Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนม.5 พื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 (ช่วงโมงที่ 1 - 4)

แผนม.5 พื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 (ช่วงโมงที่ 1 - 4)

Published by Siriporn Na, 2018-10-25 05:53:56

Description: แผนม.5 พื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 (ช่วงโมงที่ 1 - 4)

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32102

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 ความน่าจะเปน็ รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐาน (ค 32102) ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2561 นางสาวปวริศา ก๋าวงค์วิน ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ สังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561หน่วยการเรยี นท่ี 1 เรอื่ ง ความน่าจะเปน็ ใชเ้ วลา 40 ชั่วโมง วันที่ 25 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2561ตัวชี้วัด/ผลการเรียนร้ทู คี่ าดหวงั ค 5.2 ม.4 – 6/2อธิบายการทดลองสุ่มเหตุการณ์ ความน่าจะเป็นเหตุการณ์และนาผลที่ได้ไปคาดการณ์ในสถานการณ์ทก่ี าหนด ค 5.3 ม.4 – 6/2 ใชค้ วามรเู้ กีย่ วกบั ความนา่ จะเปน็ ช่วยในการตดั สินใจและแก้ปญั หา ค 6.1 ม.4 – 6/1 ใช้วธิ ที ีห่ ลากหลายแกป้ ญั หา ค 6.1 ม.4 – 6/2ใช้ความรู้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้อย่างเหมะสม ค 6.1 ม.4 – 6/3ให้เหตุผลประกอบการตัดสนิ ใจและสรปุ ผลไดอ้ ย่างเหมาะสม ค 6.1 ม.4 – 6/4 ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนาเสนอ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและชัดเจน ค 6.1 ม.4 – 6/5เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และนาความรู้หลักการกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกบั ศาสตรอ์ ่นืจุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. พจิ ารณาปัญหาเก่ียวกบั การจัดส่ิงของตา่ ง ๆ ได้ 2. แกโ้ จทยป์ ัญหาโดยกฎเกณฑเ์ บือ้ งต้นเก่ยี วกับการนบั และแผนภาพต้นไม้อย่างง่ายได้ 3. การทดลองสุ่ม 4. ความนา่ จะเปน็ 5. มคี วามรอบคอบในการทางาน 6. มีความรับผิดชอบตอ่ งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 7. มคี วามสามารถในการแก้ปญั หา 8. มคี วามสามารถในการเชื่อมโยงระหวา่ งคณิตศาสตรก์ ับชีวติ ประจาวันสาระสาคัญ ในชีวิตประวันเรามักพบปัญหาเกี่ยวกบั เหตุการณบ์ างอย่างที่เราต้องคาดการณว์ า่ จะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ การทดลองสุ่มเพื่อศึกษา ความเป็นไปได้หรือความน่าจะเป็นของเหตุการณ์จะช่วยให้เราตัดสินใจและแก้ปญั หาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ กฎข้อท่ี 1 ถ้าต้องการทางานสองอย่างโดนที่งานอย่างแรกทาได้ n1 วิธี และในแต่ละวิธีที่เลือกทางานอยา่ งแรกนี้ มวี ธิ ีท่ีจะทางานอย่างท่ีสองได้ n2 วิธี จะทางานท้งั สองอย่างน้ีไดอ้ ย่าง n1n2 วธิ ี กฎข้อท่ี 2 ถ้าการทางานอย่างหนึ่งมี k ข้ันตอน ขั้นตอนที่หนึ่งมีวิธีเลือกทาได้ n1 วิธี ในแต่ละวิธีของขนั้ ตอนที่หนง่ึ มวี ธิ ีเลอื กทาขั้นตอนที่สองได้ n2 วิธี ในแต่ละวิธีท่ีทางาน ขั้นตอนท่ีหนึ่งและข้ันตอนทส่ี องมีวิธีมวี ิธีเลือกทาข้ันตอนที่สามได้ n 3วิธี เช่นน้ีเร่ือยไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ ข้ันตอนที่ k จะทาได้ nk วิธี ดังนั้นจะทางาน k ข้นั ตอนได้ n1n2...n k วิธี การทดลองสุ่ม คือ การทดลองซ่ึงทราบว่าผลลัพธ์อาจจะเป็นอะไรได้บ้าง แต่ไม่สามารถบอกได้อย่างถกู ตอ้ งแนน่ อน ปริภูมิตัวอย่าง หรือ แซมเปิลสเปซ คือ เซตที่มีสมาชิกเป็นผลลัพธ์ที่อาจจะเป็นไปได้ทั้งหมดของการทดลองสุ่ม

เหตกุ ารณ์ คอื สบั เซตของแซมเปลิ สเปซ ถา้ N เปน็ จานวนสมาชิกของแซมเปิลสเปซ S ซึง่ ประกอบด้วยสมาชกิ ท่ีมีโอกาสเกดิ ขึน้ ไดเ้ ท่า ๆ กนั และ nเป็นสมาชิกของเหตกุ ารณ์ E ซงึ่ เปน็ สับเซตของ S แลว้ ความน่าจะเป็นของเหตกุ ารณ์ E เทา่ กับ n ความนา่ จะเป็น Nของเหตุการณ์ E เขียนแทนด้วย P(E)สาระการเรยี นรู้ 1. กฎเกณฑเ์ บอ้ื งต้นเก่ียวกับเกย่ี วกบั การนบั 2. ความนา่ จะเป็นกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมง/คาบที่ 1-2 เรอื่ ง กฎเกณฑเ์ บ้อื งตน้ เกย่ี วกับการนบั จดั การเรยี นรแู้ บบร่วมมือ เทคนิค Team Assisted Individualization (TAI) 1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มละ 2-3 คน โดยจดั ให้คละความสามารถ คนท่ี 1 ทาหนา้ ที่ตรวจคาตอบของคนท่ี 2 คนท่ี 2 ทาหน้าทตี่ รวจคาตอบของคนท่ี 1 2. ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนรวู้ ่า เม่อื จบชั่วโมงนี้แล้วนกั เรยี นต้องสามารถ 1. พจิ ารณาปญั หาเกี่ยวกับการจัดสง่ิ ของต่าง ๆ ได้ 2. มีความรอบคอบในการทางาน 3. มีความรับผดิ ชอบต่องานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 3. ทบทวนความรู้เรื่อง การคูณและคูอ่ ันดบั โดยการถาม-ตอบ ระหว่างครูกับนกั เรียน - ทบทวนแม่สตู รคูณแม่ 13 ,15, 17 (ให้นักเรยี นทอ่ งแมส่ ตู รคณู ) - ทบทวนเร่ือง คู่อันดบั กล่มุ A กลมุ่ B 1A 2B 3C 4D 5E ใหต้ อบคาถามว่า ถ้าเราจบั ครู่ ะหว่างกลุม่ A กับ กลมุ่ B จะได้อะไรบา้ ง [(1,A) (1,B) (1,C) (1,D) (1,E) (2,A) (2,B) (2,C) (2,D) (2,E) (3,A) (3,B) (3,C) (3,D) (3,E) (4,A) (4,B) (4,C) (4,D) (4,E) (5,A) (5,B) (5,C) (5,D) (5,E) ] 4. ครสู นทนากับนกั เรยี น เก่ียวกับกฎเกณฑ์เบื้องตน้ เก่ียวกบั การนบั วา่ ในชีวิตประจาวันจะพบปัญหาเก่ียวกับ การนับจานวนวิธีทั้งหมดท่ีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหน่ึงจะเป็นไปได้ หรือจานวนวิธีในการจัดชุดของสิ่งต่าง ๆ เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาการจัดชุดเสื้อผ้า การจัดชุดอาหารเป็นต้น ในการคานวณเพื่อหาคาตอบสาหรับ ปัญหาประเภทตา่ ง ๆ ดงั กลา่ ว จะทาได้งา่ ยและสะดวกรวดเร็วขึ้น ถ้าเข้าใจกฎเกณฑ์บางข้อ ซ่ึงเรียก หลักฐาน เกย่ี วกบั การนับ 5. ให้นักเรียนทาแบบฝึกทักษะชุดที่ 1 ซ่ึงเป็นการทสอบก่อนเรียน ตอนที่ 1 ปรนัย จานวน 20 ข้อ ให้เวลา 30 นาที จากนนั้ เปลีย่ นกันตรวจ แจง้ คะแนนให้ครทู ราบ 6. ครอู ธบิ ายโดยยกตัวอยา่ ง ตัวอย่างท่ี 1 ร้านค้าแหง่ หน่ึงต้องการจดั โชตเิ สอ้ื กีฬาทุกขนาดและทกุ สี ถ้ามเี สือ้ 3 ขนาดและแต่ละขนาด มี 2 สี คอื สีขาวกบั สีแดงจะตอ้ งจัดอยา่ งไร

วธิ ที า ในการแก้ปัญหาขา้ งต้นอาจจะใช้แผนภาพต้นไมช้ ่วยในการคิดให้งา่ ยขน้ึ ดังน้ี ให้ ข แทนเสื้อสีขาว ด แทนเส้อื สีแดง S แทนเสื้อขนาดเล็กหรอื เบอร์ S M แทนเสื้อขนาดกลางหรอื เบอร์ M L แทนเส้อื ขนาดใหญ่หรอื เบอร์ L วิธีการจดั เส้อื ให้ครบทกุ ขนาดและทกุ สีโดยใช้แผนภาพตน้ ไมเ้ ปน็ ดงั น้ีขนาดเส้ือ สเี สอ้ื ข เสอ้ื เบอร์ S สีขาว S ด เส้อื เบอร์ S สีแดง ข เสอ้ื เบอร์ M สขี าวM ด เสือ้ เบอร์ M สแี ดง ข เส้ือเบอร์ L สขี าว L ด เสือ้ เบอร์ L สีแดง จากแผนภาพ จะเหน็ วา่ จะตอ้ งจดั เสื้อแต่ละสีใหค้ รบทงั้ สามเบอร์ โดยจะใชเ้ สือ้ ทง้ั หมด 6 ตัว ซึ่งเทา่ กบั ผลคูณของจานวนขนาดของเสื้อ (3)คูณด้วยจานวนสีของเสอ้ื (2) หรือเทา่ กับ 32 หรือ 6 น่ันเองตวั อยา่ งท่ี 2 นายดามีเสื้อ 2 ตัว สีต่างกนั และกางเกง 3 ตัว สตี ่างกนั จงหาจานวนวิธที ้งั หมดที่นายดาสวมเสื้อและกางเกงเป็นชดุ ต่าง ๆ กนัวธิ ที า นายดามีวธิ เี ลือกสวมเสอ้ื ได้ 2 วิธีและเลอื กสวมกางเกงได้ 3 วธิ ี นายดามวี ิธีสวมเสือ้ และกางเกงเป็นชุดต่าง ๆ กันได้ 2  3 = 6 วธิ ีหรืออาจจะใชแ้ ผนภาพตน้ ไม้ในการหาคาตอบได้ดังน้ีเสือ้ กางเกง ผลลัพธ์ กๅ (ส1 , ก1)ส1 ก2 (ส1 , ก2) ก3 (ส1 , ก3) กๅ (ส2 , ก1)ส2 ก2 (ส2 , ก2) (ส2 , ก3) ก3ตัวอยา่ งที่ 3 นายวัฒนาทาข้อสอบ 5 ขอ้ แต่ละข้อมีตัวเลอื ก 4 ตัวเลอื ก จงหาว่า นายวฒั นาจะมวี ธิ ที าข้อสอบดงั กล่าวได้ทัง้ หมดกว่ี ิธีวธิ ีทา นายวัฒนาเลอื กทาขอ้ สอบได้ 5 วิธีนายวฒั นาเลอื กตัวเลือกในขอ้ สอบแต่ละขอ้ ได้ 4 วธิ ี นายวฒั นามีวธิ ีทาขอ้ สอบได้ท้ังหมด 54  20 วธิ ี

7. ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกทกั ษะชุดที่ 1 ทาตอนที่ 2 กาหนดเวลาให้ 20 นาทแี ล้วแลกกับเพอ่ื นในกลุ่มตรวจ คาตอบ8. ครถู ามนกั เรยี นเก่ยี วกับความรทู้ ไี่ ดร้ บั ในวนั น้ี พรอ้ มท้ังครูอธิบายเพมิ่ เติมให้สมบูรณ์ กฎเกณฑเ์ บ้อื งต้นเก่ียวกบั การนับ มี 2 กฎ ซึง่ จะใชว้ ิธคี ิดทใี่ ช้การคูณ9. ให้นักเรียนแตล่ ะคนทาแบบฝึกหดั 2.1 หน้า 33 -34 ข้อ 1 -2 ในหนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ เลม่ 3 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 ลงในสมดุ ของตนเองสื่อ/แหล่งการเรยี นรู้1. หนงั สอื เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เล่ม 22. แบบฝกึ ทักษะชุดที่ 1การบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง1. ครผู ู้สอนใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในขัน้ เตรยี มการสอน/จัดการเรียนรู้ ดงั นี้ประเดน็ หลักพอเพยี ง ความพอประมาณ เหตุผล มภี มู ิคุ้มกันในตัวทด่ี ีเวลา เว ล าที่ ใช้ ใน ก าร จั ด เวลาท่ีใช้ในการจัดกิจกรรม ข้ันน าเข้าสู่บทเรียน 25 กิจก รรมก ารเรียน รู้ การเรียนรู้ ดังน้ี ข้ันนาเข้าสู่ นาที นักเรียนจะได้ทบทวน ท้ังหมดในแผนการนี้ 2 บทเรียน ใช้เวลา 25 น าที ความร้พู น้ื ฐาน และเป็นการ ช่ั ว โ ม ง มี ค ว า ม แบ่งก ลุ่มนัก เรียน 5 น าที เตรียมความรู้ในการเรียน เหมาะสมคอื ขน้ั นาเข้า ช้ีแจ้งจุดประสงค์ลายละเอียด ขั้นสอน 75 นาที นักเรียน สู่บทเรียน 25 นาที ในการเรียน 5 นาที ทบทวน ส า ม า ร ถ วิ เ ค ร า ะ ห์ ขนั้ สอน 75 นาที ความรู้เดิมเพื่อเชื่อมโยงกับ แก้ปัญหาอื่น ๆ ได้ ขั้นสรุป ข้ันสรุป 20 นาที เรยี นทจ่ี ะเรยี น 15 นาที 20 นาที นักเรียนจะได้รับ ขนั้ สอน 75 นาที เร่ิมดว้ ยการ ความรู้ท่ีคงทนและถูกหลัก สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับ ของคณิตศาสตร์ เรื่องท่ีจะเรียนและเรื่องท่ีต้อง น ามาเช่ื อ ม โยงใน ก ารห า ค า ต อ บ 15 น าที อ ธิ บ า ย ตัวอย่างให้ นัก เรียน อ ย่าง ละเอียดชัดเจน 30 นาที แล้ว ให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดโดย มีครูควบคุมดูแลให้คาปรึกษา 30 นาทีข้ันสรุป 20 นาทีให้ นักเรียนร่วมกันสรุปโดยมีครู เสริมความรู้ท่ีขาดหาและให้ ชัดเจนมาขน้ึ

ประเด็น หลักพอเพยี ง ความพอประมาณ เหตผุ ล มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดีเน้ือหา 1.มีความเหมาะสมกับ เพราะหลักสูตรแกนกลาง ก ารเรียน เร่ือ งก ารบว ก นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษา การศึกษาขั้นพื้นฐานกาหนด จานวนเตม็ บวกด้วยจานวน ปีท่ี 6 ไว้ในสาระท่ี 5 จานวนและ เตม็ ลบ ให้ถูกต้องตามหลัก 2.มีความเหมาะสมกับ การดาเนินการ ตัวช้ีวัด ค 5.2 ท าให้ นั ก เรีย น ส าม าร ถ ความรู้พ้ื น ฐาน ขอ ง ม.4-6/2 น าไป ใช้ ใน ก าร ด าเนิ น นกั เรียน ชวี ติ ประจาวัน 3.มีความเหมาะสมกับ เวลาสื่อ/อปุ กรณ์ มีความเหมาะสมกับ การให้นักเรียนได้เรียนรู้จาก - นกั เรียนสามารถวิเคราะห์- แบบฝึกทกั ษะ ช่วงวัย ความต้องการ ตัวอย่างทาให้นักเรียนได้เห็น โจทย์ปัญ หาจาการเรียน- แบบฝึกหดั ความสามารถ และ ภาพชัดเจน เข้าใจมากข้ึน ได้ และปญั หาอืน่ ได้ เรื่ อ ง ที่ เรี ย น ข อ ง ทาดว้ ยตนเอง นั ก เรี ย น ใน ร ะ ดั บ ชั้ น มธั ยมศกึ ษา ปีท่ี 6ความรู้ทค่ี รูจาเปน็ ตอ้ งมี ครมู คี วามรเู้ ก่ียวกบั หลกั สูตร เนื้อหาสาระและกจิ กรรมการเรยี นการสอน ครมู คี วามร้ใู นการวิเคราะห์นักเรียน และรูศ้ กั ยภาพของนักเรียน ครูมคี วามรูใ้ นเรือ่ งการบวกจานวนเตม็ ครูมีความรู้ในเร่ืองการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ครมู ีความรใู้ นเร่อื งการวดั และประเมนิ ผลคณุ ธรรมของครู มีความขยนั รับผิดชอบในการสอน มีความเสยี สละ ไมป่ ดิ บังความรู้ มีความเมตตาและปรารถนาดีต่อศิษย์ มีความตั้งใจในการผลิตสอ่ื การเรียนร้ใู หน้ า่ สนใจ มีความเพียงพยายามทจ่ี ะม่งุ ม่นั ให้นักเรียนมคี วามรู้ มีความอดทนในสอน แนะนา ตรวจแก้ไขผลงานของนกั เรียน

- นกั เรยี นจะได้เรยี นรทู้ ่ีจะอยู่อย่างพอเพยี งจากกจิ กรรมการเรียนรู้ ดังตอ่ ไปน้ี ผเู้ รยี นได้เรียนรูห้ ลกั คิด และฝึกปฏิบัติตาม 3 ห่วง 2 เงอื่ นไข ดังนี้ความพอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมคิ ุ้มกันในตัวท่ีดี1.นัก เรียน รู้จักบริหารเวลาใน 1.นั ก เรียน มีเห ตุผลใน ก ารห า 1.นักเรยี นนาความรู้เร่อื งการบวกการศึกษาความรู้ ทากิจกรรมจาก คาตอบของการบวกจานวนเต็ม จานวนเต็มบวกด้วยจานวนเต็มลบใบงาน แบบฝึกหัด การทากิจกรรม บวกด้วยจานวนเต็มลบได้ ไปช่วยในการโจทย์ปัญหาอืน่ ได้กล่มุ 2. นั ก เรีย น วิ เค ร าะ ห์ แ ล ะ ห า 2. นักเรยี นนาความรทู้ ่ไี ดร้ ับจากการ2.นั ก เรียน ท ากิ จก รร มได้ เต็ ม คาตอบไดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล เรียนการบวกจานวนเตม็ บวกด้วยศักยภาพของตนเอง จานวนเตม็ ลบมาเป็นขอ้ มลู พืน้ ฐาน3.นักเรียนใช้วัสดุ อุปกรณ์ ในการ เพ่ือประกอบการตัดสนิ ใจในการทาทากิจกรรมอยา่ งประหยดั กิจกรรม ได้โดยไมเ่ กดิ ปัจจัยเส่ยี งความรทู้ ี่ต้องมีกอ่ นเรียน 1.ต้องมสี มาธิ มีความต้ังใจ ในการเรียนคณุ ธรรม 2.ต้องมีความรอบคอบในการทางาน 3.ต้องมีมารยาทในการทางาน ไม่ส่งเสียงดัง ไม่เล่นหรือไมล่ กุ จากทีน่ ่งั โดย ไม่ไดร้ บั อนญุ าต 4. ต้องมคี วามรับผิดชอบในงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย ส่งตรงต่อเวลา 1.นักเรยี นมีความซ่อื สัตย์ สจุ ริตและตรงตอ่ เวลา 2. นักเรยี นมีวินยั ในตนเอง- ผลลัพธ์ทคี่ าดวา่ จะเกดิ ข้ึนกับนกั เรียน ( อยู่อยา่ งพอเพยี ง – สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลยี่ นแปลงด้านต่างๆ )ด้านความรู้ (K) ดา้ นทักษะ กระบวนการ (P) ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)1. นักเรียนสามารถพิจารณา 1. นักเรยี นสามารถแสดงวิธีทาได้ 1.นักเรยี นมคี วามตง้ั ใจ ขยัน ใฝ่ปัญหาเก่ยี วกบั การจดั ส่ิงของ อยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน เขียนไดถ้ กู ต้อง เรยี นรู้ต่าง ๆ ได้ถูกตอ้ งการวัดผลและประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เครอื่ งมอื การวัดผล - ตรวจคาตอบของแบบฝกึ - แบบฝกึ ทักษะ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ทกั ษะ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 1.พจิ ารณาปญั หาเก่ียวกบั การจัดสิ่งของ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ตา่ ง ๆ ได้ 2.มคี วามรอบคอบในการทางาน 3.มีความรบั ผดิ ชอบต่องานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย

เกณฑ์การประเมินผล (รูบริกส์) ระดับคณุ ภาพประเด็นการประเมิน (4) (3) (2) (1) ดมี าก ดี กาลงั พฒั นา ปรับปรุงแบบฝกึ ทกั ษะ/ ทาไดอ้ ย่างถูกต้อง ทาไดอ้ ย่าง ทาได้อย่าง ทาได้อย่างถกู ต้องแบบฝึกหัด รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป ถูกตอ้ งรอ้ ยละ ถูกต้องร้อยละ ต่ากว่าร้อยละ 40 70-79 40-69มีความรอบคอบในการ มีการวางแผน มีการวางแผน มกี ารวางแผน ไมม่ กี ารวางแผนทางาน การดาเนินการ การดาเนนิ การ การดาเนินการ การดาเนนิ การ อย่างครบทุก อย่างถกู ต้อง อย่างไมค่ รบทกุ อยา่ งไม่มีขน้ั ตอน มี ข้ันตอน และ แตไ่ มค่ รบถว้ น ข้นั ตอนและไม่ ความผิดพลาดตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง แกไ้ ขมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ ทางานเสร็จและ ทางานเสรจ็ และ ทางานเสร็จแต่ ทางานไม่เสรจ็งานที่ได้รบั มอบหมาย สง่ ตรงเวลา ทา ส่งตรงเวลา ทา ส่งชา้ ทาไม่ สง่ ไม่ตรงเวลา ทา ถกู ตอ้ ง ละเอยี ด ถกู ตอ้ ง ละเอียด ถูกต้อง และไม่ ไม่ถูกตอ้ ง และไมม่ ี มคี วามละเอยี ด ความละเอียดใน ในการทางาน การทางานเกณฑ์การตดั สิน- รายบุคคล นกั เรยี นมีผลการเรยี นรไู้ ม่ตา่ กว่าระดบั 2 จึงถอื วา่ ผ่าน- รายกลมุ่ ร้อยละ....75....ของจานวนนักเรยี นท้งั หมดมผี ลการเรียนรไู้ มต่ ่ากว่าระดับ 2ข้อเสนอแนะ ใช้สอนได้ ควรปรับปรงุ ลงชื่อ ( นางสาวปวริศา ก๋าวงค์วิน ) วันที่ เดอื น พ.ศ.บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ชัน้ ม. 5/1ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุความเหมาะสมของเวลาท่ีใช้ในการทากจิ กรรม ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของส่ือการเรยี นรู้ ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของเกณฑก์ ารประเมนิ ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุอ่ืน ๆ

สรุปผลการประเมนิ ผู้เรยี น นักเรยี นจานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ มผี ลการเรยี นรู้ฯ อยใู่ นระดบั 1 นกั เรยี นจานวน คน คิดเป็นร้อยละ มีผลการเรยี นรู้ฯ อยูใ่ นระดบั 2 นกั เรียนจานวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ มผี ลการเรยี นร้ฯู อยใู่ นระดับ 3 นักเรียนจานวน คน คิดเป็นร้อยละ มผี ลการเรยี นรฯู้ อยใู่ นระดบั 4 สรปุ โดยภาพรวมมนี ักเรียนจานวน คน คดิ เป็นร้อยละ ท่ผี ่านเกณฑร์ ะดับ 2 ขน้ึ ไป ซึง่ สงู (ต่า) กว่าเกณฑ์ทก่ี าหนดไวร้ อ้ ยละ มีนักเรียนจานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ท่ไี ม่ผ่านเกณฑ์ทีก่ าหนดชนั้ ม. 5/2ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของเวลาท่ใี ช้ในการทากจิ กรรม ดี  พอใช้  ปรบั ปรุงความเหมาะสมของส่ือการเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรบั ปรุงความเหมาะสมของเกณฑ์การประเมิน ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุอื่น ๆ สรปุ ผลการประเมินผเู้ รยี น นักเรียนจานวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ มผี ลการเรียนรูฯ้ อยู่ในระดับ 1 นักเรียนจานวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ มผี ลการเรียนรฯู้ อยู่ในระดับ 2 นักเรียนจานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ มีผลการเรยี นรู้ฯ อยู่ในระดับ 3 นักเรยี นจานวน คน คิดเป็นรอ้ ยละ มผี ลการเรยี นรู้ฯ อยใู่ นระดบั 4 สรปุ โดยภาพรวมมีนักเรยี นจานวน คน คดิ เป็นร้อยละ ทผ่ี ่านเกณฑ์ระดบั 2 ขน้ึ ไป ซึ่งสงู (ตา่ ) กว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดไวร้ อ้ ยละ มนี กั เรียนจานวน คน คิดเป็นร้อยละ ท่ีไม่ผา่ นเกณฑท์ ่ีกาหนดชนั้ ม. 5/3ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรับปรุงความเหมาะสมของเวลาทใ่ี ช้ในการทากิจกรรม ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของส่อื การเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุความเหมาะสมของเกณฑก์ ารประเมนิ ดี  พอใช้  ปรับปรุงอื่น ๆ สรุปผลการประเมินผูเ้ รยี น นักเรียนจานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ มผี ลการเรยี นรู้ฯ อยใู่ นระดับ 1 นกั เรียนจานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ มผี ลการเรยี นรู้ฯ อยใู่ นระดบั 2 นกั เรยี นจานวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ มีผลการเรยี นรูฯ้ อยใู่ นระดับ 3 นักเรยี นจานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ มผี ลการเรยี นรู้ฯ อย่ใู นระดบั 4

สรุปโดยภาพรวมมนี กั เรยี นจานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ทผี่ ่านเกณฑ์ระดับ 2 ขึน้ ไป ซึ่งสูง (ตา่ ) กวา่ เกณฑ์ทกี่ าหนดไว้รอ้ ยละ มีนักเรยี นจานวน คน คิดเป็นร้อยละ ท่ไี ม่ผา่ นเกณฑ์ท่กี าหนดชนั้ ม. 5/4ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรับปรุงความเหมาะสมของเวลาท่ใี ช้ในการทากจิ กรรม ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุความเหมาะสมของส่ือการเรยี นรู้ ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุความเหมาะสมของเกณฑ์การประเมิน ดี  พอใช้  ปรบั ปรุงอืน่ ๆ สรุปผลการประเมินผเู้ รยี น นกั เรยี นจานวน คน คิดเป็นรอ้ ยละ มผี ลการเรียนรฯู้ อยูใ่ นระดบั 1 นกั เรยี นจานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ มีผลการเรียนรู้ฯ อยูใ่ นระดับ 2 นกั เรยี นจานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ มผี ลการเรียนรู้ฯ อยู่ในระดับ 3 นักเรียนจานวน คน คิดเปน็ ร้อยละ มีผลการเรียนรฯู้ อยูใ่ นระดบั 4 สรุปโดยภาพรวมมนี กั เรียนจานวน คน คิดเปน็ ร้อยละ ทผี่ า่ นเกณฑ์ระดบั 2 ขนึ้ ไป ซ่ึงสูง (ตา่ ) กวา่ เกณฑท์ กี่ าหนดไว้รอ้ ยละ มีนกั เรียนจานวน คน คิดเป็นรอ้ ยละ ทไ่ี มผ่ ่านเกณฑท์ ีก่ าหนดขอ้ สังเกต/ค้นพบจาการตรวจผลงานของนักเรียนพบว่า ชัน้ ม.5/1 นักเรียน คน สามารถพจิ ารณาปัญหาเกย่ี วกับการจัดส่ิงของตา่ ง ๆ - นกั เรยี นผ่านเกณฑร์ ะดบั 2 ขึ้นไป จานวน คน - นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ระดบั 2 จานวน คน ชั้นม.5/2 นักเรยี น คน สามารถพจิ ารณาปญั หาเกย่ี วกับการจดั สงิ่ ของตา่ ง ๆ - นกั เรยี นผ่านเกณฑร์ ะดบั 2 ข้ึนไป จานวน คน - นักเรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ระดบั 2 จานวน คน ชนั้ ม.5/3 นกั เรียน คน สามารถพิจารณาปัญหาเกย่ี วกับการจดั สิง่ ของตา่ ง ๆ - นกั เรียนผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2 ขน้ึ ไป จานวน คน - นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑร์ ะดับ 2 จานวน คน ชน้ั ม.5/4 นักเรียน คน สามารถพิจารณาปัญหาเก่ยี วกับการจดั สง่ิ ของต่าง ๆ - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ระดับ 2 ขึน้ ไป จานวน คน - นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ระดบั 2 จานวน คน1.ด้านทกั ษะกระบวนการ นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินในแตล่ ะด้าน ดังน้ี ชัน้ ม.5/1 ทักษะการแกไ้ ขปญั หา - นักเรียนผ่านเกณฑ์ดมี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 ) จานวน คน - นักเรียนผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน

- นกั เรียนตอ้ งปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน คนทกั ษะการเช่อื มโยงทางคณติ ศาสตร์ คน- นกั เรียนผ่านเกณฑ์ดีมาก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นักเรียนผ่านเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นักเรยี นผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นกั เรียนตอ้ งปรับปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน คนชั้น ม.5/2 คน คนทกั ษะการแกไ้ ขปัญหา คน- นกั เรยี นผา่ นเกณฑด์ มี าก ( ระดบั 4 ) จานวน- นักเรียนผ่านเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 ) จานวน คน คน- นักเรยี นผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นักเรียนตอ้ งปรบั ปรงุ ( ระดับ 1 ) จานวน คนทักษะการเชอ่ื มโยงทางคณิตศาสตร์ คน- นกั เรียนผ่านเกณฑ์ดมี าก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 ) จานวน คน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน- นกั เรียนต้องปรบั ปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน คน คนชน้ั ม.5/3 คนทักษะการแกไ้ ขปญั หา คน- นกั เรยี นผา่ นเกณฑด์ ีมาก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน คน- นักเรยี นตอ้ งปรับปรุง ( ระดบั 1 ) จานวนทกั ษะการเช่อื มโยงทางคณติ ศาสตร์ คน- นักเรียนผา่ นเกณฑ์ดีมาก ( ระดับ 4 ) จานวน คน คน- นักเรยี นผ่านเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นักเรยี นผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน- นักเรยี นตอ้ งปรับปรงุ ( ระดับ 1 ) จานวนช้ัน ม.5/4ทกั ษะการแก้ไขปัญหา- นกั เรียนผ่านเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 ) จานวน- นักเรยี นผ่านเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 ) จานวน- นักเรียนผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน- นักเรยี นต้องปรบั ปรงุ ( ระดับ 1 ) จานวนทกั ษะการเชอื่ มโยงทางคณิตศาสตร์- นักเรียนผา่ นเกณฑ์ดมี าก ( ระดบั 4 ) จานวน- นักเรยี นผ่านเกณฑ์ดี ( ระดับ 3 ) จานวน- นักเรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน- นกั เรยี นตอ้ งปรับปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน

2. ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ในแตล่ ะด้าน ดงั น้ีชน้ั ม.5/1ความรอบคอบในการทางาน- นกั เรียนผ่านเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นักเรียนผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นกั เรยี นตอ้ งปรบั ปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน คนความรบั ผดิ ชอบในการทางาน- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดีมาก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นกั เรยี นต้องปรบั ปรงุ ( ระดับ 1 ) จานวน คนชน้ั ม.5/2ความรอบคอบในการทางาน- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ดีมาก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นักเรียนผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นกั เรยี นต้องปรบั ปรงุ ( ระดับ 1 ) จานวน คนความรับผิดชอบในการทางาน- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ดมี าก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นักเรียนผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นกั เรยี นต้องปรบั ปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน คนช้นั ม.5/3ความรอบคอบในการทางาน- นักเรยี นผ่านเกณฑ์ดีมาก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นกั เรยี นต้องปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน คนความรบั ผิดชอบในการทางาน- นักเรียนผา่ นเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นกั เรียนผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นกั เรยี นต้องปรบั ปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน คนชน้ั ม.5/4ความรอบคอบในการทางาน- นักเรียนผา่ นเกณฑ์ดมี าก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นักเรยี นผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นกั เรียนผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นักเรียนต้องปรับปรงุ ( ระดับ 1 ) จานวน คน

ความรับผดิ ชอบในการทางาน- นักเรยี นผ่านเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นกั เรียนผ่านเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นักเรียนผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นักเรยี นตอ้ งปรบั ปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน คนแนวทางการแกไ้ ขปญั หาเพ่ือปรับปรงุชน้ั ม.5/11. นกั เรยี นทีไ่ ดค้ ะแนนอยู่ในระดับท่ี 2 , 3 และ 4 ได้จากกิจกรรมสอนเสรมิ โดย ให้ทาแบบฝกึ หัดเพม่ิ เตมิ เป็นการบา้ น ...............................................................................................................................2. นกั เรยี นท่ไี ดค้ ะแนนอยู่ในระดบั ท่ี 1 ไดจ้ ากกจิ กรรมสอนซอ่ ม โดย ให้ทาแบบฝกึ หดั เพิ่มเตมิ เปน็ การบ้าน ..............................................................................................................................3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและช้ีแจงเกณฑ์ ให้นักเรียนทราบเป็นรายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบา้ งตามเกณฑ์ท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ ในด้านทกั ษะการเชอื่ มโยงทางคณติ ศาสตร์ และการคดิ วิเคราะห์4. ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ นกั เรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรงุ ) ครูได้อธิบายและช้แี จงเกณฑ์ใหน้ กั เรียนทราบเป็นรายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบา้ งตามเกณฑ์ทา้ ยแผนการจดั การเรียนรู้ ในด้านการทางานเป็นระบบ ความรอบคอบช้นั ม.5/2 1. นักเรยี นทไ่ี ด้คะแนนอยูใ่ นระดับที่ 2 , 3 และ 4 ได้จากกิจกรรมสอนเสริมโดย ให้ทาแบบฝึกหัดเพิ่มเติม เปน็ การบ้าน ............................................................................................................................... 2. นกั เรยี นที่ไดค้ ะแนนอยู่ในระดบั ท่ี 1 ได้จากกจิ กรรมสอนซอ่ ม โดย ให้ทาแบบฝึกหดั เพม่ิ เติม เป็นการบ้าน .............................................................................................................................. 3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและช้ีแจงเกณฑ์ ให้นกั เรียนทราบเป็นรายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบา้ งตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ในดา้ นทักษะการเช่อื มโยงทางคณิตศาสตร์ และการคิดวเิ คราะห์ 4. ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ 1 ( ตอ้ งปรบั ปรงุ ) ครูได้อธิบายและชี้แจงเกณฑ์ใหน้ ักเรียนทราบเป็นรายบคุ คลวา่ นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ ในด้านการทางานเปน็ ระบบ ความรอบคอบช้นั ม.5/3 1. นกั เรยี นทีไ่ ด้คะแนนอยใู่ นระดับที่ 2 , 3 และ 4 ไดจ้ ากกิจกรรมสอนเสรมิ โดย ให้ทาแบบฝกึ หัดเพม่ิ เติม เป็นการบา้ น ............................................................................................................................... 2. นักเรียนที่ได้คะแนนอย่ใู นระดับท่ี 1 ได้จากกิจกรรมสอนซ่อม โดย ใหท้ าแบบฝึกหัดเพม่ิ เตมิ เป็นการบา้ น ..............................................................................................................................

3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและช้ีแจงเกณฑ์ ให้นักเรียนทราบเป็นรายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบา้ งตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ในดา้ นทักษะการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ และการคิดวเิ คราะห์ 4. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ตอ้ งปรับปรงุ ) ครไู ด้อธิบายและช้แี จงเกณฑ์ใหน้ ักเรียนทราบเป็นรายบคุ คลวา่ นักเรยี นจะต้องแก้ไขและทาอยา่ งไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ ในดา้ นการทางานเปน็ ระบบ ความรอบคอบช้ัน ม.5/4 1. นักเรียนทไ่ี ดค้ ะแนนอยใู่ นระดบั ท่ี 2 , 3 และ 4 ไดจ้ ากกจิ กรรมสอนเสรมิ โดย ใหท้ าแบบฝึกหดั เพิ่มเติม เปน็ การบ้าน ............................................................................................................................... 2. นักเรยี นที่ได้คะแนนอยใู่ นระดับท่ี 1 ไดจ้ ากกิจกรรมสอนซ่อม โดย ให้ทาแบบฝึกหัดเพ่มิ เติม เปน็ การบา้ น .............................................................................................................................. 3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและชี้แจงเกณฑ์ ให้นกั เรียนทราบเป็นรายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบา้ งตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ในดา้ นทกั ษะการเช่ือมโยงทางคณิตศาสตร์ และการคดิ วิเคราะห์ 4. ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นกั เรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรบั ปรุง ) ครไู ด้อธิบายและชแ้ี จงเกณฑ์ใหน้ ักเรยี นทราบเป็นรายบคุ คลว่า นกั เรียนจะต้องแกไ้ ขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ทา้ ยแผนการจัดการเรยี นรู้ ในด้านการทางานเปน็ ระบบ ความรอบคอบผลการพัฒนาพบว่านกั เรียนทไ่ี ดร้ ะดบั 1 จานวน คน จาก ค น ส าม ารถ พิ จ าร ณ าปั ญ ห าเก่ียวกับการจดั ส่ิงของต่าง ๆนาความรูเ้ ก่ียวกับกฎเบ้ืองต้นเกยี่ วกับการนบั ไปใช้แกป้ ัญหาในสถานการณ์ท่กี าหนดให้ได้ และได้ผลการเรยี นรู้อยใู่ นระดับ 2 สว่ นอกี คน ยงั ต้องปรับปรุงแก้ไขตอ่ ไปซึ่งผสู้ อนได้แนะนาให้ และปรบั ปรุงงานอกี ครงั้พบว่านกั เรียนทไ่ี ด้ระดบั 2 จานวน คน จาก ค น ส าม ารถ พิ จ าร ณ าปั ญ ห าเกยี่ วกบั การจดั ส่ิงของต่าง ๆนาความรู้เก่ียวกบั กฎเบ้ืองตน้ เกย่ี วกบั การนับไปใช้แกป้ ัญหาในสถานการณ์ท่กี าหนดให้ได้ ซึ่งผ้สู อนได้แนะนาให้พบว่านักเรยี นทไ่ี ด้ระดบั 3 จานวน คน จาก ค น ส าม ารถ พิ จ าร ณ าปั ญ ห าเก่ยี วกบั การจัดส่ิงของต่าง ๆนาความรเู้ กี่ยวกบั กฎเบอื้ งตน้ เก่ียวกับการนับใชแ้ ก้ปญั หาในสถานการณ์ที่กาหนดใหไ้ ด้ซึง่ ผสู้ อนไดแ้ นะนาให้พบวา่ นกั เรียนทไี่ ด้ระดับ 4 จานวน คน จาก ค น ส าม ารถ พิ จ าร ณ าปั ญ ห าเกยี่ วกบั การจัดสิง่ ของต่าง ๆนาความรเู้ กีย่ วกบั กฎเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการนับใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ท่ีกาหนดให้ได้ซ่งึ ผสู้ อนไดแ้ นะนาให้ ลงชื่อ ( นางสาวปวริศา ก๋าวงค์วนิ ) ผู้สอน

ความเห็นของหวั หน้ากลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ ลงชอ่ื ( นางสาวปวรศิ า กา๋ วงค์วิน ) หวั หน้ากลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์ความเหน็ ของรองผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ลงชื่อ ( นายวิเศษ ฟองตา ) รองผอู้ านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31ความเห็นของผ้อู านวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ลงชือ่ ( นางวิลาวลั ย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31

ชั่วโมง/คาบที่ 3-4 เรอ่ื ง กฎเกณฑ์เบ้อื งตน้ เก่ียวกับการนบั (กฎข้อท่ี 1) จดั การเรยี นรแู้ บบร่วมมือ เทคนคิTeam Assisted Individualization (TAI)1. นักเรยี นแบง่ กลุ่มละ 2-3 คน หรอื จับคู่ โดยจัดใหค้ ละความสามารถคนที่ 1 ทาหน้าทต่ี รวจคาตอบของคนท่ี 2คนที่ 2 ทาหน้าทต่ี รวจคาตอบของคนที่ 12. ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรียนร้ใู ห้นกั เรียนรวู้ ่า เม่อื จบช่ัวโมงน้แี ลว้ นกั เรียนต้องสามารถ1) แก้โจทย์ปญั หาโดยกฎเกณฑเ์ บอื้ งต้นเกี่ยวกบั เก่ียวกบั การนบั และแผนภาพต้นไมอ้ ย่างง่ายได้2) มคี วามรอบคอบในการทางาน3) มีความรบั ผิดชอบต่องานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย4) มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา5) มีความสามารถในการเชือ่ มโยงระหวา่ งคณิตศาสตร์กบั ชวี ติ ประจาวัน3. ทบทวนความรจู้ ากช่ัวโมงที่ผา่ นมา โดยการถาม-ตอบระหว่างครูกบั นักเรยี น- 105 มีค่าเท่ากับเทา่ ไร (50)- 1016 มคี า่ เท่ากับเทา่ ไร (160)- 1212 มีค่าเท่ากับเท่าไร (144)- 122 510 มคี า่ เท่ากบั เท่าไร (74)4. ครสู นทนากับนกั เรยี นเกยี่ วกบั เรื่องท่จี ะเรียนในช่วั โมงนี้ ซง่ึ มคี วามเก่ียวเนอื่ งกับชวั่ โมงท่ผี ่านมาว่าจากช่ัวโมงทีผ่ ่านมาเราทราบถงึ การพิจารณาปัญหาเกย่ี วกบั การจัดส่ิงของตา่ ง ๆ5. ครอู ธิบายโดยยกตัวอย่างตวั อย่างท่ี 1 โรงเรียนแหง่ หนงึ่ จดั อาหารกลางวนั เป็นอาหารคาว 4 อย่าง และขนม 3 อย่าง ใหน้ ักเรียนเลือกรับประทานชนิดละอย่าง อยากทราบว่า นกั เรยี นจะมวี ิธีเลอื กอาหารคาวและขนมไดท้ ้งั หมดกี่วิธีวิธีทา สมมตใิ หอ้ าหารคาว 4 อย่างเปน็ ค1,ค2,ค3 ,ค4 และสมมตุ ิให้ขนม 3 อย่างเป็น ข1,ข2,ข3 อาจใชแ้ ผนภาพตน้ ไมช้ ่วยในการคิดดงั นี้อาหารคาว ขนม ข1 ค1และ ข1 (1)ค1 ข2 ค1และ ข2 (2) ข3 ค1และ ข3 (3) ข1 ค2และ ข1 (1)ค2 ข2 ค2และ ข2 (2) ข3 ค2และ ข3 (3) ข1 ค3 และ ข1 (1)ค3 ข2 ค3 และ ข2 (2) ข3 ค3 และ ข3 (3) ข1 ค4 และ ข1 (1)ค4 ข2 ค4 และ ข2 (2) ข3 ค4 และ ข3 (3)ดังน้ัน นักเรียนแตล่ ะคนมวี ิธเี ลอื กอาหารกลางวนั ไดท้ ั้งหมด 12 วิธี

ตวั อยา่ งที่ 2 นายวัฒนาทาข้อสอบ 5 ข้อ แต่ละข้อมตี ัวเลอื ก 4 ตัวเลอื ก จงหาวา่นายวัฒนาจะมวี ิธที าข้อสอบดังกลา่ วไดท้ ัง้ หมดก่ีวิธีวิธที า นายวฒั นาเลือกทาข้อสอบได้ 5 วิธีนายวัฒนาเลือกตัวเลือกในข้อสอบแตล่ ะข้อได้ 4 วิธี นายวฒั นามวี ิธีทาข้อสอบได้ทั้งหมด 5  4 = 20 วธิ ีตัวอย่างท่ี 3 ถ้ามถี นนเชอ่ื มระหวา่ งเมอื ง ก. และเมือง ข. 4 สาย และถนนเชื่อมจากเมือง ค. การเดินทางจากเมอื ง ก. ไปยังเมือง ค. โดยให้ผา่ นเมือง ข. จะทาไดก้ ่วี ธิ ีวธิ ีทา การเดินทางจากเมอื ง ก. ไปยงั เมอื ง ข. ทาได้ 4 ทาง การเดินทางจากเมอื ง ข. ไปยงั เมือง ค. ทาได้ 5 ทาง ทางท่ี 1 ทางที่ 1 ทางที่ 2เมอื ง ก. ทางที่ 2 เมอื ง ข. ทางที่ 3 เมอื ง ค. ทางท่ี 3 ทางที่ 4 ทางที่ 4 ทางท่ี 5ดังน้นั การเดนิ ทางจากเมอื ง ก. ไปยังเมือง ค. โดยใหผ้ า่ นเมอื ง ข. จะทาได้ (4).(5) = 20 วิธี6. ให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะชดุ ท่ี 2 โดยกาหนดเวลาให้ 20 นาที แลว้ แลกกับเพือ่ นในกลุ่มตรวจคาตอบ7. ครูถามนกั เรยี นเกย่ี วกับความรูท้ ่ไี ด้รบั ในวันนี้ พรอ้ มท้งั ครูอธบิ ายเพิม่ เติมให้สมบรู ณ์ กฎขอ้ 1 ถา้ ตอ้ งการทางานสองอย่างโดยทงี่ านอย่างแรกทาได้ n1 วิธี และในแต่ละวิธีทเ่ี ลอื กทางานอยา่ งแรกน้ี มีวิธที ่ีจะทางานอยา่ งทสี่ องได้ n2 วธิ ี จะทางานทัง้ สองอยา่ งนไี้ ด้ n1n2 วธิ ี8. ให้นักเรียนแต่ละคนทาแบบฝึกหัด 3.1 หนา้ 56 ข้อ 2 ในหนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ เล่ม 2ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ลงในสมุดของตนเองส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้1. หนังสือเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 เล่ม 22. แบบฝกึ ทักษะชุดที่ 2การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง1. ครูผู้สอนใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในขัน้ เตรยี มการสอน/จดั การเรยี นรู้ ดังนี้ หลกั พอเพยี ง ความพอประมาณ เหตผุ ล มีภมู คิ ุ้มกันในตัวที่ดีประเดน็เวลา เวลาท่ีใช้ในการจัดกิจกรรม เวลาท่ีใช้ในการจัดกิจกรรม ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 25 ก า ร เรี ย น รู้ ท้ั ง ห ม ด ใน การเรียนรู้ ดังนี้ ขั้นนาเข้าสู่ น า ที นั ก เรี ย น จ ะ ไ ด้ แ ผ น ก า ร นี้ 2 ชั่ ว โ ม ง บทเรียน ใช้เวลา 25 นาที ทบทวนความรู้พื้นฐาน มคี วามเหมาะสมคือ แบ่งกลุ่มนักเรียน 5 นาที แ ล ะ เป็ น ก า ร เต รี ย ม ข้ัน น าเข้าสู่บ ท เรียน 25 ชี้ แ จ้ ง จุ ด ป ร ะ ส ง ค์ ล า ย ความรู้ในการเรยี น นาที ละเอียดในการเรียน 5 นาที ข้ั น ส อ น 75 น า ที ขนั้ สอน 75 นาที ท บ ท ว น ค วาม รู้เดิ ม เพ่ื อ นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ ขั้นสรปุ 20 นาที เชื่อมโยงกับเรียนท่ีจะเรียน วิเคราะห์ แกป้ ัญหาอ่ืน ๆ 15 นาที ข้ันสอน 75 นาที ได้ เริ่ม ด้ ว ยก ารส น ท น ากั บ ขั้ น ส รุ ป 20 น า ที นักเรียนเกยี่ วกับเรือ่ งท่จี ะ นักเรยี นจะไดร้ ับความรูท้ ี

หลกั พอเพยี ง ความพอประมาณ เหตผุ ล มภี ูมิคุ้มกันในตวั ท่ีดีประเด็น เรียนและเร่ืองที่ต้องนามา คงทนและถูกหลักของ เช่ือมโยงในการหาคาตอบ คณิตศาสตร์ 15 นาที อธิบายตัวอย่างให้ นกั เรยี นอย่างละเอยี ดชัดเจน 30 นาที แล้วให้นักเรียนทา แ บ บ ฝึ ก หั ด โ ด ย มี ค รู ควบคมุ ดูแลให้คาปรกึ ษา 30 นาที ขั้นสรุป 20 นาทีให้ นกั เรยี นร่วมกันสรุปโดยมีครู เสริมความรู้ท่ีขาดหาและให้ ชัดเจนมาข้ึนเนื้อหา 1.มีความเหมาะสมกบั เพราะหลักสตู รแกนกลาง การเรียนเร่ืองการบวก นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษา การศกึ ษาขัน้ พื้นฐานกาหนด จานวนเตม็ บวกดว้ ย ปีท่ี 6 ไว้ในสาระที่ 5 จานวนและ จานวนเตม็ ลบ ให้ 2.มีความเหมาะสมกบั การดาเนินการ ตวั ช้ีวดั ค ถกู ต้องตามหลัก ทาให้ ความรพู้ นื้ ฐานของนกั เรยี น 5.2 ม.4-6/2 นักเรยี นสามารถนาไปใช้ 3.มคี วามเหมาะสมกบั เวลา ในการดาเนิน ชวี ติ ประจาวนัสื่อ/อปุ กรณ์ มีความเหมาะสมกับช่วงวัย การให้นกั เรยี นไดเ้ รยี นรู้จาก - นกั เรียนสามารถ- แบบฝกึ ทกั ษะ ความต้องการความสามารถ ตวั อยา่ งทาใหน้ ักเรียนไดเ้ หน็ วเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาจา- แบบฝึกหัด และเรอื่ งทเ่ี รียนของนกั เรียน ภาพชดั เจน เขา้ ใจมากขึ้น การเรยี นและปัญหาอ่ืน ในระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปี ได้ทาด้วยตนเอง ได้ ท่ี 6ความร้ทู คี่ รู ครูมีความร้เู กีย่ วกบั หลักสตู ร เน้ือหาสาระและกิจกรรมการเรียนการสอนจาเปน็ ตอ้ งมี ครมู คี วามรใู้ นการวเิ คราะห์นักเรียน และรศู้ ักยภาพของนกั เรียน ครูมคี วามรใู้ นเรอื่ งการบวกจานวนเต็ม ครูมคี วามรใู้ นเร่ืองการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ครมู ีความรู้ในเรอื่ งการวดั และประเมินผลคุณธรรมของครู มีความขยนั รับผิดชอบในการสอน มีความเสียสละ ไม่ปดิ บงั ความรู้ มคี วามเมตตาและปรารถนาดีต่อศษิ ย์ มคี วามตัง้ ใจในการผลติ ส่ือการเรียนรใู้ ห้น่าสนใจ มีความเพยี งพยายามทีจ่ ะม่งุ มั่นใหน้ กั เรยี นมีความรู้ มคี วามอดทนในสอน แนะนา ตรวจแกไ้ ขผลงานของนักเรียน

- นกั เรียนจะได้เรยี นร้ทู ีจ่ ะอยอู่ ยา่ งพอเพียงจากกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังตอ่ ไปนี้ ผ้เู รียนได้เรียนรหู้ ลกั คดิ และฝึกปฏิบตั ิตาม 3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข ดงั น้ีความพอประมาณ มเี หตุผล มภี มู คิ มุ้ กันในตวั ท่ีดี1.นัก เรียน รู้จักบริหารเวลาใน 1.นั ก เรียน มีเห ตุผลใน ก ารห า 1.นักเรียนนาความรูเ้ รอื่ งการบวกการศึกษาความรู้ ทากิจกรรมจาก คาตอบของการบวกจานวนเต็ม จานวนเต็มบวกด้วยจานวนเต็มลบใบงาน แบบฝึกหัด การทากิจกรรม บวกด้วยจานวนเต็มลบได้ ไปช่วยในการโจทย์ปญั หาอน่ื ได้กลุ่ม 2. นั ก เรีย น วิ เค ร าะ ห์ แ ล ะ ห า 2. นักเรยี นนาความรู้ทไ่ี ดร้ บั จากการ2.นั ก เรียน ท ากิ จก รร มได้ เต็ ม คาตอบไดอ้ ย่างสมเหตุสมผล เรยี นการบวกจานวนเต็มบวกด้วยศกั ยภาพของตนเอง จานวนเต็มลบมาเปน็ ข้อมลู พื้นฐาน3.นักเรียนใช้วัสดุ อุปกรณ์ ในการ เพื่อประกอบการตัดสนิ ใจในการทาทากจิ กรรมอย่างประหยัด กจิ กรรม ได้โดยไมเ่ กิดปจั จยั เสี่ยงความรทู้ ตี่ อ้ งมีก่อนเรยี น 1.ต้องมีสมาธิ มีความตง้ั ใจ ในการเรียนคณุ ธรรม 2.ต้องมีความรอบคอบในการทางาน 3.ตอ้ งมีมารยาทในการทางาน ไมส่ ่งเสยี งดัง ไมเ่ ล่นหรอื ไม่ลกุ จากทีน่ ่งั โดยไมไ่ ด้รบั อนุญาต 4. ตอ้ งมคี วามรบั ผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ส่งตรงต่อเวลา 1.นกั เรียนมคี วามซ่อื สตั ย์ สจุ ริตและตรงตอ่ เวลา 2. นกั เรยี นมีวนิ ยั ในตนเอง- ผลลัพธท์ ่คี าดว่าจะเกิดข้นึ กบั นกั เรียน (อยอู่ ย่างพอเพยี ง – สมดลุ และพร้อมรับการเปลยี่ นแปลงดา้ นตา่ งๆ) ดา้ นความรู้ (K) ด้านทักษะ กระบวนการ (P) ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)1.แก้โจทย์ปญั หาโดยกฎเกณฑ์ 1. มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา 1. มีความรอบคอบในการทางานเบือ้ งตน้ เก่ียวกับเก่ยี วกบั การนบั 2. มีความสามารถในการเช่อื มโยง 2. มีความรับผิดชอบตอ่ งานที่และแผนภาพตน้ ไม้อยา่ งง่ายได้ ระหว่างคณติ ศาสตรก์ ับ ได้รับมอบหมาย ชวี ติ ประจาวนั

การวดั ผลและประเมนิ ผล วิธกี ารวดั เครือ่ งมอื การวัดผล - ตรวจคาตอบของแบบฝกึ - แบบฝึกทกั ษะ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ทักษะ 1.แก้โจทย์ปญั หาโดยกฎเกณฑเ์ บ้อื งต้น - แบบฝึกทักษะ เกีย่ วกบั เกยี่ วกบั การนับและแผนภาพ - ตรวจคาตอบของ - แบบฝกึ ทกั ษะ ตน้ ไม้อยา่ งง่ายได้ แบบฝกึ ทกั ษะ - ตรวจคาตอบของ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม 2..มีความสามารถในการแกป้ ญั หา แบบฝกึ ทกั ษะ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - สงั เกตพฤตกิ รรม 3.. มีความสามารถในการเชอ่ื มโยง ระหว่างคณิตศาสตรก์ ับชีวติ ประจาวัน - สงั เกตพฤตกิ รรม 4. มีความรอบคอบในการทางาน 5. มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ งานทีไ่ ดร้ ับ มอบหมายเกณฑ์การประเมนิ ผล (รูบริกส)์ ระดบั คุณภาพประเด็นการประเมนิ (4) (3) (2) (1) ดมี าก ดี กาลงั พฒั นา ปรบั ปรุงแบบฝกึ ทักษะ/ ทาได้อย่างถกู ตอ้ ง ทาไดอ้ ยา่ ง ทาไดอ้ ย่าง ทาไดอ้ ย่างถูกต้องแบบฝึกหดั รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป ถกู ต้องร้อยละ ถูกต้องร้อยละ ตา่ กวา่ รอ้ ยละ 40 70-79 40-69มีความรอบคอบในการ มกี ารวางแผน มีการวางแผน มีการวางแผน ไมม่ กี ารวางแผนทางาน การดาเนนิ การ การดาเนนิ การ การดาเนินการ การดาเนนิ การ อย่างครบทุก อยา่ งถูกต้อง อยา่ งไม่ครบทุก อย่างไมม่ ีข้นั ตอน มี ข้ันตอน และ แตไ่ มค่ รบถว้ น ข้นั ตอนและไม่ ความผดิ พลาดตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง แก้ไขมคี วามรบั ผิดชอบต่อ ทางานเสรจ็ และ ทางานเสรจ็ และ ทางานเสร็จแต่ ทางานไม่เสรจ็งานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย สง่ ตรงเวลา ทา ส่งตรงเวลา ทา สง่ ชา้ ทาไม่ สง่ ไม่ตรงเวลา ทา ถกู ตอ้ ง ละเอยี ด ถกู ตอ้ ง ละเอยี ด ถูกตอ้ ง และไม่ ไม่ถูกตอ้ ง และไม่มี มีความละเอยี ด ความละเอียดใน ในการทางาน การทางานเกณฑก์ ารตดั สนิ- รายบุคคล นักเรียนมผี ลการเรียนรู้ไมต่ ่ากว่าระดับ 2 จงึ ถือว่าผ่าน- รายกลมุ่ ร้อยละ....75....ของจานวนนักเรียนทง้ั หมดมผี ลการเรียนรไู้ มต่ า่ กวา่ ระดบั 2

ขอ้ เสนอแนะ ใช้สอนได้ ควรปรับปรุง ลงช่ือ ( นางสาวปวรศิ า ก๋าวงค์วิน ) วนั ท่ี เดือน พ.ศ.บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ชนั้ ม. 5/1ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรับปรุงความเหมาะสมของเวลาทีใ่ ชใ้ นการทากจิ กรรม ดี  พอใช้  ปรับปรุงความเหมาะสมของสอ่ื การเรยี นรู้ ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุความเหมาะสมของเกณฑ์การประเมนิ ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุอ่นื ๆ สรุปผลการประเมนิ ผเู้ รยี น นักเรียนจานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ มผี ลการเรยี นร้ฯู อยใู่ นระดับ 1 นักเรียนจานวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ มีผลการเรยี นรู้ฯ อยูใ่ นระดบั 2 นกั เรียนจานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ มีผลการเรียนรฯู้ อยู่ในระดบั 3 นักเรียนจานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ มผี ลการเรียนรฯู้ อยู่ในระดบั 4 สรุปโดยภาพรวมมีนกั เรียนจานวน คน คิดเปน็ ร้อยละ ทผี่ ่านเกณฑ์ระดบั 2 ข้ึนไป ซง่ึ สงู (ตา่ ) กวา่ เกณฑท์ ีก่ าหนดไวร้ ้อยละ มีนักเรยี นจานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑท์ กี่ าหนดชัน้ ม. 5/2ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของเวลาทใี่ ชใ้ นการทากิจกรรม ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของสอื่ การเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของเกณฑก์ ารประเมิน ดี  พอใช้  ปรบั ปรุงอ่ืน ๆ สรุปผลการประเมนิ ผู้เรียน นกั เรียนจานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ มผี ลการเรยี นรู้ฯ อยู่ในระดบั 1 นกั เรียนจานวน คน คดิ เป็นร้อยละ มีผลการเรยี นร้ฯู อยใู่ นระดบั 2 นักเรยี นจานวน คน คิดเป็นร้อยละ มผี ลการเรยี นรู้ฯ อยู่ในระดับ 3

นักเรียนจานวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ มีผลการเรียนรู้ฯ อยู่ในระดบั 4 สรปุ โดยภาพรวมมีนักเรียนจานวน คน คิดเปน็ ร้อยละ ท่ีผ่านเกณฑร์ ะดับ 2 ขึน้ ไป ซึง่ สูง (ตา่ ) กวา่ เกณฑท์ กี่ าหนดไว้รอ้ ยละ มีนักเรยี นจานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ท่ไี ม่ผา่ นเกณฑท์ ก่ี าหนดช้ัน ม. 5/3ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการทากิจกรรม ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของสอื่ การเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุความเหมาะสมของเกณฑก์ ารประเมิน ดี  พอใช้  ปรับปรงุอ่ืน ๆ สรปุ ผลการประเมินผู้เรยี น นกั เรยี นจานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ มีผลการเรียนรู้ฯ อยใู่ นระดับ 1 นกั เรยี นจานวน คน คิดเปน็ รอ้ ยละ มผี ลการเรียนรู้ฯ อยูใ่ นระดบั 2 นักเรยี นจานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ มีผลการเรียนร้ฯู อยู่ในระดบั 3 นกั เรียนจานวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ มผี ลการเรียนรู้ฯ อยู่ในระดับ 4 สรุปโดยภาพรวมมนี ักเรยี นจานวน คน คิดเปน็ ร้อยละ ทผ่ี า่ นเกณฑร์ ะดบั 2 ข้นึ ไป ซึง่ สงู (ต่า) กว่าเกณฑท์ ่กี าหนดไวร้ อ้ ยละ มนี กั เรียนจานวน คน คิดเป็นร้อยละ ท่ีไม่ผ่านเกณฑ์ทก่ี าหนดช้ัน ม. 5/4ความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนรู้ ดี  พอใช้  ปรบั ปรุงความเหมาะสมของเวลาทีใ่ ช้ในการทากิจกรรม ดี  พอใช้  ปรบั ปรงุความเหมาะสมของสอ่ื การเรยี นรู้ ดี  พอใช้  ปรับปรงุความเหมาะสมของเกณฑ์การประเมิน ดี  พอใช้  ปรับปรุงอื่น ๆ สรปุ ผลการประเมินผู้เรียน นกั เรียนจานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ มผี ลการเรียนรู้ฯ อยู่ในระดับ 1 นักเรยี นจานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ มผี ลการเรยี นรฯู้ อยใู่ นระดบั 2 นักเรียนจานวน คน คิดเปน็ ร้อยละ มผี ลการเรียนร้ฯู อยู่ในระดบั 3 นกั เรยี นจานวน คน คิดเปน็ ร้อยละ มผี ลการเรยี นรู้ฯ อยู่ในระดบั 4 สรปุ โดยภาพรวมมีนักเรยี นจานวน คน คดิ เป็นร้อยละ ที่ผา่ นเกณฑ์ระดับ 2 ขึ้นไป ซึ่งสูง (ต่า) กวา่ เกณฑท์ ี่กาหนดไวร้ ้อยละ มนี กั เรยี นจานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ท่ไี ม่ผา่ นเกณฑท์ ่กี าหนด

ขอ้ สังเกต/ค้นพบจาการตรวจผลงานของนกั เรยี นพบว่าชัน้ ม.5/1 นักเรียน คน สามารถพิจารณาปญั หาเกี่ยวกับการจัดสิ่งของต่าง ๆ- นกั เรยี นผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2 ขึน้ ไป จานวน คน- นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ระดบั 2 จานวน คนชั้นม.5/2 นักเรียน คน สามารถพิจารณาปญั หาเกี่ยวกบั การจดั สิง่ ของตา่ ง ๆ- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ระดับ 2 ขนึ้ ไป จานวน คน- นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑร์ ะดบั 2 จานวน คนชั้นม.5/3 นกั เรียน คน สามารถพจิ ารณาปัญหาเกยี่ วกับการจัดสิ่งของต่าง ๆ- นักเรียนผ่านเกณฑร์ ะดบั 2 ขึ้นไป จานวน คน- นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2 จานวน คนชั้นม.5/4 นักเรียน คน สามารถพจิ ารณาปญั หาเกี่ยวกบั การจัดสิ่งของต่าง ๆ- นักเรยี นผา่ นเกณฑร์ ะดับ 2 ขน้ึ ไป จานวน คน- นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑร์ ะดบั 2 จานวน คน1.ดา้ นทกั ษะกระบวนการ นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินในแตล่ ะด้าน ดงั นี้ชน้ั ม.5/1ทักษะการแกไ้ ขปญั หา- นักเรียนผ่านเกณฑด์ มี าก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นักเรียนผ่านเกณฑ์ดี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นักเรียนผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นักเรยี นต้องปรับปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน คนทกั ษะการเชือ่ มโยงทางคณติ ศาสตร์- นกั เรยี นผา่ นเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นักเรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นกั เรียนตอ้ งปรับปรงุ ( ระดับ 1 ) จานวน คนชั้น ม.5/2ทกั ษะการแก้ไขปญั หา- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดมี าก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นักเรยี นผ่านเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นกั เรยี นต้องปรบั ปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน คนทกั ษะการเชอื่ มโยงทางคณิตศาสตร์- นักเรียนผ่านเกณฑด์ ีมาก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นักเรยี นผ่านเกณฑ์ดี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นักเรยี นผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นักเรียนตอ้ งปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน คนชัน้ ม.5/3ทักษะการแกไ้ ขปัญหา- นกั เรียนผ่านเกณฑ์ดมี าก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นกั เรยี นผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 ) จานวน คน

- นกั เรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นักเรยี นต้องปรับปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน คนทกั ษะการเชอ่ื มโยงทางคณิตศาสตร์- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ดมี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นักเรยี นผ่านเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นกั เรียนต้องปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน คนช้ัน ม.5/4ทักษะการแก้ไขปญั หา- นกั เรียนผ่านเกณฑ์ดมี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นักเรยี นผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นกั เรยี นต้องปรบั ปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน คนทักษะการเช่ือมโยงทางคณิตศาสตร์- นักเรยี นผา่ นเกณฑด์ มี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นักเรยี นผ่านเกณฑ์ดี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นักเรยี นต้องปรับปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน คน2. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในแต่ละดา้ น ดงั น้ีชน้ั ม.5/1ความรอบคอบในการทางาน- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดมี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นักเรียนผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นักเรียนผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นักเรียนตอ้ งปรับปรงุ ( ระดบั 1 ) จานวน คนความรับผดิ ชอบในการทางาน- นักเรียนผ่านเกณฑ์ดีมาก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นกั เรียนผ่านเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นกั เรียนผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นกั เรียนต้องปรับปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน คนชน้ั ม.5/2ความรอบคอบในการทางาน- นกั เรียนผ่านเกณฑด์ ีมาก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นกั เรียนผา่ นเกณฑด์ ี ( ระดับ 3 ) จานวน คน- นักเรียนผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นกั เรียนตอ้ งปรับปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน คนความรับผดิ ชอบในการทางาน- นักเรียนผ่านเกณฑด์ ีมาก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นักเรียนผ่านเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นักเรียนผา่ นเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นักเรียนตอ้ งปรับปรงุ ( ระดับ 1 ) จานวน คน

ชน้ั ม.5/3ความรอบคอบในการทางาน- นักเรยี นผ่านเกณฑด์ ีมาก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นกั เรียนผ่านเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑ์พอใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นกั เรียนต้องปรบั ปรุง ( ระดบั 1 ) จานวน คนความรับผดิ ชอบในการทางาน- นกั เรยี นผ่านเกณฑด์ ีมาก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นักเรยี นผ่านเกณฑด์ ี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นักเรียนผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดบั 2 ) จานวน คน- นกั เรียนต้องปรบั ปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน คนชัน้ ม.5/4ความรอบคอบในการทางาน- นักเรียนผ่านเกณฑด์ ีมาก ( ระดบั 4 ) จานวน คน- นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นกั เรียนผา่ นเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นักเรียนต้องปรับปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน คนความรับผิดชอบในการทางาน- นักเรยี นผ่านเกณฑ์ดมี าก ( ระดับ 4 ) จานวน คน- นักเรียนผ่านเกณฑ์ดี ( ระดบั 3 ) จานวน คน- นกั เรยี นผ่านเกณฑพ์ อใช้ ( ระดับ 2 ) จานวน คน- นกั เรยี นต้องปรบั ปรุง ( ระดับ 1 ) จานวน คนแนวทางการแก้ไขปญั หาเพ่ือปรับปรงุช้นั ม.5/11. นักเรยี นทไ่ี ดค้ ะแนนอยใู่ นระดบั ท่ี 2 , 3 และ 4 ได้จากกิจกรรมสอนเสริมโดย ใหท้ าแบบฝกึ หัดเพิ่มเตมิ เป็นการบ้าน ...............................................................................................................................2. นกั เรียนที่ได้คะแนนอยูใ่ นระดบั ท่ี 1 ไดจ้ ากกจิ กรรมสอนซอ่ ม โดย ใหท้ าแบบฝึกหัดเพ่ิมเติม เปน็ การบา้ น ..............................................................................................................................3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและชี้แจงเกณฑ์ ให้นกั เรียนทราบเป็นรายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบา้ งตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ในด้านทกั ษะการเชอื่ มโยงทางคณติ ศาสตร์ และการคดิ วเิ คราะห์4. ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ตอ้ งปรบั ปรงุ ) ครไู ด้อธบิ ายและชี้แจงเกณฑ์ใหน้ ักเรียนทราบเป็นรายบคุ คลวา่ นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอยา่ งไรบ้างตามเกณฑ์ทา้ ยแผนการจดั การเรยี นรู้ ในดา้ นการทางานเปน็ ระบบ ความรอบคอบชัน้ ม.5/2 1. นักเรียนทีไ่ ด้คะแนนอยใู่ นระดับท่ี 2 , 3 และ 4 ไดจ้ ากกิจกรรมสอนเสรมิ โดย ให้ทาแบบฝกึ หัดเพ่ิมเตมิ เปน็ การบา้ น ...............................................................................................................................

2. นกั เรยี นท่ีได้คะแนนอย่ใู นระดบั ท่ี 1 ได้จากกิจกรรมสอนซ่อม โดย ใหท้ าแบบฝกึ หดั เพ่ิมเตมิ เปน็ การบ้าน .............................................................................................................................. 3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและชี้แจงเกณฑ์ ให้นกั เรียนทราบเป็นรายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ ในด้านทกั ษะการเชือ่ มโยงทางคณติ ศาสตร์ และการคิดวิเคราะห์ 4. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรบั ปรงุ ) ครูได้อธบิ ายและช้ีแจงเกณฑ์ใหน้ ักเรยี นทราบเป็นรายบคุ คลว่า นกั เรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ ในดา้ นการทางานเปน็ ระบบ ความรอบคอบชัน้ ม.5/3 1. นักเรยี นที่ไดค้ ะแนนอยูใ่ นระดับท่ี 2 , 3 และ 4 ได้จากกจิ กรรมสอนเสริมโดย ให้ทาแบบฝกึ หัดเพ่มิ เตมิ เปน็ การบ้าน ............................................................................................................................... 2. นกั เรียนที่ได้คะแนนอยูใ่ นระดบั ท่ี 1 ไดจ้ ากกิจกรรมสอนซอ่ ม โดย ใหท้ าแบบฝกึ หดั เพ่ิมเตมิ เป็นการบ้าน .............................................................................................................................. 3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและชี้แจงเกณฑ์ ให้นักเรียนทราบเป็นรายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบา้ งตามเกณฑ์ท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ ในด้านทกั ษะการเชอื่ มโยงทางคณติ ศาสตร์ และการคิดวเิ คราะห์ 4. ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรบั ปรงุ ) ครูได้อธบิ ายและชแ้ี จงเกณฑ์ใหน้ กั เรยี นทราบเป็นรายบคุ คลว่า นกั เรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบา้ งตามเกณฑ์ทา้ ยแผนการจดั การเรยี นรู้ ในด้านการทางานเปน็ ระบบ ความรอบคอบชน้ั ม.5/4 1. นักเรยี นทไ่ี ดค้ ะแนนอยใู่ นระดบั ที่ 2 , 3 และ 4 ไดจ้ ากกิจกรรมสอนเสรมิ โดย ให้ทาแบบฝึกหัดเพม่ิ เติม เปน็ การบา้ น ............................................................................................................................... 2. นกั เรียนทไี่ ด้คะแนนอยใู่ นระดับที่ 1 ไดจ้ ากกิจกรรมสอนซอ่ ม โดย ใหท้ าแบบฝกึ หัดเพ่มิ เติม เปน็ การบา้ น .............................................................................................................................. 3. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรับปรุง ) ครูได้อธิบายและชี้แจงเกณฑ์ ให้นักเรียนทราบเป็นรายบุคคลว่า นักเรียนจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบา้ งตามเกณฑ์ท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ ในดา้ นทกั ษะการเชอ่ื มโยงทางคณิตศาสตร์ และการคดิ วเิ คราะห์ 4. ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ 1 ( ต้องปรบั ปรุง ) ครูได้อธบิ ายและช้ีแจงเกณฑ์ใหน้ ักเรียนทราบเป็นรายบคุ คลวา่ นักเรยี นจะต้องแก้ไขและทาอย่างไรบ้างตามเกณฑ์ทา้ ยแผนการจัดการเรยี นรู้ ในดา้ นการทางานเปน็ ระบบ ความรอบคอบผลการพฒั นาพบวา่ นกั เรียนท่ีไดร้ ะดับ 1 จานวน คน จาก ค น ส าม ารถ พิ จ าร ณ าปั ญ ห าเกยี่ วกบั การจัดส่ิงของตา่ ง ๆนาความรเู้ กยี่ วกบั กฎเบอื้ งต้นเกยี่ วกับการนับไปใช้แกป้ ญั หาในสถานการณ์ทีก่ าหนดให้

ได้และได้ผลการเรียนรอู้ ยู่ในระดับ 2 ส่วนอีก คน ยังต้องปรับปรงุ แกไ้ ขต่อไปซง่ึ ผสู้ อนได้แนะนาให้ และปรับปรงุ งานอกี ครงั้พบวา่ นักเรยี นทีไ่ ดร้ ะดับ 2 จานวน คน จาก ค น ส าม ารถ พิ จ าร ณ าปั ญ ห าเกย่ี วกบั การจดั สิ่งของต่าง ๆนาความรู้เก่ียวกับกฎเบื้องตน้ เกีย่ วกบั การนบั ไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ที่กาหนดให้ได้ ซง่ึ ผู้สอนได้แนะนาให้พบว่านักเรียนทีไ่ ดร้ ะดบั 3 จานวน คน จาก ค น ส าม ารถ พิ จ าร ณ าปั ญ ห าเกย่ี วกับการจดั สิง่ ของต่าง ๆนาความรเู้ กีย่ วกับกฎเบื้องตน้ เก่ียวกับการนับใช้แก้ปญั หาในสถานการณ์ที่กาหนดให้ได้ซึ่งผู้สอนไดแ้ นะนาให้พบวา่ นกั เรยี นท่ีได้ระดับ 4 จานวน คน จาก ค น ส าม ารถ พิ จ าร ณ าปั ญ ห าเกย่ี วกับการจัดสิง่ ของตา่ ง ๆนาความรู้เกีย่ วกับกฎเบือ้ งต้นเกี่ยวกับการนับใชแ้ ก้ปัญหาในสถานการณ์ที่กาหนดให้ได้ซงึ่ ผสู้ อนได้แนะนาให้ ลงชื่อ ( นางสาวปวริศา กา๋ วงค์วิน ) ผูส้ อนความเหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ ลงชอื่ ( นางสาวปวรศิ า กา๋ วงค์วิน ) หัวหนา้ กล่มุ สาระคณติ ศาสตร์ความเห็นของรองผ้อู านวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ลงชอื่ ( นายวิเศษ ฟองตา ) รองผูอ้ านวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31ความเหน็ ของผ้อู านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 ลงชอื่ ( นางวลิ าวลั ย์ ปาลี ) ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31