ความดีสากล

^ามmiก isQ; '' ^1 V คนขีโรค สุขภาพไม่ดีเกดจากความสกปรกทำใหเสียทรัพย์ ไซ้เท่าไร หาเท่าไรไม่พอไซ้ ยงสกปรกมากยั๋งไซ้ปัจจัย ๔ มาก เงินเดือนเท่าไหร่ ไม่พอกลายเป็นหาทั้งซาดื หิวปาก หิวฟ้อง หิวค่าไซ้จ่ายอย่างอื่นอีกสารพัด กลายเป็นปัญหาของครอบครัว ปัญหาของที่ทำงาน เพราะดูแลตัวเอง ไม่เป็น มองทุกซ้จากสรีระไม่เป็น กลายเป็นผู้ไม่รู้จักพอกลายเป็นคนเรั๋ม เอียดเบียนซาวฟ้าน เงินไนกระเป๋ามีจำกัด แต่ยังสูบบุหรี่ทุกวันถือเป็นการเผาสม'นติ ตนเอง สมบ้ตใหม่ยังไม่ได้มา กลับมาทั้งเผาสมบ้ตที่อยู่ไนกระเป๋าทุกวัน เหลาที่กนเซ้าไปก็กรอกทั้งลงปากทุกวัน ทั้งเสียทรัพย์ ขี่โรค สกปรก ไม่รู้ จักพอ แมเป็นเรี่องส่วนตัวของแต่ละคน แต่มนุษย์อยู่คนเดียวไม่ได้ ด้องอยู่ร่วมกันกับคนอื่น เพราะฉะทั้น กลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่คลุ้งไปหมด กลายเป็นคนไม่สำรวมกาย ไม่สำรวมวาจาไป • ควันบุหรี่ ทำ ความเดือดร้อนรำคาญไห้ผู้อยู่รอบตัว •กลิ่นเหล้า ทำ ความเดือดร้อนไห้คนในครอบครัว ความสำรวมวาจาเสียไปแล้วเมื่อเหล้าเอียร้เซ้าปาก ลิ่ป๋ที่ตามมา ดือ ความไม่เคารพสิทธิและหน้าที่ ของกันและกัน ย่อมเกดขี่'น • พ่อแม่ไม่เคารพสิทธิของลูก •ลูกไม่เคารพสิทธิของพ่อแม่ •พ่อแม่ไม่เคารพหน้าที่ของตัวเอง •ลูกไม่เคารพหน้าที่ของตัวเอง พ่อแม่ลูกเรี่มอยู่ร่วมกันไม่ได้ •สามีภรรยาไม่เคารพสิทธิและหน้าที่ ของกันและกัน ครอบครัว เรี่มแตกแยกบวกกับความสกปรกโสโครกที่มีอยู่ในตัว คนจำนวน มากตองแยกกัน ตองหย่าร้างกัน www.kalyanamitra.org

^ ^ ^ ^ สี เริ่มต้นจากอะไร เริ่มต้นจากความสกปรก ความไม่รู้จกพอ กลาย เป็นคนปากเสีย เป็นมนุษย์ไม่เกรงใจใคร ปิญหาทั้งหมดนี้ ออกมาจากตัว'ยองแต่ละคน พอมาอยู่รวมกัน เอาปิญหาของแต่ละคนมารวมกัน นับตั้งแต่ • เป็นคนฃี้โรค •เป็นคนสกปรก • เป็นคนหาเ■ท่าไรไม่พอใช้ •เป็นคนดีแต่พูด • เป็นคนไม่เคารพสิทธิและหน้าที่ผู้อื่น เป็นการทำลายทุกอย่างหมด ใครมาทำลาย อย่าเพิ่งไปโทษคนอื่น ตื่นเช้าขี้นมามัวแต่มองออกไป ช้างนอกไม่ได้มองเช้าหาตัว สิ่งเหล่านี้เลยไม่ค่อยได้คิด เพราะมองตัวเอง ไม่เป็น บางคนเลยประกอบอาชีพทุจริตหรือมีการทำงานไม่เต็มแรง อาชีพดี แต่ทำงานไม่เต็มแรงเท่ากับโกงเขากิน หรือลูกจ้างทำงานหนักขนาดนั้น แต่ไห้ค่าแรงไม่เหมาะสมเท่ากับโกงลูกน้อง แม้ว่าจะไม่มีเคริ่องชั่งดวงวัด ก็ต้องเอาไจมาวัดกัน ถ้าเป็นไจขี้โรค ไจที่ไม่รู้จักพอ ตัวเองก็สกปรก ย่อมวัดไม่ตรงกัน แม่นอน ปืญหาจะเกิดคู่กับโลกต่อไป เดินขบวนประท้วงไห้ดายแถ้ไขไม่ได้ ถ้าจะแก้ไขไห้ไต้ทุกคนต้องย้อนมามองตัวเอง แก้วแก้ไขจากทุกข์สรืระ ตัวเองเป็นพื้นฐานก่อน ไม่อย่างนั้นแก้ไขยาก ถ้ายังกินเหก้า สูบบุหริ่ ยังปากเสียอยู่ จะเปลยนรัฐบาลกี่คณะคง'ช่วยไม่ได้ พระสัมมาส้มพุทธเจ้าทรงเตือนไห้มองตัวเองไห้เป็น มองแบบมีสตื ตั้งนั้น ดังนั้น หนั้นทำสมาธิไห้มาก การกระทบกระทั้งจะลดลง แต่ถ้าไม่มอง ตัวเอง กิเลสจะก้าเรืบขี้น อคตืคิอความลำเอยงจะเกิด ไครเป็นพ่อแม่ต้อง www.kalyanamitra.org

ม^ๆกล ๒, '^ ■V ระวัง ลูกจะหาว่าเราลำเอียง เรารักใม่เท่ากัน ผู้ปังกับบัญชา ลูกน้องจะว่า เจ้านายลำเอียง วันใดวันหนึ่งลูกน้องเติบโตขี้นมาเป็นหัวหน้า ต้องเจอข้อหา เดียวกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ใต้ เพราะใจใสไม่เท่ากันจึงมองใดใม่เท่ากัน อคติ คอความลำเอียง จะเกดความเห็นผดต่าง ๆ การไม่เจรัญสมาธิ ภาวนาจะทำให้ทุกข์ทั้ง ๔ กำ เรบ ในที่สุดจะฟ้งซ่าน จะชอบทำลาย และจะ ต้องเวียนว่ายตายเกิดติดอยู่ในคุก ยังจะต้องเจอกันอีกไม่รู้กี่ชาติ กังนั้น ต้องรีบดูว่าความสกปรกที่ม่อยไนโลกนั้ มีแหล่งผลิตขยะ แหล่งผลิตความสกปรกอยู่ที่ไหน คำ ตอบอยู่ที่กัวเอง ตอนเช้าเฝือผ้ายังผี กลิ่นหอมอยู่เลย พอตกเย็นลองดมดู นั้นแหละคือหลักฐานมัดตัวว่า ใ]ญหา ทั้งหมดมันออกมาจากตัวเราแต่ละคน เราจึงต้องผ้กฝนอบรมตนเองให้ผี ผีลัยดีๆ เพื่อควบคุมปัญหาจากตัวเราและพัฒนาช้วีตให้ดียงขี้นนั้นเอง พ i www.kalyanamitra.org

'Ml- ภาค ๕ ความดีสากล ■-i^ « www.kalyanamitra.org

มดี«(ๆก^# y m &V' \"Ia- i www.kalyanamitra.org

ะ; ะ'\" - ■' ^ ^ คู^ล ความดีสากล ความดีสากล ๕. คอ ข้อปฏิบ้ติทางกายวาจาใจ ที่ทำ ให้ความทุกข้ ลดลงหรือหมดไป เป็นข้อปฏิบ้ติขั้นพื้นฐานของมนุษยทุกเพศ วัย เชี้อซาต ศาสนาและลัทธิความเชื่อ เพี่อให้ใจผ่องใส สามารถเห็นประโยชน์สุขซองตน และผู้อื่นได้ โดยการติกปฏปติจนเป็นน์ลัยเพี่อพัฒนาคุณภาพซวฅซอง ตนเอง ประกอบด้วย ๑. มีความรับผิดชอบต่อความสะอาด ๒. มีความรับผิดชอบต่อความมีระเบียบ ๓.มีความรับผิดชอบต่อความสุภาพอ่อนน์อม ๔. มี ความรับผิดชอบต่อการตรงต่อเวลา ๕. มี ความรับผิดชอบต่อการมีสมาธิจฅตั้งมน คุณลักษณะความดีสากล ความดีสากล เป็นความดีเบื้องด้น ซึ่งทุกคนสามารถปฏิบ้ติได้ เมื่อ ปฏบ้ติตามแล้วไม่ทำให้ตนเองหรือผู้อื่นเดือดร้อน แต่ยังช่วยให้เกิด การพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย ความดีสากล มีคุณลักษณะไม่ขัดแย้งบนทอน ๕ คือ ๑.ไม่ขัคแย้งกับลัทธิ ศาสนา และดีลธรรมอันดีจองประเทศนั้น ๆ ๒.ไม่ขัดแย้งกับกฎหมายของประเทศนั้น า ๓.ไม่ขัดแย้งกับนโยบายของรัฐบาลประเทศนั้น ๆ ๔.ไม่ขัคแย้งกับสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ๕.ไม่บนทอนสุขภาพของประชาซนทกเพศ ทกวัย www.kalyanamitra.org

ฟ้ร่ร^^:,^- อันตรายจากสรีรVIกขํกาเริฆ ใ!Tพลังงานมาท WCTOO ลัานเ!เอลัคาย/นาที ไม่มสมาร หนาว-ร้อน กาย หิวกระหาย ไม่ร้กษาเวลา สกปรกเปีนนิจ ปวคอี-ฉ ไม่รเภาพ I ^ใกขจาก เสือผ้า บ้าน ใ สร๊ระ ยา อาหาร กมอิริยามค ๔ สกปรกเปีนนิจ ไม่ได ความดิด สรางสรรค'ไม่เกิด จัดระเบียบ ของใบ้ไม่ได ฑจ9$^ www.kalyanamitra.org

ความดสากล เป็นเรื่องที่เกดขึ้นในตัวของเรา ประกอบด้วย ๑. ความสะอาด มนุษย์คือแหล่งผลิตความสกปรกของโลก แม่ขยะพ่อขยะ เคลื่อนที่ แม่ป่าช้าเคลื่อนที่ แม่ศพเคลื่อนที่ แม่ขึ้คุกพ่อขึ้คุกทั้งหลาย นี่คือ ตัวของเรา เพราะฉะนั้น ต้นเหตุของเรื่องร้าย ๆ ของโลกมนุษย์ เรื่มตรง ความสกปรก ถ้าใครสกปรกหรือสะอาดไม่พอ จะเกดอะไรขึ้น บ้านของ คนๆ นั้นจะจัดระเบียบอะไรไม่ได้เพราะมันสกปรก • เสื้อผ้าไม่ได้เก็บไม่ได้ซักแล้วจะไปจัดระเบียบกันอย่างไร ได้แต่ กองอย่างนั้น จะเอาไปพับ เอาใปรืด เอาไปเก็บเช้าด้ก็ไม่ได้ •ถ้วยจานช้อนชามกนแล้วยังไม่ล้าง ไม่ได้เช็ด ไม่ได้ควํ่า โตะเถ้าอี้ ไม่เช็ด ไม่ได้ปิด ไม่ได้ถูให้ดใช้แล้วไม่ได้เก็บ พี้นรกสกปรก จัด ระเบียบไม่ได้ •รองเห้าเป็อนแล้วไม่ได้ล้าง ไม่ได้ซัด ไม่ได้เช็ด ไม่ได้จัดระเบียบ •ช้าวของส่วนตัวจัดระเบียบไม่ได้ ไม่ด้องไปคืดจะไปจัดระเบียบ การจราจรได้ กดให้แตรระเบีดก็ทำได้ยาก •สังคมจัดระเบียบไม่ได้ ลื่งที่ตามมาคือ คนในสังคมจัดระเบียบ ความคืดไม่ได้ www.kalyanamitra.org

มฬีสาก่ล ๘ ดังนั้น ที่ทำ งานของใครสกปรกหรือสะอาดไม่พอ จะให้คนใน X ะ#' สำ นักงานดเป็นไปใม่ได้ ทึ่ทำ งานมันแย่แล้วความคดดีๆ จะเกิดได้อย่างไร การจดระเบยบความคิดย่อมเกิดฃึ๋นไม่ได้เช่นกัน ทำ ได้อย่างเดียวคิอรอ คำ สั่งตลอดชาติ แมัคำสั่งให้มาก็ยังจับด้นซนปลายไม่ได้ ไม่สามารถทำ ตามคำสั่งได้อีกด่างหาก ๒. ความม่ระเบยบ วิธีจัดระเบียบความคิด โตะ เก้าอี้ซ้อน ชาม ควรจะเรียงจากใหญ่ ไปหาเล้ก หรีอเรียงจากเล็กไปหาใหญ่ หรีอสถานที่ดับแคบแต่สูงอาจต้อง เรียงของที่ด้องใซ้ก่อน ไซ้หลัง ใซ้บ่อย ที่เขาเรียกว่า \"First in, First out\" วางบนล่างใกล้ไกลด่างกัน ควรจะจัดระเบียบอย่างไร คิดให้มันหายรก จะคิดงานออกตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้ ทุกสถานที่ทำงานไนโลกจํงด้อง เซ้มงวดในการจัดระเบียบข้าวของในสำนักงานเป็นชีวิตจดไจ ๓. ความสุภาพอ่อนน้อม ความสุภาพอ่อนน้อม เรมตั้งแต่ อิริยาบถ คือ การนั้ง นอน ยืน เดีน ท่านั้งไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยหรือจัดให้เป็นระเบียบไม่ได้ เขาเรืยกว่า นั้งไม่สุภาพ ใครที่โดนข้อหาว่าไม่สุภาพ แห้ที่จริงมีบีญหาและสาเหตุ ไล่มาเป็นลำดับดังนี้ •ทำ ไมจัดระเบียบท่าทางไม่ได้ เพราะจัดระเบียบสั่งของเครื่องไซ้ ไม่ได้ •ทำ ไมจัดระเบียบสั่งของเครื่องไซ้!ม่ได้ เพราะจัดระเบียบความคิด ไม่ได้ •ทำ ไมจัดระเบียบความติดไม่ได้ เพราะตั้งแต่หัวถึงเทายังสกปรก I จัดระเบียบดัวเองไมได้ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

•cs> ซ^ mh r-^' ^} 'พเ^- www.kalyanamitra.org

รุgp^ดี^^ลุ - การพูดเป็นการจัดระ!.บียบความคิดของตนเอง ให้เป็นคำพูดส่งต่อ ไปยังคนอื่น เพื่อให้เขาเข้าใจตรงตามความคิดของเรา จัดเป็นความยาก อีกขั้นหนึ่ง ถ้าเรายังจัดระเบียบท่าทางตัวเองไม่ใต้ ย่อมไม่สามารถ จัดระเบียบการพูด การเขียนที่พอเหมาะกับผู้อื่นใต้ ความสุภาพในการพูด จึงเริ่มจากการจัดระเบียบการใช้คำพูดที่พอเหมาะพอควร •คำ พูดแบบนี้ควรพูดกับลูก ใม่ใช่ใปพูดกับพ่อ • คำ พูดแบบนี้ควรพูดกับเพื่อน ไม่ใช่ใปพูดกับเจ้านาย • คำ พูดแบบนี้ควรพูดกับเพื่อน ย่อมไม่ไปพูดกับพระภิกษุ •นำ เสียงอย่างนี้ควรพูดกับสามีภรรยา ย่อมไมไปพูดกับคนอื่น ถ้าอยากจะไต้ลูกฉลาด ต้องเริ่มต้นให้ท่าความสะอาดตั้งแต่ หัวถึงเทาให้เป็น ข้าวของเคริ่องใช้ต้องสะอาดจะเริ่มคิดเป็น แค่จะเช็ดพน ให้สะอาดยังต้องใช้ความคิด จะล้างมีอให้เกลี้ยงยังต้องคิด ยิ่งเคร่งครัด ในเริ่องความสะอาดมากเท่าใด คือการแกให้ลูกคิดเป็น ต้องคิดแยกแยะ ว่าสงของประเภทนี้ควรจะเช็ดแห้งหรอเช็ดเปียก พิ้นตรงไหนควรจะกวาด พื่นตรงไหนควรจะใช้เคริ่องดูดผู้น พอลงมีอท่าความสะอาด สมองจะถูก บังคับให้เริ่มคิด แต่ถ้าปล่อยให้สกปรก สมองไม่ต้องคิดอะไร นานเข้าๆ จึง \"คิดไม่เป็น จัดระเบียบความคิคใมไต้'* ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วความคิด ของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งส่าคัญที่สุด \"อันความคิดวทยาเหมีอนอาวุธ ประเสริฐสุดช่อนใส่เสียในฝึก สงวนคมสมนึกใครฮกฮัก จึงค่อยซักเช็อดฟันให้บรรลัย\" พระสุนทรโวหาร (ภู่) \"เพลงยาวถวายโอวาท\" www.kalyanamitra.org

ม^าก iaig- อย่าล้อเล่นกับการรักษาความสะอาด อย่าล้อเล่นกับการปล่อย ให้สกปรก เพราะล้าจัดระเบียบข้าวของเครื่องใชใม่เป็น จะจัดระเบียบ ความคิดได้อย่างไร ล้ายังจัดระเบียบความคิดไม่เป็น จะจัดระเบียบการพูด การเขียนได้อย่างไร ทุกประเทศในโลก ภาษามี ๓ ประเภท คิอ (๑)ภาษาใจ หรือ ภาษาความรูสิก ภาษาไจหรือภาษาความรูสีก คือ อารมณ์ ความรูสิกนักคิดที่ เกิดฃี้นอย่างเต็มที่เมื่อไปสัมผัสสิ่งต่างๆ มา แต่เต็มที่ของคนสะอาด ก็อย่างหนึ่ง เต็มที่ของคนสกปรกก็อกอย่างหนึ่ง ตวอย่างภาษาไจ เซ่น •ไปเที่ยวมาเห็นอะไรสวยงาม ก็เก็บมาฝึนหวานไปสามวันแปดจัน หรือไปเห็นอะไรมาน่ากสัว เก็บมาคิดหลอกหลอนตนเองจนผมร่วง •ไปทานอะไรมารสอร่อย คิดทีไร หน้าตาเคลิบเคลิ้มว่าอร่อยลน ขนาดนั้น ภาษาวัยรุ่นบอกว่า \"ฟิน\" หรือทานแล้วรสชาติ ไม่อร่อยลิ้น เกิดภาษาไจฃี้นมาอยากจะอ้วกออกมาทุกครั้ง •ไปได้ยินเสยงดนตรีไพเราะมา รู้สึกโลกนี้สดไสเสียงยังก้อง เสนาะหูไม่รู้ลืม หรือไปฟ้งเสียงด่าอย่างหยาบคายมาเกิดภาษาไจสุด ๆ รู้สึก เจ็บจี้ดที่ใจได้ขนาดนั้น www.kalyanamitra.org

~ คว^ดี ลุ :ym V ภาษาใจ๓ดจากการได้ยิน ได้เห็น ได้ดม ได้ดื่ม ได้กน ได้สัมผัส ได้จับด้องอะไรมา ก็จะเกิดภาษาที่เป็นความรู้สึกขี้น จะมากจะน้อยขี้นอยู่ กับใจแต่ละคน ใครสะอาด ใครสกปรกใม่เท่ากัน เหมือนคนใส่แว่น ถ้า แว่นสะอาด เช็ดไว้ดีแล้วจะเห็นช้ดเจนเท่านั้น ถ้าปล่อยให็ฝ่นจับเปีอนคราบ เหงื่อไคลมันไปหมด ความชัดเจนของสิ่งที่เราเห็นก็เสียไปอย่างนั้น (๒)ภาษาพูด ภาษาพูดต้องมีคำกัพท์ หากใครไจใสก็สามารถนำคำพูดที่พอเหมาะ พอควรมาใซ!ด้ ถ้าใครใจทุ่น คำ ศัพท์ที่พอเหมาะพอดีเริ่มหายาก เลยเริ่มจะ พูดไม่เข้าท่าเขาทางเกิดขี้น จากภาษาใจพอจะถ่ายทอดต้องเป็นภาษาพูด ภาษาพูดนี้จะพูดให้ใต้เท่ากับภาษาใจย่อมทำไม'ได้ มันถูกย่อส่วนลง ใครเป็นคนสะอาดมาก ภาษาใจก็จะได้กว้างขี้น ใครเป็นคนสกปรกมาก ภาษาใจ ก็จะถูกย่อส่วนลงมา คนโบราณท่านยงให้ความสำศัญกับคำพูด ดังที่พระสุนทรโวหาร(ภู่) กว้เอกของโลก แต่งกลอนเป็นสุภาษตสอนหญงใว้ว่า \"จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู ไม่ควรพูดอี้ออีงฃี้นมีงกู คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ\" \"เป็นมนุษย์สุดนิยมที่ลมปาก จะไต้ยากโหยหิวเพราะ!iวหา แม้นพูดดีมีคนเขาฌตตา จะพูดจาจงพเคราะห้ไห้เหมาะความ\" สุภาษิตสอนหญิง www.kalyanamitra.org

ก^^ - :%! \\ (๓)ภาษาเขยน ภาษาเขียนติดปัญหาไวยากรณ์ ฟ้งเขาพูดแล้วเหมือนเรื่องเพิ่งเกิด ที่จริงเรื่องเกิดเมื่อร้อยปีที่แล้วเพราะเขียนผิดไวยากรณ์หรือฟ้งเขาพูด นกว่าทำเสร็จแล้ว ที่จรืงกำลังซวนให้ไปทำปีหน้า ผิดไวยากรณ์ ยิ่งสกปรก เท่าไรก็ยิ่งผิดมากเท่านั้น ยิ่งสะอาดเท่าไรมันก็ขัดเจนเท่านั้น ตกลง ภาษา ของมนุษย์ยังขี้นอยู่กับความสะอาดและความเป็นระเบียบ ถายังไม่ระมัดระวังเรื่องความสะอาดและความมืระเบียบ นั้งที่น้าน ที่ทำ งาน อย่าหวังเลยว่าคนไนบ้าน คนไนที่ทำงานจะไม่กระทบกระทงกัน ข้าวของไนบ้านไม่เป็นระเบียบก็จัดระเบียบความติดไม่ได้ คือติดสับสน นั้นเอง ถงคราวพูดก็พูดสับสน คราวเขียนก็เขียนสับสน แม้แด่ค่าพูด นั้าเฝึยง ท่าทางยืนเดนนั้งนอน จัดระเบียบไม่ได้กลายเป็นไม่สุภาพ ล้าจะ แล้คนไม่สุภาพ ด้องเรื่มตั้งแด่การจัดระเบียบสงของและทำความสะอาด ตั้งแด่หัวยันเห้า สุ คีอฟิง ฟ้งให้ได้ศัพท์ สดับจิต ถึงคำสอน จิ คือจิต คิดให้ขี้ง ให้แน่นอน สั๋งสงสัย กำหนดจำ ปุ คือถาม ไม่ด่วนหนี เขียนบท ด้นให้ทว ลิ ขีตชอน เขาหาคัว ถี่ล้วน สลายไป รู้จักฟ้ง เหตุดล ฟ้งด้วยดี ก็ย่อมจะ ได้ป้ญญๆ เคยเขลามัว ก็ ด้องหาย ไม่ทราบนามผู้แฒ่ www.kalyanamitra.org

พ■'^เพร^ A www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

สาเหตุของการกระทบกระทงกันทั้งที่ทำป๋านและที่{ทนสามีภรรยา ถงขนาดหย่าร้างกัน ทำ ให้ลูกไม่อยากกลับบ้าน ไม่ใช่เหตุอื่น เพราะ ความมักง่าย มักง่ายคออะไร คือทำตามใจตัวเอง ทำ โดยไม่คำนึงถึงใคร ลักแต่ว่าทำเอาสบายเอาง่ายไว้ก่อน ดีไมดช่างหัวมัน ถามองลึกไปกว่านี้ จะพูด จะทำอะไร ไม่คืดเอาคี ไม่คิดเอาจร้ง เขาเรียกว่า \"มักง่าย\" ต่อไปข้างหน้าจะมีสามี มีภรรยาก็ไม่คิดเอาคื ไม่คิดเอาจรีง ถึงไห้หย่าร้าง กันมากมายในขณะนี้ ครั้นมีลูกขึ้นมาแล้วไม่คิดเอาด ไม่คิดเอาจรีงมันเกด อะไรขึ้น แต่งตัวมักง่าย มารยาทท่าทางก็มักง่าย ขณะนี้เดกในวัยเรียนของ ประเทศไทย ตั้งครรภ์ขณะเรียนในระตับมัธยมคิกษาตอนห้น ตดลันตับหนึ่ง ของเอเซีย ติดลันตับสองของโลก เท่านั้นยังไม่พอ มีสาวไทยไปติดอยู่ไนคุกตามประเทศต่างๆ อยู่ จำ นวนมากห้วย ๒ ข้อหาหลัก คือ (๑) ค้ายาเสพติด หรีอขนยาเสพติด (๒)โสเภณีข้ามประเทศ ทั้งหมดเกดจากความมักง่ายหวังรวยทางลัดหรีอร้เท่าไม่ถึงทารณ์ โดนเขาหลอกเพราะอยากสบาย ๔. การตรงต่อเวลา เมื่อมักง่ายแม่เรื่องเพศจึงเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา ทำ ไมไม่ตรงเวลา ทั้งหมดนี้ มาจากจัดระเบียบข้าวของไม่เป็น จัดระเบียบความคิดไม่เป็น จัดระเบียบคำพูดไม่เป็น เพราะฉะนั้นจึงไม่ตรงต่อเวลา คือจัดระเบียบเวลา ไม่เป็น ใครมามัดหมายทำอะไรก็ไปข้ากว่าที่มัด ให้คนมารอเสยเวลาแล้ว ไม่ร้สีกว่าผด ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ไปเป็ด - ป็ดงาน บางครั้งไปข้ากว่ากำหนดการ มับเป็นชั่วโมง คนรอก็ร้อนแดด ห้วกระหาย เหนึ่อย บางทมีเด็กมักเรียน แต่งตัวมาแสดงเป็ดงาน แต่งตัวแต่เข้ามีด อดข้าว อดนั้า อดกลั้นทุกข์หมัก พ'^^ i-Ai. ^ www.kalyanamitra.org ;^£^>rk.'

_35ามดีสา ^ ทุกข์เบา จนแป้งผัดหน้าไว!หลเยิ้มไปทั้งหน้า ควยกลัวปากจะเลอะ ชุดจะเฟ้อน กว่าจะได้แลดงเกือบเที่ยง โตยิ้นเด้กกืเอาอย่างผู้ใหญ่วนเวยน กันไปแบบนี้ การตรงต่อเวลา ตอนเด็ก ๆ ก็มีพ่อแม่พี่น้องปลุกไหไปโรงเรียน พอโตขึ้นก็ตั้งนาฬิกาปลุก ตั้งแบบ ๓ ระยะ ไม่ครบ ๓ ครังไม่ลุกฃ็นมา บางทีต่ออีกหน่อยนี้นแหละหลับยาวไปเลย เสิยงานเลียการไปก็มาก ที่ส์ากัญคือ \"เลียนิลัย\" การฅรงต่อเวลา เป้นเรื่องที่ชาวต่างซาติ ต่างภาษาโดยเฉพาะพวก ฝรั่งถือมาก ถึงโ]นาดมีลีานวนเป็นสุภาษิตว่า \"Time and tide wait for no man\" \"สายนาไม่คอยท่า วันเวลาไม่คอยใคร\" ๕.การมสมาธ (จฅตั้งมั่น) พอจัดเวลาไม่เป็นใจลับสนเลียสมาธิแล้ว ทั้งหมดนี้เรื่มด้นมาจาก ความสกปรกหรือสะอาดไม่พอ อาจคืดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เหน หน้กหัวใคร แต่ที่จรืงมันหนักตลอดทาง หนักกระทั้งเลียซึ่อเลียงระตับชาติ หนักไปถึงระตับโลกกันใปแล้วอย่างที่ขึ้ไหัเห็น ถ้าจะแก้ไขด้องเรื่มจาก ความสะอาดอย่างเติยว เพราะแต่ละตัวคนคือแหล่งผลีตความโสโครก ของโลก ความหนาวรือน หวกระหาย ปวดอุจจาระปัสสาวะ นี้คือทุกข ประจำตัวอองเรา เพราะสิ่งเหล่านี้เรื่มจากธาตุในตัวมันสกปรก เซลล้เลย ดาย เซลล์มันมีเกิดมีตายประมาณ ๓๐๐-๔๐๐ ล้านเซลล์/นาที ซาก ของเซลล์กลายเป็นขึ้ไคล อาหารใหม่ที่ทานเข้าไปก็เกิดเซลล์ใหม่ขึ้นมา สิ่งที่ตามมาคือ กายสกปรกเป็นนิจ www.kalyanamitra.org

กำ เนิดความดืสากล โฟ่ฟลังงานลดลง 1 อัดราเ^ลล์ดายร)ดฝืง ๕.เจริญสมาร กาย สกนรกลดร)ง ๔. หนาว-ร้อน หิวกระหาย ๑.หำความ ดรงด่อเวร)า ปวดอี-ฉี่ สะอาดู ฅ.สุภาพ ร่างกาย เสัอผ้า ฬคฃ์จาทสรีร บ้านเรือน อาหาร ยาร้คษาโรด เป็นนจ อารมณ์๑ ๒.ลัง'ของ ความคิด คายไฝกระลับกระส่าย เป็นระเนียม www.kalyanamitra.org

■ะ'V • ,^ ^ --v- . ^ ากล^:๗'^^ ดังนั้น ปัจจัย ๔ ทึ่เราใซ้ คือ เสื้อผ้า บ้านซ่องห้องหอ อาหารหยูกยา พลอยสกปรกไปด้วย ตลอดจนวัตถุต่างๆ ที่เราเอามาใช้ในบ้าน ในทึ่ท์างาน จะสกปรกหมด สาเหตุจากใคร จากตัวของเราแต่ละคน เพราะปล่อยทิ้งใว้ ให้สกปรกเลยจัดระเบยบใมใด้ เมื่อจัดระเบียบใม่ใด้ความกระสับกระส่าย ก็เกดเป็นนิจ เลยเผลอสตง่าย ความใม่สุภาพเลยเกด ความเอาแต่ใจตัว ทำ อะใรเอาง่าย ทำ อะใรสักแต่ว่าทำ ทำ อะใรใม่ค่านิงถังใคร ใม่เอาใจเขา มาใสไจเรา ความใม่สุภาพก็เกิด เลยใม่มิใครให้ความร่วมมอ ความตรง ต่อเวลาก็หลฺดใป สมาธิก็สั้น เป็นเหตุเป็นผลสัมพันธ์กันอย่างนี้ www.kalyanamitra.org

'--c* ร?:#' -»' '• ^ . -\"- -T ^ «J-. ความดีสากลกั'ขการรักใทศีล ๕ www.kalyanamitra.org

ม^ากล ^ f f www.kalyanamitra.org

/ พระสารบุตรไค้กล่าวไวไนคัมภืรปฎํส์มภทามรรคว่า \"ศีล คือ เจตนา ความตั้งใจที่จะงดเว้นจากกายทุจริต ๓ คือ ไม่ม่าสํ'ตว้ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม และวจีทุจริต ๔ คือ ไม่พคเท็จ ไม่พดคำหยาบ ไม่พคส่อเสียด ไม่พดเพ้อเจอ\" รวตที่ปลอดภัย สิวตที่ปลอดภัย คือสิวิฅที่ไม่ละเมิดกฎแห่งกรรม หากแต่ละคน ในลังคมรักษาศีล ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ครอบครัวหรือลังคม ประเทศ โลกนั้น ย่อมมีความสงบสุฃเรืยบร้อย ไม่เกิดความวุ่นวาย การรักษาศีลจึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ทั้งต่อตนเองและลังคม รัตฤประสงค้ในการรักษาศีล การรักษาศีล มีรัตถุประสงค์สำคัญ ๕ ประการ คือ «9. เพื่อเป็นการป้องกันชีวิตของเราในภพชาติปัจจุบัน ไม่ให้ พบกับความทุกข์ ความเดือดร้อน และความเสื่อมเสีย อันเนื่องมาจาก การเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ๒. เพื่อให้เกิดความสุข ความคืงามในการดำเนนชีวิต ๓. เพื่อให้เกิดความสงบร่มเย์น ความดงามแก่ครอบครัวและ ลังคม ๔. เพื่อเป็นการป้องกันชีวิตของเราในภพชาติต่อไป ไม่ให้พบกับ ความทุกข์ ความเดือดร้อน และความเสีอมเสีย อันเนองมาจาก การเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ๔.เพื่อเป็นพี้นฐานในการพัฒนาคุณธรรมที่สูงขึ้นไปได้แก่ สมาธิ และบีญญา อันจะท่าให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้ 'w■w๗w^.kalyanamitra.org

pg|■v -- iJ ๙'> อานิสงส์ของสืล ๕ กับการออกแบบชีวิต ศีล ๕ ข้อ เราต้องรักษาให้เป็นปกต ชีวิตของเราก็จะออกแบบไห้ สมบูรณต้วยรูปสมบัติอย่างงดงาม อานิสงส์ของศีล ๕ กล่าวโดยย่อมี ดังนี้ •ถ้าต้องการมีอายุยน มีพละกำลังมาก ร่างกายแข็งแรง ไม่มี โรคภัยมาเบียดเบียน ไม่พิกลพิการ ไห้รักษาศีล'ยอทึ่ 9 •ถ้าต้องการไห้ทรัพย์สินเงินทองที่เก็บรักษาไว้ ทั้งที่เป็นมรดก ตกทอด ที่แสวงหามาใต้ควยอาชีพสุจริตไม่สูญหายปราศจาก ภัยต่าง ๆ เช่น อุบ้ติภัย อัคคีภัย ภัยธรรมชาติ ถูกขโมย ถูกโกง เป็นต้น ไห้รักษาศีลข็อที่ ๒ •ถ้าต้องการสมหวังกับความรัก มีคู่ครองที่ชื่อสัตย์ มีรูปร่าง หนาตาด ไม่อ้วนหรือว่าผอมเกินไป ไม่สูงหรือว่าเตี้ยเกินไป ไม่พานพบกับความเสียใจเรื่องคู่ครองไม่พลัดพรากจากคน รักหรือของรัก ไม่ถูกเพศตรงข้ามหลอกลวง ให้รักษาศีลข้อ ที่ ๓ •ถ้าต้องการมีวาจาอักดสิทธิ'ฟ้นสวย ขาวสะอาด เรืยบเสมอกัน กลิ่นปากหอม คำ พูดมีแต'คนเชื่อถือ ไม่ถูกไส่รัายป็ายสี ไต้รับความจริงใจจากผู้อื่นอยู่เสมอ ไห้รักษาศีลข้อที่ ๔ • ถ้าต้องการมีสติมนคง ความทรงจำด ไม่หลงลมง่าย ไมโง่ ไม่เป็นบา ไห้รักษาศีลข้อที่ ๕ Jlk ii-.. www.kalyanamitra.org

i!?r ดี •. (^๕ ความตีสากล ส่งเสร้นให้คนทุกเพศ ทุกวัย ปราศจากเวรภัยทั้ง(ะ ประการ สามารถรักษาศีล ๕ ไดเป็นน้จอีกด้วย นั่นคือส่งเสริมให้ทุกคน ๑.ใม่ฆ่าสํ'ตว์ ๒.ใม่ลักทรัพย์ ๓.ใม่ประพฤตีผดในกาม ๔.ไม่พูดเท็จ ๕.ไม่เสพสุรายาเมา กฎเกณฑ์ในการวินั้จฉ้'ย กฎเกณฑ์ในการวินจฉัย เร้ยกว่า องค์ของศีล เป็นเครื่องตัดสิน ถ้าครบองค์ของศีล ศีลข้อนั่นก็ขาด ถ้าไม่ครบองค์ที่วางไว้ ขาดไปหนงหร้อ สองข้อ ถึอว่าศีลไม'ขาดแต่ศีลก็เศร้าหมอง องค์ของศีลที่วางไว้จึงเป็น เครื่องเตีอนไจไห้สำรวมระวังไม่ประมาท www.kalyanamitra.org

๑. ความสะอาดกับการรักษาสืลฃ้อท 9 สืลข้อ 9 มีองค์ของสืลอยู่ ๕ ประการ ค์อ ๑. กัตว์ใ?นมี!!วิต ๒. เวำกัตว์ใ?นมีชีวัต ๓. มี จ้ ตคิดจะฆ่ากัตว์ใ?น ๔. มีความพยายามฆ่ากัฅวัใท] ๕.กัฅวัตายด้วยความพยายามใ?น ม'นุษย์เราสกปรกตั้งแต่ศีรษะจรดเทา ใากอย่างที่ออกจากกาย มใ]ษย่ล้วนเป็นอาหารของสัตว์ได้ ตั้งแต่ ขี้รังแค ขี้หู ขี้ตา ขี้มูก ขี!้ คล ขี้เล็บ เสลด อุจจาระ ปัสสาวะ พวกนี้สกปรก'ตั้งใ?นแต่เป็นอาหารจานเด็ดของ M ^'www.kalyanamitra.org

V' เชื้อโรค แมลงสัตว์ที่■ชอบรบกวนเรา เซ่น มด แมลงหวี่ แมลงวัน แมลงสาป หนู เรือด ยุง เป็นต้น ความสกปรกในตัวมนุษย์ คือ อาหารจานโปรดของสัตว์เล็ก สัตว์'นอยรวมทั้งเชื้อโรค สัตว์เหล่านี้ยิ่งมามากเท่าไรย่อมก่อความรำคาญ มากเท่านั้น พอรำคาญชื้นมาง่ายนิดเดียวไปแก้ที่ปลายเหตุ ซือยาฆ่าแมลง ยาฉีดมด ยาฉีดยุง ยาฆ่าหนู กับตักหนู กับตักยุง เครื่องซ็อตยุง มาฉีด มาฆ่า มา■กำลายบรรดาสัตว์ต่างๆ เหล่านั้นให้หายแคนที่มากัดรบกวน เรากลายเป็นมีอเพซณมาดครบองค์ทั้ง ๕ ย์อ ในเรื่องการฆ่าอย่าง ไม่ตัองสงสัย เพราะทั้งรู ทั้งทั้งใจ ทั้งพยายาม ทั้งสะใจเมื่อมันตาย อีกต่างหาก ทำ ไมสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นถึงมารบกวน เพราะสัตว์โลกทังหลาย อยู่ไต้ด้วยอาหาร ถ้าไม่มีอาหารเขาก็ไม่มา อาหารมาจากไหน มาจาก ความสกปรกโสโครกในตัวเรา อย่างน้อยขยะที่เกิดจากเศษอาหารในบ้าน ก็ไปเชิญชวนสัตว์พวกนี้มา ตังนั้น การฆ่าสัตว์ที่มารบกวนไมโซ่คำตอบ คำ ตอบมีทางเดียว คือแกัที่ต้นเหตุ เราต้องสะอาดไห้พอมิเซ่นนั้นต้องฆ่าสัตว์ตลอดชิวต เรืยกว่า ก่อเวรไม่พอยังบ่มเพาะนิสัยมักโกรธ หนักไปกว่านั้นไมโทษ ตัวเองไ'ปโทษผู้อื่น ทั้งๆ ที่ต้นเหตุเกิดจากความสกปรกของเรา สัตว์พวกนี้ รูไต้อย่างไร ไต้กลน พบเห็นอาหารจานเด็ดรออยู่ก็พากันมากิน ถ้าจะแก้ มีทางเดียวคือทำความสะอาด กำ จัดความสกปรกด้วยวิธีการต่าง ๆ ถ้าไม่ทำ หรือทำดีไม่พอ เราจะกลายเป็นมือเพชฌฆาตตลอดกาล จากนิสัยที่มองอะไรไม่ถึงต้นตอชองปีญหา ทั้งแต่นี้ไป จะไปอยู่ ที่ไหน จะไปทำอะไร หากมีการผิดพลาดชื้นมาจะตดนิสัยโทษคนอื่นหมด เราถกคนเดียว กลายเป็นคนที่น่ารังเกียจที่สฺดในที่ทำงานในบ้านในสังคม www.kaly■aเไn-a.mmlitra.org

พ^ o' ■*พ'i:, ■, -โ. ■ร๙^:i7\" - 'i .■-*jafgi ^!รร^ •, พ่^•ร? '-, •ร^ CK ',99b -• ทำ ไมเป็นอย่าป๋ใ4เพราะชอบมอป๋ออกซ้าป๋นอกมํไดมอป๋เข้ามา*[■นตัว คนที่น่าแก้ไขคนนรกที่สุดไนโลกนี้คือ ตัวเราเอง เรึ่มตั้ป๋แต่การมอป๋หา ความจริป๋ไห้ขัด ๆ มิฉะนั้น เราจะโทษคนอื่นเรื่อยไป เรากลายเป็นตัวอันตรายที่สุคไนโลก ถ้าอยู่ในครอบครัว เราคือตัวอันตรายที่สุคในครอบครัว ถ้าอยู่ไนที่ทำป๋าน เราคือตัวอันตรายที่สุคไนที่ทำงาน ถ้ามาบวชเป็นพระ เราคือตัวอันตรายที่สุดไนรัด ที่เป็นมิอเพชฌฆาตฆ่าสัตว์ผดศีลข้อที่ ■ริ) ทุกวัน มักโกรธ มักง่าย ชอบโทษคนอื่น ไม่คืดจะแก้ไขตัวเอป๋ สรุป •ความสกปรกไนห้องต่าง ๆ ภายไนบ้าน ทำ ไห้สัตว์ทั้งหลาย พากันมากนความสกปรกเหล่านั้นเป็นอาหาร ตั้งแต่สัตว์เลึก พวกมด แมลงจนถ้งสัตว์ที่เป็นพาหะของโรค เซ่น หรุ} • เมื่อสัตว์มารบกวน ทำ ไห้พยายามหาทางกำจัดโดยการฆ่าสัตว์ เหล่านั้นด้วยว์ธีการต่าง ๆ •เมื่อมิการฆ่าเกดขึ้น ทำ ไห้มิจํตไจมักโกรธเพราะทำบาปทุกวัน จนกลายเป็นนสัยโดยไม่รู้สึกตัวว่าผิดศีลข้อที่ (ริ) •เมื่อจดไจมักโกรธ ทำ ไห้เป็นคนขาดเหตุผล ชอบโทษผู้อื่น ไม่เคยส์านกว่าด้นเหตุทั้งหมดเกดจากความสกปรก ความมักง่าย ของเราเอง •เมื่อลูกและคนไนครอบครัว ซา?)นกับความสกปรกและการฆ่า ทำ ไห้เกดการชีมซับสิ่งที่ทำผิดว่าถูกตอง ถ่ายทอดนสัยไม่ดี สึบฅ่อๆกันไป www.kalyanamitra.org

M.\" พ^}ค-^■สี-■^^g^ff~ lล- ๒. ความมีระเบยบกับการรักษาศลข้อ ๒ เสิลน้อ.^±2 สืลข้อ ๒ มีองค์ของสืลอยู่ ๕ ประการ คือ ๑. ทรัพย์หรือสิงของนั้นมีเจ้าของหวงแหน ๒. รู้ว่าทรัพย์นั้นมีเจ้าของหวงแหน ๓. มีจัตคิดจะลักทรัพย์นั้น ๔. มีความพยายามจะลักทรัพย์นั้น ๔.ลักทรัพย์นั้นใดควยความพยายามนั้น จากนสัยทึ่ไม่รักษาความสะอาดใม่ว่าจะฟ็นความฝิะอาดของ^1รีร\" ร่างกายตนเอง ความสะอาดจากสภาพแวดลอมรอบตน เมอเกดความ สกปรกรกรุงรัง,การจัดระเบยบจะเกดขึ้นใม่ใด ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน www.kalyanamitra.org

^เพุามดี€ทกลฯ: q- V อุปกรณ์ การกิน เสื้อผ้าเครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค เอกสารหลักฐานสำคัญต่างๆ ตลอดจนเง้นทองของมีค่า อะไรทื่มีอยู่จัดเป็นระบบระเบียบไม่ได้เลย ทิ้งๆ ฃวัางๆ กองๆ ไว้ โคนแดด โดนลม โดนฝน เป็นเหตุให้เก่าง่าย เสียง่าย หายง่าย หาไม่เจอ ด้องเสียเงินซื้อมาใหม่ ส่วนใหญ่ก็ไปโทษคนอื่นว่า ขโมยไป แม่กระทงโทษคนในครอบครัวจนขุ่นข้องหมองใจกันมามากแห้ว โคยเฉพาะโทษลูกหลาน โทษคุณแม่บ้าน โทษแขกมาเยี่ยมบ้าน เราก็โกรธ เขาก็โกรธ พอมาหาเจอของนั้นทีหลังก็ไม่ขอโทษกลัวเสียหน้า ส์งที่น่ากลัวกว่านั้น คือเราปล้นคัวเราเอง คงไม่ค่อยได้ยินหรอก ยกคัวอย่าง โต๊ะคัวนี้ราคาเท่าไร เสื้อผ้าชุดหล่อชุดสวยราคาเท่าไร เราเอาไป ทีงไว้กลางแดด กลางลม กลางฝน สัก ■ร)-๒ สัปดาห้ มูลค่าทรัพย์สิน จะตกไปเท่าไร ใครทำ เรากำลังปล้นสมบ'ติ ผลาญสมปติคัวเองโดยไม่รู้คัว เพราะฉะนั้น ใครปล่อยสมปติทิ้งๆ ขว้างๆ เอาไว้ ร้ายกว่าขโมยซื้นบ้าน เป็นอย่างนั้นจริง ๆ การทื่ปล่อยให้ลูกทำความสะอาดไม่เป็น เล่นของเล่นเสร็จก็ทิ้ง หยิบของมาไข้เสร็จก็ทิ้ง ไม่ค่อยช่วยกวาดบ้าน ทำ ความละอาดบ้าน ไม่ช่วย ล้างชามล้างแล้ว ไม่ช่วยทิ้งขยะ ไม่ช่วยเก็บของจัดของห้องตนเอง ทิ้งหมด นี้คือรายการพาลูกปล้นทรัพย์คัวเอง ผลาญลมบ'ติคัวเองทิ้งสื้น ศีลข้อ ๒ ย่อมขาดไปได้ง่าย เพราะนิสัยที่ชอบโทษผู้อื่น ก็จะเผลอ ไปหยิบของที่เหมือนๆ กันของผู้อื่นมาเป็นของตนเป็นประจำ เช่น ปากกา ดินสอ เครื่องเขียน ยิมเขาใช้เซ็นซื่อ จดบันทึกงาน หยิบฉวยดิดมีอมา เป็นกำๆ คือ \"ขอยืม\" มาเขียนแล้วลืมส่งคืน เลยเรียกว่า \"ขอสิม\" ล้าเจ้าของบริษัทเป็นแบบนี้ ลูกน้องก็เหมือนกัน ไม่ด้องมาปนว่าทำไมปีนี้ ไม่ได้กำไร www.kalyanamitra.org

•te -'; .T . s i3»:-?r -J ะ^ร่^} V สรุป • ความใม่มีระเบียบในการจัดของกินของใซภายใน■นาน ทำ ให้ การวางของปนเปสับสน ไม่ใด้แยกหมวดหมู่ เวลาต้องการจะกินของ บางอย่างก็เน่าเสีย เมื่อต้องการจะใช้ของก็หมดอายุ เก่าเสื่อมสภาพ ทสำคัญ เอกสารสำคัญหาไม่เจอ บางทีซื้อมาใหม่ช้าคับของเดิมที่มีอยู่ เรียกว่า ผลาญทรัพย์สมใ]ตตนเอง •เมื่อการจัดวางช้าวของใม่เป็นระเบียบ ไม่สามารถจดจำไต้ว่า สื่งใดอยู่ที่ไหน ก่อให้เกิดการสักขโมยทรัพย์สินไต้ง่าย เพราะของหายก็ไม่ม ใครรู้ สร้างโอกาสให้แก่ผู้อื่นเช้ามาหยบฉวยทรัพย์สื่งของเหล่าใ?น ไปเป็น ของตน ขณะเดิยวคันอาจสร้างความหวาดระแวงคันเอง บางครั้งอาจเช้าใจ ผิด กล่าวโทษคนผิดว่าสักขโมยของเราไป ทำ ให้เกิดความบาดหมางใจคัน อาจถงขั้นทะเลาะวิวาททำให้เสียทรัพย์ไต้ในที่สุด • เมื่อจดจำไมไต้ว่า วางของไวที่ใดและต้นหาใม่เจอ ก็จะเกิด ความสับสนไปหรบช้าวของคนอื่นที่มีลักษณะเดียวคันมาเป็นของตน รวมไปถงอาจกล่าวโทษคนอื่นที่ใกล้ซด ว่าใต้สักทรัพย์สินของเราไป จ่าหน่ายจ่ายโอน เป็นเหตุให้เกิดการแตกแยกร้าวฉานคัน • เมื่อต้นหาของไม่เจอปอย ๆ เพราะความมักง่าย ทำ ให้เป็นคน มักโกรธ สับสน ชอบโทษผู้อื่น เสียมิตร ไม่รู้สิกว่าตนเป็นผู้ผิด เป็นต้น เหตุที่ไม่รู้จักจัดวางของให้เป็นระเบียบ ทำ ไห้สับสนไปสักทรัพย์ผู้อื่น หรีอ เปิดโอกาสให้ผู้อื่น หรือผู้ใกล้ชิด เซ่น บุตรหลาน พรรคพวก บรีวาร เกิดความโลภและหรบฉวยทรัพย์สินของเราไป ทำ ให้ผิดศลช้อ ๒ • เมื่อเราและทุกคนในครอบครัวซาชินคับความไม่เป็นระเบียบ บรรยากาศภายในและภายนอกไ!ทนสกปรกรกรุงรัง การจัดระเบียบความคด เกิดขึ้นไต้ยาก นิสัยไม่ดีถูกถ่ายทอดผ่านสภาพแวดล้อม และสื่งที่ทำช้า ๆ กลายเป็นคนไม่มิระบบระเบียบหรือแบบแผนในการดำเนินซวิต www.kalyanamitra.org

ม^ๆ 'V ๓. ความสุภาพ ก้บการรักษาสืลฃ้อ ๓ Wi เศลฃ้©ทีร3 สืลขอ ๓ มีองค์ของสืลอยู่ ๔ ประการ คือ ๑. หญิงหรือ'ชายที่ไม่ควรละเมีค ๒.มีจฅคิดจะเสพเมฤน ๓.ประกอบกิจในการเสพเมลุน ๔.ยังอวัยวะเพศให้ถืงกัน หญิงต้องห้าม มี ๓ ประ๓ท ๑. หญิงมีสามี ๒.หญิงที่อยู่ในความปกครองดูแลของบิดามารคาหรือญาติ ๓.หญิงที่ประเพณีหวงห้าม เซ่น หญิงที่กฎหมายหวงห้าม หญิงนักบวช .; www.kalyanamitra.org

ชายต้องห้าม ม ๒ ประ๓ท ๑. ชายที่ไม่ใช่สามีของตน ๒.ชายที่ประเพณหวงห้าม เช่น ชายนักบวช จากนิสัยที่ปมเพาะความสกปรกนำไปสู่ความไม่มีระเบียบ เมื่อไม่มี ระเบียบก็หงุดหงด แล้วท่าทางแห่งความไม่สุภาพก็จะออกมา แท้ที่จร้ง ความไม่สุภาพคือ การจัดระเบียบทั้งร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นนำเสียง กิรยา ท่าทาง เสัอผ้าเครื่องแต่งกาย ที่เราเรึยกกันว่า \"เสัอ ผ้า หนัา ผม\" ไม่เหมาะสม ล้าเด็กวัยรุ่นเป็นเพศเดยวกัน กลุ่มพวกผู้ชายพอเฟ้นคนเพศ เดยวกันนงนอนยืนเดินไม่สุภาพ เสึ้อผ้าหนำผมไม่สุภาพ รู้สีกหนนไล้ แท้ที่จร้งตาของตัวเองนนแหละหาเรื่องไม่สุภาพก่อน จงเกดการกระทบ กระทั้ง ตะโกนท้าทายกัน ซกต่อยกัน ยกพวกดิกัน ความแตกสาม้คคื เรื่มจากอย่างนี้ ล้าเป็นต่างเพศ เสิ้อผ้าหนำผมไม่สุภาพ ก็รยาท่าทาง การนงนอน ยืนเดินไม่สุภาพ ชายมองไปเฟ้นหญงเป็นแบบนั้น จตเรื่มคืด เรื่มมองไป ว่าเป็นการให้ท่าไห้ทาง เรื่มตั้งแต่แต่งตัวนุ่งสั้นๆ แหวกเสั้อผ้า เปีดโป็ เปลอยไหล่ แต่งหนำทาปากจัดจัาน เดินเหนบีตตรงนั้นส่ายตรงนี้ คืดไป เรื่อยๆ วาจาก็เรื่มคืกคะนอง พูดจาแทะโลม ยั๋งเขาโกรธยิ่งยั่วยุ อยากลิ้ม อยากลอง มองเฟ้นเป็นสงท้าทายเกดการพนันขันต่อ ท้ายสุดจบลงโดยการ ล่วงละเมีดทางเพศ เกดอะโรขึ้นในเช่งประจักษ คุณแม่วัยใสดิดอันดับหนึ่งในเอเชิย ดิดอันดับสองของโลก หญิงขายบริการขึ้นชี่อสิอกระฉ่อนตามแหล่งท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ www.kalyanamitra.org

วา^^ๆก ทั้งหมดเกิดจากความสกปรก ความไม่มีระเบียบ ความมักง่าย ทำ ให้ไม่สุภาพ ทำ ลายศีลข้อ ๓ เพราะตนเองไปล่วงละเมิดทางเพศสตรีอื่น ที่มิใช่ภรรยา ส่วนเด็กและสตรีที่ถูกละเมิดจะโดยยินยอมหรีอไม่ นานไป ก็เผลอใจไปรักไปซอนคนที่เขามีเจ้าของได้ง่าย เพราะไม่มีอะไรจะเสิย อกแล้ว บีดามารดาก็เสียใจ ตนเองก็เสียใจ เสียการเรียน เสียอนาคต ได้ลูกติดท้องมาฝากแม่ บางคนพอมีเหตุเกิดขึ้นก็ไปเที่ยวโทษว่า มิคนปล่อยคุณไสย โทษดวงตก โทษปีซง โทษดาวเคราะห์ โทษอวงจุ้ย โทษไปสารพัดศาสตรี ยกเว้นโทษตัวเอง คนไทยขอบโทษของประเภทนี้ พากันเช่นไหว้ เสียเงน เสียทองไปไม่รูบีละเท่าไร บางคนไปรดนํ้ามนต์ ๗ วัด ไปขึ้อของ ๗ อย่าง ๙ อย่างรับดาวดวงนั้นดวงนี้ ไปไหว้ขอพรเทพเจ้าไกลถงต่างประเทศ ที่จรีงอะไรไม่เข้าท่าเข้าทาง ล้าไล่เจาะลกถงสาเหตุ หาให้พบก็จบแล้ว วัดก็เหมีอนกัน ลองมีงานบ่อยๆ คนมาเที่ยวเยอะๆ พองานเลก ต่างคนต่างทั้งเศษกระดาษ เศษขยะ เศษอาหาร เกลึ่อนไปหมดทั้งวัด วัดนั้น จะรกสุด ๆ รกเพราะคนมาเที่ยวมากเท่าไหร่ขยะก็มากเท่านั้น พระเณรต์องเก็บกวาดดูแลรักษา กวาดกันทั้งอาทิตย์ก็ไม่เสร็จ แรงพระเณร ก็มีไม่มากด้องปล่อยให้เป็นขยะกองอยู่ไนวัด เพราะคนที่เข้าวัดหลายคน ไม่สุภาพ มักง่าย ตั้งใจจะไปทำบุญกลายเป็นไปทำบาปเสียอีก ความสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นเสน่ห์ติดตัวคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาซพการงาน ให้คนอื่นเกิดความเมตตา ยามตกทุกข้ได้ยากคนอื่นก็ พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลอเภี้อกูล ทำ ผดคนก็พร้อมให้อภัย จะเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งก็เป็นที่ซึ่นซมของผู้ใหญ่ แม้อยู่ในเพศบรรพซดด้วยกันก็ สร้างศรัทธา สร้างความประทับใจให้กับหมู่คณะและสาธุซน www.kalyanamitra.org

>' สรุป •ความไม่สุภาพทึ่แสดงออกทั้งทางร่างกาย กิริยาท่าทาง เสัอผ้า หน้า ผม รวมไปถึงวาจาการโต้ตอบ ถ้าเป็นเพศเดียวก้น โดยเฉพาะชาย ก้บชาย ท่าให้เกิดการทะเลาะวิวาท การกระทบกระทั้งกันใต้โดยง่าย ถ้าต่างเพศกัน จะกลายเป็นการยวยุเป็นต้นเหตุให้ลุกลามไปจนเกิดการล่วง ละเมดทางเพศไต้ กลายเป็นปัญหาสังคมทุกวันนี้ ส่งเสริมให้ผ้ดศลข้อ ๓ •เมื่อเกิดการทะเลาะวิวาทหรือล่วงละเมิดทางเพศ ท่าให้เกิด ปัญหาสังคมมากมาย ผู้กระทำ เกิดนิสัยไม่ดี อารมณ์ก้าวร้าวกระทบกระทั้ง ไต้ง่าย เป็นผู้มกมากในกาม มองเห็นแต่ความผ้ดผู้อื่น ไต้รับโทษทาง กฎหมาย ผู้ถูกกระทำ โทษสังคม โทษผู้อื่น เกิดบาดแผลฝ็งลกทางใจ เกิดผลกระทบต่ออนาคตตนเองและครอบครัว ทั้ โ^^^' www.kalyanamitra.org

i'-' ^ากay - ' .•'^^-\" -^ฯ:^>-^^,.'.•ร ไ ไ•พ-^-,.i._ . ๔. การตรงต่อเวลากับการรกษาสืลข้อ ๔ 0«1^ lumnrrv สืลข้อ ๔ มองค์ขอป๋สืลอยู่ ๔ ประการ ค็อ 9. เรื่อป๋ใม่จรํง ๒. มีจิดคํดจะพูดใฟ้ผิคใปจากความจรง ๓.พยายามที่จะพูดให้ผดไปจากความจรั้ง ๔. คนฟังเข้าใจความที่พูด•นั้น จากความสกปรก ความไม่มีระเบยบ ความไม่สุภาพเป็นเหตุให้ ยากที่จะบรั้หารเวลาได้ เวลาของมบุษย์แห้ที่จริงมีคนละ ๔ เวลา ล้าคนที่ ผกตัวมาด้แล้วจะด้องตรงเวลาหง ๔ เวลานั้น คนส่วนมากแยกไม่ออกว่า ๔ เวลาหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ด้องแยกให้ดู ต่อไปข้างหน้าจะได้ไม่พลาด www.kalyanamitra.org

ss ร ฐฐ^^ '.r ■'^ เวลาของมนุษย์ มี ๔ เวลา ดัป้นี้ «9. เวลาเพี่อกิาจัดทุกขในสรระ ๒. เวลาเพี่อส์งคมหรอการอยู่ร่วมกัน ๓. เวลาเพื่อเศรษฐกิจหรือเวลาเพี่อการทำงานเลี้ยงสิพ ๔. เวลาเพี่อการปราบกิเลส หรือคัดกันคานตัวเอง รายละเอียดของแต่ละเวลาเพี่อทำการต่าง ๆ มีดังน (๑)เวลาเพี่อกำจัดทุกข๊ในสรีระ การกิน นอน ตื่น ขับถ่าย อาบนา■ฝ็าระล้างร่างกายให้เป็นเวลา ทำ ให้สุขภาพดี ล้ากินใม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา ขับถ่ายไม่เป็นเวลา อาบนํ้าอาบท่าพักผ่อนไม่เป็นเวลา สุขภาพเสียหายโรคภัยเกิดแน่นอน ที่สำ คัญกลายเป็นนิสัยเสียเอาแต่ไจตัวเองเพี่มขึ้น ล้าปล่อยไห้ลูกไห้หลาน เล่นเกมหรือ Chatไม่มีเวลากำหนดแน่นอน เท่ากับเป็นการฆ่าลูก ฆ่าหลาน อย่างเสีอดเย็นตั้งแต่เล็ก แล้วย้อนกลับมาฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ไนอนาคต ไม่ได้ฆ่า ทำ ร้ายร่างกายตรง ๆ แต่จะทำไห้ขึ้าไจจนกระตั้งเสียไจ ขึ้าไจดาย (๒)เวลาเพี่อกังคมหรือการอยู่ร่วมกัน การไห้เวลากับพ่อกับแม่ พี่ห้อง สามีภรรยา ลูกของตัวเอง เพี่อนร่วมงานตองจัดสรรเวลาไห้ดี ห้านไหนไน ๑ วัน พ่อแม่ลูกไม่เคย กินข้าวพร้อมหห้ากันแม้แต่มี'อเดียว สัญญาณอันตรายกำลังเกิด อย่างห้อย วันหนึ่งกินข้าวพร้อมหห้ากันสัก ๑ มี้อกิอังดี จะไตัพูดคุยกันเป็น ความอบอุ่นทางไจ ไมใช่ต่างคนต่างอยู่ จะงานยุ่งขนาดไหนกิตาม เวลาที่จะ พร้อมหห้ากันไนครอบคร้วด้องมี ล้าไม่เช่นนั้น พอเดีอดร้อนลูกจะวง ไปหาลุงป้าห้าอาห้าง ไปหาเพี่อนห้าง ไปหาไครต่อไครไห้แล้ปัญหาไห้ พ่อแม่ไม่เคยรูเลยเพราะลูกไม่เคยบอก ห้บเป็นความผดพลาด www.kalyanamitra.org

เราม^ๆกล;:T J เวลาใครเขามีงานส่งการ์ดเชิญมา ไม่เคยไปร่วมงานใครเลย งานบวชอ้างติดเรียน งานแต่งงานอ้างติดสอบ ลูกเขาเกิดอ้างติดประชุม ใครป่วยไข้เข้าโรงพยาบาลอ้างติดไปต่างจังหวัด งานศพติดไปต่างประเทศ วันหลังพอเราเดือดร้อนอะไรขึ้นมา อย่าหวังว่าใครจะช่วย เพราะเราไม่รู้จัก การแบ่งเวลาให้กับพวกพ้องเพื่อนฝูงไนสังคม (๓)เวลาเพื่อเศรษฐกิจ หรือเวลาเพื่อการทำงานเลี้ยงชิพ เวลาที่ใช้ไนการประกอบอาชีพการงาน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพ อ้าไครประกอบอาชีพรับราชการ บริษัท ห้างร้าน รัฐวิสาหกิจ รับจ้าง เวลาจะกำหนดไว้ตายตัว เรียกว่า พวกมนุษย์เงินเดือน อีกประ๓ทหนึ่ง คอพวกประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ต้องดนรนเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน เงินทอง มีการตั้งเป่าหมาย มีการลงทุน มีการซื้อขาย มีการวางแผน มีการติดต่อประสานงาน าลา เรียกตัวเองว่า ประกอบอาชีพอิสระ คือ อีสระจากการมีเจ้านาย แต่ต้องรับผิดชอบตนเอง รวมไปถึงบุคลากร ไนองค์กรของตน (๔)เวลาเพื่อการปราบกิเลส การที่เรียกไครว่า \"คนดี\"อย่าคาดหวังว่าจะเป็นคนดี (5>0๐ % คนเรามีทั้งนสัยดืและนสัยไม่ดีผสมกันอยู่ด้วยกันทั้งนั้น ใครมีนสัยดี มากกว่าไม่ดีเขาเรียกว่า \"คนดี\" ไครมีนลัยไม่ดีมากกว่าดีเขาเรียกว่า \"คนไม่ดี\" เช่นเดียวกัน คนไม่ดีไมไช่จะไม่มีดีอะไรเลย มันเป็นส่วนผสม ปน ๆ กัน ต่างกรรมต่างวาระตอนแสดงออกมา ตังนั้น จึงต้องมีเวลาเพื่อการปราบกิเลส ปราบสันดานไม่ดีของ ตัวเอง ลองพจารณาดูว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราดูหนัง ดูละคร ดูบอล ดู LINE ดู Facebook ยังดูไต้คราวละเป็นชั่วโมง ๆ สละเวลาเพื่อตัวเอง ในการปราบกิเลสวันละ 9๐-9๕ นาที ไม่ยากอย่างที่คืดหรอก www.kalyanamitra.org

mm K i % www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

สื^^I ^ ปราบกิเลสทำอย่างไร ก่อนนอนสวดมนต์ใฟ้ไค้จบหนึ่งก่อน บทไหนก็ไค้ จะว่า \"นโม\" ต่อค้วย \"อตปี โฝื ภะคะวา อะระห้ง สัมมา สัมพุทโธ\" ตามด้วย \"พาหุง\" I หรือ \"ซะยาสะนากะตา\" พระคาถาข้นบัญชร บทไคก็ไค้ที่ตนถนัด เพราะสวดมนต์เปรียบเสมือนยาทา สวดไปไค้สักพักใจจะเรั๋มสงบลง สวดเสร็จแล้วต่อค้วยการนั่งสมาธิอกซัก 90-9(S. นาที เสมือนยากิน ^ อดทนนั่งไห!ค้ เพราะจะท่าให้เกิดความสงบภายใน ค่อย ๆ เริ่มคืนละ ' ๑๐ นาทีก่อน พอถึงเวลาร่างกายจะคุ้นข้นตั้งโปรแกรมสัตโนนัติ ไม่เอาเริ่องอื่นมาอยู่ในใจ ใจจะนึ่งซองมันเอง ใจนึ่งนล้วดอย่างไร วนนึ่ไปท่างานมาทั้งวัน ใม่มืใครหรอกที่ท่างานแล้วไม่พลาด %■ ถ้าพลาดแล้วรู้คัวตอนพลาดเป็นสั๋งวเศษ จะไค้แก!ซทน แต่ที่ส์าคัญพลาด แล้วบังใม่รู้คัว ยังหลงว่าคัวเองท่าถูก อย่างนี้น่ากลัว แล้วควรจะท่าอย่างใร นึ่แหละก่อนนอนสวดมนค้สักจบสองจบ พอสวดยาวสักหน่อยใจเริ่ม เป็นกลาง พอใจเป็นกลางเท่านั่นแหละ ที่เราท่างานมาทั้งวันผิดถูกอะไร ก็ตาม มันจะโผล่หรือผุดขี้นมาเอง ผิดถูกโผล่หรือผุคขี้นมาไค้อย่างไร \"ธรรมดาเมื่อป้าขุ่นมัว ไมไส บุคคลย่อมไม่แลเห็นหอยกาบ หอยโข่ง กรวด ทราย และฝูงปลาฉันใด เมื่อใจมันขุ่น บุคคลย่อม ไม่เห็นประโยชน์ตนประโยชน์ผูอื่น ฉันนั่น\" ความใสความขุ่นของป้ามันมีฤทธต่างกันฉันใด คนที่สวดมนต์ กับใม่สวดมนต์ใจมันขุ่นมันใสใม่เท่ากัน การรู้ การเห็น การให้สตคัวเองจง ไม่เหมือนกันอยู่ตรงนี้ คนหนึ่งกินเหล้าจนกระทั้งหลับไป อีกคนหนึ่ง สวดมนต์จนกระทั้งหลับไป มันคนละเริ่องกันเลย เพราะฉะนั่น ใครที่ www.kalyanamitra.org

เม^ากล:^;๙^- ^ '.. %1 •^.' '''4i%--- s สวดมนต์ ใครที่นั่งสมาธิก่อนนอนเป็นประจ่า พอใจนิ่งจะเห็นว่า วันนี่ใป ทำผิดทำพลาดอะไรไว้ มันผุดขี้นมาให้เห็นเหมือนดงเห็นหอยโข่ง หอยกาบ เม็ดกรวด เม็ดทรายชัดๆ มันจะโผล่ขี้นมาว่า เมื่อตอนกลางวัน ที่ค้ดว่าถูก มันผิดนิ่นา แล้วจะทำอย่างใรคี ถ้าโทรไดโทรเลข โทรไปขอโทษเจ้านาย พรรคพวกเพื่อนฝูง ลูกน้อง ลูกค้า สามี ภรรยา ลูก ที่เราใปพูดจาล่วงเกนเขา ถ้าเราผิดแล้ว รีบขอโทษเรื่องก็จะจบ เพราะเรื่องไม่ทันข้ามคืน ย่อมให้อภัยกันไค้ แต่ถ้า ปล่อยเรื่องค้างไว้ข้ามคืน จะกินใจกันลึกลงไป หายโกรธยาก แค่คำขอโทษ ที่พูดอย่างจรีงใจว่าเข้าใจผิดแค'นี้บัญชีบาปปิด พรุ่งนี้เข้าเจอหน้ากัน ยังเจุยกัน คบกันไค้ต่อ แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ บัญชีบาปอันนี้จะกลายเป็น บัญชีแค้น ประ๓ทที่ว่า \"ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย\" ขณะเดียวกัน ถ้าทำอะไรดีๆ มาดลอดวัน ประสบความสำเร็จ ไค้รับการยกย่องชมเชยมา สวดมนต์หลายๆ บทก็จะยั๋งดี เพราะจะเห็นชัด ขี้นว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั่น มิใช่ผิมือเราทำเพียงลำพัง ยังมืผู้บังคับบัญชาเข้ามาช่วย เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง ลูกค้า สามี ภรรยา ญาดีสนิทมีดรสหายต่างเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งทางตรงทางอ้อมถึงไค้สำเร็จ ขนาดนี้ ควรโทรคัพทั[ปขอบคุณเขาสักคำ ถ้าโทรไปไม่ดีด โทรไปแล้วไม่อยู่ ก็ฝากข้อความบอกขอบคุณเขาผ่านไปยังเพื่อนฝูง สามี ภรรยาเขาไห้รับ ค่าขอบคุณจากเราที่มีส่วนช่วยไหงานเราประสบความสำเร็จ หรีอไม' สามารถดีดต่อผ่านบุคคลไค้ ทางสังคมออนไลน้มากมายหลายช่องทาง ที่จะฝากคำขอบคุณแทนใจไค้อย่างดี พร้อมมิภาพประกอบให้เขาปลื้ม ๆ ว่าเราประทับใจ ขึ้งใจ ร้คณค่าที่เขาช่วยเหลือเรา ถ้าทำไค้อย่างนี้ www.kalyanamitra.org

โ๙' .ฬ;^ ๑)ไม่เป็นคนเนรคุณคน ๒)คนที่ช่วยเราเขาปลื้มใจ ๓)วันหลังมีอะไรได้ช่วยก้นใหม่ ๔)จดบัญชีบาป เจคบัญชีบุญ ถ้าไม่อย่างนั้น งานสำเร็จแลวก็ไม่เคยนึกถึง เก่งอยู่คนเด้ยว ต่อไป ภายหนึาเราจะตกอับเพราะขาดคนช่วย เวลาเพื่อการกำจัดกเลส เวลาเพื่อ การสำรวจตัวเอง อยู่ตรงนี้อย่าพลาด ถ้าไม่พลาดกลายเป็นว่าบัญชีบุญเปีด บัญชีบาปได้ปิดสนิทแล้วทุกคืนไป ไม่มีหนี้อะไรด้างอยู่ในไจอีกต่อไป เมื่อเวลาของคนเรามี ๔ เวลา ส่วนมากเรารู้จักแค่เวลาเดียว คือ เวลาทำงาน อย่างนี้ถือว่าดูเบาไปหน่อย ครั้งหน้าจะได้ไม่พลาดอีก คนที่ ไม่ดูเวลาไม่ตรงเวลา คือคนที่จัดระเบียบเวลาไม่ลงตัวนั้นเอง เมื่อจัด ระเบียบเวลาไม่ลงตัว คือคนไม่ตรงเวลา เวลาคลาดเคลื่อน ด่อนี้ไปหมด ความนั้นใจ กลัวจะถูกทวงงาน ไม่กล้าสู้หน้าเจัานาย ผิดพลาดอะไรไม่กล้ารับ เพราะไม่มีความนั้นใจใดๆ ทั้งลื้น ซึ่งมันฟ้องว่าเรากลายเป็นคนเอาแต่ใจ เมื่อถูกทวงงานไม่มีงานจะให้เจัานาย ทำ งานไม่ตรงเวลาเรื่องอะไรก็ตาม จะด้องมีฃ้อแก้ตัว แม้กับลูก กับภรรยา กับสามี กับเพื่อนฝูงก็มีแต่ขอแก้ตัว ที่ไม่ตรงเวลา ข้อแก้ตัวคืออะไร คือการโกหกนั้นเอง อย่างมากเป็นความจริงแค่ ๗ ส่วน ความเท็จ เสีย ๓ ส่วน ผิดมากพยายามให้เหถือเป็นผิดน้อย ผิดน้อยแสดงว่าไม่ผิด อยู่ที่ใครโกหก ใครมีข้อแก้ตัวมากเท่าใดก็แสดงว่าโกหกมากเท่านั้น จำ ไว้ เลยว่าโกหกคนอื่น ๑ ครั้ง จะด้องโกหกตัวเองอย่างน้อย ๓ ครั้ง ลัดส่วน ๑ : ๓ เพราะสาเหตุ www.kalyanamitra.org

^วาม^าก่ ไรI ๑)เตรียมเรื่อป๋ไม่เตรียมจะเอาอะไรไปโกหก เตรียมตั้งหลายเรื่อง เลึอกเอามาเรื่องหนึ่ง ๒)โกหกตามแผน บางคนเตรียมเร็ว คิดแล้วได้เลย ทำ ตามแผน ๓) ต้องตามจำ เดี๋ยวถูกจับโกหกได้ ล้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ต้องตามจ่ากันเป็นปี เหนเขามาแต่ไกลต้องรีบเตือนตัวเองว่า จันนั้นโกหก ไวว่าอย่างไร ล้าเผลอเมื่อไรเดี๋ยวเขาจับไต้ว่าเราโกหก ยิ่งล้าโกหกภรรยา แล้วเขาระแวงขุ่นใจอยู่ อาจต้องจ่าเรื่องทโกหกนั้นไว้ตลอดซีวต เพราะจะ ถูกถามเรื่องนัไปจนตาย ตอบผิดเมื่อไรบ้านแตกเมื่อนั้น เมื่อเป็นอย่างนี้บ่อย ๆไนหัวจีงมืแต่เรื่องโกหกที่ต้องตามจ่า จันหลัง พูดจรีงๆ ยังไม'วายสงสัยว่าที่พูดไปโกหกหรือเปล่า ล้าถ็งจุดนี้แลัว โรคอัลไซเมอร์ หรือภาวะสมองเสื่อมเรื่มถามหาแน่นอน จงต้องบรีหาร เวลาใหัตืเพื่อมั้ใหันั้นปลายชีวิตโรคอัลไซเมอรมาเยี่ยมเยอนตาม กฎแห่งกรรม เมื่อเราทำอะไรไม่ตรงเวลา เราก็ต้องโกหก สับสนไปหมด หลับตา ลมตาใจไม่เป็นสมาธิ ความนั้นใจหดหายไป ความเครียดความฟ้งซ่าน เรื่มมาเยือน ทำ อะไรก็ใม่ประสบความสำเร็จ กลับมาถึงบ้านก็เบึ่อบ้าน เบี่องาน เลกงานไม่รูจะไปไหนเรื่มไปกับเพื่อน จุดจบแต่ละจันจะอยู่ที่ไหน ไต้ บอกจากร้านคาราโอเกะบ้าง วงเหล้าบ้าง วงการพนันบ้าง สารพัด แหล่งบันเทิงเรีงรมย์ ส่วนแม่บ้าน ล้าเหงา พ่อบ้านไม่กลับบ้านตรงเวลาแล้วทำอย่างไร ก็ขวนเพื่อนมาที่บ้านหรือออกไปตามแหล่งบันเทิง แหล่งนัดพบ บ้างก็เมาส์ แตกแหลกกระจาย ตั้งวงเบียร้ วงไพ่ พากันไปข้อปปีง เสรีมสวย ลูกจะไป กับเพื่อนก็ปล่อยไปตามประสา ตกลงกลายเป็น \"บ้านนี้หนัปืญหา\" อยากจะแกไข ถึงคิดอยากจะแล้ก็ไม่รู้จะเรื่มที่ตรงไหน www.kalyanamitra.org

•i'' •i ' ^^1มดีสๆฦล ะ ๙๕ \"V- ใครที่พ่อ'นานไม่ค่อยจะกลับบ้าน แม่บ้านจมอยู่ในวงไพ่ ต่างคนต่าง เกิคอาการเบื่อคู่ครอง ลูกเบื่อการเรียน นกอะไรไม่ออกว่าจะแก้ไข ได้อย่างไร ง่ายมาก ไปเริ่มทำบ้านให้สะอาดก่อนเป็นล่าดับแรก แล้วจะ เห็นหนทางไปตามลำดับ โทษของการไม่ตรงต่อเวลา การไม่ตรงต่อเวลา คอ ความล้มเหลวในการบริหารเวลาเพื่อ ป้องกันกำจัคทุกข์ ๔ ของตนเอง ที่ป้ใครจะประพฤติปฎิ'บติกำจัดทุกข์ แทนก็ไมได้ ๑. การกำจัดทุกข์จากสรีระ ๒. การกำจัดทุกข์จากลังคม ๓. การกำจัดทุกข์จากอาข์พ ๔.การกำจัดทุกข์จากกิเลส ๑ 1ๆกข์จาก ๒ หกฃจาก สรีระ ฅ ร^กขจาก ๔ ใๆกข'จาก การเลี้ยงฟ้พ กํ เสส if;- ^.- f- Wi./ V.1 www.kalyanamitra.org

' • ะ * '. •V. ฟ้เ ไ r -y ร ความล้มเหลวในการบรหารเวลา เกดจาก ๑. การเห็นใ]ญหานละวิธีการกำ จัดทุกข์ ๔ของ!!วิตไม่ครบ-ไม่ฟ้ค ๒.การจัดลำดับความส่าคัญ ความเร่งด่วน และการไข้เวลา ไนการปฎิ'มติภารกํจกำจัดทุกข์แด่ละซนิคยังไม่เหมาะลม ๓.การขาดสติส์'มปชัญญะขณะปฎิใ]ติภารกิจกำจัดทุกข์ใfน ๆ ความบกพร่องไนการบรหารงาน บรหารเวลา เพื่อการกำจัดทุกข์ ๔ ของข้วิตแด่ละประการล้วนเป็นเหตุไห้เกิดทุกข์ใหญ่นานาซนดแก่ซาวโลก ตลอดมา เซ่น • การไม่ตรงเวลา ในเรื่องการกิน - นอน - ตื่น - ขับถ่าย - อาบนำ ซ่าระร่างกาย - แปรงฟ้น ฯลฯ เป็นการเพื่มสรีรทุกข์ • การผิดใ]'ดกับสมาชิกในครอบครัว เพื่อนบ้าน การใมไห้การ ศึกษา'บุตรไนวัยเรียน การใม่ดูแลพ่อแม่ผู้ชรา ฯลฯ เป็นการเพื่มทุกข์จาก สังคม • การทำงานไม่เสร็จตามกำหนด การส่งสินค้าล่าซากว่ากำหนด การซ่าระเง้นส่าข้า การไปทำงานสาย การเลิกงานก่อนเวลา ฯลฯ เป็นการ เพิ่มทุกข์จากภารเลี้ยง!!พ • การถอฤกษ์ยาม การใม่สวดมนต์ไหวพระ เจริญสมาธิ แผ่เมดตา ก่อนนอน การใม่ใปวัด ไม่รักษาอุโบสถศีลในวันพระ ฯลฯ เป็นการ เพิ่มทุกข์จากกิเลส www.kalyanamitra.org

การไม่ปฎิบ้ติภารกิจ เพี่อป้อป๋กันกำจัดทุกข์ ๔ ของข์วิตให้ ครบถ้วนถูกต้อง สมบูรณ์ ครงตามเวลา จัดเป็นกรรมฟ้วเบี้องต้น เพราะเป็นเหตุไห้ขาดความรับผิดชอบ ทั้งต่อฅนเองและส่วนรวม สำ คัญที่สุดคอ เป็นเหตุให้พูดเท็จและนสํยเสียต่าง ๆ เช่น ต้ดสินดี - ชั่วไม่ไดี ชอบผดวนประก้นพร่ง มํกโอ้อวดมีมารยา ดัดใจเสียสละโม่เป็น มีกเครืยด หนืป๋'ญหา ชอบถือฤกษ์ยาม ^ สมองเสีอมง่าย ม้'กพูดเท็จ.4-^ ถ้าเป็นคนตรงต่อเวลา นอกจากจะรักษาศลข์อ ๔ ไต้อย่างดีแล้ว จะเป็นคนจรง www.kalyanamitra.org

สัจจะ ความเป็นคนจริง ๕ 9. จรงต่อหน้าที่ y 1 จริงจ้ง ไ - ทำให้ครบ - ทำ ให้เสร็จ ๒. จริงต่อการงาน - ทำ ให้ดี - ทำ ให้ทํ'น ๓. จริงต่อวาจา -ไม่กลับกลอก -ใม่หลอกลวง > จริงใจ \"ไ -ใม่เอาเปรียบ ag/ ๔. จริงต่อบุคคล -ไม่กลนแกลง -ไม่อิจฉา J ๕. จริงคอความดิ จรงแสนจรงJ - ยอมตาย /๙ ไม่ยอมทำฟ้ว - รู้ว่าดี แน้ตาย ก็ต้องทำให1ค ๚พ-^' www.kalyanamitra.org

ดี ที่ทำ งานถ้ามัปัญหา ยังนึกอะไรไม่ออก เรั๋มทำความสะอาด สำ นักงาน จัดระบบระเบียบสำนักงานใหม่ รื้อแยกเก็บเอกสารที่จ่าเป็น ต้องเริ่มต้นที่ความสะอาด มฉะนั้นจะทำอะไรไมใต้ คือการมองเข้ามาดูคัวเอง เพื่อมองคูความประพฤติที่หละหลวมในซีวตประจำวัน แล้วเริ่มแกไขเป็น เปลาะๆ ไป ปัญหาจะหมดไปอย่างไม่น่าเชื่อ เวลาสร้างวัดเหนื่อยกันสายตัวแทบขาด อาบเหงื่อต่างนั้ากันทุกวัน กว่าวัดจะเป็นวัดไต้อย่างทุกวันนี้ ตังนั้น ใครที่หวังจะรวย หวังจะรุ่งเรือง โดยไม่ทำงานอะไรเลย ไม่คืดจะโซกเหงื่อ คิดแต่จะเอาโชคช่วย จะโชกด้วย นั้าตาแทน คนโบราณเตือนว่าถ้าใครไม่ยอมเหนื่อยไม่ยอมเสียเหงื่อ เหงื่อ มันจะตกใน กลายเป็นนั้าดา สรุป •การเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา ทำ ให้ขาดความมนใจ ไม่กล้าเหน้า ไม่กล้ารับผิด ไม่กล้ารับปาก กลายเป็นคนวิ่งหนีปัญหา •เมื่อเกิดความไม่มนใจ ไม่กล้าเหน้า ไม่กล้ารับผิด ทำ ให้พูด ออกไปแบบขอไปที เมื่อถูกซักถามขอเหตุผล ทำ ให้ต้องพูดโกหก หรือทำไห้ เกิดโทสะจึงตอบโต้ด้วยการพูดคำหยาบ ผิดศีลข้อ ๔ •เมื่อมีการพูดโกหก พูดคำหยาบ บ่อยๆ จนเป็นนิสัยทำให้เกิด ความชนชา ไม่รู้สึกผิด มีจิตใจหยาบกระด้างมักโกรธ เอาแตใจตัวเอง •เมื่อจิตใจมักโกรธ เอาแตไจคัวเอง ทำ ให้เป็นคนขาดเหตุผล ชอบโทษผู้อื่น ไม่เคยสำนึกว่าด้นเหตุทั้งหมดเกิดจากความมักง่ายของเราเอง เกิดปัญหาครอบครัว ปัญหาที่ทำงาน/โรงเรืยน ห้ายสุดเป็นปัญหาชีวต •เมื่อคนใกล้คัว เช่น บุตรหลาน คนในครอบครัว เพื่อนหรือ ลูกน้องที่ทำงาน ต้องสัมผัสกับการพูดโกหก พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อบ่อยๆ ทำ ไห้เกิดการซึมซับว่าส์งหยาบคายไร้ระเบียบเหล่านี้ ลูกต้อง เป็นเรื้องปกติ ถ่ายทอดนิสัยไม่ตืสืบต่อกันไป . . .. -SM- www.kalyanamitra.org