Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือพลศึกษา ชั้นป.2 ภาคต้น

หนังสือพลศึกษา ชั้นป.2 ภาคต้น

Published by Surachaet Visavateeranon, 2018-04-24 14:55:38

Description: ผู้แต่ง : อาจารย์สุรเชษฐ์ วิศวธีรานนท์
เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชาพลศึกษา ชั้นป.2

Keywords: physical.education

Search

Read the Text Version

โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม กีฬาเเชร์บอลและทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐาน ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เล่ม 1 โดย อาจารยส์ ุรเชษฐ์ วิศวธีรานนท์ชอ่ื เลขท่ีชน้ั ป.2 / หนงั สอื เรยี นกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา

คำ� ปรำรภ หนังสือแบบเรียนและแบบฝึกหัดของโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝายประถมจัดท�าข้ึนเพ่ือพัฒนาแบบเรียนและเอกสารประกอบการเรียนรู้ให้มีคุณภาพสูงท้ังทางดา้ นความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา และการออกแบบรปู เลม่ ใหส้ วยงามนา่ อา่ น โดยยดึ เนอื้ หาของหลักสูตรแกนกลางขั้นพ้ืนฐานเป็นหลักแต่น�ามาเรียบเรียงให้สอดคล้องกับบริบทการจัดการเรยี นรขู้ องโรงเรยี น ผทู้ ท่ี า� ใหก้ ารจดั ทา� หนงั สอื แบบเรยี นสา� เรจ็ ลลุ ว่ งและสามารถนา� มาใชใ้ นการเรยี นการสอนได้ตามเปาหมาย ประกอบด้วยคณาจารย์กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่เป็นผู้เรียบเรียงเน้อื หา ผทู้ รงคณุ วฒุ ิท่เี ป็นผตู้ รวจสอบความถูกต้อง และสมาชิกและคณะท�างานของสมาคมผปู้ กครองและครโู รงเรียนสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซง่ึ ชว่ ยในด้านการออกแบบรปู เลม่ จดั หาภาพประกอบเพม่ิ เติม รวมทัง้ สนบั สนุนงบประมาณในการด�าเนินการ ในนามของโรงเรียน ขอขอบคณุ คณาจารยผ์ จู้ ัดทา� ทุกทา่ นไว้ ณ ทีน่ ี้ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งผู้ทรงคุณวุฒิที่ดูแลความถูกต้องสมบูรณ์และสร้างความม่ันใจแก่ผู้ใช้แบบเรียนและแบบฝึกหัด รวมท้ังสมาคมผู้ปกครองและคณะทา� งานท่ีสละเวลาและทุนทรพั ย์ในการจดั ท�าจนได้ผลงานที่มีความถูกต้องเหมาะสมและสวยงามนา่ ใช้ในการเรียนรู้ แม้แบบเรียนน้ีจะมีความสมบูรณ์แล้วทุกด้าน แต่คณาจารย์ผู้เรียบเรียงเน้ือหาและคณะทา� งานดา้ นการออกแบบและจดั ทา� รปู เลม่ ยงั ตอ้ งการขอ้ เสนอแนะและขอ้ มลู ใหมๆ่ เพอื่การพัฒนาแบบเรียนให้มีเน้ือและรูปเล่มที่ทันสมัยตามการศึกษาและการค้นพบองค์ความรู้ใหม่ที่เกิดข้ึนอยู่ตลอดเวลา หากผู้ปกครองหรือผู้ใช้แบบเรียนท่านใดมีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ขอได้โปรดแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบเพ่อื จา� ได้น�าไปพิจารณาปรบั ปรุงให้แบบเรยี นมคี วามสมบรู ณ์ถกู ตอ้ งตอ่ ไป ผูชวยศาสตราจารยทนิ กร บัวพูล ผอู้ �านวยการโรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝายประถม และรองคณบดคี ณะครศุ าสตร์

กฬี ำแชร์บอลและทกั ษะกำรเคล่ือนไหวพื้นฐำนชั้นประถมศึกษำปีท่ี 2 เปน็ หนงั สือในโครงกำรจดั ท�ำตำ� รำเรียนของสมำคมผ้ปู กครองและครูโรงเรยี นสำธิตจฬุ ำลงกรณม์ หำวิทยำลัย โดยมวี ัตถุประสงค์เพื่อใหน้ ักเรียนโรงเรยี นสำธิตจุฬำลงกรณม์ หำวิทยำลัย ฝ่ำยประถม ไดม้ หี นงั สอื เรียนที่มคี ณุ ภำพ จัดทำ� โดย (ในสว่ นของสมำคมผปู้ กครองและครูโรงเรียนสำธติ จฬุ ำลงกรณ์มหำวทิ ยำลัย)(ในสว่ นของโรงเรยี นสำธิตจฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลัย ฝ่ำยประถม) ดร.วฒุ พิ งศ์ กิตติธเนศวร คุณวรี พัฒน์ คงสทิ ธ์ิผชู้ ่วยศำสตรำจำรย์ทินกร บวั พูล คุณศักด์ิชัย ยอดวำนชิ คุณศรัณย์ มหทั ธนกลุผ้ชู ่วยศำสตรำจำรย ์เอมอร บูชำบพุ พำจำรย์ คณุ กติ ติ อภชิ นบญั ชำ คุณพำศนินท ์ ตู้จนิ ดำอำจำรยศ์ ิริรัตน์ ศริ ิวโิ รจนส์ กุล คุณสพุ จน์ เศรษฐวงศ์ คณุ ชัยภัฏ เตมียบุตรอำจำรย์สรุ เชษฐ ์ วศิ วธีรำนนท์ คุณพรวไิ ล ห่อสุวรรณชยั ดร.วีรพงศ ์ ไชยเพิ่มผ้สู นับสนุนกำรดำ� เนนิ กำรจัดท�ำ และสนบั สนนุ งบประมำณในกำรจัดทำ� ต้นฉบับและจดั พมิ พ์หนงั สอืสมำคมผูป้ กครองและครูโรงเรยี นสำธติ จุฬำลงกรณม์ หำวิทยำลยัคณุ รญั ชิตำ ศรวี รวิไล คณุ เอกรำช เอกรัตน์คุณสุจติ รำ ชอ่ วเิ ชยี ร คุณภำณุทัตต ์ เทียมชีวะศิลปคณุ อำรยี ำ สุภำพ คณุ กลุ วัต กำญจนศกั ดช์ิ ัยคุณศุภโชค บญุ ญนนั ทก์ ิจ คณุ ปัญฑำรีย์ วจิ ิตรัตน์ภำคินคุณโยทะกำ พรหมศิริ พ.ต.อ.ศิร์ธชั เขต ครวู ฒั นเศรษคุณปณั ณวชิ ญ ์ นนั ทสิทธิ์สิริ น.พ.วสันต์ เศรษฐวงศ์ เรยี บเรยี งโดย พมิ พท์ ่ี อำจำรย์สุรเชษฐ์ วศิ วธีรำนนท์ บริษทั ไซเบอรพ์ ร้ินท์กรปุ จำ� กัด ผตู้ รวจเนอื้ หำ ๙๕๙ ซอยสทุ ธิพร ถนนประชำสงเครำะห ์ ผชู้ ว่ ยศำสตรำจำรยณ์ ฐั พร สุดดี แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม ๑๐๔๐๐ ช่อื เรอ่ื ง โทรศัพท ์ ๐๒-๖๔๑-๙๑๓๕-๘ กีฬำแชร์บอลและทักษะกำรเคล่อื นไหวพื้นฐำน โทรสำร ๐๒-๖๔๑-๙๑๓๙ ชัน้ ประถมศกึ ษำปท่ ี 2 E-mail : [email protected] ออกแบบรูปเลม่ Website : www.cyberprintgroup.co.th บรษิ ทั เซีย ครเี อทีฟ จำ� กดั Zia Creative Co., Ltd. พมิ พ์คร้ังท่ี 1 พฤษภำคม 2560 137 ซอยสุขมุ วิท 81 ถนนสขุ ุมวทิ จ�ำนวนทีจ่ ัดพมิ พ์ : 2,000 เลม่ แขวงพระโขนงเหนือ เขตวฒั นำ กรุงเทพฯ 10260 จ�ำนวนหน้ำ : 64 หน้ำ รำคำ : 125 บำท Tel : 02-311-2156, 081-732-7893 เจำ้ ของและผู้จัดจำ� หนำ่ ย Fax : 02-742-6754 โรงเรยี นสำธติ จุฬำลงกรณม์ หำวิทยำลัย E-mail : [email protected] ซอยจุฬำ 11 ถนนพญำไท แขวงวังใหม่ กำ� กบั ศลิ ป เขตปทมุ วนั กรุงเทพฯ 10330 กญั ชลกิ ำ กัมปนำนนท์ โทร 02-218-2799 ภำพประกอบ ประเภทของส่งิ พิมพ์ : หนงั สือ ธนวฒั น ์ เกยี รตกิ ังวำนไชย ภำพถ่ำย อำจำรย์สรุ เชษฐ์ วิศวธรี ำนนท์2 สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ | ชน้ั ประถมศึกษำปท ่ี 2

ถ้อยแถลง โครงการพัฒนาต�าราเรยี น เป็นผลติ ผลรว่ มกันระหว่างโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยท้ังฝายประถม และฝายมัธยม ร่วมกับสมาคมผู้ปกครองและครโู รงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั โดยมคี วามตงั้ ใจทจี่ ะสนบั สนนุ ใหค้ ร ู อาจารย ์ ของโรงเรยี นไดห้ นั มาใหค้ วามสา� คญั กบั การเขยี นตา� ราเรยี น เพอ่ื ทจ่ี ะใหน้ กั เรยี นของเรามหี นงั สอื เรยี นด ี ๆ และสามารถแบง่ ปนั ใหก้ บัโรงเรียนอน่ื ๆ ในทว่ั ทกุ พน้ื ที่ของประเทศที่สนใจ ได้ใช้หนังสือเหล่านดี้ ว้ ย ซงึ่ปัจจุบันมีหนังสือที่ได้พิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มสวยงามหลายสิบเล่ม ในหลากหลายสาขาวชิ า อันเป็นส่งิ ทพี่ วกเราภาคภูมใิ จเปน็ อยา่ งยง่ิ ในนามของสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องขอขอบคุณคณาจารย์ ที่ได้มุ่งม่ันเขียนต�าราเหล่านี้ และผู้ที่เก่ียวข้องทุกท่านท่ีร่วมกันท�าให้ “โครงการพัฒนาต�าราเรียน” ส�าเร็จลุล่วงด้วยด ี ทา� ให้มีหนังสือดี ๆ ให้ลกู หลานของพวกเราไดใ้ ชเ้ รยี นตลอดไป ผศ.ดร.วฒุ ิพงศ กิตตธิ เนศวร นายกสมาคมผปู้ กครองและครู โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย สขุ ศึกษำและพลศึกษำ | ช้นั ประถมศกึ ษำปท ่ี 2 3

ค�ำนำ� วิชาสุขศึกษาเป็นวิชาท่ีสอนและพัฒนาการเรียนรู้ด้านสุขภาพ ทักษะชีวิต เจตคติคุณธรรม คา่ นยิ ม และการปฏิบตั เิ กีย่ วกับสุขภาพควบคู่กนั ไป ซ่งึ จะส่งผลใหผ้ ู้เรยี นมีสขุ ภาพทางกายทีด่ แี ละแข็งแรง วิชาพลศึกษาเปน็ วิชาทส่ี อนและพฒั นาการเรียนรใู้ นการบำ� รุงรักษาร่างกายของเราด้วยการออกก�ำลังกาย ซ่ึงเป็นกิจกรรมการเคลื่อนไหวท่ีต้องใช้กล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ตลอดจนเป็นเคร่ืองมือท่ีส�ำคัญที่จะท�ำให้ผู้เรียนพัฒนาท้ังร่างกายจติ ใจ อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญา กิจกรรมในช่ัวโมงพลศึกษาในช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เทอมต้น วิชาท่ีนักเรียนจะได้เรียนรู้คือ กีฬาแชร์บอล และการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐาน ซ่ึงเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนได้ใช้กล้ามเน้อื ทงั้ มดั ใหญ่และมดั เลก็ ฝกึ การประสานการท�ำงานของอวยั วะตา่ ง ๆ เช่น ตากบั มือในกฬี าแชรบ์ อล ฝกึ ฝนการเปน็ ผนู้ ำ� และผตู้ ามทด่ี ี ฝกึ ใหเ้ ดก็ เกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ และกลา้แสดงออก นอกจากนั้นระเบียบวินัยในการเข้าแถวและเดินแถว ความรับผิดชอบต่อตนเองและสงั คม เปน็ อีกส่งิ หน่ึงท่นี กั เรียนจะได้เรียนรู้ในเทอมนี้ ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 เล่มท่ี 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551จะทำ� ใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ กดิ ความรู้ เจตคติ และคา่ นยิ มทด่ี ี ตลอดจนมที กั ษะปฏบิ ตั ดิ า้ นสขุ ภาพ และการออกก�ำลังกายจนเปน็ นิสยั ท่ดี ตี ิดตัวตลอดไป อาจารย์สรุ เชษฐ์ วศิ วธรี านนท์ ผูจ้ ัดทำ�4 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2

สารบญัหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1: แชร์บอล (CHAIRBALL) ประวัตคิ วามเป็นมา 7 วธิ ีการเล่นแชร์บอล 7 ระเบียบการแข่งขนั และกติกาแชร์บอล 9 ทักษะการเคลอ่ื นไหวพนื้ ฐาน (Basic Movement Skills) 13 ทกั ษะการสร้างความคนุ้ เคยกับลูกบอล (Ball Control) 16 การรับและส่งบอลสองมอื ระดบั อก (Two handed Chest Pass) 19 การรบั และส่งบอลสองมอื เหนอื ศีรษะ (Two handed Overhead Pass) 20 การส่งบอลมอื เดียวเหนือไหล่ (Baseball Pass) 20 การส่งบอลสองมือดา้ นล่าง (Two Handed Underhand Pass) 21 การส่งบอลสองมือกระดอนพืน้ (Two handed Bounce Pass) 22 การรับและส่งบอลสองคนเคลอื่ นที่ (Wall Pass or Give and Go) 23 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 24หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2: สขุ ศกึ ษา - สุขปฏบิ ตั ิ (SANITATION) 25 ความหมายของสขุ ปฏิบตั ิ (ส�ำหรบั นกั เรยี น) 29 ประโยชน์ท่ีได้จากการปฏบิ ตั ิตามสุขปฏบิ ัติ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3: สุขศกึ ษา - การรักษาความสะอาด (CLEANLINESS) 30เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1, 2 และ 3 33 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 5

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4: ทกั ษะการเคลอื่ นไหวขน้ั พ้ืนฐาน (Bฺ ASIC MOVEMENT SKILLS) เดิน (WALK) 36 ว่งิ (RUN) 36 สไลด์ (SLIDE) 37 การหยดุ เดิน และการหยดุ วิ่ง (STOPPING) 37 การกลบั ตัว (SHUTTLE RUN) 38 การกระโดดดว้ ยขาข้างเดยี ว (HOPPING & SKIPPING) 38 ท่าทางในการออกวิ่ง เขา้ ที-่ ระวงั -ไป (4 Point Start) 39 การวิ่งขา้ มและลอดสิ่งกดี ขวาง (RUNNING OVER & PASS THROUGH OBSTACLES) 41 วิง่ และสไลดซ์ ิกแซก (ZIGZAG RUN & SLIDE FOOTWORK) 42 การเดินบนคานทรงตัว (WALK ON A BALANCE BEAM) 43 การกระโดดเชอื ก (JUMPING ROPE) 44 เกณฑ์การให้คะแนน 45หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5: สขุ ศึกษา - การออกก�ำลังกาย (EXERCISE) หลกั การออกก�ำลังกายเพ่อื สุขภาพ 46 47 ประโยชนข์ องการออกกำ� ลงั กาย หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6: สุขศึกษา - การรกั ษาทรวดทรง และบคุ ลกิ ภาพ 49 (SHAPE & PERSONALITY) 51เกณฑ์การใหค้ ะแนนหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4, 5 และ 6 53แบบบนั ทึกหลังเรียน 58แบบบนั ทกึ การออกกำ� ลงั กาย 62สุขบญั ญตั แิ หง่ ชาติ 10 ประการ 64สำ� รวจเดก็ สขุ ภาพด ี6 สุขศกึ ษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2

หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี 1กฬี ำแชร์บอล (ฺCHAIRBALL)ประวตั คิ วำมเปน็ มำ ผทู้ คี่ ดิ คน้ กฬี ำแชรบ์ อลขน้ึ มำคอื พนั เอกมงคล พรหมสำขำ ณ สกลนคร และไดม้ กี ำรพฒั นำขน้ึ มำตำมลำ� ดบั กฬี ำแชรบ์ อลเปน็ กฬี ำพนื้ฐำนของกฬี ำหลำยๆชนดิ เชน่ บำสเกตบอล แฮนดบ์ อล และเนตบอล เปน็ กฬี ำทเี่ ลน่ งำ่ ย ไมจ่ ำ� กดั เพศ และสถำนทเ่ี ลน่ อกี ทง้ั อปุ กรณใ์ นกำรเล่นสำมำรถนำ� วัสดุต่ำง ๆ รอบตัวมำดดั แปลงเพื่อควำมเหมำะสมได้ ลูกบอลที่ใช้ในกำรเล่นอำจจะใช้ได้ท้ังลูกวอลเลย์บอล ลูกเนตบอล หรือลูกฟุตบอลขนำดเล็ก โดยขนำดของลูกควรให้มีขนำดเหมำะสมกับผู้เล่น ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในกำรรับลูกนอกจำกตะกร้ำหวำยหรือพลำสติคแล้วยังสำมำรถใช้ส่ิงของอย่ำงอื่นที่มีขนำดใหญ่กว่ำลกู บอลท่ีใชเ้ ลน่ ใส่ลูกแทนได้ ในปจั จบุ นั กฬี ำแชรบ์ อลเปน็ กฬี ำชนดิ หนงึ่ ทนี่ ยิ มเลน่ เปน็ อยำ่ งแพรห่ ลำย สว่ นใหญจ่ ะเปน็ กฬี ำเชอื่ มสมั พนั ธภ์ ำยในองคก์ ร หนว่ ยงำน และโรงเรียน มำกกว่ำกำรแข่งขนั วิธกี ำรเลน่ แชร์บอล กำรเล่นแชร์บอลประกอบด้วยผู้เล่น 2 ทีม ทีมละ 7 คน ตัว สำ� รอง 5 คน กำรเลน่ แชรบ์ อลไมไ่ ดม้ ตี ำ� แหนง่ ทชี่ ดั เจนเหมอื นฟตุ บอล หรอื บำสเกตบอล เนอื่ งจำกสนำมแชรบ์ อลคอ่ นขำ้ งเลก็ ผเู้ ลน่ ในสนำม จะต้องสำมำรถปรับเปลี่ยนต�ำแหน่งกันได้ตลอดเวลำ ยกเว้นสอง ตำ� แหนง่ ทไี่ มเ่ ปลยี่ นกนั มำกคอื ผเู้ ลน่ ทถี่ อื ตะกรำ้ และผเู้ ลน่ ทปี่ อ้ งกนั ตะกร้ำ โดยมีช่ือเรยี กตำ� แหนง่ ต่ำง ๆ และกำรยืนต�ำแหน่งดังนี้ สุขศึกษำและพลศึกษำ | ชั้นประถมศึกษำปท ่ ี 2 7

หมายเลข 1 ผู้ป้องกันตะกร้า มีหน้าท่ีป้องกันไม่ให้ลูกลงตะกร้า ผู้เล่นต�ำแหน่งนี้หมายเลข 2 3 จะต้องรูปร่างสูง และมีทักษะการกระโดดท่ีดี กระโดดได้สูง เพ่ือจะ ทำ� ให้ได้เปรียบในการป้องกนั กองหลังด้านซ้ายและขวา มหี นา้ ท่ีหลกั ในการป้องกันการทำ� ประต ู ของฝ่ายตรงขา้ ม และเชื่อมเกมระหวา่ งผูป้ อ้ งกนั ตะกร้ากับกองกลาง หรอื กองหนา้ ผูเ้ ล่นต�ำแหน่งนจี้ ะต้องรูปรา่ งสูง 527 41 63หมายเลข 4 กองกลาง มหี นา้ ทเี่ ชอ่ื มเกมระหวา่ ง กองหลงั กบั กองหนา้ จะตอ้ งเปน็หมายเลข 5 6 ผ้เู ล่นทมี่ ีความคลอ่ งตัวสูง รวดเร็ว ว่องไว มที กั ษะการรบั -สง่ บอลทดี่ ีหมายเลข 7 สามารถท�ำประตูระยะไกลได้ดี กองหน้าด้านซ้ายและขวา มีหน้าที่ท�ำประตู รูปร่างได้ทั้งตัวเล็กและ ตัวสูง แต่ต้องเป็นผู้เล่นที่มีทักษะการยิงประตูที่ดี แม่นย�ำ ยิงประตู ระยะใกล้ และระยะไกลไดด้ ี ผู้ถือตะกร้า มีหน้าที่ถือตะกร้าเพื่อรับบอลจากเพื่อนร่วมทีม โดยจะ ตอ้ งยนื อยบู่ นเกา้ อ้ตี ลอดเวลา8 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2

5 2 7 41 3 6 ต�ำแหนง่ การยืนเม่ือเริม่ เล่นดว้ ยลกู กระโดด (Jump Ball)ระเบียบการแขง่ ขัน และกติกาแชรบ์ อล1. ผปู้ ้องกันตะกรา้ 1.1 ผู้ป้องกนั ตะกร้าเพียงคนเดยี วเท่านนั้ ที่มีสทิ ธิ์เขา้ ไปในเขตป้องกนั ตะกรา้ ได้ 1.2 ผู้ป้องกันตะกร้าสามารถเคล่ือนท่ีไปในเขตป้องกันตะกร้าพร้อมกับลูกบอลได้ โดย ปราศจากขอ้ จ�ำกดั ใด ๆ ภายในเวลา 3 วินาที 1.3 ผปู้ อ้ งกนั ตะกร้าสามารถออกมาร่วมเล่นในสนามแข่งขนั ไดแ้ ตต่ อ้ งปฏิบัติตนเหมือน กับผเู้ ล่นในสนามทัว่  ๆ ไป 1.4 หลงั จากลูกบอลลงตะกร้าจากการยงิ ประตู ให้ผู้ป้องกนั ตะกรา้ สง่ บอลจากแนวเส้น หลงั ของสนามเทา่ น้นั การท�ำผิดกตกิ าของผูป้ อ้ งกันตะกร้า 1.5 ท�ำใหล้ กู บอลออกเสน้ หลัง (สง่ เขา้ เล่นที่มุมสนาม) 1.6 น�ำลูกบอลจากสนามนอกเขตป้องกันตะกร้า เข้าไปในเขตป้องกันตะกร้า (ส่งท่ีมุม สนาม) 1.7 ขณะทล่ี กู บอลกำ� ลงั ลอยอยใู่ นทศิ ทางของการยงิ ประตเู หนอื ตะกรา้ ผปู้ อ้ งกนั ตะกรา้ ปัดโดนตะกร้า หรือสัมผัสตัวผู้ถือตะกร้า ซ่ึงผู้ตัดสินพิจารณาเห็นว่าการกระท�ำนั้น ท�ำให้บอลไม่ลงตะกร้า ผู้ตัดสินจะใหค้ ะแนนเป็นของผู้ยิงประตู สุขศึกษาและพลศึกษา | ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 9

เขตผู้ปอ้ งกันตะกรำ้ 1.8 เขตป้องกันตะกร้ำ และเส้นครึ่งวงกลมเป็นพื้นท่ีของผู้ป้องกันตะกร้ำเพียงคนเดียว เท่ำนนั้ 1.9 ผู้เล่นในสนำมเข้ำไปในเขตปอ้ งกนั ตะกร้ำ จะถูกลงโทษดังน้ี - ฝ่ำยป้องกัน เข้ำไปในเขตผู้ปอ้ งกันตะกร้ำ เพ่อื ปอ้ งกันกำรยงิ ประต ู ขณะท่มี กี ำร ยงิ ประตู ถำ้ ลูกบอลลงตะกร้ำให้ไดค้ ะแนน ถ้ำลูกบอลไม่ลงตะกร้ำใหโ้ ยนโทษ 2 ครั้ง (โดยผูเ้ ล่นท่ที ำ� กำรยงิ ประต)ู - ฝ่ำยปอ้ งกัน เขำ้ ไปในขณะทไ่ี มม่ กี ำรยิงประต ู (ส่งขำ้ ง) - ฝ่ำยรุก เขำ้ ไปในเขตป้องกนั ตะกรำ้ ของฝ่ำยตรงข้ำม (ส่งข้ำง) 1.10 ลกู บอลทวี่ ำง หรอื กลงิ้ อยใู่ นเขตปอ้ งกนั ตะกรำ้ ผปู้ อ้ งกนั ตะกรำ้ จะตอ้ งสง่ บอลภำยใน เวลำ 3 วินำที2. ผถู้ อื ตะกร้ำ 2.1 ตอ้ งอยูบ่ นเกำ้ อพี้ ร้อมกบั ตะกรำ้ ตลอดเวลำ 2.2 ไมม่ สี ทิ ธเ์ิ ขำ้ รว่ มเลน่ กบั ผเู้ ลน่ ในสนำมขณะกำ� ลงั แขง่ ขนั 2.3 ห้ำมใช้ตะกร้ำหรือส่วนหน่ึงส่วนใดของร่ำงกำย กีดกัน กำรปอ้ งกันของผปู้ อ้ งกันตะกร้ำ 2.4 สำมำรถเคลอ่ื นไหวตะกร้ำไดท้ กุ ลกั ษณะ 2.5 ผู้ถือตะกร้ำต้องใช้ตะกร้ำรับลูกบอลจำกกำรยิงประตู เท่ำน้ันห้ำมใช้มือหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่ำงกำยเพ่ือ ประโยชน์ในกำรรับลูก และต้องทรงตัวอยู่บนเก้ำอ้ีได้ อย่ำงมั่นคง 2.6 สำมำรถช้อนลูกบอลขณะกลิ้งอยู่ในสนำม โดยต้องไม่ ตกจำกเก้ำอี้ หรือมีส่วนหนึ่งส่วนใดของร่ำงกำยสัมผัส พน้ื สนำม10 สุขศึกษำและพลศึกษำ | ชั้นประถมศกึ ษำปท ่ ี 2

3. กำรเล่นลกู บอล อนุญำตให้ผเู้ ลน่ กระทำ� ดงั นี้ 3.1 จบั ต ี ปดั กลงิ้ สง่ หรอื ขวำ้ งลกู บอลดว้ ยมอื แขน ศรี ษะ หรือลำ� ตัวเหนอื เอวขึ้นไป 3.2 ครอบครองลูกบอลด้วยมือเดียวหรือสองมือ หรือกด ลูกบอลท่ีอยู่บนพ้ืนสนำม หรือโยนลูกบอลขึ้นไปใน อำกำศได้ โดยใช้เวลำไม่เกิน 3 วนิ ำที 3.3 ในกรณีท่ีผู้เล่นถูกป้องกันแบบประชิด ผู้เล่นคนน้ันจะ ต้องสง่ บอลภำยในเวลำ 3 วินำที 3.4 ถอื ลกู บอล และเคลอื่ นไหวไปมำไดด้ ว้ ยกำรหมนุ ตวั โดย มีเทำ้ หลกั ไม่อนญุ ำตให้ผู้เลน่ กระท�ำดงั นี้ 3.5 ห้ำมผู้เล่นกระโดดยิงประตู หรือเปล่ียนเท้ำหลัก ขณะ ยงิ ประตู (สง่ ข้ำง) 3.6 เจตนำพุ่งตัวลงเพือ่ ครอบครองลกู บอล (สง่ ข้ำง) 3.7 เลน่ ลกู บอลดว้ ยสว่ นหนงึ่ สว่ นใด ตง้ั แตเ่ อวลงไป (สง่ ขำ้ ง) 3.8 ยนื่ ลูกบอลให้เพือ่ นร่วมทีมด้วยมอื ตอ่ มือ (สง่ ข้ำง) 3.9 ทบุ ตบ ต ี ลูกบอลจำกมือค่ตู ่อสู้ (บนั ทึกฟำลว์ , สง่ ข้ำง) 3.10 ดึง ดัน ผลัก ชก ชน เตะ คู่ต่อสู้ทุกลักษณะ (บันทึก ฟำล์ว, ส่งข้ำง) ถ้ำเป็นกำรฟำล์วที่รุนแรงผู้ตัดสินอำจ จะตดั สทิ ธิ์ให้ออกจำกกำรแข่งขนั ได้ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ | ชน้ั ประถมศึกษำปท ี่ 2 11

4. กำรได้คะแนน 4.1 จะนับคะแนน เม่ือผู้ยิงประตูมีเท้ำหลักติดอยู่กับพ้ืน หรือมีท้ังสองเท้ำติดอยู่กับพ้ืน และบอลไดล้ งตะกรำ้ โดยผถู้ อื ตะกรำ้ ตอ้ งทรงตัวอยบู่ นเกำ้ ออี้ ย่ำงมัน่ คง 4.2 ไดค้ ะแนนเมอื่ บอลกลง้ิ อยใู่ นเขตผปู้ อ้ งกนั ตะกรำ้ และผถู้ อื ตะกรำ้ สำมำรถใชต้ ะกรำ้ ชอ้ นบอลให้อยูใ่ นตะกรำ้ ไว้ได้ 4.3 ผู้เล่นฝ่ำยป้องกันพยำยำมป้องกันโดยผิดกติกำ ถ้ำลูกบอลลงตะกร้ำ ให้นับว่ำได้ คะแนน 4.4 คะแนนที่ไดจ้ ำกกำรยิงประต ู มีคำ่ 2 คะแนน คะแนนทไ่ี ดจ้ ำกกำรยิงโทษ มีค่ำคร้ังละ 1 คะแนน 4.5 ฝ่ำยท่ที �ำคะแนนไดม้ ำกกวำ่ เป็นฝำ่ ยชนะในกำรแขง่ ขนั5. เวลำกำรแขง่ ขนั เดก็ เล็ก 5.1 เวลำกำรแขง่ ขนั แบง่ ออกเปน็ 2 ครง่ึ โดย ก�ำหนดตำมอำยขุ องผ้แู ข่งขันดงั น ้ี - อำยไุ มเ่ กนิ 12 ป  ครงึ่ ละ 15 นำท ี พกั ระหว่ำงครง่ึ 5 นำที - อำยตุ ง้ั แต ่ 15 ปข น้ึ ไป ครง่ึ ละ 20 นำที พกั ระหวำ่ งครงึ่ 5 นำที 5.2 เวลำนอก ให้แต่ละทีมขอเวลำนอกได้ คร่ึงเวลำละ 2 ครงั้ คร้ังละ 1 นำที เดก็ โต12 สุขศึกษำและพลศึกษำ | ชนั้ ประถมศึกษำปท ่ ี 2

ทกั ษะพื้นฐานเบื้องต้นทีส่ ำ� คญั ของการเล่นแชรบ์ อล ทกั ษะพนื้ ฐานเบอ้ื งตน้ เปน็ สง่ิ ทส่ี ำ� คญั เปน็ อยา่ งมากสำ� หรบั ทกุ ชนดิ กฬี าเพราะเปน็ พน้ื ฐานทจ่ี ำ� เปน็ ทจ่ี ะพฒั นาไปสทู่ กั ษะในขน้ั สงู ทตี่ อ่ ไป ซง่ึ ตอ้ งใชเ้ วลาในการฝกึ ฝนจนถกู ตอ้ ง และชำ� นาญในกฬี าแชร์บอลมที ักษะพน้ื ฐานเบอื้ งต้นทสี่ �ำคัญคอื 1 ทักษะการเคลอ่ื นไหวพื้นฐาน 2 ทักษะการสร้างความคนุ้ เคยกบั ลูกบอล 3 ทักษะการรบั และส่งบอลสองมอื ระดับอก 4 ทักษะการรับและส่งบอลสองมอื เหนอื ศีรษะ 5 ทกั ษะการส่งบอลมือเดยี วเหนือไหล่ 6 ทกั ษะการสง่ บอลสองมือด้านล่าง 7 ทักษะการส่งบอลสองมอื กระดอนพื้น 8 ทกั ษะรับและสง่ บอลสองคนเคลอ่ื นที่ทักษะการเคลือ่ นไหวพ้ืนฐาน (Basic Movement Skills) 1.1 ทักษะการวิ่ง (Running Skills) โนม้ ลำ� ตวั มาดา้ นหนา้ เลก็ นอ้ ย แขนแกวง่ ตามแนวดา้ นขา้ งลำ� ตวั ตดั มาดา้ นหนา้ ขอ้ ศอกงอ90 องศา ลงพนื้ ดว้ ยปลายเทา้ ถา้ ตอ้ งการวง่ิ ใหเ้ รว็ หรอื ลงพน้ื ดว้ ยกลางฝา่ เทา้ ถา้ ตอ้ งการวง่ิ เหยาะ ทกั ษะน้ีใช้ในการวง่ิ เข้าหาลูก และใชใ้ นการว่ิงหนกี ารป้องกนั ของคตู่ ่อสู้12 3 สุขศึกษาและพลศึกษา | ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 13

1.2 ทกั ษะการว่งิ สไลดด์ า้ นข้าง (Side Stepping Skills ) เป็นการเคล่ือนท่ีไปด้านข้าง โดยการก้าวเท้าข้างใดข้างหน่ึงไปด้านข้าง แล้วลากหรือ ยกเท้าอกี ข้างเข้ามาชดิ พรอ้ มถา่ ยน้�ำหนักตาม ทกั ษะนผี้ เู้ ลน่ กองหลังจะใชม้ ากในการตามประกบผู้เลน่ กองหนา้ ฝ่ายตรงข้ามในระยะสนั้  ๆ โดยหันหลงั ให้กับคนถือตะกรา้ ของคู่ตอ่ สู้ เพ่ือจะไดม้ องเหน็ ผเู้ ลน่ ทกุ คนในสนาม12 3 1.3 ทักษะการกระโดด (Jumping Skills) กระโดดดว้ ยขาสองขา้ ง เปน็ การกระโดดโดยใชพ้ นื้ ทใ่ี นการกระโดดนอ้ ยทสี่ ดุ อาจกระโดดได้ไม่สูงมากนัก เริ่มจากการย่อเข่า เหว่ียงแขนไปด้านหลัง เกร็งกล้ามเนื้อท้องแล้วถีบขาพร้อมเหวย่ี งแขนทง้ั สองมาดา้ นหนา้ อยา่ งรวดเรว็ เหยยี ดตวั ขน้ึ ไปใหส้ งู ทส่ี ดุ ลงสพู่ นื้ ดว้ ยการยอ่ เขา่ ผอ่ นน้ำ� หนักลงอยา่ งนุ่มนวลด้วยขาทง้ั สองข้าง ทกั ษะนใ้ี ชใ้ นการกระโดดรบั ลูก และกระโดดปดั ลกู เพ่ือป้องกนั ลกู ไม่ใหล้ งตะกร้า 12 3 414 สุขศกึ ษาและพลศึกษา | ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2

1.4 ทักษะการกระโดดดว้ ยขาขา้ งเดยี ว (Hopping & Skipping Skills) เปน็ การกระโดดทต่ี อ้ งอาศยั พน้ื ทใ่ี นการวง่ิ กอ่ นกระโดด โดยการกระโดดใชข้ าขา้ งทถี่ นดั ในการกระโดด ส่วนขาอีกข้างให้งอหัวเข่าและยกสูงระดับสะโพกเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย แขนตรงข้ามกับขาที่ไม่ได้ใช้กระโดดให้ยกสูงเพื่อรักษาสมดุลเช่นกัน ลงสู่พื้นด้วยขาข้างที่ใช้กระโดดด้วยการยอ่ เขา่ ผอ่ นแรง ทกั ษะนใ้ี ชใ้ นการกระโดดรบั ลูก และกระโดดปัดลูกเพือ่ ปอ้ งกนั ลกู ไมใ่ ห้ลงตะกร้า 12 12Hopping - ยกเขา่ สูง แกว่งแขนสงู Skipping - คลา้ ยการเขยง่ เขา่ ไมส่ งู 1.5 ทกั ษะการกลบั ตวั (Shuttle Run) หยุดตัวที่เป้าหมายโดยมีเท้าน�ำและเท้าตาม กลับตัวด้านที่ขาอยู่ด้านหลัง โดยทิ้งน�้ำหนักทป่ี ลายเท้า และบิดตวั กลับมา แขนกางออกเล็กนอ้ ยเพอ่ื รักษาสมดุล ถีบขาท่อี ยู่ด้านหลงั ออกมาวางดา้ นหนา้ แล้วออกว่ิงต่อไป 1 2 34 สุขศึกษาและพลศกึ ษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 15

1.6 ทักษะการว่งิ ซกิ แซก (Zigzag Skills) เป็นการวิ่งในลักษณะฟันปลาเปล่ียนทิศทางซ้ายขวา ถ้าจะว่ิงไปทางขวาให้ก้าวเท้าขวาออกไปกอ่ น ถ้าจะวงิ่ ไปทางซ้ายใหก้ ้าวเท้าซา้ ยออกไปกอ่ น หลังจากน้ันใหก้ ้าวเทา้ อีกข้างตามไป ทักษะน้ีจะใช้ในการวง่ิ เพอ่ื หลบหลกี คูต่ อ่ สูโ้ ดยจะต้องใชก้ ารเปลีย่ นทศิ ทางท่ีรวดเรว็122 ทักษะการสรา้ งความค้นุ เคยกบั ลูกบอล (Ball Control) เปน็ ทกั ษะทฝี่ กึ ใหเ้ ราคนุ้ เคยกบั นำ้� หนกั ขนาด และการกระดอนของลกู แชรบ์ อล และเปน็พน้ื ฐานทสี่ �ำคัญของทักษะทีส่ �ำคัญ ๆ ต่อไป2.1 การหมุนลกู บอลอ้อมรอบตวั เอง เชกหา้ เววบด่าีย่ อ็ก(ลงSลทกูเใอpกหีม่บาoรอืเ้อจรrด็คลจ็วt่อคขะใน้ึนหวTหขาล้iใ้าถมp่นชง้าร้แsไเทด)ลู้ร�ำ้ก็ง ฝึกการจบั สัมผสั สร้างความคนุ้ เคยกับลูกบอล 1) ให้นักเรียนถือลูกบอลสองมือไว้ระดับสายตา ด้าน หน้าของตวั เอง และหมุนบอลรอบศีรษะของตัวเอง 2) ใหน้ กั เรยี นถอื บอลสองมอื ไวร้ ะดบั เอว และหมนุ บอล รอบเอวของตัวเอง 3) ให้นักเรียนถือบอลสองมือไว้ระดับหัวเขา่ และหมุน บอลรอบหวั เข่าของตวั เอง 4) ให้นักเรียนยนื ตรงขาชดิ กัน ถอื บอลสองมือไว้ระดบั ข้อเท้า และหมุนบอลรอบข้อเทา้ ทง้ั สองข้าง16 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา | ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2

5) เมื่อนักเรียนท�ำได้คล่องขึ้นโดยที่ลูกไม่หลุดออกจากมือ ให้หมุนบอลรอบตัวเอง ตง้ั แตศ่ รี ษะ เอว หัวเข่า และข้อเทา้ ท�ำสว่ นละ 2 - 3 รอบหมุนบอลรอบศีรษะ หมนุ บอลรอบเอว หมุนบอลรอบหวั เขา่ หมุนบอลรอบข้อเท้า 2.2 การโยนและรบั ลูกบอลด้วยตวั เองสองมอื ฝึกความสัมพันธร์ ะหว่างตากับมือ 1) ให้นักเรยี นถือลกู บอลสองมอื แบบหงายมอื ไวด้ า้ นหน้าระดับเอวของตวั เอง 2) ผลกั ลกู บอลขนึ้ โดยใชแ้ รงจากแขนทงั้ สองขา้ งออกแรงพรอ้ มๆกนั สง่ ลกู บอลขน้ึ ไปโดยลกู บอลจะตอ้ งลอยสงู ขึ้นไปจากศีรษะประมาณ 1 เมตร 3) เมอ่ื ลกู บอลตกลงมาให้ใช้สองมือรบั ไวใ้ ห้ได้ 4) ใหน้ กั เรยี นทำ� ซำ้� ๆจนเกดิ ความชำ� นาญ สงั เกตไดจ้ ากความสงู ของลกู และการรบั ลูกทไี่ ม่ต้องเคลือ่ นทีจ่ ากจุดทีโ่ ยนลกู ข้ึนไปมากนกั 1 23 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 17

2.3 การทุม่ บอลลงพื้นและรบั ลกู บอลดว้ ยตัวเอง สรา้ งความคุ้นเคยกบั การกระดอน 1) ใหน้ กั เรยี นถอื ลกู บอลลกั ษณะควำ�่ มอื ลง นวิ้ โปง้ ทง้ั สองขา้ งอยใู่ กล ้ ๆ กนั และกางนว้ิ ออกเพอ่ื คุมบอลใหไ้ ด้มากท่สี ุด 2) ผลกั ลูกบอลลงสพู่ ้นื โดยใช้แรงจากแขนท้ังสองขา้ งออกแรงพรอ้ ม ๆ กนั 3) เมื่อบอลกระดอนข้ึนมาให้รับบอลไว้ โดยยังคงให้มือคว�่ำอยู่ระดับเอวเหมือนเดิม และท�ำซ�ำ้  ๆ 4) เพม่ิ เตมิ : ทำ� แบบตอ่ เนอ่ื ง โดยเมอื่ บอลกระดอนขนึ้ มาถงึ มอื แลว้ ใหผ้ ลกั บอลลงไปเกดนเบัก็หวิ้ด(มเ มยๆว้Sกืออืียยpรมทดตoอด็ าตจี่ัวrากคเับรจtอจวงบเคงนกมาTอแรเดิมาลกั้งบiกจรpแจนิบไาู้นsปลไตกป)คว้ กำ่� ใไ ุ้นาหหมๆเร่อฝ้รคเทืยอกึกยำ�ู่ตนโรยบ็งวิดิ้ นท่อมรยอืี่ ับ ๆ 1 2 2.4 การโยนและรับลกู บอลดว้ ยตวั เองมือเดียว ฝึกความสัมพนั ธ์ระหว่างตากบั มอื ขัน้ สงู 1) ใหน้ กั เรยี นถอื ลกู บอลมอื เดยี วแบบหงายมอื แขนเหยยี ดตรง ไวด้ า้ นขา้ งของตวั เอง 2) ผลกั ลกู บอลขนึ้ โดยใชแ้ รงจากแขนและขอ้ มอื สง่ ลกู บอลขนึ้ ไปโดยลกู บอลจะตอ้ ง ลอยสงู ขน้ึ ไปจากศีรษะประมาณ 1 เมตร 3) เมอ่ื ลูกบอลตกลงมาให้ใชม้ ือข้างเดิมรบั ไว้ใหไ้ ด้ 4) ใหน้ กั เรยี นทำ� ซำ�้  ๆ จนเกดิ ความชำ� นาญ สงั เกตไดจ้ ากความสงู ของลกู และการรบั ลกู ทีไ่ ม่ตอ้ งเคลือ่ นที่จากจดุ ท่โี ยนลกู ขึ้นไปมากนัก 5) เพม่ิ เตมิ : ใหโ้ ยนบอลข้ามศรี ษะจากมอื ขวามาที่มอื ซ้าย และมือซา้ ยไปมอื ขวา ท�ำ ซ้�ำ ๆ จนเกดิ ความชำ� นาญ 18 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2

1 233 การรบั และสง่ บอลสองมอื ระดบั อก (Two handed Chest Pass) การรบั และสง่ บอลเปน็ ทกั ษะทสี่ ำ� คญั ในกฬี าแชรบ์ อล ทตี่ อ้ งใชก้ ารรบั และสง่ บอลเพอ่ื สรา้ งโอกาสในการท�ำประตูการรับและส่งบอลสองมือระดับอกเป็นการรับและส่งบอลท่ีเน้นความรวดเร็ว และส่งให้เพื่อนในระยะใกล้ๆ โดยมีวธิ ีการปฏบิ ตั ิดงั น้ี 1 ให้นักเรียนยืนหันหน้าเขา้ หาคขู่ องตัวเอง ห่างกนั ประมาณ 3 - 4 เมตร 2 การส่งบอล: นักเรียนท่ีถือลูกบอลยืนในท่าทรงตัว ถือลูกบอลไว้ท่ีระดับอก น้ิวหัวแม่ มืออยู่ด้านหลังลูก ข้อศอกไม่กาง และไม่เกร็ง ผลักลูกบอลออกไป โดยใช้แรงส่งจาก แขน และขอ้ มือ พรอ้ มกบั ก้าวเทา้ ใดเทา้ หนึง่ ไปดา้ นหนา้ และสะบดั ขอ้ มือลงปลายน้วิ ชไ้ี ปทเี่ ป้าหมายอยทู่ ห่ี น้าอกของผูร้ บั บอล 3 การรบั บอล: ยนื่ แขนไปดา้ นหนา้ ระดบั อก ฝา่ มอื ทง้ั สองขา้ งหนั ไปหาลกู บอล ปลายนวิ้ ช้ีขึ้น เม่ือบอลมาสัมผัสกับฝ่ามือให้ก้าวเท้าไปด้านหลัง พร้อมกับผ่อนแขนทั้งสองข้าง เขา้ หาตวัน้ิวหวั แม่มอื อยูด่ ้านหลังลูก สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 19

4 การรบั และสง่ บอลสองมือเหนอื ศรี ษะ (Two handed Overhead Pass) การรบั และส่งบอลสองมอื เหนือศรี ษะ เป็นการรับและสง่ บอลทเ่ี นน้ ระยะทางไกล และสูงเหมาะในการสง่ ใหเ้ พือ่ น หรือยงิ ประตใู นระยะไกล โดยมีวธิ ีการปฏบิ ัติดงั น้ี 1 ให้นกั เรยี นยนื หนั หน้าเขา้ หาคู่ของตัวเอง ห่างกนั ประมาณ 5 - 6 เมตร 2 การสง่ บอล: นกั เรยี นทถ่ี อื ลกู บอลยนื ในทา่ ทรงตวั ถอื ลกู บอลไวด้ า้ นบนหลงั ศรี ษะ นว้ิ หัวแม่มืออยู่ด้านหลังลูก ข้อศอกช้ีไปด้านหน้า ไม่กาง ผลักลูกบอลออกไป โดยใช้แรง ส่งจากแขนและข้อมือ พร้อมกับก้าวเท้าใดเท้าหนึ่งไปด้านหน้า และสะบัดข้อมือลง ปลายนิ้วชีไ้ ปที่เป้าหมายอยทู่ ีห่ นา้ อกของผูร้ บั บอล 3 การรบั บอล: ยน่ื แขนไปดา้ นหนา้ ระดบั อก ฝา่ มอื ทง้ั สองขา้ งหนั ไปหาลกู บอล ปลายนวิ้ ชี้ข้ึน เมื่อบอลมาสัมผัสกับฝ่ามือให้ก้าวเท้าไปด้านหลัง พร้อมกับผ่อนแขนท้ังสองข้าง เขา้ หาตัว ถอื ลูกบอลไว้ดา้ นบนหลังศรี ษะ5 การสง่ บอลมือเดยี วเหนอื ไหล่ (Baseball Pass) การรับและส่งบอลมือเดียวเหนือไหล่ เป็นการส่งบอลท่ีในระยะไกล เช่น การส่งเพื่อเล่น“ลูกลักไก”่ (Fast break) โดยมีวธิ ีการปฏบิ ตั ดิ งั นี้ 1 ให้นกั เรียนยืนหนั หนา้ เขา้ หาคขู่ องตัวเอง หา่ งกันประมาณ 7 - 8 เมตร20 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2

กขเกาารริดดะสคคยง่ ววะรบาาใะ(อกมมเSยกลลผแpะรม้กทดิมo็ดือ่อพน่าrคเนงtยลดอวา�ำยีแTอาดวมลกคiไเดpว้ไหวรปครsงู้้นเ)า่เ่อรือรยย่ืไอ่ิมห ๆยเฝลพ ึกๆ่เรจจพาาะิ่มะก 2 นักเรียนท่ีถือลูกบอลยืนในท่าทรงตัว ยกลูกบอล ไว้เหนือหัวไหล่ขวา (ถ้าถนัดมือขวา) ลูกบอลอยู่ ประมาณระดับหู หันหัวไหล่ซ้ายมาด้านหน้า อาจ ใชม้ อื ซา้ ยชว่ ยประคองลกู ดา้ นบน ยนื่ มอื ซา้ ยไปดา้ น หนา้ เพอ่ื ชว่ ยในการทรงตวั บดิ ไหลข่ วามาดา้ นหนา้ พรอ้ มผลกั ลกู บอลออกไป โดยใชแ้ รงสง่ จากหวั ไหล่ และขอ้ มอื สะบดั ขอ้ มอื ลง ปลายนวิ้ ชไ้ี ปทเี่ ปา้ หมาย อยูท่ ่ีหนา้ อกของผู้รบั บอล ลูกบอลอย่ปู ระมาณระดบั ห ู หนั หวั ไหล่ซา้ ยมาด้านหนา้6 การสง่ บอลสองมอื ดา้ นล่าง (Two Handed Underhand Pass) การส่งลูกสองมือด้านล่าง เป็นการส่งได้ทั้งระยะใกล้ และระยะไกล หรืออาจจะใช้ในการทำ� ประตไู ด้ดีอกี ดว้ ย โดยมีวธิ กี ารปฏบิ ตั ิดงั น้ี 1 ใหน้ กั เรียนยืนหนั หน้าเข้าหาคขู่ องตัวเอง ห่างกนั ประมาณ 5 - 6 เมตร สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 21

2 นกั เรยี นทถ่ี อื ลกู บอลยนื ในทา่ ทรงตวั ปลายนวิ้ ทงั้ สบิ ชหี้ าพนื้ ขอ้ ศอกไมก่ าง ลกู บอลอยู่ ดา้ นหนา้ ขา กา้ วเทา้ ขา้ งทถ่ี นดั มาดา้ นหนา้ พรอ้ มใชม้ อื ทง้ั สองขา้ งผลกั บอลออกจากตวั และกระดกข้อมอื ขน้ึ สง่ แขนไปที่เปา้ หมายอยทู่ ีห่ น้าอกของผู้รบั บอล ปลายนิ้วทงั้ สิบช้ีหาพน้ื ข้อศอกไมก่ าง7 การสง่ บอลสองมอื กระดอนพน้ื (Two handed Bounce Pass) การรับและส่งบอลสองมือกระดอนพื้น เหมาะในการส่งให้เพื่อนในพื้นที่จ�ำกัด หรือมีฝ่ายป้องกนั อยูด่ า้ นหนา้ ทำ� ใหไ้ มส่ ามารถส่งให้โดยตรงได้ มวี ธิ ีการปฏิบตั ดิ งั นี้ 1 ใหน้ กั เรยี นยนื หันหนา้ เข้าหาค่ขู องตวั เอง ห่างกันประมาณ 5 - 6 เมตร 2 การสง่ บอล: นกั เรยี นทถ่ี อื ลกู บอลยนื ในทา่ ทรงตวั ถอื ลกู บอลไวท้ ร่ี ะดบั อก นว้ิ หวั แมม่ อื อยู่ด้านหลังลูก ข้อศอกไม่กาง และไม่เกร็ง ผลักลูกบอลลงไปท่ีพื้นด้านหน้าโดยให้จุด กระดอนของลกู อยดู่ า้ นหนา้ ของผรู้ บั บอลประมาณ 2 - 3 เมตร ใชแ้ รงสง่ จากแขน และ ขอ้ มอื พรอ้ มกบั กา้ วเท้าใดเทา้ หนงึ่ ไปด้านหนา้ และสะบัดข้อมอื ลงปลายนวิ้ ช้ีไปทีพ่ นื้ 1 222 สุขศึกษาและพลศกึ ษา | ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

8 การรับและส่งบอลสองคนเคลอ่ื นที่ (Wall Pass or Give and Go) การรบั และสง่ บอลสองคนเคลอื่ นที่ เปน็ การนำ� ทกั ษะทเ่ี รยี นมาใชใ้ นสถานการณท์ ใี่ กลเ้ คยี งกบั การแขง่ ขันจริงๆ มวี ธิ กี ารปฏิบตั ดิ งั นี้ 1 ให้นักเรียนยืนหันหน้าเข้าหาคู่ของตัวเอง ห่างกันประมาณ 3 - 4 เมตร โดยท่ีคนแรก ยนื ทจ่ี ุด A และถอื ลกู บอลไว้ คนท่ีสองยืนทจี่ ดุ B รอรบั ลูก 2 ให้นักเรียนท่ีจุด A ส่งบอลให้นักเรียนท่ีจุด B เม่ือส่งเสร็จแล้วให้วิ่งไปด้านหน้ารอรับ ลกู ทจี่ ุด C 3 นักเรียนท่จี ุด B เมอ่ื รับลกู แลว้ ใหส้ ง่ บอลไปให้นกั เรยี นทจ่ี ุด C ต่อไป และเม่อื ส่งเสรจ็ แลว้ ใหว้ ง่ิ ไปด้านหนา้ รอรบั ลกู ทจ่ี ดุ D ต่อไป 4 ท�ำซ้�ำจะถึงจุดสุดท้าย แล้วกลบั มาเขา้ แถว A C E ทิศทางการส่งบอล B D F ทศิ ทางการวง่ิ 12 สุขศึกษาและพลศกึ ษา | ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 23

เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นทักษะหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 แชรบ์ อล (CHAIRBALL)รายการประเมนิ 5 คะแนน ระดับคะแนน หมายเหตุ 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน ท�ำผิดหักโยนแลว้ ตบมอื 1 ความสงู ของ ทำ� ผิดพลาด ทำ� ผดิ พลาด ทำ� ผดิ พลาด ครง้ั ละ 0.5รบั ลูกคนเดยี ว ลูกเกิน 1 เมตร อย่างใดอย่าง อยา่ งใดอย่าง อยา่ งใดอย่าง คะแนน จากศรี ษะ หนง่ึ ใน 2 ขอ้ หนึ่งใน 2 ข้อ หนึง่ ใน 2 ขอ้ (10ครั้ง) 2 สามารถยนื 2 ครัง้ 4 คร้ัง 6 ครง้ั ท�ำผดิ หกั รบั ลูกได้ โดย ครัง้ ละ 0.5 ไม่ตอ้ งเคลอื่ นที่ คะแนน ไปรบัรับสง่ บอล 1 มีทา่ ทางการ ท�ำผิดพลาด ท�ำผดิ พลาด ท�ำผดิ พลาด(อยู่กับท)ี่ สง่ บอลถูกตอ้ ง อย่างใดอยา่ ง อย่างใดอย่าง อย่างใดอย่าง 2 มที า่ ทางการ หน่งึ ใน 3 ขอ้ หนง่ึ ใน 3 ข้อ หน่งึ ใน 3 ข้อ รบั บอลถกู ตอ้ ง 2 ครงั้ 4 คร้ัง 6 ครง้ั 3 รบั บอลได้ โดยทบี่ อลไม่ สมั ผสั พนื้รับส่งบอล 1) รบั ส่งบอลได้ ทำ� ผดิ พลาด ทำ� ผดิ พลาด ทำ� ผดิ พลาด ท�ำผดิ หักเคลื่อนท่ี ต่อเนอ่ื งบอลไม่ อยา่ งใดอย่าง อยา่ งใดอย่าง อยา่ งใดอยา่ ง ครงั้ ละ 0.5 สัมผสั พื้น หน่งึ ใน 3 ขอ้ หน่ึงใน 3 ข้อ หนงึ่ ใน 3 ขอ้ คะแนน 2) เคลอ่ื นทดี่ ว้ ย 2 คร้ัง 4 ครงั้ 6 คร้ัง การวงิ่ 3) เคลอ่ื นท่ไี ดถ้ กู ตำ� แหน่งรบั สง่ บอลขา้ มเชอื ก บอลข้ามเชือก บอลขา้ มเชอื ก บอลข้ามเชอื ก บอลข้ามเชอื ก (10ครัง้ ) 10 คร้ัง 9 ครงั้ 8 ครั้ง 7 ครัง้ การยิงประตู ลกู เข้าประตู ลูกเขา้ ประตู ลูกเข้าประตู ลกู เขา้ ประตู(สอบเป็นกลุ่ม) 20 ลกู ขึ้นไป 16 - 19 ลูก 12 - 15ลกู ต่ำ� กวา่ 12 ลกูจบั เวลา 1 นาทีแขง่ ขนั ทีม ชนะเลศิ และให้ รองชนะเลศิ และ อันดับ 3 และ 4 ไม่ผา่ นรอบแรกระหว่างหอ้ ง ความรว่ มมือ ตรง ใหค้ วามร่วมมือ และให้ความร่วม และใหค้ วามร่วม ตอ่ เวลา มีนำ้� ใจ ตรงตอ่ เวลา มอื ตรงต่อเวลา มอื ตรงต่อเวลา นกั กีฬา มนี ้ำ� ใจนกั กีฬา มนี ำ้� ใจนักกฬี า มนี ำ�้ ใจนกั กฬี า24 สุขศกึ ษาและพลศึกษา | ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ 2สุขศกึ ษำ - สุขปฏิบัติ (ฺSANITATION) กำรมีสุขภำพท่ีดี สมบูรณ์ท้ังร่ำงกำย และจิตใจ มีชีวิตอยู่ในสังคมไดอ้ ยำ่ งมีควำมสุข เป็นควำมตอ้ งกำร และควำมจ�ำเป็นพน้ื ฐำนของชวี ติ คนเรำ แตอ่ ยำ่ งไรกต็ ำมกำรทเ่ี รำจะมสี ขุ ภำพทด่ี ไี ดน้ นั้ เปน็ สงิ่ทผ่ี อู้ น่ื ไมส่ ำมำรถหยบิ ยนื่ ใหเ้ รำได ้ เรำจงึ จำ� เปน็ จะตอ้ งปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตวัเองเทำ่ นนั้ เพยี งแตเ่ รำตอ้ งเรมิ่ ฝกึ ฝนตนเอง และปลปู ฝงั ใหส้ มำชกิ ในครอบครวั มพี ฤตกิ รรมในกำรปอ้ งกนั โรค และสง่ เสรมิ สขุ ภำพทถ่ี กู ตอ้ ง กำรนำ� แนวทำงสขุ ปฏบิ ตั มิ ำใชอ้ ยำ่ งสมำ�่ เสมอจนเกดิ เปน็ นสิ ยั จะทำ� ให้เดก็ และเยำวชน มพี ฤตกิ รรมทพี่ งึ ประสงคอ์ นั จะนำ� ไปสกู่ ำรมสี ขุ ภำพที่ดีทง้ั รำ่ งกำย และจิตใจควำมหมำยของสุขปฏบิ ัติ (สำ� หรบั นักเรียน) กำรพักผ่อน หมำยถึง กำรหยุดพักระหว่ำงกำรท�ำงำน หรือกำรท�ำกิจกรรมต่ำง ๆ ที่ท�ำมำต่อเนื่องเป็นระยะเวลำนำน ๆ ท�ำให้เรำผ่อนคลำย ลดควำมตึงเครียด และควำมเหน็ดเหน่ือยอ่อนเพลียลดน้อยลง1 อำบน�้ำทุกวัน อย่ำงนอ้ ยวนั ละ 2 ครัง้ (เชำ้ -เยน็ ) เพือ่ ให้ ร่ำงกำยสะอำด สดช่ืน เพA่ิมdเdตมิon การอาบน้�ายังชว่ ยกระตนุ้ ระบบไหลเวียนเลอื ดทา� ให้ผิวพรร³สดใส และกระต้นุ ระบบภูมิค้มุ กนั (ตอ่ มน�้าเหลอื ง) ทา� ให้ไมเ่ จบ็ ป†วยงา่ ยอกี ด้วย สขุ ศึกษำและพลศึกษำ | ช้ันประถมศกึ ษำปท ี่ 2 25

2 แปรงฟันทกุ วนั เมอื่ ต่ืนนอน ก่อนนอน หรือหลงั อำหำรทุกม้ือ เพAิ่มdเdตมิon ¿˜นผุ มักเกิดบริเว³ทมี่ คี ราบจุลินทรีย์มาก ๆ และ ท�าความสะอาดได้ยาก ดังนนั้ การใช้ ”ไหมขดั ¿˜น” จะชว่ ยใหท้ า� ความสะอาด¿น˜ ไดส้ ะอาดมากขนึ้ ด้วย 3 นอนหลบั ใหเ้ ต็มท ี่ วนั ละ 8 - 12 ชว่ั โมง เพAมิ่ dเตdิมon เดก็ อายุ 6 - 11 ป‚ ควรนอนวันละ 10 ช่วั โมง เดก็ อายุ 12 - 15 ป‚ ควรนอนวนั ละ 8 - 9 ช่ัวโมง 4 รบั ประทำนอำหำรทมี่ ีประโยชน์ เช่น ผกั ผลไม้ เนอ้ื สตั ว ์ นม และไข่ เพA่ิมdเdตมิ on เราไมค่ วรรบั ประทานอาหาร ท«ี่ า้� «าก เหมอื นเดมิ ทกุ ๆ วนั เพราะเราจะได้สารอาหารไมค่ รบ26 สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ | ชัน้ ประถมศกึ ษำปท ่ ี 2

5 ดม่ื นำ้� วันละมำก ๆ อยำ่ งน้อยวันละ 8 แก้ว เพAมิ่ dเตdมิ on รา่ งกายคนเราประกอบด้วยน�้า 55-75% ของนา้� หนกั ตัว คนเราขาดน�า้ 10 วัน ตาย ขาดอาหาร 70 วนั ตาย6 ดม่ื นมทกุ วัน ไมค่ วรดื่มชำ หรือกำแฟ เพAิ่มdเdติมon ผลิตภั³±จ์ ากนม เชน่ ครีม เนย โยเกริ ต์ ไอÈกรีม ชสี เครื่องดื่มท่ี ใชแ้ ทนนม แต่ไม่ใช่นม เช่น นมถวั่ เหลือง นมขา้ ว นมข้าวโพด นมอลั มอนด์7 ออกกำ� ลงั กำยเป็นประจ�ำ ท�ำกจิ กรรมเคลื่อนไหวตอ่ เนอ่ื งเปน็ เวลำ 15-20 นำทีขน้ึ ไป เพAิ่มdเdตมิ on การออกก�าลังกายแบบแอโรบคิ “Aerobic Exercise” เปนš การออกกา� ลงั กายทต่ี ้องใช้ออก«ิเจนในการเผา ผลาÞสารอาหารในรา่ งกายมาเปšนพลังงาน และต้องท�า ตอ่ เน่ือง 15-20นาทขี ึ้นไป เชน่ วิ่ง ขจ่ี ักรยาน ว่ายนา้� สุขศึกษำและพลศกึ ษำ | ชัน้ ประถมศึกษำปท ี่ 2 27

8 หลีกเล่ียงสถำนท่ีเส่ียง และบุคคลท่ีเป็นพำหะโรคติดต่อ เชน่ ไม่คลกุ คล ี หรือใช้ของใช้รว่ มกบั คนทเี่ ปน็ โรค9 ขับถำ่ ยให้เปน็ เวลำ เชน่ ทุก ๆ วนั ชว่ งเช้ำ เพAิ่มdเตdิมon อจุ จาระบอกโรคได?้ ?? กอ้ นเล็ก แข็ง --> รับประทานอาหาร ทม่ี ีกากใยไม่เพียงพอ กนิ เนื้อสตั ว์ ไข่ หรือนมมากเกนิ ไป เหลวเปนš น้า� --> ตดิ เชื้อในลา� ไส้ แพ้อาหาร10 ทำ� จติ ใจให้ร่ำเริง เบิกบำนอยเู่ สมอ เพAมิ่ dเdตมิ on “สารเอนดอร์¿น (Endorphins)” เปšนสารทร่ี ่างกายหลง่ั ออกมา ข³ะออกก�าลังกาย ท�าใหม้ ีความสขุ ไมเ่ ครียด28 สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ | ชัน้ ประถมศกึ ษำปที่ 2

ประโยชน์ทไี่ ดจ้ ำกกำรปฏิบตั ิตำมสุขปฏิบตั ิ 1 ปอ้ งกนั กำรติดเชอื้ โรค และโรคตดิ ต่อร้ำยแรงต่ำง ๆ 2 ปลกู ฝังระเบียบวินัยในตนเอง 3 เสรมิ สร้ำงบคุ ลิกภำพ เพ่ือเป็นท่ียอมรบั ในสงั คม 4 ป้องกันโรคฟันผุ เหงอื กอักเสบ มกี ล่นิ ปำก 5 ปอ้ งกันโรคระบบทำงเดนิ อำหำร 6 ทำ� ใหร้ ำ่ งกำยแข็งสมบูรณ ์ ไม่เป็นโรคขำดสำรอำหำร หรอื โรคอ้วน สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ | ช้ันประถมศกึ ษำปท ี ่ 2 29

หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ่ี 3 สุขศกึ ษำ - กำรรกั ษำควำมสะอำด (ฺCLEANLINESS) องค์กำรอนำมัยโลก ได้นิยำมค�ำว่ำสุขภำพไว้ว่ำ “สุขภำพ” หมำยถึงสุขภำวะที่สมบูรณ์ทั้งทำงกำย จิตใจ สังคม และปัญญำ มิใช่เพียงปรำศจำกโรคหรือควำมพิกำรเทำ่ น้นั สขุ ภำวะทำงกำย หมำยถงึ กำรทเี่ รำมสี ขุ ภำพท่ีด ี สมบรู ณแ์ ขง็ แรง ไมม่ โี รคภยั ไขเ้ จบ็ อำศยั อยใู่ นสภำพแวดล้อมท่ีดี ปรำศจำกมลภำวะ มีกำรดูแลร่ำงกำยให้สะอำดอยู่เสมอ และมีกำรบริโภคทีถ่ กู ต้องเหมำะสม สขุ ภำวะทำงใจ หมำยถงึ สภำวะจิตใจของเรำ ที่มีควำมสดชื่น มีควำมสุข ผ่อนคลำย มีเมตตำกรุณำ มีสมำธ ิ และมีจิตใจทีอ่ ่อนโยน กำรรักษำควำมสะอำดท้ังกำยและใจ เป็นกำร ฝึกคุณธรรมพ้ืนฐำนเรื่องควำมสะอำดที่ส�ำคัญให้กับ เด็ก เพรำะมนุษยเ์ รำมีทงั้ กำยและใจเปน็ สว่ นประกอบ ดงั นน้ั พฤตกิ รรมของเรำลว้ นเกดิ มำจำกควำมคดิ ควำม เชื่อของคน ๆ น้ัน ถ้ำควำมเช่ือ ควำมคิดนั้นประกอบ ด้วยปัญญำ มีเหตุผล หรืออยู่ในควำมถูกต้องแล้วน้ัน ยอ่ มสง่ ผลใหเ้ รำมพี ฤตกิ รรมทถ่ี กู ตอ้ ง เหมำะสม อย่ใู น คุณธรรม เรำจึงควรฝึกท�ำควำมสะอำดกำยและใจจน เปน็ นิสัย30 สุขศึกษำและพลศกึ ษำ | ชั้นประถมศึกษำปท ่ี 2

การรกั ษาความสะอาดของใชส้ ว่ นตัว เด็ก ๆ มขี องใชส้ ่วนตวั หลายอย่าง ซึ่งสามารถดแู ลความสะอาดได้ดังน้ี “แก้วน�้ำ” ลา้ งแกว้ นำ�้ ใหส้ ะอาดทงั้ กอ่ นและหลงั การใช้ “สมดุ และหนังสอื เรยี น” หอ่ ปกสมดุ และหนงั สอื ใหเ้ รยี บรอ้ ย และ เปิดปิดอย่างทะนุถนอมไม่ฉีกสมุดเล่น ท�ำงานให้สะอาดเป็นระเบียบเม่ือช�ำรุด ตอ้ งรีบซ่อมแซม“กระเป๋าหนังสือ” “กลอ่ งดนิ สอ”จดั หนงั สอื ใหเ้ ปน็ ระเบยี บ เอกสารควรใส่ จดั วางดนิ สอใหเ้ ปน็ ระเบยี บ เหลาดนิ สอในแฟม้ ให้เรยี บรอ้ ย ทกุ แทง่ ใหพ้ รอ้ มใช้งาน สุขศึกษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 31

กำรรกั ษำควำมสะอำดเคร่อื งแต่งกำย1 ซกั รีดเสื้อผำ้ ใหส้ ะอำดเป็นประจ�ำทกุ อำทิตย์ 2 เกบ็ เส้อื ผ้ำเข้ำตู้ให้เปน็ ระเบยี บ3 ระมดั ระวังไม่ใหเ้ ส้อื ผำ้ สกปรกเลอะเทอะ 4 ควรแยกซกั ผำ้ สกี บั ผำ้ ขำว หรอื ถงุ เทำ้ กับผ้ำเช็ดหน้ำ32 สุขศกึ ษำและพลศึกษำ | ช้ันประถมศกึ ษำปท ่ี 2

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1, 2 และ 3 คะแนน (100) รายละเอียด 30 1 ดา้ นทกั ษะ 5 โยนแลว้ ตบมอื รบั ลกู คนเดียว โยนลูกขน้ึ ไปแล้วตบมือ 3 คร้งั แลว้ รบั ลูกใหไ้ ด้ โยนจำ� นวน 10 ครั้งการใหค้ ะแนนดจู ากความถูกตอ้ ง ท�ำผิดลบคะแนนครง้ั ละ 0.5 คะแนนรับสง่ บอล (ยนื อยูก่ ับที)่ 5ยืนหา่ งจากคู่ 4 เมตร ใชก้ ารส่งบอลแบบสองมอื ระดบั อก ไมจ่ �ำกดั เวลา และจำ� นวนครงั้ การใหค้ ะแนนดูจากความถูกต้อง ท�ำผิดลบคะแนนคร้ังละ 0.5 คะแนนรับส่งบอลเคลอ่ื นที่ 5ยืนที่หลัก (สลับฟันปลา) รบั สง่ บอลกบั คู่ตามหลกั ที่กำ� หนด ทำ� ไปและกลับ ไมจ่ ำ� กัดเวลา การให้คะแนนดูจากความถกู ตอ้ ง ทำ� ผดิ ลบคะแนนคร้งั ละ 0.5 คะแนนรับส่งบอลขา้ มเชอื ก 5ยืนหา่ งจากเชือกท่ขี งึ อยตู่ รงกลางระหวา่ งคปู่ ระมาณ 2 เมตร รบั สง่ บอลกับคู่ ใช้การสง่ แบบใดก็ได้ แตบ่ อลจะต้องขา้ มเชือก ห้ามสมั ผัส จ�ำนวน10 ครงั้ ไมจ่ ำ� กัดเวลา การให้คะแนนดูจากจำ� นวนครัง้ ท่ขี า้ ม ท�ำผิดลบคะแนนครงั้ ละ 0.5 คะแนนการยิงประตู (คะแนนกลุม่ ) 5เขา้ แถวตอนห่างจากคนถอื ตะกร้าประมาณ 4 เมตร ยิงบอลใหล้ งตะกร้าแล้วไปต่อท้ายแถว ยงิ ใหล้ งมากท่ีสุดภายในเวลา 1 นาทีการแขง่ ขันภายในระดบั ชนั้ 5 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 33

รายละเอยี ด 10 คะแนน (100) 102 สุขศกึ ษา 10 30 ใบงานเรอ่ื ง “สุขปฏิบัติ และการรักษาความสะอาด” 20 20 แบบบันทกึ การออกกำ� ลังกาย (Sportfolio) ทดสอบสมรรถภาพทางกาย วิ่งเกบ็ ของ– ความอ่อนตวั – ลกุ นงั่ 30 วนิ าที 10 103 ทฤษฎ ี 5พลศึกษา (เลือกตอบ 3 ตวั เลือก 10 ขอ้ ) 5สุขศกึ ษา (เลอื กตอบ 3 ตัวเลือก 10 ขอ้ ) 54 คุณลักษณะพสิ ัย ระเบียบวินัย – ตรงตอ่ เวลา ความสนใจเรียน ความรบั ผดิ ชอบ – เครอื่ งแต่งกาย ของใช้สว่ นตัว การใหค้ วามร่วมมอื – ร่วมท�ำกจิ กรรมต่าง ๆ ในชน้ั เช่อื ฟังครู สุขปฏิบตั ิ – การรกั ษาความสะอาดสว่ นตวั ล้างมอื 5ล้างหน้า หลงั เรียน ดม่ื นำ้� จากแก้ว 34 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2

หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ 4ทกั ษะกำรเคลอื่ นไหวขัน้ พ้นื ฐำน(ฺBASIC MOVEMENT SKILLS) สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจ�ำเป็นต้องมีกำรเคลื่อนไหวในกำรด�ำรงชีวิต มนุษย์ก็เช่นกันเม่ือมีกำรเคล่ือนไหว อวัยวะต่ำง ๆ ในร่ำงกำยก็ย่อม มีกำรเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลำด้วยเช่นกันเช่น ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบหำยใจ ระบบขบั ถำ่ ย ถำ้ คนเรำไมม่ กี ำรเคลอื่ นไหวเปน็ ระยะเวลำ นำน ๆ เช่น ผู้ป่วยทนี่ อนติดกบั เตยี ง จะทำ� ใหอ้ วัยวะ และระบบตำ่ งๆ ของรำ่ งกำยเกิดผลกระทบได้ กำรเคลอื่ นไหวทถี่ กู วธิ จี ะทำ� ใหอ้ วยั วะทกุ สว่ นไดท้ ำ� งำนสมั พนั ธก์ นั เช่น ตำกบั มือ ตำกับขำ นอกจำกนน้ั แล้ว ระบบตำ่ ง ๆ ภำยในรำ่ งกำย ก็จะท�ำงำนอย่ำงมีประสิทธิภำพมำกขึ้นด้วย เช่น ระบบหำยใจ เมื่อมี กำรหำยใจเขำ้ และออกจำกกำรออกกำ� ลงั กำย ปอดและหวั ใจจะมกี ำร ท�ำงำนควบคู่ไปด้วย ซง่ึ จะทำ� ให้ปอดและหวั ใจของเรำแข็งแรงขึน้ ทักษะกำรเคล่อื นไหวขั้นพื้นฐำน หมำยถงึ กำรเคลอ่ื นไหวรำ่ งกำยในชวี ติ ประจำ� วนั เชน่ ยนื เดนิ นง่ั กม้ ตวั ยกของ ปน ปำ่ ย กระโดด สำมำรถแบ่งไดเ้ ป็น 3 ลักษณะคือ 1 กำรเคลอ่ื นไหวแบบอยกู่ บั ท ี่ หมำยถงึ กำรเคลอ่ื นไหวรำ่ งกำยทไ่ี มไ่ ดม้ กี ำรเคลอื่ นทไ่ี ป ทใี่ ดท่ีหน่งึ เชน่ ยนื ก้มตวั บิดตวั เหว่ยี งแขน เขย่งตวั เอยี งตัว ฯลฯ 2 กำรเคล่ือนไหวแบบเคล่ือนที่ หมำยถึง กำรเคล่ือนไหวร่ำงกำยท่ีเท้ำเคลื่อนท่ีไปด้วย เช่น เดนิ วง่ิ สไลด ์ กระโดด กระโจน ฯลฯ 3. กำรเคลอ่ื นไหวรำ่ งกำยโดยใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ เชน่ กำรกระโดดเชอื ก วงิ่ เปย ว วง่ิ ถอื ลูกบอล ชักเย่อ กำรดันหรือผลักวัตถใุ หก้ ลงิ้ ไปบนพ้นื ฯลฯ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ | ชน้ั ประถมศึกษำปท ่ ี 2 35

ประโยชน์ของการฝึกทกั ษะการเคล่อื นไหวให้ถูกต้อง 1 ทำ� ให้กล้ามเนือ้ และข้อต่อตา่ งๆแขง็ แรง 2 ทำ� ใหอ้ วยั วะตา่ งๆ ทำ� งานสมั พนั ธก์ นั ไดด้ ี มคี วามคลอ่ งตวั 3 ทำ� ใหจ้ ิตใจเบกิ บานแจม่ ใสลกั ษณะท่าทางการเคลอ่ื นไหวขน้ั พน้ื ฐาน 1 เดนิ (WALK) ลำ� ตัวตงั้ ตรง มองตรงไปข้างหน้า ยืดอกขนึ้ ก้าวเท้าไม่ยาว ไม่สั้นจนเกิน ไป แกวง่ แขนสมั พนั ธก์ ับขาทีก่ า้ ว1232 วิง่ (RUN) เพA่มิ dเdต ิม on - ศรี ษะตงั้ ตรง มองตรงไปข้างหน้า โนม้ ตัวมาด้านหนา้ เล็กนอ้ ย - ปล่อยหัวไหล่ตามสบายไม่ต้องเกร็ง ข้อศอกงอ แกว่งแขนเฉียดข้าง ลำ� ตวั ลงพื้นแบบเต็มเท้า เขา่ งอเลก็ น้อย ไม่ควรเหยยี ดตรง ถ้าตอ้ งการวิง่ ให้เรว็ ใหล้ งพนื้ ดว้ ยปลายเทา้ (Forefoot Strike running) แตถ่ ้า ตอ้ งการวงิ่ ใหไ้ ดน้ าน หรือว่ิง เพ่อื สขุ ภาพควรลงพน้ื ด้วยส้น1 2 3 เทา้ (Heel Strike running)36 สุขศกึ ษาและพลศึกษา | ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2

3 สไลด์ (SLIDE) คอื การเคลื่อนท่ไี ปดา้ นข้าง โดยการก้าวขาออกไปด้านข้าง แล้วนำ� ขาอีกข้างมาชิด 1 23 4 การหยุดเดนิ และการหยดุ วิ่ง (STOPPING) การหยดุ เดนิ โดยการกา้ วเทา้ ขา้ งใดขา้ งหนง่ึ ไปดา้ นหนา้ แลว้ นำ� เทา้ ทอี่ ยดู่ า้ นหลงั มาชดิ 123การหยุดวิ่งมี 2 แบบคือ 1 หยดุ โดยใช้เทา้ ใดเท้าหนึ่งอยูห่ น้า (Stride Stop) ทำ� เหมือนกบั การเดนิ แล้วหยดุ แต่ตอ้ งยอ่ ตัวลง กดสะโพกให้ต�ำ่ เพือ่ ท�ำให้ทรงตัวไดด้ ีข้นึ 2 การกระโดดหยุด (Jump Stop) ใช้เท้าใดเท้าหน่ึงกระโดด ลงสู่พ้ืนด้วยขาท้ังสอง ปลายเท้าอยู่ระดับเดียวกันน�้ำหนักตัว อยทู่ ่เี ท้าทง้ั สอง ยอ่ ตัว กางแขนออกเพือ่ ทรงตวั สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2 37

5 การกลับตวั (SHUTTLE RUN) หยุดตัวท่ีเป้าหมายโดยมีเท้าน�ำและเท้าตาม กลับตัวด้านที่ขาอยู่ด้านหลัง โดยทิ้งน�้ำ หนกั ท่ีปลายเท้า และบดิ ตัวกลบั มา แขนกางออกเล็กน้อยเพื่อรกั ษาสมดุล ถีบขาทอ่ี ยู่ ดา้ นหลงั ออกมาวางดา้ นหน้าแลว้ ออกวง่ิ ต่อไป12 3 4 26 การกระโดดดว้ ยขาขา้ งเดยี ว (HOPPING & SKIPPING) Hopping เป็นการกระโดดด้วยขาข้าง เดยี ว โดยใชข้ าขา้ งทถี่ นดั ในการกระโดด ส่วนขาอีกข้างให้งอหัวเข่า และยกสูง ระดบั สะโพกเพอ่ื รกั ษาสมดลุ ของรา่ งกาย แขนตรงขา้ มกบั ขาทไ่ี มไ่ ดใ้ ชก้ ระโดดใหย้ ก สงู เพอ่ื รกั ษาสมดลุ เชน่ กนั ลงสพู่ นื้ ดว้ ยขา ขา้ งทใ่ี ชก้ ระโดดดว้ ยการย่อเข่าผ่อนแรง 1 Skipping เป็นการกระโดดด้วยขาข้าง เดยี ว คลา้ ยการHop แต่เข่าจะไมย่ กขึ้น สงู บางครง้ั ยงั สามารถพบั ขาทย่ี กไปดา้ น หลงั ได้อกี ด้วย 1238 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

7 ทำ่ ทำงในกำรออกว่ิง เขำ้ ที่-ระวงั -ไป (4 Point Start) 7.1 ท่ำทำงกำรตงั้ ต้นกอ่ นออกวง่ิ “เข้ำท”่ี มี 4 จังหวะ จังหวะที่ 1 ยืนเท้ำซ้ำยอยู่ด้ำนหน้ำชิด เสน้ เรม่ิ ปลำยเทำ้ ขวำอยหู่ ำ่ งจำกสน้ เทำ้ ซ้ำยในแนวระนำบประมำณ 1 ช่วงไหล่ ด้ำนหลงัจงั หวะท่ี 2 ถอยขำซำ้ ยไปดำ้ นหลงั ปลำยเท้ำซ้ำยอยู่ห่ำงจำกส้นเท้ำขวำในแนวระนำบประมำณ 1 ช่วงไหลด่ ้ำนหลงัจังหวะท่ี 3 ยอ่ เขำ่ น่ังลงบนสน้ เทำ้ ซำ้ ยจังหวะท่ี 4 วำงแขนท้ังสองข้ำงท่ีเส้นเริม่ ควำมกวำ้ งประมำณ 1 ชว่ งไหล ่ โดยใช้นิ้วช้ีและน้ิวโป้งวำงขนำนกับเส้นเร่ิม แขนตงึ นำ้� หนกั ตวั อยดู่ ำ้ นหนำ้ (บนแขน) ตำมองตรง สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ | ชั้นประถมศกึ ษำปท ี ่ 2 39

7.2 ทำ่ ทำงเม่อื ได้ยินค�ำสั่งวำ่ “ระวงั ” ยกสะโพกขึ้น น�้ำหนักตัวท้ิงไปด้ำนหน้ำ ไหลแ่ ละศรี ษะโน้มไปอยู่เหนือเส้นเรมิ่ 7.3 ทำ่ ทำงเม่อื ได้ยนิ ค�ำสั่งวำ่ “ไป” ให้ถีบเท้ำหลังอย่ำงแรงและเร็ว ยกตัว ขน้ึ แลว้ กำ้ วขำทอี่ ยดู่ ำ้ นหลงั มำดำ้ นหนำ้40 สุขศึกษำและพลศึกษำ | ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ 2

8 การวิ่งขา้ มและลอดส่งิ กดี ขวาง (RUNNING OVER & PASS THROUGH OBSTACLES) 8.1 การวิง่ ขา้ มสง่ิ กดี ขวาง (Running over obstacles) - กะระยะทเ่ี ราจะกา้ วขา้ ม เมอื่ ไดร้ ะยะใหย้ กเทา้ ทอี่ ยดู่ า้ นหนา้ ขนึ้ ยกเขา่ ให้สงู พน้ สิ่งกดี ขวาง - ถบี เทา้ ทีอ่ ยดู่ ้านหลงั ยกเข่า ยกสะโพกขึ้น - แขนแกว่งตามธรรมชาติ - ล�ำตวั กม้ ไปด้านหนา้ 1 23 8.2 การลอดสงิ่ กีดขวาง (Pass through obstacles) - กม้ ตัว ยอ่ เขา่ ใหต้ ำ�่ - ถา้ ส่งิ กดี ขวางตำ่� มากให้ถบี ขาแล้วพุง่ ตวั เขา้ ไป - ถ้าสงิ่ กดี ขวางไมต่ �่ำมากให้กา้ วเท้า ยอ่ ตวั ผา่ นเข้าไปก่อน 12 สุขศึกษาและพลศกึ ษา | ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2 41

9 วงิ่ และสไลดซ์ กิ แซก (ZIGZAG RUN & SLIDE FOOTWORK) 9.1 การวง่ิ ซิกแซก (Zigzag run) ใช้เมอ่ื มีระยะห่างระหว่างสิ่งกีดขวางพอสมควร - เม่ือจะวงิ่ ไปทางขวา ให้กา้ วเท้าขวาไปทศิ ทางท่ตี อ้ งการ - ถบี เท้าซา้ ยสง่ ตวั ตามไป 12 9.2 การสไลดซ์ กิ แซก (Slide footwork) ใชเ้ มอ่ื มรี ะยะหา่ งระหวา่ งสงิ่ กดี ขวางทจี่ ำ� กดั - เมื่อจะสไลดไ์ ปทางขวา ใหก้ ้าวเทา้ ซา้ ยไปดา้ นขา้ ง - วางเทา้ ซา้ ยให้ครอ่ ม หรืออยูต่ รงกลางระหว่างสง่ิ กีดขวาง - ถบี ตวั ดว้ ยเทา้ ซา้ ยสง่ ตัวไปด้านข้าง 1242 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2

10 การเดนิ บนคานทรงตัว (WALK ON A BALANCE BEAM) 10.1 การเดินบนราวทรงตัวแบบแบน เป็นการฝึกการทรงตัวบนพื้นที่แคบ ๆ คล้ายไม้ กระดาน การรักษาสมดุล และการวางเท้าบนราวทรงตัวทำ� ไดโ้ ดย - กางแขนระดับไหล่ - หลังตรง ยดื ตวั ขน้ึ - สายตามองตรงไปดา้ นหนา้ วางเทา้ ให้ปลายเท้าชี้ไปด้านหน้า - มเี ท้านำ� และเทา้ ตาม 12 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 43

11 การกระโดดเชอื ก (JUMPING ROPE) 11.1 วธิ ีการวัดความยาวเชอื กให้ไดข้ นาดทีเ่ หมาะสม - มือทั้งสองจบั ปลายเชือก - ยืนสองเทา้ ชดิ กนั เหยยี บตรงกลางเชือก - ดงึ เชอื กให้ตงึ ถ้าเชือกนน้ั ความยาวเหมาะสมดา้ มจบั จะอยูบ่ รเิ วณใตร้ กั แร้ 11.2 การกระโดดเชอื กข้นั พน้ื ฐาน - มือท้ังสองจับท่ดี ้าม ข้อศอกงอ แขนเหยียดออกเล็กน้อย - เหว่ยี งเชือกมาด้านหน้า พยายามใช้ข้อมอื ในการเหว่ยี ง - เม่อื เชือกกระทบพนื้ ใหน้ ักเรียนกระโดดขึน้ โดยที่ขาไมพ่ ับงอ เพAม่ิ dเdต ิม on การกระโดดเชอื กนอกจาก จะช่วยให้ระบบหัวใจและ หลอดเลือดแข็งแรงแลว้ ยัง ช่วยฝึกสมาธิและความสมั พนั ธ์ ระหว่างมอื กบั เทา้ อีกด้วย ถ้ามือท่ีแกวง่ เชอื กไมส่ ัมพนั ธ์ กับเท้าที่กระโดดกอ็ าจจะท�ำให้ เราสะดุดหกลม้ บาดเจ็บได้44 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2

เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะหนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 ทกั ษะการเคลอื่ นไหวพน้ื ฐานรายการประเมิน 5 คะแนน ระดับคะแนน หมายเหตุ 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนนทกั ษะการกระโดด 1 ยกเข่าสูง ลกั ษณะ ลักษณะ ไม่มลี ักษณะด้วยขาข้างเดยี ว 2 แกวง่ แขน ทา่ ทางอย่างใด ท่าทาง 2 ใน ท่ถี กู ต้อง ตามธรรมชาติ อยา่ งหน่ึงใน 3 3 ข้อ ไม่ถกู (Hopping) 3 ทำ� ได้ตอ่ เนอ่ื ง ขอ้ ไมถ่ กู ตอ้ ง ต้องทกั ษะการกระโดด 1 ยกเขา่ ไม่สงู ลักษณะ ลักษณะ ไม่มีลักษณะด้วยขาขา้ งเดยี ว มาก หรือพับขา ทา่ ทางอย่างใด ทา่ ทาง 2 ใน ท่ถี ูกตอ้ ง ไปดา้ นหลงั อย่างหนึ่งใน 3 3 ข้อ ไม่ถูก (Skipping) 2 แกวง่ แขน ข้อ ไมถ่ ูกตอ้ ง ต้อง ตามธรรมชาติ 3 ทำ� ได้ต่อเนอื่ งทกั ษะการวงิ่ และ สามารถเคลือ่ นที่ สามารถ สามารถ สามารถ สไลด์ซิกแซก ดว้ ยการวิ่งและ เคลื่อนท่ีด้วย เคลอ่ื นทดี่ ว้ ย เคลอ่ื นทด่ี ้วย(Zigzag Run & สไลด์ซิกแซก การวิง่ และ การว่งิ และ การว่ิงและ โดยไมส่ มั ผัสหลกั สไลดซ์ กิ แซก สไลดซ์ ิกแซก สไลดซ์ กิ แซกSlide Footwork) โดยสมั ผสั หลัก โดยสัมผัสหลกั โดยสมั ผสั หลกั 1-2 ครงั้ 3-4 คร้ัง 5-6 คร้งั 1 ปฏบิ ตั ทิ ่าทาง ลักษณะ ลักษณะ ไมม่ ีลกั ษณะ ค�ำสัง่ ”เข้าที่”ได้ ทา่ ทางอย่าง ทา่ ทาง 2 ใน 3 ทีถ่ กู ตอ้ ง ถกู ต้อง ใดอย่างหน่ึง ข้อ ไม่ถูกตอ้ งท่าทางการออกว่ิง 2 ปฏิบัตทิ ่าทาง ใน 3 ข้อ ไม่(4 Point Start) ค�ำสั่ง”ระวัง”ได้ ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง 3 ปฏบิ ัติท่าทาง คำ� ส่ัง”ไป”ได้ อย่างถูกต้องการกระโดดเชอื ก สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ(Jumping Rope) กระโดดเชอื ก กระโดดเชอื ก กระโดดเชือก กระโดดเชอื ก ได้ตอ่ เน่ือง ได้ต่อเนื่อง ไดต้ ่อเนื่อง ไดต้ อ่ เน่อื งต�่ำ มากกว่า 20 15 - 19 ครั้ง 10 - 14 คร้ัง กว่า 10 คร้ัง คร้งั สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2 45

หน่วยกำรเรียนร้ทู ่ี 5 สขุ ศกึ ษำ - กำรออกกำ� ลังกำย (ฺEXERCISE) กำรออกก�ำลังกำยเป็นวิธีกำรดูแลสุขภำพของตัวเองอีกวิธีหนึ่ง นอกจำกกำรรับประทำนอำหำรที่ถูกสุขลักษณะได้รับสำรอำหำรครบถ้วน กำรได้รับอำกำศทีบ่ ริสุทธ์ ิ และจิตใจทีผ่ ่อนคลำยไม่เครียด กำรออกกำ� ลงั กำยสำมำรถทำ� ไดท้ กุ ท ่ี ทกุ เวลำ และทกุ โอกำส กำรออกกำ� ลงักำยทส่ี ำมำรถทำ� ไดง้ ำ่ ย ๆ และไมต่ อ้ งใชอ้ ปุ กรณม์ ำกมำยคอื “กำรวง่ิ ” อำจจะวงิ่ ในบรเิ วณบำ้ น ในหมบู่ ำ้ น หรอื วงิ่ บนสำยพำน เพยี งแคเ่ รำจะตอ้ งปฏบิ ตั ใิ หเ้ ปน็ กจิ วตั รประจำ� วนั โดยออกกำ� ลังกำยตอ่ เน่อื ง 30 นำที อย่ำงน้อย 3 วนั ตอ่ สัปดำห์ จะทำ� ให้สมรรถภำพของหวั ใจ ปอด และหลอดเลือดแข็งแรง ส�ำหรับเด็กเล็กผู้ปกครองมีส่วนส�ำคัญอย่ำงย่ิงในกำรปลูกฝังทัศนคติที่ดีในกำรออกกำ� ลงั กำยอำจเรมิ่ ไดจ้ ำกพำเดก็ ไปชมกฬี ำทสี่ นใจ ใหเ้ ดก็ ไดเ้ หน็ บรรยำกำศสนำมแขง่ ขนั เกมกำรแขง่ ขนั จรงิ ๆและนกั กฬี ำทช่ี น่ื ชอบ หลงั จำกนน้ั จงึ ชวนเดก็ มำเลน่ กฬี ำโดยทำ� ใหเ้ ปน็ กจิ กรรมในครอบครวั สรำ้ งควำมสนกุ สนำน จำกงำนวจิ ยั พบวำ่ เดก็ ทไี่ มไ่ ดร้ บั กำรสง่ เสรมิ ใหอ้ อกกำ� ลงั กำยหรอื เลน่ กฬี ำตงั้ แตเ่ ดก็ ๆ จะมปี ญั หำในกำรแสดงออก ไมก่ ล้ำ เขินอำย และควำมสมั พันธร์ ะหว่ำงอวัยวะตำ่ ง ๆ ในร่ำงกำยยงั ไม่ดอี ีกดว้ ยหลกั กำรออกกำ� ลังกำยเพื่อสขุ ภำพ 1. เลอื กประเภทของกำรออกก�ำลังกำยใหเ้ หมำะสมกบั ตัวเอง 2. เป็นกำรออกก�ำลงั กำยทีส่ นุกสนำน เพลดิ เพลนิ ไม่เครยี ดจนเกนิ ไป 3. ไม่ออกก�ำลังกำยทห่ี นักจนเกนิ ไป ไม่หักโหม ค่อยเปน็ คอ่ ยไป 4. อวัยวะทกุ ส่วนมกี ำรเคลอ่ื นไหวตอ่ เนืิอ่ ง 5. ออกก�ำลังกำยสม�่ำเสมอต่อเน่ือง 30 นำท ี อย่ำงนอ้ ย 3 วันต่อสปั ดำห์46 สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ | ชัน้ ประถมศกึ ษำปท ี่ 2

ประโยชนข์ องกำรออกก�ำลงั กำย1. กำรออกก�ำลังกำยจะช่วยให้รูปร่ำงดี 2 ระบบหัวใจและหลอดเลือด ลดไขมนั สว่ นเกิน ป้องกนั โรคอ้วน ของรำ่ งกำยแข็งแรง 4 ลดควำมเครียด จติ ใจสดชน่ื แจ่มใส “สำรเอนดอร์ฟิน (Endorphins)” เป็นสำร ที่ร่ำงกำยหล่ังออกมำขณะ 3 กล้ำมเนื้อและข้อต่อต่ำง ๆ แข็งแรง ออกก�ำลังกำย ท�ำให้มีปอ้ งกันโรคกระดกู พรุน ควำมสุข ไมเ่ ครยี ด5 ระบบยอ่ ยอำหำร และระบบขบั ถำ่ ย 6 ช่วยท�ำให้นอนหลับได้สนิท ดีข้นึ ทอ้ งไมผ่ ูก และหลบั ได้นำน สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ | ชั้นประถมศึกษำปท ่ ี 2 47

หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 6สุขศึกษำ - กำรรักษำทรวดทรง(Sฺ HAPE & PERSONALITY) โดยปกติมนุษย์เรำจะมีกำรเจริญเติบโตของร่ำงกำย น�้ำหนัก และส่วนสูง อย่ำงรวดเร็วในวัยเด็ก เรำจึงจ�ำเป็นจะต้องรู้จักกำร รักษำทรวดทรงของร่ำงกำยของเรำ รู้จักกำรรับประทำนอำหำรให้ ถกู สุขลกั ษณะ และมกี ำรออกกำ� ลังกำยทเ่ี หมำะสม ตลอดจนจะต้อง ดูแลบคุ ลิกภำพของตวั เองใหด้ ูด ี สง่ำงำม มีท่ำทำงกำรยืน เดิน นอน และนงั่ ทถ่ี กู ตอ้ ง จะทำ� ใหเ้ รำเตบิ โตขนึ้ เปน็ ผใู้ หญท่ มี่ บี คุ ลกิ ภำพด ี สงำ่ งำม มคี นชื่นชมต่อไป กำรรกั ษำทรวดทรง และบคุ ลกิ ภำพทค่ี วรฝกึ ฝนตนเองอยเู่ สมอ มดี ังนี้ ท่ำยืน 1 เท้ำท้ังสองข้ำงชิดติดกัน ปลำยเท้ำ ช้ีไปด้ำนหน้ำหรือเฉียงไปด้ำนข้ำง เลก็ นอ้ ย 2 ยืดอก ตำมองตรง 3 หัวไหล่ผำยออก 4 หลังตรง ศีรษะตรง48 สขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ | ชน้ั ประถมศึกษำปที่ 2

ท่ำน่งั1 น่ังหลังตรง ถ้ำเก้ำอ้ีมีพนักพิง ให้น่ัง หลังชดิ กับพนักพงิ2 ยดื อก ตำมองตรง3 หวั ไหล่ผำยออก4 ศีรษะตรง5 มือทั้งสองข้ำงวำงไว้บนเข่ำ หรือ ประสำนกนั ไว้ท่ำเดนิ1 ตำมองไปด้ำนหน้ำ2 กำ้ วเท้ำไมย่ ำวหรือส้นั จนเกินไป ท่ำนอน 1 นอนหงำย ขำเหยียดตรง เพื่อให้ หำยใจได้สะดวก 2 นอนตะแคงข้ำง ให้หลังตรง อำจใช้ หมอนขำ้ งรองขำทีอ่ ยู่ดำ้ นบน สุขศึกษำและพลศึกษำ | ชัน้ ประถมศึกษำปท ่ี 2 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook