Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธรรมดี้ดี_บางทีคิดไม่ถึง

ธรรมดี้ดี_บางทีคิดไม่ถึง

Description: บทความบางส่วนในหนังสือเล่มนี้ จะเป็นเหมือนกระจกเงาสะท้อน
ภาพ ให้ผู้อ่านได้เห็นถึงพฤติกรรม ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนที่ห่างเหินธรรมรวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องน่าตลก แต่บางคราวก็ทำให้น่าตกใจ

Search

Read the Text Version

คำอุทิศ ผลบญุ ใด ๆ อันเกิดจากหนงั สอื เลม่ น้ี ผเู้ ขียนขออุทิศกศุ ลให ้ มารดา บิดา ครบู าอาจารย์ ผู้มีพระคุณ พน่ี อ้ ง ผองเพอ่ื น ภรรยา ญาตมิ ติ ร ผู้มจี ิตศรัทธา รว่ มพิมพ์หนังสอื เผยแพรเ่ ป็นธรรมทาน ผมู้ สี ่วนเกีย่ วข้องในการจัดทำทกุ ทา่ น ผูป้ ระพนั ธแ์ หลง่ อ้างองิ ตา่ ง ๆ เทพเทวดา เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสตั วท์ ง้ั หลาย ทีเ่ ป็นเพอื่ นร่วมเกิดแก่เจบ็ ตายดว้ ยกันทงั้ หมดทัง้ สนิ้

สูตบิ ัตร ช่ือ : ธรรมดีด๊ ี บางทีคิดไมถ่ งึ ผู้เขยี นขอขอบพระคุณ พระธรรมวิสทุ ธกิ วี (พิจิตร ฐติ วณฺโณ) และ ผ้เู ขยี น : ปนั ยา พระอาจารยช์ ยสาโร ภิกขุ เป็นอยา่ งยิง่ ทีไ่ ด้ให้ความเมตตาอบรมสง่ั สอน ภาพประกอบ : ศิลปินหลายทา่ น ทางดา้ นพทุ ธศาสนา โดยเฉพาะเร่อื งการปฏบิ ตั กิ รรมฐาน ออกแบบปก-หน้า 4 สี : บญุ รกั ษ์ นริ ุกติศาสตร ์ จัดรปู เล่ม : วชั รพล วงษ์อนุสาสน ์ ขอขอบพระคณุ คณุ ฌานชลกฤต และ คณุ ทพิ ยส์ อ่ งธาร วฑั ฒนาธร พสิ จู น์อักษร : ธิติมา คงกันกง, เบญจมาศ กษีรสกลุ ที่ได้ชักชวนให้เข้าร่วมการฝึกอบรมกรรมฐานรุ่นท่ี 22 ณ วัดโสมนัสวิหาร พมิ พ์ครัง้ ท่ี 1 : พฤศจิกายน 2553 จำนวน 28,000 เลม่ เมื่อเดือนตุลาคม 2538 ซ่ึงนับเป็นจุดเร่ิมต้น ที่ทำให้ผู้เขียนสนใจศึกษา ราคา : ไม่มี (เผยแพร่เป็นธรรมทาน) และปฏบิ ัตธิ รรม มาจนถึงทุกวันน ้ี ISBN : 978-974-8008-36-3 พิมพท์ ่ี : บรษิ ัท ขมุ ทองอุตสาหกรรมและการพิมพ์ จำกดั ขออานภุ าพคณุ พระศรรี ตั นตรยั และอำนาจแหง่ บญุ นี้ เปน็ พลวปจั จยั 59/84 หมู่ 19 ถนนบรมราชชนนี หนุนนำให้ทุกทา่ น เจรญิ ดว้ ยอายุ วรรณะ สขุ ะ โภคะ พละ สมหวงั ในสิ่งที่ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวฒั นา ปรารถนา ทกุ ประการเทอญ กรงุ เทพมหานคร 10170 โทรศพั ท์ 0-2885-7871-3, โทรสาร 0-2885-7874 E Dhammaintrend รว่ มเผยแพรแ่ ละแบ่งปันเป็ นธรรมทาน

สารบญั คำนิยม G คำนิยม I “เราไม่เห็นธรรมอื่นแมส้ กั อยา่ ง ทเ่ี ป็นไปเพื่อประโยชนย์ งิ่ ใหญ่ ... พระกฤช นมิ มฺ โล L ทีเ่ ป็นไปเพื่อความดำรงมัน่ ไม่เส่ือมสญู ไม่อนั ตรธานแหง่ สัทธรรม อาจารย์วศิน อนิ ทสระ 1 คำนำ 13 เหมอื นความมีกัลยาณมิตรเลย” บทท่ี 1 ซ่อมได้ 23 พุทธพจน์ บทที่ 2 ชวี ติ เลือกเกดิ ได้ 37 บทท่ี 3 ตัดกรรม 47 ชวี ติ คนเราจะเปน็ อยอู่ ยา่ งประเสรฐิ ไดน้ นั้ ถา้ ไมส่ ามารถ “ทำไวใ้ นใจ” บทท่ี 4 เผอ่ื เหลอื เผอ่ื ขาด 57 ไดเ้ อง กต็ ้องอาศยั “กลั ยาณมติ ร” ช่วยบอก บทที่ 5 เกมซ่อนหาขนานแท ้ 69 บทที่ 6 สังคมอุปาทาน 81 คุณ “ปันยา” ก็ได้ทำหน้าที่ “เพื่อน” ท่ีอุตส่าห์ “ค้น” แล้ว “คว้า” บทที่ 7 รักดตี อ้ งมหี ลัก 95 เอาสงิ่ ดี ๆ ในตพู้ ระธรรมมาแบง่ ปนั กนั ในบรรยากาศแบบเพอ่ื น ๆ คอื ดว้ ย บทท่ี 8 ขอความเปน็ ธรรม 107 ถ้อยคำสำนวนท่ีเป็นกันเอง นับเป็นเร่ืองน่าชื่นชมท่ีในสังคมของเรายังมี บทท่ี 9 จติ อุดมโรค 117 ผทู้ ำหน้าท่นี ้อี ยู่ คอื ชว่ ยกันแนะนำทาง บทท่ี 10 เครื่องนำทางชวี ิต 120 บทสวดโพชฌงคปรติ ร พราหมณ์คนหน่ึงชื่อคณกโมคคัลลานะ ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า แหลง่ อ้างอิง “นิพพานก็มี ทางดำเนินก็มี ผู้แนะนำก็มี แต่ทำไมบางคนก็ไปได้ บางคน ไม่ยอมไป” F G

พระองค์ตรัสตอบแบบย้อนถามกลับว่า “ถ้ามีผู้ประสงค์จะไป คำนิยม กรุงราชคฤห์มาหาท่าน ขอให้ช่วยแนะนำ ท่านก็แนะให้ แต่บางคน ก็ไปเสียอีกทางหนึ่ง บางคนก็ไปถึง ทั้งท่ีกรุงราชคฤห์ก็ยังอยู่อย่างเดิม ขออนโุ มทนาตอ่ คณุ ปนั ยา ทอ่ี ตุ สาหะพากเพยี รเขยี นธรรมะอยา่ งงา่ ย ทางก็ยงั มี ท่านกแ็ นะแล้ว ทำไมจงึ เป็นเช่นนั้น” ใหค้ นไดอ้ ่าน ขอแสดงความยินดีดว้ ย เขาตอบวา่ “จะทำอย่างไรได้ ขา้ พระองคก์ ็เปน็ แตผ่ บู้ อกทางให”้ อ.วศนิ อนิ ทสระ พระพุทธองค์ก็เช่นกัน เป็นแต่ผู้บอกทางให้เท่าน้ัน พระองค์ ทำหน้าที่กัลยาณมิตรแล้ว เป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคนศึกษาคำสอน ใหถ้ กู -ตรง แลว้ ลงมอื ปฏบิ ตั เิ อง..เดยี๋ วนี้ !! อยา่ รอชา้ ...กอ่ นทเี่ วลาจะหมดไป เพราะ... ธรรมดีด๊ ี..แตต่ อ้ งทำเอง ไม่มีใครทำแทน ถงึ เป็นแฟน..ก็ทำแทนไม่ได.้ ..!! อนโุ มทนา พระกฤช นิมฺมโล HI

ผู้เขียนขอขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง ท่ีได้ร่วมแรงร่วมใจ ผู้เป็นเสมือนญาติมิตรกลั ยาณธรรม ทชี่ ว่ ยกันประชาสัมพนั ธ์บอกบุญไปยัง กันทำให้เกิดหนังสือเล่มน้ีข้ึนมา นับตั้งแต่ ศิลปินผู้สร้างสรรค์ภาพ, ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ทำให้มียอดการพิมพ์ครั้งแรกเป็นจำนวนถึง 28,000 ผู้ออกแบบหน้าปก-หน้าภาพประกอบ, ผู้จัดรูปเล่ม, ผู้พิสูจน์อักษร, เลม่ เจา้ หน้าท่ีโรงพิมพ์ รวมถึง ผู้มจี ิตกุศลร่วมบรจิ าคเงินเพอื่ พิมพเ์ ผยแพร่ เปน็ ธรรมทานทกุ ๆ ท่าน และขอขอบพระคุณ พ่ีวิพล พิทยธนากุล แห่งโรงพิมพ์ขุมทอง อตุ สาหกรรมและการพิมพ์ ทีม่ กี ศุ ลจิตรว่ มบุญ โดยยนิ ดรี ับพิมพห์ นังสอื ใน ขอขอบพระคณุ พอี่ นพุ นั ธ์ นำ้ ทพิ ย์ ทนี่ อกจากจะสรา้ งสรรคภ์ าพปก- ราคาพเิ ศษ ภาพประกอบดว้ ยตวั เองแลว้ ยงั เปน็ ธรุ ะเชญิ ชวนเพอ่ื น ๆ ศลิ ปนิ หลายทา่ น ให้เกียรตเิ ลอื กสรรผลงานของตนมาพมิ พล์ งในหนงั สอื เลม่ น้ีด้วย ผเู้ ขยี นขออนโุ มทนากบั ทกุ ทา่ น ขออานสิ งสแ์ หง่ บญุ นเ้ี ปน็ พลวปจั จยั ใหท้ า่ นถงึ พรอ้ มดว้ ยมรรคมอี งคแ์ ปด เพอ่ื ประกอบกจิ อนั สงู สดุ แหง่ ชวี ติ ขอขอบพระคณุ พบ่ี ุญรักษ์ นิรกุ ติศาสตร์ ที่แมง้ านธรุ กิจจะมากล้น นำตนใหพ้ ้นจากทุกขท์ ั้งมวลโดยเร็วเทอญ แตก่ ย็ งั ยนิ ดสี ละเวลามาชว่ ยออกแบบหนา้ ปก หนา้ ภาพประกอบ ใหห้ นงั สอื เล่มน้ดี ดู มี คี ุณคา่ ยง่ิ ขึ้น การให้ธรรม ชนะการใหท้ ัง้ ปวง รสแหง่ ธรรม ชนะรสท้ังปวง ขอขอบพระคุณ พี่จตุพร บุญปราศภัย, พ่ีมุกดา ไตรสารศรี, ทพ.อภริ ตั น์ ผลติ วานนท,์ คณุ ทรงชยั เอกอภชิ ยั , พส่ี ภุ าภรณ์ เตชเสถยี ร, ความยินดีในธรรม ชนะความยินดที ัง้ ปวง พี่ธิดารัตน์ ชาญคณิต, คุณพิมพ์ปราโมทย์ อุไรรงค์, คุณอัญชลี ความหมดสน้ิ แห่งตณั หา ชนะทุกขท์ ้งั ปวง แหวนประดบั , คณุ อภชิ า ประคลั ภก์ ลุ , พศี่ ภุ ร อาสาณรงค,์ คณุ มาลวี รรณ พรสมบัติเสถียร, พี่วิภา ศักด์ิสุรีย์มงคล, คุณพัชรินทร์ พงษ์ภักดี, K พ่ีอนุพันธ์ น้ำทิพย์, คุณสุวิมล แก้วแกมทอง, พี่กานต์สินี ธูปทอง, คุณธิติยา เหลืองวรา, คุณชุติกร พูลทรัพย์ และ คุณศุภศร ยินดีสุข J

คำนำ แท้จริงแล้ว “ธรรม” น้ัน เป็นเรื่องใกล้ตัวมากจนเรามองไม่เห็น เพราะองิ แอบอยกู่ บั จติ , ไมย่ ากเกนิ กวา่ จะเขา้ ใจ เพราะแมแ้ ตเ่ ดก็ กย็ งั เรยี นรไู้ ด,้ คำวา่ “ทำ” กบั “ธรรม” ในภาษาไทยนน้ั แมจ้ ะออกเสยี งเหมอื นกนั เปยี๊ บ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องศึกษาปฏิบัติ เพราะชีวิตเราอาจอยู่ไม่ถึงวันพรุ่งนี้ก็ได้ แตต่ ัวสะกด ความหมายและคุณูปการ แตกตา่ งกันมากมายนัก และ “ธรรม” เป็นเรื่องของคนรู้ทุกข์ ที่ต้องการละเหตุให้เกิดทุกข์ ไปจนถึง ปฏิบตั ิให้ถงึ ความพน้ ทุกข์ ต่างหากล่ะ ! ทำหน่ึงหมายถึง ก่อขึ้น, สร้างข้ึน, ประกอบการงาน, แสดง ฯลฯ อีกธรรมหน่ึงหมายถึง คุณความดี, ความจริง, ความถูกต้อง, คำสั่งสอน- การที่สังคมวุ่นวายไม่รู้จักจบส้ิน ก็เพราะคนเรา “ชอบทำ” แต่ หลกั ประพฤติปฏบิ ตั ใิ นศาสนา ฯลฯ “ไม่ชอบธรรม” และที่ทำกันส่วนใหญ่ ก็เหมือนการจุดเทียนเวียนวนหรือ พายเรอื ในอ่าง คอื ทำในแบบเดมิ ๆ ที่ประกอบดว้ ยความหลงอนั เปน็ เหตุ ทำหน่ึงมีไว้ “ก่อ” (ทำให้เกิดข้ึน มีขึ้น) อีกธรรมหน่ึงมีไว้ “กัน” ไม่รู้จริง (อวิชชา), ความด้ินรนทะยานอยาก (ตัณหา) และ ความยึดม่ัน (กีดขวางไว้ไม่ให้เกิดมีข้ึน) และ “แก้” (ทำให้ดีขึ้น, ทำส่วนท่ีเสียให้คืนดี ถือมั่น (อุปาทาน) จะเรียกว่า ชอบสนุกสนานเพลิดเพลินอยู่ในวงจรกิเลส อยา่ งเดิม, ทำใหห้ ลุดพน้ ไป) (กเิ ลสวฏั ฏ์) กย็ ่อมได ้ เปน็ เรื่องแปลกแตจ่ รงิ ท่ผี คู้ นสว่ นใหญน่ ับแต่อดตี จนถึงปัจจบุ นั มัก บทความบางสว่ นในหนงั สอื เล่มนี้ จะเปน็ เหมือนกระจกเงาสะท้อน หมกมนุ่ ทมุ่ เทแตเ่ รอ่ื ง “ทำ” โดยหมางเมนิ ผลกั ดนั “ธรรม” ใหอ้ ยหู่ า่ งออกไป ภาพ ให้ผูอ้ า่ นไดเ้ ห็นถงึ พฤติกรรม ความรู้สึกนกึ คดิ ของผคู้ นท่หี ่างเหนิ ธรรม ดว้ ยขอ้ อา้ งระดบั มาตรฐานอตุ สา่ หห์ ากรรมวา่ “เปน็ เรอื่ งไกลตวั , เขา้ ใจยาก, รวมถงึ เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ในสงั คม ซงึ่ บางครงั้ กเ็ ปน็ เรอื่ งนา่ ตลก แตบ่ างคราว ยงั ไม่ถึงเวลา” หรือไม่ก็ “เปน็ เรื่องของคนมีทุกข”์ ก็ทำใหน้ ่าตกใจ L M

ถา้ หากเรายงั ปลอ่ ยปละเพกิ เฉย และไมเ่ หน็ โทษภยั ของการ “ชอบทำ” โย จ วสฺสสต ชเี ว ผ้เู ห็นพระธรรมอันประเสรฐิ ดังกล่าว ความเส่ือมทรามจะลุกลามบานปลายจนเกินแก้ไขเยียวยา และ อปสฺส ธมมฺ มตุ ฺตม มีชีวติ อยวู่ นั เดยี ว ยอ่ มหนไี ม่พ้นที่ตัวเรา ครอบครวั ญาตมิ ิตร คนใกลช้ ดิ ของเรา จะต้องไดร้ ับ เอกาห ชวี ิต เสยโฺ ย ผลกระทบทไี่ ม่คาดคดิ ในระยะเวลาอันใกล้นแี้ นน่ อน ! ปสสฺ โต ธมมฺ มุตฺตม ฯ ประเสริฐกวา่ ชวี ติ ตงั้ ร้อยปี ของผ้ไู มเ่ ห็น ถึงเวลาแล้ว ที่เราทุกคนควรจะหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับ “ธรรม” โดยปรบั เปลี่ยนพฤตกิ รรมท่ี “ไม่ชอบธรรม” ให้เปน็ “แนบชดิ ธรรม” O แทน คือ ทกุ คร้ังที่ “ทำ” สิง่ ใดก็ใหม้ ี “ธรรม” กำกับดว้ ยเสมอ เพราะว่าธรรมน้ันดี ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ จึงยังคงสืบทอดมา ยาวนานถงึ สองพันกว่าปี และธรรมกด็ ด๊ี .ี .. จนบางทผี ู้ที่ชอ้ บชอบธรรม กย็ ัง คดิ ไมถ่ ึง ! ปันยา N



ส ถานที่ใดเอ่ย ท่ีคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบไป แต่เม่ือไปทีไร ก็เห็นคน แม้ว่าความเจ็บป่วยของคนเราจะห้ามกันไม่ได้ แต่ยังพอมีทางท่ีจะ เยอะทกุ ที ? ระวงั ปอ้ งกนั ได้ เพราะเหตแุ หง่ การปว่ ยสว่ นใหญ่ กเ็ ปน็ ผลมาจากพฤตกิ รรม ติก๊ ต็อก ๆ ๆ ... การกนิ -ดมื่ -ดดู , เสพ-สบู -สดู , เครยี ด-วติ ก-เกบ็ กด ซงึ่ เปน็ กจิ วตั รของเราเอง กรง๊ิ งงงงงงงงงง หมดเวลา เชน่ การบรโิ ภคอาหารทม่ี โี ทษมากกวา่ ประโยชนจ์ นเกดิ ภาวะทพุ โภชนาการ คำตอบคอื ... โรงพยาบาล ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม อากาศเป็นพิษ อารมณ์เป็นภัย ทงั้ นเี้ พราะโรงพยาบาลเปน็ สถานทร่ี องรบั และเยยี วยาผเู้ จบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ย จติ ใจกระเพอื่ มดจุ คลน่ื ยกั ษส์ นึ ามิ ทงั้ รา้ ย-รอ้ น-รนุ แรง จมอยกู่ บั ความโกรธ- นอกจากพวกที่หลงรักหมอและตามจีบพยาบาลแล้ว ก็คงไม่มีผู้ที่ไม่มีกิจ เกลยี ด-กลวั ทำร้ายตวั เองแบบไม่รู้ตัวต้งั แตเ่ ช้ายนั คำ่ ตื่นยนั หลับ เกี่ยวข้องคนใด คิดอยากไปแนน่ อน ความป่วยไข้ท่ีเกิดจากการบริโภคชนิดตามใจปากแบบไม่พินิจ ขึ้นช่ือว่าเจ็บป่วยก็ไม่มีใครอยากเป็นเช่นกัน เพราะทำให้ต้องเสีย พิจารณา เรียกว่ากินจนได้เรื่องได้โรค นั้น ได้แก่ ท้องร่วง อาหารเป็นพิษ เวลาทำมาหากนิ เสยี งานสญู เงนิ อนั ทเ่ี ปน็ รกั และหวงแหน ยง่ิ คา่ รกั ษาสมยั นี้ ไขมันผิดปกติ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน หลอดเลือดตีบตัน ก็แพงหฉู ี่จนกระเปา๋ หนงั จระเขแ้ ทบฉีก บางคนแค่เหน็ บลิ ก็สะดงุ้ ผวาย่งิ กวา่ กล้ามเน้ือหัวใจตาย อัมพฤกษ์ อัมพาต หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ถุงลม เห็นเข็มฉีดยาคาแขนเสยี อกี แน่ะ ! โป่งพอง หวั ใจ แผลในกระเพาะอาหาร และ มะเร็ง เป็นตน้ สาเหตุการเจ็บป่วยน้ันมีมากมายหลายทาง พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ อาการท่เี กดิ จากอากาศและมลพิษกม็ ีไม่นอ้ ย เช่น ลมแดด บวม ในคิริมานนทสูตรว่า เกิดจากน้ำดี เสมหะ ลม ฤดูแปรปรวน บริหารกาย ชักกระตุก ตะคริว ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หอบหืด หัดเยอรมัน คางทูม ไม่สม่ำเสมอ ทำความเพียรเกินกำลัง ความหนาว ร้อน หิว กระหาย ไข้สุกใส (อสี ุกอีใส) อุจจาระร่วง ตาแดง ผวิ หนงั อักเสบ ไปจนถึงมะเร็ง ปวดอุจจาระ-ปัสสาวะ สัมผัสแห่งเหลือบ ยุง ลม แดด สัตว์เสือกคลาน (เลอ้ื ยคลาน) หรอื อาจเปน็ วบิ ากกรรม กไ็ ด ้ ความเจ็บป่วยท่ีเกิดจากจิตใจก็มีเพียบเลย เช่น นอนไม่หลับ เบ่ืออาหาร ท้องอืด อาหารไม่ย่อย แผลในกระเพาะ ปวดศีรษะ ไมเกรน 2 ซอ่ มได ้ ปวดหลัง ความดันโลหิตสูง หัวใจ ภูมิแพ้ หอบหืด ภูมิคุ้มกันต่ำลง เป็น หวดั งา่ ย ติดสุรา เกิดอบุ ตั เิ หตขุ ณะทำงาน ฆ่าตัวตาย รวมท้ังมะเร็งดว้ ย ซ่อมได้ 3

ความผิดปกติท่ีเกิดจากวิบากกรรมยิ่งมากมายนับไม่ถ้วน ระบุ ติดต่อกัน 7 สมัย ที่ป่วยเป็นมะเร็งสมอง ปอด และอัณฑะ ก็สามารถ ชัดเจนไม่ได้ แล้วแต่กรรมใดใครก่อ เจ้ากรรมนายเวรมีโอกาสก็มาเอาคืน เอาชนะมะเรง็ และกลบั มาแขง่ จกั รยานไดอ้ กี ครง้ั (เขายงั เปน็ ผรู้ เิ รม่ิ การผลติ ไดแ้ ก่ ความพกิ ารตง้ั แตเ่ กดิ ทงั้ หลาย เชน่ หหู นวก ตาบอด อวยั วะขาด ๆ เกนิ ๆ สายรัดข้อมือ โดยสลักคำว่า Livestrong ที่แปลว่ามีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็ง สมองบวมน้ำ ปากแหว่งเพดานโหว่ หัวใจพิการ ฯลฯ รวมท้ังโรคที่มาเป็น เพ่อื หาเงนิ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ่วยมะเรง็ คนอ่นื ๆ อีกดว้ ย) ทหี ลงั เชน่ อาการปวดตามอวยั วะตา่ ง ๆ ทหี่ าสาเหตไุ มไ่ ด้ รกั ษาอยา่ งไรกไ็ มห่ าย อมั พฤกษ์ อัมพาต ไตวาย และทหี่ นไี มพ่ น้ กค็ อื มะเร็ง (อีกแล้วครบั ท่าน) และ สตฟี จอบส์ ผบู้ รหิ ารระดบั สงู ของแอปเปลิ คอมพวิ เตอร์ ผผู้ ลติ คอมพิวเตอร์แมคอินทอช ไอแม็ค ไอโฟน ไอพ็อด ไอแพ็ด (ไม่มีไอค็อก จากตัวอย่างทย่ี กมา จะเหน็ ว่าบางโรคก็มเี หตุเกดิ ได้หลายทาง โดย ไอแค็ก) และพิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอส์ ท่ีมีช่ือเสียงในการสร้างภาพยนตร์ เฉพาะมะเรง็ ทมี่ ที งั้ อาหาร อากาศ อารมณ์ และวบิ ากกรรม เปน็ ปจั จยั แอนิเมชัน 3 มิติ เรอื่ ง ทอย สตอร่ี 1-3, นีโม ปลาเลก็ หวั ใจโตโ๊ ต, วอลล-์ อี ได้ทั้งสิ้น จึงไม่แปลกท่ีปัจจุบันจะกลายเป็นโรคฮิตติดอันดับ เรียกได้ว่า หนุ่ จว๋ิ หวั ใจเกนิ รอ้ ย ฯลฯ กเ็ ปน็ โรคมะเรง็ ในตบั ออ่ น ไดร้ บั การผา่ ตดั เนอื้ งอก 1 ใน 4 ของผู้ท่ีมีชีวิตอยู่บนโลกอุ่น ๆ จนถึงระอุใบนี้ จะมีโอกาสสัมผัส ออกจนหายเป็นปกติ และกลับมาทำงานพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ด้านไอที ให้ดี ใกล้ชิดกับมะเร็งที่อวัยวะใดอวัยวะหน่ึงย่อมเป็นไปได้มาก และหากคนเรา ยง่ิ ข้ึนไปกวา่ เดิมอีก ยงั ไมเ่ ปลยี่ นพฤตกิ รรมการกนิ -อย-ู่ เปน็ แบบเดมิ ๆ อกี ไมน่ านเจา้ มะเรง็ กค็ ง ไดย้ กฐานะเป็นโรคสามญั ประจำบ้าน ภายในทศวรรษอันใกลน้ ้แี นน่ อน แต่ละคนต่างก็เป็นมะเร็งท่ีอวัยวะแตกต่างกัน ระดับการลุกลามก็ ไมเ่ ทา่ กัน คงไมม่ ใี ครบอกไดห้ รอกว่า วธิ ีการรกั ษาใด ยาอะไร หมอคนนั้น แม้มะเรง็ จะมาแรง และเบียดแซงโรคอ่นื ๆ ตรงทางโค้ง แตก่ ไ็ ม่ได้ คนน้ี หรือโรงพยาบาลไหน จะดีและเหมาะสมท่ีสุด แต่ทุกคนที่ผ่านการ มฤี ทธร์ิ า้ ยแรงเทา่ ทค่ี นสว่ นใหญห่ วาดกลวั กนั เพราะหลายคนทฉ่ี นั รจู้ กั กไ็ ด้ ทดสอบของมะเร็งมาได้น้ัน ล้วนมีส่ิงที่เหมือนกันคือ กำลังใจท่ีดี ไม่ ผา่ นประสบการณเ์ ผชญิ หนา้ กบั มะเรง็ มาแลว้ ทงั้ นน้ั แตก่ ย็ งั มชี วี ติ อยเู่ ปน็ สขุ ท้อแท้หวาดกลัวจนเกินเหตุ เพราะเข้าใจดีว่ามะเร็งกับตัวเราก็ไม่เที่ยงแท้ ได้จนถึงทุกวนั นี้ แนน่ อน ต้องลองส้กู ันสักต้งั ขึน้ อยู่กับวา่ ใครจะอดึ กวา่ เท่าน้นั เอง ไม่เว้นแม้แต่คนดังมีช่ือเสียงระดับโลกอย่าง แลนซ์ อาร์มสตรอง ในยามเจ็บป่วยไม่ว่าจะเป็นโรคอะไร หากผู้ป่วยสามารถทำจิตใจให้ นักแข่งจักรยานชาวอเมริกัน เจ้าของแชมป์การแข่งขันทูร์ เดอ ฟรองซ์ เป็นปกติ ปราศจากความกลัว ปล่อยวางได้ ก็ไม่ต่างจากการมีหมอดี 4 ซอ่ มได ้ ซ่อมได ้ 5

หมอเก่งอยู่ภายในร่างกายหรอกนะ... ฉะนั้น จะเป็นการดีกว่ามั้ย ? หาก นมิ นต์พระสงฆ์ไปเจริญพระพทุ ธมนต์บทนี้ เพ่ือใหห้ ายจากอาการเจ็บป่วย ทุกครั้งท่ีป่วย เราจะเชิญหมอภายในท่านนี้ มาร่วมแรงร่วมใจรักษาเป็น ทีมเดียวกบั หมอภายนอกท่านอน่ื ด้วย หลายคนคงสงสัยว่า เอะ๊ ! ทำไมการฟงั สวดพระพทุ ธมนต์ จึงทำให้ คนเราหายจากความเจบ็ ปว่ ยได้ ? และผลของการรักษาก็มีโอกาสเป็นไปได้ 2 ทาง คือหายกับไม่ หาย ทัง้ น้ีขึ้นอยกู่ ับใจผปู้ ว่ ยด้วยว่า... จะช่วยเยยี วยาให้ดีวันดีคนื หรือ ในเร่ืองน้ีมีกูรูผู้รู้ด้านการพยาบาลสาธารณสุข อธิบายถึงประโยชน์ สงวนความเจ็บป่วยน้นั ไวน้ าน ๆ ล่ะ ! ของการสวดมนตว์ า่ ** สมองคนเราเมอื่ ไดร้ บั การกระตนุ้ ดว้ ยคลน่ื เสยี งชา้ ๆ สมำ่ เสมอ ประมาณ 15 นาทขี นึ้ ไป บรเิ วณกา้ นสมองจะหลงั่ สารสอื่ ประสาท ก็ในเม่ือทุกชีวิตประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ คือ ร่างกายและ (neurotransmitter) ชือ่ ซีโรโทนิน ท่มี ฤี ทธิ์คลา้ ยยานอนหลับมากข้ึน ชว่ ยลด จิตใจ ไม่ว่าจะทำกิจการงานใด เราก็ต้องอาศัยกายและจิตประสาน ความเครียดอาการซึมเศร้า ลดระดับน้ำตาลในเลอื ดได้ และเปน็ สารตง้ั ตน้ สมั พนั ธก์ นั จงึ จะสำเรจ็ ลลุ ว่ งไดด้ ว้ ยดี แตเ่ หตไุ ฉนเมอ่ื ถงึ คราวเจบ็ ปว่ ย ในการสงั เคราะหส์ ารสอ่ื ประสาทอนื่ ๆ ด้วย เชน่ เรากลบั มงุ่ จะเยยี วยาเฉพาะรา่ งกาย โดยไมใ่ สใ่ จไยดีเรื่องจติ ใจล่ะ ? • เมลาโทนิน ท่ีเปรียบเหมือนยาอายุวัฒนะ เพราะจะทำให้นอน ทางพทุ ธศาสนานนั้ กลา่ ววา่ “จติ เปน็ นาย กายเปน็ บา่ ว, ใจเปน็ ใหญ่ หลับได้ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ยืดอายุการทำงานของเซลล์ประสาท เซลล์ ใจเป็นประธาน, สรรพสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจ” แต่กลับไม่ค่อยจะมีใครใส่ใจ รา่ งกายใหย้ าวนาน สดชื่นขนึ้ และใหค้ วามสำคัญ กบั ประโยคทเี่ ปน็ เคล็ดลบั ชวี ติ เหลา่ น้เี ลย • โดปามนี ทีช่ ่วยลดความก้าวร้าวและอาการพาร์กนิ สนั ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงพระประชวร ในท่ีห่างไกล • อะเซทิลโคลนี ท่ชี ว่ ยขยายเส้นเลอื ดทำให้ความดนั ลดลง ช่วยใน จากหมอและยา พระองค์ได้รับสั่งให้พระจุนทเถระเจริญพระพุทธมนต์ กระบวนการเรยี นร้แู ละความจำ โพชฌงค์ 7 (สวดโพชฌงค์ปรติ ร)* ถวาย จนพระอาการดขี ้นึ เปน็ ปกติ และ • ลดปรมิ าณ อารก์ นิ นิ วาโซเปรสซนิ ซงึ่ มหี นา้ ทค่ี วบคมุ ความกา้ วรา้ ว เมอ่ื พระเถรานเุ ถระชน้ั ผใู้ หญอ่ าพาธ เจา้ นายพระราชวงศท์ รงประชวร กม็ กั จะ ความสมดลุ ของนำ้ * ดูบทสวดและคำแปลไดท้ ีท่ า้ ยเล่ม ** ข้อมลู บางสว่ นจากนิตรสารชวี จติ ฉบับแรกของเดอื นมกราคม 2551 เรื่อง Vibrational Therapy : 6 ซ่อมได้ สวดมนต์บำบัด โดย ชมนาด ซ่อมได ้ 7

• ลดปริมาณของสารเคมชี นิดหน่งึ ท่ีเป็นตัวกระตุน้ การทำงานของ สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ เภสกฬาวัน ใกล้เมือง ตอ่ มหมวกไตใหล้ ดลง สง่ ผลใหร้ ะบบประสาทสว่ นกลางทำงานนอ้ ยลง รา่ งกาย สุงสุมารคิระในภัคคชนบท (ช่ืออ่านยากจังเนอะ) มีคฤหบดีช่ือนกุลบิดา จึงรสู้ ึกผอ่ นคลาย ปลอดโปร่ง และไมเ่ ครยี ด ได้กราบทูลว่าตนเป็นผู้แก่เฒ่าแล้ว มีกายกระสับกระส่ายเจ็บป่วยเนือง ๆ ขอให้พระผู้มีพระภาคได้โปรดพร่ำสอนธรรมท่ีเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อ นอกจากน้ี ยงั มขี า่ วดจี ากงานวจิ ยั ในตา่ งประเทศอกี วา่ การสวดมนต์ ความสุขตลอดกาลนานด้วยเถิด พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “กายน้ีเป็นดัง หรอื ฟงั เสยี งสวดมนตอ์ ยา่ งมสี มาธนิ นั้ จะชว่ ยบำบดั อาการปว่ ยและโรครา้ ย ฟองไข่ มผี วิ หนงั หุ้มไว้ เพราะเหตุนน้ั ทา่ นพงึ ระลึกอยา่ งนวี้ า่ เมื่อเรามี ตา่ ง ๆ เหล่านี้ได้ คอื มะเร็ง หัวใจ เบาหวาน ความดันโลหติ สงู อลั ไซเมอร์ กายกระสับกระสา่ ยอยู่ จติ ของเราจกั ไมก่ ระสบั กระส่าย...” ซมึ เศรา้ ไมเกรน ออทสิ ตกิ ยำ้ คดิ ยำ้ ทำ โรคอว้ น นอนไมห่ ลบั และ พารก์ นิ สนั เพราะฉะนั้น สิ่งท่ีผู้กำลังป่วยอยู่หรืออาจจะป่วยในอนาคตอันใกล้ ในความเหน็ ของฉนั แลว้ ประโยชนอ์ กี ประการหนงึ่ ของการฟงั เสยี ง ก็ตาม ควรจะตอ้ งเตือนตัวเองบ่อย ๆ คือ พยายามรกั ษาจิตใจใหเ้ ป็นปกติ สวดมนตห์ รอื สวดเองขณะปว่ ย กค็ อื จะชว่ ยเบยี่ งเบนความสนใจของผปู้ ว่ ย ไมเ่ ผลอไผลกระสบั กระสา่ ยปลอ่ ยใหป้ ว่ ยตามกายไปดว้ ย เพราะไมเ่ ชน่ นน้ั แลว้ ให้ลืมเร่ืองความทุกข์กังวล ลืมความเจ็บปวดไปได้ช่ัวขณะ เพราะจิตได้ ต่อให้นิมนต์พระ 9 วัดมาสวดมนต์ทุกบทตลอดทั้งวันท้ังคืน หรือมีหมอ หันไปจดจ่อมีสมาธอิ ยูก่ ับเสียงหรือการออกเสยี งน้นั ๆ แลว้ เทวดายาวิเศษ สง่ ตรงมาจากภิภพนอกโลก กค็ งจะชว่ ยอะไรไม่ไดห้ รอก สำหรบั ผปู้ ว่ ยทไี่ มเ่ คยสวดมนตม์ ากอ่ น หรอื หากไดย้ นิ เสยี งสวดแลว้ ตอนทฉี่ นั ปว่ ยเปน็ มะเรง็ หลงั โพรงจมกู ระยะที่ 3 * ตอ้ งรบั ยาเคมบี ำบดั จะพาลทำให้นึกเห็นภาพตัวเองถูกหามเข้าวัดแล้วละก็ ควรเปล่ียนไปฟัง ถงึ 7 ครงั้ ฉายรงั สี 43 หน แถมโดนแพก็ จมกู และหายใจทางปากอยหู่ ลายวนั เพลงท่ผี ่อนคลาย (ดนตรบี ำบัด) แทน หรือพยายามนกึ ถึงเรอื่ งดี ๆ ทีเ่ คย นน้ั ถา้ มวั แต่ห่วงหนา้ พะวงหลัง กลัววา่ จะต้องกลับบา้ นเกา่ ไมม่ สี ติอยู่กบั ทำในอดีต เช่น รักษาศีล ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ช่วยเหลือคน ปจั จบุ นั ไมไ่ ดร้ บั แรงใจแรงเชยี รจ์ ากคนรอบขา้ ง ไมด่ แู ลจติ ใจตวั เองใหป้ ราศจาก และสัตว์ เปน็ ตน้ หรือแมแ้ ต่ผูท้ นี่ ึกอะไรไมค่ อ่ ยออกเพราะไมค่ ุน้ เคยกับการ ความวิตกกังวลแล้วละก็ ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะต้องไปผลุบโผล่ร้อนหนาวอยู่ใน ทำดีเลย ก็ให้คิดใหม่ว่าหลังจากหายเจ็บป่วยแล้วจะทำใหม่ รีบเร่งสะสม ภพภมู ใิ ด ? อยื๋ ... นกึ แล้วสยมึ ก๋ึยจรงิ ๆ ! ความดี อย่างนี้กพ็ อจะช่วยทำให้จติ ใจมกี ำลังขนึ้ มาได้บ้าง * อา่ นรายละเอียดเพิ่มเตมิ และเกรด็ เลก็ น้อยเกยี่ วกบั มะเรง็ ไดจ้ ากหนงั สือ “ไดเ้ วลาชำระจติ ชำรดุ ” 8 ซอ่ มได ้ สำนักพมิ พ์อมรนิ ทร์ธรรมะ ซอ่ มได้ 9

หลายคนที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายลามปามไปถึงสมอง หรือเป็น นับประสาอะไร กับความเจ็บไข้ได้ป่วยท่ีแสนจะเป็นเร่ืองธรรมดา โรคร้ายแรงอ่ืน ๆ ท่ีหมอส่วนใหญ่ส่ายศีรษะสะบัดหน้าหนี เพราะคิดว่า และยังไม่ถึงขั้นเรียกว่าเป่ือยน้นั ทำไมจะซอ่ มไม่ได้ละ่ ? “หมดหวงั เตรยี มจองศาลาไวไ้ ดเ้ ลย” ถา้ เขาหรอื เธอไมม่ จี ติ ใจกลา้ แกรง่ มวั แต่ ท้อแท้ถดถอยถอดใจตั้งแต่ต้น ก็คงไม่ได้รับชัยชนะมายืนยิ้มแป้นแก้มปริ แต่ก่อนจะส่งให้ผอู้ นื่ ซอ่ ม ฉนั ขอแนะนำใหผ้ ปู้ ว่ ยทกุ คน ซอ่ มใจของ ใหห้ มอคิดวา่ เป็นเร่อื งอะเมซซง่ิ ยง่ิ กวา่ ปาฏิหารยิ ์ ได้จนถึงทุกวนั นหี้ รอกนะ ตวั เองใหก้ ลบั คนื สสู่ ภาพปกตกิ อ่ นนะ... เพราะไมง่ นั้ คง “ซอ่ มยากส”์ แน่ ๆ อะ้ ! มพี ค่ี นหนง่ึ ทฉ่ี นั เคารพนบั ถอื และตอ้ งยกนว้ิ ใหเ้ ลย เพราะเมอ่ื หลาย อตตฺ า หิ อตตฺ โน นาโถ เราตอ้ งพึง่ ตัวเราเอง ปีก่อน เค้าโดนโรคกระหน่ำรุมกินโต๊ะ เป็นทั้งความดันโลหิตสูง เบาหวาน โก หิ นาโถ ปโร สยิ า คนอ่นื ใครเลา่ จะเปน็ ท่ีพึง่ ได้ แบคทีเรยี ในเลอื ด น้ำท่วมปอด ฝีในตับ ไตและต่อมลกู หมากอกั เสบ น่ิวใน อตฺตนา หิ สุทนเฺ ตน ถงุ นำ้ ดี ไปจนถงึ มะเรง็ ลำไส้ (8 โรคใน 1 เดยี วคนน)ี้ เคยคดิ ฆา่ ตวั ตายวนั ละ นาถ ลภติ ทุลฺลภ ฯ บคุ คลผู้ฝึกตนดแี ล้ว หลายหน แต่เพราะได้รับกำลังใจท่ีดีจากครอบครัว จึงมีสติคิดได้ ทำจติ ใจ ยอ่ มไดท้ ่พี ่ึงท่ีได้แสนยาก ใหเ้ ขม้ แขง็ อดทน ทกุ วนั น้ี เคา้ แขง็ แรงเหมอื นคนปกตธิ รรมดาทไี่ มธ่ รรมดา สามารถเดิน-วิ่งมาราธอนได้คราวละหลายกิโล และมีความสุขกับการทำ ซอ่ มได ้ 11 ความดดี ว้ ยการเผยแพร่หนังสือธรรมะ... คนอย่างน้แี หละที่โรคตา่ ง ๆ กลวั และเกรงใจ ! ก็แม้แต่ วิดีโอ-ซีดี, อารมณ์ดีที่ยังไม่ดี, คนมีไฟกำลังหมดไฟ, เคยเปน็ คนทใี่ จดี กลายเปน็ คนไมม่ จี ติ ใจ, เคยเปน็ คนทใ่ี จเยน็ กลายเปน็ ฟนื เป็นไฟ, เคยมีคนมาตามใจ กลายเปน็ คนทเี่ อาแตใ่ จ, ฯลฯ พเี่ บิร์ดยังรอ้ งวา่ “ซอ่ มได”้ เลย... 10 ซ่อมได้



ต อนเป็นเด็กฉันเคยถามแม่ว่า “หนูเกิดมาได้อย่างไร ?” แม่มักจะ ถ้าไปถามนักวิทยาศาสตร์ คงจะได้รับความกระจ่างเพียงเรื่องทาง ตอบอ้อมแอ้มว่า “ออกมาทางรักแร้” บ้าง “โผล่มาทางสะดือ” บ้าง กายภาพเท่านั้น ว่าเป็นเพราะพันธุกรรม หรือ ยีน (Gene) ที่ถ่ายทอดมา หรือบางทกี บ็ อกวา่ “เกบ็ มาจากถงั ขยะโนน่ แนะ่ ” ฉนั เลยคดิ วา่ ยงั ไงซะ กค็ ง จากพอ่ แม่ สว่ นเรอื่ งสถานภาพหรอื เหตทุ ท่ี ำใหเ้ กดิ ในครอบครวั รำ่ รวยยากจน ไมไ่ ดค้ ำตอบท่ถี ูกต้อง จึงไม่อยากรบเร้าหาความจรงิ จากแมอ่ กี นน้ั ต่อให้สมองอัจฉริยะปราดเปรื่องแค่ไหน ก็คงได้แต่อ้ำอึ้งเอ้ออ้าว่าเป็น เร่ืองของโชคชะตา ฟ้าลิขติ หรอื ไมก่ ็สิ่งศักด์ิสทิ ธิ์ดลบนั ดาล ไปโนน่ เลย ! พอโตขนึ้ มาหนอ่ ยกเ็ กดิ สงสยั วา่ “ทำไมคนเราถงึ ตอ้ งเกดิ มาดว้ ย ?” คราวนี้จะถามใครดีล่ะ ? ก็มีบางคนบอกว่า “เกิดมาเพ่ือใช้กรรม” ฉันฟัง ความซบั ซอ้ นซอ่ นเงอื่ นของความตา่ งตงั้ แตล่ มื ตาดโู ลกน้ี คงไมม่ ผี ใู้ ด แล้วก็งง ๆ ไมร่ เู้ ร่ือง แตต่ อ้ งทำเปน็ ว่าเขา้ ใจเพราะกลวั เสยี เซลฟ์เสียฟอร์ม คลายปมปญั หาใหม้ นษุ ย์เรา ไดช้ ดั เจนเท่าพระพุทธเจา้ เป็นแน่ ซ่งึ พระองค์ ได้ทรงตอบคำถามของสุภมาณพบุตรแห่งโตเทยยพราหมณ์ เกี่ยวกับกรรม แม้คำถามแบบนี้จะเคยเกิดข้ึนมาหสายสิบปีแล้ว แต่เชื่อขนมครก อันเป็นเหตุเป็นผลเก่ียวเนื่องกนั 7 คู่ ดังนี้ คือ :- กนิ ไดเ้ ลยวา่ ทกุ วนั นกี้ ย็ งั มเี ดก็ ทช่ี อบถามพอ่ แมแ่ ละคณุ ครแู บบเดยี วกนั นแ้ี หละ ซึง่ ก็คงจะไดค้ ำตอบท่จี รงิ บ้างหลอกบา้ ง แตกต่างกนั ไป 1. มอี ายสุ น้ั เพราะฆา่ สตั ว์ มอี ายยุ นื เพราะไม่ฆ่าสตั ว์ 2. มโี รคมาก เพราะเบยี ดเบยี นสตั ว์ มโี รคนอ้ ย เพราะไมเ่ บยี ดเบยี นสตั ว ์ แล้วมีใครเคยสงสัยม้ัยว่า ทำไมคนเราถึงเกิดมาไม่เหมือนกัน ? 3. มีผวิ พรรณทราม เพราะข้โี กรธ มีผิวพรรณดี เพราะไม่ขโ้ี กรธ ทำไมทารกบางคนกม็ หี นา้ ตาผวิ พรรณดี ไดเ้ ปน็ ลกู คนรวย คลอดในโรงพยาบาล 4. มศี ักดา (อำนาจ) นอ้ ย เพราะมักริษยา มศี กั ดามาก เพราะไม่ ช้ันหน่ึง พ่อแม่ประคมประหงมทะนุถนอมดูแลอย่างดี อยากได้อะไรก็ได้ มกั ริษยา ในขณะที่อีกหลายคนกลับดูข้ีร้ิวขี้เหร่ ฐานะทางบ้านยังยากจนข้นแค้น 5. มโี ภคทรพั ยน์ อ้ ย เพราะไมใ่ หท้ าน มโี ภคทรพั ยม์ าก เพราะใหท้ าน ซ้ำร้ายไปกว่านั้น มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่เกิดมาก็ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ไม่เป็น 6. เกิดในตระกูลต่ำ เพราะกระด้างถือตัวไม่อ่อนน้อม เกิดใน ที่ปรารถนา พิการไม่สมประกอบ ฯลฯ อะไรเล่าที่เป็นสาเหตุทำให้คนเรา ตระกูลสูง เพราะไมก่ ระดา้ งถือตัว แต่ร้จู กั ออ่ นนอ้ ม “ต่างกนั ตัง้ แต่เกดิ ” ได้มากถงึ เพยี งน้ี ? 7. มปี ญั ญาทราม เพราะไมเ่ ขา้ ไปหาสมณพราหมณ์ ไมถ่ ามเรอ่ื ง กุศล อกุศล เป็นต้น มีปัญญาดี เพราะเข้าไปหาสมณพราหมณ์ ไต่ถาม 14 ชวี ิตเลือกเกดิ ได ้ เรอ่ื งกุศล อกุศล เปน็ ตน้ ชวี ิตเลอื กเกดิ ได ้ 15

ถา้ ใครเกดิ มาสอ่ งกระจกชะโงกดูหน้าตัวเอง แล้วรสู้ กึ อารมณบ์ จ่ อย ครงั้ หนงึ่ พระผมู้ พี ระภาคประทบั ณ เชตวนาราม ไดต้ รสั แสดงธรรม เพราะไมโ่ ดนใจเรอ่ื งโหงวเฮง้ ไมเ่ ฮงทง้ั รปู รา่ งหนา้ ตาผวิ พรรณ เพศผดิ เพยี้ น วา่ การทีภ่ กิ ษุประกอบด้วยศรทั ธา (ความเชื่อ), ศีล (การรกั ษากายวาจา สมองไม่ปราดเปร่ือง หัวใจอ่อนแอ ภูมิต้านทานต่ำ อายุก็ส้ันจุ๊ดจู๋ ฐานะ ให้เรยี บร้อย), สุตะ (การสดับตรบั ฟงั ), จาคะ (การสละ) และปัญญา หาก ครอบครวั ยงั ตอ้ งกดั กอ้ นเกลอื กนิ ตกระกำลำบาก ไมเ่ ปน็ ทรี่ กั ใครข่ องใคร ๆ ต้ังจิตจะไปเกิดในที่ดี ๆ อย่างไร เม่ืออบรมความคิดหรือเจตนากับ ก็อย่าได้โยนความผิดให้พ่อแม่หรือผู้ใดเลย เพราะทุกสิ่งท่ีติดตัวมาหรือ ธรรมะ (ศรัทธาถึงปัญญา) เป็นเครื่องอยู่ให้มากแล้ว ก็จะเกิดในฐานะ ได้รับต้ังแต่เกิดนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องพลาดพลั้งบังเอิญ ความลำเอียงของ นนั้ ๆ ไดต้ ามปรารถนา ตง้ั แตค่ วามเปน็ กษตั รยิ ม์ หาสาล พราหมณมหาสาล เทวดาฟ้าดิน หรอื ใครยัดเยียดให้สักนิด แต่มาจากเหตปุ จั จัยท่ตี วั เองเป็น (พราหมณ์ผู้มั่งค่ัง) จนถึงเทพ พรหม ทั้งรูปพรหมและอรูปพรหม และ ผ้กู ่อข้นึ ทั้งสิ้น เพราะพฤตกิ รรมทห่ี นกั ไปทางใด ย่อมนำชวี ติ ไปสู่ความ ในทสี่ ุดกถ็ ึงทำอาสวะ * ให้ส้ินได้ คอื นิพพาน ไมต่ อ้ งกลบั มาเกิดอีกแล้ว เปน็ ส่ิงน้ัน น่นั เอง เช่นเดียวกับการปรุงรสอาหาร แบบว่าถ้าใส่พริกเยอะก็ย่อมนำไปสู่ การเลือกเกิดได้ตามปรารถนานี้ ไม่ได้มีการล็อคเสป็ก เฉพาะพระ ความแซบ่ เตมิ นำ้ ตาลแยะรสชาตกิ ต็ อ้ งออกหวาน ทำนำ้ ปลาหกกห็ นไี มพ่ น้ ภิกษุเท่าน้ัน มนุษย์ทุกคนท่ียังมีลมหายใจอย่างเธอและฉัน ก็ล้วนมีสิทธ์ิ เคม็ ปด๊ิ ป๋ี บบี มะนาวเพลนิ กต็ อ้ งเปรยี้ วจด๊ี จา๊ ด หรอื วา่ ถา้ มพี ฤตกิ รรมกนิ เผด็ เท่าเทยี มกนั แตท่ งั้ นตี้ อ้ งเขา้ ใจกอ่ นวา่ “การเลอื กเกดิ ได”้ กบั “การไดเ้ กดิ ไม่บันยะบันยังกระเพาะก็อาจพังได้ หากกินเค็มซ้ำซากก็มีโอกาสความดัน อยา่ งทเ่ี ลอื ก” นน้ั เปน็ คนละเรอ่ื งกนั เลย ไมใ่ ชว่ า่ ทกุ คนจะประสพผลสำเรจ็ โลหิตสงู หนักหวานเจี๊ยบบอ่ ย ๆ กม็ ีหวงั เบาหวานรับประทานได้ เปน็ ต้น เหมือนกันหมดนะเธอ เพราะขึน้ อย่กู ับปจั จัยหลายอย่างดงั ได้กล่าวมาแล้ว ถา้ เราอยากใหผ้ ลออกมาแฮปปด้ี พี รอ้ มไดร้ ะดบั นา่ พอใจ กต็ อ้ งสรา้ ง ฉะนั้น การที่คนส่วนใหญ่ชอบพูดว่า “ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้” จึง เหตทุ ดี่ ใี หส้ มนำ้ สมเนอื้ กนั ดว้ ย เชน่ ถา้ เดก็ คนไหนอยากเกง่ กต็ อ้ งตง้ั ใจเรยี น เปน็ การพดู โดยไมไ่ ดต้ งั้ อยบู่ นพน้ื ฐานของความจรงิ แตเ่ ปน็ เรอ่ื งทพี่ ดู กนั ขยันอ่านหนังสือ หมั่นทำการบ้าน ไม่ใช่เอาแต่เล่นเกม เสพละคร เม้าท์ จนชิน ไดย้ ินกนั จนเชื่อ เสียมากกวา่ มาราธอน นอนไม่เลิก ฯลฯ หรือถ้าใครอยากรวยเหลือล้น ก็ต้องมุ่งมั่น ทำงานทไ่ี ดเ้ งนิ มากและสจุ รติ ใชส้ อยประหยดั เกบ็ หอมรอมรบิ ใหเ้ ยอะเขา้ ไว้ ในชวี ติ ประจำวนั คนเราตงั้ แตแ่ บเบาะจนถงึ วยั ไมใ้ กลฝ้ งั่ กต็ อ้ งเลอื ก เปน็ ต้น * กิเลสที่หมกั หมมหรือดองอยู่ในสันดาน 16 ชีวิตเลอื กเกิดได้ ชีวติ เลือกเกดิ ได้ 17

ก ันตลอดเวลาอยู่แล้ว เช่น เลือกท่ีจะกินหรือไม่กินอะไร กินเพ่ือประโยชน์ 1. ชลาพุชะ สัตว์เกิดในครรภ์ คือ คลอดออกมาเป็นตัว เช่น คน หรือเพ่ือความอร่อย, เลือกทำหรือไม่ทำอะไร, เลือกแต่งตัวอย่างไรเพ่ือให้ โค สุนขั แมว เป็นตน้ เข้ากับบุคลิกของตัวเอง, เลือกจะใช้จ่ายแบบประหยัดหรือฟุ่มเฟือย, เลือก เรียนสาขาใด ทำงานดา้ นไหน ในประเทศใด, จะคบเพือ่ นแบบไหนดี (พวก 2. อัณฑชะ สัตว์เกดิ ในไข่ คอื ออกไขเ่ ปน็ ฟองกอ่ นแลว้ จึงฟกั เปน็ รวยแตง่ ก หรอื ประเภททำงานงก ๆ แตไ่ มร่ วยสกั ท)ี , จะมเี หยา้ มเี รอื นหรอื ตวั เชน่ นก เปด็ ไก่ เปน็ ต้น อยู่คานทองนิเวศน์ดีหว่า ?, เมื่อยามเจ็บป่วย ก็ต้องเลือกวิธีการรักษาว่า จะซอ้ื ยามากนิ เองหรอื ไปพบแพทยด์ นี ะ ?, ถงึ เวลาสนิ้ ลมหายใจ ญาตพิ น่ี อ้ งกย็ งั 3. สังเสทชะ สัตว์เกิดในไคล คือ เกิดในของช้ืนแฉะหมักหมม ตอ้ งเลอื กพธิ กี ารใหอ้ กี วา่ จะเปน็ แบบไหน, วดั ใด, กวี่ นั จงึ จะเหมาะสม เปน็ ตน้ เนา่ เปอ่ื ย ขยายแพรอ่ อกไปเอง เช่น หนอน เป็นตน้ แม้แต่การสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยในสมัยก่อน นักเรียนก็ 4. โอปปาติกะ สัตว์เกิดผุดขึ้น คือ เกิดผุดเต็มตัวในทันใด เช่น สามารถเลือกคณะท่ีต้องการจะเรียนได้ถงึ 6 ลำดับ ถ้าใครทำคะแนนไดถ้ งึ เทวดา สตั ว์นรก เปรต เป็นต้น เกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด ก็จะได้เรียนในคณะท่ีตัวเองเลือก ส่วนใครท่ี ไดค้ ะแนนไมถ่ งึ กต็ ้องไปสมคั รเรียนในมหาวทิ ยาลัยเปดิ แทน และกรรมยังจำแนกสัตว์ให้ไปเกิดในท่ีต่าง ๆ ได้ถงึ 31 ภพภูมิ ซึ่งมีท้ังแดนที่ดี (สุคติภูมิ) ได้แก่ อรูปพรหม 4 ช้ัน, รูปพรหม 16 ช้ัน, ในเมอ่ื ระหวา่ งมชี วี ติ อยู่ เรายงั เลอื กไดถ้ งึ รอ้ ยแปดพนั เกา้ หมนื่ สบิ เทวดา 6 ช้ัน, มนษุ ย์ และแดนทไี่ มด่ ี (ทคุ ติภมู )ิ ไดแ้ ก่ เดรัจฉาน, เปรต, แล้วมเี หตุผลใดละ่ ที่จะเลือกเกดิ ไมไ่ ด้ แต่ละคนท่ีมสี ภาพเปน็ อยูท่ กุ วนั นี้ อสรู กาย, สัตว์นรก กล็ ว้ นมเี หตมุ าจากสงิ่ ทต่ี วั เองเลอื กและกระทำในอดตี ทงั้ นนั้ ดว้ ยหลกั เดยี วกัน ทวี่ า่ ผลทเ่ี กดิ ในวนั หนา้ ขน้ึ อยกู่ บั การกระทำในวนั น้ี ฉะนน้ั เราจะเกดิ เปน็ ประเด็นต่อไปนี้ก็สำคัญ กาดอกจันไว้ได้เลย คือ เรื่องของกรรม อะไรและอยา่ งไรในชาตหิ นา้ กย็ อ่ มขนึ้ อยกู่ บั สง่ิ ทเ่ี ราทำในชาตนิ ้ี เชน่ กนั ขณะใกล้ตาย (อาสันนกรรม) นั้นต้องพึงระวังให้ดี เพราะถ้าลมหายใจ สุดท้าย มีความโลภเป็นใหญ่ ก็อาจได้ไปเกิดเป็นเปรต, ถ้าโกรธมาแรง พระพทุ ธเจ้าท่านตรัสรวู้ า่ การเกดิ ของส่ิงมีชีวติ มอี ยู่ 4 หนทาง จะ ก็มหี วังได้แซงเปน็ สัตวน์ รก หรือถา้ หลงในกาย ใจ สมบตั ิ วา่ เปน็ ตวั เรา เรยี กวา่ กำเนิด 4 หรือ โยนิ 4 ก็ได้ คือ ของเรา ก็ได้ไปเกิดเปน็ สัตว์เดรัจฉาน ชัวรป์ ๊าบ ! 18 ชีวิตเลอื กเกดิ ได้ หลายคนอาจบอกว่า “ฉันไม่เชื่อเร่ืองภพโน้นชาติหน้าหรอก อย่า มาหลอกเสียให้ยากเลย” เฮ้อ ! แล้วถ้าสิ่งท่ีเธอไม่เช่ือ เกิดมีจริงขึ้นมาล่ะ ชีวติ เลอื กเกดิ ได้ 19

เ ธออยากจะเส่ียงเป็นผู้รันทดขัดสนตั้งแต่ร้องอุแว้ ๆ มั้ย ? ...แล้วมันคุ้ม คพฺภเมเก อปุ ปชชฺ นตฺ ิ สัตวบ์ างพวกกลับมาเกิดอกี กันหรือเปล่ากับความด้ือตาใส ประมาทไม่เข้าเร่ือง หากต้องเกิดมาพร้อม นิรย ปาปกมฺมโิ น พวกที่ทำบาป ไปนรก กับโรคประจำตัว ร่างกายพิกลพิการน่ะ ? แบบนี้ก็ไม่ต่างจากคนตาบอดที่ สคฺค สุคติโน ยนตฺ ิ พวกที่ทำดี ไปสวรรค ์ บอกว่าไมม่ ดี วงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ หรอกนะ ! ปรินิพฺพนฺติ อนาสวา ฯ พวกทห่ี มดอาสวกิเลส ปรนิ ิพพาน จักรวาลนี้มีสิ่งลึกลับซับซ้อนมากมายท่ีวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ หากเราจะมัวแตจ่ ำกัดขอบเขตความเชือ่ เฉพาะสิ่งท่มี องเห็น ได้ยิน ไดก้ ลนิ่ ชวี ิตเลอื กเกดิ ได ้ 21 ลิ้มรส กายสัมผัส หรือใช้เคร่ืองมือวัดค่าเป็นตัวเลขได้ โดยไม่ใส่ใจในส่ิงท่ี พระพทุ ธเจา้ ตรสั รู้ กน็ บั วา่ เสยี โอกาสพลาดสง่ิ ดี ๆ ในชวี ติ ไปอยา่ งนา่ เสยี ดาย ไหน ๆ เราส่วนใหญ่ก็ต้องกลับมาเกิดกันอีกเป็นแน่แท้ จึงพึงควร หมายใจไว้สักภพภูมิหนึ่ง แล้วศึกษาคุณสมบัติท่ีจะไปอุบัติในแดนนั้น ให้ถ่องแท้ เร่งสั่งสมพฤติกรรมให้ครบถ้วนไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะถ้า เผลอตัวมัวประมาท ไม่เตรียมตุนบุญบารมีไว้ขณะยังมีโอกาส ถึงเวลา ซี้แหงแก๋ ก็ตอ้ งถกู วบิ ากสง่ ไปในแดนเดือดร้อนแนน่ อน ยงั ไงกข็ อแนะนำวา่ ควรเลอื กภพภมู ทิ สี่ งู ไวก้ อ่ นดกี วา่ แลว้ พากเพยี ร พยายามไปให้ถึงท่ีสุด เผื่อผิดพลาดทำคะแนนไม่ถึงเกณฑ์ จะได้ไม่ต้อง ตกลำดับไประกำลำบากในแดนทคุ ตภิ มู ิไง ! 20 ชีวติ เลือกเกดิ ได้



“ตดั เลยตดั เลย ชบั ! ชบั ! ชบั ! ... ตดั ใหข้ าดเลย ชบั ! ชบั ! ชบั !” เชน่ หายจากโรคภยั ไขเ้ จบ็ จากความทกุ ขร์ อ้ น จากสงิ่ ทเี่ ปน็ อปั มงคล จากการ อาฆาตของเจ้ากรรมนายเวร และการหลอกหลอนของภตู ผีปีศาจ เม่ือไม่กี่ปีมานี้ หากใครไม่เคยได้ยินเพลงฮิตติดชาร์ตชับชับแบบนี้หละก็ อาจโดนเพ่ือนล้อว่าเช้ยเชย มัวแต่ทำอะไรน่ะ ไปอยู่หลังเทือกเขา เมื่อได้ยินข่าวแบบนี้แล้ว ถ้าใครเป็นพวกท่ีมสี ัทธาจริต หนักไปทาง หมิ าลยั มารเึ ธอ ? แตห่ ากเป็นสมัยน้ี ถา้ ใครไมค่ ้นุ หูกบั เรอื่ งพธิ ี “ตดั กรรม” นอ้ มใจเชอื่ กค็ งจะตนื่ เตน้ ลงิ โลดใจ แหไ่ ปรว่ มพธิ จี นแนน่ ขนดั แตส่ ำหรบั ผทู้ ่ี ก็นับวา่ ตกกระแส ไมไ่ ดต้ ดิ ตามขา่ วสารบา้ นเมืองเอาซะเลย เปน็ พุทธจิ รติ หนักไปทางคดิ พิจารณา ก็คงตอ้ งคดิ หนา้ -คิดหลัง คิดบน-ลา่ ง ซา้ ย-ขวา ให้ครบทั้ง 6 ทศิ ไตร่ตรองรอบด้านใหเ้ ห็นถงึ คณุ -โทษ จริง-เท็จ ทีนี้เพ่ือไม่ให้เกิดความคลาดเคลื่อน เผลอคุยกันคนละเร่ือง ฉันจะ ก่อนที่จะเชอ่ื อะไรง่าย ๆ ขอยกข่าวท่ีเกิดข้ึนจริงในแผ่นดินเมืองพุทธท่ีนิยมลัทธิพราหมณ์ มาเล่าให้ ฟงั เรอื่ งหนึ่งก็แล้วกัน เพราะจะตอ้ งใชห้ ลกั ทพี่ ระพทุ ธองคท์ รงแสดงแกช่ าวกาลามะ หมบู่ า้ น เกสปตุ ตยิ นคิ ม แควน้ โกศล หรอื ทเี่ รยี กวา่ กาลามสตู ร 10 ในการพจิ ารณา คอื มสี ถานทเ่ี กา่ แกแ่ หง่ หนงึ่ (จะเปน็ อะไรอยแู่ ถวไหนอยา่ ใหบ้ อกเลยนะ) มคี วามโดดเดน่ มากในเรอ่ื งพธิ ตี ดั กรรม ลอยเคราะห์ ตอ่ โชค เพราะลอื กนั วา่ 1. อย่าเพง่ิ เชื่อตามทฟ่ี ังๆ กันมา เจา้ พธิ ไี ดเ้ รยี นวชิ าอาคมจากเกจอิ าจารยด์ งั และจากตำราพชิ ยั สงครามโบราณ 2. อย่าเพ่งิ เชอ่ื ตามทีท่ ำตอ่ ๆ กันมา สมยั สโุ ขทยั โนน่ ทา่ นกลา่ ววา่ “ปจั จบุ นั ประชาชนมคี วามเชอ่ื วา่ กฎแหง่ กรรม 3. อยา่ เพง่ิ เชื่อตามคำเล่าลือ วิบากกรรมมีจริง แต่จะทำอย่างไรให้กรรมหนักกลายเป็นเบาและจากเบา 4. อยา่ เพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา เป็นไมม่ ีเลย ก็ต้องอาศยั พระคาถาและพิธีกรรมน่แี หละ” (ว่าเขา้ ไปน่นั !) 5. อย่าเพิ่งเชอ่ื โดยนึกเดา 6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา พิธีที่จัดเป็นประจำ ก็เลยต้องมีการสวดเจริญพระพุทธมนต์หลาย 7. อยา่ เพิ่งเชอ่ื โดยนกึ คดิ ตามแนวเหตผุ ล บท แล้วจบลงด้วยการตัดปลายผมของผู้ท่ีเข้าพิธี จากน้ันก็นำไปลอยน้ำ 8. อย่าเพ่ิงเช่ือเพราะถกู กับทฤษฎขี องตน ซึ่งถือเป็นการลอยทุกข์โศกโรคภัย ลอยเสนียดจัญไร ลอยความยากจน 9. อย่าเพง่ิ เชื่อเพราะมีรปู ลกั ษณ์ท่คี วรเชอ่ื ได้ ต่าง ๆ ผู้ท่ีเข้าพิธีส่วนมาก หากใครมีความเชื่อความศรัทธาก็จะสัมฤทธิ์ผล 10. อย่าเพิง่ เช่ือเพราะผพู้ ูดเปน็ ครบู าอาจารยข์ องตน 24 ตัดกรรม ตดั กรรม 25

เพื่อให้สมช่ือว่าเป็นชาวพุทธที่แท้จริง เม่ือได้ข่าวได้ยินอะไรมาก็ ไปประกาศหาเจ้าของแทน อยา่ งน้กี ็เรยี กวา่ เป็นท้งั การ “ตดั กรรมชั่ว” และ อย่าเพ่ิงรีบเชื่อล่ะ ต้องใช้ปัญญาวิเคราะห์ก่อนว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ เช่น “ต่อกรรมด”ี ในคราวเดยี วกันด้วย เร่ืองตัดกรรมน่ะ เค้าทำได้จริงชับชับเหมือนเพลงท่ีร้องกันหรือเปล่า ? ถ้า ใครอยากรกู้ ็ขยบั เข้ามาใกล้ ๆ ฉนั จะไดฟ้ นั ธงโชะโชะ วิเคราะห์ไปพรอ้ มกนั สว่ นเรอื่ งตดั ผลการกระทำละ่ มใี ครทำไดม้ ยั้ ? กอ่ นจะรบี ดว่ นสรปุ เลยทีเดียว ฉันขอนำพุทธศาสนสุภาษิตมาเรียนให้ทราบก่อนดีกว่า ท่านว่า “กมฺมุนา วตตฺ ตี โลโก สตั วโ์ ลกย่อมเป็นไปตามกรรม” และในบทสวดมนตท์ ำวัตร คำว่า “ตดั กรรม” ตามข่าวท่ยี กมานะ่ สามารถตีความได้ 2 ทางนะ เชา้ ก็มปี ระโยคทวี่ า่ “เรามกี รรมเปน็ ของตน มีกรรมเปน็ ผใู้ หผ้ ล มีกรรม เธอ คือ... เป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผตู้ ิดตาม มกี รรมเปน็ ทีพ่ ง่ึ อาศัย เราทำกรรม อันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป เราจะเป็นทายาท คือจะต้องได้รับผล 1. ตัดการกระทำ (กรรม) ของกรรมนนั้ ๆ สืบไป” 2. ตัดผลการกระทำ (วบิ าก) ถ้าเป็นเร่ืองตัดการกระทำนะ ฉันว่าไม่ต้องไปทำพิธีกลพิธีกรรมให้ เม่ือเป็นเช่นน้ี คงพอจะมองกันออกแล้วว่า เร่ืองตัดผลการกระทำ เสียเวลาเงินทองหรอก เพราะเธอกับฉันก็ตัดกันเองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ ด้วยพิธกี รรมตา่ ง ๆ น้ัน ข้ีฮกเบเ้ บ๊ ขีจ้ ตุ๊ าลาลา เปน็ ไปไม่ไดเ้ ลย เพราะเรา ของมีคม หรือวิชาอาคมใด ๆ เลย เนื่องจากเป็นการตัดทตี่ ้นสายไม่ใช่ ทุกคนต่างก็เป็นทายาทของกรรม ผู้ใดผูกผู้น้ันก็ต้องเป็นคนแก้ ใครทำก็ ปลายเหตุ เช่น ถ้าเราอยากจะด่าใครสักคนที่ทำไม่ดีกับเรา แต่เกิดมีสติ ต้องรับผลเอง และเม่ือกระบวนการกรรมเริ่มทำงานแล้ว ไม่มีใครสามารถ คิดได้ก่อนว่า เขาทำไม่ดีก็เป็นกรรมของเขา ด่าไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร หยดุ ยงั้ ไดห้ รอก แถมเปลืองนำ้ ลายเปล่า ๆ กเ็ ลยระงบั อารมณ์สงบปากสงบคำไว้ได้ แบบน้ี กเ็ รียกว่า “ตัดกรรม” แล้ว หากจะอธบิ ายใหเ้ หน็ ภาพชดั ๆ เหมอื นภาพยนตรส์ ารคดแี ลว้ กค็ อื หรือหากฉันไปเห็นกระเป๋าสตางค์ของใครไม่รู้ หล่นอยู่ในห้องน้ำ คนทำกรรมเปรียบเหมือนเนื้อทราย (กวางชนิดหนึ่ง) ท่ีกำลังถูกไฮยีนา แลว้ เกดิ ความโลภอยากเกบ็ ตกมาเปน็ ของตวั เอง แตฉ่ บั พลนั ทนั ใดกค็ ดิ ไดว้ า่ (สตั ว์กนิ เนื้อตระกูลหมาใน) ฝูงหนึ่งไล่ล่า ซงึ่ ก็คือวบิ ากทตี่ ดิ ตามมานบั ครง้ั ถา้ หากยดึ มาเปน็ ของเรา คนทเ่ี ขาทำหลน่ ไวค้ งตอ้ งเดอื ดรอ้ นแน่ เลยเปลยี่ นใจ นับภพชาติไม่ถ้วน น่ันเอง คราวใดท่ีเราทำความดี ก็เหมือนเนื้อทราย กำลงั วง่ิ หนไี ฮยนี า ยง่ิ ทำดมี าก กย็ งิ่ อยหู่ า่ งไกลจากการโดนขยำ้ มากไปดว้ ย 26 ตดั กรรม ตัดกรรม 27

แต่ถ้าทำความช่ัว ก็เหมือนเป็นการวิ่งหลงทางเข้าไปหาไฮยีนา ยิ่งถ้า นงั่ จบั เขา่ สมุ หวั ซเู อย๋ี เกย้ี เซยี้ ะ เพอื่ ประโยชนต์ วั เองพวกพอ้ งกไ็ มไ่ ด้ เนอื่ งจาก เผลอทำบอ่ ย ๆ แลว้ กเ็ ทา่ กบั เปน็ การเรง่ เวลาหาทตี่ าย โดนเขมอื บรวดเรว็ ขน้ึ เปน็ ไปตามเหตปุ ัจจัย หรือทพ่ี ระท่านเรียกตถตา เป็นเชน่ นั้นเอง เทา่ น้นั เอง ซึ่งกฎที่ว่านี้มีอยู่ 5 ประเภท เรียกนิยาม 5 (กำหนดอันแน่นอน, ทกุ สิง่ ที่เราคดิ พูด ทำ (มโนกรรม วจกี รรม กายกรรม) ทง้ั ดีและรา้ ย ความเป็นไปอันมีระเบยี บแนน่ อนของธรรมชาต)ิ ได้แก่ จะตอ้ งมผี ลสะทอ้ นกลบั มายงั ตวั เราเสมอ ไมว่ นั ใดเวลาหนง่ึ กภ็ พใดชาตหิ นง่ึ อย่างแน่นอน คำสอนทางพุทธศาสนาน้ัน ไม่เคยมีสักครั้งท่ีกล่าวว่า 1. อตุ นุ ยิ าม กฎธรรมชาตทิ เ่ี กยี่ วกบั อณุ หภมู ิ ปรากฏการณธ์ รรมชาติ เมื่อทำกรรมแลว้ จะสามารถพน้ วบิ ากไดด้ ว้ ยพธิ ีตดั กรรม แกก้ รรม ลา้ งกรรม ตา่ ง ๆ โดยเฉพาะดนิ นำ้ อากาศ และฤดกู าล อนั เปน็ สง่ิ แวดลอ้ มสำหรับ หรือ ลอยกรรม เพราะถ้าพธิ ีเหล่านัน้ ได้ผลแลว้ ทกุ วันนีก้ ค็ งไม่มีคนยากจน มนุษย์หรือวัตถุท่ีไม่มีชีวิตทุกชนิด ซ่ึงเมื่อมีเหตุปัจจัยเพียงพอก็จะเกิดข้ึน เจ็บป่วย ประสบอุบตั ิเหตุ พิการ อายุส้ัน นกั โทษตดิ คุก นักการเมืองหนีคดี โดยธรรมชาติของมันเอง ไม่มีใครเป็นผู้กำหนดหรือห้ามได้ “อะไรจะเกิด ฯลฯ เป็นแน่ กต็ ้องเกดิ ” (Que sera sera... Whatever Will Be Will Be) เช่น การท่ฝี น จะตก ก็ต้องมีเหตุปัจจัยเพียงพอให้เกิด ซ่ึงได้แก่ การระเหยของน้ำบนดิน หรือถ้าล้างบาปกรรมได้จริง น้ำในแม่น้ำคงคาที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธ์ิ การรวมตัวของก้อนเมฆ การเกิดลมพดั การกระทบกบั ความเยน็ เป็นต้น กค็ งจะถกู นำมาบรรจใุ สข่ วด จำหนา่ ยในราคาแพงกวา่ ทองคำเพชรนลิ จนิ ดา เสยี อกี และพวกกุง้ หอย ปู ปลา นาก กบ เตา่ ตะกวด ตัวซิลเวอรต์ วั โกลด์ 2. พีชนิยาม กฎธรรมชาติท่ีครอบคลุมความเป็นไปของส่ิงมีชีวิต ฯลฯ ในแมน่ ำ้ กค็ งไดไ้ ปเกดิ บนสวรรค์ เปน็ เทวดาสบายใจเฉบิ กวา่ พวกเดนิ ดนิ ท้ังพืชและสัตว์ เกี่ยวกับการสืบพันธุ์ เช่น เมื่อเรานำเมล็ดข้าวเปลือก กนิ ข้าวแกงอย่างเรา ๆ แล้ว จรงิ ม้ยั ? ไปเพาะ ต้นท่ีงอกออกมาจะต้องเป็นต้นข้าวเสมอ หรือ ม้าเมื่อออกลูกมา แล้วยอ่ มเปน็ ลูกม้าเสมอ ไม่มีทางเปน็ หมาได้เลย เร่ืองกฎแห่งกรรมน้ัน มั่นคงตรงเผงยิ่งกว่ากฎเหล็กกฎหลอกของ รัฐบาลเหลาะแหละ ชนิดท่ีเรียกว่าห่างช้ันเอามาเทียบกันไม่ได้เลย เพราะ 3. จิตตนิยาม กฎธรรมชาติท่ีเกี่ยวกับกลไกการทำงานของจิต เป็นกฎธรรมชาติตายตัวท่ีไม่ได้ถูกตั้งข้ึนโดยใครหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จะมา กระบวนการของความคดิ ซงึ่ จติ มกี ฎเกณฑใ์ นการทำงานและแสดงพฤตกิ รรม เปน็ แบบฉบบั เฉพาะตวั เชน่ ควบคมุ ยาก เปลย่ี นแปลงเรว็ เกดิ ดบั ตลอดเวลา 28 ตดั กรรม เป็นตน้ ตัดกรรม 29

4. กรรมนิยาม กฎธรรมชาติเก่ียวกับการกระทำของส่ิงมีชีวิต 2. อุปตั ถมั ภกกรรม กรรมสนบั สนนุ ในทางทีด่ ีข้นึ หรอื ทำใหแ้ ย่ลง คือกระบวนการให้ผลของการกระทำ เช่น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ช่ัว ไม่มีใคร ก็ได้ เช่น เกิดมาเป็นลูกคนรวย แถมยังหน้าตาหล่ออีกแน่ะ หรือเป็น รบั กรรมแทนใครหรอื ตัดกรรมใหใ้ ครได้ เป็นต้น นกั การเมอื งทผ่ี คู้ นเอือมระอาแล้ว ยังมลี กู เปน็ อนั ธพาลอกี ตา่ งหาก 5. ธรรมนยิ าม กฎธรรมชาตทิ ่ีเกย่ี วกับความสัมพันธ์ และอาการ 3. อุปปฬี กกรรม กรรมบบี ค้ัน ใหแ้ ปรเปลยี่ น เชน่ กำลงั ปว่ ยหนัก ทเี่ ปน็ เหตเุ ปน็ ผลกนั แหง่ สง่ิ ทง้ั หลาย เปน็ กฎสากลทคี่ รอบคลมุ ความเปน็ ไป ก็มหี มอเก่งมาช่วยรักษา หรอื เปน็ รัฐมนตรอี ยดู่ ี ๆ กต็ อ้ งถูกบบี ใหล้ าออก ทง้ั ฝา่ ยจติ และฝา่ ยวตั ถุ กฎขอ้ นมี้ ขี อบเขตครอบคลมุ กวา้ งขวางทสี่ ดุ (กฎ 4 ขอ้ เพราะมขี า่ วการทุจริต ข้างต้น ก็สรุปรวมลงในข้อนี้) อันได้แก่กฎไตรลักษณ์ท้ัง 3 คือ อนิจจัง ทกุ ขงั อนัตตา 4. อุปฆาตกรรม กรรมตัดรอนให้ขาดไป เช่น เกิดในตระกูลสูง ม่งั คง่ั แต่อายสุ นั้ หรือ กำลังเปน็ ดาวร่งุ พุ่งแรง แต่ตอ้ งมาประสบอุบัตเิ หตุ ณ ทนี่ ้ี ฉนั ขอเจาะลกึ เฉพาะเรอ่ื งกรรมนยิ ามกแ็ ลว้ กนั ซง่ึ กฎแหง่ กรรม เสียชวี ิต เป็นตน้ นี้จำแนกการให้ผลได้ 3 หมวดคือ 1. ตามเวลา 2. ตามหน้าท่ี และ 3. ตามลำดบั จำแนกการให้ผลตามลำดบั ดังนี้ 1. ครกุ กรรม กรรมหนกั ให้ผลกอ่ น ได้แก่ อนันตรยิ กรรม 5 คือ ถา้ จะจำแนกการใหผ้ ลตามเวลา กแ็ บง่ ได้เป็น ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา ฆ่าพระอรหนั ต์ ทำร้ายพระพทุ ธเจ้าถึงข้ันหอ้ พระโลหิต 1. ทฏิ ฐธรรมเวทนยี กรรม กรรมให้ผลในชาตนิ ้ี และ ทำสงฆใ์ หแ้ ตกแยก 2. อปุ ปัชชเวทนียกรรม กรรมให้ผลในชาติหนา้ 2. พหุลกรรมหรืออาจิณณกรรม กรรมที่ทำบ่อยจนเคยชิน ให้ 3. อปราปรยิ เวทนียกรรม กรรมใหผ้ ลในชาติตอ่ ๆ ไป ผลถัดมา เช่น คนท่ีชอบทำผิดกฎหมายบ่อย ๆ วันหน่ึงก็ต้องถูกจับตัว 4. อโหสกิ รรม กรรมเลกิ ใหผ้ ล ไมม่ ผี ลอกี ไดแ้ ก่ พระอรหนั ตผ์ เู้ ขา้ ถงึ มาลงโทษจนได้ หรือ คนท่ีพูดโกหกจนเคยชิน อีกไม่นานก็ไม่มีใครเชื่อถือ นพิ พาน กไ็ มต่ อ้ งรบั ผลกรรมอกี ต่อไป และตัวเองกย็ ังหลงเชอื่ คำโกหกนัน้ วา่ เปน็ จริงด้วย จำแนกการให้ผลตามหนา้ ท่ี แบง่ ได้เปน็ 3. อาสนั นกรรม กรรมขณะใกล้ตาย ถา้ กำลงั จวนเจียนตายนกึ ถงึ 1. ชนกกรรม กรรมนำไปเกิด ในภพภมู ิต่าง ๆ เร่ืองกุศล ก็ได้ไปเกิดแดนสุคติภูมิ เป็นเทวดา มนุษย์ แต่ถ้าเผลอไปนึกถึง เรอ่ื งอกศุ ลเขา้ กต็ อ้ งไปเกดิ ในแดนทคุ ตภิ มู ิ เปน็ สตั วเ์ ดรจั ฉาน เปรต อสรู กาย 30 ตดั กรรม สัตวน์ รก แลว้ ก็ตอ้ งไปรับผลกรรมอน่ื ๆ ในภพนนั้ ต่อไป ตัดกรรม 31

4. กตตั ตากรรมหรอื กตตั ตาวาปนกรรม กรรมสกั วา่ ทำ คอื ทำดว้ ย ขนาดกรรมที่ทำโดยมิได้เจตนา เช่น เผลอขับรถชนคน ยังต้องรับ เจตนาออ่ นหรอื มไิ ดเ้ จตนาอยา่ งนนั้ โดยตรง ตอ่ เมอ่ื ไมม่ กี รรมอื่นให้ผลแล้ว ผลกรรม เปน็ คดีความ ชดใชค้ า่ เสยี หายใหก้ ับผไู้ ดร้ บั บาดเจ็บเลย แลว้ สง่ิ ท่ี กรรมน้ีจงึ ใหผ้ ล ทำดว้ ยเจตนา จะไปตดั กรรมไมใ่ ห้ตอ้ งรับผลไดอ้ ยา่ งไร ? เม่ือรู้อย่างนี้แล้ว ใครท่ีเคยสงสัยว่า ทำไมฉันทำดีไม่เห็นได้ดีเลย ถา้ อยากตดั จริง ๆ ฉนั ขอแนะนำให้ ตัดไฟแตต่ น้ ลม ตัดทต่ี ้นเหตุ แต่คนทำชั่วทำไมกลับได้ดีจัง ? ก็คงจะหายข้องใจ กระจ่างใสกันคราวนี้ ต้นตอ เช่น ตัดใจไม่ทำชั่ว ตัดอาลัยอาวรณ์ในส่ิงท่ีพลัดพรากสูญเสีย แหละนะ วา่ มันมตี วั แปรเยอะแยะ เชน่ กรรมแตล่ ะอย่างก็มสี ปีดไมเ่ ทา่ กัน ตดั เยื่อใยกับคนไมม่ ีศลี ธรรม ตดั ญาตขิ าดมติ รกเิ ลสโลภโกรธหลง ตัด กรรมเบากต็ อ้ งยอมใหก้ รรมหนกั แซงหนา้ ไปกอ่ น แถมยงั มที ง้ั กรรมประเภท หางปลอ่ ยวัดความงมงาย ให้หมดส้นิ ดกี ว่า หนนุ หลงั ขดั แขง้ ขดั ขาอกี ตา่ งหาก จงึ ทำใหบ้ างครงั้ การทำดเี หน็ ผลชา้ การทำชว่ั กลับไดผ้ ลเรว็ บ้าง กเ็ ป็นเรอื่ งธรรมดา กบั พธิ หี งายบาตร กค็ อื กนั จะไปชว่ ยอะไรใครได้ เพราะบาตรเคา้ มไี ว้ ให้พุทธศาสนิกชนถวายอาหารให้พระฉันเท่านั้น ถ้าพระไม่หงายบาตรก็คง จนปา่ นนป้ี นู น้ี ถา้ ใครยงั เชอ่ื วา่ ทำกรรมแลว้ จะสามารถทำพธิ ตี ดั กรรม จะผอมแห้งแรงน้อย ไม่มีกำลังปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพาน ให้รอดพ้นจากบ่วงกรรมได้อีกละก็ ฉันอยากให้ลองเอามีดมาตัดเค้กดูซิว่า เปน็ แน่แท้ ตดั แลว้ เคก้ จะหายไปมยั้ ? แนห่ ละวา่ นอกจากจะไมห่ ายแลว้ เคก้ ยงั แบง่ เปน็ 2 ส่วนด้วย ถ้าตัด 2 ครั้งก็ได้เค้ก 4 ช้ิน ยิ่งตัดมากครั้งเท่าไหร่ ก็ย่ิงเพ่ิม สำหรับผูท้ ท่ี ำพธิ ตี ัดกรรม-หงายบาตร นน้ั นอกจากจะชว่ ยตดั อะไร จำนวนขึน้ เปน็ ทวคี ณู ตามไปดว้ ย ให้ใครไม่ได้แล้ว ยังเป็นการต่อกรรมให้ตัวเองอีกด้วย เพราะถือเป็นพวก 18 มงกุฎหลอกลวงต้มต๋นุ แสร้งทำเป็นมอี ิทธฤิ ทธิ์ฝนื กฎธรรมชาติ ซึ่งเปน็ ไมว่ า่ จะตดั กระดาษ ตดั รบิ บน้ิ ตดั ผม ตดั กง่ิ ไม้ ฯลฯ ทค่ี นเรามองเหน็ ไปไม่ได้เลย ด้วยตาเปล่า ก็ไม่ช่วยให้ส่ิงนั้นหายไปเลย มีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้น แล้วไหง ถงึ ไดไ้ ปหลงเชอ่ื เรอ่ื งการทอ่ งคาถาอาคมตดั สงิ่ ทมี่ องไมเ่ หน็ จะทำใหผ้ ลกรรม ตดั กรรม 33 หายไปไดล้ ่ะ ? เฮอ้ ! ขอถอนหายใจยาว ๆ ทีหนึง่ นะ 32 ตัดกรรม

ไม่ว่าจะหงายจาน ชาม กะละมัง ไห โอ่ง อ่าง ก็สู้หงายกะลา อ๊บอ๊บ เปิดโลกทัศน์ให้ตาสว่างไม่ได้หรอก เพราะถ้าหากขยันทำช่ัว ด้วย ความเชอื่ วา่ การตดั การหงายจะชว่ ยใหพ้ น้ วบิ ากไดล้ ะก็ เมอื่ ตอ้ งมอี นั เปน็ ไป หงายหลังตึงกะทันหัน อาจได้ลงกระทะทองแดงท่ีท่านยมบาลหงายรอท่า ไว้แล้วก็ได้ ถึงเวลาน้ันรับรองต้องเนื้อเดือด เอ๊ยเดือดเนื้อร้อนกายร้อนใจ แน่นอนลา้ นเปอร์เซน็ ตเ์ ลยเชียว เอ้า ! ถา้ หายงงงวยงมงายแล้ว กร็ อ้ งพรอ้ มกันเลยนะ 3...2...1 “ตดั ตน้ เหตเุ ลย ชบั ! ชบั ! ชบั ! ... ตดั ตน้ ตอเลย ชบั ! ชบั ! ชบั !” น อนตฺ ลกิ ฺเข น สมทุ ฺทมชฺเฌ ไม่ว่าบนท้องฟา้ ไมว่ ่าทา่ มกลางสมทุ ร น ปพฺพตาน วิวร ปวิสฺส ไม่วา่ ในหุบเขา น วชิ ฺชตี โส ชคตปิ ปฺ เทโส ไม่มีแมแ้ ตแ่ ห่งเดียว ยตฺรฏฺโิ ต มุ เฺ จยฺย ปาปกมฺมาติ ฯ ทีผ่ ทู้ ำกรรมชวั่ อาศยั อยู่ จะหนพี น้ กรรมไปได ้ 34 ตดั กรรม ตดั กรรม 35



โ ดยกาลยืดยาวชา้ นานเกินกวา่ จะระบเุ ปน็ ตัวเลขได้ ในครัง้ นัน้ บนผืนดิน บา้ ง แลว้ กพ็ ูดวา่ “อยา่ งน้กี ็ดเี หมือนกนั นะท่านผเู้ จริญ” มีข้าวสาลีเกิดขึ้นในท่ีไม่ต้องไถ มีเมล็ดเป็นข้าวสุก ไม่มีเปลือกรำ เมอื่ สตั วท์ ง้ั หลายแหก่ กั ตนุ ขา้ วสาลกี นั เกนิ ขนาด ขา้ วสกุ จงึ งอกทดแทน ขาวสะอาดและกลนิ่ หอม เมอื่ เหลา่ สตั วผ์ เู้ จรญิ ตอ้ งการกนิ ขา้ วสาลใี นยามเชา้ ก็จะไปเก็บมาในปริมาณที่พอดี เมล็ดข้าวสุกใหม่ก็จะงอกขึ้นมาแทนที่ ไม่ทัน และต่อมาได้กลายพันธ์ุเป็นข้าวสารที่มีเปลือกหุ้มเมล็ดข้ึนมาแทน ในตอนเย็น และจะมีผู้ไปเก็บมากินอีกหน สัตว์เหล่าน้ันก็ดำรงชีวิตมาได้ เหมอื นทกุ วนั น้ี นบั แตน่ นั้ กไ็ มม่ ขี า้ วสกุ ทง่ี อกจากตน้ ใหเ้ หลา่ สตั วไ์ ดก้ นิ แบบ ส้ินกาลเนนิ่ นาน สำเรจ็ รปู โดยไมต่ ้องหุงต้มกนั อีกเลย... หลงั จากได้บรโิ ภคขา้ วสาลีเป็นประจำ พวกสัตว์จึงมรี ่างกายแขง็ แรง ความจริงแล้ว เร่ืองราวจากพระไตรปิฎก ท่ีฉันหยิบยกมาเล่าน้ียังมี ผิวพรรณแตกต่างกัน และปรากฏเป็นเพศชาย-หญิงขึ้น นัยว่าบุรุษก็เพ่งดู อีกยืดยาว แต่จะขอหยุดไวเ้ พียงเท่าน้ีเพื่อชี้ให้เห็นว่า ในอดีตกาลน้ัน การ สตรี สตรกี ็เพ่งมองบุรุษ เม่ือตาตอ้ งตา ใจตอ้ งใจ กป็ งิ๊ ๆ เกดิ ความกำหนดั รเิ รม่ิ เกบ็ สะสมของเหลา่ สตั วผ์ หู้ ลงตวั วา่ เจรญิ นน้ั มคี วามกำหนดั เกยี จครา้ น เรา่ รอ้ นข้ึนเป็นธรรมดา และแลว้ การร่วมประเวณีจึงเปน็ สิ่งท่ีตามมา เปน็ เหตหุ ลกั ซง่ึ แตกตา่ งจากปจั จบุ นั ทมี่ กั เกดิ จากความโลภวติ กเปน็ สว่ นใหญ่ และปริมาณการเก็บสะสมก็ต่างกันลิบลับ ไม่เพียงแค่ข้าวเพื่อใช้บริโภคใน ก็ในสมัยนั้นแล ยังไม่มีโรงแรมม่านรูด หากผู้ใดเห็นผู้อ่ืนแสดงภาพ 4 วัน 8 วันเท่าน้ัน แต่เป็นสารพัดส่ิงของ ทั้งจำเป็นฟุ่มเฟือยก็เหมาเรียบ อจุ าดบาดตา ก็จะโปรยฝนุ่ ข้เี ถ้ามลู โคใส่ พร้อมกับด่าว่าสาปแช่งใหฉ้ บิ หาย เกบ็ หมด ตง้ั แต่ สากตำครกอา่ งศิลายนั เรือรบรุ่นโบราณโนน่ แนะ่ ! ดว้ ยความขดั ขอ้ งใจวา่ “ทำไมสตั วจ์ งึ ทำกบั สตั วเ์ ชน่ นเ้ี ลา่ ?” ทำใหพ้ วกเหลา่ นนั้ เขา้ หมคู่ ณะไมไ่ ด้ จงึ พยายามสรา้ งบา้ นเรอื นขน้ึ มาเพอื่ เปน็ ทกี่ ำบงั สายตาผอู้ น่ื จริงอยู่ที่คนเราต้องรู้จักเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เผื่อใช้ในอนาคต บ้าง เพราะอาจเกิดความไม่แน่นอน หรือส่ิงไม่คาดฝันขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ เมอ่ื มบี า้ นชอ่ งหอ้ งหอพรอ้ มสรรพ สตั วผ์ หู้ นงึ่ ก็เกดิ ความเกยี จครา้ น แต่คิดถี่ถ้วนรอบคอบแล้วหรือ ที่จะมุ่งสะสมเฉพาะทรัพย์สินเงินทอง ขน้ึ จงึ คดิ พลกิ แพลงวา่ นา่ จะไปเกบ็ ขา้ วสาลมี าตนุ ไวท้ ลี ะมาก ๆ ในคราวเดยี ว ส่ิงของนอกกายเพียงด้านเดียว โดยละเลยเร่ืองทรัพย์ภายในท่ีเรียกว่า จะได้บริโภคตั้งแต่เช้าถึงเย็น ไม่ต้องเสียเวลาไปเก็บบ่อย ๆ จากน้ันมาก็มี “อริยทรัพย์” ซ่ึงประเสริฐแท้จริงกว่า เพราะไม่ว่าโจรหรือใคร ๆ ก็แย่งชิง ผู้เห็นดีเห็นงามเออออห่อหมก (ใบยอ) ด้วย จึงพากันเลียนแบบจนเป็น ไมไ่ ด้ ตกนำ้ ไมไ่ หล ตกไฟไม่ไหม้ แถมยังเปน็ ทุนสรา้ งทรพั ย์ภายนอก และ กระแสนยิ ม เกบ็ ตุนขา้ วสาลเี พม่ิ จาก 2 มือ้ เปน็ 2 วนั ไปจนถงึ 4 วนั 8 วัน นำติดตัวขา้ มภพชาตไิ ปไดด้ ้วย 38 เผ่ือเหลือเผือ่ ขาด เผื่อเหลือเผื่อขาด 39

หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า โลกเราจะมที รัพย์มหัศจรรย์อย่าง 7. ปญั ญา ความรเู้ ขา้ ใจหยง่ั แยกไดใ้ นเหตผุ ล ดชี ว่ั คณุ โทษ ประโยชน์ น้ีด้วย และทรัพย์ที่ว่าก็มีให้เลือกถึง 7 แบบ หากใครสนใจจะพกไว้เป็น มใิ ชป่ ระโยชน์ ซงึ่ มี 3 ระดบั คอื ปญั ญาเกดิ จากการสดบั การเลา่ เรยี น, ปญั ญา สมบัติส่วนตวั บ้าง ฉันกข็ อแนะนำใหส้ ะสมครบเซ็ทเลยดีกว่า ซ่งึ มีดงั น้คี อื ... เกดิ จากการพจิ ารณาหาเหตผุ ล และ ปญั ญาเกดิ จากการฝกึ อบรมลงมอื ปฏิบตั ิ 1. ศรัทธา ความเช่ือมั่นในส่ิงที่ดีงาม เช่น เช่ือเร่ืองกรรม, เชื่อว่า อรยิ ทรพั ยท์ ง้ั 7 นบั วา่ เปน็ สมบตั ทิ นี่ า่ สะสมอยา่ งยงิ่ เพราะไมไ่ ด้ ผลของกรรมมีจริง, เช่ือว่าสัตว์มีกรรมเป็นของของตน จะต้องรับผิดชอบ ทำให้เสียเวลาหรือเพิ่มภาระในการดำเนินชีวิตเลย ไม่ต้องระวังรักษา เสวยวิบากเป็นไปตามกรรมของตน, เช่ือความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าท่ีทรง หาท่ีเก็บซ่อน พกพาไปไหนได้ตลอดเหมือนเป็นเงาตามตัว นำไปสู่ แสดงให้เห็นว่า มนุษย์หากฝึกตนด้วยดี ก็สามารถเข้าถึงภูมิธรรมสูงสุด ความสขุ ความเจรญิ และทส่ี ำคญั สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การหาทรพั ยภ์ ายนอก บรสิ ทุ ธิห์ ลดุ พ้นได้ ดังท่พี ระองค์ทรงบำเพ็ญไวเ้ ปน็ แบบอยา่ งแล้ว ให้ดำเนินสะดวกยิ่งข้นึ ดว้ ย 2. ศลี ขอ้ ปฏบิ ตั สิ ำหรบั ควบคมุ กายและวาจา ใหต้ ง้ั อยใู่ นความดงี าม จะมีก็เพียงเรื่องจาคะ การสละแบ่งปัน เท่าน้ัน ท่ีอาจทำให้คน คอื เวน้ จากการฆา่ การประทษุ รา้ ยกนั , เวน้ จากการลกั โกง ละเมดิ กรรมสทิ ธิ์ ตระหน่ีชนิดกาละแมเรียกพ่ี หมากฝรั่งเรียกเพื่อน รู้สึกว่าทำยากลำบากใจ ทำลายทรพั ยส์ นิ ของผอู้ น่ื , เวน้ จากการประพฤตผิ ดิ ในกาม, เวน้ จากการพดู เทจ็ เหลอื เกนิ แตห่ ากไดล้ องสกั ครง้ั สองครง้ั กจ็ ะรวู้ า่ เปน็ เรอ่ื งงา่ ยยง่ิ กวา่ ยน่ื ปาก โกหก หลอกลวง, เวน้ จากการดมื่ สรุ าของมนึ เมา สิ่งเสพตดิ ให้โทษทง้ั หลาย งับกล้วยเสียอีก และอาจทำให้ได้พบปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส มาก่อนก็ได้ว่า การเป็น “ผู้ให้” น้ันสร้างความสุขทางใจได้ไม่แพ้การเป็น 3. หิริ ละอายต่อการทำความช่ัว (รวมถึงความชั่วทางวาจาและใจ “ผู้รับ” แถมบ่อยคร้ังยังรู้สึกเบาสบายปีติย่ิงกว่าด้วย หากเรื่องน้ีใครไม่เชื่อ ดว้ ยนะ) ก็ตอ้ งพสิ ูจน์ด้วยตัวเองนะ ! 4. โอตตัปปะ ความกลัวบาป กลัวอกุศลกรรมที่ส่งให้ถึงความ ก็ในเมอื่ มีแต่ไดก้ ับได้ ปิดประตูเสียทกุ บานแล้ว ผ้มู ปี ญั ญากค็ วรรบี เดือดร้อน เสื่อมลง เลวลง หันมาให้ความสำคัญ เร่งสะสมทรัพย์ภายในเหล่านี้กันได้แล้ว นับตั้งแต่ วินาทีนี้เลยย่ิงดีใหญ่ เพราะหากรอให้เสียเวลาเนิ่นนาน จะเหมือนปล่อย 5. พาหสุ จั จะ ความเป็นผู้ได้ยนิ ไดฟ้ งั ได้เรยี นร้มู าก (รู้ในสิ่งทเ่ี ปน็ โอกาสทองใหห้ ลุดลอยไป ประโยชน์ต่อการพฒั นาตัวตนจติ ใจนะ ไม่ใช่ความรู้ทว่ มหัว เอาตวั ไมร่ อด) เผ่ือเหลอื เผือ่ ขาด 41 6. จาคะ การสละ, การให้ปัน, การสละกิเลส แบ่งปันในสิ่งท่ีเป็น ประโยชน์ต่อผู้อื่น เช่น ทรัพย์สินเงินทอง วัตถุส่ิงของ วิชาความรู้ ลดละ เลิกในส่ิงที่ทำให้ใจเศร้าหมองขุ่นมัว เช่น ความโลภ โกรธ หลง ตัณหา ราคะ เปน็ ตน้ 40 เผื่อเหลอื เผอื่ ขาด

หากเปรยี บให้เห็นชัด ๆ ชีวิตของเราแตล่ ะคนตัง้ แตเ่ กดิ ก็เหมอื นมี ในทางตรงกนั ขา้ ม อรยิ ทรพั ยท์ ง้ั 7 ทเ่ี ปน็ เหมอื นบตั รเครดติ แตไ่ มต่ อ้ ง กระปุกออมสนิ ตดิ ตัวมาคนละ 2 ใบ หนงึ่ เพอื่ ใช้สะสมทรพั ยภ์ ายนอก และ รูดปื๊ด ๆ และไม่จำกัดวงเงิน เพราะตีเป็นมูลค่าไม่ได้ ซึ่งเป็นต้นทุนในภพ อีกหนึ่งสำหรับทรัพย์ภายใน แต่คนส่วนใหญ่มักจะมุ่งเก็บตุนเฉพาะทรัพย์ ชาติหน้าได้ ที่ยังขาดแคลนว่างโหว่อยู่น่ะ กลับละเลยไม่สะสมกัน... มันก็ ภายนอกจนลน้ ทะลกั กระปกุ แตก เปน็ เหตใุ หว้ ถิ ชี วี ติ วนุ่ วายอตุ ลดุ ซง่ึ ตรงขา้ ม แปลกดเี นอะ ! กับเจ้าชายสิทธัตถะ ท่ีพระองค์มีทรัพย์ภายนอกล้นกระปุกมาต้ังแต่ประสูติ แตก่ ลบั ทรงสละทงิ้ ทงั้ หมดโดยไมเ่ หลอื เยอ่ื ใย แลว้ หนั มาสะสมทรพั ยภ์ ายใน ฉันขอย้ำตะเข็บอีกรอบว่า สิ่งที่เราชาวโลภชาวเรามุ่งม่ันมีไว้ แทน จนเตม็ กระปกุ อีกใบ ได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสมั พุทธเจา้ ในท่สี ุด ครอบครอง เพ่อื ใหเ้ กิดความสขุ สนกุ สนาน เชน่ อาหาร เคร่อื งน่งุ ห่ม ทอี่ ยู่ อาศยั เงนิ ทอง รถยนต์ เฟอร์นเิ จอรเ์ คล่อื นท่ี ทง้ั หลายนั้น จำกดั การใหผ้ ล โอ้ ! อยา่ ไดค้ ดิ ไปไกลขนาดนน้ั เลย ฉนั ไมไ่ ดต้ อ้ งการใหท้ กุ คนบนโลก ส้ินสุดเพียงชาติน้ีชาติเดียวเท่านั้นนะ เกิดชาติหน้าถ้ายังโชคดีได้เป็นสัตว์ กระทำเหมือนพระพุทธองค์เพื่อมุ่งสู่การตรัสรู้หรอกนะ ขอเพียงแค่รู้ตาม ผู้เจริญอีก ก็ต้องมาดิ้นรนเสาะแสวงหากันใหม่ แต่ส่ิงท่ีพระพุทธเจ้าทรง ความเป็นจรงิ ในสงิ่ ทพ่ี ระองคต์ รัสสอน ก็นับว่าดถี มถืดหืดข้นึ คอแล้ว แนะนำใหป้ ฏบิ ตั ิ เชน่ การใหท้ าน รกั ษาศลี เจรญิ ภาวนา และอรยิ ทรพั ย์ ตา่ ง ๆ นนั้ สามารถเปน็ ตน้ ทนุ ทางสงั คม หรอื รางวลั ชวี ติ ในชาตติ อ่ ๆ ไป ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า “เผื่อเหลือเผื่อขาด” ท่ีหมายถึงเตรียมไว้ ไดด้ ว้ ย เผอ่ื ขาดหรือไมพ่ อ มาตั้งแต่เดก็ แล้ว แตท่ ำไมคนส่วนใหญ่ถงึ ชอบเนน้ หนัก ไปทางเผื่อเหลือจนเกินเหตุ โดยไม่สนใจเผื่อขาดกันบ้างเลย ก็ไม่รู้ ! เร่ืองแบบนี้ ถ้าไม่ห่วงกันจริงฉันไม่บอกซ้ำซากหรอก เพราะอาจ ยกตัวอย่างเช่น คนท่ีมีทรัพย์สินเงินทองล้นหลาม ประเภทใช้ตั้งแต่รุ่นทวด โดนตะโกนใสห่ นา้ วา่ งมงายไรส้ าระ แตถ่ งึ ยงั ไงกข็ อสะกดิ อกี ทวี า่ ไมว่ า่ จะเปน็ จนถงึ โหลน 4 ร่นุ 8 รอบกไ็ มห่ มด ยงั ท่มุ เทเวลาส่วนใหญ่ไปกบั การเติมเงนิ พวกเหลือกินเหลือใช้หรือแค่พอกินพอใช้ก็ตาม หากชีวิตน้ีไม่ลำบากขัดสน อยนู่ นั่ แหละ ทง้ั ๆ ทรี่ อู้ ยเู่ ตม็ อกวา่ เมอื่ ถงึ วนั อำลาโลก กไ็ มส่ ามารถนำตดิ ตวั จนเกินเหตุแล้ว ก็ควรเลกิ สะสมแบบเผอื่ เหลอื กบั ทรัพยภ์ ายนอกเสียที แล้ว ไปไดเ้ ลยแม้แต่บตั รเดบติ สักใบเดียว รีบมาเติมเต็มเผ่ือขาดกับทรัพย์ภายในได้แล้ว เพราะเมื่อถึงเวลาฉุกละหุก จะได้เผ่อื เรียกมาใชป้ ระโยชน์ได้ทันท่วงทีไง 42 เผ่อื เหลอื เผอ่ื ขาด เผือ่ เหลอื เผื่อขาด 43

อยา่ มวั แตท่ ำเปน็ รแู้ ลว้ เพกิ เฉย ปลอ่ ยใหค้ วามไมเ่ ชอ่ื ในสงิ่ ทคี่ วรเชอื่ ไม่ทำในส่ิงท่ีควรทำ นำไปสู่ความไม่มีเครดิตติดตัวต้ังแต่ลืมตาดูโลกกันเลย นะ เพราะเรื่องอริยทรัพย์หรือทรัพย์อันประเสริฐ ที่ฉันนำมาแย้มให้ฟังนี้ เปน็ สมบตั เิ ฉพาะตวั แบบวา่ ใครทำใครไดน้ ะ่ ถงึ แมอ้ ยากจะแบง่ ปนั ใหเ้ พยี งใด ก็ทำไมไ่ ด้เสยี ดว้ ยสิ ! มา ปมาทมนุยุเฺ ชถ พวกเธออย่ามัวประมาท มา กามรตสิ นถฺ ว  อยา่ มัวเอาแตส่ นุกยนิ ดีในกามคุณอยู่เลย อปปฺ มตโฺ ต หิ ฌายนฺโต ผไู้ ม่ประมาท เพง่ พนิ จิ ตามเปน็ จรงิ เทา่ นน้ั ปปโฺ ปติ วปิ ุล สุข  จงึ จะบรรลถุ ึงความสุขอนั ไพบลู ย์ได ้ 44 เผือ่ เหลอื เผอื่ ขาด เผอ่ื เหลือเผื่อขาด 45



เ ม่ือสามสี่สิบปีก่อน ยุคท่ีเครื่องเล่นเกมนินเทนโด เพลย์สเตชั่น ยังไม่ ซ่อนหา นับว่าเป็นเกมที่นิยมมากในสมัยนั้น ฉันเองก็ชอบเล่นกับ เกดิ ขน้ึ บนโลกวนุ่ วายใบน้ี หนง่ึ ในเกมทเี่ ดก็ ไทยสว่ นใหญน่ ยิ มเลน่ กนั กค็ อื เพ่อื น ๆ เป็นประจำไมร่ เู้ บอื่ และสงิ่ ทเ่ี ด็ก ๆ จะไดป้ ระโยชนจ์ ากการเล่นก็ ซอ่ นหาหรอื โปง้ แปะ * ซง่ึ ไมต่ อ้ งไปซอื้ หาอปุ กรณก์ ารเลน่ ใหย้ งุ่ ยากเสยี สตางค์ คือ... แพง ๆ เลย เพราะเน้นการใช้สายตา การสังเกต หู การฟัง และสถานที่ หลบซอ่ นเป็นหลัก โดยมผี ูเ้ ล่น 2 ฝ่าย คอื “ผู้หา” และ “ผู้ซ่อน” วิธีการเลน่ 1. ฝกึ ใหเ้ ปน็ คนชา่ งสงั เกต (ตาไว) ก็ง่าย ๆ คอื ... 2. ฝกึ จบั ทศิ ทางของเสยี งท่ไี ดย้ นิ (หไู ว) 3. ฝึกให้รู้จักการประเมินสภาพแวดล้อม (คาดเดาสถานท่ีซ่อนตัว หากมีพื้นทีก่ วา้ งมาก ผู้เลน่ ทั้งหมดจะตกลงกนั ก่อนวา่ หา้ มซอ่ นเกนิ ของผู้ซ่อน) เขตท่ีกำหนด ผู้ใดทำผิดกติกาจะต้องเป็นผู้หาแทน จากนั้นจึงดำเนินการ 4. ฝึกใหม้ ีสติในอริ ยิ าบถ (เคลื่อนไหวอยา่ งเบาที่สดุ เพอ่ื ไมใ่ ห้ผู้หา เลือกผู้ที่จะเป็นผู้หา แล้วจึงเร่ิมเล่น ผู้หาจะต้องปิดตาก่อน โดยใช้มือปิด ไดย้ ินหรือหาพบ) หรือหันหน้าเข้าหาเสา ต้นไม้ ผนัง ฯลฯ บางคร้ังผู้หาอาจนับ 1-10 เพ่ือ 5. ฝึกให้มีความระมัดระวัง คิดอย่างรอบคอบ (รู้จักหากลยุทธ เป็นการให้เวลาแก่ผู้ซ่อน และผู้ที่ไปซ่อนอาจร้องว่า “ปิดตาไม่มิด สารพิษ ในการซ่อนตวั ) เขา้ ตา พ่อแมท่ ำนาได้ข้าวเมด็ เดียว” กไ็ ด้ ในโลกของความเป็นจริง ทุกสรรพสิ่งก็มักจะมีอะไรซ่อนอยู่ให้เรา ค้นหาได้เสมอ เช่นเดียวกับความท่ีพระผู้มีพระภาค ตรัสกับพระอานนท์ สกั พักผ้หู าจะถามว่า “เอาหรือยงั ?” หากผ้ซู ่อนตอบวา่ “ยงั ” ผหู้ า ตอนหนง่ึ วา่ “...ชราธรรม (ความแก)่ ยอ่ มมีในความเปน็ หนมุ่ สาว พยาธิ ก็จะตอ้ งปิดตาตอ่ จนกวา่ ผู้ซอ่ นจะตอบวา่ “เอา” จงึ เปดิ ตาแลว้ เรม่ิ เดินหา ธรรม (ความเจ็บไข้) ย่อมมีในความไม่มีโรค มรณธรรม (ความตาย) ผู้ซ่อนตามจุดต่าง ๆ เมื่อพบผู้ซ่อนคนใดจะต้องพูดว่า “โป้ง...(ช่ือผู้ท่ีพบ)” ย่อมมใี นชวี ติ ...” ผนู้ น้ั จะตอ้ งออกมาจากทซ่ี อ่ น ผหู้ ากจ็ ะหาคนอน่ื ตอ่ ไปจนครบทกุ คน ขณะหา หากเราลองทบทวนพจิ ารณาสงิ่ ตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทง้ั ในอดตี ปจั จบุ นั ถ้ามีผู้ซ่อนคนใดเอามือแตะตัวผู้หาได้แล้วร้องว่า “แปะ” ก็ต้องเร่ิมเกมใหม่ รวมถึงอนาคตด้วย ก็จะพบว่ามีส่ิงที่เรียกว่า “ภาวะซ่อนเร้น” ท่ีเรามักมอง โดยผูห้ าคนเดิมต้องทำหน้าทีห่ าอกี รอบ เมือ่ หาได้ครบแล้ว ผู้ถกู พบคนแรก ขา้ มไปอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเชน่ ... จะตอ้ งเปน็ ผูห้ าแทน เกมซ่อนหาขนานแท ้ 49 * ขอขอบคุณข้อมลู จาก มูลนธิ ิเด็ก, ไทยกดู๊ วิวดอทคอม (www.thaigoodview.com) และ คลงั ปัญญาไทย (www.panyathai.or.th) 48 เกมซ่อนหาขนานแท ้

1. มคี วามหวังซอ่ นอยใู่ นความรัก ก่อนแตง่ งานกัน บา่ วสาวต่างก็ ไม่เคยสร้างผลงานเลย ขนาดได้ตำแหน่งมาเป็นปี ชาวประชายังไม่รู้จัก หวังว่าคู่ของตนจะดีเสมอต้นเสมอปลาย (ไม่ป่องกลาง) จะรักเดียวใจเดียว ชอื่ แซ,่ อยากเปน็ นายก ฯ แตไ่ มก่ ลา้ จดั การขา้ ราชการเกยี รว์ า่ ง ปราบปราม (ไม่โรเนียวหลายคร้ัง) เคยหวานอย่างไรก็จะเย้ิมอยู่อย่างน้ัน ซึ่งมันเป็นไป ทุจริตคอร์รัปชนั่ ... อยา่ งนไ้ี ม่ร้วู ่าจะมีตำแหนง่ ไปทำอนั หยังก้า ? ไม่ได้ แม้จะร้องเพลงรักไม่ยอมเปล่ียนแปลงทุกว่ีวันก็ตาม เพราะคนเรา ย่อมเปล่ียนไปไม่เวลาใดก็วันหน่ึง เมื่อมีความหวังก็ต้องเผ่ือใจไว้ให้กับ 5. มีความโลภซ่อนอยู่ในความร่ำรวย พุทธวจนะกล่าวว่า “แม้ ความผิดหวงั ด้วยนะ จะได้ไมต่ อ้ งมานั่งชชี ้ำกะหล่ำปลี ในภายหน้า เงนิ ตราจะไหลมาดงั หา่ ฝน ความอยากของคนกห็ าอม่ิ ไม่...” จงึ ไมแ่ ปลก ท่ีนักธุรกิจผู้ร่ำรวยล้นฟ้า ยังพยายามเขยิบมาเป็นนักการเมือง แล้วขยัน 2. มีผลประโยชน์ซ่อนอยู่ในการให้ เช่น มีคนไม่รู้จักเสนอเอา สรรค์สรา้ งโปรเจก็ ต์ใหม่ ๆ เพอื่ กินค่าหัวคิว หรอื ไม่กร็ ับเหมาเสียเองจะได้ สลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 มาแลกกับเงินเพียงไม่กี่แสน หรือเอาโฉนดท่ีดิน ไม่ต้องไปแบ่งใคร ส่วนใหญ่แล้วประโยชน์ท่ีเกิดกับประชาชน มักไม่คุ้มกับ มาแลกกับทองเสน้ เดียว นักธรุ กิจสนบั สนุนเงินใหพ้ รรคการเมอื ง คณุ ผชู้ าย เงนิ ภาษที ่ีตอ้ งเสียไปเลยสกั นดิ เดยี ว ซอ้ื เสอ้ื สายเดย่ี วใหส้ าวใช้ สกี าถวายหนงั สอื ประเภทชอ่ งทางทำกนิ -สแู้ ลว้ รวย ใหพ้ ระสงฆ์ เป็นต้น 6. มีโอกาสซ่อนอยูใ่ นวิกฤต ทุกคร้งั ท่เี กดิ เรอ่ื งราวไมค่ าดฝัน หาก ไม่มัวจมปลักอยู่กับความทุกข์ ท้อแท้ส้ินหวัง แต่รู้จักต้ังสติ แล้วเดินหน้า 3. มีภาระซ่อนอย่ใู นสมบัติ ไมว่ า่ จะเป็น บ้านเรอื น ที่ดิน รถยนต์ ใช้ปัญญาแก้ปัญหา ก็จะพบทางออกที่ไม่มีป้ายบอกเสมอ อย่างเช่น นิค โทรทัศน์ นาฬิกา เส้ือผา้ กระเป๋า อุปกรณไ์ ฮเทคตระกลู ไอท้ังหลาย รวมถงึ วูจิซิค (Nick Vujicic) ชาวออสเตรเลียท่ีเกิดมาโดยไร้แขนขา และมีเพียง ไอเลิฟยดู ว้ ย จะต้องมีภาระในการดูแลทะนุถนอม รกั ษาซอ่ มแซม ป้องกัน ชิ้นเนื้อเล็ก ๆ เท่าน้ันท่ียื่นมาจากโคนขาซ้าย แต่จิตใจของเขาย่ิงใหญ่ ไม่ให้เกิดความเสยี หายหรอื สูญเสยี ซ่อนอย่ใู นสมบตั ิท่ไี ด้ครอบครองทุกชน้ิ นา่ ยกยอ่ งอยา่ งยง่ิ นอกจากจะไมน่ อ้ ยใจในความพกิ ารทมี่ มี าแตก่ ำเนดิ แลว้ บางรายการก็อาจมีภาระดอกเบีย้ ซุกมาดว้ ยซำ้ เขายงั เดนิ ทางไปหลายประเทศทวั่ โลก เพอื่ ใหก้ ำลงั ใจคนนบั ลา้ นทมี่ รี า่ งกาย ปกติดว้ ย 4. มคี วามรบั ผดิ ชอบซอ่ นอยใู่ นตำแหนง่ คนสว่ นใหญช่ อบไขวค่ วา้ หาตำแหน่ง แต่ขาดความรบั ผดิ ชอบ เชน่ อยากเป็นพ่อแมแ่ ตไ่ ม่มเี วลาดแู ล 7. มบี ทเรยี นซอ่ นอยใู่ นความผดิ พลาด โบราณทา่ นวา่ “ผดิ เปน็ คร”ู ลูก จนมีคำตำหนิยอดฮิตว่า “พ่อแม่ไม่สั่งสอน”, อยากเป็นรัฐมนตรีแต่ แต่ยังใช้ได้ดีกับทุกยุคสมัย ไม่มีใครท่ีประสพความสำเร็จโดยไม่ผ่านการทำ 50 เกมซอ่ นหาขนานแท้ เกมซ่อนหาขนานแท ้ 51

ผ ิดพลาดหรอกนะ ฉะน้นั เมอ่ื ผิดแลว้ อย่าซำ้ เติมตัวเอง หรอื อย่ามวั หาขอ้ กห็ าทางออกโดยการฆา่ ตวั ตาย หรอื ไมก่ ท็ ำเรอ่ื งรา้ ยแรงจนผใู้ หญค่ าดไมถ่ งึ แก้ตัว แต่ควรรีบแก้ไขปรับปรุงให้ดียิ่งข้ึนดีกว่า เหมือนอย่างโทมัส อัลวา ทางทด่ี นี า่ จะสอนใหเ้ ดก็ รจู้ กั ตง้ั ใจทำเหตใุ หด้ ี แลว้ ปลอ่ ยวางผลมากกวา่ นะ ! เอดิสัน (Thomas Alva Edison) นักประดิษฐ์และนักธุรกิจชาวอเมริกัน ท่ีกว่าจะสร้างระบบผลิตแจกจ่ายกระแสไฟฟ้า และยืดอายุการใช้งานของ 10. มีความสขุ ซอ่ นอยู่ในความพอเพียง การทจ่ี ะสรุปวา่ คนรวย หลอดไฟได้สำเร็จ เขาเคยทำการทดลองผิดพลาดจนเกิดไฟไหม้ ถูกบิดา มีความสุขมากกว่าคนจนน้ัน ไม่จริงเสมอไปหรอก เพราะดูจากผลสำรวจ ทำโทษตอ่ หนา้ สาธารณชนมาแลว้ ถา้ เขาหยดุ อยเู่ พยี งแคน่ น้ั กลางคนื บนโลก ความสุขมวลรวมประชาชาติ (Gross National Happiness หรอื GNH) ของ จะสว่างไสวยาวนานขนาดน้ีเรอะ ? ชาวภฏู านดสู วิ า่ มมี ากกวา่ ผคู้ นในประเทศตะวนั ตกขนาดไหน ลองถามตวั เอง ดซู ิวา่ ชาวลาว เวยี ดนาม ไทย ใครมีความสขุ มากกวา่ กนั ? คำตอบจะเปน็ 8. มีศัตรูซ่อนอยู่ในชัยชนะ เข้าทำนองสุภาษิต “แพ้เป็นพระ ตัวช้ีวัดว่าความสุขแท้จริงน้ันเกิดจากใจ มิใช่เงินทองวัตถุที่หลายคนเขา้ ใจ ชนะเป็นมาร” และพทุ ธวจนะทีว่ ่า “ผูช้ นะยอ่ มกอ่ เวร ผู้แพ้ย่อมเปน็ ทกุ ข์ ดงั คำกลา่ วทว่ี า่ “...ความไมม่ โี รคเปน็ ลาภอยา่ งยงิ่ ความสนั โดษเปน็ ทรพั ย์ พระขีณาสพ (พระอรหันต์) ผู้สงบระงับ ละความชนะความแพ้ได้แล้ว อยา่ งยง่ิ ความคนุ้ เคยเปน็ ญาตอิ ยา่ งยง่ิ นพิ พานเปน็ สขุ อยา่ งยง่ิ ...” ย่อมอยู่เป็นสุข” โดยมากผู้ชนะจะรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่หารู้ไม่ว่า ได้ก่อร่างสร้างศัตรูข้ึนโดยอัตโนมัติแล้ว ทางที่ดีควรชนะแบบ Win-Win ขอแจกแจงเพียงเทา่ นีพ้ อนะ ทจี่ ริงยงั มีอกี เพียบ เช่น มสี ขุ ซ่อนอยู่ ที่ซุนวู (ผเู้ ขยี นตำราพชิ ยั สงคราม ซง่ึ มอี ทิ ธพิ ลมากของประเทศจนี ) กลา่ ววา่ ในทุกข์ มีได้ซ่อนอยู่ในเสีย มีง่ายซ่อนอยู่ในยาก มีความรุ่งริ่งอยู่ในความ “ชยั ชนะที่ย่ิงใหญ่ท่ีสุด คือ ชัยชนะท่ีผู้แพ้ มิได้ตระหนักว่าตนเองพ่ายแพ้” รงุ่ เรอื ง มพี ฤตกิ รรมแย่ ๆ ในคนภาพลกั ษณด์ ี มมี ะเขอื เทศซอ่ นอยใู่ นตำรวจ หรอื ใหด้ กี วา่ นน้ั กต็ อ้ ง “ชนะใจตนเอง” รบั รองเปน็ ทส่ี ดุ ของทส่ี ดุ เลยเชยี วหละ มีแตงโมแฝงอยู่กบั ทหาร มีคลอเรสเตอรอลหลบอยู่ในกะทิ มีมันหมูปนอยู่ ในขนมจีบกุ้ง มีสนิมแอบอยู่ใต้ฝาน้ำอัดลม มีภาษีมูลค่าเพิ่มบวกอยู่ใน 9. มคี วามกดดนั ซอ่ นอยใู่ นความสำเรจ็ พอ่ แมส่ มยั นมี้ กั เคยี่ วเขญ็ ราคาสินค้า มีกำไรซ่อนอยู่ในเทศกาลลดแหลกแจกไม่อ้ัน มีความฉิบหาย ให้ลูกเป็นคนเก่งจนเกินเหตุ เริ่มเรียนพิเศษตั้งแต่ช้ันอนุบาลกันเลย เม่ือ รออย่ใู นการพนัน มที ารกนอ้ ยขดตัวอย่ใู นครรภเ์ จา้ สาว(บางคน) เป็นตน้ ผลการเรียนออกมาได้เกรด 4 ก็จะภูมิอกภูมิใจนักหนา แต่หารู้ไม่ว่ากำลัง สร้างแรงกดดันให้ลูกทางอ้อม จึงไม่น่าแปลกใจท่ีเด็กเรียนดีส่วนใหญ่ เมื่อ หากใครไม่เคยเล่นเกมซ่อนหาขนานแท้เพ่ือหาภาวะซ่อนเร้น ท่ีฉัน ทำคะแนนสอบไม่ไดด้ งั หวงั หรอื เอ็นทรานซ์ไมต่ ดิ จะรสู้ ึกเครียดจัด บางคน นำมาบอกเลา่ เกา้ สิบนี้ กน็ า่ จะลองเล่นดูบา้ งนะ เพราะเลน่ งา้ ยงา่ ย กติกาก็ 52 เกมซ่อนหาขนานแท ้ เกมซ่อนหาขนานแท ้ 53

ไมม่ ี ไมต่ อ้ งใชอ้ ปุ กรณใ์ ด ๆ ดว้ ย เลน่ คนเดยี วกย็ งั ได้ ทง้ั สนกุ และมปี ระโยชน์ โยคา เว ชายตี ภูริ ปญั ญาเกิดมไี ด้ เพราะตงั้ ใจพนิ ิจ มาก นอกจากจะฝกึ ใหเ้ ปน็ คนชา่ งสงั เกต ละเอยี ด รอบคอบแลว้ ยงั ทำใหเ้ หน็ อโยคา ภรู ิสงขฺ โย เส่อื มไปเพราะไมไ่ ด้ตัง้ ใจพินจิ และเขา้ ใจชวี ติ ตามความเปน็ จรงิ ไมม่ องโลกมองคนในแงร่ า้ ยหรอื ดจี นสดุ โตง่ เอต เทวฺ ธา ปถ ตฺวา ภวาย วภิ วาย จ เมื่อรู้ทางเจรญิ และทางเสื่อมของปัญญาแล้ว เกินไปด้วย ตถตฺตาน นเิ วเสยฺย ยถา ภรู ิ ปวฑฺฒต ิ ควรจะทำตนโดยวิถีทางทป่ี ญั ญาจะเจรญิ วนั หนง่ึ เมอ่ื ผเู้ ลน่ เลน่ จนชำนาญกา้ วหนา้ ถงึ ระดบั Advanced ขนาด เกมซอ่ นหาขนานแท ้ 55 ได้พบคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในการเกิดเป็นคนแล้ว ก็อาจทำให้ชีวิตเดินเข้ามาถึง จุดเปลี่ยน จากที่เคยสนุกสนานเมามันกับการได้ มี เป็น โลภ โกรธ หลง ยึดม่ันถือมั่น เบียดเบียนไปทั่ว ก็อาจจะรู้จักลด ละ เลิก วางอัตตาตัวตน เหน็ อกเหน็ ใจผอู้ นื่ เรมิ่ มงุ่ มน่ั ประพฤตดิ ี ปฏบิ ตั ชิ อบ ตงั้ ใจทจ่ี ะไมท่ ำความชวั่ ทง้ั ปวง บำเพญ็ แตค่ วามดี ทำจติ ของตนใหผ้ อ่ งใส ดงั คำสอนของพระพทุ ธเจา้ ท้งั หลาย กเ็ ปน็ ได้ แมข้ นึ้ ชอ่ื วา่ “คน” โดยสว่ นใหญแ่ ลว้ มกั จะชอบสนกุ สนานกบั การกวน สิ่งต่าง ๆ ให้กระจายมากกว่าการทำส่ิงใด แต่ยังไงก็คงจะพอมีความคิด อยากพฒั นาตวั เอง ซ่อนอยูใ่ นพฤติกรรมเหล่าน้บี า้ งหรอกนา่ ...ว่ามยั้ ? 54 เกมซอ่ นหาขนานแท้



เ รอื่ งมอี ยวู่ า่ *... แมวกบั มา้ (ไมใ่ ชแ่ มว้ กบั มารค์ นะ) รจู้ กั กนั มาเกอื บ 10 ปี   อ่านแลว้ สรปุ ไดว้ ่า... ใช่เลย แลว้ แตพ่ ง่ึ ไดต้ ดั สนิ ใจยา้ ยมาอยดู่ ว้ ยกนั เมอ่ื 3 ปกี อ่ น ตลอดเวลาทผี่ า่ นมา ท้งั คู่ไมเ่ คยไดไ้ ปเทยี่ วต่างประเทศดว้ ยกันเลย กระทั่ง 2 เดือนท่แี ล้ว จึงได้ 1 หนมุ่ สาวคู่น้ีรจู้ กั กันมาเกอื บ 10 ปีแล้ว   วางแผนทจ่ี ะไปญป่ี นุ่ กนั และไดจ้ องโปรแกรมไวก้ บั บรษิ ทั ทวั รแ์ หง่ หนงึ่ 2 ท้ังแมวและม้า ไมเ่ คยมีโอกาสไดไ้ ปต่างประเทศ   แตแ่ ลว้ ในวนั เดนิ ทาง กอ่ นทจ่ี ะออกจากบา้ น แมวเกดิ อาการปวดทอ้ ง อย่างแรงและอาเจียนออกมา ม้าจึงตัดสินใจพาแมวไปโรงพยาบาล หมอ 3 แม้ว่าจะเป็นแฟนกัน แต่ท้ังคู่ไม่เคยได้ไปเที่ยวต่างประเทศ   บอกว่า แมวมีอาการจากอาหารเป็นพิษ ควรกินยาและพักผ่อนท่ีบ้าน ด้วยกนั ม้ารู้สึกโกรธแมวอย่างมากท่ีทำให้ผิดแผน โดยคืนก่อนเดินทาง แมวไป สงั สรรค์กับเพ่อื น ๆ และกลบั บา้ นตอนตี 2 4 แมวโกรธมา้ อย่างมาก ทีท่ ำให้ไมไ่ ด้ไปญ่ปี ุ่น   ระหวา่ งทน่ี ง่ั รอจา่ ยยา มา้ กต็ อ่ วา่ แมวดว้ ยเสยี งดงั วา่ “เธอเปน็ อยา่ งนี้ 5 แมวมักเทย่ี วกบั เพ่อื น ๆ จนกลบั บ้านดกึ เปน็ ประจำ   อยู่เร่ือยเลย ไมต่ อ้ งมาแกต้ ัวอกี ฉันเบ่ือแล้วนะ” 6 แมวเป็นผูช้ ายทไี่ ม่รับผดิ ชอบ   เพื่อเป็นการทดสอบความสามารถในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร เมื่อ อ่านจบแล้ว ฉันอยากให้เธอลองตอบคำถามต่อไปนี้ หากข้อใดท่ีตรงกับ 7 แมวกับม้า น่าจะอยูด่ ว้ ยกนั ต่อไปได้ไม่นานนกั   ความคิดเห็นของตัวเอง ก็ใหก้ าเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งใช่เลย... ประเดย๋ี ว จะได้รู้กันวา่ ใครแม่นขนาดไหน เพ่อื ความชวั รจ์ ะกลับไปอ่านอกี รอบก็ได้นะ มีใครไม่กาเคร่ืองหมาย √ ในช่องใช่เลยบ้างยกมือขึ้นซิ... โอ้โฮ ! ฉนั ขอคาราวะ พรอ้ มยกนว้ิ โปง้ โคง้ ศรี ษะงาม ๆ ใหเ้ ลย สว่ นใครทเี่ ผลอกา √ * ขอขอบพระคุณอาจารย์สุพร รุจิราวรรณ เป็นอย่างสูง ที่ท่านอนุญาตให้นำแบบทดสอบดี ๆ แม้เพียงข้อเดียว ก็ขอให้รู้ไว้เลยว่า ได้คิดเองเออเอง เบ็ดเสร็จเรียบร้อย จากการอบรมเสรมิ สรา้ งภาวะผ้นู ำของชมรมสายใยความหวงั ผู้ป่วย ทจ่ี ดั โดยสมาคมผู้วิจยั และผลิต โรงเรยี นจีนแล้ว ท่ีเป็นเช่นนั้นก็เพราะ... เภสัชภัณฑ์ (พรีม่า) มาแบ่งปัน ซึ่งฉันได้เปลี่ยนแปลงชื่อและเรียบเรียงดัดแปลงบางคำใหม่ ด้วย การคดิ เองเออเองวา่ เหมาะสมแลว้ 1. ไม่มปี ระโยคใดที่บอกว่าแมวกบั ม้าเปน็ หนมุ่ สาว ท้งั คู่จงึ อาจเปน็ 58 สังคมอปุ าทาน ผ้ชู ายหรอื ผหู้ ญงิ หรอื เป็นผู้สงู อายกุ ็ได ้ 2. ท้ังคู่ไม่เคยได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันเลย ไม่จำเป็นต้อง หมายถงึ ท้ังค่ไู ม่เคยมีโอกาสได้ไปต่างประเทศ 3. (เช่นเดียวกับข้อ 1.) ไม่มีประโยคใดที่บอกว่าแมวและม้า เปน็ แฟนกนั เลย สังคมอปุ าทาน 59

4. ม้าต่างหากท่ีโกรธแมวอย่างมาก และต่อว่าแมวด้วยเสียงดัง หนงั สอื พมิ พ์ นติ ยสาร อเี มล เฟซบคุ๊ ทวตี เตอร์ เอสเอม็ เอส ฯลฯ แทบไมเ่ คย (ฮ้ี !!!!!) มสี กั ครงั้ ทเ่ี ราคดิ จะตรวจสอบหาขอ้ เทจ็ จรงิ แตม่ กั รบี ดว่ นสรปุ ดว้ ยอปุ าทาน คือนึกเอาเองแล้วยึดมั่นถือมั่นว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น ๆ เร่ืองใดท่ีตรงกับ 5. คำพดู ทีว่ า่ “เธอเป็นอย่างนอ้ี ยู่เรือ่ ยเลย” ไมจ่ ำเป็นตอ้ งหมายถงึ ความรู้สึกนึกคิดของเราก็จะฟันธงว่าใช่เลย ซึ่งไม่ต่างจากเรื่องคนตาบอด การกลับบ้านดึกเป็นประจำหรอก อาจเป็นเรื่องชอบทำให้ผิดแผน หรือ คลำชา้ ง ทเี่ คยเกดิ ขน้ึ มาแลว้ ในอดตี กาลนานโพน้ โดยจะขอนำมาเลา่ ยอ่ ๆ ชอบกินเกินพอดี จนตอ้ งปวดทอ้ งบ่อย ๆ กไ็ ด้ ดังน้ี 6. ไม่มีประโยคใดท่ีบอกว่าแมวเป็นผู้ชาย และแมวก็อาจจะมี เรอ่ื งมอี ยวู่ า่ ... สมยั หนงึ่ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ประทบั อยู่ ณ พระเชตวนั ความรับผิดชอบเปน็ บางเรือ่ ง ก็ได้ มหาวิหาร ในกรุงสาวัตถี ได้มีสมณพราหมณ์ปริพาชกผู้มีลัทธิแตกต่างกัน ยึดถือความเห็น ความพอใจ ความชอบใจ แตกต่างกัน แต่ละพวกมีวาทะ 7. ไม่มีใครบอกได้หรอก เพราะเป็นเร่ืองอนาคต เรื่องวิบากกรรม ความเห็นแตกตา่ งกนั เป็น ๑๐ อย่าง คือ มีตัวแปรเยอะแยะ เอาแน่เอานอนไม่ได้ (เค้าอาจจะมีสัญญาใจกันก็ได้... ใครจะรู้ !) โลกเที่ยง - ไมเ่ ทีย่ ง - มีทสี่ ุด - ไม่มที ่ีสดุ , ชีพ (ชวี ติ ) กบั สรรี ะ (รา่ งกาย) เป็นอย่างเดยี วกัน - แตกต่างกัน, จากตัวอย่างที่นำมาทดสอบ จะเห็นได้ชัดว่า แม้ข้อความเพียง สัตวต์ ายแลว้ ยงั ตอ้ งเกิดอีก - สูญ - เกดิ อีกกม็ ี สญู ก็มี - ไมต่ ้องเกดิ ไม่ก่ีบรรทัด และบางคนก็อ่านซ้ำไม่น้อยกว่า 2 รอบ ยังเผลอตีความ อีกกม็ ี เกดิ อกี กม็ ี ผดิ พลาดได้ ถา้ เกดิ สมมตุ วิ า่ เรอื่ งแมวกบั มา้ นี้ ไดเ้ ปน็ ขา่ วตามหนา้ หนงั สอื พมิ พ์ แลว้ กเ็ กดิ บาดหมาง ทะเลาะววิ าท พดู จากระทบกระเทยี บกนั วา่ จริง ๆ หลายคนก็คงปักใจเชื่อว่า แมวเป็นอย่างน้ัน (ชายหนุ่ม ไม่ได้เรื่อง อย่างน้ีเป็นธรรม อย่างนี้มิใช่ธรรม ธรรมต้องเป็นอย่างน้ี อย่างอื่น ไมร่ บั ผดิ ชอบ ฯลฯ) มา้ เปน็ อยา่ งน้ี (หญงิ สาว นา่ สงสาร นา่ เหน็ ใจ ทหี่ ลงไปคบ หาเป็นความจริงไม ่ กบั คนอย่างแมว ฯลฯ) และก็จะจดจำไวใ้ นความทรงจำเชน่ น้ันตลอดไป สงั คมอปุ าทาน 61 ท่ามกลางข่าวสารยุคไอทียูที เอ็งทีข้าที เม่ือใดก็ตามที่เราได้เห็น ได้ยิน รับรู้รับฟัง เรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจากโทรทัศน์ วิทยุ 60 สังคมอปุ าทาน

เชา้ วนั หนง่ึ จงึ มภี กิ ษจุ ำนวนมาก ไปเขา้ เฝา้ และกราบทลู เรอ่ื งดงั กลา่ ว เม่ือตรัสเล่าจบแล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงเปล่งพระอุทานว่า... ต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์จึงตรัสว่า... “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่อง สมณพราหมณพ์ วกหนงึ่ ไม่รู้จรงิ ยึดมั่นในความเหน็ ผดิ แลว้ ก็มาววิ าท เคยมมี าแลว้ มพี ระราชาพระองคห์ นงึ่ ตรสั สง่ั ใหพ้ นาย * คนหนงึ่ ไปบอก กนั และกนั เหมอื นพวกคนตาบอดคลำชา้ ง นนั่ เอง ให้คนตาบอดทั้งหมดในกรุงสาวัตถีมาประชุมกัน แล้วให้นำช้างมาให้ พวกคนตาบอดคลำ โดยใหแ้ ตล่ ะพวกคลำทอ่ี วยั วะใดอวยั วะหนง่ึ ของชา้ ง ล่วงมาถึงปัจจุบัน ก็มีเร่ืองในทำนองเดียวกัน เล่าขาน ณ ดินแดน แลว้ พระราชาก็ตรสั ถามวา่ ชา้ งมรี ปู รา่ งเปน็ อย่างไร ? ทผ่ี ้คู นเต็มไปดว้ ยความแตกแยก ใหไ้ ด้ยินได้ฟงั กนั ดังน้ ี พวกท่ีคลำหัวชา้ ง ก็กราบทูลว่า ชา้ งมีรปู รา่ งเหมือนหมอ้ เรอ่ื งมอี ยวู่ า่ ... สมยั หนงึ่ ไดม้ ปี ระชาชนผมู้ อี ปุ าทานแตกตา่ งกนั ยดึ ถอื พวกท่ีคลำหูช้างก็วา่ เหมอื นกระดง้ ความเหน็ ความพอใจ ความชอบใจ แตกตา่ งกนั แตล่ ะพวกมวี าทะความเหน็ ที่คลำงากว็ ่าเหมือนผาล (เหล็กสำหรบั สวมหวั หมูเครือ่ งไถ) แตกต่างกันมากมาย แต่ขอยกมาเพยี ง 15 อย่าง คอื คลำงวงวา่ เหมอื นงอนไถ คลำตวั วา่ เหมือนฉางข้าว 1. เลือกตั้งท้ังทตี อ้ งรีบฉวยโอกาส ไมว่ า่ จะซอ้ื เสยี ง แจกเงิน ขนคน คลำเท้าวา่ เหมือนเสา ไปลงคะแนน หรือฆ่าหัวคะแนนฝ่ายตรงข้าม ก็จะทำ เพื่อให้พวกข้าได้มี คลำหลังวา่ เหมือนครกตำขา้ ว เสยี งข้างมากเขา้ สภา คลำโคนหางวา่ เหมือนสากตำข้าว คลำปลายหางว่าเหมือนไม้กวาด 2. เลือกตั้งทงั้ ทตี อ้ งบรสิ ทุ ธย์ิ ุตธิ รรม ถ้าเรมิ่ ต้นอยา่ งไม่ถูกต้องชอบ แล้วคนตาบอดเหล่าน้ันก็ได้ทุ่มเถียงกันว่า ช้างมีรูปร่างอย่างนี้ ธรรม ก็ไมถ่ อื ว่าเป็นประชาธิปไตย ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนนั้ ชา้ งไมใ่ ชเ่ ปน็ อยา่ งนน้ั แตม่ รี ปู รา่ งอยา่ งน้ี จงึ ทำใหพ้ ระราชา ทรงพระสรวลด้วยความขบขนั ... 3. เลือกตั้งทั้งทีต้องได้ผลประโยชน์ ใครให้เงิน ให้ประโยชน์ ข้าก็ เลือกคนน้นั แหละ * เป็นคำท่ขี ุนนางผูใ้ หญ่เรียกผู้ดีซงึ่ อย่ใู นบงั คบั ตน 62 สงั คมอปุ าทาน 4. เลือกตัง้ ก่ที ขี า้ ก็ไมส่ นใจ เสยี เวลา เลอื กไปก็เท่านน้ั ข้าขอทำมา หากนิ ดีกวา่ ! 5. พรรคทม่ี สี .ส.มากสดุ เทา่ นน้ั จงึ จดั ตงั้ รฐั บาลได้ เพราะประชาธปิ ไตย สงั คมอปุ าทาน 63

ยึดถอื เอาเสยี งขา้ งมากเป็นใหญ ่ บ้านเมืองให้เป็นโอกาสของตัวเอง ใครว่าจ้างอะไรข้าทำหมด จะกีดขวาง 6. พรรคท่มี สี .ส.รองลงมา ก็จดั ต้งั รัฐบาลได้ หากรวบรวมเสยี งข้าง บุก ยดึ ยงิ ทุบ เผา ทำลายให้วอดวายยังไงกไ็ ด้ เด๋ียวจดั ให้ ! มากได้กอ่ น เพราะกฎหมายเปดิ โอกาสให้ทำได้ และกเ็ คยมีตัวอย่างมาแล้ว 14. อย่าก่อความวุ่นวายเลย สมานฉันท์กันดีกว่า เพราะจะดี-ชั่ว, ในอดตี ถูก-ผิด, ขาว-ดำ เราก็ต้องอยู่กันไปอีกนานในบ้านหลังน้ี ท่องคำว่า “ขันติ อย่าขนั แตก” อดทนไว้เปน็ ดีทสี่ ุด 7. ใครจดั ตง้ั รฐั บาลกไ็ ด้ แตต่ อ้ งซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ เพราะถา้ เขา้ มาบรหิ าร ประเทศแล้ว มุ่งแต่คดโกง คอร์รัปช่ัน สับเปลี่ยนโยกย้ายข้าราชการ 15. วุ่นวายขนาดน้ี ข้าไม่สนไม่ได้แล้ว เพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ การ แก้กฎหมายเอื้อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ทอ่ งเทีย่ วตกตำ่ หุน้ ก็รว่ งเอา๊ รว่ งเอา ขา้ ทำมาหากินฝดื เคอื งนะเฟย้ ! ก็ตอ้ งขับไล่ใหอ้ อกไป แลว้ จัดเลอื กตงั้ ใหม่ เผ่ือว่าจะได้คนดี ๆ เข้ามาบ้าง แล้วผู้มีอุปาทานเหล่านั้นก็เกิดบาดหมาง ทะเลาะวิวาท พูดจา 8. ใครจัดต้ังรัฐบาลก็ได้ ถ้าข้าได้ผลประโยชน์ คนเราต้องรู้จัก กระทบกระเทียบกันว่า อย่างนี้เป็นเลือกต้ัง อย่างน้ีมิใช่เลือกต้ัง เออ้ื เฟอื้ เผอื่ แผก่ นั บา้ ง จะอมิ่ อยฝู่ า่ ยเดยี วแลว้ ใหผ้ อู้ น่ื หวิ กระหายไดอ้ ยา่ งไร ประชาธิปไตยต้องเป็นอย่างน้ี อย่างอื่นหาเป็นประชาธิปไตยไม่ จึง เป็นเร่อื งที่ไม่ถกู ต้องเลยเชยี ว ทำใหพ้ ระราชาทรงพระ...ด้วยความ... (คงคดิ กันเองไดน้ ะ !) 9. ใครจัดต้งั รัฐบาลข้ากไ็ ม่สน เสียเวลา สนไปกเ็ ทา่ นนั้ ขา้ ขอทำมา เชา้ วนั หน่ึง จงึ มนี าย ก. ผูไ้ ดช้ ือ่ ว่ามอี ำนาจอนั ชอบธรรมเหนอื ใคร หากนิ ดกี ว่า ! เกิดมีไอเดียปิ๊งเสนอแผนปรองดองขึ้นมา เพ่ืออุดรอยรั่วประสานรอยร้าว เสรมิ สรา้ งความสมคั รสมานสามคั คขี องคนในชาตขิ น้ึ แตท่ ง้ั นที้ งั้ นน้ั จะไดผ้ ล 10. หากพวกข้าไม่ไดเ้ ป็นรฐั บาล แกก็อย่าหวังอยู่เป็นสุข ตอ้ งทำให้ หรือไม่เพียงใด ก็ข้ึนอยู่กับผู้คนทุกหมู่เหล่ามุ้งก๊กในดินแดนวิวาทน้ันเอง เกิดความวุ่นวาย เพือ่ จะได้หมดความชอบธรรมในการบรหิ ารประเทศ ตอ้ ง วา่ จะรว่ มมือรว่ มใจกันเพอื่ ให้เกิดความสงบสุขขึ้นหรอื ไม่ ? ยบุ สภาเท่านั้น แล้วจัดเลือกตัง้ ใหม่ เผือ่ วา่ พวกข้าจะได้เขา้ มาบริหารแทน หากจะวา่ กนั ตามหลกั แหง่ เหตแุ ละผลแลว้ ตราบใดทผี่ คู้ น ประชาชน 11. หากพวกข้าไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะ ทกุ สาขาอาชพี ทกุ ระดบั ในสงั คมอปุ าทานนนั้ ยงั มงุ่ เอาแตป่ ระโยชนส์ ว่ นตน ประชาธิปไตย ยึดถือเอาเสยี งข้างมากเปน็ ใหญอ่ ะ้ ! และพรรคพวกเป็นหลัก (โลภ), ทำร้ายทำลายผู้ที่คิดเห็นแตกต่าง (โกรธ) 12. หากพวกข้าไม่ได้เป็นรัฐบาล ข้าก็ไม่ได้ผลประโยชน์ อย่างนี้ สงั คมอปุ าทาน 65 ตอ้ งรว่ มดว้ ยชว่ ยกนั กอ่ ความวนุ่ วาย เผอื่ สำเรจ็ ผล ขา้ จะไดส้ ตางคม์ าใชบ้ า้ ง หากไม่สำเรจ็ ก็ยังพอจะมอี ะไรตดิ ไม้ตดิ มอื กลบั บา้ น 13. รบี กอ่ ความว่นุ วายเลย ขา้ จะไดป้ ระโยชน์ ตอ้ งรูจ้ ักแปลงวิกฤติ 64 สังคมอุปาทาน

แ ละยึดม่ันถือมั่นด้วยอุปาทาน (หลง) แผนปรองดองก็คงเป็นได้แค่เพียง แผนปดู อง ทว่ี งิ่ ไลจ่ บั ปใู สก่ ระดง้ จบั ตวั ผกู้ ระทำผดิ มาคมุ ขงั แลว้ กร็ อวนั เวลา ใหเ้ ชอ้ื ไฟในใจปะทขุ ึ้นมาใหม่ เท่านน้ั เอง สุดท้าย ขอจบเร่ืองเล่าน้ีไว้เป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกท่านที่ได้ติดตาม เรอ่ื งราวมาแตต่ น้ ไดเ้ กบ็ ไปขบคดิ กนั วา่ เราควรจะมแี ผนระวงั ปอ้ งกนั อยา่ งไร ? แต่ละคนควรจะประพฤติตัวอย่างไร ? เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้ เกิดขึ้น ในชุมชน สังคม ประเทศชาติ อันเป็นแผ่นดินผู้ให้กำเนิด พักพิงอาศัย ใชส้ อยทรพั ยากร และฝงั รา่ งไรว้ ญิ ญาณของตัวเอง ปเร จ น วิชานนฺติ คนทั่วไปมกั นกึ ไม่ถึงว่า ตนกำลงั พนิ าศ มยเมตฺถ ยมามฺหเส เพราะวิวาททุม่ เถียงกัน เย จ ตตถฺ วิชานนฺต ิ สว่ นผู้รคู้ วามจริงเชน่ นนั้ ตโต สมมฺ นตฺ ิ เมธคา ย่อมไม่ทะเลาะกนั อีกตอ่ ไป 66 สังคมอปุ าทาน สังคมอปุ าทาน 67



เมอื่ ถกู ตัง้ คำถามวา่ ใครหนอ... รกั เราเทา่ ชวี ี ? จากน้ัน ก๊ิก เลขาหน้าห้อง ภรรยาสามีผู้อ่ืน นักการเมือง ผู้ให้ผล แน่นอน ทุกคนจะตอบเปน็ เสยี งเดียวกันว่า “คณุ พ่อ คณุ แม”่ ประโยชน์ต่าง ๆ ฯลฯ ก็อาจผลัดกันมาครองตำแหน่งผู้ที่ฉันรักเท่าชีวีได้ แต่ถา้ ถามใหม่ว่า ใครหนอ... เรารักเท่าชีวี ? เปน็ ครั้งคราว เดก็ ๆ กจ็ ะตอบเหมอื นเดิมทนั ทวี า่ “คุณพอ่ คุณแม”่ วยั รนุ่ อาจขอเวลาคดิ สกั นดิ แลว้ พดู อยา่ งเหนยี ม ๆ วา่ “แฟนผมครบั / ถ้าอย่างน้ันแล้วในโลกน้ี จะมีใครบ้างม้ัยท่ีเป็นตัวจริงเสียงจริง ของความรกั อนั ไม่มีวนั แปรเปลี่ยนสำหรบั เรา ? แฟนหนูค่ะ” ส่วนเจ้าบ่าวเจา้ สาว ก็จะตอบอย่างมนั่ ใจว่า “ภรรยาผม / สามฉี นั ” สมัยหน่ึง พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้ตรัสถามพระนางมัลลิกาเทวีว่า แต่สำหรับคนท่ีมีลูกแล้ว คำตอบก็จะเปล่ียนเป็น “ลูก ๆ” ไปโดย “มใี ครอน่ื บา้ งไหมที่นอ้ งรักยิ่งกวา่ ตน ?” พระนางมัลลิกากราบทลู ว่า “หามี ใครอ่ืนไม่” แล้วถามย้อนกลับว่า “ก็ทูลกระหม่อมเล่า มีใครอ่ืนที่รักย่ิงกว่า อตั โนมตั ิ พระองคม์ ย้ั เพคะ ?” พระเจา้ ปเสนทโิ กศลกต็ รสั ตอบวา่ “แมฉ้ นั กไ็ มร่ กั ใครอนื่ มีใครเคยสังเกตม้ัยว่า ทำไมผู้ท่ีเรารู้สึกรักท่ีสุด ถึงได้มีมากหน้า ยิ่งกวา่ ตน” หลายตา ผลัดเปล่ียนไปตามวัยและกาลเวลาอยู่เรื่อย ? หากวิเคราะห์ จากนั้น พระเจ้าปเสนทโิ กศลก็เสดจ็ ไปเข้าเฝ้าพระผูม้ ีพระภาค แลว้ เจาะลึกแล้วจะพบว่า เพราะคนส่วนใหญ่มักจะรักใครก็เพ่ือสนองอารมณ์ ทรงถวายบังคมกราบทูล เม่ือพระองค์ทราบเน้ือความแล้ว ได้ทรงเปล่ง ความตอ้ งการ และผลประโยชนข์ องตวั เองเป็นหลัก นนั่ เอง อุทานว่า “ใคร ๆ ตรวจตราด้วยจิตท่ัวทุกทิศแล้ว หาได้พบผู้เป็นที่รัก ยิ่งกว่าตน สัตว์เหล่าอื่นก็รักตนมากเหมือนกัน เพราะฉะน้ัน ผู้รักตน การทเ่ี ดก็ ๆ รสู้ กึ รกั พอ่ แมม่ าก กเ็ พราะทา่ นเลยี้ งดใู หอ้ าหารการกนิ จึงไมค่ วรเบียดเบียนผ้อู ่นื ” ของเลน่ ของใช้ ส่งให้ศกึ ษาเล่าเรียน จากพระไตรปิฎกทีย่ กมา ตนหรอื ตัวเองจงึ เปน็ คำตอบสดุ ทา้ ย ของ ท่วี ยั รนุ่ มักจะรักแฟนฉัน ก็เพราะว่าทำใหห้ ัวใจซาบซา่ นเปน็ สชี มพู ผู้ท่ีทุกคนรักเท่าชีวีอย่างแท้จริง และพระพุทธองค์ยังทรงเมตตาให้หลักรัก เม่ือแต่งงานใหม่ ๆ สามีภรรยาต่างก็จะกลายเป็นยอดรัก เพราะ ทีต่ อ้ งขอย้ำและทำไฮไลท์ไวเ้ ลยว่าผู้รักตนไม่ควรเบียดเบียนผอู้ ่นื คดิ ว่าเราเปน็ ของกันและกัน จรงิ มย้ั จ๊ะ ? เวลาผา่ นไปสกั พกั ลกู จะมาแทนท่ี เพราะรสู้ กึ วา่ เปน็ เลอื ดเนอ้ื เชอ้ื ไข รักดตี ้องมีหลัก 71 เปน็ ผู้สืบสกลุ 70 รกั ดีตอ้ งมหี ลกั

แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมาหลายยุคสมัย ผู้คนทั่วหล้าก็ยังคงรักตน ต่อสังคมเศรษฐกิจ อีกหลายคนก็เพ้ียนหนัก ถึงกับฉวยโอกาสปล้นบ้าน ย่ิงกว่าใครไม่เปลี่ยนแปลง แต่ที่เปล่ียนไปก็คือ มีคนจำนวนไม่น้อย เผาเมือง แปลงกายเป็นโจรนินจาขโมยข้าวของผู้อื่น ซ่ึงเป็นเร่ืองเหลือเช่ือ พรอ้ มจะเบียดเบยี นผู้อ่นื ทุกเมอ่ื เพอ่ื ให้ได้มาในสิ่งท่ตี วั เองตอ้ งการ นี่ ว่าไม่นา่ จะเกดิ ขนึ้ ได้ ในบา้ นเมอื งทย่ี งั มกี ฎหมายกำกับและศาสนาดำรงอยู่ จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่ลุกลามไปทั่วโลก และกำลังระบาดหนักในประเทศ แสยะ เมอื งยิม้ ไมอ่ อก ทท่ี ำใหผ้ ู้อาศยั อยใู่ จระทึกวา้ วุน่ ไปตาม ๆ กนั เมอ่ื ขนึ้ ชอ่ื วา่ คนพาลแลว้ ฉันขอเตอื นเลยว่า ใครอยา่ เผลอไปคบหา เขา้ เชียวล่ะ เพราะจะต้องโดนพาลพาไปหาผิด ตอ่ ให้เป็นบณั ฑิต หากหลง ทุกวันนี้ หากใครต้องการสิ่งใดแล้วไม่ได้ด่ังใจ แทนที่จะใช้ความ เข้ากลุ่มพาลก็ไม่มีทางได้เจอผล ยิ่งใครท่ีใจไม่ด้านพอ ก็อย่าได้ย่างกราย พยายามอย่างถูกต้องชอบธรรม กลับเลือกใช้อารมณ์ อาวุธ ใช้พระเดช เขา้ ไปใกล้เลยเชียว เพราะจะต้องสูญสน้ิ ยางอายอย่างไมเ่ หลือหลอ ! แทนพระคุณ และเมื่อรวมตัวกันเป็นกลุ่มได้ ก็จะประท้วงปิดถนน เข้าทำนองที่ว่า “ถ้าข้าไม่แฮปปี้ แกก็ต้องเดือดร้อนด้วย อย่าได้หวัง คนเพ้ียนก็เหมือนกันนะเธอ อย่าไปเสียเวลาคุยให้มากความล่ะ อยเู่ ปน็ สุขเลยเอ็ง !” ทัง้ ๆ ทรี่ วู้ ่าการกระทำดังกลา่ ว ไมใ่ ชท่ างออกในการ ไม่ได้สาระประโยชนห์ รอก หากบณั ฑิตคนใดคิดไปเจรจาดว้ ย ฉนั กว็ ่าเพ้ยี น แก้ปัญหา แต่เป็นทางตัน ท่ีสุดท้ายก็จะย้อนกลับมาเพ่ิมความเดือดร้อน ย่ิงกวา่ คนพวกน้ันอีก แถมยงั จะโดนโห่ฮาปา่ หาว่าเหวง ด้วยซำ้ ไป ให้ตัวเองและผ้อู ืน่ อยา่ งแนน่ อน อ้าว ! ถ้าคบก็ไม่ได้ คุยก็ไม่ควรแล้ว จะให้ทำอย่างไรล่ะ... ถอย จำเปน็ ด้วยหรอื ทกี่ ารเรียกร้องเพ่อื ให้ได้ในสงิ่ ท่ีตวั เองต้องการ กันคนละก้าวดีม้ัย ? ก็คงดีแบบฉาบฉวยขอไปทีหรอกนะ เพราะถ้ามัวแต่ จะต้องข้ึนต้นด้วยการเบียดเบียนผู้อื่น และลงท้ายด้วยความเสียหาย ถอยกันหมดแล้ว บ้านเมอื งจะเดนิ หนา้ ไดอ้ ย่างไรละ่ จรงิ มัย้ ? ของคนหมู่มาก ? หากใครเห็นว่าสมควรหรือสนับสนุนการกระทำเช่นน้ัน กข็ อใหร้ ไู้ วเ้ ลยวา่ ตวั เองไดก้ ลายเปน็ คนพาลคดิ เพยี้ น ไมบ่ า้ กเ็ มาไปเสยี แลว้ ที่ถูกต้องแล้ว ฉันว่าควรเรียกร้องให้ฝ่ายพาล ผู้นิยมใช้กฎหมู่ กอ่ ปัญหานะ่ รีบ ๆ ถอยลงคลองไปเลย แลว้ เร่งรดั ใหฝ้ า่ ยบัณฑติ ผูม้ ีอำนาจ หลายคนก็พาล ถึงขนาดลงมือทำร้ายเข่นฆ่าผู้ที่ไม่เคยรู้จัก ทำลาย หน้าที่ เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็วจริงจัง ด้วยความบริสุทธิ์ สาธารณสมบัติทรัพย์สินผู้อื่นให้วิบัติ ก่อความวุ่นวาย สร้างความเสียหาย ยตุ ิธรรม เพอ่ื สงั คมประเทศชาติจะได้ถอยมาจากอาการโคมา่ ดกี วา่ นะ ! 72 รกั ดตี ้องมหี ลัก รกั ดตี ้องมีหลกั 73

นอกจากจะให้ฝ่ายหน่ึงถอยฝ่ายหน่ึงย่างสามขุมอย่างมีสติ เพื่อ 3. ปลูกพรหมวิหาร ได้แก่ เมตตา (ปรารถนาดอี ยากใหผ้ อู้ ่ืนมสี ุข), แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ถ้าอยากระงับที่ต้นเหตุต้นตอจริง ๆ จ่ังซ่ีมัน กรุณา (ความสงสาร คิดช่วยให้พ้นทุกข์), มุทิตา (ความยินดีเม่ือผู้อ่ืนอยู่ดี ต้องถอน และจะทำแบบงกึ ๆ งัก ๆ จกึ ๆ จก๊ั ๆ กะอึกกะอัก ไมไ่ ดน้ ะ มีสุข), อุเบกขา (ความไม่เอนเอียงด้วยรกั และชัง) ทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมแรงร่วมใจกันขุดรากถอนโคน ให้ส้ินซากโดยด่วน ในสงิ่ เหลา่ น้ีเลย... 4. ปลูกไตรสิกขา ได้แก่ ศีล, สมาธ,ิ ปญั ญา 5. ปลกู ศรัทธา ความเชื่อท่ีประกอบด้วยเหตผุ ล 1. ถอนความเหน็ แก่ตวั ท่มี ุง่ แตผ่ ลประโยชนส์ ่วนตนและพวกพอ้ ง อย่ามัวร้ังรอลังเลกันอีกเลย จะขอคืนพ้ืนที่ให้ความดี จะกระชับ เปน็ หลัก วงลอ้ มหรอื สลายการชมุ นมุ ความชวั่ รา้ ย กร็ บี ๆ ทำเถอะ เพราะการเรมิ่ ตน้ ทำสิ่งดีที่ล่าช้า คือการเปิดโอกาสให้ส่ิงชั่วได้ลุกลาม จนยากต่อการแก้ไข 2. ถอนการเบียดเบียน หยุดทำให้ผู้อ่ืนเดือดร้อน ประเทศชาติ เยียวยา ตามพุทธวจนะท่ีว่า “พึงรีบเร่งกระทำความดี และป้องกันจิต ตอ้ งเสยี หาย ไดแ้ ล้วนะ ! จากความชวั่ เพราะเมอื่ กระทำความดชี า้ ไป ใจจะกลบั ยนิ ดใี นความชวั่ ” เพอ่ื ผลแหง่ ความสงบสขุ ระยะยาว ผไู้ ดช้ อื่ วา่ รกั ตนตอ้ งยดึ หลกั รกั 3. ถอนอตั ตา คอื ตวั ตน ความเปน็ ตวั กขู องกู พวกขา้ ผใู้ หผ้ ลประโยชน์ ท่ีพระพุทธองค์ทรงแนะนำ คือ ไม่เบียดเบียน ไม่ละเมิดลดทอนสิทธ์ิ ขา้ ออกไปให้หมด ของผู้อ่ืน เพราะวันหน่ึงผลแห่งการคิดผิดกระทำช่ัวร้ายนั้น ก็ต้องกลับมา สนองให้ผลเปน็ ทุกข์แสบรอ้ นกบั ตวั เอง เช่นเดยี วกัน 4. ถอนกเิ ลส ความชวั่ ทแ่ี ฝงอยใู่ นความรสู้ กึ นกึ คดิ ตา่ ง ๆ ใหส้ นิ้ ซาก ทุกชีวิตต่างก็รักตน ผู้เดือดร้อนย่อมหาทางปกป้องตัวเองไม่ทางใด อยา่ ได้โผล่ขึน้ มาอกี ก็ทางหนงึ่ จะทำให้เกิดการตอ่ ต้านแบง่ แยกเปน็ ฝกั ฝา่ ย กลายเป็นมหกรรม กฬี าสีร้าวรานชาติไดน้ ะ หากใครอยากเป็นคนมสี จี รงิ ๆ ฉนั กข็ อแนะนำให้ 5. ถอนตัณหา ความทะยานอยาก ดิ้นรน แส่หา ทั้งหลายแหล่ เป็นประเภทสีทนได้ ที่ทนต่อการยั่วยุของกิเลสตัณหา ความอยากได้ใคร่มี ให้เกลี้ยงเกลาเรยี บเตียนไปเลย เคียดแค้นพยาบาท ฯลฯ ซ่ึงดีกับตัวเองเยอะเลย ไม่ก่อความวุ่นวาย เมื่อถอนแล้ว ก็ตอ้ งรบี ปลกู ทดแทนโดยเร็วดังนด้ี ว้ ยนะ... รักดตี อ้ งมหี ลกั 75 1. ปลูกธรรมคุ้มครองโลก ได้แก่ หิริ (ความละอายต่อความชั่ว), โอตตปั ปะ (ความเกรงกลัวต่อบาป) 2. ปลูกธรรมมีอุปการะมาก คือ สติ (มีความรู้ตัว ไม่เผลอ), สมั ปชญั ญะ (รู้ชัดสิง่ ทน่ี กึ ได้ เขา้ ใจชัดตามความเป็นจรงิ ) 74 รักดตี ้องมีหลกั

แตกแยกในสงั คมดว้ ย สุดท้าย ขอฝากข้อความท่ีคัดย่อจากพระไตรปิฎก ให้นำมาประทับ ฉะน้ัน หากใครคดิ จะรกั ตนแล้ว กค็ วรรักผอู้ ืน่ แถมพว่ งไปดว้ ย ไมใ่ ช่ ไว้ในใจกนั อกี บทนะ รักคนนั้นสุดใจแต่เกลียดคนน้ีชิบเผง เหมือนอย่างท่ีทำกันอยู่ทุกวันนี้น่ะ ครงั้ หนงึ่ พระเจา้ ปเสนทโิ กศลไดท้ รงกราบทลู วา่ “ชนเหลา่ ใดประพฤติ เพราะมนั จะมีปัญหาตามมามากมายไม่รูจ้ กั จบสิ้น สุจริตด้วยกาย วาจา ใจ ชนเหล่านั้นช่ือว่ารักตน ฯ” พระผู้มีพระภาค จึงไดต้ รัสคาถาประพนั ธว์ ่า “ถ้าบุคคลพงึ รู้ว่าตนเปน็ ท่ีรกั ไม่พงึ ประกอบ ตามหลักธรรมแล้ว เหตุแห่งความรัก-ความเกลียดผู้อื่นน้ัน มีท่ีมา ดว้ ยบาป เพราะวา่ ความสขุ นนั้ ไมเ่ ปน็ ผลทบี่ คุ คลผทู้ ำชว่ั จะพงึ ไดโ้ ดยงา่ ย ดงั นคี้ ือ เม่ือบุคคลถูกมรณะครอบงำ ละทิ้งภพมนุษย์ไป... บุญและบาปน้ันแล เป็นสมบัตขิ องเขา และเป็นประดุจเงาตดิ ตามตน เพราะฉะนั้น บคุ คล 1. ความรักเกิดจากความรัก ใครทำให้คนที่เรารักพอใจ เราก็รัก พงึ ทำกลั ยาณกรรม* สะสมไวเ้ ปน็ สมบตั ใิ นปรโลก** เพราะวา่ บญุ ทงั้ หลาย คนนนั้ ย่อมเปน็ ท่ีพง่ึ ของสัตว์ทง้ั หลายในปรโลก” 2. ความเกลียดเกิดจากความรัก ใครทำให้คนท่ีเรารักไม่พอใจ ก็ได้แต่หวังว่าต้นทุนบุญกุศลที่ยังพอมีหลงเหลืออยู่บ้าง ในบรรดา เราก็เกลยี ดคนน้ัน ทรชนผู้เบยี ดเบียนทั้งหลาย จะสง่ ผลปลกุ จิตสำนกึ ท่ดี ใี นตวั เขาเหล่านัน้ ให้ ต่ืนขึ้นมาโดยเร็ว จะได้ไม่ต้องหลงผิดทำพลาด นำพาตัวเองไปสู่จุดตกต่ำ 3. ความรกั เกดิ จากความเกลยี ด ใครทำใหค้ นทเ่ี ราเกลยี ดไมพ่ อใจ ของชีวิต เราก็รกั คนนัน้ ***กโาลรกกอรน่ื ะทโลำทกหี่ดนีงาา้ มโลกทไ่ี ปขา้ งหนา้ คอื ภพทไ่ี ปเกดิ ใหมห่ รอื ไปมชี วี ติ ใหมข่ องมนษุ ยแ์ ละสตั วห์ ลงั จาก 4. ความเกลยี ดเกดิ จากความเกลยี ด ใครทำใหค้ นทเี่ ราเกลยี ดพอใจ เรากเ็ กลียดคนนัน้ ตายไปแลว้ รักดีตอ้ งมีหลัก 77 กอ็ ยากใหล้ องพจิ ารณาทบทวนกนั ดวู า่ ความรกั -ความเกลยี ด ทเ่ี รามี ต่อผู้อ่ืนน้ันเป็นแบบใด ? มีข้อดี-ข้อเสีย เป็นประโยชน์-โทษ ต่อตัวเอง- ผู้อ่ืน หรือไม่ ? และควรปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างไร ? เพื่อสังคม- ประเทศชาติ จะได้กลบั คนื สู่ความสงบ มชี ีวิตอยู่รว่ มกันเป็นปกติสุขทัว่ หน้า 76 รกั ดีต้องมหี ลัก

แม้อาจมีบางครั้งบางคนเล็ดลอดสายตาจ่าเฉย รอดพ้นจากการ ถกู ลงโทษทางกฎหมายไปได้ กย็ งั มกี ฎแหง่ กรรมทรี่ อการใหผ้ ลอยอู่ กี ชน้ั หนง่ึ รับรองวา่ ไม่มีทางเจรจาขอฝ่าด่านไปไดอ้ ยา่ งแน่นอน และฉนั กย็ งั แอบหวงั ลกึ ๆ วา่ เมอ่ื ควนั ไฟแหง่ ความรกั ตนทบี่ านปลาย กลายเป็นความเห็นแก่ตัว เบาบางลง ความมืดมัวในจิตใจของผู้กระทำ ไมถ่ กู ตอ้ ง ไมช่ อบดว้ ยศลี ธรรมทง้ั หลาย จะจางคลายตามไปดว้ ย จนมองเหน็ สจั ธรรมชดั เจนวา่ ในทา้ ยทสี่ ดุ แลว้ การเบยี ดเบยี นผอู้ น่ื กค็ อื การไมร่ กั ตน หรอื เบยี ดเบยี นตนเอง น่นั เอง ปรทกุ ขฺ ปู ธาเนน ผู้ใดปรารถนาสขุ เพือ่ ตน โย อตฺตโน สขุ มจิ ฉฺ ต ิ โดยการก่อทกุ ข์ให้คนอน่ื เวรสสคฺคสสฏฺโ ผนู้ น้ั มักเกี่ยวพันด้วยเวรไม่รสู้ ้นิ เวรา โส น ปริมุจจฺ ติ ฯ ไม่มที างพน้ ทางเวรไปได้ 78 รกั ดีตอ้ งมีหลกั รักดตี อ้ งมหี ลกั 79



วั นหน่ึง ขณะท่ีฉันกำลังขับรถอยู่บนถนนสายสุขุมวิท ได้เหลือบไปเห็น ความหลงเชอื่ แบบผดิ ๆ ทค่ี ดิ เอาแตไ่ ดฝ้ า่ ยเดยี ว อนั เปน็ เหตใุ หเ้ กดิ โปสเตอร์แผ่นหนึ่งที่ปิดอยู่บนเสาตอม่อรถไฟฟ้า BTS เป็นรูปช้าง การฆา่ เบยี ดเบยี นสัตว์เป็นประจำ เท่าทพี่ อจะรวบรวมได้ ก็มีประมาณน้ี... หลายเชือกกำลังเดินจากไปโดยหันบ้ันท้ายมาให้คนดู และมีพาดหัวพอจับ ใจความไดว้ า่ “ขอขอบคุณชาวกทม.ทชี่ ว่ ยกนั พาเรากลับบ้าน” 1. สตั วเ์ กดิ มาเปน็ อาหารของคน (ฆ่าเพื่อกนิ ไมบ่ าปหรอก) น่นั แน่ ! มามกุ น้อี กี แล้ว ไม่เบอ่ื บา้ งหรือไง ? บางคนอา้ งไปถึงสมยั ฉันก็เลยนำมาปรุงต่อในฐานะคนชอบคิด ฟุ้ง + ซ่านว่า ถ้าหาก พระบรมศาสดาโน่นว่า “ถ้าบาป... พระพุทธเจ้าคงห้ามไม่ให้พระภิกษุ ฉันเน้ือสัตว์แล้วหละ” ก็พอถูไถไปได้นะ แต่ความจริงแล้ว ท่ีพระองค์ไม่ บรรดาสัตว์สามารถสื่อสารกับคนได้เช่นน้ีแล้วละก็ เราคงได้เห็นโปสเตอร์ ทรงห้ามเพราะเกรงว่าภิกษุจะเดือดร้อนลำบากมากกว่า เน่ืองจากเลือก หรือสอ่ื อ่ืน ๆ ตามสถานทีต่ ่าง ๆ เต็มไปหมด แต่จะไมใ่ ช่เร่ืองการขอบคณุ ไม่ได้ในส่ิงท่ีมีผู้นำมาถวาย แต่ก็ยังทรงห้ามฉันเน้ือ 10 อย่าง อันได้แก่ หากเปน็ การเรยี กรอ้ งขอความเปน็ ธรรม และความเมตตาจากคนเสยี มากกวา่ มนุษย์ ช้าง ม้า หมี สุนัข งู ราชสีห์ เสือโคร่ง เสือดาว เสือเหลือง รวมถงึ เน้อื ท่ไี ม่บรสิ ทุ ธ์ดิ ว้ ยอาการ 3 อยา่ ง คือ เห็นการฆา่ น้นั ได้ยนิ ว่า เพราะเม่ือมองย้อนดูพฤติกรรมท่ีคนส่วนใหญ่ปฏิบัติต่อสัตว์แล้ว ฆ่าเพื่อนำมาถวาย และรังเกียจ (ลังเลสงสัยในการฆ่า) ซึ่งไม่มีคำตรัสใด ไมว่ า่ ยคุ สมยั ใดกม็ กั หลงคดิ เขา้ ขา้ งตวั เองวา่ สตั วเ์ ปน็ สงิ่ มชี วี ติ ทตี่ ำ่ ตอ้ ยดอ้ ยคา่ ทีส่ นบั สนุนวา่ สัตวเ์ กิดมาเพ่อื เป็นอาหารของคนเลย เกิดมาเป็นเบ้ียล่างของคน เหมือนมดที่ไต่ปลายนิ้วหรือลูกเจ๊ียบในกำมือ จะบบ้ี บี อยา่ งไร เมอื่ ใด หนกั เบาแคไ่ หนกย็ อ่ มได้ ทงั้ ๆ ทเี่ วลาไปวดั กส็ มาทานศลี ลองมาดสู ถติ กิ ารบรโิ ภคเนอื้ สตั ว์ *(เฉลย่ี กโิ ลกรมั /คน/ป)ี ของคนไทย เสียงดังฟังชัดว่า “ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ” ใจธรรมดา เรียงตามลำดับ 1-3 กันหน่อยนะว่ามีปริมาณมากน้อยเพียงใด แตก่ ลับไม่ได้รสู้ ึกร้สู าละอายใจ เมื่อกระทำส่งิ ที่ตรงกนั ขา้ มบ่อย ๆ เลย เนือ้ หมู 15.8, เน้ือไก่ 10.4, เนือ้ วัว-ควาย 4.5 ถา้ หากเอาจำนวนประชากร 63 ลา้ นคน คณู เขา้ ไป แลว้ หารดว้ ยนำ้ หนกั เฉลยี่ ของสตั วแ์ ตล่ ะชนดิ จะได้ ดังน้ัน ฉันในฐานะผู้มีวิสัยชอบจุ้นเรื่องคนอ่ืนสัตว์อื่นเป็นประจำ จำนวนเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณน้ี คือ คนไทยทั้งประเทศร่วมกนั บรโิ ภค อยู่แล้ว ก็เลยอยากฉุดกระชากให้มิตรสหายทุกท่าน ได้หันมาปฏิบัติ หมู 4 ลา้ นตัว, ไก่ 130 ลา้ นตัว และ วัว-ควาย 1.2 แสนตัว ตอ่ ปี ** ตามศีลธรรมอย่างเคร่งครัดรัดกุมไม่หละหลวม โดยเฉพาะเรื่องเว้นจาก การฆ่า การเบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่นอย่างเด็ดขาด ซึ่งจะเป็นผลโดยตรง * ขอขอบพระคณุ พ่ีชาตรี ลีวณชิ ย์ เป็นอย่างสูง ทีไ่ ด้เสนอความคิดในการเขยี นประเดน็ น้ี ให้ลดการก่อกรรมทำบาป และการรับวิบากในอนาคตลงไดม้ ากมายนกั ** จำนวนอาจมีการคลาดเคล่อื นได้ ตามการประมาณนำ้ หนักเฉลี่ยของสตั ว์แตล่ ะชนดิ 82 ขอความเป็นธรรม ขอความเปน็ ธรรม 83