Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ธรรมมะ34

ธรรมมะ34

Published by tadatip2529, 2021-09-12 12:28:03

Description: ธรรมมะ34

Search

Read the Text Version

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง พระพทุ ธศาสนากบั การดาเนินชีวติ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม นางสาวธาดาทิพย์ รักทอง ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ โรงเรียนวดั หนงั สานกั งานเขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่ือง พระพทุ ธศาสนากับการดาเนินชีวติ ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เล่มท่ี ๑ ดวงมณีแห่งชาวพทุ ธ นางสาวธาดาทิพย์ รักทอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชานาญการ โรงเรียนวดั หนัง สานักงานเขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร

๑ คำนำ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง พระพุทธศาสนากับการดาเนินชีวติ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม มีจานวน ๔ เลม่ มีวัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใช้ ประกอบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ในสาระท่ี ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ซงึ่ สอดคล้องกับการจดั การศึกษาโดยใช้หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐานทมี่ ่งุ พฒั นาผเู้ รยี นทกุ คนซง่ึ จะเปน็ กาลังของชาติ ใหเ้ ปน็ มนษุ ย์ที่สมดลุ ทัง้ ร่างกาย จติ ใจ มีความร้คู ูค่ ุณธรรม มีค่านิยมทีพ่ งึ ประสงค์ เหน็ คณุ คา่ ของตนเอง มวี ินยั และปฏิบัตติ นตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เล่มท่ี ๑ ดวงมณแี หง่ ชาวพุทธ เล่มน้ี จะกลา่ วถงึ ความหมาย ความสาคญั ของพระรัตนตรยั หลกั ธรรมทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั พระรตั นตรัย การปฏบิ ตั ิตนและแสดงความเคารพ พระรตั นตรยั การนาหลักธรรม เร่ือง พุทธจริยา อรยิ สจั ๔ และหลักกรรมมาปฏิบตั แิ ละประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวิตประจาวนั โดยส่งเสรมิ ให้ผู้เรียนนาความรูค้ วามเขา้ ใจไปประยกุ ตใ์ ชแ้ ละเป็นสว่ นสาคัญ ในการพัฒนาการเรยี นรู้ตามตัวชีว้ ดั ที่ไดก้ าหนดไว้ในหลักสตู ร เปน็ ส่ือเสริมการเรยี นร้ทู ่ีช่วยแกป้ ญั หา ผูเ้ รียนทีม่ ีผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นต่า ใหส้ ามารถพฒั นาตนเองผา่ นตามมาตรฐานตวั ชี้วัด ผู้จัดทาหวังเป็นอยา่ งย่งิ วา่ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ เรือ่ ง พระพุทธศาสนากับการดาเนินชีวิต ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม จะเปน็ ประโยชนส์ งู สุด ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ขอขอบคณุ ผูบ้ ริหาร ครผู ู้สอน และนกั เรียน โรงเรยี นบางชนั (ปล้ืมวิทยานสุ รณ์) กรงุ เทพมหานคร รวมถงึ ผทู้ ีม่ ีสว่ นร่วมในการจดั ทาชุดกจิ กรรมการเรียนรใู้ นครง้ั นี้ใหส้ าเร็จลุลว่ งไปดว้ ยดี ไว้ ณ โอกาสนี้

สารบัญ ๒ เรอื่ ง หนา้ คำนำ ๑ สำรบญั ๒ คำแนะนำสำหรับครูผู้สอน ๔ คำแนะนำสำหรับนักเรยี น ๖ มำตรฐำนกำรเรียนร้แู ละตัวชี้วัด ๗ สำระกำรเรียนรู้ ๗ สำระสำคัญ ๘ จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ๙ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑๐ ตอนที่ ๑ พระรัตนตรัย ๑๔ เนอื้ หำควำมรู้ ๒๑ กิจกรรมท่ี ๑ พระรตั นตรัย ตอนท่ี ๒ ศรัทธำ ๔ ๒๔ เน้ือหำควำมรู้ ๓๐ กจิ กรรมท่ี ๒ ศรัทธำ ๔ ตอนท่ี ๓ พุทธจรยิ ำ ๓ ๓๒ เนือ้ หำควำมรู้ ๓๔ กิจกรรมท่ี ๓ พทุ ธจริยำ ๓ ตอนท่ี ๔ อรยิ สัจ ๔ ๓๗ เนอื้ หำควำมรู้ ๔๓ กจิ กรรมที่ ๔ อริยสจั ๔

สารบัญ ๓ เรื่อง หน้า ตอนท่ี ๕ หลกั กรรม ๔๗ เนื้อหำควำมรู้ ๔๙ กิจกรรมท่ี ๕ หลกั กรรม ๕๓ กจิ กรรมเสรมิ กำรเรียนรู้ (กำรสัมภำษณ์บุคคลที่สนใจ) ๕๔ แบบทดสอบหลงั เรยี น ๕๘ ภำคผนวก ๕๙ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น ๖๐ เฉลยกิจกรรมที่ ๑-๕ ๗๕ เฉลยกิจกรรมเสริมกำรเรยี นรู้ ๗๖ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ๗๗ บรรณำนุกรม

๔ คาแนะนาสาหรับครูผู้สอน เลม่ ท่ี ๑ ดวงมณีแหง่ ชาวพทุ ธ ตอนที่ ๑ พระรตั นตรยั ตอนท่ี ๒ ศรทั ธา ๔ ตอนที่ ๓ พทุ ธจรยิ า ๓ ตอนที่ ๔ อรยิ สจั ๔ ตอนที่ ๕ หลกั กรรม การจดั กิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใชช้ ดุ กิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง พระพทุ ธศาสนากบั การดาเนนิ ชีวติ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม เลม่ นี้ ใชเ้ วลา ๕ ช่วั โมง กิจกรรมภายในเล่มประกอบดว้ ย แบบทดสอบก่อนเรียน บทเรียนจานวน ๕ ตอน กิจกรรมเสริมการ เรียนรูแ้ บบทดสอบหลงั เรียน และแบบเฉลยในภาคผนวก ครูผสู้ อนควรปฏิบตั ิ ดงั นี้ ๑. ขนั้ เตรยี มกำรสอน ๑.๑ ศกึ ษาแผนการจดั การเรียนรูแ้ ละชดุ กิจกรรมอย่างละเอียดจนเขา้ ใจเป็นอย่างดี ๑.๒ ตรวจสอบชดุ กจิ กรรม ส่อื การเรียนรู้ ๑.๓ ในกรณีท่มี กี ารแบง่ กลมุ่ ใหแ้ บง่ กลมุ่ นกั เรยี นโดยคละความสามารถ (เกง่ ปานกลาง ออ่ น) และคละเพศชาย - หญิง ๑.๔ กาหนดบทบาทหนา้ ท่ใี หส้ มาชิกในกลมุ่ ทราบถงึ การปฏบิ ตั ติ น

๕ คาแนะนาสาหรับครูผู้สอน ๒. ข้ันดำเนินกิจกรรมกำรเรียนรู้ ๒.๑ ครูแจกชดุ กิจกรรม ๒.๒ ครูแจง้ วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรูแ้ ละชีแ้ จงการใชช้ ดุ กิจกรรมใหน้ กั เรียนทราบ กอ่ นลงมือปฏิบตั ิ ๒.๓ ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น เพ่ือศกึ ษาระดบั ความรูพ้ นื้ ฐานของนกั เรียน ๒.๔ ครูใหน้ กั เรียนศึกษาชดุ กิจกรรมและปฏิบตั ิกิจกรรมตามขน้ั ตอน ดงั นี้ ๑) ศึกษาเนือ้ หาบทเรียน ๒) ทากิจกรรม ๒.๕ ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน เพ่ือศึกษาพฒั นาการเรยี นรูข้ องนกั เรยี น ๓. ขนั้ ประเมินผล ๓.๑ ครูตรวจแบบทดสอบและกิจกรรม ๓.๒ บนั ทกึ คะแนน ประเมนิ ผลตามเกณฑก์ ารวดั ผลและประเมนิ ผล ๓.๓ หากนกั เรียนคนใดยงั ทาแบบทดสอบหลงั เรยี นและกิจกรรมไมผ่ ่านรอ้ ยละ ๖0 ใหศ้ กึ ษาชดุ กิจกรรมตามขน้ั ตอนใหมอ่ ีกครงั้ ๓.๔ เสริมแรงและใหก้ าลงั ใจแก่นกั เรียนอยา่ งเหมาะสม ทงั้ นีค้ รูสามารถชว่ ยเหลอื โดยการอธิบายใหน้ กั เรียนที่ไมเ่ ขา้ ใจบทเรียนตามศกั ยภาพ ของนกั เรียนแตล่ ะคน

๖ คาแนะนาสาหรับครูผู้สอน ชุดกิจกรรมนี้ เป็ นกิจกรรมสาหรับนักเรียน เพื่อใช้ประกอบการเรียนรู้ เรื่อง พระพทุ ธศาสนา กับการดาเนินชีวิต เล่มท่ี ๑ ดวงมณีแห่งชาวพทุ ธ เพ่ือให้บรรลตุ ามจุดประสงค์และ เพอื่ ใหก้ ารจดั กิจกรรม เป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ นกั เรยี นตอ้ งปฏิบตั ิตน ดงั ต่อไปนี้ ๑. นกั เรยี นฟังคาแนะนาจากครูผสู้ อนในการปฏิบตั ิกิจกรรม ๒. ศึกษาจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูแ้ ละคาชีแ้ จงใหเ้ ขา้ ใจก่อนทากิจกรรม ๓. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพื่อวดั ความรูค้ วามเขา้ ใจก่อนเรยี น ๔. ตั้งใจเรียนรูแ้ ละปฏิบัติตามขน้ั ตอนอย่างเครง่ ครดั โดยศึกษาเนื้อหาบทเรียน และทากิจกรรม ดว้ ยความซ่ือสตั ย์ ๕. ขณะศึกษา หากมขี อ้ สงสยั หรือขอ้ ขอ้ งใจใหถ้ ามครูเพ่อื ขอคาแนะนา ๖. รว่ มแสดงความคิดเห็นตามความเขา้ ใจอยา่ งมเี หตผุ ล ๗. หลงั จากศึกษาชดุ กิจกรรมแต่ละตอนเสร็จจะมกี ารทดสอบดว้ ยกิจกรรม ๘. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เพือ่ ประเมินผลทางการเรียน ๙. หากนกั เรยี นคนใดยงั ทาแบบทดสอบและกิจกรรมไม่ผ่านรอ้ ยละ ๖๐ ใหศ้ ึกษา ชดุ กิจกรรม ตามขนั้ ตอนใหมอ่ ีกครงั้

๗ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความสาคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาท่ตี นนับถือและศาสนาอื่น มศี รัทธาท่ถี ูกต้อง ยดึ มัน่ และปฏิบัติตามหลกั ธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ตวั ขวี้ ัด ส ๑.๑ ป.๕/๕ แสดงความเคารพพระรันตรัยและปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลกั ธรรม โอวาท ๓ ในพระพทุ ธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนด สาระการเรียนรู้ ๑) พระรัตนตรัย ๒) ศรัทธา ๔ ๓) พทุ ธจริยา ๓ ๔) อริยสัจ ๔ ๕) หลกั กรรม

สาระสาคญั ๘ พระรัตนตรัย ประกอบด้วย พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซ่ึงเป็ นองค์ประกอบ ทสี่ าคญั ของพระพทุ ธศาสนา ชาวพทุ ธที่ดีควรแสดงความเคารพศรัทธาในคุณของพระ รัตนตรัย ประพฤติ ปฏบิ ัติตนตามด้วยความเคารพศรัทธา เพ่อื ความสุขในการดาเนินชีวิต หลกั ศรัทธา ๔ เป็ นความเช่ือท่ปี ระกอบด้วยเหตุผล เช่ือในการทาความดี การมศี รัทธาความเชื่อถือในเร่ืองต่าง ๆ เหล่านี้ จะทาให้เราเกดิ ความมัน่ ใจในพระรัตนตรัยและ พร้อมที่จะปฏิบัติตามหลักคาสอนของพระพทุ ธเจ้า ซึ่งจะส่งผลต่อผ้ปู ฏบิ ัตแิ ละเป็ นการสืบ ทอดพระพทุ ธศาสนา พทุ ธจริยา ๓ เป็ นการบาเพญ็ ประโยชน์ของพระพทุ ธเจ้า ชาวพทุ ธที่ดีควรนา หลักพทุ ธจริยา ๓ มาเป็ นแบบอย่างในประพฤติ ปฏิบัติตนและดาเนินชีวติ อย่างมีคุณค่า และเป็ นคนดตี ามหลักพระพทุ ธศาสนา เพอื่ ให้เกดิ ความสุขต่อผ้ปู ฏิบัติและสังคมส่วนรวม หลกั ธรรมอริยสัจ ๔ เป็ นหลกั ธรรมที่สอนให้มนุษย์รู้ทกุ ข์ ทีเ่ กดิ แห่งทุกข์ และข้อปฏบิ ัตเิ พือ่ ให้ถึงซ่ึงความดบั แห่งทุกข์ การนาหลกั ธรรมอริสัจ ๔ ไปปฏิบัติย่อมเกิด ประโยชน์และผลดตี ่อผู้ปฏบิ ัตแิ ละสังคมส่วนรวมได้อย่างแท้จริง กรรมเป็ นสิ่งทเ่ี กดิ จากการกระทาของมนุษย์ทมี่ ีเจตนาหรือความจงใจ การปฏิบัติตน ตามหลักกรรมไม่ว่าจะเป็ นกรรมดี หรือกรรมช่ัว ผ้ปู ฏบิ ัติย่อมได้รับผลจากการกระทาของ ตนเองท้งั สิ้น ไม่สามารถหลีกหนี ผลจากการกระทาได้ การเช่ือในเร่ืองหลกั กรรมจะทาให้ ปฏิบัติตนในทางทถี่ ูกต้องดงี าม ส่งผลดตี ่อผ้ปู ฏิบัตอิ ย่างแท้จริง

จุดประสงค์การเรียนรู้ ๙ เม่ือปฏิบตั กิ ิจกรรมในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เล่มที่ ๑ แลว้ นกั เรียนสามารถ ๑. มีความรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความหมาย ความสาคญั และองคป์ ระกอบของพระรัตนตรัย (K) ๒. ปฏบิ ตั ติ นและแสดงความเคารพพระรัตนตรัยไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม (P) ๓. เห็นคุณค่าของการปฏิบตั ิตนตอ่ พระรัตนตรัย (A) ๔. รู้และเขา้ ใจความหมายและองคป์ ระกอบของศรัทธา ๔ (K) ๕. สามารถบอกวธิ ีปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ศรัทธา ๔ ได้ (P) ๖. เห็นคุณค่าและสามารถนาหลกั ศรัทธา * ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ (A) ๗. บอกความหมายและความสาคญั ของพุทธจริยา ๓ ไดถ้ ูกตอ้ ง (K) ๘. นาหลกั พทุ ธจริยา ๓ ไปประพฤตปิ ฏิบตั ิได้ (P) ๙. มีความตระหนกั และเห็นคุณค่าของหลกั พุทธจริยา ทที่ าใหเ้ กิดความสุขในชีวติ ได้ (A) ๑๐. อธิบายและยกตวั อยา่ งการนาหลกั อริสัจ ㆍ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ (K) ๑๑. เขยี นอธิบายการแกป้ ัญหาตามหลกั อริยสัจ ๔ ได้ (P) ๑๒. เห็นความสาคญั ของการนาหลกั อริสัจ ๔ ไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาจนเกิดความสุข ในชีวติ (A) ๑๓. บอกความหมายและประเภทของหลกั กรรมได้ (K) ๑๔. บอกผลของการกระทาในลกั ษณะของหลกั กรรมได้ (K) ๑๕. เห็นคุณค่า ความสาคญั และปฏิบตั ิตนตามหลกั กรรมได้ (P, A)

แบบทดสอบก่อนเรียน ๑๐ เล่มท่ี ๑ ดวงมณีแห่งชำวพทุ ธ คำชแี้ จง ๑. แบบทดสอบมีจำนวน ๑๐ ขอ้ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เวลำ ๑๐ นำที ๒. ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว โดยทำเคร่ืองหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ ๑. กรรมที่ทำจะดีหรือชัว่ ขนึ้ อยู่กบั สงิ่ ใด ก. ผูท้ ำกรรม ข. เจตนำที่ทำ ค. วิธที ำกรรม ง. ผลของกรรม ๒. พุทธจรยิ ำข้อใดที่เป็นกำรบำเพญ็ ประโยชน์ตำมหน้ำท่ขี องพระพทุ ธเจำ้ ก. เสด็จหำ้ มพระญำติที่ววิ ำทกัน ข. แสดงธรรมโปรดพระญำติวงศ์ ค. แสดงธรรมโปรดพทุ ธบรษิ ัท ๔ ง. ทรงประดิษฐำนพระพทุ ธศำสนำใหย้ ่งั ยนื ๓. \"คำสั่งสอนของพระพทุ ธเจ้ำ\" เปน็ องค์ประกอบของพระรัตนตรยั ท่ีมีควำมสัมพนั ธก์ บั ข้อใด ก. พระพทุ ธ ข. พระสงฆ์ ค. พระธรรม ง. อุบำสก อบุ ำสกิ ำ ๔. ศรทั ธำ ๔ เปน็ หลักธรรมท่มี คี วำมมุ่งหมำยอย่ำงไร ก. ควำมเมตตำ ข. ควำมซือ่ สตั ย์ สจุ ริต ค. ควำมขยันหมัน่ เพียร ง. ควำมเชอื่ ที่มีเหตุผล ๕. ในทำงพระพุทธศำสนำ ส่ิงใดท่แี บง่ แยกคนออกจำกกนั ก. อำยุ ข. กรรม ค. วรรณะ ง. ควำมรู้

๑๑ ๖. ใครเปน็ ผูม้ ีศรทั ธำในคุณพระรัตนตรยั ก. เหน่งไมก่ นิ เนอื้ สตั ว์ ข. กล้ำสวดมนตท์ กุ วนั ค. หนิงสะสมวตั ถุโบรำณ ง. หน่ึงฝำกเงนิ กับธนำคำร ๗. กำรตรวจพจิ ำรณำสตั ว์โลกว่ำผใู้ ดมอี ปุ นิสยั ทีจ่ ะบรรลธุ รรมได้ เพือ่ จะได้เสด็จไปโปรด เป็นพุทธกจิ ของพระพทุ ธเจ้ำในตอนใด ก. ตอนเช้ำ ข. ตอนใกล้รงุ่ ค. ตอนเย็น ง. ตอนเที่ยงคนื ๘. กำรแกป้ ัญหำตำมหลักธรรมอรยิ สัจ ๔ มีลักษณะอยำ่ งไร ก. ป้องกันปญั หำโดยตรง ข. กำรเผชิญกบั ปัญหำโดยตรง ค. กำรหลบหลีกปญั หำโดยตรง ง. กำจัดตน้ เหตุของปัญหำโดยตรง ๙. กำรอยำกเปน็ นำยกรฐั มนตรี เป็นควำมอยำกทจ่ี ัดอย่ใู นประเภทใด ก. ภวตัณหำ ข. วภิ วตณั หำ ค. กำมตณั หำ ง. อภติ ณั หำ ๑๐. ข้อใดแสดงถงึ กำรมีควำมเคำรพตอ่ พระรตั นตรยั ก. พยำยำมเขำ้ วัดทุกอำทติ ย์ ข. ทำตำมท่ีปูย่ ่ำตำยำยสอนมำ ค. แสดงควำมเคำรพตำมบคุ คลอื่น ง. มศี รัทธำและปฏบิ ตั ิตำมหลักธรรม

กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑๓ เลม่ ท่ี ๑ ดวงมณีแห่งชำวพุทธ คำขี้แจง ให้นกั เรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกทส่ี ดุ แล้วทำเครอ่ื งหมำย X ลงในชอ่ งว่ำง ชอ่ื - สกลุ .................................................................................. เลขท่ี.......ชน้ั ...... ข้อ ตวั เลอื ก ง ก ขค ขอ้ ละ ๑ คะแนน ๑ ขอ้ ละ 0 คะแนน ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ได้ เกณฑก์ ำรประเมิน ตอบถูก ตอบผิด / ไม่ตอบ / หรอื ตอบมำกกว่ำ ๑ ขอ้

ตอนที่ ๑ พระรัตนตรยั ๑๔ พระรัตนตรัย หมำยถึง ดวงแก้วอนั ประเสรฐิ ๓ ประกำร ซง่ึ เป็นท่ี เคำรพบชู ำสงู สุดของชำวพุทธ ได้แก่ พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ ๑. พุทธรัตนะ แก้วอันประเสริฐ คอื พระพทุ ธเจ้ำ พระพุทธ ท่ีมำ : http://www.prabanprabucha. com/category/ ๒. ธรรมรัตนะ แก้วอันประเสริฐ คอื พระธรรมคำสัง่ สอนของพระพุทธเจ้ำ พระธรรม ภำพโดย : นำงสำวชิสำพัชร์ อนิ โอภำส ๓. สังฆรตั นะ แกว้ อนั ประเสรฐิ คือ พระสงฆ์ พระสงฆ์ ทม่ี ำ : https://sites.google.com/site/ ammyedtechno/๑-๑ph-ra-ratntray

๑๕ องค์ประกอบของพระรัตนตรัย พระพุทธ หมำยถึง องค์สมเด็จพระสมั มำสมั พทุ ธเจำ้ ผทู้ รงตรสั ร้คู วำมจริง อันเป็นแนวทำงท่ีจะทำใหห้ ลุดพน้ คุณค่ำของพระพทุ ธเจ้ำนน้ั ทรงเป็นศำสดำของ พระพุทธศำสนำ พระพทุ ธ พระธรรม ภำพโดย : นำงสำวชสิ ำพชั ร์ อนิ โอภำส ท่ีมำ : http://www.prabanprabucha. com/category/ พระธรรม หมำยถึง คำส่งั สอนของพระพุทธเจำ้ ซง่ึ พระธรรมมคี ณุ คำ่ มีประโยชน์ตอ่ มนษุ ย์ อย่ำงมหำศำล ทำใหผ้ ปู้ ฏบิ ัตธิ รรมแล้วมคี วำมสุขกำย สุขใจและคนรอบข้ำงมีควำมสุขด้วย พระสงฆ์ หมำยถงึ สำวกของพระพุทธเจำ้ หรอื พระภกิ ษุทีบ่ วชในพระพุทธศำสนำและศึกษำปฏิบัติ ตำมพระธรรมคำส่งั สอนของพระพทุ ธเจ้ำ แลว้ สัง่ สอน ให้ผอู้ น่ื ได้รู้ตำม พระสงฆ์ในพระพุทธศำสนำ มี ๒ ประเภท คอื พระอรยิ สงฆ์ และสมมติสงฆ์ พระสงฆ์ ท่ีมำ : https://sites.google.com/site/ ammyedtechno/๑-๑ph-ra-ratntray

๑๖ พระพทุ ธเจ้ำทรงตรัสรู้ ท่มี ำ : www.dhammajak.net/ พระพทุ ธศำสนำสอนใหย้ ดึ ถือ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งรวมเรียกว่ำ พระรัตนตรัย เป็นสรณะ หรือ เป็นท่ีพึ่ง เพ่ือให้เกิดควำมศรัทธำชำบซ้ึงใน พระพุทธ พระพุทธเจ้ำทรงเป็น ศำสดำของศำสนำพุทธ ทรงเป็นผู้ค้นพบสัจธรรมโดยกำรตรัสรู้เองและนำมำสอนให้ผู้อ่ืนปฏิบัติ ตำมทรงประกำศพระศำสนำและเผยแผ่หลักธรรมให้มนุษย์ได้เห็นสัจธรรมของชีวิต ทรงมีคุณ ย่งิ ใหญ่ต่อคนท่ัวไป เม่ือพุทธศำสนิกชน ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้ำ ทำให้จิตสงบ ตั้งม่ัน เป็น สมำธิเกดิ ปติ สิ ุขขน้ึ สรปุ ง่ำย ๆ พระพุทธ หมำยถงึ องค์สมเด็จพระสัมมำสัมพทุ ธเจำ้ ผทู้ รงก่อตั้งพระพทุ ธศำสนำและทรงเป็นผ้คู น้ พบพระธรรมคำสอน ด้วยพระองคเ์ อง

พระธรรม หมำยถึง คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ำ ๑๗ พระธรรม พระธรรย่อมรกั ษำผ้ปู ฏบิ ัตไิ ม่ใหต้ กไปในทช่ี ัว่ อธบิ ำยได้ว่ำผู้ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ตำมพระธรรมย่อมไดร้ บั อำนสิ งส์ไม่ตกไปในทำงท่ชี ่ัว ไดร้ บั ควำมสุขควำมเจรญิ ตำมสมควรแก่ กำรปฏิบัตินั้นสว่ นบำงคนประพฤติปฏบิ ตั ิธรรมอยู่ แตถ่ งึ ควำมพินำศ เกิดควำมเสียหำยต่ำง ๆ เช่น อัคคภี ยั วำตภยั หรือ โจรภยั เปน็ ต้น น่นั อำจเป็นเพรำะอกศุ ลกรรมเก่ำทไ่ี ด้กระทำไวใ้ น ปำงก่อนตำมทนั ในชำตปิ ัจจุบนั คำวำ่ \"ที่ชั่ว\" จำแนกได้ ๒ ประเภท คือ ๑. ทีช่ ว่ั ในภพน้ี ไดแ้ ก่ พันธนำคำร (เรอื นจำ) อัคคีภัย วำตภยั เปน็ ต้น ๒. ทีช่ วั่ ในภพหน้ำ ไดแ้ ก่ อบำยภูมิ คอื กำรตำย พบแต่ ควำมเสอื่ ม มี ๔ ภมู ิ คือ นรก สัตว์เดรัจฉำน เปรต และอสรุ กำย พระธรรม ทมี่ ำ : http://dhamma.serichon.us/

๑๘ ใครจะบอกพี่แกว้ ได้บ้ำงว่ำ พระสงฆ์มีหน้ำทอี่ ะไรบ้ำง พระสงฆ์ ท่มี ำ : https://sites.google.com/site/ ammyedtechno/๑-๑ph-ra-ratntray พระสงฆเ์ ปน็ ผู้นำคำสั่งสอน พระพทุ ธเจ้ำมำเผยแผ่ค่ะ แนนรูค้ ่ะ พระสงฆท์ ำหนำ้ ที่ สอนหนังสอื ให้พวกเรำคะ่ พระสงฆย์ งั มหี นำ้ ที่อื่น ๆ อีก ดังนี้ ๑. พระสงย์ คอื หมชู่ ุมนุมชน ที่ฟังคำส่งั สอนของพระพทุ ธเจำ้ แลว้ นำมำปฏิบัติตนตำมพระธรรมวินยั ๒. พระสงฆ์มหี นำ้ ทีศกึ ษำปฏบิ ัติตำมพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ำ แลว้ ส่งั สอนใหผ้ อู้ ืน่ รู้ตำม ๓. พระสงฆเ์ ปน็ ผูท้ มี่ คี วำมประพฤติดี ประพฤติชอบ

๑๙ ความเกี่ยวขอ้ งสมั พันธ์กนั ของพระรัตนตรัย พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นองคป์ ระกอบหลกั สำคัญของ พระพทุ ธศำสนำ เหตุทเี่ รยี ก รัตนะ เพรำะมีคุณค่ำ ๓ ประกำร เก่ยี วข้องสมั พนั ธ์กนั พระรัตนตรัยต่ำงอำศัยกันซ่ึงกันและกัน คือ พระพุทธเจ้ำเป็นผู้ตรัสรู้ธรรม ในขณะที่พระ ธรรมเป็นคำสอนที่ประเสริฐของพระพุทธเจ้ำ ส่วนพระสงฆ์น้ันเป็นสำวกของผู้ฟังธรรมจำก พระพุทธเจ้ำแล้วศึกษำ จดจำพระธรรม นำมำปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และเผยแผให้ผู้อ่ืนได้รู้ตำม ทำให้เกดิ ควำมสงบสุขในสงั คม ถ้ำจติ เรำเช่ือม่ัน ศรทั ธำในพระรตั นตรัย นัน่ กห็ มำยควำมว่ำ เรำมเี คร่อื งยึดเหนยี่ วจิตใจแล้ว ใครจะทำอะไรเรำกไ็ ม่หวนั่ ไหว หลักการเขา้ ถงึ พระรัตนตรัย พระรัตนตรัย เรยี กอีกชอ่ื ว่ำ สรณคมน์ แปลว่ำ กำรเขำ้ ถงึ สรณะหรือเรียกวำ่ ไตรสรณคมน์ หมำยถึง กำรถงึ รัตนะ ๓ เปน็ สรณะ คอื กำรนำเอำพระรัตนตรัยมำเปน็ สรณะหรอื มำ เปน็ ทพ่ี ึง่ ยึดเหน่ียวใจในกำรสร้ำงกุศล เป็นอำกำรของจติ ทม่ี คี วำมศรัทธำ เชือ่ ม่ันมคี วำมเลื่อมใส มี ควำมเคำรพในพระรัตนตรัยว่ำเปน็ ของเรำ เป็นผู้นำทำงชวี ติ ของเรำซง่ึ สำมำรถนำไปสกู่ ำรทำลำย กิเลสได้ในที่สุด

การแสดงความเคารพพระรัตนตรยั ๒๐ พุทธศำสนิกชนควรแสดงควำมเคำรพพระรัตตรัยหรือเรียกอีกอย่ำงว่ำ กำรบูชำ เพรำะเป็นส่ิงเคำรพสูงสดุ ของชำวพทุ ธ มหี ลกั ใหญท่ ช่ี ำวพุทธพงึ ปฏิบัติ 6 ประกำร คือ ๑. อามสิ บูชา กำรเคำรพหรอื บชู ำดว้ ยอำมิส เช่น กำรสักกำระด้วยธปู เทียน ดอกไม้ ธูป ๓ ดอก บูชำพระพทุ ธคุณ ๓ คอื พระบริสุทธิคณุ พระมหำกรุณำธิคณุ และพระปัญญำคุณ เทยี น ๒ เล่ม บูชำพระธรรม คอื พระธรรมและพระวินยั ดอกไม้ บชู ำพระสงฆ์ พระสงฆท์ ่ีอุปสมบทใน พระพทุ ธศำสนำมำจำกชนชน้ั หลำยวรรณะ เมอื่ เขำ้ มำในพระพทุ ธศำสนำทุกรปู มีพระธรรมวนิ ัย ปฏิบตั แิ บบอย่ำงเดียวกนั ทุกรปู เสมอกนั ดว้ ยพระธรรมวนิ ัย เหมอื นดอกไมห้ ลำกสี เมือ่ มำอยู่รวมกันในแจกันจงึ ดสู วยงำม ๒. ปฏปิ ตั ตบิ ชู า เปน็ กำรแสดงควำมเคำรพสูงสุด คอื กำรปฏิบัตติ ำมหลกั คำสอน ผปู้ ฏบิ ตั ิ ย่อมไดร้ บั อำนสิ งส์ คอื ควำมสงบสุขของชวี ติ เพรำะสำมำรถหลดุ พ้นจำกกำรถกู กเิ ลส ครอบงำจติ ใจได้

กิจกรรมท่ี ๑ พระรัตนตรัย ๒๑ 1. ให้นกั เรยี นเขียนแผนผังควำมคดิ เก่ียวกับพระรัตนตรยั ลงในช่องว่ำงใหถ้ ูกตอ้ ง (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) ----------------------- ----------------------- ----------------------- ----------------------- ----------------------- ----------------------- ----พ--ร--ะ-พ---ทุ --ธ--เ-จ--า้---- พระรัตนตรัย ----------------------- ----------------------- ----------------------- ----------------------- ----------------------- --------------------- ----------------------- ----------------------- --------------------- ----------------------- ----------------------- -----------------------

๒๒ ๒. ใหเ้ รียนวำดภำพเกยี่ วกับพระรัตนตรยั ลงในกรอบ แล้วเขยี นกำรปฏิบตั ติ นทแี่ สดงออก ถึงควำมมีศรัทธำต่อพระรัตนตรัยใต้ภำพ (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน) ๑) จำกควำมศรัทธำที่ฉนั มตี อ่ พระพุทธเจ้ำ ฉนั ได้ปฏบิ ัติตน ดงั น้ี .................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..... ๒) จำกควำมศรัทธำที่ฉนั มีตอ่ พระธรรม ฉันไดป้ ฏบิ ัติตน ดังนี้ .................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..... ๓) จำกควำมศรัทธำทฉ่ี นั มตี ่อพระสงฆ์ ฉันไดป้ ฏิบตั ติ น ดังนี้ .................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .....

๒๓ ๓. ให้นักเรยี นเสนอแนวทำงในกำรแสดงควำมเคำรพพระรัตนไตยและบันทกึ กำรปฏิบตั ิลง ในแบบบันทกึ (คะแนนเตม็ ๕ คะแนน) ๑) นกั เรยี นแสดงควำมเคำรพต่อพระรัตนตรัยอย่ำงไรบ้ำง ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ๒) นักเรียนเคยแสดงควำมเคำรพต่อพระรตั นตรยั ในโอกำสใดบ้ำง ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ๓) จำกกำรปฏบิ ัตดิ ังกล่ำวเกิดผลดีตอ่ ตนเองและพระพุทธศำสนำอย่ำงไร ผลดตี ่อตนเอง ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ผลดีตอ่ พระพุทธศำสนำ ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ๔) กำรแสดงควำมเคำรพพระรตั นตรัยสอดคลอ้ งกับคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ข้อใด รกั ชำติ ศำสน์ กษัตรยิ ์ มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน ใฝ่เรยี นรู้

ตอนท่ี ๒ ศรัทธา ๔ ๒๔ ชำวพุทธนอกจำกจะตอ้ งมคี วำมศรทั ธำในคณุ พระรัตนตรยั แลว้ ยังต้องมีศรทั ธำ ๔ ประกำร อีกดว้ ย นักเรยี นทรำบหรอื ไมว่ ่ำ ศรทั ธำ ๔ ประกำร มอี ะไรบ้ำง ศรัทธา ๔ หมำยถึง ควำมเชือ่ ท่ีประกอบดว้ ยหลักเหตุผล ๔ ประกำร ดงั น้ี ๑. เชือ่ เรอ่ื งของกรรม เช่ือว่ำกรรมมีอยู่จริง ๒.เชื่อผลของกรรมเช่ือวำ่ ทำอย่ำงไรย่อมไดอ้ ย่ำงน้ัน ๓. เชื่อว่ำบุคคลมกี รรมเป็นของตนเอง คอื เช่ือวำ่ สิ่งทที่ ำน้นั จะมีผลติดตวั เรำตลอดไป ๔. เชอ่ื ว่ำกำรตรสั รูข้ องพระพทุ ธเจ้ำ เชอ่ื ส่ิงท่ีพระองคต์ รสั รวู้ ่ำเปน็ สจั ธรรม และนำคำสอนนน้ั มำปฏบิ ัติ

ข้อที่ ๑ กมั มสทั ธา ๒๕ กมั มสทั ธำ (กำ - มะ - สดั - ทำ) หมำยถงึ เชอื่ กรรม เช่ือกำรกระทำ เชอื่ กฎแห่งกรรมเช่อื วำ่ กรรมมีอยู่จรงิ เชื่อว่ำเมอ่ื ทำอะไรโดยมเี จตนำ คอื จงใจทำทงั้ รยู้ ่อม เปน็ กรรม คอื เปน็ ควำมดีควำมช่ัวมีขน้ึ ในตน เปน็ เหตุ ปัจจยั ก่อใหเ้ กิดผลดี ผลร้ำยสืบเนือ่ งตอ่ ไป กำรกระทำไม่ ว่ำงเปลำ่ และเชื่อวำ่ ผลท่ีตอ้ งกำรจะสำเรจ็ ได้ด้วยกำร กระทำ มิใช่ด้วยอ้อนวอนหรือนอนคอยโชค เชน่ ถ้ำนักเรยี นมีควำมขยันหมั่นเพยี รตัง้ ใจเรียนหนงั สอื กำรสำเรจ็ กำรศกึ ษำก็จะได้รับผลดี ตอบสนอง คอื เรยี นสำเรจ็ สำมำรถมอี นำคตทด่ี ชี วี ิตประสบแตค่ วำมสขุ แต่ในทำงกลบั กนั ถำ้ นักเรียนเกียจครำ้ น ไมส่ นใจเรยี นหนงั สือ ห่วงแตก่ ำรเทีย่ วเตร่สนุกสนำน นกั เรียนกจ็ ะเรียนไม่จบ หำงำนทำลำบำกและประสบกบั ควำมทุกข์ ขอ้ ที่ ๒ วิปากสทั ธา วิปำกสัทธำ (วิ - ปำ - กะ - สดั - ทำ) หมำยถงึ เชอ่ื วิบำก เชอ่ื ผลของกรรม เชอื่ วำ่ ผลของ กรรมมจี ริง เชอ่ื ว่ำกรรมทท่ี ำแล้วตอ้ งมีผล และผลตอ้ งมีเหตุ ผลดเี กิดจำกกรรมดี ผลชัว่ เกิดจำก กรรมชว่ั เชื่อว่ำทำกรรมเชน่ ใด ไมว่ ่ำดหี รอื ชัว่ ย่อมไดร้ บั ผลเช่นน้ันผลทเ่ี กิดขึน้ ตอ้ งสบื เนอื่ งมำจำกกำรกระทำทเี่ ป็นเหตุ เช่น เมือ่ นักเรียนทำควำมดี ทำในส่งิ ท่ีดี ย่อมจะ ได้รบั ผลแห่งควำมดี คือควำมสขุ แต่ถำ้ ทมี่ ำ: https://www.coloradowild.org/ นักเรยี นทำในสิ่งไมด่ ี ย่อมจะได้รับผลจำก กำรทำสิง่ ไมด่ ีของตนเอง คอื ควำมทกุ ข์

ขอ้ ท่ี ๓ กัมมัสสกตาสัทธา ๒๖ กมั มสั สกตำสทั ธำ (กำ - มัด - สะ - กะ - ตำ - สัด - ทำ) หมำยถึง เช่อื ควำมท่สี ัตวม์ กี รรม เป็นของตนเช่ือวำ่ แต่ละคนเป็นเจ้ำของจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบเสวยวิบำกเป็นไปตำมกรรมของตน เชน่ นักเรียนเกดิ มำมีพอ่ แม่ดแู ลเอำใจใส่ ส่งใหไ้ ดศ้ กึ ษำเลำ่ เรียน มีอำหำรกำรกินทดี่ มี ี ประโยชนส์ ุขภำพแขง็ แรง แต่ในสังคมอำจมเี ด็กผูโ้ ชค รำ้ ยพ่อแม่ทอดทงิ้ อดอยำกเป็นเด็กเร่ร่อนไมม่ ที ีพ่ กั อำศยั เป็นหลักแหล่ง ขำดปจั จยั ส่ีในกำรดำเนินชวี ิต บำงคนเกดิ มำพกิ ำร เป็นต้น https://www.thaihealth.or.th/ ขอ้ ท่ี ๔ ตถาคตโพธสิ ัทธา พระตถาคตเจา้ (พระพุทธเจา้ ) ตถำคตโพธสิ ทั ธำ (ตะ - ถำ - คะ - ตะ - โพ - ทิ - สัด - ทำ)หมำยถึง เชื่อควำมตรสั รู้ของพระพุทธเจำ้ และปฏิบัติ ที่มา : http://pantip.com/topic/๓o๕๘๗๑๙๓ ตำมคำสอนของพระพุทธองค์ กำรเชื่อและยอมรับว่ำ พระพทุ ธองค์ทรงมีพระ ปญั ญำตรสั รู้จริงและธรรมท่ีพระองคท์ รงตรสั รู้นั้นเป็นของ จรงิ ประพฤติปฏบิ ตั ิตำมแลว้ ยอ่ มไดร้ บั ผลจรงิ สิ่งที่ พระองค์ตรัสว่ำเปน็ กศุ ล เปน็ บุญ เปน็ ควำมดี ทำแลว้ ยอ่ ม ได้รบั ผลดีจรงิ ๆ

มูลเหตุแห่งความเช่อื ถือศรัทธา ๒๗ ศรัทธาพระศาสดาของพระพทุ ธศาสนา พระประธำนในโบสถว์ ัดพระสิงห์ พระพทุ ธรปู ประจำโรงเรยี น ที่มำ : https://mapio.net/pic/p- พระธรรม โต๊ะหมบู่ ชู ำ ท่มี ำ : http://dhamma.serichon.us/

๒๘ เลอ่ื มใสศรัทธำในกำรเผยแผห่ ลักธรรมคำสอน ท่ีมำ : http://www.matichon.co.th เลอื่ มใสศรทั ธำเพรำะไดฟ้ งั เสียงอันไพเรำะ ท่ีมำ : http:/www.thairath.co.th เล่ือมใสศรทั ธำเพรำะไดส้ ดบั ฟงั ธรรม ของผทู้ ี่ฉลำดในกำรแสดงธรรม ที่มำ : http://www.trueplookpanya.com/true/ethic

๒๙ เลอื่ มใสศรัทธำเพรำะพระองค์ทรงเปน็ กษัตริย์ นักปกครองทท่ี รงงำนทกุ ด้ำนเพื่อปวงชนชำวไทย ในหลวงทรงงำน ท่ีมำ : https://www.google.com/search?biw เลื่อมใสศรัทธำในศำสนสถำน ร่วมกนั บริจำคเพอ่ื สร้ำงศำลำกำรเปรียญ กำรทอดผ้ำป่ำ ท่ีมำ : https://www.siamburapha.com/

ใบงาน เร่ือง ศรัทธา ๔ ๓๐ ๑. ให้นกั เรยี นยกตัวอยำ่ งกำรปฏิบตั ิตนของนกั เรียนทส่ี อดคลอ้ งกบั ศรัทธำ ๔ มำอย่ำงละ ๑ ตวั อย่ำงพร้อมวิเครำะหผ์ ลทเ่ี กดิ ขนึ้ จำกกำรปฏบิ ตั ลิ งในตำรำง (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) ศรัทธา ๔ การปฏบิ ัตติ น ผลทเี่ กดิ ขึน้ ๑) กัมมสัทธา ................................... ................................... ๒) วิปากสทั ธา ................................... ................................... ๓) กัมมัสสกตาสทั ธา ๔) ตถาคตโพธิสัทธา ................................... ................................... ................................... ................................... ................................... ................................... ................................... ................................... ................................... ................................... ................................... ................................... หำกนกั เรยี นทุกคนปฏบิ ตั ิตนตำมหลกั ศรัทธำ ๔ จะสง่ ผลดีตอ่ สังคมอย่ำงไรบำ้ ง ........................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................

๓๑ ๓. ใหน้ กั เรียนวเิ ครำะหภ์ ำพ แลว้ ตอบคำถำมให้ถกู ตอ้ ง (คะแนนเตม็ ๕ คะแนน) ท่มี ำ : https:/www.matichon.co.th/wp-content ๑) จำกกำรกระทำของบุคคลในภำพตรงกับศรทั ธำ ๔ ข้อใด ............................................................................................................................. ......... ...................................................................................................................................... ๒) กำรกระทำของบุคคลในภำพได้รับผลเสียจำกกำรกระทำอย่ำงไรบำ้ ง ............................................................................................................................. ......... ...................................................................................................................................... ๓) นกั เรยี นไดข้ อ้ คิดสำคญั จำกเร่อื งน้อี ยำ่ งไร ............................................................................................................................. ......... ............................................................................................................................. .........

เรือ่ ง พทุ ธจริยา ๓ ๓๒ พระจรยิ วตั รหรือกำรบำเพญ็ ประโยชน์ของพระพทุ ธเจ้ำมี ๓ ประกำร ไดแ้ ก่ พุทธจรยิ ำประกำรท่หี นึง่ โลกตั ถจริยำ (โล - กัด - ถะ - จะ - ริ - ยำ) หมำยถงึ กำรบำเพ็ญประโยชนข์ องพระพุทธเจ้ำแกช่ ำวโลก ภำยหลงั จำกตรสั รู้และเสวย วิมตุ ิสุข (ควำมสขุ อันเกดิ จำกควำมหลุดพ้นจำกกเิ ลสแลว้ ) กำรบำเพญ็ ประโยชน์แกโ่ ลก ในฐำนะทพี่ ระองคเ์ ปน็ สมำชิกคนหนึง่ ของสงั คมโลก ควำมสำเรจ็ ในจรยิ ำข้อนท้ี รงอำศัยพทุ ธกิจประจำวนั ๕ ประกำร คือ พทุ ธกจิ ประกำรท่ี ๑ เวลำเช้ำ เสด็จออกบิณทบำต เพอ่ื เป็นกำรโปรดสัตวโ์ ลกผูต้ ้องกำรบุญ พุทธกิจประกำรที่ ๒ ในเวลำเย็น ทรงแสดงธรรมแก่คนผูส้ นใจในกำรฟังธรรม พุทธกิจประกำรที่ ๓ ในเวลำคำ่ ทรงประทำนพระโอวำทใหก้ รรมฐำนแกภ่ ิกษทุ งั้ หลำย พทุ ธกจิ ประกำรท่ี ๔ ในเวลำเทยี่ งคนื ทรงแสดงธรรมและตอบปญั หำแกเ่ ทวดำท้ังหลำย พุทธกิจประกำรที่ ๕ ในเวลำใกลร้ งุ่ ทรงตรวจดูสัตวโ์ ลกทอ่ี ำจจะรธู้ รรมซึ่งพระองค์ ทรงแสดงแลว้ ไดร้ ับผลตำมสมควรแก่อุปนิสัยบำรมีของคนเหล่ำนัน้ พุทธกิจ ๕ ประกำร ทีม่ ำ : http://bhuritatta.blogspot.com/

๓๓ พุทธจริยำประกำรทสี่ อง ญำตัตถจรยิ ำ (ยำ - ตัด - ถะ - จะ - 3 - ยำ) หมำยถึง กำรบำเพญ็ ประโยชนแ์ ก่พระประยูรญำติ ทรงบำเพ็ญประโยชนแ์ กพ่ ระญำติ เชน่ ทรงมี พระพทุ ธำนุญำตพเิ ศษให้พระญำติของพระองค์ที่เปน็ เดยี รถีย์ (นักบวชภำยนอกพระพทุ ธศำสนำ) มำกอ่ น ให้เขำ้ บวชในพระพทุ ธศำสนำได้ หรอื กำรทีพ่ ระพุทธเจำ้ เสดจ็ ไปโปรดพระญำติที่กรุงกบลิ พัสดุ์ ทรงแนะนำให้ พระญำตซิ ึ่งกำลังจะทำสงครำมกันไดเ้ ข้ำใจในเหตุผล ทรงแนะนำพระญำตทิ ้งั สองฝำ่ ย สำมำรถปรองดองกนั ได้ ที่กำลงั จะทำสงครำมกนั ท่มี ำ : https://www.gotoknow.org/posts พทุ ธจรยิ ำประกำรท่ี พทุ ธัตถจริยำ (พดุ - ขัด - ถะ - จะ - ริ - ยำ) หมำยถงึ กำรบำเพญ็ ประโยชนข์ องพระองคใ์ นฐำนะทที่ รงเปน็ พระพทุ ธเจ้ำ ทรงทำหน้ำท่ีของพระพุทธเจ้ำ เชน่ กำรประกำศและเผยแผ่พระพุทธศำสนำ ทรงวำงสิกขำบท เปน็ พุทธอำณำ สำหรับควบคุม ท่ีมำ : https://celestialstrategist.com/ ควำมประพฤตขิ องผู้ทเ่ี ขำ้ มำบวชในพระพุทธศำสนำ ทรงแนะนำให้บรรพชติ และคฤหสั ถ์ปฏบิ ัตใิ ห้ถูกตอ้ ง ตำมหน้ำที่ของตน ทรงวำงพระองค์ต่อผู้ท่เี ขำ้ มำบวช และแสดงตนเป็นอุบำสก อบุ ำสกิ ำ ในฐำนะของบดิ ำ กบั บตุ ร ผปู้ กครองกลั ยำณมติ ร ศำสดำผู้เอ็นดู เป็นต้น

๓๔ ๒. ใหน้ กั เรยี นเขียนอธิบำยพุทธกจิ ของพระพทุ ธเจำ้ ลงในแผนผงั ควำมคิดให้ถูกตอ้ ง (ขอ้ ละ ๒ คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) ช่วงเช้ำ ----------------------- ----------------------- ชว่ งเย็น ----------------------- ----------------------- ชว่ งค่ำ ----------------------- ----------------------- ชว่ งเท่ยี งคนื ----------------------- ----------------------- ช่วงใกล้รงุ่ ----------------------- -----------------------

๓๕ ๓. ใหน้ ักเรียนยกตัวอยำ่ งกำรนำพทุ ธจริยำของพระพทุ ธเจำ้ ไปใชเ้ ปน็ หลกั ในกำรดำเนนิ ชวี ิต ของตนเองลงในแผนภำพควำมคดิ (ข้อละ ๒ คะแนน คะแนนเตม็ ๘ คะแนน) ----------------------- ----------------------- ----------------------- ----------------------- การนาพุทธจรยิ า ของพระพุทธเจา้ มาใชใ้ นการดาเนินชวี ิต ----------------------- ----------------------- ----------------------- -----------------------

เรื่องท่ี ๔ อริยสจั ๔ ๓๖ พระพทุ ธเจำ้ ผทู้ รงคันพบควำมจรงิ อันประเสริฐ ทม่ี ำ : https://www.Khunsamatha.com อรยิ สจั ๔ หมำยถึง ควำมจรงิ อนั ประเสริฐ ถอื เป็นธรรมแม่บทของพระพทุ ธศำสนำ เป็นธรรมทพ่ี ระพทุ ธเจ้ำทรงตรสั รู้ คน้ พบด้วยตนเอง เปน็ ธรรมทแี่ สดงมำกทส่ี ดุ ตลอดระยะท่ี ประกำศพระศำสนำ อรยิ สัจ แปลได้ ๓ นยั คือ ๑. ความจรงิ อันประเสริฐ หมำยถงึ ควำมจริงในโลกนี้มอี ยมู่ ำกมำย แตอ่ รยิ สัจนี้ ประเสริฐกว่ำควำมจริงทง้ั หมดเพรำะสำมำรถทำใหพ้ น้ ทกุ ข์ ๒. ความจรงิ ของพระอรยิ ะ หมำยถงึ ควำมจรงิ ท่พี ระอริยะ คือ พระพุทธเจ้ำทรง คน้ พบดว้ ยตวั เอง ไมม่ ผี ใู้ ดกลำ่ วสอน ๓. ความจรงิ ท่ีทาให้ผู้เขา้ ถึงเป็นพระอรยิ ะ หมำยควำมวำ่ ผทู้ ี่เขำ้ ถึงหรือรแู้ จ้ง อริยสจั ๔ น้ี ย่อมกลำยเปน็ พระอริยะบคุ คล ดงั เช่น พระพทุ ธเจ้ำและพระอรหนั ต์

๓๗ อรยิ สจั ๔ หมำยถึง ควำมจรงิ อนั ประเสริฐ เขำ้ ใจต้นตอของสิ่งต่ำง ๆ ด้วยเหตุและ ผลมี ๔ ประกำร ไดแ้ ก่ ๑. ทุกข์ หมำยถึง ควำมทกุ ข์ ควำมไมส่ บำยกำย ไมส่ บำยใจ สภำพทีท่ นไดย้ ำก สภำวะท่ีบีบค้นั ขดั แยง้ บกพร่อง เพรำะเปน็ ไปตำมเหตุปจั จยั ทไ่ี ม่ข้ึนต่อตวั มนั เอง แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ ทกุ ขป์ ระจำ หรือ สภำวทุกข์ คอื กำรเกดิ กำรแก่ กำรเจบ็ และกำรตำย ซ่งึ ทุกคน ต้องประสบไม่มใี ครหลีกพ้นได้ ทกุ ข์จร หรือ ปกณิ ณกทุกข์ คือ ทกุ ขท์ ี่เกดิ กับบคุ คลมำกนอ้ ยไมเ่ ทำ่ กัน เชน่ ควำมโศกเศร้ำ ควำมไม่สบำยกำยและใจ ควำมผิดหวัง กำรพลดั พรำกจำกส่ิงอันเปน็ ทร่ี กั ควำมผดิ หวงั ควำมโศกเศร้ำ เสยี ใจ ทม่ี ำ : www.bloggang.com ที่มำ : www.bloggang.com

๓๘ ๒. สมุทัย หมำยถงึ ควำมจรงิ วำ่ ด้วยเหตุเกิดแห่งควำมทกุ ข์ เพรำะควำมทุกข์ที่ เกิดข้นึ น้ันต้องมสี ำเหตุเกิดจำกอะไรบำงอยำ่ งไม่ได้มขี ึน้ ลอย ๆ องั พทุ ธดำรสั วำ่ \"เมื่อสงิ่ นั้น มสี ง่ิ น้นั จงึ มี เพรำะสงิ่ น้ีเกิด สงิ่ นน้ั จงึ เกิด\" เช่น คนมโี รคประจำตวั แล้วเป็นทุกข์ อำจเปน็ เพรำะโรคภัยไข้เจ็บตดิ ตวั มำแตก่ ำเนดิ หรือได้รับสำรพิษจำกอำหำร เดก็ รอ้ งไหเ้ ปน็ ทกุ ข์ อำจคดิ ถึงคุณพ่อ คุณแม่ หรอื เพือ่ นรังแก เป็นต้น สำเหตุทท่ี ำใหเ้ กิดทุกข์ ควำมทกุ ข์หรือปัญหำ ยอ่ มเกิดจำกสำเหตุ สำเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ คอื กิเลส หรือควำมอยำก มี ๓ ประกำร ไดแ้ ก่ กำมตณั หำ คอื ควำมอยำกได้ เช่น อยำกร่ำรวย อยำกมรี ถยนต์ ภวตณั หำ คือ ควำมอยำกเปน็ เช่น อยำกเปน็ นักกีฬำ อยำกเป็นนำยกรฐั มนตรี วภิ วตัณหำ คอื ควำมอยำกที่จะไมเ่ ปน็ เช่น ไมอ่ ยำกเปน็ คนจน ไมอ่ ยำกเปน็ คนพกิ ำร ควำมอยำกเหลำ่ น้ี เป็นสำเหตุทีท่ ำให้เกดิ ทุกข์

๓๙ ๓. นิโรธ หมำยถงึ ควำมดับทุกข์ เป็นภำวะทตี่ ัณหำนัน้ ดบั ส้นิ ไปไม่ตดิ ข้องอยใู่ น ตัณหำหลุดพน้ สงบ และเปน็ อสิ ระ ในทำงพระพทุ ธศำสนำ เรียกว่ำ นิพพำน ดงั พทุ ธ ดำรสั วำ่ \"เม่ือสง่ิ นั้นไม่มี ส่ิงนีก้ ไ็ มม่ ี เพรำะสิ่งน้ดี ับ สิง่ น้นั กด็ ับ\"

๔๐ ๔. มรรค หมำยถึง หนทำงถงึ ควำมดบั ทุกขเ์ ปน็ ส่วนหนง่ึ ของรสิ จั ข้อปฏบิ ัติให้ถงึ ทำงดับทกุ ข์ วิธีกำร หรอื ทำงแหง่ กำรดบั ทุกข์ เรียกว่ำ มชั ฌมิ ำปฏิปทำ มีองคป์ ระกอบ ๘ ประกำร ได้แก่ ๑) ควำมเหน็ ชอบ (สมั มำทฏิ ฐิ) หมำยถึง ควำมเห็นถกู ต้อง เหน็ ว่ำสง่ิ ใดดี สง่ิ ใดช่วั และเดนิ ไปในทำงท่ถี ูกตอ้ ง ๒) ดำริชอบ (สม้ มำสังกปั ปะ) หมำยถงึ คิดแต่ในส่งิ ทด่ี งี ำม ไมค่ ดิ เบยี ดเบียนใคร ๓) เจรจำชอบ (สมั มำวำจำ) หมำยถงึ กำรไมพ่ ดู โกหก ไม่พดู นนิ ทำว่ำร้ำยผอู้ ื่น ๔) กำรงำนชอบ (สมั มำกมั มนั ตะ) หมำยถึง กำรทำงำนโดยสุจรติ โดยใชค้ วำมสำมำรถ ของตนเอง ๕) กำรเล้ยี งชพี ชอบ (สมั มำอำชีวะ) หมำยถึง กำรประกอบอำชีพสุจรติ โดยไม่คดโกง ๖) เพยี รพยำยำมชอบ (สมั มำวำยำมะ) หมำยถึง ควำมเพียรพยำยำมในกำรสร้ำง ควำมดี ๗) ระลึกชอบ (สัมมำสติ) หมำยถงึ มีสติ ระมดั ระวัง ไม่หลงลืม ๘) ต้ังใจชอบ (ส้มมำสมำธิ) หมำยถงึ กำรฝกึ ให้มจี ิตใจสงบ มีสมำธิ ไมฟ่ ุ้งซำ่ น กำรดับทกุ ข์นัน้ ต้องอำศัยกำรอบรมจิตใจและปญั ญำให้เกิดควำมรคู้ วำมเข้ำใจอย่ำงแท้จริง จงึ จะสำมำรถลดควำมต้องกำรของตนเองได้

๔๑ ประโยชนข์ องอรยิ สจั ๔ ๑. ทำใหไ้ มป่ ระมำท คอยเตือนสตใิ ห้ร้วู ่ำควำมทุกขห์ รือปญั หำจะเกิดข้ึนไดเ้ สมอ ๒. ช่วยให้แก้ปัญหำต่ำง ๆ ได้ โดยใช้เหตผุ ลและปัญญำ คือ เมือ่ มปี ัญหำหรอื ควำมทุกข์ เกิดขึ้นก็ต้องหำสำเหตุว่ำมำจำกอะไร จึงจะสำมำรถแก้ปัญหำได้ตรงจุดและเป็นกำร แกป้ ัญหำโดยใช้เหตุผลและปัญญำ ๓. ชว่ ยให้แกป้ ัญหำด้วยตนเอง เพรำะปัญหำหรอื ควำมทุกขต์ ่ำง ๆ เกดิ จำกตัวเรำเอง กำรแก้ไขปญั หำจึงต้องทำด้วยตนเองจะพึ่งอำศยั สิ่งอน่ื มำแกป้ ญั หำใหไ้ ม่ได้ ๔. ช่วยให้เหน็ ส่งิ ต่ำง ๆ ตำมควำมเปน็ จริง กำรที่เรำหำทำงแก้ไขปัญหำด้วยกำรปฏิบัติเอง ลงมอื กระทำเอง จะทำให้เรำสำมำรถมองเห็นว่ำกำรแก้ปัญหำจะทำได้ยำกหรือง่ำยเพียงใด ซึ่งจะทำใหเ้ รำหลดุ พน้ จำกตัณหำและเหน็ แสงสวำ่ งแห่งปญั ญำ ทำใหช้ วี ิตมคี วำมสขุ ฝกึ ใชป้ ญั ญาในการแก้ปัญหาการทางานร่วมกัน

ใบงานที่ ๔ อริยสัจ ๔ ๔๒ ข้อ ขอ้ ความ ทกุ ข์ สมทุ ยั นโิ รธ มรรค ๑ น้ำตำลอยำกเป็นนักรอ้ งประจำวงดนตรีของ โรงเรียน ๒ สมรกั ษต์ ัง้ ใจฟังครสู อนและทำกจิ กรรมตำมที่ ได้รับมอบหมำยทุกวิชำ ๓ สมเดชรู้ว่ำสำเหตุทีเ่ ขำไม่ได้แชมปเ์ ทเบิล เทนนสิ เพรำะมีเวลำในกำรฝกึ ซ้อมน้อย เขำ จงึ ไมเ่ สียใจและจะแกไ้ ขตนเองใหม่ ๔ แกว้ เก้ำป่วยเปน็ โรคมะเร็งตับ ต้องไปรักษำตัว ที่โรงพยำบำล ๕ อำพรไม่อยำกเปน็ หัวหนำ้ ห้องเพรำะรู้วำ่ งำน หนกั ๖ ปอ๋ มแป๋มเป็นคนมีควำมเพียรพยำยำม ๗ สุชำดำไดร้ ับเกยี รติบัตรนกั เรียนผ้ปู ระพฤตดิ ี ตดิ ต่อกนั ทุกปี ๘ คณุ แมข่ องดำวใจเสยี ชีวติ อยำ่ งกะทนั หนั ดำว ใจเสียใจมำก ๙ โจไม่เคยหกล้มบนอำคำรเรียนเลย เพรำะโจ จะเดินอย่ำงระมัดระวงั ๑๐ โชคชยั อยำกไดร้ ถจกั รยำนรนุ่ ใหม่

๔๓ ๓. ให้นกั เรียนอ่ำนสถำนกำรณ์ทีก่ ำหนดให้ตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคำถำมลงในชอ่ งว่ำงให้ถกู ต้อง (คะแนนเต็ม ๕ คะแนน) เกวลินเปน็ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษำปที ่ี ๕ มีควำมประพฤติเรียบร้อย พูดน้อย มี นำ้ ใจชว่ ยเหลอื เพ่ือน ๆ เสมอ แตม่ ีควำมกงั วล ไมส่ บำยใจ เม่ือทรำบผลกำรสอบวำ่ สอบไม่ ผ่ำนวชิ ำภำษำองั กฤษ เธอจึงคดิ พจิ ำรณำหำสำเหตทุ ่สี อบไมผ่ ่ำน ทั้งทีเ่ ธอก็ตงั้ ใจเรียน สมำ่ เสมอแล้วเธอกร็ สู้ ำเหตุวำ่ มำจำกกำรอ่ำนหนังสือน้อยเกินไป จำควำมหมำยของ คำศัพทไ์ มไ่ ด้เธอจงึ พยำยำมอ่ำนและฝกึ เขยี นคำศัพท์ภำษำองั กฤษมำกขน้ึ ในท่สี ุดเธอสอบ ผำ่ น สำมำรถอ่ำนเขียนคำศพั ท์ และบอกควำมหมำยของคำศพั ท์ภำษำอังกฤษได้ เธอดใี จ มำก หมดควำมกังวลใจและมีควำมสุขในกำรเรยี น ๑) ควำมทุกข์ของเกวลิน คอื อะไร .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ๒) ควำมกงั วล ไม่สบำยใจของเกวลิน ตรงกับหลักอริยสจั ๔ ข้อใด .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ๓) สำเหตุควำมทกุ ขข์ องเกวลิน คอื อะไร .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ๔) เกวลนิ แกป้ ัญหำหมดควำมกังวลใจ ดว้ ยวธิ กี ำรตำมอริยสัจ ๔ อยำ่ งไร .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ๕) นกั เรยี นจะนำขอ้ คดิ ท่ไี ด้จำกสถำนกำรณน์ ้ีมำประยุกต์ใชใ้ นกำรดำเนนิ ชีวติ อย่ำงไร .............................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................

๔๔ ๓. ให้นักเรียนยกตวั อยำ่ งสถำนกำรณท์ ส่ี อดคลอ้ งกบั หลกั ธรรม \"อริยสจั ๔\" ลงใน แผนภำพควำมคดิ (คะแนนเตม็ ๕ คะแนน) สถานการณ์ -------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------- ----------------------- -------------------------------------------------------------------------- ----------------------- -------------------------------------------------------------------------- ----------------ส----ม----ทุ ----ยั ------------------ -------------------------------------------------------------------------- -------------------------------------------------------------------------- ทกุ ข์ นโิ รธ ----------------------- ----------------------- ----------------------- ----------------------- ----------------------- มรรค ----------------------- ----------------------- -----------------------

๔๕ ๔. จำกกรณตี ัวอยำ่ งท่ีกำหนดให้ ให้นกั เรียนวเิ ครำะหว์ ่ำบุคคลในภำพมกี ำรดำเนินชีวิต โดยขำดหลกั อริยสจั ๔ ขอ้ ใด พรอ้ มอธิบำย (คะแนนเตม็ ๕ คะแนน) ตำรวจรวบตัว 6 โจร โดยท้ังสองถกู ตง้ั ข้อหำกระทำผิดฐำนรว่ มกนั ชิงทรัพย์ผอู้ นื่ ในเวลำกลำงคืนหรอื โดยร่วมกระทำควำมผดิ ดว้ ยกนั ตั้งแตส่ องคนขึน้ ไป โดยใช้ยำนพำหนะ เพอ่ื กำรกระทำผิด เพ่อื ใหพ้ น้ จำกกำรจับกุม รว่ มกนั ขม่ ขนื กระทำชำเรำผู้อ่นื โดยผู้อื่นนั้น อยูใ่ นภำวะท่ีไม่สำมำรถขดั ขนื ได้ โดยรว่ มกันกระทำควำมผดิ ลกั ษณะเป็นกำรโทรมหญิง พำคนผู้อน่ื ไปเพ่ือกำรอนำจำร โดยใชอ้ ำนำจข่เู ข็ญ ใชก้ ำลังประทษุ ร้ำย หรอื ใชว้ ธิ ขี ่มขืนใจ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... .........................

๔๖ ตอนที่ ๕ หลกั กรรม กรรม หมายถึง การกระทาทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ทปี่ ระกอบดว้ ยเจตนาดกี ็ ตามเจตนาชว่ั กต็ าม กรรมเป็นคากลาง ๆ แบ่งเป็น ๒ ประเภท คอื ๑. กุศลกรรม หรือ กรรมดี คือ การกระทาทปี่ ระกอบดว้ ย - ความไม่โลภ - ความไม่โกรธ - ความไม่หลงงมงาย ๒. อกุศลกรรม หรือ กรรมชวั่ คือ การกระทาท่ปี ระกอบดว้ ย - ความโลภ - ความโกรธ - ความหลงงมงาย ฉะน้นั คาวา่ กฎแห่งกรรม จงึ หมายถึง ความเป็นไปตามหลกั เหตุและผลของการ กระทาผใู้ ดกระทาสิ่งใดไว้ ยอ่ มจะไดร้ ับผลแห่งการกระทาน้นั ถา้ ทาดียอ่ มไดร้ ับผลดี ตอบแทนแตถ่ า้ ทาชว่ั ยอ่ มไดร้ ับผลชวั่ ตอบแทนเช่นกนั สร้างกรรม กรรมจะตดิ เหมือนพชื พนั ธุ์ ผลยอ่ มปรา ไวอ้ ยา่ งไร ในอดีต ตามไป ในภายหนา้ หวา่ นไว้ ในเน้ือนา เช่นเผา่ พนั ธุ์ กฎเป็น จาก เพลงรางวสั ชีวติ ของ เทีง่ สติเพอ่ื ง

๔๗ พระพทุ ธศาสนาสอนวา่ กรรมเป็นตน้ เหตุของความเป็ นไปตา่ ง ๆ ในชีวติ บุคคลใดทา กรรมใดไวจ้ ะเป็นผไู้ ดร้ ับผลแห่งกรรมน้นั การไดร้ ับผลของกรรมหรือผลของการกระทาจะมี ๒ ระยะ คอื ๑) ผลท่เี กิดข้นึ ทนั ทีเมื่อกระทา เป็นผลทเี่ กิดข้นึ ในจติ ใจ คือ เม่ือกระทาดีก็จะมี ความสุขทางใจ เพราะไดช้ ่ือวา่ เป็นคนดี มีคุณธรรม แตถ่ า้ กระทาชว่ั ก็จะไดร้ ับความทกุ ข์ ใจ ความเดือดร้อนหวาดระแวง กลวั ผอู้ ื่นจะล่วงรู้การกระทาของตน และไดช้ อื่ วา่ เป็นคน ชวั่ ๒) ผลท่เี กิดข้ึนภายหลงั เป็นผลทอี่ าจจะเกิดข้นึ ในลกั ษณะของการไดร้ ับ เช่น ไดร้ ับ การยกยอ่ งชมเชย ไดร้ ับรางวลั หรือในลกั ษณะของการสูญเสีย เช่น ถูกตาหนิ ตเิ ตียน ถูก ลงโทษนอกจากน้ียงั หมายถึงผลทจ่ี ะเกิดข้ึนในชาติหนา้ คือ การไดเ้ กิดในชาติภพท่สี ูงข้นึ หรือต่าลง ซ่ึงผลของกรรมท่ีเกิดข้ึนในภายหลงั น้ีจะเป็นอยา่ งไรเราไม่สามารถล่วงรู้ได้

เฉลยกจิ กรรมท่ี ๕ หลกั กรรม ๔๘ ๑. ให้นกั เรียนเตมิ หลกั กรรมลงในตารางใหถ้ ูกตอ้ ง (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) ขอ้ ความ ประเภท วธิ ีแสดงออก ๑. เก่งแกลง้ ผทู้ ่ีอ่อนแอ กวา่ เสมอ ๒. นารีอยากไดข้ อง ของผอู้ ื่น ๓. แกว้ ช่วยแม่ทาความ สะอาดบา้ น ๔. วภิ าใชค้ าพดู สุภาพ กบั ทุกคน ๕. พลโกหกพอ่ แม่วา่ ป่ วยเพื่อไม่ตอ้ งไป โรงเรียน ๖. ขิงเห็นคนแก่ขา้ ม ถนนจึงคดิ อยากไป ช่วยเหลือ ๗. สุดาใส่บาตรทกุ วนั พระ ๘. ตนู พูดยแุ ยงให้ เพื่อนทะเลาะกนั ๙. สแน็ครู้สึกยนิ ท่ี เพื่อนไดร้ ับรางวลั ๑๐. น้าตาลขโมยขนม ในร้านคา้

๔๙ ๒. ใหน้ กั เรียนอ่านสถานการณ์ทก่ี าหนดให้ แลว้ ตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง (ขอ้ ละ ๕ คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) เม่ือทางโรงเรียนประกาศผลสอบปลายภาคเรียนที่ ๑ ของนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปี ท่ี ๕ ผลปรากฎวา่ รัชชานนท์ ไดค้ ะแนนรวมเป็ นอนั ดบั ที่ ๑ ของช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕ อณาคนิ เดินเขา้ ไปจบั มือรัชชานนทพ์ ร้อมพูดแสดงความช่ืนชม รัชชานนทว์ า่ เป็นคนเก่ง จิรัชยาพูดกบั กฤติกาวา่ รัชชานนทไ์ ม่ไดเ้ รียนเก่ง ท่ีสุดในช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๕ หรอก ท่ีไดค้ ะแนนดีเพราะมีคนติวให้พิเศษ กฤติกา ไม่ไดพ้ ดู โตต้ อบ แตใ่ จกค็ ิดเช่นเดียวกนั กบั จิรัชยา ๑) บุคคลใดมีการกระทาทส่ี อดคลอ้ งกบั กรรมดี (กศุ ลกรรม) ยกตวั อยา่ งประกอบ (๕ คะแนน) ................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................. ๒) บุคคลใดมีการกระทาทีส่ อดคลอ้ งกบั กรรมชว่ั (อกศุ ลกรรม) ยกตวั อยา่ งประกอบ (๕ คะแนน) ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ..............................................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook