บทที่ 7 ป.3

ความฝันเป็นจริงได้

ความฝันเป็นจรงิ ได้ บทน้ี ช้ีความฝัน อาจมีวันเป็นจริงได้ ขอเพียงจงตัง้ ใจ มุ่งมั่นไว้ให้เตม็ ท่ี หัดอา่ นคําแ0ป4ลกแปลก ฤ ฤา แยกหลายเสี ยงมี บัน บรร จําให้ดี คําไหนท่ใี ช้ ร หัน (รร)

อา่ นเรอื่ งราว คืนหน่ึงในฤดูร้อน ดาวฤกษ์ส่องแสงสุกใส เวหานอนหลบั และฝันไปว่า...ตนเองตดิ ปีกบินไต้ ไปไกลจนถึงภเู ขาสพุ รรณ บรรพต บรรยากาศและธรรมชาตทิ ่นี ั่นสดช่ืนสวยงาม เสียงดนตรี บรรเลงแว่วมาพาให้สขุ ใจสุดท่จี ะบรรยาย เวลาใกล้รุง่ แลว้ เวหาบินรอ่ นลงตรงลานกวา้ งหน้าศาลา หลังเล็กเห็นพระฤาษีตนหน่ึงนั่งปฏิบัตธิ รรมอยู่ เวหาเดนิ เข้าไปนั่ง ท่หี น้าบนั ไดและน้อมไหว้พระฤาษีด้วยความเคารพ

อา่ นเรอื่ งราว พระฤาษีถามว่า \"อะไรบนั ดาล ให้เจา้ เดินทางมาถึงท่นี ่ี\" เวหาแปลกใจมากท่เี ขาเข้าใจคําถามของพระฤษี ทงั้ ๆ ท่ี ทา่ นไมไ่ ดเ้ อย่ ปากพดู เลย เขาจงึ ตอบในใจเช่นเดยี วกนั วา่ \"คงเป็นบญุ บนั ดาลให้ผมมีฤทธ์บิ ินได้ ผมยงั คิดไม่ออกว่า ผมตดิ ปีกบินได้อยา่ งไร\" พระฤาษีและเวหาโตต้ อบกนั ว่า \"ลองบรรยายมาชิวา่ ระหว่างทางท่บี ินมาเจา้ เห็นอะไรบา้ ง\"

อา่ นเรอื่ งราว พระฤาษีสอนวา่ \"เมือ่ ใดท่มี คี วามมัน่ ใจ ยอ่ มมีพลงั นําไปสู่ความสําเรจ็ ความกลัวทาํ ให้ ความเข้มแข็งลดลง กาํ ลังใจกเ็ สื่อมถอย\" เวหารู้สึกวา่ พระฤาษีเร่ิมมรี า่ งกาย โปร่งใสทลี ะน้อยๆ กอ่ นท่ภี าพของทา่ นจะ เลอื นหายไป กม็ ีเสียงสั่งเบาๆ แล้วค่อยดงั ข้ึนๆ \"ทาํ อะไรตงั้ ใจทาํ จรงิ อยา่ กลัว อยา่ กลัว อยา่ กลัว\" เสียงดงั กอ้ ง จนเวหาสะดงุ้ ตน่ื จงึ รู้ว่าฝันไป

อา่ นเรอ่ื งราว เม่ือเวหาเลา่ เร่อื งน้ีให้พ่อฟัง พ่อบอกวา่ เวหาฝันอยากเป็น นักบนิ จงึ ฝันวา่ บนิ ได้ วันหน่ึงพ่อพาเวหาไปท่สี นามบินของชมรมอนรุ กั ษ์และ พัฒนาอากาศยานไทย เวหาตน่ื เตน้ มากท่ไี ดเ้ ห็นเคร่ืองรอ่ น แบบตา่ งๆ ลอยไปช้าๆ ตามทศิ ทางลม พ่อบอกวา่ ความฝันของเวหาจะบรรลคุ วามสําเรจ็ ถ้าตงั้ ใจใฝ่รู้ มคี วามกล้า ค้นหาความสามารถของตนเอง พ่อเลยทอ่ งบทกลอนท่เี คยเขียนไวน้ านมาแลว้ ให้เวหาฟัง ปัจจบุ ันใครใครกบ็ ินได้

อา่ นเรอื่ งราว แตว่ นั วานการบินคือความฝัน ปัจจบุ ันใครใครกบ็ ินได้ คนคิดคันเคร่อื งยนตเ์ ป็นกลไก พาเราไปฟากฟ้าน่าช่ืนชม แม้เป็นเดก็ เลก็ อยเู่ รียนรู้กอ่ น พ่อแมค่ รูสั่งสอนค่อยสะสม พอเตบิ โตเกง่ กลา้ ปัญญาคม จงึ ลอยลมบนิ เลน่ เป็นความจรงิ เวหาคิดวา่ \"วนั หน่ึง เราจะตอ้ งเป็นนักบินให้ได\"้

มนุษยก์ บั การบนิ มนษุ ยม์ คี วามใฝ่ฝันท่จี ะบนิ ให้ได้อยา่ งนกมานานแลว้ ไดม้ ี ผพู้ ยายามคิดค้นวิธกี ารตา่ งๆ เช่น หาปีกมาตดิ ตามแขนแลว้ กระพือ แบบนก แตก่ ย็ งั ไมเ่ ป็นผล ผู้ดประกายการบนิ โดยมเี คร่ืองช่วย คือ พ่ีน้องตระกลู ไรท์ ไดพ้ ยายามสร้างเครือ่ งร่อนข้ึนเป็นผลสําเรจ็ สามารถบงั คับให้ยานข้ึนลง หรอื เอียงซา้ ยขวาได้ ตอ่ มาจงึ ทดลอง ใช้เครือ่ งยนต์ และแสดงการบินด้วยอากาศยานท่ใี ช้เครือ่ งยนต์ ควบคุมการบนิ ได้เป็นผลหลังจากนั้น กจิ กรรมด้านการบินจงึ เกดิ ข้ึนทกุ หนทกุ แห่งทวั่ โลก และมีผ้คู ิดเคร่อื งบินท่ขี ้ึนลงบนพื้น น้ําได้ โดยนําสกแี ทนท่ลี อ้ ของเคร่ืองบินท่มี ีปีกสองชั้น

มนษุ ยก์ บั การบนิ หลงั สงครามโลกครัง้ ท่ี ๑ ไดม้ ีการตดิ ตงั้ อาวุธปืน ระเบดิ และตอรป์ ิโดบนเคร่อื งบิน มีการออกแบบอากาศยานท่เี ป็น มาตรฐานและพัฒนาความเร็วของเครื่องบินมากข้ึน จนสามารถ สร้างเครือ่ งบนิ ท่บี ินไดด้ ว้ ยความเรว็ เหนือความเร็วของเสียง

มนษุ ยก์ บั การบนิ ปัจจบุ นั ประเทศตา่ งๆ ไดผ้ ลติ เครอ่ื งบินเพื่อใช้ใน การพาณิชย์ ช่วยยน่ เวลาในการเดนิ ทาง และกลายเป็น ส่ วนหน่ึงของการคมนาคมไปแลว้ ประเทศไทยมีสาย การบินไทยหลายสายรบั ส่งผโู้ ดยสารทงั้ ในประเทศ และระหว่างประเทศทวั่ โลก

กลไก (กน-ไก) ตัวจักรต่างๆ คืนเดอื นเพ็ญ คืนท่ีมีพระจันทรเ์ ต็มดวง เครื่องยนต์ (เครื่อง-ยน) เครอื่ งจักรท่ีทาํ ให้กําเนิ ด พลังงาน หรอื ทาํ ให้วตั ถุ เคลื่อนท่ี

เครื่องร่อน อากาศยานชนิ ดหน่ึ งคลา้ ยเครอื่ งบนิ แตไ่ มใ่ ช้ เครอื่ งยนต์ เคลอื่ นทไ่ี ปในอากาศโดยอาศัย ชมรม กระแสลมและความโน้ มถว่ งของโลก มหี ลาย แบบ ดาวฤกษ์ (ดาว-เรกิ ) ทพี่ ักชวั่ คราวของกลมุ่ บคุ คล, ทปี่ ระชมุ ของ กลมุ่ บคุ คลทม่ี จี ดุ ประสงค์เพ่ือประโยชน์ บาง ประการรว่ มกนั เชน่ ชมรมอนรุ กั ษ์และพัฒนา อากาศยานไทย ดาวทม่ี ลี กั ษณะเป็นกลมุ่ แกส๊ ทรงกลม สามารถแผร่ งั สี่ออกไดร้ อบตวั เชน่ ดาว เหนื อ ดาวลกู ไก่ ดาวจระเข้

ตอรป์ ิโด เครอ่ื งกลจําพวกลูกระเบิด ท่ีปล่อยให้ แล่นไปในนาเํ พื่อทาํ ลายท่หี มาย ในการศึก บรรยากาศ (บนั -ยา-กาด) ความรูส้ ึกหรอื ส่ิงท่ีอยู่ รอบ ๆ บรรลุ (บัน-ล)ุ ถงึ , สําเรจ็

บันลอื ลัน่ ทาํ ให้เกิดเสียงดงั ก้อง ปฏิบัติธรรม ประพฤติตามธรรม, เจรญิ ภาวนา (ปะ-ติ-บดั -ทาํ ) ความรอบรู,้ ความฉลาดเกิดจาก ปัญญา การเรยี นและคิด

สกี กฬี าอยา่ งหน่ึ งใชแ้ ผน่ ไมแ้ คบ ๆ สองแผน่ สําหรบั สวมเทา้ ของผเู้ ลน่ อากาศยาน เครอ่ื งนํ าไปทางอากาศ, ยานทแี่ ลน่ ใน อากาศ เชน่ เครอื่ งบนิ (อา-กาด-สะ-ยาน)

เขาเห็นเคร่ืองร่อนบนท้องฟ้า คนท่มี ีปัญญามักจะแกไ้ ขปัญหาไดด้ ี กลไกในรถยนตท์ าํ ให้รถขับเคล่อื นได้ บรรยากาศในคืนเดือนเพ็ญสดชื่นสวยงาม ดาวฤกษ์เป็นดาวท่ีมีแสงสว่างในตัวเองใช่หรอื ไม่

อ่านเพ่ิม เตมิ ความรู้ คําท่ีมี ฤ ฤ ฤ ออกเสียงเป็น ริ เช่น ฤทธ์ิ อ่านวา่ รดิ ทฤษฎี อ่านว่า ทรดิ - สะ - ดี ฤ ออกเสียงเป็น รึ เช่น ฤดู อ่านว่า รึ - ดู ฤษี อา่ นว่า รึ - สี พฤศจกิ ายน อ่านวา่ พรดึ - สะ - จิ - กา - ยน

อ่านเพ่ิม เตมิ ความรู้ คําท่มี ี ฤ ฤ ฤ ออกเสียงเป็น รึ เช่น พฤษภาคม อา่ นวา่ พรดึ - สะ - พา - คม พฤหัสบดี อา่ นวา่ พรึ - หัด - สะ - บอ - ดีหรอื พะ - รึ - หัด - สะ - บอ - ดี ฤ ออกเสียงเป็น เรอ เช่น ฤกษ์ อ่านวา่ เรกิ ฤา ออกเสี ยงเป็น รอื เช่น ฤาษี อ่านวา่ รอื - สี

คําทีใ่ ช้ บนั บรร อา่ นคําออกเสียง บนั และเขียน บนั บนั ทึกระลกึ ไว้ บนั ดาลให้ใจรนื่ เรงิ สขุ สันต์ร่วมบนั เทิง บนั ลือเลือ่ งเรื่องมายา บันไดไตร่ ะวงั หากพลาดพลงั้ อาจเจบ็ ขา เขียน บัน ตา่ งบรรดา อกี บญั ชาควรระวงั คําท่ใี ช้ บนั มีหลายคํา ท่ใี ช้ประจาํ มี ๕ คํา คือ ดาล บนั ได บนั ทกึ บันเทงิ บนั ลือ นอกจากน้ี คําท่อี อกเสียง บนั ยงั มีท่เี ขียน บรร และ บัญ อีก

คาํ ทใี่ ช้ บนั บรร อา่ นคําออกเสียง บนั และเขียน บรร บรรจง บรรจใุ ส่ บรรทุกไว้บรรดามี บรรเลง บรรลทุ ่ี บรรทัดดสี ุดบรรยาย บรรพตกําหนดแน่ บรรหารแกร้ ู้ความหมาย คํา บรร มีมากมาย เลอื กมาใช้ให้เหมาะสม คําท่ใี ช้ บรร ยงั มีอกี มาก เช่น บรรจบ บรรเทา บรรพชา ฯลฯ

คําทีใ่ ช้ รร (ร หนั ) อ่านคําท่ีใช้ รร (ร หัน) หรรษาพาบรรเจดิ จัดสรรเลศิ มจี รรยา มรรยาทงามจับตา เห็นกรรไกรให้ระวัง พรรคพวกสะดวกจิต สรรพชีวติ มีความหวัง ธรรมชาตเิ สรมิ พลัง คุณธรรมประสานใจ

คําทใี่ ช้ รร (ร หนั ) อา่ นคําท่ใี ช้ รร (ร หัน) คําท่ใี ช้ รร ไม่มตี ัวสะกด จะอา่ นออกเสียง อัน เชน่ กรรไกร อ่านวา่ กัน-ไกร จัดสรร อา่ นวา่ จัด-สัน พรรษา อ่านวา่ พัน-สา มรรยาท อ่านวา่ มนั -ยาด สวรรคต อ่านว่า สะ-หวนั -คด

คําทใี่ ช้ รร (ร หัน) อา่ นคําท่ใี ช้ รร (ร หัน) คําทใ่ี ช้ รร มตี วั สะกด จะอ่านออกเสียง อะ ประสมด้วยตวั สะกดนั้ นๆ เชน่ พรรคพวก อ่านวา่ พัก-พวก (พรรค อา่ นแบบมี ก สะกด) คุณธรรม อา่ นวา่ คุน-นะ-ทํา (ธรรม อ่านแบบมี ม สะกด) นิทรรศการ อ่านวา่ นิ -ทดั -สะ-กาน (ทรรศ อ่านแบบมี ด สะกด) พรรณนา อ่านวา่ พัน-นะ-นา (พรรณ อ่านแบบมี น สะกด) สรรพสิ นค้า อา่ นวา่ สับ-พะ-สิน-ค้า (สรรพ อ่านแบบมี บ สะกด)

ชวนกนั คิด ช่วยกนั ตอบ ๑. ชว่ ยกันคิดวา่ ดาวฤกษ์มีลักษณะอยา่ งไร ๒. โลกของเราเป็นดาวฤษ์หรอื ดาวเคราะห์ ชว่ ยกันหาเหตุผล ๓. ถา้ มโี อกาส นั กเรยี นจะเลือกข้ึนเครอ่ื งบิน หรอื เครอ่ื งรอ่ น เพราะเหตุใด

ชวนกันทาํ นั กเรยี นชว่ ยกันพับกระดาษเป็นเครอื่ งรอ่ นแบบต่างๆ ตกแต่งให้สวยงามและตัง้ ชอ่ื เพื่อจัดเป็นนิ ทรรศการ เครอ่ื งรอ่ น