Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธรรมะสำหรับผู้ป่วย

ธรรมะสำหรับผู้ป่วย

Description: ธรรมะอ่านสบาย

Search

Read the Text Version

  ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย 48 เราสามารถได้ก�ำลังใจและบทเรียนสอนใจอันล้�ำค่าจากคนไข ้ หากว่าเราเปิดใจที่จะเรียนรู้อยู่เสมอ จะท�ำเช่นน้ันได้เราต้องม ี ความใส่ใจในตัวเขา ฟังเขาอย่างตั้งใจ รับรู้มิใช่แค่ความคิดแต่รวม  ถึงอารมณ์ความรู้สึกของเขา ไม่ปฏิบัติกับเขาดังกลไกหรือท�ำตาม  ความเคยชนิ โดยอตั โนมตั  ิ  การเปดิ ใจรบั ฟงั เขาอยา่ งมสี ตจิ ะชว่ ยให้  เราเห็นเขาในฐานะมนุษย์มากข้ึน คือมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจ มีความ  รู้สึก มีครอบครัวคนรักที่เขาผูกพัน มีความใฝ่ฝัน มีท้ังสุขและทุกข์  ทงั้ หมดนใี้ นทสี่ ดุ จะชว่ ยหลอ่ เลย้ี งและรกั ษาความเปน็ มนษุ ยข์ องเรา  เอาไวไ้ มใ่ หก้ ลายเปน็ เครอ่ื งจกั รทไ่ี รอ้ ารมณ ์ และหากเราหนั มาฟน้ื ฟู  ใจของตนเองให้มีพลัง ดูแลรักษาจิตไม่ให้พลัดหลงไปกับอารมณ์  ที่มารุมเร้า รู้จักปล่อยวางอดีตและอนาคต ไม่เพียงเราจะมีพลังใน  การท�ำงานมากขึ้นเท่าน้ัน หากความเป็นมนุษย์ของเราก็จะรุ่มรวย  ลมุ่ ลึกมากขึ้น สามารถเข้าถึงตน้ ธารแห่งความสุขภายในและนำ� มา  หล่อเลย้ี งชวี ติ ไดอ้ ยา่ งต่อเน่อื ง การเยียวยารักษากายท่ีครอบคลุมไปถึงการฟื้นฟูใจของผู้คน  ใชว่ า่ จะบน่ั ทอนกำ� ลงั ของเรากห็ าไม ่  หากวางใจอยา่ งถกู ตอ้ งกส็ ามารถ  ส่งผลย้อนกลับมาหล่อเล้ียงจิตวิญญาณของเรา และพัฒนาความ  เปน็ มนษุ ยข์ องเราให้เจริญงอกงามยิ่งข้นึ ไปพรอ้ มกัน

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล การยอมรบั หรอื ยม้ิ รับมัน ไมไ่ ดแ้ ปลวา่ ยอมจ�ำนน แต่เปน็ การยอมรบั ความจรงิ และเปน็ วิธลี ดทอนความทุกข์ ในยามประสบกบั ส่ิงเหลา่ นั้น ใช่หรอื ไมว่ า่ หากใจต่อตา้ นปฏเิ สธมัน ความทกุ ขก์ จ็ ะเพม่ิ ราวกับคูณ ๒ หรอื คูณ ๓ แต่ถ้าใจยอมรับหรอื ยิ้มรบั มนั ความทกุ ข์ก็จะลดลง ราวกับหาร ๒ หรือหาร ๓

ธรี ชนผ้มู ีปญั ญาเฉลียวฉลาด พงึ กำ� จดั ความเศร้าโศก ทเ่ี กดิ ข้นึ เสยี โดยฉบั พลัน เหมอื นเอาน�้ำดบั ไฟ ทกี่ ำ� ลังไหมล้ กุ ลาม และเหมอื นลมพดั ปยุ นนุ่ พทุ ธวจนะ

เ ย ี ย ว ย า ใ จ  ประภาเปน็ หลานรกั ของยาย ตง้ั แตเ่ ลก็ กม็ คี ณุ ยายนแี่ หละ  ที่คอยเลี้ยงดูเอาใจใส่ คุณยายไปไหนก็พาหลานรักไปด้วย วันท ่ี ประภาได้รับปริญญาพยาบาล ยายมีความสุขมากเพราะความฝัน  ของยายได้เป็นจริงแล้ว วันหน่ึงยายก็ป่วยหนัก แต่ประภาแทบ  ไมม่ เี วลาไปเยย่ี มยายเลย  วนั ทย่ี ายสนิ้ ลม ประภายงั งว่ นอยกู่ บั งาน  เธอเสียใจมาก แม้ผ่านไปสิบปีแล้วแต่นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นเมื่อใด  กย็ ังร้สู กึ เจ็บปวดทีไ่ มไ่ ด้ดแู ลยายแม้ในวาระสุดทา้ ยของชวี ติ วณีต้ังครรภ์มาได้ ๕ เดือนแล้ว หมอจึงแนะให้เธอเพลางาน  วนั หนง่ึ เธอพบวา่ มเี ลอื ดไหลซมึ มาทางชอ่ งคลอด หมอขอใหเ้ ธอมา  นอนรักษาตัวท่ีโรงพยาบาล แต่เธอเป็นห่วงงานมาก ตอนค�่ำจึงหนี  ไปท�ำงานเช้ามืดก็กลับเข้าโรงพยาบาลก่อนหมอจะมาถึง เธอท�ำ  เชน่ นอ้ี ย ู่ ๒ วนั  วนั ถดั มาเธอรสู้ กึ ปวดทอ้ งอยา่ งแรง ขณะทกี่ �ำลงั นงั่  



พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 53 ถา่ ยกอ้ นเนอื้ ชมุ่ เลอื ดตกลงไปในสว้ ม นน่ั คอื ครงั้ แรกและครงั้ สดุ ทา้ ย  ทไี่ ดเ้ หน็ ลกู นอ้ ยของเธอ ผา่ นมากวา่  ๓๐ ปแี ลว้  เธอยงั จดจำ� ภาพนน้ั   ไดแ้ ละใหอ้ ภัยตวั เองไม่ได้ทีท่ �ำใหล้ กู ต้องตาย วทิ ยก์ บั แกว้ เปน็ เพอ่ื นสนทิ ตงั้ แตป่  ี ๒ เมอ่ื จบการศกึ ษาตา่ งก็  แยกยา้ ยกนั ไปทำ� งาน แตก่ ต็ ดิ ตอ่ ถงึ กนั สมำ�่ เสมอ ปใี หมแ่ ละวนั เกดิ ก ็ จะสง่ ของขวญั ใหก้ นั ทกุ ป ี  มชี ว่ งหนง่ึ ทว่ี ทิ ยง์ านยงุ่ มาก เปน็ ชว่ งเดยี ว  กับท่ีแก้วโทรศัพท์มาคุยถ่ีมากเพราะมีปัญหาครอบครัว คุยแต่ละ  ครั้งนาน ๒-๓ ชั่วโมง วิทย์พยายามให้ค�ำแนะน�ำแต่ดูเหมือนจะไม่  เป็นผล จนกระท่ังคืนวันหน่ึงเขาทนรำ� คาญไม่ไหว จึงพูดตัดบทไป  ดว้ ยนำ้� เสยี งทหี่ ว้ นมาก วนั ตอ่ มาแกว้ กไ็ มโ่ ทรมาอกี เลย ๒ วนั ถดั มา  เขากไ็ ดข้ า่ วรา้ ย แกว้ ประสบอบุ ตั เิ หตทุ างรถยนตต์ ายคาท ี่ เหตกุ ารณ์  ผา่ นไปสบิ กวา่ ปแี ลว้  ความเศรา้ เสยี ใจไดจ้ างคลายไป แตค่ วามรสู้ กึ   ผิดทไ่ี ด้ท�ำร้ายจติ ใจเพือ่ นก่อนตายยงั กดั กนิ ใจเขาอยู่ แม้กาลเวลาจะช่วยเยียวยาจิตใจ แต่สำ� หรับผู้คนเป็นอันมาก  บาดแผลในใจยงั มอี ย ู่ ทกุ ครงั้ ทนี่ กึ ถงึ บางเหตกุ ารณท์ เี่ กยี่ วกบั คนรกั   หรือคนใกล้ชิดก็อดเจ็บปวดไม่ได้ เพราะความรู้สึกผิดคอยทิ่มแทง  จิตใจอยู่เสมอจึงไม่อยากจะนึกถึง หาไม่ก็พยายามกดข่มให้มันจม  หายไป แต่มันก็คอยผุดโผล่มาเป็นระยะๆ ท้ังเจ็บปวด หม่นหมอง 

54 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย และหนักอ้งึ ราวกับจะตามติดตวั ไปจนตาย ในส่วนลึกของจิตใจ เราทุกคนอยากขอโทษผู้จากไป ท่ีครั้ง  หนง่ึ เราเคยกระท�ำสงิ่ ทไ่ี มส่ มควร จะวเิ ศษเพยี งใดหากเรายอ้ นเวลา  กลับไปได้เพ่ือขอโทษเขาขณะที่เขายงั มลี มหายใจอยู่ แตเ่ ราก็รู้ดวี า่   นน้ั เปน็ แคค่ วามฝนั  กระนนั้ กต็ ามมสี ง่ิ หนงึ่ ทเี่ ราท�ำได ้ นน่ั คอื  “เชญิ ”  เขามารบั ฟงั ความในใจของเรา ลองน้อมใจให้สงบและจินตนาการว่าเขาได้มานั่งอยู่ข้างหน้า  เรา นึกถึงวันท่ีเรามีประสบการณ์ดีๆ ร่วมกันกับเขา ความซาบซึ้ง  ประทับใจท่ีมีต่อเขา จากนั้นให้นึกถึงเหตุการณ์ท่ีท�ำให้เราเจ็บปวด  เพราะทำ� สง่ิ ท่ีไม่สมควรต่อเขา ยอมรับความร้สู กึ ตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขึน้ ใน  ใจ โดยไม่พยายามกดข่มหรือผลักไส แล้วถามตัวเองว่าอยากบอก  อะไรแก่เขา ขณะท่ีเขามานั่งอยู่ต่อหน้า ขอให้พูดความในใจแก่เขา  ทกุ อยา่ งเทา่ ทเ่ี ราอยากพดู  บอกรกั เขา ขอโทษเขา หรอื สารภาพผดิ   กับเขา อย่าไดร้ ้งั รออกี ต่อไป เมอื่ พดู จนแลว้ ใจแลว้  กใ็ หจ้ นิ ตนาการตอ่ ไปวา่ ไดโ้ อบกอดเขา  เหน็ รอยยม้ิ บนใบหนา้ ของเขา ใหภ้ าพสดุ ทา้ ยทปี่ รากฏแกใ่ จของเรา  เป็นภาพที่เราอยากจะเหน็  กอ่ นทีเ่ ขาจะค่อยๆ จากไป

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 55 วนั น ี้ ประภา วณ ี และวทิ ย ์ รสู้ กึ โปรง่ โลง่ กวา่ แตก่ อ่ น ทง้ั สาม  สามารถเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ในอดีตด้วยความรู้สึกสบายใจมาก  ข้ึน ไม่เจ็บปวดหรือรู้สึกผิดเหมือนเก่า เพราะเธอและเขาได้พูด  ทกุ อยา่ งทเี่ กบ็ ไวใ้ นใจนบั สบิ ป ี ใหย้ า่  ลกู นอ้ ย และเพอื่ นรกั  ไดร้ บั ทราบ  จนไม่มีอะไรตดิ ค้างอีกแล้ว สิ่งที่ท้ังสามท�ำควบคู่ไปดว้ ยก็คอื  เขียน  ความในใจนั้นเป็นจดหมายถึงผู้จากไป แล้วบอกเล่าเรื่องราวและ  ความในใจดงั กลา่ วใหเ้ พอื่ นๆ รบั รดู้ ว้ ยบรรยากาศแหง่ ความเปน็ มติ ร  และไวว้ างใจ ทำ� ใหท้ ง้ั สามกลา้ พดู ถงึ เรอื่ งทฝี่ งั ลกึ ในใจอยา่ งไมป่ ดิ บงั   ขณะร�่ำไห้ สิ่งที่ได้รับกลับมาคือก�ำลังใจและการโอบกอดด้วยความ  เขา้ ใจจากเพอ่ื นๆ การให้อภัยเป็นสิ่งส�ำคัญ และคนหน่ึงท่ีควรได้รับการให้อภัย  ก็คือตัวเอง แต่จะท�ำเช่นน้ันได้เราต้องกล้าที่จะขอโทษในสิ่งท่ีท�ำ  ผิดพลาดไป บางทีเราอาจพบว่าผู้ที่จากไปน้ันรักเราเกินกว่าท่ีจะ  ถือสากับเรอ่ื งเหล่านัน้ ได้ เขาอาจใหอ้ ภยั เราไปนานแลว้ กไ็ ด ้ เราเองตา่ งหากทยี่ งั ลงโทษ  ตัวเองอยู่

ผู้ถอนลูกศรน้ีได้แลว้ ก็จะมอี ิสระ ไดค้ วามสงบใจ ผ่านพ้นความเศร้าโศกทัง้ ปวง ไม่มีความเศรา้ โศก มแี ตเ่ ยอื กเย็นใจ พทุ ธวจนะ

ร ั ก ษ า ใ จ ใ ห ้ ป ล อ ด พ ิ ษ * หญิงสาวคนหนึ่งมีอาการใจส่ัน ปวดหัว ปวดเกร็งท้อง  และเป็นหวัดอยู่เป็นประจ�ำ แต่ไม่ว่าหมอจะตรวจก่ีครั้ง ก็ไม่พบ  ความผิดปกติในร่างกายของเธอ เธอเองก็รู้ดีว่าสาเหตุท่ีแท้จริง  ไม่ได้อยู่ที่ความเจ็บปวดทางกายแต่อยู่ที่ความเจ็บปวดกราดเกรี้ยว  ในจิตใจต่างหาก ก่อนหน้าน้ัน ๕ ปี เธอถูกเพ่ือนชายข่มขืนขณะติดรถเขา  กลับบา้ น นับแต่นัน้ ชวี ติ ของเธอก็เหมอื นจมอยใู่ นความมืดมน เธอ  เล่าว่า “ฉันต่ืนขึ้นมาทุกเช้าพร้อมกับความโกรธ” แม้ผู้ชายคนน้ัน  จะถกู ตดั สนิ จำ� คกุ ไปแลว้ กต็ าม แตเ่ ธอกย็ งั ไมห่ ายเคยี ดแคน้  บอ่ ยครงั้   เธอระบายความโกรธใส่เพื่อนๆ ที่อยู่รอบตัว เธอหารู้ไม่ว่าในท่ีสุด  ความโกรธแคน้ น้ันได้ยอ้ นกลบั มาท�ำร้ายตวั เธอ * ปรบั ปรุงบางส่วนเพ่ือให้เหมาะสมกบั การพิมพร์ วมเลม่ ครง้ั นี้



พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 59 หลงั จากทฝ่ี งั ใจอยกู่ บั อดตี อนั เจบ็ ปวด และหมกมนุ่ อยกู่ บั การ  วางแผนแก้แค้นอยู่หลายปี ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเร่ิมต้นชีวิตใหม ่ ด้วยการให้อภัยเขา นับแต่นั้นมาชีวิตเธอก็เปลี่ยนไป “ฉันย้ิมแย้ม  แจ่มใสและมสี ุขภาพดีข้นึ ” ความขนุ่ ขอ้ ง โกรธเคอื ง และเคยี ดแคน้  ไมใ่ ชเ่ ปน็ แคอ่ ารมณ์  ทม่ี าแลว้ กผ็ า่ นไปดงั สายลม บอ่ ยครงั้ มนั ถกู เกบ็ สะสมและหมกั หมม  จนไม่เพียงท�ำให้ร้าวรานใจเท่าน้ัน หากยังบ่ันทอนร่างกายจนเจ็บ  ป่วยเรอื้ รังดงั หญงิ สาวผู้นี้ อารมณท์ หี่ มกั หมมเรอ้ื รงั นนั้  มพี ษิ ตอ่ จติ ใจและรา่ งกายอยา่ ง  ทเ่ี ราอาจคาดไมถ่ งึ   เราจำ� เปน็ ตอ้ งรจู้ กั จดั การกบั อารมณเ์ หลา่ นไ้ี มใ่ ห้  หมักหมมเรื้อรัง ส�ำหรับอารมณ์ขุ่นข้อง โกรธเคือง และน้อยเน้ือ  ต�่ำใจ คงไม่มีวิธีการใดดีกว่าการให้อภัย ดังท่ีหญิงสาวผู้น้ีได้ค้นพบ  ด้วยตวั เอง อย่างไรก็ตามอารมณ์ที่มีพิษบั่นทอนจิตใจและร่างกายน้ัน  มไิ ดม้ แี คค่ วามขนุ่ ขอ้ ง โกรธเคอื ง และนอ้ ยเนอ้ื ต่�ำใจเทา่ นนั้  หากยงั   มอี กี มากมาย เชน่  ความทอ้ แท ้ ผดิ หวงั  เศรา้ โศก พยาบาท และท่ี  เป็นกนั แทบทุกคนกค็ อื  ความเครียดและวติ กกงั วล

60 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย จากประกายไฟ กลายเป็นกองเพลงิ อารมณ์เหล่านี้ก็เช่นเดียวกับไฟ คือไม่ได้เกิดข้ึนเอง แต่เกิด  จากการสมั ผสั หรอื เสยี ดสอี ยา่ งนอ้ ยสองอยา่ งคอื  ตากระทบรปู  หไู ด ้ ยินเสียง จมูกได้กล่ิน ฯลฯ แน่นอนต้องเป็นรูป เสียง หรือกล่ินที ่ ไมน่ า่ ยนิ ดที ำ� ใหเ้ กดิ ความทกุ ขห์ รอื ความไมพ่ อใจขน้ึ มา  ความไมพ่ อใจ  นี้เปรียบดังประกายไฟซ่ึงวาบขึ้นมาเม่ือมีการเสียดสีกัน ธรรมดา  ประกายไฟเมอ่ื เกดิ ขน้ึ แลว้  ยอ่ มดบั วบู ไปในทนั ท ี แตถ่ า้ มเี ชอื้ ไฟอย่ ู ใกล้ๆ มันก็ลุกเป็นเปลวไฟ แล้วอาจขยายเป็นกองไฟ หรือลามจน  กลายเปน็ มหาอคั คไี ปในท่สี ุด คนเราน้ันไม่ว่าจะร่�ำรวย มีอ�ำนาจ และเทคโนโลยีอยู่ในมือ  มากมายเพียงใดก็ตาม ย่อมไม่อาจหลีกหนีสิ่งท่ีไม่น่ายินดีได้ เช่น  อากาศรอ้ น รถตดิ  เพอ่ื นผดิ นดั  คำ� ตำ� หน ิ หรอื ยง่ิ กวา่ นน้ั กค็ อื  ความ  สัมพันธ์ท่รี ้าวฉาน ความพลัดพรากสูญเสีย รวมทัง้ ความแก่ ความ  เจบ็  และความตาย ดงั นน้ั ความทุกข์หรอื ความไมพ่ อใจจึงเป็นเร่อื ง  ธรรมดาของชวี ติ  และถา้ ปลอ่ ยใหม้ นั ดบั ไปเองเฉกเชน่ ประกายไฟก็  ไมม่ ปี ญั หาอะไร  ปญั หาอยทู่ เี่ รากลบั ท�ำใหค้ วามไมพ่ อใจนนั้ ยดื เยอื้   เรื้อรังจนลุกลามขยายใหญ่โต กลายเป็นอารมณ์ท่ีพลุ่งพล่าน จน  บางทีอ้ันไว้ไม่อยู่ต้องระบายใส่คนอื่น หรือถ้าอั้นเอาไว้ได้มันก็วก 

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 61 กลับมาท�ำร้ายร่างกายและจิตใจของตนเอง จนป่วยด้วยโรคสารพัด  เราไปท�ำอะไรหรือถึงไปโหมกระพืออารมณ์ให้พลุ่งพล่านข้ึนมา?  คำ� ตอบก็คือเราไปเติมเช้ือใหม้ นั โดยไม่รู้ตวั ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์อันไม่น่าพอใจเกิดขึ้น เรามักจะเก็บเอา  มาคดิ ซำ้� ยำ้� ทวน หรอื ครนุ่ คดิ อยไู่ มว่ าย ทง้ั ๆ ทยี่ ง่ิ คดิ กย็ ง่ิ ทกุ ข ์ แตก่  ็ อดไม่ได้ที่จะครนุ่ คิดอย่นู ่ันเอง  การคร่นุ คดิ ถึงมันอยู่บ่อยๆ เทา่ กบั   เป็นการเติมเช้ือให้มันเติบใหญ่และลุกลามไปเรื่อยๆ จนอาจถึง  จุดที่ควบคุมไม่อยู่ เรื่องเล็กกลายเป็นเร่ืองใหญ่ก็เพราะเหตุน้ี  เคย  มีนักเรียนบางคนถึงกับฆ่าตัวตาย เพียงเพราะถูกเพื่อนล้อว่ามีสิว  สิวเพียงไม่ก่ีเม็ดบนใบหน้าผลักให้นักเรียนวัยใสท�ำร้ายตัวเองได ้ อย่างไร หากไม่ใช่เพราะการเก็บเอาค�ำหยอกล้อของเพื่อนๆ มา  ครุ่นคิดทั้งวันทั้งคืน จนความอับอายและน้อยเน้ือต่�ำใจกลายเป็น  ความหมดอาลยั ในชีวติ ทุกขค์ ลายได้ ถา้ ร้จู กั ปลอ่ ยวาง เมื่อความทุกข์หรือความไม่พอใจเกิดขึ้น วิธีป้องกันมิให้มัน  ลุกลามหรือหมักหมมจนกลายเป็นอารมณ์เรื้อรังที่เป็นพิษต่อชีวิต 

62 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย ของเรา กค็ อื การไมเ่ กบ็ เอามาคดิ ย�้ำซำ้� ทวน หรอื หวนกลบั ไปนกึ ถงึ   บอ่ ยๆ จนถอนไมไ่ ด ้ ยง่ิ คดิ กย็ ง่ิ ถล�ำลกึ ในอารมณ ์ และทำ� ใหอ้ ารมณ ์ มีพลังดึงดูดจนหลุดออกมาได้ยากข้ึนเร่ือยๆ  เหตุการณ์ท่ีท�ำให ้ เราไม่พอใจน้ัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวในอดีตที่ไม่อาจแก้ไขหรือ  เปลี่ยนแปลงได้ การครุ่นคิดถึงมันเพียงเพราะใจอยากคิดน้ันย่อม  ไม่มีประโยชน์อะไร กลับจะเป็นโทษด้วยซ้�ำ เว้นเสียแต่ว่าต้องการ  ทบทวนเพ่ือสรุปหาบทเรียน หรือท�ำความเข้าใจกับมันให้ถ่องแท้  (แม้กระน้ันก็ตอ้ งระวังไมใ่ ห้ตกลงหลุมอารมณ์โดยไม่รตู้ วั ) พูดง่ายๆ คือต้องรู้จักปล่อยวาง เชื่อหรือไม่ว่าตัวการส�ำคัญ  ท่ีท�ำให้คนเราทุกข์อย่างย่ิงน้ัน อยู่ที่ใจซึ่งปล่อยวางไม่เป็นต่างหาก  หาได้อยู่ท่ีคนอ่ืนหรือเหตุการณ์ภายนอกไม่ แม้จะไม่มีอะไรมา  กระทบอย่างแรง แต่ถ้าใจรู้จักปล่อยวาง มันก็ท�ำอะไรเราไม่ได้ ใน  ทางตรงข้ามแม้เหตุร้ายจะผ่านไปนานแล้ว แต่ถ้าใจยังยึดไว้อย่าง  เหนียวแนน่  กเ็ หมอื นกบั ตกอยทู่ ่ามกลางกองไฟ หญิงผู้หนึ่งได้พบความจริงว่า ชายซ่ึงครองคู่อยู่ด้วยกันมาก  กว่า ๑๐ ปีนั้นไม่ซอื่ สตั ยต์ อ่ เธอ เธอโมโหและเคยี ดแค้นมาก แมจ้ ะ  แยกทางจากเขาหลายเดือนแล้ว แต่ทุกครั้งท่ีคิดถึงเรื่องน้ีก็ร้อนรุ่ม  ขน้ึ มาทนั ท ี เธอจงึ หนั เขา้ หาสมาธภิ าวนา แตไ่ มว่ ายกลบั ไปขดุ เรอื่ ง 

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 63 เก่ามาเผาลนจิตใจไม่หยุดหย่อน หาความสุขไม่ได้เลยแม้รอบตัว  จะสงบเยน็ กต็ าม แต่แลว้ ก็มเี หตกุ ารณ์หน่งึ เกิดขึน้ กับเธอ ตอนนนั้ เธอกำ� ลงั เดินจงกรม เอามอื ทั้งสองข้างประสานกันท ่ี ทอ้ งนอ้ ย หลงั จากเดนิ นานนบั ชว่ั โมง เธอรสู้ กึ เมอ่ื ย จงึ ปลอ่ ยมอื ลง  ทันทีที่ปล่อยมือ กายก็รู้สึกสบาย เธอได้คิดขึ้นมาโดยพลันว่า “แค่  ปลอ่ ยเรากไ็ มท่ กุ ขอ์ กี ตอ่ ไป” และแลว้ เธอรสู้ กึ ผอ่ นคลายและสบายใจ  อยา่ งไมเ่ คยปรากฏมากอ่ น เพราะชวั่ ขณะนน้ั เองเธอไดร้ ะลกึ วา่  ทย่ี งั   ทกุ ขท์ รมานไมเ่ ลกิ ราเพราะใจยงั ตดิ ยดึ กบั เรอ่ื งรา้ ยในอดตี  วนิ าทนี น้ั   เธอได้ปล่อยมันออกไปจากจิตใจอย่างสิ้นเชิง แล้วน�้ำตาก็รินไหล  ออกมาดว้ ยความปตี ิ รู้เมอื่ ใด ละเมอ่ื นั้น ไม่ว่าอารมณ์จะหมักหมมเรื้อรังเพียงใด ก็ไม่เกินวิสัยที่จะ  ปล่อยไปจากใจ ขอเพียงมีสติระลึกรู้ทันว่าก�ำลังหลงยึดมันอยู่ อย่า  ลืมว่ามันค้างคาในใจเราได้ เพราะใจเรานั่นแหละที่ไปยึดมันเอาไว ้ ไม่ยอมปล่อย ทันทีที่ใจปล่อยมันก็หลุด แต่เผลอเม่ือไรใจก็อาจไป  ยึดมันเอาไว้อีก ถ้าจะไม่ให้เผลอก็ต้องมีสติระวังรู้อยู่เสมอ สติจึงมี  ความส�ำคญั อยา่ งมากในการปลดเปลอ้ื งอารมณเ์ หล่าน้ี

64 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย ท่ีจริงหากมีสติหรือความรู้ตัวต้ังแต่แรกท่ีประกายแห่งความ  ไมพ่ อใจเกดิ ขน้ึ  มนั กด็ บั ไปตง้ั แตต่ อนนนั้  เพราะใจจะไมเ่ ผลอไปเกบ็   เอามาคดิ หรอื เตมิ เชอ้ื ใหม้ นั ลกุ ลามกลายเปน็ กองเพลิงกลางใจหรอื   คคุ ง่ั อยภู่ ายใน แตค่ นทว่ั ไปสตคิ อ่ นขา้ งงมุ่ งา่ ม รสู้ กึ ตวั ไดช้ า้  อารมณ์  เลยลุกลามไปได้เร็ว ดังนั้นจึงควรฝึกสติให้มีความว่องไวรวดเร็ว รู้  ทันความไม่พอใจท่ีเกิดข้ึนหรืออย่างน้อยก็รู้ทันเม่ือมันปะทุเป็น  อารมณ์น้อยๆ ขึ้นมา เราสามารถฝกึ สตไิ ดโ้ ดยเรม่ิ ตน้ จากการเขา้ คอรส์ สมาธภิ าวนา  ซึ่งมีอยู่มากมายในปัจจุบัน แต่เท่าน้ันยังไม่พอ ต้องบ่มเพาะสติใน  ชวี ติ ประจำ� วนั ดว้ ยการหมนั่ ดจู ติ มองตนอยเู่ สมอ รวมทง้ั ใสใ่ จกบั งาน  ทุกอย่างท่ีท�ำไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ กายท�ำอะไรก็ตาม ใจก็รับรู้ส่ิงท ี่ ท�ำด้วย  ด้วยวิธีนี้สติจะว่องไวและเข้มแข็งจนรู้ทันอารมณ์ต่างๆ ท ่ี เกิดข้ึนกับใจ ไม่ว่าบวกหรือลบ ฟูหรือแฟบ ยินดีหรือยินร้าย นิสัย  ใจลอยจะลดลงไปด้วย สตนิ น้ั สามารถใชร้ บั มอื กบั อารมณต์ า่ งๆ ไดท้ กุ ชนดิ  โดยเพยี ง  แตร่ เู้ ฉยๆ วา่ มอี ารมณเ์ หลา่ นเี้ กดิ ขน้ึ  ใจกป็ ลอ่ ยมนั หลดุ ไปเอง โดย  ไม่จ�ำเป็นต้องไปขับไสไล่ส่งมันเลย บางคนคิดว่าจะต้องเข้าไปเล่น  งานมัน เช่น กดมันเอาไว้ หรือไล่มันไป แต่ย่ิงท�ำก็ยิ่งเป็นการเติม 

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 65 เชอ้ื ใหม้ นั มพี ลงั มากขนึ้  หรอื กลายเปน็ การตดิ กบั ดกั มนั  เหมอื นกบั   ไก่ป่าท่ีคิดไล่ไก่ต่อท่ีนายพรานเอามาล่อไว้แต่สุดท้ายก็ติดกับของ  นายพราน เปลย่ี นความสนใจไปยงั ส่ิงอ่นื การย้ายความสนใจไปยังส่ิงอื่น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ใจ  ไมไ่ ปหมกมนุ่ กบั ความทกุ ขห์ รอื ตกหลมุ อารมณอ์ กศุ ลทงั้ หลาย เชน่   เวลาโกรธใครขึ้นมา ลองดึงจิตมาจดจ่อกับลมหายใจ ขณะเดียวกัน  กห็ ายใจเขา้ ลกึ ๆ หายใจออกยาวๆ และนบั ทกุ ครง้ั ทหี่ ายใจออก เรมิ่   จาก ๑ ไปจนถึง ๑๐ ถ้าลืมก็นับ ๑ ใหม่ แม้ความโกรธจะไม่หาย  ทันที แต่ก็จะทุเลาหรือร้อนรุ่มน้อยลง เพราะมันสะดุดขาดตอนแม้  จะเปน็ ชว่ งสน้ั กต็ าม การนึกถึงความทุกข์ของผู้อื่น ก็ช่วยบรรเทาความทุกข์ของ  เราดว้ ยเชน่ กนั  โดยเฉพาะเมอื่ นกึ ถงึ คนทล่ี ำ� บากกวา่ เรา  หมอกมุ ารเวช  ผู้หนึ่งเป็นทุกข์มากเพราะเสียสามีกะทันหัน เสร็จงานศพแล้วก็  ยังไม่หายซึมเศร้า ไปท�ำงานก็ไม่พูดไม่คุยกับใคร นั่งซึมอยู่ในห้อง  คนเดียว เป็นเช่นนี้นานร่วม ๒ อาทิตย์ เพื่อนๆ ช่วยเท่าไรก็ไม่ได ้

66 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย ผล  สดุ ทา้ ยหวั หนา้ แผนกกเ็ อาทารกทก่ี ำ� ลงั ปว่ ยคนหนงึ่ มาวางไวบ้ น  โตะ๊ เธอ แลว้ เดนิ จากไป  ไมน่ านเดก็ กร็ อ้ งไห ้ แตเ่ ธอยงั นงั่ นง่ิ จนเดก็   ร้องไห้ดังขึ้น เธอจึงลุกไปดูเด็กและช่วยเปล่ียนผ้าอ้อมพร้อมกับ  ปอ้ นนมใหเ้ ดก็  แลว้ กน็ ง่ั นง่ิ อกี  แตเ่ ดก็ ไมย่ อมใหเ้ ธออยนู่ ง่ิ ๆ ไดน้ าน  ในทส่ี ดุ เธอก็ตอ้ งมาตรวจดูอาการเจ็บป่วยของเด็ก วนั รงุ่ ขนึ้  เมอื่ เธอมาถงึ โรงพยาบาล อยา่ งแรกทเ่ี ธอทำ� คอื ถาม  อาการของเดก็ คนน้ัน แล้วเดินเข้าไปดเู ดก็ ถึงเตียง ทนี ี้ก็พบว่ายงั ม ี เด็กอีกหลายคนที่รอการเยียวยาจากเธอ วันน้ันท้ังวันเธอจึงดูแล  รักษาเด็กคนแล้วคนเล่าเช่นเดียวกับวันถัดไป ผลก็คือเธอหายซึม  เศรา้  และกลบั มาเป็นคนเดิมอีกครงั้ หนง่ึ เมอื่ ใจเราไปจดจอ่ กบั สง่ิ อนื่ แทน อารมณท์ เ่ี คยเกาะกมุ จติ ใจก็  เหมือนกับกองไฟท่ีไม่มีใครมาเติมเช้ือให้ มันก็จะค่อยๆ หร่ีลง จน  อาจมอดดบั ไปเลย แตถ่ า้ เราหนั ไปหมกมนุ่ กบั อารมณเ์ หลา่ นน้ั  มนั ก ็ จะคโุ ชนขนึ้ อกี ครง้ั   ดงั นน้ั ถา้ รจู้ กั หนั ความสนใจไปยงั สงิ่ อน่ื  (ทไ่ี มใ่ ช่  อบายมุขหรือสิ่งเสพติด) ใจเราจะโปร่งเบามากข้ึนเรอื่ ยๆ

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 67 มองแงด่ ี ขยะปฏิกูลนั้น ถ้าใช้ไม่เป็น ปล่อยให้หมักหมม ก็ส่งกล่ิน  เหม็นและเป็นท่ีมาของโรค แต่ถ้ารู้จักใช้ก็เป็นประโยชน์ เช่นกลาย  เปน็ ปยุ๋   ความทกุ ขห์ รอื สง่ิ ทไี่ มน่ า่ พอใจกเ็ ชน่ กนั  ไมว่ า่ โรคภยั ไขเ้ จบ็   ความพลัดพรากสูญเสียหรือความยากล�ำบาก ถ้าเราไม่รู้จักมองก็  ก่อให้เกิดอารมณ์หมักหมมท่ีล้วนเป็นอกุศล แต่ถ้ามองเป็นจนเห็น ประโยชนห์ รอื รจู้ กั มองในแงด่  ี อารมณอ์ กศุ ลกจ็ ะคลายไป เกดิ ความ  รู้สกึ ดขี นึ้ มาแทนท ่ี หรอื อย่างน้อยก็ปล่อยวางได้มากขน้ึ ชายหนุ่มคนหน่ึงทำ� โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดหายไป รู้สึก  เสียดายมาก จึงไปหาหลวงพ่อซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ หวังว่าท่านจะ  ชว่ ยชแ้ี นะใหไ้ ดค้ นื มา แตห่ ลวงพอ่ แทนทจ่ี ะถามวา่ โทรศพั ทร์ นุ่ อะไร  กลับถามวา่  “มที องไหม?” ชายหน่มุ ตอบ “มีครบั ” “อีกไม่นานทองก็จะหาย” แล้วท่านก็ถามต่อว่า “มีรถไหม?” ชายหนุม่ ตอบวา่ มี “อกี ไมน่ านรถกจ็ ะหาย...แลว้ มแี ฟนไหม?” ชายหนมุ่ ตอบวา่ มี “อกี ไมน่ านแฟนกจ็ ะหายเหมือนกัน”

68 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย มาถงึ ตรงนช้ี ายหนมุ่ กก็ ราบลาหลวงพอ่  ไมพ่ ดู ถงึ โทรศพั ทอ์ กี   เลย เพราะเขามาไดค้ ิดว่าโทรศัพทห์ ายน้นั เปน็ เรื่องเล็ก ถงึ อยา่ งไร  เขากย็ งั โชคดที ไ่ี มส่ ญู เสยี มากไปกวา่ น ้ี ความเสยี ดายโทรศพั ทม์ อื ถอื   มลายหายเปน็ ปลดิ ทิ้ง เหตุการณ์ท่ีไม่น่ายินดีทั้งหลาย ถ้ามองให้เป็นก็ยังย้ิมได้  ม ี ผู้ป่วยหลายคนอุทานว่า “โชคดีท่ีเป็นมะเร็ง” เพราะมะเร็งท�ำให้เขา  และเธอได้พบหลายอย่างที่มีคุณค่าต่อชีวิต เช่น ได้รู้จักธรรมะ ได ้ อยู่ใกล้คนรัก บางคนเป็นมะเร็งสมอง แต่ก็ยังบอกว่าโชคดีที่ไม่ได้  เปน็ มะเรง็ ปากมดลูกเพราะเคยเหน็ ญาตทิ ุกขท์ รมานกับโรคนม้ี าก ขยะและสิ่งปฏิกูลน้ันสามารถแปรเป็นปุ๋ยและบ�ำรุงต้นไม้ให ้ งอกงามจนออกดอกออกผล ฉนั ใดกฉ็ นั นนั้  ปญั หาทง้ั หลายกม็ แี งด่ ี  หรอื มปี ระโยชนถ์ า้ มองใหเ้ ปน็  อารมณอ์ กศุ ลกย็ ากจะหมกั หมมหรอื   ยืดเยอื้ เรือ้ รังได้

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 69 เยียวยาใจด้วยการให้อภยั ถา้ หากอารมณท์ หี่ มกั หมมนนั้ เปน็ ความโกรธ เกลยี ด พยาบาท  วิธีหน่ึงที่ช่วยเปลื้องอารมณ์เหล่านี้ไปจากใจอย่างได้ผลมากคือ  การให้อภัยหรือดียิ่งกว่านั้นคือการแผ่เมตตาให้  ให้อภัยคือไม่ถือ  โทษโกรธเคืองในเร่ืองท่ีผ่านมา ส่วนแผ่เมตตาหมายถึงการต้ังจิต  ปรารถนาดีใหม้ ีความสขุ ยง่ิ ๆ ข้ึนไป หัวใจของ อาซิม กามิซา แทบจะแตกสลายเมื่อรู้ว่าลูกชาย  คนเดยี วของเขาถกู ฆา่ ขณะกำ� ลงั ทำ� งานภาคคำ�่   ทารกิ อายเุ พยี งแค ่ ๒๐  ปี ชีวิตก�ำลังมีอนาคต แต่โทน่ีผู้เป็นฆาตกรกลับมีอายุน้อยกว่าคือ  ๑๔ ปีเท่าน้ัน ท้ังสองไม่เคยรู้จักกันหรือมีเร่ืองโกรธแค้นกันมาก่อน  โทนเี่ พยี งแตอ่ ยากแสดงความสามารถเพอื่ ใหเ้ ปน็ ทย่ี อมรบั ของแกง๊   อันธพาล โทนี่ได้ท�ำลายส่ิงท่ีมีค่าท่ีสุดของอาซิม แต่การรับรู้ความจริง  เกี่ยวกับชีวิตของโทนี่ได้ท�ำให้อาซิมยากท่ีจะเคียดแค้นเขาได้ลงคอ  โทนี่คลอดขณะท่ีแม่อายุได้เพียง ๑๕ ปี พ่อเขาเป็นวัยรุ่นติดยา  ตัวเขาเองอายุเพียง ๖ ขวบก็ถูกล่วงเกินทางเพศ แม่จึงส่งมาให้ปู่  เลยี้ งด ู วนั ทเ่ี กดิ เหตโุ ทนเี่ พง่ิ หนจี ากบา้ นและมาเขา้ แกง๊ วยั รนุ่ หมาดๆ

70 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย ถา้ ความเคยี ดแค้นพยาบาท คอื พิษทกี่ ดั แผลในใจจนเร้อื รงั การให้อภยั และการมีเมตตาจิต ก็คอื ยาท่สี มานแผลให้สนทิ ดังเดิม การใหอ้ ภยั คนที่ทำ� รา้ ยเรานั้นเป็นเรอ่ื งยาก แต่การท่ีจะมีชีวิตอย่างผาสกุ ตราบใดท่ียังมคี วามโกรธเกลยี ดส่ังสมในจติ ใจ กลบั เปน็ เร่อื งยากย่งิ กว่า ความตายของลูกได้เปิดตาอาซิมให้เห็นโลกอันด�ำมืดของ  เยาวชน  เขาไม่เพียงแต่ให้อภัยโทนี่เท่านั้น หากยังได้ร่วมมือกับปู ่ ของโทน ่ี จดั ตงั้ มลู นธิ ทิ ารกิ  กามซิ า รณรงคใ์ หก้ ารศกึ ษาแกเ่ ยาวชน  เพอ่ื หา่ งไกลจากความรนุ แรง  อาซมิ และปขู่ องโทน ่ี คอื  เพลส เฟลกิ ซ์  ได้เดินทางไปทั่วสหรัฐอเมริกาเพ่ือจัดกิจกรรมตามโรงเรียนต่างๆ  ปลูกฝังให้วัยรุ่นเห็นโทษของความรุนแรง ความร่วมมืออย่าง  กลมเกลียวระหว่างพ่อของผู้ตายกับปู่ของฆาตกรน้ันเป็นภาพที่  ประทบั ใจผู้คนเป็นอันมาก

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 71 สามปหี ลงั จากการจากไปของทารกิ  อาซมิ พรอ้ มทจี่ ะไปเผชญิ   หนา้ เปน็ ครง้ั แรกกบั ผทู้ ฆี่ า่ ลกู ชายของเขาซง่ึ ถกู จ�ำคกุ อย ู่ เขาไปเพอื่   จะกล่าวค�ำให้อภัยและเชื้อเชิญโทนี่ให้มาร่วมงานกับมูลนิธิของเขา  และนั่นทำ� ใหก้ ารเยียวยาจติ ใจของเขาครบถว้ นสมบรู ณ์ ถ้าความเคียดแค้นพยาบาทคือพิษท่ีกัดแผลในใจจนเร้ือรัง  การให้อภัยและการมีเมตตาจิตก็คือยาที่สมานแผลให้สนิทดังเดิม  การใหอ้ ภยั คนทท่ี ำ� รา้ ยเรานน้ั เปน็ เรอื่ งยาก แตก่ ารทจี่ ะมชี วี ติ อยา่ งผาสกุ   ตราบใดท่ียังมีความโกรธเกลียดส่ังสมในจิตใจ กลับเป็นเร่ืองยาก  ยง่ิ กวา่  ในใจของทกุ คนยอ่ มมบี าดแผลจากความโกรธเกลยี ด ดงั นน้ั   จงึ จำ� เปน็ ต้องมี “ยาสามัญประจำ� ใจ” ขนานน้ีไว้เยยี วยาอยู่เสมอ อย่วู เิ วกเปน็ ครัง้ คราว อาหารถา้ กนิ มากๆ กม็ สี ารพษิ สะสมมาก ขณะเดยี วกนั กท็ �ำให ้ การขบั สารพษิ เปน็ ไปไดย้ าก เพราะรา่ งกายตอ้ งใชพ้ ลงั งานสว่ นใหญ ่ ไปกบั การยอ่ ยเปน็ หลกั  ดงั นน้ั เวลาจะขบั สารพษิ ออกไปจากรา่ งกาย  จงึ ควรงดอาหารเปน็ ครงั้ คราว  ฉนั ใดกฉ็ นั นนั้  การเสพขา่ วสารแสงส ี และการพบปะผู้คนอยู่ตลอดเวลา ก็ทำ� ให้เกิดอารมณ์ขึ้นลงไม่หยุด 

72 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย หยอ่ น อารมณเ์ หลา่ นแี้ มจ้ ะดบั ไปในเวลาไมน่ าน แตก่ ม็ กั ทง้ิ ตะกอน  อารมณไ์ วใ้ นใจเรา ซง่ึ หากสะสมมากพอกท็ �ำใหเ้ ราเกดิ อารมณเ์ หลา่   น้ีได้ง่ายข้ึนเร็วข้ึน เช่น คนท่ีหัวเสียหรือเครียดบ่อยๆ นานไปก็จะ  หวั เสยี และเครียดได้งา่ ยขึ้นแมก้ ับเรอ่ื งเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ดังนั้นจึงควรมีบางช่วงที่เราปลีกตัวหลีกเร้นจากข่าวสารแสง  สีและการพูดคุย ห่างไกลจากโทรทัศน์และโทรศัพท์มือถือ อยู่คน  เดยี วอยา่ งเงยี บๆ อยา่ งนอ้ ยปลี ะ ๑ อาทติ ย ์ ถอื เปน็ โอกาสเจรญิ สติ  บ�ำเพ็ญสมาธิภาวนาเพ่ือลดตะกอนอารมณ์ วิธีนี้ยังเป็นการ “เว้น  วรรค” อารมณไ์ มใ่ หต้ อ่ เนอื่ งเปน็ ลกู โซจ่ นลกุ ลาม จติ ใจจะไดแ้ จม่ ใส  สดช่นื อกี คร้ังหนึ่ง อย่ใู นโลกอย่างรู้เท่าทัน อยา่ งไรกต็ ามเราอยใู่ นโลกทต่ี อ้ งเกยี่ วขอ้ งกบั ผคู้ น เราจงึ ตอ้ ง  เรียนรู้ท่ีจะอยู่กับข้อมูล ข่าวสาร แสงสี ตลอดจนอารมณ์ของผู้คน  โดยไมท่ กุ ขด์ ว้ ย มใิ ชเ่ อาแตห่ ลกี เรน้ อยา่ งเดยี ว  วธิ กี ารอยกู่ บั สงิ่ เหลา่ น ้ี ก็คือการรักษาใจให้มีสติอยู่เสมอ เสียงดังหรือคำ� ต�ำหนิไม่ท�ำให้เรา  ทกุ ข ์ หากใจไมไ่ ปเกาะเกยี่ วยดึ ตดิ อยกู่ บั มนั   มคี ราวหนงึ่ ญาตโิ ยมขอ 

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 73 ใหห้ ลวงปู่บดุ ดา ถาวโร พักผอ่ นเอนกายหลังฉนั เพลทีบ่ า้ นเจา้ ภาพ  หอ้ งแถวขา้ งๆ เปน็ รา้ นคา้  เจา้ ของใสเ่ กยี๊ ะเดนิ ขน้ึ ลงบนั ได สง่ เสยี ง  ดังมาถึงห้องของหลวงปู่ ลูกศิษย์ซ่ึงน่ังอยู่ในห้องด้วยบ่นขึ้นมาว่า  เดินเสียงดังจัง หลวงปู่ได้ยินจึงพูดว่า “เขาเดินของเขาอยู่ดีๆ เรา  เอาหไู ปรองเกย๊ี ะเขาเอง” ใชห่ รอื ไมว่ า่ หขู องเราชอบหาเรอ่ื ง จงึ ไปยดึ เอาเสยี งตา่ งๆ มา  ทิ่มแทงใจของตัว ส่วนตา หู จมูก ล้ิน กาย และใจก็ไม่เบาเช่นกัน  เราจงึ มคี วามทกุ ขอ์ ยไู่ มว่ า่ งเวน้  ทง้ั นที้ งั้ นน้ั กเ็ พราะไมม่ สี ตกิ ำ� กบั นน่ั เอง การอยู่กับผู้คนมากๆ หากมีสติคู่ใจ มีอะไรมากระทบ แม้จะ  ออกมาจากอารมณ์ที่ร้อนแรง แต่ก็จะไม่ติดตรึงใจเราได้เพราะเรา  รู้ทนั อารมณท์ ี่มากระทบและปลอ่ ยวางไดท้ นั เปรยี บดังใบบวั ท่ไี ม่ยอมให้หยดน้�ำมันมาเกาะติดได้

74 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย เปิดปากเปดิ ใจ แต่ปุถุชนนั้นยากท่ีจะมีสติตลอดเวลา ได้ยินได้เห็นอะไรไม ่ ถกู ใจยอ่ มปลอ่ ยวางไมท่ นั  เกบ็ เอามาทมิ่ แทงตวั เองซ�้ำยงั อดไมไ่ ดท้ ี ่ คิดปรุงแต่งไปทางร้าย เห็นเขากระซิบกระซาบกันก็คิดว่าเขาก�ำลัง  นนิ ทาตนเอง ถา้ ปกั ใจเชอื่ เชน่ นนั้ กจ็ ะรสู้ กึ ไปในทางรา้ ยกบั เขาทนั ที  ค�ำถามก็คือ เรามั่นใจในข้อสรุปของตัวเองแล้วหรือ จะดีกว่าไหม  หากเปิดปากซักถามเขาวา่ กำ� ลงั กระซบิ กระซาบกนั เรือ่ งอะไร เรามักด่วนสรุปไปตามความคิดช่ัวแล่น โดยไม่สาวหาความ  จริง การเปิดปากซักถามเป็นวิธีหนึ่งท่ีช่วยป้องกันไม่ให้เราด่วน  สรุปอย่างผิดๆ จนเกิดอารมณ์อกุศลข้ึน ใช่หรือไม่ว่าเมื่อความจริง  ปรากฏ บอ่ ยครงั้ มนั กลบั ไม่ไดเ้ ปน็ ไปอยา่ งที่เรานึก ความกินแหนงแคลงใจและความร้าวฉานมักเกิดจากความ  เขา้ ใจผดิ  และความเขา้ ใจผดิ มจี ดุ เรม่ิ ตน้ จากการดว่ นสรปุ และไมส่ บื   สาวหาความจรงิ  ทง้ั ๆ ทเ่ี พยี งแคเ่ ปดิ ปากซกั ถาม ความจรงิ กป็ รากฏ ไม่วา่ ในครอบครัวหรอื ทที่ �ำงาน การรจู้ กั เปิดปากซกั ถามเป็น  วธิ ปี ้องกันความเข้าใจผิด และสกดั กั้นมใิ ห้เกิดอารมณ์อกศุ ลไดเ้ ป็น 

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 75 อย่างดี แต่เท่าน้ันคงไม่พอ นอกจากการเปิดปากซักถามแล้ว บาง  ครงั้ มคี วามจ�ำเปน็ ทตี่ อ้ งมกี ารเปดิ ปากเลา่ ความในใจดว้ ย  สาเหตทุ  ่ี ความไมพ่ อใจสะสมมากขนึ้ เพราะเราไมก่ ลา้ เลา่ ความในใจใหอ้ กี ฝา่ ย  รบั รวู้ า่ รสู้ กึ ขอ้ งขดั อยา่ งไรบา้ ง การปดิ ปากเงยี บทำ� ใหอ้ ารมณค์ กุ รนุ่   จนอาจระเบิดออกมาและก่อความเสียหายอยา่ งคาดไมถ่ ึง ในการอยู่ร่วมกัน เราควรส่งเสริมซึ่งกันและกันให้พร้อมท่ีจะ  เปิดปากซักถามเมื่อมีความสงสัยไม่แน่ใจ หรือเปิดปากเล่าความ  ในใจเมอื่ มคี วามขนุ่ ขอ้ งหมองใจกนั ขนึ้ มา แตจ่ ะทำ� เชน่ นนั้ ไดท้ กุ ฝา่ ย  ต้องพร้อมเปิดใจรับฟังส่ิงที่อาจไม่ถูกใจ หรือไม่ตรงกับความคิด  ของตน  การเปดิ ใจรบั ฟงั อยา่ งมสี ต ิ และความเหน็ อกเหน็ ใจ จะชว่ ยให ้ ผคู้ นพรอ้ มเปดิ ปากซกั ถามและเลา่ ความในใจไดอ้ ยา่ งเตม็ ท ี่ แลว้ เรา  อาจพบวา่ ปญั หานน้ั แกไ้ ดไ้ มย่ ากเลย ใชห่ รอื ไมว่ า่ ปญั หาเลก็ ๆ ลกุ ลาม  จนเป็นเร่ืองใหญ่ไดก้ ็เพราะการไมเ่ ปดิ ปากเปิดใจให้แกก่ ันและกัน การเปดิ ปากเปดิ ใจไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งหมายถงึ การใสอ่ ารมณเ์ ขา้ หา  กนั  หากทกุ ฝา่ ยมสี ตริ กั ษาใจ หรอื แมน้ วา่ คนสว่ นใหญไ่ มม่ สี ต ิ แตถ่ า้   คนหน่ึงมีสติ ต้ังอยู่ในความนิ่งสงบก็สามารถช่วยลดทอนอารมณ ์ ของผูอ้ ื่นได้ ขอให้คนคนน้นั เรม่ิ ต้นท่ตี วั เรา ท่เี หลือก็ไม่ใช่เรื่องยาก  เย็นแสนเข็ญอีกต่อไป

คนท่สี ำ� คญั หมายสง่ิ ใดวา่ นีข้ องเรา” กจ็ ะตอ้ งจากสิ่งนั้นไปเพราะความตาย พทุ ธมามกะผเู้ ป็นบัณฑติ ทราบความขอ้ นแ้ี ลว้ กไ็ ม่ควรเอนเอยี งไปในทาง ทจี่ ะยดึ ถือวา่ เปน็ ของเรา พทุ ธวจนะ

ย า ส า ม ั ญ ป ร ะ จ ํ า ใ จ * ในบรรดาผเู้ คราะหร์ า้ ยจากสงครามเวยี ดนามคง ไมม่ ใี คร  ทท่ี วั่ โลกรจู้ กั มากเทา่ กบั  คมิ  ฟคุ  ภาพเดก็ หญงิ วยั  ๙ ขวบ รา่ งกาย  บอบบางและเปลือยเปล่า ว่ิงร�่ำไห้อยู่กลางถนนพร้อมกับเด็กอีก  ๔ คน โดยมีทหารและม่านควันด�ำทมึนเป็นฉากหลัง ได้ประทับ  แน่นอยู่ในใจของผู้คนท่ัวโลก ภาพนี้ภาพเดียวก็เพียงพอแล้วที ่ จะบอกเราว่าสงครามนั้นสร้างความทุกข์ทรมานแก่เด็กๆ และ  ประชาชนผูบ้ ริสทุ ธอ์ิ ยา่ งไรบา้ ง *สุขใจในนาคร กรกฎาคม ๒๕๔๗



พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 79 คิม ฟุค คือเด็กหญิงชาวเวียดนามใต้คนน้ัน ซ่ึงช่างภาพ  อเมริกันได้ถ่ายไว้ขณะท่ีเธอและเพ่ือนบ้านก�ำลังแตกตื่นหนีภัย แม ้ เธอจะรอดตายจากระเบิดนาปาล์มที่ทิ้งลงหมู่บ้านของเธอ แต่ไฟ  ไหมไ้ ดเ้ ผาลวกผวิ หนงั ของเธอถงึ  ๖๕ เปอรเ์ ซน็ ต ์ เธอตอ้ งรกั ษาตวั   อยู่ในโรงพยาบาลถึง ๑๔ เดือน และผ่านการผ่าตัดถึง ๑๗ คร้ัง  กวา่ จะหายเปน็ ปกต ิ เธอยงั โชคดเี มอ่ื เทยี บกบั ลกู พลี่ กู นอ้ งอกี  ๒ คน  ซึ่งตายเพราะทนพิษบาดแผลไมไ่ หว นั่นคือเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนในปี ๒๕๑๕ เม่ือเวียดนามกลาย  เปน็ คอมมวิ นิสต์  สามปตี ่อมากไ็ มม่ ีข่าวคราวของเธอปรากฏส่โู ลก  ภายนอกอกี เลย แตแ่ ลว้ วนั หนงึ่ ในป ี ๒๕๓๙ คมิ  ฟคุ  กไ็ ดม้ าปรากฏ  ตัวอยู่ต่อหน้าชาวอเมริกันซ่ึงเคยผ่านสมรภูมิเวียดนาม เธอได้รับ  เชิญใหม้ าพดู เนื่องในโอกาสวนั ทหารผา่ นศกึ  ณ กรุงวอชงิ ตนั  ด.ี ซ.ี การไดม้ าเผชญิ หนา้ กบั กลมุ่ คนซงึ่ ครงั้ หนง่ึ เคยมาท�ำลายบา้ น  เกดิ เมอื งนอนของเธอ ท�ำใหญ้ าติพ่นี ้องของเธอต้องตาย และเกอื บ  ฆ่าเธอให้ตายไปด้วยนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ท�ำใจได้ง่ายนัก แต่เธอมา  ก็เพ่ือจะบอกให้พวกเขารู้ว่าสงครามน้ันได้ก่อความทุกข์ทรมานแก ่ ผคู้ นอยา่ งไรบา้ ง  หลงั จากทเี่ ลา่ ถงึ ประสบการณอ์ นั เจบ็ ปวดของเธอ  แล้ว เธอก็ได้เผยความในใจว่า เร่ืองหนึ่งทีเ่ ธออยากจะบอกต่อหน้า 

80 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย นักบินท่ีท้งิ ระเบิดใส่หมู่บา้ นของเธอ พดู มาถงึ ตรงนกี้ ม็ คี นสง่ ขอ้ ความมาบอกวา่  คนทเี่ ธอตอ้ งการ  พบกำ� ลงั นงั่ อยใู่ นหอ้ งประชมุ น ี้ เธอจงึ เผยความในใจออกมาวา่  “ฉนั   อยากบอกเขาว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ แต่  เราควรพยายามท�ำสิ่งดีๆ เพื่อส่งเสริมสันติภาพท้ังในปัจจุบันและ  อนาคต” เม่ือเธอบรรยายเสร็จ ลงมาจากเวที อดีตนักบินท่ีเกือบฆ่า  เธอก็มายืนอยู่เบ้ืองหน้าเธอ เขามิใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว แต่เป็น  ศาสนาจารยป์ ระจำ� โบสถแ์ หง่ หนง่ึ  เขาพดู ดว้ ยสหี นา้ เจบ็ ปวดวา่  “ผม  ขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ” คมิ เข้าไปโอบกอดเขาแล้วตอบว่า “ไมเ่ ป็นไร ฉนั ให้อภัย ฉนั   ให้อภยั ” ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งงา่ ยเลยทเ่ี ราจะใหอ้ ภยั โดยเฉพาะกบั คนทที่ ำ� รา้ ยเรา  ปางตาย คมิ  ฟคุ  เลา่ วา่ เหตกุ ารณค์ รงั้ นนั้ สรา้ งความทกุ ขท์ รมานแก่  เธอทง้ั กายและใจ จนเธอเองกไ็ มร่ วู้ า่ จะมชี วี ติ อยตู่ อ่ ไปไดอ้ ยา่ งไร แต ่ แลว้ เธอกพ็ บวา่ สงิ่ ทที่ ำ� รา้ ยเธอจรงิ ๆ มใิ ชใ่ ครทไ่ี หน หากไดแ้ กค่ วาม 

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 81 เกลยี ดทฝ่ี งั แนน่ ในใจเธอนนั่ เอง “ฉนั พบวา่ การบม่ เพาะความเกลยี ด  เอาไวส้ ามารถฆา่ ฉนั ได”้  เธอพยายามสวดมนตแ์ ละแผเ่ มตตาใหศ้ ตั รู  และแก่คนที่ก่อความทุกข์ให้เธอ แล้วเธอก็พบว่า “หัวใจฉันมีความ  ออ่ นโยนมากขึ้นเรอ่ื ยๆ เด๋ยี วนฉี้ ันสามารถอยูไ่ ด้โดยไมต่ อ้ งเกลียด” เราไม่อาจควบคุมก�ำกับผู้คนให้ท�ำดี หรือไม่ท�ำชั่วกับเราได้  แต่เราสามารถควบคุมก�ำกับจิตใจของเราได้ เราไม่อาจเลือกได้ว่า  รอบตวั เราตอ้ งมแี ตค่ นนา่ รกั  พดู จาออ่ นหวาน แตเ่ ราสามารถเลอื ก  ไดว้ า่ จะทำ� ใจอยา่ งไร เมอื่ ประสบกบั สง่ิ ไมพ่ งึ ปรารถนา  คมิ  ฟคุ  ได้  เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองว่า “ฉันน่าจะโกรธ แต่ฉันเลือก  อีกทางหนึง่  แลว้ ชวี ติ ของฉนั ก็ดีขึ้น” เราไมอ่ าจควบคุมก�ำกับผ้คู น ใหท้ ำ� ดี หรอื ไม่ทำ� ชัว่ กบั เราได้ แต่เราสามารถควบคมุ กำ� กับจิตใจของเราได้ เราไมอ่ าจเลอื กไดว้ า่ รอบตัวเรา ตอ้ งมแี ต่คนนา่ รักพูดจาออ่ นหวาน แตเ่ ราสามารถเลือกไดว้ า่ จะท�ำใจอย่างไร เม่อื ประสบกบั สง่ิ ไมพ่ งึ ปรารถนา

82 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย บทเรียนของ คิม ฟุค คือในเม่ือเราเปล่ียนแปลงอดีตไม่ได้  เราจงึ ไมค่ วรปกั ใจอยกู่ บั อดตี  แตเ่ ราสามารถเรยี นรจู้ ากอดตี เพอื่ ท�ำ  ปัจจุบันและอนาคตให้ดีข้ึนได้ บทเรียนจากอดีตอย่างหนึ่งท่ีเธอได้  เรียนรู้มาก็คือ “การอยู่กับความโกรธ เกลียด และความขมข่ืนน้ัน  ทำ� ใหฉ้ ันเหน็ คณุ คา่ ของการใหอ้ ภัย” การใหอ้ ภยั มไิ ดห้ มายถงึ การลมื เหตกุ ารณท์ เี่ จบ็ ปวด แตห่ มาย  ถงึ การไมย่ อมใหเ้ หตกุ ารณเ์ หลา่ นนั้ มาท�ำรา้ ยเรา  ผทู้ รี่ จู้ กั ใหอ้ ภยั คอื   ผู้ท่ียังจดจ�ำอดีตอันไม่น่าพิสมัยได้ แต่แทนที่จะปล่อยให้อดีตนั้น  มากระท�ำย่�ำยี กลับเอาชนะมันได้และสามารถน�ำมันมาใช้ให้เกิด  ประโยชน์ เช่น เอามาเป็นบทเรียนเพื่อจะไม่ท�ำความผิดพลาดอีก  และที่ส�ำคัญคือเป็นเคร่ืองเตือนใจว่าความโกรธเกลียดน้ันเป็น  อนั ตรายตอ่ ตัวเราอย่างไรบ้าง เม่ือเราโกรธใคร อยากท�ำร้ายใครน้ัน คนแรกที่ถูกท�ำร้ายคือ  ตวั เรานน่ั เอง ไมใ่ ชแ่ คจ่ ติ ใจเทา่ นนั้ ทเ่ี รา่ รอ้ นเหมอื นถกู ไฟสมุ  แมแ้ ต่  กายกย็ งั ไดร้ บั ผลกระทบดว้ ย  มบี างคนทม่ี อี าการปวดทอ้ งและปวด  ศรี ษะเรอ้ื รงั  อกี ทงั้ ยงั มคี วามดนั โลหติ สงู  หมอพยายามตรวจรา่ งกาย  แต่ก็ไม่พบความผิดปกติ หมอจึงขอให้เธอเล่าเร่ืองราวในชีวิตของ  เธอใหฟ้ งั  เธอเลา่ วา่ กำ� ลงั มเี รอื่ งขนุ่ เคอื งใจกบั พสี่ าวซง่ึ ทอดทงิ้ ใหเ้ ธอ 

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 83 เผชิญปัญหาตามล�ำพังอยู่หลายปี หมอจึงสันนิษฐานว่าความเจ็บ  ป่วยของเธอมีสาเหตุมาจากความบาดหมางดังกล่าว จึงแนะให้เธอ  ยกโทษแก่พี่สาว  หลายปีต่อมาหมอได้รับจดหมายจากคนไข้รายน ้ี ว่าเธอคืนดีกบั พีส่ าวแล้ว และอาการเจบ็ ปว่ ยกไ็ ม่มารังควานอีกเลย มีอีกรายท่ีเจ็บป่วยโดยหมอไม่พบความผิดปกติในร่างกาย  เธอมีอาการคลื่นไส้และระบบย่อยอาหารผิดปกติจนน�้ำหนักลดไป  ๑๕ กก. วันหนงึ่ อาการไดก้ ำ� เริบขน้ึ เมื่อเธอไดร้ บั จดหมายจากลกู พี ่ ลกู นอ้ ง เธอเฉลยี วใจในตอนนนั้ เองวา่ ความเจบ็ ปว่ ยของเธอมสี าเหต ุ มาจากความโกรธเกลยี ด  เธอทงั้ โกรธและเกลยี ดลกู พล่ี กู นอ้ งคนนนั้   เพราะแอบไปมีความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มของเธอ ลูกพี่ลูกน้องคน  นั้นเขียนจดหมายมาขอโทษเธอ  เธอครุ่นคิดอยู่นาน และในที่สุดก็  เขยี นจดหมายตอบไปวา่  “ฉนั ยกโทษใหเ้ ธอ” หลงั จากนน้ั สขุ ภาพเธอ  ก็ดีขนึ้ และใช้ชีวิตอย่างมีความสขุ การให้อภัยเป็นเร่ืองยาก แต่การมีชีวิตด้วยจิตใจท่ีโกรธแค้น  พยาบาทกลับเป็นเร่ืองที่ยากล�ำบากกว่า  คนที่มีความโกรธเกลียด  อันแน่นเต็มหัวใจ ย่อมไม่อาจพบความสุขและความเบิกบานใจได้  คนเช่นน้ีย่อมยากท่ีจะมีศรัทธาและกำ� ลังใจในการมีชีวิต ด้วยเหตุน ้ี เราจงึ ควรเรยี นรทู้ จ่ี ะปลดเปลอ้ื งความโกรธเกลยี ดไปจากจติ ใจ ดว้ ย 

84 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย การรจู้ กั ใหอ้ ภยั และหมน่ั แผเ่ มตตาไปใหแ้ กค่ นทที่ �ำความเจบ็ ปวดให้  แกเ่ รา ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งงา่ ยทจี่ ะนกึ ถงึ บคุ คลดงั กลา่ วโดยทจ่ี ติ ใจไมพ่ ลงุ่ พลา่ น  แต่เมื่อใดท่ีใจเราสงบ ลองนึกถึงเขาอยู่เป็นระยะๆ นึกถึงแต่ละคร้ัง  ก็ยิ้มให้เขา แผ่ความปรารถนาดีให้เขา เราจะพบว่าเราย้ิมให้เขา  ได้ง่ายขึ้นและจิตใจกระเพ่ือมน้อยลง ไม่นานเราก็จะให้อภัยเขาได้  และมีความปรารถนาดตี ่อเขาดว้ ยใจจรงิ ถึงตอนนั้นเราจะพบว่าสิ่งท่ีท�ำให้เราเจ็บปวดทุกข์ทรมานมา  เป็นเวลานานนั้นมิใช่อะไรอื่น หากได้แก่ความโกรธเกลียดท่ีเคยอยู ่ ในใจเรานน้ั เอง  ความเจบ็ ปวดทเี่ กดิ เพราะคนบางคนนน้ั  แทจ้ รงิ ได้  กลายเป็นอดีตไปแล้ว แต่ที่ยังคงอยู่ก็เพราะใจเราน้ันเองท่ีไปร้ือฟื้น  และทะนุถนอมมันเอาไว้ด้วยความจงเกลียดจงชังหมายม่ันจะ  แกแ้ คน้   ตวั เขาอาจอยไู่ กลแสนไกล แตเ่ ราเองตา่ งหากทไี่ ปดงึ เขามา  ไว้กลางใจเราอยู่ทุกโมงยาม  พูดให้ถูกต้องก็คือ ใจเราน่ันแหละที่  สร้างปิศาจร้ายมาหลอกหลอนตัวเองอยู่ทุกขณะจิต ปิศาจท่ีแม้  รปู รา่ งหนา้ ตาเหมอื นคนทเ่ี คยประทษุ รา้ ยเรา แตเ่ ปน็ ผลผลติ จากใจ  ของเราเอง

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 85 การให้อภัยและการแผ่เมตตาแท้ที่จริง ก็คือการสยบปิศาจ  รา้ ยมใิ หม้ าหลอกหลอนอกี ตอ่ ไป จะเรยี กวา่ เปน็ การเชอื้ เชญิ มนั ออก  ไปจากจิตใจของเราก็ได้ ด้วยการให้อภัยและการแผ่เมตตาเท่าน้ัน  จติ ใจของเราจงึ จะไดร้ บั การเยยี วยาและกลบั เปน็ ปกตสิ ขุ อกี ครงั้ หนงึ่ ในโลกท่ีเรามิอาจหลีกพ้นความพลัดพรากสูญเสีย ความเจ็บ  ปวดและบาดแผลในใจ การให้อภยั และการแผเ่ มตตาคือยาสามัญท่ี  ควรมีไวป้ ระจ�ำใจ

บคุ คลพงึ สละทรพั ย์ เมื่อจะรกั ษาอวยั วะ พงึ ยอมสละอวยั วะ เม่อื จะรกั ษาชวี ติ และยอมสละทกุ อย่าง ท้งั อวยั วะ ทรพั ย์ และแม้ชวี ติ เม่ือคำ� นงึ ถงึ ธรรม พทุ ธวจนะ

ไ ม ่ ย อ ม แ พ้ แ ก ่ โ ช ค ช ะ ต า * คุณจะรู้สึกอย่างไร หากทั้งชีวิตมีแต่เรื่องร้ายๆ หนักๆ  ประดังประเดเข้ามา ตั้งแต่เกิดก็เกือบจมน้�ำตาย โตขึ้นก็สูญเสียแม ่ พอ่ ปว่ ยหนกั  มนี อ้ งๆ ใหต้ อ้ งดแู ลหลายคนทงั้ ๆ ทยี่ งั เรยี นไมจ่ บ ครน้ั   แตง่ งานกม็ ลี กู พกิ าร สดุ ทา้ ยสามกี ท็ ง้ิ  แลว้ ยงั มาเจอเนอื้ งอกทม่ี ดลกู   ผ่าตัดล�ำไส้เหลือแค่ครึ่งเดียว จากนั้นก็ถูกรถชนกระดูกคอหัก  รอดตายแล้วก็ไปเจออุบัติเหตุรถยนต์อีก แขนหักสองท่อน และตับ  แตก อายุไม่ถึง ๕๐ แต่กระดูกผุราวคน ๘๐ แล้วยังไม่รู้ว่าจะเจอ  อุบตั เิ หตุอกี กคี่ รงั้ เจอแบบนี้แล้ว คุณยังคิดอยากอยู่อยากยิ้มให้กับชีวิตน้ีอีก  หรอื ? *สุขใจในนาคร พฤศจกิ ายน ๒๕๔๕



พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 89 แตส่ ำ� หรบั คณุ เกษมสขุ  ภมรสถติ ย ์ ชวี ติ นไ้ี มเ่ คยเลวรา้ ยเกนิ ทน  เธอยังย้ิมให้กับชีวิตได้เสมอ ไม่รู้สึกท้อแท้ส้ินหวังหรือหว่ันหวาด  อนาคต เพราะม่ันใจวา่ พรุ่งนย้ี ่อมดีกวา่ วนั นี้ พูดอย่างคนโบราณ ชีวิตของเธอเหมือนกับเกิดมาเพื่อรับ  กรรม ลมื ตาดโู ลกไดไ้ มถ่ งึ  ๒ เดอื นพเ่ี ลย้ี งกท็ ำ� หลดุ มอื ตกนำ้�  เกอื บ  จะหลดุ เข้าไปใต้โป๊ะทา่ นำ�้  แตเ่ ดชะบญุ มีคนควา้ ไวไ้ ด้ทัน ท้งั น�ำ้ และ  นำ้� มนั เขา้ ปาก พออายไุ ด ้ ๘ ขวบกจ็ มนำ้� อกี  ผดุ ทะลงึ่ ขนึ้ มาครง้ั ท ่ี ๓  พ่อถึงเห็นและเก่ียวข้ึนมาได้ทัน จมน�้ำปางตาย ๒ คร้ัง ท�ำให้ร่าง-  กายอ่อนแอ เจอแดดร้อนๆ ไมไ่ ดม้ อี นั ต้องเป็นลม รอ้ งไหป้ ระเดยี๋ ว เดยี วก็เปน็ ลมสลบจนใครๆ หาว่าสำ� ออย เรยี นมหาวทิ ยาลยั แคป่  ี ๒ แมก่ เ็ สยี  พอ่ ท�ำใจไมไ่ ด ้ ชอ็ กหวั ใจ  วาย กลายเป็นคนป่วยนับแต่นั้น ไม่นานบ้านก็ถูกยึดเพราะเป็นหน้ี  อายุแค่ ๑๙ ปีเธอกลายเป็นกำ� ลังหลักคนเดียวของครอบครัวที่ต้อง  หาเงนิ มาเล้ยี งพอ่ และน้องๆ ทง้ั  ๕ คน ไมไ่ ดห้ ดหทู่ อ้ ใจในชะตากรรม เปน็ ความรสู้ กึ ของเธอในตอนนน้ั   โดยหารไู้ มว่ า่ เคราะหก์ รรมยงั จะตามมาอกี มาก

90 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย เธอแต่งงานก่อนวัยเบญจเพสเม่ือคลอดลูกก็พบว่าลูกพิการ  เพราะหมอใชค้ มี คบี หวั ออกมาอยา่ งไมถ่ กู ตอ้ ง สมองจงึ เตบิ โตไดไ้ ม ่ เตม็ ท่ี หมอทำ� นายวา่ จะมชี วี ติ อยู่ไดอ้ ยา่ งมาก ๙ ปี แตเ่ ธอก็เล้ียงด ู เอาใจใสจ่ นลูกอายุ ๒๐ กวา่ แลว้ คลอดลูกมาได้ปีกว่า ก็พบว่าเป็นเนื้องอกท่ีมดลูก ปรากฏว่า  หมอตดั สว่ นทด่ี ที งิ้ ไป จงึ ตอ้ งเขา้ โรงพยาบาลอกี ครงั้  คราวนม้ี ดลกู ท่ี  เหลอื ถกู ตดั ทงิ้ หมดรวมทง้ั รงั ไขด่ ว้ ย ท�ำใหร้ า่ งกายขาดฮอรโ์ มน ครนั้   กนิ ฮอรโ์ มนทดแทนกแ็ พ้ เลยเป็นโรคกระดูกผุนับแต่บดั นัน้  เท่านัน้   ยังไม่พอระหว่างผ่าตัดโรคกระเพาะเกิดก�ำเริบ จนตัวบวมเขียว  หมอต้องเปดิ ท้องตัดล�ำไส้จนเหลอื เพยี งครึง่ เดียว อายไุ มถ่ งึ  ๒๖ เธอกม็ อี วยั วะไมค่ รบเหมอื นคนปกต ิ แถมมลี กู   พกิ ารทเี่ สย่ี งตอ่ ความตาย แมเ้ ธอจะรกั ษาชวี ติ ของตนและของลกู ได้  แต่แล้วก็ต้องสูญเสียสามี ชีวิตครอบครัวท่ีมีแต่ปัญหาทำ� ให้เธอกับ  เขาตดั สนิ ใจแยกทางกัน เจออย่างนี้แล้วเธอยังท�ำใจได้ ไม่คิดโทษใครหรือน้อยใจใน  ชวี ติ

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 91 เคราะห์กรรมยงั ซำ้� เตมิ ไมจ่ บ ราวกบั จะทดสอบจิตใจของเธอ  วนั หนง่ึ ขณะทรี่ ถตดิ ไฟแดง กม็ รี ถเมลเ์ บรกแตกวงิ่ มาชนรถของเธอ  แรงกระแทกท�ำให้กระดูกคอของเธอซึ่งผุอยู่แล้วหักทันทีและไปทับ  เส้นประสาทท�ำให้เป็นอัมพาต เดชะบุญท่ีสามารถรักษาให้หายได ้ หลังจากนอนแน่นิ่งในโรงพยาบาลเกือบ ๒ เดือน หลังจากครั้งน้ันแล้วก็เจออุบัติเหตุอีก รถของเธอเลี้ยวโค้ง  แล้วไปชนกับเสาไฟฟ้า กระดูกท่ีแขนของเธอหักออกจากกัน ห้อย  รอ่ งแรง่  แถมยงั ถกู กา้ นเกยี รท์ มิ่ ใตช้ ายโครงขณะชว่ ยคนขบั หกั พวง  มาลยั หลบคอสะพาน ผลกค็ ือตบั แตก เธอยงั ตอ้ งเจออบุ ตั เิ หตอุ กี หลายครง้ั  แมแ้ ตว่ นั ทไ่ี ปออกรายการ  “เจาะใจ” ก็ยงั มรี ถยนตม์ าชนท้าย กระเทือนท่ีคอและหลัง แตเ่ ธอก ็ ยงั บอกวา่ ไมเ่ ปน็ ไร ทนได ้ แตเ่ มอ่ื ถา่ ยท�ำรายการเสรจ็ แลว้  จงึ ไปให ้ หมอตรวจและรักษาทโ่ี รงพยาบาล วนั นเี้ ธออาย ุ ๕๒ และไมร่ วู้ า่ จะเจออะไรขา้ งหนา้ อกี  แตเ่ ธอก็  ยังมีขวัญและกำ� ลังใจในการด�ำเนนิ ชีวิต

92 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย คงมีไม่กี่คนในโลกนี้ท่ีเจอเคราะห์ซ�้ำกรรมซัดไม่หยุดหย่อน  อย่างคุณเกษมสุข ยกเว้นคนท่ีเจอภัยสงครามหรืออดอยากหิวโหย  ปางตายแล้วจะมีสักก่คี นทลี่ �ำบากลำ� เค็ญเท่าเธอ แต่แปลกไหมที่เธอไม่รู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนกับชีวิตท่ีเต็ม  ไปด้วยเคราะห์กรรมเลย ถ้าชะตากรรมมีจริง เธอเป็นคนหนึ่งที่ย้�ำ  เตอื นวา่ เราสามารถเอาชนะชะตากรรมได ้ ไมไ่ ดช้ นะทไ่ี หน หากชนะ  ทใ่ี จนัน่ เอง ชีวิตของเธอบอกให้เรารู้ว่า คนเราจะทุกข์หรือไม่ ไม่ได้อยู ่ ท่ีว่ามีอะไรมากระทบกับเรา แต่อยู่ตรงท่ีเรารู้สึกอย่างไรกับสิ่งน้ัน  หรอื ทำ� อยา่ งไรกบั มนั ตา่ งหาก แมจ้ ะมเี รอื่ งรา้ ยๆ เกดิ ขนึ้ กบั เรา แต่  ถ้าเราทำ� ใจรับได้ ความทุกข์ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ในทางตรงกันข้ามแม้ม ี เงนิ ทองไหลมาเทมา แตถ่ า้ เราคดิ วา่ มนั นอ้ ยเกนิ ไป ท�ำใหร้ วยไมพ่ อ  หรือไมเ่ ทา่ คนอน่ื  เมอ่ื นนั้ ใจเรากเ็ ปน็ ทุกขท์ ันที หลายคร้ังท่ีความเดือดร้อนของคุณเกษมสุขเกิดข้ึนจากฝีมือ  คนอืน่ แทๆ้  เชน่  หมอท่ใี ช้คีมคบี หวั ลกู แรงเกนิ ไป ตดั มดลูกผิดข้าง  แมแ้ ตร่ ถจอดนง่ิ อย ู่ กย็ งั มรี ถคนอน่ื มาชน ขา้ งหนา้ บา้ ง ขา้ งหลงั บา้ ง  แต่เธอไม่เคยเสียเวลาไปโทษคนอ่ืน เล่นงานเขา หรือก่นด่าชะตา 

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล 93 กรรม หากคิดเพียงว่าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร และรักษาใจ  ใหเ้ ป็นปกตไิ ด้อย่างไร ตอนที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเพราะกระดูกคอหัก หมอ  เอาเหลก็ แหลมเจาะเขา้ ไปในกะโหลกทง้ั สองขา้ งเพอ่ื ปอ้ งกนั ไมใ่ หค้ อ  เขย้ือนขยับ เธอเจ็บมากแต่เห็นว่าถ้าตนใจเสีย หมอและน้องๆ ก็  ใจเสียไปด้วย เธอเลือกท่ีจะท�ำใจให้ปกติไม่ตีโพยตีพาย เพราะ “ถ้า  ต้นตอไม่ตีโพยตีพายเสียก่อน คนรอบข้างก็อยู่ได้ และก�ำลังใจน้ัน  มันกจ็ ะถกู ส่งกลบั มาทเ่ี ราอกี ท”ี ไปๆ มาๆ ปรากฏวา่ คนปว่ ยกลบั มจี ติ ใจสบายกวา่ คนมาเยยี่ ม  เสยี อกี  จนกลายเปน็ ทปี่ รบั ทกุ ขใ์ หแ้ กค่ นรอบขา้ ง แตเ่ ธอไมใ่ ชพ่ ระอฐิ   พระปูน ฟังเรื่องพวกน้ีมากๆ ก็ทุกข์ได้ง่ายๆ ทางออกของเธอก็คือ  “จับ (คนมาเยี่ยม) น่ังสมาธิเสียเลย จะได้ไม่มีเวลาพูดเรื่องอะไรที ่ มนั รอ้ นใจ” กลายเปน็ วา่ คนปว่ ยกลบั เปน็ ทพี่ งึ่ ทางจติ ใจใหแ้ กค่ นปกติ  แทนที่จะตรงกันข้าม ส่ิงส�ำคัญท่ีประคองใจไม่ให้ทุกข์ร้อนไปกับเหตุร้ายก็คือสติ  สติอ่อนเมื่อไร ใจก็จะโวยวายตีโพยตีพาย โทษคนโน้นคนนี้ จนลืม  จดั การกบั ตนเองทง้ั ๆ ทเี่ ปน็ สง่ิ ทตี่ อ้ งทำ� กอ่ นอน่ื ใด นอ้ งๆ คณุ เกษมสขุ  

94 ธ ร ร ม ะ สํ า ห ร ั บ ผู้ ป ่ ว ย เล่าว่าตอนเกิดอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้า คุณเกษมสุขโทรศัพท ์ บอกท่ีบ้านอย่างเรียบๆ ธรรมดาว่า “ไม่เป็นไร แต่คิดว่าตับแตก”  สตเิ ท่าน้นั ท่ีจะทำ� ให้เรือ่ งร้ายกลายเป็นเบา อย่างนอ้ ยก็ไมท่ ำ� ใหเ้ ลว  ร้ายลงไปอีก ท้ังยังช่วยให้เราแก้ไขสถานการณ์ด้วยปัญญาอย่าง  สอดคลอ้ งกับความเปน็ จริง ใครทคี่ ดิ วา่ ตวั เองทกุ ขห์ นกั หนาสาหสั แลว้  ลองนกึ ถงึ ชวี ติ ของ  คณุ เกษมสขุ  อาจจะไดค้ ดิ วา่ ตนนน้ั ยงั โชคดอี ยมู่ ากเมอ่ื เทยี บกบั เธอ  แต่เท่านั้นยังไม่พอน่าจะได้คิดต่อไปอีกด้วยว่า สุขทุกข์นั้นแท้จริง  อยทู่ ใ่ี จไมไ่ ดอ้ ยทู่ ว่ี า่ อะไรเกดิ ขนึ้ กบั เรา ถงึ จนกส็ ขุ ได ้ ถงึ ปว่ ยกย็ ม้ิ ได ้ แมจ้ ะพลดั พรากสญู เสยี แคไ่ หน กย็ งั มสี ทิ ธแ์ิ ชม่ ชน่ื แจม่ ใสได ้ แตถ่ า้   ท�ำใจไม่เป็นเสียแล้ว รวยแค่ไหน มีอ�ำนาจมากเพียงใด ทรวดทรง  งดงามเพยี งใดก็ยงั ทกุ ข์อยนู่ ่นั เอง จะเจออะไรมากแ็ ลว้ แตข่ อ้ สำ� คญั ประการสดุ ทา้ ยกค็ อื  อยา่ ยอม  แพ้ต่อชะตากรรม อย่าปล่อยใจไปกับความล�ำเค็ญ ความล้มเหลว  และความเศร้าโศกท้อแท้ ในยามร้ายไม่มีอะไรดีกว่าการปลุกใจให ้ อดทนเข้มแข็ง สดชื่นและเปี่ยมด้วยความหวังว่าพรุ่งน้ีย่อมดีกว่า  วันนี้

พ ร ะ ไ พ ศ า ล   ว ิ ส า โ ล การให้อภัยมไิ ดห้ มายถงึ การลืมเหตกุ ารณ์ทเี่ จ็บปวด แตห่ มายถึงการไมย่ อมให้ เหตกุ ารณเ์ หลา่ น้นั มาท�ำร้ายเรา ผูท้ ่ีรู้จกั ให้อภยั คอื ผู้ทย่ี ังจดจ�ำอดีตอันไมน่ ่าพสิ มัยได้ แต่แทนทจี่ ะปลอ่ ยใหอ้ ดตี นั้นมากระท�ำย�ำ่ ยี กลบั เอาชนะมันได้ และสามารถนำ� มันมาใช้ให้เกดิ ประโยชน์

ความตายเรากม็ ไิ ด้ชน่ื ชอบ ชวี ติ เราก็มไิ ดต้ ิดใจ เราจกั ทอดท้งิ กายน้ี อย่างมสี ติ สมั ปชญั ญะ มสี ตมิ ่ัน พุทธวจนะ

เ ป ็ น ส ุ ข ใ น ท ุ ก ค ว า ม เ ป ล ี่ ย น แ ป ล ง * คนเราย่อมปรารถนาความเปล่ียนแปลง หากว่าความ  เปลี่ยนแปลงนั้นอยู่ในอ�ำนาจของเรา หรือสอดคล้องกับความ  ตอ้ งการของเรา ไมม่ ใี ครอยากขบั รถคนั เดมิ  ใชโ้ ทรศพั ทเ์ ครอื่ งเดมิ  หรอื   อยกู่ บั ทไ่ี ปตลอด มจิ ำ� ตอ้ งพดู ถงึ การอยใู่ นอริ ยิ าบถเดมิ ๆ เราตอ้ งการ  ส่ิงใหม่อยู่เสมอ แต่ความจริงอย่างหน่ึงท่ีเราปฏิเสธไม่ได้ก็คือ มี  ความเปล่ียนแปลงหลายอย่างท่ีเราไม่ต้องการแต่หนีไม่พ้น ความ  เปลี่ยนแปลงอย่างน้ีแหละที่ผู้คนประหวั่นพร่ันพรึง วิตกกังวล เมื่อ  นึกถงึ มนั และเป็นทุกข์เมอื่ มันมาถงึ *มตชิ น ธันวาคม ๒๕๕๒


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook