โรงเรย� นสาธต� จฬ� าลงกรณม หาว�ทยาลัย ฝายประถม ¡ÌÕ ¡Ô¨Ò¡¿ÃÃµØ ÁºÂ×´ÍËÅÂáØ‹¹ÅÐ ª¹éÑ »ÃжÁÈÖ¡ÉÒ»·‚ èÕ 2 àÅÁ‹ 2 â´Â ÍÒ¨ÒÃÂÊØÃàªÉ° ÇÔÈǸÕÃÒ¹¹·ชอ่ื เลขท่ีช้ัน ป.2 /˹§Ñ ÊÍ× àÃÂÕ ¹¡ÅØÁ‹ ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙÊŒ Ø¢È¡Ö ÉÒáÅоÅÈ¡Ö ÉÒ
คำ� ปรารภ หนังสือแบบเรียนและแบบฝึกหัดของโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถมจัดท�ำขึ้นเพ่ือพัฒนาแบบเรียนและเอกสารประกอบการเรียนรู้ให้มีคุณภาพสูงท้ังทางด้านความถูกต้องของเน้ือหา และการออกแบบรูปเล่มให้สวยงามน่าอ่าน โดยยึดเน้ือหาของหลักสูตรแกนกลางข้ันพ้ืนฐานเป็นหลักแต่น�ำมาเรียบเรียงให้สอดคล้องกับบริบทการจัดการเรยี นรู้ของโรงเรียน ผู้ท่ีท�ำให้การจัดท�ำหนังสือแบบเรียนส�ำเร็จลุล่วงและสามารถน�ำมาใช้ในการเรียนการสอนไดต้ ามเปา้ หมาย ประกอบดว้ ยคณาจารยก์ ลมุ่ สาระการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ทเี่ ปน็ ผเู้ รยี บเรยี งเน้ือหา ผู้ทรงคุณวุฒิท่ีเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง สมาชิกและคณะท�ำงานของสมาคมผ้ปู กครองและครโู รงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึง่ ช่วยในด้านการออกแบบรูปเลม่จัดหาภาพประกอบเพ่มิ เติม รวมท้ังสนบั สนุนงบประมาณในการดำ� เนนิ การ ในนามของโรงเรียน ขอขอบคุณคณาจารย์ผู้จัดท�ำทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ทรงคุณวุฒิที่ดูแลความถูกต้องสมบูรณ์และสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้แบบเรียนและแบบฝึกหัด รวมท้ังสมาคมผู้ปกครองและคณะท�ำงานท่ีสละเวลาและทุนทรัพย์ในการจัดท�ำจนไดผ้ ลงานทม่ี ีความถูกต้องเหมาะสมและสวยงามน่าใช้ในการเรยี นรู้ แม้แบบเรียนนี้จะมีความสมบูรณ์แล้วทุกด้าน แต่คณาจารย์ผู้เรียบเรียงเนื้อหาและคณะท�ำงานด้านการออกแบบและจัดท�ำรูปเล่มยังต้องการข้อเสนอแนะและข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อการพัฒนาแบบเรียนให้มีเนื้อและรูปเล่มท่ีทันสมัยตามการศึกษาและการค้นพบองคค์ วามรใู้ หมท่ เี่ กดิ ขน้ึ อยตู่ ลอดเวลา หากผปู้ กครองหรอื ผใู้ ชแ้ บบเรยี นทา่ นใดมขี อ้ เสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ขอได้โปรดแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบเพื่อจ�ำได้น�ำไปพิจารณาปรับปรุงให้แบบเรยี นมีความสมบรู ณถ์ ูกต้องตอ่ ไป ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ทนิ กร บวั พูล ผู้อำ� นวยการโรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ฝา่ ยประถม และรองคณบดีคณะครุศาสตร์
กีฬาฟตุ บอลและกจิ กรรมยืดหย่นุชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เปน็ หนังสือในโครงการจัดท�ำ ต�ำ ราเรียนของสมาคมผปู้ กครองและครูโรงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั โดยมีวตั ถุประสงค์เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นโรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม ไดม้ หี นงั สอื เรียนท่มี คี ณุ ภาพจัดทำ�โดย (ในสว่ นของสมาคมผู้ปกครองและครโู รงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั )(ในสว่ นของโรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝ่ายประถม) ดร.วฒุ ิพงศ์ กิตติธเนศวร คณุ วีรพฒั น์ คงสิทธิ์ผู้ช่วยศาสตราจารยท์ ินกร บวั พูล คุณศักด์ชิ ยั ยอดวานิช คุณศรัณย ์ มหทั ธนกุลผชู้ ่วยศาสตราจารย ์เอมอร บชู าบุพพาจารย์ คุณกิตติ อภชิ นบัญชา คณุ พาศนนิ ท ์ ต้จู ินดาอาจารย์พรรณงาม ใจรักษ์ศักด์ิ คุณสพุ จน ์ เศรษฐวงศ์ คณุ ชัยภฏั เตมยี บุตรผู้ชว่ ยศาสตราจารย ์ กนษิ ฐา พวงไพบลู ย คณุ พรวไิ ล หอ่ สวุ รรณชัย ดร.วรี พงศ ์ ไชยเพ่มิอาจารย์สรุ เชษฐ์ วศิ วธีรานนท์ผสู้ นับสนนุ การดำ�เนนิ การจัดทำ� และสนับสนนุ งบประมาณในการจัดทำ�ตน้ ฉบับและจัดพิมพ์หนังสือสมาคมผู้ปกครองและครโู รงเรยี นสาธติ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัยคุณเอกราช เอกรตั น์ คณุ ฉัชชัย ทวียนต์ชัยคุณเกษแกว้ พงึ่ ชาญชยั กลุ คณุ ทรงกฤษณ์ สคุ นธมานคณุ อจั ฉริยา วงศพ์ วิ ัฒน์ คุณเขมจุฑา กจิ พ่อคา้คณุ สริ าภา ธนสารสมบัติ คุณบุรินทร ชวลิตาภาคณุ ชวี บญุ ขัตตนิ านนท์ คณุ ทินกร ทองไทยนพ.พลพงศ์ ชยางศุ คณุ ษากลุ เจรญิ สาธิต เรียบเรียงโดย พิมพท์ ่ี อาจารยส์ รุ เชษฐ์ วิศวธีรานนท์ บรษิ ัท ไซเบอรพ์ รนิ้ ท์กรุ๊ป จ�ำ กัด ผตู้ รวจเน้อื หา ๙๕๙ ซอยสทุ ธิพร ถนนประชาสงเคราะห์ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ณัฐพร สดุ ดี แขวงดนิ แดง เขตดนิ แดง กทม ๑๐๔๐๐ ช่ือเร่ือง โทรศัพท์ ๐๒-๖๔๑-๙๑๓๕-๘ กฬี าฟตุ บอลและกิจกรรมยดื หยนุ่ โทรสาร ๐๒-๖๔๑-๙๑๓๙ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เล่ม 2 E-mail : [email protected] ออกแบบรูปเล่ม Website : www.cyberprintgroup.co.th บรษิ ัท เซีย ครีเอทฟี จำ�กดั Zia Creative Co., Ltd. พิมพ์คร้ังท่ี 1 เมษายน 2561 137 ซอยสุขมุ วิท 81 ถนนสขุ ุมวทิ จำ�นวนที่จดั พมิ พ์ : 2,000 เล่ม แขวงพระโขนงเหนอื เขตวัฒนา กรงุ เทพฯ 10260 จำ�นวนหนา้ : 68 หนา้ Tel : 02-311-2156, 081-732-7893 ราคา : 135 บาท Fax : 02-742-6754 เจา้ ของและผู้จดั จำ�หนา่ ย E-mail : [email protected] โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั กำ�กับศลิ ป์ ซอยจุฬา 11 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ กญั ชลิกา กัมปนานนท์ เขตปทมุ วนั กรุงเทพฯ 10330 ภาพประกอบ โทร 02-218-2799 ธนวฒั น์ เกยี รติกงั วานไชย ประเภทของส่ิงพมิ พ์ : หนงั สอื ภาพถา่ ย อาจารย์สรุ เชษฐ์ วศิ วธรี านนท์2 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2
ถ้อยแถลง โครงการพัฒนาต�ำราเรียน เป็นผลิตผลร่วมกันระหว่างโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยท้ังฝ่ายประถม และฝ่ายมัธยมรว่ มกบั สมาคมผปู้ กครองและครโู รงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยัโดยมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้ครู อาจารย์ ของโรงเรียนได้หันมาให้ความส�ำคัญกับการเขียนต�ำราเรียน เพ่ือท่ีจะให้นักเรียนของเรามีหนงั สอื เรยี นด ี ๆ และสามารถแบง่ ปนั ใหก้ บั โรงเรยี นอนื่ ๆ ในทว่ั ทกุ พน้ื ท่ีของประเทศท่ีสนใจ ได้ใช้หนังสือเหล่าน้ีด้วย ซึ่งปัจจุบันมีหนังสือท่ีได้พิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มสวยงามหลายสิบเล่ม ในหลากหลายสาขาวิชาอันเปน็ สง่ิ ท่พี วกเราภาคภูมใิ จเป็นอย่างยิ่ง ในนามของสมาคมผปู้ กครองและครโู รงเรยี นสาธติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องขอขอบคุณคณาจารย์ ที่ได้มุ่งม่ันเขียนต�ำราเหล่าน้ีและผู้ที่เก่ียวข้องทุกท่านที่ร่วมกันท�ำให้ “โครงการพัฒนาต�ำราเรียน”สำ� เรจ็ ลลุ ว่ งดว้ ยดี ทำ� ใหม้ หี นงั สอื ด ี ๆ ใหล้ กู หลานของพวกเราไดใ้ ชเ้ รยี นตลอดไป ผศ.ดร.วุฒิพงศ์ กิตติธเนศวร นายกสมาคมผูป้ กครองและครู โรงเรยี นสาธิตจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 3
คำ� น�ำ วิชาสุขศึกษาเป็นวิชาท่ีสอนและพัฒนาการเรียนรู้ด้านสุขภาพ ทักษะชีวิต เจตคติ คุณธรรม ค่านิยม และการปฏิบัติเก่ียวกับสุขภาพ ควบคกู่ นั ไป ซง่ึ จะสง่ ผลใหผ้ เู้ รยี นมสี ขุ ภาพทางกายทดี่ ี และแขง็ แรง วชิ า พลศกึ ษาเปน็ วชิ าทส่ี อนและพฒั นาการเรยี นรใู้ นการบำ� รงุ รกั ษารา่ งกาย ของเราด้วยการออกก�ำลังกาย ซ่ึงเป็นกิจกรรมการเคล่ือนไหวท่ีต้องใช้ กลา้ มเนอ้ื ในสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ตลอดจนเปน็ เครอื่ งมอื ทสี่ ำ� คญั ทจี่ ะ ทำ� ให้ผเู้ รียนพัฒนาท้ังร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และสตปิ ัญญา กจิ กรรมในชว่ั โมงพลศกึ ษาในชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เทอมปลาย วิชาท่ีนักเรียนจะได้เรียนรู้คือ กีฬาฟุตบอลและกิจกรรมยืดหยุ่น ซง่ึ เปน็ กจิ กรรมทช่ี ว่ ยใหผ้ เู้ รยี นไดใ้ ชก้ ลา้ มเนอ้ื ทงั้ มดั ใหญ่ และมดั เลก็ , ฝกึ การประสานการทำ� งานของอวยั วะตา่ ง ๆ เชน่ ตากบั เทา้ ในกฬี าฟตุ บอล, ฝกึ ฝนการเปน็ ผนู้ ำ� และผตู้ ามทด่ี ,ี ฝกึ ใหเ้ ดก็ เกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ และ กล้าแสดงออก นอกจากน้ันระเบียบวินัยในการเข้าแถว และเดินแถว ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เป็นอีกส่ิงหนึ่งท่ีนักเรียนจะได้ เรียนรใู้ นเทอมน้ี ผเู้ ขยี นหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ หนงั สอื เรยี นสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษา และพลศกึ ษา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เล่มที่ 2 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จะท�ำให้ผู้เรียนได้เกิดความรู้ เจตคติ และค่านิยมท่ีดี ตลอดจนมีทักษะปฏิบัติด้านสุขภาพ และการ ออกก�ำลงั กายจนเปน็ นสิ ยั ทด่ี ตี ิดตวั ตลอดไป อาจารยส์ ุรเชษฐ์ วศิ วธรี านนท์ ผู้จดั ท�ำ4 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
สารบัญ 7 9หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 : ฟตุ บอล (FOOTBALL) 10 14 ประวัตคิ วามเป็นมา 16 ทักษะพนื้ ฐานเบื้องต้นทีส่ �ำคัญของการเล่นฟตุ บอล 18 ทกั ษะการเคลือ่ นไหวพน้ื ฐาน (Basic Movement Skills) 21 ทกั ษะการสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล (Ball Control) 22 ทักษะการเลย้ี งลกู บอล, เลยี้ งลกู บอลซิกแซก (Dribbling) 23 ทักษะการรับและส่งบอล 2 คน (Passing and Receiving) 27 ทกั ษะการโหมง่ บอล (Heading) 28 ทักษะการยงิ ประตู (Shooting) 29 ทกั ษะการเปน็ ผู้รกั ษาประตู (Goalkeeping) 30 การท่มุ ลกู เข้าเลน่ จากข้างสนาม (Throw - in) ต�ำแหนง่ การเลน่ ฟตุ บอล 7 คน (7 A Side Formation) 31 กตกิ าการแข่งขันฟุตบอล 31เกณฑก์ ารให้คะแนน 32 32หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 : สขุ ศกึ ษา - การพกั ผอ่ น 33 การพกั ผ่อนคืออะไร ประเภทของการพักผอ่ น ประโยชนข์ องการพกั ผอ่ น ผลเสยี ของการพักผ่อนไมเ่ พยี งพอ เกณฑ์การให้คะแนนหน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 และ 2 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา | ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 5
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 : ยดื หย่นุ (TUMBLING) 35 36 ประวัติความเปน็ มา 40 ทกั ษะทจ่ี �ำเป็นในการเล่นกฬี ายืดหยุน่ 40 ทกั ษะยืดหย่นุ 41 1. ทักษะม้วนหน้า (Forward Roll) 42 2. ทกั ษะม้วนหลัง (Bฺ ackward Roll) 43 3. ทกั ษะหกกบ (ฺFrog Stand) 44 4. ทักษะหกสามเสา้ ตดิ ฝาผนัง (Headstand) 45 5. ทกั ษะหกสูงตดิ ฝาผนงั (Handstand) 46 6. ทกั ษะลอ้ เกวียน (Cartwheel) 46 7. ทกั ษะการโหนเชือกข้ามส่ิงกีดขวาง (The Rope Swing) 50 8. ทักษะการต่อตวั (Pyramid Gymnastics) เกณฑ์การให้คะแนน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 : สขุ ศึกษา - ความปลอดภยั ในการเดินทาง วธิ ีการเดินเท้า และการขา้ มถนนอย่างปลอดภยั 52เกณฑ์การใหค้ ะแนนหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 และ 4 53แบบบันทึกหลงั เรียน 54แบบบนั ทึกการออกก�ำลงั กาย (ช่วงที่ 2) 58สุขบญั ญตั แิ หง่ ชาติ 10 ประการ 63ส�ำรวจเดก็ สุขภาพด ี 65บรรณานกุ รม 66ประวัติผู้แตง่ 676 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1ฟุตบอล (ฺFOOTBALL) ประวัติความเป็นมา กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาท่ีมีคนสนใจชม และนิยมเล่นมากท่ีสุด ในโลก แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดข้ึนจากประเทศใดเป็นประเทศ แรก มเี กมหลายชนดิ ของแตล่ ะประเทศมวี วิ ฒั นาการคลา้ ย ๆ กบั กฬี า ฟุตบอล เช่น จีน มีเกมที่ช่ือว่า “ซูจู” (Tsu Chu), ญี่ปุ่น มีเกมที่ชื่อ วา่ “เกมาร”ิ (Kemari), อติ าลี มีเกมท่ชี ่ือว่า “กลั โช”่ (Calcio) และ ในสมัยโรมัน มเี กมทช่ี ่อื วา่ “ฮาร์พาสเตียม” (Harpastium) “ฮาร์พาสเตียม” (Harpastium) เกมการเล่นของชาวโรมัน โบราณ ลูกบอลท�ำจากกระเพาะปัสสาวะของวัว หุ้มด้วยขนสัตว์ ใชก้ ารเตะ ทุ่ม และขวา้ ง โดยมีจดุ หมายทีป่ ระตูของฝ่ายตรงข้าม อังกฤษถือเป็นประเทศที่ให้ก�ำเนิดกีฬาฟุตบอลในสมัยใหม่ โดยลดความรุนแรงลง เล่นสุภาพมากขึ้น จ�ำกัดจ�ำนวนผู้เล่น พัฒนา กฎกติกาการเล่นใหม่ ในปี พ.ศ. 2406 ไดม้ ีการจัดต้ังสมาคมฟุตบอล แห่งอังกฤษข้ึน โดยการรวมตัวของสโมสรฟุตบอลในกรุงลอนดอน 11 แหง่ ซ่ึงถอื เปน็ การเร่ิมต้นการเล่นฟุตบอลในแบบปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2447 ได้มีการก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอล นานาชาติ (The Federation International de Football Association) หรือเรียกว่า ฟีฟ่า (F.I.F.A.) โดยมีส�ำนักงานใหญ่ อยู่ท่ีเมืองเจนีวา ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ เร่ิมต้นมีประเทศสมาชิกก่อต้ัง 7 ประเทศ ซ่ึงในปัจจุบันน้ีมีประเทศต่าง ๆ สมัครเป็น สมาชกิ เกือบ 200 ประเทศทัว่ โลก สุขศึกษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 7
ในปี พ.ศ. 2473 ได้มีการแข่งขันฟุตบอลโลก (World Cup)เป็นคร้ังแรกท่ีประเทศอุรุกวัย ซ่ึงจะจัดข้ึนทุก ๆ 4 ปี ซึ่งในปีแรกน้ันประเทศอุรุกวัยได้ครองถ้วยชนะเลิศ ส�ำหรับถ้วยรางวัลในการแขง่ ขนั สหพนั ธฟ์ ตุ บอลนานาชาตไิ ดจ้ ดั ท�ำถว้ ยเกยี รตยิ ศ โดยใชช้ อื่ วา่“ถ้วยจูลส์ ริเมท์” (Jules Rimet) ในฐานะผู้ริเร่ิมให้มีการแข่งขันฟุตบอลโลก กฬี าฟตุ บอลในประเทศไทย ไดม้ กี ารเรม่ิ เลน่ ในสมยั รชั กาลท่ี 6ซ่ึงในสมัยรัชกาลท่ี 5 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าให้พระราชโอรส พระราชนัดดา และข้าราชบริพารไปศึกษาท่ีประเทศอังกฤษ และได้น�ำกีฬาฟุตบอลกลับมาเผยแพร่ในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2495 รัชกาลท่ี 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดต้ัง“สมาคมฟตุ บอลแหง่ สยาม” ขนึ้ และไดเ้ ปลย่ี นชอื่ เปน็ “สมาคมฟตุ บอลแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ”์ (Football Association ofThailand under the Royal Patronage of his Majestic the King)8 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา | ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2
ทกั ษะพนื้ ฐานเบอ้ื งตน้ ทส่ี ำ� คญั ของการเลน่ ฟตุ บอล ทักษะพื้นฐานเบื้องต้น เป็นส่ิงท่ีส�ำคัญเป็นอย่างมากส�ำหรับทุกชนิดกีฬาเพราะเป็นพ้ืนฐานท่ีจ�ำเป็นที่จะพัฒนาไปสู่ทักษะในขั้นสูงต่อไป ซ่ึงต้องใช้เวลาในการฝึกฝนจนถูกต้อง และช�ำนาญในกีฬาฟตุ บอลมีทกั ษะพ้นื ฐานเบ้ืองต้นทส่ี �ำคญั คอื 1. ทักษะการเคลือ่ นไหวพน้ื ฐาน 2. ทกั ษะการสรา้ งความคุ้นเคยกบั ลูกบอล 3. ทกั ษะการเล้ยี งลูกบอลและการเล้ียงลูกบอลซกิ แซก 4. ทกั ษะการรบั และส่งบอล 2 คนและการหยดุ บอล 5. ทักษะการโหมง่ บอล 6. ทักษะการยงิ ประตู 7. ทกั ษะการเป็นผรู้ ักษาประตู 8. การทมุ่ ลกู เข้าเล่นจากข้างสนาม 9. ต�ำแหนง่ การเล่นฟตุ บอล 7 คน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 9
1 ทักษะการเคล่อื นไหวพ้นื ฐาน (Basic Movement Skills) 1.1 ทกั ษะการวิ่ง (Running Skills) โนม้ ล�ำตวั มาดา้ นหนา้ เลก็ นอ้ ย แขนแกวง่ ตามแนวดา้ นขา้ งล�ำตวั ตดั มาดา้ นหนา้ ขอ้ ศอก งอ 90 องศา ลงพน้ื ด้วยปลายเทา้ ถ้าต้องการวิ่งให้เร็ว หรือลงพ้นื ด้วยกลางฝา่ เทา้ ถา้ ตอ้ งการวง่ิ เหยาะ ทกั ษะนี้ใช้ในการวิง่ เขา้ หาลกู ฟตุ บอล การว่งิ หนีคูต่ ่อสู้ และใชใ้ นการเลี้ยงลูกบอล อกี ดว้ ย12 3 Running Skill1.2 ทกั ษะการวง่ิ สไลดด์ ้านขา้ ง (Side Stepping Skill) เปน็ การเคลอ่ื นทไี่ ปดา้ นขา้ ง โดยการกา้ วเทา้ ขา้ งใดขา้ งหนงึ่ ไปดา้ นขา้ ง แลว้ ลากหรอื ยกเทา้ อกี ข้างเข้ามาชดิ พรอ้ มถ่ายน้ำ� หนักตาม ทักษะนี้ผู้เล่นกองหลังจะใช้มากในการตามประกบผู้เล่นกองหน้าฝ่ายตรงข้ามใน ระยะส้ันๆโดยหนั หลงั ใหก้ ับประตูของตัวเองเพ่อื จะได้มองเห็นผูเ้ ลน่ ทกุ คนในสนาม10 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา | ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2
12 3Side Stepping1.3 ทกั ษะการกระโดด (Jumping Skills) กระโดดด้วยขาสองข้าง เป็นการกระโดดโดยใช้พ้ืนท่ีในการกระโดดน้อยที่สุด อาจ กระโดดได้ไม่สูงมากนัก เร่ิมจากการย่อเข่า เหว่ียงแขนไปด้านหลัง เกร็งกล้ามเนื้อ ท้องแล้วถีบขาพร้อมเหว่ียงแขนท้ังสองมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เหยียดตัวข้ึนไปให ้ สูงทส่ี ุด ลงสูพ่ ้ืนด้วยการยอ่ เขา่ ผอ่ นนำ�้ หนกั ลงอยา่ งนุ่มนวลดว้ ยขาท้ังสองข้าง1 23 45 Jumping Skill สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 11
1.4 ทกั ษะการกระโดดดว้ ยขาขา้ งเดียว (Hopping & Skipping Skills) เป็นการกระโดดท่ีต้องอาศัยพื้นท่ีในการว่ิงก่อนกระโดด โดยการกระโดดใช้ขาข้างท่ี ถนดั ในการกระโดด สว่ นขาอกี ขา้ งใหง้ อหวั เขา่ และยกสงู ระดบั สะโพกเพอ่ื รกั ษาสมดลุ ของรา่ งกาย แขนตรงขา้ มกบั ขาทไี่ มไ่ ดใ้ ชก้ ระโดดใหย้ กสงู เพอ่ื รกั ษาสมดลุ เชน่ กนั ลง สู่พน้ื ด้วยขาข้างที่ใชก้ ระโดดด้วยการยอ่ เข่าผ่อนแรง • ทักษะน้ใี ช้มากในการกระโดดโหม่งบอล และกระโดดรับบอลของผู้รักษาประตู12 34 Hopping Skill Skipping Skill12 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา | ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2
1.5 ทักษะการกลับตัว (Shuttle Run) หยดุ ตัวทเ่ี ป้าหมายโดยมีเท้าน�ำและเทา้ ตาม กลบั ตวั ดา้ นทข่ี าอยู่ดา้ นหลัง โดยทิง้ น�้ำ หนกั ทปี่ ลายเทา้ และบดิ ตวั กลบั มา แขนกางออกเลก็ นอ้ ยเพอื่ รกั ษาสมดลุ ถบี ขาทอ่ี ยู่ ดา้ นหลังออกมาวางดา้ นหนา้ แล้วออกวงิ่ ตอ่ ไป 1234 Shuttle Run1.6 ทกั ษะการวงิ่ ซกิ แซก (Zigzag Skill) เปน็ การว่งิ ในลักษณะฟันปลา เปลย่ี นทศิ ทางซา้ ยขวา ถ้าจะวง่ิ ไปทางขวาให้ก้าวเท้า ขวาออกไปก่อน ถ้าจะว่ิงไปทางซ้ายให้ก้าวเท้าซ้ายออกไปก่อน หลังจากน้ันให้ก้าว เท้าอีกข้างตามไป ทักษะนจ้ี ะใช้บ่อยในการวงิ่ เพอ่ื หลบหลีกคู่ตอ่ สู้ หรือเลยี้ งบอลหลบหลกี คูต่ ่อสู้ 12 Zigzag Skill สุขศึกษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2 13
2 ทกั ษะการสรา้ งความคุน้ เคยกับลูกบอล (Ball Control) เปน็ ทกั ษะทฝ่ี กึ ใหเ้ ราคนุ้ เคยกบั นำ�้ หนกั ขนาด และการกระดอนของลกู ฟตุ บอล และเปน็พ้ืนฐานท่สี �ำคญั ของทักษะที่ส�ำคญั ๆ ตอ่ ไป 1 2 2.1 ทกั ษะการควบคมุ ลกู บอลดว้ ยฝา่ เทา้ควบคุมบอลด้วย ควบคุมบอลด้วย (SoleTrap)ฝา่ เทา้ ดา้ นขวา ฝ่าเท้าดา้ นซ้าย 1. ให้นักเรียนวางลูกบอลไว้ด้านหน้า ของตัวเอง 2. ยกเท้าข้างใดข้างหน่ึงข้ึน แล้วใช้ ฝ่าเท้าสัมผัสด้านบนลูกบอลเบา ๆ น�้ำหนกั ตัวอยทู่ ี่เท้าหลกั 3 สลับเท้าซ้ายและเท้าขวา เร่ิมจาก ช้าไปเรว็ 4 เมอ่ื ท�ำไดค้ ลอ่ งแลว้ ใหเ้ พม่ิ การคลงึ ลกู บอลขึ้นและลง ซ้ายและขวา1 2 2.2 ทกั ษะการควบคมุ ลกู บอลดว้ ยขา้ งเทา้ น้ำ� หนกั ตัว สัมผใชสั ้ขบา้ งอเลทเบ้าาๆ ด้านใน (Inside Foot Trap)อยู่ทเี่ ท้าหลกั 1. ให้นักเรียนวางลูกบอลไว้ด้านหน้า ของตวั เอง 2. ยกเทา้ ขา้ งใดขา้ งหนงึ่ ขนึ้ แลว้ ใชข้ า้ ง เท้าด้านในสัมผัสด้านบนลูกบอล เบา ๆ น้�ำหนกั ตวั อยูท่ เี่ ทา้ หลกั 3. สลับเท้าซ้ายและเท้าขวา เร่ิมจาก ชา้ ไปเรว็14 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา | ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2
2.3 ทกั ษะการควบคุมลกู บอลด้วยหลงั เทา้ (Instep Trap) 1 ใหน้ กั เรยี นถอื ลกู บอลดว้ ยมอื ทง้ั สองขา้ ง และเหยยี ดแขนทงั้ สองขา้ งออกไปดา้ นหนา้ 2 ปล่อยลูกบอลลงพ้ืน ให้ลูกบอลกระดอนพนื้ หนึ่งครั้ง 3 เม่ือลูกบอลลอยตกลงมาก่อนท่ีบอลจะตกพ้ืน ให้ใช้หลังเท้าท่ีถนัดสัมผัสบอลให้ บอลลอยขน้ึ ตรง ๆ แล้วใชม้ อื ท้งั สองขา้ งรบั บอลไว้ 1234 Instep Trap Skill สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 15
3 ทักษะการเลยี้ งลกู บอลและการเลย้ี งลูกบอลซิกแซก (Dribbling) เพื่อใช้ประโยชน์ในการพาบอลไปท�ำประตู และหลบหลีกคู่ต่อสู้ ซ่ึงจ�ำเป็นอย่างยิ่งที่นกั ฟุตบอลจะต้องท�ำให้ไดท้ ั้งเทา้ ซ้ายและเทา้ ขวาเทา่ ๆ กนั 3.1 ทักษะการเล้ียงลกู บอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นใน (Inside Foot Dribbling) 1. ใหใ้ ชข้ า้ งเทา้ ดา้ นในสมั ผสั ลกู บอลเบา ๆ และใชส้ ายตาช�ำเลอื งดทู ลี่ กู บอลสลบั กบั 2. การพาลูกบอลให้เคล่อื นทีไ่ ปนนั้ ต้องสัมผสั ลูกบอลเบา ๆ ลกู บอลตอ้ งห่างจากตวั ไม่เกิน 1 กา้ ว และควรใชข้ ้างเท้าดา้ นในทัง้ 2 ข้างสมั ผสั สลับกันไป 3. ในขณะทเ่ี ลยี้ งลกู บอล ล�ำตัว และแขนต้องไมเ่ กรง็ ใช้ข้างสเลทับ้าซส้ามั ยผ-สั ขลวูกาบอล 3.2 การเลี้ยงลูกบอลด้วยหลงั เท้า (Instep Foot Dribbling) 1 ใหใ้ ชห้ ลงั เท้าบรเิ วณท่เี ราผูกเชอื กรอ้ งเทา้ สมั ผสั ลูกบอล ปลายเท้าชี้ลงพื้น 2 โน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย ใช้วิธีการสะกิดลูกไปด้านหน้า ลูกบอลต้องห่างจาก ตัวไมเ่ กิน 1 กา้ ว และควรใชข้ ้างเท้าดา้ นในทง้ั 2 ข้างสัมผัสสลับกนั ไป 3 ในขณะทเ่ี ล้ียงลูกบอล ล�ำตัว และแขนตอ้ งไม่เกรง็ ใช้หลังเท้าสมั ผัสลกู บอล สลบั ซา้ ย-ขวา16 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2
ใชบข้ อา้ ลงเเพทือ่า้ ซเปา้ ลย่ยี-นขวทาิศสทัมาผงัส3.3 การเลย้ี งลกู บอลซกิ แซก (Zigzag Dribbling) การพาลูกบอลเคลื่อนที่ไปด้านหน้า และเปลี่ยนทิศทางซ้ายและขวาอย่างรวดเร็ว คลา้ ยกับการหลบหลกี คูต่ ่อสู้ 1. ให้เลี้ยงบอลไปด้านขวาของหลักเม่ือผ่านหลักแรกให้ใช้ข้างเท้าขวาสัมผัสบอล เปล่ียนทิศทางไปทางด้านซ้าย และใช้เท้าซ้ายควบคุมบอลไว้ ล�ำตัวเอียงตาม ทศิ ทางบอล 2. เลี้ยงบอลต่อไปด้านซ้ายของหลัก เม่ือผ่านหลักท่ีสอง ให้ใช้ข้างเท้าซ้ายสัมผัส บอลเปลย่ี นทศิ ทางไปทางดา้ นขวา และใชเ้ ทา้ ขวาควบคมุ บอลไว้ ล�ำตวั เอยี งตาม ทศิ ทางบอล สุขศึกษาและพลศึกษา | ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 17
4 ทกั ษะการรับและสง่ บอล 2 คน (Passing and Receiving) ทักษะการรับและส่งบอล 2 คน เป็นทักษะพ้ืนฐานท่ีส�ำคัญท่ีสามารถพัฒนาเป็นกลุ่มย่อย3 คน 4 คน 5 คน และกลุ่มใหญ่ 7 - 8 คน จนถึงการเล่นเปน็ ทมี ได้ 4.1 การรบั และสง่ บอล 2 คนดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นใน (Inside Foot Pass and Receive) เรียกอีกช่ือหน่ึงว่า “ลูกแป” เป็นการส่งบอลท่ีแม่นย�ำมากเพราะส่วนที่สัมผัสกับลูก มพี นื้ ทีก่ ว้าง แต่จะส่งบอลได้ไมไ่ กลมากเพราะใช้แรงเหวยี่ งของสะโพกคอ่ นขา้ งแคบ วธิ กี ารปฏิบตั ิ มดี ังนี้ การส่งบอล 1. ใหย้ นื หา่ งจากคปู่ ระมาณ 5 เมตร วางลกู บอล ไว้ดา้ นหนา้ ห่างจากตัวประมาณ 1 กา้ ว 2. ก้าวเข้าหาลูกบอล โดยวางเท้าหลัก (เท้าท่ี ไม่ได้ใช้เตะ) ไว้ด้านข้างลูกบอล ให้ปลายเท้า ชไี้ ปดา้ นหน้า และอยูร่ ะดับเดยี วกบั ลูกบอล 3. เหว่ียงเท้าท่ีใช้เตะไปด้านหลัง ใช้แรงส่งจาก สะโพก เหว่ียงเท้ากลับมาใช้ข้างเท้าสัมผัส บรเิ วณกลางบอล ขณะทเี่ ทา้ สมั ผสั บอลใหเ้ กรง็ ขอ้ เทา้ ไวเ้ พอ่ื จะท�ำใหบ้ อลวงิ่ ไปไดแ้ รงขน้ึ แขน ทง้ั สองขา้ งยกขนึ้ เพอื่ รกั ษาสมดลุ ของรา่ งกาย การรบั บอล 1. คนท่ีรับบอล ตามองลูกบอล เม่ือบอลเคลื่อน เขา้ มาใกลต้ วั ใหย้ กเทา้ โดยหนั ขา้ งเทา้ ดา้ นใน เข้าหาบอล 2. เมื่อลูกบอลสัมผัสกับเท้า ให้ผ่อนแรงของ ลูกบอล โดยผ่อนดึงเท้ากลับมาด้านหลัง พยายามอย่าเกร็งเท้า เพราะจะท�ำให้ลูก กระดอนไปไกลจากตัว18 สุขศึกษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2
4.2 การรบั และสง่ บอล 2 คนด้วยหลังเท้า (Instep Pass and Receive) เรียกอีกช่ือหนึ่งว่า “ลูกหลังเท้า” เป็นการส่งบอลท่ีส่งได้ทั้งลูกเรียดกับพื้น และลูก โด่ง ขึ้นอยู่กับการวางเท้าขณะสัมผัสกับลูกบอล การส่งบอลหลังเท้าสามารถส่งไกล เพราะใชแ้ รงเหวยี่ งของสะโพกค่อนขา้ งกว้าง วธิ ีการปฏิบัติ มดี ังนี้ การส่งบอล 1. ใหย้ นื หา่ งจากคปู่ ระมาณ 5 เมตร วางลกู บอล ไว้ดา้ นหนา้ ห่างจากตัวประมาณ 1 ก้าว 2. กา้ วเขา้ หาลกู บอล โดยวางเทา้ หลกั (เทา้ ทไ่ี มไ่ ด้ ใช้เตะ) ไว้ด้านข้างลูกบอล ให้ปลายเท้าชี้ไป ด้านหน้าและอยู่ระดับเดียวกับลูกบอล ห่าง จากลกู บอลประมาณ 20 - 25 ซม. หรอื 1 คบื 3. เหวี่ยงเท้าท่ีใช้เตะไปด้านหลัง ใช้แรงส่งจาก สะโพก โนม้ ตัวไปด้านหน้า เหวีย่ งเทา้ กลับมา ใช้หลังเท้าสัมผัสบริเวณกลางบอล ปลายเท้า งุ้มชีล้ งพน้ื ขอ้ เทา้ เกรง็ แขนทงั้ สองขา้ งยกขน้ึ เพื่อรักษาสมดลุ ของรา่ งกาย 4. หากต้องการให้ลูกบอลสูง ให้วางเท้าหลักไว้ ด้านหลังลูก โน้มตัวไปด้านหลังและเท้าที่ใช้ เตะให้วางเท้าสัมผัสลูกบอลบริเวณส่วนล่าง ของลูกบอล การรบั บอล อาจใช้วิธีการรับโดยใช้ข้างเท้าด้านในเพ่ือ ความแมน่ ย�ำ สุขศึกษาและพลศึกษา | ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 19
4.3 การรับหรือหยุดบอล (Receive the ball) นอกจากการรบั บอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในทก่ี ลา่ วไปแลว้ นั้นยังมีวิธีการรับบอลอีกหนึ่งวิธีคือ “การรับบอลด้วย ฝา่ เทา้ ” ซึง่ สามารถใช้รับบอลทีเ่ รยี ดมากับพนื้ เทา่ น้นั วิธกี ารปฏิบตั ิ มีดงั นี้ 1. คนทร่ี บั บอล ตามองลกู บอล เมอ่ื บอลเคลอื่ นเขา้ มา ใกลต้ วั ใหย้ กเทา้ โดยหนั ฝา่ เทา้ เขา้ หาบอล ปลายเทา้ เงยขึน้ เล็กน้อย และไมต่ อ้ งยกสูงมากนัก 2. เมอื่ ลกู บอลเคลอื่ นทเี่ ขา้ มาถงึ ใหใ้ ชป้ ลายเทา้ กดบอล ไวอ้ ยา่ งนมิ่ นวล ไมใ่ ชก้ ารกระทบื บอล เพราะอาจจะ ท�ำใหล้ ูกบอลกระดอนออกจากฝ่าเท้าได้20 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2
5 ทกั ษะการโหม่งบอล (Heading) เปน็ ทกั ษะทใี่ ชใ้ นการควบคมุ บอล หยดุ บอล หรอื ยงิ ประตู เมอื่ ลกู บอลลอยอยกู่ ลางอากาศ วิธีการปฏบิ ัติ มีดงั นี้ 1. ตามองลูกทลี่ อยมา ยนื มเี ท้าน�ำและเทา้ ตาม ยอ่ ขาลง เอนตัวไปด้านหลังเล็กนอ้ ยแขน ทง้ั สองข้างยกขึ้นมาเพื่อรกั ษาสมดลุ ของร่างกาย 2. เมอ่ื ลกู บอลลอยเขา้ มาใกล้ ใหเ้ กรง็ ตน้ คอ และใชส้ ว่ นบนของหนา้ ผาก สมั ผสั กบั ลกู บอล 3. ถ้าตอ้ งการกระโดดโหมง่ ให้รอลูกบอลลอยตกลงมาแล้วหาจงั หวะกระโดดขนึ้ ไป โดย ให้ลกู บอลอย่ดู า้ นหนา้ใชส้ ว่ นบนของหนา้ ผาก รใหบัลก้ยูกราโหะกดมท(อ่ง่ีสSนบเดุpกพอคoรลน้ื ือrด็ ทtคกกผ่ี ่อวTาู้รนารักiมโถpษหรงึsาม)ปู้ ปง่ รรบะะอตตลู ู ในการโหมง่ บอล การโฝหกึ มน่งั่งบแอลละยืน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา | ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 21
6 ทกั ษะการยงิ ประตู (Shooting) มีหลากหลายลักษณะด้วยกัน ข้ึนกับสถานการณ์ในขณะน้ัน ตลอดจนความช�ำนาญของทักษะที่ได้ฝึกซ้อมมา โดยปกติแล้วถ้าต้องการยิงลูกให้แรง หรือยิงจากระยะไกล จะใช้วิธีการยิงด้วยหลังเท้า ถ้าต้องการยิงประตูให้ได้ทิศทางที่แม่นย�ำ จะใช้วิธีการยิงด้วยข้างเท้าด้านใน และหากบอลลอยอยู่กลางอากาศ และอยใู่ กล้ปากประตู อาจจะใชว้ ธิ ีการยงิ โดยใชก้ ารโหมง่ ก็ได้คณุ สมบตั ิของกองหน้า การยิงประตูด้วยหลังเทา้1 จะต้องหาพื้นที่ว่างในการยืน และ จะชว่ ยเพม่ิ ความรนุ แรง สามารถเดาได้ว่าลูกบอลจะมาหา ในการทำ� ประตู เราได้อยา่ งไรและเม่อื ไหร่2 ตอ้ งยงิ ไดท้ กุ จงั หวะและโอกาส ไมว่ า่ ลกู บอลจะมาเรยี ด สงู หรอื กระดอน3 สามารถใช้เท้าขวา เท้าซ้าย ศีรษะ หนา้ อก หรอื อวยั วะทกุ สว่ น ยกเวน้ แขน ในการท�ำประตู4 มีทักษะการหยุดบอล ส่งบอล หรอื รับบอลทยี่ อดเยี่ยม เกบ็ กFบอoองr(เลหwSกทนpaรจุก้าorด็า่คdตrยครtวั บ(้งัวเCปอทาTFล้ามีม่ i)pรีโCแอsู้มeล)กีหnะานทtสrา้ �ำeทปี่ ระตู22 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา | ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2
7 7 ทกั ษะการเป็นผ้รู ักษาประตู (Goalkeeping) ต�ำแหนง่ “ผรู้ กั ษาประต”ู เปน็ ต�ำแหนง่ ทสี่ �ำคญั อกี ต�ำแหนง่ หนง่ึ ในทมี มหี นา้ ทใ่ี นการปอ้ งกนัลกู บอลไม่ให้เขา้ ประตู เปรียบเหมอื นกองหลงั คนสุดท้าย วธิ ีการปฏิบัติ มีดังนค้ี ณุ สมบตั ขิ องกองหนา้ 7.1 ท่ายืนเตรียมพร้อมรับลูก (Ready Position) จะใช้ต่อเม่ือคู่ต่อสู้อยู่ในระยะ หรือ อยู่ในท่าทางทพ่ี ร้อมจะยิงประตู ศรีษะ • ตง้ั ตรง • ตามองท่ีลกู บอล มอื ลำ� ตวั ช่วงบน• หนั ฝา่ มอื ไปดา้ นหนา้ • โน้มไปด้านหน้าเล็กน้อย• นว้ิ มือแยกจากกันเลก็ • หนั ไปยังทศิ ทางของ นอ้ ยและงอนว้ิ คลา้ ยชาม ลกู บอล• ยกมอื ระดบั อก แขน เท้า • แขนชิดกบั ล�ำตวั• หา่ งกัน 1 ช่วงไหล่ • แขนทอ่ นล่างขนานกบั พน้ื• ปลายเท้าหันไปยงั • ข้อศอกงอ ทศิ ทางของลกู ขา • ยนื ใหส้ บายไมเ่ กรง็ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 23
7.2 การรับลูกบอลระดับต�่ำกวา่ หวั เขา่ (Rolling Ball) ลกู เรยี ด ล�ำตวั ช่วงบน นวิ้ มอื • อยบู่ นทิศทางที่ลูกบอล • นว้ิ แยกออกเล็กน้อย กล้งิ เข้ามา ลกั ษณะรูปตวั “M” • หนั สะโพกไปในทิศทาง • นวิ้ สมั ผัสกับพื้น ของลกู บอล โนม้ ไปดา้ น มือ หน้าเลก็ นอ้ ย • หลังมอื ติดกบั พน้ื ฝ่ามอื แขน หงายขน้ึ• แขนตำ่� และยื่นไป • นวิ้ มอื แยกจากกันเลก็ นอ้ ย หาลูกบอล และงอนวิ้ คลา้ ยชาม • วางมอื ทั้งสองไว้ดา้ นหน้า เทา้ หลัก เทา้ ท่ีปิดระหว่างขา• เขา่ งอ • ยอ่ เขา่ ลง แต่ไมส่ ัมผสั พ้ืน• หนั ออกจากทิศทางของ • หัวเข่าอยูใ่ กล้ขอ้ เทา้ ของ ลูกบอล เท้าหลกั• บอลมาทางซ้าย – เทา้ ซ้าย เป็นขาหลกั24 สุขศึกษาและพลศกึ ษา | ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2
7.3 การรบั ลูกบอลระดบั เอวหรือตำ่� กว่าเอว (Medium Height Balls) ศรีษะ • ต้ังตรง • ตามองที่ลูกบอล ล�ำตัวชว่ งบน นว้ิ มือ• อยู่หลงั ทศิ ทางท่ีลูกบอล • นว้ิ แยกออกเล็กน้อย กลิ้งเข้ามา ลกั ษณะรูปตัว “M”• โนม้ ไปด้านหนา้ เลก็ นอ้ ย แขน มอื • แขนย่ืนไปหาลูกบอล • ฝ่ามือหนั ข้ึนดา้ นบน ขา • แยกจากกันแเลก็ น้อย • น้�ำหนกั ตัวอยบู่ นขาท้ัง สองขา้ ง สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา | ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 25
7.4 การรับลูกสูงกว่าศรษี ะ (High Ball) แขน ศรีษะ • ยกขนึ้ ข้อศอกสงู กวา่ • ต้งตรง หวั ไหล่ • ตามองที่ลกู บอล • ขอ้ ศอกงอเลก็ น้อย มอื ล�ำตัวชว่ งบน• หันฝ่ามอื ไปดา้ นหน้า • โน้มไปดา้ นหนา้ • นว้ิ มือแยกจากกัน เลก็ นอ้ ย เล็กน้อย • หันไปยงั ทศิ ทาง เทา้ ของลูกบอล • ห่างกัน 1 ช่วงไหล่ ขา • ยืนใหส้ บายไมเ่ กรง็26 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2
8 การทมุ่ ลกู เข้าเลน่ จากขา้ งสนาม (Throw-in) กตกิ าการทมุ่ บอล 1. การทมุ่ บอลเข้าเล่นจะต้องทุ่มดว้ ยสองแขน 2. ตอ้ งทุ่มโดยบอลจะต้องเรม่ิ ต้นจากดา้ นหลังของศรี ษะ 3. ผู้เล่นทที่ ุ่มบอล เทา้ ทงั้ สองจะตอ้ งอยู่ท่ีพน้ื สนาม 4. ผ้เู ล่นทีท่ ุ่มบอล จะสามารถสัมผัสบอลได้ ตอ่ เม่อื บอลสมั ผสั กบั ผเู้ ลน่ คนอืน่ 5. ไมส่ ามารถทุ่มบอลเข้าประตไู ด้ วิธีการปฏิบตั ิ มีดังน้ี 1. ใหย้ ืนโดยขาแยกจากกนั ประมาณ 1 ช่วงไหลห่ ลงั เสน้ ขา้ งสนาม 2. จับบอลให้ฝ่ามือท้ังสองอยู่ด้านหลังของบอล ข้อศอกช้ีไปด้านหน้าไม่แคบหรือ กวา้ งจนเกนิ ไปลูกบอลอย่ดู า้ นหลังศีรษะ 3. ตามองไปยงั เพือ่ นรว่ มทีม หรอื เปา้ หมายท่จี ะทมุ่ ไป 4. ทุ่มบอลจากด้านหลังของศีรษะตามกติกาส่งแขนตามไป ปลายนิ้วช้ีไปยังเพ่ือน รว่ มทีม หรอื เป้าหมาย สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา | ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 27
8 ตำ� แหนง่ การเล่น ฟตุ บอล 7 คน (7 A Slide Formation) การแข่งขันฟุตบอลตามกติกาปกติ จะมีผู้เล่นในสนามฝ่ายละไม่เกิน 11 คน และไม่น้อยกว่า 7 คน ผู้เล่นส�ำรองมีได้ไม่เกิน 7 คน เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสในการเล่นกับลูกมากขึ้น มีส่วนร่วมในการแขง่ ขันสงู ขนึ้ จึงได้ก�ำหนดให้ผูเ้ ลน่ ในสนามมีไม่เกิน 7 คน และไม่นอ้ ยกว่า 5 คนผ้เู ลน่ ส�ำรอง 3 คนRH CBFW MF GK CBLH รปู แบบการเลน่ (Formation) 2-3-1หน้าทขี่ องผู้เล่นในแต่ละตำ� แหน่ง • GK (Goalkeeper) ผูร้ ักษาประตู ปอ้ งกันไม่ใหล้ กู เข้าประตู ใช้มอื ปอ้ งกันลูกได้เฉพาะในเขตผรู้ กั ษาประตู • CB (Centre Back) กองหลังตวั กลาง 2 คน ปอ้ งกนั ศูนยห์ น้าฝา่ ยตรงขา้ มโซนกลางสนามตามแนวยาวของสนาม ไมค่ วรออกไปเล่น ริมเส้นขา้ ง และขึน้ เกินกลางสนาม เพราะจะท�ำให้มีพนื้ ท่ีวา่ งตรงกลางหน้าประตไู ด้ • MF (Midfield) กองกลาง เปน็ คนควบคุมเกมทั้งรกุ และรับของทีม • RH + LH (Right and Left Half) กองกลางรมิ เสน้ ขวาและซา้ ย 2 คน รบั ผดิ ชอบรมิ เสน้ ทงั้ สองดา้ น เกมรกุ ขน้ึ ไปชว่ ยท�ำประตู และเกมรบั ลงมาชว่ ยปอ้ งกนั ประตู • FW (Forward) กองหนา้ มหี นา้ ทีย่ งิ ประตู สว่ นใหญจ่ ะเลน่ ในกรอบเขตโทษ แตอ่ าจลงมาช่วยทีมได้ถึงกลางสนาม28 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2
กตกิ าการแข่งขันฟุตบอล กติกาฟุตบอลพอสรปุ ไดด้ ังนี้ 1. สนามฟตุ บอล ตอ้ งเป็นสนามหญ้ารปู ส่เี หลี่ยมผืนผ้า และมเี ส้นทง้ั หมดเป็นสขี าว 2. ลกู ฟุตบอล ตอ้ งเป็นทรงกลม ผลติ จากหนัง และไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อผ้เู ลน่ 3. จำ� นวนผเู้ ลน่ มสี องทมี แตล่ ะทมี ตอ้ งมที งั้ ตวั จรงิ และตวั ส�ำรอง ผเู้ ลน่ ตวั จรงิ มี 11 คน และ ตัวส�ำรองไมเ่ กิน 7 คน 4. สีเส้อื ผู้เลน่ ทง้ั สองฝา่ ยจะต้องใส่สเี สือ้ ตดั กันอยา่ ชัดเจน ยกเวน้ ผรู้ ักษาประตู 5. ผูต้ ัดสิน คอยควบคมุ การแขง่ ขัน โดยมีผู้ชว่ ยผู้ตดั สินให้ความช่วยเหลอื 6. ระยะเวลาในการแขง่ ขนั ฟตุ บอลมี 2 ครง่ึ ครงึ่ เวลาละ 45 นาที พกั ระหวา่ งครง่ึ ไมเ่ กนิ 15 นาที 7. การนับคะแนน ยิงเข้า 1 ลูก ถือว่าได้หน่ึงแต้ม หรือ 1 ประตู ผู้ชนะคือทีมที่ได้ประตู มากกว่า แต่ถา้ เท่ากนั ใหน้ ับเป็นเสมอ 8. การท�ำผดิ กตกิ า มโี ทษอยู่ 3 แบบคือ ตกั เตือนด้วยวาจา, ใบเหลือง และใบแดง 9. ลกู ท่ีออกจากเสน้ ขา้ ง ให้ฝา่ ยทไี่ มไ่ ดท้ �ำลูกออก สง่ ลูกเขา้ เล่นด้วยการ “ทุ่มบอล” ที่จุด ที่ลูกออก 10. ลกู ที่ออกจากเส้นหลัง ใหฝ้ ่ายทไ่ี มไ่ ดท้ �ำลูกออกสง่ ลูกเขา้ เล่นด้วยการ “ตั้งเตะ” ทุกครั้ง - ถา้ ฝ่ายรบั ท�ำออก ใหฝ้ ่ายรกุ “ตง้ั เตะ”จากมมุ สนามฝง่ั ทีล่ กู ออก (ลกู เตะมุม) - ถา้ ฝ่ายรกุ ท�ำออก ใหฝ้ า่ ยรับ“ตั้งเตะ”จากเสน้ เขตประตู สุขศึกษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 29
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทักษะหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ฟตุ บอล (FOOTBALL)รายการประเมิน 5 คะแนน ระดบั คะแนน หมายเหตุ 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน ท�ำผดิ หกัการรับส่งบอลกับคู่ 1 การเหวีย่ งเทา้ ท�ำผดิ พลาด ท�ำผดิ พลาด ท�ำผดิ พลาด ครง้ั ละ 0.5 สัมผสั บอล อยา่ งใดอย่าง อย่างใดอยา่ ง อย่างใดอย่าง คะแนน ถกู ตอ้ ง หนึ่งใน 3 ขอ้ หนึ่งใน 3 ขอ้ หน่ึงใน 3 ขอ้ 2 การส่งบอล 2 ครัง้ 4 ครง้ั 6 ครง้ั ท�ำผิดหกั แม่นย�ำ ครั้งละ 0.5 3 การหยดุ บอล คะแนน แม่นย�ำการเล้ยี งบอล 1 การเลย้ี งบอล ท�ำผดิ พลาด ท�ำผิดพลาด ท�ำผิดพลาด ตอ่ เนื่องเปน็ อย่างใดอยา่ ง อย่างใดอย่าง อย่างใดอย่าง ทศิ ทางตรง หนึง่ ใน 3 ข้อ หนึ่งใน 3 ข้อ หนึง่ ใน 3 ข้อ 2 เล้ียงบอลตดิ 2 ครงั้ 4 คร้ัง 6 ครัง้ เทา้ ไม่หา่ งตัว 3 หยุดบอล อยา่ งแม่นย�ำเม่อื ถงึ จดุ สิ้นสดุการเลย้ี งบอล 1 การเลี้ยงบอล ท�ำผดิ พลาด ท�ำผดิ พลาด ท�ำผิดพลาด ท�ำผิดหกั ซกิ แซก ตอ่ เนอ่ื งออ้ มหลกั อย่างใดอย่าง อย่างใดอยา่ ง อยา่ งใดอย่าง ครัง้ ละ 0.5 2 เลยี้ งบอลตดิ หนึ่งใน 3 ข้อ หนึ่งใน 3 ข้อ หนึ่งใน 3 ข้อ คะแนน เทา้ ไมห่ า่ งตัวไม่ 2 คร้งั 4 คร้ัง 6 คร้ัง โดนหลกั 3 หยุดบอลอย่าง แมน่ ย�ำเมอ่ื ถงึ จุด สิน้ สุดการยิงประตู ลกู เข้าประตู ลกู เขา้ ประตู ลกู เขา้ ประตู ลูกเข้าประตู 9-10ลูก 7-8 ลกู 5-6 ลูก ตำ่� กวา่ 5 ลูก การแข่งขนั ทีมชนะเลิศ ทีมรองชนะเลศิ ทมี ท่ีไม่ไดเ้ ข้า ลกู เขา้ ประตู ยังไมร่ วมคะแนนภายในระดับช้นั รอบชงิ ชนะเลิศ ต่�ำกว่า 12 ลูก - การเขา้ ร่วม - น้ำ� ใจนกั กีฬา - ตรงตอ่ เวลา - ระเบียบวนิ ยั อีก 5 คะแนน30 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2สุขศึกษา : การพกั ผอ่ น (RELAXATION)การพักผอ่ นคอื อะไร การพกั ผอ่ น หมายถงึ การหยดุ พกั ระหวา่ งการท�ำงาน หรอืการท�ำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทท่ี �ำมาตอ่ เนอื่ งเปน็ ระยะเวลานาน ๆ ท�ำให้เราผอ่ นคลาย ลดความตงึ เครยี ด และความเหนด็ เหนอ่ื ยออ่ นเพลยีลดน้อยลงประเภทของการพกั ผอ่ นการพักผ่อน มี 2 ประเภท คือ 1. การพกั ผอ่ นทางดา้ นรา่ งกาย หมายถงึ การหยดุ พกั จากการท�ำงาน หรอื ออกก�ำลงั กาย โดยการนง่ั พกั หรอื นอนหลบั เปน็ ต้น 2. การพกั ผอ่ นทางดา้ นจติ ใจ หมายถงึ การหยดุ นกึ คดิ ในเรื่องใด ๆ ท่ีได้คิดต่อเน่ืองมาเป็นระยะเวลานาน โดยวิธีการท�ำให้จิตใจผ่อนคลาย เพลิดเพลิน เช่น การฟังเพลง นั่งสมาธิ เล่นดนตรี เดินเล่น หรือ เล่นกีฬา ในวนั หนง่ึ ๆ รา่ งกายเราตอ้ งท�ำงานอยา่ งหนกั ตลอดทงั้ วนัทง้ั การเดนิ วงิ่ และท�ำกจิ กรรตา่ ง ๆ ระหวา่ งวนั วธิ หี นง่ึ ทจ่ี ะท�ำให้พลังงานของเรากลับคืนมา คือ การพักผ่อน ซึ่งการพักผ่อนที่ดีท่สี ดุ ก็คอื “การนอนหลับ” สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 31
การนอน จะท�ำใหอ้ วยั วะตา่ ง ๆ ในรา่ งกายท�ำงานนอ้ ยลง เชน่ สมองไดพ้ กั กลา้ มเนอ้ื คลายตวั หวั ใจเตน้ อยา่ งสงบ ใน 1 วนั เราควรไดน้ อนหลับวันละ 8 -10 ชัว่ โมง ซ่งึ มีขอ้ ควรปฏบิ ัติดังน้ี 1. นอนในห้องท่ีมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่มีเสียง รบกวนขณะก�ำลงั นอนหลับ 2. ก่อนเข้านอนไม่ควรออกก�ำลังกาย ดูโทรทัศน์ หรือ ภาพยนตร์ ที่มีเร่ืองราวต่ืนเต้น เพราะจะไปกระตุ้น สมองใหท้ �ำงาน และเป็นเหตทุ ี่นอนไม่หลบั ได้ 3. การดม่ื นมหรอื นมถว่ั เหลอื งอนุ่ ๆ 1 แกว้ กอ่ นเขา้ นอน ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงจะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ไมค่ วรดม่ื ชา กาแฟ โกโก้ หรอื นำ�้ อดั ลมกอ่ นเขา้ นอน เพราะเครอื่ งดมื่ เหลา่ นมี้ สี ารคาเฟอนี ทจ่ี ะไปกระตนุ้ ระบบประสาทท�ำให้นอนหลับยากขึน้ ประโยชนข์ องการพักผอ่ น 1. ช่วยผ่อนคลายความเครียด ท�ำให้จิตใจสงบ แจ่มใส และรา่ เรงิ 2. ท�ำให้ร่างกายแข็งแรง และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคภัย ไข้เจบ็ ให้กบั รา่ งกายของเรา 3. ท�ำให้มีการตัดสินใจในปัญหาต่าง ๆ ได้รวดเร็ว และ รอบคอบมากข้ึน ช่วยลดอุบัติเหตุต่าง ๆ โดยเฉพาะ คนที่ท�ำงานเกี่ยวกับเคร่ืองจักร 4. ท�ำให้รา่ งกายมีการเจริญเติบโตท่ีสมวยั ผลเสียของการพักผอ่ นไม่เพยี งพอ 1. รา่ งกายจะออ่ นเพลยี ทรดุ โทรม อารมณห์ งดุ หงดิ งา่ ย 2. ร่างกายไมแ่ ข็งแรง ขาดภูมคิ มุ้ กันโรค ป่วยบ่อย 3. ความสามารถในการตดั สนิ ใจตำ่� ลง คิดได้ชา้ 4. ร่างกายไม่เจรญิ เติบโต ส่วนสูงต�ำ่ กว่าเกณฑ์32 สุขศึกษาและพลศึกษา | ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2
เกณฑ์การใหค้ ะแนนหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 และ 2 รายละเอียด คะแนน (100)1 ดา้ นทักษะ 30 รบั และส่งบอล 2 คน 5ยืนหา่ งจากค่ปู ระมาณ 5 เมตร รบั -สง่ บอลจ�ำนวน 10 ครั้ง(ส่งไปนับเป็น 1 ครัง้ ) การใหค้ ะแนนดูจากความถกู ต้อง ท�ำผิดลบคะแนนครง้ั ละ 0.5 คะแนนเลยี้ งลูกบอลไปดา้ นหนา้ 5เลย้ี งลูกบอลไป-กลับ ระยะทาง 20 เมตร ไมจ่ �ำกัดเวลา การให้คะแนนดูจากความถกู ต้อง ท�ำผดิ ลบคะแนนคร้ังละ 0.5 คะแนนเล้ยี งบอลซิกแซก 5เลย้ี งลกู บอลไป-กลับซกิ แซก ระยะทาง 20 เมตร ไมจ่ �ำกดั เวลา การให้คะแนนดจู ากความถกู ต้อง ท�ำผดิ ลบคะแนนคร้งั ละ 0.5 คะแนนยิงประตู 5ยิงบอลให้เข้าประตู โดยวางลูกบอลห่างจากเส้นประตู 5 เมตร มีหลกัจราจรวางไว้ตรงกลางประตู ใช้การวงิ่ ยิงประตู จ�ำนวน 10 ลูก เข้าประตูลกู ละ 0.5 คะแนน ถา้ โดนหลักจราจรจะไมไ่ ดค้ ะแนน ไม่จ�ำกัดเวลาการแขง่ ขนั ภายในระดับชั้น 10- คะแนนผลการแขง่ ขนั ชนะเลศิ 5 คะแนน 5 5 รองชนะเลิศ 4 คะแนน ทมี ทไ่ี ม่เขา้ รอบชงิ ฯ 3 คะแนน- คะแนนการเข้าร่วม นำ�้ ใจนกั กฬี า ตรงตอ่ เวลา ระเบียบวินัย สุขศึกษาและพลศกึ ษา | ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 33
รายละเอยี ด 10 คะแนน (100) 102 สุขศกึ ษา 10 30 ใบงานเรอ่ื ง “การพกั ผ่อน” 20 20 แบบบันทึกการออกก�ำลังกาย (Sportfolio) ทดสอบสมรรถภาพทางกาย วง่ิ เก็บของ– ความออ่ นตวั – ลุกนั่ง 30 วนิ าที3 ทฤษฎี 10 10พลศึกษา (เลอื กตอบ 3 ตัวเลือก 10 ขอ้ ) 5สขุ ศกึ ษา (เลอื กตอบ 3 ตวั เลือก 10 ข้อ) 5 54 คณุ ลักษณะพสิ ัย ระเบยี บวินัย – ตรงต่อเวลา ความสนใจเรียน ความรบั ผดิ ชอบ – เครื่องแต่งกาย ของใชส้ ่วนตวั การให้ความร่วมมือ – รว่ มท�ำกิจกรรมต่าง ๆ ในชน้ั เชื่อฟงั ครู สขุ ปฏิบตั ิ – การรกั ษาความสะอาดส่วนตัว ลา้ งมือ 5ลา้ งหนา้ หลังเรียน ดืม่ น�ำ้ จากแกว้ น�ำ้ และใชผ้ า้ เช็ดหนา้ สว่ นตวั 34 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3ฟยดื ุตหบยอนุ่ ล ((TฺFฺ UOMOBTLBIANLGL))ประวัติความเปน็ มา ยืดหยุ่นเป็นกิจกรรมพ้ืนฐานของยิมนาสติก ก่อนปี ค.ศ. 1600 ชาวจีนได้มีการฝึกฝนท่าบริหารร่างกาย และได้คิดท่าบริหารร่างกายขึ้น เพ่ือท�ำให้ร่างกายแข็งแรง และปราศจากโรคภัยไขเ้ จบ็ ตอ่ มาชาวกรกี น�ำเอากจิ กรรมยดื หยนุ่ เชน่ การไตเ่ ชอื ก และการทรงตวั มาสอนใหแ้ กเ่ ดก็ ๆจงึ เกิดกฬี ายมิ นาสตกิ ขน้ึ นบั จากนัน้ ชาวเยอรมนั ชาวอเมรกิ นั และชาวยโุ รปอกี หลายชาตไิ ดช้ ว่ ยกนั พฒั นากฬี ายดื หยนุ่ ใหเ้ จรญิข้นึ และก�ำหนดไว้เปน็ หลักสตู รใหม้ กี ารเรียนการสอนในระดับมหาวทิ ยาลัย และในโรงเรยี น กฬี ายดื หยนุ่ ไดแ้ พรห่ ลายเขา้ มาในประเทศไทยในสมยั รชั กาลที่ 5 เพราะขา้ ราชบรพิ ารทม่ี ีโอกาสไปศกึ ษาในประเทศยุโรปเป็นผูน้ �ำเข้ามาเผยแพร่ สุขศึกษาและพลศึกษา | ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 35
ทกั ษะทีจ่ ำ� เปน็ ในการเล่นกฬี ายดื หยุน่ ทักษะการเคล่ือนไหวพ้ืนฐานที่จ�ำเป็นที่จะต้องฝึกฝน เพื่อสร้างความคุ้นเคย และความแข็งแรงก่อนน�ำไปสู่ทักษะของกีฬายิมนาสติคตอ่ ไปท่าท่ี 1 ทา่ กลงิ้ ไข่ – ทักษะพื้นฐานของการมว้ นหน้าวิธีการปฏิบัติ มีดงั น้ี 43.2 เ.กป1 .ทก .าก็น กุปารฝาแสรมลรกึ นมว่้วอมในวว้นหด้วเนขต้รภนสอตจู้วััยน้ตขงวัักตตัวรอ้ตว้อจร่าคธิอ้งะงงวีกงไตกมรเาอ้ากจเ่รยงกิด�ำมติดจว้ อ่ขานเ้ึนกนตอ่ืัวทงี่1. ทา่ เตรยี มพรอ้ ม นง่ั ยอง ๆ เขา่ ชดิ ตวั มอื และแขน โอบกอดเขา่ ไว้ กม้ หนา้ ลง ท�ำตวั ใหเ้ หมอื นไข่ มากท่ีสดุ2. เคล่ือนที่โดยการเอนศีรษะ และไหล่ลงไป ทิศทางท่ีต้องการจะกล้ิงไป พร้อมกับถีบ ปลายเท้าให้ม้วนไปทิศทางน้ัน เช่น ต้องการ จะกล้ิงไปทางขวา ให้เอนหัวไหล่ขวาไป ทางขวา พรอ้ มถบี ปลายเท้าไปทางขวา 12 336 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2
1234ทา่ ที่ 2 ท่าขอนไม้ 43.2 เ.กป .ท1ก าก.็น ุกคารจารแรสรกนรา่ นก้ัง่วลกงกจนลว้งิกลวะเ้งิขตา่า้ิงสเตอยกวัสต้นงัวตจารัวตรตขระ็จอ้จ่ารกอ้ตอ้สงะงงงลคไต้อ้ินกมเิ้งงว้อากเ่ตเรงยกิดหจวัตดิจยใำ�อ่ขนายี เึ้นกแนดต่อืใหง่ล้สะดุ วธิ กี ารปฏบิ ตั ิ มีดงั นี้ 1. ท่าเตรียมพร้อม ให้นอนหงาย แขนเหยียด ชขู น้ึ เหนอื ศรี ษะ ล�ำตัวตรงคล้ายขอนไม้ 2. เคลอื่ นทโ่ี ดยการพลกิ ตวั หรอื หมนุ หวั ไหล่ ตาม ด้วยสะโพก ท่อนขา และเท้า สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา | ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 37
1.2 3ฝ.ป. ต กึกถลใลเาใหอ้าลหอรต้โดก็ดโร้ นขลอ้ภนจู้เม้วอ้ต้งัยกัอ้ ลตคกัวยวาาเัวจวธิกกรมระกี อ่็บจตจาานะคดำ�อ้รเจอ้าโงพะลนต่มิโกต้ห่อลแ้มวันเ้ตนรทห้าวังอื่ี่นสงา้ ่ง ท่าท่ี 3 ท่าโล้ตัวไปด้านหลัง - ทักษะพ้ืนฐาน ของการม้วนหลัง วิธกี ารปฏบิ ัติ มดี ังนี้ 1. ท่าเตรยี มพร้อม นงั่ ยอง ๆ เขา่ ชดิ ตวั มือ และ แขนโอบกอดเข่าไว้ เกบ็ คอ กม้ หน้าลง 2. โล้ตัวไปด้านหลัง ให้อวัยวะสัมผัสกับพื้นโดย ไล่จาก ก้น สะโพก หลัง สะบกั ตน้ คอ 3. โล้ตัวกลับมายังท่าเริ่มต้น โดยยังคงเก็บคอ และก้มหนา้ ตลอดเวลา12 3 4 5 638 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2
ทา่ ท่ี 4 ทา่ เดนิ ดว้ ยมอื – ทกั ษะพน้ื ฐานของการหกกบ หกสงู หกสามเสา้ และลอ้ เกวยี น วธิ ีการปฏิบตั ิ มีดังนี้ 1. ทา่ เตรยี มพร้อม ใชม้ ือทงั้ สองข้างยนั พน้ื ขาวางบนชน้ั ท่สี งู จากพืน้ ประมาณ 60 ซม. ใชป้ ลายเทา้ สมั ผสั กบั ชนั้ ด้านบน และฝ่ามือสมั ผสั กับพ้ืนด้านล่างเทา่ นนั้ 2. เคลื่อนตัวไปด้านข้าง โดยใช้แขนก้าวพร้อมกับขาไปด้านข้าง และพยายามรักษา ล�ำตัวและขาให้ขนานกบั พนื้ มากทสี่ ุด กน้ ไมส่ ูง 2.ม1 ลข.าแ ำ�เณรกปตลา่ทะ็นะัวงเ่สีหแคกแดุวับลาลไยบื่อหะจนฝลขขะทกึา่แต้อก่พีขคอ้ใล็งหยงวแา้าข้เรมหรยนจงเยาาน�ำมยีนื้อรดกักแใับหษขพส้นาืน้ ุด สุขศึกษาและพลศกึ ษา | ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 39
ทักษะยดื หยุ่น 1 ทักษะมว้ นหน้า (Forward Roll) วธิ กี ารปฏบิ ัติ มดี งั นี้ 1. เรม่ิ ตน้ จากทา่ ยนื ยืนห่างจากเบาะ 3 ก้าว รวบรวมสมาธิ แลว้ เดินมายนื ทห่ี วั เบาะ 2. ทา่ เตรยี ม นงั่ ยอง ๆ ดว้ ยปลายเทา้ สน้ เทา้ เปดิ มอื ทง้ั สองงอ ขอ้ ศอกวางอยเู่ หนอื ไหล่ นิว้ ชี้ไปด้านหลัง ฝ่ามอื หันข้นึ ด้านบน 3. วางมือทัง้ สองขา้ งดา้ นหน้า งอข้อศอก กม้ ศีรษะคางชิดอก ยกสะโพกขนึ้ 4. วางศรี ษะกบั เบาะ โดยใหส้ ว่ นของทา้ ยทอยสมั ผสั กอ่ น เทา้ ทงั้ สองออกแรงดนั เบาะ โลต้ วั ไปด้านหน้า โดยให้อวัยวะดังต่อไปน้ีสัมผัสเบาะตามล�ำดับ ศีรษะส่วนท้ายทอย คอ หลงั สะโพก เพA่ิมdเdต มิ on การฝกึ มว้ นหน้าใหม ่ ๆ เริ่มจาก 1 รอบ เมื่อทำ� ได้ชำ� นาญแล้วใหม้ ว้ นหนา้ ตอ่ เนอื่ ง 2 – 3 รอบ มว้ นหน้าระดบั กลาง คอื การยนื ม้วนหนา้ และการมว้ นหน้าข้าม เคร่ืองกดี ขวาง โดยเริ่มจากท่ายนื ไมต่ อ้ งนงั่ ลงก่อนม้วนหนา้ มว้ นหนา้ ระดับสงู คอื การพุ่งม้วนหนา้ ซึ่งจะต้องอาศัยความช�ำนาญในระดับสงู40 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2
2 ทกั ษะมว้ นหลัง (ฺBackward Roll) วธิ ีการปฏบิ ัติ มดี ังนี้ 1. เริ่มต้นจากท่ายืน ยืนห่างจากเบาะ 3 ก้าว รวบรวมสมาธิ แล้วเดินมายืนที่หัวเบาะ แลว้ กลบั หลงั หนั 2. ท่าเตรยี ม นงั่ ยอง ๆ ดว้ ยปลายเทา้ สน้ เทา้ เปดิ มอื ทง้ั สองงอขอ้ ศอกวางอยเู่ หนอื ไหล่ นว้ิ ชีไ้ ปดา้ นหลงั ฝา่ มือหนั ขนึ้ ดา้ นบน ก้มศรี ษะคางชดิ อก 3. ค่อยโล้ตัวไปด้านหลัง โดยให้อวัยวะดังต่อไปนี้สัมผัสเบาะตามล�ำดับ ก้น หลัง คอ ศีรษะสว่ นทา้ ยทอย รักษาเขา่ ใหง้ อชดิ ตวั และก้มเกบ็ ศรี ษะตลอดเวลา 4. วางฝามอื บนเบาะขา้ งศรี ษะหนั ปลายนวิ้ ไปดา้ นหนา้ ออกแรงดนั เบาะ พรอ้ มเหยยี ดขา เพอ่ื ส่งแรงชว่ ย 1 23 45 เพAิ่มdเdต ิม on การฝกึ ม้วนหลงั ใหม ่ ๆ เร่ิมจาก 1 รอบ เมื่อท�ำได้ ช�ำนาญแลว้ ใหม้ ้วนหลงั ตอ่ เนอ่ื ง 2 – 3 รอบ ตลอด จนฝึกนอนหงายแลว้ ทำ� มว้ นหลงั ทันทีได้อีกดว้ ย สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 41
3 ทักษะหกกบ (Frog Stand) วธิ กี ารปฏิบัติ มดี งั น้ี 1. น่ังบนปลายเท้า เข่างอ แยกเข่าออก มือทั้งสองข้างอยู่ระหว่างเข่า แยกนิ้วออก หันปลายนิ้วไปดา้ นหน้า หรอื หนั เข้าหากันเลก็ น้อย 2. คอ่ ย ๆ โลต้ ัวไปด้านหนา้ ชา้ ๆ พร้อมยกปลายเทา้ ทีอ่ ยู่ที่พนื้ ขน้ึ ขอ้ ศอกงอ วางเขา่ ลง บนข้อศอกทั้งสองข้าง น้�ำหนักตัวอยู่ท่ีแขน พยายามทรงตัวให้นิ่งประมาณ 5 – 10 วินาที 12 3 45 การฝึกทกั ษะหกกบบนพืน้ ผวิ ทแ่ี ขง็ จะท�ำใหน้ ักเรียน เพAิม่dเdต ิม on สามารถทำ� ไดง้ า่ ยขึน้ กวา่ ฝกึ บนพ้ืนผิวทนี่ ่มุ แต่ตอ้ งมีเบาะ รองบริเวณดา้ นหน้าเพื่อปอ้ งกันศรี ษะกระแทกกบั พนื้42 สขุ ศึกษาและพลศึกษา | ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2
4 ทกั ษะสามเส้าติดฝาผนัง (Headstand) วธิ ีการปฏบิ ัติ มีดงั น้ี 1. น่ังย่อเข่าบนเบาะ วางมือทั้งสองลงด้านหน้า น้ิวแยกออกจากกัน หันเข้าหาฝาผนัง ห่างกันประมาณ 1 ช่วงไหล่ 2. วางศรี ษะลงบนเบาะ ดา้ นบนมือท้งั สอง คล้ายยอดของรูปสามเหลย่ี มด้านเทา่ โดยมี มอื ทั้งสองขา้ งเปน็ ฐาน วางศรี ษะใหส้ ว่ นกลางศรี ษะสมั ผัสกบั เบาะ และห่างจากผนงั 1 ฝ่ามอื 3. ยกขาขา้ งใดข้างหนง่ึ ข้นึ ไปใหส้ ูงที่สุดกอ่ น แลว้ ใหเ้ ตะขาอีกข้างข้นึ ตามไป จัดขาและ ล�ำตวั ให้ตรง น้�ำหนักตวั อยูท่ ่ีมอื พยายามทรงตัวใหน้ งิ่ ประมาณ 5 – 10 วินาที 4. ตอนลง ใหน้ �ำขาลงก่อน โดยลงทลี ะข้าง 1 23 เพAม่ิdเdต มิ on ส�ำหรบั นกั เรียนที่ยงั ไมช่ ำ� นาญ ควรมีผ้ชู ว่ ยคอยจบั ขาทพ่ี งิ กบั ฝาผนงั ให้ตรง และนงิ่ ตลอดจนดกู าร วางศีรษะวา่ ถกู ต้องหรือไม่ สุขศกึ ษาและพลศึกษา | ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 43
5 ทกั ษะหกสูงตดิ ฝาผนงั (ฺHandstand) 1 2 34 วิธีการปฏิบัติ มดี งั น้ี 1. ยืนบนเบาะหันหน้าเข้าหาฝาผนัง ห่างประมาณ 2 ก้าว ยืนมีเท้าน�ำและเท้าตามวางมือท้ังสองลง ด้านหน้า น้ิวแยกออกจากกัน หันเข้าหาฝาผนัง ห่างกันประมาณ 1 ชว่ งไหล่ 2. ยกขาที่อยู่ดา้ นหลงั ขนึ้ ไปให้สงู ท่สี ุดก่อน แล้วเตะขา อกี ข้างข้นึ ไปตาม จัดขาและล�ำตวั ให้ตรง นำ�้ หนักตวั อยู่ท่ีมือ และแขนท้ังสองข้าง พยายามทรงตัวให้นิ่ง ประมาณ 5 – 10 วินาที 3. ตอนลง ให้น�ำขาลงก่อน โดยใหล้ งทีละข้าง เพA่มิdเdต มิ on สำ� หรับนกั เรียนท่ยี งั ไม่ช�ำนาญ ควรมผี ชู้ ่วยคอยจับ ขาท่ีพงิ กบั ฝาผนังใหต้ รง และนงิ่ ตลอดจนดู การวางช่วงแขนว่าถกู ต้องหรือไม่44 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา | ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2
6 ทกั ษะล้อเกวยี น (Cartwheel) วิธกี ารปฏิบัติ มดี งั นี้ การท�ำลอ้ เกวยี นสามารถท�ำไดท้ งั้ สองดา้ น ดา้ นซา้ ยน�ำ หรอื ดา้ นขวาน�ำ ตามความถนดั ของนักเรยี น ในหนงั สอื เลม่ นจี้ ะยกตัวอยา่ งและอธบิ ายถึงการท�ำล้อเกวยี น ด้านขวาน�ำ 1 ยืนเอาเท้าขวาอยู่ด้านหน้า เท้าห่างกัน 1 ช่วงไหล่ แขนท้ังสองข้างชูขึ้นเหนือศีรษะ ฝา่ มอื หนั ขึ้นด้านบน ปลายน้ิวชไี้ ปดา้ นหลัง 2 ถ่ายน�้ำหนักมาทางขาหลัง แล้วถ่ายน�้ำหนักกลับ พร้อม เอยี งตัวด้านขวาลง 3 วางมอื ขวาลงพ้นื พร้อมเหวีย่ งขาซา้ ยขน้ึ มาดา้ นบน 4 วางมือซ้ายลงพื้น ล�ำตัวจะตั้งตรงขาท้ังสองข้างจะหมุน ข้ึนมาอยู่ด้านบนสุด จังหวะน้ีจะคล้ายกับการท�ำทักษะ หกสงู 5 เอยี งดา้ นขาซา้ ยลงพนื้ พรอ้ มยกมอื ขวาพน้ จากพน้ื และ เม่ือขาขวาลงพ้ืน มือซ้ายจะพ้นจากพ้ืน จบท่ียืนตัวตรง หันหน้าทิศทางเดียวกับตอนเร่มิ ตน้ 123 4 5 ทกั ษะล้อเกวยี นเปน็ ทกั ษะที่ค่อนข้างยากส�ำหรบั นกั เรียนท่ียงั เพAิ่มdเdต ิม on ไมช่ ำ� นาญ อาจจะเริ่มต้นจากการเตะขาข้ามสงิ่ กีดขวางเตยี้ ๆ เพอ่ื สร้างความมนั่ ใจ และจดั ทา่ ทางให้ถูกต้อง สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2 45
7 ทกั ษะการโหนเชอื กข้ามส่ิงกีดขวาง (The Rope Swing) วิธกี ารปฏบิ ตั ิ มีดงั นี้ 1 มือจบั เชือกดา้ นบนสดุ แขน มอื ท้งั สองขา้ งควรจบั เชือกใกล้ ๆ กัน 2 ถอยมาดา้ นหลงั เล็กนอ้ ย เพอ่ื เพิ่มแรงส่ง 3 ถบี ตวั งอเข่าเขา้ หาล�ำตัว ตามองไปดา้ นหน้า และหาต�ำแหน่งในการลงพื้น 4 เม่ือเชือกแกว่งจนสดุ ให้ปล่อยมือ แล้วลงสู่พน้ื ย่อเข่าเพือ่ ถ่ายน้�ำหนัก 8 ทกั ษะการต่อตวั (Pyramid Gymnastics) การต่อตัวเป็นกิจกรรมการทรงตัวตั้งแต่สองคนข้ึนไป การต่อตัวจะฝึกให้นักเรียนเกิดความกล้า ฝึกการตัดสินใจ และยังเป็นการเล่นการท�ำงานร่วมกันท่ีจะช่วยให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความเห็นอกเห็นใจกนั ได้เปน็ อยา่ งดี46 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2
ทักษะการตอ่ ตัว แบบ 2 คนแบบ A : ขน้ั ท่ี 2 คุกเขา่1. คนที่เปน็ ฐาน ใหค้ กุ เขา่ ลงบนเบาะ - มอื ทัง้ สองข้างยันพ้นื ไว้หา่ งกันประมาณ 1 ชว่ งไหล่ - แขนเหยยี ดตงึ2. คนทเ่ี ปน็ ชน้ั ที่ 2 ยืนดา้ นข้างของฐาน - มือทัง้ สองขา้ งวาบนสะบกั ของฐาน - คอ่ ย ๆ น�ำขาข้างที่อยู่ใกลฐ้ านท่สี ุดขึน้ ไปกอ่ น ท�ำชา้ ๆ - วางหัวเข่าไวบ้ ริเวณหลงั สว่ นลา่ ง เหนอื กน้ กบของฐาน3. เม่ือขึ้นไปแล้ว ท้ังฐานและช้ันที่ 2 ตามองตรงไปด้านหน้า พยายามทรงตัวใหน้ ่งิ ประมาณ 5 – 10 วินาทีแบบ B : ข้ันท่ี 2 ยนื1. คนทีเ่ ปน็ ฐาน ใหค้ ุกเข่าลงบนเบาะ- มอื ทงั้ สองขา้ งยนั พนื้ ไว้ หา่ งกนั ประมาณ 1 ชว่ งไหล่- แขนเหยยี ดตงึ2. คนทเี่ ป็นชั้นที่ 2 ยนื ด้านข้างของฐาน- คอ่ ย ๆ น�ำขาขา้ งทอี่ ยใู่ กลฐ้ านทสี่ ดุ ขนึ้ ไปกอ่ น ท�ำชา้ ๆ- วางเทา้ ไว้บริเวณหลังส่วนลา่ ง เหนอื กน้ กบของฐาน- ยืนขน้ึ กางแขน ตามองตรงไปด้านหนา้3. เม่ือขึ้นไปแล้ว ทั้งฐานและ ชนั้ ที่ 2 ตามองตรง พยายาม ปลอดภยั ไวก้ อ่ น ทรงตวั ให้นงิ่ ประมาณ 5 ถงึ 10 วินาที 12 ไเมลลไมงค่น่ ส่ควข่พูรวณรหื้นะกยอทรอย�ำะกา่กโงลดาน้อรดมิ่หตลนร่องวืตอลัว สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา | ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 47
ทักษะการต่อตัว แบบ 3 คน ปลอดภัยไวก้ ่อนแบบ A : ข้ันที่ 2 คกุ เข่า 21 ไลมเไลงมค่ สน่ ค่วพู่ขรวณน้ืกรอหระทยะยโา่ำ�อดงกกดนาลลมิ่รอ้ งตนหอ่วรลตือวั1. คนท่ีเปน็ ฐาน 2 คน ใหค้ กุ เขา่ ลงบนเบาะ - มือทงั้ สองข้างยนั พนื้ ไว้ หา่ งกันประมาณ 1 ช่วงไหล่ - แขนเหยยี ดตงึ2. คนท่ีเป็นชัน้ ท่ี 2 ยืนด้านปลายเทา้ ของฐาน - มือซา้ ยวางบนสะบกั ขวาของฐานทางซ้าย - มอื ขวาวางบนสะบกั ซ้ายของฐานทางขวา - คอ่ ยๆน�ำขาข้ึนไปทีละข้าง ท�ำช้า ๆ - วางหัวเข่าไวบ้ ริเวณหลังส่วนลา่ งเหนือก้นกบของฐาน3. เมอื่ ขน้ึ ไปแลว้ ทง้ั ฐานและชน้ั ที่ 2 ตามองตรง พยายามทรงตวั ให้นง่ิ ประมาณ 5 – 10 วนิ าทีแบบ B : ข้ันท่ี 2 ยนื1. คนท่ีเป็นฐาน 2 คน ให้คกุ เข่าลงบนเบาะ - มอื ทัง้ สองข้างยนั พื้นไว้ ห่างกันประมาณ 1 ช่วงไหล่ - แขนเหยยี ดตงึ2. คนทเ่ี ป็นชัน้ ท่ี 2 ยืนดา้ นปลายเท้าของฐาน - คอ่ ย ๆ น�ำขาขา้ งใดขา้ งหน่งึ ขึ้นไปก่อน ท�ำช้า ๆ - วางเทา้ ไวบ้ รเิ วณหลงั สว่ นลา่ ง บรเิ วณเหนอื กน้ ของฐาน - ยนื ขึ้นกางแขน ตามองตรงไปดา้ นหน้า3. เมอื่ ขนึ้ ไปแลว้ ทง้ั ฐานและชน้ั ที่ 2 ตามองตรง พยายามทรงตวั ใหน้ ่งิ ประมาณ 5 – 10 วนิ าที48 สุขศกึ ษาและพลศึกษา | ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2
ทกั ษะการตอ่ ตวั แบบ 4 คนแบบ A : ขัน้ ท่ี 2 คุกเขา่1. คนท่ีเป็นฐาน 2 คน ใหค้ กุ เขา่ ลงบนเบาะ - มือทง้ั สองข้างยนั พ้ืนไว้ ห่างกนั ประมาณ 1 ช่วงไหล่ - แขนเหยยี ดตึง2. คนที่เป็นชนั้ ที่ 2 ยืนด้านปลายเท้าของฐาน - มอื ซา้ ยวางบนสะบักขวาของฐานทางซ้าย - มือขวาวางบนสะบักซ้ายของฐานทางขวา - ค่อย ๆ น�ำขาข้ึนไปทลี ะข้าง ท�ำช้า ๆ - วางหัวเข่าไวบ้ รเิ วณหลังส่วนลา่ ง เหนอื ก้นกบของฐาน3. คนทเ่ี ปน็ ชน้ั ที่ 3 ยนื ด้านปลายเท้าของฐาน - เม่อื ชนั้ ท่ี 2 นง่ิ แลว้ - ใหค้ อ่ ย ๆ ปีนข้ึนไปโดยใชม้ ือจับบรเิ วณสะโพกของชน้ั ที่ 2 - ใชข้ าค่อย ๆ เหยยี บฐานขึ้นไป นงั่ หลงั ตรงบนสะโพกของช้ันท่ี 2 - ใช้มอื ท้ังสองขา้ งจับบริเวณหัวไหลข่ องช้ันที่ 2 เอาไว้4. เม่ือขึ้นไปแล้ว ทั้งฐานชั้นที่ 2 และชั้นท่ี 3 ตามองตรง และพยายาม ทรงตวั ให้น่ิงประมาณ 5 – 10 วนิ าที ปลอดภยั ไวก้ อ่ น1 เไลม่น่คขวณรหะยทอ�ำกกลารอ้ ตห่อรตือวั2 ไลมง่คสวพู่ รื้นกอรยะา่โดงนดม่ิลนงวล สุขศึกษาและพลศึกษา | ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 49
Search
