Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Lady Journey

Lady Journey

Published by saowanee.yaukala, 2020-04-10 03:35:14

Description: Lady Journey

Search

Read the Text Version

ไหว้ “อามา่ ” ขอพรก่อนเดินชิล ถงึ จะเปน็ สายชลิ เนน้ โพสทา่ ถา่ ย รปู กบั บรรยากาศเกๆ๋ แตเ่ มอื่ ไปถงึ ชาก แง้วท้งั ทจี ะไม่ไปไหว้ “อามา่ ชากแงว้ ” หรือ “เจ้าแม่ทับทิม” คงถือว่าพลาด อย่างแรง เพราะอาม่าคือสิ่งศักด์ิสิทธ์ิ คู่ชุมชนท่ีชาวชากแง้วให้ความเคารพ นับถืออย่างมาก เป็นเทพเจ้าที่ช่วย คมุ้ ครองชาวประมงยามออกทะเลและ บั น ด า ล ใ ห ้ ฝ น ต ก ต ้ อ ง ต า ม ฤ ดู ก า ล เพอ่ื ให้นำ�้ ทา่ อุดมสมบูรณ์ ผลผลติ ทาง การเกษตรเจริญงอกงาม ดังน้ัน การแวะไปสักการะอาม่าจึงนับเป็น สริ ิมงคลต่อชวี ิต เซลฟ่กี ับตึกแถวโบราณ “เก่าแตเ่ ก”๋ หลังจากเอาฤกษ์เอาชัย ก็ได้เวลาตระเวนแชะชมชิมในชุมชน ชากแงว้ กันแล้ว เริม่ จากการเดินเพลินๆ ชมบ้านไมห้ ลงั เก่าทสี่ ร้างเปน็ ตึกแถวยาวขนานกันไปตลอดสองฝากฝั่งถนน นับอายุแล้วมากกว่า 100 ปี ต้ังแต่เม่ือครั้งท่ีกลุ่มชาวจีนโพ้นทะเล อพยพมาอาศัย ร่มพระบรมโพธิสมภารท�ำมาหากินอยู่ในบริเวณนี้ จนมีการสร้าง บ้านสร้างตึกและเปิดร้านขายของมากมายจนกลายเป็นตลาดอย่าง ท่ีเหน็ ทุกวันนี้แม้อาคารไม้ส่วนใหญ่จะถูกปรับปรุงให้เหมาะสมกับ การใชง้ านในปจั จบุ นั และเปดิ เปน็ รา้ นคา้ ขายของกนิ ของใชร้ วมถงึ ของ ฝากใหน้ ักท่องเทยี่ วไดแ้ วะเวียนไปซ้อื หากันแล้ว แต่ก็ยงั คงเอกลักษณ์ และความคลาสสิกให้เห็นอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะบ้านเก่าบางหลังท่ี เปิดให้นักท่องเท่ียวได้เข้าไปชมวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวไทยเชื้อสายจีน สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมระหว่างไทยและ จนี อยา่ งชดั เจนจนเกดิ เปน็ สถาปตั ยกรรมและการตกแตง่ ทม่ี อี ตั ลกั ษณ์ เฉพาะตวั ใครท่ีรกั การถา่ ยรปู บอกเลยวา่ มาท่ีนไ่ี ม่ผดิ หวัง เพราะคุณ จะสนุกกับการกดชัตเตอร์มาก ที่น่ีมีแต่ของสวยแปลกตาแทรกอยู่ใน แทบทกุ มมุ จนทำ� ใหต้ อ้ งยกกลอ้ งขนึ้ มาเกบ็ ภาพบรรยากาศทมี่ กี ลน่ิ อาย ของความเป็นจนี กันอย่างเพลิดเพลนิ

อรอ่ ยเพลนิ @ ถนนคนเดนิ ยามเยน็ ร่ายไว้มากมายจนกลายเป็นสีสันดึงดูดให้ผู้คนเดินเข้ามาหาของ อรอ่ ยกนิ ดมื่ กนั อยา่ งเพลดิ เพลนิ ซงึ่ นอกจากของทรี่ ะลกึ และผลติ ภณั ฑ์ จากชุมชนแล้ว อีกไฮไลท์ทหี่ ้ามพลาด คอื สารพดั เมนเู ดด็ ทมี่ ีให้เลอื ก ชิมกันตามใจชอบ มีทั้งอาหารจีนแต้จ๋ิวรสด้ังเดิม ขนมโบราณ และ เครือ่ งดม่ื ตา่ งๆ ทตี่ อ้ งบอกว่าแตล่ ะอย่างนอกจากจะอรอ่ ยแลว้ ราคายัง เป็นมิตร เรียกว่าพกเงินไปหลักร้อยก็อ่ิมแน่ๆ ในราคาเบาๆ ไม่ว่าจะ เปน็ บ๊ะจา่ ง กว๋ ยจบ๊ั กยุ ช่าย ขนมเปย๊ี ะ ขาหมหู มัน่ โถว ก๋วยเตีย๋ วหลอด ซาลาเปา หอยจ๊อ เผือกหมิ ะ ลอดช่อง แฮกน๊ึ กระเพาะปลา กะลอจี๊ ฯลฯ ความตระการตาของถนนคนเดินชากแง้วไม่ใช่แค่เรื่องอาหาร การกิน แต่ยังรวมไปถึงการตกแต่งร้านและการแต่งตัวให้เข้ากับ บรรยากาศของบรรดาพ่อคา้ แมค่ า้ ด้วย เพราะแต่ละคนแตล่ ะรา้ นสนุก กบั การแตง่ ชดุ จนี กนั มาก เหน็ แลว้ ตอ้ งขอถา่ ยรปู คไู่ วเ้ ปน็ ทรี่ ะลกึ กนั เลย Contact Info. ชมศลิ ปะสดุ เก๋และความเท่ สไตล์จีน ตลาดจีนโบราณบา้ นชากแงว้ ชมรมสง่ เสรมิ การทอ่ งเท่ียว ถ้าคิดว่าของกินและบรรยากาศ แสนคึกคักของตลาดโบราณชากแง้วคือ โดยชุมชนบา้ นชากแง้ว ที่สุดแล้วของทริปนี้ ขอบอกว่ายังไม่สุด ต.หว้ ยใหญ่ อ.บางละมุง จังหวัดชลบรุ ี แค่นั้น เพื่อซึมซับบรรยากาศจีนย้อนยุค อย่างแท้จริง ต้องไม่พลาดที่จะไปดู โทรศพั ท์ 08-9002-5781 นิทรรศการความเป็นมาของชุมชนบ้าน ชากแง้วและดูหนังกลางแปลงที่ชากแง้ว ราม่า แล้วนั่งรถเจ๊กหรือรถลากแบบจีน ไปถา่ ยรปู ชิคๆ กบั สตรีทอารต์ สวยๆ และ บ่อน้�ำโบราณที่อนุรักษ์ไว้กลางชุมชน รวมถึงชมการแสดงมหรสพจีนและเพ้นท์ หน้ากากงิ้วสวยๆ ไปเป็นของฝากกลับ บ้านท่ีโรงง้ิวเก่าด้วย แค่ฟังก็เพลินแล้ว ใช่ไหมล่ะ บอกเลยว่าถ้ามาเดินเล่นเอง และไดส้ มั ผสั บรรยากาศจรงิ ๆ จะยง่ิ เพลนิ หากไม่ใช่สายกินและสายช้อปสามารถไปเดินเท่ียวชมความคลาสสิกของชุมชนชากแง้ว ได้ทุกวัน เพราะตึกรามบ้านช่องต่างๆ ยังคงท้ิงร่องรอยไว้ให้ได้เห็นถึงความงดงามของอดีต แต่หากเป็นสายช้อปชมชิมแชะแบบเราๆ แนะน�ำว่าวันเสาร์ ตั้งแต่ 4 โมงเย็นเป็นต้นไป คือช่วงเวลาท่ีสมควรแก่การไปเดินเล่นย้อนวันวานและอ่ิมหน�ำส�ำราญจนพุงกางเป็นอย่างยิ่ง และหากอยากให้เข้ากับบรรยากาศและกลมกลืนเวลาถ่ายรูป ลองแต่งตัวสไตล์จีนไปด้วย แลว้ ความสนกุ จะเพม่ิ ข้นึ อีกหลายเท่าตวั

ตะลยุ สวนมะพรา้ ว สัมผสั วิถีชาว ตะเคยี นเตี้ย @ชลบรุ ี ใครท่คี ิดวา่ ชลบรุ ีมแี ตท่ ะเลและความคึกคกั ของพทั ยา บอกเลยว่าคุณคิดผดิ เพราะใกล้ กับพัทยาแคน่ ิดเดยี วมีชมุ ชนทแี่ สนเรียบงา่ ยแต่เป่ยี มไปดว้ ยเสนห่ ์รอให้ไปค้นหาอยู่ ณ บ้านตะเคยี นเตีย้ อ.บางละมงุ จ.ชลบรุ ี สถานท่ีทีจ่ ะพาทกุ คนย้อนกลบั ไปสู่วถิ ีชีวติ ธรรมดาทวา่ ไม่ธรรมดา ด้วยเพราะเปน็ ชุมชนเกษตรกรรมที่ยังคงองิ แอบอยกู่ ับธรรมชาตแิ ละภูมิปญั ญา ทอ้ งถิ่น จงึ ยงั คงความบรสิ ุทธ์ิ สงบ และงดงาม ทงั้ ในสว่ นของธรรมชาติและการใช้ชวี ติ แตท่ า่ มกลางความสงบเรยี บง่ายกลบั แฝงไดด้ ้วยความสนุกและท้าทาย ใครชอบการผจญภัย และการสร้างสรรคง์ านฝีมือ บอกเลยวา่ ตะเคยี นเตี้ยมีให้ครบ

ผจญภยั ในสวนมะพรา้ ว กจิ กรรมแสนสนกุ ท่ี “บ้านร้อยเสา” วา่ กนั วา่ ในอดตี ชาวตะเคยี นเตยี้ กย็ ดึ อาชพี ทำ� นาเปน็ หากไปถงึ ชมุ ชนตะเคยี นเตยี้ แลว้ ไมไ่ ปบา้ นรอ้ ยเสากเ็ หมอื นไปไมถ่ งึ เพราะ หลักเหมือนเช่นคนไทยภาคกลางท่ัวไป แต่เม่ือน้�ำท่า ท่ีน่ีคือศูนย์รวมของชุมชนท่ีเป็นทั้งพิพิธภัณฑ์และลานวัฒนธรรมซ่ึงสะท้อน ไม่เป็นใจ ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงหันมาปลูกมะพร้าวแทน ใหเ้ หน็ ถงึ วถิ ชี วี ติ แบบไทยพน้ื บา้ นและภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ อนั หลากหลาย โดยบา้ น ทกุ วนั นท้ี ว่ั หมบู่ า้ นจงึ เตม็ ไปดว้ ยสวนมะพรา้ ว ทนี่ อกจากจะ รอ้ ยเสาแหง่ นีเ้ ปน็ เรอื นไทยโบราณทเี่ จา้ ของบา้ น “วันดี สงิ หท์ อง” อทุ ิศให้เปน็ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับทุกครอบครัว ยังกลายมาเป็น ศูนย์การเรียนรู้ประจ�ำชุมชน เพ่ือเป็นส่วนส�ำคัญในการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ส่วนหน่ึงในการด�ำรงชีวิตของชาวตะเคียนเตี้ยไปเสียแล้ว ด้วยการดึงคนภายนอกให้เข้ามาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมา ประเพณี ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินที่ล้วนแล้วแต่มีมะพร้าวเป็น วัฒนธรรม รวมถึงวิถีชีวิตพอเพียงของชาวบ้าน ได้ยินอย่างนี้แล้วอย่าเพ่ิงคิดว่า ส่วนประกอบ หรือเครื่องใช้ไม้สอยที่น�ำแต่ละส่วนของ จะน่าเบื่อ เพราะทีน่ ีม่ กี จิ กรรมสนุกๆ ใหท้ �ำเพยี บ มะพร้าวมาสรา้ งสรรค์ และทส่ี ำ� คัญคอื สวนมะพร้าวยงั เปน็ เร่ิมจากการย้อนอดีตไปกับพิพิธภัณฑ์ท่ีรวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมของ เส้นทางท่องเที่ยวทที่ ำ� ใหช้ มุ ชนแห่งนีน้ า่ ค้นหามากยิ่งขึ้น ชุมชนไว้อยา่ งครบถ้วน ไม่วา่ จะเป็นขา้ วของเคร่ืองใชส้ มัยโบราณ ตำ� รายารกั ษา ส�ำหรับคนท่ีอยากสัมผัสกับธรรมชาติและความเป็น โรค ต�ำราโหราศาสตร์ ครกบดยา ภาชนะทองเหลืองโบราณ ฯลฯ เรียนรู้ อยู่ที่เรียบง่ายของที่นี่ต้องลองกิจกรรมแอดเวนเจอร์นิดๆ การท�ำงานฝีมือแสนสนุก อาทิ การท�ำพวงมโหตร เคร่ืองแขวนจากกระดาษส ี ผจญภัยหน่อยๆ อย่างการปั่นจักรยานชมวิถีชุมชน ที่ทาง ที่ใช้ตกแต่งวัดและบ้านเรือนในเทศกาลหรืองานมงคล การท�ำกุหลาบใบเตย หมู่บ้านจัดสรรเส้นทางไว้ให้ปั่นกันเพลินๆ มีจุดให้แวะ เพื่อน�ำไปถวายหรือบูชาพระ การสานใบมะพร้าวให้เป็นรูปทรงต่างๆ เช่น พกั ขาและพกั ใจตลอดทาง ทงั้ สวนมะพรา้ วปา้ ชน่ื ทมี่ ไี ฮไลต์ หมวก ปลาตะเพียน เป็นบ้านไมท้ รงไทยอนรุ ักษ์ไว้ในสวนมะพร้าวใหถ้ ่ายรูปกัน บอกเลยว่างานน้ีท้าทาย สวยๆ ตามด้วยลานมะพร้าว แหล่งรับซ้ือและแปรรูป มากส�ำหรับคนอ่อนด้อย มะพรา้ วทล่ี ะลานตาไปดว้ ยภเู ขามะพรา้ วกองโต กอ่ นไปชม เรอ่ื งการประดดิ ประดอย วถิ เี กษตรแบบดงั้ เดมิ กบั การเพาะเลย้ี งแตนเบยี นเพอ่ื กำ� จดั อยา่ งเรา แตเ่ พราะปา้ ๆ มี และควบคุมหนอนหัวด�ำศัตรูมะพร้าวแทนการใช้สารเคมี วิธีการสอนท่ีสนุกสนาน แล้วปิดท้ายด้วยการแวะชมความงามของทิวต้นมะพร้าวที่ เลยผา่ นมาไดแ้ บบพอไหว เรยี งรายเปน็ แถวยาวพรอ้ มจบิ นำ้� มะพรา้ วใหช้ น่ื ใจทส่ี วนฟา้ ใสไอโกะ นบั เปน็ การเสียเหงอื่ เพอ่ื ชารจ์ พลังงานให้กับชีวิต ไดอ้ ยา่ งดีเยย่ี ม

สขุ ภาพดีมี ใหช้ อ้ ป กจิ กรรมทไี่ มค่ วรพลาดเมอื่ ไปถงึ บา้ น ตะเคียนเต้ียคือกิจกรรมเพ่ือสุขภาพอย่าง การนวดกัวซา ภมู ปิ ญั ญาแพทยพ์ ้นื บา้ นที่ ใช้กระดูกหรือเขาสัตว์มาขูดตามผิวหนัง เพ่ือดูดพิษออกจากร่างกาย ช่วยให้หาย ปวดเมอื่ ยและบำ� บดั โรคตา่ งๆ ได้ โดยเฉพาะ อาการไข้แดดและไข้หวัด ใครลองนวดแล้ว ตดิ ใจอยากเรยี นรดู้ ว้ ยตวั เองทน่ี ย่ี งั เปดิ สอนกวั ซา ใหก้ บั ผทู้ สี่ นใจดว้ ย นอกจากนยี้ งั มกี ารอบสมนุ ไพร ไรส้ ารพษิ และเรยี นรกู้ ารทำ� นำ�้ สมนุ ไพรหลากหลาย เมนูท่ีดีต่อสุขภาพ เรียกว่ามาท่ีนี่ได้สุขภาพดีๆ ทั้งกาย-ใจกลับไปเต็มๆ ทัง้ ภายในภายนอก Contact Info. ลมิ้ รสอาหารพื้นบ้านจากมะพร้าว ชมรมส่งเสริมการท่องเทีย่ ว เพราะเป็นชุมชนท่ีมีมะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจ โดยชุมชนตะเคยี นเต้ยี บ้านตะเคียนเตี้ยจึงมีอาหารพื้นบ้านจากมะพร้าวให้ลิ้ม ชิมรสมากมายหลายเมนู ที่ข้ึนชื่อชนิดที่ไปถึงแล้วต้องชิม 32-33 ม.3 ถ.ตะเคียนเตย้ี ซ.34 คอื แกงไกก่ ะลาทน่ี ำ� เอากะลามะพรา้ วออ่ นมาผดั กบั ไกแ่ ละ ต.ตะเคียนเตย้ี อ.บางละมงุ จ.ชลบรุ ี เคร่ืองแกงจนได้รสชาติละมุนกรุบกรอบด้วยเนื้อกะลา นอกจากนี้ยังมีกาแฟมะพร้าว น�้ำอัญชันมะพร้าวอ่อน ตดิ ต่อ วนั ดี สิงห์ทอง ทอฟฟก่ี ะทโิ บราณ และทพ่ี ลาดไมไ่ ดเ้ ลยคอื ขนมทองมว้ น- โทร. 08 5698 9732 ทองพบั สตู รคณุ ปา้ ละมนุ ประกอบทำ� ผเู้ ชยี่ วชาญแหง่ ลาน อีเมล wandee_central วัฒนธรรมของบ้านร้อยเสา ที่ใครๆ ก็ต้องซ้ือติดไม้ติดมือ กลบั ไปเป็นของฝากกนั ทกุ คน @hotmail.com ใชเ้ วลาแค่ 2 วัน 1 คนื ไปเรยี นร้ใู ห้เข้าใจวัฒนธรรม พนื้ บา้ น ชมิ อาหารจากมะพรา้ ว ชมวถิ ชี วี ติ ชาวตะเคยี นเตยี้ เช่ือเถอะว่าไม่เพียงแค่ความสนุก แต่ยังจะได้ดื่มด�่ำกับ ความสุขที่แสนเรียบง่ายและน่าประทับใจ จนต้องสัญญา กบั ตวั เองว่า จะกลับไปสนุกแบบนี้อกี หลายๆ ครัง้

เทีย่ วสวน ชมิ ผลไม้ เพลนิ ใจวิถีริมน้�ำ “วสิ าหกจิ ชุมชนทอ่ งเท่ียว เชิงเกษตรสวนหลวง” @สมุทรสงคราม จดุ หมายการเดนิ ทางระยะส้ันครั้งน้ี คอื การไปเพลนิ กับธรรมชาตดิ ีๆ ท่ีสวนผลไม้รมิ น้�ำ ในชุมชนสวนหลวง อ�ำเภออมั พวา จงั หวดั สมุทรสงคราม ชมุ ชนที่ทำ� ให้รู้วา่ อ�ำเภออมั พวา ไมไ่ ด้มีแคต่ ลาดนำ้� และหิ่งห้อย แต่ยังมคี วามสงบและความอร่อย ซอ่ นอยอู่ กี เพียบ

ชมวดั สวย ช้อปปงิ้ ตลาดคลาสสคิ ก จากกรุงเทพฯ เราขับรถมุ่งหน้าไปยัง อมั พวา ใช้เวลาไม่นานแค่ช่วั โมงกว่าๆ ก็เขา้ เขต ชุมชนสวนหลวงแล้ว อันดับแรกต้องแวะขอพร ท่ี “วัดสวนหลวง” วัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ป ี ทม่ี ีเรื่องเลา่ น่าสนใจเกีย่ วกบั ‘พี่จุก กุมารเทพ’ ทีเ่ ชือ่ กันว่าศักดิ์สิทธิ์มากในเรื่องของโชคลาภ แลว้ มาตอ่ ที่ ‘วดั ภมุ รนิ ทรก์ ฎุ ที อง’ สวยเดน่ เป็นสง่าริมฝ่ังแมน่ ำ�้ แม่กลอง ไฮไลทอ์ ยูท่ ี่ “กฎุ ”ี เป็นเรือนไม้สักทองขนาดใหญ่ ลวดลายรดนำ�้ ปดิ ทองสวยงาม ซง่ึ สมเดจ็ พระชนกของพระมเหสี ในรัชกาลท่ี 1 สร้างถวายไว้ พรอ้ มทง้ั เครอ่ื งใช้ สว่ นพระองคจ์ ำ� นวนมาก ภายในวดั ยงั มพี พิ ธิ ภณั ฑ์ และอทุ ยานการศึกษา เปน็ สถานทเ่ี ก็บรวบรวม โบราณวัตถุล�้ำค่าควรอนุรักษ์ทั้งพระพุทธรูป หนงั สอื ไทย เครอื่ งกระเบอื้ ง เคร่ืองทองเหลือง ฯลฯ ภายในบริเวณวัดภุมรินทร์มี ‘ตลาดวัฒนธรรมต�ำบลสวนหลวง’ ให้ได้เดิน ช้อปปิ้งกันด้วย ตลาดน่ารักแห่งน้ีเกิดจากการรวมตัวของชาวบ้านชาวสวน ในละแวกนี้ ที่น�ำสินค้าท้องถ่ินมาวางขาย ท้ังผลไม้ตามฤดูกาล อย่างมะพร้าว ส้มโอ ลิ้นจี่ กล้วย ฯลฯ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลไม้ ท้ังกล้วยกวน ทองม้วน นำ�้ ตาลงบ ตลอดจนผลติ ภณั ฑ์ OTOP ของชมุ ชน เชน่ เครอ่ื งใชไ้ มส้ อยจากกะลา ไม้กวาดจากก้านมะพร้าว เคร่ืองจักสานกาบมะพร้าว เดินแวะดูนั่นดูน่ีได้เร่ือยๆ ช้อปเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวได้ของกลับบ้านเต็มมือเต็มแขน เดินไปห้ิวไปจนแขน เร่ิมล้าขาเร่ิมอ่อนแรงเลยลองใช้บริการนวดแผนโบราณให้หายเม่ือยกันแป๊บหน่ึง ซงึ่ ตอ้ งบอกเลยวา่ มอื นวดทน่ี เ่ี ขาดจี รงิ นวดเสรจ็ สบายตวั หายเมอ่ื ยพรอ้ มเดนิ เทย่ี ว เดนิ เลน่ ในสวน ชมิ ผลไมด้ ังประจำ� ถ่ิน ต่อได้ ด้วยความที่บ้านสวนหลวงเป็นหมู่บ้านริมคลอง ชาวบา้ นสว่ นใหญจ่ งึ ยงั คงดำ� เนนิ ชวี ติ ในรปู แบบดงั้ เดมิ คอื ท�ำสวนผลไม้เป็นอาชีพหลัก ไม่ว่าจะเป็นสวนมะพร้าว สวนลิ้นจ่ี สวนส้มโอ ซ่ึงเสน่ห์ของวิถีชีวิตเรียบๆ ง่ายๆ สไตส์ชาวสวนท่ีดึงดูดคนเมืองที่ถวิลหาความสโลว์ไลฟ์ แบบเราใหม้ าดม่ื ดำ�่ กบั ความเปน็ ธรรมชาตอิ ยา่ งแทจ้ รงิ ของ ท่ีน่ี ซึ่งมีสวนผลไม้ให้เข้าชมมากมาย โดยทุกสวนจะเป็น สวนผลไม้แบบอนิ ทรยี ์ สวนท่ีเราเลือกไปคือ ‘สวนผลไม้ของคุณสมโภชน์’ ท่ีเม่ือก่อนเน้นปลูกมะพร้าวเป็นหลัก ก่อนจะเพ่ิมส้มโอ พันธุ์ขาวใหญ่ ลิน้ จีพ่ ันธ์ุค่อม และกลว้ ย ผลไมข้ ้ึนชือ่ ของ ย่านน้ี เข้าไปปลูกเพ่ิมในพ้ืนท่ีเดิมแบบผสมผสาน เราจึง เดินชมสวนกันได้แบบสบายใจไร้กังวล แถมเดินไปสักพัก พี่สมโภชน์ก็ชวนชิมส้มโอปลอดสาร เนื้อแน่นไร้เมล็ด รสหวานก�ำลังดี งานนี้เหมือนถูกมนต์แห่งความอร่อย สะกดใจจนเผลอซ้อื สม้ โอจากสวนไปอีกหลายลูก

พักกายพกั ใจในโฮมสเตยร์ ิมน�้ำ เท่ยี วทางน�้ำ ชมวัดวาและหตั ถกรรมพืน้ บา้ น เทยี่ วสวนกนั เสรจ็ กไ็ ดเ้ วลาเชค็ อินเข้าที่พกั พอดี ทรปิ นขี้ อเนน้ ไปนอนสวนกนิ ของอรอ่ ยแบบชาวบา้ นท่ี เรายังคงเพลินกันต่อกับกิจกรรม ‘ล่องเรือ ‘โฮมสเตยบ์ า้ นดาหลา’ ซ่งึ กไ็ ม่ทำ� ให้ผู้มาเยอื นผิดหวงั ไหว้พระ ชมแหล่งท่องเที่ยวชุมชน และแหล่งผลิต ด้วยบรรยากาศท่ีร่มร่ืนแบบบ้านสวนและบริการท่ี ผลติ ภณั ฑท์ อ้ งถน่ิ ’ ซงึ่ มี ทง้ั นำ้� ตาลมะพรา้ ว ผลติ ภณั ฑ์ น่ารักของเจ้าบ้านท�ำให้รู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง จากกะลา เครื่องเบญจรงค์ และการท�ำห่อหมก เหมือนมานอนบ้านญาติในตา่ งจังหวัด โบราณ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแวะเที่ยวตลาดน้�ำ พอถงึ เวลาอาหารเยน็ พเ่ี จา้ ของบา้ นกเ็ ชอื้ เชญิ ให้ ยอดฮิตอย่าง ‘ตลาดน�้ำอัมพวา’ แหล่งรวมของฝาก ไปรับประทานกันท่ีระเบียงริมน้�ำ ก่อนจะเสิร์ฟเมนู และอาหารอร่อยให้เลือกซ้ือ ทั้งปลาทูแม่กลอง แบบพ้ืนบ้าน อย่างต้มจืด ผัดผัก ไขเ่ จยี ว แตอ่ ร่อยเกนิ กะปิ อาหารแห้ง ไอศกรีมดอกไม้และผลไม้ หนา้ รา้ นดงั และทข่ี าดไมไ่ ดเ้ ลยเมอ่ื มาถงึ สมทุ รสงคราม ร้านศรมี าลา ขนมไทยคณุ ยาย ซฟี ้ดู ริมน�้ำ ฯลฯ คือการตอ้ งได้กิน ‘ฉู่ฉ่ีปลาทู’ ที่อร่อยไม่เหมือนทไ่ี หน บอกเลยวา่ การไปเทย่ี วทบ่ี า้ นสวนหลวงมอี ะไร เพราะใช้ปลาทูแม่กลอง ผัดกับเครื่องแกงฉู่ฉ่ีท่ี มากมายให้ได้จดจ�ำ ท้ังธรรมชาติดีๆ ความสนุก โขลกเองจากก้นครัว รสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้านแบบที่ ความเป็นมิตรของผู้คน และความอร่อยของสารพัด ชาวบา้ นเขากนิ กันขนานแท้ เมนูอาหาร นับเปน็ อกี หน่ึงเสน้ ทางท่องเทย่ี วชุมชนท่ี หลงั นอนฟงั เสยี งหรง่ิ หรดี เรไรทคี่ อยขบั กลอ่ มให้ ทง้ั อมิ่ ใจและอ่ิมท้อง หลับฝันดีตลอดท้ังคืน ตื่นเช้ามาสายบุญอย่างเราก็ แม้ชุมชนแห่งน้ีจะยังไม่เป็นท่ีรู้จักมากนัก ตอ้ งเตรยี มรอใสบ่ าตรทที่ า่ นำ�้ ซงึ่ จะมพี ระจากวดั รมิ นำ�้ เพราะผู้คนส่วนใหญ่มักมุ่งหน้าไปเที่ยวตลาดน�้ำ พายเรือมารับบาตรทุกๆ เช้า นับเป็นการต้อนรับ อัมพวากัน ท�ำให้พลาดโอกาสซึมซับธรรมชาติดีๆ วันใหมด่ ว้ ยความความอมิ่ อกอ่ิมใจมากทเี ดียว ความเป็นมิตรของผู้คน และความอร่อยของสารพัด เมนูอาหารและผลไม้ซ่อนตัวอยู่มากมาย ท่ีส�ำคัญ Contact Info. สถานทีแ่ หง่ น้ี ยงั เต็มไปด้วย “ความสงบ เรียบงา่ ย” ทท่ี ำ� ใหผ้ มู้ าเยอื นไดร้ บั ประสบการณ์ “อมิ่ เอม” ซงึ่ ถอื วสิ าหกิจชุมชนท่องเทยี่ ว เป็นจดุ หมายปลายทาง อกี หนึง่ ชมุ ชนท่นี ักทอ่ งเทย่ี ว เชิงเกษตรสวนหลวง ควรมาสมั ผัส ต�ำบลสวนหลวง อำ� เภออมั พวา จังหวดั สมุทรสงคราม โทรศัพท์ 08-1793-5560

เที่ยวสดุ ขอบภเู ขาไฟ @บุรีรัมย์ ชวี ิตมเี รอ่ื งให้ท้าทายอยเู่ สมอ เชน่ เดยี วกบั การท่องเทย่ี วจงั หวดั บุรรี มั ย์ สถานท่ที ที่ ำ� ให้พูดได้ เต็มปากวา่ ในเมอื งไทยเคยมภี ูเขาไฟ ทแ่ี มว้ ันนจี้ ะดบั สลายไปแล้ว และกลายเป็นเมืองเกา่ ท่ามกลาง ความทันสมยั แต่วถิ ีชีวติ ของผคู้ นก็ยงั แข็งแกรง่ ด้วยวัฒนธรรมตามแบบฉบบั ของชาวอีสานขนานแท้

ชมววิ บนภูเขาไฟ อาณาจกั รพันปี ท่บี ้านโคกเมือง กรีดกรายบนสะพานข้ามปลอ่ ง “บา้ นโคกเมอื ง” เป็นหม่บู ้านทอ่ งเท่ียวเชิงวฒั นธรรม ทีม่ เี อกลักษณ์โดดเด่น เพราะ หากอยากจะชมเมอื งบรุ รี มั ยไ์ ดแ้ บบเปดิ หู หลดุ จากตวั ชมุ ชนไปเพียงนิดเดยี ว จะพบปราสาทหินเมอื งต่�ำหน่งึ เทวสถานท่ีส�ำคัญของ เปดิ ตา ก็ตอ้ งขน้ึ ไปที่ “วนอทุ ยานเขากระโดง” อาณาจกั รขอม ท�ำให้เสมือนได้ยอ้ นอดีตไปกว่าพันปี ตั้งอยู่ที่บ้านน�้ำซับ ต�ำบลเสม็ด อ�ำเภอเมือง ชาวบา้ นโคกเมอื ง มรี ากเหงา้ มาจากฝง่ั ลาวและเขมร มภี าษาพดู เฉพาะคอื ภาษาเขมร บรุ รี มั ย์ หนงึ่ ในภูเขาไฟท่ีดบั สนิทแลว้ บนยอด เป็นหลัก รองมาคือ ภาษาไทย ท่ีนี่ถือเป็นชุมชนท่องเท่ียว โฮมเสตย์ท่ีได้รับมาตรฐาน เขาสูงสามารถชมวิวเมืองบุรีรัมย์ได้อย่างอ่ิมตา โฮมสเตย์ไทย เมื่อปี 2555 -2557 จึงสบายใจไดเ้ รื่องการจดั การและความปลอดภัยท่ีได้ ใกล้ๆ กันมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่เด่นเป็นสง่า รบั จากคนในพนื้ ทโี่ ดยตรง การเดนิ ทางมาเพยี งคนเดยี วจงึ ไมใ่ ชอ่ ปุ สรรค เมอ่ื เจา้ บา้ นพาไป เปน็ ทเ่ี คารพของคนในทอ้ งถน่ิ บรเิ วณปากปลอ่ ง เก็บสัมภาระที่บ้านพักแล้วพบว่า มีความสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบเรียบร้อย น่าอยู่ ภูเขาไฟ (ที่ดับสนิทแล้ว) เผยทัศนียภาพอัน น่าพัก แถมยังน่ารักด้วยน�้ำจิตน�้ำใจอันเปี่ยมล้น ทราบมาว่าเป็นหมู่บ้านท่ีท�ำโฮมสเตย์ งดงาม รายล้อมด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มี กันอย่างจริงจัง จึงรองรับได้คร้ังละเกือบร้อยคน กระจายกันไปตามบ้านเรือนต่างๆ ใน สะพานแขวนขา้ มปลอ่ งภเู ขาไฟเปน็ แลนดม์ ารค์ ชมุ ชน แต่ล้วนแล้วอยใู่ นมาตรฐานเดียวกัน จากตวั เมอื งบรุ รี มั ย์ เราขบั รถอยา่ งสบายๆ หลังจากเข้าที่พักแล้ว เราสามารถออกไปเดินให้เย็นๆ ใจกันได้ต่อ ทั้งที่ปราสาท ในบรรยากาศวถิ ชี วี ติ สองขา้ งทาง ผา่ นเรอื กสวน เมอื งตำ่� ซงึ่ อยใู่ กลๆ้ แบบเดนิ ถงึ ไดเ้ ลย เหน็ กลมุ่ มคั คเุ ทศนอ้ ยคอยทำ� หนา้ ทพ่ี านกั ทอ่ งเทย่ี ว ไรน่ าเปน็ ระยะๆ พอใหค้ วามเขยี วของทอ้ งทงุ่ ได้ เดนิ ชมอย่างน่ารกั นา่ ชงั ท่ามกลางความตระหง่านของปราสาท อกี หนึง่ ความน่าอัศจรรย์ ปลุกสายตาให้ชื่นฉ�่ำ ราวช่ัวโมงหนึ่งเราก็มาถึง ใจของศิลปะขอมโบราณ ตัวปราสาทล้อมด้วยสระน้�ำ หรือท่ีเรียกว่า “บาราย” มีการ “บา้ นโคกเมอื ง” ตำ� บลจรเขม้ าก อำ� เภอประโคนชยั สันนิษฐานว่าสร้างขึน้ ในพุทธศตวรรษท่ี 16-17 เป็นปราสาทหนิ 5 องคท์ ี่วางเรียงอยบู่ น หมบู่ า้ นทอ่ งเทย่ี วเชงิ วฒั นธรรม อนั เปน็ ทตี่ งั้ ของ ศลิ าแลงอนั เดียว แตว่ างต�ำแหน่งให้เหมาะเจาะ ทำ� ใหม้ องเห็นปรางค์องค์ใหญแ่ ละบริวาร “ปราสาทเมืองต่�ำ” หน่ึงในโบราณสถานทาง ท้ัง 4 ได้โดยไม่มีอะไรบดบัง แม้จะทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ยังคงหลักฐานปรากฏ ประวตั ิศาสตรอ์ ันงดงาม โดยชาวบ้านโคกเมือง อันงดงามและทรงมนต์ขลัง ย่ิงในช่วงเย็น ในยามพระอาทิตย์ใกล้อัสดง ตะวันจะลาลับ ถือเป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในพ้ืนที่ใกล้กับ ขอบฟา้ ท�ำใหภ้ าพความงามของตวั ปราสาทยิ่งเดน่ ชัดขน้ึ ปราสาทเมืองต�่ำได้อย่างกลมกลืน โดยมีวิถี เกษตรเป็นทต่ี ้ัง

กุง้ จอ่ ม-ไข่มดแดง เมนูหา้ มพลาด ถึงเวลาม้อื เยน็ อาหารทเี่ รียงรายมาชา่ งดนู ่าสนใจไปหมด ไมใ่ ช่ เพราะหิวเพียงอย่างเดียว แต่หน้าตาของทุกเมนูดูน่าทานมากๆ ซึ่ง วตั ถดุ บิ ของอาหารพน้ื บา้ นสว่ นใหญไ่ ดม้ าจากรว้ั รอบขอบบา้ นในชมุ ชน มีเมนูท่ีคุ้นเคยอยู่หลายอย่าง ทั้งปลาทอด แจ่วบองที่เคียงคู่มากับ ผกั นานาชนดิ รวมทง้ั ไขเ่ จยี ว ซง่ึ ตอนแรกยงั นกึ วา่ เปน็ ไขเ่ จยี วธรรมดาๆ ก่อนที่ป้าๆ จะบอกว่า มาถึงบ้านโคกเมืองแล้วต้องได้กิน “ไข่เจียว มดแดง” อกี เมนหู น่ึงท่ีปา้ ๆ ภมู ใิ จน�ำเสนอ คอื “ก้งุ จอ่ ม” อาหารข้นึ ช่อื ของอ�ำเภอประโคนชัย ที่ท�ำมาจากกุ้งตัวเล็กๆ น�ำมาดองน�้ำปลา คลุกข้าวค่ัว เม่ือผ่านการปรุงแล้วจะมีหน้าตาคล้ายกับคั่วกลิ้ง รสชาติ อร่อยจนต้องซ้ือฝาก แอบกระซิบเบาๆ ด้วยความช่ืนใจว่า บรรดาผักต่างๆ ท่ีอยู่ใน ส�ำรับ ไม่ได้มีแต่ความสดและอร่อย แต่เป็นผักที่ดีต่อสุขภาพ ปลอดสารเคมี เพราะหมู่บ้านนี้เขายึด หลกั เกษตรอนิ ทรีย์ คำ�่ คืนในหมบู่ ้านโคกเมอื ง อบอวล ไปด้วยความอุ่นใจ จากบรรดาลุงป้า น้าอาที่มาน่ังล้อมวงสวดมนต์บายศรี สขู่ วญั ใหก้ บั บรรดานกั ทอ่ งเทย่ี วทม่ี าเปน็ หมู่คณะ เสียงดังกังวาลไปทั้งหมู่บ้าน ก่อนจะอ่ิมเอมกับราตรีอันแสนสงบ พรอ้ มปลดปลอ่ ยความเหน่อื ยล้า ตามหาข้าวภูเขาไฟ ผ้ามดั หมีล่ ายผกั กูด หลบั ไปอยา่ งเตม็ ตนื่ เพอ่ื มาเจอยามเชา้ อนั แสนสดชนื่ กอ่ นจะออก ไปเดินเล่นในตลาดเช้า กลุ่มพระสงฆเ์ ดนิ บิณฑบาตร พรอ้ มชาวบา้ นที่ ออกมาใช้จ่ายในตลาดกันอย่างคึกคัก วันน้ีมีเป้าหมายไปท่ีศูนย์ทอผ้า ของหมู่บ้าน เพราะทราบมาว่า ที่บ้านโคกเมืองเป็นแหล่งทอผ้าชื่อดัง มีเอกลกั ษณ์เป็นของตัวเองหลายอยา่ ง โดยเฉพาะ “ผา้ ไหมมดั หม่ีลาย ผกั กดู ” ที่นับเปน็ มรดกสืบทอดภูมปิ ญั ญาการทอผา้ ไหมมดั หม่มี าจาก บรรพบุรุษ โดยเกิดจากการน�ำศิลปะที่ปรากฎบนเสาซุ้มประตูของ ปราสาทหนิ เมืองตำ�่ มาท�ำเปน็ ลายผา้ ทอท่งี ดงาม ได้รับความนิยมจน เป็นสินค้าของฝากระดับประเทศ ซึ่งเม่ือพิจารณาลวดลายและสัมผัส เน้ือผ้าแล้ว พูดเลยว่าต้องขอคารวะให้ เพราะกว่าจะผลิตได้เสร็จ สกั ผนื ต้องใช้เวลา 6 - 7 วนั กนั เลยทเี ดียว

ในตัวหมู่บ้านโคกเมืองยังมีภูมิปัญญาที่น่าสนใจอีก อย่างที่ “กลมุ่ ทอเสอื่ กก” ชาวบา้ นเลา่ ให้ฟังวา่ เดมิ ทบี ้าน โคกเมอื งมกี ารปลกู ตน้ กก หรอื ทช่ี าวบา้ นเรยี กวา่ “ตน้ ไหล” กนั เป็นจ�ำนวนมาก ซึ่งนำ� มาใชใ้ นการทอเสอ่ื กก เมื่อกอ่ นก็ ต่างคนตา่ งทออยูท่ ่บี า้ นของตัวเอง แตต่ ่อมาได้มีการรวมตัว กั น เ พ่ื อ พั ฒ น า รู ป แ บ บ ใ ห ้ เ ป ็ น สิ น ค ้ า ป ร ะ จ� ำ ห มู ่ บ ้ า น จนเกิดเป็นลวดลายและรูปแบบท่ีหลากหลายมากกว่าเส่ือ ท้งั กระเปา๋ กล่อง ทีร่ องแก้ว ฯลฯ และดว้ ยเอกลกั ษณข์ องบรุ ีรัมยด์ า้ นธรณีวิทยา ที่เป็น ทต่ี ้งั ของภูเขาไฟถงึ 6 ลูก ซึ่งปจั จบุ นั ดบั สนิทไปแล้ว เราจงึ มกั จะไดย้ ินเร่อื งราวท่ีเชอ่ื มโยงจากแดนภูเขาไฟ มาแปรรูป เปน็ สนิ คา้ หลายอยา่ ง โดยเฉพาะเรอื่ งขา้ วทไ่ี ดช้ อื่ วา่ เปน็ ขา้ ว ทเ่ี พาะจากเมลด็ ขา้ วชน้ั ดี ในรปู แบบเกษตรอนิ ทรยี ์ และปลกู ในดนิ จากภเู ขาไฟทดี่ บั สนทิ แลว้ ถงึ 2 ลกู คอื เขาพนมรงุ้ และ เขาปลายบัค จึงอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก, ฟอสฟอรัสและ แคลเซียมมากกว่าข้าวหอมมะลิที่ปลูกพ้ืนท่ีอื่น จึงเป็นท่ีมา ของช่ือ “ข้าวหอมมะลิ ดินภเู ขาไฟ”

หากอยากจะชมกระบวนการข้าวหอมมะลิ ดินภูเขาไฟ ต้องไปที่ศูนย์ข้าวชุมชนโคกเมือง โดยบริเวณลานด้านหน้ามี การสาธติ ตงั้ แตก่ ารนำ� ดนิ ภเู ขาไฟ ตน้ ขา้ วภเู ขาไฟ กระบวนการ แปรรปู ขา้ ว กจิ กรรมสาธติ การท�ำขา้ วฮาง การฝดั ขา้ ว แพค็ ขา้ ว ดินภูเขาไฟ หุงข้าวแบบโบราณซึ่งมีกลิ่นหอมกรุ่น มาให้ชม อย่างละเอียด และถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศในช่วงเก็บเกี่ยว ชมรวงข้าวเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่งนาที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟ ควรมาในช่วงเดือนพฤษภาคมถงึ สงิ หาคมของทุกปี เวลาแหง่ ความสขุ ผา่ นไปไวเหมอื นโกหก เมอื่ วานเรายงั ยืนเหม่ออยู่บนสะพานแขวนข้ามปล่องภูเขาไฟที่เขากระโดง อยู่เลย เย็นอีกวันก็มาเช็คอินอยู่ที่ดินแดนปราสาทสายฟ้า “ธนั เดอร์คาสเซลิ สเตเดียม” ในเมืองบุรรี มั ยก์ ันแลว้ แมจ้ ะไมใ่ ชว่ นั นดั ลงสนาม แตย่ ามเยน็ ของทน่ี ก่ี ม็ ผี คู้ นเขา้ มาพักผ่อน ออกก�ำลังกาย พร้อมเที่ยวชมบรรยากาศกันเป็น จ�ำนวนมาก สายลมพัดโชย แสงสีของสนามฟุตบอลยังเปล่ง ค�ำรามความฮึกเหิม ใช้เวลาพักผ่อนในสวนธารณะด้านหน้า นั่งดูรูปในกล้องโทรศัพท์ ทบทวนเรื่องราวที่เพิ่งผ่านไปเพียง ไมน่ าน แตท่ กุ อยา่ งไดก้ ลายเปน็ ความทรงจำ� ทต่ี ราตรงึ พป่ี า้ นา้ อา ท่ีปรากฎในภาพ ล้วนหมายถึงมิตรภาพใหม่ ที่ไร้ปราการกั้น ถงึ จะเปน็ ดินแดนที่แสนสงบ แต่กไ็ มเ่ คยเงยี บเหงา ข้อมูลตดิ ต่อ ทอ่ งเท่ยี วเชงิ เกษตรบ้านโคกเมือง อ.ประโคนชัย จ.บุรรี มั ย์ โทร.08-4757-5363 และ 08-8193-2240 http://www.bankokmuang.in.th โทร. 088-193-8840 https://www.facebook.com/bkhokmuang/ โทร.08-9913-2642

ชมุ ชนที่ใหม้ ากกว่าความสุข บ้านโพน @นครพนม อยากชตั ดาวนก์ ารงานทร่ี มุ เรา้ แล้วไปจรงิ จงั กับการเที่ยวแบบเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถ่ิน กนิ อยู่แบบบ้านๆ และเรยี นรงู้ านศลิ ปหตั ถกรรมเกๆ๋ เพมิ่ เติมอีกนิดวา่ ขอให้เดินทางง่าย ลงเครือ่ งทสี่ นามบินแล้วเชา่ รถขับไปเท่ยี วตอ่ ได้ชิลๆ ...ถงึ ข้อแม้การท่องเทยี่ วจะดเู ยอะแบบน้ี แต่เชื่อสิว่า “บา้ นโพน” ต�ำบลโนนตาล อ�ำเภอท่าอุเทน จังหวดั นครพนม ตอบโจทยค์ วามต้องการของนกั เดนิ ทางไดห้ มดทกุ ข้อ!

สูด่ ินแดน นุง่ ผ้าไหม พดู ไทญอ้ ขบั รถจากตวั เมอื งนครพนมมาราวหนง่ึ ชวั่ โมง กถ็ งึ อำ� เภอทา่ อเุ ทน ทสี่ มั ผสั ไดถ้ งึ กลน่ิ อายวฒั นธรรม และเอกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั อยา่ งชดั เจน ของไทญอ้ ไดอ้ ย่างชัดเจนตง้ั แต่แรกเขา้ ด้วยเพราะคนในชุมชนน้ี คอื 1 ใน 8 ชนเผ่าของจังหวัดนครพนม ท่อี พยพย้ายถน่ิ ฐานมาจาก สปป.ลาว พวกเขามีภาษาพูด-เขียนเป็นของตัวเอง เรียกกันว่า “ภาษาไทญ้อ” และแต่งกายอย่างมีเอกลักษณ์ ชายชาวญ้อจะสวมเสื้อคอพวงมาลัย หม่ สไบสนี ำ�้ เงนิ พบั ครง่ึ กลาง พาดไหลซ่ า้ ยขวา นงุ่ ผา้ โจงกระเบนสนี ำ้� เงนิ เขม้ คาดเอวดว้ ยสไบไหมสแี ดง สว่ นหญงิ ชาวญอ้ จะสวมเสอื้ แขนกระบอก และซ่ินผ้าไหมสีน�้ำเงินเข้มมีเชิงตีนจก เข็มขัดลายขิดคาดเอว ห่มสไบสีน�้ำเงินพาดไหล่ซ้ายแบบเฉียง ดูสวยงามและคงความเป็นเอกลักษณ์ ในชาติพันธ์ไุ ว้ไดอ้ ยา่ งนา่ ช่ืนชม เขา้ ถึงจติ วิญญาณ ด้วยงานฝีมอื คนส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวบ้านโพนมักจะ เซตโปรแกรมแบบไปเช้าเย็นกลับ แต่หากอยาก สัมผสั ความเปน็ ไทญ้ออย่างลกึ ซง้ึ ตอ้ งพกั คา้ งคืน กับชาวบ้านและเรียนรู้วิถีความเป็นอยู่ผ่าน กิจกรรมทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถ่ิน ต่างๆ ด้วยการลงมือประดิษฐ์ช้ินงานท่ี “วัดคามวาสี” วัดประจ�ำชุมชนท่ีไม่เพียงเป็น ศูนย์รวมจิตใจของผู้คน แต่ยังเป็นศูนย์รวม ศลิ ปวฒั นธรรมของไทญ้อด้วย จากโฮมสเตย์ท่ีพัก เราปั่นจักรยานไป วดั คามวาสี กอ่ นจะเรมิ่ ทำ� กจิ กรรมดว้ ยการเขา้ ไป กราบสกั การะ “พระบาง” พระไมแ้ กะสลกั โบราณ ฝีมือวิจิตรท่ชี าวไทญอ้ ภาคภมู ิใจ ตามดว้ ยชมการ แสดงฟ้อนที่อ่อนช้อยงดงามของสาวน้อยสาวใหญ่ไทญ้อ จากน้ัน ลองท�ำงานฝีมือเอกลักษณ์ของไทญ้ออย่างงานจักสานที่โดดเด่นด้วย “ลายตาแหลว” หรือ “ตาเหย่ียว” ลายเฉพาะที่ชาวญ้อเช่ือกันว่าจะช่วยป้องกันภยันตรายต่างๆ อีกท้ังยังได้ลองย้อมสีฝ้ายด้วยไม้มงคลและ ทอออกมาเป็นผ้าฝ้ายผืนสวย ก่อนจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนทั้งเครื่องจักสาน ผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้าย และผลิตภัณฑ์จากเสื่อกกที่แปลงโฉม เส่อื เปน็ กระเป๋า กลอ่ งเก็บของและอีกสารพัด ดูแล้วก็สวยถกู ใจไปเสยี หมด จนต้องอุดหนนุ กนั คนละหลายช้นิ

หมกเจาะ มอกกะปู เมนูเฉพาะสูตรไทญอ้ ปั่นจักรยานเท่ียวชมหมู่บ้านและสนุกสนานกับกิจกรรม งานฝมี อื กนั ทัง้ วนั พอกลับมาบา้ นพักกถ็ งึ เวลาอาหารเยน็ งานนี้ ไมใ่ ชแ่ คไ่ ดช้ มิ ของอรอ่ ย แตพ่ เี่ จา้ ของบา้ นยงั ชวนเราใหช้ ว่ ยทำ� “หมกเจาะ” อาหารขนึ้ ชอื่ ของชาวไทญอ้ อกี ดว้ ย เรม่ิ จากนำ� เนอื้ ปลาตองหรอื ปลากรายลงไปตำ� คลกุ เคลา้ กบั เครอ่ื งปรงุ จนเนอื้ ละเอยี ดนวลเนยี นแลว้ ตกั มาหอ่ ดว้ ยผกั มว้ น กอ่ นจะ น�ำไปน่ึงจนสุก พอได้กลิ่นหอมหวนชวนหิวก็ยกใส่จาน วางเคียงมากับเมนูพ้ืนบ้านอ่ืนๆ ที่หน้าตาน่ารับประทาน ไม่แพ้กัน ทโี่ ชคดมี ากคอื มอื้ นม้ี เี มนพู เิ ศษทพ่ี เ่ี จา้ ของบา้ นเชอ้ื เชญิ ใหช้ มิ น่นั กค็ ือ “มอกกะป”ู เมนพู ้ืนถิ่นที่หากนิ ไมง่ ่าย เพราะมักจะท�ำเฉพาะ เมื่อมพี ธิ ีสู่ขวัญขา้ ว ตามความเชือ่ ของชาวไทญ้อวา่ จะเปน็ การขม่ ขวญั ปนู าไมใ่ หม้ ากดั กนิ ตน้ ขา้ วของชาวบา้ น โดยจะเลอื กปนู าตวั ใหญม่ าแกะ กระดองออกแล้วน�ำลงไปต�ำกับเครื่องแกงให้เข้ากัน ก่อนจะตักมาปั้น ใส่กระดอง น�ำไปลงกระทะที่ต้ังไฟรอไว้จนน้�ำเดือด ปิดฝา รอให้สุก เติมผกั เพมิ่ วติ ามนิ แค่นก้ี พ็ รอ้ มกนิ ไดแ้ ล้ว เท่ยี วรอบบ้าน เสรมิ สิรมิ งคลและความรู้ หากจะบอกวา่ อากาศยามเชา้ ทบี่ า้ นโพนมดี มี ากกวา่ ความสดชน่ื กค็ ง ไมเ่ กนิ ไปนกั เพราะทน่ี ยี่ งั มคี วามนา่ รกั ของชมุ ชนทเ่ี รยี บงา่ ยใหไ้ ดน้ งั่ ละเลยี ด มองความเปน็ ไปอย่างสงบจนอยากใหเ้ วลาคอ่ ยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ แต่ทว่าไม่มีใครห้ามเวลาให้หยุดเดินได้ จึงต้องจ�ำใจบอกลาพี่น้อง ไทญอ้ เพื่อกลับไปเผชิญหนา้ กับงานทรี่ ออยู่ แต่ก่อนจะกลับ เราขอแวะไป ชมสถานทที่ อ่ งเทย่ี วตา่ งๆ รอบชมุ ชนบา้ นโพนกนั กอ่ น ทงั้ “วดั ท่าอเุ ทน” ทม่ี ี พระธาตทุ า่ อเุ ทนใหส้ กั การะ วา่ กนั วา่ ภายในองคพ์ ระธาตบุ รรจ ุ พระธาตุ ของพระอรหนั ตท์ อี่ ญั เชญิ มาจากเมอื งยา่ งกงุ้ และดว้ ยความทอี่ งคพ์ ระธาตุ หันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนมซ่ึงตรงกับทิศประจ�ำของพระศุกร์ จงึ เช่อื กนั วา่ เปน็ พระธาตุประจ�ำวันศุกร์ ท่ใี ครมานมัสการจะไดร้ ับอานสิ งส์ ให้ชวี ติ มคี วามรุง่ โรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตยข์ ึ้นยามรุง่ อรณุ หลงั จากเสรมิ สริ มิ งคลแลว้ กไ็ ปเพม่ิ ความรทู้ างประวตั ศิ าสตรก์ นั ตอ่ ท่ี “แหลง่ เรยี นรรู้ อยเทา้ ไดโนเสาร์ ทา่ อเุ ทน” จากนน้ั จงึ ขบั รถกลบั เขา้ เมอื ง นครพนม เพอื่ เชค็ อินไฟลทบ์ นิ กลบั กรงุ เทพฯ ดว้ ยใจทเ่ี ป่ยี มสุขและพลงั ท่ี พรอ้ มจะเผชิญกับกองงานทีร่ ออยู่ หากนครพนมคือเมืองแห่งความสุข บ้านโพนก็ต้องเป็นชุมชนที่ให้ มากกว่าความสุข เพราะมิตรไมตรีที่น่าประทับใจของผู้คน วัฒนธรรม อนั ทรงคุณค่า วถิ ีชวี ติ ทน่ี ่าชน่ื ชม รวมไปถึงอตั ลักษณ์ชุมชนทีไ่ ม่เหมอื นใคร ของชาวไทญอ้ ทำ� ใหท้ แี่ หง่ นมี้ เี สนห่ ม์ ดั ใจ และชว่ ยเพมิ่ พลงั บวกใหผ้ ไู้ ปเยอื น ไดท้ ุกครา Contact Info. ชมุ ชนบา้ นโพน  ต.โนนตาล  อ.ทา่ อเุ ทน  จ.นครพนม ติดตอ่ อ.สมพาร กิตปิ ริวรพนั ธ์ ประธานชมุ ชน โทรศัพท์ 08-9862-8884

เย็นใจในถ่ินภูเขาไฟ “บ้านโคกเมือง” @บุรรี ัมย์ “บรุ ีรมั ย์” ไม่ได้มีแค่ปราสาทเขาพนมร้งุ สนามฟตุ บอลไอโมบายสเตเด้ียม และสนามแขง่ รถ ช้างอินเตอรเ์ นชน่ั แนลเซอรก์ ิตเป็นไฮไลต์เท่านัน้ เพราะเม่ือฉันไดร้ จู้ ักกับ “บา้ นโคกเมอื ง” ตำ� บลจรเขม้ าก อำ� เภอประโคนชัย จงั หวดั บรุ ีรัมย์ ทำ� ใหไ้ ด้รู้ว่าการเทีย่ วเมืองเซาะกราวแบบ ลึกซึ้งถึงความเปน็ ทอ้ งถิ่นอีสานท่ีมีกลิ่นอายขอมซ่อนอยนู่ น้ั ก็น่าสนใจไมน่ ้อย เพยี งคิดว่า จะคอ่ ยๆ ดม่ื ดำ่� กบั วัฒนธรรมทดี่ ีงาม ซบึ ซบั วิถชี าวบ้านท่มี ีความสขุ อยูก่ บั ความเรยี บงา่ ย และเรียนร้ทู ่มี าทไี่ ปของอาหารถน่ิ อย่างถ่องแท้ แค่น้ีกร็ ู้สกึ เหมอื นการกลับมา เยี่ยมญาติผ้ใู หญท่ ไ่ี มไ่ ดเ้ จอกันนาน จนตอ้ งด่มื ดำ่� ซมึ ซบั ทุกสง่ิ รอบตัวใหห้ ายคดิ ถึง

เที่ยวปราสาทเมอื งตำ�่ สมั ผัสวฒั นธรรมขอม คนเมอื งอยา่ งเราจะรบั ประทานกนั ไดไ้ หม เลยตอบไปด้วยยิ้มท่ีกว้างไม่ต่างกันว่า “บ้านโคกเมือง” เป็นชุมชนโฮมสเตย์ที่อยู่บนทางผ่านจากตัวเมืองบุรีรัมย์ไปยังปราสาท สบายมาก...อาหารบ้านๆ นี่ของชอบเลย เขาพนมรุ้ง นักท่องเท่ียวส่วนใหญ่เมื่อผ่านมาอาจจะแค่แวะซื้อของฝาก เพราะท่ีนี่เป็นหมู่บ้าน แล้วก็ต้ังหน้าต้ังตารอมื้อเย็นที่จะมาถึง “OTOP Village Champion” (OVC) แต่ส�ำหรับเรานี่คือจุดหมายปลายทางของทริปที่อยาก ดว้ ยใจจดจ่อ จะไปใช้เวลาให้คุม้ คา่ กบั การเรียนรคู้ วามเป็นอยู่ ภมู ปิ ัญญา และวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ “กุ้งจ่อมทรงเคร่ือง ย�ำไข่มดแดง ดังนั้นสิ่งแรกท่ีเราท�ำเมื่อมาถึง จึงเป็นการแวะไปชมความงามของ “ปราสาทเมืองต�่ำ” แจว่ บอง และผกั สด” ถกู ยกมาวางตรงหนา้ โบราณสถานคู่ชุมชนที่สามารถเดินจากตลาดและท่ีพักของเราได้เพียงไม่ก่ีนาที เพื่อเรียนรู้ กุ้งจ่อมเป็นอาหารขึ้นช่ือของอ�ำเภอ ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรมของทนี่ ่ี ซงึ่ พอไปถงึ แลว้ กไ็ มต่ อ้ งกลวั วา่ จะไมร่ เู้ รอ่ื งรรู้ าว เพราะมไี กด์ ประโคนชัย ที่น�ำกุ้งตัวเล็กๆ มาดองกับ ท้องถ่ินรุ่นเยาว์คอยให้ค�ำอธิบายอยู่ตลอด เลยท�ำให้ทราบว่าปราสาทเมืองต่�ำแห่งน้ีเป็นปราสาท น�้ำปลาแลว้ คลุกด้วยขา้ วควั่ พอเอามาผัด ขอมโบราณที่มีขนาดใหญ่และยังคงสภาพสมบูรณ์รองลงมาจากปราสาทเขาพนมรุ้ง ท้ังยังเป็น ใสไ่ ข่ หมสู บั และสมนุ ไพรเขา้ ไปกลายเปน็ ปราสาทหนิ ทส่ี มเดจ็ พระเทพรัตน์ฯ ทรงโปรด กุ้งจ่อมทรงเครื่อง รสกลมกล่อม เค็มๆ เพราะมีความสวยงามและแอบซ่อนความ เผ็ดๆ แซบ่ ถึงใจ ทานคกู่ ับผักสดย่งิ อร่อย โรแมนติกไว้ผ่านสระบารายที่รายรอบ ซ่ึง จนต้องเตมิ ข้าวกนั คนละหลายรอบ มุ ม ห น่ึ ง ส า ม า ร ถ ม อ ง เ ห็ น เ ป ็ น รู ป หั ว ใ จ ไ ด ้ หลังมื้ออาหาร เจ้าบ้านใจดีก็ชวน ฟังแล้วก็เกิดความอยากรู้อยากเห็น เลยต้อง เราออกไปยัง “ศาลาประชาคม” ที ่ สวมวิญญาณนักโบราณคดีค้นหารูปหัวใจใน ผู้อาวุโสของหมู่บ้านจัดพานบายศรีไว้ ปราสาทหินกันให้เจอ แล้วก็ต้องร้องว้าว รอทา่ ก่อนจะสวดมนต์บายศรีสู่ขวญั และ เพราะหัวใจดวงใหญ่ท่ีค้นพบ ช่างสวยงาม ผูกข้อมือรับขวัญแขกผู้มาเยือน เป็นการ คุ้มคา่ ท่ีเหนอื่ ยเดนิ ตามหาอยู่นาน ต้อนรับตามธรรมเนียมอีสานที่ท�ำให้เรา รสู้ กึ อบอ่นุ ใจขึ้นอกี มาก นอนบ้านกินอาหารพื้นถน่ิ ซมึ ซบั ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรม กนั แลว้ กไ็ ดเ้ วลาเขา้ ถงึ วถิ คี นทอ้ งถนิ่ ดว้ ย การเชค็ อนิ เขา้ ทพี่ กั แบบโฮมสเตย์ ทชี่ มุ ชน บา้ นโคกเมอื งเปดิ ใหบ้ รกิ ารดว้ ยความใสใ่ จ และเป็นกันเอง ก่อนจะอาบน้�ำอาบท่า ช�ำระความเหน่ือยล้าจากการเดินชม ปราสาทหินเมืองต่�ำเมื่อช่วงบ่าย เจ้าของ บ้านก็สอบถามพร้อมกับรอยย้ิมกว้างว่า วั น น้ี มี เ ม นู เ ด็ ด เ ป ็ น อ า ห า ร ถ่ิ น ง ่ า ย ๆ

ขา้ วหอมมะลิ-ผ้าภอู ัคนี ของฝากจากภูเขาไฟ หากย้อนไปในอดีตนับพันปี บ้านโคกเมืองเคยเป็นพื้นท่ีภูเขาไฟ เขาพระองั คาร ซ่ึงเป็นภเู ขาไฟเกา่ แกท่ ด่ี ับแลว้ 1 ใน 6 ลูกของจังหวัด บุรีรัมย์ ดินบริเวณน้ีจึงอุดมด้วยแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟที่ปะทุออกมา ในอดีต จึงมีของฝากขนึ้ ชื่อท่เี กีย่ วขอ้ งกบั ภูเขาไฟใหซ้ ้อื ติดไมต้ ดิ มือกลับ บา้ นดว้ ย นน่ั คอื “ขา้ วหอมมะลดิ นิ ภเู ขาไฟ” ทมี่ เี อกลกั ษณต์ รงกลน่ิ หอม นมุ่ และรสชาตดิ แี ตกตา่ งจากขา้ วหอมมะลใิ นถน่ิ อน่ื  และ “ผา้ ทอภอู คั น”ี ที่เกิดจากภูมิปัญญาท่ีน�ำดินภูเขาไฟมาใช้ย้อมผ้า ผ่านการผสมผสาน จากผ้าฝ้ายสีขาว เปลี่ยนเป็นสีดินน�้ำตาลอ่อนกับน้�ำตาลแดง แบบ ดินภูเขาไฟ  จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์สร้างช่ือของจังหวัดบุรีรัมย์ มีเอกลักษณ์ด้านสง่ิ ทอ ซ่งึ ไมเ่ พยี งแตส่ วยงามเทา่ นนั้ ชาวบา้ นยังเชอื่ ว่า การนำ� ดนิ ภเู ขาศกั ดส์ิ ทิ ธมิ์ าใชห้ มกั ยอ้ มผา้ ถอื เปน็ สริ มิ งคลแกผ่ สู้ วมใสด่ ว้ ย แม้จะเปน็ หมบู่ า้ นเล็กๆ บนทางผา่ นและมากด้วยภูเขาไฟ แต่กไ็ ม่ ท�ำให้ร้อนรุ่มแต่อย่างใด กลับรู้สึกเย็นกายเย็นใจกับวิถีชีวิตท่ีเรียบง่าย สบายๆ ไม่เร่งรีบ มากด้วยวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และความเป็นอยู่ที่ เสื่อกกและผา้ ไหม OTOP ระดบั ประเทศ นา่ รกั หลงั จากไดใ้ ชช้ วี ติ อยทู่ นี่ เี่ พยี งไมน่ าน เรากห็ ลงเสนห่ ช์ มุ ชนเลก็ ๆ นี้ เขา้ อยา่ งจัง อย่างท่ีบอกว่าบ้านโคกเมืองเป็นหมู่บ้าน OTOP Village Champion จึงมีงานหัตถกรรมให้เราได้เลือกชมเลือกซ้ือหลากหลาย ที่เป็นไฮไลท์คือ “เสื่อกกยกลายปราสาทเมืองต�่ำ” ซ่ึงมีท่ีเดียวใน ประเทศไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเสื่อกกทั้งกระเป๋าและ เครอื่ งใชอ้ นื่ ๆ ท่ี “กลมุ่ หตั ถกรรมคนพกิ ารปราสาททอง”สรา้ งสรรคข์ น้ึ อย่างสวยงามน่าใช้ และท่ีน่าสนใจคือท่ีน่ีใช้ต้นกกท่ีปลูกเองภายใน หมู่บ้านมาถักทอ ดังนั้นเราจึงได้เรียนรู้การท�ำเสื่อตั้งแต่เร่ิมต้น คอื แปรรปู ตน้ กก มดั ยอ้ ม ไปจนถงึ การทดลองทอเสอื่ ลายอยา่ งงา่ ยดว้ ย ตัวเอง อีกอย่างที่ชอบมาก คือผ้าไหมพ้ืนเมืองท่ีมีลายผักกูดเป็น เอกลักษณ์ จนมีช่ือเรียกว่า “ผ้าไหมใบผักกูด” ซ่ึงศูนย์ทอผ้าของ หมบู่ า้ นกส็ าธติ การทำ� ใหด้ ทู กุ ขน้ั ตอนทง้ั การปน่ั ยอ้ ม ทอ อยา่ งละเอยี ด ละออเพ่ือให้ได้ผืนผ้าไหมดีที่สุด เลยอดใจไม่ไหวต้องช้อปไว้ใช้สักผืน สองผนื Contact Info. บ้านโคกเมอื ง ต.จรเขม้ าก อ.ประโคนชัย จังหวดั บุรรี มั ย์ ติดต่อ คุณสม้ เกลย้ี ง สบื วัน ประธานโฮมสเตย์ โทรศัพท์ 08-8193-8840 คุณประสทิ ธ์ิ ลอยประโคน ประธานหมบู่ า้ นทอ่ งเทีย่ ว โทรศัพท์ 08-6721-1789

มหศั จรรย์ความสนกุ @สตูลตะลุยอุทยานธรณโี ลก GEOPARK หลายคนอาจไมเ่ คยคิดมากอ่ นว่า ภายใตว้ ถิ ีชีวติ อนั เรียบง่ายของจังหวัดสตลู จะซ่อนเร่อื ง น่าตืน่ เต้นและมีชวี ติ ชีวาไวม้ ากมาย ท่ฉี นั กับเพ่ือนบอกไดเ้ ลยว่า น่คี อื ดนิ แดนทเ่ี ตม็ ไปด้วยเร่อื งสนกุ ความประทบั ใจ และแอบแทรกความประหลาดใจไดใ้ นคราวเดียวกัน

แม้ว่าสตูลจะไม่มีสนามบินแต่นั่นไม่ได้ เปน็ อุปสรรคใดๆ เลย เพราะสามารถเลอื กลง ทงั้ สนามบินหาดใหญ่ หรอื สนามบนิ ตรัง ทัง้ 2 สนามบนิ ใชเ้ วลาเดนิ ทางไปสตลู เพยี ง 1 ชว่ั โมง เทา่ นน้ั อรอ่ ยฮาลาล สไตลถ์ ึงรสหนกั เคร่ือง อาหารเช้าของสตูล มีวัฒนธรรม คล้ายคลึงกับจังหวัดอื่นๆ ทางภาคใต้ นั่นคือ จะมีเมนูติ่มซ�ำให้เลือกชิมกันหลายร้าน แต่ สตลู เปน็ จงั หวดั ทม่ี ปี ระชากรสว่ นใหญเ่ ปน็ ชาว ไทยมุสลมิ ดังนั้นอาหารต่างๆ รวมทงั้ ติม่ ซำ� ที่ เราค้นุ ตา กถ็ ูกปรับสตู รให้เป็นอาหารอิสลาม ฉันกับเพื่อนเลือกเช็คอินท่ีร้าน “โมคาเฟ่ ตมิ่ ซำ�่ ฮาลาล” บนถนนราษฎรอ์ ทุ ิศ เปน็ ร้าน ต่ิมซ�ำสไตล์ฮาลาล ท่ีลองแล้วพบว่า มีความ แตกต่างจากวัตถุดิบ แต่ก็มีความถึงรส ถึงเคร่ือง โดยเฉพาะส่วนผสมจากกุ้งที่มีมา แบบเนน้ ๆ ทรี่ า้ นยงั มเี มนทู อ้ งถนิ่ อยา่ ง ขา้ วยำ� โรตี กินกบั กาแฟหรือน้�ำชา อิ่มท้องกันแล้ว ก็ต้องไปเดินย่อยชมเมืองสตูล กนั หนอ่ ย ออกสตารท์ กนั ท่ี “ยา่ นเมอื งเกา่ ” ถนนบรุ วี านชิ ซึ่งเป็นถนนสายเก่าแก่ของจังหวัดสตูล มีความยาว ประมาณ 600 เมตร เป็นอีกเมืองท่ีมีตึกเรียงรายเล่า ภาพความงามของอดตี ใหเ้ ราฟงั วา่ มมุ ถนนบรุ วี านิชและ ถนนสตูลธานี เป็นที่ตั้งของ “มัสยิดกลางจังหวัดสตูล” (มัสยิดม�ำบัง) ซ่ึงมีสถาปัตยกรรมอันงดงาม และ ทรงคณุ คา่ ของชาวสตูล ที่สร้างขนึ้ ตัง้ แต่สมยั พระยาสมนั ตรฐั บรุ นิ ทร์ (ตนกมู ฮู ำ� หมดั อาเก็ม) อดีตผู้ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้า เมืองสตูล ตัวอาคารสีขาวได้รับการ ตกแตง่ ดว้ ยกระเบอื้ งเคลอื บหนิ ออ่ นและ กระจกใส ส่วนนอกเป็นระเบียงมีบันไดข้ึน หอคอยลักษณะเป็นยอดโดมท่ีสามารถมองเห็น ทิวทัศน์เมืองสตลู ไดอ้ ย่างเต็มตา

มหศั จรรยค์ วามสนุก บอ่ เจด็ ลูก อกี หนง่ึ ไฮไลทท์ ไ่ี มค่ วรพลาด อลงั การปราสาทหินพันยอด คอื “สนั หลงั มงั กร” ประตมิ ากรรมทาง ธรรมชาติท่ีเกิดในช่วงน้�ำทะเลลดลง ถึงเวลาตามล่าหาความสนุกกันแล้ว จาก รวมกนั เปน็ สนั ทรายขนาดใหญ่ ทอดตวั ตัวเมืองสตูลออกไป อ.ละงู ใช้เวลาประมาณ ยาวดูคล้ายมังกรตัวใหญ่ก�ำลังแหวก 1 ช่ัวโมง เราก็มาถึง “บ้านบ่อเจ็ดลูก” หรือท่ี ว่ายเล่นน้�ำในทะเล ซ่งึ ทส่ี ตลู มใี หช้ มถึง ภาษามาลายูเรียกว่า “ลากาตูโยะ” ต.ปากน�้ำ 9 ตวั ไดแ้ ก่ 1) สนั หลงั มงั กรตนั หยงโป-- อ.ละงู จังหวัดสตูล มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ราชามงั กร 2) สนั หลงั มงั กร เกาะกวาง เม่ือคร้ังที่ชาวเลกลุ่มแรกได้มาต้ังถิ่นฐานอาศัยใน ตนั หยงโป—ราชนิ มี งั กร 3) สนั หลงั มงั กร บรเิ วณนี้ พวกเขาขดุ บอ่ น้�ำจดื เพอื่ นำ� มาเปน็ นำ�้ ดมื่ เกาะลิดี—มังกรทอง 4) สันหลังมังกร นำ้� ใช้ แตข่ ดุ เทา่ ไหรก่ ไ็ มเ่ จอนำ้� จนมาถงึ บอ่ ท่ี 7 จงึ เกาะหอขาว— มังกรขาว 5) สันหลัง มนี ำ�้ ออกมา เกิดหลกั ฐานเป็นบ่อทัง้ 7 ลกู อันเป็น มังกรบากันใหญ่--มังกรแดง 6) สันหลัง ทม่ี าของช่ือ “บ้านบอ่ เจด็ ลกู ” มงั กรเกาะโกย--มังกรเหลือง 7) สนั หลงั บริเวณท่าเรือของท่ีนี่ คือจุดเริ่มต้นการ มงั กร เกาะสะบนั ทงุ่ หวา้ 8) สนั หลงั มงั กร เทยี่ วชมความงามของธรรมชาติ โดยใช้ เรอื หวั โทง ผาใชห้ น-ี้ -บอ่ เจ็ดลกู 9) สันหลังมังกรเจ๊ะ ท่ีพ่วงเรือคายัคอีก 4-5 ล�ำ พาเราออกทะเล บลิ งั --จาบงั บชี ซงึ่ แตล่ ะตวั ทโี่ ผลพ่ น้ ผนื นำ�้ จนใกล้ๆ ถึงปราสาทหินพันยอดนักท่องเที่ยว สายแอดเวนเจอร์ ก็เตรียมตัวออกก�ำลังพาย เรอื คายคั ลอดปากทางเขา้ “ปราสาทหนิ พนั ยอด” หากมาในช่วงน�้ำลง จะเห็นเนินทรายโผล่พ้น น�้ำทะเลมีปราสาทหินเป็นแนวปราการโอบล้อม โดยด้านบนจะเปิดโล่งเป็นปากปล่องมองเห็น ท้องฟ้าสีคราม เป็นความงามท่ีดูยิ่งใหญ่อลังการ ท่ามกลางผืนน้�ำทะเลที่กว้างใหญ่ ซ่ึงการได ้ พายเรืออยู่ในอาณาจักรย่ิงใหญ่ของหินผาแห่งน้ี สัมผัสกับพลังธรรมชาติอันแปลกใหม่ ชื่นชม ประติมากรรมอันงดงาม ก็นับเป็นอีกหน่ึงช่วง เวลาอนั แสนพิเศษในความทรงจำ�

ข้ึนมาเหนือทะเลอันดามัน มีความสวยงามท่ีแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่า เกล็ดธรรมชาติที่สร้างขึ้นมาเป็นสันทราย เปลือกหอย หรือหินกรวด โดยตามตำ� นาน “เขาเลา่ วา่ ” ใครทไี่ ดไ้ ปยนื บน “สนั เกลด็ มงั กร” จะได้ รับพลังบริสุทธ์ิจากฮวงจุ้ยแห่งท้องทะเล ท่ีจะช่วยเติมเต็มพลังกาย พลังใจให้เข้มแข็ง ซ่ึงถือเป็นความอัศจรรย์และความสวยงามของ ธรรมชาติที่อยากชวนให้ทุกคนต้องลองไปสัมผัสสักคร้ังในชีวิตโดย บรรดาสันหลงั มงั กรทัง้ หมด จะมอี ยู่ 4 ตัวที่ควรไปเยอื น คือ “สนั หลงั มังกรตนั หยงโป” จดั เปน็ ราชามงั กร เปน็ ตวั ท่ยี าวท่สี ุด โดยมคี วามยาว ประมาณ 4 กโิ ลเมตร เปน็ สนั ทรายสแี ดงจนเขม้ “สนั หลงั มงั กรบากนั ใหญ-่ - มังกรแดง” เป็นสันหลังมังกรที่มีความพิเศษตรงผืนทรายหินกรวดสีแดง สอ่ งประกายลอ้ แสงแดดระยบิ ระยบั “สนั หลงั มงั กรเจะ๊ บลิ งั --จาบงั บชี ” เปน็ สนั หลงั มงั กรแดงอกี ตวั ทเ่ี กดิ จากเปลอื กหอยนับล้านล้านตัวท่ีถูกคลื่นซัดมา ทับถมเปน็ ระยะทางยาว 3 กิโลเมตร และอีกหนงึ่ ตวั คือ “สนั หลงั มังกรผา ใชห้ น-ี้ -บอ่ เจด็ ลกู ” ทอ่ี ยใู่ นเสน้ ทางทอ่ งเทย่ี วของชมุ ชนบอ่ เจด็ ลกู เชอื่ กนั วา่ ใครได้ไปเยือนจะหมดหน้ีหมดสิน เหมือนกับช่อื ของมังกรตัวน้ีน่นั เอง ตามหาหวั ใจทปี่ ลายอุโมงค์ Geopark สตูลเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นทางธรณีวิทยา ท�ำให้มีสถานท ่ี ทอ่ งเทย่ี วทางทะเลทน่ี ่าอศั จรรย์อยหู่ ลายจุด รวมทั้ง “ถ้�ำเล สเตโกดอน” ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาเขตอุทยานธรณีสตูล เดิมชื่อถ้�ำวังกลว้ ย เป็นถ้�ำที่อยตู่ ดิ ทะเล มนี ำ้� ขึ้นน้ำ� ลงตามระดับของทะเล มคี วามยาวกวา่ 4 กิโลเมตรและยาวทสี่ ดุ ในประเทศไทย ก่อนจะออกไปวัดใจ เราต้องฟังข้อมูล กฎระเบียบและค�ำแนะน�ำ ดา้ นความปลอดภยั พรอ้ มรบั เสอื้ ชชู พี และหมวกกนั นอ็ คจากเจา้ หนา้ ท่ี จาก นั้นก็จะขา้ มสะพานบรเิ วณดา้ นหน้าภเู ขาเข้าไปยังปากถ้�ำ โดยใชเ้ รอื คายัค ท่ีโดยสารได้ล�ำละ 2 คน กับคนพายท้องถิ่นอีก 1 คน พร้อมกับไฟฉาย 1 กระบอกต่อล�ำ ก่อนจะพายมงุ่ หน้าเข้าถ�้ำลอดท้องชา้ งไปตามหาหวั ใจท่ี ปลายอโุ มงค์ ชว่ งแรกๆ อาจจะแอบหวนั่ ใจกนั บา้ ง กบั ความลล้ี บั อนั ทา้ ทาย ภายในถ้�ำ แตม่ ีคนข้างๆ อยทู่ ัง้ คนก็่เพ่ิมความอุ่นใจไปไดเ้ ต็มๆ

เม่ือเข้ามาแล้วระยะหนึ่ง จะสัมผัส ได้ถึงอุณหภูมิท่ีเย็นลง และความมืดมิด ท่ีมีเพียงไฟฉายเป็นหิ่งห้อยดวงน้อย เคล่ือนไหวไปมา คนพายชี้ชวนให้ดูความ งดงามของหินงอกหินย้อย ท่ีมีรูปร่าง แปลกตา ไม่ว่าจะเป็นหินนางฟ้า ที่เป็น ลกั ษณะของปกี นางฟา้ ขนาดใหญ่ หรอื หนิ หัวใจช้าง ซึ่งมีรูปร่างเหมือนหัวใจจริงๆ เราพายผ่านช่วงโค้งเว้าของถ้�ำ ล่องลึก เข้าไป สายตาเร่ิมชินแสงท่ีมีเพียงความ สลัว จนถึงจุดไฮไลท์ บริเวณโถงใหญ่ ภายในถ้�ำ ขบวนเรือทงั้ หมดจะรวมตวั กนั ใกลๆ้ เพอื่ จะจอดอยูน่ ิง่ ๆ เจ้าหน้าทขี่ อให้ ทุกคนดับไฟ เพ่ือให้สัมผัสกับความเงียบ และความมืด ชนิดท่ีคนเมืองแบบเรา ไม่เคยได้สัมผัส หลังจากนั้น เราล่องเรือ มาจนสดุ ทางถ้�ำ ใกล้ๆ ปลายทางออก จะ ปรากฏแสงสว่างจากอุโมงค์ลอดเข้ามา ทำ� ใหป้ ากทางออกมองดคู ลา้ ยรปู หวั ใจ ถอื เป็นจุดไฮไลท์ส�ำคัญของการ “ตามหา หวั ใจ...ทป่ี ลายอโุ มงค”์ เปน็ ความสวยงาม ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว เป็น สิ่งมหัศจรรย์ที่สมแล้วท่ีเป็นส่วนหน่ึงของ อทุ ยานธรณโี ลก จนไดร้ ับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลก Satun UNESCO Global Geopark นบั เปน็ อกี หนง่ึ กจิ กรรมการผจญภยั ทสี่ รา้ งความสขุ และความทรงจำ� ทเี่ ราและ คนทไี่ ปด้วยกันจะไม่มวี ันลมื

สวมวญิ ญาณสายอารต์ ท�ำบาตกิ ลายธรณี นอกจากความแปลกใหม่ เร้าใจ และน่าท่ึงแล้ว ยังมีอีก แง่มุมดีๆ ของสตูล ในการต่อยอดเอกลักษณ์อันโดดเด่นเข้ามาไว้ ในงานหตั ถกรรม ที่ “ปนั หยาบาตกิ ” ต.ละงู อ.ละงู ได้นำ� ไอเดยี จากลวดลายของธรณีวิทยา มาสร้างสรรค์บนผืนผ้าบาติกที่มี ความสวยงามดูแปลกตา โดยเฉพาะลวดลายของสัตว์ในยุค ดึกด�ำบรรพ์ อย่างปลาหมึกโบราณหรือนอติลอยด์ (Nautiloids) และไทรโลไบท์ (Trilobite) โดยนำ� ดนิ หนิ แรธ่ าตตุ า่ งๆ และเปลอื กไมม้ าทำ� เปน็ สยี อ้ มผา้ เราร่วมสนุกกับกิจกรรมท�ำผ้าบาติกชนิดเริ่มตั้งแต่เขียนเส้นเทียน ลงสี น�ำเปลือกไม้ ลายหนิ มาสร้างลวดลายบนผืนผ้า แล้วกน็ �ำมา อวดประชนั กันอยา่ งสนกุ สนาน เปน็ อีกกจิ กรรมที่ไม่ควรพลาด ท้ังหมดคือแง่มุมงดงามอันหลากหลายของสตูล ที่มีท้ัง แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วอนั สวยงาม นา่ ทง่ึ ไมเ่ หมอื นทไ่ี หน ทา่ มกลางวถิ ชี วี ติ อันเรียบง่ายและผู้คนที่เป็นมิตร ใครท่ียังไม่รู้จักสตูล ไม่เคยมา เท่ยี วสตลู ขอบอกเลยว่า ‘ตอ้ งมา’ ข้อมลู ตดิ ต่อ ท่องเทยี่ วบ่อเจด็ ลกู กลมุ่ ท่องเทยี่ วเชงิ อนุรกั ษ์คลองละงู โทรศพั ท์ 08-0139-2436, 08-8179-7977 กลมุ่ ชมรมเรือท่องเทยี่ วบาโรยตำ� บลละงู โทรศพั ท์ 08-6299-2562 กล่มุ อนุรักษ์การท่องเทย่ี วบา้ นบอ่ เจ็ดลูก โทรศพั ท์ 08-1277-5177 การทอ่ งเที่ยวโดยชมุ ชนบ้านบ่อเจด็ ลกู – ปราสาทหนิ พนั ยอด https://www.facebook.com/bo7luk โทร. 08-1542-0071 ถ้�ำเล สเตโกดอน องคก์ ารบรหิ ารสว่ นต�ำบลทุง่ หวา้ โทร: 074-789-317 หรือ 08-4858-5100 https://www.facebook.com/thamlestegodon/ ปันหยาบาตกิ 90 หมู่ 2 อ�ำเภอละงู จ.สตลู โทร 09-7110-1314 https://www.facebook.com/panyapatik/

บ้านเล็กในปา่ ใหญ่ “จุฬาภรณพ์ ัฒนา10” @ยะลา วา่ กนั ว่าคนท่ไี ดย้ ินเร่ืองราวเกยี่ วกับอำ� เภอมากเสน่ห์อยา่ งเบตงแล้วร้องโอโ้ ห! จะมีอยู่ สองกล่มุ กล่มุ แรกคืออยากไปเทีย่ วมากแต่ยงั ไม่มีโอกาสได้มาเยอื น สว่ นอีกกลมุ่ คอื อยากไปแต่กลวั เกินกว่าจะคดิ ออกเดนิ ทาง แต่สำ� หรับเรา ที่ได้มโี อกาสมาเยือน “หมบู่ า้ น จุฬาภรณ์พฒั นา10” แล้ว บอกเลยวา่ ที่น่ีมีทง้ั ความหมายทางประวัตศิ าสตร์ ความงาม ทางธรรมชาติ และความนา่ รกั ของผูค้ น ชนดิ ทก่ี ล้าบอกกบั คนท้ังสองกลุ่มได้เตม็ ปากว่า หากได้มาเยอื นสักครั้ง คุณจะต้องหาโอกาสกลบั มาเท่ยี วอีกแนน่ อน

อยู่ง่ายกินงา่ ยแบบคน ทอ้ งถ่นิ ขอ้ สงั เกตอยา่ งหนงึ่ เมอื่ เรามา ถึงท่ีน่ี คือชาวบ้านสื่อสารกันด้วย ภาษาจนี ทกุ คน เลยเปน็ แรงบนั ดาล ใจให้เราอยากเรียนภาษาจีนขึ้นมา บ้าง จึงถือโอกาสให้พี่ๆ น้องๆ ใน หมู่บ้านช่วยสอนค�ำทักทายและ ประโยคภาษาจีนง่ายๆ ให้ระหว่าง ทเ่ี ทย่ี วชม ซงึ่ ทกุ คนกน็ า่ รกั มากชว่ ย กนั สอน ชว่ ยกนั บอกอยา่ งสนกุ สนาน ทำ� ใหบ้ รรยากาศการเดนิ เลน่ เตม็ ไป ด้วยเสยี งหัวเราะ ทำ� ความรู้จกั สหายคอมมวิ นสิ ต์ เพลิดเพลินชมบรรยากาศน่ารักๆ รอบหมู่บ้านได้สักพัก “หมบู่ า้ นจฬุ าภรณพ์ ฒั นา10” ตำ� บลอยั เยอรเ์ วง อำ� เภอเบตง พระอาทติ ยก์ เ็ รม่ิ คลอ้ ยตำ่� เราจงึ รบี เรง่ ไปเชค็ อนิ เขา้ ทพ่ี กั ในรสี อรต์ เลก็ ๆ จงั หวดั ยะลา อยู่ลึกเข้าไปตดิ กบั เขตชายแดนไทย-มาเลเซีย และแทบ ท่ีดแู ลโดยชาวบ้าน แมจ้ ะไมไ่ ด้หรหู ราใหญโ่ ตแตก่ ็สะดวก สะอาด และ จะกลมกลนื เป็นหน่ึงเดยี วกับผืนป่า แต่การเดินทางไปถงึ ทีน่ ่ีไมใ่ ช่เรื่อง ท่ีส�ำคัญคือสบายใจ เพราะการบริการแบบเป็นกันเองจนให้ความรู้สึก ยาก เพราะไม่ไกลจากตัวอ�ำเภอเบตงและมีถนนลาดยางตรงเข้าถึง เหมอื นไปพกั บา้ นเพอ่ื นมากกวา่ นอนรสี อรต์ กอ่ นจะมดื คำ�่ สำ� รบั มอื้ เยน็ หมบู่ ้าน ก็ถูกเสิร์ฟมาให้เราได้อ่ิมหน�ำส�ำราญ ท่ีมีท้ังข้าวสวยหุงผสมมันหอมๆ ความอัศจรรย์แรกท่ีสัมผัสได้เมื่อไปถึงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ คือ น้�ำพริกปลานึ่งตัวโต และท่ีขาดไม่ได้คือ “ไก่เบตง”เนื้อนุ่มหนังกรอบ อากาศที่เย็นสดชื่น ไม่ได้ร้อนจัดเหมือนเมืองใต้ในภาพจ�ำของเรา ราดด้วยซีอ๊ิวแล้วโรยกระเทียมเจียว เสิร์ฟพร้อมกับน�้ำจิ้มรสเด็ดสูตร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อไปเยือนที่น่ีเป็นคร้ังแรกมักจะไปเย่ียมชม เฉพาะของท่ีน่ี ก่อนจะตบท้ายของหวานด้วยทุเรียนหมอนทอง สถานท่ีท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เข้าใจ ทเ่ี ลือ่ งชื่อในเรือ่ งของความอร่อยหอมละมุน ถึงที่มาท่ีไปของหมู่บ้าน ซึ่งในอดีตเป็นพื้นท่ีของพรรคคอมมิวนิสต์ มาลายา กอ่ นจะยตุ ภิ ารกจิ และสลายกองกำ� ลงั มาเปน็ ผรู้ ว่ มพฒั นาชาติ ไทยในปัจจุบัน เราจงึ ตดั สนิ ใจตามรอยนกั ทอ่ งเทยี่ วรนุ่ พี่ ดว้ ยการไปทำ� ความรจู้ กั กับเหล่าสหายคอมมิวนิสต์ท่ีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บ้านจุฬาภรณ์ พัฒนา10” สถานท่ีจัดแสดงภาพถ่ายและบอกเล่าเร่ืองราวในช่วง สงคราม ซ่ึงมีทั้งภาพถ่ายผู้น�ำและคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ มาลายา ภาพการให้ความร่วมมือในการสนับสนุนของชาวบ้านใน ทอ้ งถน่ิ รวมถงึ ตวั อยา่ งอาวธุ ปนื และอปุ กรณเ์ ครอ่ื งนอนตา่ งๆ นอกจากน้ี ยงั จดั แสดงเครอื่ งดนตรที ผ่ี สมผสานระหวา่ งเครอื่ งดนตรตี ะวนั ออกและ ตะวันตก เช่น โชอู้ ไวโอลิน เชลโล เปน็ ตน้ พวกเราเดนิ ขน้ึ เนนิ เลก็ ๆ ตอ่ ไปยงั “อนสุ รณว์ รี ชน” เพอ่ื รำ� ลกึ ถงึ สมาชิกที่ร่วมกันต่อต้านการคุกคามของชาติล่าอาณานิคมในประเทศ มาลายา ซึ่งพวกเขาไดใ้ ชเ้ ลอื ดเนือ้ เพ่อื แลกกับความเป็นเอกราชและ ความสงบสขุ ของประเทศชาต ิ โดยทางพพิ ธิ ภณั ฑจ์ ะใหผ้ ทู้ ม่ี ารว่ มรำ� ลกึ ถงึ วีรชนเหล่านั้น ได้วางดอกไมแ้ ละยนื สงบน่ิงเพอื่ เปน็ การแสดงความ เคารพนับถอื

ตน่ื กอ่ นไกข่ ัน แวะซ้ือของฝากกอ่ นกลับบา้ น ดูตะวันขึน้ และทะเลหมอก กอ่ นกลบั เราแวะเทยี่ วทโี่ ครงการขยาย มาบา้ นจฬุ าภรณพ์ ฒั นา10 จะตน่ื สายไมไ่ ด้ เพราะ ผลไม้ดอกเมืองหนาว เดินเท่ียวเล่นเก็บภาพ มีของดีให้ดูตั้งแต่เช้าตรู่ เราจึงตั้งนาฬิกาปลุกกัน ดอกไม้สวยๆ ก่อนจะแวะไปช้อปปิ้งผ้าบาติก ประมาณตี 4 เพอื่ ทจี่ ะรีบตนื่ มาท�ำกิจกรรมยามเช้าบน ปะลางิงสวยๆ ของกลุ่มศรียะลาบาติกที่มี “จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง” หรือท่ีเรียกว่า ประวตั ยิ าวนานกวา่ 100 ป ี เปน็ ผา้ ทใ่ี ชเ้ ทคนคิ “เขาไมโครเวฟ” ท่ีสงู จากระดับน้ำ� ทะเลถงึ 2,038 ฟุต การพิมพ์ด้วยบล็อกไม้ จึงมีลวดลายสวย ทนี่ เ่ี ปน็ จดุ ชมววิ ทสี่ ามารถเหน็ ทะเลหมอกไดต้ ลอดทง้ั ปี แปลกตา และหาได้เฉพาะที่ยะลาเท่านั้น แม้แต่ในหน้าร้อน ช่วงที่เราไปเป็นปลายฝนต้นหนาว วา่ แล้วก็ ไม่พลาด ซื้อกลบั มาเปน็ ของฝากกนั ทะเลหมอกย่งิ หนาแนน่ อวดปยุ ขาวๆ ฟูๆ อยูต่ รงหน้า หลายผนื ทเี ดียว จนไดย้ นิ แตเ่ สยี งวา้ วๆๆ รอบตวั พๆี่ ในหมบู่ า้ นบอกกบั การตามหาแรงบันดาลใจ ในหมู่บ้าน เราวา่ ไม่ใช่แคท่ ีอ่ ัยเยอรเ์ วงเทา่ นัน้ แตบ่ นเนนิ เขารอบ จฬุ าภรณพ์ ัฒนา10 ไม่ทำ� ใหผ้ ดิ หวังเลยสกั นิด หมู่บ้านก็สามารถเห็นทะเลหมอกได้เหมือนกัน และท่ี ยง่ิ ไดส้ มั ผสั ความยงิ่ ใหญข่ องธรรมชาตริ อบตวั อยากใหไ้ ดส้ มั ผสั มากคอื บรรยากาศยามพระอาทติ ยข์ นึ้ น�้ำใจของชาวบ้าน รวมถึงการเรียนรู้ถึง เหนอื ยอดเขาตรงอนสุ รณว์ รี ชน เสยี ดายทเ่ี รามเี วลาอยู่ ประวัติศาสตร์ของการร่วมกอบกู้เอกราชและ ทน่ี แ่ี ค่เช้าเดียว เลยอดดูความงามทีบ่ อกมา จึงสญั ญา ความสงบสขุ ใหแ้ กป่ ระเทศดว้ ยแลว้ กย็ ง่ิ รูส้ กึ ว่าหากมีโอกาสเราจะกลับมาเย่ียมชมทะเลหมอกที่ ได้รบั พลังบวก ใหก้ ลบั ไปทำ� หน้าทขี่ องตวั เอง จุฬาภรณ์พัฒนา10 อีกแนน่ อน ใหเ้ ตม็ ทด่ี ว้ ยเชน่ กัน บกุ ป่าตามหาต้นไม้ใหญท่ ี่สุดในภาคใต ้ ลงมาจากอยั เยอรเ์ วง กไ็ ดเ้ วลาตามหาตน้ ไม้ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เราเดนิ เข้าไปในป่าใหญ่ ใกล้หม่บู า้ น ก็ได้พบกับความอลงั การของ “ต้นสมพงอายกุ ว่าพันปี” ที่วัดความสูงได้ 40 เมตร เคยมีการลองวดั ขนาดรอบลำ� ต้นต้องใช้คนถึง 38 คนกางแขนจบั มือกันจงึ ล้อมรอบได้ ถอื เป็น ความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดยะลา ที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักและหวงแหนในมรดกทาง ธรรมชาติ ซง่ึ นบั เปน็ “มรดกของแผน่ ดนิ ” ประจำ� ทอ้ งถนิ่ พวกเรารสู้ กึ ซาบซง้ึ ใจในความผกู พนั ของคนทนี่ ก่ี บั ธรรมชาติ ดงั นน้ั สงิ่ ทเ่ี ราทำ� ไดเ้ พยี งอยา่ งเดยี วกค็ อื เกบ็ ภาพความอลงั การนไ้ี วด้ ว้ ย ความทรงจ�ำ พร้อมกับฟังเร่ืองเล่าวีรกรรมของสหายพรรคคอมมิวนิสต์ ก่อนจะพาไปเยือน คา่ ยจำ� ลองทท่ี ำ� ใหไ้ ดเ้ หน็ สภาพความเปน็ อยทู่ า่ มกลางผนื ปา่ ของเลา่ สหายในชว่ งสงครามอยา่ ง ชัดเจน และจากค่ายจ�ำลองไปไม่ไกลนักยังมีน�้ำตกใสไหลเย็นให้ได้ชมความงามด้วย เรียกว่า เข้าปา่ ครั้งเดยี วได้ครบทงั้ ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และแลนดม์ ารก์ ถูกใจขาลุยอยา่ งเรามาก Contact Info. หมู่บา้ นจฬุ าภรณ์พัฒนา10 ตำ� บลอัยเยอรเ์ วง อ�ำเภอเบตง จังหวดั ยะลา โทรศัพท์ 073-263-037

สนั หลังมังกร ประสาทหินพันยอด ฟอสซิลลา้ นปี ตะลึงธรรมชาติสรา้ ง! ณ “บอ่ เจด็ ลกู ” @สตลู “บ่อเจด็ ลกู ”คือชื่อของชุมชนในอำ� เภอละงู จังหวดั สตูล ทีก่ ่อนหนา้ นไ้ี ม่เคยผา่ นเขา้ มาใหไ้ ด้ คนุ้ หคู นุ้ ตาเลย แตพ่ อได้ไปเยือนก็ถึงกบั ถามตัวเองว่า “นีเ่ ธอไปอยู่ไหนมา!?” และเราเชื่อว่า ความยิ่งใหญ่อลงั การกลางทะเล ทป่ี ระสานเขา้ กนั กับวถิ ชี ีวติ อันแสนเรียบงา่ ยของชาวชมุ ชน จะท�ำใหผ้ ู้มาเยอื นไดร้ บั ทง้ั ความประทบั ใจ ความต่ืนเต้นผจญภัย และร่วมภาคภูมิใจกบั สมบตั ลิ ้�ำค่าท่ธี รรมชาตมิ อบใหป้ ระเทศของเราชนดิ ทหี่ าดไู ม่ไดจ้ ากทิี่อนื่

ฟงั เรื่องเลา่ เคล้ากลิน่ ชา ปราสาทธรรมชาติ กลางทะเล เราไปถงึ “ชมุ ชนบอ่ เจด็ ลกู ” ตง้ั แตเ่ ชา้ มกี ารนดั ลงเรือออกไปเทย่ี วกลางทะเลในชว่ งสาย ระหวา่ งรอ ทริปน้ีบังที่เป็นท้ังคนขับเรือและ เรอื ออกจงึ พอจะมเี วลาเดนิ เลน่ ใหพ้ อไดท้ ำ� ความรจู้ กั ไกด์ท้องถิ่น ตระเตรียมความสนุกให้เราเป็น กันเบือ้ งต้นกอ่ น ผู้คนส่วนใหญ่ของท่ีนี่นบั ถือศาสนา อยา่ งดี เหน็ ไดจ้ ากการผกู พว่ งเรอื คายคั ไวต้ รง อสิ ลาม และมักจะใช้ช่วงเวลายามเช้าตามรา้ นนำ�้ ชา ท้ายเรือ เพื่อเอาไปพายเม่ือถึงจุดหมาย แลเห็นบรรยากาศการสรวลเสเฮฮาแลกเปลี่ยนเร่ือง บริเวณ “เกาะเขาใหญ”่ ทตี่ ั้งของ “ปราสาท ราวข่าวสารกันอย่างเป็นกันเอง ขนาดเราเองที่เป็น หินพนั ยอด” และเมอื่ ออกเรอื ไปได้เพียง 20 คนต่างถ่ิน ยังได้รับการต้อนรับด้วยรอยยิ้มและ นาที ความตื่นเต้นก็ทวีคูณข้ึนเมื่อเบ้ืองหน้า อัธยาศัยอนั ด ี เปน็ ภเู ขาหนิ ปนู ขนาดใหญไ่ มต่ า่ งจากรปู ทเี่ รา วา่ แล้วกข็ อเข้าไปจบิ ชาเข้มๆ และชมิ ขนมพน้ื เซฟไว้ในมอื ถอื บ้านเป็นม้ือเช้ากับพ่ีๆ ชาวบา้ นดว้ ยซะเลย หลายคน บังทิ้งสมอให้เรือจอดลอยอยู่ เลา่ เรอ่ื งราวตา่ งๆ ใหพ้ วกเราฟงั อยา่ งสนกุ ทำ� ใหร้ วู้ า่ คน กลางทะเล เพ่ือให้เราได้ถ่ายรูปกันอย่างเต็ม กลมุ่ แรกท่ีเข้ามาจับจองใช้ชีวิตอยู่ในพ้ืนท่ีแห่งนี้ คือ ท่ี ระหวา่ งนนั้ กป็ ลดเรอื คายคั มาเตรยี มไว้ เพอ่ื ใหพ้ ายเขา้ ไปพสิ จู นค์ วามงาม ชาวเลท่ีอพยพมาจากเกาะซึ่งอยู่ไกลฝั่งออกไป พอมาถึงก็พากัน ภายในปราสาทดว้ ยตวั เอง ระหวา่ งทางมลี กั ษณะคลา้ ยถำ�้ ลอด กวา้ งประมาณ ขุดบ่อน้�ำไว้ดื่มไว้ใช้ แต่ขุดเท่าไรก็ไม่เจอน�้ำ จนขุดมาถึงบ่อที่ 7 20-30 เมตร ซ่ึงมีกฎว่าตอ้ งจ�ำกดั นักทอ่ งเที่ยวท่ีจะเขา้ ไปได้ครั้งละ 20 คน จึงมีน้�ำให้ไดใ้ ช้ เลยเปน็ ทม่ี าของชอื่ ชมุ ชนบอ่ เจด็ ลกู หรือท่ีภาษา เท่านนั้ มาลายู เรยี กว่า “ลากาตูโยะ” ซ่งึ จนถงึ ทกุ วนั นกี้ ย็ ังมบี อ่ ทงั้ เจ็ด ด้านบนของถ�้ำจะทะลุโปร่งมองเห็นท้องฟ้าตัดกับภูเขาท่ีล้อมรอบอย ู่ ให้เห็นอยู่ แต่กน็ ะ ก�ำลงั นัง่ ฟงั เพลินๆ กไ็ ด้เวลาลงเรอื ออกไปชม มองดูราวกบั ประตมิ ากรรมธรรมชาติอนั นา่ ทึง่ ท่เี กิดจากการกัดเซาะหินจน ความงามกลางทะเลกันซะแล้ว ดคู ลา้ ยปราสาทพนั ยอด จรงิ ๆ แลว้ ท่นี ี่สามารถเทยี่ วชมได้ทั้งปี (ในช่วงเวลา น้�ำลง) แต่ช่วงท่ีสวยงามที่สุดคือเดือนพฤศจิกายน-เมษายนท่ีน้�ำจะน่ิงสงบ และทอ้ งฟา้ จะใสสสี วยชดั และนอกจากปราสาทหนิ พนั ยอดแลว้ เราสามารถ พายเรอื คายคั ชมบรรยากาศรอบๆ เกาะเขาใหญไ่ ดอ้ กี ด้วย

ตะลึงกบั ฟอสซลิ ดกึ ด�ำบรรพ์และ พกิ ัดสุดทา้ ยของทรปิ นี้ เราไปท่ี “สนั หลงั มงั กร” อกี หนึ่งแหล่ง มหศั จรรยส์ ันหลังมงั กร Unseen ของชมุ ชนบอ่ เจด็ ลกู ทใ่ี นชว่ งนำ้� ลงจะเปน็ สนั หาดทรายคลา้ ย ทะเลแหวกกลางทะเล บังเห็นว่าพวกเราสนุกจนไม่อยากหยุดพัก เลยพาไปต่อกันท่ี ตามต�ำนาน “เขาเล่าว่า” ใครท่ีได้ไปยืนบนสันเกล็ดมังกรน้ี “แหล่งฟอสซิลยุคแคมเบย้ี น” อายกุ ว่า 480 ลา้ นปี ณ จดุ ๆ นี้บอกเลย จะไดร้ บั พลงั บรสิ ทุ ธจ์ิ ากฮวงจยุ้ แหง่ ทอ้ งทะเล ทจี่ ะชว่ ยเตมิ เตม็ พลงั กาย ว่าความสนุกอยู่ท่ีการแข่งกัน เดาว่าฟอสซิลที่เห็นเป็นรูปอะไรและอยู่ พลังใจให้เข้มแข็ง ซึ่งเราได้ลองไปยืนรับพลังมาตามที่เขาเล่าว่าแล้ว  ตรงจุดไหนของแผ่นหิน ซึ่งบางจุดต้องใช้จินตนาการกันเยอะมาก รสู้ กึ วา่ รา่ งกายกระปรก้ี ระเปรา่ ขนึ้ มาเลย แตส่ นั หลงั มงั กรทเ่ี ราไปเยอื น คนส่วนใหญ่มองว่านี่คือปลาหมึกและหอยดึกด�ำบรรพ์!! โอ้โห... เป็น “สันหลังมังกรผาใช้หน้ี” ท่ีเช่ือกันว่าใครได้ไปเยือนจะหมดหนี้ จนิ ตนาการลำ�้ สดุ ๆ สว่ นอกี จดุ ทเ่ี ราชอบมากคอื “หวั ใจทปี่ ลายแหลม” หมดสิน ที่เป็นช่องหินรูปหัวใจที่อยู่ใกล้ๆ กับแหล่งฟอสซิล ใครมาเยือนอย่า เสรจ็ จากการลอ่ งเรอื เราไปเดนิ เลน่ ดวู ถิ ชี วี ติ ชาวประมงทบี่ รเิ วณ ลมื ตามหาหัวใจน้ีใหเ้ จอ ทา่ เรอื บ่อเจด็ ลกู ทีน่ ่ีเป็นชุมชนชาวประมงทย่ี งั คงพ่ึงพงิ ธรรมชาติ โดย ใช้เรือหัวโทงออกทะเล จบั ปลาทู ปลาทราย ปลาจวด ปลาหมกึ กุง้ ปู ดว้ ยอวนและลอบตามฤดกู าล รวมถงึ “การดำ� นำ�้ หาหอยทา้ ยเภา” ของ ขึ้นช่ือของที่นี่ด้วย ใครผ่านไปผ่านมาเห็นชาวบ้านก�ำลังแกะปลาออก จากอวนหรือเก็บปูอยู่อย่างขะมักเขม้น ก็สามารถติดต่อขอซ้ือไป ท�ำอาหารได้แบบสดๆ ในราคามติ รภาพ เดนิ เลาะเลยี บชายหาดต่อไปเรือ่ ยๆ ท�ำให้ได้เห็นชวี ิตที่เรยี บง่าย ของผคู้ นที่น่ี บางจดุ จะมชี าวบ้านพากันมาเกาะกลุ่มหาหอยเจดยี ไ์ ปไว้ ท�ำกับข้าว โดยเฉพาะบน “หาดแหลมสน” ท่นี อกจากจะมีหอยเจดยี ์ เปน็ ๆ ใหห้ ารบั ประทานกนั แลว้ บนหาดยงั เตม็ ไปดว้ ยเปลอื กหอยทำ� ให้ สวยแปลกตาไปอีกแบบ ความมหศั จรรยข์ องธรรมชาตทิ ส่ี วยงามและความยงิ่ ใหญอ่ ลงั การ กลางทะเล ยงั ตดิ ตามเรากลับมากรุงเทพฯ ดว้ ย จนในทีส่ ดุ กต็ อ้ งน�ำรปู มาใส่กรอบวางไว้ท่ีโต๊ะท�ำงาน เครียดเมื่อไหร่ก็หันไปมอง เพ่ือให ้ ความทรงจ�ำดีๆ และพลังแห่งธรรมชาติช่วยปลุกให้รีบกลับมาจัดการ กบั ภาระหนา้ ที่ เพอ่ื จะไดม้ เี วลาแพลนทรปิ การเดนิ ทางกลบั ไปหาความ ยง่ิ ใหญ่ของธรรมชาติได้อกี ครง้ั Contact Info. กล่มุ การทอ่ งเทีย่ วโดยชุมชนบ่อเจด็ ลกู ต.ปากน�้ำ อ.ละงู จ.สตลู ติดต่อนายยหู นา หลงสมัน ประธานกลุ่มการท่องเท่ยี ว โดยชมุ ชนบ่อเจด็ ลูก โทรศพั ท์ 08-0139-2436, 08-1542-0071

เทย่ี วแบบคลีนๆ ทั้งกายและใจ “บ้านทา่ ดินแดง” @พงั งา “บา้ นทา่ ดินแดง” ต�ำบลล�ำแกน่ อ�ำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพงั งา ชมุ ชนที่เคยถกู ทดสอบอยา่ งหนัก จากธรรมชาติ เมอ่ื ปี 2547 จากคลนื่ สนึ ามิ ทน่ี ไี่ ด้รบั ผลกระทบอย่างหนัก แต่ด้วยความไมย่ อมแพ้ ของชาวบ้าน จึงลกุ ขึน้ มาถอดบทเรยี นการใชช้ วี ติ ร่วมกบั ธรรมชาติ ด�ำเนนิ วิถแี บบเรียบง่าย มีลมหายใจเดยี วกันกับการอนุรักษ์ปา่ ชายเลน อนั เป็นแหล่งหลอ่ เลีย้ งชวี ติ ของผูค้ นในชุมชน และพลกิ วิกฤตให้กลายเปน็ ดินแดนแห่งความสุขอยา่ งทุกวนั นี้ และเนอื่ งจากในชมุ ชนบา้ นท่าดนิ แดง มีของดอี ยหู่ ลากหลาย หลังจากน้นั ชาวบา้ นท่นี จี่ ึงไดม้ ีการรวมกลมุ่ จดั ตง้ั เปน็ “ชมุ ชนทอ่ งเทย่ี วบ้านทา่ ดินแดง” ขึ้นในราวปี 2549

ส�ำรวจอดตี เหมืองแร่ กลางป่าชุมชน “ปฏิพัทธ์ วาหะรักษ์” หรือ “บงั โหรน” เลขาชมุ ชนทอ่ งเทยี่ วบา้ น ทา่ ดนิ แดง เลา่ วา่ เมอ่ื กอ่ นพนื้ ทนี่ ี้ เคย เป็นเหมืองแร่ (เหมืองปิยะ) ก่อนจะ เลกิ ราไป ซง่ึ ยงั คงมรี อ่ งรอยของรางแร่ เหมอื งเกา่ และจดุ รอ่ นแรข่ องชาวบา้ น ในอดีตให้ชมกัน แม้ปัจจุบันจะยังมี แรด่ บี กุ และขต้ี ะกรนั หลงเหลอื อยู่ แต่ วา่ ขายไมไ่ ดร้ าคา ดงั นนั้ อาชพี รอ่ นแร่ ท่ีท�ำรายได้อู้ฟู่ในอดีต จึงกลายมา เ ป ็ น ก า ร ส า ธิ ต ใ ห ้ นั ก ท ่ อ ง เ ที่ ย ว ช ม โดยนักท่องเท่ียวสามารถไปร่วมแจม ทดลองรอ่ นแรก่ บั นกั รอ่ นแรม่ อื อาชพี ของท่นี ไี่ ด้ ขณะที่บริเวณป่าชุมชนที่พวกเราเดินผ่านน้ัน เป็นผืนป่าแห่ง พายคายัคชมแหล่งชีวติ และอาหารในปา่ โกงกาง ความภาคภมู ใิ จทช่ี าวบา้ นทา่ ดนิ แดงไดร้ ว่ มแรงรว่ มใจกนั ปลกู ปา่ ขน้ึ บน ปา่ ชมุ ชนบา้ นทา่ ดนิ แดงเปน็ พน้ื ทร่ี อยตอ่ ระหวา่ งปา่ ชายเลนและ พื้นดินปนทรายที่ใครหลายๆ คนปรามาสว่าดินแบบน้ีปลูกอะไรก็ตาย ลำ� คลอง อันเป็นจดุ ลงเรือคายัค ถือเป็นกิจกรรมไฮไลท์ของที่น่ี โดยจะ แต่ชาวบ้านที่นี่เขามีการวางแผนการปลูกป่าที่ดี โดยในช่วงแรกสร้าง มีชาวบ้าน (ท้ังหญิง-ชาย) มาเป็นนายท้ายพายเรือชมความสมบูรณ ์ พน้ื ทสี่ เี ขยี วขนึ้ มากอ่ นจากการปลกู ตน้ “กระถนิ เทพา” ทม่ี คี วามอดึ ทน ของผืนป่าชายเลน พร้อมให้ข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจของสภาพพ้ืนท่ี ต่อสภาพพื้นที่และขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว เมื่อเติบโตเริ่มมีสัตว์เล็กๆ มา ถ้านักท่องเท่ียวคนไหนอยากจะทดลองพายเรือเองก็สามารถท�ำได ้ อยู่อาศัย พืชบางชนิดก็ถือก�ำเนิดข้ึนมาเองตามธรรมชาติ (จัดสรร) โดยเสน้ ทางนง่ั เรือคายคั จะค่อยๆ พายจากล�ำคลองสายเล็กๆ ออกสู่ ขณะท่ี ชาวบ้านหาต้นไม้พืชพันธุ์อื่นๆ (ท่ีคาดว่ามันจะเติบโตได้) มา คลองท่ีใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ คลองหยก คลองอ่าวหมัน ไปจนถึง ปลกู ปา่ เพิม่ ขนึ้ เรอ่ื ยๆ ในทกุ ๆ ปี จนวันนี้จากอดีตพนื้ ทเี่ หมืองร้างท่มี ี คลองท่าดินแดงท่ีติดกับปากอ่าว ที่มีขนาดใหญ่จนดูคล้ายๆ แม่น้�ำ แตด่ นิ ปนทรายแหง้ แลง้ ไดก้ ลายมาเปน็ ผนื ปา่ ชมุ ชนอนั รม่ รน่ื เขยี วครม้ึ สายย่อมๆ  ซง่ึ ระหวา่ งเส้นทางจะไดช้ มผืนป่าชายเลนอันอดุ มสมบูรณ์ กินพื้นท่ีกว้างขวางเกือบ 80 ไร่ ซ่ึงภายในผืนป่ามากไปด้วยพืชพันธุ์ ทม่ี ากไปดว้ ยสรรพสัตว์และพชื พนั ธ์ุอนั หลากหลาย ทั้งกงุ้ ปลา ปู และ อันหลากหลาย รวมถงึ มขี องปา่ อย่าง ผักหวาน เห็ด มะม่วงหมิ พานต์ หอยตา่ งๆ ท่ีท�ำให้ชาวบ้านได้มีกนิ และสร้างรายได้ แล้ว เรายงั ได้ชมวถิ ี และสมุนไพรให้ชาวบา้ นได้เก็บไปกินไปขาย ตามกฎระเบียบป่าชมุ ชน การท�ำประมงพืน้ บ้าน อย่าง การจบั ปลา ดกั ปู (ดำ� ) ไปเปน็ อาหารหรอื ของหมบู่ า้ นแหง่ นี้ ขาย ทีถ่ ือเปน็ อีกหนึ่งของดขี องบ้านท่าดนิ แดง ตอ่ จากนน้ั กจ็ ะมเี รอื หวั โทงลำ� ใหญแ่ ลน่ มาจอดรบั พวกเราขนึ้ จาก เรอื คายคั แล้วพามุ่งหนา้ ไปท�ำอีกหนึ่งกิจกรรมแสนสนกุ ท่รี ออยู่

ฝ่าท่งุ หญา้ สะวนั นาไปเจอเขาหน้ายกั ษ์ ม้ือคลีนๆ ทที่ รงคณุ ค่า เม่ือออกมายังปากน�้ำ เราก็ย้ายจากเรือคายัคไปขึ้นเรือหัวโทงล�ำใหญ่เพื่อมุ่งหน้าไป นอกจากสถานที่ท่องเท่ียวท่ีมีเรื่องเล่า “เขาหนา้ ยกั ษ์” ใชเ้ วลาในการนง่ั เรอื ไม่นานนกั ก็ถงึ ท่ีหมาย จากนนั้ เดินเทา้ เป็นระยะทาง มากมายแล้ว บ้านท่าดินแดงยงั มีของดนี า่ อวดอกี ส้นั ๆ ผา่ นทงุ่ หญ้า โดยชว่ งแรกของทุ่งหญ้าแห่งน้ี จะมี “ตน้ ท”ุ ที่มีดอกสชี มพูอ่อน ผลแก่ อย่าง น่ันคอื “ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์” ทช่ี าวบ้านปลูก สมี ว่ ง รสของมนั หวานปะแลม่ ๆ อมฝาดนิดๆ ถอื เป็นของกนิ เล่นคลายร้อนในระหวา่ งทาง กันมากจนกลายเป็นสินค้าขึ้นช่ือ โดยแนวคิด ได้ดีทเี ดียว จากนัน้ ถดั ไปจะเปน็ ทุ่งหญ้าสะวนั นาขนาดย่อมๆ ทุ่งหญ้าสที องอรา่ มทมี่ ีความ เร่ืองน้ีเร่ิมต้นข้ึนหลังจากองค์การอาหารและ พเิ ศษ คอื สหี ญา้ ทเ่ี ปลย่ี นไปตามแสงเงา เมอื่ ผา่ นหนา้ ฝนทงุ่ หญา้ จะเปลย่ี นจากสเี หลอื งทอง เกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ F.A.O. เขา้ มาให้ เปน็ สีเขียว ความรู้และสร้างอาชีพปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แก่ หา่ งจากทงุ่ หญา้ สะวนั นาไปไมไ่ กล กค็ อื  “เขาหนา้ ยกั ษ”์  หาดทเ่ี ขาวา่ สวยไมแ่ พเ้ กาะ ชุมชน เพ่ือแก้ไขปัญหาดินท่ีกลายเป็นดินทราย สวยๆ ในพังงา เดมิ หนา้ ผาทน่ี ่ีหนั หน้าออกไปทางหมู่เกาะสมิ ิลนั มรี ูปร่างลักษณะดูคล้าย หลังเหตุการณ์สึนามิ ชาวบ้านจึงหันมาปลูกผัก หนา้ ยกั ษอ์ ารมณโ์ กรธเกรยี้ ว กระทงั่ มาในสมยั สงครามโลกครง้ั ที่ 2 มเี รอื รบของทหารญปี่ นุ่ ไฮโดรโปนิกส์ขายควบคู่กับอาชีพประมงแบบ หลายล�ำแล่นผ่านมาทางน้ี แล้วได้ล่มหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ท�ำให้ทหารญ่ีปุ่นต่างเช่ือ ดั้งเดิมท่ีท�ำกันอยู่ โดยก่อตั้งเป็น “กลุ่มวิสาหกิจ ว่าน่าจะเป็นอาถรรพ์หน้าผาหน้ายักษ์ของเขาลูกน้ี จึงใช้ปืนใหญ่ยิงหน้าผาหน้ายักษ์ให้จม ชมุ ชนปลกู ผกั บา้ นทา่ ดนิ แดง” ปลกู ทงั้ ผกั กาดขาว ลงทะเล กลายเป็นต�ำนานเขาหน้ายักษ์มาจนถึงทุกวันน้ี...หาดเขาหน้ายักษ์ ต้ังอยู่ในเขต คะนา้ กวางตุ้ง ผกั สลัด ส่งตรงให้กับโรงแรมและ อุทยานแห่งชาติเขาล�ำปี-หาดท้ายเหมือง หาดแห่งนี้เป็นส่วนช่วงปลายสุดของ“หาด โรงพยาบาลโดยไม่ผ่านพอ่ คา้ คนกลาง ทา้ ยเหมอื ง” แนวชายหาดความยาวต่อเนอ่ื งกันราว 15 กม. หาดเขาหน้ายักษเ์ ป็นเวง้ิ อ่าว เราจงึ ไมพ่ ลาดการชมิ สลดั ผกั พรอ้ มนำ้� สลดั สงบ สะอาด สวยงาม มีพ้ืนทรายขาวนวล เนอ้ื ทรายละเอียดยบิ นำ้� ทะเลใสแจว๋ คอ่ ยๆ ไล่ สตู รบา้ นทา่ ดนิ แดง และดว้ ยความสดของวตั ถดุ บิ โทนจากสีเขียวอมฟ้าอ่อนๆไปสู่สีฟ้าแก่และน�้ำเงินเข้มในเขตน�้ำลึก ย่ิงยามเย็นจะเป็นแสง จงึ ทำ� ใหส้ ลดั ของทนี่ ท่ี ง้ั หวานทง้ั กรอบ อรอ่ ยแบบ สที องแผไ่ ปทว่ั ชายหาดกระทบสขี องทราย กลายเปน็ สนี ำ้� ตาลทอง ดสู วยงาม ทา่ มกลางฉาก ไมต่ อ้ งพง่ึ เนอ้ื สตั วห์ รอื ทอ็ ปปง้ิ อน่ื ใด มอื้ เยน็ วนั นน้ั หลงั ของแนวเขาหนา้ ยกั ษท์ ีท่ อดตัวตระหงา่ น จึงเป็นม้อื คลีนๆ ทที่ รงคุณคา่ ดตี ่อสุขภาพสดุ ๆ Contact Info. การได้มาเยือนชุมชนท่องเท่ียวบ้าน ท่าดนิ แดง นอกจากจะได้ความสนกุ และความสุข กลมุ่ ทอ่ งเที่ยวเชิงอนรุ กั ษ์ แล้ว ยังได้เรยี นรูก้ ารเคารพในธรรมชาตแิ ละการ บ้านท่าดนิ แดง พึ่งพาอาศัยซ่ึงกนั และกนั รวมทง้ั พลงั แห่งความ พยายามไมย่ อ่ ทอ้ ตอ่ อปุ สรรค จนเกดิ เปน็ สงิ่ สรา้ ง ตำ� บลล�ำแกน่ อำ� เภอท้ายเหมอื ง จงั หวดั พงั งา สรรค์ใหมๆ่ ได้ลิม้ รสการเทีย่ วแบบคลนี ๆ ทัง้ กาย ตดิ ตอ่ นายปฏิพัทธ์ วาหะรักษ์ (บังโหรน) และใจ ท�ำให้เรารู้สึกมีพลังและอบอุ่นในดินแดน โทรศพั ท์ 08-4443-3539 แหง่ ความสขุ แหง่ น้ี หรือ นายหา้ บดี ีน วาหะรักษ์ โทรศพั ท์ 08-6273-0823 อีเมล์ [email protected]

ตามรอยรัก(ษ)์ วฒั นธรรม 3 สาย ทะเล 3 ด้าน “ชมุ ชนทอ่ งเที่ยวแหลมสกั ” @กระบ่ี “แหลมสกั ” คือชุมชนเลก็ ๆ ทมี่ ีอตั ลกั ษณ์โดดเดน่ เฉพาะตวั เป็นแหล่งหลอมรวมวฒั นธรรม 3 เชอื้ ชาติ ได้แก่ไทยพทุ ธ ไทยมุสลมิ และไทยเชอื้ สายจีน “บาบา๋ ยา่ หยา (Baba Nyonya)” เข้าไว้ดว้ ยกันอยา่ งผสมกลมกลนื มายาวนานกว่าร้อยปีและยงั คงสืบเนื่องในวิถวี ฒั นธรรม ท่แี ตกตา่ งแต่ไม่แตกแยกมาจนถงึ ทกุ วนั นี้ โดยสามสายวัฒนธรรมถูกโอบลอ้ มดว้ ยทะเลอันดามัน 3 ด้าน ทะเลแหลมสักจงึ มีลักษณะเป็นทะเลใน ปลอดภยั จากคลืน่ ลมมรสุม เท่ยี วได้ทง้ั ปี มธี รรมชาติสวยงามชวนใหม้ าค้นหา สมั ผัสและจดจำ�

มหศั จรรย์ธรรมชาตแิ ละภาพเขียนสีพันปี สาหร่ายพวงองนุ่ กลางทะเลอ่าวลึก กจิ กรรมท่ีพลาดไมไ่ ด้ คอื การ “ลอ่ งเรือหัวโทงชมความมหศั จรรยข์ อง อ่าวเหนา เป็นเวิ้งอ่าวกลางทะเลอ่าวลึกท่ีน�้ำทะเล ธรรมชาต”ิ ซง่ึ หลงั ออกจากทา่ เรอื แหลมสกั ไปไมน่ าน ทวิ ทศั นส์ วยๆ ของภเู ขา คอ่ นขา้ งสงบนงิ่ เหมาะแกก่ ารทำ� กระชงั กลางทะเลเลย้ี งกงุ้ หอย หินปูนรูปร่างแปลกตาที่โผล่มาให้เห็นเป็นระยะๆ โดยจุดแรกที่ต้องแวะคือ ปู ปลา และสาหร่ายพวงองุ่น เพราะที่น่ี น�้ำทะเลสะอาด ถำ�้ ชาวเล เพ่อื ชมภาพเขยี นสี ร่องรอยทางประวตั ิศาสตร์อายกุ ว่า 3,000 ปี ท่ี เหมาะกับการเจริญเติบโตของสาหร่ายชนิดน้ี ซึ่งสาหร่าย ถูกเขียนขึ้นด้วยยางไม้ผสมกับเลือดสัตว์ เป็นลายเส้นสีแดงท่ีวาดไว้บน พวงองุ่นเพียบพร้อมไปด้วยคุณค่าต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ หน้าผาหิน สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ มีทั้งรูปคนน่ังบนหลังสัตว์ถืออาวุธ “คงความอ่อนเยาว์” และ “ต้านอนุมูลอิสระ” ให้เราได้ลอง เป็นรูปปลา และรูปทรงเรขาคณิต ดูไปดูมาคล้ายกับแผนท่ีอะไรบางอย่าง ลิ้มรส และส่ังซ้ือเป็นของฝากสดๆ กลับไปทานท่ีบ้านอีกด้วย ซึ่งท้าทายจินตนาการว่าแต่ละภาพนั้น ผู้วาดต้องการส่ือถึงอะไรกันกันแน่ หรือจะสั่งเป็นเมนูเด็ด “ส้มต�ำสาหร่าย” เป็นอาหารม้ือเที่ยง เดากนั ไปเดากนั มาอยา่ งสนกุ สนาน กอ่ นทจี่ ะลงเรอื ลอ่ งตอ่ ไปยงั แหลมชาวเล หลงั จากกลับข้ึนฝ่งั แล้วก็ได้ ที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้ได้คาดเดาอีกเช่นกัน ทั้งยังมีหินย้อยเป็น และไม่ไกลกัน คือกระชังเลี้ยงกุ้งมังกร ซึ่งเราขึ้นไปบน รูปร่างตา่ งๆ ใหจ้ นิ ตนาการไปตา่ งๆ นานาดว้ ย กระชังกต็ ้องตะลึงกบั กุ้งมงั กร 7 สตี ัวบ๊ิกเบ้ิมทช่ี าวบา้ นเลย้ี งไว้ และท่ีพลาดไม่ได้อีกจุดหน่ึงในเส้นทางล่องเรือคือ แหลมไฟไหม้ ท่ีมี เพื่อจ�ำหน่าย หากอยากซอ้ื กลบั ไปกส็ ามารถซอ้ื จากทน่ี ไี่ ดเ้ ลย หวั ใจแหง่ ขนุ เขา หรอื Mini Heart สญั ลกั ษณช์ อ่ งวา่ งรปู หวั ใจทะลอุ ยรู่ ะหวา่ ง เพราะทงั้ ราคาไมแ่ พงและสด ภูเขา ใครท่ีมาถงึ จะต้องไม่พลาดถา่ ยรูปสวยๆ อัพข้นึ โซเชยี ลกนั แน่นอน ล่องเรือมาอีกนิดจะเห็น เขาเหล็กโคน ภาษาใต้ที่ม ี นอกจากนี้ ยังมอี กี แลนด์มาร์คหนึง่ ทน่ี า่ สนใจ “เหลาหนั ภเู ขาแปลก ความหมายว่า “ตะปู” หมายถึงภูเขาที่มีลักษณะคล้ายตะป ู แทรกทะเล” ค�ำว่า “เหลา” หมายถึงเกาะหรือภูเขากลางทะเล ส่วนค�ำว่า ตอกปักอยู่ในทะเล เป็นอีกหน่ึงแลนด์มาร์คท่ีนักท่องเท่ียวจะ “หัน” ภาษาใต้หมายถึงการหมุน เนื่องจากบริเวณน้ีในอดีตมีกระแสน้�ำ ต้องเก็บภาพถ่ายรูปเก๋ๆ กัน โดยใช้ฝ่ามือหมุนบิด หามุมให้ดู แตกต่างกัน เวลาเรอื ชาวบ้านมาถึงบริเวณนี้ หากจอดเรอื ใหล้ อยลำ� อยเู่ ฉยๆ เหมือนหยิบ จับ รองรับเขาเหล็กโคนท้ังลูกไว้ในอุ้งมือ กระแสน้�ำจะค่อยๆ ท�ำให้เรือเคลื่อนตัว คนในเรือก็จะเห็นเหมือนภูเขา ถือเป็นกิมมิคที่ถูกอกถูกใจเรียก หมุนรอบเรอื จงึ เรียกกันวา่ เหลาหัน ซง่ึ หมายถึงภเู ขาหมุนนน่ั เอง รอยย้ิมความสนุกสนานให ้ นกั ทอ่ งเทยี่ วไดไ้ มน่ อ้ ยทีเดยี ว

คืนความเขยี วเขาชา้ งหมอบ ดว้ ยรองเท้านารี กจิ กรรมทางเรือยังไมจ่ บแค่น ี้ เพราะไหนๆ กม็ าถงึ แหลมสกั ถ่ินของ “กล้วยไม้รองเทา้ นารีเหลอื งกระบ”ี่ กนั แลว้ พค่ี นขับเรือจงึ พาเราไป ท�ำกิจกรรมดีๆ คืนความเขียวให้กับเขาช้างหมอบ ซึ่งพี่สมศักดิ์ ปานบุญ (บังหมาด) ประธานกลุ่มอนุรักษ์กล้วยไม้พ้ืนถิ่นบ้านอ่าวน้�ำ รอรับ พวกเราพร้อมกับต้นกล้ากล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบ่ี โดยบังหมาด เล่าให้ฟังว่า ในอดีตพ้ืนท่ีบ้านอ่าวน้�ำเป็นพ้ืนที่ๆ มีกล้วยไม้ธรรมชาต ิ สายพันธุ์ต่างๆ เป็นจ�ำนวนมาก กล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่เป็นท่ีต้องการของนักเล่นกล้วยไม้ จึงมีการลักลอบเก็บไปขายจนใกล้สูญพันธุ์ ชาวบ้านจึงช่วยอนุรักษ์สายพันธุ์ปลูกทดแทนของเดิม เพ่ือไม่ให้สูญหายไปจากชุมชน ซึ่งพื้นที่น้ีเป็นภูเขาหินปูนติดชายฝั่งทะเล มีหน้าผาสูงชัน มีรอยแยกของหินท่ีปกคลุมไปด้วยมอส สภาพอากาศที่เหมาะสม ท�ำให้กล้วยไม้เจริญเติบโตได้ดี ชุมชนจึงจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ม ี ส่วนรว่ มในการรกั ษาพนั ธไ์ุ ม้ด้วยอกี ทางหนึ่ง ถอื เปน็ กิจกรรม CSR. ของทางชุมชนท่ถี ูกบรรจไุ วใ้ นโปรแกรม Boat Trip ของชมุ ชนแหลมสกั Contact Info. ชมิ ข้าวคลุกกะปเิ ล่ืองช่อื ชุมชนท่องเท่ยี วแหลมสกั จบทริปล่องเรือข้ึนฝั่งมาต้องหาของอร่อยรับประทาน ต�ำบลแหลมสัก อ�ำเภออ่าวลึก กนั สกั หนอ่ ย ไดย้ นิ มาวา่ ถา้ มาถงึ แหลมสกั ตอ้ งลองชมิ “ขา้ วคลกุ กะปิ” ที่มีความหอม อร่อยเป็นที่ร่�ำลือ ซึ่งความอร่อยนั้น จังหวัดกระบี่ สว่ นประกอบส�ำคญั คือ “กะปกิ งุ้ ตกั ” จากบ้านอ่าวน้�ำในต�ำบล โทรศัพท์ 08-9997-8915 แหลมสักท่ีท้งั อรอ่ ย สะอาด ปลอดภัย และมคี ณุ ภาพ รู้อย่างนี้ แลว้ เราจงึ ไมพ่ ลาดซอื้ กลบั ไปไวท้ ำ� ของอรอ่ ยจากกะปริ บั ประทาน กนั สกั หนอ่ ย กอ่ นจะเลอื กซอ้ื ปลาแดดเดยี ว ของฝากขนึ้ ชอื่ ของ แหลมสักกลับไปฝากคนที่บา้ นด้วย นอกจากความหลากหลายและสวยงามของแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว แล้ว แหลมสักมีอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือน นนั่ คือ ความต้งั ใจในการรกั (ษ)์ วถิ ีด้งั เดิมเอาไว้ และนำ้� ใจไมตรี ในการต้อนรับของคนท่ีนี่ ท�ำให้อยากกลับมาเยือนชุมชน ทอ่ งเท่ียวแหลมสักอีกสกั ครง้ั

Unseen เสนห่ ท์ ีร่ อการคน้ หา “บ้านทะเลน้อย” @พัทลุง เอย่ ถึงพทั ลุง ภาพของ “ทะเลน้อย” ท่มี บี วั แดง เหลา่ นกนอ้ ยใหญแ่ ละฝูงควายลอยคอแหวกว่าย ในผืนน�้ำกส็ ะท้อนภาพจ�ำข้นึ มาในทนั ใด แต่รู้หรือไม่ ทะเลน้อยยงั มีป่าเสมด็ ดึกดำ� บรรพ์ แทรกตัว สลบั กบั ลำ� คลองสายเลก็ สายน้อย ใหไ้ ดไ้ ปชมความมหัศจรรยข์ องเหล่าพชื พรรณรปู ทรงแปลกตา และบรรยากาศแบบทีย่ ากจะหาไดใ้ นประเทศไทย จนหลายคนตา่ งยกใหเ้ ปน็ “อะเมซอนเมอื งไทย” ทต่ี อ้ งไปเยือนให้ไดส้ ักคร้งั

ต้อนรบั สู่ทะเลนอ้ ยดว้ ยความสุข แม้จะไม่มีสนามบิน แต่การเดินทางไปพัทลุงก็ไม่ใช่ เรอื่ งยาก เพราะสามารถนง่ั เครอื่ งบนิ ไปลงในจงั หวดั ใกลๆ้ อย่างตรัง นครศรีธรรมราช หรือสนามบินหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา แลว้ ต่อรถไปไดท้ งั้ นน้ั สัญลักษณ์แรกที่ท�ำให้รู้ว่าเราได้เร่ิมเช็คอิน ณ “ทะเลน้อย” แล้วก็คือ “สะพานเฉลิมพระเกียรติ  80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550” หรอื ท่ีชาวบ้านเรยี กกนั ว่า สะพานเอกชัย ซ่ึงเป็นสะพานท่ียาวท่ีสุดในประเทศไทย ดว้ ยความยาวกว่า 17 กิโลเมตร เช่ือมระหว่างจงั หวดั พัทลงุ และ สงขลา เขาเล่าว่าสะพานแห่งน้ีเป็น “สะพานแห่งความสุข” เพราะ ตลอดสองข้างทางของสะพาน จะเห็นทิวทัศนท์ ี่สวยงามของทะเลน้อย เก็บภาพประทบั ใจในชมุ ชน แบบสุดลูกหูลูกตา ท้ังยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ข้ึนท่ีสวยงามมากอีก จากสะพานแห่งความสุข ขับรถต่อไปอีกไม่ไกลก็ถึงชุมชนทะเล แหง่ หนงึ่ แถมถา้ วนั ไหนทอ้ งฟา้ แจม่ ใส กจ็ ะมองเหน็ กงั หนั ลมผลติ ไฟฟา้ นอ้ ย เราเขา้ ทพ่ี กั ซงึ่ จองไวใ้ น “เขตหา้ มลา่ สตั วป์ า่ ทะเลนอ้ ย” กอ่ นเปน็ ที่ อ.ระโนด ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกด้วย จึงไม่แปลกใจที่จะถูกเรียก อนั ดบั แรก เพือ่ เก็บกระเป๋าและยืดเส้นยืดสายคลายความเมือ่ ยลา้ จาก แบบน้ัน เพราะเพียงแค่ได้ไปชื่นชมบรรยากาศบนสะพาน ก็ช่วยเติม การขับรถระยะไกล ก่อนจะออกไปเดินเล่นชมวิวทะเลน้อยช่วงสายๆ ความสขุ ให้กบั ชวี ิตได้มากแล้ว ทดี่ อกบัวล้วนกลัวแดดจนพากับหุบดอกหลบแสงไปหมด แต่ยงั ได้เหน็ กลีบบัวแดงระเร่ือเต็มผืนน้�ำ ได้อารมณ์แห่งการพักผ่อน เดินถ่ายรูป ชิลๆ ดื่มด�่ำบรรยากาศสดชื่นให้ลมเย็นปะทะ ผิวหน้า ก่อนจะเดินเที่ยวต่อที่ “ชุมชนบ้าน ทะเลน้อย” หากอยากสัมผัสวิถีชุมชนริมน้�ำ ควรเร่ิมจากบริเวณ “ตลาดบ้านหัวลาน”  ชาวบ้านจะปลูกเป็นเรือนยกสงู เนือ่ งจากท่นี ่ีมี ช่วงน้�ำข้ึนน�้ำลง มีโอกาสเกิดน้�ำท่วมได้ง่าย ส่วนใหญ่จะปลกู เรอื นติดๆ กนั ไป โดยระหว่าง บา้ นแตล่ ะหลงั จะมสี ะพานไมห้ รอื สะพานกลาง บ้านพาดผ่านเพ่ือความสะดวกในการเดินทาง ไปมาหาสกู่ นั เปน็ เอกลกั ษณท์ บี่ ง่ บอกถงึ วถิ ชี วี ติ ของชาวบ้านทะเลน้อยท่ีต่างพ่ึงพาอาศัยกัน และด้วยความที่เร่ิมมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมา เยย่ี มบอ่ ยๆ ฝาผนงั บา้ นหลายหลงั จงึ ถกู แตง่ แตม้ ดว้ ยสสี นั เปน็ ภาพวาดสวยๆ ใหไ้ ดต้ ามไปถา่ ยรปู เช็กอนิ กนั อย่างสนกุ สนาน ชมผนื บวั แดงนับล้าน & ควายน้�ำนับร้อย ว่ากันว่าบัวแดงท่ีทะเลน้อยก็เหมือนผู้หญิงที่กลัวแดด เพราะจะบานให้ชื่นชมความงามในยามเช้าตรู่ ก่อนจะหุบดอกหลบแดดจ้าใน เวลาสาย ดงั น้ันหากอยากเหน็ ทงุ่ บวั แดงนับล้านท่ีจะบานสวยในชว่ งเดอื นธันวาคม-เมษายน ก็ตอ้ งต่นื แตเ่ ชา้ และลงเรอื ใหท้ ันกอ่ นแปดโมงเช้า เรือหางยาวท่ีจะพาเราไปท่องเท่ียวบนผืนน�้ำก็หาได้ไม่ยาก มีหลายล�ำจอดรอให้บริการอยู่ตรงท่าเรือใกล้ๆ กับลานจอดรถศูนย์บริการ นกั ทอ่ งเทย่ี ว คา่ เรอื เปน็ เหมาล�ำ ราคากข็ นึ้ อยกู่ บั เสน้ ทางทต่ี อ้ งการไป ตลอดทางทเ่ี รอื แลน่ ไปตามเสน้ ทางฝา่ กลางแพบวั ผนื ใหญท่ กี่ ระจายไปทว่ั สุดลูกหูลูกตา นอกจากบัวแดงท่ีมีให้เห็นมากมายแล้ว นกก็เยอะไม่ต่างกัน ว่ากันว่านกท่ีน่ีมีให้ชมกว่า 200 สายพันธุ์ ท้ังนกประจ�ำถิ่นและ นกอพยพมาจากท่ีอ่ืนตามฤดูกาล เช่น นกตีนเทียน นกอีโก้ง นกนางนวล นกกุลาขาว เป็นต้น อวดโฉมบินให้ว่อนเต็มท้องน้�ำไปหมด ถ่ายรูป ตัวไหนไม่ทันก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะเด๋ียวก็มีตัวใหม่โฉบมาใกล้ๆ อยู่เรื่อยๆ และที่เป็นขวัญใจช่างภาพต้องยกให้ฝูงควายท่ีพากันมาลอยคอ เลน่ นำ�้ อยา่ งสบายใจ พคี่ นขบั เรอื เลา่ วา่ ควายเหลา่ นเี้ ปน็ ของชาวบา้ นทเี่ ลยี้ งไว้ โดยปลอ่ ยใหห้ ากนิ หญา้ เองในบรเิ วณนี้ พอถงึ ยามนำ�้ มาทว่ มทงุ่ หญา้ ควายพวกนีก้ ็ปรับตวั เปลย่ี นมาหากนิ พชื นำ้� อย่างสายบวั ใบบวั แทน เลยกลายเปน็ ควายน้�ำอย่างทเี่ ห็น

Unseen ที่ปากประ ทพี่ ลาดไม่ได้อกี หนงึ่ แหลง่ เมอ่ื มาถึงทะเลนอ้ ย คอื “อะเมซอน เมืองไทย” ป่าเสม็ดดึกด�ำบรรพ์ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหน่ึงของ แสงแรกของวันท่ีปากประ คือจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงาม ประเทศไทย ซ่ึงอยู่ใน “เขตพื้นท่ีห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย” ท่ีได้รับ ท่ีสุดแห่งหน่ึง ท่ามกลางยอยักษ์จ�ำนวนมาก แสงตะวันยามเช้า การประกาศเป็น “แรมซาร์ไซต์” พื้นที่ชุ่มน�้ำและทะเลสาบน้�ำจืด อุปกรณ์หาปลาที่เกิดมาจากภูมิปัญญาท้องถ่ินของชาวริมเล นับเป็น หน่ึงจุดท่องเที่ยวเคียงคู่กับทะเลน้อย ที่มีความโดดเด่นสวยงามของ ใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทย มีนกหลากหลายสายพันธุ์ ทัศนียภาพและวถิ ชี วี ิตการยกยอเอกลกั ษณข์ องชาวปากประ มากกว่า 200 ชนิด และสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด การล่องเรือแต่เช้าตรู่ ท�ำให้เราได้สัมผัสวิถีชาวประมงพ้ืนบ้าน ซง่ึ การจะไปชมความมหศั จรรยข์ องทน่ี อี่ ยา่ งใกลช้ ดิ อยา่ งใกลช้ ดิ จากจดุ นน้ี งั่ เรอื ไปกนั ตอ่ ผา่ นแนวตน้ ลำ� พพู นื้ ทอ่ี นรุ กั ษโ์ ดย นั ก ท ่ อ ง เ ที่ ย ว ต ้ อ ง พ า ย เ รื อ ค า ยั ค ชาวบา้ น ซง่ึ เปน็ จดุ ถา่ ยรปู อกี แหง่ ทงี่ ดงามอยา่ งมาก เราลอ่ งเรอื ไปอกี นดิ ลัดเลาะไปตามล�ำคลองน้อยใหญ่ จะเหน็ “นาริมทะเล” กว้างประมาณ 10 กว่าเมตร ที่แทรกตวั ไปกบั ผนื ปา่ แนะนำ� ว่า ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเลสาบ จัดเป็น อย่ารีบร้อนเอาแต่พายให้สนุก Unseen  หนึง่ เดียวในประเทศไทย การท�ำนาทีน่ ่ีจะ แต่จงให้ค่อยๆ ซึมซับไปกับตน้ ไม้ เป็นนาดำ� เรม่ิ ท�ำประมาณชว่ งกลางปี และเก็บเกี่ยว รปู ทรงแปลกตา บรรยากาศรอบตวั ประมาณเดือนกันยายน ก่อนที่จะถึงฤดูมรสุมของ เปดิ ใจสมั ผสั ระบบนเิ วศอนั สมบรู ณ์ ภาคใต้ฝั่งตะวันออกในช่วงปลายปี  เป็นนาท่ีไม่ต้อง ของผืนป่าโบราณ และเปิดรับพลัง สูบน�้ำเข้า สูบน�้ำออก ไม่ต้องใช้ยาหรือหว่านปุ๋ยก็ให้ ความสงบและสดชื่นจากธรรมชาติ ผลผลิตดี ปลูกให้เติบโตตามธรรมชาติยิ่งกว่านาแปลง กันไปเตม็ ๆ ไหนๆ ถอื เป็นภูมิปญั ญาท้องถนิ่ ที่ยอดเยี่ยมมากๆ กระจดู เลนอ้ ย แตไ่ มด่ ้อยคุณค่า Contact Info. ชุมชนทะเลนอ้ ย เทยี่ วจนครบจบกจิ กรรมทางนำ้� แลว้ เรากก็ ลบั ไปยงั ชมุ ชนทะเลนอ้ ยอกี ครงั้ ในชว่ งบา่ ย เพอื่ หาของ ตำ� บลนางตุงและตำ� บลทะเลน้อย ฝาก “ปลาดุกร้าทอด” แสนอร่อย แต่พอเดินเท่ียวไปเร่ือยๆ เรากลับพบว่า “เครื่องสานจากกระจูด” อ�ำเภอควนขนุน จงั หวัดพัทลงุ ท่ชี าวทะเลนอ้ ยช่วยกันท�ำข้ึนเป็นผลิตภัณฑป์ ระจ�ำชมุ ชน มีทั้งเสื่อและข้าวของเครื่องใชต้ า่ งๆ ท่ีตัดเย็บ ติดตอ่ ส�ำนกั งานปลดั เทศบาล เปน็ งานประณตี ควรคา่ ทงั้ การซอื้ กลบั ไปเปน็ ของฝาก และเลอื กแบบทนี่ า่ รกั ๆ สำ� หรบั เปน็ ของใชส้ ว่ นตวั เก๋ๆ ซึง่ การจบั จา่ ยคร้ังน้เี รียกไดว้ า่ เพียงชว่ ยอุดหนนุ สินค้าของชุมชนทะเลน้อยสกั ชน้ิ ก็เหมือนไดช้ ่วย ต�ำบลนางตุง สนบั สนุนอาชีพใหก้ ับคนทั้งชุมชนแล้ว โทรศัพท์ 0-7468-5240 แม้จะใช้เวลาไม่มาก แตท่ ริปเลก็ ๆ ท่ี “ทะเลนอ้ ย” กใ็ หป้ ระสบการณ์ ความสขุ และเติมรสชาติให้ ชว่ งวันหยุดสัน้ ๆ ได้อย่างครบถ้วน ท่สี ำ� คญั มนั ท�ำให้เราได้รวู้ ่า จงเกบ็ เกี่ยวทุกชว่ งเวลาของการทอ่ งเท่ยี ว ให้คมุ้ คา่ เพราะการออกเดินทางคือความสำ� คัญอย่างหน่งึ ของชีวิตเราทกุ คน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook