Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 62_02

62_02

Published by กศน.ตำบลบางเพรียง, 2019-05-05 00:11:52

Description: 62_02

Search

Read the Text Version

ธรรมะใกล้มือ D h a m m a & E c o l o g y ักบธรรมะ นเิ วศวทิ ยา พุทธ ทาส อบรมคณะชาวต่างประเทศ ภิกขุ

ธรรมะกบั นิเวศวทิ ยา พทุ ธทาสภกิ ขุ การบรรยาย บรรยายแกผ่ ู้ประชุมเครอื ข่ายพทุ ธศาสนกิ สัมพันธเ์ พอ่ื สังคม (INEB) วันที่แสดง ๗ มนี าคม ๒๕๓๓ รหัส ๕๒๑๕๓๓๐๓๐๗๐๐๐ ผู้ถอดเสยี ง ศภุ ารตั น์ สขุ ประดิษฐ์ ผตู้ รวจทาน อนชุ าติ ชัยพอ ISBN 978-616-7574-75-2 พิมพ์ครง้ั แรก กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๒ จำ�นวน ๑๐,๐๐๐ เลม่ จัดพมิ พ์โดย มูลนธิ หิ อจดหมายเหตุพุทธทาส อนิ ทปัญโญ พิมพท์ ี่ บริษทั พมิ พด์ ี จำ�กัด ประสงค์รับหนงั สือเพื่อใช้ในงานพธิ หี รอื เผยแผ่ในวาระต่างๆ ตดิ ต่อที่ มูลนิธหิ อจดหมายเหตพุ ทุ ธทาส อินทปญั โญ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ถนนนิคมรถไฟสาย ๒ แขวงจตุจักร เขตจตุจกั ร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ โทรศัพท ์ : ๐ ๒๙๓๖ ๒๘๐๐ ตอ่ ๕๑๐๑ โทรสาร : ๐ ๒๙๓๖ ๒๖๘๕ อีเมล : [email protected] Facebook : bookclub.bia www.bia.or.th

3

สารบัญ ธรรมะกบั นิเวศวิทยา ๗ ตณั หาคอื ตัวทำ� ลายนิเวศวิทยาทงั้ หมด ๑๑ นิเวศวทิ ยาระบบกาย ๑๕ นิเวศวทิ ยาระบบจติ ๑๘ นิเวศวิทยาระบบวญิ ญาณ (สตปิ ัญญา) ๒๒ กฎศกั ด์ิสิทธ ิ์ ๒๔ ความถูกต้องกับนิเวศวิทยา ๒๗ อ�ำนาจกับนิเวศวิทยา ๓๑ ระบบสหกรณ์กับนเิ วศวทิ ยา ๓๙ ทางออกของเรา ๔๔

ท่านสมาชกิ ผู้สนใจในนเิ วศวทิ ยาทงั้ หลาย อาตมาขอแสดงความยินดีในการที่เราได้มาประชุม หรอื พบกนั ที่นี่ด้วยวตั ถุประสงคเ์ กยี่ วกับเรือ่ ง ‘นเิ วศวทิ ยา’ โดยเฉพาะเวลานี้ เรามาพูดกันเวลาหัวรุ่งอย่างน้ีเป็นเวลา ที่เหมาะสมท่ีสุด คือเป็นเวลาท่ีน้�ำชายังไม่ล้นถ้วย จิตใจ เหมาะสมทจ่ี ะถกกนั กบั เรอ่ื งอนั ละเอยี ด เวลาทนี่ ำ�้ ชาลน้ ถว้ ย ก็เถียงกันดงั ไดย้ ินเปน็ กโิ ล เดี๋ยวน้เี รามีจติ ใจทีส่ งบ นำ�้ ชายัง ไม่ล้นถ้วย เป็นเวลาท่ีจิตพร้อมท่ีจะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องท่ี ละเอยี ด ในทางทจ่ี ะรบั เขา้ มา จติ ของเรายงั เหมอื นกระดาษ ทย่ี ังไม่ได้เขียนอะไร มนั จงึ รบั ได้ดี พระพุทธองค์ตรัสรู้เวลาอย่างน้ี เข้าใจว่าพระศาสดา องค์อน่ื ๆ ศาสนาอน่ื กน็ า่ จะมหี ลกั การอย่างน้ีเหมอื นกัน คือ ตรัสรู้ในเวลาท่ีสงบสงัดท่ีสุดของธรรมชาติ เม่ือพูดในทาง 5

สง่ ออก มนั กเ็ ปน็ เวลาทด่ี ี เปน็ เวลาทด่ี อกไมโ้ ดยมากมนั บาน แล้วกส็ ง่ กลิน่ ออก ความคดิ หรอื สตปิ ัญญาจะส่งออกมาได้ดี ทำ� งานไดด้ ี กถ็ อื วา่ เปน็ เวลาทเ่ี หมาะแลว้ ทจ่ี ะพดู กนั ถงึ เรอ่ื งน้ี ‘พระเจา้ สรา้ ง แล้วมนุษย์กท็ ำ� ลาย’ มนั มแี ต่อย่างนต้ี ลอดมา พระเจ้าสรา้ ง ไวด้ ีแลว้ มนุษย์กท็ ำ� ลายเรื่อยมา

ธรรมะกับนเิ วศวิทยา อาตมาจะกล่าวโดยหัวข้อว่า ‘ธรรมะกับนิเวศวิทยา’ ใจความส�ำคญั ท่ีจะต้องทราบกันก่อนก็คือว่า ฝ่ายจิต ธรรมะเป็นนิเวศวิทยาของจิตร้อยเปอร์เซ็นต์ โดย ธรรมชาติจัดให้และก็ได้เป็นมาโดยธรรมชาติ จิตที่มี ‘ธรรมะ’ มนั กม็ คี วามหมายของนเิ วศวทิ ยาในทางฝา่ ยจติ ทางฝา่ ยวิญญาณ มีความสด มคี วามสวย มคี วามสงบ มี ความสุข เอากันกับ ๔ ส. ก็พอ มีความสด มีความสวย มี ความสงบ มีความสุข จติ มีลักษณะอย่างนโี้ ดยธรรมชาติ ‘สด’ กห็ มายความวา่ ไมแ่ หง้ แลง้ มนั ไมแ่ ห้งแล้ง 7

‘สวย’ กห็ มายความวา่ งดงามในดา้ นจติ ดา้ นวญิ ญาณ ดา้ นธรรมะ ไมใ่ ช่สวยดว้ ยการระบายสี แลว้ มันก.็ .. ‘สงบ’ เพราะไมม่ อี ะไรกวน วเิ วก หนงึ่ ทส่ี ดุ –วเิ วกแปล วา่ หนงึ่ ทส่ี ดุ คอื ไมม่ อี ะไรกวน แลว้ กเ็ ปน็ สขุ ชนดิ สขุ เยน็ สขุ ท่ี ถกู ตอ้ งตามความหมาย เปน็ สขุ เยน็ ไมใ่ ชส่ กุ รอ้ น ถา้ กเิ ลสไม่ ไดเ้ กดิ ขน้ึ รบกวน จติ ของเรากส็ มบรู ณด์ ว้ ยนเิ วศวทิ ยาภาวะนี้ แต่พอกิเลสเกิดขน้ึ รบกวน มันกส็ ูญเสยี ไปหมด จงดูท่กี ิเลส ซ่ึงเป็นเหมือนผีร้ายเป็นมารร้ายรบกวนจิตให้สูญเสียภาวะ ปรกตขิ องจติ ฝา่ ยกาย ทีน้ีเราก็ควรจะนึกดูในข้อท่ีว่า ‘นิเวศวิทยาทางฝ่าย กาย’ ฝ่ายวัตถุ ซ่ึงเป็นภายนอกนี้ มันก็มีอาการคล้ายกัน แหละ ถ้าไมม่ ีผีบา้ มารบกวน มนั ก็จะมอี าการท่ีน่าพอใจ แต่ เดี๋ยวน้ีมันมีอะไรรบกวน ก็ใครล่ะ มนุษย์นั่นแหละรบกวน โดยไม่รู้สึกตัว มันมีกิเลสสิงมนุษย์ มนุษย์ก็ท�ำลายสิ่งท่ี ธรรมชาตสิ รา้ งมาดแี ลว้ ไดย้ ินคำ� เกา่ แก่ไม่ทราบใครพูด น่า ฟังท่ีสุดว่า ‘พระเจ้าสร้าง แล้วมนุษย์ก็ท�ำลาย’ มันมีแต่ 8

อย่างน้ีตลอดมา พระเจา้ สรา้ งไวด้ ีแล้ว มนษุ ยก์ ็ทำ� ลายเรื่อย มา หมายความวา่ ธรรมชาติใหม้ าดีแล้ว ทนี ีม้ นษุ ย์กท็ ำ� ลาย ทำ� ลาย ท�ำลาย เสียเรือ่ ยมา มูลเหตขุ องปัญหา ‘กิเลส’ เกิดออกมาแล้วก็มาท�ำลายแม้วัตถุ แม้ธาตุ วตั ถ ุ กเิ ลสตวั เดยี วกนั กเิ ลสตวั เดยี วกนั และเรยี กชอื่ ระบไุ ป ยงั กเิ ลสทชี่ อื่ วา่ ‘ตณั หา’ ทำ� ลายนเิ วศวทิ ยาภายในของจติ หมดแลว้ กอ็ อกมาทำ� ลายนเิ วศวทิ ยาทางกายทางวตั ถขุ อง คนต่อไปอีก กเิ ลสตัวเดียวกันชื่อวา่ ‘ตณั หา’ ตัณหามีเทา่ ไหร่ กท็ ำ� ลายนเิ วศวิทยามากเทา่ นั้น 9

ตณั หานั่นแหละมนั ท�ำลายนิเวศวทิ ยาหมด ทั้งทางฝ่ายจติ ทั้งฝา่ ยกาย

ตัณหาคือตัวทำ� ลายนเิ วศวิทยาทง้ั หมด เราควรจะรู้จักส่ิงท่ีเรียกว่าตัณหาน้ันให้ดีๆ คือให ้ ถูกตอ้ ง ตัณหา หมายถงึ ความอยากทโี่ ง่เขลา ความอยาก ท่ีโงเ่ ขลามาจากอวชิ ชา ตัณหา - สังกัปโป ตามศาลาวัดเขามักจะสอนกันว่า ‘ถ้าอยากแล้วเป็น ตณั หาหมด’ อยา่ งนไ้ี มไ่ หว มนั ไมถ่ กู เฉพาะทม่ี นั อยากดว้ ย ความโง่นั้นจึงจะเรยี กว่า ‘ตณั หา’ ถ้าความตอ้ งการด้วย ความฉลาด ทา่ นเรยี กกนั วา่ ‘สงั กปั โป’ สงั กปั ปะ สงั กปั ปะ นนั้ ความประสงคค์ วามต้องการด้วยอำ� นาจของสติปัญญา ตัณหามันอยากอย่างโง่ เรียกว่า desire, craving อะไรก็ตามเถิด แต่ว่าถ้ามันอยากด้วยสติปัญญามันจะต้อง 11

เรียกอย่างอืน่ เชน่ aspiration* อะไรท�ำนองนี้เปน็ ตน้ ขอ ให้ระวงั ค�ำวา่ ตัณหาๆ ไว้ใหด้ ๆี นิเวศวทิ ยา ๓ ระบบ ตัณหาน่ันแหละมันท�ำลายนิเวศวิทยาหมดทั้งทาง ฝ่ายจิตท้ังฝ่ายกาย จะแยกให้เป็น ๓ อย่าง มากกว่านั้น ก็ได้ ว่าทาง physics ทาง mental ทาง spiritual ทาง ฝ่ายกาย ทางฝ่ายจติ ทางฝ่ายวญิ ญาณ ตณั หาท�ำลายหมด แมแ้ ตเ่ ปน็ เรอ่ื งทางวตั ถใุ นปจั จบุ นั นก้ี ต็ ณั หาของมนษุ ย์ ความ อยากอันมาจากความโง่เขลาท�ำลายหมด ตัณหามีเท่าไหร่ ก็ท�ำลายนิเวศวิทยามากเท่าน้ันแหละ ถ้าตัณหามันเป็น ถึงขนาดอุตสาหกรรมแล้วมันก็ท�ำลายนิเวศวิทยากันอย่าง ขนาดอตุ สาหกรรมทีเดยี ว ระบบกาย ทางฝา่ ยวตั ถหุ รอื ทางฝา่ ยรา่ งกายนเ้ี ปน็ อนั ดบั แรก เรา หมายถงึ เรอื่ งทางกายทเ่ี นอื่ งกนั อยกู่ บั วตั ถุ แมก้ ายมนั กเ็ ปน็ วตั ถุ มวี ตั ถทุ เ่ี นอื่ งกบั กาย เรยี กวา่ ‘ระบบกาย’ เรากม็ ตี ณั หา นี้เป็นเคร่ืองทำ� ให้เกดิ ความยุ่งยากขน้ึ มา * ความทะเยอทะยาน 12

ระบบจิต ทีนี้ช้ันท่ีสอง ระดับท่ีสอง คือ ‘ระบบจิตล้วนๆ’ จิต ล้วนๆ ไม่เก่ียวกับสติปัญญา เป็นระบบ psychic หรือ mental อะไรกแ็ ลว้ แต่ เปน็ จติ ลว้ นๆ ถา้ อยา่ มตี ณั หารบกวน จิตน้ีจะมีความงามตามลักษณะของจิต จิตจะท�ำหน้าท่ี ของจิตคือการก่อให้เกิดส่ิงใหม่ ค�ำว่าจิตแปลว่าคิดนึก คือ เป็นการก่อส่ิงใหม่น่ันเอง แล้วความหมายพิเศษมีว่าวิจิตร วิจิตรคืองดงาม ถ้าอย่ามีตัณหาสกปรกเข้าไปครอบง�ำจิต จิตก็ท�ำหน้าที่อย่างถูกต้องและก็งดงาม นี้เรียกว่าระบบจิต ลว้ นๆ ยงั ไม่เกย่ี วกับสตปิ ญั ญา ก็ถกู ตัณหาท�ำลายเสีย ระบบวิญญาณ (สติปญั ญา) มาถึงระดบั ท่ีสาม คอื ‘ระบบสตปิ ัญญา’ ซง่ึ ไมท่ ราบ จะเรยี กวา่ อะไรดี อาตมาเรยี กวา่ ระบบวญิ ญาณ เพอ่ื ตรงกบั คำ� วา่ spirituality ระบบวญิ ญาณ นห้ี มายถงึ ทฏิ ฐิ ความคดิ ความเห็น ความเชอื่ อุดมคติอะไรต่างๆ มนั รวมอยู่ท่ีระบบ นี้ ถ้ามันถกู ตอ้ งมันก็วิเศษทส่ี ดุ แหละระบบสติปญั ญานี้ เมื่อ สูงสุดไปถึงสัมมาทิฏฐิ สามารถจะขจัดปัญหาทั้งปวงได้โดย สน้ิ เชงิ เดย๋ี วนตี้ ณั หากร็ บกวนและทำ� ลายแมร้ ะบบสตปิ ญั ญา สดุ ทา้ ย 13

อยากมากจนเกินความพอดี เกินความถูกต้องพอดี มันก็กลายเปน็ โทษข้ึนมาทันที มันทำ� ให้ ในบ้านเรือนของเรารก เต็มไปด้วยสง่ิ ไม่จำ� เป็น

นิเวศวทิ ยาระบบกาย ตัณหาท�ำลายระบบแรก ‘ระบบกาย’ ระบบวัตถุน่ัน คือมันท�ำให้อยาก อยากอย่างโง่เขลา แล้วมันก็อยากมาก จนเกินความพอดี เกินความถูกต้องพอดี มันก็กลายเป็น โทษขน้ึ มาทนั ที มนั ทำ� ใหใ้ นบา้ นเรอื นของเรารก เตม็ ไปดว้ ย สง่ิ ไมจ่ ำ� เปน็ ขา้ งลา่ งกเ็ ตม็ ไปดว้ ยสง่ิ ไมจ่ ำ� เปน็ บนเรอื นกเ็ ตม็ ไปด้วยสิ่งไม่จ�ำเป็น แล้วก็เป็นปัญหาเป็นภาระเป็นยุ่งยาก ระบบตอ่ สแู้ ยง่ ชงิ แขง่ ขนั กนั ในทางฝา่ ยวตั ถุ ความวนิ าศหรอื ความสงบ ความวนิ าศก็ท�ำลายความสงบฝ่ายวัตถเุ สยี สนิ้ น่ี ตณั หาทำ� ลายนเิ วศวทิ ยาฝา่ ยกาย ไปส�ำรวจดูในบ้านเรือนของท่าน ในบ้านเรือนของ 15

ท่าน มันมีส่ิงท่ีไม่จ�ำเป็นจะต้องมีสักก่ีอย่าง ท่ีจ�ำเป็นจะ ตอ้ งมแี ทๆ้ จำ� เปน็ แทๆ้ สกั กอ่ี ยา่ ง และบางบา้ นเตม็ ไปดว้ ย ส่ิงทีไ่ มจ่ �ำเปน็ อาตมาฟังวทิ ยวุ า่ ฝรงั่ เขาซือ้ กรงนกเขาชวา ท�ำอยา่ ง สุดฝีไม้ลายมอื ราคาตัง้ หม่ืน กรงนกนเี้ ปลา่ ๆ นร้ี าคาตั้งหม่ืน ผวั ซอื้ ไปกรงหนึง่ เมยี กซ็ ้ือไปกรงหนึ่ง แล้วถามว่าเอาไปทำ� อะไร เขาว่าจะเอาไปท�ำโป๊ะไฟฟ้า คดิ ดสู ิ นี่มนั จะไปเพิม่ สง่ิ ไมจ่ ำ� เปน็ ขนึ้ ในบ้านในเรือนนั้นมากน้อยเทา่ ไหร่ มันท�ำลาย ความปรกติ ความถกู ตอ้ ง ความพอดกี ันสกั เทา่ ไหร่ หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับเต็มไปด้วยโฆษณาสินค้าพรึบ ไปหมด อาตมาเอามาดู เอามาดู ค้นแล้วค้นอีกจนเวยี นหัว หาไมพ่ บสง่ิ ท่ตี ัวเองควรจะซอ้ื สักสิง่ ไม่มี นีก่ ารโฆษณาน้ัน ท�ำให้คนต้องซ้ือ แล้วก็ผลิตออกมาอย่างอุตสาหกรรม มัน จึงมีมาโฆษณากันถึงขนาดนั้น ฉะนั้นอุตสาหกรรม ระบบ อตุ สาหกรรมมนั ทำ� ลายความพอดี ความถกู ตอ้ งความพอดี ของนิเวศวทิ ยาในบา้ นเรือน คำ� วา่ ตณั หานม้ี นั มคี วามหมายกวา้ งไดถ้ งึ ๓ ทศิ ทาง คอื อยากจะได้ อยากจะไดเ้ อาวตั ถนุ น้ั มา นอ้ี ยา่ งหนงึ่ , อยากจะ 16

เป็น เป็น เปน็ เป็นอย่างน้ันเปน็ อยา่ งนี้ นก่ี อ็ ยา่ งหนงึ่ , แลว้ ก็ อยากไม่ให้เปน็ ไม่ให้มี ไมใ่ ห้ได้ นอ้ี ีกอยา่ งหนง่ึ มันเป็น ๓ อยา่ ง ดงั นน้ั มนั จงึ มที างรบกวนจติ ใจมาก จงึ มที างรบกวน จติ ใจมาก ในบ้านเรอื นของทา่ น มสี ง่ิ ท่ีไม่จ�ำเป็นจะตอ้ งมสี ักกี่อย่าง ทจ่ี �ำเปน็ จะต้องมแี ทๆ้ จ�ำเปน็ แทๆ้ สักกอ่ี ย่าง 17

นิเวศวทิ ยาระบบจิต ทนี ้ี ‘ตณั หา’ กร็ บกวนระบบจติ ระบบทส่ี อง เรยี กกนั วา่ ‘นวิ รณ’์ เปน็ เครอ่ื งรบกวน รบกวนอยา่ งย่ิง แมจ้ ะไม่ ถึงตายแตม่ ันก็รบกวนใหเ้ สียความสงบสขุ เหมอื นกับแมลง หว่ตี วั เลก็ ๆ มารบกวนท่ีตา ที่หู ทจ่ี มูก เราก็เหลือท่ีจะทน ได้ ก็บนั ดาลโทสะ นวิ รณก์ ็รบกวนจิตขนาดน้ี ไมถ่ ึงตาย แต่ กเ็ หลือประมาณ ทนไมไ่ ด้ เป็นการรบกวน ระบบจิตล้วนๆ กเ็ สยี ไป กามารมณ์ (โลภะ) นิวรณ์พวกหนึ่งพวกแรกก็มาในรูปของกามารมณ์ เกยี่ วกับกามารมณ์ ความรูส้ ึกใคร่ไปในทางกามารมณ์ เพียง แต่ความรูส้ ึกกร็ บกวนเหลือประมาณ 18

โทสะ ตัณหาอีกพวกหน่ึงรู้สึกไปในทางตรงกันข้ามคือ ไมช่ อบ ขัดใจ ไม่ต้องการ เปน็ ระบบโทสะ โมหะ ทนี ี้ก็ระบบโง่ ท�ำให้มนึ ชา ง่วงซึม หดหู่ หอ่ เหย่ี ว ตรง กันขา้ ม ฟุง้ ซ่านๆ ไมส่ งบบา้ ง ในทีส่ ดุ กส็ งสยั ๆ ลังเลในชีวติ ไปเสยี ทกุ เรอ่ื งๆ ลงั เลในชวี ติ ประจำ� วนั นกี้ ท็ ำ� ลายความสงบ สุขหมดส้นิ ไม่มีเหลอื ในทางฝ่ายจติ ล้วนๆ ตรงกันข้ามกับทางกามารมณ์ คือไม่ชอบ แล้วก็ทาง หดหู่ลดลงไป แล้วก็ทางฟุ้งซ่านขึ้นมา แล้วก็ทางสงสัยไม่ แนใ่ จ นนี่ เิ วศวทิ ยาของจติ สญู เสยี ไปหมดเลยไมม่ อี ะไรเหลอื สกั นดิ ทางบวกคือกามารมณ์ ทางลบคือไม่ชอบใจ นี้ยัง รบกวนน้อยนะ ทางโมหะทางโง่ของความเป็นบวกและ ความเป็นลบน้ันรบกวนมาก คือความสงสัยหรือความ ไมแ่ น่ใจ doubt, hesitation นน่ั แหละ มนั สงสัยและมันก็ ไมแ่ นใ่ จ จะวา่ มอี ยตู่ ลอดเวลากไ็ ด้ แตม่ นั ชนิ ชากนั ไปเสยี จน ไมร่ สู้ กึ มนั ถกู รบกวนอยดู่ ว้ ยความไมแ่ นใ่ จ ไมแ่ นใ่ จในความ 19

ปลอดภยั ไม่แน่ใจในความถกู ต้อง ไมแ่ น่ใจในชวี ติ ไม่แนใ่ จ นอี้ ย่ดู ้วยความชินชา น่รี บกวนความปรกตสิ ขุ ของจติ ไปเสยี หมด น่ขี อให้สงั เกตดใู หด้ ๆี ถงึ กบั วา่ ท�ำลาย นิเวศวทิ ยาของ จติ ถกู พังทลายลงไปด้วยนิวรณข์ ้อน้ี ความสงสัยที่เต็มส�ำนึกก็รบกวน แต่ก็ไม่เท่าไหร ่ เราเขยี่ ออกไปไดง้ า่ ยๆ แตม่ นั มคี วามสงสยั ทกี่ งึ่ สำ� นกึ semi- conscious หรือใต้ส�ำนึก subconscious น้ีตลอดเวลา แตเ่ รากไ็ มร่ ้สู กึ มนั ก็รบกวน รบกวนอย่างทีไ่ ม่รสู้ กึ แต่จิตก็ สูญเสียความเป็นปรกติ ฉะนั้นบางเวลาเราจึงไม่รู้ว่า ‘เอ๊ะ นี่ท�ำไมมันจึงไม่สบายใจ อะไรรบกวนก็ไม่รู้’ ความสงสัย ที่เป็นก่ึงส�ำนึกและใต้ส�ำนึกนั้นรบกวนเหลือประมาณ รบกวนอยู่ก้นบ้ึงของจิต ถ้าหมดความสงสัยโดยสิ้นเชิงน่ัน เป็นพระอรหันต์นะ ขอให้ทราบไว้หมดความสงสัยโดยส้ิน เชิงนัน้ เป็นพระอรหันต์ เราเอาเงนิ ไปฝากไวใ้ นธนาคารแลว้ แตเ่ รายงั อดสงสยั ไม่ได้วา่ ธนาคารอาจจะล้ม อาจจะล้มดว้ ยเหตอุ ะไร แล้วเรา จะต้องทำ� อย่างไร เราจะไดป้ ลอดภัยอย่างไร นค่ี ิดดูเถดิ มัน มีความระแวง ความสงสัย ความไม่แน่ใจหลายอย่างหลาย 20

ร้อยหลายพันอย่างท่ีมันซ่อนอยู่ใต้ส�ำนึกหรือครึ่งส�ำนึก น่ี เรียกวา่ ท�ำลายนเิ วศวิทยาของจติ ลึกถึงสดุ ทา้ ยเลย ความสงสัยความไม่แน่ใจมันก็น�ำมาซึ่งความกลัว ความกลัวมาเม่ือไหร่ มันท�ำลายความสงบสุขหมดไม่มี เหลอื แล้วเรื่องท่ีจะต้องกลัวนั้นในโลกนีม้ ากขึ้นทกุ ทนี ะ ใน โลกนยี้ งิ่ เจรญิ ทางวตั ถเุ ทา่ ไหร่ เหตใุ หเ้ กดิ ความกลวั กย็ ง่ิ มาก ขึน้ ๆ มันกก็ ลายเป็นโลกแหง่ ความกลัวไปเสีย หาความสงบ สุขไม่ได ้ นีส่ ูญเสีย สูญเสียนิเวศวทิ ยาทางจติ ยง่ิ กวา่ สิง่ ใดๆ ยิง่ กวา่ ทางวัตถทุ จี่ ะเปรยี บกนั ไมไ่ ด้ ทางบวกคอื กามารมณ์ ทางลบคอื ไมช่ อบใจ นี้ยงั รบกวนนอ้ ยนะ ทางโมหะ ทางโง่ ของความเปน็ บวกและความเปน็ ลบน้นั รบกวนมาก 21

นเิ วศวทิ ยาระบบวญิ ญาณ (สติปญั ญา) ทีน้ีก็มาถึงระบบท่ีสามหรือระดับท่ีสาม คือ ‘ทาง วญิ ญาณ’ นน้ั มนั จะต้องมีสง่ิ ทเี่ รียกว่าสมั มาทิฏฐิ ความ รู้ ความเข้าใจ ความเชื่อ ความคิดเห็นอย่างถูกต้อง เป็น สัมมาทิฏฐิ มันก็ถูกรบกวนสูญเสียไปหมดด้วยกิเลสตัณหา นี้เรียกว่าเมื่อความถูกต้องทางจิตทางวิญญาณไม่มีแล้ว ความถกู ตอ้ งทางอืน่ กส็ ญู เสียหมดไมม่ เี หลือ แต่เรากย็ งั ไม่ สามารถจะแก้ไขปญั หาน้ีได้ ต้องขอระบุลงไปตรงๆ ว่า การ ศึกษาในโลกของเรามันไม่พอท่ีจะสร้างสิ่งท่ีเรียกว่าสัมมา ทิฏฐิ เราก็สูญเสียความสงบสุขในระดับที่สามคือ ‘ทางสติ ปัญญา’ น้ีเร่ือยไป สติปัญญาของเราถูกรบกวนถูกท�ำลาย ไปถึงขนาดที่เรยี กว่าตรงกนั ข้ามจนไมเ่ ป็นสตปิ ญั ญา 22

สรปุ ความแลว้ กค็ อื เราไมม่ คี วามถูกตอ้ งในทางวตั ถุ หรือร่างกาย น้ีหน่ึง, เราไม่มีความถกู ต้องทางจติ นห้ี นึ่ง, เราไม่มีความถูกต้องทางวิญญาณหรือทางสติปัญญา น้ี หนึ่ง, ไม่มีความถูกต้องกันอยู่ครบทั้งสามทาง แล้วจะมี อะไรเหลือล่ะ ขอให้คิดดู จะพูดถึงนิเวศวิทยาส่วนไหนกัน เลา่ ถา้ มนั ไมม่ ีความถูกต้องแม้แตท่ างเดยี วในสามทางน้ี เมือ่ ความถกู ตอ้ งทางจิตทางวญิ ญาณไมม่ แี ลว้ ความถกู ตอ้ งทางอื่นก็สูญเสยี หมดไมม่ เี หลือ 23

กฎศกั ด์ิสิทธิ์ ความรแู้ ละการศกึ ษาทางวทิ ยาศาสตรไ์ ดท้ ำ� ใหเ้ กดิ คำ� พูดประโยคหนง่ึ ซ่ึงสูงสุด วเิ ศษสดุ ประเสรฐิ สดุ เป็นอมตะ ที่สุด คือประโยคท่ีว่า the fittest the survival, the fittest the survival เหมาะ สิ่งท่ีเหมาะเท่านั้นแหละ ส่ิงนนั้ จะอยคู่ อื จะรอดชีวติ , ไมเ่ หมาะ ตาย ฉะนนั้ เราจะตอ้ งสนใจถงึ คำ� วา่ เหมาะๆ เหมาะทส่ี ดุ ใน ทีน่ คี้ ือความถกู ตอ้ ง ความถูกตอ้ ง ถูกตอ้ งตามอะไร ถกู ตอ้ ง ตามกฎของอทิ ปั ปจั จยตา กฎของอทิ ปั ปจั จยตา ถกู ตอ้ งตาม กฎของอิทัปปัจจยตาจะเกิดความเหมาะสมที่สุดที่จะอยู่ รอด ฉะนั้นขอให้พิจารณาข้อน้ีกันให้มากว่า the fittest the survival 24

ภาวะ fittest, the fittest น้ัน น่ันแหละคือ มัชฌิมาปฏิปทาในพระพุทธศาสนาหรืออริยมรรคมีองค์ แปด อรยิ มรรคมอี งคแ์ ปดนั้นแหละคือ the fittest the survival ดังนั้นพุทธศาสนาจึงเป็นวิทยาศาสตร์หรือเป็น ยอดวิทยาศาสตร์ the fittest นี้ไม่ใช่ positive ไม่ใช่เป็นฝ่ายบวก, positive น้ีไม่ใช่ the fittest มันเป็นฝ่ายบ้า เดี๋ยวนี้เรา บ้าบวกกันทั้งโลก บ้า positive กันท้ังโลก เราก็ไม่พบ the fittest น่ีขอใหค้ ดิ ด ู เรายังไปหลง positive ไปหลง negative แลว้ เราไมม่ ที างจะพบ the fittest ซง่ึ เปน็ มชั ฌมิ า ปฏปิ ทา โลกของเรากำ� ลงั บา้ บวก จนใชอ้ ตุ สาหกรรมเปน็ เครอ่ื ง มอื ถา้ ขนื บา้ บวกอยา่ งน้ี คอื เจรญิ ในทางวตั ถอุ ยา่ งน้ี กน็ ำ� ไปสู่ ความวนิ าศ เพราะมนั ไมใ่ ช่ the fittest มนั ไมพ่ อดี มนั ไมถ่ กู ตอ้ ง มันไม่พอดี ขอใหค้ ิดกนั เสียใหม่ อย่าไปหลง positive อยา่ ไปหลงพ่งึ อุตสาหกรรม จงึ สร้างเหยื่อของกิเลสทั้งน้นั ธรรมชาติ ธรรมชาติ เขาจดั มาดแี ลว้ ทจ่ี ะเหมาะสม เหมาะสมอยา่ งไร แตเ่ ราละทงิ้ ธรรมชาติ ดถู กู ธรรมชาติ หมน่ิ 25

ต่อธรรมชาติ ไม่เอาตามธรรมชาติ เราก็ดัดแปลงไปตาม กเิ ลสตณั หา มนั กไ็ มพ่ บความถกู ตอ้ ง ไมพ่ บความเหมาะสม ท่ีจะรกั ษาไว้ไดซ้ ่งึ ความปรกตขิ องธรรมชาติ the fittest the survival, the fittest the survival เหมาะ ส่ิงที่เหมาะเท่าน้ันแหละ สิ่งนั้นจะอยู่ คอื จะรอดชีวติ , ไมเ่ หมาะ ตาย 26

ความถูกตอ้ งกับนิเวศวทิ ยา ขอเวลายกตัวอย่างเรื่องท่ีจะให้ความเข้าใจเร่ืองนี้ได้ ดี ทชี่ มุ พร นอ้ งชายอาตมาเขาเลีย้ งลงิ คือลงิ ประเภทลิงกัง หนา้ แดงก้นแดง หางส้นั นดิ เดยี วเอง เปน็ ลิงทด่ี ที ี่สดุ สำ� หรับ จะข้ึนมะพรา้ ว ไม่มลี งิ พันธุ์ไหนสไู้ ด้ แล้วเขาทำ� ท่ใี ห้มนั นอน อยทู่ ตี่ น้ มะพรา้ ว เปน็ ชน้ั ออกมาเทา่ นน้ั แหละ เปน็ ชนั้ ออกมา เทา่ นน้ั สำ� หรบั ลงิ ไปนงั่ บนนไ้ี ด้ ไมท่ ำ� หลงั คาให้ ไมท่ ำ� เปน็ กฏุ ิ เปน็ หลงั คาให้ อาตมาถามเขาวา่ ‘นที่ ำ� ไมทเุ รศทารณุ ตอ่ ลงิ นกั ไมท่ ำ� หลงั คาใหเ้ ขาสกั หนอ่ ย เขาจะไดก้ นั ฝน’ นอ้ งชายกห็ วั เราะๆ แลว้ บอกวา่ ‘ผมเคยทำ� หลงั คาอยา่ งนี้ แลว้ มนั ขนึ้ ไปนอนบน หลงั คาโนน่ ฝนตกมนั ยงั ขึน้ ไปอย่บู นหลังคา ฝนตกแท้ๆ มนั ข้นึ ไปอยู่บนหลงั คา’ 27

นค่ี ดิ ดเู ถดิ วา่ ความเหมาะสมของธรรมชาตนิ นั้ มนั เปน็ อยา่ งนน้ี ะ เราอยา่ เอาบวก เอาความรสู้ กึ ฝา่ ยบวกไปยดั ให้ กบั ความถูกตอ้ ง จงพจิ ารณาดูตามธรรมชาติให้ดๆี ทีนี้มาดูกันในชาดก ในคัมภีร์ชาดกทางพุทธศาสนา ของเราบา้ ง คือโพธสิ ัตว์ หมายถึงผู้ท่จี ะเป็นพระพุทธเจา้ ใน เรือ่ งชาดกก็ตอ้ งมที ุกเรือ่ ง โพธิสตั ว ์ นกตัวหนึ่งเขาหวั เราะ เยาะลงิ ฝนตกหนาว ลิงหนาวตวั ส่นั เขาหวั เราะเยาะหาวา่ ลิงโง่ ทำ� ไมไม่ท�ำรงั อยู่ เขาทำ� รงั อยู่สบาย ทีนี้ลงิ มันกบ็ อกว่า ‘โอ้ นน่ั มนั บ้า ไม่ต้องมีรงั ไม่ตอ้ งมีรัง ไมต่ อ้ งมีรัง’ ลิงโกรธ ขึน้ มาแล้วก็ฉกี รังนกหมด ฉกี รงั นกเสยี หมด นกก็เลยไมม่ ีรัง จะอยเู่ พราะวา่ ปากมนั ไมด่ นี ่ี ปากมนั ไปสอน Ecology* ใหแ้ ก่ ลิง ลิงมันไม่ตอ้ งการอยา่ งนั้น นช่ี าดก ในชาดกกย็ ังมอี ยา่ ง น้ี โพธิสตั วซ์ งึ่ เปน็ เทวดากห็ ัวเราะใหญ่ท่ีนกปากไมด่ ไี ปสอน ลิงให้ทำ� รงั น่ีเราไปสอนนเิ วศวิทยาใหแ้ กล่ งิ น้ีขอให้สนใจว่า ความถูกต้องมันอยู่ท่ีไหน ความ ถูกตอ้ งสำ� หรับลงิ น้ันมนั เปน็ อย่างไร ความถูกตอ้ งส�ำหรับ นกนนั้ มนั เปน็ อยา่ งไร แลว้ เรากจ็ ะพบวา่ ความถกู ตอ้ งของ * นิเวศวิทยา 28

มนษุ ย์นัน้ มันเป็นอยา่ งไร เดยี๋ วนเ้ี ราสรา้ งตกึ คอนกรตี ระฟา้ กนั จะเตม็ โลกอยแู่ ลว้ นีก่ ็เป็นเรือ่ งถูกต้องหรอื ไม่ถูกตอ้ ง ได้ยินเขาว่า อาตมาไม่ได้ยินจากตัวผู้พูดเอง เขาว่า มหาตมะคานธีเป็นผู้พูดว่า ‘อยู่กันอย่างระบบหมู่บ้าน village อยู่กันอย่าง village อย่าอยู่กันอย่างระบบ city คอื นคร มหานคร เราอยู่กันอย่างหมู่บ้าน อยา่ อยู่กนั อย่าง มหานคร เราจะไมม่ ีปัญหาเร่อื งนเิ วศวิทยา’ เราผ่านระบบ หมบู่ า้ นมาไกลแลว้ ใครจะกลบั ยอ้ นกลบั ไปหาระบบหมบู่ า้ น กนั ไหวละ่ นี่ระบบนคร ระบบมหานคร บรมมหานครมัน เข้ามานี่ ใครเคยคิดจะไปหาระบบหมู่บ้าน จะคิดไหวไหม จะกลบั ไปไหวไหม ลองคิดด ู เราก็เผชิญกับปัญหามหาศาลเกี่ยวกับนิเวศวิทยา ไหนๆ เรากท็ งิ้ ระบบหมบู่ า้ นมาจนเปน็ ระบบมหานครแลว้ เราก็ต้องยินดีเผชิญหน้ากับปัญหาอันมหาศาลปัญหาอัน ใหญห่ ลวงเกีย่ วกับนเิ วศวทิ ยาระบบมหานคร แต่อาตมา เชื่อว่าถึงอย่างไรก็ตามเถิด มันท้ิงระบบของธรรมชาติไป ไม่ได้ ขอให้หันไปหาระบบธรรมชาติคือความถูกต้องๆ 29

พอดๆี ถกู ต้องต่อกฎอทิ ปั ปัจจยตา เอาตัวอย่างเร่อื งลงิ กับ เร่ืองนกน้ันมาเป็นอุปมา แล้วก็แสวงหาความถูกต้องของ ระบบนิเวศวิทยาในระบบมหานครให้จนได้ มันก็คงจะมี ทางเหมือนกนั แหละ อยา่ เอาบวก เอาความรู้สกึ ฝ่ายบวก ไปยดั ใหก้ บั ความถกู ต้อง จงพิจารณา ดูตามธรรมชาติให้ดีๆ 30

อำ� นาจกบั นิเวศวิทยา ทีนี้มันก็มาถึงปัญหาใหญ่อีกอันหน่ึงคือเก่ียวกับ ‘อ�ำนาจ’ เราจะมีอ�ำนาจอะไรมาบังคับให้ช่วยกันจัดระบบ นเิ วศวิทยานใ้ี ห้มันถกู ตอ้ ง ยิ่งเราเปน็ ประชาธปิ ไตยแลว้ เรา จะใชอ้ ำ� นาจอะไรมาบงั คบั มันจำ� เปน็ มนุษย์ปุถุชนมนษุ ย์ ธรรมดาสามัญมันมีกิเลสตัณหา ถ้าไม่มีอะไรบังคับมันก็ ไม่เอาอีก ต้องบังคับแม้แต่ให้ช่วยเหลือตัวเอง บังคับให้ ชว่ ยตัวเอง มนั นา่ หัวเราะนา่ สงสาร มนั ไมช่ ว่ ยแมแ้ ตต่ ัวเอง น่ีปัญหามันอยู่ที่อ�ำนาจ เราจะใช้อ�ำนาจอะไรบังคับ เม่ือ เรามีอ�ำนาจทางอาชญา เราก็ใช้อ�ำนาจทางท�ำความเข้าใจ เกล้ียกล่อมกันเหมือนที่ท่านทั้งหลายมาประชุมกันที่นี่ เรา จะแสวงหาอ�ำนาจความเข้าใจถูกต้องระหว่างกันและกัน 31

แล้วเราอาจจะได้ใช้อ�ำนาจน้ีบังคับ จึงขออนุโมทนาด้วยท่ี พยายามแสวงหาความเขา้ ใจอนั ถกู ตอ้ งแลว้ มาชว่ ยกนั ดำ� เนนิ กิจการอนั นี้ ขอ้ นที้ ำ� ใหค้ วามคดิ ยอ้ นกลบั ไปหาประโยชนอ์ ะไรบาง อย่างของระบบราชาธิปไตย ระบบราชาธิปไตย แต่ไม่ใช่ ระบบทุรราชย์นะ ระบบราชาธิปไตยที่ถูกต้องก็มีอ�ำนาจ บงั คบั เชน่ พระเจา้ อโศกเป็นตวั อย่าง บังคบั ใช้ บงั คับเฉยี บ ขาด แตล่ ะบ้านตอ้ งปลูกต้นมะม่วง ตอ้ งปลกู ต้นพกิ ุล พิกุล ดอกหอม ต้องปลูกขนุน คือว่าปลูกทั้งไม้อาหารและไม้ที่ ท�ำให้งดงาม แล้วก็ขอร้องเร่ืองว่าไม่ท�ำลายสัตว์ พระเจ้า อโศกตอ่ รองวา่ แมใ้ นวงั ในราชวงั นี้ วนั หนงึ่ ฆา่ นกยงู เพยี งตวั เดียว ฆ่านกยูงเพยี งตัวเดยี วเทา่ นน้ั เพอ่ื เหน็ แก่สตั ว์ ฉะน้ัน ขอทา่ นท้งั หลายอย่าทำ� ลายชวี ติ สตั ว์ นีอ่ ะไรทำ� นองอยา่ งน้ี หลายๆ อยา่ งปรากฏอยู่ในจารกึ พระเจ้าอโศก แตถ่ งึ อยา่ งไรกด็ กี ย็ งั ไมพ่ น้ ทจี่ ะพยายามหาความเขา้ ใจ ถกู ตอ้ ง ความไมบ่ งั คบั คอื การเกลยี้ กลอ่ มใหป้ ระชาชนมจี ติ ใจ ดี เช่ือกันว่าจารึกตามภูเขาสร้างเพ่ือจะน้อมใจประชาชน อาตมาค้นคว้าดูเพื่อจะหามาท�ำภาพตัวอย่างหินสลักนี้ พบ 32

ว่าเวสสันดรชาดก เวสสันดรชาดก ถูกน�ำมาจารึกมาสลัก หน้าผานนั้ มากทส่ี ดุ อาศัยเวสสันดรชาดกนอ้ มน�ำจติ ใจของ ประชาชนให้เป็นไปในทางเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือเสียสละ นี่ ระบบราชาธิปไตยแล้วก็ยังไม่พ้นที่จะต้องมีระบบใช้ความ รัก ความทำ� ความเข้าใจ ความสมัครใจ นอี่ �ำนาจ อำ� นาจ จะต้องมีมาท้ังอ�ำนาจอาชญาและอ�ำนาจความรัก ความ พอใจ ความสมคั รใจ ปัญหาเรือ่ งอำ� นาจ ในวงั น่ีจะมีการ ฆา่ นกยงู ไดว้ นั หนง่ึ เพยี งตวั เดยี ว เขาใหท้ ำ� ลายชวี ติ สตั วน์ อ้ ย ทีส่ ดุ คนอืน่ ไมต่ อ้ งฆา่ หรอื ไมต่ อ้ งฆา่ สตั ว์ ต่อรองวา่ แมใ้ นวัง อันมหาศาลกฆ็ ่านกยงู ได้ตัวเดยี ว ทีนใี้ กล้ๆ เรา ส้นั ๆ รชั กาลที่ ๕ ยังเป็นระบบราชาธปิ - ไตย เร่ืองพระยารัษฎาฯ* เป็นจีน ได้รับการแต่งตั้งจาก พระราชาให้เป็นสมุหเทศาภิบาล ก็ยังใช้ระบบที่น่าดูอยู่ คือบังคับนี้ พระยารัษฎาฯ เป็นเร่ืองท่ีไม่ควรลืม จ�ำๆ ไว ้ พระยารัษฎาฯ จะบังคับประชาชนว่า ‘น่ี ไปดูแล้ว ท่ีทาง อยา่ งน้ี แกตอ้ งปลกู ออ้ ยกกี่ อ ปลกู มะละกอกตี่ น้ เลยี้ งไกก่ ต่ี วั เลย้ี งหมกู ต่ี วั ’ บงั คบั ชดั เลย ใหท้ ำ� เดยี๋ ววนั หลงั มาด ู วนั หลงั * พระยารษั ฎานปุ ระดิษฐม์ หศิ รภกั ดี (คอซมิ บ๊ี ณ ระนอง) 33

มาดู เอา้ ไมไ่ ดท้ ำ� บางอยา่ งไมท่ ำ� กต็ หี วั ดว้ ยกลอ้ ง กลอ้ งยาว กลอ้ งสบู ยาแดง ตหี วั ตหี วั แตกเลย นมี่ นั กเ็ รยี บรอ้ ยหมดเลย แล้วคนหนึ่งก็บอกว่า ‘โอ้ นี่ผมจะขุดอย่างไร น้ีมัน ปลวกนี่ มนั ศักดิ์สิทธน์ิ ี่ ผมจะขดุ ดินตรงนไี้ ด้อย่างไร’ เอา้ ไม่ตอ้ งๆ กูขึน้ ไปเย่ียว กูขน้ึ ไปเยี่ยว เย่ยี วรดๆๆ แล้วมงึ ขดุ เด๋ยี วนีๆ้ นี่เอากบั ราชาธปิ ไตยส ิ อำ� นาจบังคบั อย่างน้ีมัน กย็ ังมปี ระโยชน์อยู่นะ เพราะฉะนน้ั เรากอ็ ย่าลืมเสียทีเดยี ว แต่เอาละ เม่ือเราทำ� ไม่ได้ในระบบประชาธปิ ไตย ก็ทำ� ความ เข้าใจมาท�ำความเข้าใจกันให้ดีในระหว่างมนุษย์เถิด มันก็ คงจะแกป้ ัญหานเิ วศวิทยาไดไ้ มน่ อ้ ยเหมอื นกนั แหละ ไหนๆ เล่าแล้ว ก็เล่าไปอีกเร่ืองให้หมด มันเร่ือง เผดจ็ การของพระยารษั ฎาฯ กำ� ลงั ประชมุ กนั อยู่ ผใู้ หญบ่ า้ น หรือข้าราชการ เขาเอาโทรเลขมาสง่ เจ้าหนา้ ทเ่ี อาโทรเลข มาส่ง ฉีกแล้วอ่านทนี่ ี่ ไม่รหู้ นังสือไทยนี่ อ่านเอาหวั ลง ถือ โทรเลขอ่านเอาหัวลงแล้วก็อ่าน ไอ้คนน้ันมันโง่ มันปากไว นน่ั หวั ลงครบั หวั ลงครบั กอู า่ นได้ เอากลอ้ งยาวฟาดหวั เลย หวั ลงกกู อ็ า่ นได้ นเ่ี รยี กวา่ มนั ... บางทมี นั กจ็ ะตอ้ งมอี ำ� นาจมี อะไรพอทจี่ ะบนั ดาลสิง่ ตา่ งๆ ใหเ้ ป็นไปได้ อย่าลมื อย่าลมื 34

เสยี ทีเดียว อย่าลืมเสยี ทเี ดียว เอาละ มาพูดกันเร่ืองท�ำความเข้าใจระหว่างกันและ กนั หาอำ� นาจมาปฏวิ ตั นิ เิ วศวทิ ยาใหจ้ นได้ เราจะเอาอำ� นาจ อย่างนั้นมาจากไหนอีกต่อไปแล้วในโลกปัจจุบันน้ี แต่ก็น่า จะค�ำนวณดูบา้ ง ค�ำนวณดูก็แลว้ กนั วา่ ถ้ามันมีอำ� นาจอันนี้ มนั จะงา่ ยสกั เทา่ ไหร่ มนั จะเปน็ ไปไดส้ กั เทา่ ไหร่ ฉะนนั้ เรา อยา่ ไดบ้ า้ หลงประชาธิปไตยใหม้ นั มากไปนกั ขอใหน้ ึกถึง อ�ำนาจท่ีต้องมีใช้ส�ำหรับปุถุชนคนโง่เขลากันบ้าง คนโง่ เขลายงั ตอ้ งใช้อำ� นาจอย่างน้ ี ที่พุมเรียง ต�ำบลพุมเรียง ไปจากน้ีสิบกิโล ไปทาง ชายทะเล มอี นสุ าวรยี เ์ หลอื อยคู่ อื โบสถแ์ บบมาตรฐาน แบบ ชน้ั ดชี นั้ เลศิ อยา่ งทสี่ รา้ งกนั ในกรงุ เทพฯ แบบมาตรฐานและ ก็ใหญ่โตที่สุด ซ่ึงธรรมดาต้องสร้างสามปีแหละ ต้องสร้าง สามปี ทพ่ี ุมเรียง เจา้ พระยาอะไร... บนุ นาค* ที่เปน็ เหมอื น กับผู้มีอ�ำนาจทางภาคใต้นั้น เขาสร้าง ๓ เดือน ไปดูส ิ น่าจะไปดู มันสร้าง ๓ เดือนส�ำหรบั โบสถ์ท่เี ขาสรา้ งกัน ๓ ปี นี้ก็ประโยชน์ของอ�ำนาจของเผด็จการของราชาธิปไตย * สมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาประยรู วงศ์ (ดศิ บุนนาค) 35

ก็อย่าลืมเสียทีเดียว หาโอกาสใช้กันบ้างกับประชาชนช้ันที่ โงเ่ ขลา แตเ่ อาละ เราไมเ่ อาแลว้ หาทางออกไปตายดาบหนา้ ไปหาความรกั ความเขา้ ใจซง่ึ กนั และกนั มาแกไ้ ขปญั หานเ้ี อา เลิกๆๆๆ เลกิ ห่วงเผดจ็ การไปหาประชาธิปไตยกนั ตอ่ ไป แตก่ น็ า่ แปลกทว่ี า่ เผดจ็ การหรอื ราชาธปิ ไตยนนั้ สรา้ ง โบสถห์ ลงั นนั้ แหละ เขาไม่ไดม้ กี ารฆา่ ใครแมแ้ ตส่ ักคนเดยี ว เม่ืออาตมายังเด็กๆ ยังหนุ่มๆ ก่อนบวช ยังหนุ่มน้ันยังทัน เหน็ คนสดุ ทา้ ยคนหนงึ่ ทถ่ี กู ลงโทษชอ่ื ตานดุ ใหด้ ทู หี่ ลงั มรี อย แฉกๆ สองสามรอย อยา่ งมากกเ็ พยี งเฆยี่ นหลงั เทา่ นนั้ แหละ แลว้ กไ็ มก่ ค่ี นหรอก ไมม่ ใี ครฆา่ ใครใหต้ ายเลย แลว้ กไ็ มก่ คี่ นที่ ถกู เฆยี่ นหลงั กน็ ริ มติ โบสถห์ ลงั นน้ั เสรจ็ วดั นนั้ ถกู เปลย่ี นชอ่ื จากวัดเดิมมาเปน็ วดั สมุหนริ มติ สมหุ ะ- พระคลัง+นริ มติ ก็ นา่ พจิ ารณาวา่ แมจ้ ะใชร้ ะบบเผดจ็ การกไ็ มต่ อ้ งฆา่ ใครหรอก มนั ทำ� ดว้ ยความศรทั ธา ทกุ คนมารว่ มศรทั ธา เพราะมนั สรา้ ง โบสถน์ ี่ ถงึ แมจ้ ะถกู เกณฑม์ ามนั กย็ งั มศี รทั ธาอยสู่ ว่ นหนงึ่ มนั ก็สร้างกนั ได้ เสร็จภายในสามเดอื นแทนสามปี แม้ในจิตใจของเขาก็ยังมีระบบนิเวศวิทยาอยู่มาก คณะใหญข่ องเจา้ อาวาสนนั้ สรา้ งลอ้ มเปน็ วงอยู่ แตต่ รงกลาง 36

เปน็ ทวี่ า่ ง ปลกู สม้ เตม็ ไปหมด ทางคณะนนั้ ปลกู ตน้ สม้ คลา้ ย กบั สวนสม้ เรายงั ทนั เหน็ ทำ� จำ� ลอง ไปเอาหนิ มาจากทะเลมา จำ� ลองเปน็ ธรรมชาติ เปน็ ถำ�้ ตามธรรมชาตเิ พอื่ ใหน้ งั่ วปิ สั สนา ไปจำ� ลองทำ� ถำ�้ นงั่ วปิ สั สนา เอาหนิ มามากมาย แลว้ หนิ ชนวน แผน่ ใหญย่ าวตงั้ สามเมตรดว้ ย นนั่ แหละเปน็ แทน่ นงั่ วปิ สั สนา รกั นเิ วศวทิ ยา วัดน้ีได้รวบรวมมะม่วงทุกชนิดมาปลูกไว้ เป็น พิพิธภัณฑ์เลย และดอกจ�ำปาทุกชนิด ซึ่งท่านคงจะไม่เคย เห็นคือดอกจ�ำปาสีครั่ง ม่วงๆ สีม่วงสดเลย อาตมายังทัน เห็นเป็นบุญตาว่าดอกจ�ำปาก็มีสีม่วง มันไปเอามาทุกชนิด ของดอกจำ� ปา จำ� ปไี มต่ อ้ งพดู แลว้ ทำ� สระใหญ่ ไปเอาเตา่ มา จากสงขลาโนน่ มาปลอ่ ยไวใ้ นสระน้ี อาตมาตอ้ งไปเสมอ เปน็ เดก็ ๆ ชอบไปดเู ตา่ คนทกี่ ลา้ หนอ่ ยกล็ งไปขห่ี ลงั กไ็ ด้ จดั ตน้ ไม้ ตน้ กรรณกิ ารน์ เ้ี ตม็ ไปหมด บางทจี ะเปน็ ตน้ กรรณกิ ารแ์ รกท่ี นำ� มาสู่เมืองไชยา ดอกไมเ้ หล่านีส้ ารพดั อยา่ ง เพราะฉะนนั้ ในหัวใจผู้ที่นิยมเผด็จการนั้นมันก็ยังมีความรักธรรมชาติ มี นิเวศวิทยาอยู่มากเหมือนกัน อย่าแยกขาดกันเสียทีเดียว อย่ารังเกียจเลย สรุปแล้ว วัดน้ีก็เป็นสวรรค์ สวรรค์หรือ 37

วนอทุ ยานของเด็กๆ ไปตามมีตามเกิด เดก็ ๆ จะหนีไปเล่น ที่วดั นัน้ แทนไปวัดอื่น เปน็ สวรรคข์ องเดก็ ๆ วดั น้ี ฉะน้ันขอให้นึกถึงประโยชน์หรือว่าความจ�ำเป็นของ เผดจ็ การ จงึ ขอยกเวน้ วา่ ภายในครอบครวั รว้ั บา้ นของเรา ถา้ เรายังจะใช้เผด็จการได้บ้างก็จะดี ในครอบครัวรั้วบ้านของ เราน้ันขอให้ใชเ้ ผดจ็ การตามส่วนเถิด สิง่ ของวัตถบุ คุ คล ถา้ เผด็จการได้ ใหม้ ีความถกู ตอ้ งเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยภายใน บ้านเรือนของเรา ถ้าเราท�ำนอกบ้านไม่ได้ ก็ควรจะน�ำมา ใช้บ้างในครอบครัวของเรา มันก็มีประโยชน์นะ ไม่ใช่ไม่มี ประโยชน์ ระบบการใชอ้ าชญาน ี้ ไมม่ ีลูกจา้ ง ไม่มีนายจ้าง ไม่มนี ายทนุ ไม่มีชนกรรมาชีพ มแี ตเ่ พ่อื นเกิด เพ่อื นแก่ เพื่อนเจบ็ เพือ่ นตาย เปน็ ระบบสหกรณ์ใหญ่ ชว่ ยกนั สร้างโลกนใ้ี หง้ ดงาม 38

ระบบสหกรณ์กบั นิเวศวทิ ยา เวลาทเ่ี หลอื อยนู่ อ้ ยนกี้ จ็ ะขอพดู สกั คำ� หนง่ึ วา่ เอาเรอ่ื ง อาชญาบงั คบั เผดจ็ การไปไวเ้ สยี อกี ฝา่ ยเถดิ มาพดู กนั ถงึ เรอื่ ง ระบบ ‘เพ่ือนเกดิ แก่ เจบ็ ตาย’ เราเป็นมนษุ ย์น้ีเปน็ เพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ช่วยกันสร้างโลกให้งดงาม มาพูดถึง ในแงน่ ้กี นั สักที ลกู จ้าง เสมียน พนกั งาน คนงานของบรษิ ัท โอเรียนเต็ล โฮเต็ล ของบี. กริม เขามากันที่น่ีเสมอ ขอให้ บรรยายธรรมะ อาตมาก็ยกเรอื่ งน้ีเปน็ เรือ่ งใหญ่วา่ ‘เรามา ยึดหลักว่าเราเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย แม้แก่นายจ้าง ของเรา’ เราเปน็ เพอ่ื นเกดิ แก่ เจบ็ ตาย เราเปน็ สหกรณก์ บั นายจา้ งของเรา สรา้ งโลกนใี้ หง้ ดงาม เราไมเ่ ปน็ ลกู จา้ ง เรา ไม่ถอื วา่ ค่าจ้าง เราถอื ว่าคา่ ใช้สอย นายจา้ งเขาให้เราเป็น 39

คา่ ใชส้ อยสำ� หรบั มารว่ มมอื กนั สรา้ งโลกนใี้ หง้ ดงาม ไมต่ อ้ ง พดู ลูกจา้ ง นายจา้ ง ไมม่ ๆี มีแต่เพื่อนเกิด แก่ เจบ็ ตาย นี่ เราจะสร้างนิเวศวิทยาได้น่าดู เพราะเราท�ำกันอย่างเพื่อน เกิด แก่ เจบ็ ตาย ถ้าเรายังมีระบบนายจ้าง-ลูกจ้าง นายจ้าง-ลูกจ้าง นายทุน-ชนกรรมาชีพ นายทุน-ชนกรรมาชีพ เราก็ต้อง ทะเลาะกันเร่ือยไป เราจะต้องทะเลาะกันเรื่อยไป เราจะมี เวลาไหนมาจัดระบบนเิ วศวิทยา เลิก เลกิ เลกิ ไมม่ ีลูกจ้าง ไมม่ นี ายจา้ ง ไมม่ นี ายทนุ ไมม่ ชี นกรรมาชพี มแี ตเ่ พอื่ นเกดิ เพอื่ นแก่ เพอ่ื นเจบ็ เพอ่ื นตาย เปน็ ระบบสหกรณใ์ หญช่ ว่ ย กันสร้างโลกนี้ให้งดงาม เราจะคิดอย่างน้ี นายจ้างจะคิด อยา่ งไรก็ตามใจ ช่างหัวนายจ้าง ฉันไม่เปน็ ลกู จา้ ง แตว่ า่ ฉัน กจ็ ะเปน็ เพอื่ นสรา้ งโลกนใ้ี หง้ ดงาม เงนิ ทใ่ี หม้ าเปน็ คา่ ใชส้ อย ไม่ใช่ค่าจา้ ง เราลกู จา้ งคิดอยา่ งน้ี นายจ้างจะคดิ อย่างไรก็ ชา่ งหวั นายจา้ ง ระบบสหกรณ์ เราต้องบูชาระบบสหกรณ์ ดูสิ จักรวาล cosmic 40

cosmos ทงั้ จกั รวาลนม้ี นั อยกู่ นั อยา่ งสหกรณ์ ระหวา่ งดวง อาทติ ย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ดวงอะไรตา่ งๆ โลกจักรวาล ท้ังหมดมันอยู่กันอย่างสหกรณ์ มันเนื่องกันและกัน มัน สมั พันธก์ นั และกนั มันจึงอยูไ่ ด้ ทีน้ีในโลก โลกเดียวนี้ มันต้องมีการอยู่กันอย่าง สหกรณ์กับมนุษย์ กับสัตว์เดรัจฉาน กับต้นไม้ต้นไล่ กับ แผน่ ดิน มนั อยกู่ นั อย่างประสานงานเป็นสหกรณ์ ร่างกายนี้ ทุกส่วนแห่งอวัยวะ มันท�ำงานกันอย่าง สหกรณ์ มอื ตีน แขน ขา มนั ทำ� งานอย่างสหกรณ์ ชีวิตจงึ รอดได้ ขอให้ระบบสหกรณ์กลับมาในฐานะเป็นระบบเพ่ือน เกิด เพื่อนแก่ เพ่ือนเจ็บ เพ่ือนตายกันเถิด เราจะมีเวลา สรา้ งสรรคน์ เิ วศวทิ ยาใหด้ ีท่สี ดุ นกกับต้นไมน้ สี้ หกรณ์ อาตมาน่ังดูแตล่ ะวนั ๆ นกกนิ หนอนไม่รู้กี่ร้อย กพ่ี ัน ก่ีหม่นื ก่แี สน เพยี งแค่ไม่มนี ก ตน้ ไม้ กอ็ ยไู่ มไ่ ด้ ตายหมด ระบบสหกรณม์ นั ชว่ ยกนั อยา่ งน ี้ ฉะนนั้ ขอให้นกึ ถงึ ใจความ ความหมายของคำ� ว่าสหกรณ์ เราตอ้ ง อยูก่ ันอยา่ งสหกรณ์ ไม่มีสหกรณ์เรากต็ ายกันหมด 41

เมื่อเราแรกมาอยู่ทีน่ ่ใี หม่ๆ เราไมม่ ไี ก่นะ ได้รบั ความ ล�ำบากท่ีสุด กลางคืนเราจะลงมาเดินไม่ได้เหมือนอย่างท่ี ท่านมาเดินน้ี มันมีปลวกชนิดหนึ่งซึ่งท่านจะไม่เคยเห็นจะ ไม่รู้จัก มันเป็นปลวกตัวใหญ่ ยาวสักเกือบเซนหนึ่ง แล้วก็ ปากแขง็ นก่ี ดั แลว้ เลอื ดไหลต้บุ ๆ ได้แผลเลย นปี่ ลวกอยา่ ง นอี้ ยู่เต็มไปหมด ลงมาเดนิ กลางคืนไม่ได้ แล้วมันก็จะรีบลง รหู นลี งไปก่อนสว่าง ท่ีเหลอื อย่กู ม็ ี พอมไี ก่แล้ว ไมม่ ปี ัญหา ไมม่ ีปัญหาเรื่องปลวก มนั หายไปเอง นีส่ หกรณ์ เราอย่ดู ว้ ย ไก่ มีไกเ่ ปน็ สหกรณ์ สามารถท่ีจะเดินไดโ้ ดยไมถ่ กู ปลวกกัด เด๋ียวน้ีก็ยังมี ถ้าจอมปลวกอันไหนท่ีสูงสามสี่เมตร วงรอบ หลายๆ เมตร นน่ั คอื ปลวกชนดิ นี้ ตรงนน้ั กม็ อี ยอู่ นั ตรงโนน้ ก็ มอี ยอู่ นั แตไ่ มก่ ลา้ ออกมา ไมก่ ลา้ ออกมา จะออกมาแตเ่ วลา ท่ีไม่มคี น นี่สหกรณข์ องไก่ ข้าศึกของสหกรณ์ ไป ‘ข้าศึก’ ดีกว่า ข้าศึกๆ ของสหกรณ์ ขอลัดไป ยังข้าศึกของสหกรณ์ ความเห็นแก่ตัว Selfishness Selfishness นเ้ี ปน็ ขา้ ศกึ ของสหกรณ์ สหกรณใ์ นเมอื งไทย 42

ลม้ ไปกสี่ บิ กรี่ อ้ ยสหกรณแ์ ลว้ กไ็ มร่ เู้ พราะความเหน็ แกต่ วั ของ สมาชกิ ทงั้ โลกกเ็ หมอื นกนั แหละ สหกรณจ์ ะลม้ กต็ อ้ งลม้ ดว้ ย ความเห็นแก่ตัว ขอให้มุ่งไปยังความเหน็ แกต่ ัวน้ี ข้าศกึ ของ ความเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตาย เห็นแก่ตัวเป็นเพื่อนเกิดแก่ เจ็บตายกันไม่ได้ ฉะนั้นเราแก้ปัญหานี้ไม่ส�ำเร็จ เราจะมุ่ง ทำ� ลายความเหน็ แก่ตวั ทำ� ลายความเหน็ แก่ตัว แลว้ เรากจ็ ะ มีเพือ่ นเกดิ แกเ่ จ็บตาย เพ่อื นเกดิ แกเ่ จบ็ ตาย ความเห็นแกต่ วั เป็นขบถ เปน็ ข้าศึกต่อพระเจ้า ต่อธรรมชาติ เรามาเลิกละความเหน็ แกต่ ัว ไปคนื ดี กับพระเจา้ หรอื วา่ กฎของธรรมชาติ หรือกฎของ อทิ ัปปัจจยตา แลว้ ปัญหาจะหมดสนิ้ 43

ทางออกของเรา ขอเพียงความไม่เห็นแก่ตัว non-selfish, non- selfishness ไม่ถึงกับ senseless อันนั้นมันมากเกินไป senseless มนั ไปเปน็ พระอรหันต์ มันมากเกินไป อย่าเพิง่ พดู เอาเพียง non-selfish นี้ เรารีบมี รบี สรา้ ง รีบทำ� กนั ก�ำจัดความเห็นแกต่ วั อยา่ เหน็ แกต่ ัว แล้วจะมีสงั คมเพอื่ นเกิดแกเ่ จ็บตาย แลว้ การแกป้ ญั หานเิ วศวทิ ยาจะงา่ ยนดิ เดยี ว งา่ ยนดิ เดยี ว ถ้าเรามีสมาคมเพ่ือนเกิดแก่เจ็บตาย โลกก�ำลังเป็นโลกของ ความเห็นแก่ตัว หรือความเห็นแก่ตัวก�ำลังครอบครองโลก ปัญหาทุกชนิด ปัญหาทุกชนิด ไม่เฉพาะปัญหานิเวศวิทยา 44

หรอก ปญั หาทกุ ชนิดแหละ เราตอ้ งสรา้ งเพ่ิม เรอื นจ�ำเพิม่ ต�ำรวจเพมิ่ ศาลเพม่ิ โรงพยาบาลบ้าเพ่ิมจนไมม่ ีเงินจะสร้าง อยแู่ ลว้ นนั่ ความเหน็ แกต่ วั มนั เปน็ อยา่ งนนั้ เพราะฉะนนั้ ขอ ให้ช่วยกันก�ำจดั ความเห็นแกต่ วั ขออภัยนะ ต้องขออภัย ไม่ใช่พูดหยาบคาย เราจะ ต้องพดู วา่ เรามี UNO –United Nation Organization คือ UNO เราก็แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะที่ UNO มันเป็นที่ ประชุมแห่งการทะเลาะกันของผู้เห็นแก่ตัว เป็นที่ประชุม เพอื่ ทะเลาะกันของผู้เห็นแก่ตวั UNO จึงแกป้ ัญหาไม่ได้ เรา จึงแกป้ ญั หานิเวศวทิ ยาใดๆ ไมไ่ ด้ ขอให้เราสร้าง URO ขน้ึ มาแทน ทำ� ความเข้าใจระหวา่ งศาสนา มี United Religion Organization-URO เอามาแทน UNO เราจะประสบ ความส�ำเร็จในการแก้ปัญหาท้ังหมดท้ังสิ้น ถ้าเราจะมีทั้ง สองอย่าง เราตอ้ งให้ URO ควบคมุ UNO ถา้ เรามีทง้ั สอง อยา่ ง ให้ URO ควบคุม UNO แต่ถ้าใหม้ ีเพียงอยา่ งเดยี วเรา ขอเลือกเอา URO รีบท�ำความเขา้ ใจระหวา่ งศาสนา เพราะ ว่าทุกๆ ศาสนาไม่ยกเว้นศาสนาไหนสอนเร่ืองไม่เห็นแก่ตัว ตอ้ งการให้มนษุ ย์ไม่เห็นแก่ตัว เอาทุกศาสนามารวมกันกจ็ ะ 45

เกดิ ศาสนาเดยี วคอื ศาสนาไมเ่ หน็ แกต่ วั มนั กจ็ ะมี URO เกดิ ขึ้นได้ เปน็ ทนี่ า่ เสยี ใจเสยี ดายหรอื นา่ สงสารทว่ี า่ ยงั มศี าสนา หรือว่าเจ้าหน้าท่ีศาสนาบางศาสนาเป็นผู้เห็นแก่ตัวเสียเอง น้ีน่าเศร้าที่สุด ศาสนาต้องก�ำจัดความเห็นแก่ตัวออกไป น่ี ขอให้ต้ังความปรารถนากันใหม่ ท�ำความเข้าใจระหว่าง ศาสนา ก�ำจัดความเห็นแก่ตัวให้หมดไปจากโลก แล้ว ปญั หาใดๆ แมป้ ญั หานเิ วศวทิ ยาจะไมม่ เี หลอื จะไมม่ เี หลอื เป็นปญั หา เราจงหันหนา้ ไปคนื ดี คืนดีกบั พระเจ้า พระเปน็ เจ้าหรือธรรมชาติ ไปคืนดี คือว่าไมเ่ ห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ ตัวเป็นขบถ เป็นข้าศึกต่อพระเจ้า ต่อธรรมชาติ เรามา เลิกละความเห็นแกต่ ัว ไปคนื ดีกับพระเจา้ หรอื วา่ กฎของ ธรรมชาติ หรอื กฎของอทิ ปั ปัจจยตา แลว้ ปญั หาจะหมด สิน้ เพราะวา่ โลกหมดความเห็นแก่ตัว ในที่สุดน้ีขอแสดงความยินดีอนุโมทนา ในการที่ท่าน ท้ังหลายได้มาประชุมกันที่นี่ เพ่ือจะสะสางปัญหาใหญ่ ปัญหานิเวศวิทยาของโลก ขอให้มองเห็นจุดของปัญหา ต้นตอของปัญหาว่ามันมาจากความเห็นแก่ตัว เรามา ปรึกษาหารือกันให้ดีที่สุดที่จะก�ำจัดความเห็นแก่ตัว เรา 46

จะมีความเข้าใจซ่ึงกันและกัน จะเกิดความรักซึ่งกันและ กนั เราจะมีเพือ่ นเกดิ เพ่อื นแก่ เพอื่ นเจบ็ เพอ่ื นตาย เรา จะมีระบบการเมอื งใหม่เรยี กวา่ Dhammic Socialism แลว้ ปญั หาก็หมด ปัญหากห็ มด ขอขอบพระคุณอย่างยิ่ง ขอบพระคุณอย่างยิ่ง ใน การที่ท่านทั้งหลายเป็นผู้ฟังท่ีดีตลอดเวลากว่าสองช่ัวโมง ขออภัยๆ ท่ีท�ำให้ท่านทนล�ำบากกว่าสองช่ัวโมง แต่ว่าเป็น ไปเพ่ือประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ทั้งโลกของเรา ขอให้เรา แก้ปญั หาอันนี้ให้ส�ำเรจ็ อย่ามีปญั หาใดๆ เหลอื อยู่เลย ขอ ขอบพระคณุ เปน็ ผูฟ้ ังที่ดี ขอโทษทท่ี ำ� ให้ต้องทนฟงั ต้ังกวา่ สองชว่ั โมง ขอยตุ กิ ารบรรยาย ขอแถมพกอีกอย่างหนึ่งว่า ต่อไปนี้ถ้าท่านจะมีการ ประชุมกนั แล้ว กข็ อใหใ้ ชเ้ วลาหวั รงุ่ ไว้ เพราะเวลาน้นั น�ำ้ ชา ไมล่ ้นถ้วย พูดกันรู้เรอ่ื ง ก�ำจัดความเห็นแก่ตวั ให้หมดไปจากโลก แล้วปัญหาใดๆ แมป้ ญั หานเิ วศวทิ ยาจะไม่มีเหลือ 47

ธรรมะใกล้มือ ธรรมะใกล้มือ คัญของอานาปานสติคือ ชีวิตใหม่กบั อานาปานสติ ตัณหามีเท่าไหร่ก็ทำาลายนิเวศวิทยา ธรรมะ I นเิ วศวิทยา D มาด ู มาด ู จนตระหนกั ว่า มากเทา่ น้ัน h ยดึ ถอื  ไมม่ สี กั อยา่ งเดยี ว  a ยืดถือ มันกเ็ ปน็  ชีวติ ใหม่ กับ m ธรรมะใกลม้ อื m ชุดการบรรยายธรรมของพุทธทาสภกิ ขุ a ชีวติ ใหม่ & กับ- สนปอนตาาา-ิ E c o l o g y พุทธทาสภิกขุ ฉ.อบรม พุทธ ธรรมะ นเิ วศวทิ ยาพุทธทาสภิกขุ กับ พุทธ ชาวต่าง ทาส ประเทศ ธรรมะใกล้มอื ทาส อบรมคณะชาว ภิกขุ TH+EN ภิกขุ ตา่ งประเทศ สัน 4 mm. สมัครสมาชิกฯ • คดั สรรมาจดั พมิ พเ์ ปน็ รายเดือน สมคั รโครงการฯ • เหมาะสำ�หรับใชใ้ นการศกึ ษาและสง่ ต่อ • วางแผงวันอาทิตยส์ ปั ดาหแ์ รกของทกุ เดือน • ไมม่ ีตามร้านหนังสือทั่วไป • อ่าน/ดาวนโ์ หลด ได้ที่ www.bia.or.th/ebook • สมทบคา่ การผลิตโดยการสมัครเปน็ สมาชกิ รายปี ๑๒ เลม่ ๑๘๐ บาท (รวมคา่ จดั สง่ แล้ว) • ต้องการหนงั สอื จำ�นวนมาก / เพื่อใชแ้ จกในงานพธิ ี โทร. ๐๒-๙๓๖๒๘๐๐ ต่อ ๕๑๐๑ • โครงการธรรมะใกลม้ อื สอ่ื ธรรมสสู่ งั คม หอจดหมายเหตพุ ุทธทาส อินทปญั โญ โดยไดร้ บั ทนุ สนับสนุนจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำ�กดั (มหาชน) และกลมุ่ ทนุ เกยี รตนิ าคิน ผลติ ธรรมะใกลม้ อื จำ�นวน ๕,๐๐๐ เล่ม/ฉบับ เป็นเวลา ๑๒ ฉบับ (เรม่ิ ม.ค. -  ธ.ค ๒๕๖๒) เพ่อื บรษิ ัท โรงเรียน องค์กร ร้านค้า โรงแรม หอพัก ฯลฯ ไปอ่าน ไปวาง ไปแจก หรือ มอบใหก้ บั การทำ�กิจกรรม ติดต่อแจ้งความจำ�นง ขอรับฟรีท่ี http://register.bia.or.th/distribution/ BIA Book Club [email protected] ๐๒-๙๓๖๒๘๐๐ ตอ่ ๕๑๐๑


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook