี ักษรนำ คำท่ีมีตวั กำรนั ต์ คำทม่ี ี รร. คำท่มี ีพยญั ชนะ และสระท่ี ไม่ออกเสยี ง กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำคัญจำกกำรสื่อตำ่ งๆ นิทำน เรื่องสั้น บทเพลงและบทร้อย กรองง่ำย ๆ เรอื่ งรำวจำกบทเรียนในกล่มุ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทยและกลมุ่ สำระกำรเรียนรอู้ น่ื ขำ่ ว เหตุกำรณป์ ระจำวัน กำรอำ่ นหนังสอื ตำมควำมสนใจ กำรอำ่ นข้อเขียนเชิงอธบิ ำยและปฏบิ ัติตำมคำสง่ั หรือ ขอ้ แนะนำ มำรยำทในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรคัดลำยมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ตำมรูปแบบกำรเขยี นตัว อกั ษรไทยกำรเขยี นเร่ืองส้นั ๆเกย่ี วกับประสบกำรณ์ กำรเขยี นเรอ่ื งส้ันๆ เกี่ยวกับจนิ ตนำกำร มำรยำทใน กำรเขยี น กำรฟัง กำรดู และกำรพูด กำรฟังและปฏิบัตติ ำมคำแนะนำ คำสง่ั ทีซ่ บั ซ้อน กำรจับใจควำมและ พดู แสดงควำมคิดเหน็ ควำมรู้สึกจำกเรอื่ งทฟี่ ังและดู ทัง้ ท่ีเป็นควำมรู้และควำมบนั เทงิ กำรพูดสอ่ื สำร ใน ชวี ติ ประจำวนั มำรยำทในกำรฟัง มำรยำทในกำรดมู ำรยำทในกำรพูด หลักกำรใชภ้ ำษำ กำรบอกและเขยี น พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ เลขไทย กำรเขียนสะกดคำ กำรแจกลกู และกำรอ่ำนเป็นคำ มำตรำตวั สะกด ทต่ี รงตำมมำตรำและไม่ตรงตำมมำตรำ กำรผันอักษรกลำง อกั ษรสงู และอักษรตำ่ คำท่ีมตี วั กำรันต์ คำท่ี มีพยญั ชนะควบกล้ำ คำท่ีมีอักษรนำ คำท่ีมีควำมหมำย ตรงขำ้ ม คำที่มี รร ควำมหมำยของคำ โดยใชก้ ระบวนกำรอำ่ น กำรเขยี น กำรฟงั กำรดู กำรพูด และกำรวิเครำะห์ เพื่อให้เกดิ ควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถส่ือสำรสิ่งท่ีเรียนรู้ กำรแต่งประโยค กำรเรียบเรียงประโยคเปน็ ข้อควำมส้ันๆ คำคลอ้ งจอง กำรใชภ้ ำษำไทยได้เหมำะสมกบั กำลเทศะ วรรณคดีและวรรณกรรม กำรอ่ำนหรือกำรฟัง วรรณกรรมรอ้ ยแก้วและร้อยกรองสำหรับเด็ก กำรร้องบทร้องเลน่ ท่ีมีคณุ คำ่ กำรท่องบทอำขยำนและร้อย กรองทีม่ คี ุณค่ำตำมที่กำหนดและควำมสนใจ มีควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร คิดวเิ ครำะห์ เหน็ คุณคำ่ ของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำวนั มีเจตคติทดี่ ีต่อภำษำไทย มีมำรยำท ในกำรอ่ำน กำรเขียน กำรฟัง กำรดแู ละกำรพดู มคี วำมซำบซงึ้ ภำคภูมิใจในภำษำไทย รกั ควำมเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรแู้ ละมคี ่ำนิยมท่เี หมำะสม รหัสตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕,ป.๒/๖,ป.๒/๗,ป.๒/๘ ท ๒.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔ ท ๓.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕,ป.๒/๖,ป.๒/๗ ท ๔.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕ ท ๕.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓ รวมทั้งหมด ๒๗ ตวั ช้วี ดั หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คำสวสั ดิ์รำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพืน้ ฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 25

กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ า ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ รหัสวชิ า ท๑๒๑๐๑ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ตัวช้วี ัด จานวน น้าหนัก (ช่ัวโมง) คะแนน น้ำใส ท๑.๑ ป.๒/๑-2/4-5 ท๔.๑ ป.๒/๑-2 ๑2 5 ใจหำย ท๑.๑ ป.๒/๑-2/4-6 ท๔.๑ป.๒/๑-2 ท๕.๑ ป.๒/๑ ๑2 ๕ เพอ่ื นกัน ท๑.๑ป.๒/๑-2/5 ท๓.๑ป.๒/๒/4-5 ๑1 ๕ กลวั ทำไม ๑1 ๕ ท๔.๑ป.๒/๑-2 ท๕.๑ป.๒/๑ ท๑.๑ป.๒/๑-6, ท๓.๑ป.๒/๔, ท๔.๑ป.๒/๑-2, ท๕.๑ป.๒/๑ ชวี ติ ใหม่ ท๑.๑ป.๒/๑-6 ท๔.๑ป.๒/๑-3 ท๕.๑ ป.๒/๑ ๑1 5 มนี ำ้ ใจ ท๑.๑ป.๒/๑-6 ท๒.๑ป.๒/๒ ๑1 5 นกั คิดสมองใส ๑1 5 โลกร้อน ท๓.๑ป.๒/๒/7 ท๔.๑ป.๒/๑-2 ๑1 5 รกั พ่อ รักแม่ ๑1 5 ท๑.๑ ป.๒/๑-6, ท๒.๑ ป.๒/๒, ท๓.๑ ป.๒/๕ ท๔.๑ ป.๒/๑-2 ท๑.๑ ป.๒/๑-2 ท๒.๑ ป.๒/๑/4 ท๓.๑ ป.๒/๕ ท๔.๑ ป.๒/๓ -4 ท๕.๑ ป.๒/๑-2 ท๑.๑ ป.๒/๑-2, ท๒.๑ ป.๒/๓ , ท๓.๑ป.๒/๑ , ท๕.๑ป.๒/๑ เข็ดแลว้ ท๑.๑ ป.๒/๑-5 ท๓.๑ ป.๒/๕ ๑1 5 เดก็ ดี ท๔.๑ ป.๒/๒-4 ท๕.๑ ป.๒/๑ ๑1 5 ชำตขิ องเรำ ๑1 5 ท๑.๑ ป.๒/๑-3/6 ท๒.๑ ป.๒/๒ ท๓.๑ ป.๒/๕ ท๔.๑ ป.๒/๒ ท๑.๑ ป.๒/๑-2/5 , ท๒.๑ ป.๒/๒ , ท๕.๑ ป.๒/๑-3 ดอกสร้อยแสนงำม ท๑.๑ ป.๒/๓-4 ท๕.๑ ป.๒/๑-2 11 5 นทิ ำนอำ่ นใหม่ ท๑.๑ ป.๒/๑-2 ท๓.๑ ป.๒/2-4 11 5 รืน่ รสสักวำ ท๔.๑ ป.๒/๒/4 11 5 ไก่แจแ้ ซ่เสียง ท๑.๑ ป.๒/๑-2 ท๔.๑ ป.๒/๒/4 11 5 ภำพวำดของสเี ทยี น ท๕.๑ ป.๒/๑-3 11 10 ยำยกะตำ ท๑.๑ ป.๒/๑-2 ท๕.๑ ป.๒/๒-3 11 10 ๒7 ๒๐๐ ๑๐๐ รวม หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสดริ์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พน้ื ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 26

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 27

ตวั ช้วี ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระท่ี 1 การอา่ น มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมรู้และควำมคดิ เพอ่ื นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหำในกำร ดำเนนิ ชีวติ และมีนสิ ัยรักกำรอำ่ น ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.๓ ๑. อ่ำนออกเสียงคำ ขอ้ ควำม เร่ืองสน้ั ๆ  กำรอำ่ นออกเสยี งและกำรบอกควำมหมำยของ และบทร้อยกรองง่ำยๆ ได้ถูกตอ้ ง คำ คำคล้องจอง ข้อควำม และบทร้อยกรอง คลอ่ งแคลว่ ง่ำยๆ ทปี่ ระกอบดว้ ยคำพ้ืนฐำนเพม่ิ จำก ป.๒ ๒. อธบิ ำยควำมหมำยของคำและ ไมน่ ้อยกว่ำ ๑,๒๐๐ คำ รวมทงั้ คำท่เี รียนรู้ในกลุ่ม ขอ้ ควำมท่ีอ่ำน สำระกำรเรยี นรู้อืน่ ประกอบด้วย - คำทีม่ ีตัวกำรันต์ - คำทมี่ ี รร - คำทม่ี ีพยัญชนะและสระไม่ออกเสยี ง - คำพ้อง - คำพเิ ศษอื่นๆ เช่น คำที่ใช้ ฑ ฤ ฤๅ ๓. ตั้งคำถำมและตอบคำถำมเชงิ เหตุผล  กำรอำ่ นจับใจควำมจำกส่อื ตำ่ งๆ เช่น เก่ียวกบั เร่ืองทีอ่ ำ่ น - นทิ ำนหรือเร่ืองเกีย่ วกบั ทอ้ งถน่ิ ๔. ลำดับเหตุกำรณแ์ ละคำดคะเน - เรอ่ื งเล่ำสนั้ ๆ เหตกุ ำรณ์จำกเรอ่ื งท่ีอ่ำนโดยระบุ - บทเพลงและบทรอ้ ยกรอง เหตุผลประกอบ - บทเรยี นในกล่มุ สำระกำรเรียนรู้อืน่ ๕. สรปุ ควำมรแู้ ละข้อคดิ จำกเรือ่ งทีอ่ ำ่ น - ข่ำวและเหตกุ ำรณ์ในชีวติ ประจำวนั ในท้องถ่ิน เพอ่ื นำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน และชมุ ชน ๖. อำ่ นหนงั สอื ตำมควำมสนใจ  กำรอ่ำนหนงั สอื ตำมควำมสนใจ เชน่ อยำ่ งสม่ำเสมอและนำเสนอเรือ่ งที่ - หนงั สอื ท่ีนกั เรยี นสนใจและเหมำะสมกับวยั อ่ำน - หนังสอื ท่ีครแู ละนกั เรยี นกำหนดรว่ มกัน ๗. อำ่ นขอ้ เขยี นเชิงอธบิ ำยและปฏิบัติ  กำรอำ่ นข้อเขยี นเชงิ อธิบำย และปฏิบตั ิตำมคำส่ัง ตำมคำสง่ั หรือข้อแนะนำ หรอื ข้อแนะนำ - คำแนะนำตำ่ งๆ ในชีวติ ประจำวนั - ประกำศ ปำ้ ยโฆษณำ และคำขวัญ ๘. อธบิ ำยควำมหมำยของขอ้ มูลจำก  กำรอำ่ นข้อมลู จำกแผนภำพ แผนที่ และแผนภมู ิ แผนภำพ แผนท่ี และแผนภมู ิ ๙. มีมำรยำทในกำรอ่ำน  มำรยำทในกำรอ่ำน เชน่ - ไม่อำ่ นเสียงดงั รบกวนผอู้ ่นื หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คำสวัสดริ์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พน้ื ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 28

ชั้น ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง - ไม่เลน่ กันขณะทอี่ ่ำน - ไมท่ ำลำยหนงั สอื - ไมค่ วรแย่งอ่ำนหรอื ชะโงกหนำ้ ไปอำ่ นขณะที่ ผูอ้ ่ืนกำลังอำ่ น สาระท่ี 2 การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนกำรเขยี นเขยี นส่ือสำร เขยี นเรียงควำม ย่อควำม และเขยี นเร่ืองรำวในรปู แบบ ต่ำงๆ เขยี นรำยงำนขอ้ มลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ อย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๓ ๑. คัดลำยมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัด  กำรคัดลำยมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ตำมรูปแบบ กำรเขยี น ตัวอักษรไทย ๒ เขยี นบรรยำยเก่ียวกบั ส่ิงใดสงิ่ หนง่ึ ได้  กำรเขยี นบรรยำยเกีย่ วกับลักษณะของ คน สตั ว์ อย่ำงชดั เจน สง่ิ ของ สถำนที่ ๓. เขียนบนั ทึกประจำวนั  กำรเขยี นบนั ทกึ ประจำวัน ๔. เขียนจดหมำยลำครู  กำรเขียนจดหมำยลำครู ๕. เขยี นเรอ่ื งตำมจินตนำกำร  กำรเขยี นเรอ่ื งตำมจนิ ตนำกำรจำกคำ ภำพ และ หัวข้อทีก่ ำหนด ๖. มมี ำรยำทในกำรเขียน  มำรยำทในกำรเขียน เชน่ - เขียนใหอ้ ่ำนงำ่ ย สะอำด ไม่ขดี ฆ่ำ - ไมข่ ีดเขยี นในทสี่ ำธำรณะ - ใช้ภำษำเขียนเหมำะสมกบั เวลำ สถำนที่ และ บคุ คล - ไม่เขยี นล้อเลียนผอู้ นื่ หรอื ทำให้ผู้อน่ื เสยี หำย สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพดู มาตรฐาน ท 3.1 สำมำรถเลือกฟังและดูอยำ่ งมวี ิจำรณญำณ และพดู แสดงควำมรู้ ควำมคิด และควำมรสู้ กึ ใน โอกำสต่ำงๆ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณและสร้ำงสรรค์ ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป.๓ ๑. เลำ่ รำยละเอยี ดเก่ยี วกบั เรอ่ื งท่ีฟังและ  กำรจบั ใจควำมและพูดแสดงควำมคดิ เห็นและ ดูทัง้ ทเ่ี ป็นควำมรแู้ ละควำมบนั เทิง ควำมรสู้ ึกจำกเร่อื งทีฟ่ ังและดทู ง้ั ท่ีเป็นควำมรู้ ๒. บอกสำระสำคัญจำกกำรฟังและกำรดู และควำมบันเทิง เชน่ ๓. ต้ังคำถำมและตอบคำถำมเก่ียวกับ - เรื่องเลำ่ และสำรคดีสำหรับเด็ก เร่ืองทฟี่ ังและดู - นิทำน กำร์ตูน เรือ่ งขบขัน ๔. พูดแสดงควำมคดิ เห็นและควำมรู้สึก - รำยกำรสำหรับเดก็ จำกเร่ืองทฟี่ ังและดู - ข่ำวและเหตุกำรณใ์ นชีวิตประจำวัน หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดริ์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขั้นพน้ื ฐำนพทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 29

ช้นั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง - เพลง ๕. พดู สอื่ สำรไดช้ ดั เจนตรงตำม  กำรพูดสื่อสำรในชีวิตประจำวนั เช่น วตั ถปุ ระสงค์ - กำรแนะนำตนเอง - กำรแนะนำสถำนท่ใี นโรงเรียนและในชมุ ชน ๖. มมี ำรยำทในกำรฟงั กำรดู และกำรพูด - กำรแนะนำ/เชิญชวนเก่ียวกับกำรปฏิบตั ติ นใน ด้ำนตำ่ งๆ เชน่ กำรรักษำควำมสะอำดของ รำ่ งกำย - กำรเลำ่ ประสบกำรณใ์ นชวี ิตประจำวนั - กำรพูดในโอกำสตำ่ งๆ เชน่ กำรพดู ขอรอ้ ง กำรพูดทกั ทำย กำรกลำ่ วขอบคณุ และขอ โทษ กำรพดู ปฏิเสธ และกำรพดู ชักถำม  มำรยำทในกำรฟงั เชน่ - ต้งั ใจฟงั ตำมองผพู้ ดู - ไม่รบกวนผอู้ น่ื ขณะทฟ่ี งั - ไมค่ วรนำอำหำรหรือเครอ่ื งดื่มไปรับประทำน ขณะทีฟ่ ัง - ไม่แสดงกิรยิ ำทไ่ี มเ่ หมำะสม เช่น โห่ ฮำ หำว - ใหเ้ กียรติผู้พูดดว้ ยกำรปรบมือ - ไม่พดู สอดแทรกขณะที่ฟงั  มำรยำทในกำรดู เชน่ - ต้งั ใจดู - ไม่ส่งเสยี งดงั หรอื แสดงอำกำรรบกวนสมำธิ ของผู้อนื่  มำรยำทในกำรพดู เชน่ - ใชถ้ ้อยคำและกิริยำที่สุภำพ เหมำะสมกบั กำลเทศะ - ใชน้ ำ้ เสยี งนุ่มนวล - ไมพ่ ดู สอดแทรกในขณะทผี่ ้อู ื่นกำลงั พูด - ไมพ่ ดู ล้อเลยี นให้ผู้อ่นื ไดร้ บั ควำมอบั อำยหรือ เสียหำย หลกั สูตรโรงเรียนวัดพชื นิมิต (คำสวสั ดร์ิ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พ้ืนฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 30

สาระท่ี 4 หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้ำใจธรรมชำติของภำษำและหลกั ภำษำไทย กำรเปลี่ยนแปลงของภำษำและพลังของภำษำ ภมู ิปัญญำทำงภำษำ และรักษำภำษำไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชำติ ชน้ั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป.๓ ๑. เขยี นสะกดคำและบอกควำมหมำ  กำรสะกดคำ กำรแจกลูก และกำรอ่ำนเปน็ คำ ของคำ  มำตรำตัวสะกดที่ตรงตำมมำตรำและไมต่ รงตำม มำตรำ  กำรผนั อักษรกลำง อักษรสงู และอักษรตำ่  คำที่มีพยัญชนะควบกล้ำ  คำทมี่ อี กั ษรนำ  คำทป่ี ระวสิ รรชนียแ์ ละคำทไี่ ม่ประวสิ รรชนยี ์  คำทม่ี ี ฤ ฤๅ  คำทใ่ี ช้ บัน บรร  คำที่ใช้ รร  คำที่มตี วั กำรนั ต์  ควำมหมำยของคำ ๓. ระบุชนดิ และหนำ้ ทีข่ องคำในประโยค  ชนดิ ของคำ ไดแ้ ก่ - คำนำม - คำสรรพนำม - คำกรยิ ำ ๔. ใช้พจนำนุกรมคน้ หำควำมหมำยของคำ  กำรใช้พจนำนกุ รม ๕. แต่งประโยคงำ่ ยๆ  กำรแต่งประโยคเพ่ือกำรสอื่ สำร ได้แก่ - ประโยคบอกเลำ่ - ประโยคปฏิเสธ - ประโยคคำถำม - ประโยคขอรอ้ ง - ประโยคคำส่ัง ๖. แตง่ คำคลอ้ งจองและคำขวญั  คำคลอ้ งจอง  คำขวัญ ๗. เลือกใช้ภำษำไทยมำตรฐำนและ  ภำษำไทยมำตรฐำน ภำษำถนิ่ ได้เหมำะสมกบั กำลเทศะ  ภำษำถ่ิน หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นิมติ (คำสวัสดริ์ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 31

สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เขำ้ ใจและแสดงควำมคิดเหน็ วิจำรณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยำ่ งเห็นคุณคำ่ และ นำมำประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ ช้นั ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป.๓ ๑. ระบขุ ้อคดิ ทไ่ี ด้จำกกำรอ่ำนวรรณกรรม  วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพ้ืนบ้ำน เพือ่ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั - นทิ ำนหรอื เร่ืองในทอ้ งถนิ่ ๒. รู้จักเพลงพ้ืนบำ้ นและเพลงกลอ่ มเด็ก - เร่ืองสั้นง่ำยๆ ปรศิ นำคำทำย เพ่ือปลกู ฝังควำมช่ืนชมวัฒนธรรม - บทร้อยกรอง ท้องถน่ิ - เพลงพ้นื บำ้ น ๓. แสดงควำมคดิ เหน็ เกยี่ วกับวรรณคดี - เพลงกลอ่ มเด็ก ท่ีอ่ำน - วรรณกรรมและวรรณคดีในบทเรียนและ ตำม ควำมสนใจ ๔. ทอ่ งจำบทอำขยำนตำมทกี่ ำหนดและ  บทอำขยำนและบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคณุ คำ่ บทรอ้ ยกรองที่มคี ณุ คำ่ ตำมควำมสนใจ - บทอำขยำนตำมทกี่ ำหนด - บทร้อยกรองตำมควำมสนใจ หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พน้ื ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 32

คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง ศึกษำ ฝึกทักษะกำรอ่ำน กำรเขียน กำรฟัง กำรดูและกำรพูด หลักกำรใช้ภำษำไทย และวรรณคดี และวรรณกรรมในสำระต่อไปนี้ กำรอ่ำนออกเสียงและกำรบอกควำมหมำยของคำ คำคล้องจอง ข้อควำม และบทร้อยกรองง่ำยๆ ที่ประกอบด้วยคำพื้นฐำนเพิ่มจำก ป.๒ ไม่น้อยกว่ำ ๑,๒๐๐ คำ รวมทั้งคำท่ีเรียนรู้ ในกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อ่ืน กำรอ่ำนจับใจควำมจำกส่ือต่ำง ๆ กำรอ่ำนหนังสือตำมควำมสนใจ กำรอ่ำน ข้อเขียนเชิงอธิบำยและปฏิบัตติ ำมคำสง่ั หรือขอ้ แนะนำ กำรอ่ำนข้อมูลจำกแผนภำพ แผนที่ และแผนภมู ิ มำรยำทในกำรอ่ำนกำรเขียน กำรคัดลำยมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดตำมรูปแบบกำรเขียนตัวอักษรไทย กำร เขียนบรรยำยเก่ียวกับลักษณะของ คน สัตว์ ส่ิงของ สถำนท่ี กำรเขียนบันทึกประจำวัน กำรเขียน จดหมำยลำครู กำรเขียนเร่ืองตำมจินตนำกำรจำกคำ ภำพ และหัวข้อที่กำหนด มำรยำทในกำรเขียน กำรฟัง กำรดู และกำรพดู กำรจบั ใจควำมและพดู แสดงควำมคิดเห็นและควำมรู้สกึ จำกเรื่องทีฟ่ ังและดู ท้ัง ท่ีเป็นควำมรู้และควำมบันเทิง กำรพูดสื่อสำรในชีวิตประจำวัน มำรยำทในกำรฟัง มำรยำทในกำรดู มำรยำทในกำรพูด หลักกำรใช้ภำษำ กำรสะกดคำ กำรแจกลูกและกำรอ่ำนเป็นคำ มำตรำตัวสะกดที่ตรง ตำมมำตรำ และไม่ตรงตำมมำตรำ กำรผันอักษรกลำง อักษรสูงและอักษรต่ำ คำที่มีพยัญชนะควบกล้ำ คำที่มอี ักษรนำ คำทป่ี ระวิสรรชนีย์และคำท่ไี ม่ประวิสรรชนีย์ คำทม่ี ี ฤ ฤๅ คำทใ่ี ช้ บัน บรร คำทใ่ี ช้ รร คำที่มีตัวกำรันต์ ควำมหมำยของคำ ชนิดและหน้ำที่ของคำ กำรใชพ้ จนำนุกรม กำรแตง่ ประโยคเพอ่ื กำร สื่อสำร กำรแต่ง คำคล้องจองและคำขวัญ กำรใช้ภำษำไทยได้เหมำะสมกับกำลเทศะวรรณคดีและ วรรณกรรม กำรอ่ำนวรรณคดี วรรณกรรม กำรท่องจำบทอำขยำนและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่ำตำมที่ กำหนดและควำมสนใจ โดยใช้กระบวนกำรอ่ำน กำรเขียน กำรฟัง กำรดู กำรพูด และกำรวิเครำะห์ เพ่ือให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเข้ำใจ สำมำรถสื่อสำรสิ่งที่เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร คิดวิเครำะห์และ วิจำรณ์ อย่ำงสร้ำงสรรค์ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีเจตคติท่ีดีต่อภำษำไทย มีมำรยำท ในกำรอำ่ น กำรเขยี น กำรฟัง กำรดแู ละกำรพดู มีควำมซำบซ้ึง ภำคภูมิใจในภำษำไทย รกั ควำมเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นร้แู ละมคี ำ่ นิยมทเ่ี หมำะสม รหสั ตัวชวี้ ัด ท ๑.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖,ป.๓/๗,ป.๓/๘,ป.๓/๙ ท ๒.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖ ท ๓.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖ ท ๕.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔ รวมท้ังหมด ๓๑ ตวั ชวี้ ัด หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 33

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ รหสั วชิ า ท๑๓๑๐๑ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ตัวชีว้ ัด จานวน นา้ หนัก (ช่วั โมง) คะแนน ปฏิบตั ิกำรสำยลับจว๋ิ ท ๑.๑ ป๓/๓-4/6 ท ๒.๑ ป.๓/๒ ๑3 5 ท ๓.๑ ป.๓/๔-5 ท ๔.๑ ป.๓/๑/3 ๑3 5 ๑๓ 5 บงึ ใหญ่ในปำ่ ท ๑.๑ ป๓/๑/3/4/6 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ๑๓ 5 ๑3 5 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๑/3-4 ๑3 5 ๑3 5 พลังคือชวี ิต ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4 ท ๒.๑ ป.๓/๒ /5 ๑3 5 ๑๒ 5 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ๑๒ 5 ๑๒ 5 ควำมฝันนน้ั เปน็ จรงิ ได้ ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4/6 ท ๒.๑ ป.๓/๒ ๑๒ 5 ๑๒ 10 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๑ ทำยปญั หำกบั คณุ ตำ ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4/6 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ท ๓.๑ ป.๓/๔-5 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ภมู ใิ จภำษำไทยของเรำ ท ๑.๑ ป.๓/๑ -4 ท ๒.๑ ป.๓/๒ /5 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๑/4 คนดีมีสัจจะ ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๑/4/7 คดิ ไปรู้ไป ท ๑.๑ ป.๓/๑-4/6 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ท ๓.๑ ป.๓/๑/4 ท ๔.๑ ป.๓/๑ อำหำรดมี ีคณุ ภำพ ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4/6 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ท ๓.๑ ป.๓/๑/4 ท ๔.๑ ป.๓/๑ นอกเมือง...ในกรุง ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๑/3 ท๕.๑ป.๓/๕ สง่ ข่ำว...เล่ำเรือ่ ง ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ป.๓/๑/3 ท๕.๑ป. ๓/๕ ประชำธิปไตยใบเล็ก ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๕.๑ ป.๓/๕ ของดีในตำบล ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๑/5 ท ๕.๑ ป.๓/๔ หลกั สูตรโรงเรยี นวดั พชื นิมติ (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พืน้ ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 34

ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ ตัวชี้วดั จานวน นา้ หนัก ธรรมชำตเิ จำ้ เอย (ชั่วโมง) คะแนน บันทึกควำมหลัง ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ๑๒ 10 คุยกบั คุณปู่ ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๑/5 ท ๕.๑ ป.๓/๔ รวม ๑๒ 10 ท ๑.๑ ป.๓/๑-4/6 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ๑๒ 10 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๑ ๒๐๐ ๑๐๐ ท ๑.๑ ป.๓/๑/3-4 ท ๒.๑ ป.๓/๒/5 ท ๓.๑ ป.๓/๔ ท ๔.๑ ป.๓/๖ ท ๕.๑ ป.๓/๔ ๓1 หลกั สตู รโรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวัสด์ิรำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพื้นฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 35

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ิต (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 36

ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนกำรอำ่ นสรำ้ งควำมร้แู ละควำมคิดเพื่อนำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปญั หำในกำร ดำเนินชีวติ และมีนิสัยรกั กำรอ่ำน ชนั้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๔ ๑. อ่ำนออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และ  กำรอ่ำนออกเสียงและกำรบอกควำมหมำยของ บทร้อยกรองได้ถกู ตอ้ ง บทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองทปี่ ระกอบดว้ ย ๒. อธิบำยควำมหมำยของคำ ประโยค - คำทม่ี ี ร ล เป็นพยัญชนะตน้ และสำนวนจำกเรอื่ งท่อี ำ่ น - คำทีม่ พี ยัญชนะควบกลำ้ - คำทม่ี อี ักษรนำ - คำประสม - อกั ษรย่อและเคร่ืองหมำยวรรคตอน - ประโยคทีม่ สี ำนวนเปน็ คำพังเพย สภุ ำษิต ปรศิ นำคำทำย และเครอื่ งหมำยวรรคตอน  กำรอำ่ นบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนำะ ๓. อำ่ นเรอื่ งส้ันๆ ตำมเวลำที่กำหนดและ  กำรอำ่ นจบั ใจควำมจำกสื่อตำ่ งๆ เชน่ ตอบคำถำมจำกเรือ่ งทอ่ี ำ่ น - เร่อื งสัน้ ๆ ๔. แยกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็น - เรือ่ งเล่ำจำกประสบกำรณ์ จำกเร่อื งทอี่ ่ำน - นิทำนชำดก ๕. คำดคะเนเหตุกำรณ์จำกเรอ่ื งทอ่ี ำ่ น - บทควำม โดยระบเุ หตุผลประกอบ - บทโฆษณำ ๖. สรปุ ควำมรู้และข้อคดิ จำกเรอ่ื งท่ีอำ่ น - งำนเขียนประเภทโนม้ น้ำวใจ เพือ่ นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน - ข่ำวและเหตกุ ำรณ์ประจำวัน - สำรคดีและบันเทงิ คดี ๗. อำ่ นหนังสอื ที่มคี ุณคำ่ ตำมควำมสนใจ  กำรอำ่ นหนังสือตำมควำมสนใจ เชน่ อย่ำงสมำ่ เสมอและแสดงควำมคิดเห็น - หนังสอื ท่นี ักเรยี นสนใจและเหมำะสมกบั วยั เกย่ี วกบั เร่ืองทอ่ี ำ่ น - หนงั สอื ทค่ี รูและนกั เรยี นกำหนดรว่ มกัน ๘. มีมำรยำทในกำรอ่ำน  มำรยำทในกำรอำ่ น หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นิมติ (คำสวัสด์ิรำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พน้ื ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 37

สาระท่ี 2 การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนกำรเขยี นเขียนสื่อสำร เขียนเรียงควำม ย่อควำม และเขียนเรื่องรำวในรูปแบบ ตำ่ งๆ เขียนรำยงำนขอ้ มลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศึกษำคน้ ควำ้ อยำ่ งมปี ระสทิ ธิภำพ ช้ัน ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๔ ๑. คดั ลำยมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและ  กำรคดั ลำยมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครง่ึ บรรทดั ครึง่ บรรทดั ตำมรูปแบบกำรเขียนตัวอักษรไทย ๒. เขียนส่อื สำรโดยใช้คำได้ถูกตอ้ ง  กำรเขยี นสื่อสำร เช่น ชดั เจน และเหมำะสม - คำขวญั - คำแนะนำ ๓. เขียนแผนภำพโครงเร่ืองและแผนภำพ  กำรนำแผนภำพโครงเรื่องและแผนภำพควำมคดิ ควำมคิดเพ่ือใช้พัฒนำงำนเขียน ไปพัฒนำงำนเขียน ๔. เขียนยอ่ ควำมจำกเรือ่ งส้นั ๆ  กำรเขียนย่อควำมจำกส่อื ต่ำงๆ เช่น นิทำน ควำมเรียงประเภทตำ่ งๆ ประกำศ จดหมำย คำสอน ๕. เขยี นจดหมำยถงึ เพื่อนและบดิ ำมำรดำ  กำรเขยี นจดหมำยถงึ เพ่อื นและบดิ ำมำรดำ ๖. เขียนบนั ทึกและเขียนรำยงำนจำก  กำรเขยี นบันทึกและเขียนรำยงำนจำกกำรศกึ ษำ กำรศึกษำคน้ ควำ้ ค้นคว้ำ ๗. เขยี นเร่อื งตำมจินตนำกำร  กำรเขยี นเร่อื งตำมจินตนำกำร ๘. มีมำรยำทในกำรเขยี น  มำรยำทในกำรเขยี น สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพดู มาตรฐาน ท 3.1 สำมำรถเลอื กฟงั และดูอยำ่ งมีวิจำรณญำณ และพูดแสดงควำมรู้ ควำมคดิ และควำมรสู้ กึ ใน โอกำสต่ำงๆ อย่ำงมวี ิจำรณญำณและสร้ำงสรรค์ ช้ัน ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๔ ๑. จำแนกขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เห็นจำก  กำรจำแนกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เห็นจำกเรอื่ งท่ี เรอื่ งทีฟ่ งั และดู ฟงั และดู ในชวี ติ ประจำวนั ๒. พดู สรปุ ควำมจำกกำรฟงั และดู  กำรจับใจควำม และกำรพดู แสดงควำมรู้ ๓. พดู แสดงควำมรู้ ควำมคิดเห็น ควำมคิดในเรื่องทฟี่ ังและดู จำกสอื่ ต่ำงๆ เชน่ และควำมรู้สกึ เกี่ยวกบั เร่ืองท่ฟี งั และดู - เรอื่ งเล่ำ ๔. ตงั้ คำถำมและตอบคำถำมเชงิ เหตุผล - บทควำมสน้ั ๆ จำกเรอ่ื งที่ฟังและดู - ข่ำวและเหตกุ ำรณป์ ระจำวนั หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชื นิมิต (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้นั พ้นื ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 38

ช้ัน ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง - โฆษณำ - สื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ - เรอื่ งรำวจำกบทเรยี นกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ภำษำไทย และกลมุ่ สำระกำรเรยี นรอู้ ่ืน ๕. รำยงำนเรื่องหรือประเดน็ ท่ีศึกษำ  กำรรำยงำน เชน่ ค้นควำ้ จำกกำรฟัง กำรดู และกำร - กำรพูดลำดบั ขนั้ ตอนกำรปฏบิ ตั งิ ำน สนทนำ - กำรพูดลำดบั เหตกุ ำรณ์ ๖. มีมำรยำทในกำรฟงั กำรดู และกำรพดู  มำรยำทในกำรฟงั กำรดู และกำรพูด สาระท่ี 4 หลักการใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้ำใจธรรมชำติของภำษำและหลักภำษำไทย กำรเปล่ียนแปลงของภำษำและพลังของภำษำ ภูมิปญั ญำทำงภำษำ และรกั ษำภำษำไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชำติ ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๔ ๑. สะกดคำและบอกควำมหมำยของคำใน  คำในแม่ ก กำ บรบิ ทตำ่ งๆ  มำตรำตัวสะกด  กำรผันอกั ษร  คำเปน็ คำตำย  คำพ้อง ๒. ระบุชนดิ และหนำ้ ท่ีของคำในประโยค  ชนดิ ของคำ ไดแ้ ก่ - คำนำม - คำสรรพนำม - คำกริยำ - คำวิเศษณ์ ๓ ใชพ้ จนำนกุ รมค้นหำควำมหมำยของคำ  กำรใชพ้ จนำนุกรม ๔. แต่งประโยคได้ถกู ต้องตำมหลกั ภำษำ  ประโยคสำมญั - ส่วนประกอบของประโยค - ประโยค ๒ ส่วน - ประโยค ๓ ส่วน ๕. แต่งบทรอ้ ยกรองและคำขวัญ  กลอนส่ี  คำขวัญ ๖. บอกควำมหมำยของสำนวน  สำนวนทีเ่ ป็นคำพังเพยและสภุ ำษิต ๗. เปรียบเทียบภำษำไทยมำตรฐำนกบั  ภำษำไทยมำตรฐำน ภำษำถน่ิ ได้  ภำษำถ่ิน หลกั สตู รโรงเรยี นวัดพชื นมิ ติ (คำสวสั ดิร์ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พืน้ ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 39

สาระท่ี 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เขำ้ ใจและแสดงควำมคดิ เหน็ วิจำรณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยำ่ งเห็นคุณค่ำและ นำมำประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ ชน้ั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.๔ ๑. ระบขุ อ้ คดิ จำกนิทำนพน้ื บ้ำนหรอื  วรรณคดแี ละวรรณกรรม เช่น นทิ ำนคติธรรม - นทิ ำนพ้นื บำ้ น ๒. อธบิ ำยข้อคดิ จำกกำรอำ่ นเพอ่ื นำไปใช้ - นิทำนคตธิ รรม ในชวี ติ จรงิ - เพลงพน้ื บำ้ น - วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรียนและตำม ควำมสนใจ ๓. ร้องเพลงพืน้ บ้ำน  เพลงพนื้ บำ้ น ๔. ทอ่ งจำบทอำขยำนตำมทกี่ ำหนด และ  บทอำขยำนและบทร้อยกรองทมี่ ีคณุ คำ่ บทรอ้ ยกรองทมี่ คี ุณค่ำตำมควำมสนใจ - บทอำขยำนตำมท่กี ำหนด - บทร้อยกรองตำมควำมสนใจ หลกั สูตรโรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พ้ืนฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 40

คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง ศึกษำ ฝึกทักษะกำรอ่ำน กำรเขียน กำรฟัง กำรดูและกำรพูด หลักกำรใช้ภำษำไทย และวรรณคดี และวรรณกรรมในสำระต่อไปน้ี กำรอ่ำนออกเสียงและกำรบอกควำมหมำยของบทร้อยแก้วและบทร้อย กรอง กำรอ่ำนบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนำะ กำรอ่ำนจับใจควำมจำกสื่อต่ำงๆ กำรอ่ำนหนังสือตำมควำม สนใจ มำรยำทในกำรอ่ำน กำรเขียน กำรคัดลำยมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัดตำมรูปแบบกำร เขียนตัวอักษรไทย กำรเขียนส่ือสำร กำรนำแผนภำพโครงเรื่องและแผนภำพควำมคิดไปพัฒนำงำนเขียน กำรเขียนย่อควำมจำกสื่อต่ำงๆ ประกำศ จดหมำย คำสอน กำรเขียนจดหมำยถึงเพื่อนและบิดำมำรดำ กำรเขยี นบันทกึ และเขยี นรำยงำนจำกกำรศึกษำค้นคว้ำ กำรเขยี นเร่ืองตำมจนิ ตนำกำร มำรยำท ในกำร เขียน กำรฟัง กำรดู และกำรพูด กำรจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจำกเรื่องท่ีฟังและดูใน ชีวิตประจำวัน กำรจับใจควำมและกำรพูดแสดงควำมรู้ ควำมคิดในเร่ืองที่ฟังและดูจำกส่ือต่ำงๆ กำรพูด รำยงำน มำรยำทในกำรฟงั กำรดแู ละกำรพูด หลักกำรใช้ภำษำ กำรสะกดคำในแม่ ก กำ มำตรำตัวสะกด กำรผนั อักษร คำเปน็ คำตำย คำพอ้ งชนิดและหน้ำทขี่ องคำ กำรใช้พจนำนุกรม ประโยคสำมญั โดยใช้กระบวนกำรอ่ำน กำรเขียน กำรฟัง กำรดู กำรพูด และกำรวิเครำะห์ เพื่อให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเข้ำใจ สำมำรถส่ือสำรส่ิงท่ีเรียนรู้มีควำมสำมำรถในกำร คิดวิเครำะห์ และ วิจำรณ์ อย่ำง สร้ำงสรรค์ กำรแต่งกลอนสี่และคำขวัญ สำนวนท่ีเป็นคำพังเพยและสุภำษิต เปรียบเทียบภำษำไทย มำตรฐำนและภำษำท้องถิ่นได้ วรรณคดีและวรรณกรรม กำรอำ่ นวรรณคดี วรรณกรรม วรรณกรรมท้องถ่ิน กำรทอ่ งจำบทอำขยำนและบทร้อยกรองทม่ี ีคุณค่ำตำมที่กำหนดและควำมสนใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวัน มีเจตคตทิ ี่ดตี ่อภำษำไทย มีมำรยำท ในกำรอ่ำน กำรเขียน กำรฟัง กำรดูและกำรพูด มีควำมซำบซึ้ง ภำคภูมิใจในภำษำไทย รักควำมเป็น ไทย ใฝ่เรยี นรแู้ ละมีคำ่ นิยมท่เี หมำะสม รหัสตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔,ป.๔/๕,ป.๔/๖,ป.๔/๗,ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔,ป.๔/๕,ป.๔/๖,ป.๔/๗,ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔,ป.๔/๕,ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔,ป.๔/๕,ป.๔/๖,ป.๔/๗ ท ๕.๑ ป.๔/๑,ป.๔/๒,ป.๔/๓,ป.๔/๔ รวมทั้งหมด ๓๓ ตัวชี้วดั หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสด์ิรำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพน้ื ฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 41

โครงสร้างรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รหสั วิชา ท๑๔๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ตวั ชวี้ ัด จานวน นา้ หนกั (ช่ัวโมง) คะแนน ขนมไทยไร้เทยี มทำน ท ๑.๑ ป. ๔/๑ -2 ท ๒.๑ ป. ๔/๑ ,4/8 ๘ ๕ ออมไวก้ ำไรชวี ติ ท ๓.๑ ป. ๔/๑,4/5, ท๔.๑ ป.๔/๔, ท ๕.๑ ป. ๔/๒ ๘ ๕ กำรผจญภัยของสดุ ท ๑.๑ ป. ๔/๑-2 ท ๒.๑ ป. ๔/๑-2,4/6 ๘ ๕ สำคร ท ๓.๑ป.๔/๑,4/5-6, ท ๔.๑ป.๔/๔, ท ๕.๑ป.๔/๒ ๘ ๕ ผักสมนุ ไพรใบหญำ้ มี คณุ ค่ำทั้งนนั้ ท ๑.๑ ป. ๔/๑-3 ท ๒.๑ ป. ๔/๑-2,4/7-8 ๘ ๕ ภูมิใจมรดกโลก ๘ ๕ นำ้ ผง้ึ หยดเดียว ท ๓.๑ ป. ๔/๑-2 ท ๔.๑ ป. ๔/๑,4/3 ๗ ๕ ชวี ิตท่ถี กู เมนิ ท ๑.๑ ป. ๔/๑,4/6,4/8 ท ๒.๑ ป. ๔/๑,4/6 ๗ ๕ โอมมหำพิจำรณำ ท ๓.๑ป.๔/๒-3 ท๔.๑ป.๔/๑,4/5 ท๕.๑ป.๔/๔ ๗ ๕ แรงพโิ รธจำกฟำ้ ดนิ ๗ ๕ ไวรสั วำยรำ้ ย ท ๑.๑ ป. ๔/๑-6,4/8 ๗ ๕ ๗ ๕ เรอื่ งเล่ำจำกพัทลงุ ท ๓.๑ ป. ๔/๓,4/5-6 ท ๔.๑ ป. ๔/๑-3 ๗ - สนุกสนำนกบั กำรเล่น ๗ - หนอู ยำกจะบอกให้ ท ๕.๑ ป. ๔/๑ ดวงจนั ทร์ของลำเจียก ๗ 10 ท ๑.๑ ป.๔/๑-3,4/6 ท ๕.๑ ป.๔/๑-2 ๗ - คนดศี รโี รงเรียน สำรพิษใน ท ๑.๑ ป.๔/๑,4/5 ท ๒.๑ ป.๔/๔ ๗ - ชวี ิตประจำวัน ท ๓.๑ป.๔/๕ ท ๔.๑ ป.๔/๒ หอ้ งสมุดปำ่ ท ๑.๑ ป.4/๑,4/4,4/7 ท ๒.๑ ป.4/๓,4/6,4/8 ท ๑.๑ ป.4/๑-2 ท ๕.๑ ป.4/๑-3 ท ๑.๑ ป.๔/๑-4,4/8 ท ๒.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ป.๔/๑,4/7 ท ๒.๑ ป.๔/๔ ท ๓.๑ ป.๔/๓ ท ๑.๑ ป.4/๑-2 ท ๕.๑ ป.4/๑-2 ท ๑.๑ ป.4/๑-2,4/4,4/7 ท ๒.๑ ป.4/๑-2 ท ๔.๑ ป.4/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๑-2,4/7 ท ๕.๑ ป.๔/๕,4/8 ท ๑.๑ ป.๔/๑-2,4/4,4/7 ท ๒.๑ ป.๔/๒ ท ๓.๑ ป.๔/๓ ท ๑.๑ป.๔/๑-4 ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๕.๑ป.๔/๑-2 หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ด์ริ ำษฎร์บำรงุ ) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 42

ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ตัวช้ีวัด จานวน นา้ หนัก (ช่ัวโมง) คะแนน กระดำษน้ีมีท่ีมำ ท ๑.๑ ป.๔/๑-2,4/7 ท ๒.๑ ป.๔/๕ ,4/7 ๗ 10 อย่ำงนดี้ คี วรทำ ท ๓.๑ ป.๔/๕ เทีย่ วเมอื งพระร่วง ๗ - ท ๑.๑ ป.๔/๑-4 ท ๓.๑ ป.๔/๑-2 ๗ 10 รกั ทค่ี มุ้ ภัย ๗ - ท ๑.๑ ป.๔/๑,4/2,4/4,4/7 ท ๕.๑ ป.๔/๔ ธรรมชำตินีม้ คี ุณ ๗ 10 ท ๑.๑ ป.๔/๑,4/4 ท ๒.๑ ป.๔/๑,4/3 ท๓.๑ ป.๔/๑ ท๔.๑ ป.๔/๓,4/7 ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑-2,4/8 ท ๔.๑ ป.๔/๑-3 รวม ๓๓ ๑๖๐ ๑๐๐ หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพชื นิมติ (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขัน้ พื้นฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 43

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 หลกั สตู รโรงเรียนวัดพชื นมิ ติ (คำสวัสดิร์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำนพุทธศกั รำช ๒๕๕๑ หนำ้ 44

ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 การอา่ น มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนกำรอ่ำนสรำ้ งควำมรูแ้ ละควำมคิดเพอื่ นำไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หำในกำร ดำเนนิ ชวี ติ และมีนิสยั รกั กำรอำ่ น ชั้น ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๕ ๑. อ่ำนออกเสียงบทร้อยแก้วและ  กำรอ่ำนออกเสยี งและกำรบอกควำมหมำยของ บทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ ง บทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองทปี่ ระกอบดว้ ย ๒. อธิบำยควำมหมำยของคำ ประโยค - คำท่มี ีพยัญชนะควบกล้ำ และขอ้ ควำมที่เปน็ กำรบรรยำย - คำท่ีมีอักษรนำ และกำรพรรณนำ - คำทม่ี ีตวั กำรันต์ ๓. อธิบำยควำมหมำยโดยนยั จำกเรอื่ ง - อกั ษรยอ่ และเครือ่ งหมำยวรรคตอน ที่อ่ำนอยำ่ งหลำกหลำย - ขอ้ ควำมท่เี ป็นกำรบรรยำยและพรรณนำ - ข้อควำมทมี่ คี วำมหมำยโดยนยั ๔. แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคดิ เห็นจำก  กำรอ่ำนบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนำะ เรอื่ งที่อำ่ น  กำรอ่ำนจบั ใจควำมจำกสอื่ ตำ่ งๆ เชน่ ๕. วิเครำะห์และแสดงควำมคดิ เหน็ - วรรณคดใี นบทเรียน เกยี่ วกับเร่อื งท่อี ่ำนเพอ่ื นำไปใช้ - บทควำม ในกำรดำเนินชวี ิต - บทโฆษณำ - งำนเขียนประเภทโนม้ น้ำวใจ - ข่ำวและเหตกุ ำรณ์ประจำวนั ๖. อ่ำนงำนเขยี นเชงิ อธิบำย คำส่งั  กำรอ่ำนงำนเขียนเชงิ อธบิ ำย คำสั่ง ขอ้ แนะนำ ขอ้ แนะนำ และปฏบิ ัตติ ำม และปฏบิ ตั ติ ำม เช่น - กำรใชพ้ จนำนกุ รม ๗. อำ่ นหนังสือท่ีมีคณุ ค่ำตำมควำมสนใจ - กำรใชว้ ัสดุอุปกรณ์ อยำ่ งสมำ่ เสมอและแสดงควำมคิดเห็น - กำรอำ่ นฉลำกยำ เก่ียวกับเรือ่ งท่ีอ่ำน - คูม่ อื และเอกสำรของโรงเรยี นทเี่ ก่ยี วข้องกับ นักเรยี น - ข่ำวสำรทำงรำชกำร  กำรอ่ำนหนงั สอื ตำมควำมสนใจ เชน่ - หนังสือทน่ี กั เรยี นสนใจและเหมำะสมกบั วัย - หนังสอื ที่ครแู ละนักเรยี นกำหนดร่วมกัน ๘. มมี ำรยำทในกำรอ่ำน  มำรยำทในกำรอ่ำน หลกั สูตรโรงเรยี นวดั พชื นมิ ติ (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพนื้ ฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หน้ำ 45

สาระที่ 2 การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนกำรเขียนเขียนสื่อสำร เขียนเรยี งควำม ย่อควำม และเขยี นเรอ่ื งรำวในรปู แบบ ต่ำงๆ เขียนรำยงำนขอ้ มลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศึกษำค้นคว้ำอย่ำงมีประสิทธิภำพ ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป.๕ ๑. คดั ลำยมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด และ  กำรคัดลำยมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดและ คร่งึ บรรทัด ครง่ึ บรรทัดตำมรูปแบบกำรเขียนตวั อกั ษรไทย ๒. เขยี นสอ่ื สำรโดยใช้คำได้ถกู ตอ้ งชัดเจน  กำรเขยี นส่ือสำร เช่น และเหมำะสม - คำขวัญ - คำอวยพร - คำแนะนำและคำอธบิ ำยแสดงขัน้ ตอน ๓. เขียนแผนภำพโครงเรื่องและแผนภำพ  กำรนำแผนภำพโครงเรอ่ื งและแผนภำพควำมคิด ควำมคดิ เพือ่ ใช้พัฒนำงำนเขียน ไปพัฒนำงำนเขยี น ๔. เขยี นย่อควำมจำกเร่อื งที่อ่ำน  กำรเขยี นยอ่ ควำมจำกส่ือตำ่ งๆ เช่น นิทำน ควำมเรียงประเภทต่ำงๆ ประกำศ แจง้ ควำม แถลงกำรณ์ จดหมำย คำสอน โอวำท คำปรำศรัย ๕. เขียนจดหมำยถงึ ผปู้ กครองและญำติ  กำรเขยี นจดหมำยถงึ ผปู้ กครองและญำติ ๖. เขียนแสดงควำมรู้สึกและควำมคิดเห็น  กำรเขียนแสดงควำมรูส้ กึ และควำมคิดเห็น ไดต้ รงตำมเจตนำ ๗. กรอกแบบรำยกำรตำ่ งๆ  กำรกรอกแบบรำยกำร - ใบฝำกเงินและใบถอนเงนิ - ธนำณัติ - แบบฝำกสง่ พัสดไุ ปรษณียภณั ฑ์ ๘. เขยี นเรือ่ งตำมจินตนำกำร  กำรเขียนเรอ่ื งตำมจินตนำกำร ๙. มีมำรยำทในกำรเขยี น  มำรยำทในกำรเขียน สาระท่ี 3 การฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท 3.1 สำมำรถเลือกฟังและดอู ย่ำงมวี ิจำรณญำณ และพูดแสดงควำมรู้ ควำมคิด และควำมรู้สึกใน โอกำสต่ำงๆ อย่ำงมวี ิจำรณญำณและสรำ้ งสรรค์ ช้ัน ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๕ ๑. พดู แสดงควำมรู้ ควำมคิดเห็น และ  กำรจับใจควำม และกำรพดู แสดงควำมรู้ ควำมรสู้ ึกจำกเร่อื งท่ีฟงั และดู ควำมคดิ ในเรื่องทีฟ่ งั และดู จำกสื่อตำ่ งๆ เชน่ ๒. ต้ังคำถำมและตอบคำถำมเชงิ เหตุผล - เร่ืองเลำ่ จำกเรือ่ งทฟ่ี งั และดู - บทควำม ๓. วิเครำะหค์ วำมน่ำเชื่อถอื จำกเรือ่ ง - ขำ่ วและเหตกุ ำรณ์ประจำวนั ทฟ่ี ังและดูอยำ่ งมเี หตผุ ล - โฆษณำ หลกั สูตรโรงเรยี นวดั พชื นิมติ (คำสวสั ดิ์รำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พ้นื ฐำนพทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 46

ชัน้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง - ส่ือสอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์  กำรวิเครำะหค์ วำมน่ำเช่อื ถือจำกเรื่องทีฟ่ งั และดู ๔. พูดรำยงำนเร่อื งหรอื ประเด็นที่ศกึ ษำ ในชวี ิตประจำวนั คน้ ควำ้ จำกกำรฟัง กำรดู และกำร สนทนำ  กำรรำยงำน เชน่ - กำรพูดลำดบั ขัน้ ตอนกำรปฏิบตั งิ ำน ๕. มมี ำรยำทในกำรฟัง กำรดู และกำรพูด - กำรพดู ลำดบั เหตุกำรณ์  มำรยำทในกำรฟงั กำรดู และกำรพดู สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้ำใจธรรมชำติของภำษำและหลักภำษำไทย กำรเปล่ียนแปลงของภำษำและพลังของภำษำ ภมู ปิ ญั ญำทำงภำษำ และรกั ษำภำษำไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชำติ ช้นั ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๕ ๑. ระบชุ นิดและหนำ้ ทขี่ องคำในประโยค  ชนดิ ของคำ ได้แก่ - คำบุพบท - คำสนั ธำน - คำอทุ ำน ๒. จำแนกสว่ นประกอบของประโยค  ประโยคและส่วนประกอบของประโยค ๓. เปรยี บเทยี บภำษำไทยมำตรฐำนกับ  ภำษำไทยมำตรฐำน ภำษำถ่นิ  ภำษำถนิ่ ๔. ใชค้ ำรำชำศัพท์  คำรำชำศัพท์ ๕. บอกคำภำษำตำ่ งประเทศในภำษำไทย  คำท่มี ำจำกภำษำตำ่ งประเทศ ๖. แต่งบทร้อยกรอง  กำพยย์ ำนี ๑๑ ๗. ใช้สำนวนได้ถูกต้อง  สำนวนทเ่ี ปน็ คำพงั เพยและสภุ ำษิต สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท 5.1 เขำ้ ใจและแสดงควำมคดิ เห็น วิจำรณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่ำงเหน็ คุณคำ่ และ นำมำประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ ชน้ั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๕ ๑. สรปุ เรื่องจำกวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่  วรรณคดีและวรรณกรรม เช่น อ่ำน - นิทำนพ้ืนบ้ำน ๒. ระบุควำมรูแ้ ละข้อคดิ จำกกำรอำ่ น - นิทำนคติธรรม วรรณคดแี ละวรรณกรรมทส่ี ำมำรถ - เพลงพนื้ บำ้ น นำไปใชใ้ นชีวิตจริง หลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชื นิมติ (คำสวสั ด์ิรำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พื้นฐำนพทุ ธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 47

ช้นั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ๓. อธบิ ำยคณุ ค่ำของวรรณคดีและ - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียนและตำม วรรณกรรม ควำมสนใจ ๔. ทอ่ งจำบทอำขยำนตำมทก่ี ำหนดและ  บทอำขยำนและบทรอ้ ยกรองท่ีมีคุณค่ำ บทรอ้ ยกรองท่ีมีคุณค่ำตำมควำมสนใจ - บทอำขยำนตำมทีก่ ำหนด - บทร้อยกรองตำมควำมสนใจ หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดิร์ ำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขนั้ พื้นฐำนพุทธศักรำช ๒๕๕๑ หนำ้ 48

คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง ศึกษำ ฝึกทักษะกำรอ่ำน กำรเขียน กำรฟัง กำรดูและกำรพูด หลักกำรใช้ภำษำไทย และ วรรณคดี และวรรณกรรมในสำระตอ่ ไปนี้ กำรอ่ำนออกเสียงและกำรบอกควำมหมำยของบทร้อยแก้วและ บทร้อยกรอง กำรอ่ำนบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนำะ กำรอ่ำนจับใจควำมจำกส่ือต่ำง ๆ กำรอ่ำนงำน เขียนเชิงอธิบำย คำส่ัง ข้อแนะนำและปฏิบัติตำม กำรอ่ำนหนังสือตำมควำมสนใจ มำรยำทในกำรอ่ำน กำรเขียน กำรคัดลำยมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัดตำมรูปแบบกำรเขียนตัวอกั ษรไทย กำรเขียน สื่อสำร กำรนำแผนภำพโครงเร่ืองและแผนภำพควำมคิดไปพัฒนำงำนเขียน กำรเขียนย่อควำม จำกส่ือ ต่ำง ๆ กำรเขียนจดหมำยถึงผู้ปกครองและญำติ กำรเขียนแสดงควำมรู้สึกและควำมคิดเห็น กำรกรอก แบบรำยกำร กำรเขียนเรื่องตำมจินตนำกำร มำรยำทในกำรเขียน กำรฟัง กำรดูและกำรพูด กำรจับ ใจควำมและกำรพูดแสดงควำมรู้ ควำมคิดในเร่ืองท่ีฟังและดูกำรพูดแสดงควำมรู้ ควำมคิดเห็นและ ควำมรู้สึกจำกเรื่องท่ีฟังและดูจำกส่ือต่ำงๆ กำรวิเครำะห์ควำมน่ำเช่ือถือ จำกเร่ืองท่ีฟังและดูใน ชีวิตประจำวัน กำรพูดรำยงำน มำรยำทในกำรฟัง กำรดูและกำรพูด หลักกำรใช้ภำษำไทย ชนิดและ หน้ำท่ีของคำในประโยค ประโยคและส่วนประกอบของประโยค กำรเปรียบเทยี บภำษำไทย กำรใช้คำรำชำ ศัพท์ คำที่มำจำกภำษำต่ำงประเทศ กำรแต่งกำพย์ยำนี ๑๑ กำรใช้สำนวนท่ีเป็นคำพังเพยและสุภำษิต วรรณคดีและวรรณกรรม กำรสรปุ เร่ืองจำกวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอ่ำน กำรนำควำมรู้ และข้อคิดท่ีได้ จำกกำรอ่ำนไปใช้ในชวี ิตจริง กำรแสดงควำมคดิ เห็นเกี่ยวกบั คุณค่ำของวรรณคดีและวรรณกรรม กำรทอ่ งจำ บทอำขยำนและบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคุณค่ำตำมท่ีกำหนดและควำมสนใจ โดยใช้กระบวนกำรอำ่ น กำรเขียน กำรฟัง กำรดู กำรพูด และกำรวเิ ครำะห์ เพ่อื ให้เกิดควำมรู้ ควำมคดิ ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถสอื่ สำรสิง่ ทีเ่ รยี นรู้ มีควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร คดิ วิเครำะห์ และ วจิ ำรณ์ อยำ่ งสร้ำงสรรค์ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน มเี จตคติทด่ี ีต่อภำษำไทย มมี ำรยำท ในกำรอ่ำน กำรเขยี น กำรฟัง กำรดูและกำรพูด มีควำมซำบซ้ึง ภำคภูมใิ จในภำษำไทย รกั ควำมเปน็ ไทย ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมคี ำ่ นยิ มที่เหมำะสม รหัสตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖,ป.๕/๗,ป.๕/๘ ท ๒.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖,ป.๕/๗,ป.๕/๘,ป.๕/๙ ท ๓.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕ ท ๔.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕,ป.๕/๖,ป.๕/๗ ท ๕.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔ รวมทั้งหมด ๓๓ ตัวช้ีวดั หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นิมติ (คำสวัสดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำนพทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 49

กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า ภาษาไทย ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ รหสั วชิ า ท๑๕๑๐๑ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ตัวชวี้ ัด จานวน นา้ หนัก (ชว่ั โมง) คะแนน สำยน้ำสำยชีวิต ท ๑.๑ ป.๕/๑-2/5/8 ท 2.1 ป.5/1/8 ๑0 - ท 3.1 ป.5/2/5 ท 4.1 ป.5/7 ท 5.1 ป.5/2 ครอบครัวพอเพยี ง ท 1.1 ป.5/1/8 ท 2.1ป.5/1/3/6/9 10 10 ท 3.1 ป.5/1,5/5 ท 5.1 ป.5/1-2 คนละไม้ คนละมือ ท 1.1 ป.5/2/5/8 ท 2.1ป.5/1/3/8 10 10 ท 3.1ป.5/4 ท 4.1 ป.5/1 ท 5.1ป.5/2 ภยั เงียบ ท 1.1 ป.5/1/5/8 ท 2.1 ป.5/1/9 10 10 ท 3.1 ป.5/3 ท 4.1ป.5/3/5 ท 5.1 ป.5/2 ประชำธิปไตยใบ ท 1.1ป.5/1-2/4/8 ท 2.1ป.5/4/9 10 - กลำง ท 3.1ป.5/3/5 ท 4.1ป.5/1/6 ท 5.1ป.5/1-2 รว่ มแรงรว่ มใจ ท ๑.๑ป ๕/๑/4-5/7-8 ท ๒.๑ป.๕/๒-3/9 10 10 ท ๓.๑ ป.๕/๑/5 ท ๔.๑ป.๕/๑-6 ท ๕.๑ ป.๕/๒ จำกคลองส่หู อ้ งแอร์ ท ๑.๑ป ๕/๑/3/8 ท ๒.๑ ป.๕/๑/3/6/9 10 - ท๓.๑ป.๕/๑/5 ท ๔.๑ป.๕/๑-4/7 ท ๕.๑ป.๕/๑/๒ ดั่งหยำดทพิ ย์ชโลมใจ ท ๑.๑ ป ๕/๑/4/8 ท ๒.๑ ป.๕/๑/3-4 10 10 ท ๓.๑ ป.๕/๑/3/4 ท ๔.๑ ป.๕/๒/7 ท ๕.๑ ป.๕/๒/4 กำ้ วใหไ้ กล ไปใหถ้ งึ ท ๑.๑ ป ๕/๑/4/8 ท ๒.๑ ป.๕/๑/4 10 - ท ๓.๑ ป.๕/๓-4 ท ๔.๑ ป.๕/๑/7 ท ๕.๑ป.๕/๒/4 ชวี ิตมคี ำ่ ท ๑.๑ป ๕/๑/3 ท ๒.๑ ป.๕/๑/3/9 10 10 ท ๓.๑ ป.๕/๑ ท ๔.๑ ป.๕/๑/3/4/6/7 ปลอดภยั ไวก้ ่อน ท 1.1 ป.5/1/5/8 ท 2.1 ป.5/1/9 10 - ท 3.1 ป.5/3 ท4.1ป.5/3/5 ท 5.1 ป.5/2 หน้ำต่ำงท่ีเปิดกวำ้ ง ท ๑.๑ ป ๕/๑/8 ท ๒.๑ ป.๕/๑/3 10 10 ท ๓.๑ ป.๕/๑/3/4 ท๔.๑ป.๕/๒ ท๕.๑ป.๕/๒/4 ภำษำจรรโลงใจ ท ๑.๑ ป. ๕/๑/8 ท ๒.๑ ป.๕/๑/4 10 - ท ๓.๑ ป.๕/๑/4 ท ๔.๑ ป.๕/๑/2/7 ท ๕.๑ ป.๕/๒ หลกั สูตรโรงเรียนวดั พชื นมิ ติ (คำสวัสดร์ิ ำษฎร์บำรุง) ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำนพทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑ หน้ำ 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook