Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

Published by tadatip2529, 2021-09-23 10:12:47

Description: ชุดกิจกรรมการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ เร่ือง พระพทุ ธศาสนากับการดาเนินชีวติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ นางสาวธาดาทพิ ย์ รักทอง ตาแหน่ง ครู โรงเรยี นวัดหนงั สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

ก คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สังคมศึกษา เรื่อง พระพุทธศาสนากับการดาเนินชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เป็นชุดกิจกรรมท่ีจัดทาข้ึน จานวน ๕ ชุด เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส ๑๕๑๐๑ ช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี ๕ โรงเรียนวัดหนัง แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร เพ่ือให้ผู้เรียนบรรลุการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด และวัตถุประสงค์ ที่กาหนดไว้ ชุดกิจกรรม การเรียนรู้น้ี เป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ืองพระพุทธศาสนากับการดาเนินชีวิต ประกอบด้วย ส่วนประกอบ ท่สี าคัญของชดุ กจิ กรรมประกอบดว้ ยเนือ้ หาความรู้ และแบบฝึกที่นกั เรียนสามารถศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเองได้ ขอขอบคุณท่านผู้อานวยการขนบภรณ์ แก้วคงคา และคณะครูในโรงเรียนทุกท่าน ที่ให้คาปรึกษาและ เป็นกาลังใจในการจัดทาชุดกิจกรรมจนสาเร็จด้วยดี ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมเรื่องนี้คงจะเป็น ประโยชน์ต่อผู้เรียน และผู้ท่ีสนใจในการศึกษาค้นคว้าสามารถยกระดับคุณภาพการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรมเป็นอย่างดี ธาดาทพิ ย์ รักทอง

สำรบัญ ข เรอื่ ง หน้ำ คานา ก สารบญั ข คาชี้แจง ๑ คาแนะนาสาหรับครผู สู้ อน ๒ คาแนะนาสาหรับนกั เรยี น ๓ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ๔ สาระการเรียนรู้ ๕ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๖ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ๗ ชุดที่ ๑ พระรัตนตรยั ๑๑ ๑๒ ใบความรู้ ๑๓ ใบงาน เร่ือง พระรตั นตรยั ๒๑ ชดุ ที่ ๒ ศรทั ธา ๔ ๒๒ ใบความรู้ ๒๘ ใบงาน เรอ่ื ง ศรทั ธา ๔ ๓๐ ชุดท่ี ๓ พุทธจรยิ า ๓ ๓๑ ใบความรู้ ๓๓ ใบงาน เรื่อง พุทธจริยา ๓ ๓๕ ชุดที่ ๔ อริยสัจ ๔ ๓๖ ใบความรู้ ๔๑ ใบงาน เร่ือง อริยสจั ๔ ๔๓ ชุดท่ี ๕ หลกั กรรม ๔๔ ใบความรู้ ๔๖ ใบงาน เร่ือง หลักกรรม ๔๘ แบบทดสอบหลงั เรียน ๕๔ ภาคผนวก ๕๕ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น ๕๖ เฉลยใบงานท่ี ๑ - ๑๐ ๖๖ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น ๖๗ บรรณานกุ รม

๑ คำชแี้ จง ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้สงั คมศึกษา เรือ่ ง พระพทุ ธศาสนากับการดาเนินชวี ติ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เล่มน้ี จัดทาโดยกาหนดเน้ือหาและมาตรฐาน การเรียนรู้ และตัวช้ีวัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๖๑ มีความ มุ่งหวัง เพ่ือให้ผู้เรียนได้ใช้ประกอบการเรียนรู้และส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าทาความเข้าใจด้วยตนเอง การจัดทา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สังคมศึกษา เรื่อง พระพุทธศาสนากับ การดาเนินชีวิต ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๕ ได้มีการจัดแบ่ง ออกเป็นชุดกิจกรรม ๕ ชุด ดังนี้ ชุดกิจกรรมท่ี ๑ เรื่อง พระรตั นตรยั ชดุ กจิ กรรมท่ี ๒ เร่อื ง ศรัทธา ๔ ชุดกิจกรรมท่ี ๓ เร่ือง พุทธจริยา ๓ ชุดกิจกรรมท่ี ๔ เรื่อง อริยสัจ ๔ ชุดกิจกรรมที่ ๕ เร่ือง หลักธรรม ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ชุดกิจกรรมการเรียนรู้น้ี จะเป็นประโยชนต์ อ่ ผู้ท่ีสนใจศึกษา บรรลุ จุดมุ่งหมาย ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องนาไปประยุกต์ใช้ เป็นกิจกรรม ท่เี สริมในบทเรียนได้เปน็ อย่างดี

๒ คำแนะนำสำหรบั ครผู ูส้ อน เรื่องที่ ๑ พระรตั นตรัย เรอ่ื งที่ ๒ ศรัทธำ ๔ เรื่องท่ี ๓ พุทธจรยิ ำ ๓ เร่อื งที่ ๔ อริยสจั ๔ เรื่องท่ี ๕ หลกั ธรรม การจัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรอื่ ง พระพุทธศาสนากับการดาเนนิ ชีวิต ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้เวลา ๕ ช่วั โมง กิจกรรมภายในเล่มประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน บทเรียนจานวน ๕ เร่ือง กิจกรรมเสริมการเรียนรู้ แบบทดสอบหลงั เรียน และแบบเฉลยในภาคผนวก ครผู สู้ อนควรปฏิบตั ิ ดังนี้ ๑. ขั้นเตรยี มกำรสอน ๑.๑ ศึกษาแผนการจัดการเรียนรู้และชดุ กจิ กรรมอย่างละเอยี ดจนเขา้ ใจเปน็ อยา่ งดี ๑.๒ ตรวจสอบชดุ กิจกรรม สอื่ การเรียนรู้ ๑.๓ ในกรณที ีม่ ีการแบ่งกลุม่ ใหแ้ บง่ กลุ่มนักเรียนโดยคละความสามารถ (เกง่ ปานกลาง ออ่ น) และคละเพศชาย - หญิง ๑.๔ กาหนดบทบาทหนา้ ทใี่ หส้ มาชิกในกลุ่มทราบถึงการปฏิบัตติ น

๓ คำแนะนำสำหรับครผู ู้สอน ๒. ข้ันดำเนนิ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ๒.๑ ครแู จกชดุ กจิ กรรม ๒.๒ ครแู จ้งวตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้และช้ีแจงการใชช้ ดุ กิจกรรมให้นักเรียนทราบกอ่ นลงมือปฏบิ ัติ ๒.๓ ครใู หน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพือ่ ศึกษาระดับความรูพ้ ้ืนฐานของนกั เรยี น ๒.๔ ครใู หน้ กั เรียนศึกษาชดุ กจิ กรรมและปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามข้ันตอน ดงั นี้ ๑) ศกึ ษาเนือ้ หาบทเรียน ๒) ทากิจกรรม ๒.๕ ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เพอ่ื ศกึ ษาพัฒนาการเรยี นรู้ของนกั เรียน ๓. ขัน้ ประเมนิ ผล ๓.๑ ครูตรวจแบบทดสอบและกิจกรรม ๓.๒ บนั ทึกคะแนน ประเมินผลตามเกณฑก์ ารวดั ผลและประเมนิ ผล ๓.๓ หากนกั เรยี นคนใดยงั ทาแบบทดสอบหลงั เรียนและกจิ กรรมไม่ผา่ นร้อยละ ๖๐ ให้ศึกษาชดุ กจิ กรรมตาม ขน้ั ตอนใหม่อกี คร้ัง ๓.๔ เสรมิ แรงและใหก้ าลงั ใจแกน่ ักเรียนอย่างเหมาะสม ท้ังน้ีครสู ามารถชว่ ยเหลอื โดยการอธิบายให้นกั เรยี นทไ่ี ม่เข้าใจบทเรยี นตามศักยภาพของนกั เรยี นแต่ละคน

๔ คำแนะนำสำหรบั นกั เรียน ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่ือง พระพุทธศาสนากับการดาเนินชีวิต ชุดน้ีใช้ประกอบการเรียน การสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ นกั เรยี นควรตัง้ ใจทากิจกรรมดังนี้ ๑. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน จานวน ๒๐ ขอ้ ด้วยความตง้ั ใจ ๒. ตัง้ ใจทากจิ กรรมดังนี้ ๒.๑ ชุดกจิ กรรมท่ี ๑ เรอื่ ง พระรัตนตรยั ๒.๒ ชดุ กจิ กรรมที่ ๒ เร่อื ง ศรัทธา ๔ ๒.๓ ชุดกจิ กรรมท่ี ๓ เรอื่ ง พทุ ธจรยิ า ๓ ๒.๔ ชุดกจิ กรรมท่ี ๔ เรอื่ ง อริยสัจ ๔ ๒.๕ ชุดกิจกรรมท่ี ๕ เรอ่ื ง หลกั ธรรม ด้วยความต้งั ใจเมื่อสงสัยใหถ้ ามครู ๓. ทาแบบทดสอบหลงั เรียนจานวน ๒๐ ขอ้ ๔. ร่วมกับครตู รวจแบบฝกึ และแบบทดสอบเพือ่ วดั ผลความกา้ วหน้าในการเรยี นรู้ ๕. นกั เรียนต้องต้ังใจปฏบิ ตั ิกิจกรรมอย่างจริงจัง ในการประกอบกิจกรรมทุกคร้ังนักเรียน ควรมีความ ซือ่ สัตย์ต่อตนเอง ไมด่ ูเฉลยกอ่ นทากจิ กรรมเสร็จ ๖. นกั เรยี นมีข้อสงสยั หรอื เกิดปัญหาใหถ้ ามครูผสู้ อน

๕ มำตรฐำนกำรเรยี นรแู้ ละตัวชว้ี ดั มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ส ๑.๑ รแู้ ละเข้าใจประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนับถอื และศาสนาอ่ืน มีศรทั ธาทีถ่ กู ตอ้ ง ยึดมั่น และปฏิบัตติ ามหลักธรรม เพ่ืออยูร่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ติสุข ตัวช้วี ดั ส ๑.๑ ป.๕/๕ แสดงความเคารพพระรันตรยั และปฏิบตั ติ ามไตรสกิ ขาและหลกั ธรรมโอวาท ๓ ใน พระพทุ ธศาสนาหรอื หลกั ธรรมของศาสนาทตี่ นนบั ถือตามทีก่ าหนด สำระกำรเรยี นรู้ ๑) พระรัตนตรยั ๒) ศรทั ธำ ๔ ๓) พทุ ธจริยำ ๓ ๔) อรยิ สจั ๔ ๕) หลกั กรรม

จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ๖ ดำ้ นควำมรู้ (K) ๑. มีความรู้และเข้าใจเก่ยี วกับความหมาย ความสาคัญและองค์ประกอบของพระรัตนตรยั ๒. รู้และเขา้ ใจความหมายและองค์ประกอบของศรัทธา ๔ ๓. บอกความหมายและความสาคญั ของพุทธจรยิ า ๓ ได้ถูกต้อง ๔. อธบิ ายและยกตัวอย่างการนาหลักอริสัจ ㆍ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ ๕. บอกความหมายและประเภทของหลักกรรมได้ ๖. บอกผลของการกระทาในลักษณะของหลักกรรมได้ ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P) ๑. ปฏบิ ัตติ นและแสดงความเคารพพระรัตนตรัยได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. สามารถบอกวธิ ีปฏบิ ตั ิตนตามหลักศรัทธา ๔ ได้ ๓. นาหลกั พุทธจริยา ๓ ไปประพฤตปิ ฏบิ ตั ิได้ ๔. เขียนอธบิ ายการแก้ปัญหาตามหลกั อริยสัจ ๔ ได้ ด้ำนคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) ๑. เหน็ คณุ คา่ ของการปฏิบัติตนตอ่ พระรตั นตรยั ๒. เหน็ คุณค่าและสามารถนาหลกั ศรัทธา * ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ ๓. มคี วามตระหนักและเหน็ คณุ ค่าของหลักพุทธจรยิ า ท่ที าให้เกิดความสุขในชีวิตได้ ๔. เห็นความสาคัญของการนาหลกั อรสิ จั ๔ ไปใชใ้ นการแก้ปัญหาจนเกดิ ความสุขในชวี ติ ๕. เหน็ คุณค่า ความสาคัญ และปฏิบตั ิตนตามหลกั กรรมได้

แบบทดสอบก่อนเรียน ๗ คาช้แี จง ให้นักเรียนเลอื กคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพยี งคาตอบเดียว โดยทาเครอ่ื งหมาย X ลงในกระดาษคาตอบ ๑. กรรมทท่ี าจะดีหรือชัว่ ข้ึนอยกู่ ับสงิ่ ใด ก. ผทู้ ากรรม ข. เจตนาที่ทา ค. วธิ ที ากรรม ง. ผลของกรรม ๒. พุทธจริยาข้อใดท่ีเป็นการบาเพญ็ ประโยชน์ตามหน้าทขี่ องพระพทุ ธเจา้ ก. เสดจ็ หา้ มพระญาตทิ ่วี ิวาทกนั ข. แสดงธรรมโปรดพระญาติวงศ์ ค. แสดงธรรมโปรดพุทธบรษิ ทั ๔ ง. ทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาให้ย่ังยืน ๓. \"คาส่ังสอนของพระพุทธเจา้ \" เปน็ องคป์ ระกอบของพระรตั นตรัยทม่ี คี วามสมั พันธก์ ับข้อใด ก. พระพุทธ ข. พระสงฆ์ ค. พระธรรม ง. อุบาสก อุบาสิกา ๔. ศรัทธา ๔ เปน็ หลกั ธรรมที่มีความมุ่งหมายอยา่ งไร ก. ความเมตตา ข. ความซือ่ สตั ย์ สุจรติ ค. ความขยันหม่ันเพยี ร ง. ความเชอื่ ทม่ี เี หตผุ ล ๕. ในทางพระพุทธศาสนา ส่งิ ใดที่แบ่งแยกคนออกจากกัน ก. อายุ ข. กรรม ค. วรรณะ ง. ความรู้ ๖. ใครเปน็ ผ้มู ศี รทั ธาในคณุ พระรตั นตรัย ก. เหนง่ ไม่กนิ เนือ้ สตั ว์ ข. กลา้ สวดมนต์ทกุ วนั ค. หนิงสะสมวตั ถุโบราณ ง. หนง่ึ ฝากเงินกับธนาคาร ๗. หลกั ธรรมใดเชื่อมโยงกบั พระรตั นตรยั ก. พุทธจริยา ๓ ศรทั ธา ๔ อรยิ สจั ๔ ข. อิทธิบาท ๔ อคติ ๔ อบายมขุ ๔ ค. เบญจศลี เบญจธรรม อบายมขุ ๔ ง. มงคล ๓๘ ประการ

๘ ๘. การตรวจพิจารณาสัตว์โลกวา่ ผ้ใู ดมีอปุ นิสยั ท่ีจะบรรลุธรรมได้ เพ่อื จะได้เสดจ็ ไปโปรด เปน็ พทุ ธกิจของพระพทุ ธเจ้าในตอนใด ก. ตอนเชา้ ข. ตอนใกลร้ ุง่ ค. ตอนเย็น ง. ตอนเท่ียงคนื ๙. การแกป้ ัญหาตามหลักธรรมอรยิ สัจ ๔ มีลกั ษณะอย่างไร ก. ป้องกนั ปญั หาโดยตรง ข. การเผชิญกับปญั หาโดยตรง ค. การหลบหลีกปญั หาโดยตรง ง. กาจดั ต้นเหตุของปัญหาโดยตรง ๑๐. การอยากเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นความอยากทจ่ี ดั อยู่ในประเภทใด ก. ภวตณั หา ข. วิภวตณั หา ค. กามตณั หา ง. อภติ ณั หา ๑๑. ขอ้ ใดแสดงถงึ การมคี วามเคารพต่อพระรัตนตรัย ก. พยายามเข้าวัดทกุ อาทติ ย์ ข. ทาตามทป่ี ู่ยา่ ตายายสอนมา ค. แสดงความเคารพตามบุคคลอน่ื ง. มีศรทั ธาและปฏบิ ัตติ ามหลักธรรม ๑๒.ประโยชน์สงู สุดของการแสดงความเคารพพระรัตนตรัยคอื ข้อใด ก.ได้บุญมาก ข. ทาใหผ้ คู้ นนับถอื ค.มฐี านะร่ารวยขึน้ ง. ปฏิบัตติ ามหลกั คาสอนได้ถูกต้อง ๑๓. หลกั การศึกษาเพอื่ พฒั นาคณุ ค่าชวี ติ ๓ ข้นั เรียกวา่ อะไร ก. พทุ ธจริยา ข. มงคลชวี ิต ค. ไตรสิกขา ง. บุญกิรยิ าวตั ถ ๑๔. พุทธจริยาใดของพระพุทธเจา้ เป็นการบาเพ็ญประโยชนแ์ ก่โลก ก. ทรงประกาศพระศาสนา ข. ทรงเสด็จโปรดพระบดิ า ค. ทรงเสดจ็ ไปห้ามญาตทิ ี่วิวาทกัน ง. ทรงบญั ญตั ิวินัยข้นึ เพอ่ื บรหิ ารหมสู่ งฆ์

๙ ๑๕. ขอ้ ใดจดั เปน็ ทกุ ขป์ ระจา ก. ความผิดหวงั ทส่ี อบไม่ผ่าน ข. ความไม่สบายใจเพราะไม่มีเงนิ ใช้ ค. ความโศกเศรา้ ท่ตี ้องจากคนรกั ง. ความทุกข์ใจกับผิวพรรณทเี่ หย่ี วยน่ ตามอายุ ๑๖.น้อยเป็นคนมีอารมณ์โกรธง่าย ดงั นัน้ น้อยควรนาหลักธรรมใดมาใชม้ ากทีส่ ุด ก. สมั มาสติ ข. สมั มาวาจา ค. สมั มาอาชวี ะ ง. สัมมาสังกัปปะ ๑๗.ขอ้ ใดไม่เป็นกุศลกรรม ก. พดู จาไพเราะออ่ นหวาน ข. ให้อภยั ผอู้ นื่ ค. ดูแลเอาใจใสส่ ตั ว์เล้ยี ง ง. ดม่ื สุราเล็กนอ้ ย ๑๘.“ณัฐชยั ชกั ชวนวฑิ ูรย์ใหล้ องเลน่ พนันฟุตบอล” จากข้อความนี้ วฑิ ูรย์พบความเส่อื มจากสาเหตุใด ก. ความเป็นนักเลงสุรา ข. ความเป็นนกั เลงหญงิ ค. การคบคนช่วั เปน็ มิตร ง. ความเปน็ นกั เลงการพนัน ๑๙. จากข้อความในขอ้ ๑๘ อาจทาให้วฑิ ูรย์ถกู ชักนาเปน็ คนชวั่ ประเภทใด ก. ความเปน็ นักเลงการพนัน ข. ความเป็นนกั เลงอันธพาล ค. ความเป็นนักเลงหญงิ ง. ความเปน็ นกั เลงสรุ า ๒๐. การทาความดีของบุคคลใด ควรได้รับการยกย่องมากที่สุด ก. เอกชัยเอาสนุ ขั ของเพื่อนบ้านไปเล้ยี งโดยไม่บอก ข. สมทรงขายอาหารทใ่ี สส่ ารอันตรายในราคาถูก ค. วิชยั กลา่ วขอโทษมารดาทเ่ี ปน็ คนทาแจกนั แตก ง. มาโนชสอนเพ่ือนดม่ื สุราเพือ่ ออกงานสังคม 1. ข 2. ก 3. ง 4. ง เฉลย 11. ข 12. ง 13.ก 14. ก 5. ข 6. ง 7. ก 8. ข 9. ง 10. ค 15. ง 16. ก 17. ง 18. ค 19. ค 20. ก

กระดำษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑๐ คาข้แี จง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบทีถ่ กู ท่ีสุด แล้วทาเครือ่ งหมาย X ลงในชอ่ งว่าง ชือ่ - สกุล.................................................................................. เลขท่ี.......ชั้น...... ข้อ ก ตวั เลอื ก ตวั เลือก ง ขค ง ข้อ ก ข ค ๑ ๒ ๑๑ ๓ ๑๒ ๔ ๑๓ ๕ ๑๔ ๖ ๑๕ ๗ ๑๖ ๘ ๑๗ ๙ ๑๘ ๑๐ ๑๙ ๒๐ คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน ได้ เกณฑ์การประเมนิ ข้อละ ๑ คะแนน ตอบถูก ข้อละ 0 คะแนน ตอบผิด / ไมต่ อบ / หรอื ตอบมากกว่า ๑ ข้อ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พระพุทธศาสนากับการดาเนนิ ชวี ติ ชุดที่ ๑ เรื่อง พระรัตนตรยั

ใบควำมรู้ที่ ๑ ๑๒ เรือ่ ง พระรัตนตรัย พระรตั นตรัย หมายถงึ ดวงแก้วอนั ประเสรฐิ ๓ ประการ ซงึ่ เปน็ ทเ่ี คารพบูชาสงู สุดของชาวพุทธ ได้แก่ พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ ๑. พทุ ธรตั นะ แกว้ อนั ประเสรฐิ คือ พระพุทธเจา้ พระพุทธ ท่มี า : http://www.prabanprabucha. com/category/ ๒. ธรรมรัตนะ แกว้ อันประเสรฐิ คือ พระธรรม คาส่งั สอนของพระพทุ ธเจา้ พระธรรม ภาพโดย : นางสาวชสิ าพชั ร์ อินโอภาส ๓. สังฆรัตนะ แกว้ อนั ประเสรฐิ คือ พระสงฆ์ พระสงฆ์ คลิปวีดโิ อ เรื่อง พระรตั นตรยั ทีม่ า : https://sites.google.com/site/ ammyedtechno/๑-๑ph-ra-ratntray

๑๓ องคป์ ระกอบของพระรัตนตรัย พระพทุ ธ หมายถงึ องค์สมเดจ็ พระสัมมาสมั พุทธเจา้ ผ้ทู รงตรัสรคู้ วามจรงิ อนั เปน็ แนวทางทีจ่ ะทาให้หลุดพ้น คณุ คา่ ของพระพทุ ธเจา้ นนั้ ทรงเป็นศาสดาของ พระพุทธศาสนา พระพุทธ ที่มา : http://www.prabanprabucha. com/category/ พระธรรม หมายถงึ คาสง่ั สอนของพระพุทธเจา้ ซึ่งพระธรรมมคี ุณคา่ มีประโยชนต์ ่อมนษุ ย์ อยา่ งมหาศาล ทาให้ผู้ปฏิบัตธิ รรมแลว้ มีความสุขกาย สขุ ใจและคนรอบข้างมคี วามสขุ ด้วย พระธรรม ภาพโดย : นางสาวชสิ าพัชร์ อนิ โอภาส พระสงฆ์ หมายถึง สาวกของพระพทุ ธเจ้าหรือ พระภกิ ษทุ บี่ วชในพระพุทธศาสนาและศึกษาปฏบิ ัติ ตามพระธรรมคาสั่งสอนของพระพทุ ธเจ้า แล้วสง่ั สอน ให้ผอู้ นื่ ไดร้ ู้ตาม พระสงฆใ์ นพระพุทธศาสนา มี ๒ ประเภท คือ พระอรยิ สงฆ์ และสมมติสงฆ์ พระสงฆ์ ทม่ี า : https://sites.google.com/site/ ammyedtechno/๑-๑ph-ra-ratntray

๑๔ พระพทุ ธเจา้ ทรงตรัสรู้ ทมี่ า : www.dhammajak.net/ พระพุทธศาสนาสอนให้ยึดถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งรวมเรียกว่า พระรัตนตรัยเป็นสรณะ หรือ เป็นที่ พง่ึ เพอ่ื ให้เกิดความศรัทธาชาบซ้งึ ใน พระพุทธ พระพทุ ธเจา้ ทรงเป็นศาสดาของศาสนาพุทธ ทรงเป็นผู้ค้นพบสัจธรรมโดย การตรสั รู้เองและนามาสอนให้ผู้อ่ืนปฏิบัติตามทรงประกาศพระศาสนาและเผยแผ่หลักธรรมให้มนุษย์ได้เห็นสัจธรรมของ ชีวิต ทรงมคี ณุ ยงิ่ ใหญ่ต่อคนท่ัวไป เมือ่ พทุ ธศาสนิกชน ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ทาให้จิตสงบ ต้ังม่ัน เป็นสมาธิเกิดปิ ตสิ ุขข้นึ สรุปงา่ ย ๆ พระพุทธ หมายถึง องค์สมเด็จพระสมั มาสมั พุทธเจ้า ผู้ทรงกอ่ ต้ังพระพทุ ธศาสนาและทรงเป็นผคู้ น้ พบพระธรรมคาสอน ด้วยพระองคเ์ อง

๑๕ พระธรรม หมายถงึ คาส่งั สอนของพระพุทธเจา้ พระธรรม พระธรรยอ่ มรกั ษาผูป้ ฏิบตั ไิ ม่ให้ตกไปในท่ชี ่วั อธบิ ายได้วา่ ผู้ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตามพระธรรมยอ่ ม ได้รบั อานิสงสไ์ ม่ตกไปในทางทีช่ ่วั ไดร้ บั ความสุขความเจริญตามสมควรแกก่ ารปฏิบตั ินนั้ ส่วนบางคนประพฤติปฏบิ ตั ิ ธรรมอยู่ แตถ่ ึงความพินาศ เกดิ ความเสียหายต่าง ๆ เช่น อคั คีภัย วาตภัยหรอื โจรภยั เป็นต้น น่ันอาจเปน็ เพราะ อกศุ ลกรรมเกา่ ท่ไี ด้กระทาไวใ้ นปางก่อนตามทนั ในชาติปัจจบุ นั คาวา่ \"ท่ีชั่ว\" จาแนกได้ ๒ ประเภท คือ ๑. ท่ีชว่ั ในภพน้ี ได้แก่ พนั ธนาคาร (เรือนจา) อคั คีภยั วาตภัย เปน็ ต้น ๒. ที่ชวั่ ในภพหน้า ได้แก่ อบายภูมิ คือ การตาย พบแต่ความเส่อื ม มี ๔ ภูมิ คอื นรก สตั ว์เดรจั ฉาน เปรต และอสรุ กาย พระธรรม ท่มี า : http://dhamma.serichon.us/

๑๖ ใครจะบอกพแ่ี กว้ ไดบ้ ้างว่า พระสงฆ์มหี น้าท่อี ะไรบ้าง พระสงฆ์ ทม่ี า : https://sites.google.com/site/ ammyedtechno/๑-๑ph-ra-ratntray พระสงฆเ์ ป็นผู้นาคาสง่ั สอน พระพุทธเจ้ามาเผยแผค่ ะ่ แนทรคู้ ่ะ พระสงฆ์ทาหน้าที่ สอนหนงั สือใหพ้ วกเราค่ะ พระสงฆ์ยังมหี น้าทีอ่ ื่น ๆ อกี ดังน้ี ๑. พระสงฆ์ คอื หมชู่ ุมนุมชน ทฟ่ี ังคาสง่ั สอนของพระพทุ ธเจา้ แลว้ นามาปฏิบตั ติ นตามพระธรรมวนิ ยั ๒. พระสงฆ์มหี น้าทศี ึกษาปฏิบตั ิตามพระธรรมคาสอนของพระพุทธเจ้า แล้วสั่งสอนใหผ้ ู้อ่ืนรู้ตาม ๓. พระสงฆเ์ ปน็ ผทู้ ี่มีความประพฤตดิ ี ประพฤตชิ อบ

๑๗ ควำมเกีย่ วขอ้ งสัมพันธ์กนั ของพระรตั นตรยั พระรัตนตรยั คอื พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เปน็ องค์ประกอบหลกั สาคญั ของ พระพุทธศาสนา เหตุท่ีเรียก รัตนะ เพราะมีคุณค่า ๓ ประการ เก่ียวข้องสัมพันธ์กันพระรัตนตรัยต่างอาศัยกัน ซึ่งกันและกัน คือ พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้ธรรม ในขณะท่ีพระธรรมเป็นคาสอนที่ประเสริฐของพระพุทธเจ้า ส่วนพระสงฆ์น้ันเป็นสาวกของผู้ฟงั ธรรมจากพระพุทธเจา้ แล้วศึกษา จดจาพระธรรม นามาปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และเผยแผใหผ้ ู้อนื่ ไดร้ ู้ตาม ทาให้เกดิ ความสงบสุขในสังคม ถ้าจติ เราเชือ่ ม่ัน ศรัทธาในพระรัตนตรยั นน่ั ก็หมายความว่า เรามเี ครอ่ื งยดึ เหน่ยี วจิตใจแล้ว ใครจะทาอะไรเราก็ไม่หวน่ั ไหว หลกั กำรเข้ำถึงพระรตั นตรยั พระรตั นตรัย เรียกอกี ชือ่ วา่ สรณคมน์ แปลว่า การเข้าถงึ สรณะหรือเรยี กวา่ ไตรสรณคมน์ หมายถึง การถงึ รตั นะ ๓ เปน็ สรณะ คือ การนาเอาพระรตั นตรัยมาเปน็ สรณะหรอื มาเป็นที่พึ่งยดึ เหนีย่ วใจในการสรา้ งกศุ ล เป็นอาการของ จิตทม่ี คี วามศรทั ธา เชื่อมน่ั มีความเล่ือมใส มีความเคารพในพระรัตนตรยั ว่าเปน็ ของเรา เปน็ ผูน้ าทางชีวิตของเราซึ่ง สามารถนาไปสู่การทาลายกิเลสไดใ้ นท่ีสดุ

กำรแสดงควำมเคำรพพระรัตนตรยั ๑๘ พทุ ธศาสนกิ ชนควรแสดงความเคารพพระรัตตรัยหรือเรียกอีกอย่างว่า การบูชาเพราะเป็นส่ิงเคารพสูงสุด ของชาวพุทธ มีหลกั ใหญท่ ีช่ าวพทุ ธพงึ ปฏิบตั ิ ๒ ประการ คือ ๑. อำมสิ บูชำ การเคารพหรือบชู าด้วยอามสิ เช่น การสกั การะดว้ ยธปู เทียน ดอกไม้ ๑.๑ ธปู ๓ ดอก บชู าพระพทุ ธคุณ ๓ คือ พระบริสทุ ธคิ ุณ พระมหากรุณาธิคณุ และพระปัญญาคุณ ๑.๒ เทยี น ๒ เล่ม บูชาพระธรรม คือ พระธรรมและพระวนิ ัย ๑.๓ ดอกไม้ บูชาพระสงฆ์ พระสงฆ์ท่ีอุปสมบทในพระพุทธศาสนามาจากชน ช้ัน ห ล า ย ว ร ร ณ ะ เ มื่ อ เ ข้ าม า ใ น พ ร ะ พุ ทธ ศ า ส น า ทุ กรู ป มี พ ร ะ ธ ร ร ม วิ นั ย ป ฏิ บั ติ แบบอยา่ งเดยี วกัน ทุกรปู เสมอกันดว้ ยพระธรรมวินัยเหมือนดอกไม้หลากสี เม่ือมา อย่รู วมกันในแจกันจึงดสู วยงาม ๒. ปฏิปัตตบิ ูชำ เป็นการแสดงความเคารพสูงสุด คือ การปฏบิ ตั ติ ามหลกั คาสอน ผปู้ ฏิบัติ ยอ่ มไดร้ ับอานสิ งส์ คือ ความสงบสุขของชวี ิต เพราะสามารถหลดุ พ้นจากการถูกกิเลสครอบงาจิตใจได้

ใบงำนท่ี ๑.๑ เร่ือง พระรตั นตรยั ๑๙ ชื่อ...................................................................นำมสกลุ ...........................................เลขท.ี่ ............ชั้น.................. 1. ใหน้ ักเรียนเขยี นแผนผงั ความคิดเกย่ี วกบั พระรตั นตรัยลงในชอ่ งว่างให้ถกู ต้อง (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน) ........................... .................................. .................................. ........................... .................................. .................................. ---พ---ร--ะ-พ---ุท--ธ--เ-จ--ำ้ ---- พระรตั นตรยั ................................ ........................... .................................... ........................... .................................... ..................................... .................................. ................................... .................................. .................................. ................................... ..................................

ใบงำนที่ ๑.๒ เรอ่ื ง พระรัตนตรยั ๒๐ ๒. ใหเ้ รียนวาดภาพเกย่ี วกบั พระรตั นตรัยลงในกรอบ แลว้ เขียนการปฏิบตั ติ นทแ่ี สดงออกถึงความมศี รทั ธา ตอ่ พระรัตนตรยั ใตภ้ าพ (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน) ๑) จากความศรัทธาทฉี่ นั มตี ่อพระพุทธเจา้ ฉันได้ปฏบิ ตั ิตน ดงั น้ี .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. ๒) จากความศรัทธาที่ฉันมตี อ่ พระธรรม ฉันไดป้ ฏบิ ตั ิตน ดงั นี้ .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. ๓) จากความศรัทธาทีฉ่ ันมีต่อพระสงฆ์ ฉันไดป้ ฏบิ ัตติ น ดงั นี้ .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. ช่ือ..........................................................................นำมสกุล..............................เลขท.ี่ ............ช้นั ..................

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พระพุทธศาสนากับการดาเนินชวี ติ ชดุ ที่ ๒ เรือ่ ง ศรทั ธา ๔

ใบควำมรทู้ ี่ ๒ ๒๒ เร่อื ง ศรทั ธำ ๔ คลิปวดี ิโอ เรอ่ื ง ศรทั ธา ๔ ชาวพุทธนอกจากจะตอ้ งมีความศรทั ธาในคณุ พระรตั นตรัยแลว้ ยงั ตอ้ งมีศรัทธา ๔ ประการ อกี ด้วย นกั เรียนทราบหรอื ไมว่ ่า ศรัทธา ๔ ประการ มีอะไรบา้ ง ศรทั ธำ ๔ หมายถึง ความเชอ่ื ที่ประกอบดว้ ยหลกั เหตผุ ล ๔ ประการ ดงั นี้ ๑. เช่อื เร่อื งของกรรม เชอ่ื ว่ากรรมมอี ยจู่ รงิ ๒.เชื่อผลของกรรมเชือ่ วา่ ทาอยา่ งไรย่อมได้อย่างนน้ั ๓. เชื่อว่าบุคคลมีกรรมเปน็ ของตนเอง คือ เชอ่ื ว่าสิง่ ท่ีทาน้นั จะมีผลติดตัวเราตลอดไป ๔. เชื่อว่าการตรัสรูข้ องพระพทุ ธเจา้ เช่อื สิ่งทีพ่ ระองค์ตรสั ร้วู า่ เปน็ สัจธรรมและนาคาสอนนนั้ มาปฏบิ ตั ิ

ข้อท่ี ๑ กมั มสทั ธำ ๒๓ กัมมสทั ธา (กา - มะ - สดั - ทา) หมายถงึ เช่ือกรรม เชือ่ การกระทา เชอ่ื กฎแหง่ กรรมเช่ือวา่ กรรมมอี ยจู่ ริง เชื่อวา่ เม่ือทาอะไรโดยมเี จตนา คือ จงใจทาท้งั รู้ย่อมเปน็ กรรม คอื เป็นความดีความช่ัวมขี น้ึ ในตน เป็นเหตุปัจจยั ก่อให้เกดิ ผลดี ผลรา้ ยสืบเนอื่ งต่อไป การกระทาไม่วา่ งเปล่า และเชอ่ื ว่าผลที่ ต้องการจะสาเร็จไดด้ ้วยการกระทา มิใช่ดว้ ยอ้อนวอนหรอื นอน คอยโชค เชน่ ถา้ นักเรียนมีความขยนั หม่นั เพยี รต้ังใจเรียนหนงั สอื การสาเรจ็ การศึกษาก็จะได้รับผลดีตอบสนอง คือ เรียนสาเร็จ สามารถมีอนาคตที่ดีชีวิตประสบแต่ความสุข แต่ในทางกลับกัน ถ้านักเรียนเกียจคร้าน ไม่สนใจ เรียนหนังสือ ห่วงแต่การเที่ยวเตร่สนุกสนาน นักเรียนก็จะเรียนไม่จบ หางานทาลาบากและประสบกับ ความทกุ ข์ ข้อท่ี ๒ วิปำกสัทธำ วปิ ากสัทธา (วิ - ปา - กะ - สดั - ทา) หมายถงึ เชอื่ วบิ าก เช่ือผลของกรรม เช่อื ว่าผลของกรรมมจี รงิ เช่อื วา่ กรรมท่ีทาแล้วตอ้ งมผี ล และผลตอ้ งมเี หตุ ผลดีเกิดจากกรรมดี ผลชว่ั เกดิ จากกรรมช่วั เชอ่ื วา่ ทากรรมเช่นใด ไม่ว่าดีหรือชั่วย่อมได้รับผล เช่ น นั้ น ผ ล ท่ี เกิ ด ข้ึน ต้ อง สื บเ น่ื อ ง มา จ าก ก าร ก ร ะ ท า ที่เป็นเหตุ เช่น เมื่อนักเรียนทาความดี ทาในส่ิงท่ีดี ยอ่ มจะไดร้ ับผลแหง่ ความดี คือความสุข แต่ถ้านักเรียน ทาในสิ่งไม่ดี ย่อมจะได้รับผลจากการทาส่ิงไม่ดีของ ตนเอง คอื ความทกุ ข์ ที่มา: https://www.coloradowild.org/

ขอ้ ท่ี ๓ กัมมัสสกตำสทั ธำ ๒๔ กัมมสั สกตาสัทธา (กา - มัด - สะ - กะ - ตา - สดั - ทา) หมายถึง เชื่อความที่สตั ว์มีกรรมเป็นของตนเชอ่ื วา่ แต่ละ คนเปน็ เจ้าของจะต้องรับผิดชอบเสวยวิบากเป็นไปตามกรรมของตน เช่น นักเรียนเกิดมามีพ่อแม่ดูแลเอาใจใส่ส่งให้ได้ศึกษา เล่าเรียน มีอาหารการกินที่ดีมีประโยชน์สุขภาพแข็งแรง แต่ในสังคมอาจมีเด็กผู้โชคร้ายพ่อแม่ทอดทิ้ง อดอยากเป็นเด็ก เร่ร่อนไม่มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง ขาดปัจจัยส่ีในการดาเนิน ชีวิตบางคนเกดิ มาพิการ เปน็ ต้น https://www.thaihealth.or.th/ ขอ้ ท่ี ๔ ตถำคตโพธสิ ัทธำ ตถาคตโพธิสทั ธา (ตะ - ถา - คะ - ตะ - โพ - ทิ - สัด - ทา)หมายถึง เชอื่ ความตรัสรู้ของพระพทุ ธเจ้า และปฏบิ ัติตามคา สอนของพระพุทธองค์ การเช่อื และยอมรบั ว่า พระพทุ ธองคท์ รงมีพระปญั ญาตรัสรู้ จริงและธรรมที่พระองคท์ รงตรัสรนู้ ั้นเป็นของจริงประพฤตปิ ฏิบัติ ตามแล้วยอ่ มได้รับผลจรงิ สิง่ ทพ่ี ระองคต์ รสั ว่าเป็นกศุ ล เป็นบุญ เป็นความดี ทาแลว้ ย่อมได้รบั ผลดจี รงิ ๆ พระตถาคตเจ้า (พระพทุ ธเจ้า) ทมี่ า : http://pantip.com/topic/๓o๕๘๗๑๙๓

มูลเหตุแห่งควำมเชอื่ ถอื ศรัทธำ ๒๕ ศรทั ธำพระศำสดำของพระพทุ ธศำสนำ พระประธานในโบสถว์ ัดพระสิงห์ พระพทุ ธรูปประจาโรงเรยี น ทีม่ า : https://mapio.net/pic/p- โต๊ะหมู่บชู า พระธรรม ที่มา : http://dhamma.serichon.us/

๒๖ เลื่อมใสศรัทธาในการเผยแผห่ ลักธรรมคาสอน ท่มี า : http://www.matichon.co.th เลอื่ มใสศรัทธาเพราะได้ฟังเสยี งอนั ไพเราะ ที่มา : http:/www.thairath.co.th เลอ่ื มใสศรัทธาเพราะไดส้ ดับฟงั ธรรม ของผทู้ ฉ่ี ลาดในการแสดงธรรม ทม่ี า : http://www.trueplookpanya.com/true/ethic

๒๗ เลื่อมใสศรัทธาเพราะพระองค์ทรงเปน็ กษัตรยิ ์ นกั ปกครองทท่ี รงงานทกุ ดา้ นเพ่อื ปวงชนชาวไทย ในหลวงทรงงาน ที่มา : https://www.google.com/search?biw เลื่อมใสศรัทธาในศาสนสถาน ร่วมกนั บรจิ าคเพื่อสร้างศาลาการเปรยี ญ การทอดผ้าป่า ท่มี า : https://www.siamburapha.com/

ใบงำนท่ี ๒.๑ เร่ือง ศรัทธำ ๔ ๒๘ ชื่อ...................................................................นำมสกลุ ...........................................เลขท.ี่ ............ชน้ั .................. ๑. ใหน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ งการปฏบิ ตั ิตนของนกั เรยี นท่สี อดคล้องกบั ศรทั ธา ๔ มาอย่างละ ๑ ตวั อย่างพร้อมวิเคราะหผ์ ล ท่เี กดิ ขึ้นจากการปฏิบัติลงในตาราง (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) ศรัทธำ ๔ กำรปฏบิ ตั ติ น ผลทเ่ี กดิ ข้ึน ๑) กมั มสทั ธำ .................................................................. ........................................................ ๒) วิปำกสัทธำ .................................................................. ........................................................ ๓) กัมมัสสกตำสัทธำ .................................................................. ........................................................ ๔) ตถำคตโพธิสทั ธำ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ .................................................................. ........................................................ ๒. หากนักเรียนทุกคนปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ศรทั ธา ๔ จะส่งผลดตี อ่ สังคมอยา่ งไรบา้ ง ............................................................................................................................................................................ ...........................................................................................................................................................................

๒๙ ใบงำนที่ ๒.๒ เรือ่ ง ศรัทธำ ๔ ๒ . ใหน้ ักเรยี นวิเคราะหภ์ าพ แล้วตอบคาถามให้ถกู ต้อง (คะแนนเตม็ ๕ คะแนน) ทมี่ า : https:/www.matichon.co.th/wp-content ๑) จากการกระทาของบุคคลในภาพตรงกับศรัทธา ๔ ข้อใด ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๒) การกระทาของบุคคลในภาพไดร้ บั ผลเสยี จากการกระทาอย่างไรบ้าง ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ๓) นกั เรียนได้ขอ้ คิดสาคญั จากเร่ืองนีอ้ ยา่ งไร ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ชือ่ ...................................................................นำมสกุล...........................................เลขท.่ี ............ชัน้ ..................

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนากับการดาเนนิ ชวี ติ ชดุ ท่ี ๓ เรื่อง พุทธจริยา ๓

ใบควำมรทู้ ี่ ๓ ๓๑ เรอื่ ง พุทธจริยำ ๓ พระจริยวตั รหรือการบาเพ็ญประโยชนข์ องพระพทุ ธเจ้ามี ๓ ประการ ได้แก่ คลิปวีดิโอ เรื่อง พทุ ธจรยิ า พุทธจริยำประกำรที่ ๒ ญำตัตถจรยิ ำ (ยำ - ตัด - ถะ - จะ - 3 - ยำ) หมายถึง การบาเพ็ญประโยชน์แกพ่ ระประยรู ญาติ ทรงบาเพ็ญประโยชน์แกพ่ ระญาติ เชน่ ทรงมี พระพทุ ธานุญาตพเิ ศษให้พระญาติของพระองค์ทีเ่ ป็น เดียรถีย์ (นกั บวชภายนอกพระพทุ ธศาสนา) มาก่อน ใหเ้ ข้าบวชในพระพทุ ธศาสนาได้ หรอื การท่พี ระพุทธเจ้า เสด็จไปโปรดพระญาตทิ ่ีกรงุ กบลิ พัสดุ์ ทรงแนะนาให้ พระญาตซิ ึ่งกาลงั จะทาสงครามกนั ได้เขา้ ใจในเหตุผล สามารถปรองดองกนั ได้ ทรงแนะนาพระญาตทิ ้งั สองฝ่าย ที่กาลงั จะทาสงครามกัน ทม่ี า : https://www.gotoknow.org/posts พทุ ธจริยำประกำรท่ี ๓ พุทธัตถจรยิ ำ (พดุ - ขัด - ถะ - จะ - ริ - ยำ) หมายถงึ การบาเพ็ญประโยชน์ของพระองคใ์ นฐานะท่ีทรงเปน็ พระพุทธเจา้ ทรงทาหน้าท่ีของพระพุทธเจ้า เช่นทรงวางสิกขาบท การประกาศและเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นพุทธอาณา สาหรับควบคุมความประพฤติของผู้ที่เข้า ทม่ี า : https://celestialstrategist.com/ มาบวชในพระพุทธศาสนาทรงแนะนาให้บรรพชิตและ คฤหัสถ์ปฏิบัติให้ถูกต้องตามหน้าท่ีของตน ทรงวาง พ ร ะ อ ง ค์ ต่ อ ผู้ ที่ เ ข้ า ม า บ ว ช แ ล ะ แ ส ด ง ต น เ ป็ น อุ บ า ส ก อุบาสิกา ในฐานะของบิดากับบุตร ผู้ปกครองกัลยาณมิตร ศาสดาผ้เู อน็ ดู เป็นต้น

๓๒ พุทธจรยิ ำประกำรที่ ๑ โลกตั ถจริยำ (โล - กัด - ถะ - จะ - ริ - ยำ) หมายถงึ การบาเพ็ญประโยชน์ของพระพทุ ธเจ้าแกช่ าวโลก ภายหลังจากตรัสรแู้ ละเสวยวมิ ุติสุข (ความสขุ อัน เกิดจากความหลุดพน้ จากกเิ ลสแลว้ ) การบาเพญ็ ประโยชนแ์ กโ่ ลก ในฐานะทพี่ ระองค์เป็นสมาชิกคนหน่ึงของสงั คมโลก ความสาเร็จในจรยิ าข้อนี้ทรงอาศยั พุทธกิจประจาวนั ๕ ประการ คือ พุทธกิจประการท่ี ๑ เวลาเชา้ เสด็จออกบณิ ทบาต เพอ่ื เป็นการโปรดสตั ว์โลกผตู้ อ้ งการบุญ พุทธกจิ ประการที่ ๒ ในเวลาเย็น ทรงแสดงธรรมแก่คนผสู้ นใจในการฟังธรรม พุทธกิจประการที่ ๓ ในเวลาค่า ทรงประทานพระโอวาทให้กรรมฐานแกภ่ กิ ษุทั้งหลาย พุทธกจิ ประการที่ ๔ ในเวลาเที่ยงคนื ทรงแสดงธรรมและตอบปญั หาแกเ่ ทวดาท้ังหลาย พุทธกจิ ประการที่ ๕ ในเวลาใกล้รงุ่ ทรงตรวจดสู ตั ว์โลกทีอ่ าจจะรู้ธรรมซ่ึงพระองค์ ทรงแสดงแลว้ ได้รบั ผลตามสมควรแกอ่ ปุ นสิ ัยบารมีของคนเหลา่ น้นั พทุ ธกจิ ๕ ประการ ทีม่ า : http://bhuritatta.blogspot.com/

ใบงำนท่ี ๓.๑ เรอ่ื ง พทุ ธจริยำ ๓ ๓๓ ชอ่ื ...................................................................นำมสกลุ ...........................................เลขท.่ี ............ชั้น.................. ๑. ใหน้ ักเรียนเขียนอธบิ ายพุทธกิจของพระพุทธเจ้าลงในแผนผงั ความคิดให้ถกู ต้อง (ขอ้ ละ ๒ คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน) ช่วงเช้า .................................................. .................................................. ช่วงเยน็ ......................................... ........................................ ช่วงคา่ ............................................... .............................................. ช่วงเทีย่ งคนื ........................................ ........................................ ชว่ งใกล้รุง่ ................................................. .................................................

ใบงำนท่ี ๓.๒ เรื่อง พุทธจริยำ ๓ ๓๔ ชอ่ื ...................................................................นำมสกลุ ...........................................เลขท.ี่ ............ชน้ั .................. ๒. ให้นักเรยี นยกตวั อย่างการนาพทุ ธจรยิ าของพระพุทธเจา้ ไปใชเ้ ปน็ หลกั ในการดาเนนิ ชวี ติ ของตนเองลงในแผนภาพความคดิ (ข้อละ ๒ คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน) .......................................................... ....................................................... .......................................................... ...................................................... กำรนำพทุ ธจรยิ ำ ของพระพุทธเจำ้ มำใช้ในกำรดำเนินชีวติ .......................................................... .......................................................... .......................................................... .......................................................... .......................................................... ..........................................................

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ พระพุทธศาสนากบั การดาเนนิ ชวี ติ ชุดท่ี ๔ เรื่อง อรยิ สัจ ๔

ใบควำมที่ ๔ ๓๖ เร่ือง อรยิ สจั ๔ พระพทุ ธเจา้ ผู้ทรงคนั พบความจริงอันประเสรฐิ ทีม่ า : https://www.Khunsamatha.com อรยิ สจั ๔ หมายถึง ความจรงิ อนั ประเสริฐ ถอื เปน็ ธรรมแม่บทของพระพุทธศาสนา เปน็ ธรรมท่ีพระพทุ ธเจ้าทรงตรัสรู้ ค้นพบด้วยตนเอง เป็นธรรมทแี่ สดงมากท่ีสดุ ตลอดระยะท่ีประกาศพระศาสนา อรยิ สจั แปลได้ ๓ นยั คอื ๑. ควำมจริงอนั ประเสริฐ หมายถงึ ความจริงในโลกน้มี ีอยู่มากมาย แตอ่ รยิ สัจน้ี ประเสริฐกวา่ ความจรงิ ทงั้ หมดเพราะสามารถทาใหพ้ ้นทุกข์ ๒. ควำมจรงิ ของพระอรยิ ะ หมายถงึ ความจรงิ ท่พี ระอริยะ คอื พระพทุ ธเจา้ ทรงค้นพบด้วยตวั เอง ไม่มผี ู้ใด กล่าวสอน ๓. ควำมจริงทท่ี ำให้ผูเ้ ขำ้ ถึงเปน็ พระอรยิ ะ หมายความว่า ผทู้ ี่เขา้ ถึงหรอื รแู้ จ้ง อรยิ สจั ๔ น้ี ยอ่ มกลายเปน็ พระอริยะบคุ คล ดังเช่น พระพุทธเจา้ และพระอรหันต์ คลปิ วดี โิ อ เร่อื ง อริยสัจ ๔

๓๗ อริยสจั ๔ หมายถงึ ความจรงิ อันประเสริฐ เข้าใจตน้ ตอของส่ิงตา่ ง ๆ ดว้ ยเหตแุ ละผลมี ๔ ประการ ไดแ้ ก่ ๑. ทุกข์ หมายถึง ความทกุ ข์ ความไมส่ บายกาย ไม่สบายใจ สภาพท่ที นได้ยาก สภาวะทีบ่ ีบคั้นขัดแยง้ บกพรอ่ ง เพราะเป็นไปตามเหตปุ ัจจยั ทไี่ ม่ข้นึ ตอ่ ตวั มนั เอง แบ่งออกเปน็ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ ทกุ ข์ประจา หรือ สภาวทุกข์ คือ การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย ซึง่ ทุกคนตอ้ งประสบไม่มีใคร หลกี พ้นได้ ทุกข์จร หรือ ปกิณณกทุกข์ คือ ทุกข์ท่เี กดิ กบั บุคคลมากนอ้ ยไมเ่ ท่ากนั เช่นความโศกเศรา้ ความไมส่ บายกายและ ใจ ความผดิ หวงั การพลดั พรากจากสงิ่ อนั เป็นทีร่ กั ความผิดหวงั ความโศกเศร้า เสียใจ ทม่ี า : www.bloggang.com ท่มี า : www.bloggang.com

๓๘ ๒. สมุทัย หมายถงึ ความจริงวา่ ด้วยเหตเุ กิดแห่งความทกุ ข์ เพราะความทุกข์ที่เกดิ ขนึ้ น้ันต้องมีสาเหตเุ กดิ จากอะไรบางอย่างไม่ได้มขี ึน้ ลอย ๆ องั พทุ ธดารสั วา่ \"เมอ่ื สง่ิ นน้ั มสี ิง่ น้ันจึงมี เพราะส่ิงน้เี กิด ส่งิ นั้นจึงเกดิ \" เชน่ คนมีโรคประจาตวั แล้วเปน็ ทกุ ข์ อาจเป็นเพราะโรคภัยไข้เจบ็ ตดิ ตัวมาแตก่ าเนดิ หรอื ไดร้ บั สารพษิ จากอาหาร เด็ก ร้องไหเ้ ปน็ ทกุ ข์ อาจคดิ ถึงคณุ พอ่ คณุ แม่ หรอื เพอ่ื นรงั แก เปน็ ต้น สำเหตทุ ่ที ำใหเ้ กดิ ทุกข์ ความทุกข์หรอื ปัญหา ยอ่ มเกิดจากสาเหตุ สาเหตทุ ที่ าใหเ้ กิดทุกข์ คอื กิเลส หรือความอยาก มี ๓ ประการ ไดแ้ ก่ กามตัณหา คือ ความอยากได้ เช่น อยากรา่ รวย อยากมีรถยนต์ ภวตณั หา คอื ความอยากเป็น เช่น อยากเปน็ นกั กีฬา อยากเปน็ นายกรัฐมนตรี วิภวตณั หา คือ ความอยากทจี่ ะไม่เปน็ เช่น ไม่อยากเปน็ คนจน ไมอ่ ยากเป็นคนพิการความอยากเหลา่ นี้ เปน็ สาเหตทุ ่ีทาใหเ้ กิดทกุ ข์ ๓. นโิ รธ หมายถึง ความดบั ทุกข์ เป็นภาวะที่ตัณหานั้นดบั ส้ินไปไม่ตดิ ขอ้ งอยู่ในตัณหาหลุดพ้น สงบ และเป็นอสิ ระ ในทางพระพทุ ธศาสนา เรยี กวา่ นพิ พาน ดงั พทุ ธดารสั ว่า \"เม่อื ส่งิ น้ันไม่มี สง่ิ นี้กไ็ ม่มี เพราะสงิ่ นี้ ดบั สิง่ น้นั กด็ บั \"

๓๙ ๔. มรรค หมายถึง หนทางถึงความดบั ทกุ ขเ์ ป็นสว่ นหนึง่ ของริสจั ข้อปฏิบัตใิ หถ้ ึง ทางดบั ทกุ ข์ วิธีการ หรอื ทางแห่งการดบั ทกุ ข์ เรียกวา่ มัชฌิมาปฏิปทา มีองค์ประกอบ ๘ ประการ ได้แก่ ๑) ความเหน็ ชอบ (สมั มาทิฏฐิ) หมายถึง ความเหน็ ถกู ตอ้ ง เหน็ ว่าสง่ิ ใดดี ส่งิ ใดชัว่ และเดินไปในทางที่ถูกตอ้ ง ๒) ดารชิ อบ (ส้มมาสงั กัปปะ) หมายถึง คิดแต่ในสิ่งท่ีดีงาม ไมค่ ิดเบียดเบยี นใคร ๓) เจรจาชอบ (สัมมาวาจา) หมายถงึ การไมพ่ ดู โกหก ไมพ่ ดู นนิ ทาว่าร้ายผ้อู น่ื ๔) การงานชอบ (สัมมากัมมนั ตะ) หมายถงึ การทางานโดยสจุ ริต โดยใช้ความสามารถของตนเอง ๕) การเลี้ยงชีพชอบ (สมั มาอาชวี ะ) หมายถึง การประกอบอาชีพสจุ ริต โดยไม่คดโกง ๖) เพียรพยายามชอบ (สมั มาวายามะ) หมายถึง ความเพยี รพยายามในการสรา้ ง ความดี ๗) ระลกึ ชอบ (สัมมาสติ) หมายถึง มีสติ ระมดั ระวงั ไมห่ ลงลืม ๘) ตัง้ ใจชอบ (ส้มมาสมาธิ) หมายถงึ การฝึกใหม้ ีจิตใจสงบ มีสมาธิ ไมฟ่ ้งุ ซา่ น การดับทกุ ข์นั้นตอ้ งอาศยั การอบรมจิตใจและปญั ญาให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจอยา่ งแท้จรงิ จึงจะสามารถลดความ ตอ้ งการของตนเองได้

๔๐ ประโยชนข์ องอรยิ สจั ๔ ๑. ทาใหไ้ ม่ประมาท คอยเตือนสตใิ ห้รวู้ ่าความทุกข์หรอื ปญั หาจะเกดิ ขึน้ ไดเ้ สมอ ๒. ช่วยให้แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ โดยใช้เหตุผลและปัญญา คือ เม่ือมีปัญหาหรือความทุกข์เกิดข้ึนก็ต้อง หาสาเหตุวา่ มาจากอะไร จึงจะสามารถแกป้ ัญหาไดต้ รงจดุ และเปน็ การแก้ปญั หาโดยใช้เหตผุ ลและปญั ญา ๓. ชว่ ยใหแ้ ก้ปัญหาด้วยตนเอง เพราะปัญหาหรือความทุกข์ต่าง ๆ เกิดจากตัวเราเองการแก้ไขปัญหา จึงต้องทาดว้ ยตนเองจะพ่ึงอาศัยสิ่งอน่ื มาแกป้ ญั หาให้ไม่ได้ ๔. ช่วยให้เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง การที่เราหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการปฏิบัติเองลงมือ กระทาเอง จะทา ให้เราสามารถมองเห็นว่าการแก้ปัญหาจะทาได้ยากหรือง่ายเพียงใดซึ่งจะทาให้เราหลุดพ้น จากตัณหาและเหน็ แสงสว่างแหง่ ปัญญา ทาให้ชวี ติ มีความสุข ฝึกใช้ปญั ญำในกำรแกป้ ัญหำกำรทำงำนรว่ มกัน

๔๑ ใบงำน ๔.๑ เร่ือง อรยิ สัจ ๔ ชื่อ...................................................................นำมสกุล...........................................เลขท.่ี ............ชั้น.................. ๑. ให้นกั เรยี นอ่านขอ้ ความทีก่ าหนดใหต้ ่อไปน้ี แลว้ ทาเคร่ืองหมาย  ลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) ข้อ ขอ้ ควำม ทกุ ข์ สมุทยั นิโรธ มรรค ๑ นา้ ตาลอยากเปน็ นักรอ้ งประจาวงดนตรขี อง โรงเรียน ๒ สมรักษต์ ัง้ ใจฟังครสู อนและทากิจกรรมตามที่ได้รบั มอบหมายทกุ วิชา ๓ สมเดชรวู้ ่าสาเหตุทเี่ ขาไม่ไดแ้ ชมป์เทเบิลเทนนิส เพราะมเี วลาในการฝกึ ซ้อมน้อย เขาจงึ ไมเ่ สยี ใจและ จะแก้ไขตนเองใหม่ ๔ แก้วเกา้ ปว่ ยเป็นโรคมะเร็งตบั ต้องไปรกั ษาตัวที่ โรงพยาบาล ๕ อาพรไม่อยากเป็นหัวหนา้ หอ้ งเพราะรวู้ ่างานหนัก ๖ ปอ๋ มแปม๋ เป็นคนมคี วามเพียรพยายาม ๗ สชุ าดาไดร้ บั เกยี รตบิ ัตรนักเรยี นผ้ปู ระพฤติดี ติดตอ่ กันทุกปี ๘ คุณแม่ของดาวใจเสียชีวิตอยา่ งกะทนั หัน ดาวใจ เสยี ใจมาก ๙ โจไม่เคยหกล้มบนอาคารเรยี นเลย เพราะโจจะเดิน อยา่ งระมดั ระวงั ๑๐ โชคชัยอยากไดร้ ถจักรยานรุ่นใหม่

ใบงำน ๔.๒ เร่อื ง อรยิ สัจ ๔ ๔๒ ช่ือ...................................................................นำมสกุล...........................................เลขท.่ี ............ชนั้ .................. ๒. ใหน้ ักเรียนอ่านสถานการณท์ ่กี าหนดแล้วเขียนลงในแผนภาพความคดิ ใหส้ อดคลอ้ ง กบั หลกั ธรรม \"อรยิ สจั ๔\" (คะแนนเตม็ ๕ คะแนน) สถำนกำรณ์ ..แ.เอ...ป...ตย...็น...า่อ......กค...ว้...ห...วน......าุ่น......มล...ด...ดง...ี...พร...นั ...่...างุส...ง......แูงก......ข...า......ยน......แ...ข...ข...า...ง...็ใ...แ...ห......ร...ญ...ง......่ไ...จ...ม...ะ...่ส...ไ......วด......ย...แ้ ...ง...ต...า...่..ง.ม...ต.........วั......ส.........ว......ย.........ๆ............... ....................................... ทุกข์ นโิ รธ ....................................... .................................. ............................ สมทุ ยั .................................. ............................ .................................. ............................ ..........--..--....--..--..--..--..--....--..--..--..--..--....--..--..--..--..--....--..--..--..--..--....--............ ...................................... มรรค ........................................... ........................................... ...........................................

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ พระพทุ ธศาสนากับการดาเนินชวี ติ ชุดที่ ๕ เรื่อง หลกั ธรรม (หลักกรรม)

ใบควำมรู้ที่ ๕ เรือ่ ง หลกั ธรรม ๔๔ (หลกั กรรม) กรรม หมายถึง การกระทาทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ทีป่ ระกอบด้วยเจตนาดกี ต็ ามเจตนาชวั่ กต็ าม กรรมเปน็ คากลาง ๆ แบ่งเป็น ๒ ประเภท คอื ๑. กศุ ลกรรม หรอื กรรมดี คอื การกระทาท่ปี ระกอบดว้ ย - ความไมโ่ ลภ - ความไมโ่ กรธ - ความไมห่ ลงงมงาย ๒. อกศุ ลกรรม หรอื กรรมชว่ั คอื การกระทาท่ีประกอบด้วย - ความโลภ - ความโกรธ - ความหลงงมงาย ฉะน้ัน คาวา่ กฎแห่งกรรม จงึ หมายถงึ ความเปน็ ไปตามหลกั เหตุและผลของการกระทาผใู้ ดกระทาสิ่งใด ไว้ ย่อมจะได้รับผลแห่งการกระทานั้น ถ้าทาดียอ่ มได้รบั ผลดตี อบแทนแต่ถ้าทาชัว่ ย่อมไดร้ ับผลชั่วตอบแทน เชน่ กนั สรา้ งกรรม กรรมจะตดิ เหมือนพชื พนั ธ์ุ ผลย่อมปรา ไว้อย่างไร ในอดีต ตามไป ในภายหนา้ หว่านไว้ ในเนอ้ื นา เช่นเผ่าพนั ธ์ุ กฎเปน็ จาก เพลงรางวัสชวี ติ ของ เทงี่ สติเพอ่ื ง คลปิ วดี ิโอ เรือ่ ง หลักธรรม (หลักกรรม)

๔๕ พระพทุ ธศาสนาสอนวา่ กรรมเป็นต้นเหตุของความเป็นไปต่าง ๆ ในชวี ิต บคุ คลใดทากรรมใดไว้ จะเปน็ ผู้ได้รบั ผลแห่งกรรมน้นั การได้รับผลของกรรมหรือผลของการกระทาจะมี ๒ ระยะ คือ ๑) ผลท่เี กดิ ข้นึ ทันทเี ม่ือกระทา เป็นผลท่เี กิดขน้ึ ในจิตใจ คอื เมื่อกระทาดกี ็จะมีความสขุ ทางใจ เพราะไดช้ ื่อ ว่าเปน็ คนดี มคี ณุ ธรรม แตถ่ า้ กระทาชว่ั ก็จะได้รบั ความทุกขใ์ จ ความเดือดรอ้ นหวาดระแวง กลวั ผู้อ่ืนจะล่วงรู้การ กระทาของตน และได้ช่ือวา่ เป็นคนชัว่ ๒) ผลทเี่ กิดข้ึนภายหลงั เปน็ ผลท่ีอาจจะเกดิ ข้ึนในลกั ษณะของการไดร้ บั เชน่ ได้รับ การยกย่องชมเชย ได้รบั รางวัล หรอื ในลกั ษณะของการสูญเสีย เชน่ ถูกตาหนิ ติเตยี น ถูกลงโทษนอกจากนี้ยงั หมายถึงผลทจ่ี ะเกิดขึ้นในชาตหิ น้า คือ การได้เกดิ ในชาติภพท่ีสงู ขึ้นหรอื ต่าลง ซ่ึงผลของกรรมท่ีเกดิ ข้นึ ในภายหลงั นจี้ ะเป็นอย่างไรเราไมส่ ามารถล่วงรู้ได้

ใบงำน ๕.๑ เรอื่ ง หลกั ธรรม ๔๖ (หลกั กรรม ) ชื่อ...................................................................นำมสกุล...........................................เลขท.ี่ ............ชั้น.................. ๑. ใหน้ ักเรียนเติมหลักกรรมลงในตารางให้ถูกต้อง (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) ขอ้ ควำม ประเภท วิธีแสดงออก อกุศลกรรม กาย ๑. เก่งแกล้งผทู้ ่ีอ่อนแอกวา่ เสมอ ๒. นารอี ยากได้ของของผู้อ่นื ๓. แก้วชว่ ยแม่ทาความสะอาดบา้ น ๔. วภิ าใชค้ าพูดสุภาพกับทกุ คน ๕. พลโกหกพอ่ แมว่ ่าป่วยเพือ่ ไมต่ ้องไป โรงเรยี น ๖. ขงิ เหน็ คนแก่ขา้ มถนนจงึ คดิ อยากไป ช่วยเหลอื ๗. สดุ าใสบ่ าตรทุกวนั พระ ๘. ตนู พดู ยแุ ยงใหเ้ พ่ือนทะเลาะกนั ๙. สแนค็ รู้สึกยนิ ที่เพ่ือนได้รบั รางวัล ๑๐. น้าตาลขโมยขนมในรา้ นค้า

ใบงำน ๕.๒ เรอ่ื ง หลกั ธรรม ๔๗ (หลกั กรรม ) ๒. ให้นกั เรยี นเลือกสานวนเกีย่ วกับหลกั กรรมมา ๒ ข้อ เขียนอธบิ ายวา่ มีความหมาย อย่างไร พรอ้ มวาดภาพประกอบและบอกเหตผุ ล (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) ๑. หวา่ นพืชเช่นใด ยอ่ มได้ผลเช่นน้ัน ๒. กรรมใดใครก่อ กรรมนน้ั ยอ่ มสนอง ๓. ทาดไี ด้ดี ทาชั่วไดช้ ่วั ภาพชาวนาหวา่ นเมลด็ ขา้ ว ภาพน้ี คอื ............................................................................................................................................................... ตรงกับสานวนว่า .................................................................................................................................................... มคี วามหมาย ดังนี้ .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................. ชอ่ื ...................................................................นำมสกลุ ...........................................เลขท.่ี ............ชน้ั ..................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook