โดย ดร. กฤษณาพร ทิพยก์ าญจนเรขา
วตั ถุประสงค์ 1. บอกหลกั การใชย้ าในการรักษาโรคเบ้ืองตน้ ได้ 2. บอกคุณสมบตั ิของยาแต่ละตวั ได้ 3. อธิบายความหมาย ความเหมาะสมของการใชย้ าสามญั ประจาบา้ นได้ 4. จาแนกกลุ่มของยาสามญั ประจาบา้ นได้ 5. เลือกใชย้ าในการรักษาโรคเบ้ืองตน้ ไดเ้ หมาะสมการประเมินผล การมีส่วนร่วมในช้นั เรียน การสอบ กลางภาค ปลายภาค
การใช้ยาสามญั ประจาบ้าน สมุนไพร การใช้ยาตามพระราชบญั ญัติยา
ยาสามญั ประจาบา้ น (HOUSE HOLD REMEDY)➢ ยาสามญั ประจาบา้ น เป็นช่ือเรียกของกลุ่มยา ท้งั แผนปัจจุบนั และแผน โบราณที่กระทรวงสาธารณสุขกาหนดใหเ้ ป็นยาสามญั ประจาบา้ น➢ ประชาชนทว่ั ไปที่ไม่ไดเ้ ป็นแพทยห์ รือผมู้ ีหนา้ ท่ีดาเนินการทางการ แพทยส์ ามารถใชไ้ ดอ้ ยา่ งไม่มีความอนั ตราย➢ เป็นการรักษาตนเองเบ้ืองตน้ ใชร้ ักษาอาการเจบ็ ป่ วยเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ท่ีไม่ มีอาการรุนแรง โดยผปู้ ่ วยหรือประชาชนสามารถใชร้ ักษาไดด้ ว้ ยตนเอง เช่น ไอ ปวดศีรษะ ถูกน้าร้อนลวก ทอ้ งอืด ทอ้ งเฟ้อ ถูกมีดบาด เป็นตน้ สามารถหาซ้ือไดท้ วั่ ไปโดยไม่ตอ้ งมีใบสง่ั แพทย์
ทาไม่ตอ้ งมี “ยาสามญั ประจาบา้ น”• ยาท่ีกระทรวงสาธารณสุขไดพ้ จิ ารณาคดั เลือกวา่ เป็นยาท่ีเหมาะสมสาหรับใหป้ ระชาชนหาซ้ือมาใช้ ดว้ ยตนเอง เพื่อการดูแลรักษาอาการเจบ็ ป่ วย เลก็ ๆนอ้ ยๆที่มกั จะเกิดข้ึนได้• มีความปลอดภยั สูง• ราคาไม่แพง• หาซ้ือมาใชไ้ ดด้ ว้ ยตนเอง
ขอ้ แนะนาทวั่ ไปในการใชย้ าสามญั ประจาบา้ น• มีขอ้ มูลเร่ืองยาที่ตอ้ งการใช้• ใชย้ าในช่วงเวลาอนั ส้นั• ยาน้าทุกชนิด ตอ้ งเขยา่ ขวดก่อนใช้• หากอาการไม่ดีข้ึนควรไปพบแพทยห์ รือเภสชั กร• หลีกเลี่ยงการใชย้ าท่ีไม่มีฉลากระบุตวั ยาและวธิ ีการใชย้ า• ในกรณีท่ีสงสยั วา่ แพย้ า ควรหยดุ ยาทนั ทีและรีบปรึกษาแพทย์ อยา่ เปลี่ยนยาเอง
กรณีต่อไปน้ีไม่ควรเลือกใชย้ าดว้ ยตวั เอง• กาลงั ใชย้ าบางชนิดอยเู่ ป็นประจา เช่น ยารักษาโรคความดนั โลหิตสูง เบาหวาน• อาการมีความรุนแรงหรือเป็นเร้ือรัง• กาลงั ต้งั ครรภห์ รือใหน้ มบุตร• ใชย้ าในเดก็ อายตุ ่ากวา่ 3 ปี หรือผสู้ ูงอายเุ กิน 60 ปี
ฉลากยาสามญั ประจาบา้ น ” ”““ ..
ยาสามญั ประจาบา้ นแผนปัจจุบนั ประกอบดว้ ย 16 กลุ่ม 58 รายการโดย ขนาด และวธิ ีการใชย้ า กาหนดใหค้ ณะอนุกรรมการพิจารณาตารับยาแผนปัจจุบนั ที่ใช้ สาหรับมนุษย์พิจารณาตามขนาด ท่ีถูกตอ้ งตามสูตร ตารับที่ผรู้ ับอนุญาต ขอข้ึนทะเบียนตารับยา
กลุ่มที่ 1 ยาแกป้ วดทอ้ ง ทอ้ งอืด ทอ้ งข้ึน ทอ้ งเฟ้อ• ยาแกท้ อ้ งอืด ทอ้ งเฟ้อ ยาธาตุน้าแดง ยาเมด็ แกท้ อ้ งอืด ทอ้ งเฟ้อ โซ ดามิ้นท์ (Soda mint)• ยาขบั ลม ยาน้าแกท้ อ้ งอืด ทอ้ งเฟ้อ โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate)• ยาทาแกท้ อ้ งอืด ทอ้ งเฟ้อ ทิงเจอร์มหาหิงค์• ยาเมด็ ลดกรด อะลูมินา-แมกนีเซีย (Alumina-Magnesia)• ยาน้าลดกรด อะลูมินา-แมกนีเซียม (Alumina-Magnesia)
กลุ่มท่ี 2 ยาแกท้ อ้ งเสีย• ยาแกท้ อ้ งเสีย ผงน้าตาลเกลือแร่ โออาร์เอส (ORS, Oral rehydration salt)
กลุ่มท่ี 3 ยาระบาย• ยาระบายกลีเซอรีน (Glycerine) ชนิดเหน็บทวารหนกั สาหรับเด็ก• ยาระบายกลีเซอรีน ชนิดเหน็บทวารสาหรับผใู้ หญ่• ยาระบายแมกนีเซีย• ยาระบายมะขามแขก• ยาระบายโซเดียมคลอไรด์ (Sodium chloride) ชนิดสวนทวาร
กลุ่มท่ี 4. ยาถ่ายพยาธิลาไส้ ถ่ พ ธิตวกล เี ด โซล• ในสตู รตำรบั 1 เม็ด ประกอบดว้ ยตวั ยำสำคญั คอื Mebendazole 100 mg.
กลุ่มที่ 5 ยาบรรเทาปวด ลดไข้• ยาเมด็ บรรเทาปวด ลดไข้ พาราเซตามอล (Paracetamol) ขนาด 500 มก. และขนาด 325 มก.• ยาน้า บรรเทาปวดลดไข้ พาราเซตามอล• ยาเมด็ บรรเทาปวดลดไข้ แอสไพริน (Aspirin) 325 มก.• พลาสเตอร์บรรเทาปวด
กลุ่มท่ี 6 ยาแกแ้ พ้ ลดน้ามูก • ยาเมด็ แกแ้ พล้ ดน้ามูก คลอร์เฟนิรามีน (Chlopheniramine) กลุ่มที่ 7 ยาแกไ้ อ ขบั เสมหะ • ยาน้าแกไ้ อ ขบั เสมหะสาหรับเดก็ • ยาแกไ้ อน้าดา กลุ่มท่ี 8 ยาดมหรือยาทาแกว้ งิ เวยี น หนา้ มืด คดั จมูก• ยาดมแกว้ งิ เวยี น เหลา้ แอมโมเนียหอม• แกค้ ดั จมูก ยาทาระเหย บรรเทาอาการคดั จมูกชนิด ข้ีผ้งึ
กลุ่มที่ 9 ยาแกเ้ มารถ เมาเรือ• ยาแกเ้ มารถ เมาเรือ ยาไดเมนไฮดริเนท (Dimenhydrinate)กลุ่มท่ี 10 ยาสาหรับโรคตา• ยาหยอดตา ซลั ฟาเซตาไมด์ (Sulfacetamide) รักษาอาการตาแดง ตาอกั เสบ จากโรคติดเช้ือ• ยาลา้ งตา ใชล้ า้ งตาเพอื่ บรเทาอาการแสบตา ระคายเคืองตา
กลุ่มท่ี 11 ยาสาหรับโรคปากและลาคอ• ยากวาดคอ บรรเทาอาการอกั เสบ และเจบ็ ในลาคอ ยารักษาลิ้นเป็ นฝ้า• เยนเช่ียนไวโอเลต (Gentian violet)• ยาแกป้ วดฟัน• ยาอมบรรเทาอาการระคายคอ
กลุ่มท่ี 12 ยาใส่แผล ยาลา้ งแผล (ยาใชภ้ ายนอก)• ยาใส่แผล ทิงเจอร์ไอโอดีน (Tincture iodine)รักษาแผลสด• ยาใส่แผล ทิงเจอร์ไทเมอรอซอล (Tincture thimerosal) รักษา บาดแผล• ยาใส่แผลโพวิโดน ไอโอดีน (Povidone iodine)รักษาแผลสด• ยาไอโซโบรฟิ ล แอลกอฮอล์ (Isopropyl alcohol) ทาความสะอาด บาดแผล• ยาเอทธิล แอลกอฮอล์ (Ethyl alcohol) ทาความสะอาดบาดแผล• น้าเกลือลา้ งแผล ทาความสะอาดบาดแผล (NSS)
กลุ่มที่ 13 ยารักษาแผลติดเช้ือไฟไหม้ น้าร้อนลวก• ยารักษาแผลน้าร้อนลวกฟี นอล (Phenal) ยารักษาแผลติดเช้ือซิลเวอร์ ซลั ฟาไดอาซีน ครีม (Silver sulfadiazine cream) กลุ่มท่ี 14 ยาบรรเทาอาการปวดกลา้ มเน้ือ แมลงกดั ต่อย • ยาหม่อง ชนิดข้ีผ้งึกลุ่มที่ 15 ยาสาหรับโรคผิวหนงั• ยารักษาหิด ข้ึผ้งึ กามะถนั ยารักษากลากเกล้ือน น้ากดั เทา้ ยารักษาโรค ผวิ หนงั เร้ือรัง Coal Tar• ยารักษาหิด เหา และโลน ยา เบนซิล เบนโซเอต (Benzyl benzoate)• ยาทาแกผ้ ดผนื่ คนั คาลาไมน์ (Calamine lotion)• ยารักษาเกล้ือน โซเดียมไทโอซลั เฟต (Sodium thiosulfate)
กลุ่มท่ี 16 ยาบารุงร่างกาย•ยาเมด็ วิตามินบีรวม ยาเมด็ วติ ามินซี 100 มก.•ยาเมด็ บารุงโลหิต เฟอร์รัส ซลั เฟต (Ferrous sulfate)•ยาเมด็ วติ ามินรวม ยาน้ามนั ตบั ปลา ชนิดแคปซูล•ยาน้ามนั ตบั ปลาชนิดน้า
Do you have a question?
การใชย้ าอยา่ งสมเหตุผล(Rational Drug Use: RDU) ด . กฤษณ พ ทพิ ์ก เ ข
ขอบเขตการเรียน•ท่ี คว ค•คว ห ก ใช เหตุผล•ข้ ตอ แล ก อ แ วคดิ ใ ก ใช อ ่ ง เหตุผล•ตวอ ่ งก ใช ท่ไี ่ เหตุผล
ทีม่ าความสาคญั• มีการใช้ยาไม่เหมาะสมมากกว่าร้อยละ 50 ของการใช้ยา • ยาปฏชิ ีวนะ มกี ารสั่งใช้อย่างไม่สมเหตุผลในอตั ราทส่ี ูงมาก (ร้อยละ 41-91) • การใช้ยาอย่างไม่สมเหตุเกดิ ได้กบั ยาทุกกล่มุ และกบั ผู้สั่งใช้ยาทุกระดบั• ผลเสีย • ทาให้มกี ารใช้ยาทีไ่ ม่จาเป็ น เพม่ิ ความเส่ียงจากการใช้ยา • ทาให้เกดิ ปัญหาเชื้อดือ้ ยาในวงกว้าง • สร้างความสิ้นเปลืองให้แก่ระบบประกนั สุขภาพ และตวั ผู้ป่ วยเอง • กระทบต่อระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ โดยไม่ช่วยแก้ไขปัญหาการ เจบ็ ป่ วยของผู้ป่ วย
การใช้ยาอย่างสมเหตุผล หมายถงึ“การใชย้ าโดยมีข้อบ่งชี้ เป็นยาท่ีมปี ระสิทธิผลจริง สนบั สนุนดว้ ยหลกั ฐานที่เชื่อถือได้ ใหป้ ระโยชนท์ างคลินิกเหนือกวา่ ความเสี่ยงจากการใชย้ าอยา่ งชดั เจน มีราคาเหมาะสม คุม้ ค่าตามหลกั เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข ไม่เป็นการใช้ยาอย่างซ้าซ้อน คานึงถึงปัญหาเช้ือด้ือยา เป็นการใชย้ าในกรอบบญั ชียายงัผลอยา่ งเป็นข้นั ตอนตามแนวทางการพิจารณาการใชย้ า โดยใชย้ าในขนาดที่พอเหมาะกบั ผปู้ ่ วยในแต่ละกรณี ดว้ ยวธิ ีการให้ยาและความถใี่ นการใหย้ าที่ถูกตอ้ งตามหลกั เภสชั วทิ ยาคลินิก ดว้ ยระยะเวลาการรักษาท่ีเหมาะสม ผปู้ ่ วยใหก้ ารยอมรับ และสามารถใชย้ าดงั กล่าวไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและต่อเนื่อง กองทุนในระบบประกนั สุขภาพหรือระบบสวสั ดิการสามารถใหเ้ บิกจ่ายค่ายาน้นั ได้อยา่ งยง่ั ยนื เป็นการใชย้ าท่ีไม่เลือกปฏิบตั ิเพ่ือใหผ้ ปู้ ่ วยทุกคนสามารถใชย้ าน้นัไดอ้ ยา่ งเท่าเทียมกนั และไม่ถูกปฏิเสธยาที่สมควรไดร้ ับ”
ก อ แ วคิดใ ก ใช อ ่ ง เหตุผลแล ตวอ ่ ง1. ข้อบ่งชี้ (Indication)• ใช้ยาเม่ือมีความจาเป็ น (เกิดประโยชน์มากกวา่ โทษ) ตัวอย่าง • การให้ยาลดไขมนั ในผู้ป่ วยทไ่ี ขมนั ในเลือดสูงและมคี วาม เสี่ยงต่อการเกดิ โรคหลอดเลือดหัวใจ • การใช้ยา ABO ในผู้ป่ วยทเี่ ป็ นหวดั ทไ่ี ม่มกี ารตดิ เชื้อ แบคทเี รีย • การให้ยาคลายกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ • เวยี นหัว ท้องผูก ง่วงซึม ปากแห้ง ความจาเสื่อม
ก อ แ วคดิ ใ ก ใช อ ่ ง เหตุผลแล ตวอ ่ ง2. ประสิทธิผล (Efficacy)ยาน้นั เป็นประโยชนต์ ่อผปู้ ่ วยอยา่ งแทจ้ ริง➢ ดูกลไกการออกฤทธ์ิ ❖ ยาคลายกล้ามเนื้อ ใช้ในโรคกล้ามเนื้อหดเกร็ง ไม่ใช่ใช้ในโรคทีม่ กี าร อกั เสบของกล้ามเนื้อ เช่น RA, OA ❖ มหี ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์สนับสนุนเพยี งพอ • พาราเซตามอล ใช้แก้ปวดลดไข้ • กลูโคซามนี ใช้ลดภาวะข้อเสื่อม ยงั มขี ้อขดั แย้งประโยชน์แตกต่างจากยาหลอกและมคี วามหมายทางคลนิ กิ • ยาลดบวม ผลไม่ต่างจากยาหลอก • ใชย้ า bromhexine ลดเสมหะได้ 4 ml (ผปู้ ่ วยแยกความต่างไม่ได)้
ก อ แ วคิดใ ก ใช อ ่ ง เหตุผลแล ตวอ ่ ง3. ความเสี่ยง (Risk)➢คานึงถึงความปลอดภยั ของผปู้ ่ วยเป็นหลกั • ประโยชน์มากกวา่ โทษ • ยาลดไขมนั ในผปู้ ่ วยไขมนั สูง หรือผปู้ ่ วยเบาหวานที่มี ความเส่ียงโรคหวั ใจ • การใชย้ าคลายกลา้ มเน้ือ (Orphenadrine) ในผสู้ ูงอายุ • ไม่มีขอ้ หา้ มในผปู้ ่ วย • การใช้ Simvastatin Atorvastatin พาราเซตามอล ในคนที่เป็ นโรคตบั • การใชแ้ อสไพรินในเดก็ ต่ากวา่ 12 ปี
ก อ แ วคดิ ใ ก ใช อ ่ ง เหตุผลแล ตวอ ่ ง4. ค่าใช้จ่าย (Cost)• ใชย้ าอยา่ งพอเพียงและคุม้ ค่า •การใชย้ าตามช่ือสามญั (พาราเซตามอล กบั ไทลินอล) •การใชย้ าตน้ แบบท่ีผลิตจากต่างประเทศ •ยากลุ่มยบั ย้งั COX-II กบั NSAIDs
ก อ แ วคดิ ใ ก ใช อ ่ ง เหตุผลแล ตวอ ่ ง5. องค์ประกอบอื่น ๆ ที่จาเป็ น (Other considerations) • รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั รับผดิ ชอบและใชย้ าอยา่ งเป็น ข้นั ตอนตามมาตรฐานทางวชิ าการ • ไม่ใชย้ าซ้าซอ้ น: Norgesic กบั พาราเซตามอล • ไม่ใชย้ าพร่าเพร่ือ: ยาปฏิชีวนะ • ใชย้ าตามแนวทางการรักษา • ใชพ้ าราเป็นยาตวั แรกในการรักษาเข่าเสื่อมอาการเลก็ นอ้ ย
ก อ แ วคิดใ ก ใช อ ่ ง เหตุผลแล ตวอ ่ ง6. ขนาดยา (Dose)• ใชย้ าถูกขนาด ไม่นอ้ ยหรือมากเกินไป ไม่ปรับยาเอง7. วธิ ีให้ยา (Method of administration)• ใชย้ าถูกวธิ ี • ยาก่อนอาหาร กินตอนทอ้ งวา่ ง • หลีกเล่ียงการใชย้ าฉีดโดยไม่จาเป็น • หลงั พน่ ยาสเตียรอยดค์ วรบว้ นปาก • ยาหยอดจมูกแกค้ ดั จมูกไม่ควรใชเ้ กิน 3 วนั
ก อ แ วคิดใ ก ใช อ ่ ง เหตุผลแล ตวอ ่ ง8. ความถีใ่ นการให้ยา• ใชย้ าดว้ ยความถ่ีท่ีเหมาะสม • Amoxicillin ใชว้ นั ละ 2-3 คร้ัง (ไม่ควรใช้ 4 คร้ัง) • Cloxacillin ใชว้ นั ละ 4 คร้ัง9. ระยะเวลาในการให้ยา (Duration of treatment) • ใชย้ าในระยะเวลาการรักษาท่ีเหมาะสม ไม่นานหรือส้นั เกินไป • การใช้ยารักษาแผลในกระเพาะควรใช้ต่อเน่ือง 4 สัปดาห์ • การใช้ยารักษาสิวใช้ต่อเนื่อง 6-8 สัปดาห์
ก อ แ วคดิ ใ ก ใช อ ่ ง เหตุผลแล ตวอ ่ ง10. ความสะดวก (Patient compliance)• ใชย้ าโดยคานึงถึงความสะดวกและการยอมรับของผปู้ ่ วย • อธิบายหรือให้ข้อมูลให้ผู้ป่ วยเข้าใจ • Tretinoin ชนิดทาทาให้ระคายเคือง สิวเห่อในสัปดาห์แรก หลกี เลยี่ งแสงแดด • เลือกยาท่ใี ช้สะดวก เช่น กนิ วนั ละ 1-2 คร้ังมากกว่ากนิ วนั ล 3-4 คร้ัง • มกี ารตรวจสอบความเข้าใจและตดิ ตามผลการใช้ยาทุกคร้ัง
ตวอ ่ งฉล ก
ตัวอย่างการใช้ยาไม่เหมาะสมท่พี บบ่อย• ยาระบาย นามาใชเ้ ป็นยาลดความอว้ น • ไม่มีขอ้ บ่งใช้ ไม่มีหลกั ฐานทางิชาการสนบั สนุน กลไกการออก ฤทธ์ิไม่สนบั สนุน• พาราเซตามอล • ปกติกินวนั ละไม่เกิน 4 กรัม กินติดต่อกนั ไม่เกิน 5 วนั หลีกเลี่ยง การใชใ้ นคนที่เป็น G-6PD ผทู้ ่ีดื่มสุราหรือสูบบุหร่ี • ปัญหาที่เจอ: • กินติดต่อกนั ทุกวนั มีการกินยาในคนที่ดื่มสุรา • กินยาเกินขนาด
ตวั อย่างการใช้ยาไม่เหมาะสมทพี่ บบ่อย• ไม่สบายต้องฉีดยาจงึ จะหาย• การหยุดยาเอง หรือปรับยาเอง• การกนิ ยาปฏิชีวนะพร่าเพร่ือ • ท้องเสีย เจบ็ คอ• การฉีดยาให้ผวิ ขาว • กลูตา • วติ ามนิ ซี
ก ใช ใ ก กษ โ คเ ือ้ งต ห พ ลหลกก ท่วไ ใ ก ใช ใ ก กษ โ คเ อื้ งตผูใหตอง อ ถ ขอ ูลต่อไ ี้ 1. ก แพ แพอ ห ห ือ เค ี 2. ท่ใี ช หี ือไ ่ 3. ตง้ ค ภ์ ห ือให ุต อ ู่ห ือไ ่ 4. ีโ ค ตวห ือไ ่พ ลผูใช ตองค ึงถงึ กลุ่ เ ่ี งใ ก ใชไดแก่ เดก็ ผู ูงอ ุ แล ผู ่ ว โ ค ต ไต
กลุ่ ท่ใี ช ่อ ใ ก กษ โ คเ อื้ งต❖ กลุ่ แก วดลดไข❖ กลุ่ NSAIDS❖ แกแพเฉี พล /ช็อก❖ กลุ่ ใ ท งเดิ ห ใ (Respiratory Drugs)❖ แกแพ (Antihistamines)❖กลุ่ ท่ใี ช ท งเดิ อ ห❖ กลุ่ ฏชิ ีว (Antibacterial drugs)
กลมุ่ ยาแก้ปวดลดไข้1. พาราเซตามอล (Paracetamol, Acetaminophen)รูปแบบ ยาเมด็ ยาน้าน้าเชื่อมขนาดและวิธีใช้• รับประทาน 10-15 มก/กก. ท้งั ในเดก็ และผใู้ หญ่• ผใู้ หญ่ ทุก 4-6 ชม. ไม่เกิน 4 กรัมต่อวนั (ไม่เกิน 8 เมด็ สาหรับยาขนาน 500 mg• เดก็ ไม่ควรใชย้ าเกิน 5 คร้ังต่อวนัอขอคว วง อี ไ ง ????
กลมุ่ ยาแก้ปวดลดไข้2. Ibuprofenรูปแบบ ยาเมด็ 200 mg, 400 mg, ยาน้าเชื่อม 100 mg/ชอ้ นชาผใู้ หญ่ รับประทาน 200-400 mg ใชซ้ ้าได้ ทุก4-6 ชม. ไม่เกิน 1200 mg. ต่อวนัเดก็ อายุ 6 เดือน-12 ปี รับประทาน 4-1 mg/kg./คร้ัง ทุก6-8 ชม. ไม่เกิน 40 mg/kg/day ขอคว วง ีอ ไ ง ????
กลุ่ NSAIDS❖ เป็นกลมุ่ ยาท่ีถกู นามาใช้เพอ่ื บรรเทาอาการปวดจากสาเหตตุ า่ งๆ ไม่วา่ จะเป็น กล้ามเนือ้ และเอน็ อกั เสบ ข้ออกั เสบ ปวดประจาเดอื น ปวดศีรษะและ ไมเกรน ปวดฟัน ปวดหลงั ทาการผ่าตดั และอาการปวดอนื่ ๆ ตวอ ่ ง ท่ใี ช ่อ 1. Ibuprofen 2. Diclofenac 3. Indomethacin 4. Mefanamic acid 5. Naproxen 6. Piroxicam
กลุ่ม NSAIDSDOSE สาหรับลดอาการปวด อกั เสบกล้ามเนื้อและข้อ: diclofenac – 25-50 mg TID Max 150 mg/day: indomethacin – 25-50 mg TID Max 200 mg/day: ibuprofen – 400-800 mg TQID Max 3.2 g/day: naproxen – initial 500 mg then 250 mg q 4 hr. Max 1250 mg/day: mefenamic acid - initial 500 mg then 250 mg q 4 hr.: piroxicam – 10 mg BID or 20 mg OD Max 40 mg/day
กลุ่ NSAIDS ี้ ีผลข งเคี งท่ผี ู ท ตองท1. ปัจจยั เสยี่ งตอ่ โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด• ยากลมุ่ NSAIDs จะเพ่มิ ความเสี่ยงในการเกิดโรคกล้ามเนือ้ หวั ใจขาด เลอื ด โรคหลอดเลือดสมอง ความเสยี่ งนีจ้ ะเพมิ่ ขนึ ้ เม่ือใช้ยานีเ้ป็นเวลานาน และมีปัจจยั เสย่ี งตอ่ การเกิดโรคหวั ใจและหลอดเลือด• ยา NSAIDs ห้ามระงบั อาการปวดหลงั ผ่าตดั หลอดเลอื ดหวั ใจ2. ปัจจยั เสยี่ งตอ่ ระบบทางเดินอาหาร• ยากลมุ่ NSAIDs จะเพ่มิ ความเสีย่ งในการเกิดโรคแทรกซ้อนทางเดิน อาหารได้แก่ เลอื ดออกทางเดินอาหาร แผลกระเพาะอาหาร กระเพาะทะลุ
แกแพเฉี พล /ช็อก ฉีด Adrenaline injection (1: 1000) 1 mg/ ml ใุหลอด 1 mlขอ ่งใช1. ใชแกอ ก แพท่ี ุ แ งต่ งๆ เช่ ล พษิ ช ิด ุ แ ง แพ ีอ ก หอ หดืชอ็ ค แ ลงกดต่อ2. กษ อ ก หดื อ ่ ง ุ แ ง โด ีฤทธ์ิข หลอดล3. ใชห เลือดท่อี อก กเ เลือด เช่ ใชผ ก๊อชชุ ีอ้ ุด ูก กษ เลือดก เด ไหลข ดแล วธิ ีใช เท อ ก หดเก ็งของหลอดล อ ่ งเฉี พล ใ ภ ว ชอ็ ค ห ือAnaphylaxisผูให ่ : ฉีดเข ใตผิวห ง ห ือเข กล 0.2-0.5 ิลลิก ข ด ูง ุดท่ใี หไดคอื 1 ิลลกิ อ ใหซ้ ทุก 15 ที 2 ค ง้ ต่อ ก ้ ให ซ้ ทุก 4 ช่วโ งเดก็ : ฉีดเข ใตผิวห ง 0.01 ิลลิก ต่อ ้ ห กตว 1 กโิ ลก ข ด ูง ุดท่ใี หไดคอื0.5 ลิ ลกิ (ใ ท่เี ็ Anaphylactic Shock คว ฉีด IM ไ ่คว ใหใตผิวห งSC)
แกแพเฉี พล /ช็อก ฉีด Adrenaline injection (1: 1000) 1 mg/ mlอ ก ข งเคี ง• ท ใหเกดิ อ ก ใ ่ วดศี ษ• ก ฉีดซ้ ิเวณเดิ อ ท ใหเ ือ้ เ ่อื ิเวณ ้ ต ไดค เตือ ขอห ใช แล ขอคว วง1. ใช อ ่ ง ด วงใ ผู ่ ว ูงอ ุ ท ก แล เดก็ ผู ่ ว โ คหวใแล หลอดเลือด คว ด โลหติ ูง โ คเ หวโ คหดื Hyperthyroidism2. ห ใชใ ผู ่ ว ตอหิ ท่เี ็ แ Closed Angle Glaucoma
กลุ่มยาในระบบทางเดนิ หายใจ (Respiratory Drugs)1. แกไอข เ ห (Antitussives/Expectorant) เช่❖ Guaifenesin (glyceryl guaiacolate)ข ดท่ใี ชผูให ่ 100 ิลลกิ ทุก 3 -4 ช่วโ งต ตองกเดก็ 6-12 ขว 50 ิลลิก ทกุ 3-4 ช่วโ งเดก็ 2-6 ขว 25 ิลลิก ทุก 3-4 ช่วโ ง❖ Dextromethorphanข ดท่ใี ช• ผูให ่ 15-30 ลิ ลกิ ว ล 3-4 ค ง้• เดก็ ใชข ด 1 ิลลกิ ต่อ ้ ห กตว 1 กิโลก ต่อว โด แ ่งให 3-4 ค ง้❖ Bromhexine เช่ Bisolvon• กเ็ ช่ เดี วก ก Acetylcysteine คอื ีล้ ดคว ห ืดข ของเ หข ดท่ใี ช คือ 8-16 ลิ ลกิ ทุก 6-8 ช่วโ ง
กลุ่มยาในระบบทางเดนิ หายใจ (Respiratory Drugs) ต่อ1. แกไอข เ ห (Antitussives/Expectorant) เช่ กก❖ ิ ต์ กิลแอ ่อ (Mist Scill Ammonข ดท่ใี ชผูให ่ กิ ค ง้ ล 1 ชอ โต๊ เดก็ โตกิ ค ง้ ล 1-2 ชอ ชเดก็ เล็ก กิ ค ง้ ล 1 ชอ ช ว ล 3-4 ค ง้ ี้ ี เฝ่ื อ อ กิ ิด ีต้ ง้ ทงิ้ ไว ตกต กอ คว เข ่ ขวดก่อ กิ ทุกค ง้❖ แกไอ ้ ด M. Tussis (Brown's Mixture)ข ดท่ใี ชผูให ่ ท ค ง้ ล 1-2 ชอ ช ว ล 3-4 ค ง้เดก็ 6-12 ี ท ค ง้ ล ค ่ึงถงึ 1 ชอ ช ว ล 3-4 ค ง้
ยาแกแ้ พ้ (Antihistamines)ท่ใี ช ่อ ไดแก่1. Chlorpheniramine (CPM)2. Hydroxyzine (Atarax)3. Cetirizine4. Loratadine5. Dimenhydrinate (Dramamine)
Search