Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมุดบันทึกการเรียนรู้

สมุดบันทึกการเรียนรู้

Published by 223 ญาณิศา คนซื่อ, 2021-10-23 17:24:34

Description: สมุดบันทึกการเรียนรู้ของรายวิชาแนวทางการศึกษาวรรณคดีไทย

Search

Read the Text Version

จัดทำโดย นำงสำวญำณิศำ คนซือ่ รหสั นักศึกษำ ๖๔๑๑๕๒๔๕๒๒๓ คณะครุศำสตร์ สำขำวชิ ำกำรสอนภำษำไทย ผสู้ อน อ.พฤฒิชำ นำคะผิว

ก ผู้จดั ทำ นำงสำวญำณิศำ คนซ่อื

ข สำรบญั เรอ่ื ง หน้ำ คำนำ............................................................................................................................................ก สำรบญั .......................................................................................................................................ข ประวตั สิ ว่ นตวั .........................................................................................................................ค สัปดำห์ที่๑ ปฐมนเิ ทศ........................................................................................................๑ สปั ดำห์ที่๒ ควำมหมำยและองคป์ ระกอบของวรรณคดีไทย......................๔ สปั ดำห์ท่ี๓ ปจั จัยท่มี ีอิทธิพลต่อกำรสร้ำงสรรค์วรรณคดีไทย................๘ สปั ดำห์ท่ี๔ หยุดวันเฉลิมฯ สปั ดำห์ท่ี๕ ยุคสมัยของวรรณคดีไทย....................................................................๑๕ สัปดำห์ท่ี๖ ขนบวรรณคดีไทย...................................................................................๒๑ สปั ดำห์ท่ี๗ นำเสนองำนตัวละครในแบบฉบับวรรณคดีไทย................๒๕ สัปดำหท์ ี่๘ สอบกลำงภำค สปั ดำหท์ ี่๙ วรรณคดีกบั ชวี ติ ........................................................................................๓๑ สปั ดำหท์ ่ี๑๐ นำเสนองำนวรรณคดมี ีชีวติ ............................................................๓๗ สปั ดำห์ที่๑๑ บทบำทและคณุ ค่ำของวรรณคดไี ทย.......................................๔๕ สปั ดำห์ที่๑๒ วิธกี ำรศกึ ษำวรรณคดไี ทย..............................................................๕๓ สัปดำหท์ ี่๑๓-๑๕ เตรยี มงำนนำเสนอผลงำนทไี่ ดร้ ับแรงบันดำลใจ จำกวรรณคดีไทย................................................................................................................๕๘ สัปดำหท์ ี่๑๖ นำเสนอผลงำนท่ไี ดร้ บั แรงบนั ดำลใจจำกวรรณคดี........๕๙

ค ชื่อ นำงสำวญำณิศำ คนซอ่ื ชอ่ื เล่น แบม รหัสประจำตวั ๖๔๑๑๕๒๔๕๒๒๓ วัน/เดอื น/ปเี กิด ๑๓ กันยำยน ๒๕๔๕ หมู่เลอื ด O ศำสนำ พุทธ ทอ่ี ยู่ บ้ำนเลขที่ ๒๓๗ หมู่ ๑๔ บ้ำนคำชะอี ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จงั หวัดมกุ ดำหำร หมำยเลขโทรศพั ท์ ๐๙๔-๓๑๓๙-๖๓๔ Email [email protected] Facebook bam yanisa คตปิ ระจำใจ ไม่มีควำมสำเร็จใด ไดม้ ำโดยไมพ่ ยำยำม งำนอดิเรก ฟังเพลง อำ่ นนยิ ำย

Week 1

ปฐมนเิ ทศ ๒ แนวทำงกำรศึกษำวรรณคดีไทย ( ๒๑๕๔๑๔๐๑ ) ผ้สู อน อำจำรย์ พฤฒชิ ำ นำคะผิว ** แจ้งรำยละเอียดต่ำงๆ ดังนี้ ขอ้ ตกลงรว่ มกนั มำรยำทในชน้ั เรยี น มอบหมำยงำน กำรให้คะแนน กำรแต่งกำย กำรเข้ำเรยี น กำรลำป่วย/ลำกิจ ( ลำปว่ ยควรมีใบรับรองแพทย์ )

๓ สบื ค้น วเิ ครำะห์ควำมร้พู ้นื ฐำนทำงวรรณคดี ควำมหมำย ลกั ษณะของวรรณกรรมประเภทตำ่ งๆ ศพั ทว์ รรณคดี ปกิณ กะ และหลักกำรวิเครำะหว์ รรณคดี ๑.สำมำรถบอกควำมหมำยและประเภทของวรรณคดีได้ ๒.สำมำรถอธิบำยรปู แบบเทพปกรณัม และเรื่องปกิณกะ เกย่ี วกบั วรรณคดีไทยได้ ๓.สำมำรถวิเครำะห์ควำมเชือ่ มโยงระหว่ำงวรรณคดีไทย กับศำสตร์แขนงตำ่ งๆได้ ๔.สำมำรถวเิ ครำะหก์ ำรเชอื่ มโยงวรรณคดกี ับชีวติ ได้ -ใหค้ ะแนนตวั เอง : ๖/๑๐ เพรำะยังไม่เขำ้ ใจใน เรือ่ งวรรณคดมี ำกพอ -ปญั หำอปุ สรรค : กลวั เรียนไม่ทันเพื่อน -ควำมรสู้ ึก : ตนื่ เตน้ ได้เรยี นกบั อำจำรย์คร้ังแรก

Week 2

๕ เพ่อื ผลทำงสุนทรยี ภำพ และศกึ ษำควำมงดงำมทำงวรรณศลิ ป์ เพอ่ื ศึกษำเกีย่ วกบั วิถีชวี ติ ของผ้คู นในอดตี ๑.ควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งวรรณคดี และวรรณกรรม วรรณคดี สโุ ขทยั ถึงปลำย เปน็ เรื่องท่ไี ด้รับกำยกยอ่ งวำ่ รชั กำลท่ี๕ แตง่ ดี มปี ระโยชน์ อำ้ งอิงได้ ให้ควำมบันเทงิ บทสอนใจ แนวชดิ เชงิ + เวลำ คุณภำพ วรรณกรรม ตงั้ แต่ รัชกำลท่ี ๖ แตง่ ยังไงก็ได้ ถงึ ปจั จบุ ัน แต่คุณภำพไมถ่ ึงวรรณคดี ๒.ลักษณะเฉพำะของวรรณคดี ๑.แต่งดี มศี ิลปะในกำรแตง่ นำเนื้อเรื่อง ๒.มีอำรมณส์ ะเทือนใจ (emotion) ให้ผอู้ ำ่ นรู้สึกคลอ้ ยตำม ๓.มปี ระโยชน์ต่อผู้อ่ำน ๔.ให้ควำมบันเทงิ เปดิ หูเปดิ ตำในแง่ชีวิต หรือใหบ้ ทสอนใจ ( แต่มิใช่หนงั สอื เทศนำ )

๖ ๓.วัตถปุ ระสงคใ์ นกำรแตง่ วรรณคดขี องกวี เพือ่ แสดงควำมรู้สึกนกึ คิด เพ่อื ประโยชน์ดำ้ นกำรบนั เทงิ เพื่อให้รอบรู้ หรือบบทวิชำกำรตำ่ งๆ ประเภทของวรรณคดี เนอ้ื หำ พทุ ธศำสนำ คำสอน บนั เทงิ จำแนกตำม... ประเพณี พิธกี รรม ประวตั ิศำสตร์ หลกั ฐำน มุขปำฐะ=เลำ่ ปำกต่อปำก ทไ่ี ด้มำ ลำยลักษณ์ (รำชสำนัก) ลกั ษณะ หลกั ฐำน =จำรึกไว้ กำรเขยี น ทไ่ี ดม้ ำ ร้อยแก้ว ร้อยกลอง มุ่งในควำมบนั เทงิ /ศิลปะ บรสิ ทุ ธิ์ Ex.นริ ำศนรินทร์ ขุนช้ำง พระอภัย ประยกุ ต์ แตง่ ขึ้นเพอ่ื ประโยชน์ทำงใดทำงหน่ึง Ex.ต้องกำรสอนใหค้ นละควำมชั่วทำแตค่ วำมดี ๔.องค์ประกอบของวรรณคดี ภำษำ เนอื้ หำ รูปแบบ > คำ ประโยค > เน้อื เร่ือง > ร้อยแก้ว และควำมหมำย > ตัวละคร > ร้อยกลอง > ฉำก > อ่นื ๆ > กลวธิ ีและทำนอง > เวลำ > แนวคดิ

๗ ควำมสำคญั ของวรรณคดี วรรณคดมี คี วำมสำคญั ในฐำนะที่เป็นมรดกทำงวัฒนธรรมของชำติสะทอ้ น แนวคดิ วถิ ชี ีวิต สงั คม และวัฒนธรรมของชำติ เปน็ เคร่ืองเชดิ ชูอรยธรรม เป็น หลักฐำนทำงประวตั ศิ ำสตร์ ช่วยใหเ้ รำรับรูเ้ รอื่ งรำวในอดีต สง่ เสริมสุนทรียภำพ ให้เกิดข้ึนในใจผอู้ ่ำน เมือ่ อำ่ นแล้วเกิดควำมรู้สกึ ร่วมประทับใจ ตลอดจน เสรมิ สร้ำงควำมเข้ำใจโลกและชวี ิตให้เกดิ ขน้ึ กบั ผู้อ่ำน วรรณคดคี อื อะไร คำวำ่ วรรณคดีตำมตัวอักษรหมำยควำมว่ำแนวทำงแหง่ หนังสือ วรรณ (รำกศัพทส์ ันสกฤต) = หนังสือ คดี (รำกศพั ทบ์ ำลี) =กำรดำเนิน กำรไป ควำมเปน็ ไป พจนำนุกรมฉบับรำชบณั ฑติ ยสถำน = หนงั สอื ทไ่ี ด้รบั ยกย่องว่ำแต่งดี วรรณคดไี ทยในอดตี วรรณคดไี ทยในยคุ ดจิ ทิ ลั -ใหค้ ะแนนตัวเอง : ๖/๑๐ เพรำะยงั งงๆอยู่ -ปัญหำอปุ สรรค : หิวข้ำวหนักมำก -ควำมรู้สึก : เร่ิมชอบวิชำวรรณคดี



๙ สงั คมและวฒั นธรรม ทีม่ ำของวรรณคดี ผู้สรำ้ งสรรคว์ รรณคดี (แรงบันดำลใจของกวี) อิทธิพลตำนำนและนิทำนพน้ื บ้ำน อทิ ธพิ ลวรรณกรรมต่ำงประเทศ (ตะวันออก + ตะวนั ตก) ๑.สังคมและวฒั นธรรม ลักษณะของวรรณคดีเปน็ ไปตำมลักษณะ เศรษฐกิจและกำรเมือง ทำให้เกิดกวี ของสังคม หรือลักษณะของวรรณคดีกับ หรือนักประพันธ์ที่สนใจแต่งเรื่องสนอง ลักษณะของสังคมนั้นต้องไปด้วยกัน กวีจะ ควำมต้องกำรของผู้อ่ำน ดังเช่น กรมหมี่น มองดูว่ำ มีเหตุกำรณ์ใดหรือแง่มุมใดของชีวิตท่ี พิทยำลงกรณ์ หรือ น.ม.ส. ทรงได้แปลงนว สมควรจะยกมำประพนั ธข์ ้นึ เพื่อควำมสนใจของ นิยำยและเรื่องสั้นภำษำตะวันตกหลำยเรื่อง คนในสังคม หรือเพอื่ ประโยชนข์ องคนในสังคม โรงพมิ พ์ในหนงั สือ ลกั วทิ ยำ ขนบธรรมเนียมดำง ๆ คอื กำรบันทกี กำร กำรย้ำยรำชธำนีของอำณำจักรไทย เมื่อ เดินทำงไปตำมที่ต่ำง 1 กวีมักนิยมแต่งเรื่อง พระบำทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ำจุฬำโลก ควำมระทมทุกข์ที่ต้องจำกนำงที่รักปนไปด้วย มหำรำชทรงสถำปนำกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้น เพื่อให้กำรบันทึกมิรส มำกกว่ำจะเป็นกำร ทรงเหน็ สมควรจัดให้มีกำรชำระวรรณคดีท่ี พรรณนำถึงสถำนที่ บันทึกกำรเดินทำง มีมำแต่สมัยกรุงศรีอยุธยำซึ่งมีเนื้อควำม ลักษณะจะเป็นวรรณกรรมประเภทนิรำศ เช่น ช ำรุดเสียหำยตกหล่นคำดเคลื่อนและไม่ โคลงกำสรวล โคลงนิรำศหริภุญชัย สมบูรณ์ต่ำง ๆ ให้เป็น เรื่องเรียบร้อย สมบรู ณ์ ท้งั เนอ้ื เร่อื งและรำบรื่นทั้งกระบวน เรื่องวัฒนธรรมไทยต่ำง ๆ ก็เป็น ภำษำ ดังเช่น พระรำชนิพนธ์บทละครเรื่อง แรงบันดำลใจสำคัญให้กวีบันทึกไว้ใน รำมเกียรตแิ์ ละอณุ รทุ งำนวรรณกรรมของตน ดงั เช่นกวิในสมัย อยุธยำแต่งโคลง ทวำทศมำส เป็นเชิง ศำสนำและควำมเชื่อ ควำมเชื่ออัน นิรำศแต่ได้สอดแทรกเรื่องพิธีและ เนื่องด้วยพุทธศำสนำ มีอิทธิพลต่อ ประเพณีต่ำง ๆ ที่คนไทยปฏิบัติในรอบปี แนวคิดของรรณคดีไทย ส่วนใหญ่ที่มัก ไว้ดว้ ย แสดงให้เห็นอำนำจ ของกรรมว่ำเป็น เครื่องกำหนดเหตุกำรณ์ต่ำง ๆ ที่เกิดขึ้น ในเรื่อง เช่น ในลิลิตพระลอ และในขุน ช้ำงขนุ แผน

๒.อทิ ธพิ ลและ ๑๐ วรรณกรรมพืน้ บำ้ น วรรณกรรมพื้นบ้ำนโดยเฉพำะที่เป็นมุขปำฐะ คือเป็นเรื่องเล่ำ สบิ ปำกตอ่ คำ หลำยเร่อื งมีเสน่ห์ติดใจกวีไทย โดยเฉพำะวรรณกรรมท่ี มีเรอื่ ง รำวเป็นตำนำนรักอันซึ้งตรึงใจ หรือที่เป็นเรื่องตำนำน พงศำว คำรของกำรสรำ้ งบำ้ นแปงเมืองของท้องถน่ิ ต่ำง ๆ กวีไทยนิยมนำเรื่อง เหล่ำนี้มำแต่งเป็นวรรณกรรมประเภทต่ำง ๆ ตำมแต่จะเห็นสมควร ตวั อยำ่ งเช่น เรื่องลลิ ติ พระลอ เมื่อเรื่องของวรรณกรรมพื้นข้ำนหลำยเรื่องเป็นเรื่องจริงใจมี อิทธิพลทำให้กลำยนำมำแต่งเพื่อเผยแพร่เรื่องให้คนอ่ำน ใจและ ตำนำนพ้นื บำ้ นหลำยเร่อื งแม้จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ก็มีเค้ำควำมจริง อยู่ โดยเฉพำะเรื่องที่เกี่ยวกับกำรสร้ำงบ้ำนแปงเมืองของ อำณำจักร ไทย ทำให้กวีไทยสนใจนำมำแต่งขึ้นใหม่ทั้งนี้มิใช่เพื่อควำมบันเทิง แต่ประกำรเดียว แต่ยังเพื่อปลุกจิตสำนึกคนอ่ำนให้สำนึกในควำม เกำ่ แกข่ องชำติไทยและให้เกดิ ควำมภูมิใจทช่ี ำติไทยมีบรรพบุรุษผู้เป็น วีรบรุ ษุ อนั กล้ำหำญดว้ ย ๓.อทิ ธิพลของวรรณกรรมอินเดีย วรรณกรรมของอินเดียทม่ี อี ิทธพิ ลตอ่ วรรณกรรมไทยมที มี่ ำ ๖ แหลง่ คือ วรรณคดีสันสกฤตและรรณคดพี ุทธศำสนำท่ีเป็นภำษำบำลี ทสี่ ำคัญไดแ้ ก่ มหำกำพย์สำคัญ ๒ เร่ืองคือ มหำกำพย์รำมำยณะ และมหำกำพยม์ หำภำรตะ นิทำนประเภทต่ำง ๆ วรรณคดีประเภทนตี หิ รอื คตธิ รรม และวรรณกรรม บำลีต่ำงๆ อทิ ธิพลของ มหำกำพย์รำมำยณะ เป็นนิทำนเรอ่ื งพระรำมรบกบั วรรณกรรมอินเดยี ยักษช์ ือ่ รำวณะหรือทศกัณฐ์ มหำภำรตะ เป็นเรอื่ งสงครำมระหว่ำงกษัตรยิ เ์ กำรพ และปำณฑพในจันทรวงศ์ของอนิ เดีย วรรณคดปี ระเภท วรรณกรรมประเภท วรรณกรรมประเภทนตี ิ นทิ ำนตำ่ งๆของอินดีย อรรถกถำภำษำบำลี หรือคตธิ รรมในกำร ดำเนนิ ชีวติ ของอินเดีย มีปรำกฏในวรรณคดไี ทยดว้ ย > ไตรภูมพิ ระรว่ ง > นิทำนปริศนำเร่อื งเวตำล > ปัญญำสชำดก มปี รำกฏอยทู่ ่ัวไปใรวรรณคดี > นทิ ำนอทุ ำหรณ์เรอ่ื งนำงตนั ไตร ไทยประเภทสุภำษิต > ไตรภูมิพระร่วง > โครงพำลีสอนน้อง

๑๑ ๔.อิทธพิ ลของวรรณกรรมเปอรเ์ ซีย จนี ชวำ และมอญ วรรณกรรมเปอร์เซีย วรรณกรรม วรรณกรรมจีน วรรณกรรมจีน ไทยได้รับเค้ำโครงจำกวรรณกรรม เล่มนี้สำคัญที่สุดที่แปลเป็นไทยสมัย เปอรเ์ ซยี ท่ีเปน็ ที่รู้จักกันดีคือที่เรียกกัน รัชกำลที่ ๑ คือ สำมก๊ก กำรแปล วำ่ “นทิ ำนอีหร่ำนรำชธรรมสิบสองเรื่อง” วรรณกรรมจันมีต่อมำในรัชกำลที่ ๒ เรอ่ื งอื่นๆ รัชกำลที่ ๔ หนังสือที่แปลส่วนมำกเป็น ประวัติศำสตร์หรือพงศำวดำลจีนและนว > รุไบยำต นิยำยองิ พงศำวดำร > ทศมนตรี > พนั หน่ึงทิวำ > ไคเภก๊ > นทิ รำชำคริต > หอ้ งสนิ > เลยี ดก๊ก วรรณกรรมชวำ เรื่องอิเหนำซึ่งมี > ไซอิ๋ว ที่มำจำกพงษำวดำรชวำ มีปรำกฏใน วรรณคดไี ทยหลำยฉบับ คือนอกจำกจะ วรรณกรรมมอญ วนั น่ะคดีไทยได้ มีฉบับกรุงศรีอยุธยำแล้วยังมีฉบับ เขำเรื่องจำกพงศำวดำรมอญคือ พระบำทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ำจุฬำโลก รำชำธิรำช เจ้ำพระยำ พระคลัง(หน) แต่ง มหำรำชโดยโปรดให้แต่งขึ้นและยังมีพระ รวมกับพระยำอินทรอัครรำช พระภิรม รำชนิพนธ์พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศ รัศมีและพระศรีภรู ิปรชี ำ หล้ำนภำลัยซง่ึ เปน็ ฉบบั ท่ไี ดร้ บั ยกย่องว่ำ เปน็ บทละครท่ไี พเรำะท่สี ุด ๕.อิทธพิ ลของวรรณกรรมตะวนั ตก นวนยิ ำยตะวันตกท่ี บันเทงิ คดีทไ่ี ดร้ บั รชั กำลท่ี ๖ ทรงแปลบท นำมำแปลเปน็ ไทย อิทธิพลจำกตะวันตก ละครตะวันตก ท่รี ้จู กั กนั ดี > วองเดตตำ > เร่อื งส้ัน สมำคมชั้นสงู > บทละครเรือ่ งโรเมโอ > เชอร์ลอด โฮลม์ หรือ > นวนิยำย ละครแห่งชวี ติ และจเู ลยี ต นทิ ำนนำยทองอิน ของหมอ่ มเจ้ำอำกำศดำเกิง รพีพัฒน์ > เรือ่ งเวนิสวำนิช

๑๒ ๖.ผู้สร้ำงวรรค์วรรณคดี วรรณคดีเป็นงำนสรำ้ งสรรค์ทีเ่ กดิ จำกผูส้ รำ้ งสรรคห์ ลอ่ ลอมปจั จยั ตำ่ งๆเขำ้ ด้วยกันแต่ ปจั จยั ทส่ี ำคญั ท่สี ุดคงไดแ้ กต่ วั ผู้แตง่ ซึ่งเป็นผู้นำส่วนประกอบต่ำงๆเหล่ำนี้มำหลอมรวมกัน ประกบกับภูมิหลังของตนตลอดจนนิสัยใจคอของกวีย่อมมีอิทธิพลอย่ำงยิ่งต่อเนื้อเรื่อง และรูปแบบของงำนวรรณกรรมเรอ่ื งใดเร่อื งหนึ่ง พุทธศำสนำและควำมเชื่ออัน ผู้สร้ำงสรรค์วรรณคดีเป็น เน่อื งด้วยศำสนำมีอิทธิพล ทำให้กวี ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกำรสร้ำงสรรค์ ไทยนิยมสร้ำงวรรณคดี เพื่อเป็น วรรณคดีที่สุดกวีหรือผู้ประพันธ์นำ พุทธบูชำวัฒนธรรมอันดีงำมของ ประสบกำรณ์ที่ประทับใจของตูนมำ ไทยทำให้กวีภมู ใิ จจนนำไปแต่งเป็น นิพนธ์ขึ้นเป็นวรรณคดีที่ปรุงแต่ง วรรณคดีเศรษฐกิจและกำรเมืองมี ด ้ ว ย ภ ู ม ิ ห ล ั ง แ ล ะ น ิ ส ั ย ข อ ง ก วี ผลกระทบต่อกำรศึกษำของไทย ตลอดจนสังคมและวัฒนธรรมใน โดยเฉพำะสมยั รชั กำลที่ ๕ ยคุ สมยั ของกวี สรปุ องคค์ วำมรู้ วรรณกรรมพนื้ บำ้ นมักมี เรื่องรำวลกึ ซ้งึ ตรงึ ใจหรอื เป็นตำนำน ของกำรต้ังถ่ินฐำนของคนไทย โบรำณที่ดนู ่ำอศั จรรยใ์ จแต่โสเค้ำ ควำมจรงิ อยทู่ ำให้กวไี ทยจิตใจจนนำ เนื้อเร่อื งมำแตง่ ขน้ึ ใหม่ ไทยเริ่มรับอิทธิพลวรรณกรรม อิทธิพลวรรณกรรมตะวันออก ตะวันตกในสมัยรัชกำลที่ ๕ อันเป็น ท ี ่ ป ร ำ ก ฏ ใ น ว ร ร ณ ค ด ี ไ ท ย ไ ด ้ แ ก่ สมัยที่มีกำรปฏิรูปทำงกำรเมืองและ วรรณกรรมอินเดียเปอร์เซียชวำจีน สังคมวรรณกรรมตะวันตก ทำให้กวี และมอนมีข้อสังเกตว่ำไทยนิยมรับ สร้ำงสรรค์งำนร้อยแก้วมำกขึ้น ทำให้ เรื่องประเภทนิทำนมำแปลงเป็น เกดิ วรรณคดปี ระเภทเรอื่ งส้นั นวนิยำย วรรณคดีไทยมำกที่สดุ และบทละครพดู ขึ้น

๑๓ เกรด็ ควำมรู้ กลุ่มท่ี ๑ ลกั ษณะนิสยั นำงในวรรณคดี นำงพมิ พิลำไลย หรอื วนั ทอง จำกวรรณคดีเร่อื ง ขุนช้ำงขุนแผน นางพมิ พิลาไลย หรอื วันทอง นางวันทองมีรูปร่างหน้าตาสวยงาม อรชนอ้อนแอ้น กิริยามารยาทแช่มช้อยซึ่งความสวยของนางนั้นปรากฏ ให้เห็นชดั ตั้งแต่ยงั เปน็ เด็ก และยงั มีผมสวย นำงบษุ บำ จำกวรรณคดีเร่ือง อเิ หนำ เปน็ ธิดาของทา้ วดาหาและประไหมสุหรีดาหราวาตี แห่งกรุงดาหา เมื่อ เม่อื ประสตู มิ ีเหตอุ ัศจรรย์คือ มกี ลนิ่ หอมตลบอบอวลไปท่วั ทง้ั วงั ดนตรี แตรสงั ขก์ ด็ ังข้นึ เองโดยไม่มผี บู้ รรเลง และเมอื่ ประสูติไดไ้ ม่นาน ท้าวกุเรปัน กข็ อตุนาหงนั ให้กับอิเหนา ท้งั นีน้ างบษุ บาเปน็ หญงิ ท่ี งามลา้ าเลศิ กวา่ นางใดใน แผน่ ดินชวา กริ ิยามารยาทเรยี บร้อย คารมคมคาย เฉลียวฉลาดทันคน นำงมโนรำห์จำกเร่ือง พระสุธน-มโนรำห์ มโนรำห์เป็นหญงิ สำวทีม่ โี ฉมงดงำมเหลือเกินยิ่งหยำดฟ้ำลงมำดิน ดงั ท่ีกวไี ดก้ ล่ำวชน่ื ชมควำมงำมของนำงมโนรำหโ์ ดยผ่ำนนำงจันทเทวี นำงสดี ำ จำกวรรณคดเี รือ่ ง รำมเกียรติ์ เป็นผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัว รักเดียวใจเดียวมีความมั่นคงต่อ พระรามมคี วามกล้าหาญ ยอมลุยไฟเพ่ือพสิ จู น์ความรกั และความมนั่ คงท่ีมี ตอ่ พระราม -ใหค้ ะแนนตวั เอง ๗/๑๐ เร่ิมรูส้ กึ เรยี นแลว้ สนกุ - ปญั หำอุปสรรค : ถำ่ ยภำพหน้ำจอไม่ทันอำจำรย์ -ควำมรู้สึก : เขำ้ ใจในเนอื้ หำมำกขนึ้ เรยี นแล้ว ไมเ่ บ่ือ





๑๖ เกมทบทวนควำมรเู้ ร่อื งยุคสมัยทำงประวัติศำสตร์ไทย 1.วรรณคดไี ทยเรอ่ื งใดไม่ไดเ้ กดิ ข้ึนจำก 2.ปัจจยั ใดที่มีผลตอ่ กำรสร้ำงสรรค์ ควำมเช่ืออันเนื่องดว้ ยพุทธะศำสนำของกวี วรรณคดีไทยเรอื่ งนิรำศภูเขำทอง * สำมกก๊ * ขนบธรรมเนียมต่ำงๆ 3.วรรณคดเี รื่องใดได้รบั อพิ ลด้ำน 4.บทละครเร่อื งรำมเกยี รตไ์ิ ด้รบั อทิ ธิพล เนอ้ื หำมำจำกวรรณกรรมพ้นื บ้ำน จำกวรรณกรรมอินเดียเร่อื งใด * ลลิ ติ พระลอ * มหำกำพย์รำมำยณะ 5.เรือ่ งรำชำธริ ำชมเี ขำเรื่องมำจำก 6.สยำมเรม่ิ ไดร้ บั อทิ ธิพลจำกตะวันตก วรรณกรรมของชนชำติใด อยำ่ งชดั เจนท่ีสุดในรชั สมัยใด * รชั กำลท่ี ๕ * วรรณกรรมมอญ 7.ไทยเปลย่ี นแปลงกำรปกครองเป็น 8.ละครดกึ ดำบรรพข์ องไทยมีทมี่ ำจำก ระบบประชำธิปไตยในรชั สมยั ใด วรรณกรรมตะวันตกประเภทใด * รชั กำลท่ี๗ * ละครโอเปร่ำ 9.ใครเปน็ ผ้ปู ระดิษฐ์ลำยสือไทย 10.กำรปกครองสมยั สโุ ขทัยเปน็ แบบใด * พ่อขนุ รำมคำแหง * พอ่ ปกครองลกู 11.ยคุ สมยั ใดทมี่ รี ะยะเวลำยำวนำนท่ีสุด 12.ยคุ สมยั ใดท่ีสยำมส่งรำชทตู ในประวัตศิ ำสตร์ไทย ไปฝรั่งเศสครั้งแรก * อยุธยำ * อยธุ ยำตอนกลำง 13.สยำมตกเป็นเมอื งขน้ึ ของพม่ำในยคุ สมัยใด 14.สมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำชทรง * อยุธยำ เป็นกษตั รยิ ใ์ นยุคสมยั ใด 15.ปัจจัยใดแสดงใหเ้ หน็ ว่ำผ้สู รำ้ งสรรคว์ รรณคดี * ธนบรุ ี เปน็ ปัจจัยสำคญั ในกำรแตง่ วรรณคดี 16.เรอ่ื งนิทำนเวตำลไดร้ ับอทิ ธิพลด้ำน *รชั กำลท่ี ๖ ทรงเชย่ี วชำญภำรตวิทยำจงึ ทรง เนือ้ หำมำจำกวรรณกรรมชนชำติใด พระรำชนพิ นธ์เรอื่ งรำมเกียรตต์ิ ำมฉบับสันสกฤต *วรรณกรรมอนิ เดีย 17.โครงโลกกันนิดมที ี่มำจำกวรรณกรรม 18.กษัตรยิ ์พระองค์ใดทกี่ อบกเู้ อกรำชจำก ประเภทใดของอนิ เดีย พมำ่ เมื่อเสียกรงุ ครงั้ ทส่ี อง *วรรณกรรมประเภทนติ ิหรอื คติธรรมดำเนนิ ชีวิต *สมเด็จพระเจ้ำตำกสนิ มหำรำช

๑๗ สโุ ขทัย - ศิลำพ่อขุนรำมคำแหง - สภุ ำษติ พระร่วง - ไตรภูมิพระรว่ ง - นำงนพมำศ อยุธยำ ต้น กลำง ปลำย - ลลติ โองกำร - พำลสี อนน้อง - กำพย์เหเ่ รอื - แช่งนำ้ - มหำชำติคำหลวง - ทศรถสอนพระรำม - บทละครดำหลัง - ลลิ ติ ยวนพำ่ ย - ลิลิตพระลอ - สมทุ รโฆษคำฉันท์ - โคลงชะลอพุทธไสยำสน์ - จินดำมณี - บทละครนอก - อนริ ทุ ธคำฉนั ท์ - โคลงนิรำศ - กำพย์ห่อโครง - คำฉนั ท์ดุษฎสี ังเวย - นันโทปนนั ทสตู ร - กล่อมช้ำง คำหลวง - พระมำลัยคำหลวง - กลบทสิริวิบลู กติ ติ - ปุณโณวำทคำฉันท์

๑๘ ธนบุรี - บทละครรำมเกียรติ์ - ลลิ ติ เพชรมงกฎุ - กฤษณำสอนนอ้ งคำฉนั ท์ - นริ ำศเมืองกวำงตงุ้ - อิเหนำคำฉันท์ - เพลงยำว รตั นโกสินทร์ -บทละครอณุ รทุ ร.๔ – ร.๖ -บทละครรำมเกียรติ์ -บทละครอิเหนำ - อิศรญำณภำษติ -บทละครดำหลงั - นิรำศเดนิ ดง -กฎหมำยครำ ๓ ดวง - พระรำชพธิ ีสิบสองเดอื น -รำชำธิรำช - ไกลบ้ำน -บทมโนรเี รอื่ งกำกี - เงำะป่ำ -สำมกก๊ - หวั ใจนักรบ -ลลิ ิตพระยุตรำเพชรหลวง - มทั นะพำธำ -ลลิ ติ ศรวี ชิ ยั ชำดก - โพงพำง -ไตรภมู โิ ลกวนิ ิจฉยั กถำ - บทละครพระลอ - องศเ์ ทวรำช - พระรำมเดินดง

๑๙ เกรด็ ควำมรู้ กล่มุ ที่ ๒ รู้หรอื ไม่...ใครยืนหนึ่ง ประเภทของลลิ ติ ไดแ้ ก่ ลิลิตพระลอ เนื่องจำกว่ำแต่งขึ้นอย่ำงประณีตงดงำม มีควำมไพเรำะของถ้อยค ำ และเต็มไปด้วยสุนทรียศำสตร์ พรรณนำเรอ่ื งดว้ ยอำรมณ์ที่หลำกหลำยใช้กวีโวหำรอยำ่ งยอดเยย่ี ม ในกำรบรรยำยและพรรณนำเนื้อทรำย ประเภทของบทละครรำ ได้แก่ อิเหนำ เนื่องด้วยสำนวนกลอนมีควำมไพเรำะและ เหมำะที่จะนำไปเล่นละครแต่แม้วำำจะมีเค้ำโครงมำจำกนิทำน พื้นเมืองชวำแต่พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำนภำลัยทรง ดัดแปลงให้เข้ำกับธรรมเนียมของสังคมไทยโดยไม่ขัดแย้งกับ เนอื้ หำเดมิ เลย ประเภทของกลอนสุภำพ ไดแก ขนุ ชำงขุนแผน เนื่องจำกมีสำนวนโวหำรที่ไพเรำะมี คติเตือนใจ สะทอนใหเห็นสภำพชีวิตและควำมเปนอยูของคน ไทย ยังใหควำมรูเกี่ยวกับขนบทำเนียมประเพณีไทยดวย หนู ชอบอำนเรื่องนม้ี ำกๆเลยคะสนกุ สนำน เพลดิ เพลินดี ประเภทของบทละครพูดคำฉันท์ ไดแก มทั ธพำธำ เนอ่ื งดวยมถี อยคำทีส่ ื่ออำรมณควำมรสู กึ ของตัวละครไดดเี ยี่ยม มกี ำรวำงโครงเร่อื งที่ชวนใหนำตดิ ตำม และ ยงั มีกำรสอดแทรกควำมคดิ คตสิ อนใจเร่อื งควำมรกั ประเภทของฉนั ท ไดแก สมุทรโฆษคำฉันท เนื่องจำกเปนเรื่องที่แตงดีเยี่ยม ในกระบวนคำฉันท เปนวรรณกรรมขนำดยอมที่มีอรรถรส ไพเรำะดวยฉันทและกำพย

๒๐ ประเภทของบทละครพูด ไดแก หัวใจนักรบ เนื่องจำกเปนวรรณคดีที่ชวยส่งเสริม ควำมรักชำติ และมีควำมสำมัคคีของคนในชำติอีกทั้งเนื้อเรื่อง ก็ใชคำพูดทก่ี ะทัดรดั เขำใจงำย มคี วำมหมำยลกึ ซงึ้ แถมยงั ดำเนิน เร่ืองไดแบบไมสบั สน ประเภทของควำมเรียงเร่อื งนิทำน ไดแก สำมกก เนื่องจำกมีศิลปะกำรประพันธในกำรดำเนิน เรอื่ งใหผอู ำนตนื่ เตนไปกับเหตุกำรณใชถอยคำแสดงถึงพฤติกรรม ของตัวละคร ภำษำกส็ ัน้ กะทัดรัด เขำใจงำย ทงั้ สนุกทั้งแฝงขอคิด มำกมำย ประเภทของบทละครรอง ไดแก สำวเครือฟำ เนื่องจำกเปนเรื่องรำวโศกนำฏกรรมนี้ ไดรบั แรงบันดำลใจมำจำกละครเวทีทม่ี ชี อ่ื เสยี งทำงฝงยุโร ประเภทของควำมเรียงอธบิ ำย ไดแก พระรำชพธิ สี บิ สองเดอื น เนือ่ งจำกเน้ือหำใหภำพของ พระรำชพิธีตำงๆอยำงละเอียดลออรวมถงึ มีกำรใหอธิบำยที่มำและ สำเหตขุ องกำรประกอบพระรำชพิธนี ั้นๆดวย เพรำะเปนเชนนี้ เลย ไดรบั กำรยกยองจำกวรรณคดสี โมสร ประเภทของกำพย ไดแก มหำชำติกลอนเทศน เนอ่ื งจำกเนื้อหำเกี่ยวกับศำสนำ โดยตรง เปนหนังสือมหำชำติฉบับภำษำไทยเลมแรก ที่ปรำกฏ หลักฐำนเหลืออยู มใี จควำมใกลเคยี งกบั ขอควำมท่ีแตงเปน ภำษำบำลี -ให้คะแนนตัวเอง ๘/๑๐ เร่มิ เข้ำใจในเนื้อหำ - ปัญหำอปุ สรรค : กำรทำงำนกล่มุ ไมค่ อ่ ยคยุ กนั -ควำมรสู้ กึ : เนอ้ื หำเยอะมำก วรรณคดแี ตล่ ะยุค ตอ้ งแยกจำแนกให้ได้ ส้ๆู



๒๒ ในงำนศิลปะไทยเรำ ภำพกะ = ศลิ ปะฝำผนัง พบ “ขนบ”ในกำรสร้ำง หลงั พระพุทธรูป วรรคผ์ ลงำนหรอื ไม่ ขนบวรรณคดีไทย ขนบ แบบอยำ่ ง แผน ระเบียบ คืออะไร หมำยถึง ลักษณะจำรีต ขนบทำงวรรณ จำรตี นิยมทำงวรรณคดไี ทย นยิ มทำงวรรณคดี คดไี ทยหมำยถึง จำรตี นิยม คอื วิธกี ำรอสดงออกต่ำงๆ บทพรรณนำ ทเี่ กดิ ขึ้นซำ้ ๆกันในกำรประพันธ์ ตวั อย่ำงจำรตี นยิ มในวรรณคดี แบบแผนทำงฉันทลักษณ์ คำประณำมพจน์และกำรลงท้ำย แบบฉบบั ของตวั เอก คำเปรียบในเชิงต่ำงๆ ประโยชน์ของกำรศึกษำขนบกำรสรำ้ งบทพรรณนำในวรรณคดไี ทย เข้ำใจลกั ษณะสำคญั แสดงใหเ้ หน็ อจั ฉริยภำพ ของวรรณคดีไทย ทำงภำษำของกวี (สีสันวรรณคดีไทย) เปน็ ควำมรู้พ้ืนฐำนสำคญั ท่ี เข้ำใจแนวคดิ กำร มีประโยชนต์ อ่ กำรวจิ กั ษ์ สรำ้ งสรรค์งำนของกวี วิจำรณ์ วิจยั วรรณคดแี ละ แตล่ ะยุคสมัย วรรณกรรมไทย (สบื ทอด+สร้ำงสรรค์)

๒๓ เกรด็ ควำมรู้ กลมุ่ ที่ ๓

๒๔ -ให้คะแนนตัวเอง : ๖/๑๐ -ปัญหำอปุ สรรค : เนต็ ชักกระตุก -ควำมร้สู กึ : เบ่อื เนต็ ดที ่วี ันน้เี น้ือหำไม่เยอะ



๒๖ งำมอยำ่ งหญงิ ฝร่ัง เปน็ สตรที ีม่ ีควำมงำมย่งิ เปน็ หญิงทง่ี ำมล้ำเลศิ กว่ำ มีเสน่ห์ กวำ่ นำงฟ้ำในสวรรค์ นำงใดในแผ่นดนิ ชวำ นำงละเวง ผ้ใู ดพบเห็นก็ตำ่ งพำกนั วณั ฬำ ตะลึงในควำมงำม นำงบุษบำ นำงรจนำ นำงสดี ำ มีรูปรำ่ งและ นำงบุษบำ ใบหน้ำงดงำม ขยนั เกง่ งำน นำงเอกฉบับวรรณคดีไทย มำรยำทงำม บำ้ นงำนเรือน วำจำดี ทำงำนบ้ำนงำนเรือน มคี วำมซื่อสตั ยจ์ งรกั ภกั ดี มกี ิรยิ ำมำรยำทเรยี บร้อย และทำอำหำรเกง่ และรักเดยี วใจเดียว เฉลยี วฉลำด นำงมทั รี นำงตะเภำทอง ซอ่ื สตั ย์จงรักภักดีเหมอื น มคี วำมภกั ดตี อ่ สำมี เปน็ บดิ ำ ปรนิบตั ิ เชน่ แม้ไกรทองนั้นจะเจำ้ ชู้ ภรรยำทดี่ ี พงึ ปฏิบตั ิตอ่ สำมี

๒๗ ๓.กำรครองคู่ ครองดินแดน ครองทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่ คำดหวงั ในตัวใชม้ ำกทีส่ ดุ เชน่ ไกลทองหรอื ขุนแผน ท่ี เกิดมำยำกจนทำให้ต้องดิ้นรนหำควำมรู้เพื่อจะได้มำซึ่ง ทรพั ยส์ นิ ดนิ แดนและคู่ครองทแ่ี สดงถงึ อำนำจบำรมี พระเอกแบบฉบบั ๒.กำรออกไปใช้ชีวิตเพื่อ วรรณคดไี ทย แสวงหำอัตลักษณโ์ ดยเฉพำะ เด็กที่เกิดมำในครอบครัวที่ ๑.มีจิตวิญญำณผจญภัย เพรำะกำร ไม่สมบูรณ์กำรแสวงหำอัต ออกไปใช้ชีวิตข้ำงนอกทำให้เติบโตได้ ลักษณ์ที่แท้จริงของตนเช่น ประสบกำรณ์และเหน็ โลกทแ่ี ทจ้ ริงเช่น พระรถเสนและพระสั่ง พระอภัยมณี ตัวละครฝำ่ ยปฏปิ ักษ์ ทศกณั ฐ์ สเุ ทษณ์ ขนุ ชำ้ ง รักลูก รักพวกพ้อง แต่ไม่ ไม่คำนึงถึงควำมรู้สึกของ รักเดียวใจเดียวถึงแม้ คำนึงถึงควำมผิดถูก พำ ผู้อื่น หมกมุ่นในตัณหำ ขนุ ช้ำงจะเป็นคนที่มฐี ำน พวกพ้องมำสู้รบในเรื่องไม่ รำคะเอำแต่ใจตนเอง เจ้ำ ร่ำำรวย แต่ขุนช้ำงกยัง็ เป็นเรื่องจนกระทั่งหมด อำรมณ์ ซื่อสัตย์และรักนำงวัน วงศ์วำร แต่ก็เป็นผู้ที่รู้จัก ทองเพียงคนเดียวและมี สำนกึ ผดิ นิสยั โหดรำ้ ย ท้ำวกะหมงั กหุ นงิ รำมสรู นำงอำ้ ย เป็นคนรักลูกยิ่งชีวิต มีนิสัยดุร้ำยและอหังกำร ไม่ชอบให้ใครได้ดีกว่ำ ยอมทำทุกอย่ำงเพื่อลูก เป็นศัตรู กับนำงเมขลำ ตน พูดจำว่ำร้ำยต่อผู้อื่น แม้ตนจะต้องตำยก็ยอม อำวุธคู่กำยคือขวำน มีนสิ ัยอจิ ฉำริษยำ แสดง เป็นคนตดั สินใจเด็ดขำด เพชร อำรมณ์เกรี้ยวกรำด เดด็ เดีย่ วกล้ำหำญในกำร ออกมำอย่ำงแจม่ แจง้ รบ

๒๘

พระเอกในขนบวรรณคดีไทย ๒๙ หมำยถึง ตัวละครชำยที่มักเป็น พระเอกนอกขนบวรรณคดไี ทย กษตั ริย์ นกั รบ หรอื เทพ ตอ้ งหนำ้ ตำดี มีควำม กล้ำหำญ มีควำมสำมำรถใน กำรต่อสู้ กำร หมำยถึง เจ้ำชำยที่รูปงำมมำก ๆ แล้วยัง ปกครองบ้ำนเมือง และที่สำคัญคือต้องมีเมีย ต้อง บอบบำง รูปร่ำงอรชรอ้อนแอ้น เอวบำง มำกเพื่อแสดง บำรมี หรือเจ้ำชู้ก็ได้ไม่ใช่เรื่อง แสดงถงึ ควำมเปน็ ผู้ดมี ีสกุล ที่สำคัญพระเอก ผดิ ฯลฯ ส่วนใหญ่จะไม่เก่งด้ำนกำรรบ กำรต่อสู้หรือ กำรทำสงครำม พระเอกนอกขนบ ในวรรณคดีไทย พระป่ินทอง พระอภัยมณี ทำไมถงึ เป็นพระเอกนอกขนบ ทำไมถึงเปน็ พระเอกนอกขนบ เนอ่ื งจำกพระปนิ่ ทองเปน็ผู้ที่มีควำมเจ้ำ เพรำะพระอภัยมณีของท่ำนสุนทรภู่ เล่ห์และไม่ได้มีควำมสำมำรถทำงด้ำนกำรสู้รบ เป็นพระเอกท่ีแหวกไปจำกขนบของพระเอก แต่กลับกลำยเป็น ควำมสำมำรถทำงด้ำนกำร ทั้งหลำยในยุคนั้น ด้วยว่ำพระเอกอื่น ๆ ใน ใชค้ วำมเจำ้เล่ห์นั้นเป็นเครื่องหลอกล่อ วรรณคดีส่วนใหญ่ ล้วนไปเรียนศิลปศำสตร์ วำงแผนเพอ่ื กำจดั แก้วหน้ำม้ำ คือ พระปิ่นทอง หรือพวกรัฐศำสตร์ไวป้ กครองบ้ำนเมือง ทั้งนั้น กับท้ำว ภูวดลทรงวำงแผนกำรกำจัดแก้วหน้ำ แต่ “พ่ออภัยฯ” ของเรำกลับไปเรียน “วิชำเป่ำ ม้ำ โดยให้แก้วหน้ำม้ำเดินทำงไปยกภูเขำ พระ ปี่” ดังนั้น “พระอภัยมณี” จึงถือได้ว่ำเป็น สุเมรุมำจำกป่ำเพื่อนำมำวำงไว้ใน เขตพระ “พระเอกนักดนตรี คนแรกของไทย” เป็น รำชวงั ด้วยทรงคำดว่ำแก้วหน้ำม้ำจะผจญภัย “พระเอกศิลปิน” ที่ท่ำนสุนทรภู่ปั้น ไว้ประดับ อันตรำยจน กระทั่งตำยกลำงป่ำหรือจะทำไม่ วงกำรวรรณคดไี ทยเป็นคนแรก และน่ำจะเปน็ สำเร็จ เพรำะจะไดถ้ ือ โอกำสยกเลิกกำรอภิเษก คนเดียวดว้ ย เพรำะวรรณคดีสมยั หลัง ๆ กย็ ังไม่ เวลำต่อมำปรำกฏเหตุกำรณ์ที่พลิกควำม ปรำกฏว่ำมีพระเอกศิลปินนักดนตรีคนใดอีก คำดหมำยคือ แก้วหน้ำม้ำเดินทำงไปกลำงป่ำก็ กลำ่ วได้ว่ำ จินตนำกำรและแนวคิดในกำรสร้ำง บังเอิญ พบกับฤๅษีตนหนึ่ง ฤๅษีเอ็นดูยอมรับ พระเอกของท่ำนล้ำหน้ำ ก้ำวไกลเกินยุคเมื่อ แก้วหน้ำม้ำเปน็ ศิษย์สอนวิชำควำมรู้ให้กับเธอ 200 กวำ่ ปที ่ผี ำ่ นมำ หลำยประกำร -ใหค้ ะแนนตวั เอง : ๙/๑๐ -ปัญหำอุปสรรค : กลัวนำเสนอแลว้ เกนิ เวลำ ตอ้ งรีบพดู รับบทเป็นนักแร็พ -ควำมรู้สึก : ตื่นเต้นดำ้ เสนองำนช้นิ แรกดใี จมำกอำจำรยใ์ ห้ ๕ คะแนน





๓๒ คำกลอนบทน้ีหมำยถงึ ใคร? คำกลอนบทน้ีหมำยถงึ ใคร? คล้ันพลบคำ่ ทำรกั นำงยักษร์ ำ้ ย ไม่คำดเคลอ่ื นเหมือนองคพ์ ระส่งเดช ประคองกำยกอดแอบแนบถนอมชืน่ แต่ดวงเนตรแดงดูดังสรุ ิฉำย แต่หนำ้ อำรมณ์นน้ั กรมกรอม ทรงกำลงั ดังสรุ ยิ ์ฉำยคชำพลำย แตค่ ดิ อำ่ นหวำนลอ้ มจะลอ่ ลวง มีเข้ียวคลำ้ ยชนนำนีมสี กั ดำ ตอบ พระอภยั มณี ตอบ สนิ สมทุ ร คำกลอนบทนหี้ มำยถึงใคร? คำกลอนบทนห้ี มำยถึงใคร? พระโอษฐเ์ อ่ียมเทยี มสลี น้ิ จ่จี ม้ิ ไมน่ ุ่งผำ้ คำกรองครองหนงั สอื เปน็ รักยม้ิ แยม้ หมำยท้ังซ้ำยขวำ ประหลำดเหลอื โลง่ โต้งโม่งโค่งขัน ขนงเนตรเกศกรกัลยำ หนำ้ เหยี นรำ่ งปำกมแี ตข่ ้ีฟัน ดังเลขำผุดผอ่ งละอองนวล กรนสนน่ั นอนรำ้ ยเหมือนปำ่ ยปีน ตอบ นำงสวุ รรณมำลี ตอบ ชเี ปลือย คำกลอนบทนี้หมำยถึงใคร? คำกลอนบทนี้หมำยถงึ ใคร? พวก ...... สำยสมดุ ผดุ ข้ึนสิน้ จำจะจำกพลำดๆกำจดั เจำ้ บำ้ งแลบลิ้นเหลือกตำถลำถลัน อยำ่ สรอ้ ยเศร้ำสำยสวำทไมข่ ำดสูญ เสียงโครมครำมตำมคล่ืนเป็นหมนื่ พัน อยจู่ งดศี รีสุดำอย่ำอำดรู ทะเลลั่นดงั จะลม่ ถล่มทรำย จงเพ่มิ พูนผำสกุ ทกุ เวลำ ตอบ ผพี ลำย ตอบ พระอภัยมณี รู้ไหมวำ่ พรำหมณท์ ัง้ สำม ใครชำนำญเรอ่ื งใด? คนหนึ่งชอื่ _(๑)_ปรชี ำชำย คนหนง่ึ น้ันมีนำมพรำหมณ์..(๓).. มีแยบคำยชำนำญในกำรกล เทย่ี วรำ่ เรยี นสงครำมตำมประสงค์ เอำฟำงหญำ้ มำปลกู สำเภำได้ ถอื ธนสู ้ศู ึกนึกทะนง แลว้ เล่นไปในจงั หวดั ไม่ขดั สน หมำยจะโปร่งชวี ำปัจจำมิตร คนหนึง่ มวี ิชำชอื่ ..(๒…. รอ้ งเรยี กฝนลมไดด้ งั ใจจง ตอบ ๑.โมรำ ๒.สำนนท์ ๓.วเิ ชียร์

๓๓ รำมเกยี รติใ์ นวิถีไทย (อดตี ) สำนวนและภำษำ ศิลปะแขนงตำ่ งๆ คตชิ นวิทยำ รำมเกยี รตใิ์ นวถิ ไี ทย (ปจั จุบนั ) รำมเกียรตก์ิ บั ควำมคดิ สร้ำงสรรคข์ องเยำวชน รำมำยณะในอินเดีย(ปจั จุบนั ) ของกิน ของใช้ ของฝำกเอกลกั ษณ์ไทย ขบวนลอ้ กำรเมอื งในงำนฟตุ บอล ประเพณจี ฬุ ำ-ธรรมศำสตร์

รำมเกียรต์ิในวถิ ไี ทย (ปจั จุบนั ) ๓๔ รำมเกียรตก์ิ บั หนว่ ยงำนรำชกำรไทย รำมเกยี รติ์กับสถำบนั กษตั รยิ ไ์ ทย รำมเกยี รตกิ์ ับส่ือสมยั ใหม่ เอกลกั ษณ์ของประเทศไทย ทำไมรำมเกียรติย์ ังเป็นมรดกวรรณคดที ่ียังมชี วี ติ ? มรดกวรรณคดตี วั เรอื่ ง ตัวบท รปู แบบศลิ ปะทถี่ ำ่ ยทอดวรรณคดเี รอ่ื งน้ี มำแต่โบรำณ ยงั คงได้รบั กำรสบื ทอด และตกทอดมำจนถงึ ปจั จุบัน ยงั คงอยู่ ในกำรรบั ร้ขู องคนยุคน้ี มรดกวรรณคดที ม่ี ชี วี ติ วรรณคดเี รื่องนี้ไม่ได้ตกทอด ดำรงอยอู่ ยำ่ งน่ิง ๆ เฉย ๆ แบบไร้ชีวติ แต่ว่ำตกทอดมำแล้วเป็นท่สี นใจของผคู้ น จนมกี ำรนำมำ ดดั แปลง พลกิ แพลง ตคี วำม นำเสนอในลกั ษณะตำ่ ง ๆ อยำ่ งหลำกหลำย สะทอ้ นใหเ้ หน็ มุมมอง อำรมณ์ควำมร้สู ึกตำ่ ง ๆ ของผู้คนท่มี ตี ่อวรรณคดี เรือ่ งน้ี ปรำกฏกำรณ์ดงั กล่ำวทีเ่ รอื่ งรำมเกียรต์มิ กี ำรเปล่ียนแปลง มกี ำรถูก กลำ่ วถงึ มกี ำรนำไปปรบั ใช้ จงึ มำให้เรอื่ งน้ีเปน็ วรรณคดที ีย่ ังมีชวี ติ

๓๕ เกร็ดควำมรู้ กลุ่มที่ ๔ นำงในวรรณคดผี ูท้ ม่ี ีชะตำอำภพั

๓๖ -ให้คะแนนตัวเอง : ๙/๑๐ วันน้เี นือ้ หำสนุก -ปญั หำอปุ สรรค : - -ควำมรสู้ กึ : สนกุ ไมเ่ บ่อื เรมิ่ เขำ้ ใจเนอ้ื หำ



๓๘ ประวตั คิ วำมเป็นมำ \"ขุนชำ้ งขนุ แผน” เป็นวรรณคดีท่ีมีเค้ำจำกเรื่องจริงในสมัยอยุธยำ ได้ พฒั นำจำกนทิ ำนประกอบกลอนเป็นตอน ๆ มำเป็นนิทำนคำกลอนที่ใช้ขับ ร้อง และพัฒนำจำกนิ ทำนพื้นบ้ำนมำเป็นวรรณคดีรำชส ำนักตั้งแต่สมัย รัชกำลที่ ๒ แหง่ กรุงรัตนโกสินทร์ มกี ำรพมิ พ์เผยแพร่ครัง้ แรกในสมัยรัชกำล ท่ี ๕ โดยโรงพมิ พห์ มอสมิท ต่อมำใน พ.ศ.๒๔๖๐ สมเด็จพระเจ้ำบรมวงศ์เธอ กรมพระยำดำรงรำชำนภุ ำพ ทรงชำระวรรณคดีเรื่องนี้ โดยมีกำรตัด เติม และ แต่งใหม่บำงส่วน และจัดพิมพ์รวม ๔๓ ตอน เรียกว่ำเป็นเสภำเรื่องขุนช้ำง ขุนแผน ฉบับหอพระสมุดวชิรญำณ ซงึ่ เป็นฉบบั แบบแผนมำจนทกุ วันน้ี เปน็ เรอ่ื งที่เกีย่ วกับควำมรัก ของ ๑ หญิง ๒ ชำย คือ ขุนช้ำง ขุนแผน และนำงวันทอง ซึ่งทัง้ สำมเปน็ เพื่อนกันต้งั แต่วัยเด็ก ขุนช้ำงและขุนแผนลง รักนำงวันทองแต่คนที่ได้ครองคู่กับนำงคือขุนแผน ขุนช้ำงจึงวำงอุบำย เพอ่ื ให้ตนไดน้ ำงวนั ทองมำ จึงทำใหเ้ กดิ เปน็ เรอ่ื งรำวรักสำมเศร้ำและเรื่องรำว ต่ำง ๆ ขึ้นมำ จติ รกรรมฝำผนัง จิตรกรรมฝำผนัง ณ วัดป่ำเลไลยก์ อ. เมอื งสุพรรณบรุ ี จ.สุพรรณบุรี เปน็ ภำพวำดทเี่ ล่ำเรื่องรำวต่ำง ๆใน วรรณคดีเร่อื งขุนช้ำงขุนแผน ของกนิ แคบหมขู ุนชำ้ ง ผลติ ภัณฑ์ ของใช้ ลปิ ไทยร่ำสพี ิมพิลำลัย ศลิ ปะรว่ มสมยั ของฝำก พวงกญุ แจหนำ้ กำกนำงวันทอง 4 ประเภท กำรแต่งกำยเลียนแบบ กำรแตง่ กำย ต ั ว ล ะ ค ร ใ น ว ร ร ณ ค ดี เช่น มีกำรประกวดใน วันภำษำไทยแห่งชำติ ในหลำย ๆ โรงเรียน ควำมเชอื่ (เคร่อื งรำง) เคร่อื งรำงท่ใี หอ้ ทิ ธิคุณอำนำจ ทำงด้ำนเมตตำมหำนิยม เสนห่ ์ พระขุนเเผนและผ้ำยนั ต์ คนชน่ื ชมเปน็ ทร่ี กั ใครข่ องคน รอบข้ำงเจ้ำนำยผูใ้ หญใ่ ห้ควำม รกั ควำมเอ็นดู

๓๙ เครอ่ื งรำง ขุนช้ำงขุนแผน ยังเป็นเรื่องตัวอย่ำงแสดงวิถีชีวิตของ ลกู ผชู้ ำยไทยในอดตี ต้งั แตเ่ ด็กจนโต เรมิ่ ต้นตั้งแตก่ ำรศึกษำเล่ำเรียน กำรแสวงหำเครื่องรำงของขลังกำรแสวงหำของวิเศษเพื่อนำมำเป็น อำวุธคู่กำย จนเข้ำรับรำชกำรทำศึกสงครำมได้รับควำมดีควำมชอบ ตลอดจนถงึ ตอ้ งโทษจำคุก ชีวิตของขุนแผนจับใจคนไทยจนนำไป ต้งั เป็นชอื่ พระพทุ ธรปู รฐั ศำสตร์คือกำรเมืองกำรปกครอง ขุนช้ำงขุนแผนก็คือ เรอ่ื งกำรเมืองกำรปกครองของไทย ในหนังสือ “ขุนช้ำงขุนแผน ฉบับอ่ำนใหม่”ท่ำนอำจำรย์คึกฤทธิ์เปิดประเด็นว่ำ ลักษณะเด่น กำรเมอื งกำรปกครอง ของกำรเมืองกำรปกครองของไทยตั้งแต่โบรำณคือ “ควำม จงรกั ภักด”ี ซึ่งตัวละครตำ่ ง ๆ ในเร่ืองขุนช้ำงขุนแผนนี้ ทั้งที่เป็น คนดแี ละคนชั่ว แตท่ ำ้ ยที่สุดก็ตอ้ งรักษำควำมจงรกั ภักดีนั้นไว้เป็น สำคญั (ภำพยนตร์) ขุนแผนฟ้ำฟื้น ขุนชำ้ ง สอื่ สมัยใหม่ (ละคร) ละครเสภำเร่ืองขุนชำ้ งขนุ แผน ขุนแผน (เพลง) เพลงสองใจ (กำร์ตนู ) ขนุ ช้ำงถวำยฎีกำ หนว่ ยงำนรำชกำร จดั แสดงเรื่องรำวของวรรณกรรมสำคัญ ท่ีเกีย่ วกบั เมือ สุพรรณบรุ ี ได้แก่ เสภำเรอ่ื งขุนช้ำงขุนแผนทีไ่ ดร้ บั กำรยกยอ่ งจำก วรรคดีสโมสรให้เป็นเลิศประเภทกลอนเสภำห้องวรรณกรรมเมอื ง สุพรรณ สำนวนสภุ ำษิต นำงวนั ทองสองใจ หมำยถึง หญิงทม่ี จี ติ ใจโลเลมำกรกั ทีม่ ำ ของสำนวนมำจำกเรอ่ื งขุนชำ้ งขุนแผน เมือ่ คร้งั ท่ีพระพันวษำตรสั ให้ นำงวันทองเลอื กว่ำจะอยกู่ บั ขุนช้ำงหรอื ขนุ แผน แต่นำงกลับไมเ่ ลือก ทำใหพ้ ระพนั วษำพโิ รธ ว่ำนำงเป็นหญิงสองใจให้น ำไปประหำรชีวติ สรุป ทำไมวรรณคดีขนุ ช้ำงขุนแผน ยงั เปน็ วรรณคดมี ชี ีวติ จำกกำรศึกษำสรุปได้ว่ำ วรรณคดีเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพรำะในปัจจุบันมีกำรนำมำ พลกิ แพลงดดั แปลงนำเสนอเรื่องรำวไปในแนวทำงต่ำง ๆ เช่น จิตรกรรมฝำผนัง กำรตั้งชื่อของ กิน ของใช้ ของฝำก กำรแสดงละคร เพลง ภำพยนตร์ กำร์ตูนอนิเมชั่น และมีกำรเผยแพร่ผ่ำน สอื่ ออนไลนอ์ ีกทั้งมแี นวทำงต่ำง ๆ ท่หี ลำกหลำยสะท้อนให้เห็นมุมมองอำรมณ์ควำมรู้สึก ของผู้ ที่มีต่อวรรณคดี เรื่องขุนช้ำงขุนแผน ทำให้เรื่องขุนช้ำงขุนแผนมีกำรเปลี่ยนแปลงและถูก กลำ่ วถึงในปจั จุบนั จงึ ท ำใหเ้ ป็นวรรณคดีที่มชี วี ติ

๔๐ ประวตั คิ วำมเปน็ มำ พระอภยั มณี เป็นวรรณคดชี ิ้นเยย่ี มเรือ่ งหน่งึ ของไทย เป็นผลงำนชนิ้ เอกของพระสุนทรโวหำร หรือสนุ ทรภู่ กวเี อกแหง่ กรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ประพันธ์ขึ้นเป็นนิทำนคำกลอน ที่มีควำมยำวถึง 94 เล่ม สมุดไทย ระยะเวลำในกำรประพันธ์ไม่มีกำรระบุไว้อย่ำงแน่ชัด แต่คำดว่ำสุนทรภู่เริ่มประพันธ์รำวปี พ.ศ. 2364-2366 และแต่ง ๆ หยุด ๆ ไปตลอดเป็นระยะ สิ้นสุดกำรประพันธ์รำว พ.ศ. 2388 รวมเวลำ มำกกว่ำ 20 ปี พระอภัยมณีเป็นที่รู้จักอย่ำงกว้ำงขวำง เนื่องจำกเค้ำโครงเรื่องแหวกประเพณีของ วรรณคดีในยคุ เกำ่ มีจินตนำกำรล้ำยุคอยู่มำก และมีตัวละครจำกหลำกหลำยชนชำติ แสดงให้เห็นถึง วสิ ัยทัศนแ์ ละควำมเปดิ กว้ำงของผปู้ ระพนั ธเ์ ม่อื เปรยี บเทียบกับยุคเดยี วกนั ไดเ้ ป็นอยำ่ งดี เมื่อเข้ำสู่ยุคของกำรพิมพ์ พระอภัยมณี ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวงกว้ำงยิ่งขึ้นโดยโรงพิมพ์ของ หมอสมิท ในรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว ควำมนิยมของเรื่องมีมำกขนำดที่ หมอสมิทสำมำรถจำหน่ำยนิทำนคำกลอนเรื่องนี้ขำยดิบขำยดีจนมีเงินสร้ำงตึกได้ ในยุคต่อมำ มีกำร ดัดแปลงและถำ่ ยทอดวรรณกรรมช้ินนีอ้ อกไปในรูปแบบต่ำง ๆ มำกมำย ทั้งเรื่องเล่ำร้อยแก้ว กำร์ตูน รวมทงั้ ภำพยนตร์ และละคร บทกลอนหลำยช่วงในเรื่อง พระอภัยมณี ได้รับคัดเลือกให้บรรจุอยู่ใน แบบกำรเรียนกำรสอนของกระทรวงศึกษำธิกำร กลำยเป็นคติสอนใจที่ผู้คนทั่วไปจดจำกันได้ ด้วย เหตนุ จ้ี ึงทำใหพ้ ระอภัยมณียงั คงอยคู่ กู่ บั คนไทยมำจนถงึ ปัจจบุ ัน ภำพยนตร์กำรต์ ูน เรือ่ ง สุดสำคร ภำพยนตรเ์ รอ่ื ง เพลง ไม่รกั อยำ่ หลอก ละครโทรทัศน์ เรือง บรุ ำปรัมปรำ สุดสำคร เพลง เงือกทอง เพลง ผเี สอื้ สมทุ ร ยำหม่องตรำ พระอภยั มณีใน พระอภยั มณี ศลิ ป์สโมสร พระอภยั มณี ละครภำพยนตร์ ในบทเพลง The Infinity ชุดครอบครวั งำนออกแบบ พระอภยั มณกี บั พระอภัยมณี สรำ้ งสรรค์ รำยกำรโทรทศั น์ เกง่ จรงิ ชิงค่ำเทอม หนิ ทรำย ประติมำกรรม และแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว เงอื กทอง ชำยหำดปกึ เตยี น “แหลมสมิหลำ” รปู ปั่นนำงผีเสื้อสมทุ ร รูปปนั้ พระอภัยมณี นำงเงือก และนำงผเี สือ้ สมุทร หำดทรำยแกว้

๔๑ The Mask วรรณคดีไทย มที งั้ หมด ๒๔ หนำ้ กำก The Mask ววรณคดีไทย เป็นจำยกำรโทจทัศน์ปจะเดทเจียลลิตี้มิวสิกโชว์ฤดูกำลบิเศษของ The Mask Singer หน้ำกำกนักร้อง ของประเทศไทย โดยรูปแบบกำรแข่งขันของฤดูกำลนี้ยังคงมี รูปแบบ กำรแขง่ ขนั เหมอื นกับ The Mask Line Thai ซ่ึงจะมีกำรผสมผสำนอัตลักษณ์ควำมเป็นไทย เข้ำไป ในรำยกำร แต่สิ่งที่แตกต่ำงคือจะมีกำรนำวรรณคไทยเข้ำมำผสมผสำนในรำยกำรด้วย โดยเฉพำะ หน้ำกำกช่ังได้แรงบนั ดำลใจมำจำกตวั ละครในววรณคดไี ทยหลำยๆเร่ืองในววรณคดีไทย หนำ้ กำกมัจฉำนุ หน้ำกำกชำละวัน หนำ้ กำกมำ้ นลิ มังกร มัจฉำนุเป็นตัวละครใน ชำละวัน เป็นจระเข้ อำศัย ม ้ ำ น ิ ล ม ั ง ก ร เ ป ็ น ส ั ต ว์ บทละครเรื่องรำมเกียรติ์มัจฉำนุ อยู่ในถ้ำทองใต้บำดำล ในถ้ำำ พำหนะของสุดสำคร ที่มีควำม เป็นลิง ผิวกำยสีขำวมีหำงเป็น ทอง ชำละวันจะกลำยร่ำงเป็นคน ซ่ือสัตย์ภักดีต่อเจ้ำนำย เป็นสัตว์ ปลำ ด้วยเหตุที่เป็นลูกของหนุ ได้ ชำละวันตอนกลำยร่ำงเป็นคน ดุร้ำย สัตว์ประหลำดนี้เป็น มำนซึ่งเป็นลิง กับนำงสุพรรณ จะเป็นหนุ่มรูปงำม โดยชำละวัน ลูกผสม เกิดจำกกำรผสมพันธ์ุ มัจฉำซึ่งมีร่ำงกำยส่วนบนเป็น เองมีเมียสำวสวยเป็นนำง จระเข้ ระหว่ำงม้ำ (แม่) กับมังกร (พ่อ) สตรี ส่วนล่ำงเป็นปลำ นำง ๒ ตัวคือ วิมำลำ และเลื่อม ลูกทอ่ี อกมำ เปน็ คร่งึ มำ้ ครึ่งมังกร สุพรรณมัจฉำได้สำรอกลูก ลำยวรรณ ชำละวัน เป็นหลำนชำย ส่วนหัวเป็นมังกรเหมือนพ่อ ออกมำฝำกไว้กับรุกขเทวดำ ของ ท้ำวรำไพ ผู้เป็นจระเข้เจ้ำท่ี ส่วนตัวจนถึงขำเป็นม้ำเหมือน ไมยรำพไปพบเห็น จึงรับเลี้ยง อยู่ในศีลธรรม แม่ มีหำงนำค มี เขี้ยวเป็นเพชร เป็นบุตรบุญธรรม ลำตัวเป็นเกล็ดสีนิล มีลิ้นเป็น ปำน หน้ำกำกเวตำล หนำ้ กำกโสนนอ้ ยเรือนงำม หนำ้ กำกเมขลำ เวตำลมีลักษณะ ผมบน โสนนอ้ ยเกิดมำพรอ้ มกบั เมขลำ หรือ มณีเมขลำ หวั ยำวแลดก ขนที่ตัวยำวและยืน ต ำนำนแห่งเทพธิดำประจวบ เหยียด หัวกลม หน้ำรูปไข่ ตำ มีเรือนไม้หลงั งำมติดตำมมำด้วย มหำสมุทร นำง...ผู้ถือดวงแก้วล่อ กลมและถลน จมูกยำวเป็นขอ และมยี ำสำหรับ ชุบชีวิตคนใหฟ้ ืน้ ให้รำมสูร ขว้ำงขวำน ท ำให้เกิด เหมือนปำกเหยี่ยว ปำกอ้ำ แก้ม โสนนอ้ ยชุบชีวติ นำงกลุ ำจำกงพู ิษ ฟำ้ ร้องครนื ๆ ฟ้ำผ่ำเปรี้ยง ๆ โยน ตอบ คำงแลขำตะไกรกว้ำง ฟัน จนติดตำมรบั ใช้ ตอ่ มำ นำงชว่ ย แก้วล่อไปล่อมำวิบวับ ๆ จนเกิด เป็นซ่อม แขนแลมือสั้น ขำสั้น ชบุ ชีวิตเจ้ำชำยวิจติ รจินดำจน ฟำ้ แลบแปลบ๊ ๆ มีบทบำทปรำกฏ ท้องพลุ้ย เล็บคม ปีกมีแรงมำก แตง่ งำนมพี ระโอรส แต่นำงกลุ ำ ใน \"พระมหำชนก\" \"พระสมุทร เ ว ตำ ล เ ป ็ น ผ ู ้ ท ี ่ ช ่ ำง พ ู ดแ ล ะมี กล่ันแกล้ง แยง่ พระสวำมสี ดุ ทำ้ ย โฆษคำฉันท์\" และบทบำทตอน ค ว ำ ม ส ำ ม ำ ร ถ ส ู ง ย ิ ่ ง ใ น ก ำ ร ใ ช้ กรรมตำมสนองนำงกลุ ำ นำงโสน หนึง่ ใน \"รำมเกยี รติ์\" โวหำรเพื่อ เสียดสีเยำะหยัน และ นอ้ ยเจ้ำชำยวิจติ รจินดำ พระโอรส ยั่วยุอำรมณผ์ ู้ฟัง ไพรวัน จึงได้อยู่ด้วยกนั อยำ่ งมี ควำมสุข

๔๒ รำยชือ่ หนำ้ กำกท้ังหมดทงั้ ๒๔ หนำ้ กำก เรอ่ื งรำมเกยี รต์ิ เร่ืองขนุ ช้ำงขนุ แผน เรื่องพระอภัยมณี หนำ้ กำกนกสดำยุ หน้ำกำกนำงวันทอง หนำ้ กำกเกำะแกว้ พสิ ดำร หนำ้ กำกมจั ฉำนุ หนำ้ กำกมำ้ สหี มอก หน้ำกำกยักษ์ไมยรำพ หน้ำกำกมำ้ นลิ มังกร หนำ้ กำกขนชำ้ ง หนำ้ กำกนำงพนั ธุรัตน์ เรอ่ื งสงั ข์ทอง หน้ำกำกหอยสงั ข์ เร่อื งรำมเกยี รต์ิ เร่ืองไกรทอง หน้ำกำกนำงรจนำ หน้ำกำกบว่ งนำคบำศ หนำ้ กำกชำละวนั หนำ้ กำกนำงเมขลำ หน้ำกำกไกรทอง เร่อื งโสนน้อยเรอื นงำม เรอื่ งมัทนะพำธำ เรอื่ งพิกุลทอง หน้ำกำกโสนน้อย หน้ำกำกนำงมัทนำ หน้ำกำกนำงพกิ ุลทอง เร่อื งขวำนฟ้ำหน้ำดำ เรอ่ื งหลวชิ ยั ศรี เรื่องนำงสิบสอง หน้ำกำกขวำนฟำ้ หนำ้ ดำ หนำ้ กำกหลวชิ ยั ศรี หน้ำกำกนำงสิบสอง เรอื่ งลิลติ พระลอ เรือ่ งเลำ่ ต่ำงๆ หน้ำกำกไก่ฟ้ำพญำลอ หนำ้ กำกรำหอู มจันทร์

๔๓ ไตรภมู พิ ระร่วงมีมำตัง้ แต่สมยั สุโขทยั ในปำ่ หิมพำนต์น้เี ต็มไปด้วยสัตวน์ ำนำชนดิ ซง่ึ ล้วนแปลกประหลำดต่ำงจำกสตั ว์ทีม่ นุษย์ทัว่ ไปรู้จกั ปำ่ หิมพำนต์ เป็นปำ่ ในวรรณคดแี ละควำมเช่อื แบง่ ออกเปน็ ในเรอื่ งไตรภูมิตำมคดศิ ำสนำพุทธและฮินดู ๑๕ ประเภท สตั วป์ ทวบิ ำท (มี๓ขำ) สตั ว์จตุบำท (ม๔ี ขำ) จำปวกปลำ ป่ำหมิ พำนต์ต้งั อยูบ่ นเชิงเขำพระสเุ มรุ จำแนกออกเป็น ๓ หมู่ วรรณคดไี ทยไม่ใชเ่ รอ่ื งไกลตวั ตอนสัตวใ์ นป่ำหิมพำนต์ เปน็ สตั ว์หลำยอย่ำงผสมกัน สตั วป์ ำ่ หิมพำนตป์ จั จบุ นั แล้วตง้ั ชือ่ ข้ึนมำใหม่ เปน็ สัตว์หลำยอย่ำงผสมกนั แล้วต้ังชอื่ ขึ้นใหม่ มกี ำรนำมำสร้ำงสรรค์ผลงำนใหม่ ไกรสรจำแลง คชสหี ์ ศลิ ปะแขนงตำ่ งๆ ภำพยนต์ หนังสอื กำรต์ ูน มหี วั เปน็ มังกร เป็นสงิ หผ์ สม รำ่ งเป็นรำชสีห์ มีช่วงหัวเปน็ ช้ำง - จติ กรรม - ประติมำกรรม ไกรสรคำวี ผสมผสำนระหวำ่ งสิโตและวัว จติ กรบำงท่ำนก็วำดใหม้ หี ำงเหมอื นม้ำ

๔๔ ชุดประจำชำติมีทั้งหมด 15 ชุด ๕ ชุดประจำชำติกับวรรณคดไี ทย -ใหค้ ะแนนตวั เอง : ๙/๑๐ -ปญั หำอุปสรรค : ในกลมุ่ นำเสนองำนเพอ่ื นไม่ ค่อยคยุ กันเลย -ควำมรู้สกึ : เสนองำนทีไรตนื่ เต้นไมห่ ำยสักที แต่ละกล่มุ นำเสนอดีมำก เก่งสุดๆ



๔๖ ๑.บทบำทของวรรณคดีไทย วรรณคดีมบี ทบำทต่ำง ๆ กนั ตำมแต่ผูแ้ ตง่ จะกำหนดใหเ้ ป็นไป ๑. เปน็ เครือ่ งบนั เทงิ ใจ ๕. วรรณคดีเปน็ สว่ น ๒. ใช้ประกอบกำร หนึง่ ของพธิ ีต่ำง ๆ แสดง ๔. วรรณคดมี ี ๓. วรรณคดมี ี ไว้ส่งสำร ไว้ส่ังสอน ๑.๑ วรรณคดเี ปน็ เครอื่ งบนั เทงิ ใจ สรวลเสียงขับอำ่ นอ้ำง ใดปำน ร.๖ ทรงพระรำช ฟงั เสนำะใดปูน เปรียบได้ นพิ นธ์เรื่องนี้ขึ้นเพื่อ เกลำกลอนกล่ำวกลกำร กลกลอ่ ม ใจนำ พ ร ะ ร ำ ช ท ำ น แ ด่ ถวำยบำเรำท้ำวไท้ ธริ ำชผมู้ บี ญุ สมเด็จพระนำงเจ้ำ อินทรศักดิศจีพระ (ลลิ ิตพระลอ) บรมรำชินี ผู้ทรง ประสงค์จะใคร่ทรำบ เรื่องอวตำรต่ำง ๆ ของพระนำรำยณ์โดย พิสดำร \"จึงไดเ้ อำกระดำษมำเข่ยี ๆ เร่อื งทไ่ี ม่เปน็ แก่นสำร คมุ เปน็ เรื่องพอให้เพลินใจ“ (เงำะปำ่ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook