Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการโรงเรียนวัดหนัง

แผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการโรงเรียนวัดหนัง

Published by tadatip2529, 2021-11-13 05:17:40

Description: แผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการโรงเรียนวัดหนัง

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ ผอู้ านวยการโรงเรยี นนิเทศ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค12101 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 เรอ่ื ง การบวกและการลบจานวนนับไม่เกนิ 1,000 เวลา 34 ช่ัวโมง แผนการเรยี นรู้ที่ 18 เรอ่ื ง ความสัมพันธข์ องการบวกและการลบ เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางสาวอรณิชา นันทพฤทธิ์ สอนวนั ท่ี 9 เดอื นกรกฎาคม 2564 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ี เกิดขนึ้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และการนาไปใช้ ตัวชว้ี ัด ค 1.1 ป.2/4 หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดง การลบของจานวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้/จุดประสงคก์ ารเรยี นรหู้ ลักสูตรตา้ นทุจริต 1. เมื่อกาหนดโจทยก์ ารหาค่าของตัวไม่ทราบระหวา่ งการบวกและการลบให้ สามารถหาคาตอบได้ (K) 2. มีวิจารณญาณในการคิดและตอบคาถามด้วยความมัน่ ใจ (A) 3. ใชว้ ธิ ีการที่เหมาะสมในการแกป้ ญั หา และคานวณหาคาตอบได้ (P) 4. สามารถคิดแยกแยะ ระหว่างผลประโยชน์ ส่วนตนและ ผลประโยชนส์ ่วนรวม 5. ปฏบิ ตั ิตนเป็น ผู้ละอายและไม่ทนต่อ การทุจริตทกุ รูปแบบ 3. สาระสาคัญ การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์การบวกและประโยคสัญลักษณ์การลบ ทาได้โดยใช้ ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ 4. สาระการเรียนรู้ การหาค่าตัวของตวั ไมท่ ราบค่า 5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นหลกั สตู รการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551  ความสามารถในการส่ือสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณธรรมอตั ลกั ษณ์  มรี ะเบียบวนิ ัย  มีความรับผิดชอบ  มีมารยาท  มีจิตอาสา 7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องโรงเรียนสุจริต  ความมีวนิ ัย  ความพอเพยี ง  มีจติ สาธารณะ  ซือ่ สัตย์สุจริต  ทกั ษะกระบวนการคิด 8. ด้านเจตคติ/คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ (Attitude : A)  รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  ซอ่ื สัตย์สจุ ริต  มีวนิ ยั  ใฝเ่ รียนรู้  อยอู่ ย่างพอเพยี ง  มงุ่ ม่นั ในการทางาน  รักความเปน็ ไทย  มีจติ สาธารณะ 9. การบรู ณาการไตรสิกขา ศลี ผเู้ รยี นปฏิบตั ิงานทไ่ี ด้รับมอบหมายดว้ ยความรับผิดชอบ รอบคอบ ทางานเสรจ็ ทนั เวลา สมาธิ ผูเ้ รยี นมคี วามม่งุ มั่นตัง้ ใจเรยี น กระตือรือร้นระหว่างเรียน และในการทางาน ปญั ญา ผู้เรียนมีปัญญาในการเรยี น สามารถหาค่าตวั ของตัวไม่ทราบค่า

10. ทักษะในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C )  1. ทักษะการอ่าน (Reading)  2. ทักษะการ เขียน (Writing)  3. ทกั ษะการคิดคานวณ (Arithmetic)  4. ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem solving)  5. ทักษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม (Creativity and innovation)  6. ทักษะด้านความร่วมมือการทางานเปน็ ทีมและภาวะผ้นู า (Collaboration, teamwork and leadership)  7. ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรมตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)  8. ทกั ษะด้านการสือ่ สารสารสนเทศและร้เู ท่าทันสอื่ (Communication information and media literacy)  9. ทักษะด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (ComputingandICTLiteracy)  10. ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)  11. มคี ณุ ธรรม มีเมตตา กรณุ า มีระเบยี บวนิ ัย (compassion) 11. การบรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง พอประมาณ ผู้เรียนพอประมาณในการทาใบงานโดยใช้เวลาทางานเสรจ็ ตามทก่ี าหนด มเี หตุผล ผู้เรียนมีเหตุผลในการเรียนรู้ อภิปรายและสรุปผลจากการทาใบงาน มีภูมคิ ุม้ กัน ผ้เู รยี นสามารถเรียนรู้ ทาความเข้าใจ กับสง่ิ ทเี่ หน็ คานึงถึงความเปน็ ไปได้ของการเรยี นรู้ ความรู้ ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการหาคา่ ตวั ของตวั ไม่ทราบค่า คุณธรรม ผเู้ รียนมีความซื่อสัตย์สจุ รติ ในการทาใบงาน มีความอดทน เพียรพยายามในการเรียนรู้ 12. วิธกี ารสอนแบบ Active Learning  แบบระดมสมอง (Brainstorming)  แบบเน้นปัญหา/โครงงาน/กรณีศึกษา (Problem/Project-based Learning/Case Study)  แบบแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role Playing)  แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think – Pair – Share)  แบบสะท้อนความคดิ (Student’s Reflection)  แบบตัง้ คาถาม (Questioning-based Learning)  แบบใชเ้ กม (Games-based Learning)  อน่ื ๆ โปรดระบุ ........................................................................................................ 13. การใช้สื่อ  การพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV : Distance Learning Television)  การพฒั นาคุณภาพการศึกษาทางไกลผา่ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ (DLIT : Distance Learning Information Technology  อ่นื ๆ โปรดระบุ 1. วดี ทิ ศั น์ ความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ (https://www.youtube.com/watch?v=lSxSQCLaTUE) 2. ส่อื เกมตอบคาถามความสัมพันธข์ องการบวกและการลบ ที่สรา้ งจาก wordwall.net (https://wordwall.net/play/18897/834/323)

14. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นา 1. ครทู กั ทายกบั นักเรียน แลว้ แจง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ท่จี ะเรยี นในวันน้ีใหน้ ักเรยี นทราบ 2. ครูกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี น โดยใหน้ ักเรยี นดูคะแนนของนักเรยี นเม่ือวนั ทผ่ี า่ นมา เพื่อให้ นกั เรยี นมคี วามต้งั ใจในการเรียนรู้มากขนึ้ (compassion) ขน้ั สอน 1. ครใู ห้นักเรยี นดูสอื่ ประกอบการสอน เร่ือง ความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ (https://www.youtube.com/watch?v=lSxSQCLaTUE) 2. ให้นักเรียนทายว่ามสี อ่ื อะไรอยใู่ นถุง (Think – Pair – Share) (Questioning-based Learning) 3. ครเู ฉลยว่า ในถุง มลี กู ปดั สีสม้ และสีฟ้า โดยร้อยลูกปดั สีสม้ ไว้ 150 เมด็ และ ร้อยลกู ปดั สีฟา้ ไว้ 100 เมด็ 4. ครูถามนกั เรยี นว่าลกู ปดั สีส้ม 150 เมด็ และลกู ปัดสีฟา้ 100 เม็ด บวกกันได้ก่เี มด็ นักเรียนและครูตอบพรอ้ มกนั 250 เมด็ (Arithmetic) (Questioning-based Learning) 5. ครูสลบั คาถาม ถา้ ไมร่ ้วู า่ ลูกปัดสีส้มมกี ี่เมด็ แตร่ วู้ า่ ทัง้ หมดมี 250 เม็ด เปน็ ลูกปัดสีฟ้า 100 เม็ด แลว้ จะหาวา่ มลี กู ปัดสสี ้มก่เี ม็ดจะทาอย่างไรดี (Think – Pair – Share) (Questioning-based Learning) 6. ครูใหน้ กั เรียนลองหาวิธคี ดิ วา่ จะหาคาตอบได้อย่างไร (Critical thinking and problem solving) 7. ครอู ธิบายเพมิ่ เติม วา่ 250 – 100 = 150 กจ็ ะทาให้ทราบวา่ ลกู ปดั สีสม้ มี 150 เม็ด 8. ครูสลบั คาถาม ถ้าไมร่ ูว้ ่าลูกปดั สีฟา้ มกี เี่ ม็ด แต่รู้ว่าท้งั หมดมี 250 เม็ด เป็นลูกปดั สสี ม้ 150 เมด็ แล้วจะหาว่ามีลูกปดั สีฟ้ากเ่ี ม็ดจะทาอย่างไรดี (Think – Pair – Share) (Questioning-based Learning) 9. ครูให้นกั เรยี นลองหาวธิ คี ดิ วา่ จะหาคาตอบได้อย่างไร (Critical thinking and problem solving) 10. ครอู ธิบายเพิ่มเติม วา่ 250 – 150 = 100 กจ็ ะทาให้ทราบวา่ ลูกปดั สฟี ้ามี 100 เม็ด 11. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภิปราย มวี ธิ ีคดิ อย่างไร พร้อมท้งั สรปุ ความสมั พนั ธข์ องการบวกและ การลบ (Think – Pair – Share) จานวนสองจานวนบวกกัน ผลบวกที่ไดล้ บดว้ ยจานวนใดจานวนหน่ึงในสองจานวนนนั้ ผลลบคือจานวนอีกจานวนหนงึ่

12. ครยู กตัวอย่างสถานการณ์วา่ “มนี กั เรียนช้ัน ป.2 อยใู่ นห้องประชมุ 180 คน และนอกห้องประชุม 50 คน มนี กั เรยี นช้นั ป.2 อยู่ทง้ั หมดก่ีคน ครูให้นักเรียนลองหาวธิ คี ิด ว่าจะหาคาตอบได้อยา่ งไร (Think – Pair – Share) (Questioning-based Learning) 13. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภปิ ราย มวี ิธีคดิ อยา่ งไร (Critical thinking and problem solving) 14. ครูอธบิ ายเพิ่มเติม วา่ 180 + 50 = 230 กจ็ ะทาให้ทราบวา่ มนี ักเรยี นชนั้ ป.2 อยูท่ ้ังหมด 230 คน 15. ครสู ลบั คาถาม แต่ร้วู า่ มีนักเรยี นชน้ั ป.2 อยทู่ ้งั หมด 230 คน อยู่นอกห้องประชุม 50 คน มี นักเรยี นอยูใ่ นห้องประชุมทง้ั หมดก่คี น (Questioning-based Learning) 16. ครใู ห้นกั เรยี นลองหาวธิ คี ิด ว่าจะหาคาตอบได้อย่างไร (Critical thinking and problem solving) 17. ครอู ธิบายเพ่ิมเติม วา่ 230 – 50 = 180 กจ็ ะทาใหท้ ราบว่ามีนกั เรยี นชั้น ป.2 อยใู่ นห้องประชมุ 180 คน 18. ครสู ลบั คาถาม แต่รูว้ า่ มีนักเรยี นช้นั ป.2 อยทู่ ั้งหมด 230 คน นกั เรยี นชัน้ ป.2 อยูใ่ นหอ้ งประชมุ 180 คน มนี ักเรยี นอยนู่ อกห้องประชมุ ทัง้ หมดก่ีคน (Questioning-based Learning) 19. ครใู ห้นกั เรียนลองหาวิธีคิด วา่ จะหาคาตอบได้อย่างไร (Critical thinking and problem solving) 20. ครอู ธบิ ายเพิ่มเติม วา่ 230 – 180 = 50 ก็จะทาให้ทราบว่ามนี ักเรยี นช้ัน ป.2 อยนู่ อกห้องประชุม 50 คน 21. ครสู รปุ ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบอีกครั้ง 22. ครูใหน้ ักเรยี นฝกึ ทาโจทย์ไปพร้อมๆกนั โดยใหน้ กั เรยี นใชค้ วามสัมพันธ์ของการบวกและการลบ (Think – Pair – Share) (Questioning-based Learning) 23. ครูเฉลยคาตอบแล้วถามเพมิ่ เพื่อให้นักเรียนเขา้ ใจมากขน้ึ

24. ครูใหน้ กั เรยี นฝกึ ทาโจทยอ์ กี คร้ัง (Arithmetic) (Questioning-based Learning) 25. ครเู ฉลยคาตอบพร้อมใหค้ าชมเชยแก่นกั เรียน 26. ครใู หน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 24 เรอื่ ง “ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ” ให้นักเรยี นดแู สดงวธิ ีหา คา่ ของตัวไม่ทราบค่า โดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ (Writing) (Arithmetic) นักเรียนมีปัญญาใน การเรียน สามารถคานวณหาความสัมพันธ์ของการบวกและการลบได้ (ปญั ญา) ปฏิบัตติ นเป็น ผลู้ ะอายและไม่ทน ต่อ การทจุ ริตทุกรูปแบบ ทางานด้วยตนเอง ไม่ลอกคาตอบเพอ่ื น 27. นักเรียนทาใบงานพร้อมกัน ท้ังหมด 5 ข้อ (Writing) (Arithmetic) นักเรียนทางานท่ีได้รับ มอบหมายด้วยความรับผิดชอบ รอบคอบ ทางานเสร็จทนั เวลา (ศีล) สามารถคิดแยกแยะ ระหว่างผลประโยชน์ ส่วนตนและ ผลประโยชนส์ ่วนรวม ข้ันสรปุ 1. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปความรู้เกย่ี วกับความสัมพันธข์ องการบวกและการลบได้ว่า จานวนสองจานวนบวกกัน ผลบวกทไี่ ดล้ บดว้ ยจานวนใดจานวนหนงึ่ ในสองจานวนนน้ั ผลลบคือจานวนอีกจานวนหนง่ึ 2. นักเรียนเลน่ เกมตอบคาถามจากกรอบความรู้ท่ีได้ เร่ือง “ความสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบ” (https://wordwall.net/play/18897/834/323) (Arithmetic) (ComputingandICTLiteracy)(compassion) (Games-based Learning) นกั เรยี นมีสมาธิ มงุ่ มัน่ ต้ังใจ เพ่ือให้ชนะอุปสรรคต่างๆ ในการตอบคาถามได้อยา่ ง ถูกต้อง (สมาธ)ิ

14. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ 1. สอื่ การสอน 1. วีดทิ ัศน์ ความสมั พันธข์ องการบวกและการลบ (https://www.youtube.com/watch?v=lSxSQCLaTUE) 2. สอ่ื เกมตอบคาถามความสัมพันธข์ องการบวกและการลบ ทสี่ รา้ งจาก wordwall.net (https://wordwall.net/play/18897/834/323) 2. หนังสือเรยี น วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 3. ใบงานท่ี 24 เรอ่ื ง ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ แหล่งเรียนรู้ 1. อินเตอรเ์ น็ต 15. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการประเมิน เคร่อื งมอื การ เกณฑก์ ารประเมิน รายการประเมิน ประเมนิ ตรวจใบงานท่ี 24 เรื่อง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป หาความสมั พนั ธข์ องการบวก ความสัมพนั ธ์ของการบวก ใบงานที่ 24 เร่ือง (ไดค้ ะแนน 3 คะแนนขึน้ ไป) และการลบ และการลบ ความสมั พันธ์ของ การบวกและการ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป แก้ไขปญั หาความสมั พันธข์ อง ประเมนิ กจิ กรรมเกมตอบ ลบ (ได้คะแนน 6 คะแนนขนึ้ ไป) การบวกและการลบ คาถามความสัมพนั ธข์ อง การบวกและการลบ เกมตอบคาถาม ความสมั พันธ์ของ การบวกและการ ลบ

ผู้อานวยการโรงเรียนนิเทศ แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ รหัสวชิ า ศ 14101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณท์ างดนตรี เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื ง โนต้ ดนตรไี ทย เวลา 1 ช่ัวโมง ครูผ้สู อน นางสาวรินทรน์ ภา ตลาดเงิน สอนวนั ที่ 9 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2564 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วัด มาตรฐาน ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า ดนตรี ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคดิ ต่อดนตรีอยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน ตวั ชี้วัด ป.4/4 อ่านและเขียนโนต้ ดนตรไี ทยและสากล 2. จุดประสงค์การเรียนรู้/จุดประสงค์การเรียนรหู้ ลกั สูตรตา้ นทจุ รติ 1. อธบิ ายเกยี่ วกบั โน้ตดนตรไี ทยได้ (K) 2. อ่านและเขยี นโน้ตดนตรีไทยได้ (P) 3. มวี นิ ัยและใฝเ่ รียนรู้ (A) 4. นกั เรียนปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บไมท่ ุจริตต่อกิจกรรมท่ีทา 3. สาระสาคัญ การอ่าน และการเขยี นโน้ตดนตรไี ทยเป็นความรแู้ ละทกั ษะพ้นื ฐานในการขบั ร้องเพลงและบรรเลง ดนตรี 4. สาระการเรยี นรู้ โน้ตดนตรไี ทย 5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี นหลักสตู รการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551  ความสามารถในการสื่อสาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คณุ ธรรมอตั ลักษณ์  มมี ารยาท  มจี ิตอาสา  มีระเบยี บวินัย  มีความรบั ผดิ ชอบ  มจี ิตสาธารณะ  ใฝ่เรียนรู้ 7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรยี นสจุ รติ  มีจติ สาธารณะ  ความมวี นิ ัย  ความพอเพยี ง  มวี ินัย  ซ่ือสัตย์สจุ รติ  ทักษะกระบวนการคดิ  รักความเปน็ ไทย 8. ดา้ นเจตคติ/คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ (Attitude : A)  รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  ซื่อสัตย์สุจริต  อยอู่ ย่างพอเพยี ง  มงุ่ มัน่ ในการทางาน 9. การบูรณาการไตรสิกขา  ศลี  สมาธิ  ปัญญา

10. ทกั ษะในศตวรรษที่ 21 (3R 8C )  1. ทกั ษะการอา่ น (Reading)  2. ทักษะการ เขียน (Writing)  3. ทักษะการคดิ คานวณ (Arithmetic)  4. ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical thinking and problem solving)  5. ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation)  6. ทกั ษะดา้ นความร่วมมือการทางานเปน็ ทีมและภาวะผู้นา (Collaboration, teamwork and leadership)  7. ทักษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรมต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural understanding)  8. ทกั ษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและร้เู ท่าทันสือ่ (Communication information and media literacy)  9. ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy)  10. ทักษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)  11. มคี ณุ ธรรม มเี มตตา กรณุ า มีระเบยี บวนิ ัย (compassion) 11. การบูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง พอประมาณ ผู้เรียนพอประมาณในการศกึ ษาค้นคว้าความรู้โดยใช้เวลาทางานเสรจ็ ตามท่ี กาหนด มเี หตุผล ผู้เรียนมีเหตุผลในการเรียนรู้ อภปิ รายและสรปุ ผลจากเรยี นรู้ มภี ูมคิ ุ้มกัน ผเู้ รยี นสามารถเรียนรู้ ทาความเขา้ ใจการอ่านและเขยี นโนต้ เพลงไทยและคานงึ ถึงความ เปน็ ไปได้ของการเรยี นรู้ ความรู้ ผ้เู รียนมคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั โน้ตดนตรไี ทย คณุ ธรรม ผเู้ รียนมีความซ่ือสัตยส์ จุ รติ ในการทางาน มีความมุ่งม่ันในการทางานในการเรยี นรู้ 12. วิธีการสอนแบบ Active Learning  แบบระดมสมอง (Brainstorming)  แบบเน้นปัญหา/โครงงาน/กรณีศึกษา (Problem/Project-based Learning/Case Study)  แบบแสดงบทบาทสมมตุ ิ (Role Playing)  แบบแลกเปล่ียนความคิด (Think – Pair – Share)  แบบสะท้อนความคิด (Student’s Reflection)  แบบตั้งคาถาม (Questioning-based Learning)  แบบใช้เกม (Games-based Learning)  อน่ื ๆ โปรดระบุ ........................................................................................................ 13. การใชส้ ่ือ  การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาดว้ ยเทคโนโลยีการศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทียม (DLTV : Distance Learning Television)  การพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาทางไกลผา่ นเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT : Distance Learning Information Technology  อื่นๆ โปรดระบุ สือ่ จาก YouTube https://youtu.be/_Xve7Np676c ส่ือ PowerPoint เรื่อง โน้ตดนตรีไทย

14. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนา 1. ครูทักทายนักเรียนในกลุ่มไลน์วิชาดนตรี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 และให้นักเรียนรายงานการเข้า เรียน เพอื่ ตรวจสอบความพร้อมในการเรยี น 2. นกั เรยี นความพร้อมก่อนเรียนด้วยเพลงตบมือ ตบอก ตบไหล่ https://www.youtube.com/watch?v=Voci0iGct64 (สมาธิ) ข้ันสอน 1. นกั เรยี นศึกษาวีดโี อประกอบการสอน เรื่อง โนต้ ดนตรไี ทย https://youtu.be/_Xve7Np676c โดยเน้นใหน้ ักเรียนศกึ ษาวดี โี อน้ดี ว้ ยความตั้งใจ (ศีล) 2. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายผา่ นกลมุ่ ไลน์วิชาดนตรี ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 และ ผ่านระบบ Line Meeting (Think – Pair – Share) รายละเอยี ดการอ่านและเขยี นโนต้ ดนตรไี ทย ครูชแี้ นะ นักเรียนถงึ วธิ ีการอ่านและเขียนโนต้ ดนตรีไทย (ปญั ญา) 3. นกั เรยี นศึกษา PowerPoint เรื่อง โน้ตดนตรไี ทย (ปัญญา) 4. นักเรียนฝกึ อา่ นและเขียนโน้ตดนตรไี ทย (Reading) (Writing) โดยมคี รูคอยชี้แนะนักเรยี น ผ่าน ทางไลนก์ ลุ่มวชิ าดนตรี เพ่อื ให้นักเรียนอา่ นและเขยี นโนต้ ดนตรีไทยได้ถกู ต้อง (ปัญญา) 5. นักเรียนนาเสนอผลงาน เรื่อง โน้ตดนตรีไทย โดยอัดคลิปวีดีโอการท่องโน้ต ส่งผ่านในไลน์กลุ่ม วิชาดนตรี และร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องของงานทีท่ า ทัง้ นีค้ รเู นน้ ให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์ในการทางาน ใหป้ ฎบิ ตั ิตามกฎระเบียบไม่ทุจรติ ในการศึกษาคน้ คว้าเนอ้ื หา ให้นกั เรียนทางานด้วยตนเอง (compassion) ข้ันสรปุ นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเนือ้ หา เร่ือง การอ่านโนต้ ดนตรไี ทย (Think – Pair – Share) จากนนั้ ให้ นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง โน้ตดนตรไี ทย (ปัญญา) 15. สือ่ /แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าศิลปะ ป.4 2. .ใบงาน เรือ่ ง โนต้ ดนตรีไทย 3. วีดิทัศน์ เรอ่ื ง โนต้ ดนตรีไทย https://www.youtube.com/watch?v=_Xve7Np676c 4. PowerPoint เร่ือง โนต้ ดนตรไี ทย 16. การวดั และประเมนิ ผล รายการวัด วธิ ีการวดั เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมิน - แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ด้านความรู้ (K) : ประเมนิ ใบงาน - ตรวจใบงาน ทาใบงาน - แบบประเมินการ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ เรอ่ื ง โนต้ ดนตรีไทย นาเสนอผลงาน ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) : - ประเมินการนาเสนอ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ผลงาน - แบบประเมิน ประเมนิ การนาเสนอผลงาน พฤติกรรมความมี วินัยและใฝเ่ รียนรู้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) : ประเมิน - สังเกตพฤติกรรม ความมีวนิ ัยและใฝ่เรยี นรู้ ความมีวินัยและใฝ่ เรียนรู้






















Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook