แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่1 -สายลับปฏิบัติจิ๋วว pdf

ใบความรู้

ใบงานการจับใจความ เร่ือง ฝงู เป็ดของปติ ิ คาํ ชีแ้ จง ตอบคาํ ถามตามเน้อื เรือ่ ง “ฝูงเปดของปิต”ิ ลงในช่องวา่ ง ย่อหนา้ ที่ ๑ ย่อหนา้ ท่ี ๒ ย่อหนา้ ท่ี ๓ ย่อหน้าท่ี ๔ ยอ่ หนา้ ท่ี ๕

ช่ือ……………………………………….. นามสกลุ …………………………………… เลขที่ ......................... ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๓ แบบฝกึ เสรมิ ทักษะ

แบบทดสอบ คาํ ชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นทําเคร่อื งหมาย / หนา้ ข้อทค่ี ิดวา่ ถกู ตอ้ งและทําเคร่อื งหมาย X หนา้ ข้อที่คิด ว่าผดิ (๑๐คะแนน) ๑. การอ่านจับใจความคอื การอ่านที่มุ่งค้นหาสาระของเรอื่ งทเี่ ปนส่วนใจความ สําคัญ และสว่ นขยายใจความสาํ คญั ของเรอื่ ง ๒. ใจความสําคัญของเรื่องคอื ข้อความทม่ี ีสาระคลุมขอ้ ความอ่นื ๆในยอ่ หน้านัน้ หรือเรื่องน้นั ท้งั หมด ๓. จุดทีพ่ บใจความสาํ คัญของเรือ่ งในแตล่ ะยอ่ หน้ามากทส่ี ดุ คอื ประโยคที่อยู่ ตอนท้ายยอ่ หน้า ๔. จดุ ที่พบใจความสาํ คัญยากที่สุดคอื ยอ่ หน้าทีไ่ ม่มปี ระโยคใจความสําคัญ ปรากฏชัดเจน ซึง่ ผอู้ ่านจะต้องสรุปออกมาเอง ๕. การอา่ นจับใจความตอ้ งอา่ นใหล้ ะเอยี ดเพ่อื ทาํ ความเข้าใจอยา่ งชดั เจน ไม่ควรหยุดอา่ นระหว่างเรือ่ งเพราะจะทาํ ให้ความเข้าใจไมต่ อ่ เน่อื ง ๖. ส่วนประกอบของหนังสือไม่มีส่วนชว่ ยใหเ้ กิดความเขา้ ใจเกย่ี วกับเรอ่ื งหรือ หนังสือที่อ่าน ๗. การใชป้ ระสบการณห์ รอื ภูมิหลังเก่ยี วกับเรอ่ื งทอ่ี ่านมาประกอบจะทาํ ความเข้าใจและจบั ใจความทีอ่ า่ นไดง้ า่ ยและรวดเร็วขึ้น ๘.ควรตัง้ จุดมงุ่ หมายในการอา่ นอย่างชดั เจนเพราะจะเปน แนวทางกําหนด การอา่ นได้อยา่ งเหมาะสมและจับใจความหรอื คาํ ตอบไดอ้ ย่างรวดเรว็ ยิง่ ขึ้น ๙. ใจความสาํ คัญส่วนมากจะปรากฏอย่ทู กุ ส่วนของย่อหน้าทกุ ย่อหน้า ๑๐.ไม่จาํ เปนตอ้ งสรปุ ใจความสําคัญของเร่ืองก็ไดเ้ พราะไมม่ ีผลตอ่ เรอื่ งท่ีอ่าน

แบบฝกึ หัดที่ ๑ คาํ ชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นขดี เส้นใต้ประโยคใจความสาํ คัญของขอ้ ความที่อา่ น (๕ คะแนน) ตวั อยา่ ง การอา่ นเปนกระบวนการท่ซี บั ซอ้ น เดก็ จะตอ้ งรู้จกั สญั ลกั ษณ์ท่เี ปนตัวอกั ษรไทย สระ และ วรรณยุกต์ เพ่อื นาํ มาประสมแลว้ สามารถเปล่งเสียงคาํ ๆ นนั้ และเข้าใจความหมายของคํา ไก่ จัดอยู่ในประเภทสตั วป์ กี จาํ พวกนกมหี ลายวงศ์ บนิ ไดใ้ นระยะสั้น หากินตามพนื้ ดิน วันเยาวชนแห่งชาติ ถูกกาํ หนดใหต้ รง กบั วันท่ี 20 กันยายนของทกุ ปี ระบบนิเวศบนโลกถึงแมจ้ ะมคี วามหลากหลาย แตก่ ็มีโครงสรา้ ง การ์ตนู ทศั นศลิ ป์สองมิติรปู แบบหน่ึง ซ่ึงความหมาย ท่ีเฉพาะเจาะจงแปรเปล่ียนไปตามเวลา ความรัก เป็นความรู้สึก สภาพและเจตคตติ า่ ง ๆ ซงึ่ มีตงั้ แต่ความชอบระหว่างบุคคล

แบบฝึกหดั ที่ ๒ คําช้แี จง นกั เรยี นเขยี นใจความสําคัญของขอ้ ความทีอ่ า่ นในประเด็นเรอ่ื งอะไร เปน อย่างไร (๕ คะแนน) ตวั อย่าง ฝกั ทอง มะละกอ ส้ม นอกจากจะทําใหร้ ่างกายแข็งแรงแลว้ ยงั ทาํ ใหม้ ผี วิ พรรณท่ีดอี ีกด้วย เรอ่ื งอะไร ผลไม้ทมี่ ีสเี หลอื ง เปนอย่างไร ทําใหม้ ีผิวพรรณทด่ี ีอกี ด้วย ใจความสาํ คญั ฝักทอง มะละกอ สม้ นอกจากจะทาํ ให้รา่ งกายแขง็ แรงแล้วยงั ทาํ ให้มี ๑.ปลาน้ําจืด (องั กฤษ: Freshwater fish) เปน ปลาท่ีอาศยั อยู่ไดใ้ นเฉพาะแหล่งนาํ้ ที่ เปน นํ้าจดื คือ นํ้าท่ีมปี ริมาณ เกลือหรอื ความเคม็ ละลายนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 00.5 เท่าน้ัน เรื่องอะไร …………………………………..………………………………………………………………………… เปน อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………… ใจความสําคัญ ……………………………………………………………………………………………………… ๒. กระต่ายเปนสัตวเ์ ล้ยี งลูกด้วยนมมีรูปร่างหน้าตานา่ รกั แพรพ่ นั ธ์ุไดร้ วดเร็ว มหี ยู าวเปน แผน่ บาง ตามีขนาดโต ใหญโ่ ปนออกมานอกเบ้าตา เรื่องอะไร………………………………..………………………………………………………………………………………………… เปน อยา่ งไร……………………………………………………………………………………………………………………………… ใจความสําคัญ.....…………………………………………………………………………………………………… ………………… ๓. โอ้เอ้วหิ ารรายเปนการสวดกาพยเ์ ปน ทาํ นอง ในสมัยอยธุ ยา แผน่ ดินสมเดก็ พระเจ้าทรงธรรม โปรดเกล้าฯ ใหม้ ี การฝึกซ้อมสวดมหาชาตคิ ําหลวงตามวิหารเลก็ ทร่ี ายล้อมพระอโุ บสถ ผ้ใู ดสวดได้ดี จะไดร้ บั คดั เลอื กเข้าไปสวด ถวายในพระอโุ บสถวดั พระศรสี รรเพชญ์ สว่ นผู้ท่ยี งั สวดไมถ่ งึ ระดบั จะให้ สวดอยู่ตามวิหารราย จึงเรียกว่า “โอเ้ อ้ วหิ ารราย” เรือ่ งอะไร…………………………………………………………………………………………………………………………………… เปนอย่างไร………………………………………………………………………………………………………………………………… ใจความสาํ คญั ………………………………………………………………………………………………………………………………

๔. เรือกอและเปนเรอื หาปลาขนาดเล็ก หัวเรอื วาดลวดลายเปน รูปตา่ งๆ มสี สี นั สดใน สวยงาม เรอ่ื งอะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………… เปน อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใจความสําคัญ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. โลมาน้ันฉลาดไมแ่ พเ้ ดก็ ตัวเลก็ ๆ เลยทีเดียว ทเ่ี ปน เช่นนี้เพราะโลมามีขนาดสมอง เมือ่ เทียบกบั ลาํ ตวั ขนาดใหญม่ าก แถมภายในสมองยังซับซอ้ นอกี ดว้ ย เรอ่ื งอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… เปนอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใจความสาํ คญั …………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบฝึกหดั ท่ี ๓ คําช้ีแจง นักเรียนนําตัวอักษรของคําตอบทางขวามอื มาใสห่ น้าคาํ ถามทางซ้ายมอื ให้ ถกู ตอ้ ง ตวั อย่าง ........ญ.......๐. ทาํ ไมเธอจงึ ผิวขาว ก. ให้แปลความหมายคาํ ศพั ท์ ………….๑. ทําไมเธอไม่ชอบคนโกหก ข. ผปู้ กครองรับ-สง่ …………๒. ทาํ ไมปัน้ ชอบเรยี นศลิ ปะ ค. เช่ือใจไมไ่ ด้ …………๓. ทําอยา่ งไรจงึ จะเรียนวิชาคณิตศาสตรไ์ ดด้ ี ง. ชอบวาดภาพธรรมชาติ …………๔. ครสู ่ังการบา้ นภาษาองั กฤษอยา่ งไร จ. ไมช่ อบออกกําลงั กาย …………๕. เธอเดินทางไปโรงเรยี นอยา่ งไร ฉ. เมอื่ วานผมเดินตากฝนกลับบ้าน …………๖. ทําไมจึงเกิดวิกฤตฝนแล้ง ช. ไมช่ อบอยูก่ ลางแดด …………๗. ทําไมเป้ลิ ถงึ ขาดเรียนบอ่ ย ซ. ต้องขยนั ทําแบบฝึกหัดเยอะๆ …………๘. ทําไมเธอจงึ เปน็ หวดั ฌ. คนตดั ไมท้ ําลายป่า …………๙. ทําไมเธอจงึ ไมช่ อบเรียนวิชาพละ ฏ. ต้องดแู ลแมท่ ีป่ ว่ ย …………๑๐.ทําไมเดก็ คนนัน้ ถึงอว้ น ญ. กรรมพันธ์ุ

แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน คาํ ชแ้ี จง ให้ทําเครือ่ งหมาย / ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมทีก่ ําหนด รายการสังเกต เลขท่ี ช่อื – สกุล มีมารยาทในการ ัฟงและ ูพด สรปุ ผล มี ่สวนร่มในการ ํทากิจกรรม การประเมิน ตอบคําถามได้ถูกต้อง อ่าน ้ขอความได้ถูกต้อง ผา่ น/ไม่ผ่าน เ ีขยนสวยงาม / สะอาดเ ีรยบร้อย ปฏิ ับติในใบงานได้ถูกต้อง 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 เกณฑก์ ารให้คะแนน 2=ดี, 1=ปานกลาง, 0= ต้องปรบั ปรงุ แก้ไข (ลงชอื่ ) ……………………………………….ผู้ประเมนิ วันท…ี่ …………เดอื น……………………………..พ.ศ……………

เกณฑ์การให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑ์การประเมนิ ในการสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๑๐ – ๑๒ ดีมาก ๗–๙ ดี ๔–๖ พอใช้ ๑–๓ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน นกั เรยี นทไ่ี ด้ระดบั คุณภาพพอใชข้ ้นึ ไป ถอื ว่า ผา่ น

แผนการจัดการเรียนรู้ กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย(ชดุ ภาษาพาท)ี ช้ันประถมศัึกษาปที ่ีั๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ัี ๑ เรอื่ ง ปฏบิั ัตั ิัการสายลับจัิ๋ว เวลา ๑๕ ชวั่ โมง แผนการเรยี นรูท้ ี่ ๑๑ เรอื่ ง พยัญชนะ ฑ เวลา ๑ ช่วั โมง วันท่ี…………………………………….. ผู้สอน นางสาวกมลนัยน์ พงศ์สกุล มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนาํ ไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาํ เนินชีวิตและมนี ิสยั รกั การอ่าน สาระที่ ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติิของภาษาและหลิักภาษาไทย การเปลิ่ียนแปลงของ ภาษาและพลัิงของภาษา ภูมิ ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน สมบัติิของชาติิ ตวัั ชี้วััด ท 1.1 ป.3/1 อ่านออกเสียงคํา ข้อความ เร่ืองสั้น ๆ และบทรอ้ ยกรองง่าย ๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว ป.๓/๑ เขยีิ นสะกดคําิและบอกความหมายของคาิํ จุดประสงค์ ๑. นิักเรียนอ่านและสะกดคําิท่ีใชพ้ ยิญั ชนะ ฑ ไดถ้ ูกิ ต้อง ๒. นัิกเรียนบอกความหมายของคิาํ ทีม่ ี ฑ ได้ ๓. นกัิ เรียนใชค้ ิาํ ท่มี ี ฑ ไดถ้ ูกิ ต้อง สาระสาํ คญั คาํ ท่ีใช้พยัญชนะ “ฑ” ออกเสียงได้ ๒ แบบคอื เสียง ด และเสียง ท เราต้องหม่ันฝึกอา่ น และสังเกตคํา เพื่อใหส้ ามารถนํิาไปสิอ่ื สารได้ถิกู ต้อง สาระการเรียนรู้ - การอา่ นออกเสียง ฑ ออกเสียง ด - การอา่ นออกเสยี ง ฑ ออกเสียง ท

กระบวนการจดั การเรียนรู้ ๑. ขัน้ นาํ เข้าสู่บทเรียน ๑. นกัิ เรียนทบทวน พยิัญชนะ สระและวรรณยกุิ ต์ ๒. คุณครนู ําบทกลอนใหน้ ักเรียนอ่าน ๑ รอบ เพื่อเช่ือมโยงเขา้ สู่บทเรยี น บณั ฑิตขน้ึ มณฑป เสียงกระทบกลองบัณเฑาะว์ บัณฑเุ หลืองออ่ นเหมาะ เสียงไพเราะออกเสยี ง ดอ ๒. ข้ันสอน ๑. ครูเฉลยการอา่ นท่ีถูิกตอ้ งให้นิกั เรียนฟงั แล้วให้นิักเรียนอา่ นออกเสีิยงตามครู ๒. ครูอธิบายวา่ คาํ ทใ่ี ช้ ฑ นี้ ไมใ่ ชค่ ําไทยแท้ และออกเสียงได้ ๒ แบบคอื ๑) ฑ ออกเสียง ด ๒) ฑ ออกเสียง ท ๓. นัิกเริียนอ่านความรู้ เร่ืิอง พยิัญชนะ “ฑ” เพม่ิ เติมจากหนิังสิือเริียน ภาษา พาที ชัิ้นประถมศิึกษาปีที่ ๓ หน้าท่ี ๑๔ ๔. คณุ ครูนํากลอนสอนจํา ฑ มาให้นักเรียนจาํ ๕. คณุ ครใู หน้ ักเรียนทาํ กิจกรรมแบง่ เปน ๒ ทมี ทาํ กิจกรรมแยกบตั รคําท่ใี ช้ ฑ ออกเสียง ด และ ออกเสียง ท ลงในตะกรา้ ไดถ้ ูกตอ้ งและบอกความหมายของคําได้ ๖. คุณครแู จกใบงานให้นักเรยี นทําแบบฝึกหัด ๓. ข้ันสรปุ ๑. คุณครูและนักเรียนร่วมสรุปความรู้ ๒. นิักเรียนทาํ แบบฝึกทักษะภาษา แบบฝกึ หัดที่ ๑ ข้อ ๓ (๔) สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ ๑. หนัิงสือิ เรียน รายวิิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ภาษาพาที ช้ันิ ประถมศึกิ ษาปีท่ี ๓ ๒. แบบฝกึ หัด รายวิิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชดุิ ภาษาเพอื่ ชีวิ ิิต ทักษะภาษา ชั้นิ ประถมศิึกษาปที ี่ ๓ ๓. บทกลอนสอนจาํ ฑ ๔. บตั รคาํ ฑ

การวดั และประเมินผล วิธีวัด เครื่องมอื จดุ ประสงค์ - การสงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินการสังเกต พฤตกิ รรม ๑. นิักเรียนอา่ นและสะกดคําิที่ -ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหัด ใชพ้ ยญัิ ชนะ ฑ ไดถ้ กูิ ต้อง - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหัด ๒. นักิ เรียนบอกความหมายของ คําิท่มี ี ฑ ได้ ๓. นักิ เรียนใช้คาิํ ที่มี ฑ ไดถ้ ิกู ตอ้ ง เกณฑ์การวดั และประเมินผล ใช้การผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๗o ข้ึนไป กจิ กรรมเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... บนั ทึกขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงช่อื ……………………………………………………. ( ......................................................) ตาํ แหน่ง................................................................. วันท…่ี …เดอื น…………….…..พ.ศ………………….

บนั ทึกผลหลงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ท่เี กิดขนึ้ กบั ผ้เู รยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ปญั หา / อปุ สรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ลงชอื่ ...................................................................ผสู้ อน ( ....................................................... ) ตําแหน่ง………………………………………………… ............../........................./..............

ใบความรู้ บัณฑิตขนึ้ มณฑป เสียงกระทบกลองบณั เฑาะว์ บณั ฑเุ หลืองอ่อนเหมาะ เสียงไพเราะออกเสียง ดอ กลอนสอนจํา ฑ อ่านออกเสยี ง ท

กลอนสอนจาํ ฑ อ่านออกเสยี ง ท

กลอนสอนจาํ ฑ อ่านออกเสยี ง ด

มณั ฑกุ บตั รคํา ขัณฑสมี า จัณฑาล มณฑา กณุ โฑ กณุ ฑี มัณฑนะ มณฑล คณั ฑมาลา ทันฑฆาต บณุ ฑรกิ กุณฑล มณฑก บัณฑุการ ฑังสะ เลฑฑุ เคณฑะ บัณฑรู บณั ฑร ขณั ฑสกร มณฑป บัณเฑาะก์ ตัณฑุล บณั ฑติ

แบบฝึกพัฒนาการ คําชแี้ จง เขยี นคําให้ถกู ต้องตามคําอ่าน ช่อื -นามสกลุ ..................................………………………….เลขท่ี..............ชน้ั ประถมศึกปที ่ี ๓ คําอ่าน คํา มา - ระ –ยาด สะ - หมกั – ใจ ทัด – สะ – นะ ทดุ - จะ - หริด ปะ – ติ - บัด – กาน ทนั – ทะ - สะ - ถาน บัน – ดดิ จัน – ทาน มน – ดบ มน – โท

แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน คาํ ชแ้ี จง ให้ทําเครือ่ งหมาย / ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมทีก่ ําหนด รายการสังเกต เลขท่ี ช่อื – สกุล มีมารยาทในการ ัฟงและ ูพด สรปุ ผล มี ่สวนร่มในการ ํทากิจกรรม การประเมิน ตอบคําถามได้ถูกต้อง อ่าน ้ขอความได้ถูกต้อง ผา่ น/ไม่ผ่าน เ ีขยนสวยงาม / สะอาดเ ีรยบร้อย ปฏิ ับติในใบงานได้ถูกต้อง 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 เกณฑก์ ารให้คะแนน 2=ดี, 1=ปานกลาง, 0= ต้องปรบั ปรงุ แก้ไข (ลงชอื่ ) ……………………………………….ผู้ประเมนิ วันท…ี่ …………เดอื น……………………………..พ.ศ……………

เกณฑ์การให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑ์การประเมนิ ในการสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๑๐ – ๑๒ ดีมาก ๗–๙ ดี ๔–๖ พอใช้ ๑–๓ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน นกั เรยี นทไ่ี ด้ระดบั คุณภาพพอใชข้ ้นึ ไป ถอื ว่า ผา่ น

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย(ชดุ ภาษาพาท)ี ช้ันประถมศกึึ ษาปีท่ึี ๓ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ึ๑ เร่ือง ปฏึิบัตึ กิึ ารสายลบั จว๋ิึ เวลา ๑๕ ชั่วโมง แผนการเรยี นรทู้ ี่ ๑๒ เรอ่ื ง การใช้ถอ้ ยคาํ สภุ าพ เวลา ๒ ช่วั โมง วนั ท่ี…………………………………….. ผู้สอน นางสาวกมลนัยน์ พงศ์สกลุ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๓ การฟัง การดแู ละการพดู ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความรูส้ ึกใน โอกาสต่างๆ อยา่ ง มีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวึั ชี้วดึั /ผลการเรยี นรู้ ท ๓.๑ ป.๓/๕ พูดส่อิื สารได้ชดัิ เจนรตามวตัิ ถิรุ ะสงค์ ท ๓.๑ ป.๓/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดูและการพูด จุดประสงค์ ๑. นกัิ เรียนมีความรเู้ รอ่ื งการใชถ้ ้อยคําสุภาพ ๒. นกัิ เรียนใช้คาํ สภุ าพในการส่ือสารไดถ้ ูกต้อง เหมาะสม ๓. นักเรยี นมมี ารยาทในการพดู สาระสําคญั คําสภุ าพ คือ คาํ ท่ีไมห่ ยาบคายเหมาะสมใชก้ บั บคุ คลท่วั ไป เปน การเลือกคาํ ใชใ้ ห้เหมาะสม ตามกาลเทศะหรือตามฐานะของบุคคล คาํ สภุ าพเปนส่วนหนึ่งของคําราซาศพั ท์ หลักเกณฑก์ ารใช้คาํ สภุ าพไม่มีกาํ หนดตายตัว บาง คําใช้ในภาษาพดู บางคําใชใ้ นภาษาเขยี น สาระการเรียนรู้ - คาํ สภุ าพ กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ๑. ขน้ั นําเข้าส่บู ทเรียน ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรยี น จากน้นั ให้นกั เรียนทาํ กจิ กรรม เพลงสวัสดคี รบั สวัสดคี ะ่ เมื่อเจอกนั เราทกั กันสวัสดี (สวสั ดคี รับ สวัสดีค่ะ) ๒ รอบ

เม่อื ผดิ พลั้ง ขออภัย ขอโทษที (ขอโทษครบั ขอโทษคะ่ ) เมอ่ื จากไป ยกมือไหว้ สวสั ดี (สวสั ดีครับ สวัสดีค่ะ) เมื่อใครมี จิตไมตรี ขอขอบคุณ (ขอบคณุ ครบั ขอบคุณคะ่ ) ๒. ขั้นสอน ๑. ครูให้นักเรียนบอกความหมายของคาํ ว ๒. ครูติดใบความรู้อธิบายควาหมายคําสุภาพ คือ คําท่ีสุภาพชนใช้อยู่เปน ประจํา เปนถอ้ ยคาํ ที่สภุ าพไพเราะ เมอ่ื ใชแ้ ลว้ ผฟู้ ังเกดิ ความรสู้ ึกชืน่ ชม นยิ มในตัวผู้พดู คําสภุ าพต้องใช้ให้เหมาะกับกาลเทศะและฐานะของบุคคล ๓.คุณครใู ห้นักเรียนยกตัวอย่างคําท่ีนกั เรยี นใช้พดู ในชวี ิตประจาํ วัน ๔. คุณครชู วนนักเรยี นถามตอบคาํ สภุ าพ ๑.เมอ่ื เราพบกันครงั้ แรก เรากล่าวคําว่า ……………………….. ๒. ผู้ใหญใ่ ห้ของเรา เรากล่าวคาํ ว่า ……………………….. ๓. เพ่อื นใหข้ องเรา เรากลา่ วคําว่า ……………………….. ๔. นักเรียนชายพดู แทนตัวเองว่า ………………… ลงท้ายคําพดู วา่ ……………… ๕. นักเรยี นหญิงพูดแทนตวั เองว่า …………… ลงทา้ ยคําพดู ว่า……………… ๖. ถา้ เราไมเ่ รยี กชอ่ื ของเพ่อื น เราเรยี กเพ่ือนวา่ ……………………….. ๗. ถ้าเราเดินไปชนผอู้ ่ืนโดยไมต่ ้ังใจ เราควรกลา่ วคําวา่ …………………… ๘.เมอื่ ต้องการใหผ้ ูอ้ ืน่ ทําส่งิ ใดให้ เราควรขนึ้ ตน้ คําขอรอ้ งวา่ …………… ๕. ครูให้นักิ เรียนทาํ กจิ กรรมอ่านคําแล้วเปล่ียนเปนคําเปนคําสภุ าพ ๖. คุณครูจะแจกไม้บรรทัดประโยคให้นิกั เรียนคนละ ๑ ช้ิน ๗. คุณครูให้นกิั เรียนให้นักเรียนอ่านประโยคจากนั้นเปล่ียนคําเปนคําสุภาพ และ เพื่อนรว่ มกันแสดงความคิิดเหน็ ว่าเปลี่ยนคําถกู ตอ้ งหรอื ไม่ จากน้นั ครูเฉลยคําตอบทถี่ ูกตอ้ ง ๘. ครูแจกกระดาษใหน้ ักิ เรียนทาํ ใบงาน ๓. ข้นั สรปุ - ครูและนกั เรียนรว่ มสรปุ เร่ืองการใชถ้ ้อยคําสุภาพ ชว่ั โมงท่ี๒ ๑. ข้นั นําเขา้ สู่บทเรยี น ๑. ครูกลา่ วทักทายนกั เรยี นและรอ้ งเพลงสวสั ดีก่อนเขา้ สู่บทเรยี น เพลงสวสั ดี สวัสดี สวสั ดี วนั น้เี รามาพบกนั เธอกับฉนั พบกันสวัสดี ๒.ข้นั สอน ๑. ครแู ละนกิั เรียนทบทวนเรือ่ งคําสภุ าพและมารยาทในการพดู ๒. ครูให้นิกั เรียนแบ่งกลุิม่ เลือิ กแสดงบทบาทสมมุตสิิ ้ันิ ๆ ในกิจกรรมตอ่ ไปนิ้ี

- การทักทาย - การพูดขอร้อง - การปลอบใจ - การพูดปฏิเสธ - การพดู ซกั ถาม - การช่วยเหลืิอผู้ทิ ก่ี ําลิงั เดอืิ ดร้อนลํิาบาก ๓. นัิกเรียนแตล่ ะกลุ่มิ ออกมาแสดงบทบาทสมมตุ ิติ ามกจิ กรรมของกลมุิ่ ที่ไดร้ ับมอบหมาย ๔. นิกั เรียนและครรู ว่ มกันแสดงความคิดิ เห็นในการแสดงบทบาทสมมุติิตามกิจกรรมของ แต่ละกลิมุ่ ๓. ขั้นสรุป ๑. ใหน้ ิักเรียนเขิียนประโยชนจ์ ากกจิ กรรมการแสดงบทบาทสมมุตกิิ จิ กรรมลงในสมุด สือ่ / แหลง่ เรยี นรู้ ๑. หนังิสิือเรียน รายวชิิ าพนื้ ฐาน ภาษาไทย ชดิุ ภาษาเพื่อชีิวิิต ภาษาพาที ชัน้ิ ประถมศกิึ ษาปที ่ี ๓ ๒. ใบความรู้คาํ สภุ าพ ๓. เพลงสวสั ดีครบั สวสั ดีค่ะ ๔. เพลงสวัสดี การวดั และประเมินผล วิธีวดั เคร่ืองมือ จุดประสงค์ - การสงั เกตการร่วมกจิ กรรม -แบบประเมนิ การแสดงบทบาท แสดงบทบาทสมมตุ ิ ๑. นกั เรียนมคี วามร้เู รอื่ งการใช้ - ตรวจแบบฝึกหดั สมมติ ถ้อยคาํ สุภาพ - การสังเกตพฤตกิ รรม - แบบฝกึ หัด ๒. นักเรียนใชค้ ําสุภาพในการ - การสังเกตพฤติกรรม สื่อสารไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสม ๓. นกั เรียนมมี ารยาทในการพูด เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล ใช้การผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๗o ขน้ึ ไป

ความคดิ เห็นของครูพี่เลีย้ งก่อนใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................  เห็นควรใหใ้ ชจ้ ดั การเรยี นรู้  ไม่เหน็ ควรให้ใชจ้ ัดการเรียนรู้ ยงั ต้องแก้ไขเพ่ิมเตมิ ..................................................... (.....................................................) ครพู ่ีเล้ยี ง ............../................../...............

บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ปัญหา / อปุ สรรค ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................................ผู้สอน ( ....................................................... ) ............../........................./..............

ความคิดเหน็ ของครูพีเ่ ลย้ี งหลังใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................ ................................................. (.....................................................) ครูพเี่ ล้ยี ง ............../................../............... ความคิดเห็นของผ้บู ริหารหรือผูท้ ไ่ี ด้รบั มอบหมาย ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................. ..................................................... (.....................................................) ผบู้ ริหารหรอื ผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ............../................../...............

ใบความรู้ คําสุภาพ คือ คําที่สุภาพชนใช้อยู่เปนประจํา เปนถ้อยคําท่ีสุภาพไพเราะ เม่ือใช้แล้วผู้ฟัง เกิดความรู้สึกชื่นชม นิยมในตัวผู้พดู คาํ ไม่สุภาพอาจเปล่ียนแปลงให้เปน คําสภุ าพได้ วธิ ีการเปลีย่ นแปลงคําให้สุภาพมีดงั น้ี ๑. ไม่ใช้คํากระด้างอย่างไม่เคารพ เช่น ใช้คําอุทานว่า โว้ย เว้ย หรือ พูดกระชากหางเสียง หว้ ย เชน่ เปลา่ ไมใ่ ช่ ไมม่ ี ๒.ไม่ใชค้ าํ หยาบ เช่น อ้าย อี เย่ยี ว ๓. ไม่ใช้คาํ ทนี่ ยิ มเปรียบเทยี บกบั ของหยาบ เชน่ คาํ ว่า “ ไข่” ใชเ้ ปรียบเทยี บกับลูกอัณฑะ เปนตน้ ๔. ไม่ใชค้ าํ ผวน เช่น แขกต้ี ขแ้ี ตก เปนตน้ คาํ สภุ าพทใี่ ช้กันอย่เู สมอไดแ้ ก่ ๑. คําท่ใี ช้แทนตัวผ้พู ูด เชน่ ผม ดฉิ นั กระผม ๒. คาํ ที่ใช้แทนตวั ผู้ทเ่ี ราพดู ดว้ ย เชน่ คุณ เธอ ทา่ น ๓. คําที่ใช้แทนตวั ผทู้ ่เี รากล่าวถงึ เชน่ เขา ท่าน ๔. คําลงท้ายของคําพูด ผู้ชายใช้คําว่า ครับ ขอรับ ครับกระผม (ใช้กับเจ้านายและผู้ใหญ่) ผู้หญิง ใชค้ าํ ว่า ค่ะ เจา้ คะ่ (ใชก้ ับเจ้านายและผใู้ หญ่ ๕. คาํ ที่ใชก้ บั ผ้ชู ว่ ยเหลอื เรา ไดแ้ กค่ าํ ว่า ขอบใจ ขอบคุณ หรอื ของพระคุณ(ใช้กับผูใ้ หญ่) ๖. คําท่ีใช้เม่ือจะให้ผู้อื่นทําสิ่งใดๆให้ใช้คําว่า กรุณา หรือ ขอความกรุณานําหน้า เช่น กรุณาหยิบ สมุดให้ด้วยคะ่ ๗. คําที่ใช้เม่ือกระทําผิดพลาดกับผู้อื่น ได้แก่คําว่า ขอโทษ ขออภัย ขอประทานโทษ หรือขอ ประทานอภัยโทษ (ใช้กับผูใ้ หญ่) ๘. คาํ ทใ่ี ชท้ กั ทายเม่ือพบกนั ใชค้ าํ ว่า สวัสดี

๙. คาํ สุภาพอน่ื ๆ เชน่ ตนี - เท้า หวั - ศรี ษะ ตูด - ก้น ขี้มูก - นาํ้ มูก ออกลกู (คน) - คลอดบตุ ร ออกลกู (สตั ว)์ - ตกลูก ตด - ผายลม รู้ - ทราบ เกือก - รองเทา้ ช้างตวั ผู้ - ช้างพลาย ช้างตวั เมีย - ชา้ งพงั หมู - สุกร วัว - โค ควาย - กระบือ *คําสุภาพตอ้ งใชใ้ ห้เหมาะกบั กาลเทศะและฐานะของบคุ คล

แบบประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ กลมุ่ ท่ี............. เรอ่ื ง...................................................................................... คาํ ชีแ้ จง กาเครื่องหมาย / ลงในชอ่ งระดบั คะแนนให้ตรงกับความเปนจริงมากที่สุด รายการประเมิน ระดบั คะแนน คิดเปนร้อย หมายเหตุ ละ 3 21 ๑.ความถูกตอ้ งในการแสดงบทบาทสมมตุ ิ ๒. ความถูกตอ้ งของข้อมลู สาระ ความรูใ้ น การใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สาร ๓.สว่ นประกอบอ่นื ๆ และความคิด สร้างสรรค์ ลงช่ือ....................................ผปู้ ระเมิน (........................................................) ......./......../...… ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน / ระดบั คุณภาพ 32 1 1. ความเหมาะสมในการแสดง แสดงบทบาทได้ แสดงบทบาทได้ บทบาทสมมติ เหมาะสม เสยี งดงั ฟังชดั เหมาะสม เสยี งดังปาน แสดงบทบาท ถกู ตอ้ ง ลีลาท่าทาง กลาง ลลี าประกอบดี เหมาะสม เสียงเบา ประกอบดมี าก ลลี าประกอบค่อนข้าง 2. ความถกู ตอ้ งข้อมูล สาระ ใชภ้ าษาไทยในการ ใชภ้ าษาไทยในการ น้อย ความรู้ ส่อื สารไดถ้ กู ตอ้ ง สอ่ื สาร ถกู ตอ้ งเปน ใช้ภาษาไทยในการ ครบถว้ น สว่ นมาก ส่ือสาร ถกู ตอ้ งเปน ๓. ส่วนประกอบอ่นื ๆ มกี ารนําอุปกรณ์มา มกี ารนาํ อปุ กรณม์ า สว่ นนอ้ ย และความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ ประกอบการนําเสนอ ประกอบการนําเสนอ มีการนําอุปกรณม์ า ครบถว้ น ดีมาก ดี ประกอบการนําเสนอ ค่อนข้างน้อย

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียน คําชแี้ จง ใหท้ ําเคร่อื งหมาย / ลงในชอ่ งรายการสังเกตพฤติกรรมทีก่ าํ หนด รายการสงั เกต เลขท่ี ช่อื – สกุล มีมารยาทในการ ัฟงและ ูพด สรปุ ผล มี ่สวนร่วมในการทํากิจกรรม การประเมนิ ตอบคําถามได้ถูกต้อง ผ่าน/ไม่ผ่าน อ่าน ้ขอความได้ถูกต้อง เ ีขยนสวยงาม / สะอาดเ ีรยบร้อย ปฏิ ับติในใบงานได้ถูกต้อง 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 2=ดี, 1=ปานกลาง, 0= ตอ้ งปรบั ปรงุ แก้ไข (ลงชอื่ ) ……………………………………….ผปู้ ระเมนิ วันท…่ี …………เดอื น……………………………..พ.ศ……………

เกณฑ์การให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑ์การประเมนิ ในการสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๑๐ – ๑๒ ดีมาก ๗–๙ ดี ๔–๖ พอใช้ ๑–๓ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน นกั เรยี นทไ่ี ด้ระดบั คุณภาพพอใชข้ ้นึ ไป ถอื ว่า ผา่ น