ประโยชน์ของ \"น้ำมันมะกอก\" ทเี่ รำควรกนิ บอ่ ยๆ คนที่รับประทานน้ามันมะกอกเป็นประจา้ นันมคี วามเสยี่ งนอ้ ยกวา่ ในการเกิดโรคที่ เกี่ยวกบั หัวใจและหลอดเลือด อีกทังยังลดความ เส่ียงของโรคความดันโลหติ สงู โรคหลอดเลอื ด สมองและโรคไขมนั ในเลือดสงู นอกจากนี ยัง คน้ พบวา่ การรบั ประทานนา้ มันมะกอกยัง สามารถช่วยลดอาการอกั เสบและลดโอกาสการ เกดิ ความผิดปกติของไขมนั ในเลือด ภาวะลมิ่ เลือดในหลอดเลอื ดด้าอดุ ตัน และยังช่วย กระตนุ้ กระบวนการ เมแทบอลิซมึ ของ คาร์โบไฮเดรตได้อกี ด้วย หอ้ งสมุดประชาชน “เฉลิมราชกมุ ารี”อ้าเภอดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี ขอบคณุ ท่ีมา.. sanook.com/health/
ประโยชนข์ อง \"น้ำมนั มะกอก\" ทีเ่ รำควรกิน บ่อยๆ
ทกุ วันน้คี นไทยต่างหนั มาใส่ใจด้านสขุ ภาพกนั มากขน้ึ เหน็ ไดจ้ าก การท่ปี ระเทศไทยเปน็ ประเทศแรกในอาเซียนท่แี บนการผลิต ไขมันทรานส์นับต้งั แตต่ ้นปี พ.ศ. 2562 ท่ีผ่านมา นอกจากนี้ เหล่า ผู้บริโภคยงั ต่ืนตวั ในการสรรหาเครื่องปรุงและส่วนผสมทเ่ี ป่ยี ม คุณภาพ อา้ งองิ จากงานวิจัยล่าสุดโดยสภาข้อมูลดา้ นอาหาร นานาชาตหิ รือไอเอฟไอซี (IFIC) พบว่าผูบ้ รโิ ภคในปจั จบุ นั ต้องการ ร้ถู ึงทมี่ าของอาหารท่พี วกเขารับประทาน รวมถึงกรรมวิธกี ารผลติ และคณุ ค่าทางโภชนาการ หลากหลายงานวิจัยในเมอื งบารเ์ ซโลนา ประเทศสเปน ได้สารวจและ วิจัยถงึ ผลลพั ธ์ที่ได้ ทงั้ ในด้านชีวภาพและทางการแพทยข์ องน้ามนั มะกอก โดยพบว่าคนท่รี ับประทานน้ามนั มะกอกเป็นประจานั้นมี ความเสยี่ งนอ้ ยกว่าในการเกดิ โรคทีเ่ กยี่ วกับหัวใจและหลอดเลือด อีก ท้งั ยังลดความเส่ยี งของโรคความดนั โลหติ สูง โรคหลอดเลือดสมอง
และโรคไขมันในเลือดสงู นอกจากน้ี ยังค้นพบว่า การรับประทาน นา้ มันมะกอกยังสามารถช่วยลดอาการอกั เสบและลดโอกาสการเกิด ความผิดปกตขิ องไขมนั ในเลือด ภาวะลม่ิ เลือดในหลอดเลือดดาอุดตนั และยงั ช่วยกระตุน้ กระบวนการเมแทบอลิซมึ ของคาร์โบไฮเดรตไดอ้ ีก ด้วย นอกจากน้ี รายงานจาก “โครงการอาหารไทยหัวใจดี” โดยมูลนธิ ิ หวั ใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์ ร่วมกบั คณะสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล ยงั ระบุวา่ น้ามันมะกอกไดร้ บั เลือกให้ เป็นนา้ มนั ทด่ี ตี ่อสขุ ภาพ โดยสามารถชว่ ยลดโอกาสการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็งและโรคเก่ียวกับหัวใจและหลอดเลือด เน่อื งจากน้ามนั มะกอกมีสารอาหารทเ่ี ปน็ ประโยชน์ในปริมาณสูง ไม่ ว่าจะเปน็ โพลฟิ ีนอล สารตา้ นอนุมูลอสิ ระ กรดไขมันไมอ่ ่มิ ตวั วิตามนิ อี วิตามินเค และกรดไขมันโอเมกา้
ลองมาศกึ ษากันดวู า่ ทาไมสารอาหารเหล่าน้ีถงึ เป็นประโยชนต์ อ่ ร่างกายของพวกเรา โพลฟิ นี อลและสารต้านอนมุ ลู อสิ ระ คุณประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้จากโพลิฟีนอลมกั เปน็ ผลมาจากการทอ่ี ุดม ไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึง่ สามารถช่วยตา้ นการเสอื่ มโทรมของ เซลล์ สารอาหารเหล่านยี้ งั ชว่ ยในเรื่องการลดภาวะอารมณต์ ึงเครียด จัดการกับอาการเจบ็ ปวด ชว่ ยชะลอวัย อกี ท้งั ยังชว่ ยปอ้ งกันภาวะ สมองเสอ่ื ม ภาวะหลอดเลอื ดสงู โรคหัวใจ โรคเบาหวานและ โรคมะเร็งบางชนิดด้วย วิตามินเค วติ ามินเคคือกลุ่มวติ ามินที่มคี วามสาคัญในการสร้างโปรตีนซึ่งช่วย ป้องกันการแข็งตวั ของเลอื ด ชว่ ยสร้างกระดกู ใหม่และช่วยเร่อื งความ สมดลุ ของแคลเซยี ม คุณประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ ากการรบั ประทานวิตามนิ เค อยา่ งสมา่ เสมอคือ การช่วยเสริมสรา้ งสารอาหารและโปรตนี ต่าง ๆ ท่ี เปน็ ประโยชน์สาหรับการสมานแผล อีกท้ังยงั ชว่ ยเสริมแคลเซยี มใน การผลิตมวลกระดูกและป้องกันกระดกู พรนุ
วติ ามินอี วิตามินอี มสี ่วนช่วยในการปอ้ งกันการทาลายเซลล์ ช่วยลดความเสี่ยง การเกิดโรคหวั ใจและโรคมะเรง็ โดยมสี ่วนชว่ ยตา้ นการตดิ เช้อื และยัง ช่วยปอ้ งกันความปกตขิ องสายตาอกี ดว้ ย กรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมกา้ 3 กรดไขมนั โอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 คอื กล่มุ ของกรดไขมันไม่อมิ่ ตวั เชิงซ้อน ซึ่งรา่ งกายของมนุษย์เราไมส่ ามารถผลิตเองได้ ตอ้ งจะไดร้ ับ จากการรับประทานอาหาร หากขาดกรดไขมนั โอเมก้าเหล่าน้ี อาจทา ให้การทางานของรา่ งกายบกพร่องและเกดิ การเจบ็ ปว่ ยได้ นีจ่ งึ เปน็ เหตผุ ลหนึ่งทวี่ า่ ทาไมกรดไขมนั โอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 จึงจาเป็น ในขณะที่กรดไขมนั โอเมก้า 6 น้นั สาคญั ต่อการดารงชวี ติ กรดไขมัน โอเมก้า 3 เองมีบทบาทท่ยี ิ่งใหญ่กว่าน้นั นั่นคอื การช่วยในการ ไหลเวียนของเลือด การทางานของหวั ใจและระบบพันธกุ รรมต่าง ๆ ทัง้ นี้ ปรมิ าณที่ดีทสี่ ดุ ท่ีแนะนาให้บริโภคกรดไขมนั โอเมกา้ 6 และโอ เมก้า 3 คอื การบริโภคในสัดส่วน 4 ต่อ 1 ยง่ิ ใกลเ้ คยี งตัวเลขนเี้ ท่าไร ยิง่ ดีเทา่ นนั้ น้ามันปาล์มท่ัวไปมีสว่ นประกอบของกรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมกา้ 3 ในสัดสว่ น 45.5 ต่อ 1 น้ามันราข้าวในสัดส่วน 20 ตอ่ 1 แตน่ า้ มนั มะกอกน้นั ดีตอ่ สุขภาพย่ิงกว่า เนอื่ งจากมสี ดั ส่วนของกรด ไขมันที่กลา่ วไปในสัดสว่ น 12.89 ต่อ 1 ซึ่งใกลเ้ คียงสัดสว่ นท่ีแนะนา ไปมากท่สี ุดน่ันเอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: