ห น้ า | ก คำนำ เอกสารรายงานการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ฉบับนี้ จัดทาข้ึนเพ่ือ เสนอต่อคณะกรรมการประเมินฯสาหรับใช้ประกอบการประเมินและ พจิ ารณาคดั เลือกสถานศึกษาพระราชทาน ระดับมธั ยมศึกษา ประเภทมัธยมศกึ ษาขนาดกลาง ประจาปกี ารศึกษา 25๖๑ เอกสารรายงานการพฒั นาคุณภาพสถานศึกษาประกอบด้วย ประวัติโรงเรียน สถานภาพ ปัจจุบัน ผลงาน ตามรายการประเมิน และตวั ชว้ี ดั ทัง้ ๕ ด้าน อันไดแ้ ก่ ด้านที่ 1 คุณภาพนักเรียน ดา้ นท่ี 2 การบรหิ ารหลกั สตู รและงานวชิ าการ ด้านที่ ๓ การบริหารและการจดั การศึกษา ดา้ นที่ 4 การจดั การเรยี นรู้ทีเ่ น้นผ้เู รยี นเป็นสาคญั ด้านท่ี ๕ ความดเี ด่นของสถานศกึ ษา ซ่ึงเอกสารฉบับนี้เป็นผลการดาเนินการพัฒนาในด้านที่ ๕ ความดีเด่นของสถานศึกษาและ พจิ ารณาคัดเลอื กสถานศกึ ษาพระราชทานของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ หวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารฉบับน้ีจะเป็ นประโยชน์ต่อคณะกรรมการประเมินฯ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาขอ้ มลู และผลงานของโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ 31 สงิ หาคม 2561 ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพ่อื รับรางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ข สำรบญั หนา้ เร่อื ง ก คานา ข สารบญั ๑ ตอนที่ ๑ ขอ้ มลู พ้นื ฐานของสถานศกึ ษา ๑ ๕ 1. ข้อมูลท่วั ไป ๖ 2. ข้อมูลผบู้ รหิ าร ๖ 3. ข้อมูลนักเรยี น ๘ 4. ข้อมูลบุคลากร 10 ตอนท่ี ๒ ผลการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา 11 1. โครงการนอ้ มนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสู่สถานศกึ ษา 49 2. โครงการบรหิ ารจัดการสิง่ แวดลอ้ มในโรงเรยี น ( ECO School.) 3. โครงการจดั การศกึ ษาทวิศึกษาเพอื่ การมงี านทาในรปู แบบโครงการพระราชดาริ ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพ่อื รบั รางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๑ ตอนท่ี ๑ ข้อมลู พ้นื ฐานของสถานศกึ ษา ๑. ข้อมูลทัว่ ไป ๑.๑ ช่ือสถานศึกษาโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่ ท่ตี ง้ั : เลขท่ี ๙๙ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลช่ำงเค่ิง อำเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชียงใหม่ โทร : ๐๕๓-๑๐๖-๙๓๓ โทรสาร : ๐๕๓-๑๐๖-๙๓๓ E-mail : [email protected] Website : www.rpk๓๑school.ac.th สังกดั สำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พ้ืนฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร ๑.๒ เปิดสอนตงั้ แต่ระดับ ช้ันประถมศกึ ษำปีที่ ๑ ถงึ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๖ ๑.๓ เขตพื้นทบี่ ริการ ๖ อาเภอ ของจงั หวดั เชียงใหม่ ได้แก่ เขตพื้นทบี่ ริการการรบั นักเรยี น เขตพื้นทบี่ รกิ าร เขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา จงั หวัด อาเภอ สพม. สพป. เชยี งใหม่ แม่แจม่ สพม. ๓๔ สพป. ๔ จอมทอง สพป. ๕ ฮอด สพป. ๖ อมก๋อย ดอยเตำ๋ ดอยหลอ่ ๑.๔ ประวตั ิโดยย่อโรงเรยี น เน่ืองจำกสภำพพ้ืนที่อำเภอแม่แจ่ม เป็นภูเขำสลับซับซ้อนทุรกันดำรมีเน้ือที่ ๓,๓๖๑.๑๕๑ ตำรำงกิโลเมตร มีประชำกร ๖๘,๑๘๕ คน มีหย่อมบ้ำน ๒๑๕ หย่อมบ้ำน ห่ำงจำกตัวจังหวัดเชียงใหม่ ประมำณ ๑๑๗ กิโลเมตร (เส้นทำงสำยดอยอินทนนท์) และประมำณ ๑๕๖ กิโลเมตร (เส้นทำงสำยฮอด) ประชำกรส่วนใหญ่เป็นชำวไทยภูเขำ เผ่ำ กะเหร่ียง ม้ง ล๊ัวะ และ ลีซอ ประชำกรส่วนใหญ่ประกอบอำชีพ ทำนำ ทำสวน ปลูกข้ำวไร่ และรับจ้ำง กำรคมนำคมไม่สะดวก บำงหย่อมบ้ำนห่ำงจำกหมู่บ้ำนหลักมำกต้อง เดินทำงด้วยเท้ำใช้เวลำประมำณ ๒-๓ วัน เน่ืองจำกหย่อมบ้ำนอยู่อย่ำงกระจัดกระจำยห่ำงไกลกันมำก ทำให้ เป็นอุปสรรคในกำรจัดกำรศึกษำอย่ำงท่ัวถึง เด็กขำดโอกำสทำงกำรศึกษำ (ภำคบังคับ) ถึง ๑๔๑ หย่อมบ้ำน อำยุระหว่ำง ๖-๑๓ ปี จำนวน ๓,๗๐๙ คน จำกสภำพปญั หำและอปุ สรรคในพ้ืนท่อี ำเภอแม่แจ่ม ทำใหไ้ มส่ ำมำรถจดั กำรศึกษำได้อย่ำงทัว่ ถึง มีเด็กอีกจำนวนมำกท่ีไม่ได้เรียนหนังสืออยู่ในพ้ืนที่ และพยำยำมด้ินรนหำทำงไปเรียนหนังสือที่อื่น ทำให้เกิด ปัญหำถูกหลอกลวง ถูกกดขี่ใชแ้ รงงำนเด็ก เปน็ เด็กเร่ร่อน เด็กยำกจนขำดผอู้ ุปกำระ จงึ ควรใหค้ วำมสงเครำะห์ ช่วยเหลือเด็กที่ประสบปัญหำดังกล่ำว ทำงคณะกรรมกำรทำงกำรศึกษำ กำรศำสนำ และกำรวัฒนำธรรม (ศศว.อ.) อำเภอแมแ่ จม่ โดยสำนักงำนศึกษำธกิ ำรอำเภอแม่แจ่ม ไดเ้ สนอโครงกำรจัดต้ังโรงเรยี นรำชประชำนุ- เครำะห์ ประเภทประจำข้ึน และได้เสนอโครงกำรดังกล่ำวไปยังกอง รำชเลขำนุกำรในองค์สมเด็จ พระบรมรำชินีนำถ (ฝ่ำยกำรศึกษำ) ไดร้ ับคำแนะนำใหเ้ สนอเรือ่ งขอเปิดโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ โดยผ่ำน ทำงมูลนิธิรำชประชำนเุ ครำะห์ ในพระบรมรำชปู ถัมภ์ ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๒ ในวันท่ี ๕ เมษำยน ๒๕๓๙ รองเลขำธิกำรพระรำชวัง โดยนำย ขวัญแก้ว วัชโรทัย และคณะได้ เดินทำงมำสำรวจพื้นที่ ที่จะจัดตง้ั ณ โรงเรียนบ้ำนป่ำเท้อ ผลกำรสำรวจปรำกฏว่ำ สถำนทีไ่ ม่เหมำะสม เพรำะ ขำดแหล่งน้ำ จึงได้เสนอให้ทำงอำเภอจดั หำสถำนท่ีต้ังใหม่ใน วันที่ ๒๐ มีนำคม ๒๕๔๐ นำยสุขวชิ รังสิตพล รองนำยกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงศึกษำธิกำร พร้อมด้วย นำยขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธำน กรรมกำรบริหำรมูลนิธิรำชประชำนุเครำะห์ฯ นำยโชดก วีรธรรมพูลสวัสด์ิ เลขำธิกำรมูลนิธิรำชประชำนุ - เครำะห์ฯ ได้เดินทำงมำตรวจดูสภำพพื้นที่ ท่ีจะก่อสร้ำงโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ตำมพระรำชดำริของ สมเดจ็ พระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี และนำยอำเภอแม่แจ่ม (นำยขวญั ชัย วงศ์นิติกร) ซ่ึงได้รับ มอบหมำยจำกผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเชียงใหม่ ให้บรรยำยเก่ียวกับข้อมูลที่จะก่อสร้ำง ๔ แห่ง และผลจำกกำร สำรวจได้กำหนดท่ีตั้งโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ท่ีบ้ำนแม่ปำน หมู่ท่ี ๑๐ ตำบลช่ำงเคิ่งอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นท่ีท้ังหมด จำนวน ๒๒๖ ไร่ อยู่ห่ำงจำกท่ีว่ำกำร อำเภอแม่แจ่ม ประมำณ ๘ กิโลเมตร มีพิธีวำงศิลำฤกษ์ ในวันพุธ ท่ี ๑๕ ตุลำคม ๒๕๔๐ เวลำ ๑๐.๔๙ น. โดยนำยขวัญแก้ว วัชโรทัย ประธำนกรรมกำรบริหำรมูลนิธิรำชประชำนุเครำะห์ ในพระบรมรำชูปถัมภ์ มำเป็นประธำนในพิธี รัฐมนตรวี ่ำกำรกระทรวงศึกษำธิกำร นำยชุมพล ศิลปอำชำ ได้ลงนำมในประกำศจัดตั้งโรงเรียน เมื่อวันที่ ๓๐ เดือน กันยำยน พุทธศักรำช ๒๕๔๑ โดยมีวัตถุประสงค์ของกำรจัดตั้งเพื่อรับเด็กด้อยโอกำสท่ีมี ควำมเป็นอยู่ด้อยกวำ่ เดก็ ปกติทั่วไป ไดแ้ ก่เดก็ ยำกจนมำกเปน็ พิเศษ (ครอบครัวมรี ำยไดไ้ ม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บำท ต่อปี) เดก็ กำพร้ำ เด็กถูกทอดท้ิง เด็กในชนกลุ่มน้อย เดก็ ถูกทำร้ำยทำรุณ เด็กที่ได้รับผลกระทบจำกโรคเอดส์ เด็กเร่ร่อน แรงงำนเด็ก เด็กในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชนฯลฯ ในเขตพ้ืนท่ีอำเภอแม่แจ่ม อำเภอฮอด อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเตำ่ อำเภออมก๋อย และอำเภอดอยหลอ่ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ เริ่มรบั นักเรยี นในปีกำรศึกษำ ๒๕๔๑ ในช้ันประถมศึกษำปีท่ี ๑ จำนวน ๗๐ คน ฝำกเรียนทีโ่ รงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๒๖ อำเภอป่ำซำง จงั หวดั ลำพูน ช้ันมธั ยมศึกษำ ปีท่ี ๑ จำนวน ๘๐ คน ฝำกเรียนท่ีโรงเรียนศึกษำสงเครำะห์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยรับนักเรียนด้อยโอกำส ๑๐ ประเภท ดงั นี้ กลุ่มเปา้ หมายผ้ดู ้อยโอกาส ๑๐ ประเภท ๑. เด็กถูกบังคับใหข้ ำยแรงงำนหรอื แรงงำนเดก็ หมำยถึง เด็กที่ตอ้ งทำงำนหรือถกู บงั คบั ให้ทำงำน หำรำยได้ด้วยกำรขำยแรงงำนก่อนถงึ วยั อันควร ถูกเอำรดั เอำเปรยี บจำกนำยจ้ำง ไม่มีโอกำสได้รบั กำรพัฒนำให้ เป็นไปตำมหลักกำรพฒั นำอันเหมำะสมกบั วยั ๒. เด็กเร่ร่อน หมำยถึง เด็กท่ีไม่มีท่ีอยู่อำศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอนดำรงชีวิตอยู่อย่ำงไร้ทิศทำง ขำดปจั จยั พ้นื ฐำนในกำรพัฒนำคุณภำพชีวติ พักอำศัยอยูต่ ำมใต้สะพำน สวนสำธำรณะ ขำ้ งถนน ๓. เด็กที่อยู่ในธุรกิจทำงเพศ หมำยถึง เด็กชำย – เด็กหญิง ที่มีอำยุไม่ครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ มีควำมสมคั รใจหรือถูกบงั คับล่อลวงให้ขำยบริกำรทำงเพศ หรอื ตกอยู่ในสภำพท่ีเสี่ยงต่อกำรชักจูงให้ประกอบ อำชพี ขำยบรกิ ำรทำงเพศ ๔. เด็กที่ถูกทอดท้ิง หมำยถึง เด็กที่ถูกมำรดำคลอดท้ิงไว้ที่โรงพยำบำล หรือตำมสถำนท่ีต่ำง ๆ รวมไปถึงเด็กท่พี ่อแม่ปล่อยทิ้งไว้ให้มีชวี ิตอยตู่ ำมลำพังหรือกบั บุคคลอ่ืน โดยไมไ่ ดร้ ับกำรเล้ียงดจู ำกพ่อแมท่ ้ังนี้ อำจมสี ำเหตุจำกปัญหำกำรหยำ่ ร้ำงหรือครอบครัวแตกแยก มีสภำพชีวติ อยทู่ ่ำมกลำงควำมสับสน ขำดควำมรัก ควำมอบอนุ่ ตลอดถึงเดก็ ทีข่ ำดผปู้ กครอง ขำดผู้อปุ กำระเล้ียงดู ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่ือรับรางวลั พระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๓ ๕. เด็กที่ถูกทำร้ำยทำรุณ หมำยถึง เด็กท่ีถูกล่วงละเมิดทำงร่ำงกำย ทำงเพศ หรือทำงจิตใจ มีชีวิตอยู่อย่ำงไม่เป็นสุข ระแวง หวำดกลัว เน่ืองจำกกำรถูกทำร้ำยทำรุณ ถูกบีบค้ันกดดันจำกพ่อแม่ หรือผู้ปกครองซึ่งมีสภำพจิตใจหรืออำรมณ์ไม่ปกติ หรือถูกล่วงละเมิดทำงเพศในลักษณะต่ำงๆ จำกบุคคล ทอี่ ยใู่ กล้ตวั ๖. เด็กยำกจน (มำกเป็นพิเศษ) หมำยถึง เด็กซงึ่ เป็นบุตรหลำนของคนยำกท่ีมีรำยได้ไม่เพียงพอ ต่อกำรเล้ียงชีพครอบครัวอยู่ร่วมกันหลำยคน ขำดแคลนปัจจัยพ้ืนฐำน มีชีวิตอยู่อย่ำงลำบำก เด็กในแหล่ง ชมุ ชนแออัด บตุ รของกรรมกรก่อสรำ้ งและเดก็ ทอี่ ยู่ในถ่ินทุรกนั ดำรห่ำงไกลท่ขี ำดโอกำสไดร้ บั กำรศึกษำ ๗. เด็กในชนกลุ่มน้อย หมำยถึง เด็กที่เป็นบุตรหลำนของบุคคลที่มีวัฒนธรรมแตกต่ำง ไปจำกประชำชนส่วนใหญ่ในประเทศ มีปัญหำเก่ียวกับกำรถือสัญชำติไทย จนเป็นสำเหตุให้ไม่มีโอกำสได้รับ กำรศกึ ษำหรือบริกำรอ่ืนๆ ส่วนใหญอ่ พยพเข้ำมำตัง้ หลกั แหลง่ อยตู่ ำมบรเิ วณแนวชำยแดนของประเทศไทย ๘. เด็กที่มีปัญหำเก่ียวกับยำเสพติด หมำยถึง เด็กท่ีติดสำรระเหย หรือยำเสพติดให้โทษหรือ เด็กกลมุ่ เสี่ยงต่อกำรชักนำให้ประพฤติตนไม่เหมำะสม เก่ียวข้องผูกพันกับกลุ่มมิจฉำชีพ ผู้มีอิทธิพลที่แสวงหำ ผลประโยชนจ์ ำกกำรประกอบอำชพี ผดิ กฎหมำย เปน็ เดก็ ท่มี ีแนวโนม้ สงู ต่อกำรกอ่ ปญั หำในสังคม ๙. เด็กที่ได้รับผลกระทบจำกโรคเอดส์ หรือโรคติดต่อร้ำยแรง ท่ีสังคมรังเกียจ หมำยถึง เด็กท่ีติดเช้ือเอดส์ หรือมีพอ่ แม่เจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์ เปน็ เด็กที่มักจะถูกมองอย่ำงรงั เกียจจนไม่สำมำรถเข้ำรับ กำรศึกษำหรือบริกำรอื่นๆ รว่ มกับเด็กปกตทิ ั่วไปได้ ๑๐. เด็กในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชน หมำยถึง เด็กท่ีกระทำผดิ และถูกควบคุมอยู่ ในสถำนพินิจและคุ้มครองเด็กและเยำวชนตำมกฎหมำย ตลอดถึงเด็กที่ตั้งครรภ์นอกสมรส ซ่ึงมีแนวโน้มที่จะ ก่อให้เกิดปญั หำตำ่ ง ๆ เช่น กำรทำแท้ง กำรฆ่ำตัวตำย กำรทอดท้งิ ทำรก ในปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์๓๑ สังกัดสำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร ดำเนินงำนภำยใต้กำรประสำนงำน ระหว่ำงมูลนิธิรำชประชำนุเครำะห์ในพระบรมรำชูปถัมภ์ กับสำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษ สำนักงำน คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน กระทรวงศึกษำธิกำรเปิดรับนักเรียนด้อยโอกำสทำงกำรศึกษำ ประเภท เด็กยำกจนมำกเป็นพิเศษ อยู่ในพ้ืนที่ห่ำงไกลจำกสถำนศึกษำ เด็กกำพร้ำบิดำ มำรดำ เด็กท่ีอยู่ในครอบครัวที่ แตกแยก ไม่มผี อู้ ปุ กำระเลี้ยงดู เข้ำมำอยู่ประจำในโรงเรียน จัดกำรเรียนกำรสอนในระดับกำรศึกษำภำคบงั คับ และกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน ใน ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๑ มีห้องเรียนตำมแผนกำรรับนักเรียนคือ ๑-๑-๑-๑-๑-๑/ ๔-๔-๔/๔-๔-๔ รวมจำนวน ๓๐ หอ้ งเรยี น มนี ักเรยี น จำนวน ๘๒๒ คน แผนท่โี รงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพ่ือรบั รางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๔ ๑.๕ สถานทีต่ ั้ง ที่ต้ังโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ เลขท่ี ๙๙ หมู่ ๑๐ ตำบลช่ำงเค่ิง อำเภอแม่แจม่ จงั หวัดเชยี งใหม่ รหัสไปรษณีย์ ๕๐๒๗๐ รูปภาพที่ ๑ แผนผงั บริเวณโรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่ ๑.๖ สัญลักษณ์ อัตลกั ษณ์ และเอกลกั ษณ์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่ สญั ลักษณ์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่ ความหมายตราสญั ลักษณ์ ปรัชญาโรงเรยี น : ใฝร่ ู้ สู้งำน สืบสำนแนวทำง ตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพียง ปณธิ านโรงเรยี น : เป็นคนดี มีควำมจงรกั ภักดี ต่อชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตริย์ คาขวัญโรงเรยี น : คุณธรรมดี มคี วำมรู้ สู่วถิ ีตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพยี ง สีประจาโรงเรียน : นำ้ เงิน – เหลือง อกั ษรย่อโรงเรยี น : ร.ป.ค.๓๑ ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๕ อตั ลกั ษณ์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่ “สุขภำพดี คณุ ธรรมเดน่ เป็นจติ อำสำ” เอกลกั ษณ์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่ “อุทยำนกำรเรยี นรู้” วสิ ัยทศั น์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่ “ภำยในปี พ.ศ.๒๕๖๒ โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ มีระบบกำรจัดกำรศกึ ษำ ท่มี คี ุณภำพ มีครูมือ อำชีพ ผเู้ รียนมคี ุณลกั ษณะตำมหลกั สูตร และเป็นศูนยก์ ำรเรยี นรู้ ตำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง” ๑.๗ โครงสร้างองค์กรการบริหารจดั การศึกษา ๒. ขอ้ มูลผ้บู รหิ าร ๑ ) ชื่อ – สกุล ผู้บรหิ ำร นำงวิลำวลั ย์ ปำลี ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน โทรศพั ท์ ๐๘๗-๑๘๐๕๕๙๕ e-mail : ywilawan๕๗๗๐@gmail.com วฒุ ิกำรศึกษำสงู สุด กำรศึกษำมหำบัณฑติ วชิ ำเอกกำรบริหำรกำรศึกษำ ดำรงตำแหน่งทโี่ รงเรียนนี้ตงั้ แต่ ๒๓ มกรำคม ๒๕๕๘ จนถึงปจั จุบนั ๒) รองผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน จำนวน ๑ คน ๒.๑ นำยวเิ ศษ ฟองตำ วฒุ ิกำรศกึ ษำสงู สุด กำรศึกษำมหำบัณฑติ วิชำเอกกำรบรหิ ำรกำรศึกษำ โทรศพั ท์ ๐๙๘-๗๘๐๐๑๙๓ e-mail : [email protected] รับผดิ ชอบ กลมุ่ บรหิ ำรงำนวชิ ำกำร ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพ่อื รับรางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๖ ๓. ขอ้ มูลนกั เรยี น ปจั จุบันโรงเรยี นมีจำนวนนกั เรียนจำแนกตำมระดับช้ันทเี่ ปิดสอนดังน้ี ระดับช้ันเรียน จานวนหอ้ ง เพศ รวม ชาย หญงิ ประถมศึกษำปีที่ ๑ ๑ ๓๓ ๖ ประถมศกึ ษำปีที่ ๒ ๑ ๕๕ ๑๐ ประถมศึกษำปีที่ ๓ ๑ ๕ ๑๐ ๑๕ ประถมศึกษำปีที่ ๔ ๑ ๕๙ ๑๔ ประถมศึกษำปีที่ ๕ ๑ ๙ ๑๔ ๒๓ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๖ ๑ ๑๑ ๑๔ ๒๕ รวม ๖ ๓๘ ๕๕ ๙๓ มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๑ ๔ ๓๘ ๑๐๐ ๑๓๘ มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๒ ๔ ๔๕ ๘๗ ๑๓๒ มธั ยมศึกษำปีท่ี ๓ ๔ ๒๐ ๘๐ ๑๐๐ มธั ยมศึกษำปีท่ี ๔ ๔ ๒๐ ๙๓ ๑๑๓ มธั ยมศึกษำปที ี่ ๕ ๔ ๓๘ ๘๘ ๑๒๖ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๖ ๔ ๑๘ ๑๐๒ ๑๒๐ รวม ๒๔ ๑๗๙ ๕๕๐ ๗๒๙ รวมท้งั หมด ๓๐ ๒๑๗ ๘๐๕ ๘๒๒ ตารางท่ี ๑ จำนวนนักเรยี นจำแนกตำมระดบั ชั้นที่เปดิ สอน ณ วันที่ 10 มถิ ุนำยน ปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๖๑ ๔. ขอ้ มลู บุคลากร ตารางที่ ๒ ขอ้ มลู บคุ ลำกร ท่ี ประเภทตาแหน่ง เพศ (คน) ระดับการศึกษาสงู สดุ (คน) รวม ชาย หญงิ ต่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี สูงกว่า ป.ตรี ๑. ผอู้ ำนวยกำร ๐๑ ๑ ๒. รองผ้อู ำนวยกำร ๑๐ ๐๐๑ ๑ ๓. ข้ำรำชกำรครู ๐๐๑ ๓.๑ คศ.๔ ๐๐ ๐ ๐ ๐๐ ๓.๒ คศ.๓ ๓.๓ คศ.๒ ๐๐ ๐ ๐ ๐๐ ๓.๔ คศ.๑ ๓.๕ ครูผชู้ ่วย ๓๕ ๐ ๕ ๓๘ ๔. พนกั งำนรำชกำร ๕. ครูอัตรำจ้ำง ๒๕ ๐ ๕ ๒๗ ๒๕ ๐ ๗ ๐๗ ๑๗ ๒๒ ๐ ๓๙ ๐ ๓๙ ๐๒ ๐ ๒ ๐๒ ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รบั รางวลั พระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๗ ท่ี ประเภทตาแหน่ง เพศ (คน) ระดับการศึกษาสงู สดุ (คน) รวม ชาย หญิง ต่ากวา่ ป.ตรี ป.ตรี สงู กวา่ ป.ตรี ๖. ลกู จ้ำงประจำ ๑๐ ๑ ๖.๑ นักกำรภำรโรง ๐๐ ๑๐๐ ๐ ๖.๒ คนครัว ๐๔ ๐๐๐ ๔ ๖.๓ ยำม ๑๐ ๔๐๐ ๑ ๖.๔ พนักงำนขับรถ ๑๐ ๑๐๐ ๑ ๑๐๐ ๗. ลกู จ้ำงชวั่ ครำว ๗.๑ บคุ ลำกรจำ้ งเหมำบรกิ ำร ๐๐ ๐ ๐ ๐๐ ๗.๒ พี่เลยี้ งเดก็ พิกำร ๓ ๐ ๑๕ ๗.๓ เจำ้ หน้ำท่ธี รุ กำร ๙๖ ๑๒ ๑ ๐๑ ๗.๔ ผปู้ ฏบิ ตั ิงำนรำชกำร ๐ ๐๐ ๐๑ ๐ ๐ ๐ ๑๕ ๘. นกั ศึกษำฝกึ ประสบกำรณ์ ๖๒ ๗ ๑๐๓ รวมบคุ ลากรทั้งหมด ๐๐ ๐ ๖๙ ๑๕ ๔๓ ๖๐ ๓๔ รวมบคุ ลากรทั้งหมด ๑๐๓ คน ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรับรางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๘ ตอนท่ี ๒ ผลการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา ผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพอ่ื รับรางวลั พระราชทาน ระดบั มธั ยมศึกษา ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ กำรประเมินผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำเพ่ือรับรำงวัลพระรำชทำน ระดับมัธยมศึกษำของ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินกำรประเมินผลกำรดำเนินงำนของตนเอง เพื่อพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำให้เป็นตำมเกณฑ์ มำตรฐำนรำยกำรประเมินและตัวช้ีวัดของ ดำ้ นท่ี 5 ควำมดเี ดน่ ของสถำนศึกษำ ดังนี้ นา้ หนัก รายการประเมินและตวั ชี้วัด เอกสารและหลักฐาน ประจาดา้ น ประกอบการพิจารณา 1 ดา้ นท่ี 5 ความดีเดน่ ของสถานศึกษา 5.1 โครงการกิจรรมดเี ดน่ ของสถานศกึ ษา ๑. โครงกำร/กิจกรรมดีเด่น ทั้ง 3 โครงกำรมี - แผนปฏิบัติกำรประจำปี วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ นโยบำย - โครงกำรน้อมนำหลัก เป้ำหมำยและจุดเนน้ กำรพฒั นำคณุ ภำพของสถำนศกึ ษำ ป รัช ญ ำข อ ง เศ ร ษ ฐกิ จ เกดิ จำกกำรรับรู้ เข้ำใจปญัหำและควำม ต้องกำรร่วมกัน พอเพียงสู่สถำนศึกษำ ของทุกฝ่ำย ทกงุ ำนในสถำนศึกษำ ผู้เก่ียวข้องมีส่วนรว่ ม - โครงกำรบริหำรจัดกำร คิด วำงแผน และลงมอื ปฏิบัติหรือสนบัสนุนตำม สง่ิ แวดล้อมในโรงเรยี น บทบำทหนำ้ ท่ี ( ECO School.) 2. ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ำยทุกคนปฏิบัติงำนที่รับผิดชอบ ด้วยควำมเต็มใจ ทุกคนรบัรู้ เข้ำใจเป้ำหมำย และมุ่ง - โครงกำรจัดกำรศึกษำทวิ ศึกษำเพื่อกำรมีงำนทำใน ดำเนนิ กำรไปสูเปำ้ หมำยรว่ มกัน 3. ผลกำรดำเนินโครงกำร/กจิ กรรมเกดิ ประโยชนต์ ่อ รู ป แ บ บ โ ค ร ง ก ำ ร พระรำชดำริ กำรพัฒนำนักเรียนรอบด้ำนโดยรวม อย่ำงเด่นชัด และ - โ ล่ / เกี ย ร ติ บั ต ร / สง่ ผลดำ้ นใดด้ำนหนึง่ อยำ่ งโดดเดน่ รูปภำพ 4. เผยแพร่ประชำสัมพันธ์ผลงำนด้วยวิธีกำรที่ ห ลำก ห ลำยและ สร้ำงสรรค์ น่ ำสน ใจครบ ถ้ว น ทุกกลุ่มเปำ้ หมำย ทงั้ นักเรยี น ผู้ปกครอง ชมุ ชน องคก์ ร ต่ำง ๆ และผ้มู สี ่วนเกยี่ วขอ้ ง ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพ่ือรบั รางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๙ โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ 31 จงั หวัดเชียงใหม่ ได้วเิ ครำะห์ SWOT กำรดำเนินงำนเป็นระบบตำม วงจรคุณภำพ PDCA ประกอบด้วยกำรวำงแผน (P) ดำเนินงำนตำมแผน (D) ประเมินผลงำน (C) และ ปรบั ปรุงพฒั นำ (A) โดยผู้มสี ่วนเกยี่ วขอ้ งได้ ร่วมกนั กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกจิ ให้สอดคลอ้ งกับผลกำรวิเครำะห์ สถำนภำพของสถำนศึกษำ ขอ้ กฎหมำยตำมระเบียบรำชกำร ขนบธรรมเนียมประเพณี กำรวิเครำะห์สงั เครำะห์ ข้อมูลสำรสนเทศตำมนโยบำยของรัฐ จุดเน้นของต้นสังกัด กำรเปลี่ยนแปลงด้ำนสังคม เศรษฐกิจกำรเมือง ระดับนำนำชำติ ระดับภูมิภำคอำเซียน ระดับประเทศ และระดับท้องถ่ิน รวมถึงแผนพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำ สำหรับเด็กด้อยโอกำส และแผนพัฒนำคุณภำพชีวิตเด็กด้อยโอกำส เป็นกรอบทิศทำงกำรพัฒนำหรือปรบั ปรุง คณุ ภำพกำรศกึ ษำของสถำนศกึ ษำ นำเสนอคณะกรรมกำรสถำนศึกษำเพ่ือใชเ้ ปน็ แนวทำงกำรพัฒนำกำรศึกษำ โดยกำหนดวสิ ยั ทศั นแ์ ละพันธกจิ ดังนี้ วิสัยทัศน์ (ปกี ำรศกึ ษำ 2559-2562) ภำยในปี พ.ศ.2562 โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ มีระบบกำรจัดกำรศึกษำท่ีมี คุณภำพ มีครูมืออำชีพ ผู้เรียนมีคุณลักษณะตำมหลักสูตร และเป็นศูนย์กำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพยี ง พนั ธกจิ (ปีกำรศกึ ษำ 2555-2562) 1. พฒั นำระบบกำรจัดกำรศึกษำใหม้ ปี ระสิทธิภำพ 2. พฒั นำและสง่ เสรมิ ให้ครูเปน็ ครมู ืออำชีพ 3. พัฒนำและส่งเสริมใหผ้ ้เู รียนมคี ณุ ลักษณะตำมหลักสูตร 4. พัฒนำสถำนศกึ ษำให้เป็นศูนย์กำรเรยี นร้ตู ำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง แผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ ปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๒ แผนปฏิบัติกำรประจำปี ๒๕๕๙ แผนปฏิบัติกำรประจำปี ๒๕๖๐ แผนปฏิบัติกำรประจำปี ๒๕๖๑ ซึ่งโครงกำร/กิจกรรมดีเด่น 3 โครงกำรมีวัตถุประสงค์ท่ีชัดเจน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ นโยบำย เป้ำหมำยและจุดเน้นกำรพัฒนำคุณภำพของสถำนศึกษำ เกิดจำกกำรรับรู้ เข้ำใจปัญหำและควำม ต้องกำร รว่ มกันของทุกฝ่ำย ทกุงำนในสถำนศึกษำ ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมคิด วำงแผน และลงมือ ปฏิบัติหรือสนบัสนุน ตำมบทบำทหน้ำที่ โดยมีผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ำยทุกคนปฏิบัติงำนที่รับผิดชอบด้วยควำมเต็มใจ ทุกคนรับรู้ เข้ำใจ ขอ้ มลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๐ เป้ำหมำย และมุ่งดำเนินกำรไปสูเป้ำหมำยร่วมกัน ได้ผลกำรดำเนินโครงกำร/กิจกรรมเกิดประโยชน์ต่อกำร พัฒนำนักเรียนรอบด้ำนโดยรวม อย่ำงเด่นชัด และส่งผลด้ำนใดด้ำนหนึ่งอย่ำงโดดเด่น มีกำรแผ่แพร่เผยแพร่ ประชำสมั พันธ์ผลงำนดว้ ยวธิ ีกำรทห่ี ลำกหลำยและสร้ำงสรรค์ น่ำสนใจครบถว้ นทุกกลมุ่ เป้ำหมำย ทัง้ นักเรียน ผ้ปู กครอง ชุมชน องคก์ ร ต่ำง ๆ และผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ ง 1. โครงการนอ้ มนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศกึ ษา พระบำทสมเดจ็ พระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช ทรงมพี ระรำชดำรสั ชแี้ นะแนวทำงกำรดำเนนิ ชวี ิต โดยให้ยึดหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง แก่พสกนิกรชำวไทยมำนำนกว่ำ 4๐ ปี เป็นหลักปรัชญำที่ช้ีถึง แนวทำงสำหรับกำรดำรงชีวิตและกำรปฏิบัติตนของประชำชนในทุกระดับ เร่ิมตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับ ชุมชนจนถึงระดับประเทศ โดยให้เน้นทุกคนประพฤติปฏิบัติตำมทำงสำยกลำง มีควำมพอเพียงและมีควำม พรอ้ มทีจ่ ะจัดกำรตอ่ ผลกระทบจำกกำรเปล่ยี นแปลงต่ำงๆ ซึ่งจะตอ้ งอำศยั ควำมรอบรู้ รอบคอบและระมัดระวัง ในกำรวำงแผนและดำเนนิ กำรของกิจกรรม โครงกำรต่ำงๆ ทกุ ขน้ั ตอน ทัง้ น้ีหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง เป็นหลักในกำรดำเนินชีวิตอย่ำงสมดุล มั่นคงและยั่งยืน เพื่อให้สำมำรถอยู่ได้ใน โลกโลกำภิวัตน์ท่ีมีกำร เปลีย่ นแปลงและแขง่ ขันสงู โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ไดน้ ้อมนำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงมำ ขับเคล่ือนในด้ำนกำรจัดกำรเรียนรู้และกำรบริหำรจัดกำร จนผ่ำนกำรประเมินเป็นสถำนศึกษำพอเพียง ประจำปี ๒๕๕5 และไดด้ ำเนนิ กำรขับเคลือ่ นอย่ำงต่อเน่ือง โดยกำรกำหนดเป็นนโยบำยของสถำนศึกษำ บรู ณำ กำรในแผนปฏิบัติงำนประจำปี ดำเนินกำรตำมนโยบำยและแผนท่ีวำงไว้ มีกำรนิเทศ กำกับ ติดตำมผลกำร ดำเนินกำรและรำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนให้ผู้ที่เก่ียวข้องทรำบ พร้อมท้ังนำผลกำรปฏิบัติงำนมำพัฒนำ แก้ไข ปรบั ปรุงเพอ่ื ให้กำรขับเคล่ือนหลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงในโรงเรียนอยำ่ งเหมำะสมและต่อเน่ือง เพ่ือให้ โรงเรยี นเกิดกำรพฒั นำอย่ำงสมดุลและย่งั ยนื ตอ่ ไป ผ้บู ริหำร คณะครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจหลัก ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงอย่ำงถูกต้อง สำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในกำรบริหำรจัดกำรศึกษำ กำรจัด กจิ กรรมกำรเรียนรู้และเป็นแนวทำงในกำรดำเนินชวี ิตอยำ่ งเปน็ รปู ธรรม มีควำมมุ่งมนั่ ที่จะพัฒนำกำรขบั เคลือ่ น หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถำนศึกษำ เพ่ือพัฒนำนักเรียนให้มีคุณลักษณะ“อยู่อย่ำงพอเพียง” เป็นแบบอย่ำงท่ีดีแก่ผู้ปกครองและชุมชนได้ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ มีบทบำท หน้ำท่ีบริหำรจัดกำรศึกษำเพ่ือสนองพระรำชดำริ จึงได้น้อมนำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงมำเป็น แนวทำงในกำรบริหำรจัดกำรสถำนศึกษำ จัดกำรกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน เพื่อเสริมสร้ำงนักเรียนทุกคนให้มีคุณลกั ษณะ “อยู่อย่ำงพอเพยี ง” พฒั นำกำรขับเคลอื่ นปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียงสู่สถำนศึกษำอย่ำงต่อเน่ือง จนเป็นแบบอย่ำงท่ีดีเป็นที่ยอมรับและมีแหล่งเรียนรู้ที่หลำกหลำย ผูบ้ รหิ ำร ครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำนโรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ 31 แ ล ะ นั ก เรีย น มี ค วำ ม มุ่ ง ม่ั น ที่ จะ พั ฒ น ำให้ เป็ น ศู น ย์ ก ำ รเรี ย น รู้ต ำม ห ลั ก ป รั ช ญ ำ ข อ ง เศ รษ ฐ กิ จ พ อ เพี ย ง ดำ้ นกำรศกึ ษำ ขอ้ มลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพ่ือรบั รางวัลพระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๑๑ นางวิลาวลั ย์ ปาลี ผูอ้ านวยการโรงเรียนเป็นแบบอย่างทด่ี ใี นการดาเนนิ ชวี ิตอยา่ งพอเพียง โดยการปลูกพืชผกั สวนครวั ตามพ้ืนทรี่ อบๆบา้ นไว้กนิ เอง ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จากการเป็นแบบอยา่ งทีด่ ใี นดา้ นดาเนนิ ชีวิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สง่ ผลให้ผูอ้ านวยการโรงเรยี นไดร้ ่วมเป็นคณะกรรมการประเมิน นิเทศ ตดิ ตามการดาเนนิ งานของ โรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6 ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพ่ือรบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๑๒ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 มผี ลการปฏบิ ตั ิงานทด่ี แี ละเป็นเลศิ (Best Practie : BP) ระดบั เขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา ดน้ การนอ้ มนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่ สถานศกึ ษา “สถานศึกษาพอเพียงตน้ แบบ ปี 2559” ตามประกาศของสานกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 6 ด้ำนบุคลำกร โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ มุ่งมั่นพัฒนำผู้บริหำร ครูและ บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำข้ันพ้นื ฐำนและนกั เรียน ให้มคี วำมรู้ควำมเขำ้ ใจหลักปรัชญำ ของเศรษฐกิจพอเพียงอย่ำงถูกต้อง สำมำรถน้อมนำสู่กำรปฏิบัติอย่ำงเป็นรูปธรรม ในกำรปฏิบัติหน้ำท่ีและ ดำเนินชีวิตจนประสบควำมสำเร็จเปน็ แบบอยำ่ งที่ดี สำมำรถขยำยผลสูช่ ุมชนและหน่วยงำนภำยนอกจนเป็นท่ี ยอมรับ โดยกำรจัดกำรประชุมสัมมนำแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ส่งเสริมให้ไปศึกษำ ดูงำนแหล่งเรียนรู้ที่ประสบ ควำมสำเร็จเพื่อนำมำประยุกต์ใชอ้ ย่ำงเหมำะสมกับสภำพแวดล้อมของโรงเรียน ส่งผลให้ผปู้ กครอง ชุมชนและ หน่วยงำนอน่ื ใหก้ ำรสนับสนนุ กำรขับเคลื่อนปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงทงั้ ภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำ ด้ำนหลักสูตรและกำรสอน โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ มุ่งเน้นให้ครูและ บุคลำกรทำงกำรศึกษำปรับวิธีเรียนเปล่ียนวิธีสอน นำหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียงมำเป็นแนวทำงในกำร พัฒนำหลักสูตร กำรจัดกำรเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน โดยเชิญวิทยำกรท่ีมีควำมรู้ ควำมชำนำญมำ ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รบั รางวลั พระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๓ จัดกำรอบรมพัฒนำหลักสูตรและกำรจัดกำรเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนำผเู้ รียน จนครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ สำมำรถออกแบบและจัดกำรเรียนรู้บูรณำกำรแบบสหวิทยำกำร เพ่ือเสริมสร้ำงคุณลักษณะ “อยู่อย่ำง พอเพียง” ได้อย่ำงมีคุณภำพ มีกำรพัฒนำและใช้สื่อกำรจัดกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำยสอดคล้อง เหมำะสมกับ เน้ือหำ เวลำและควำมสำมำรถของนักเรียน มีกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ของนักเรียนด้วยวิธีกำรและ เคร่ืองมือที่หลำกหลำยเช่น แบบทดสอบ สัมภำษณ์ สังเกต เปน็ ต้น สำมำรถเป็นวิทยำกรอธิบำยใหค้ วำมร้เู กี่ยว ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและกำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้แก่เพ่ือนครูท้ังภำยในและนอกโรงเรียนจน เปน็ ท่ียอมรับ คณะครมู กี ารเข้ารว่ มอบรม ประชุม สัมมนา ศกึ ษาดงู านแลกเปลี่ยนเรยี นร้รู ะหวา่ งกัน เพือ่ นาความร้มู าใชใ้ นการพฒั นา ปรบั ปรุงและแกไ้ ขการจัดกิจกรรมเรียนรู้ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งใหก้ ันนกั เรียน ผู้อานวยการโรงเรียน ครแู กนนาและนักเรยี นแกนนา ไดร้ บั รางวัลผู้ที่มีผลการปฏิบตั กิ ารเปน็ เลศิ ระดับประเทศ ประจาปี 2559 ดา้ นพฒั นาการเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รบั รางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๑๔ ดำ้ นอำคำร สถำนท่ี แหลง่ เรยี นรู้และสงิ่ แวดล้อม โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ มีควำมภำคภูมิใจในกำรท่ีได้น้อมนำโครงกำรตำมพระรำชดำริพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว และสมเด็จ พระเทพรตั นรำชสุดำฯสยำมบรมรำชกุมำรี มำบริหำรจัดกำรศึกษำเพ่ือส่งเสริมใหน้ ักเรียนได้มีควำมเสมอภำค ในกำรศึกษำ มีอำชีพ มีคุณธรรมสำมำรถอยู่ในสังคมได้อย่ำงมีควำมสุข พัฒนำแหล่งเรียนรู้เพ่ือเสริมสร้ำง คุณลักษณะ “อยู่อย่ำงพอเพียง” อย่ำงหลำกหลำยเพียงพอกับจำนวนนักเรียน จัดสรรงบประมำณและมี ผูร้ ับผิดชอบอย่ำงชัดเจน ผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงำนอ่ืน มีส่วนร่วมในกำรพัฒนำและดูแลรักษำ สง่ ผลให้ อำคำร สถำนท่ี แหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ มีควำม สะอำด ร่มร่ืน สวยงำม ปลอดภัย เอ้ือต่อกำรจัดกำรเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพยี ง ในกำรบริกำรอำคำร สถำนที่ แหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมของโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ จัดให้มีกำรประเมินอำคำร สถำนท่ี แหล่งเรียนรู้และส่ิงแวดล้อม รวมท้ังครแู ละนกั เรียนแกน นำของโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ อย่ำงเป็นรูปธรรม เพื่อนำผลกำรประเมินไปเป็น ข้อมูลในกำรพัฒนำอำคำร สถำนท่ี แหลง่ เรียนรู้และส่ิงแวดลอ้ ม ของโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัด เชียงใหม่ มคี วำมมั่นคง ย่งั ยนื สำมำรถใชป้ ระโยชน์ไดจ้ ริง การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ บูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ฐานการเรยี นรู้ กอื เลอะบอื เคส่าอะเบะ (เพาะเห็ดจากเปลือกข้าวโพด) ข้ันตอนการเตรียมเปลอื กขา้ วโพด โดยทาการคัดแยกตอซังขา้ วโพดออก ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอ่ื รบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๑๕ ข้ันตอนการนากอ้ นเหด็ ท่ีนงึ่ แลว้ โดยเตรียมอุปกรณ์สาหรบั เขีย่ เชือ้ เหด็ เพราะขน้ั ตอนเข่ียเชอื้ เหด็ ตอ้ งทาอย่างรวดเร็ว ภาพแสดงการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นและผู้ที่สนใจ ได้ศกึ ษาเรียนรพู้ รอ้ มท้ังสามารถ วิเคราะห์ความสอดคลอ้ งของกิจกรรมตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอ่ื แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ตามฐานการเรยี นรตู้ ่างๆ และนาไปองคค์ วามรปู้ ระยุกตใ์ ชก้ ิจกรรม การเรียนรายวิชาอืน่ ๆและในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งในการดารงชีวติ ปจั จบุ ัน ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๑๖ ฐานการเรยี นรู้ ใตร้ ม่ พระบารมีสดุดมี หาราชา คุณครแู ละนักเรียนแกนนาปรกึ ษา ให้ความร้กู ารถอดองคค์ วามรู้ เกี่ยวกบั หลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งจากการปฏิบตั ิกจิ กรรม ตามฐานการเรียนรใู้ ต้รม่ พระบารมีสดุดีมหาราชา ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอ่ื รบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๑๗ ฐานการเรยี นรู้ วถิ ชี นเผา่ ช่วงคนเมอื ง การแตง่ กายของคนพ้ืนเมอื งท่ีมีความแตกตา่ งกันระหวา่ งผชู้ ายกับผหู้ ญิง โดยผู้หญงิ ใส่เสอ้ื แขนกระบอก ผ้าซ่ินตีนจกสีเหลอื ง ผ้ชู ายใสเ่ สอื้ พ้ืนเมอื งและกางเกงสะดอสีนา้ เงิน รวมทง้ั เป็นการนาเสนอสภาพความเป็นอยู่ การสร้างบา้ นเรอื นของคนพน้ื เมอื ง ขว่ งลัวะ การแต่งกายของชนเผ่าลวั ะ(ละวา้ ) ผชู้ ายจะใสช่ ุดสีขาวมผี า้ มดั หัว สว่ นผหู้ ญงิ ทแี่ ตง่ งานจะใสเ่ สอ้ื แขนสัน้ สีขาวผา้ ถงุ สีดาสลบั แดง และผหู้ ญิงที่ยังไมแ่ ตง่ งานจะใสเ่ ส้ือแขนสั้นสดี าและผ้าถงุ สีเดยี วกนั ส่วนใหญก่ ารแต่งกายเหลา่ น้ี จะนยิ มแตง่ เพอื่ ร่วมงานมงคล เช่น ประเพณีบูชาเสาอินทขิล ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๑๘ ชว่ งม้ง การแต่งกายของชนเผา่ มง้ ผูช้ ายจะใสเ่ สอื้ แขนยาว กางเกงขายาวท่มี ีลายปกั และประดบั ดว้ ยเหรยี ญเงนิ ส่วนผู้หญิงจะใส่เสอ้ื แขนสามสว่ นและกระโปรงทีป่ ระดับด้วยเหรยี ญเงนิ สว่ นใหญก่ ารแต่งกายเหล่าน้ี จะนยิ มแต่งเพ่ือรว่ มงานมงคล ประเพณีปีใหมม่ ้ง(กนิ วอ) เผา่ กะเหรี่ยง การแตง่ กายของชนเผ่ากะเหรี่ยงชายจะสวมใสเ่ สอื้ สแี ดง การแต่งกายของชนเผ่ากะเหร่ยี งหญิงจะสวมชดุ ขาวและมีผ้าโพกหวั (ไม่แตง่ งาน) แต่ถา้ แตง่ งานแลว้ จะใส่เสื้อสีดาและผ้าถงุ สีแดง/สีดา การแสดงของชนเผ่ากะเหร่ยี งทน่ี ยิ มกนั คือ รากระทบไม้ ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพื่อรับรางวลั พระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๑๙ ฐานการเรียนรู้ เขียวตลอดปลอดสาร ปรบั ปรงุ สภาพดิน ให้เหมาะสมกับพืชผกั ทีจ่ ะปลูก ตอ้ งตากแดดประมาณ 15 - 30วัน พร้อมเตรยี มต้นกล้าพืชผกั ลงแปลงปลูกต่อไป ฐานการเรยี นรู้ หมคู อนโด ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รบั รางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๒๐ จัดกจิ กรรมการเรียนร้ใู นการเลยี้ งสุกร โดยเน้นความสะอาดของโรงเรอื นและบรเิ วณโดยรอบ และการเลี้ยงท่ีถกู วธิ ี สามารถนาผลผลติ ที่ไดม้ าใชใ้ ห้เกิดประโยชนเ์ ตม็ ที่ ฐานการเรยี นรู้ ขา้ วดอยแปลงโฉม จัดกิจกรรมการเรียนร้ใู นการทานา เร่มิ ตน้ ด้วยการเตรียมพืน้ ที่ การคัดเลือกพนั ธุข์ ้าว การปลูก การดแู ลรักษา การเกบ็ เกี่ยวขา้ ว การเกบ็ รกั ษาผลผลิต ตลอดจนการแปรรปู ผลผลติ เป็นผลิตภณั ฑต์ ่างๆ ขอ้ มลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพ่ือรับรางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๒๑ กจิ กรรมการเรียนรู้ ฐานการเรยี นรู้ พวงหรีดพอเพยี งเคยี งสวรรค์ นกั เรียนประดษิ ฐด์ อกไม้และตกแตง่ พวงหรดี พรอ้ มคานวณตน้ ทนุ ในการผลติ พวงหรีด แตล่ ะอัน โดยใชห้ ลักเศรษฐศาสตร์และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ด้ำนกำรสร้ำงควำมสมั พันธ์อนั ดีกบั ชมุ ชนและหน่วยงำนอน่ื โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ 31 จงั หวัด เชียงใหม่ ตระหนกั ถึงควำมสำคัญของกำรมเี ครือข่ำยในกำรขบั เคลื่อนปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงทั้งภำยใน และภำยนอกสถำนศึกษำ จึงร่วมกับสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำ เชียงใหม่ เขต 6 ผู้นำชุมชน หน่วยงำนอื่นประชุมสัมมนำแลกเปล่ียนเรียนรู้กำรสร้ำงเครือข่ำยร่วมพัฒนำกำรขับเคลื่อนปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ 31 กำหนดให้กำรสรำ้ งควำมสมั พันธอ์ ันดีเปน็ นโยบำยสำคัญ อย่ำงหนึ่งของกำรบริกำรจดั กำรสถำนศึกษำ มีผู้รับผิดชอบ กระบวนกำรดำเนินงำนท่ีชัดเจน ในกำรประสำน ควำมร่วมมือกำรให้ควำมช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน โดยโรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ 31 จังหวัด เชียงใหม่ เป็นแกนนำ ซ่ึงตระหนกั ถงึ ภำระหน้ำที่ในกำรท่จี ะต้องเป็นพ่ีเลี้ยงใหค้ วำมช่วยเหลอื โรงเรยี นเครอื ข่ำย ให้สำมำรถพัฒนำพร้อมรับกำรประเมินเป็นสถำนศึกษำพอเพียง ส่งผลให้โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพือ่ รบั รางวัลพระราชทานระดบั มัธยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๒๒ จังหวดั เชียงใหม่ สนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนำโรงเรียนบ้ำนแม่ศึก และ โรงเรียนบ้ำนโม่งหลวง สำนักงำนเขต พื้นที่กำรศกึ ษำประถมศึกษำเชยี งใหม่ เขต 6 ผ่ำนกำรประเมินเป็นสถำนศกึ ษำพอเพยี งในปี ๒๕๕6 ด้ำนกำรรับกำรศึกษำ ดูงำนกำรขับเคล่ือนปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงจำกสถำนศึกษำและ หน่วยงำนอนื่ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ บรหิ ำรจัดกำรโดยมิให้เกิดผลกระทบต่อกำร บริหำรจัดกำรและกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครูและนักเรียน จึงกำหนดระเบียบกำรศึกษำ ดูงำน เช่น กำร กำหนดรับกำรศึกษำ ดูงำน ในวันพุธ เวลำ 08.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ต้องมีกำรติดต่อประสำนงำนชัดเจนในเรื่อง กำหนดกำร ระยะเวลำ เนอื้ หำสำระท่ีจะศึกษำ ดงู ำน จำนวนคน เป็นตน้ สถานศกึ ษามีส่วนร่วมในการบรู ณการจัดการเรียนรู้ เพ่อื แก้ปัญหาร่วมกับชุมชนอย่างย่งั ยืนจากการร่วมมือกับชมุ ชนและหน่วยงานต่างๆ จงึ ทาให้โรงเรียนเป็ นท่ียอมรับและเป็ นท่ศี กึ ษาดงู านอย่างต่อเน่ือง โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ได้พัฒนำครูและนักเรียนให้เป็นแกนนำ กำรขับเคลื่อนปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถำนศึกษำ ให้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพียงอย่ำงถกู ต้อง สำมำรถเป็นวิทยำกรอธิบำยหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง สำมำรถถอด บทเรียนควำมสำเร็จที่เกิดจำกกำรนำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงไปเป็นแนวทำงในกำรดำเนินงำน ให้แก่ครูและนักเรียน หรือผ้ทู ่ีสนใจท่ีมำศกึ ษำดูงำนในโรงเรียนได้อย่ำงถกู ต้อง โรงเรียนได้พัฒนำแหล่งเรียนรู้ ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพ่อื รับรางวัลพระราชทานระดบั มัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๒๓ อำคำร สถำนท่ีและสิง่ แวดล้อมให้เพียงพอกับจำนวนนกั เรียน สอดคล้องกับบริบทของโรงเรยี น มคี วำมสะอำด ร่มรื่น สวยงำม ปลอดภัย เอ้ือต่อกำรจัดกำรเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียง เพ่ือเสริมสร้ำงคุณลักษณะ “อยู่อย่ำงพอเพียง” โรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและหน่วยงำนอื่นๆ มี ควำมสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน สนับสนุน ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ท้ังด้ำนงบประมำณ แรงกำยวัสดุ-อุปกรณ์ ในกำร ขบั เคลื่อนหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งภำยในและภำยนอกสถำนศึกษำจนประสบควำมสำเร็จเป็นที่ ยอมรับ นำงวิลำวัลย์ ยอดผ่ำนเมือง ผู้อำนวยกำร นำงสำวณัฐธนัญำ บุญถึง ครูแกนนำ และนำงสำวพิกุล กู้เกียรติกุญชร นักเรียนแกนนำ ได้รับเกียรติบัตรผู้ที่มีผลกำรปฏิบัติที่เป็นเลิศระดับประเทศ ปี 2559 ด้ำนพัฒนำกำรเรียนรู้ตำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ศูนยส์ ถำนศึกษำพอเพียง มูลนธิ ิยวุ สถริ คุณ จำกควำมพร้อมในกำรดำเนินงำนและควำมมุ่งม่ันในกำรขับเคล่ือนหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ สถำนศึกษำโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอรับกำรประเมินเป็นศูนย์กำรเรียนรู้ตำม หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง ดำ้ นกำรศึกษำ เพ่อื เปน็ แหล่งเรียนรู้ในกำรเสริมสรำ้ งคุณลักษณะ “อยู่อย่ำง พอเพียง”ให้แก่นักเรียนรวมท้ังเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งศึกษำดูงำน ด้ำนกำรขับเคล่ือนปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียงส่สู ถำนศึกษำ ให้แก่ผู้ทสี่ นใจท่ัวไป สถำนศึกษำและหน่วยงำนอ่ืนๆ ที่เป็นเครือขำ่ ย สังกัดสำนักงำนเขต พ้นื ท่กี ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำ เชียงใหม่ เขต 6 และสำนักบริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษต่อไป ในวนั ที่ 10 กันยำยน ๒๕๖๑ โรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31 ได้ผ่ำนกระประเมนิ เป็น “ศูนย์กำร เรยี นรู้ตำมหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง ดำ้ นกำรศึกษำ ปกี ำรศึกษำ 2560” ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพือ่ รับรางวัลพระราชทานระดบั มัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๒๔ 2. โครงการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ( ECO School.) กำรสร้ำงจิตสำนึกเร่ืองกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อม จำเป็นต้องปลูกฝังต้ังแต่เด็ก ดังนั้นหำกมีกำรวำงรำกฐำนกำรเรียนรู้เร่ืองสิ่งแวดล้อมต้ังแต่ในโรงเรียน โดยมุ่งเน้นให้เยำวชนตระหนักถึง ควำมสำคัญและมีส่วนร่วม ตั้งแต่กระบวนกำรคิดและกำรดำเนินกิจกรรมเพ่ือรักษำส่ิงแวดล้อมต่ำงๆ ย่อมจะ ส่งผลดีและเป็นกำรส่งเสริมให้เยำวชนมีควำมคิดและจิตสำนึกในกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและ สิ่งแวดล้อมที่ดี สำมำรถปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชนของตนเองได้ในอนำคต ซึ่งปัจจุบันหลำย องค์กรต่ำงให้ควำมสำคัญกับกำรจัดกำรสิ่งแวดล้อมและมีกำรพัฒนำกระบวนกำรเรียนกำรสอนในเร่ือง ส่ิงแวดล้อมมำกข้ึน โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ไดเ้ ล็งเหน็ ปัญหำท่ีเกดิ จำกอำหำรท่ีเหลือท้งิ จำกโรง อำหำร ขยะท่ีไม่ผ่ำนกำรคัดแยกมำกจำกหอนอน ห้องเรียน บ้ำนพักครู โรงครัว อำคำรสำนักงำนต่ำง ๆ ท่ี ส่งผลให้โรงเรียนเกดิ ปญั หำปริมำณขยะท่มี ำกเกนิ ไป ยำกต่อกำรบริหำรจดั กำรขยะทั้งระบบได้ ดังนน้ั เพ่ือให้ โครงการนี้มีความเข้มแข็ง ยั่งยืน/กลุ่มงำนอำคำรสถำนที่จึงได้จัดทำโครงกำร บริหำรจัดกำรส่ิงแวดล้อมใน โรงเรยี น (ECO SCHOOLS) ข้ึน โดยมกี ิจกรรมตา่ งๆดังนี้ กิจกรรมท่ี ๑ กำรสรำ้ งควำมตระหนกั กิจกรรมที่ ๒ กำรบริหำรจดั กำรขยะ กิจกรรมที่ ๓ กำรเพ่มิ พ้ืนที่สเี ขียว กิจกรรมที่ ๔ กำรสร้ำงรำยได้ กจิ กรรมท่ี ๕ ขยำย ควำมรู้สู่ชุมชนรองรบั สนองกลยุทธ สศศ. ข้อท่ี 1. กำรพัฒนำประสิทธิภำพกำรบรหิ ำรจัดกำรศกึ ษำเพ่ือคน พิกำรและผู้ด้อยโอกำส สนองยุทธศาสตร์ สพฐ. ข้อท่ี 3. ด้ำนกำรจัดกำรศึกษำเพ่ือสร้ำงเสริมคุณภำพชีวิตที่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สนองมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน มาตรฐานท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำร จดั กำรของผูบ้ ริหำรสถำนศึกษำ สนองมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาโรงเรยี น พนั ธกจิ ขอ้ 4 พัฒนำสถำนศึกษำ ให้เป็นศูนย์กำรเรียนรู้ตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง กลยทุ ธ์ข้อ 7 พัฒนำหลักสูตรและกระบวนกำร จัดกำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง เป้าประสงค์ข้อ 7.1 สถำนศึกษำมีหลักสูตรและ กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง ตัวช้ีวัดความสาเร็จข้อ 7.1.1 สถำนศึกษำ มีหลักสูตรฐำนกำรเรียนรู้ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง 7.1.2 สถำนศึกษำมีกำรจัดกระบวนกำร เรียนรู้ที่บูรณำกำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงทุกกลุ่มสำระฯ และ7.1.3 สถำนศึกษำมีกำรน้อมนำ โครงกำรอันเน่อื งมำจำกพระรำชดำริมำเปน็ แนวทำงในกำรจัดกำรศกึ ษำในสถำนศึกษำอย่ำงตอ่ เน่ือง และยั่งยนื ผลการประเมินโครงการในกำรจัดกิจกรรมรองรับปี 2561 มี 5 กิจกรรม คือ กิจกรรมที่ ๑ กำรสร้ำงควำมตระหนัก กิจกรรมท่ี ๒ กำรบริหำรจัดกำรขยะ กิจกรรมท่ี ๓ กำรเพ่ิมพ้ืนท่ีสีเขียว กิจกรรมที่ ๔ กำรสรำ้ งรำยได้ และกจิ กรรมท่ี ๕ ขยำยควำมรสู้ ชู่ ุมชน ดงั รำยละเอียดของกำรรำยงำนกิจกรรมดังน้ี กิจกรรมท่ี 1 การสร้างความตระหนกั สนองกลยุทธ สศศ. ขอ้ ท่ี 1. กำรพฒั นำประสทิ ธภิ ำพกำรบริหำรจดั กำรศึกษำเพ่อื คนพิกำรและผู้ด้อยโอกำส สนองยทุ ธศาสตร์ สพฐ. ข้อที่ 3. ดำ้ นกำรจดั กำรศกึ ษำเพ่ือสร้ำงเสรมิ คุณภำพชีวติ ที่เป็นมติ รกับสง่ิ แวดลอ้ ม สนองมาตรฐานการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มาตรฐานท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรของผู้บริหำร สถำนศึกษำ สนองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาโรงเรียน พนั ธกิจ กลยทุ ธ์ เป้าประสงค์ ตวั ชีว้ ัดความสาเรจ็ 4. พัฒนำสถำนศึกษำ 7.พัฒ น ำหลัก สูตรและ 7 .1 ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ มี 7.1.1 สถำนศึกษำมีหลักสูตร ให้เป็นศูนย์กำรเรียนรู้ กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ฐำน ก ำร เรีย น รู้ต ำม ห ลั ก ก ร ะ บ ว น ก ำร จัด ก ำร ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตำมหลักปรัชญำของ ต ำม ห ลั ก ป รัช ญ ำข อ ง เรียนรู้ตำมหลักปรัชญำ 7.1.2 สถำนศึกษำมีกำรจัด ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอ่ื รับรางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๒๕ พันธกจิ กลยทุ ธ์ เปา้ ประสงค์ ตวั ช้ีวัดความสาเร็จ เศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกจิ พอเพียง ของเศรษฐกจิ พอเพียง กระบวนกำรเรียนรู้ที่บูรณำ กำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียงทุกกล่มุ สำระฯ 7.1.3 สถำนศึกษำมีกำรน้อม นำโครงกำรอันเน่ืองมำจำก พระรำชดำริมำเป็นแนวทำง ใน ก ำ ร จั ด ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ใน ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ อ ย่ ำ ง ต่ อ เน่ื อ ง และยั่งยืน 1. วตั ถปุ ระสงค์ 1.1 เพ่อื ปรับฐำนควำมคดิ เรื่องสง่ิ แวดล้อม แก่ครู บุคลำกรและนกั เรยี น 1.๒ เพ่อื สรำ้ งองค์ควำมรู้เร่ืองกำรคดั แยกขยะ แก่ครู บคุ ลำกรและนกั เรยี น 1.๓ สร้ำงควำมรดู้ ้ำนกำรผลิตน้ำหมักชีวภำพและปุ๋ยอนิ ทรยี ์ 2. เปา้ หมาย/ตวั บ่งช้คี วามความสาเร็จ เชงิ ปริมาณ ครแู ละบุคลำกร ๘๙ คน นักเรียน ๘๒๒ คน เชงิ คณุ ภาพ นักเรยี นรอ้ ยละ ๘๐ มีกำรปฏิบตั ิตนดำ้ นกำรอนรุ กั ษ์สิง่ แวดลอ้ มในระดบั ดขี ึน้ ไป ตัวชวี้ ัดความสาเร็จ 1. ครู บคุ ลำกรและนกั เรียน เกดิ ฐำนคิดเชงิ อนรุ กั ษ์ทรพั ยำกรและส่ิงแวดล้อม ๒. ครู บคุ ลำกรและนักเรียน สำมำรถคัดแยกขยะจำกต้นทำงไดอ้ ย่ำงถูกต้อง ๓. ลดกำรใชส้ ำรเคมีทีม่ ีผลต่อส่ิงแวดลอ้ ม 3. วธิ ีดาเนนิ การ (ท่ปี ฏิบัติจริง) กจิ กรรมท่ี 1.๑ ลงมือปฏบิ ตั ิกำรคัดแยกขยะใหก้ ับครูหอนอน ระยะเวลำดำเนนิ กำร วนั ที่ ๑๗ พฤษภำคม ๒๕๖๑ ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอ่ื รับรางวลั พระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๒๖ กิจกรรมท่ี ๑.2 ลงมอื ปฏิบตั ิกำรคัดแยกขยะใหก้ ับแม่ครัว ระยะเวลำดำเนินกำร วนั ท่ี ๑๘ พฤษภำคม ๒๕๖๑ กิจกรรมท่ี 1.๓ ลงมือปฏบิ ตั ิกำรทำปุ๋ยอินทรีย์ ระยะเวลำดำเนนิ กำร วันท่ี ๑๙ พฤษภำคม ๒๕๖๑ กจิ กรรมท่ี 1.๔ ปรับฐำนควำมคิดครู บุคลำกร และนักเรยี นในกำรอนรุ กั ษ์สิง่ แวดลอ้ ม ระยะเวลำดำเนนิ กำร วันที่ ๒๓ พฤษภำคม ๒๕๖๑ ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่ือรบั รางวัลพระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๒๗ กิจกรรมที่ 1.๕ ปรบั ฐำนควำมคดิ นักเรียนแกนนำ ในกำรอนรุ กั ษส์ ่งิ แวดลอ้ ม ระยะเวลำดำเนนิ กำร วันที่ ๒๙ พฤษภำคม ๒๕๖๑ 4. ระยะเวลาดาเนนิ งาน เริ่มเมอื่ ๑๖ พฤษภำคม ๒๖๕๖๑ เสร็จสนิ้ เมอ่ื ๒๙ พฤษภำคม ๒๕๖๑ 6. วธิ กี ารติดตาม / เคร่อื งมือการประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ าน วธิ ีการประเมิน เคร่อื งมือการประเมิน แหลง่ ขอ้ มลู /ผูใ้ หข้ ้อมลู ครู บุคลำกร และนกั เรียน 1. กำรคดั แยกขยะตน้ ทำง - แบบประเมิน 2. กำรประเมินควำมพงึ พอใจ - แบบตรวจสอบกำรคัดแยกขยะ ๗. สรุปผลในภาพรวม ๗.1 ผลการดาเนนิ งานเมอ่ื พจิ ารณาเปรยี บเทยี บกับวตั ถปุ ระสงค์และเป้าหมายทีก่ าหนดไว้ ต่ำกวำ่ มำก ต่ำกว่ำเล็กน้อย เท่ำกัน สูงกวำ่ เลก็ น้อย สงู กว่ำมำก ๗.2 ประเมินความสาเร็จในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ ๘๐ (คดิ จำกค่ำเฉลย่ี ของตวั บ่งชีค้ วำมสำเร็จ) ๗.3 จดุ เด่นของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครัง้ น้ี ๑. ครู บุคลำกร ร้อยละ ๗๘.๖๖ พักอำศัยอยู่ในโรงเรยี น และนักเรียน ร้อยละ ๑๐๐ เป็นนักเรยี น ประจำ จงึ เอ้อื ต่อกำรดำเนินงำน และกำรจดั กิจกรรมต่ำงๆไดอ้ ย่ำงต่อเนอื่ ง ๗.4 จุดท่คี วรพฒั นาของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครง้ั น้ี ควรมีกำรทบทวนวธิ ีกำรคัดแยกขยะจำกต้นทำงเป็นประจำ ๗.5 ข้อเสนอแนะเพ่ือการพฒั นาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครั้งต่อไป ครูหอนอนควรเอำใจใส่และดูแลกำรคดั แยกขยะจำกต้นทำงของนักเรียนในหอนอน ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพ่อื รบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๒๘ กจิ กรรมท่ี ๒ การบริหารจัดการขยะ สนองกลยุทธ สศศ. ข้อท่ี 1. กำรพฒั นำประสิทธภิ ำพกำรบริหำรจดั กำรศึกษำเพือ่ คนพิกำรและผ้ดู ้อยโอกำส สนองยทุ ธศาสตร์ สพฐ. ข้อที่ 3. ดำ้ นกำรจดั กำรศึกษำเพือ่ สร้ำงเสรมิ คุณภำพชวี ิตทีเ่ ปน็ มติ รกับสงิ่ แวดล้อม สนองมาตรฐานการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน มาตรฐานท่ี 2 กระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำรของผู้บรหิ ำร สถำนศึกษำ สนองมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาโรงเรยี น พนั ธกจิ กลยทุ ธ์ เป้ำประสงค์ ตัวชว้ี ดั ควำมสำเรจ็ 4. พัฒนำสถำนศึกษำ 7.พัฒ น ำหลัก สูตรและ 7 .1 ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ มี 7.1.1 สถำนศึกษำมีหลกั สูตร ให้เป็นศูนย์กำรเรียนรู้ กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ฐำน ก ำร เรีย น รู้ต ำม ห ลั ก ตำมหลักปรัชญำของ ต ำม ห ลั ก ป รัช ญ ำข อ ง ก ร ะ บ ว น ก ำร จัด ก ำร ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เรียนรู้ตำมหลักปรัชญำ 7.1.2 สถำนศึกษำมีกำรจัด เศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพยี ง ของเศรษฐกิจพอเพียง กระบวนกำรเรียนรู้ที่บูรณำ กำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียงทุกกลุ่มสำระฯ 7.1.3 สถำนศึกษำมีกำรน้อม นำโครงกำรอันเนื่องมำจำก พระรำชดำริมำเป็นแนวทำง ใน ก ำ ร จั ด ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ใน ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ อ ย่ ำ ง ต่ อ เนื่ อ ง และยงั่ ยนื 1. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ให้ ครู บุคลำกร และนักเรียนคดั แยกขยะจำกต้นทำงอยำ่ งถกู ประเภท ๒. เพื่อลดกำรขนขยะออกจำกโรงเรียนไปลงบ่อขยะ ๓. เพอื่ ใหน้ ักเรียนสำมำรถกำจัดขยะไดอ้ ย่ำงถูกวิธี 2. เปา้ หมาย/ตวั บง่ ช้คี วามความสาเรจ็ เชงิ ปรมิ าณ ครูและบุคลำกร ๘๙ คน นกั เรียน ๘๒๒ คน เชิงคณุ ภาพ นกั เรียนร้อยละ ๘๐ มีกำรคดั แยกคัดแยกขยะถกู ประเภทระดับดขี ้ึนไป ตัวช้ีวัดความสาเรจ็ 1. ครู บคุ ลำกร และนักเรียนคดั แยกขยะจำกตน้ ทำงอยำ่ งถกู ประเภท ๒. เพือ่ ลดกำรขนขยะออกจำกโรงเรยี นไปลงบ่อขยะ ๓. นักเรยี นสำมำรถกำจดั ขยะได้อย่ำงถกู วิธี 3. วธิ ีดาเนนิ การ (ทปี่ ฏบิ ัติจรงิ ) ระบบกำรบรหิ ำรจัดกำรธนำคำรขยะ ผำ่ นโปรแกรมระบบกำรบรหิ ำรจดั กำรโรงเรียนรำชประชำนเุ ครำะห์ 31 ( www.checkin.rpk31school.ac.th) ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศึกษาเพือ่ รบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๒๙ ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอ่ื รับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๓๐ แบบบันทกึ กำรศึกษำดูงำนจำกหนว่ ยงำนภำยนอก แบบบนั ทึกกำรเย่ียมชมกำรดำเนนิ งำนจำก สำนกั งำนเขตพ้นื ที่กำรศึกษำประถมศกึ ษำเชียงใหม่ เขต 5 แบบบนั ทึกกำรเยย่ี มชมกำรดำเนนิ งำน จำกสำนกั งำนเขตพนื้ ท่ีกำรศกึ ษำประถมศึกษำสุโขทยั เขต 1 ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอ่ื รับรางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๓๑ การดาเนนิ งานการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพื่อรับรางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๓๒ กิจกรรมท่ี 3 การเพม่ิ พื้นทีส่ ีเขียว สนองกลยทุ ธ สศศ. : ขอ้ ที่ 1. กำรพัฒนำประสิทธภิ ำพกำรบรหิ ำรจัดกำรศกึ ษำเพอ่ื คนพิกำรและผู้ดอ้ ยโอกำส สนองยุทธศาสตร์ สพฐ. : ข้อที่ 3. ดำ้ นกำรจัดกำรศกึ ษำเพอ่ื สร้ำงเสริมคุณภำพชวี ติ ทีเ่ ปน็ มิตรกบั สิ่งแวดล้อม สนองมาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน : มาตรฐานท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรของผู้บริหำร สถำนศึกษำ สนองมาตรฐานคณุ ภาพการศกึ ษาโรงเรียน พันธกจิ กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชวี้ ัดความสาเร็จ 4. พัฒนำสถำนศึกษำ 7.พัฒ น ำหลักสูตรและ 7 .1 ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ มี 7.1.1 สถำนศกึ ษำมีหลกั สูตร ให้เป็นศูนย์กำรเรียนรู้ กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ฐำน ก ำร เรีย น รู้ ต ำม ห ลั ก ตำมหลักปรัชญำของ ต ำม ห ลั ก ป รัช ญ ำข อ ง ก ร ะ บ ว น ก ำร จัด ก ำร ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพียง เรียนรู้ตำมหลักปรัชญำ 7.1.2 สถำนศึกษำมีกำรจัด ของเศรษฐกิจพอเพียง กระบวนกำรเรียนรู้ท่ีบูรณำ กำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียงทกุ กล่มุ สำระฯ 7.1.3 สถำนศึกษำมีกำรน้อม นำโครงกำรอันเนื่องมำจำก พระรำชดำริมำเป็นแนวทำง ใน ก ำ ร จั ด ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ใน ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ อ ย่ ำ ง ต่ อ เนื่ อ ง และย่งั ยนื 1. วตั ถุประสงค์ เพ่ือสรำ้ งโรงเรยี นคำรบ์ อนตำ่ เพม่ิ พื้นทีส่ ีเขียวในโรงเรยี น โดยกำรปลกู ต้นไม้ “โครงกำรสรำ้ งป่ำสร้ำงรำยได้” 2. เปา้ หมาย/ตัวบง่ ชคี้ วามความสาเร็จโครงการ เชงิ ปรมิ าณ โรงเรียน มีตน้ ไมเ้ พม่ิ ขน้ึ (ปลูกกำแฟ ต้นกล้วย และไผ่) อย่ำงนอ้ ย 5,000 ต้น เชิงคุณภาพ โรงเรียนมพี น้ื ทส่ี ีเขยี วเพ่มิ ข้ึน สวยงำม ปลอดภัย และเอ้ือตอ่ กำรเรียนรู้ ตวั บ่งชี้ความสาเร็จ สรำ้ งโรงเรยี นคำร์บอนต่ำ เพิม่ พื้นที่สเี ขียว และปลูกตน้ ไม้เศรษฐกิจเพื่อสร้ำงรำยไดใ้ หก้ บั นักเรียน 3. วธิ ีดาเนนิ การ (ที่ปฏิบัตจิ รงิ ) 3.1 ประชมุ วำงแผนกำรดำเนนิ กจิ กรรม 3.2 กำหนดจุดกำรปลูกตน้ กลว้ ย ตน้ ไผ่ และต้นกำแฟ โดยมผี ู้รับผดิ ชอบ ดงั น้ี 3.2.1 นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษำปที ี่ 1 และชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 ปลกู ตน้ กำแฟ ณ บรเิ วณหลัง อำคำรเรยี น 3 และหลงั อำคำรเรยี น 4 3.2.2 นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 2 และชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 5 ปลูกตน้ กลว้ ย ณ บรเิ วณสวน เกษตรทฤษฎีใหม่ 3.2.3 นกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี 4 ปลูกต้นไผ่ ณ บรเิ วณแฟรตครโู ซนด้ำนหนำ้ โรงเรียน 3.2.4 นักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 6 ปลกู ต้นไผ่ ณ บรเิ วณสวนเกษตรทฤษฎีใหม่ ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๓๓ 3.3 ดำเนินกำรปลูก ดูแล รกั ษำ ตำมจดุ ที่กำหนดใหจ้ นเกิดผลผลติ ดังนี้ 3.3.1 วนั ท่ี 12 สิงหำคม 2561 ดำเนนิ กำรปลูกต้นกำแฟ จำนวน 300 ต้น 3.3.2 วนั ที่ 25 กรกฎำคม 2561 ดำเนนิ กำรปลกู ตน้ ไผ่ จำนวน 80 ตน้ 3.3.3 วันท่ี 28 กรกฎำคม 2561 ดำเนนิ กำรปลกู ต้นกำแฟ จำนวน 200 ต้น ปลกู ตน้ ไผ่ จำนวน 300 ต้น และปลูกต้นกล้วย จำนวน 100 ตน้ 3.3.4 วันท่ี 26 กนั ยำยน 2561 ดำเนินกำรปลูกตน้ ไผ่ จำนวน 30 ต้น 3.4 นำผลผลิตทไ่ี ดไ้ ปจำหนำ่ ย เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมรี ำยได้ระหวำ่ งเรยี น 3.5 สรุปผลและรำยงำนกำรดำเนินกจิ กรรม 4. ระยะเวลาดาเนินงาน เร่มิ เม่อื พฤษภำคม 2561 เสร็จสิน้ เมือ่ มีนำคม 2563 ตำมกำหนดเวลำ ก่อนกำหนดเวลำ หลังกำหนดเวลำ 5. สรุปผลในภาพรวม ปจั จุบัน ได้ดำเนินกำรปลกู ดูแล รกั ษำ ตำมจุดทีก่ ำหนดใหจ้ นเกิดผลผลิต ดงั นี้ - วนั ที่ 12 สงิ หำคม 2561 ดำเนินกำรปลกู ตน้ กำแฟ จำนวน 300 ต้น - วนั ที่ 25 กรกฎำคม 2561 ดำเนนิ กำรปลกู ต้นไผ่ จำนวน 80 ต้น - วนั ท่ี 28 กรกฎำคม 2561 ดำเนินกำรปลกู ต้นกำแฟ จำนวน 200 ตน้ ปลูกตน้ ไผ่ จำนวน 300 ต้น และปลูกตน้ กลว้ ย จำนวน 100 ตน้ - วนั ที่ 26 กันยำยน 2561 ดำเนินกำรปลูกต้นไผ่ จำนวน 30 ต้น รวมทัง้ สิน้ ทีไ่ ดด้ ำเนนิ กำรปลกู ในระยะแรกจำนวน 1,010 ตน้ และกำลงั อยใู่ นระหว่ำงกำรเพำะกล้ำ อกี ปะมำณ 2,000 ต้น ควำมสำเร็จในภำพรวมคิดเปน็ รอ้ ยละ 20.2 ข้อมลู ประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๓๔ กิจกรรม “วถิ ีข้าว วถิ ไี ทย รอ้ ยดวงใจ ลกู ราชประชา 31” ณ สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 โดยนายบญุ ลอื ธรรมธรานุรกั ษ์ นายอาเภอแม่ แจ่มเป็นประธานในพิธี พร้อมคณะภาคีเครอื ข่าย กิจกรรมปลกู ปา่ เฉลมิ พระเกียรติ ในวนั ที่ 28 กรกฎาคม 2561 นักเรยี นปลกู ต้นกลว้ ย ณ บริเวณสวนเกษตรทฤษฎใี หม่ ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรบั รางวลั พระราชทานระดบั มัธยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๓๕ นักเรียนปลูกต้นไผ่ ณ บรเิ วณสวนเกษตรทฤษฎใี หม่ กิจกรรมท่ี 4 การสร้างรายได้ 4.1 น้ายาพอเพียง สนองกลยทุ ธ สศศ. ข้อที่ 1. กำรพัฒนำประสิทธิภำพกำรบริหำรจัดกำรศกึ ษำเพื่อคนพิกำรและผูด้ ้อยโอกำส สนองยุทธศาสตร์ สพฐ. ขอ้ ท่ี 3. ดำ้ นกำรจดั กำรศึกษำเพอ่ื สรำ้ งเสริมคุณภำพชวี ิตที่เปน็ มติ รกับสิ่งแวดล้อม สนองมาตรฐานการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มาตรฐานท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรของผู้บริหำร สถำนศึกษำ สนองมาตรฐานคณุ ภาพการศกึ ษาโรงเรียน พันธกิจ กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตัวชี้วัดความสาเร็จ 4. พัฒนำสถำนศึกษำ 7.พัฒ น ำหลัก สูตรและ 7 .1 ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ มี 7.1.1 สถำนศึกษำมีหลักสูตร ให้เป็นศูนย์กำรเรียนรู้ กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ฐำน ก ำร เรีย น รู้ต ำม ห ลั ก ตำมหลักปรัชญำของ ต ำม ห ลั ก ป รัช ญ ำข อ ง ก ร ะ บ ว น ก ำร จัด ก ำร ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้ตำมหลักปรัชญำ 7.1.2 สถำนศึกษำมีกำรจัด เศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกจิ พอเพียง ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กระบวนกำรเรียนรู้ท่ีบูรณำ กำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพยี งทุกกลมุ่ สำระฯ 7.1.3 สถำนศึกษำมีกำรน้อม นำโครงกำรอันเนื่องมำจำก พระรำชดำริมำเป็นแนวทำง ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๓๖ พนั ธกจิ กลยทุ ธ์ เป้าประสงค์ ตวั ช้วี ัดความสาเรจ็ ใน ก ำ ร จั ด ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ใน ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ อ ย่ ำ ง ต่ อ เน่ื อ ง และยงั่ ยืน 1. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อนักเรยี นสำมำรถเรยี นรูแ้ ละสำมำรถผลติ น้ำยำทำควำมสะอำดใช้ภำยในโรงเรยี นได้ 2. เพือ่ เป็นกำรใช้เวลำวำ่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ 3. เพ่อื ใหน้ ักเรียนสำมำรถหำรำยได้ระหวำ่ งเรียนได้ 2. เปา้ หมาย/ตัวบง่ ชี้ความความสาเร็จโครงการ เชงิ ปริมาณ - ผลติ นำ้ ยำซักผำ้ สง่ เรอื นนอนทุกเดอื น เดอื นละ 600 ขวด ขวดละ 15 บำท - ผลติ น้ำยำลำ้ งจำนส่งโรงครัวอำทิตย์ละ 140 กิโลกรมั กิโลกรมั ละ 15 บำท - ผลิตนำ้ ยำล้ำงรถ น้ำยำซกั ผ้ำ น้ำยำล้ำงจำน และน้ำยำจับใบ สง่ สหกรณ์ เฉล่ยี เดอื นละ 200 ขวด ขวดละ 15 บำท เชงิ คณุ ภาพ ระดบั ควำมพงึ พอใจของผ้ใู ช้บรกิ ำร นักเรียนจำนวน 400 คน จำกนกั เรยี นทงั้ หมด 828 คนมคี วำมพงึ พอใจ คดิ เป็นรอ้ ยละ 88.65 ตัวบง่ ชค้ี วามสาเร็จ ร้อยละ 80.00 ของเป้ำหมำยมคี วำมพงึ พอใจในคุณภำพของนำ้ ยำพอเพียง 3. วิธดี าเนนิ การ (ท่ปี ฏบิ ัติจริง) 1. รบั สมัครนักเรียนจติ อำสำแกนนำในกำรผลติ น้ำยำพอเพยี ง 2. ประชมุ ชี้แจงนกั เรียนแกนนำ นำ้ ยำพอเพยี งพรอ้ มใหค้ วำมรู้ ควำมเข้ำใจเกีย่ วกับหลกั กำรและ เหตุผลในกำรผลิตนำ้ ยำพอเพียง 3. แตง่ ต้งั คณะกรรมกำรรับผิดชอบฝำ่ ยต่ำง ๆ 4. จัดอบรมให้ควำมร้นู ักเรยี นแกนนำในกำรผลติ นำ้ ยำพอเพียง 5. นกั เรยี นแบ่งเวรควำมรับผิดชอบในกำรผลิตนำ้ ยำส่งโรงเรียน ส่งเรือนนอน และส่งสหกรณ์ 6. นักเรยี นแกนนำใหค้ วำมรแู้ กบ่ คุ คลภำยนอกท่ีมำศึกษำดูงำนในสถำนศกึ ษำ ซึ่งมีบคุ คลภำยนอก สนใจและเข้ำมำศึกษำดงู ำนอย่ำงต่อเนอ่ื ง นกั เรยี นแกนนาให้ความรู้ผู้สนใจเยยี่ มชมการผลติ นา้ ยาพอเพียง ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอื่ รบั รางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๓๗ นกั เรยี นแกนนาสาธติ วิธีการผลิตนา้ ยาพอเพียง ขอ้ มลู ประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รับรางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๓๘ 6. วิธีการติดตาม / เคร่ืองมือการประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ าน วิธกี ารประเมิน เคร่อื งมือการประเมนิ แหล่งขอ้ มลู /ผใู้ หข้ ้อมลู ประเมินจำกแบบสอบถำมควำมพึง แบบสอบถำมคำพึงพอใจใน ตวั แทนนกั เรียนโรงเรียนรำชประชำนุ พอใจในกำรใช้น้ำยำพ อเพียงของ กำรใช้น้ำยำพ อเพียงจำก เครำะห์31 400คน จำกนักเรียน นักเรียนโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ ผใู้ ช้บริกำร ทงั้ หมด 828 คน 31 จำนวน 400 คน 7. สรปุ ผลการดาเนนิ งานตามวัตถุประสงค์ ท่ี วตั ถปุ ระสงค์แผนงาน/โครงการ/กิจกรรม สภาพความสาเร็จ หมายเหตุ บรรลุ ไม่บรรลุ 1 เพื่อนักเรยี นสำมำรถเรยี นรู้และสำมำรถผลิตน้ำยำ ทำควำมสะอำดใชภ้ ำยในโรงเรยี นได้ 2 เพื่อเปน็ กำรใชเ้ วลำวำ่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ 3 เพื่อใหน้ ักเรียนสำมำรถหำรำยไดร้ ะหว่ำงเรียนได้ 8. สรุปผลการดาเนินงานตามเป้าหมาย สภาพความสาเร็จ ผลการดาเนินงาน ท่ี เปา้ หมายแผนงาน/โครงการ/กจิ กรรม บรรลุ ไม่บรรลุ เชิงปริมาณ 1. ผลิตน้ำยำซกั ผ้ำสง่ เรอื นนอนทกุ เดือน เดอื นละ 600 ขวด ขวดละ 15 บำท 2. ผลติ น้ำยำล้ำงจำนส่งโรงครวั อำทติ ย์ละ 140 กิโลกรัม กิโลกรมั ละ 15 บำท 3. ผลติ นำ้ ยำลำ้ งรถ นำ้ ยำซักผำ้ นำ้ ยำล้ำงจำน และ นำ้ ยำจบั ใบ ส่งสหกรณ์ เฉลย่ี เดอื นละ 200 ขวด ขวด ละ 15 บำท เชิงคุณภาพ 1. ผู้ใชบ้ รกิ ำรมคี วำมพงึ พอใจในกำรใชน้ ้ำยำพอเพียง คดิ เปน็ รอ้ ยละ 88.65 ตวั ชว้ี ัดความสาเรจ็ 1. ผู้ใช้บริกำรร้อยละ 88.65 มีควำมพึงพอใจในกำรใช้ น้ำยำพอเพียง ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรับรางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๓๙ 9. สรปุ ผลในภาพรวม 9.1 ผลการดาเนนิ งานเม่อื พิจารณาเปรยี บเทยี บกบั วัตถุประสงค์และเป้าหมายทก่ี าหนดไว้ ต่ำกวำ่ มำก ตำ่ กวำ่ เลก็ น้อย เท่ำกัน สูงกว่ำเล็กนอ้ ย สูงกวำ่ มำก บนั ทึกเพ่มิ เตมิ จำกกำรดำเนนิ งำนผลกำรดำเนนิ งำนเปน็ ไปตำมวตั ถุประสงคท์ ตี่ ัง้ ไว้ คือนกั เรียนสำมำรถผลติ น้ำยำใช้ เองและผลติ ส่งให้ทำงโรงเรยี น เพอ่ื เป็นกำรใชเ้ วลำว่ำงใหเ้ กดิ ประโยชน์ และเปน็ กำรสร้ำงรำยได้ระหวำ่ งเรียน ให้กบั นักเรยี น เฉลี่ยแลว้ นักเรียนมีรำยได้เดือนละ 500 บำทตอ่ คน และผลตอบรับจำกผู้ใชบ้ รกิ ำรเกินควำม คำดหมำยที่คำดไว้ คือผู้ใช้บรกิ ำรมคี วำมพงึ พอใจในกำรใชน้ ้ำยำพอเพยี งคดิ เป็นร้อยละ 88.65 ซึ่งนำ้ ยำ พอเพยี งจะมีกำรพฒั นำขนึ้ เรอ่ื ย ๆ โดยจะมกี ำรปรบั สูตร เพม่ิ เตมิ โดยจะนำผลิตภัณฑจ์ ำกธรรมชำติมำผลิต เพือ่ เพ่ิมประสทิ ธิภำพในกำรขจัดครำบและวำงแผนจะมโี ครงกำรพฒั นำตอ่ สู่ชมุ ชนต่อไป 9.2 ประเมินความสาเรจ็ ในภาพรวมคิดเปน็ รอ้ ยละ 88.65 (คดิ จำกคำ่ เฉล่ยี ของตวั บง่ ชค้ี วำมสำเรจ็ ) 9.3 จุดเดน่ ของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมคร้ังนี้ น้ำยำพอเพียงเปน็ ผลผลิตจำกควำมคิดและควำมสำรถของนักเรยี นและทำส่งโรงเรียนเพอ่ื ใชก้ นั ท้งั โรงเรียนทำให้โรงเรียนลดต้นทนุ ในกำรส่ังซอื้ นำ้ ยำจำกผปู้ ระกอบกำรภำยนอก ซง่ึ ปกตโิ รงเรยี นมีค่ำใช้จ่ำยใน กำรสั่งซือ้ นำ้ ยำเฉลย่ี เดอื นละ 12,000 บำท แต่ตอนนี้โรงเรยี นสำมำรถลดค่ำใช้จ่ำยส่วนนล้ี งได้เหลือเพยี ง เดือนละ 9,000 บำท และนักเรยี นแกนนำกล่มุ ที่ผลิตน้ำยำพอเพยี งมีรำยไดเ้ สรมิ ระหวำ่ งเรียนอกี ด้วย 9.4 จุดทีค่ วรพฒั นาของแผนงาน/โครงการ/กจิ กรรมคร้ังน้ี ควรมีกำรพฒั นำอย่ำงตอ่ เนอ่ื งโดยใชว้ ตั ถุดบิ หลักจำกธรรมชำติเชน่ มะกรูด มะนำว สบั ปะรด เป็นต้น 9.5 ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาแผนงาน/โครงการ/กจิ กรรมครัง้ ตอ่ ไป ควรพำนักเรียนแกนนำในกำรทำน้ำยำไปศึกษำดูงำนนอกสถำนทเ่ี พอ่ื จะไดเ้ พิม่ ทกั ษะ และเกดิ กระบวนกำรเรียนรู้ทหี่ ลำกหลำย ***ขอ้ เสนอแนะในการทาน้ายา 1. ผลิตภัณฑ์นำ้ ยำที่มกี ลน่ิ หอมควรใสข่ วดทึบแสง เพอื่ ปอ้ งกนั ไม่ใหน้ ้ำหอมระเหยเรว็ 2. ไม่ควรวำงผลติ ภัณฑ์น้ำยำไวก้ ลำงแสงแดดหรอื โดนแสงแดดมำกเกินไปเพรำะจำทำให้น้ำหอมระเหยเรว็ 3. ก่อนกรอกผลติ ภณั ฑ์น้ำยำใสใ่ นขวด ควรคนผลิตภัณฑน์ ้ำยำอยำ่ งน้อย 2-3 นำที 4. น้ำยำซักผำ้ ใส่ตำมควำมเหมำะสม ถำ้ จะใหด้ คี วรแช่ผำ้ อย่ำงนอ้ ย 3 ชั่วโมง- 1 คืนจะทำใหก้ ำรซัก ผำ้ สะอำดยิ่งขึ้น 5. กำรใชน้ ำ้ ยำล้ำงหอ้ งนำ้ เมือ่ เทน้ำยำล้ำงหอ้ งนำ้ แลว้ ควรทง้ิ ไวอ้ ย่ำงนอ้ ง 10 นำที แล้วจึงลำ้ งออก 6. สำรจับใบ 6.1 พชื รำกสน้ั ใชส้ ำรจบั ใบไมเ่ กนิ 3 ช้อนโต๊ะ ตอ่ น้ำ 20 ลิตร 6.2 พชื รำกยำว ใชส้ ำรจบั ใบไมเ่ กิน 5 ชอ้ นโต๊ะ ตอ่ นำ้ 20 ลิตร 6.3 ใชฆ้ ำ่ หญ้ำ ใช้สำรจบั ใบตำมควำมเหมำะสม ขอ้ มลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๔๐ 4.2 นา้ หมักกาจดั กลนิ่ สนองกลยุทธ สศศ. ขอ้ ที่ 1. กำรพัฒนำประสทิ ธิภำพกำรบริหำรจดั กำรศึกษำเพ่ือคนพกิ ำรและผูด้ ้อยโอกำส สนองยทุ ธศาสตร์ สพฐ. ขอ้ ท่ี 3. ด้ำนกำรจัดกำรศึกษำเพือ่ สร้ำงเสริมคณุ ภำพชีวิตที่เปน็ มิตรกบั สงิ่ แวดล้อม สนองมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน มาตรฐานท่ี 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรของผู้บริหำร สถำนศึกษำ สนองมาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาโรงเรยี น พนั ธกจิ กลยทุ ธ์ เป้ำประสงค์ ตวั ชวี้ ัดควำมสำเร็จ 4. พัฒนำสถำนศึกษำ 7.พัฒ น ำหลักสูตรและ 7.1สถำนศึกษำมี 7.1.1 สถำนศกึ ษำมีหลักสูตร ให้เป็นศูนย์กำรเรียนรู้ กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ หลกั สตู รและ ฐำน ก ำร เรีย น รู้ต ำม ห ลั ก ตำมหลักปรัชญำของ ต ำม ห ลั ก ป รัช ญ ำข อ ง กระบวนกำรจดั กำร ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง เรยี นรู้ตำมหลักปรัชญำ 7.1.2 สถำนศึกษำมีกำรจัด เศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพียง ของเศรษฐกิจพอเพียง กระบวนกำรเรียนรู้ที่บูรณำ กำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียงทุกกลุม่ สำระฯ 7.1.3 สถำนศึกษำมีกำรน้อม นำโครงกำรอันเนื่องมำจำก พระรำชดำริมำเป็นแนวทำง ใน ก ำ ร จั ด ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ใน ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ อ ย่ ำ ง ต่ อ เน่ื อ ง และยัง่ ยืน 1. วตั ถปุ ระสงค์ 1. ใชล้ ดหรือกำจดั กลิ่นเหมน็ ( ห้องน้ำ, บอ่ เกลอะ, คอกหม,ู เลำ้ ไก,่ นำ้ เนำ่ ) 2. เพม่ิ จุลนิ ทรีย์เพื่อช่วยยอ่ ยกำจัดสง่ิ ปฏิกูล 3. ลดปญั หำนำ้ เน่ำเสยี 2. เปา้ หมาย/ตัวบง่ ชีค้ วามความสาเรจ็ โครงการ เชิงปรมิ าณ จำนวนหอ้ งนำ้ ท้ังหมดในโรงเรยี น เชิงคณุ ภาพ ประสทิ ธิภำพกำรกำจัดกล่นิ ของน้ำหมัก ตวั บ่งชค้ี วามสาเร็จ สำมำรถกำจดั กลนิ่ เหม็นของหอ้ งนำ้ หอ้ งสว้ ม และกำจัดกลิ่นเหม็นของคอกหมูได้ 3. วิธดี าเนนิ การ ( ทป่ี ฏบิ ตั จิ ริง ) สตู รท่ี 1 สตรู ทาใหม่ อัตราส่วน 3 : 1 : 10 1. กรณีใช้ถังขนำด 60 ลิตร ชงั่ เปลอื กสับปะรด จำนวน 12 กโิ ลกรัม ชั่งกำกนำ้ ตำล จำนวน 4 กโิ ลกรัม 2. เติมนำ้ ซำวข้ำวจำนวน 40 กิโลกรมั 3. เติม พ.ด.6 จำนวน 1 ซอง 4. คนให้เข้ำกนั จนทว่ั 5. ปดิ ฝำ ( ไม่ตอ้ งปดิ ฝำให้สนิท เพรำะว่ำจะมี กำรเกิดแกส๊ สำหรับกำรหมักในตวั ถงั ) ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพอื่ รับรางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๔๑ 6. ทุก 1 – 2 สัปดำหค์ วรคนนำ้ หมกั ในถังเพ่ือให้ เช่อื จุลนิ ทรยี ์ขยำยตวั อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ กรองน้ำหมัก บรรจุใสข่ วดพลำสติกขนำด 1.5 ลิตร สูตร 2 สูตรต่อยอด อัตราส่วน 1 : 1 : 10 1. กรณใี ชถ้ งั ขนำด 100 ลติร 2. นำ้ น้ำหมักเก่ำ ( พรอ้ มใชง้ ำน ) จำนวน 10 กก. 3. ชง่ั กำกนำ้ ตำลจำนวน 10 กโิ ลกรัม 4. เตมิ นำ้ ซำวข้ำวจำนวน 100 กโิ ลกรมั 5. เตมิ พ.ด.6 จำนวน 1 ซอง 6. คนใหเ้ ขำ้ กันจนท่ัว 7. ปดิ ฝำ ( ไมต่ อ้ งปดิ ฝำให้สนทิ เพรำะว่ำจะมีกำรเกิดแก๊สสำหรับกำรหมักในตวั ถัง ) 8. บันทึกรำยกำรทำนำ้ หมักติดบนถังนำ้ หมกั 9. กรองน้ำหมักบรรจใุ สข่ วดพลำสติกขนำด 1.5 ลิตร 10. นำนำ้ √หมักไปเก็บไว้ในท่ที บึ แสง 4. ระยะเวลาดาเนินงาน เริ่มเม่ือ พฤษภำคม 2561 เสรจ็ สนิ้ เม่อื มีนำคม 2562 ตำมกำหนดเวลำ ก่อนกำหนดเวลำ หลงั กำหนดเวลำ 5. งบประมาณ จำนวน(บำท) - ที่ แหลง่ งบประมำณ 5.1 รำยรับจำกกำรจัดหำ 5.2 งบประมำณรำยจ่ำยทไี่ ดร้ ับอนมุ ตั ิ - 5.3 คำ่ ใชจ้ ่ำยจรงิ (รวม) 2,000 บันทึกเพ่ิมเติม จำนวนงบประมำณ 2,000 บำท สำหรับกำรลงทนุ ซ้ือกำกน้ำตำล สำหรับทำกำรหมกั นำ้ หมักกำจดั กลิน่ 6. วธิ กี ารติดตาม / เครือ่ งมือการประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ าน วิธกี ารประเมนิ เครื่องมอื การประเมนิ แหล่งขอ้ มูล/ผใู้ หข้ อ้ มูล ประเมนิ จำกกำรสงั เกต สังเกตกำรทำงำนของนำ้ หมัก - จำกห้องนำ้ ของแตล่ ะหอนอน กำจดั กลิ่น - จำกบริเวณคอกหมู ขอ้ มลู ประกอบการประเมินสถานศึกษาเพอ่ื รบั รางวลั พระราชทานระดบั มธั ยมศกึ ษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๔๒ 7. สรปุ ผลการดาเนินงานตามวตั ถุประสงค์ ท่ี วัตถปุ ระสงคแ์ ผนงาน/โครงการ/กิจกรรม สภาพความสาเรจ็ หมายเหตุ บรรลุ ไม่บรรลุ 1 ใชล้ ดหรอื กำจัดกลนิ่ เหม็น 2 เพิม่ จุลินทรยี เ์ พ่ือชว่ ยย่อยกำจัดส่งิ ปฏิกลู √ บริเวณคอกหมูไม่มกี ลิน่ เหม็น 3 ลดปญั หำน้ำเนำ่ เสีย √ √ 8. สรปุ ผลการดาเนนิ งานตามเป้าหมาย ท่ี เป้าหมายแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม สภาพ ความสาเรจ็ ผลการดาเนินงาน เชิงปรมิ าณ บรรลุ ไม่บรรลุ 1. นำ้ หมักมีปริมำณที่เพียงพอต่อหอ้ งน้ำในโรงเรยี น √ ใสห่ อ้ งนำ้ ทุกวันที่ เชงิ คณุ ภาพ 15 และ30 ของ 1. สำมำรถกำจดั กล่นิ ได้ ทกุ เดอื น √ 2. คอกหมูไม่มกี ลน่ิ เหมน็ √ ตัวบง่ ชคี้ วามสาเร็จ √ √ 1. สำมำรถกำจัดกล่ินเหมน็ ของห้องน้ำห้องส้วม ชว่ ยใหส้ ้วม เตม็ ชำ้ 2. กำจัดกลิ่นเหมน็ ของคอกหมูได้ 9. สรปุ ผลในภาพรวม 9.1 ผลการดาเนินงานเมอ่ื พจิ ารณาเปรยี บเทยี บกับวัตถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายที่กาหนดไว้ ต่ำกวำ่ มำก ตำ่ กว่ำเลก็ น้อย เท่ำกนั √ สูงกว่ำเลก็ น้อย สงู กวำ่ มำกบันทึกเพิ่มเติม ผลกำรดำเนินงำนเมอื่ พจิ ำรณำเปรียบเทียบกบั วตั ถปุ ระสงค์ และเปำ้ หมำยท่กี ำหนดไว้ สงู กว่ำ เลก็ นอ้ ย เน่อื งจำกว่ำประสทิ ธภิ ำพกำรทำงำนของน้ำหมกั สำมำรถกำจัดกลิน่ ของคอกหมไู ดอ้ ย่ำงชัดเจน บริเวณสวนเกษตรท่ีทำกำรเลย้ี งหมู ไม่เหม็นอจุ จำระหมู 9.2 ประเมินความสาเรจ็ ในภาพรวมคิดเป็นรอ้ ยละ 70% ( คดิ จำกคำ่ เฉล่ียของตวั บ่งชีค้ วำมสำเร็จ ) 9.3 จดุ เด่นของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครั้งน้ี สำมำรถกำจัดกลนื่ เหม็นของหอ้ งนำ้ หอ้ งสว้ มได้ และสำมำรถลดกลิน่ เหมน็ ของคอกหมูไดอ้ ยำ่ งชดั เจน ข้อมลู ประกอบการประเมินสถานศกึ ษาเพ่ือรบั รางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๔๓ 9.4 จุดท่คี วรพัฒนาของแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครัง้ น้ี ควรจะมกี ำรเพม่ิ ควำมหลำกหลำยของนำ้ หมัก 9.5 ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การพฒั นาแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมครัง้ ต่อไป จะพฒั นำสตู รของน้ำหมักให้มคี วำมหลำกหลำยมำกย่งิ ข้ึน การทานาหมกั กาจดั กลน่ิ เตรยี มเปลอื กสบั ปะรด ตามสตู รทกี่ าหนดไว้ ทาการชัง่ สว่ นผสมตามสูตรทกี่ าหนดไว้ เทส่วนผสมท่เี ตรียมไว้ใสถ่ ังท่ีจะทาการหมกั ขอ้ มลู ประกอบการประเมินสถานศึกษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่
ห น้ า | ๔๔ ทาการหมกั สตู รท่ี 1 ใชเ้ วลา 3 เดอื น และสตู รที่ 2 ใชเ้ วลา 1 เดอื น ทาการคนนาหมักทุกอาทิตย์ เพ่อื จุลนิ ทรยี จ์ ะไดท้ างานอยา่ งเต็มท่ี ข้อมูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพ่อื รับรางวัลพระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จังหวดั เชยี งใหม่
ห น้ า | ๔๕ ทาการกรองนาหมักใส่ขวดพลาสติก นาหมักกาจัดกลนิ่ พร้อมใช้งาน ขอ้ มูลประกอบการประเมินสถานศึกษาเพอ่ื รับรางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
ห น้ า | ๔๖ กจิ กรรมที่ 5 การเผยแพร่และการประชาสมั พนั ธ์ สนองกลยุทธ สศศ. ขอ้ ท่ี 1. กำรพัฒนำประสทิ ธิภำพกำรบริหำรจดั กำรศึกษำเพ่อื คนพกิ ำรและผู้ด้อยโอกำส สนองยทุ ธศาสตร์ สพฐ. ขอ้ ท่ี 3. ดำ้ นกำรจัดกำรศึกษำเพ่ือสร้ำงเสรมิ คุณภำพชวี ิตทเ่ี ปน็ มติ รกบั ส่ิงแวดล้อม สนองมาตรฐานการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน มาตรฐานที่ 2 กระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำรของผบู้ รหิ ำร สถำนศกึ ษำ สนองมาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาโรงเรียน พันธกจิ กลยุทธ์ เป้าประสงค์ ตวั ช้ีวัดความสาเร็จ 4. พัฒนำสถำนศึกษำ 7.พัฒ น ำหลัก สูตรและ 7 .1 ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ มี 7.1.1 สถำนศึกษำมีหลักสูตร ให้เป็นศูนย์กำรเรียนรู้ กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ ห ลั ก สู ต ร แ ล ะ ฐำน ก ำร เรีย น รู้ต ำม ห ลั ก ตำมหลักปรัชญำของ ต ำม ห ลั ก ป รัช ญ ำข อ ง ก ร ะ บ ว น ก ำร จัด ก ำร ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง เรียนรู้ตำมหลักปรัชญำ 7.1.2 สถำนศึกษำมีกำรจัด เศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกจิ พอเพียง ของเศรษฐกจิ พอเพียง กระบวนกำรเรียนรู้ท่ีบูรณำ กำรหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพยี งทุกกลมุ่ สำระฯ 7.1.3 สถำนศึกษำมีกำรน้อม นำโครงกำรอันเน่ืองมำจำก พระรำชดำริมำเป็นแนวทำง ใน ก ำ ร จั ด ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ใน ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ อ ย่ ำ ง ต่ อ เนื่ อ ง และย่ังยืน 1. วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื เปน็ กำรประชำสมั พันธก์ ำรดำเนินงำนโครงกำรบริหำรจดั กำรส่ิงแวดล้อมในโรงเรยี น 2. เปา้ หมาย/ตัวบ่งชค้ี วามความสาเรจ็ เชิงปรมิ าณ โรงเรยี นในสังกดั สำนักบรหิ ำรงำนกำรศกึ ษำพเิ ศษ เชิงคุณภาพ เอกสำรกำรประชำสมั พันธก์ ำรดำเนินงำนเป็นทีย่ อมรับและเป็นแบบอย่ำงได้ ตวั ชวี้ ัดความสาเร็จ โรงเรยี นมีกำรประชำสมั พันธ์ผลกำรดำเนนิ งำนของโรงเรยี น ทคี่ รอบคลุม ท่วั ถงึ และรวดเรว็ ขอ้ มูลประกอบการประเมนิ สถานศึกษาเพือ่ รบั รางวัลพระราชทานระดบั มธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จังหวัดเชยี งใหม่
ห น้ า | ๔๗ 3. วธิ ีดาเนนิ การ (ที่ปฏบิ ตั จิ รงิ ) การจัดทาวารสารขา่ วประชาสัมพันธป์ ระจาเดือน การเผยแพรผ่ ่านWebsite ของโรงเรยี น http://www.rpk31school.ac.th ข้อมูลประกอบการประเมนิ สถานศกึ ษาเพ่อื รับรางวลั พระราชทานระดับมธั ยมศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จงั หวัดเชียงใหม่
Search