ทักษะวิชาการ กลุ่ม 9 ปี 62

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์ เร่ือง อุปกรณ์ไลน่ กในลานตากขา้ วดว้ ยน้าตกไมไ้ ผ่ (นกจ๋าพ่ีมาแลว้ ) ผจู้ ดั ทาโครงงาน สามเณรโยธิน ธรรมจิตร ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ สามเณรปกาศิต บุญบุง้ ทอง ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔ สามเณรอิทธิพล วงั ทอง ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔ โรงเรียนทรายมูลปริยตั ิวทิ ยา วดั บูรพารามใต้ อาเภอทรายมูล จงั หวดั ยโสธร สานกั งานกล่มุ โรงเรียนพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา กลุ่มท่ี ๙ รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนประกอบของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ประเภทสิ่งประดิษฐ์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เน่ืองในงานแขง่ ขนั ทกั ษะทางวิชาการระดบั กลุ่ม คร้ังที่ ๑๕ ปี การศึกษา ๒๕๖๒ วนั ท่ี ๑๙-๒๐ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๒

เร่ือง อุปกรณ์ไลน่ กในลานตากขา้ วดว้ ยน้าตกไมไ้ ผ่ (นกจ๋าพี่มาแลว้ ) ผจู้ ดั ทาโครงงาน สามเณรโยธิน ธรรมจิตร ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ สามเณรปกาศิต บุญบุง้ ทอง ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔ สามเณรอิทธิพล วงั ทอง ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔ ครูที่ปรึกษา นางสาวกฤษณา รัตนะพมิ พ์ นางสาวมณีรัตน์ แสงโชติ

บทคัดย่อ ไดป้ ระดิษฐ์อุปกรณ์ไล่นกในลานตากขา้ วด้วยน้าตกไมไ้ ผ่ เพ่ือให้เป็ นเป็ นวตั กรรมที่ช่วยให้ เกษตรกรนาไปประยุกต์ใช้ในการจดั การกบั ปัญหานกที่เป็ นศตั รูรบกวนพืชผลชองเกษตรกร ซ่ึงสามารถ นาไปใช้งานไดจ้ ริง ช่วยประหยดั เวลา คาใช้จ่ายและแรงงาน ช่วยเพิ่มรายได้ และจากการทดลองการ ทางานของอุปกรณ์ไล่นกในลานตากขา้ วดว้ ยน้าตกไมไ้ ผ่ โดยระดบั ความดงั ของเสียงที่เกิดข้ึน ประมาณ ๘๐ เดซิเบล ซ่ึงเป็ นระดบั เสียงที่ค่อนขา้ งเป็ นอนั ตรายตอ่ การไดย้ นิ และเป็นเสียงดงั ท่ีเกิดข้ึนอยา่ งฉบั พลนั และรุนแรงสามารถทาให้เกิดการต่ืนตระหนก ตกใจ ต่อท้งั ผูค้ นและสัตวช์ นิดอื่นท่ีใชโ้ สตประสาทในการ รับรู้ อุปกรณ์ไล่นกในลานตากขา้ วดว้ ยน้าตกไมไ้ ผ่ น้ีเป็ นเครื่องท่ีถูกออกแบบโดยมีวสั ดุส่วนใหญ่ เป็ นโลหะร่วมกบั ไมไ้ ผ่ และพลาสติก ประกอบกนั ผูป้ ระดิษฐต์ อ้ งการให้เกิดความปลอดภยั ในการใชง้ าน และในขณะเดียวกนั โดยคานึงถึงความสวยงามดว้ ยจึงใชว้ สั ดุที่ป้องกนั อนั ตราย

กติ ตกิ รรมประกาศ การทาโครงงานมีเป้าหมายท่ีนอกจากเพื่อการเรียนการสอน วชิ าโครงงานวิทยาศาสตร์แลว้ ยงั เพื่อจุด ประกายความคิดสร้างสรรค์นาส่ิงใกล้ตวั มาใช้ดดั แปลงทาประโยชน์ใช้พลงั งานทดแทนลดการทาลาย สิ่งแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ ซ่ึงในการทาโครงงานน้ีประสบผลสาเร็จไดก้ ็ดว้ ยหลายๆ ฝ่ ายให้ความ ร่วมมือ ท้งั ครูท่ีปรึกษา คุณครูกฤษณา รัตนะพิมพ์ และ คุณครูมณีรัตน์ แสงโชติ การศึกษาคน้ ควา้ ละการ วางแผนทางาน ตลอดจนแนวคิดการออกแบบ จุดเด่นจุดดอ้ ยขอ้ จากดั และเง่ือนไขตา่ งๆ ขอขอบคุณโรงเรียน ทรายมูลปริยตั ิวทิ ยาท่ีสนบั สนุนและใหโ้ อกาสในการทาโครงงานชิ้นน้ีข้ึนมา ผจู้ ดั ทาโครงงาน ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๒

สารบัญ หนา้ บทท่ี ๑ บทนา ๑ บทท่ี ๒ ทฤษฎีที่เกี่ยวขอ้ ง ๓ บทที่ ๓ ข้นั ตอนการดาเนินงาน ๗ บทท่ี ๔ ผลการทดลอง ๑๑ บทท่ี ๑ สรุป วเิ คราะห์ผล และอภิปรายผลการทดลอง ๑๒

บรรณานุกรม นรินทร์ เนาวประทีป (๒๕๓๙) . รวมหลกั ฟิ สิกส์ ม.๔-๕-๖. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พฟ์ ิ สิกส์เซ็นเตอร์. สมพงษ์ จนั ทร์โพธ์ิ (๒๕๓๗) . โครงงานวทิ ยาศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษา. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ บริษทั เจา้ พระยาระบบการพิมพ์ ธีระศกั ด์ิ วรี ะภาสพงษ์ ( ๒๕๓๗). PHYSICS FOR ENTRANCE. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พบ์ ริษทั จูนพบั ลิชซ่ิงกรุ๊ป

๑ บทท่ี ๑ บทนำ ๑.๑ ทม่ี ำและควำมสำคญั ปัญหานกในลานตากขา้ ว ถือเป็นปัญหาสาคญั ที่เกษตรกรหลายคนพบเจอ นอกจากจะสร้างความราคาญใจ แลว้ ยงั สร้างความเสียหายใหก้ บั ลานตากขา้ วของเกษตรกรส่งผลใหป้ ริมาณผลผลิตของเกษตรกรลดลง เกษตรกร ไดเ้ จอปัญหาเรื่องนกสร้างความเสียหายดงั กล่าวน้ี พยายามหาวธิ ีการท่ีจะป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา ซ่ึงกม็ ี หลากหลายวธิ ีเช่น การใชห้ ุ่นไล่กา การจุดประทดั การใชต้ าข่าย หรือแมแ้ ต่ใชค้ นนงั่ เฝ้าคอยไล่นกอยทู่ ้งั วนั เหล่าน้ีเป็นตน้ ผจู้ ดั ทาโครงงานซ่ึงส่วนใหญ่มาจากครอบครัวเกษตรกร ไดพ้ บปัญหาน้ีโดยตรงและพยายามหา วธิ ีการแกป้ ัญหาน้ี จึงไดป้ ระดิษฐอ์ ุปกรณ์ไล่นกในลานตากขา้ วโดยใชห้ ลกั การทาใหเ้ กิดเสียงดงั ใหน้ กตกใจแลว้ หนีไป ๑.๒ จุดมุ่งหมำยของโครงงำน ๑.เกษตรกรท่ีเป็นชาวนามีเคร่ืองมือท่ีช่วยอานวยความสะดวกในการควบคุมและไล่นกซ่ึงเป็นศตั รู ในลานตากขา้ วได้ ๒.ไดแ้ บบของเครื่องจกั รสาหรับการนาไปพฒั นาเพื่อจาหน่ายในเชิงพาณิชย์ ๓. ผสู้ นใจสามารถนาอุปกรณ์ไล่นกในลานตากขา้ วดว้ ยน้าตกไมไ้ ผไ่ ปเป็ นตน้ แบบเพือ่ ศึกษาพฒั นา ต่อไป ๔ ฝึกทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์การวางแผนการแกป้ ัญหา ๕.เสริมสร้างทกั ษะการทางานเป็นกลุ่มการร่วมกนั วางแผนการทางานการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ ๑.๓ ขอบเขตของงำน ๑.ศึกษาหลกั การทางานของอุปกรณ์ไล่นกในลานตากขา้ วโดยใชน้ ้าตกไมไ้ ผ่ ๒.ศึกษาตวั แปรต่างๆที่มีผลต่อประสิทธิภาพเพื่อออกแบบพฒั นาและสร้างอุปกรณ์ไล่นกในลานตาก ขา้ วโดยใชน้ ้าตกไมไ้ ผใ่ หม้ ีประสิทธิภาพมากที่สุด ๑.๔ สมมตฐิ ำน “เครื่องไล่นกในลานตากขา้ วโดยใชน้ ้าตกไมไ้ ผ”่ เป็นการนาหลกั การทาให้เกิดเสียงดงั โดยใชก้ ารกระดกไม้ ไผต่ ี ใหเ้ กิดเสียงดงั เพ่อื ใหน้ กเกิดการตกใจและหนีไปจากพ้นื ที่ตากขา้ ว ๑.๕ ตัวแปรทเี่ ก่ียวข้อง ตวั แปรตน้ ความสูงระหวา่ งแหล่งน้ากบั ตวั เครื่อง ความชนั ของกระบอกน้าทางน้าเขา้ ขนาดของกระบอกน้าทางน้าเขา้ -ออก ตวั แปรตาม อตั ราการไหลของน้า

๒ ตวั แปรควบคุม ปริมาณน้าท่ีไหลลงสู่กระบอกน้า ๑.๖ คุณลกั ษณะและประโยชน์ทค่ี ำดว่ำจะได้รับ คุณลกั ษณะ อุปกรณ์ไล่นกในลานตากขา้ วดว้ ยน้าตกไมไ้ ผ่ เป็ นอุปกรณ์ที่สามารถทาใหไ้ มก้ ระดกตีปี๊ บใหเ้ กิดเสียงดงั รุนแรงเพื่อใหเ้ กิดความต่ืนตระหนกและก่อใหเ้ กิดการตกใจของสิ่งมีชีวติ ที่สามารถรับฟังเสียงดว้ ยโสตประสาท ทุกชนิด ประโยชน์ ๑. เกษตรกรที่ท่ีเป็นชาวนามีเคร่ืองมือที่ช่วยอานวยความสะดวกในการควบคุมและไล่นกในลานตากขา้ วได้ ๒. ผสู้ นใจสามารถนาอุปกรณ์ไล่นกในลานตากขา้ วดว้ ยน้าตกไมไ้ ผไ่ ปเป็นตน้ แบบเพ่ือศึกษาพฒั นาต่อไป ๓. เป็นทางเลือกในการลดตน้ ทุนการผลิตในอาชีพทางการเกษตร ๑.๗ ระยะเวลำในกำรทดลอง ผจู้ ดั ทาโครงงานใชเ้ วลาในการศึกษาคน้ ควา้ ประดิษฐ์ ทาการทดลองและแกไ้ ขปัญหาต่างๆ ที่เกิดข้ึน ต้งั แตว่ นั ท่ี ๕ พฤศจิกายน – ๑๓ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ณ โรงเรียนทรายมูลปริยตั ิวทิ ยา ข้นั ตอนการดาเนินการ วนั เดือน ปี การปฏิบตั ิงาน เตรียมงาน ๕-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ศึกษาขอ้ มูล และรายละเอียด เกี่ยวกบั อุปกรณ์ไล่นกชนิดต่างๆท้งั ดาเนินการ ๒๐ – ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ที่ใชพ้ ลงั งานเช้ือเพลิงหรือไฟฟ้า หุ่นไล่กา การจุดประทดั รวบรวมขอ้ มูลและวเิ คราะห์ ๑-๖ ธนั วาคม ๒๕๖๒ รวบรวมวสั ดุ อุปกรณ์และ สรุป ผลการทดลอง ๙-๑๑ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ดาเนินการประดิษฐ์ ทาการประดิษฐ์และทดลองใชง้ าน เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลผลการทดลอง วเิ คราะห์ผล จดั ทารูปเล่มรายงาน การนาเสนอผลงาน ๑๒-๑๓ ธนั วาคม ๒๕๖๒ นาเสนอผลงานใหค้ รู นกั เรียนได้ ชมและวจิ ารณ์ผลงาน

๓ บทท่ี ๒ ทฤษฏีทเ่ี กย่ี วข้อง ๒.๑ นกศตั รูขา้ วไร่และการป้องกนั กาจดั นกศตั รูขา้ วไร่ท่ีพบมีอยู่ 5 ชนิดคือ นกกะติ๊ดข้ีหมู นกกะติ๊ดตะโพกขาว นกกระจาบธรรมดา นกกระจอก ตาล และนกจาบปี กอ่อนอกเหลือง โดยจะทาลายขา้ วไร่ต้งั แตร่ ะยะขา้ วเป็ นน้านมไปจนถึงเกบ็ เกี่ยว ท้งั ในนาและ ท่ีเกบ็ ไวใ้ นยงุ้ ฉาง ในระยะขา้ วใกลส้ ุกการเกาะคอรวงขา้ วกินเป็นฝงู ๆ ของนกเหล่าน้ี อาจจะทาใหค้ อรวงขา้ วหกั ซ่ึงจะทาความเสียหายทางออ้ มแก่ขา้ วไร่ กำรป้องกนั กำจัด ๑.การป้องกนั กาจดั โดยวธิ ีกล(mechanical control ) ๑.๑ การใชต้ าข่ายคลุมแปลงหรือตาขา่ ยดกั นกหรือกรงดกั นก จะตอ้ งเลือกใชข้ นาดของรูตาข่ายที่มีตาถ่ี พอท่ีจะไม่ใหน้ กบินลอดเขา้ ได้ อยา่ งไรก็ตามวธิ ีน้ีจะเสียค่าใชจ้ ่ายสูง แต่ถา้ เก็บรักษาตาขา่ ยดีๆ แลว้ สามารถ นามาใชเ้ ป็นเวลาหลายๆปี เช่นตาขา่ ยท่ีทาดว้ ยเชือกพลาสติก เป็นตน้ สาหรับโกดงั ยงุ้ ฉางที่มีช่องหรือรูท่ีนก สามารถเขา้ ไปทาลายผลิตผลทางเกษตรหรือเขา้ ไปทารังได้ ก็ควรใชต้ าข่ายชนิดตาถี่ปิ ดก้นั ช่องน้นั ๆ เสีย อีก ประการหน่ึงการก่อสร้างโกดงั หรือยงุ้ ฉาง ส่วนท่ีเป็นกนั สาดหรือขอบคิว้ ตา่ ง ๆ ควรจะใชว้ สั ดุที่มีผวิ เรียบมนั และควรมีความลาดเอียงประมาณ 45 องศา และไมค่ วรจะมีส่วนท่ียนื่ ออกไปใหน้ กเกาะอาศยั ได้ การไล่โดยใช้ หุ่นไล่กาถา้ เป็นหุ่นไล่กาชนิดท่ีเคล่ือนไหวไดจ้ ะไดผ้ ลดีกวา่ หุ่นน่ิง ๑.๒ การไล่โดยคน ในกรณีท่ีแรงงานมากพอ การใชค้ นไล่นกก็จะไดผ้ ลดี ๑.๓ การใชเ้ ครื่องมือทาใหเ้ กิดเสียงดงั เพือ่ ใหน้ กตกใจบินหนี เช่น การจุดประทดั เป็นระยะๆ การใช้ ปื นยงิ การใชเ้ คร่ืองระเบิดโดยใชแ้ กส๊ (gas exploder) การใชป้ ๊ี บน้ามนั คว่าแลว้ ผกู เชือกหอ้ ยของหนกั ไวภ้ ายใน เหมือนกระด่ิง แลว้ คอยกระตุกไล่นก เป็นตน้ ๑.๔ การใชว้ สั ดุที่ทาใหแ้ สงสะทอ้ นวบู วาบ เช่น ใชก้ ระจกเงาหรือแผน่ อลูมิเนียมเงา หรือสายเทปคาส เซทท่ีไม่ใชห้ รือยดื แลว้ แขวนใหท้ ว่ั บริเวณที่ตอ้ งการไล่ อาศยั ลมพดั ตามธรรมชาติทาใหว้ สั ดุน้นั ๆ หมุนและ เกิดสะทอ้ นแสง ทาใหน้ กตกใจหนีได้ ๑.๕ การใชเ้ ครื่องขยายเสียงหรือเทปบนั ทึกเสียง โดยอดั เสียงตอนท่ีนกตกใจกลวั หรืออดั เสียงนก เหยย่ี วหรือนกล่าเหยอื่ ต่าง ๆ แลว้ เปิ ดเพื่อใหน้ กตกใจกลวั ๒. การป้องกนั กาจดั โดยวธิ ีเขตกรรม ( cultural practice ) การจากดั วชั พืชตา่ ง ๆ จะช่วยป้องกนั ไม่ใหน้ ก

๔ มีแหล่งอาหารจากเมล็ดหญา้ เพม่ิ ข้ึนก่อนท่ีจะลงทาลายขา้ วในนา เศษหญา้ ฟางขา้ ว หรือขยะอื่น ๆ ควรจะเก็บให้ มิดชิดหรือทาลายเสียเพอื่ ไม่ใหน้ กนามาใชเ้ ป็นวสั ดุทารังพุ่มไมท้ ี่ไมจ่ าเป็นรอบๆ แปลงนากค็ วรทาลายเสียจะ ช่วยกาจดั แหล่งที่อยอู่ าศยั ของนก ตลอดจนการปลูกขา้ วไร่ควรจะปลูกเพ่ือใหข้ า้ วสุกพร้อมๆ กนั เพราะตามปกติ แลว้ แปลงขา้ วใดท่ีออกรวงก่อนมกั จะถูกนกทาลายเสียหายมากกวา่ ๓. การป้องกนั กาจดั โดยชีววธิ ี (biological control) เช่นการฝึกหดั สตั วศ์ ตั รูธรรมชาติ เช่น แมวหรือนกล่าเหยอ่ื ตา่ งๆ เช่น เหยย่ี ว คอย ขบั ไล่นกศตั รูขา้ วไร่ การ ทาลายรังนก ไข่ หรือตวั ออ่ น ๔. การป้องกนั กาจดั โดยใชส้ ารเคมี (chemical control)สารเคมีที่ทดสอบแลว้ วา่ ใชไ้ ดผ้ ลดี เป็นพวกสารไล่ นก (bird repellent) ใชพ้ น่ ใหท้ ว่ั รวงขา้ ว เม่ือนกลงมากินจะเกิดอาการเขด็ และหนีไฟ สารเคมีดงั กล่าวไดแ้ ก่ เมซู รอล (methiocarb 50% WP) ใชใ้ นอตั รา ๑๒๐ กรัมตอ่ ไร่ของสารออกฤทธ์ิ หรือประมาณ ๑๒ ชอ้ นแกงต่อไร่โดย ผสมน้า ๒๐ ลิตรหรือ ๑ ปี๊ บ ฉีดพน่ คร้ังแรกในระยะขา้ วเป็นน้านม และหลงั จากน้นั ประมาณ ๑๒ วนั จึงฉีดพ่น อีกคร้ังหน่ึงจะไดผ้ ลดีท่ีสุด ๕. การป้องกนั กาจดั โดยวธิ ีผสมผสาน (integrated control) เนื่องจากนกศตั รูขา้ วเป็นสัตวท์ ่ีมีการหาอาหาร และครอบครองท่ีอยไู่ ดม้ าก ดงั น้นั การป้องกนั และกาจดั นก อาจจะตอ้ งใชห้ ลายๆ วธิ ีดงั กล่าวมาแลว้ ผสมผสาน กนั ตามความเหมาะสมของแตล่ ะพ้นื ที่และตามดุลยพินิจของผทู้ ี่จะทาการป้องกนั และกาจดั แตล่ ะพ้ืนท่ีและตาม ดุลยพินิจของผทู้ ี่จะทาการป้องกนั และกาจดั ๒.๒ โมเมนต์ โมเมนต์ (moment) หมายถึง ผลของแรงที่กระทาต่อวตั ถุเพอ่ื ใหว้ ตั ถุหมุนไปรอบจุดหมุน ดงั น้นั โมเมนต์ ของแรงกค็ ือ ผลคูณของแรงกบั ระยะต้งั ฉากจากแนวแรงถึงจุดหมุน ดงั สูตร ทิศทางของโมเมนต์ มี ๒ ทิศทาง คือ ๑ . โมเมนตต์ ามเขม็ นาฬิกา ๒. โมเมนตท์ วนเขม็ นาฬิกา

๕ รูปแสดงทศิ ทำงของโมเมนต์ จากรูป โมเมนตต์ ามเขม็ นาฬิกา = WxL2 (นิวตนั -เมตร) โมเมนตท์ วนเขม็ นาฬิกา = ExL1 (นิวตนั -เมตร) ถา้ มีแรงหลายแรงกระทาตอ่ วตั ถุชิ้นหน่ึง แลว้ ทาใหว้ ตั ถุน้นั อยใู่ นสภาวะสมดุลจะไดว้ า่ ผลรวมของโมเมนต์ทวนเขม็ นำฬิกำ = ผลรวมของโมเมนต์ตำมเข็มนำฬิกำ คำน หลกั การของโมเมนต์ เรานามาใชก้ บั อุปกรณ์ที่เรียกวา่ คาน (lever) หรือคานดีดคานงดั คานเป็นเครื่องกล ชนิดหน่ึงท่ีใชด้ ีดงดั วตั ถุใหเ้ คล่ือนที่รอบจุดหมด (fulcrum) มีลกั ษณะเป็นแท่งยาว หลกั การทางานของคานใช้ หลกั ของโมเมนต์ รูปแสดงลกั ษณะของคำน ส่วนประกอบของคาน ส่วนประกอบท่ีสาคญั ในการทางานของคานมี 3 ส่วน คือ ๑. จุดหมุนหรือจุดฟัลกรัม (Fulcrum) F ๒. แรงความตา้ นทาน (W) หรือน้าหนกั ของวตั ถุ ๓. แรงความพยายาม (E) หรือแรงท่ีกระทาต่อคาน

๖ การจาแนกคาน คานจาแนกได้ ๓ ประเภทหรือ ๓ อนั ดบั ดงั น้ี ๑. คำนอนั ดบั ที่ ๑ เป็นคานท่ีมีจุด (F) อยรู่ ะหวา่ งแรงความพยายาม (E) และแรงความตา้ นทาน (W) เช่น กรรไกร ตดั ผา้ กรรไกรตดั เลบ็ คีมตดั ลวด เรือแจว ไมก้ ระดก เป็นตน้ รูปแสดงคำนอันดับ ๑ ๒. คำนอนั ดบั ๒ เป็นคานท่ีมีแรงความตา้ นทาน (W) อยรู่ ะหวา่ งแรงความพยายาม (E) และจุดหมุน (F) เช่น ที่ เปิ ดขวดน้าอดั ลม รถเขน็ ทราย ที่ตดั กระดาษ เป็ นตน้ รูปแสดงคำนอันดับ ๒

๗ บทที่ ๓ ข้นั ตอนกำรดำเนิน ๑.ตดั ไม้ไผ่สำหรับทำหลกั ไว้ยดึ ไม้กระดก 2 ท่อนยำว 1.5 เมตร ๒. ตัดท่อ พวี ชี ี ไว้สำหรับสวมหลกั ไม้กระดกท้งั ๒ ข้ำง

๘ ๓.ผสมปูนในกระบะปนู

๙ เทปูนลงปี๊ บ รอให้ปูนแห้ง แล้วนำหลกั ท้งั ๒ ข้ำงและไม้กระดก มำสวมลงบนฐำน

๑๐ เคร่ืองเสร็จ พร้อมใช้งำน

๑๑ บทท่ี ๔ ผลกำรทดลอง กำรวดั ระดับควำมดงั ของเสียง เนื่องจากโรงเรียนไม่มีอุปกรณ์ในการวดั ระดบั ความดงั ของเสียงจึงไม่มีการวดั ความดงั ของเสียงท่ีใหค้ า่ เป็นตวั เลขออกมาได้ แต่จากการศึกษาขอ้ มูลจากหลายแหล่ง รวมท้งั สอบถามผทู้ ่ีมีความรู้และประสบการณ์ดา้ น เสียง ซ่ึงใหค้ าตอบวา่ ณ จุดทดสอบเสียงท่ีเกิดจากการตีป๊ี บ มีระดบั ความดงั อยปู่ ระมาณ ๘๐-๘๕ เดซิเบล และ ตาแหน่งที่ห่างจากจุดทดสอบออกไประดบั ความดงั จะลดลงเรื่อยๆ กำรทดลองโดยใช้งำนในสถำนทจ่ี ริง การใชง้ านอุปกรณ์ไล่นกโดยใชก้ ระดกตีปี๊ บน้าตกไมไ้ ผ่ ๑. ต้งั เคร่ืองวางไมก้ ระดกตีปี๊ บน้าตกไมไ้ ผ่ ๒. ติดต้งั เคร่ืองป้ัมน้าในอ่างเก็บน้าทาเป็นระบบน้าวนไหลไปยงั รางน้าตกไมไ้ ผโ่ ดยใชส้ ายยางมาตอ่ กบั เคร่ือง ป้ัมน้า ๓. เปิ ดสวชิ ตเ์ ครื่องป้ัมน้าเพื่อใหร้ ะบบน้าวนไหลเขา้ ในรางไมไ้ ผเ่ พอ่ื จะใหน้ ้าไหลลงไปที่กระบอกน้าเม่ือน้า ไหลลงกระบอกน้าจนเตม็ กจ็ ะทาใหค้ านฝั่งตรงขา้ มยกตวั ไมส้ าหรับตีป๊ี บข้ึนสูงกระทง่ั ดา้ นขวดพลาสติกท่ีรับน้า โนม้ ตวั ลงไปและเทน้าออก หวั ไมข้ องคานฝ่ังตรงขา้ มกจ็ ะลงมาตีป๊ี บส่งเสียงดงั

๑๒ บทที่ ๕ วเิ ครำะห์และสรุปผลกำรทดลอง ส่ิงประดิษฐ์ อุปกรณ์ไล่นกในลานตากขา้ วดว้ ยไมก้ ระดกตีปี๊ บรางน้าตกไมไ้ ผ่ เป็นอุปกรณ์ที่ถูกคิดและ ออกแบบข้ึนมาเพือ่ ใหใ้ ชง้ านไดจ้ ริง เนน้ การใชว้ สั ดุท่ีหาง่ายและไม่เป็ นอนั ตรายต่อผใู้ ช้ ซ่ึงผปู้ ระดิษฐ์ไดท้ าการ ทดลองแล้วสามารถใช้งานไดจ้ ริงและไดผ้ ลตามท่ีคาดหวงั ไว้ คือสามารถทาให้นก รวมท้งั สัตวอ์ ่ืนเช่น สุนัข แมว เกิดอาการตกใจว่ิงหนีหรือบินหนีออกไป ถือไดว้ า่ มีประสิทธิภาพในระดบั หน่ึง แต่ก็สามารถท่ีจะพฒั นา ต่อไปใหด้ ียง่ิ ข้ึน ข้อเสนอแนะ แต่เนื่องจากสัตวห์ รือส่ิงมีชีวิตแทบทุกชนิด เม่ือไดเ้ จอกบั ส่ิงแวดลอ้ มที่เกิดข้ึนบ่อย ๆ เป็ นประจาก็จะ เกิดการเคยชินและปรับตวั เขา้ กบั สิ่งแวดลอ้ มหรือปรากฏการณ์ เหตุการณ์ต่าง ๆ น้นั ได้ ดงั น้นั การใชอ้ ุปกรณ์น้ี บ่อยๆ ซ้าๆ ในบริเวณเดียวกนั ก็อาจทาให้นกหรือสัตวต์ ่าง ๆ เกิดความเคยชินได้ ผูใ้ ช้อุปกรณ์ควรมีการใช้ วธิ ีการอ่ืนร่วมดว้ ย น่าจะเกิดผลดียง่ิ ข้ึน