Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ๒๖ มิถุนายน วันสุนทรภู่

๒๖ มิถุนายน วันสุนทรภู่

Description: วันสำคัญ

Search

Read the Text Version

สุนทรภู่ ๒๖ มิถุนายน วันสนุ ทรภู

ประวัตสิ ุนทรภู หากจะพดู ถึงเรื่องนกั กวเี อกท่ีมีช่ือเสียง มน่ั ใจไดเ้ ลย วา่ เราในฐานะคนไทย จะตอ้ งนึกถึง “สุนทรภู่” ผซู้ ่ึง เป็นนกั กวเี อกชาวไทย ที่เป็นผสู้ ร้างสรรค์ บทความ วรรณกรรม กลอนต่างๆ ท่ีมีความไพเราะ ยกตวั อยา่ งเช่น “พระอภยั มณี” ที่ไดร้ ับยกยอ่ งจาก องคก์ ารยเู นสโก วา่ ใหเ้ ป็นบุคคลสาํ คญั ของโลก ดา้ นงานวรรณกรรม โดยยกยอ่ งคาํ วา่ “มหากวแี ห่ง รัตนโกสินทร์ หรือ เชกสเปี ยร์แห่งประเทศไทย” เลยทีเดียว ซ่ึงวนั ท่ี ๒๖ มิถุนายน ของทุกปี จะเป็น วนั สุนทรภู่ หอ้ งสมุดประชาชนอาํ เภอหาดใหญ่ จึง ไม่พลาดท่ีจะนาํ ขอ้ มูลดีๆ มาใหค้ วามรู้อยา่ ง แน่นอน

พระสุนทรโวหาร พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือท่ีเรียกกนั ทว่ั ไปวา่ สุนทรภู่ เป็นกวชี าวไทยที่มีชื่อเสียงไดร้ ับ ยกยอ่ งเป็น เชกสเปี ยร์แห่งประเทศไทย เกิด หลงั จากต้งั กรุงรัตนโกสินทร์ได้ ๔ ปี และไดเ้ ขา้ รับ ราชการเป็นกวรี าชสาํ นกั ในรัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั เมื่อสิ้นรัชกาลไดอ้ อกบวช เป็นเวลาร่วม ๒๐ ปี ก่อนจะกลบั เขา้ รับราชการอีก คร้ังในปลายรัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั โดยเป็นอาลกั ษณ์ในสมเดจ็ เจา้ ฟ้ าจุฑามณี กรมขนุ อิศเรศรังสรรค์ ในสมยั รัชกาลที่ ๔ ไดเ้ ลื่อน ตาํ แหน่งเป็น พระสุนทรโวหาร เจา้ กรมอาลกั ษณ์ ฝ่ ายพระราชวงั บวร ซ่ึงเป็นตาํ แหน่งราชการสุดทา้ ย ก่อนสิ้นชีวติ

สุนทรภ่เู ป็นกวที ่ีมีความชาํ นาญทางดา้ นกลอน ได้ สร้างขนบการประพนั ธ์กลอนนิทานและกลอน นิราศข้ึนใหม่จนกลายเป็นที่นิยมอยา่ งกวา้ งขวางสืบ เน่ืองมาจนกระทง่ั ถึงปัจจุบนั ผลงานท่ีมีช่ือเสียง ของสุนทรภ่มู ีมากมายหลายเรื่อง เช่น นิราศภเู ขา ทอง นิราศสุพรรณ เพลงยาวถวายโอวาท กาพยพ์ ระ ไชยสุริยา และ พระอภยั มณี เป็นตน้

ประวตั ิสุนทรภู่ สุนทรภู่ มีช่ือเดิมวา่ ภู่ เกิดในสมยั รัชกาลท่ี ๑ แห่งกรุง รัตนโกสินทร์ เมื่อวนั จนั ทร์ เดือน ๘ ข้ึน ๑ ค่าํ ปี มะเมีย จุลศกั ราช ๑๑๔๘ เวลาเชา้ ๒ โมง เมื่อวนั ที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๙ เขตพระราชวงั หลงั กรุงรัตนโกสินทร์ ณ บริเวณดา้ นเหนือของพระราชวงั หลงั ซ่ึงเป็นบริเวณสถานี รถไฟบางกอกนอ้ ยปัจจุบนั น้ี บิดาเป็นชาวบา้ นกร่ํา อาํ เภอ แกลง จงั หวดั ระยอง มารดาเป็นชาวเมืองอ่ืน เชื่อวา่ หลงั จากสุนทรภ่เู กิดไดไ้ ม่นาน บิดามารดากห็ ยา่ ร้างกนั บิดาออกไปบวชอยทู่ ี่วดั ป่ ากร่ําอนั เป็นภมู ิลาํ เนาเดิม ส่วน มารดาไดเ้ ขา้ ไปอยใู่ นพระราชวงั หลงั ถวายตวั เป็นนางนม ของพระองคเ์ จา้ หญิงจงกล พระธิดาในเจา้ ฟ้ ากรมหลวง อนุรักษเ์ ทเวศร์ ดงั น้นั สุนทรภ่จู ึงไดอ้ ยใู่ นพระราชวงั หลงั กบั มารดา และไดถ้ วายตวั เป็นขา้ ในกรมพระราชวงั หลงั สุนทรภ่ยู งั มีนอ้ งสาวต่างบิดาอีกสองคน ช่ือฉิมและนิ่ม

ดา้ นการศึกษาสุนทรภู่ วยั เดก็ สุนทรภ่ไู ดร้ ่าํ เรียนหนงั สือกบั พระใน สาํ นกั วดั ชีปะขาว ซ่ึงต่อมาไดร้ ับพระราชทานนาม ในรัชกาลที่ ๔ วา่ วดั ศรีสุดาราม อยรู่ ิมคลอง บางกอกนอ้ ย ต่อมาไดเ้ ขา้ รับราชการเป็นเสมียน นายระวางกรมพระคลงั สวน ในกรมพระคลงั สวน แต่ไม่ชอบทาํ งานอ่ืน นอกจากแต่งบทกลอน ซ่ึง สามารถแต่งไดด้ ีต้งั แต่ยงั รุ่นหนุ่ม

ดา้ นครอบครัวสุนทรภู่ สุนทรภ่ไู ดล้ อบรักกบั นางขา้ หลวงในวงั หลงั คนหน่ึง ช่ือแม่ จนั ชะรอยวา่ หล่อนจะเป็นบุตรหลานผมู้ ีตระกลู จึงถกู กรม พระราชวงั หลงั กริ้วจนถึงใหโ้ บยและจาํ คุกคนท้งั สอง แต่เม่ือ กรมพระราชวงั หลงั เสดจ็ ทิวงคตในปี พ.ศ.๒๓๔๙ จึงมีการ อภยั โทษแก่ผถู้ ูกลงโทษท้งั หมดถวายเป็นพระราชกศุ ล หลงั จากสุนทรภ่อู อกจากคุกกเ็ ดินทางไปหาบิดาที่เมืองแกลง จงั หวดั ระยอง การเดินทางคร้ังน้ีสุนทรภ่ไู ดแ้ ต่ง นิราศเมือง แกลง พรรณนาสภาพการเดินทางต่างๆ เอาไวโ้ ดยละเอียด และลงทา้ ยเร่ืองวา่ แต่งมาใหแ้ ก่แม่จนั “เป็นขนั หมากมิ่งมิตร พสิ มยั ” ในนิราศไดบ้ นั ทึกสมณศกั ด์ิของบิดาของสุนทรภ่ไู ว้ ดว้ ยวา่ เป็น “พระครูธรรมรังษี” เจา้ อาวาสวดั ป่ ากร่ํา กลบั จาก เมืองแกลงคราวน้ี สุนทรภ่จู ึงไดแ้ ม่จนั เป็นภรรยา สุนทรภ่กู บั แม่จนั มีบุตรดว้ ยกนั ๑ คน ช่ือหนูพดั ไดอ้ ยใู่ นความอุปการะ ของเจา้ ครอกทองอยู่ ส่วนหนุ่มสาวท้งั สองมีเร่ือง ระหองระแหงกนั เสมอ จนภายหลงั กเ็ ลิกรากนั ไป

สุนทรภ่มู ีบุตรชายสามคน คือพอ่ พดั เกิดจากภรรยาคนแรกคือแม่ จนั พอ่ ตาบ เกิดจากภรรยาคนที่สองคือแม่นิ่ม และพอ่ นิล เกิด จากภรรยาที่ช่ือแม่ม่วง นอกจากน้ีปรากฏช่ือบุตรบุญธรรมอีก สองคน ชื่อพอ่ กลนั่ และพอ่ ชุบ พอ่ พดั น้ีเป็นลกู รัก ได้ ติดสอยหอ้ ยตามสุนทรภ่อู ยเู่ สมอ เม่ือคร้ังสุนทรภ่อู อกบวช พอ่ พดั กอ็ อกบวชดว้ ย เม่ือสุนทรภ่ไู ดม้ ารับราชการกบั เจา้ ฟ้ านอ้ ย พอ่ พดั กม็ าพาํ นกั อยดู่ ว้ ยเช่นกนั ส่วนพอ่ ตาบน้นั ปรากฏวา่ ไดเ้ ป็น กวมี ีชื่ออยพู่ อสมควร เมื่อถึงรัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงตราพระราชบญั ญตั ินามสกลุ ข้ึน ตระกลู ของ สุนทรภ่ไู ดใ้ ชน้ ามสกลุ ต่อมาวา่ ภ่เู รือหงส์ เร่ืองนามสกลุ ของ สุนทรภ่นู ้ี ก.ศ.ร. กหุ ลาบ เคยเขียนไวใ้ นหนงั สือสยามประเภท อา้ งถึงผถู้ ือนามสกลุ ภ่เู รือหงส์ ท่ีไดร้ ับบาํ เหน็จจากหมอสมิท เป็นค่าพิมพห์ นงั สือเร่ือง พระอภยั มณี แต่หนงั สือของ ก.ศ.ร. กหุ ลาบ ไม่เป็นท่ียอมรับของราชสาํ นกั ดว้ ยปรากฏอยบู่ ่อยคร้ังวา่ มกั เขียนเร่ืองกุ เร่ืองนามสกลุ ของสุนทรภ่จู ึงพลอยไม่ไดร้ ับการ เชื่อถือไปดว้ ย จนกระทง่ั ศจ.ผะอบ โปษะกฤษณะ ยนื ยนั ความ ขอ้ น้ีเนื่องจากเคยไดพ้ บกบั หลานป่ ูของพอ่ พดั มาดว้ ยตนเอง

ดา้ นการงานสุนทรภู่ สุนทรภ่ไู ดเ้ ขา้ รับราชการในกรมพระอาลกั ษณ์เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๙ ในรัชสมยั รัชกาลที่ ๒ มลู เหตุในการไดเ้ ขา้ รับราชการน้ี ไม่ปรากฏแน่ชดั แต่สนั นิษฐานวา่ อาจแต่งโคลงกลอนไดเ้ ป็นท่ี พอพระทยั ทราบถึงพระเนตรพระกรรณจึงทรงเรียกเขา้ รับ ราชการ แนวคิดหน่ึงวา่ สุนทรภ่เู ป็นผแู้ ต่งกลอนในบตั รสนเท่ห์ ซ่ึงปรากฏชุกชุมอยใู่ นเวลาน้นั อีกแนวคิดหน่ึงสืบเนื่องจาก “ช่วง เวลาท่ีหายไป” ของสุนทรภู่ ซ่ึงน่าจะใชว้ ชิ ากลอนทาํ มาหากิน เป็นที่รู้จกั เล่ืองช่ืออยู่ ชะรอยจะเป็นเหตุใหถ้ กู เรียกเขา้ รับราชการ กไ็ ด้ ระหวา่ งรับราชการ สุนทรภ่ตู อ้ งโทษจาํ คุกเพราะถกู อุทธรณ์วา่ เมาสุราทาํ ร้ายญาติผใู้ หญ่ แต่จาํ คุกไดไ้ ม่นานกโ็ ปรด พระราชทานอภยั โทษ เล่ากนั วา่ เนื่องจากพระบาทสมเดจ็ พระ พทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั ทรงติดขดั บทพระราชนิพนธ์เร่ืองสงั ขท์ อง ไม่มีใครแต่งไดต้ อ้ งพระทยั ภายหลงั พน้ โทษ สุนทรภ่ไู ดเ้ ป็น พระอาจารยถ์ วายอกั ษรสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟ้ าอาภรณ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๒ เช่ือวา่ สุนทรภ่แู ต่งเรื่อง สวสั ดิรักษา ในระหวา่ งเวลาน้ี

ดา้ นช่วงชีวติ สุนทรภู่ สุนทรภ่รู ับราชการอยเู่ พยี ง ๘ ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๓๖๗ พระ บาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั เสดจ็ สวรรคต หลงั จาก น้นั สุนทรภ่กู อ็ อกบวช แต่จะไดล้ าออกจากราชการก่อน ออกบวชหรือไม่ยงั ไม่ปรากฏแน่ชดั แมจ้ ะไม่ปรากฏโดยตรง วา่ สุนทรภ่ไู ดร้ ับพระบรมราชูปถมั ภจ์ ากราชสาํ นกั ใหม่ใน พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั แต่กไ็ ดร้ ับพระอุปถมั ภ์ จากพระบรมวงศานุวงศพ์ ระองคอ์ ื่นอยเู่ สมอ เช่น ปี พ.ศ. ๒๓๗๒ สุนทรภ่ไู ดเ้ ป็นพระอาจารยถ์ วายอกั ษรเจา้ ฟ้ ากลาง และเจา้ ฟ้ าป๋ิ ว พระโอรสในเจา้ ฟ้ ากณุ ฑลทิพยวดี ปรากฏ ความอยใู่ น เพลงยาวถวายโอวาท นอกจากน้นั ยงั ไดอ้ ยใู่ น พระอุปถมั ภข์ องพระองคเ์ จา้ ลกั ขณานุคุณ และกรมหมื่น อปั สรสุดาเทพ ซ่ึงปรากฏเน้ือความในงานเขียนของสุนทรภู่ บางเรื่องวา่ สุนทรภ่แู ต่งเร่ือง พระอภยั มณี และ สิงหไตรภพ ถวาย สุนทรภ่บู วชอยเู่ ป็นเวลา ๑๘ ปี ระหวา่ งน้นั ไดย้ า้ ยไป อยวู่ ดั ต่างๆ หลายแห่ง

เท่าท่ีพบระบุในงานเขียนของท่านไดแ้ ก่ วดั เลียบ วดั แจง้ วดั โพธ์ิ วดั มหาธาตุ และวดั เทพธิดาราม งานเขียนบางชิ้น สื่อใหท้ ราบวา่ ในบางปี ภิกษุภ่เู คยตอ้ งเร่ร่อนไม่มีท่ี จาํ พรรษาบา้ งเหมือนกนั ผลจากการที่ภิกษุภ่เู ดินทางธุดงค์ ไปท่ีต่างๆ ทว่ั ประเทศ ปรากฏผลงานเป็นนิราศเรื่องต่างๆ มากมาย และเชื่อวา่ น่าจะยงั มีนิราศท่ีคน้ ไม่พบอีกเป็น จาํ นวนมากงานเขียนชิ้นสุดทา้ ยที่ภิกษุภ่แู ต่งไวก้ ่อน ลาสิกขาบท คือ ราํ พนั พลิ าป โดยแต่งขณะจาํ พรรษาอยู่ ที่วดั เทพธิดาราม พ.ศ. ๒๓๘๕ ปี พ.ศ. ๒๓๘๕ ภิกษุภ่จู าํ พรรษาอยทู่ ี่วดั เทพธิดาราม คืน หน่ึงหลบั ฝันเห็นเทพยดาจะมารับตวั ไป เมื่อต่ืนข้ึนคิดวา่ ตนถึงฆาตจะตอ้ งตายแลว้ จึงประพนั ธ์เร่ือง ราํ พนั พิลาป พรรณนาถึงความฝันและเล่าเรื่องราวต่างๆ ท่ีไดป้ ระสบ มาในชีวติ หลงั จากน้นั กล็ าสิกขาบทเพอ่ื เตรียมตวั จะตาย ขณะน้นั สุนทรภ่มู ีอายไุ ด้ ๕๖ ปี

หลงั จากลาสิกขาบท สุนทรภ่ไู ดร้ ับพระอุปถมั ภจ์ ากเจา้ ฟ้ า นอ้ ย หรือสมเดจ็ เจา้ ฟ้ าจุฑามณี กรมขนุ อิศเรศรังสรรค์ รับ ราชการสนองพระเดชพระคุณทางดา้ นงานวรรณคดี สุนทรภู่ แต่ง เสภาพระราชพงศาวดาร บทเห่กล่อมพระบรรทม และ บทละครเร่ือง อภยั นุราช ถวาย รวมถึงยงั แต่งเร่ือง พระอภยั มณี ถวายใหก้ รมหม่ืนอปั สรสุดาเทพดว้ ย เมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๓๙๔ พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั เสดจ็ สวรรคต เจา้ ฟ้ ามงกฎุ เสดจ็ ข้ึนครองราชยเ์ ป็นพระบาทสมเดจ็ พระจอม เกลา้ เจา้ อยหู่ วั และทรงสถาปนาเจา้ ฟ้ านอ้ ยข้ึนเป็น พระบาท สมเดจ็ พระป่ิ นเกลา้ เจา้ อยหู่ วั สุนทรภ่จู ึงไดร้ ับแต่งต้งั เป็น เจา้ กรมอาลกั ษณ์ฝ่ ายพระราชวงั บวร มีบรรดาศกั ด์ิเป็น พระ สุนทรโวหาร ช่วงระหวา่ งเวลาน้ีสุนทรภ่ไู ดแ้ ต่งนิราศเพิ่มอีก ๒ เร่ือง คือ นิราศพระประธม และ นิราศเมืองเพชร สุนทรภู่ พาํ นกั อยใู่ นเขตพระราชวงั เดิม ใกลห้ อนง่ั ของพระยา มนเทียรบาล (บวั ) มีหอ้ งส่วนตวั เป็นหอ้ งพกั ก้นั เฟ้ี ยมท่ีเรียก ช่ือกนั วา่ “หอ้ งสุนทรภู่” เช่ือวา่ สุนทรภ่พู าํ นกั อยทู่ ี่น่ีตราบจน สิ้นชีวติ เม่ือปี พ.ศ. ๒๓๙๘ สิริรวมอายไุ ด้ ๖๙ ปี

ผลงานสุนทรภู่ งานประพนั ธ์ของสุนทรภ่เู ท่าท่ีมีการคน้ พบในปัจจุบนั มีปรากฏอยู่ เพยี งจาํ นวนหน่ึง และสูญหายไปอีกเป็นจาํ นวนมาก ถึงกระน้นั ตาม จาํ นวนเท่าท่ีคน้ พบกถ็ ือวา่ มีปริมาณค่อนขา้ งมาก เรียกไดว้ า่ สุนทรภู่ เป็น “นกั เลงกลอน” ที่สามารถแต่งกลอนไดร้ วดเร็วหาตวั จบั ยาก ผล งานของสุนทรภู่เท่าที่คน้ พบในปัจจุบนั มีดงั ต่อไปน้ี กลอนสุนทรภู่ ● บางส่วนบางตอนจาก นิราศภูเขาทองถึงโรงเหลา้ เตากลนั่ ควนั โขมง มีคนั โพงผกู สายไวป้ ลายเสาโอบ้ าปกรรมน้าํ นรกเจียวอก เรา ใหม้ วั เมาเหมือนหน่ึงบา้ เป็นน่าอาย ● บางส่วนบางตอนจาก ขนุ ชา้ งขนุ แผน แม่รักลกู ลูกกร็ ู้ อยวู่ า่ รัก ใครอื่นสกั หมื่นแสน ไม่แมน้ เหมือน จะกินนอน วอนวา่ เมตตาเตือน จะจากเรือน ร้างแม่ กแ็ ต่กาย ● บางส่วนบางตอนจาก สุดสาคร แลว้ สอนวา่ อยา่ ไวใ้ จมนุษย์ มนั แสนสุดลึกล้าํ เหลือกาํ หนดถึงเถาวลั ยพ์ นั เกี่ยวท่ีเล้ียวลด กไ็ ม่ คดเหมือนหน่ึงในน้าํ ใจคน

กลอนสุนทรภู่ ท้งั หมด นิราศ ● นิราศเมืองแกลง (พ.ศ. ๒๓๔๙) – แต่งเม่ือหลงั พน้ โทษจากคุก และเดินทางไปหาพอ่ ที่เมืองแกลง ● นิราศพระบาท (พ.ศ. ๒๓๕๐) – แต่งหลงั จากกลบั จากเมือง แกลง และตอ้ งตามเสดจ็ พระองคเ์ จา้ ปฐมวงศไ์ ปนมสั การรอย พระพทุ ธบาทท่ีจงั หวดั สระบุรีในวนั มาฆบูชา ● นิราศภูเขาทอง (ประมาณ พ.ศ. ๒๓๗๑) – แต่งโดยสมมุติวา่ เณรหนูพดั เป็นผแู้ ต่ง ไปนมสั การพระเจดียภ์ ูเขาทองท่ีจงั หวดั อยธุ ยา ● นิราศสุพรรณ (ประมาณ พ.ศ. ๒๓๗๔) – แต่งเม่ือคร้ังยงั บวช อยู่ และไปคน้ หายาอายวุ ฒั นะที่จงั หวดั สุพรรณบุรี เป็นผลงาน เร่ืองเดียวของสุนทรภ่ทู ี่แต่งเป็นโคลง

● นิราศวดั เจา้ ฟ้ า (ประมาณ พ.ศ. ๒๓๗๕) – แต่งเม่ือคร้ังยงั บวช อยู่ และไปคน้ หายาอายวุ ฒั นะตามลายแทงที่วดั เจา้ ฟ้ าอากาศ (ไม่ปรากฏวา่ ท่ีจริงคือวดั ใด) ท่ีจงั หวดั อยธุ ยา ● นิราศอิเหนา (ไม่ปรากฏ, คาดวา่ เป็นสมยั รัชกาลที่ ๓) – แต่ง เป็นเน้ือเร่ืองอิเหนารําพนั ถึงนางบุษบาราํ พนั พลิ าป (พ.ศ. ๒๓๘๕) – แต่งเม่ือคร้ังจาํ พรรษาอยทู่ ี่วดั เทพธิดาราม แลว้ เกิด ฝันร้ายวา่ ชะตาขาด จึงบนั ทึกความฝันพร้อมรําพนั ความอาภพั ของตวั ไวเ้ ป็น “ราํ พนั พิลาป” จากน้นั จึงลาสิกขาบท ● นิราศพระประธม (พ.ศ. ๒๓๘๕) – เช่ือวา่ แต่งเม่ือหลงั จาก ลาสิกขาบทและเขา้ รับราชการในพระบาทสมเดจ็ พระป่ิ นเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไปนมสั การพระประธมเจดีย์ (หรือพระปฐมเจดีย)์ ท่ี เมืองนครชยั ศรี ● นิราศเมืองเพชร (พ.ศ. ๒๓๘๘) – แต่งเมื่อเขา้ รับราชการใน พระบาทสมเดจ็ พระป่ิ นเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เชื่อวา่ ไปธุระราชการ อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง นิราศเร่ืองน้ีมีฉบบั คน้ พบเน้ือหาเพมิ่ เติมซ่ึง อ.ลอ้ ม เพง็ แกว้ เช่ือวา่ บรรพบุรุษฝ่ ายมารดาของสุนทรภ่เู ป็น ชาวเมืองเพชรบุรี

นิทาน ● โคบุตร : เชื่อวา่ เป็นงานประพนั ธ์ชิ้นแรกของสุนทรภู่ เป็น เรื่องราวของ “โคบุตร” ซ่ึงเป็นโอรสของพระอาทิตยก์ บั นาง อปั สร แต่เติบโตข้ึนมาดว้ ยการเล้ียงดูของนางราชสีห์ ● พระอภยั มณี : คาดวา่ เร่ิมประพนั ธ์ในสมยั รัชกาลท่ี ๒ และแต่ง ๆ หยดุ ๆ เรื่อยมาจนถึงสมยั รัชกาลท่ี ๔ เป็นผลงานชิ้นเอกของ สุนทรภู่ ไดร้ ับยกยอ่ งจากวรรณคดีสโมสรใหเ้ ป็นสุดยอด วรรณคดีไทยประเภทกลอนนิทาน ● พระไชยสุริยา : เป็นนิทานที่สุนทรภ่แู ต่งดว้ ยฉนั ทลกั ษณ์ ประเภทกาพยห์ ลายชนิด ไดแ้ ก่ กาพยย์ านี ๑๑ กาพยฉ์ บงั ๑๖ และกาพยส์ ุรางคนางค์ ๒๘ เป็นนิทานสาํ หรับสอนอ่าน เน้ือหา เรียงลาํ ดบั ความง่ายไปยาก จากแม่ ก กา แม่กน กง กก กด กบ กม และเกย เชื่อวา่ แต่งข้ึนประมาณ พ.ศ. ๒๓๘๓ – ๒๓๘๕

● ลกั ษณวงศ์ : เป็นนิทานแนวจกั รๆ วงศๆ์ ที่นาํ โครงเรื่องมาจาก นิทานพ้นื บา้ น แต่มีตอนจบท่ีแตกต่างไปจากนิทานทวั่ ไป เพราะไม่ไดจ้ บดว้ ยความสุข แต่จบดว้ ยงานสมโภชศพนางทิพ เกสร ชายาของลกั ษณวงศท์ ี่สิ้นชีวติ ดว้ ยการสงั่ ประหารของ ลกั ษณวงศเ์ อง ● สิงหไกรภพ : เช่ือวา่ เริ่มประพนั ธ์เม่ือคร้ังถวายอกั ษรแด่เจา้ ฟ้ า อาภรณ์ ภายหลงั จึงแต่งถวายกรมหมื่นอปั สรสุดาเทพ และน่า จะหยดุ แต่งหลงั จากกรมหม่ืนอปั สรสุดาเทพสิ้นพระชนม์ สิงหไตรภพเป็นตวั ละครเอกที่แตกต่างจากตวั พระในเร่ืองอื่นๆ เน่ืองจากเป็ นคนรักเดียวใจเดียว

สุภาษิต ● สวสั ดิรักษา : คาดวา่ ประพนั ธ์ในสมยั รัชกาลที่ ๒ ขณะเป็นพระอาจารยถ์ วายอกั ษรแด่เจา้ ฟ้ าอาภรณ์ ● เพลงยาวถวายโอวาท : คาดวา่ ประพนั ธ์ในสมยั รัชกาลที่ ๓ ขณะเป็นพระอาจารยถ์ วายอกั ษรแด่ เจา้ ฟ้ ากลางและเจา้ ฟ้ าป๋ิ ว ● สุภาษิตสอนหญิง : เป็นหน่ึงในผลงานซ่ึงยงั เป็นที่ เคลือบแคลงวา่ สุนทรภ่เู ป็นผปู้ ระพนั ธ์จริงหรือไม่ บทละคร ● มีการประพนั ธ์ไวเ้ พยี งเร่ืองเดียวคือ อภยั นุราช ซ่ึง เขียนข้ึนในสมยั รัชกาลที่ ๔ เพือ่ ถวายพระองคเ์ จา้ ดวงประภา พระธิดาในพระบาทสมเดจ็ พระปิ่ นเกลา้ เจา้ อยหู่ วั

บทเสภา ● ขนุ ชา้ งขนุ แผน ● เสภาพระราชพงศาวดาร บทเห่กล่อมพระบรรทม น่าจะแต่งข้ึนสาํ หรับใชข้ บั กล่อมหม่อมเจา้ ในพระองคเ์ จา้ ลกั ขณา นุคุณ กบั พระเจา้ ลกู ยาเธอในพระบาทสมเดจ็ พระปิ่ นเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เท่าท่ีพบมี ๔ เร่ืองคือ ● เห่เร่ืองพระอภยั มณี ● เห่เรื่องโคบุตร ● เห่เรื่องจบั ระบาํ ● เห่เรื่องกากี ขอขอบคุณขอ้ มูลจาก: http://scoop.mthai.com

หอ้ งสมุดประชาชนอาํ เภอหาดใหญ่ กศน.อาํ เภอหาดใหญ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook