Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความดีสากล

ความดีสากล

Published by กศน.ตำบลบางเพรียง, 2019-06-28 23:09:35

Description: ความดีสากล

Search

Read the Text Version

. ysj>'ร- ) คจามดีสากล พระราซภาวนา'จารย์ (ฒด็'จ ทตฺตซีโว) www.kalyanamitra.org

ความดสากล พระราชภาวนา'จารย์ วิ. (เผด็'จ ทตฺตซีโว) •r www.kalyanamitra.org

^ คจๆมดีสากล ^ ^ พระราชภาวนา'ใ)ารย (เผด็จ ทต.ต^โว) พิมพ่ครงนรก สิงหาคม ๒(ร:<£๙ จำ นวนพมพ์ 9๕,๐00 เล่ม เรัยบเรํยง ดร.อรทัย มูลคำ บรรณาริการกิจ ดร.อรทัย มูลค่า รวบรวมเอกสาร/จัดท์าส์อ พระพสุทธิ้ ฐานสุทุโธ พสูจน์อักษร แบบปก รูปเล่ม ผศ.ดร.สมสุดา ผู้พัฒน์ พมพ์ที่ ธรรมรัตน์ บุญแพทย์ บรัษ้ท โอ.เอส.พรํนดิ้ง เฮาส์ จำ กัด www.kalyanamitra.org

aพ .^ ' )i»»Jv Vr-V.i. '* -Tli CTirr'^^' >A s พระราชภาจนาจารยํ -'''-ร่ชุ่ร' (เผด็จ ทตฺตชีโว) www.kalyanamitra.org

จr www.kalyanamitra.org

c คำ นำcjv . ..<^|โ44 ความดีสากลเป็นข้อปฏ๊ปตทางกาย ■วาจา ■ใจเบืองต้น หากผูใด ประพฤติปฎั้บัติอย่างเหมาะสม ย่อมประสบความสุขความเจรญ สมแก่การประพฤติปฎปตของตนต้วยกันทั้งหมดทั้งสน โดยไม่จำกัดเพศ วัย เชอชาติ ศาสนา และลัทธิความเชี่อ เพราะความดีสากลมีผลให้ผู้ปฏิบ้ติ มีใจผ่องใส สามารถเห็นประโยชน์สุขของตนและผู้อี่นไต้เป็นปรกติ ความดีสากลที่สมบูรณ์ประกอบดวยข้อปฏบ้ติที่ต้องใสใจประพฤติ อย่างต่อเนื่องรัดกุมด้วยตนเอง จนกระทั้งกลายเป็นนลัยใจคอ คุณธรรม และศีลธรรมประจำใจของตนในที่สุด มี ๕ ประการด้วยกัน คือ <9. มีความรับติดชอบต่อความสะอาด ๒. มี ความรับติดชอบต่อความมีระเบียบ ๓. มีความรับติดชอบต่อความสุภาพ ๔. มีความรับติดชอบต่อการตรงต่อเวลา ๕. มีความรับติดชอบต่อการมีสมาธิ การปฎํปติความดีสากล๕อย่างครบครันในก๊จวัตรประจำวันจํง มีใช่เรื่องเหลือวิลัยหรอลกลับอันใด เป็นเรื่องที่ทำไดง่ายแด'ทว่า www.kalyanam.รit-rะaJ.org

^น;:''' ^ วา สฺากล :๖ ทรงคุณค่าต่อผู้ปฏ๊บ้ตเป็นอย่างยง หาก'ต่านใดปฏิบัติอย่างจริงจัง ช่างสังเกต 'ผินิจพิจารณา ไม่ช้าย่อมประจัก'นในคุณค่าจันไม่มประมาณของความด สากล ทั้งทึ่มต่อตนเองและส่วนรวม ท่านเหล่าทั้นย่อมประสบแต่ความสุข ความเจริญ ความสมหวังในสิ่งทึ่ตนปรารถนาอย่างแน่นอน แม้การบรรลุ มรรค ผล นิพพาน เพราะความดีสากล ๕ เป็นรากฐานของการทำงาน สร้างสรรค์ทุกประเภท และการทำความดีทุกระดับ ทั้งหมดทึ่ยกมาช้างต้น เป็นส่วนหนึ่งของโอวาททึ่พระเดชพระคุณ พระราชภาวนาจารย่(เผด็จ ทตฺตฃีโว)ท่านใ'ต้เป็นประจำแก่พ่อค้า ประชาชน ช้าราชการ ทหาร ตำ รวจ และนักการเมือง ซึ่งรักการสร้างบุญบารมื เ'ทึ่อม่งไปส่ทึ่สุดแห่งธรรมและเป็นทึ่มาชองประโยคทึ่ว่า ตั้งใจฟังเทศน์ ที่วัด จัดทำให้คทึ่บ้าน กลับมาช่วยงานที่วัค ปฏิบัติความดีสากล ในทุกสถาน นี้ดีอหลักการของชาวพุทธ ขอเชิญท่านผู้มีบุญติดตาม ความมหัศจรรย์ในอานุภาพไม่มีประมาณของความดีสากล ๕ ต้วยดัว ท่านเอง ฝ่ายวชาการ อาศรมบัณ'ทิต ๒๒ เมษายน ๒๕๕๘ ร ym www.kalyanamitra.org

สารฟ้ญ คำ นำ ๕ ๙ ภาค 9 ความจริงตามธรรมชาติที่ถูกมองข้าม ๑๗ ๔๑ ภาค ๒ ความจริงเรื่องข้อจำกัดของชีวิต ๕๓ ภาค ๓ สภาวะความจริงที่ต้องพัฒนานิสัย ๗๑ ๑๐๗ ภาค ๔ ความดีสากล ๑๑๙ ภาค ๕ ความดีสากลกับการรักษาดีล ๕ ภาค ๖ ความดีสากลกับวิธีการกำจัดทุกข้อย่างย^]ยึน ภาค ๗ ผลของความดีสากล www.kalyanamitra.org

L www.kalyanamitra.org

m พ- r - v:% X ความจริงตามธรรมชาติที่ถูกมองฃ้าม พ'. ' /■ ไAj www.kalyanamitra.org

.-v -■ ม^:!กสุ;;^^:r '■ • •iSrrV'S'V^ จ่^4 V .<] ru. www.kalyanamitra.org

mawดี^ศล •^ ในโลกนี้มีความจริงตามธรรมชาติ ๓ ประการ ที่ชาวโลกมองข้าม ทั้งๆ ที่มีความสำคัญต่อซีวตของตนเองเป็นอย่างยั๋ง ๑. มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความใม่รู้จักตนเอง คนเราทุกคนอยู่กับตัวเองมาตั้งแต่เกิด แต่หาคนที่จะรู้จักตนเอง ได้ยากเติมทั ทั้งนี้เพราะสรีระร่างกายของมนุษย์บังคับเราให้มองออกไป แต่ข้างนอก ไม่ได้มองเข้ามาข้างในตัว เราจึงไม่เคยเห็นหน้าตนเองเลย เห็นแต่หน้าคนอื่น เราเลยไม่ค่อยวิจารณ์ตัวเองแต่ขอบใ!!วิจารณ์ผู้อื่นแทน ถาเรารักษาศีล ฝิ กสมาธิทำใจให้สงบจนเป็นนิสัย ถึงแม จะมองไม่เห็นหน้าตนเองเด่นชัด แต่จะมองเห็นพฤติกรรมผิดชอบชั่วด ที่ตนทำเด่นชัดขึ้นทุกวัน เพราะผลจากการรักษาศีล สวดมนต์ ทำ สมาธิ เป็นประจำทุกวัน ทำ ไห้ใจของเราโล่งโปร่งเบาสบาย จิตเป็นสุขสงบ ลดละเลกสั่งเศร้าหมอง เซ่น ความโลภ โกรธ หลง เหล่า บุหรี่ อบายมุข ความนึกคดในการมองโลกจะเปลี่ยนไป เราจะรู้จักการให้อภัยและ มองผู้อื่นในแง่บวกมากขึ้น ที่สำ คัญจะรู้จักตนเองมากขึ้นเซ่นกัน ๑.๑ ก่อนเกิดมาจากไหน เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน ใครคดว่าตนเองเก่ง เจอ ๓ คำ ถามนี้ ด้องยอมเหมือนกันเพราะ ยากที่จะตอบ วันที่เราคลอดออกมาเราต่างไม่รู้ว่าเราศีอใคร เรามาจากไหน เราอยู่ที่ใด พอเติบโตขึ้น ได้ศีกษาเล่าเรียนจนจบการศึกษาระตับต่างๆ ตั้งแต่การศึกษาภาคบังคับจนถึงระดับปริญญา เราจะเรียนรู้ในเชัง วิทยาศาสตร์และสังคมศาลตร้ว่า เราอยู่ในโลก โลกเป็นดาวเคราะห้ ดวงหนี้งที่หมุนรอบตัวเอง และโคจรอยู่ในจักรวาลที่มืดวงอาทตย์ www.kalyanamitra.org

- ---x ม^■ไกลุ;;:^:©๒ ,tl. เป็นศูนย์กลาง แต่คำตอบที่ว่าเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน ตายอย่างไร ตายเมื่อไหร่ ตายแล้วจะกลับมาเกิดอีกหรือไม่ ต่างยังหาคำตอบไม่ได้ อยู่ดี ถงแม่เราจะไม่เคยรู้ความจรืงเกี่ยวกับตัวเราเอง แต่เป็นเรื่อง น่าแปลกที่มนุษย์กลับไม่ชอบทุ่มเทค้นคว้าหาคำตอบ กลับมองว่าเป็น เรื่องยาก เป็นเรื่องลิ้ลับมากเกินไป เอาเวลาที่เหลือไปศึกษาเรื่องนอกตัว ที่ง่ายและลบายกว่า ต่างพากันมองข้ามเรื่องที่ตัองรู้เกี่ยวกับตนเอง ไปเสียสิ้น ๑.๒ องค้ประกอบของมนุษย์ มนุษย์ประกอบด้วยกายและใจ กายมนุษย์ประกอบด้วยธาตุ ๔ คือ ดิน นา ลม ไฟ ประกอบกันชิ้นมาเป็นอวัยวะน้อยใหญ่ในร่างกายมนุษย์ ส่วนใจเป็นธาตุรู้อยู่ในตัว เป็นธาตุละเอียดเห็นได้ยาก ใจชอบคืดชอบเที่ยว และสามารถเปลี่ยนเรื่องคดไตัเร็วมาก เรื่องที่หนงคืดยังไม่ทันจบ เรื่องที่สองเข้ามา เรื่องที่สองยังไม่ทันจบเรื่องที่สาม สี่ ห้า หก ไล่เรียงคืว คืนไหนนอนไม่หลับคิดได้ตั้ง <9๐๐ เรื่อง แด'ไม'จบลักเรื่องหนึ่ง พอเข้าตื่นชิ้นมาหน้าตาอ่อนระโหย นึ่คือใจของเรา ใจเราควรจะเป็นสี่งแรก ที่เรารู้จัก แต่ปรากฏว่า เราชอบไปรู้จักใจคนอนมากกว่าใจตัวเอง แต่ไม่ได้ รจักใจเขาจรืงแห้แน่นอนจึงชอบมานั่งกลุ้มใจ ประ๓หรืหน้าไม่รุ้ใจ ๒. เราเกิดมาพร้อมกับความทุกข์ ทารกคลอดจากครรภมารดาร้องไห้จ้าแสดงว่าเป็นทุกข์ แต่ชาวโลก ไม่ยอมรับว่าเป็นทุกข์ แถมชอบหลอกตัวเองอีกด้วย ตั้งแต่เกิดมาไม่รู้ว่า เจอกับสารพัดทุกข์อะไร ล้าเก็บนํ้าตามาตั้งแต่เล็กไม่เป็นโอ่งแล้วหรือ www.kalyanamitra.org

' M 0๓สล แม้เฮีอกสุดท้ายจะตายก์ใม่วายทุกข์จนตาเหลือกตาค้าง นี่เป็นส์งที่เกิด กับมนุษย์ เราเกิดมาเป็นทุกข์ อยู่เป็นทุกข์ ถึงคราวตายยังเป็นทุกข์ แล้วทำไมยังไม่หาทางแก้ทุกข์กันอีก นี่คือคำถามที่พระสัมมาส้มพุทธเจ้า ถามพระองค้เองก่อนจะออกบวช ความจริงที่คนทวไปมองข์าม ๑. มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความไม่รูจ้กตนเอง • ก่อนเกิดมาจากไหน • เกิดมาทำไม • ตายแล้วจะไปไหน เพราะไม่รู้เป็าหมายชีวิต จึงใช้ชีวิตผิดพลาด ๒. มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความทุกข์ อยู่ในครรภมารดา ก็เป็นทุกข์ คลอดจากครรภ์ ก็เป็นทุกข์ จึงไค้ร้องไห้จ้า ตั้งแต่นั้นมา ก็มีเรื่องไห้เป็นทุกข์ ทุกวันจนถึงบัดนี้ ในอนาคตจะตายเมื่อไหร่ ตายที่ไหน ตายอย่างไร ขณะตายจะทุกข์ชนาดไหน ตายแล้วจะเป็นสุขหริอ ทุกข์อย่างไร ก็ไม่รู้ เพราะไม่รู้จึงกลัวตาย www.kalyanamitra.org

วามดีสากลุ:๑^ ๓. เราเกิดมาพร้อมกับความสกปรก มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความสกปรก เป็นเรื่องทั๋เราไม'อยากได้รน ไม่อยากนำขึ้นมาพจารณานต่ว่ามันเป็นความจร้ง ตอนคลอดออกจาก ครรภ์มารคาก็สกปรกไปทั้ป่ตัว ตัวเราสกปรกเพราะประกอบด้วยธาตุ ๔ ซี่งประกอบกันเป็นเซลล์ เมื่อป้จากธาตุ ๔ ไนตัวไม่บร้สุทธิ' เซลล์ไนตัว ของเราที่เกิดจากธาตุมันมีอายุไม่ยาว ทุก <รุ, นาทีมันตายไป ๓0๐-๔๐๐ ล้านเซลล์ ที่เรายังอยู่ได้เพราะว่าเซลล์มันเกิดขึ้นมาไหม่ชดเชย เซลล์เกิด ตายทุกวนาทีร่างกายจงสกปรกตลอดเวลา เมื่อกายไปสัมผัสเฝึอผา อาหาร ที่อยู่อาศัย และสิ่งต่าง ๆ สิ่งเหล่านั้นก็พลอยสกปรกไปด้วย อาหารที่จัดวาง ไว้ก่อนรับประทานเข้าไป รูปลักษณ์ กสิ่น สีสัน ดูดึหอมยวนั้าลายไปหมด เมื่อผ่านเข้าสู่ร่างกายของคนเราไม่เกิน ๒๔ ซวโมงเท่านั้น สิ่งที่ร่างกาย ขับออกมา ไม่ว่าจะอยู่ไนสถานะไหน จะเป็นแก๊ส ของเหลว ของแข็ง ล้วนไม่น่าดู ไม่น่าดมไปทั้งนั้น มีแต่ความสกปรกเป็นที่รังเกียจของทุกคน แต่มนุษย์กลับมองความจริงนี้ไม่ออก คดว่าเป็นเรื่องปกต ต่างสรรหา ของหอมมาทา มากลบความเหมีนเหล่านี้ เคึกทารกที่คลอดมาไหม่ นาทีหนึ่งเซลล์ดาย ๓๐๐-๔๐๐ ล้านเซลล์ แต่ มีเซลล์มาเกิดไหม่ชดเชย ๗๐๐-๘๐๐ ล้านเซลล์ เด็กก็เลยโตจันโตคืน แต่พอถงจัยกลางคน อายุมีเลข ๓ นำ หน้า เซลล์เกิดกับเซลล์ตายพอ ๆ กัน จะเรื่มดูไม่หล่อไม่สวย แต่ไม่ถึงกับแก่ แต่พอเลยจัยนั้นไปเรื่อยๆ เซลล์ตาย มากกว่าเซลล์เกิด ผมเริ่มหงอก หมังเริ่มเที่ยว คางเริ่มยานด้องไปดึงกัน ให้มันเด้งเท่าเดิม สิ่งที่เสิ่อมสลาย ครํ่าคร่าไปแล้ว ไม่กลับเหมีอนเดิม เขาเริยกว่า \"ชรา\" ขึ้งเรามักยอมรับกันไม่ได้ ไม่ว่าเด็ก ไม่ว่าผู้ไหญ' ไนจัยไหน ๆ ก็ตาม เซลล์ที่ตายไปหากไม่ข้าระปล่อยไห้หมักหมมสกปรก ดิดอยู่ทุกจัน มนุษย์ก็คงมีสภาพไม่ต่างกับซากศพที่ตายไป ที่ต่างกัน ก็เพียงแต่เคสิ่อนที่ได้เท่านั้น www.kalyanamitra.org

ล\"\":?;^r^ พระสัมมาส้มพุทสเจ้าทรงมองสิ่งเหล่านี้ออก. ทั้งๆ ที่เมื่อครั้งกะนั้น ยังไม่มีกล้องจุลทรรศน์ก็มองออก ทรงเหนว่า เราคือศพเคลื่อนที่ เสี้อผ้า อาหาร ยารักษาโรคที่บริโภคไซสอยพลอยสกปรกตามไปด้วย เนี้อส้ตว่ที่ กลีนก็นลงไป บังคับให้คนกลายเป็นป่าช้าเคลื่อนที่อีกเหมือนกัน ทั้งเนี้อ หมู เนี้อไก่ เนี้อปลา เนี้อส้ตว์แต่ละซนที่เรากินเข้าไปมันตายแล้ว ลื่งที่ตาย แล้วเขาเรียกว่า \"ศพ\" ที่เก็บศพเขาเรียกว่า \"ป่าซา\" เพราะฉะนั้น คนก็ตองเรียกว่า พ่อป่าซา แม่ป่าช้าเคลื่อนที่ มีใซ่หรีอ ทุกสิ่งที่ออกจากกายคนสกปรกหมด ไม่ว่าจะเป็นขี้หัว ขี้หู ขี้ตา ขี้มูก นั้าลาย เหงื่อไคล อุจจาระ ปิสสาวะ ทุกอย่างที่ออกจากตัวมนุษย์ สกปรกทั้งหมดใม่มีอะไรดี ยกเว้นความดีที่ตั้งใจทำกันทั้งแต่เกิดจนตาย แต่ละคนไม่วายเว้นทำให้โลกสกปรก แล้วทำไมไม่ริบกลั่นกายวาจาใจตน ให้สะอาด เพื่อจะได้มีเวลาไปทำความดีกับเพื่อนมนุษย์ยิ่งๆ ขี้นไป ๓. มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความสกปรก • คลอดจากครรภ์มารดาก็สกปรกทั้งตัว •ทุกนาทีเซลล'ในกายตาย ๓๐๐-๔๐๐ ล้านเซลล์ ทำ ให้ทั้งตัว เสื้อผ้า - อาหาร - บัาน - ยา - ของใช้ ด้องพลอยสกปรกจากซากเซลล์ด้วย •ทุกสิ่งที่ออกจากร่างกาย ไม่ว่าของแข็ง ของเหลว แก็ส เว้นความดี ก็มีแต่สิ่งสกปรก ทั้งสกปรก-ไม่รู้จักตน-ยังไม่พ้นทุกฃ-เอาแต่สนุก ทำ ไมไม่รีบกลั่นกาย วาจา ใจ ให้ใสสะอาด เ»ร - .; ไใ'.iร่-* www.kalyanamitra.org

^วามสี^ากล^ ๑๖^ •f. - สรุปความจริง ๓ ข้อที่เรามองข้าม (๑)เก้ดมาพร้อมกับความใม่รู้จักอะไรเลย มาเรียนรู้ทหลงทั้งสิน (๒)เกิดมาพร้อมกับความทุกข้ (๓) เกิดมาพร้อมกับความศกปรก เพราะฉะนนอย่าหลงตัวเอง ความจริง ๓ ข้อนี้ เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงคิดตั้งแต่ก่อนจะออกบวช ด้วยความร้ฝึกนึกคิดแบบนี้ พระองค์เลย ทุ่มเทเ^กตัวเองมาตามลำดับ ๆ ท้ายที่สุดจึงด้นคว้าหาความจริงจนกระทั้ง ตรัสรู้ รู้จริง เห็นจริงในสรรพธรรมและสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง พP ■*V' www.kalyanamitra.org

V- ภาค ๒ คจามจริงLรื่องฃอจำกดฃองชีวิต www.kalyanamitra.org

i www.kalyanamitra.org

'■ เ^ นอกจากความจริงตามธรรมชาติ ที่มนุษย์มักมองฃ้ามไปแล้ว ยังมีเรื่องข้อจำกัดของชีวิตหลายอย่าง ทำ ไห้มนุษย์ต้องประสบ ความยากลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวัน จนหลงลืมการแสวงหา ความจริงของชีวิตไป ความจริงเรื่องข้อจำกัดของชีวิต ประการที่ ๑ มนุษย์ยังชีพอยู่ได้ด้วยปีจจัย ๔ ปืจจัย ๔ ประกอบด้วย ,(9)เสึ่อผาเครื่องนุ่งห่ม (๒)อาหาร (๓)ที่อยู่อาสัย (๔)ยารักษาโรค ชีวิตต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้เป็นหลัก ขาดอย่างไคอย่างหนี้งอยู่ไม่ได้ สาเหตุที่ต้องทำมาหากินอยู่ทุกวันนี้ กิเพี่อจะได้เงินได้ทองมาเปลี่ยนเป็น เฝึอผ้าเครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรคหรือการรักษาพยาบาล ยามเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ เริยกว่า ปิจจัยลำหรับรองรับชีวิตของเรา หริอ ปีจจํ'ยอุดหนุนให้ชีวิตดำเนินไปได้ นี้คอวัตฤประสงคหลักที่แห้จริง ปืจจัย ๔ เป็นเครื่องยังชีพพิ๋นฐาน แต่จริงๆ แล้ว มีมากกว่านั้น เพียงแต่ว่าเป็นของที่เกี่ยวเนี้องประกอบกัน เช่น เสัอผ้า ต้องมีอุปกรณ์ตัดเย็บซ่อมแซม อุปกรณ์ลำหรับทำ ความสะอาด อุปกรณ์ซัก ตาก รีด ที่สำ หรับพับเกิบแขวน เป็นด้น อาหาร ต้องมีเครื่องครัว เครื่องปรุง อุปกรณ์สำหรับหุง อบ ต้ม นี้ง ตู้เย็นเกิบของสดของแห้ง ตู้เก็บของ ที่แขวนภาฃนะ โต๊ะมีานั้ง ถ้วยซาม ซ้อน ไนการรับประทานอาหาร อปกรณ์สำหรับล้างทำความสะอาด เป็นต้น www.kalyanamitra.org

ม^าก่ล์; ISO ที่อผู่อาศัย ต้องมีเฟอร์นเจอร์ ต้เคียง เครื่องอำนวยความสะดวก เครื่องใช้ และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็น เป็นต้น ยารักษาโรค ต้องมียากน ยาทา ยาดม อุปกรณ์ในการรักษา พยาบาลเบื้องต้น ยิ่งอายุมากอาจต้องมีรถเข็นเพมธี้นมาอีก เป็นต้น ซวิตอยู่ใด้ต้วยป็จจัย ๔ ก็จรง แต่ปิจจัย ๔ มีความน่าใคร่ น่าปรารถนา น่าอยากใต้ แฝงอยู่ในตัวของมัน เมื่อใดที่ขาดสติ ความอยากใต้เกิน ความจำเป็นจะเกิดขึ้นทันที เมื่อนั้นทีวิฅจะวุ่นวายกับการแสวงหา ทำ ให้เสียสุขภาพ เสียทรัพย์ เสียนั้ศัย เสียเวลา ศังคมเสียประใยขน์ ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย เพราะตัณหาความทะยานอยาก ของมนุษย์ที่ไม่รู้จักคำว่า \"พอ\" แลวบ่นว่าเหนื่อย เงินไม่พอใช้ บ้านซัก จะเล็กไป มีการสะสมสมบ้ติมากเกินความจำเป็น เข่น รถยนต์มีอยู่พอใช้สอยไม่อัตคัด พอเห็นรถรุ่นใหม่ออกมาราคา ไม่แพง จะขายคันเดิมไม่คุ้ม เลยซื้อมาเพมอีกจนโรงรถไม่พอจอด บางคนหนักกว่านั้น ซื้อรถนำเข้าจากนอกราคาสูงหลายสิบล้าน นั้งไต้ เพียง ๒ คน ความเร็วเท่ารถแข่งแต่ถนนเมีองไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ รถติดหนึบ วงจริงๆ ไต้ไม่ถึงครื่งของความเร็วที่บริษัทสร้างขึ้นมา ต้องเอามาวงคันบนทางด่วนตอนดึกๆ แทน จอดไว้ก็กลัวหาย ค่าบำรุง รักษาก็แพง ค่าภาษีแพงกว่านั้น เส์อผ้าที่มีอยู่ก็มากมายพออยู่แล้ว บางตัวไม่ใต้หยิบมาใช้เลย เป็นปี แต่ว่าปีนี้แฟ'ชนออกมาใหม่ก็ซื้อหามาเพิ่มอีก แต่ละคนมีต้เสื้อผ้า คันใหญ่โตหลายต้ บางคนถึงขนาดไปซื้อกล่องอัดสุญญากาศมาบรรจุ เสื้อผ้าอาภรณ์เก็บช้อนๆ คันไว้ กล่องบื้หนัาหนาวเอาไว้ไปเมีองนอก V_ .V I I .. . .. กล่องบื้หนึาฝน กล่องนี้เอาไปเที่ยวชายทะเล อันที่จริงแล้วต่างคนต่างใส่ เสื้อผ้าที่ซอบอย่เพียงไม่กี่ตัวนั้นแหละ www.kalyanamitra.org

www.kalyanamitra.org

*•ร, ■y'Y m .IT www.kalyanamitra.org

สิค^ ะ^ รอป็เท้า กระเป๋าถือ เครื่องประคับ ซึ่งเป็นความชื่นชอบของบรรดา สุภาพสตร ที่มีข้าวของเหล่านี้จำนวนมากเท่าใร ก็ใม่เคยมีคำว่า \"พอ\" เสิอนอก เสึ้อเบลเซอร์ เสัอยืด สำ หรับสุภาพบุรุษถ้าเป็นกลุ่ม ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มพนักงานห้างร้าน ทั้งซื้อเอง และเขาให้มามีจำนวนมากมายหลายสบตัว รับรองใส่ทั้งชีวิตกิใส่ไม่หมด หรอก ถ้าเกิบกวาดบ้านกันวันไหน รวบรวมเอาไปแจกคนยากคนจนเสียบ้าง จะได้บุญมากกว่าแขวนเกิบไว้เต็มตู้เสียอีก บ้านกิไม่รก บุญกิได้แน่นอน ลองสำรวจของใช้ในห้องนอนก่อน จะพบว่า มีหลายอย่างทั้งแต่ ซื้อมาไม่ได้แกะออกมาใช้เลยเป็นปีๆ ที่ซื้อมาเพราะอยากได้ของแถม บางท้ ซื้อมาเพราะมันลดราคาเกินครึ่ง ซื้อมาสะสมดุนไว้จนไม่มีที่จะนอน ห้องที่เคยใหญ่โล่งโถงสบายกิคับแคบสง เพราะด้องแบ่งพื้นที่ไปเกินสะสม ของที่ซื้อมาแต่ไม่เคยใช้ มาเกิบกองไว้ให้รกห้อง รกตู้ รกชั้นวางของ ที่สำ คัญรกรุงรังสายตา และไม่เกิดประโยชน์ใช้สอยอีกต่างหาก ประการที่ ๒ มนุษย์อายุสํน มนุษย์ปิจจุบันมีอายุสั้นมาก เวลาของชีวิตมีจำกัด รู้ไหมว่าคนเรา เรื่มแก่เมื่ออายุเท่าไร พอคลอดออกมากิเรื่มแก่ทันท้ นับถอยหลังได้ เพราะอายุคนถูกจำกัดเอาไว้เท่านี้ แต่ละวันที่ผ่านไปคอแต่ละถ้าวที่ใกล้หลุม ฝึงศพ ใกล้เมรุเผาศพเช้าใปทุกกาว ๆ เมื่อมองเห้นชีวิตชัดเจนอย่างนี้ ร้บไปบวชประเสร้ฐสุดยงเสียเวลาหา เสยเวลาเกิบ เสียเวลาใช้ปัจจัย ๔ มากเท่าใร ยิ่งเสียโอกาสในการปีกสติ ปีกสมาธเพอกำจัดกิเลส อันเป็นเหตุ ให้ทำกรรมชั้วและเพาะนลัยเสีย ประการที่ ๓ มนุษย์มักหลงผิด มนุษย์ตองการทรัพย์สมบัติมาเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต แต่อย่าเผลอ หลงผิดไป บางคน มี <5)๐ ล้านไม่พอ <?>๐๐ ล้านไม่พอ '!>,000 ล้านไม่พอ 'M: www.kalyanamitra.org

พ^ๆกลุ;^J©^- หามาแล้วทั้งชีวิตไม่ใด้ใซ้เก็บไว้อย่างนั้น ตายแล้วทั้งทรัพย์สมบ้ติไว้ มากมายไม่รู้จะเหนื่อยไปทำไมกัน แต่ล้าหากทำงานแล้วแสวงหาทรัพย์ สม'มติมาได้มาก เพราะเรามีความรู้ความสามารถ ควรแน่งสันปีนส่วน สินทรัพย์เหล่านั้น ไปทำบุญท่าทาน แน่งไปทำบุญกับพระในบานคือ พ่อแม่ก่อน ทำ บุ ญกับพระภกษุสงฆ์ตามวัดต่าง ๆ ทำ บุญแบบ สังคมสงเคราะห์ ตามโรงเรยน โรงพยาบาล คนยากไร คนด้อยโอกาส ก็ใด้ ปล่อยปลาปล่อยสัตว้ไห์เป็นอิสระรอตพ้นจากการถูกฆ่า บุญเหล่านี้ เรยกว่า \"เสบียงบุญ\" ตามติดตัวไปไม่ต้องมานั้งนบกสมบ้ติ ล้ารํ่ารวยแล้ว ต้องนำทรัพย์ไปใ'ซ้ไห์เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อบีตามารดาบุพการึ ต่อพระพุทธศาสนา ต่อสังคม และ ประเทศชาติ จิตไจย่อมจะเป็นสุฃทื่เกิดมาเป็นผู้ให้ ลดความตระหนื่ถี่เหมียว ลงไปได้ แต่ล้ามัวแต่หวงทรัพย์สมบ้ติไม่ว่าจะนั้งนอนยีนเดนจะกลายเป็น โรคจิตซมีดหนื่ง ที่เรึยกว่า \"โรคตระหนี้\" เป็นมีสัยไม่ดีติดตัวไปข้ามภพ ข้ามชาติ ประการที่ ๔ มนุษย์มีนิสัยไม่ดี มีกิเลสที่หมักหมมไว้ มนุษย์บางศนมีกิเลสซั่วที่หมักหมมไว้ติดตามตัวไปมาก เมื่อเกิด ในภพชาติใหม่ ความรู้ทั้เคยมี ความดีที่เคยทำ จะถูกลม พร้อมจะทำ กรรมชั่วในชาติใหม่ได้ง่าย ตามนิสัยชั่วที่ติดตัวไปดั้งแต่ชาตินี้ www.kalyanamitra.org

ร^^สื^;ล; V- ความจริงเรื่องข้อจำกัดของชีวิต ๑. มนุษย์ยังชีพอยู่ใดัด้วยปืจจัย มนุษย์ยังชีพอยู่ได้ด้วยปิจจัย ๔ คอ เสื้อผ้า - อาหาร - ทึ่อยู่อาศัย - ยารักษาโรค แต่ปิจจัยเหล่านี้มีความน่าใคร่น่าอยากได้แฝงอยู่ ถ้าบรัโภค ใช้สอยไม่คำนึงถึงวัตถุประสงค์แท้จริง กจะอยากได้เกนจำเป็น ตนเองย่อม วุ่นวายแสวงหา จงเสียเวลา เสียสุขภาพ เสียทรัพย์ เสียนึสํย ยังคม ก็ขาดแคลน เก็ดการเอารัดเอาเปรียบ สิงแวดล้อมก็ถูกทำลาย ๒. มนุษย์อายุสั้นนัก มนุษย์อายุสั้นนัก ยิ่งเสียเวลาแสวงหาปิจจัย ๔ ส่วนเกน ยิ่งเสีย โอกาสผ้กตัว กิเลสจึงมแต่จะเพิ่ม นึสัยมีแต่จะเสีย นับว่าเสียชาติเกิด ๓.มนุษย์มักหลงผิด มนุษย์มักหลงผิด สำ คัญเรื่องเล่นว่าเป็นจริง เรื่องจริงว่าเป็นเล่น เอาชีวิตเป็นเติมพันทำชี'ว ทำ เรื่องไร้สาระเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ - สนุก เพิ่มพูนแต่บาป แต่ทำติแบบเหยาะแหยะ สร้างบุญกุศลแบบเสียไม่ได้ ทำ ให้ชีวิตมีแต่ตกตํ่า แล้วโทษว่าบุญใม่ช่วย ๔.นิยัยไม่ติ - กิเลสที่หมักหมมไว้ นิสัยไม่ติ - กิเลสทหมักหมมไว้ แม้ตนเองตายแล้วก็ยังไม่สูญ ย่อม ตามไปรังควานต่อชาติหม้า ความรู้ที่เคยมี ความติที่เคยทำไว้แบบเหยาะแหยะ จะถูกกิเลสบดบังให้หลงลืมได้ง่าย จึงพรัอมจะทำกรรมชั่วอีกดาม นิสัยชั่วเติม ๆ ที่สั้งสมไว้ช้ามชาติ www.kalyanamitra.org

าม^กลุij? I ความจร้งจากข้อจำกัดของชีวิตทั้ง ๔ ประการนี้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่เราไม่ค่อยได้น่ามาพินิจพิจารณากันให้ตระหนักซึ้งถึงความจริง นี้เลย ทำ ไมชีวิตอยู่ได้ด้วยปิจจํย ๔ ส์งที่บีบคั้นเราตั้งแต่ยังเป็นทารกอยู่ไนครรภ์มารดา คือความหิว ความกระหาย การถ่ายของเสียออกจากร่างกาย พอเราหิว เรากระหาย เราก็เตะถึบดนรนไห้แม่รู้ว่าเราหิว ยงครรภ์แก่มากเท่าไร ตัวเราใหญ่ซึ้น เกือบสามกโลกรัม ทั้งถึบ ทั้งถอง จนห้องแม่ปูดโปนออกมาเป็นรูปข้อศอก รูปเข่า รูปเห้าเรานี้นแหละ ประเคนใส่จนกว่าคุณแม่เราจะตะเกืยกตะกาย หาอะไรมาดื่มหรือกลืนกินอะไรลงไปให้เราหายหิวจึงจะหยุดอาละวาด ยิ่งเด็กผู้ชายยิ่งแรงดีมากกว่าเด็กผู้หญิงหลายเท่านัก ที่สำ คัญอย่างน่าประหลาดใจ คืออาละวาดตรงเวลาเหมือนมี นาvfกาแขวนไวิในผนังห้อง ถาอาหารเครื่องดื่มสำเสียงเข้าไปผิดเวลาไป สัก ๕ นาทีเท่านั้นแหละ เป็นเรื่องทีเดียว เพราะความทุกข้ที่เกิดจาก ความหิวกระหายตั้งแต่ยังไม่เดียงสา สายสะดีอที่ต่อเชื่อมกันไว้ พอ คุณแม่กินคุณลูกพลอยอิ่มไปด้วย พออิ่มไปได้สักพักสบายอกสบายไจ ก็ง่วงงุนหสับพาคุณแม่ง่วงหลับพับตามไปอีก ลองสังเกตดูหญิงตั้งครรภ์หลังรับประทานอาหารกลางว้นเสรจ จะง่วงจนทนไม่ไหวต้องเผลองีบหลับ คู่มือคุณแม่ทั้งหลายจึงแนะน่าไห้ พักผ่อนหลังรับประทานอาหารกลางวันสัก ๓๐ นาที เพื่อซ่อมแซมร่างกาย เป็นการชารืจแบตเตอรี่ให้สดชื่นซึ้น พอเราดื่นซึ้นมาอาหารย่อยเสร็จ จัดแจงปส่อยของเสียฝากให้คุณแม่ช่วยกำจัดออกมาให้อีก ยิ่งครรภ์แก่ เท่าไรยิ่งหิวบ่อยเท่านั้น ร่างกายจะอ้วนอุ้ยอ้าย อุ้มทั้งนั้าหนักตัวคุณแม่ ที่เรื่มขยายสัดส่วนต่าง ๆ ทั้งนั้าหนักทารกไนครรภ์ เรื่มเกิดอาการปวดหลัง www.kalyanamitra.org

^' ■พุ.::^^':-^ ' ^ , # :๒๗ เพราะ:ขาดความสมดุลของท้องที่ยื่นลํ้าออกมา เป็นตะคริวที่ฃาเพราะ แคลเซียมถูกดึงไปใช้สร้างกระดูกให้ลูกน้อยอีกต่างหาก นเป็นแค่หนังตัวอย่างตอนเรานั่งๆ นอนๆ อยู่ในครรภ์มารดา ยัง ไม่ได้ลมตามาผจญภัยเองเลย ยังเอาแต่ใจตัวเองโดยความด้องการ พื้นฐานของซีวิตเท่านั่น พอคลอดจากครรภ์มารดา บอกได้ว่าเราเกดมาพร้อมยับความทุกข์ ทันทีที่เกิดก็ร้องไห้จ้าออกมา ตกใจแสงไฟสว่างจ้า เสิยงคนคุยยัน เสืยง เครื่องมือ อุณหภูมิหนาวร้อนไม่พอเหมาะเหมือนอยู่ไนครรภ์มารดา เดี๋ยวหิว เดี๋ยวกระหาย เดี๋ยวปวดหนัก เดี๋ยวปวดเบา มันตามบี้ตามบีบเรา อย่างนี้ ถึงได้พายันร้องไห้จ้าออกมา ถึงได้บอกว่าเราเกิดมาพร้อมยับ ความทุกข์ตั้งแต่วันเกิดจนถึงวันนี้ไม่มืเว้นว่างแม้แต่วันเดียว www.kalyanamitra.org .ะ^^'^^

พ ;เอ่๘ .i 'ร นี่คอความจริงของชีวิตที่เราจะต้องผจญ ทำ ไมหนาว เพราะขาดธาตุไฟ จึงต้องหาเสี้อผาเครื่องนุ่งห่มมาไส่ หาที่อยู่อาศัยไว้หลบฝน หลบหนาว ทำ ไมร้อน เพราะขาดธาตุลม จึงต้องหาเสี้อผ้าที่เหมาะกับฤดูกาล มาสวมใส่ หาพัด หาพัดลม หาเครื่องปรับอากาศ มาไข้ดับความร้อนอบอ้าว ทำ ไมหิว เพราะขาดธาตุคน จึงต้องหาอาหารมาใส่ปาก ใส่ท้อง ของเราดับความหิว ทำ ไมกระหาย เพราะขาดธาตุนา จึงต้องหานี่า หาเครื่องดื่ม มาดับความกระหาย ความหนาวร้อน อาการหิวกระหายมิมาก ทำ ไท้เกดธาตุแปรปรวน จึงต้องหายารักษาโรคมาบรรเทาอาการ กันเกดจากความเกนพอดที่ ร่างกายไต้รับมา เพราะฉะนั้น สภาวะของความหนาว ร้อน หิว กระหาย จึงเป็นที่มาของปัจจัย ๔ คอ เสิ้อผ้าเครื่องนุ่มห่ม บ้านที่อยู่อาศัย อาหาร/นั้า และยารักษาโรค ไม่ใช่ว่าเอาปัจจัย ๔ มาพูดเล่นกันลอยๆ ตั้งแต่เล็ก จนโดมา เราไม่ใต้ผ้กคดฟ้จารณาว่าปัจจัย ๔ เหล่านี้มิหน้าที่อะไรกันแน่ นอกจากเราไม่ค่อยไต้คดแล้ว เรายังทำตามใจดัวเองอีกต่างหาก โดยเอา ความอยากแบบไร้ขอบเขตเป็นที่ตั้ง www.kalyanamitra.org L i.. ไ

S^pSiด^ี a วัตถุประสงค์แท้จริงการใซ้ปีจจัย ๔ ป้องกัน ป้องกัน เหลอบยุง อัฅว์เลอยคลาน ลม-แดด เหลอบยุง อัตว์เลึ้อยคลาน ปกป็ดกันอาย ผันฟ้าอากาศ - ลม - แดด เพี่อทำความดได้สะดวก ■สัอผ้า ^ หนาว-รอน หิว-กระหาย ปวดอี-ปวดฉี่ ไม่ดึ่มกนเพี่อเล่นสนุก อาหาร ดื่มกินเพี่อค่ารงรวฅ ดื่มกินเพี่อหายหัว ไม่ดื่มกินเพี่อเมาพลง ยารักษาโรค'^ อิ่มแล้วไม่อีคอัด ดื่มกินเพี่อม่แรงทำความค ไม่ดื่มกินเพี่อทุ่นงาม ไม่ดื่มกินเพี่อผัวงาม ป้องกันกำจัดโรค ^ www.kalyanamitra.org

มดีสฺๆก่ล ะ (ท่๐ \\ \"ไม่อยู่เพอกน-ใช้แต่กน-ใช้เพออยู่ทำความดี'* วัฅฤประสงค์แท้จรงการใช้ปิจจัย ๔ (๑)เส์อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เวลาโปซิ้อเสิ้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เราไม่ได้นกล่วงหนาว่าจะเอา เสัอผ้าเครื่องนุ่งห่มเหล่านี๋ไปทำอะไร ไม่ได้นึกถึงวัตถุประสงค์จริงๆ ในการใช้เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มว่า จะนำมาสวมใส่เพื่อ{เองกัน •สายลมแรง แดดร้อน • เหลือบยุงรนไรไต่ตอม • สัตว์เสื้อยคลานขบกัด •ความร้อน ความหนาวของอุณหภูมิภายนอก •ปกปีดความอาย V เพราะความที่ไม่ได้คิดมาก่อนนเอง จึงเพาะนิสัยมักง่าย คิอทำอะไร ไม่ค่อยได้คิด ทำ อะไรแล้วไปไม่ถึงวัตถุประสงค์ มองลืกเช้าไปถึงด้นตอ ของปีญหาไม่เป็น ดังนั้น เราจึงซิ้อหามามากเกนความจ่าเป็น ซิ้อเพราะ ใส่แล้วสวย ใส่แล้วหล่อ ใส่แล้วดูเท่ทันสมัย ใส่แล้วดูเป็นคนในแวดวง สังคมชั้นสูง เสื้อผ้าที่ควรเปีดกลับปีด ที่ควรป็ดกลับเป็ด ควรยาวกลับสั้น www.kalyanamitra.org

•ร - ะv-^s-V-^.l-tไพ่า^'.ไ--- ควรสั้นกลับยาว เราจงต้องเหนื่อยเกํนเหตุ ตอนเราเป็นเด็กไม่ค่อยไต้นึกอะไร แต่เป็นผู้ไหญ'ขึ้นมามลูกน้อง อยู่ไนสังกัด พอสั้งลูกน้องไปทำงาน ไซ้อย่างไปทำอกอย่าง ทำ ไม เป็นอย่างนี้ เพราะตลอดชีวิต เขาถูก^กมาตั้งแต่เล็กว่าทำอะไรไม่ไต้คำนึง ถงวัตถุประสงค่ คอทำตามไจตนเอง แล้วยังชอบอางคำสโลแกนว่า \"ทำอะไรตามใจคือไทยแท้\" ทำ ไมจงมักง่ายเอาแต่ใจตัวเองขนาดนั้น ผลที่ไต้รับคือ •มีลูก ก็ไม่ไต้ลูกอย่างไจ • มีสามี ก็ไม่ไต้สามีอย่างไจ • มีภรรยา ก็ไม่ไต้ภรรยาอย่างใจ •มีลูกน้อง ก็ไม่ไต้ลูกน้องอย่างไจ จะไปโทษใคร เพราะเราทำอะไรตั้งแต่เล็กก็มีไต้คำนึงกง วัตถุประสงค์จริงๆ ของฝิงที่จะทำ นื่คือที่มาของข้อบกพร่องของตัวเอง การที่มีแม่บ้านไม่ไต้ตั้งไจ มีพ่อบ้านไมใต้ตั้งไจ เพราะทุกคนชอบตามไจ ตนเอง คนที่ถูกไจเราคือคนที่ตามไจเราใช่หริอไม่ ตังนั้น ห้ามไปโทษใคร ถาจะโทษก็ต้องโทษตัวเอง (๒)ที่อย่อากัย เวลาต้องการหาที่อยู่อาศัยจะซื้อบ้านก็ไม่ใต้นึกถึงว่าที่อยู่อาศัย เอาไวัทำอะไรบ้าง วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการมีบ้านเริอนที่อยู่อาศัยมี ตังนี้ • ป็องกันอากาศหนาว ร้อน ลม ฝน แสงแดด • ป็องกันคนมาประทุษร้ายต่อร่างกายและทรัพย์สิน • ป็องกันสัตว์และแมลงมารบกวน [ใ',:- www.kalyanamitra.org

ริ-'':'--.•โ\".. \" ---'^\"\"ic'ริ--โ-ริ■-•-\"'*^%»' •ใช้เป็นสถานที่สวดมนต์ภาวนา •ใช้เป็นสถานที่ทำงานและพักผ่อน •ใช้เป็นสถานที่ให้ตนเองและคนในครอบครัว กิน อยู่ หลับนอน แต่เวลาจะซีอหรีอฝืร้างบานพร้อมทีดินจรงๆ ๒๐-๓๐ ล้าน ใม่พอ เป็น «9๐๐ ล้านก็มี ยังใม่รวมค่าตกแต่งภายในหลากหลายสไคล้ สรรหาเพ่อร้น๊เจอร้มาใส่สุดหรู เครื่องใช้ไพ่ฟ้า เครื่องครัว เครื่องนอน เครื่องสุขภัณฑ์ อ่างอาบนาระบบนาวน แอร้ฝ็งเพดาน ทีวีขนาดใหญ่ ระบบ Digital จอ Plasma ฝ็งผนังทุกห้อง ม่านหลุยส์ ไพ่ช่อเพดาน พื้นบ้านไม้สัก บันไดโค้ง รวมไปถงโรงรถจุไค้นับสิบค้น สร้างเส!จ เข็ญคนร้จักมาร่วมทำบุญ บ้านสวยสมใจ เบากระเบ้า ถ่ายรูปเก็บไว้ เป็นที่ระลึกว่านี่แหละบ้านหรูมีระดับ คนที่อยู่สุขสบายที่สุด คือบรรดาคุณแม่บ้าน เพราะเขาอยู่กัน ทั้งวัน ยั๋งบ้านหลังใหญ่ค้องจางแม่บ้านหลายคน ป็จจุบันน่าเช้าแรงงาน www.kalyanamitra.org d.

มาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งมบริเวณมากเกิน tooo ตารางวา ต้องจ้างคนดูแลฝีวนอก อยู่กันหลายคนมีรถหลายคันต้องจ้างคนขับรถเพั๋ม พอเจ้านายออกไปทำงานลองคดดูว่า ใครจะใต้ใช้เฟอร์นิเจอร์หรู ใครจะ ไต้ใช้เคริองครวราคานับแฝีน ใครจะไต้อยู่บ้านเปีดแอร์ฟังเพลงเครื่อง ฝีเตอริโอกระหึ่มบ้าน แถมไต้ดู TV แบบคมซัดทั้งกัน ถ้าเจ้านายเผลอไป ต่อว่าเช้า ก็จะบ้อยอกน้อยใจเปรียบเทียบว่าบ้านโบ้นยังทำใต้ เพราะคน กลุ่มนี้ช้อมูลถึงกัน เดี๋ยวจะซวนกันลาออก เดอดร์อนต้องหาคนมาฉกใหม่ เสียอีก เจ้าของบ้านทั้งหลายก็เลยต้องกลํ้ากลืนฉนทนกันไป ส่วนตัวเจ้าของบ้านและคุณลูก คุณภรรยา คุณสามีทำงานเหนื่อย กลับมาถึงบ้านหมดแรง นอนพักผ่อนไต้ไมกชั่วโมง เช้าก็ต้องริบลุกไป ทำ งานหาเงินตัวเป็นเกลียวมาจ่ายค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่านา ค่ๅไฟ ค่า WiFi ค่าตัดหญ่าแต่งยิ่งไมใบไน้ ค่าอาหารสัตว์เลี้ยง ค่าอาหารสด อาหารแห้ง เงินเดือนคุณแม่บ้าน ค่าใช้จ่ายในบ้านอกฝีารพัด ยิ่งบ้านใหญ่ เท่าไหร่ค่าใช้จ่ายยิ่งเพิ่มมากขี้นเท่านั้น \"แค่คิคก็ผิดแลัว\" เราจึงต้อง เหนื่อยเกินเหตุ www.kalyanamitra.org

^ . -'N \"•- •^- ^ (๓)อาหาร เวลาเราต้องการดื่มนํ้า กินอาหาร มีวัตฤประสงค์หลักจริงๆ ดังนี้ •ไม่ไต้กินเล่นจุบจิบอร่อยลิ้น แต่ดื่มกินเพื่อให้ขีวิตดำรง อยู่ไต้ •ไม่ไต้ดื่มกินเพื่อความสนุก แต่ดื่มกินเพื่อไห้อยู่เป็นสุข เมื่อหายหิวแล้วไม่อึดอัด •ไม่ได้ดื่มกินให้เมาเพื่อพบปะลังสรรค์ สรวลเสเอฮา แต่ดื่มกินเพื่อให้ไม่ตาย •ไม่ได้ดื่มกินเพื่อให้หุ่นงาม แต่ดื่มกินเพื่อให้ร่างกาย มีเรี่ยวแรงทำความดื ไต้ปาเพ็ญเพียร •ไม่ไต้ดื่มกินเพื่อให้ผวงาม แต่ดื่มกินเพื่อระงับอาการหิว ดับอาการกระหาย พ www.kalyanamitra.org

^ไ^^ร่^?^^^ อาหารธาตุด้นทีเราเอามาไช เนื่องจากธาตุที่เราเอามาไซ้นั้น ไม่บร๊ศุทธิ้ เมื่อกลืนกินเข้าไปเลยไซ้ได้ไม่หมด มกากไยเหลือ จึงด้องเกิด การขับถ่ายของเสียออกมาเพื่ออับเอากากของธาตุที่ใม่ด้องการที่งใป yxi เก็บเอาไว้ร่างกายรับไม่ได้เดี๋ยวสุขภาพพัง การปวดอุจจาระ!]สลาวะจีงเป็ม เรื่องของการอับธาตุที่ใม่ด้องการออกมา (๔)ยารักษาโรค เวลาต้องการยารักษาโรคยามเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ฝืบาย ลมัยนั้ มีโรงพยาบาลกระจายอยู่ทุกพื้นที่ ทุกตำบล เมื่อเจ็บไข้เล็กน้อยชื้อยาจาก ร้านขายยามากิน ถาเป็นมากก็ไปโรงพยาบาล วัตฤประลงค์เพื่อ • รักษาโรคภัยไข้เจ็บที่มาเบยดเบยน •ป็องกันโรคที่จะเกิดชื้น •บรรเทาอาการของโรคไม่ไหลุกลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่ • ฝาตัดแก้ไขอวัยวะต่าง ๆ เพื่อรักษาชีวิต f ไ^ www.kalyanamitra.org

มสืสาก์ล็ V-. '■^:■รร^^ V สังคมปัจจุบัน หลายคนเก็บเงินเพื่อเข้าโรงพยา'นาลให้หมอ ศัลยกรรมเสริมฝีวยให้'อุกอย่างกสับมาเต่งตีงหุ่นดี ย้อนกสับใปเป็นหนุ่ม เป็นสาวเหมือนเดิม เซ่น เส้นผม ไม่มืตรงใหน ก็ไปขุดปลูกผม ดาเล็ก ตาขั้นเดียว ก็ไปกรีดเพิ่มเป็น ๒ ขั้น จมูก ไมโด่ง ก็ไปเหลาแกนใส่ดั้งใหม่ เพศเดิม ที่ดิดศัวมาก็โม่ยินดี จึงไปผ่าแปลงเพศเสียใหม่ ฟ้นแห้ดิๆ เกบ้างไม่มากนัก ก็ไปถอนออก เอาลวดมาครอบ ศัดฟ้นใส่สิตามสมัยนิยม บางคนก็ไปเจาะฝ็งเพชรฝึงเขี้ยวให้ยิ้นหีมัน แวบวับเข้าตา กระเพาะอาหารไข้งานได้ดี ๆ ก็ไปผ่าตัดเย็บให้เล็กลงจะได้กิน น้อย ๆ ทำ ให้ผอมหุ่นเพรียว ผวหนังตามตัวดี ๆ ก็ไปเจาะรูใส่เครีองประตับไปสักสีแดงเชียว นํ้าเงินลายพร้อยเหมือนตุ๊กแกเกาะ ใปผ่งแร่ ฝึงตะกรุดให้ผิวกายดีๆ เป็นนุ่มปมผิดแผกใปจากตอนเราเกิดขี้นมา อะไรด่อมือะไรก็ไปผ่า ไปดิง ไปเจาะ ไปใส่ จนจำกันไม่ได้ว่า รูปกายเดิมเป็นอย่างไร เรียกว่า หมอดูโหงวเย้ง พากันหมดอนาคต ยาพี้นบ้าน สมุนไพรโบราณ ก็ไม่เชื่อตองไข้ยานำเข้าจาก ต่างประเทศแพงๆ วิตามินอาหารเสริมเต็มพิกัด ไข้เงินมากมายไปชื้อหา อาหารและยาแปลกๆ ราคาแพงแสนแพงมาบำรุงบำเรอตนเอง โดยเฉพาะ เพียรพยายามแกัไขอวัยวะด่าง ๆ ทีเสิอมสภาพลงไปดามเวลาและสังชาร ให้กสับเป็นหนุ่มเป็นสาวชื้นมาใหม่ บางคนใจร้อน อยากเห็นผลเร็วก็ยอมเจึบตัวเสียเงินหองไป ศัลยกรรม ทั้งทำหน้าใหม่ เหลาคาง ทำ จมูก ทำ ตา ดิงหนัเ จนไม่มืใครจำได้ www.kalyanamitra.org

ดี๓fla ะ 0๗ แม้นต'ด่านศุลกากรยังไม่ยอมให้เธ้าประเทศบ้านเกดเมีองนอนตัวเอง เพราะทำศัลยกรรมมาแล้วหน้าตาสวยงามผดนผกไปจากเด๊ม ไม่เหมือน ภาพไนพาสปอร์ตที่เพิ่งถือออกไปไม่ถึงเดือน บางครอบครัวกลายเป็นกรณีพิพาทฟ้องร์องกัน ระหว่างสามี กับภรรยาด่างซาดืพันธุกัน เมื่อบุตรแต่ละคนโตขี้นหน้าตาไม่สวยงาม เหมือนแม่เลยสักคน กลับกลายเป็นหน้าเหลี่ยมตาเล็กไปหมด ทั้งนี้ เพราะตอนแต่งงานกันไม่ไตับอกที่ไปที่มา ให้เห็นรูปสักษณีที่แท้จริง กลายเป็นเรื่องหลอกลวงกัน สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้เกิดจากทำอะไรเกินความพอดื ไม่ได้เซ้ารับ การรักษาพยาบาลเพิ่อแกัไ'ยข้อบกพร่องที่จำเป็นต่อการดำรงปึวิต แต่เป็นการทำไปเพิ่อสนองตอบความด้องการT)องดนเองมากจนเกนไป จนลืมคดถึงวัตถุประสงคหลักของการใช้ยารักษาโรด เงินก็เสีย บางคน หน้าตาเสียโฉม ตับก็พิง ไตก็วายก่อนวัยยันควรไปมีใซ่น้อย www.kalyanamitra.org

^-.;y .•- . ^ --S • . วามสืสุาก้ล?^r;๙^- ดังนั้น วคถประสงค์จงเป็นเรื่องฟ้าคญ เมื่อถึงเวลาทำงาน มักลืมไปว่างานชิ้นที่ทำถึวัตฤประสงค์อ\"ไว ถึงคราวสังลูกน้องก็สัง ไม่ชัดเจน พอเฃามองไม่ออก ทำ ไม'ได้ดงใจก็พาลไปไครรเชา ด้งนัน วัตถประสงค์ไนการทำสิ่งต่าง ๆ ในฐานะที่อยู่กันเป็นบ้านเป็นเนือง อยู่กัน เป็นบริษัท จํงเป็นเรื่องใหญ่ในการทำงานทุกชน้ด แม้แต่การแต่งงาน ตามกฎหมายประเทศไทยกำหนดอายุชิ้นดํ่า ที่จะจดทะเบียนสมรสได้ไว้ที่หญิงชายอายุ 9Ci ปีบริบูรณ์ ชงวัตถุประสงค์ ที่แบ้จริง ของการตกลงปลงใจแต่งงานหริอจดทะเบียนสนรสหรออยู่ก็นกัน ฉันสามีภรรยาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษเป็นด้นนา เพื่อจะได้เป็นที่พื่งพาอาศัย เกื้อกูลกัน เป็นต่คิดดูแลกันยามเจ็บไขได้ป่วยจนถึงแต่เฒ่า เป็นคู่บุญร่วมกัน สร้างฐานะไห้เป็นปีกแผ่น และเป็นคู่สร้างคู่สมสร้างทายาทไว้สี'นสถุล การทถงงๆนของคนใทยอยู่ที่Tkน? ปร:!ททใกขก่าKนกอายุขนถ์าทจ:จกท:เบีย 17 ปีบริบรณํ iriirftJTOKrSoiirttrK! As I i I i* — 00 1.. MIU s •*« HI*** •■เพ ^■พเ พ• พ*'*,•> 5s.»*i Thl^'tnd ปร:inrfmo^nsulKui H ที่มา : http://whereisthailand.info www.kalyanamitra.org

s www.kalyanamitra.org

^^ว;า:มนด,ี\"ฬากร! ๔๐J ^ '' \" \" คู่ฝึามึภรรยาในสมัยปัจจุบน ไม่ได้ค่านงวัตฤประสงค์VIลัก ของการครองคู่กนมาตั้งแต่ด้น ความเดือดร้อนวุ่นวายเรื่องรักๆ ไคร่า จึงตามมาไม่รู้จักจบ ปรากฏเป็นข่าวไนหน้าหนังสอฟ้มพ์ ลังคมออนไลน้ ข่าวสดทางโทรนัศน้เกือบทุกวน ไม่ว่าจะเป็นการหงหวง การคดลัน ฆ่าตัวตาย ฆ่าสามีภรรยา ฆ่าลูก เหตุเกืดเพราะพษรักแรงแค้นทั้งนั้น ถ้าทุกคนลองพจารณาตัวของเราเองไห้ดืๆ จะเห็นความไม่น่ารัก ไนตัวมากมายมหาศาล ทั้งเป็นคนขาดระเบียบ ขีเกืยจ ไผ่รักษาความสะอาด ไซของไผ่เก็บที่ ตื่นนอนมาไผ่พับไผ่จัดทีนอน ไผ่ล้างจาน ไผ่ตรงต่อเวลา ไม่เคยช่วยงานบ้าน หงุดหงดง่าย ซอบโทษผู้อืน ซอบดืมเหล้าสูบบ,หรื ซอบนนทา พูดจาไม่ไพเราะอ่อนหวาน ไม่จริงไจ ไม่ประหยัด ไม่นอบน้อม ถ่อมตน สารพัดที่เป็นความไม่ดีของเราที่กวาดซุกซ่อนเอาไว้ได้พรม แล้วคดหรือว่าคนอนเขาจะไม่รู้ไม่เห็น ไนเมื่อตัวเราบ่มเพาะนิลัยไม่ดีอย่างนี้จนเสียนิลัยมา ๒0-๓๐ ปี แล้ว ถ้าคนที่เรารักเขา เขาจะไม่รักเราก็น่าจะลูกแล้ว ไม่ด้องไปเดือดเมือ ร้อนไจว่าอกหัก มีคนอื่นมาแย่งซิง คดง่ายๆ ว่าฆ่าตัวตายประซดชีวิตแล้ว เขาจะรู้สึกเห็นไจ ซึ่งที่จริงฆ่าตัวตายไป เขาก็ไม่เดือดร้อนอะไร เพราะเขา ไมได้รักเราหรือไปคดฆ่าเขา ฆ่าคนที่เขารัก กลายเป็นสร้างบาป ก่อเวรกรรม ต่อเนื่องไปอีกหลายภพหลายซาดี จึงควรมองภาพความจรืงของตัวเอง ไหัออก ด้องยอมรับและเร่งปรับปรุงตัวเอง เอาวิกฤดีมาเป็นโอกาส สร้างนิลัยดีไห้เกืดขึ๋'น คนดีๆ จะมองเหนและผ่านเข้ามาไนชีวิตไห้เลือก อีกมากมาย ไม่ดีกว่าหรือ www.kalyanamitra.org

«^' .\"iZ ภาค C1 สภาวะความจริงที่ต้9งพัฒนานิสัย ■^' '^.'ไ^'..*^/J^ ■m |1l^>.ฯv^ ^-\\. •r^r % www.kalyanamitra.org M

จาม^ๆก4$ r' www.kalyanamitra.org

.'4 i-'i พระสัมมาสันพุทธเจ้าตรัสรูไดั เพราะมองเข้าไปในกายของ พระองคเอง แล้วสอนให้เราเริ่มพิจารณาจากตนเองเป็นหลัก จากการมอง เข้าใปในต้วเอง จะพบว่ามนุษย์มีปีญหา ๔ อย่างนี้ เยนพกฟ้จาก เยนพกฃจาก การกระหบกระฬ่ง ความกระสับกระส่ายใน เนื่ออม่ร่ามกัน ร่างกายตน เฟ้น หนาา-รุ้อน ดงแค่ ๒ คนขี้นไป หำ -กระหาย ปาดอี-ฉี่ ๑ พกข จากสรร: หุกฃ์๔ ประจึาฟ้รด 0 พกข์จาก กิเฝืสเ!Jนเฬ6^แฬ่งพกขหง ๔ เศรษฐกิจ เนื่องจากกิเลฝึซด่ปโงโจ เยนพกฟ้จาก ใพุ้ชุ่นฟัา หำ ให'นม่รูผิคุ-ชอฆ การประกอบ ฟ้า-ดี จึงประพฤคฟ้า-ผิล การงานเลี้ยงฟ้พ หำ โหัเวีyนว่ายด่ายเกิค เยนพกขํไม่รูจบ ฟ./?/ www.kalyanamitra.org

^าเม^ากล^ ประการที่ ๑ ทุกข์จากสรีระ พระองค์ทรงสั่งใว้ว่า \"ให้พวกเธอดูแลตัวเองให้ดี เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวห้ว เดี๋ยวกระหาย เดี๋ยวปวดหนัก ปวดเบา นเป็นทุกข์ ในสรีระจากร่างกายของเราเอง ไม่มีใครช่วยเราได้ ต้องหมั่นตังเกฅ ตัวเอง ควบคุมตัวเองให้ดี จะบรรเทาทุกข์ได้พอควร\" จากพุทธดำรัสนี้เป็นการเตือนให้รู้ว่า มนุษย์ทุกคนมีทุกข์จาก ร่างกายตนเอง หากดูแลร่างกายไม่ถูกหตักวิชา สุขภาพจะเสื่อมโทรม ทุกข์ จากสรีระ จะเพิ่มขึ๋น ประการที่ ๒ ทุกข์จากการอยู่ร่วมกัน พระองค์ทรงสั่งไว้ว่า \"จงสำรวมกายให้ดี ระมัดระวังการใช้ ร่างกายให้ดี และพึงระวังวาจาให้ดี\" จากพุทธดำรัสแสดงให้รู้ว่า มนุษย์อยู่คนเดียวไม่ได้ต้องพิ่งพาอาศัย ซื่งกันและกัน หากไม่สำรวมกายวาจา ไม่ระมัดระวังตน ทำ สื่งใด เอาแต่ใจตนเอง ไม่ค่อยนึกถึงวัตถุประสงค์ที่แห้จริงของสื่งที่ทำ ทำ ให้เกด การกระทบกระทงกัน บรรพบุรุษของเรา ป่ย่าตาทวด จึงผูกกลอนสอนใจ ไว้ว่า \"อยู่คนเดียวให้ระวังความดีด อย่กับมิตรให้ระวังยั้งคาขาน\" เป็นการเตือนว่า \"มนุษย์หากไม่ระวังจะมีทุกข์จากการอยู่ร่วมกัน ในตังคม' พ. •Pi www.kalyanamitra.org

V ;• ^ - ■\"^- ' สื ลฺ ะ^^^ ประการที่ ๓ ทุกข์จากการเลี้ยงชีพ การดำรงชีวิต มนุษยส่วนใหญ่ต้องขวนขวายทำงานในอาชีพต่าง ๆ เพื่อหาปัจจัย ๔ มาหล่อเลี้ยงชีวิต และต้องทำงานให้ดีเพราะถ้าทำไม่ดี จะเหนื่อยเปล่า ภาษาปัจจุบันเรียกว่า ทุกข์จากเศรษฐกิจ คอทุกข์ จากการต้องประกอบการงานอาชีพ ถ้าไม่สำรวมระวัง ไปทำมาหากินบน ความทุกข์ยากของซาวบัาน ไปประกอบอาชีพที่บ่อนทำลายทรัพยากร ธรรมซาดี และสิ่งแวดล้อม ย่อมเกิดทุกข์ตามมาอย่างแน่นอนทั้งแก่ตนเอง และผู้อื่น ประการที่ ๔ ทุกข์จากกิเลสครอบงำ ทุกข์จากกิเลสเป็นทุกข์จากการเวียนว่ายตายเกิด เพราะกิเลส จดบังไห้เกิดความเข์าใจผด ความจรีงเรื่องโลกและชีวิตเป็นเรื่องใหญ่ มีความซ้บซอนอยู่มาก เราจงต้องมารู้จัก \"โลก\" มารู้จัก \"ชีวิต\" ให้ดี ก่อนอื่นต้องรู้จัก คำ ว่า \"คอก\"กับคำว่า \"คุก\" คอก คือที่ขังฝืตว่ ทำ ให้หมดอสระ ส่วนคุก เป็นที่ขังคนทำให้คนหมดอิสรภาพ คอกที่มี คันคอก เซ่น กรงหรีอคอกเล็กๆ ฝึตวัจะรู้ว่ามันถูกขัง แต่ถ้าเป็นคอก ที่ไม'มีคันรั้ว เซ่น ลานบ้าน ไก่และหมูที่เลี้ยงปล่อยไวัที่ลานบ้าน มันไม่รู้สิกเลยว่ามันถูกขัง แล้วจรีง ๆ มันถูกขังหรีอเปล่า มันถูกขัง แต่มันไม่รู้ตัว มันคิดว่ามันมีอิสระแต่มันถูกขังด้วยบริเวณที่กว้าง จะรู้ตัว ต่อเนื่อเวลามันถูกขังในคอกเล็กๆ หริอกรงเล็กๆ ถ้ากรงใหญ่ คอกใหญ่ มันกไม่ร้ตัว www.kalyanamitra.org

m- วามดีสากล r ๕๖ เซ้าขี้นมา ใกโด้ง ใก่แจ้ขัน เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก ประกาศความอิสระของ มันว่า มันเกดมาแสนอิสระเสรี เซ้าขึ้นมาก็ขันอย่างอิสระ ไม่มีใครจับมัน ใส่กรง มันวิ่งเล่นสบาย มีลูกหลายตัว มีตัวผู้ตัวเมียหากินปนตัน เป็นฝูง พอใกล้สงกรานตั ใกล้ตรุษจีน เช้าตังส่งเสียงขันเหมือนเดิม ตกสายกลายเป็นไก่ย่างล้มตำหรีอไกโหวเจ้าใปแล้ว นี่คือความจริง ของสิริต หมูที่ซาวบ้านเขาเลี้ยงไว้ แม่หมูพาลูกหมูวิ่งเล่นตันน่ารัก มันแสนอิสระ อยู่ลานบ้าน สายหน่อยเวิ่มหิว เจ้าของรีบเอาอาหารมาให้มันกิน ลูกมัน แย่งตันกินอร่อย มันมีอิสระ แต่พอใกล้ตรุษจีน ลูกหมูหายใปไหนหมด เรียงเสียบตันเป็นแถวในเตาย่าง บางตัววางอยู่ในจานบนโต๊ะ กลายเป็น หมูหันไปเรียบร้อยแล้ว มันจีงร้ตัวว่ามันหมดอิสระ มันมีได้มีอิสระ แต่ ความที่ลานบ้านมันกว้าง ทำ ให้ไม่ร้สีกตัวว่าถูกขังคอก เพราะคอกมีทั้ง คอกที่เห็นผนังกั้นหรีอเหินรั้วกั้น และคอกกว้างๆ ที่ใม่เห็นคันกั้น ใม่เห็น รั้วกั้น www.kalyanamitra.org

J ดีmm พ คุกก็เหมือนกัน เอาใว้ขังคนทำให้คนหมดอิสระ เคยรูโหมเมื่อก่อน คุกในประเทศไทยมืคุกประเภทไม่มีกำแพงอยู่ ๒ แห่ง แห่งหนึ่งอยู่บน เกาะสีขังเป็นคุกขังนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ อิกแห่งอยู่ทึ่เกาะตะรุเตาเป็นคุก นักโทษการเมือง มีทะเลล้อมรอบเต็มไปด้วยปลาฉลามจ์านวนมากมาย ต่อมายกเลิกไปกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ปลาฉลามก็หายไปถูกคนกิน หมดแล้ว คุกที่ทำให้คนหมดอิสระ มีทั้งประเภทมีกำแพงและไม่มีกำแพง ล้ามีกำแพงจะรูตัวว่าตดคุก ล้าไม่มีกำแพงจะรู้ตัวยาก ลองพิจารณาดูโลก ที่เราอาศัยอยู่นี๋ใม่มีใครออกได้ เกิด แก่ เจ็บ ดายอยู่ในโลก เพราะฉะนั้น \"โลกก็คือคุกนึ่เอง\" พวกเราดีดคุกอย่างไม่รู้ตัว ตังพระสมมาสมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ธุททกนกาย ธรรมบท ว่า \"ท่านทั้งหลาย จงมาดูโลกนี้อันตระการดุจราชรถ ที่พวกคนเขลาหมกอย่ แต่ผ้ร้หาขัองอยุ'ไม่\" www.kalyanamitra.org

^ามฒีเาก์ล;^:;๕^- ' '^1 เราเป็นใครเป็นนักโทษชนิดไหนชนิดที่รอวันประหารรู้ว่าตายแน่ๆ แตใม่รู้วันตาย เป็นนักโทษทั้ป่นั้นไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ท่องไปเถอะตายแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าตายเมื่อไร ตกลงเราคอนักโทษรอประหาร ส่วนโลกคีอคุกมหึมา ถ้าตายเมื่อไรจบไหม ไม่จบ เพราะตายแถ้วถ้ายังไม่หมดกเลสจะต้อง กลับมาเกิดอีก กลับมาดีดคุกอีก ไม่รู้เว้ยนว่ายตายเกิดกันมากี่รอบแล้ว เอาเป็นว่าเจอกันวันแรกแต่ละคนรู้สึกคุ้น ๆ ก็แสดงว่าดีดคุกต้วยกันมา หลายรอบ มื่คอความจริงของโลกและซว้ตที่ต้องระมัดระวัง ยุคในอดีต ป่ย่าตาทวด'ป็กสมาธิมาก ๆ พอ!!กสมาธิมากเข้า สวดมนต้ มากเข้า ซึ่งไม่ไต้เกี่ยวกับความรู้ จะอ่านหนังสึอออกหริอไม่ออก เขียน หนังสึอไต้หริอไม่ไต้ เมื่อใจนง ใจขยาย จนกระทงคลุมบ้าน คลุมวัด คลุมไปทั้งหมู่บ้าน คลุมไปทั้งตำบล คลุมไปทั้งโลก รู้เลยว่าโลกเป็นคุก ตัวเองดีดคุก แล้วจะต้องเว้ยนว่ายดายเกิดจนกว่าจะหมดโลภ โกรธ หลง ถ้ายังโลภ ยังโกรธ ยังหลง ยังทำอะไรไม่คำนึงถึงวัตฤประสงค์ ก็ไม่ไต้ออก จากคุกไปหรอก ตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลส ก็เว้ยนว่ายตายเกิดอยู่ในคุกนิ'' ยังออกไมใต้เมื่อออกใมใต้แล้วเป็นอย่างไร ก็ต้องมีทุกข้อยู่ในสริระนึ''ต่อไป ไม่รู้จบ ต้องกระทบกระทั้งกันไปไม่รู้จบ จะมีปัญหาเรื่องการงานอาชีพไป ไม่รู้จบ ถ้าใครดูแลทุกข้ ๔ อย่างนิไม่ดี จะเกิดอะไรขึ้น มนุษย์มีความจำเป็น ต้องมีปัจจัย ๔ มาหล่อเลี้ยงร่างกาย ไม่อย่างนั้นร่างกายอยู่ไม่ไต้ ต้องมี เสื้อผ้า ต้องมีอาหาร ต้อป้มีที่อยู่อาศัย ต้องมียารักษาโรค เอามาหล่อเลี้ยง เราจํงจะอยู่ไต้ คราวนี้ถ้าเลอกเสื้อผ้าไม่เป็น เลอกหาปัจจัย ๔ ไม่เป็น รักษาดูแล สุขภาพไม่เป็น จะเกิดอะไรขึ้น จะขี๋โรค เพราะเรื่องส่วนตัวเรื่มแต่ทำสกปรก ตั้งแต่ที่บ้าน เสื้อ ผ้า หน้า ผม ที่หลับที่นอน ที่ทำ งาน ข้บรถไปถึงไหน บนถนน ก็ทำ สกปรก ถ้าดูแลสรีระไม่ดี ปัจจัย ๔ ที่เอามาใช้สอยก็ดูไม่ดี กลายเป็น www.kalyanamitra.org

ร^' , _'\"v ,- - ^ .\\ - ^ สิ£^9:โ^ ไม่สำรวมกาย ไม่สำรวมวาจา ไม่fกษาสุขภาพ หา-เสืบ-tiT มักนินทา-จันฝ็ด ป๋จจัย ๔ ไม่เฃน ไม่รู้ประมาณ ไม่สำรวมกาย ย่อม^โรค มักสกปรก ไม่เคารพฬมัาฬึ่นสะนิทร ไม่เจ'กพอ ย่อมเอาเปรียน ย่อมดีแด่Vjค ๑ รโกข ๒ ทกขํ จากสรีร จากสังคม ฅ หกฃจาก ๔ ใ^กฟ ไม่สำรวมอา•ป็พ จากกิเลส อา'นิพV|จริค ผลิคอมานเ{ข มีความเฟ็นผิด ฉกฉวยทfพยากร สำ เอยง ไม่มีรมัย ปาสายนิงแวคส้อม ไม่เจริญภาวนา ย่อมประจบสอพสอ แมั'เ^คดี ๆ ดีโกรร ย่อมขอบปาสาย ผู้มฟานาจ สางผสาญ ^ ๕!^ www.kalyanamitra.org


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook