Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่๒ -แต่เด็กที่ซื่อไว้ pdf

แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่๒ -แต่เด็กที่ซื่อไว้ pdf

Published by KruMuay, 2021-08-18 14:00:41

Description: แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่๒ -แต่เด็กที่ซื่อไว้ pdf

Keywords: @krumuay

Search

Read the Text Version

กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หน่วยที่ ๒แต่เด็กซื่อไว้ โดย นางสาวกมลนัยน์ พงศ์สกุล

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย(ชดุ ภาษาพาที) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๒ เร่อื ง แต่เดก็ ซือ่ ไว้ เวลา ๑o ชวั่ โมง แผนการเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่ือง อา่ นออกเสียงคํา ประโยค เวลา ๑ ช่วั โมง วนั ที่สอน ………………………….. ครผู ูส้ อน นางสาวกมลนยั น์ พงศส์ กลุ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่อื นําไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาในการดําเนนิ ชวี ิต และมีนิสยั รักการอา่ น สาระสาํ คัญ การอ่านออกเสียง ผู้อา่ นจะตอ้ งแบง่ วรรคตอน เนน้ เสียงหนักเบา และออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ ง ชัดเจน จึงจะสื่อความหมายไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพการอ่านออกเสียงผู้อ่านต้องรู้ท่ีมาและ องคป์ ระกอบของคาํ อ่านออกเสยี งใหถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน จะทาํ ให้ การ อ่านมีประสทิ ธภิ าพ ตัวช้ีวัด ท ๑.๑ ป. ๓/๑ อา่ นออกเสยี งคาํ คล้องจอง ขอ้ ความ และบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆได้ถกู ต้อง ท ๑.๑ ป. ๓/ ๔ ต้งั คําถามและตอบคําถามเชงิ เหตผุ ลเก่ยี วกบั เร่อื งทอ่ี า่ น ท ๑.๑ ป. ๓/๙ มมี ารยาทในการอา่ น ท ๓.๑.ป. ๓/๕ พดู สือ่ สารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ จดุ ประสงค์ เมอ่ื นักเรยี นเรือ่ ง “ อ่านออกเสยี งคํา ประโยค ” นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติได้ ดงั นี้ ๑. นกั เรียนอา่ นออกเสียงเนื้อหาในบทเรยี นได้ ๒. นกั เรียนตอบคาํ ถามจากเรอื่ งได้ ๓. นกั เรยี นมีมารยาทในการอา่ น สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสือ่ื สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รักความเปนไทย ๒. ใฝเ รยี นรู้ ๓. มจี ิตสาธารณะ ๔. มวี นิ ยั ๕. อยื่อู ย่างพอเพยี ง สาระการเรียนรู้ - อ่านออกเสียงคําและประโยคในบทเรยี นเรอ่ื ง แต่เด็กซ่ือไว้ การจดั การเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี ๑ ๑. ข้นั นําเข้าส่บู ทเรยี น ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสิ่ง ท่นี กั เรียนต้องเตรียมในชัว่ โมงน้ใี ห้นักเรยี นทราบ ๒. คุณครูชวนนักเรียนฟังเร่ืองส้ันเทพารักษ์กับคนตัดไม้แล้วถามข้อคิดจาก เร่ือง(ความซ่ือสัตย์) เพ่ือโยงเข้าสู่เนื้อหา ๒. ข้ันสอน ๓. ครูบอกหลักเกณฑ์การอา่ นออกเสียงที่ดี เว้นวรรคตอนถูกต้อง ใช้นํ้าเสียงสอด คลอ้ งกบั อารมณ์ของตวั ละครและประเภทของบทความ เปนต้น ๔. นักเรียนอา่ นเนื้อหาในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ช้ัน ประถมศึกษาปท่ี ๓ หนา้ ๑๘–๒๒ โดยอา่ นตอ่ กนั คนละ ๑ ยอ่ หนา้ ๕. นักเรยี นและครูรว่ มกันอภิปรายซกั ถามเนือ้ หาสาระการเรียนรู้โดยนักเรยี น ช่วยกนั ตั้งคําถามให้ เพือ่ น ๆ ตอบ เช่น - ชามาเป็นเดก็ มลี ักษณะนิสัยอย่างไร - เพื่อน ๆ เห็นดว้ ยกบั ความคิดของชามาหรือไม่ - ความคิดของชามามวี า่ อยา่ งไร - ทําไมชามาถึงอยากได้เงินจากการขายขยะ - ชามาสํานกึ ผิดได้เพราะนึกถงึ คาํ สอนของใคร

๖. .ให้นักเรียนแต่งประโยคจากคําที่กําหนดให้ลงในสมุด (สหาย ลําธาร เหตุการณ์ ความช่ัว พยกั หน้า) ๓. ขั้นสรุป ๗. คุณครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เร่ือง แตเ่ ด็กท่ีซอ่ื ไว้ ๘. คณุ ครูใหน้ ักเรียนทาํ แบบฝกึ หัดในหนงั สือทกั ษะภาษา แบบฝึกหัดที่ ๒ ข้อ ๑ หน้า ๙ - ๑๑ ส่ือ / แหลง่ เรยี นรู้ ๑. หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษา ปท่๓ี ๒. หนงั สอื แบบฝกึ หดั รายวิชาพนื้ ฐาน ทักษะภาษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๓ ๓. แบบฝึกทักษะ ชิน้ งาน /ภาระงาน ๑. การตอบคาํ ถามจากเรื่อง ๒. การทาํ แบบฝึกหดั ๓. สรุปความรู้จากเรอื่ ง วิธกี ารวัดและประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล เคร่อื งมือวัดผลและประเมนิ ผล รายการประเมนิ  ดา้ นความร้คู วามเขา้ ใจ - สาํ รวจความพร้อม - ฟังเรอื่ งสั้น - การอ่านออกเสยี ง - สงั เกต - แบบฝกึ หดั - การตอบคาํ ถาม - ซกั ถาม -แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล - การทาํ แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทกั ษะ - ตรวจแบบฝกึ หดั /แบบฝกึ ทักษะ  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - การสังเกตพฤตกิ รรมขณะร่วม -แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล กิจกรรม  ด้านทักษะกระบวนการคดิ - ประเมนิ การรว่ มสนทนา -แบบประเมินผลงานรายบคุ คล การร่วมสนทนา เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล ใชก้ ารผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๗o ขน้ึ ไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ต้องแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ ลงช่ือ.....................................................ครพู เ่ี ลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

แผนการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย(ชดุ ภาษาพาที) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง แต่เด็กซือ่ ไว้ เวลา ๑o ชัว่ โมง แผนการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง บอกความหมายคํา เวลา ๑ ชวั่ โมง วนั ทีส่ อน ………………………….. ครผู ูส้ อน นางสาวกมลนัยน์ พงศส์ กลุ สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนําไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชวี ิต และมนี ิสัยรักการอ่าน สาระสาํ คญั การเรียนรู้คํา ผู้เรียนต้องเรียนรู้ทั้งในด้านองค์ประกอบ หลักการอ่านแจกลูกสะกดคํา รู้ความหมายและหลกั การใช้ จึงจะสามารถนาํ คําไปใชไ้ ดถ้ กู ต้องตามสถานการณ์ การเรียนรู้ความหมายของคํา เข้าใจความหมายของคํา ทําให้การเรียนรู้ภาษาได้ดี และ ถกู ต้อง ตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ ป. ๓/๑ อ่านออกเสยี งคําคลอ้ งจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองงา่ ยๆได้ถกู ตอ้ ง ท ๑.๑ ป. ๓/ ๒ อธบิ ายความหมายของคํา และข้อความทีอ่ า่ น จุดประสงค์ เม่อื นักเรียนเรยี นเรื่อง “ บอกควาหมายคาํ ” นกั เรียนสามารถปฏิบัติได้ ดงั น้ี ๑. นักเรยี นนักเรยี นอา่ นคําศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง ๒. นักเรียนบอกความหมายของคาํ ในบทเรียนได้ ๓. นักเรยี นใชค้ ําไดถ้ กู ตอ้ งตามบริบท สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสือื่ สาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รักความเปน ไทย ๒. ใฝเรยี นรู้

๓. มจี ติ สาธารณะ ๔. มีวนิ ยั สาระการเรยี นรู้ - การใชค้ าํ - ความหมายของคํา การจดั การเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ ๑ ๑. ขน้ั นาํ เขา้ สบู่ ทเรยี น ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสิ่ง ทีน่ กั เรียนตอ้ งเตรยี มในชั่วโมงนใี้ หน้ กั เรียนทราบ ๒. ครูให้นักเรียนดูบัตรภาพและสนทนาประสบการณ์เก่ียวกับภาพท่ีเก่ียวกับคําใหม่ ในบทเรียน ( กระวนกระวาย รไี ซเคิล อปุ กรณ์ ศนู ย์การค้าแล้วเพ่ือเช่ือมโยงเข้าสู่เน้ือหา ๒. ข้ันสอน ๑. ครูให้นักเรยี นอา่ นคาํ จากบตั รคําตามครู คําละ ๒ ครงั้ ๒. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงคําศัพท์ อ่านเพ่ิม เติมความหมาย จากหนังสือเรียน ภาษาพาที ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ ๓ หน้าที่ ๒๕- ๒๖ ๓. ครูนักเรียนและครูรว่ มกันสนทนาถึงความหมายของคํา พรอ้ มยกตัวอยา่ ง ประกอบ ๔. ครใู ห้นักเรียนฝึกแต่งประโยคปากเปลา่ จากบตั รคําท่ีอา่ น (คาํ สําคญั ในบทเรียน) ๕. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเท่า ๆกันทํากิจกรรมแข่งขันทายคําแหาความหมายของคํา ยากจากพจนานุกรมท่ีครูกําหนดให้( คร่ําครวญ ฉวย ทุกข์ทรมาน ยักยอก สหาย สัตย์ซ่ือ กิริยามารยาท กิจกรรม ผลัด เหตุการณ์ ขวญั เทวดา ผดุ ลกุ ผดุ น่ัง บรสิ ุทธิ์ ทจุ รติ สารภาพ) ๖. นักเรียนทําใบงานท่ี ๑ ( ท้ายแผน ) ชุด เขียนคําอ่านจากคําที่กําหนดให้ จากนั้น นําสง่ ครู ครเู ฉลยและตรวจสอบความถูกต้อง ๗. นักเรียนทําใบงานท่ี ๒ ( ท้ายแผน ) ชุด เขียนคําจากความหมายที่กําหนดให้ เสรจ็ แล้วนําส่งครูตรวจสอบความถกู ต้อง ๓. ขนั้ สรุป ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องที่เรียนความหมายของคําสุ่มนักเรียนบอก ประโยชน์ของการรู้ความหมายคาํ ๙. ครใู ห้นักเรียนทาํ แบบฝกึ ทักษะภาษา แบบฝึกหัดท่ี ๒ ข้อ ๒ (๑– ๓)

สอื่ / แหล่งเรียนรู้ ๑. บัตรคํา ๒. บัตรภาพ ๓. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ประถมศกึ ษาปท ี่ ๓ ๔. แบบฝกึ หดั รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ทักษะภาษา ประถมศกึ ษาปที่ ๓ ๕. พจนานุกรม ชน้ิ งาน /ภาระงาน ๑. การตอบคาํ ถามจากเรือ่ ง ๒. การทาํ แบบฝึกหดั ๓. สรปุ ความรู้จากเรือ่ ง วิธีการวัดและประเมนิ ผล วิธีการวัดและประเมินผล เครื่องมอื วัดผลและประเมนิ ผล รายการประเมิน  ด้านความรู้ความเข้าใจ - สาํ รวจความพร้อม - บตั รคาํ - การอ่านคาํ ไดถ้ กู ต้อง - สงั เกต - ทาํ ใบงานที่ ๑ และ๒ - บอกความหมายของคาํ ได้ - ซักถาม - กิจกรรมแขง่ ขนั ทายทาํ - การใช้คาํ ได้ถูกต้องตามบรบิ ท - ตรวจแบบฝึกทักษะ -แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล - การทําแแบบฝกึ ทักษะ  ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - การสงั เกตพฤตกิ รรมขณะร่วม -แบบประเมินผลงานรายบคุ คล กจิ กรรม  ดา้ นทกั ษะกระบวนการคิด - ประเมนิ การร่วมสนทนา -แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล การร่วมสนทนา เกณฑ์การวดั และประเมินผล ใช้การผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๗o ขึ้นไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ตอ้ งแก้ไขเพิม่ เติม ลงช่ือ.....................................................ครพู ่ีเลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

ใบงาน ชุดท่ี ๑ คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนคาํ อ่านของคาํ ท่ีกาํ หนดใหต้ ่อไปน้ี ตวั อย่าง ทรมาน อ่านวา่ ทอ – ระ – มาน ที่ คาํ คาํ อ่าน ๑ ขวาน ๒ เทพารักษ์ ๓ รังเกียจ ๔ รีไซเคิล ๕ ลาํ ธาร ๖ สหาย ๗ สตั ยซ์ ื่อ ๘ อุปกรณ์ ๙ เหตุการณ์ ๑๐ อุปสรรค ทุจริต ช่ือ..............................................................เลขที่

ใบงาน ชุดที่ ๒ คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนคาํ ท่ีตรงกบั ความหมายที่กาํ หนดใหต้ ่อไปน้ี ท่ี ความหมาย คาํ ๑ แพร่ข่าวกนั อยา่ งแพร่หลาย ๒ เครื่องมือเคร่ืองใช้ ๓ เพ่อื นร่วมทุกขร์ ่วมสุข ๔ แหล่งรวมสินคา้ นานาชนิดเพ่อื วางจาํ หน่าย ๕ ทางน้าํ ที่ไหลลงจากภูเขา ๖ แบบแผนท่ีวางไวเ้ ป็นแนวปฏิบตั ิ ๗ เกลียดเพราะรู้สึกขยะแขยงหรือไม่ชอบใจ ๘ วนุ่ วาย แสดงอาการวนุ่ วายไม่เป็นสุข ๙ ดาํ น้าํ ลงไปหาของ ๑๐ ร้องไหพ้ ดู ถึงความทุกขข์ องตนเอง ๑๑ ติเตียนวา่ ร้าย ลบั หลงั ๑๒ ควา้ หรือหยบิ จบั เอาโดยเร็ว ๑๓ รีบร้อนลนลาน ลุกลน ๑๔ เดือดร้อนเพราะทุกขใ์ จ ๑๕ โกงเอาทรัพยส์ ินของผอู้ ื่นมาเป็นของตนเอง ช่ือ.................................................................เลขที่

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย(ชดุ ภาษาพาที) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง แตเ่ ดก็ ซอื่ ไว้ เวลา ๑o ชัว่ โมง แผนการเรียนรทู้ ่ี ๓ เรื่อง อา่ นจับใจความ เวลา ๑ ช่ัวโมง วันที่สอน ………………………….. ครผู สู้ อน นางสาวกมลนัยน์ พงศส์ กุล สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนําไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดําเนินชีวิต และมีนสิ ยั รักการอ่าน สาระสําคัญ การอ่านช่วยให้จับใจความสําคัญหรือประเด็นของเร่ืองท่ีอ่านได้ เพ่ือให้ได้คําตอบหรือเรียง ลําดับเหตุการณ์ท่สี าํ คญั ของเรือ่ งทีอ่ ่านได้ การอ่านออกเสียงผู้อ่านควรอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง ชัดเจน และปฏิบัติตนในการอ่านให้ ถกู ต้องตาม หลกั เกณฑจ์ ะทําให้อา่ นมีประสทิ ธิภาพ ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป. ๓/๑ อ่านออกเสียงคําคลอ้ งจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองง่ายๆได้ถกู ต้อง ท ๑.๑ ป. ๓/ ๔ ต้งั คาํ ถามและตอบคําถามเชงิ เหตผุ ลเกย่ี วกับเร่ืองท่อี ่าน ท ๓.๑.ป. ๓/๕ พดู ส่อื สารได้ชัดเจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ จุดประสงค์ เมื่อนกั เรยี นเรียนเรอ่ื ง “ อา่ นจบั ใจความ ” นกั เรยี นสามารถปฏิบัตไิ ด้ ดงั น้ี ๑. นักเรยี นจบั ใจความเร่ืองที่อ่านได้ ๒. นกั เรียนบอกข้อคิดเรื่องทอี่ ่านได้ ๓. มคี วามกระตือรือรน้ และสนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ - การจับใจความสาํ คัญจากเร่อื งแต่เด็กซ่อื ไว้ - บอกขอ้ คดิ จากเรอ่ื ง สมรรถนะสําคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มวี นิ ัย ๒. ใฝเรยี นรู้ ๓. ม่งุ มน่ั ในการทาํ งาน การจดั การเรียนรู้ ช่วั โมงที่ ๑ ๑. ข้ันนาํ เขา้ ส่บู ทเรียน ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และส่ิง ทีน่ กั เรียนต้องเตรยี มในชว่ั โมงน้ใี ห้นักเรยี นทราบ ๒. คุณครูชวนนักเรียนพูดคุยในความคิดของนักเรียนความซื่อสัตย์เปนอย่างไร ให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย ๒. ข้ันสอน ๓. ครูและนักเรยี นสนทนาความรู้เดิมจากช่วั โมงท่ีแลว้ ๔. ครูนักเรียนจับคู่กับเพ่ือน เพ่ือฝึกอ่านเรื่อง กําหนดเวลา ๑๐ นาที โดยครูคอยให้ คําแนะนําและ ให้ นกั เรยี นอา่ นแกไ้ ขคําท่ไี มถ่ ูกตอ้ งให้ถกู ต้อง ๕. ครูและนักเรียนแล้วรว่ มกันสนทนาถึงเนื้อหาวา่ ใคร ทํา อะไร ที่ไหน ผลเปน อยา่ งไร แล้วช่วยกนั เล่าเร่อื งต่อเนื่องจนจบ โดยครชู ่วยเพิ่มเตมิ ส่วนทีบ่ กพร่อง - เหตุืการณ์นืเี้ กิดขึ้นื ท่ีไหน - เดก็ ๆ กําลังวางแผนทําอะไร - เพราะเหตุใดเด็กๆ จึงทํางานสําเร็จ - นืักเรียนได้ขอ้ คดืิ อย่างไรจากเร่ืองทีอ่ ่าน ๖. นักเรียนชว่ ยกันสรุปความรู้ จากเรื่องที่อ่านและการตอบคําถาม และขอ้ คิดที่ได้ จากบทอา่ น ๗. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเท่า ๆ กันทํากิจกรรม ชวนกันคิด ชวนกันตอบ เม่ือนกั เรยี นทาํ เสรจ็ ทุกกล่มุ ครจู ะและเฉลยและตรวจความถูกต้องพรอ้ มกนั ๓. ขน้ั สรุป ๘. ครแู ละนกั เรียนสรุปร่วมกนั จากเรอ่ื งแตเ่ ดก็ ซือ่ ไว้เหตกุ ารณใ์ คร ทาํ อะไร อย่างไร จนจบเรอื่ ง

ส่ือ / แหลง่ เรยี นรู้ ๑. หนงืั สือื เรียน รายวชิื าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชดุื ภาษาเพือ่ ชืีวตืิ ภาษาพาที ชืั้นประถมศึกื ษา ปท่ี ๓ ๒. การอ่านจบั ใจความ ๓. ใบกิจกรรม ชนิ้ งานและภาระงาน ๑. การตอบคาํ ถามจากเรอื่ ง ๒. สรปุ ขอ้ คดิ จากเรอ่ื งท่ีอา่ น ๓. การทาํ งานกลมุ่ ๔. การอภปิ ราย วิธกี ารวัดและประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วัดผลและประเมนิ ผล  ดา้ นความร้คู วามเขา้ ใจ - สํารวจความพร้อม - บทอ่าน - การจับใจความสําคัญจาก - สงั เกต - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล เร่อื งแตเ่ ดก็ ซื่อไว้ - ซักถาม - ทาํ ใบงาน - ตรวจใบงาน -แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล - บอกขอ้ คิดจากเร่ือง - การทาํ ใบงาน  ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - การสังเกตพฤติกรรมขณะร่วม กจิ กรรม  ดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ - ประเมินการรว่ มสนทนา -แบบประเมินผลงานรายบุคคล การรว่ มสนทนา เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล ใช้การผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๗o ข้ึนไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ตอ้ งแก้ไขเพิม่ เติม ลงช่ือ.....................................................ครพู ่ีเลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

ใบกจิ กรรม คาํ ช้แี จง ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มชวนกนั คิด ชว่ ยกนั ตอบ ๑. “แตเ่ ดก็ ซือ่ ไว้” นักเรยี นเขา้ ใจความหมายว่าอยา่ งไร ตอบ............................................................................... ๒. บทอา่ น “แตเ่ ด็กซื่อไว้”ให้ข้อคดิ อะไรแก่นักเรยี นบ้าง ตอบ............................................................................... ๓. กิจกรรมเพ่ือประโยชน์สว่ นรวมในโรงเรยี นของนักเรียนมีอะไรบ้าง ตอบ............................................................................... ๔. ขยะแหง้ ท่ีบ้านของนักเรยี นท่นี ํามาขายได้ มีอะไรบ้าง ตอบ............................................................................... ๕. การนําขยะแห้งมารไี ซเคลิ มีผลดอี ยา่ งไร ตอบ............................................................................... สมาชิกกลุ่ม .....................................................................……………………... .....................................................................…………………….

แผนการจัดการเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย(ชุดภาษาพาที) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรือ่ ง แตเ่ ด็กซอ่ื ไว้ เวลา ๑o ชว่ั โมง แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๔ เร่ือง ตัวสะกด เวลา ๒ ช่ัวโมง วนั ท่ีสอน ………………………….. ครผู สู้ อน นางสาวกมลนยั น์ พงศ์สกลุ สาระท่ี ๔ หลักภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปนสมบัติของชาติ สาระสําคญั ตัวสะกด เปนพยญั ชนะท่ีใช้บงั คับเสยี งทา้ ยคาํ หรอื พยญั ชนะท่ปี ระกอบอยูท่ ้ายสระ และมี เสยี งประสมเข้ากับสระ มาตราตวั สะกดมีอยู่ 8 แม่ ได้แก่ แมก่ ง แมก่ น แม่กม แมก่ ก แมก่ ด แม่กบ แมเ่ กย และแมเ่ กอว ตัวช้วี ดั ท ๔.๑ ป. ๓/๑ เขียนสะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ จุดประสงค์ เมอื่ นักเรียนเรียนเรอ่ื ง “ ตัวสะกด ” นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ ดงั น้ี ๑. นกั เรียนบอกคาํ ทีม่ ีตัวสะกดได้ถกู ต้อง ๒. นกั เรียนบอกคาํ ที่ไม่มตี วั สะกดได้ถูกตอ้ ง ๓. มีความกระตอื รอื รน้ และสนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ สมรรถนะสาํ คัญของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. มีวนิ ยั ๒. ใฝเ รียนรู้ ๓. มุ่งมั่นในการทาํ งาน

สาระการเรียนรู้ - คําที่มตี ัวสะกดและไมม่ ีตัวสะกด การจดั การเรยี นรู้ ชว่ั โมงท่ี ๑ ๑. ข้นั นําเขา้ ส่บู ทเรยี น ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสิ่ง ทนี่ ักเรยี นตอ้ งเตรียมในชว่ั โมงนี้ใหน้ ักเรียนทราบ ๒. คณุ ครเู ปิดวิดที ศั นเ์ พลงมาตราตวั สะกดเพ่ือเช่ือมโยงเขา้ สเู่ น้อื หา ๒. ข้ันสอน ๓. ครูและนักื เรียนรว่ มกันทบทวนความรู้เร่ือง มาตราตืัวสะกด ๔. คุณครูและนัืกเรียนพูดคืุย สนทนาเกี่ยวกับคาืํ ที่มตี ืัวสะกดและไมม่ ีตวืั สะกดโดย ครูเปน ผ้ชืู ้ีืแนะ (บัว ทอง เรอื ดาว หมอน) ครูชบืู ตั รคาืํ “บวั ”นัืกเรียนตอบ : ไมม่ ีตืัวสะกด ครูชูืบัตรคํืา “ทอง”นัืกเรียนตอบ : มีตัวสะกด คือ ง ครชู ืบู ัตรคํืา “เรือ” นืักเรียนตอบ : ไมม่ ีตวัื สะกด ครูชูบตั รคํา “ดาว” นกัื เรียนตอบ : ตวัื สะกด ว ครูชูบตั รคํา “หมอน” นกืั เรียนตอบ : ตวัื สะกด น ๕. ให้นกัื เรียนอา่ น อธิืบายเพิ่ม เตมืิ ความรูจ้ ากหนืงั สอืื ภาษาพาที ชน้ืั ประถมศึกื ษาปที่ ๓ หน้า ๒๗ ท้งั คาํ ที่ไม่มีตัวสะกดและคาํ ท่ีมีตัวสะกดพร้อมกัน จากนั้นครู สุ่มใหอ้ า่ นทีละคน เพือตรวจสอบความเข้าใจ ๖. ครูแบ่งนัืกเรียนเปนจํานวนเท่า ๆ กัน แจกกระดาษเอสี่ ให้นักเรียนให้แต่ละกลมุ่ ทํากิจกรรมแยกคําท่ีมตี ัวสะกด และไม่มีตัวสะกด ใหไ้ ด้คําเยอะและถูกต้องจะเปน ฝายชนะ วิธกี ารเล่น ๑ . ช่วยกันหาคํามาใหไ้ ด้มากท่สี ดุ และเขียนคาํ ลงในกระดาษเอส่ี ๒. เสรจ็ แลว้ สง่ ตวั แทนออกมาเขียนบนกระดานนําคาํ มาแยกวา่ มตี วั สะกด หรือไมม่ ี ตัวสะกด ครตู รวจสอบความถกู ต้อง และเฉลย

๗. นักื เรียนทาํ แบบฝึกหัดลงในสมุด โดยบอกสว่ นประกอบของคํืาลงในตาราง แยกพยัญชนะ สระ ตวั สะกด และวรรณยุกต์ จาํ นวน ๑o ข้อ (เข็ด ถือ เชย พลดั ถ้วน เฉ่ียว เหมาะ กรง ใคร่ เท้า) ๓. ข้ันสรปุ ๘. ครูและนกัื เรียนรว่ มกนั สรุปกิจกรรมและเน้อื หาทเ่ี รียน ๙. นืักเรียนทําแบบฝึกหัดทักษะภาษา ชืั้นประถมศกืึ ษาปท่ี ๓ แบบฝึกหดั ท่ี ๒ ขอ้ ๓ (๑) จากน้ันื ครู ครูเฉลยและตรวจสอบความถืกู ต้อง การจดั การเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี ๒ ๑. ขน้ั นาํ เข้าสบู่ ทเรียน ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และส่ิง ที่นักเรียนตอ้ งเตรยี มในชัว่ โมงน้ใี หน้ กั เรียนทราบ ๒. ทบทวนเน้อื หาท่ีเรียนในช่ัวโมงทีแ่ ลว้ ใหน้ กั เรียนยกตัวอยา่ งคาํ แล้วเชือ่ มโยงเข้าสู่ เน้อื หาเร่ืองมาตราตัวตวั สะกด ๒. ขนั้ สอน ๓. คณุ ครูทบทวนความรู้เดมิ เร่ืองมาตราตัวสะกดโดยใชแ้ บบทดสอบก่อนเรยี น ๔. คณุ ครอู ธิบายเนือ้ หามาตราตวั สะกดและยกตัวอยา่ งประกอบ ๕. คณุ ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ เปนจาํ นวนเทา่ ๆ กัน จากนัน้ แจกจานมาตราตวั สะกด (กก กน กม เกย เกอว กด กบ กง)และใหน้ ักเรยี นนําคาํ มาหนบี ให้ตรงกบั จานมาตราน้นั ๆ โดยทาํ พรอ้ ม ๆ กันคร้งั ละ ๑ มาตราและคุณครจู ะเฉลย ตรวจสอบความถูกต้อง ๖. คุณครใู หน้ ักเรยี นทํากจิ กรรม หยบิ คําลงตะกรา้ โดยครูจะให้นกั เรียนหยบิ คาํ ให้ ไดม้ ากทีส่ ดุ ไปใส่ในตะกรา้ ท่ตี รงกบั มาตราตัวสะกดของคาํ นน้ั วิธีการ ๑. คณุ ครจู ะกระจายคาํ ใหน้ ักเรียนหยบิ คาํ ให้ได้มากทสี่ ดุ นํามาใส่ตะกร้า ๒. จะเลน่ ทีละกลุ่ม คณุ ครูจบั เวลา ๕ นาที ๓. เมื่อหมดเวลาคอื ส้นิ สดุ การหยบิ กลมุ่ ไหนหยิบถกู และทําเวลาเรว็ จะเปน กลุม่ ชนะ และมรี างวัล ๔. คณุ ครูจะเฉลยท่ลี ะกลุ่มและบอกเวลาทใ่ี ชไ้ ป ๗. คุณครใู ห้นักเรียนนาํ คาํ จากกิจกรรมมาเขียนลงในสมดุ แบบฝกึ หัดให้ตรงตาม มาตราตัวสะกด

๓. ขน้ั สรุป ๘. คุณครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ กจิ กรรมและเรอ่ื งท่ีเรียน ๙. คณุ ครใู หน้ กั เรยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้ ๑. บตั รคํา ๒. เพลงมาตราตวั สะกด ๓. หนัืงสอืื เรียน รายวืิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ภาษาพาที ชัน้ื ประถมศืกึ ษาปท ่ี ๓ ๔. แบบฝึกหัด รายวชืิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ทักษะภาษา ชัืน้ ประถมศืกึ ษาปท ่ี ๓ ๕. จานมาตราตวั สะกด ๖. กจิ กรรมหยิบคาํ ใหต้ รงมาตราลงตะกร้า ชน้ิ งานและภาระงาน ๑. การตอบคําถาม ๒. การทาํ งานกลุ่ม ๓. การอภิปราย ๔. แบบฝกึ หัด ๕. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หลงั เรยี น วธิ ีการวัดและประเมินผล รายการประเมนิ วธิ กี ารวดั และประเมินผล เคร่อื งมอื วัดผลและประเมนิ ผล  ดา้ นความรู้ความเข้าใจ - สาํ รวจความพรอ้ ม - แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน - การบอกคําทม่ี ตี วั สะกดไดแ้ ละคาํ - สังเกต - กจิ กรรมแยกคาํ ทีม่ ตี วั สะกดและ ท่ีไม่มีตัวสะกดได้ถูกต้อง - ซักถาม ไม่มตี วั สะกด - ตรวจใบงาน - แบบประเมินผลงานรายบุคคล - การทาํ แบบฝึกหดั - แบบฝึกหัด  ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - การสงั เกตพฤตกิ รรมขณะร่วม -แบบประเมินผลงานรายบุคคล กิจกรรม  ด้านทักษะกระบวนการคดิ - ประเมินการรว่ มสนทนา -แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล การรว่ มสนทนา เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล ใช้การผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๗o ขนึ้ ไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ตอ้ งแก้ไขเพิม่ เติม ลงช่ือ.....................................................ครพู ่ีเลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลังเรียน เร่อื ง มาตราตวั สะกดในภาษาไทย กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ คาํ ชี้แจง ให้นักเรยี นเลอื กคาํ ตอบท่ีถกู ต้องทสี่ ดุ เพียงคําตอบเดียว แล้วทําเคร่ืองหมายกากบาท (x ) ลงในกระดาษคําตอบ ๑. ข้อใดเปน คาํ ท่อี ย่ใู นมาตราตัวสะกดแม่ กก ก. กองกลาง ข. ค้างคาว ค. เทคนิค ง. สับสน ๒. ขอ้ ใดเปน คําทมี่ ตี ัวสะกดมาตราเดยี วกบั แรด ก. เหว ข. บาตร ค. หยาม ง. ทราย ๓. พยญั ชนะ ป พ ฟ และ ภ อ่านเหมือนกับเสียงพยัญชนะในข้อใด ก. ก ข. ง ค. บ ง. ม ๔. ขอ้ ใดมตี ัวสะกดแตกตา่ งจากพวก ก. ดอกบกุ ข. ฉนั เพล ค. เดือนเพญ็ ง. งานบ้าน ๕. ข้อใดเปนมาตราทไ่ี ม่มีตวั สะกด ก. แม่ ก กา ข. แม่ กก ค. แม่ กง ง. แม่ เกอว

๖. ข้อใดเปนคาํ ท่มี ตี วั สะกดทง้ั หมด ก. เอาใจเขามาใสใ่ จเรา ข. มนี ํ้าใจ ไม่มนี ํ้าตา ค. หวานอม ขมกลนื ง. เอาหไู ปนา เอาตาไปไร่ ๗. ข้อใดมตี วั สะกดแตกตา่ งจากพวก ก. ท้ายซอย ข. ปุยฝา้ ย ค. โพยภัย ง. สามัคคี ๘. คาํ ว่า บ้าน มอี ะไรเปน ตวั สะกด ก. บ ข. า ค. น ง. ื้ ๙. คําในขอ้ ใดไม่อยู่ในมาตราตวั สะกดแม่ กด ก. บทบาท ข. เพศ ค. ตรัส ง. ตน้ ตาล ๑๐. คาํ ในข้อใดไม่อยู่ในมาตราแม่ ก กา ก. กตกิ า ข. สมั ผัส ค. หมาปา ง. ราวี ข้อ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เฉลย ค ข ค ก ก ค ง ค ง ข

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย(ชุดภาษาพาที) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรอื่ ง แต่เดก็ ทีซ่ ือ่ ไว้ เวลา ๑o ช่ัวโมง แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๕ เรอื่ ง สระ เวลา ๒ ชวั่ โมง วนั ที่สอน ………………………….. ครผู สู้ อน นางสาวกมลนัยน์ พงศส์ กลุ สาระท่ี ๔ หลกั ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปนสมบัตขิ องชาติ สาระสําคญั คาํ บางคําเมอ่ื มกี ารนาํ เอาพยัญชนะต้นสระและตัวสะกดมาประสมกนั รูปสระจะเปลีย่ นไป แตย่ ังคงออกเสยี งเหมอื นเดมิ ตัวชวี้ ัด ท ๔.๑ ป.๓ / ๑ เขยี นสะกดคําและบอกความหมายของคาํ จดุ ประสงค์ เมือ่ นักเรยี นเรยี นเรือ่ ง “ สระ ” นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ ดงั น้ี ๑. นักเรียนอา่ นคาํ ทีม่ สี ระเปลีย่ นรูปได้ ๒. นกั เรยี นแจกลกู สะกดคําทม่ี ีสระเปล่ยี นรูปได้ ๓. นักเรียนบอกทม่ี าของคําที่มสี ระเปล่ียนรปู ได้ สมรรถนะสาํ คัญของผ้เู รยี น - ความสามารถในการส่อื สาร - ความสามารถในการคิด คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รักความเปนไทย ๒. ใฝเรยี นรู้ ๓. มีจิตสาธารณะ ๔. มวี นิ ยั สาระการเรยี นรู้ - สระเปลีย่ นรูป

การจัดการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี ๑ ๑. ขั้นนาํ เข้าสู่บทเรยี น ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับข้ันตอนการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ และสิ่งทนี่ ักเรียนตอ้ งเตรียมในช่วั โมงน้ใี ห้นกั เรียนทราบ ๒. นักเรียนดูและอ่านบัตรคํา ( ยึด เสือ เสีย เก้า โต แบก ท้อง )แล้วเริ่ม สนทนาคําท่อี ่านประสมด้วยสระใด เพ่ือเช่ือมโยงเข้าสู่เนื้อหา ๒. ข้ันสอน ๓. คุณครูพูดทบทวนถึงเร่ืองตัวสะกดที่เรียนไปโดยใช้คําถาม นักเรียนทราบ หรือไม่ว่าเกย่ี วกบั เรื่องสระได้อยา่ งไร ๔. คุณครูอธิบาย สระบางตัวเมื่อมีตัวสะกดก็จะเขียนแตกต่างไปจากเมื่อ ไม่มีตัวสะกด บางสระจะลดรูป บางสระจะเปล่ียนรูป แต่บางสระจะคงรูปดังน้ี ๑. คงรูป คือ ต้องเขียนรูปให้ปรากฏชัด เช่น กะบะ กะปิ ไปไหน ทําไม ๒. ลดรูป คือ ไม่ต้องเขียนรูปสระให้ปรากฏหรือปรากฏแต่เพียงบางส่วน แต่ต้อง อ อ ก เ สี ย ง ใ ห้ ต ร ง กั บ รู ป ส ร ะ ท่ี ล ด น้ั น ก า ร ล ด รู ป มี 2 อ ย่ า ง คื อ ๒.๑ ลดรูปทั้งหมด ไดแ้ ก่ พยัญชนะ + สระโอะ + ตวั สะกด (ยกเวน้ ตวั ร) เชน่ น + โ_ะ + ก = นก ม + โ_ะ + ด = มด ก + _อ + ร - สะกด = กร จ + _อ + ร -สะกด = จร ๒.๒ ลดรปู บางสว่ น ได้แก่ สระท่ลี ดรปู ไมห่ มด เหลือไว้แต่เพยี งบางส่วนของรูปเตม็ พอ เปนเครอื่ งสงั เกตใหร้ ู้ว่าไม่ซา้ํ กบั รูปอ่ืน เชน่ ก + เ_อ + ย- สะกด = เกย (ลดรูปตัว อ เหลือแตไ่ ม้หนา้ ) ก + _ัืว + น- สะกด =กวน (ลดไม้หันอากาศ เหลอื แต่ตัว ว)

๓. แปลงรปู คอื แปลงสระรูปเดมิ ใหเ้ ปลย่ี นเปน อีกรปู หนง่ึ เช่น ก + _ะ + น – สะกด = กนั (แปลงวิสรรชนยี ์ เปนไมห้ นั อากาศ) ก + เ_ะ + ง – สะกด = เก็ง (แปลงวสิ รรชนียเ์ ปน ไม้ไต่คู้) ข + แ_ะ+ ง – สะกด = แข็ง (แปลงวิสรรชนีย์เปนไม้ไต่คู้) ด + เ_อ + น – สะกด = เดิน (แปลง อ เปน พนิ ท์ุอ)ิ จะเห็นได้ว่าสระเม่ือมีตัวสะกด แต่ละสระจะมีวิธีการเขียนที่แตกต่างกันไป มีท้ังคงรูป เช่น รีบ จู ง เ ป น ต้ น เ ป ล่ี ย น รู ป เ ช่ น เ ก็ บ เ ปิ ด เ ป น ต้ น แ ล ะ ล ด รู ป เ ช่ น น ก ช ว น เ ป น ต้ น บ า ง ส ร ะ ส า ม า ร ถ เ ป น ไ ด้ ท้ั ง ส ร ะ ล ด รู ป แ ล ะ ส ร ะ เ ป ล่ี ย น รู ป เ ช่ น ส ร ะ “เ อ อ ”เ ม่ื อ มี ตั ว ส ะ ก ด ในทุกมาตรา ยกเว้นมาตราแม่เกย “อ” จะเปล่ียนรูปเปน “พินทุอิ” เช่น เกิด เดิน เชิญ เปนต้น แต่เมื่อมีตัวสะกดในมาตราแม่เกย “อ” จะลดรูปหายไป เช่น เนย เคย เลย เปนต้น ๕. นักเรียนอ่านอธิบายเพิ่ม เติมความรู้ในหนังสือเรียนภาษาพาที ช้ัน ป.๓ หนา้ ๒๘ ท้ังคาํ ท่มี ีสระเปลีย่ นรูปพร้อมกัน จากนัน้ ครสู ุม่ ใหอ้ ่านทีละคนจนคลอ่ ง ๖. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔ – ๕ คน ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันหาคําท่ีมีสระ เปลี่ยนรูปพร้อมทั้งบอกท่ีมาของคํานั้น กลุ่มละ ๑๐ คํา เสร็จแล้วส่งตัวแทนออกมาอ่านคําน้ันและ บอกที่มาของคําน้ันท่ีหน้าชั้นเรียน ครูตรวจสอบความถูกต้อง ทุกคนอ่านพร้อมกัน ๗. นกั เรยี นทําแบบฝึกทักษะภาษา แบบฝกึ หัดที่ ๒ ข้อ ๓ (๒ - ๔) หน้า ๑๘-๒o ๓.ขั้นสรปุ ๘. นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้ เรื่องการอา่ นออกเสียงและการตอบคําถาม และ ข้อคิดทไี่ ด้จากบทอ่าน การจดั การเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี ๒ ๑. ข้ันนําเขา้ สบู่ ทเรียน ๑. ครูแจ้งลําดับข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จุดประสงค์และสิ่งท่ี นักเรยี นตอ้ งเตรยี มใน ช่ัวโมงน้ี ใหน้ กั เรยี นทราบ ๒. ครูชวนนักเรียนสนทนาถึงชื่อผลไม้ และสัตว์ และซักถามว่า ประกอบด้วยสระอะไรบ้าง เช่น มด = มอ – โอะ – ดอ = มด

๒. ขั้นสอน ๓. คุณครแู ละนกั เรยี นทบทวนเนอ้ื หาเรื่องสระ ๔. คุณครูให้นักเรียนอ่านคําทส่ี ระเปล่ียนรูปเม่ือมีตัวสะกดจากบัตรคํา เช่น มด จด รถ ( สระเออ เอาะ โอะ อัว) ๕. นักเรียนอ่านสะกดคําตามครูในหนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพา ที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓ หน้า ๒๙ – ๓๐ ๑ คร้ัง จากน้ันอ่านพรอ้ มกัน ๑ คร้งั ๖. คุณครูสุ่มนักเรียนยกตัวอย่างคําที่มีตัวสะกดประสมแล้วเป็นสระเปล่ียน ( สระเออ เอาะ โอะ อัว) เพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจเรอื่ งสระ ๗. นักเรียนแบ่งกลุ่มเท่า ๆ กัน ค้นคว้าหาคําที่ประสมสระเออ เอาะ โอะ อัว ทมี่ ตี ัวสะกด จากหนงั สือพมิ พ์ หนังสอื นิทาน ฯลฯ ( กลุ่มละประมาณ ๑๐ คํา ) ๓. ขั้นสรุป ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปคําท่ีประสมสระอะ ,อือ,เอะ,แอะ,โอะ,เอาะ, เออ,อวั เมื่อมตี ัวสะกด ๙. นักเรยี นทาํ ใบงาน สอื่ / แหลง่ เรียนรู้ ๑. หนัืงสืือเรยี น รายวชิื าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชืดุ ภาษาเพ่ือชวืี ตืิ ภาษาพาที ชนั้ื ประถม ศกืึ ษาปที่ ๓ ๒. แบบฝึกหัด รายวิืชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ทักษะภาษา ช้นืั ประถมศกึื ษาปที่ ๓ ๓. บัตรคาํ ๔. จากหนังสอื พมิ พ์ หนังสือนทิ าน ๕. สระเปลยี่ รูป ชิน้ งานและภาระงาน ๑. การอ่านคํา ๒. การทาํ แบบฝึกทักษะ ๓. การทําแบบฝึกหดั /ใบงาน

วธิ กี ารวัดและประเมินผล วิธกี ารวดั และประเมินผล เคร่อื งมือวดั ผลและประเมินผล รายการประเมิน  ด้านความรคู้ วามเข้าใจ - สํารวจความพรอ้ ม - บทอา่ น -อ่านคาํ ทม่ี ีสระเปล่ียนรูปได้ - สังเกต - กจิ กรรมหาคําท่ีมีสระเปลย่ี นรปู -แจกลูกสะกดคาํ ที่มสี ระเปลย่ี นรปู - ซกั ถาม - แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล -บอกท่มี าของคําทม่ี ีสระเปลยี่ นรูป - ตรวจใบงาน - แบบฝึกหัด - การทาํ แบบฝกึ หดั -แบบประเมินผลงานรายบคุ คล  ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - การสงั เกตพฤตกิ รรมขณะร่วม กจิ กรรม  ด้านทกั ษะกระบวนการคดิ - ประเมนิ การรว่ มสนทนา -แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล การร่วมสนทนา เกณฑ์การวัดและประเมินผล ใช้การผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๗o ขึน้ ไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ตอ้ งแก้ไขเพิม่ เติม ลงช่ือ.....................................................ครพู ่ีเลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

ใบงาน ชุดที่ ๑ คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนเขียนคาํ จากส่วนประกอบที่กาํ หนดให้ ท่ี พยญั ชนะต้น สระ ตวั สะกด คาํ ๑ ม เ-ะ ด ๒ข ะ ง ๓ ย -ืื อ ด ๔ ข แ-ะ ง ๕ ย เ-ะ บ ๖ ก เ-อ น ๗ ง เ-อ ย ๘ ป เ-ะ น ๙จ ะ บ ๑๐ ฉ เ-อ ย ช่ือ.................................................................เลขที่ ..................... ช้ัน...............

ใบงาน ชุดที่ ๒ ตวั สะกด คาํ ชี้แจง แยกส่วนประกอบของคาํ ท่ีกาํ หนดให้ ท่ี คาํ พยญั ชนะต้น สระ ๑ คบั ๒ กงั ๓ ยนื่ ๔ เห็น ๕ เลง็ ๖ เกดิ ๗ แขง็ ๘ เขย ๙ เป็ ด ๑๐ เริ่ม ช่ือ.................................................................เลขท่ี ..................... ช้ัน...............

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย(ชุดภาษาพาที) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เร่อื ง แตเ่ ด็กท่ซี ื่อไว้ เวลา ๑o ชว่ั โมง แผนการเรยี นรู้ที่ ๖ เรอ่ื ง การแตง่ ประโยค เวลา ๑ ช่วั โมง วันทส่ี อน ………………………….. ครผู ู้สอน นางสาวกมลนยั น์ พงศ์สกลุ สาระที่ ๔ หลักภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปนสมบตั ิของชาติ สาระสาํ คญั ในการเขยีื นและการพูด ผูืเ้ ขยืี นและผ้พูื ดู ต้องเลืือกคืํามาใช้ให้เหมาะสมกบั การส่อืื สาร ผู้ทื ี่จะเลือื กใช้คํืาใหถ้ ูืกตอ้ งเหมาะสมไดน้ ืัน้ จะตอ้ งมีความรเู้ ร่ืองคืํา หนา้ ทขี่ องคําืและความหมาย เปนอย่างดีืเพ่ืือให้สามารถนืําไปใช้ไดถ้ กืู ต้อง ประโยค เปนเร่ืองราวที่สมบูรณ์ สื่อความหมายได้ชดั เจนวา่ ใคร ทําอะไร ทไ่ี หน เมือ่ ไร อยา่ งไร ตวั ชวี้ ัด ท ๔.๑ ป.๓/๔ แต่งประโยคงา่ ยๆ จดุ ประสงค์ เม่อื นักเรียนเรยี นเร่ือง “ แต่งประโยค ” นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิได้ ดังน้ี ๑. นกั เรยี นมีความรู้เรอ่ื งประโยค ๒. นกั เรียนสามารถแต่งประโยคใหไ้ ดใ้ จความเพือ่ สื่อสารได้ ๓. มีความกระตอื รอื รน้ และสนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ สมรรถนะสําคญั ของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการสื่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รักความเปนไทย ๒. ใฝเรียนรู้ ๓. มจี ิตสาธารณะ ๔. มวี นิ ัย ๕. อย่ือู ย่างพอเพยี ง สาระการเรียนรู้ - ประโยคและการแตง่ ประโยค ดังนี้  ประโยคบอกเล่า  ประโยคคาํ ถาม  ประโยคปฏเิ สธ การจดั การเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ ๑ ๑. ขน้ั นําเขา้ สู่บทเรียน ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และ สงิ่ ทนี่ กั เรยี นต้องเตรยี มในช่ัวโมงนีใ้ ห้นกั เรยี นทราบ ๒. คุณครูติดแผนภูมิบนกระดาน แล้วให้นักเรียนอ่านข้อความจากนั้นให้นักเรียน สังเกตคําทเ่ี น้นไว้ และอธิบายเชอื่ มโยงเข้าสูเ่ นือ้ หา ประโยค ประโยคน้นั คอื ข้อความ ท่ีงดงามฟังได้ความยงิ่ นา ใหร้ ้วู า่ มีใคร เขาทําอะไร จําไว้เถิดหนา ตัวอยา่ งเช่น นักเรียนฟงั คนนั่งบนถงั นา่ ชงั ยิง่ นา ประโยคแบ่งเปน สองภาค ใม่เห็นจะยาก ภาคประธาน นํามา ภาคสองคือ ภาคแสดง ขอจงไดแ้ จง้ แห่งในวญิ ญา

๒. ข้ันสอน ๓. ครอู ธิบายเน้อื หาประโยคประกอบสาํ คญั ๒ สว่ น คือ ภาคประธาน คอื ผู้ทีท่ าํ กริ ยิ าอาการต่าง ๆ ภาคแสดง คอื สว่ นท่เี ปน กิรยิ าอาการของภาคประธาน ซ่ึงอาจมสี ่วนกรรมดว้ ย ๔. ครูเขียนแผนผังโครงสรา้ งประโยคให้นักเรียนดูบนกระดานดําแล้วอธิบาย ให้นักเรียนฟังวา่ ประโยค คือ การนําคํามาเรียบเรียงใหไ้ ด้ใจความ ซึ่งจะต้องประกอบด้วย ประธาน และกริยา อาจมีกรรม หรือไมม่ ีก็ได้และยกตัวอย่างประโยค เช่น นกบิน นักเรียนด่ืมน้ํา น้องใสก่ ระโปรงสีแดง ๕. ครูให้นักื เรียนอ่านประโยคจากหนงืั สอืื เรียนภาษาไทย ช้ันื ป.๓ หนา้ ๒๖ ๖. ครแู บ่งนักเรียนเปน กลุม่ กลุ่มละ 5-6 คน ให้แตล่ ะกลุ่มรว่ มกันปฏบิ ตั ิ กิจกรรม “แตง่ ประโยค” โดย แต่ละกลุ่มช่วยกนั แต่งประโยคลงในกระดาษ ภายในเวลา 3 นาที กลุ่มใดแต่งประโยคไดถ้ กู ต้องมากทสี่ ุดจะเปน ฝายชนะ ๗. นัืกเรียนสง่ ตัวื แทนออกมานําืเสนอหน้าช้ัืนเรียน ๓. ข้ันสรปุ ๘. ให้นกัื เรียนคืดั ประโยคท่ีช่วยกันแตง่ จากกิจกรรมการแต่งประโยคลง ในสมดุ ๙. คณุ ครูและรว่ มกันสรปุ ความรจู้ ากกจิ กรรมแตง่ ประโยค สือ่ / แหลง่ เรยี นรู้ ๑. หนืังสอืื เรียน รายวชืิ าพื้นฐาน ภาษาไทย ชดืุ ภาษาเพอ่ื ชืีวิตื ภาษาพาที ชน้ัื ประถม ศึกื ษาปท่ี ๓ ๒. กระดาษสํืาหรับทํากิจกรรมกลุ่ืม ๓. แผนภูมปิ ระโยค ช้นิ งานและภาระงาน ๑. การตอบคาํ ถาม ๒. การทํางานกลุ่ม

วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื วดั ผลและประเมินผล รายการประเมิน  ด้านความรคู้ วามเข้าใจ - สํารวจความพร้อม - ตดิ แผนภูมปิ ระโยค - นักเรียนมีความรเู้ ร่อื งประโยค - สังเกต - กจิ กรรมแต่งประโยค - นกั เรยี นสามารถแต่งประโยคได้ - ซักถาม - แบบประเมินผลงานรายบคุ คล - การทาํ แบบฝกึ หัด - ตรวจใบงาน - แบบฝกึ หัด  ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - การสงั เกตพฤตกิ รรมขณะร่วม -แบบประเมินผลงานรายบคุ คล กิจกรรม  ดา้ นทักษะกระบวนการคิด - ประเมินการรว่ มสนทนา -แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล การร่วมสนทนา เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล ใช้การผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗o ข้นึ ไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ตอ้ งแก้ไขเพิม่ เติม ลงช่ือ.....................................................ครพู ่ีเลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย(ชุดภาษาพาที) ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรอื่ ง แตเ่ ดก็ ที่ซ่ือไว้ เวลา ๑o ช่ัวโมง แผนการเรียนรทู้ ี่ ๗ เร่อื ง คัดลายมือ เวลา ๑ ชัว่ โมง วันทส่ี อน ………………………….. ครูผสู้ อน นางสาวกมลนยั น์ พงศ์สกลุ สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่ือสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียน เร่อื งราวในรูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้า อย่างมี ประสิทธภิ าพ สาระสําคญั การฝกึ คดั ลายมือสามารถทําใหค้ ัดลายมือได้สวยงาม และถกู ต้องตามหลักการ รูปแบบการเขียนอักษรไทยแต่ละแบบมีลีลาและวิธีการเขียนแตกต่างกันและหลักการ คัดลายมือ ต้องใช้รูปแบบเดียวกัน ต้องมีมารยาทในการเขียนซึ่งมารยาทการเขียนเปนการใช้ภาษาและเทคนิค เฉพาะที่ใชเ้ หมาะสมตามรูปแบบของการเขยี น ตัวช้ีวดั ท ๒.๑ ป ๓/๑ คัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั ท ๒.๒ ป ๓/๖ มมี ารยาทในการเขยี น จดุ ประสงค์ เม่อื นักเรียนเรยี นเรอื่ ง “ คดั ลายมอื ” นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติได้ ดังนี้ ๑. นักเรียนบอกหลกั การและข้อควรปฏบิ ัติคัดลายมอื ได้ถกู ต้อง ๒. นักเรยี นคดั ลายมอื ไดถ้ ูกต้องตามหลักการเขยี น ๓. นักเรยี นมมี ารยาทในการเขียน สมรรถนะสาํ คญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร ๒. ความสามารถในการคดิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. ใฝเ รยี นรู้ ๒. รักความเปนไทย สาระการเรียนรู้ ๑. คดั ลายมือ

๒. ขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ นการฝึกคดั ลายมือ ๒.๑ อธบิ ายลักษณะการน่ัง การวางแขน การวางสมดุ และการจับดินสอให้ ถกู ต้อง ๒.๒ นง่ั ตัวตรง วางแขน วางสมดุ และจบั ดินสอในการเขียนไดถ้ ูกตอ้ ง ๒.๓ มีความตงั้ ใจและกระตือรือรน้ ในการทํากจิ กรรม การจัดการเรยี นรู้ ช่วั โมงท่ี ๑ ๑. ข้ันนําเข้าสูบ่ ทเรียน ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสิ่ง ท่นี ักเรียนตอ้ งเตรยี มในชว่ั โมงนใ้ี หน้ กั เรยี นทราบ ๒. คุณครูชวนนักเรียนพูดคุย นักเรียนนักเรียนรู้ไหมการคัดลายมือบ่งบอก อะไรในตัวตนของคน เพื่อเชอื่ มโยงเข้าส่เู นอ้ื หา ๒. ข้ันสอน ๓.ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับข้อควรปฏิบัติในการคัดลายมือให้ เขา้ ใจและครูนาํ แบบตวั อกั ษรและบัตรคําทถี่ ูกต้องติดบนกระเปาผ ผนงั ๔.ครูใหน้ ักเรียนอ่านออกเสียงแบบอกั ษรและคําบนกระดานพร้อมๆ กนั ๕.ครูต้ังคาํ ถามให้นกั เรียนร่วมกันสนทนาคาํ ตอบ ดังน้ี ๏ การเขียนตวั พยัญชนะท่มี หี ัว เร่มิ ตน้ เขียนอยา่ งไร ๏ ถา้ ตัวพยญั ชนะทีไ่ มม่ ีหัว เช่น ก ธ เร่มิ ตน้ เขียนอย่างไร ๖.ครูสุ่มถามให้นักเรียนตอบทีละคน แล้วจึงสรุป การเขียนพยัญชนะไทยว่า ควรเร่ิมต้นเขียนท่ีหัวก่อนวนซ้าย-ขวาให้ถูกตามลักษณะพยัญชนะหัวนอก หัวใน เช่น ด ค ส่วนลักษณะพยัญชนะใดท่ีไม่มีหัวเร่ิมต้น เส้นซ้ายมือก่อน เช่น ก เร่ิมลาก จากด้านล่างซ้ายมือวนไปขวา โดยไม่ต้องยกมือเช่นกัน แล้วครูสาธิตให้นักเรียนดูเปน ตัวอยา่ ง ๗.ครูตีเส้นบรรทัดบนกระดานสุ่มเรียกให้นักเรียนไปหัดคัดบนกระดานดําให้ เพ่ือนและครูดูทีละคนตามเวลาท่ีกําหนด เพ่ือหาท่ีบกพร่อง แก้ไขปรับปรุง เปน ตวั อย่าง ๘. ครูอธิบายเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติในการฝึกคัดลายมือให้นักเรียนฟังอย่าง ละเอียด และฝึกปฏิบัติตามทีละขั้นตอน โดยครูเดินดูว่านักเรียนปฏิบัติได้ถูกต้อง หรอื ไม่ และแนะนาํ ใหน้ กั เรยี นปฏิบัตใิ ห้ถูกต้อง

๙. ให้นักเรียนฝึกคัดคํา ๒ - ๓ คําง่ายๆ เช่น แมว หมา นก และให้ นักเรียนออกมานําเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนทีละคน ครูช้ีแนะนักเรียนคัดลายมือได้ดี และให้เพื่อนๆ ปรบมือใหแ้ ละใหก้ าํ ลังใจนกั เรยี นท่ียังทาํ ได้ ไม่ดีให้พยายามต่อไป ๓. ขั้นสรุป ๑o. ให้นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปความรู้ดังน้ี การฝกึ คัดลายมือสามารถทาํ ให้คัดลายมอื ไดส้ วย และถูกต้องตามหลักการคดั ลายมอื ๑๑. นักเรยี นทาํ แบบฝกึ หัด รายวืิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย ทักษะภาษา ชันื้ ประถม ศึกื ษาปท ี่ ๓ หน้าที่ ๒๑ สือ่ / แหลง่ เรียนรู้ ๑. กระเปผาผนัง ๒. แบบฝกึ หัด รายวิชื าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ทกั ษะภาษา ชื้ันประถมศืกึ ษาปที่ ๓ ๓. แบบตัวอักษร วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมือวดั ผลและประเมนิ ผล ๔. บัตรคํา ช้นิ งานและภาระงาน ๑. ผลงานการคัดลายมือ ๒. แบบฝึกหดั ทักษะภาษา วิธีการวดั และประเมินผล รายการประเมิน  ดา้ นความรู้ความเข้าใจ - สํารวจความพร้อม - แบบตัวอักษร - บอกหลกั การและขอ้ ควรปฏบิ ตั คิ ดั - สังเกต - ฝกึ เขยี นคํา - ซักถาม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล ลายมอื ได้ถูกต้อง - แบบฝกึ หดั - คัดลายมือไดถ้ กู ต้องตามหลักการ - ตรวจใบงาน -แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล เขยี น - มีมารยาทในการเขยี น - การทําแบบฝกึ หัด  ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - การสงั เกตพฤตกิ รรมขณะร่วม กิจกรรม  ดา้ นทักษะกระบวนการคดิ - ประเมินการรว่ มสนทนา -แบบประเมนิ ผลงานรายบุคคล การร่วมสนทนา เกณฑ์การวดั และประเมินผล ใช้การผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๗o ข้นึ ไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ตอ้ งแก้ไขเพิม่ เติม ลงช่ือ.....................................................ครพู ่ีเลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

แผนการจัดการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย(ชุดภาษาพาที) ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง แต่เด็กทซี่ ่ือไว้ เวลา ๑o ชว่ั โมง แผนการเรยี นรู้ท่ี ๘ เร่อื ง สภุ าษติ สํานวน เวลา ๑ ช่วั โมง วันทส่ี อน ………………………….. ครูผู้สอน นางสาวกมลนยั น์ พงศ์สกลุ สาระที่ ๔ หลักภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน สมบัติของชาติ สาระสําคญั สภุ าษติ หรอื ภาษิตหมายถงึ ถ้อยคาํ หรือขอ้ ความที่กลา่ วขึน้ แนะนํา สงั่ สอน เตอื นสติ ส่วนมากเปนคําคล้องจอง เพอ่ื ให้ใชต้ คี วามเปรยี บเทยี บกับเร่อื งราวท่เี กิดขน้ึ โดยเปน นยั หรือเปน คติ สอนใจ ตวั ชีว้ ดั ท ๔.๑ ป.๓ / ๑ เขียนสะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ จุดประสงค์ เมอ่ื นกั เรยี นเรียนเร่ือง “ สภุ าษติ สํานวน ” นกั เรยี นสามารถปฏิบตั ิได้ ดังนี้ ๑. นักเรียนบอกความหมายของสาํ นวนและสภุ าษิตได้ ๒. นักเรยี นอธบิ ายคาํ หรือข้อความทเ่ี ปน สาํ นวนและสุภาษิตได้ ๓. นักเรียนเลอื กใช้สํานวนและสภุ าษิตได้เหมาะสม สมรรถนะสาํ คัญของผเู้ รียน - ความสามารถในการส่อื สาร - ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. รักความเปน ไทย ๒. ใฝเ รียนรู้ ๓. มจี ิตสาธารณะ ๔. มวี ินัย ๕. อยือู่ ย่างพอเพยี ง

สาระการเรยี นรู้ - สํานวน สภุ าษติ การจัดการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี ๑ ๑. ขน้ั นําเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและแจ้งลําดับขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และสิ่ง ทน่ี ักเรียนตอ้ งเตรยี มในชวั่ โมงนใ้ี ห้นกั เรยี นทราบ ๒. ครูใช้รูปภาพกระต่ายกําลังน่ังมองพระจันทร์ ให้นักเรียนดูจากนั้นถามให้แต่ละ กลุ่มตอบว่าภาพนี้มีความหมายอย่างไร ตรงกับสํานวนไทยว่าอย่างไร นําไปใช้ใน สถานการณ์ใดบ้าง นกั เรียนชว่ ยกนั คดิ หาคาํ ตอบ แลว้ สง่ ตวั แทนตอบคําถามครูทีละกล่มุ ๒. ข้ันสอน ๓. ครูเปิดพาวเวอร์พ้อยอธิบายความหมายของสํานวนและสุภาษิตและนําส่ือ รูปภาพสาํ นวมาใหน้ กั เรยี นดแู ละอธบิ ายความหมาย ๔. ครูให้นักเรียนทายสํานวนจากเปิดภาพทายสํานวนสุภาษิต (จับปูใส่กระด้งไก่เห็น ตีนงู งูเห็นนมไก่ ยกเมฆ คางคกข้ึนวอ หัวล้านได้หวี เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า เข็นครกขึ้น ภูเขา) พรอ้ มท้ังใหน้ กั เรยี นบอกความหมาย คณุ ครอู ธิบายเพม่ิ เติม ๕. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเท่า ๆ กัน ช่วยกันหาสํานวน สุภาษิตไทยเกี่ยวกับสัตว์ กลุ่มละ ๕ สาํ นวน พรอ้ มทง้ั บอกความหมาย ส่งตวั แทนอา่ นเสนอผลงานทีห่ น้าช้นั เรยี น ๖. นักเรียนจับคู่คําพังเพยภาษิต และความหมาย ในใบงานชุดท่ี ๑ เสร็จแล้วครู เฉลยบนกระดานนกั เรยี นแลกเปลีย่ นกันตรวจ ๓. ขั้นสรปุ ๗. ครูมอบหมายให้นักเรียนทุกคนทําแบบฝึกหัดชุดท่ี ๒ เขียนสํานวน สุภาษิตที่ นักเรียนชอบ พร้อมท้ังบอกความหมายและวาดภาพประกอบ เสร็จแล้วนําส่งครูตรวจสอบ และประเมนิ ผลงาน ๘ . ครูสุม่ นกั เรยี นสรปุ ความร้เู รอ่ื งสํานวน สภุ าษิต และทบทวนเรอ่ื งทเ่ี รยี นร่วมกนั สื่อ / แหลง่ เรยี นรู้ ๑. หนงืั สืือเรยี น รายวืิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชืดุ ภาษาเพ่ือชีวื ตืิ ภาษาพาที ชัืน้ ประถม ศืึกษาปท่ี ๓ ๒. รปู ภาพ

๓. power point สํานวน สุภาษิต ช้ินงานและภาระงาน ๑. แบบฝึกหัด/ใบงาน ๒. การตอบคาํ ถาม ๓. กจิ กรรมเปดิ ภาพทายสาํ นวน สุภาษติ ๔. การทํางานกลมุ่ วิธีการวดั และประเมินผล รายการประเมนิ วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล เครอื่ งมือวดั ผลและประเมินผล  ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ - สํารวจความพร้อม - รูปภาพ -บอกความหมายของสํานวนและสุภาษติ ได้ - สงั เกต - กจิ กรรมเปิดภาพทายสาํ นวน -อธิบายคาํ หรอื ข้อความท่เี ปนสาํ นวนและ - ซักถาม - แบบประเมินผลงานรายบุคคล สุภาษิตได้ - ตรวจใบงาน - แบบฝึกหดั -เลอื กใช้คําสาํ นวนและสุภาษิตได้เหมาะสม -แบบประเมนิ ผลงานรายบคุ คล - การทําแบบฝึกหัด  ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - การสงั เกตพฤติกรรมขณะร่วม กิจกรรม  ด้านทักษะกระบวนการคดิ การรว่ ม - ประเมนิ การร่วมสนทนา -แบบประเมินผลงานรายบุคคล สนทนา เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล ใช้การผา่ นเกณฑ์ร้อยละ ๗o ขนึ้ ไป

ความคิดเห็นของครพู ี่เลย้ี งกอ่ นใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................  เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรยี นรู้  ไมเ่ ห็นควรใหใ้ ช้จัดการเรียนรู้ ยงั ตอ้ งแก้ไขเพิม่ เติม ลงช่ือ.....................................................ครพู ่ีเลี้ยง (.....................................................) ……………/……………../………….. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปญั หา/ อุปสรรค ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...............................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ............../........................./.............. ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารหรอื ผูท้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................………………. ..................................................... (.....................................................) ……………/……………../…………..

ภาพประกอบสํานวนภาษา

ใบงาน ชุดท่ี ๑ คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนจบั คู่คาํ พงั เพยและภาษิตและความหมาย ท่ีกาํ หนดใหต้ ่อไปน้ี ๑. ใจซื่อมือสะอาด ก. รักลูกตอ้ งตีสงั่ สอนบา้ ง ข. พดู เร่ืองไม่จริง เรื่องแต่งข้ึน ๒. หนา้ ซื่อใจคด ๓. ซ่ือกินไม่หมด คดกินไม่นาน ค. ทาํ เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ๔. ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ง. ลงทุนในส่ิงที่ไดไ้ ม่คุม้ เสีย ๕. รักววั ใหผ้ กู รักลูกใหต้ ี จ. ซ่ือสตั ย์ จริงใจ ๖. ป้ันน้าํ เป็นตวั ฉ. ทาํ ในเร่ืองที่ยากจริง ๗. กินบนเรือน ข้ีรดบนหลงั คา ช. แสร้งทาํ เป็นซื่อแต่ไม่ซื่อจริง ๘. งมเขม็ ในมหาสมุทร ซ. รู้ความลบั ของกนั และกนั ๙. ตาํ น้าํ พริกละลายแม่น้าํ ฌ. คนเนรคุณไม่รู้จกั บุญคุณคน ๑๐. เขน็ ครกข้ึนภเู ขา ญ. คนซ่ือสตั ย์ มีแต่คนรักใคร่ อุม้ ชู แต่คนคดโกงไม่มีใคร อยากคบหา ชื่อ.................................................................เลขท่ี ..................... ช้ัน...............

ใบงาน ชุดที่ ๒ คาํ ชี้แจง ใหน้ กั เรียนหาสาํ นวนหรือสุภาษิตมา ๑ สาํ นวน พร้อมท้งั บอกความหมายและวาดภาพประกอบ สํานวน .............................................................................................................................. . ความหมาย .............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ภาพประกอบ ชื่อ.................................................................เลขที่ ..................... ช้ัน...............

แผนการจัดการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย(วรรณคดลี าํ นํา) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรอื่ ง กระต่ายไมต่ ื่นตูม เวลา ๕ ชว่ั โมง แผนการเรียนรทู้ ่ี ๙ เรอ่ื ง การอ่านออกเสยี งบทเรียน เวลา ๑ ชั่วโมง วนั ท่สี อน ………………………….. ครผู ้สู อน นางสาวกมลนัยน์ พงศส์ กลุ สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคิดไปใชต้ ดั สนิ ใจแก้ปัญหา และสร้างวิสัยทศั นใ์ น การดาํ เนนิ ชีวติ และมนี ิสยั รักการอ่าน สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็นวจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ ง เห็นคณุ คา่ และนาํ มาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจรงิ สาระสาํ คญั การอ่านออกเสียง คือ การอ่านเปล่งเสียงตามตัวอักษร ถ้อยคํา และเครื่องหมายต่างๆ ท่ี เขียนออกมาให้ ถูกต้องชัดถ้อยชัดคํา เพื่อให้ เข้าใจและสามารถสรุป ตอบคําถามจากเรื่องที่อ่านได้ การอ่านออกเสียงจะได้ประโยชน์มากข้ึน หากอ่านให้ถูกต้อง ชัดเจน และปฏิบัติตนในการอ่านถูกต้อง ตามหลกั เกณฑ์ จึงจําเปนท่ีจะต้องฝกึ ฝน ปฏบิ ัติกจิ กรรมการอ่านเปน ประจําจงึ จะทาํ ใหเ้ กิดทกั ษะ ตวั ช้ึวัด ท. ๑.๑ ป.๓/๑ อา่ นออกเสยี งคาํ ข้อความ เรอื่ งสัน้ ๆ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆ ได้ถูกตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ ท ๕.๑ ๓/๑. ระบขุ ้อคิดที่ได้จากการอา่ นวรรณกรรมเพือ่ นาํ ไปใช้ ในชีวติ ประจาํ วัน จุดประสงค์ ๑. อา่ นออกเสียงบทเรียน เร่ืองกระต่ายไมต่ ่นื ตูม ได้ถูกต้องและชัดเจน ๒. นักเรยี นตอบคาํ ถามและบอกขอ้ คิดจากเรื่องได้ ๓. มีมารยาทในการอา่ น สมรรถนะสาํ คัญของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการสื่อื สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. รกั ความเปน ไทย ๒. ใฝเรียนรู้ ๓. มจี ิตสาธารณะ ๔. มีวินยั ๕. อยู่ือยา่ งพอเพยี ง สาระการเรยี นรู้ - การอ่านออกเสยี งจากบทเรยี น เรือ่ ง กระตา่ ยไมต่ ืน่ ตูม - การตอบคําถามจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน การจัดการเรยี นรู้ ชวั่ โมงที่ ๑ ๑. ขั้นนําเข้าสบู่ ทเรยี น ๑. ครกู ล่าวทักทายนกั เรยี นและแจง้ ลําดบั ขน้ั ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ และสิ่ง ท่นี ักเรยี นต้องเตรยี มในชั่วโมงนใี้ ห้นักเรียนทราบ ๒. นกั เรียนดูแผนภมู เิ พลง “กระตา่ ยไม่ตนื่ ตมู ” อ่านออกเสียงดัง ๆ พรอ้ มกนั ร้อง เปน เพลงตามครู ๑ เท่ยี ว จากนัน้ ร้องกันเอง พร้อมปรบมือประกอบจงั หวะให้เกิดความสนุกก่อนเรยี น แล้วสนทนาแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับเนื้อเพลง และครูใหค้ วามรเู้ พ่มิ เตมิ ๒. ข้ันสอน ๓. นืักเรียนดืูภาพประกอบจากหนืังสืือเรียน รายวชืิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุืดภาษา เพ่ือชวีื ิืต วรรณคดลีื ําืนําื ชั้นประถมศึกษาปท่ี ๓ บทท่ี ๑ เรื่องกระต่ายไมต่ ่ืนตูม โดยร่วมกันอภิปราย แสดงความคิดเห็นจากภาพตาม ประเดน็ื ดงืั ตอ่ ไปนืี้ - สตั วม์ ีอะไรบ้าง - เหตุกื ารณใ์ นภาพเกิดขืนึ้ ที่ไหน - สัตว์ต่างๆ ในภาพแสดงท่าทางอย่างไรบ้าง ๔. ครืูให้นัืกเรืียนอ่านออกเสีืยงบทเรืียน เรื่ือง กระต่ายไม่ตืื่นตูืม จากหนืังสืือ เรืียน รายวิืชา พ้ืนฐาน ภาษาไทย ชืดุ ภาษาเพ่ือชีวื ืติ วรรณคดืีลําื นืํา ชืนั้ ประถมศกืึ ษา ปท่ี ๓ ( หน้าท่ี ๒-๗ ) พรอ้ มกนั ๑ รอบ

๕. นักเรียนอา่ นออกเสียงเนื้อเร่ือง กระต่ายไม่ตื่นตูม สลับกันทีละแถวจากหนังสือ เรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพ่ือชีวิต วรรณคดีลํานํา ช้ันประถมศึกษาปท ่ี ๓ คนละ ๒ – ๓ บรรทัด โดยให้คนอ่านเก่งช่วยคนอ่านไม่เก่งในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน และ ให้อ่านเปนรายบุคคลในกลุ่ม ขณะนักเรียนร่วมกันฝึกอ่าน ครูคอยสังเกตพฤติกรรมการอ่าน ของเด็ก ๆ โดยเน้นทั้งการอ่านถูกต้องตามหลักการอ่านออกเสียงที่ดี มารยาทการอ่านและ การฟัง ทั้งรายกลุ่มและรายบุคคล เพื่อนําไปเปนข้อมูลในการพัฒนาทักษะการอ่านออก เสยี งตอ่ ไป ๖. นกืั เรียนและครชู ว่ ยกันสรุปความร้จู ากเร่ืองท่ีอ่านโดยใช้คืําถาม ดืงั นี้ื - ครอบครัวของกระต่ายในเร่ืองนม้ืี ใี ครบา้ ง - กระต่ายแต่ละตวั ชว่ ยกันทาํ อะไรบ้าง - เพราะเหตใืุ ดแมก่ ระต่ายจึงเลา่ นทืิ าน เรื่องกระตา่ ยตื่นื ตืูมใหล้ ืกู ฟงั ๗. นัืกเรียนทําเสีืยงเละทา่ ทางเลืียนแบบสืัตวช์ นิืดต่าง ๆ ในเน้อืื เรื่อง กระต่ายต่นืื ตูืม ๘. นักเรียนทําแบบฝึกหัด รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชุด ภาษาเพ่ือชีวิต ทักษะ ภาษา ชั้นประถมศึกษา ปท ี่ ๓ (หนา้ ท่ี ๑๒ -๑๓) ๓.ขน้ั สรุป ๙. ครสู งัืเกตพฤตกืิ รรมการรว่ มกิจกรรมในชัืน้ เรียนของนักื เรียน และบันทึกลงในแ บบประเมิน ๑o. ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปบทเรียนเร่ืองกระต่ายไมต่ ่ืนตูมพรอ้ มกันอีกครั้ง พร้อมแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับข้อคิดท่ีได้จากเร่อื ง ส่อื / แหลง่ เรียนรู้ ๑. หนัืงสอืื เรียนรายวชืิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชุืด ภาษาเพ่อื ชืีวตืิ วรรณคดืลี ําื นําื ชืั้นประถม ศึืกษาปท ่ี ๓ ๒. แบบฝกึ หัดรายวิืชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชุืด ภาษาเพื่อชีืวิืต ทกั ษะภาษา ชนัื้ ประถม ศกึื ษาปท ี่ ๓ ๓. แผนภูมเิ พลงกระต่ายไม่ตื่นตูม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook