สําหรับเด็กในวัยนี้ไม่ควรให้ออกกําลังกายที่ตั้งกฎ กติกา หรือมีระเบียบ ตอ้ งแนะนาํ เด็กเสมอว่า เป็นการเล่น และเลือกที่เหมาะสมกับพัฒนาการ อาจ คาํ นงึ ถึงความสนุกสนานและความต้องการของเด็กแต่ละคนทแ่ี ตกตา่ งกันไป แต่ควรระวังเรื่องอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม (แม้เด็กวัยน้ีจะมีสายตา กล้ามเน้ือ การรับรู้ พัฒนาการดีข้ึน แต่ช่วงเด็กวัยน้ี การประสานงานระหว่างสมอง ตา กลา้ มเน้ือ อาจจะยงั ไมด่ ีเพียงพอ) เด็กวัยประถม (อายุประมาณ 7-12 ปี) เด็กสว่ นใหญ่ในวยั ประถมนี้จะมพี ัฒนาการทางกล้ามเน้ือ การเคล่ือนไหว ท่ีสมบูรณ์ขึน้ สามารถจัดการเล่นที่มีความซับซ้อนเพ่ิมกว่าเด็กวัยอนุบาล มี ระเบียบ กติกา กฎการเล่นได้บ้าง โดยกฎกติกาต้องเข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก หรือมีกติกามากไป จัดกิจกรรมท่ีเด็กมีประสบการณ์อยู่บ้างแล้วหรือถาม ตามความต้องการของเด็กว่าสนใจอะไรบ้าง และจัดกิจกรรมสนองความ ต้องการเพ่ือฝึกทักษะให้ดีข้ึน เช่น จากกิจกรรมง่ายๆ ที่เคยเล่น จากการ โยน/การขว้างลูกบอลในวัยอนุบาล ให้เป็นการโยนลูกบอลให้ลงห่วงหรือ ตะกรา้ หรอื การเตะลกู บอลให้เข้าประตู โดยปรับลกู บอลใหข้ นาดเลก็ ลงกว่า 45 สําหรบั เดก็ เล็ก
เดิมท่วี ัยอนุบาลเคยใช้ลูกบอลใบใหญ่ เปล่ยี นมาใชล้ ูกบอลขนาดใหญ่กว่าวัย ประถมนั่นเอง ควรส่งเสริมให้เด็กวัยประถมเล่นกีฬาหลากหลายประเภท เป็นการ กระตนุ้ พัฒนาการทางร่างกายทุกส่วน โดยใช้การเคล่ือนไหวร่างกายหลาก- หลายสลับกันไป เช่น ฟุตบอล ยิมนาสติก แบดมินตัน กระโดดเชือก หรือ วา่ ยน้าํ เป็นตน้ ยิมนาสตกิ เป็นตัวอย่างกีฬาประเภทหนึ่งที่เหมาะสมกับเด็กวัยประถม เนอื่ งจากเป็นพ้ืนฐานกีฬาทุกประเภท ซ่ึงมีท้ังการกระโดด การยืน การก้าว เดิน การกล้ิง หมุนตัวและบิดตัว ช่วยให้มีพัฒนาการที่ช่วยส่งเสริมทางด้าน การทรงตัว และช่วยปรับรูปทรงของกระดูกท่ีรองรับน้ําหนักตัวได้อย่างดี เช่น ความสามารถในการทรงตัวด้วยการยืนเท้าเดียว ก็ให้ใช้กิจกรรมการ กระโดดกระต่ายขาเดียว ชว่ ยเพิ่มความแขง็ แรงและกาํ ลงั ของขา ควรใช้กิจกรรมการละเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัยน้ี ให้สามารถ ใหใ้ ช้กลา้ มเนอื้ มดั ใหญ่ เด็กจะชอบเคลื่อนไหวมากกว่าอยู่เฉยๆ หากิจกรรม ท่ีช่วยให้มีการทรงตัวดี คล่องแคล่ว และมีกําลังมากขึ้น ส่วนกล้ามเน้ือมัด เล็กสามารถใชง้ านไดด้ ขี ึ้น ระบบประสาทและการเคลื่อนไหวจะทาํ งานสอด- คล้องกนั ไดเ้ ปน็ อย่างดี อยากสขุ ภาพดี ต้องมี 3 อ. 46
กิจกรรมออกกาลังกาย ในเด็กเล็ก
เล่นกระโดดขา้ มขอนไม้ ผู้ ใ ห ญ่ นั่ ง บ น พ้ื น เหยียดขาสองข้าง (สมมติ เป็นขอนไม้) แยกเท้าท้ัง สองขา้ งประมาณ 1 ฟุต ให้ เดก็ กระโดดข้าม ผลท่ไี ด้รับ ฝกึ ใหเ้ ด็กใชค้ วามสมั พนั ธร์ ะหว่างขากับสายตาในการก้าว โดยฝกึ การประมาณความสูงของขาที่ยกขา้ มไป เลน่ ลอดใตส้ ะพาน ผใู้ หญค่ รอ่ มตวั บนพื้น เหยยี ดแขนขาสองข้างเปน็ สะพาน ให้เด็กวง่ิ รอบตัว พอจะลอดใตส้ ะพาน ให้ ย่อตวั ลง หรือจะคลาน ลอดใต้สะพานไปกไ็ ด้ ผลทไ่ี ดร้ ับ ช่วยส่งเสริมให้เด็กฝึกใช้ความสัมพันธ์ระหว่างแขนขาท้ัง สองขา้ งกับการประมาณระยะความสูง อยากสขุ ภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 48
เลน่ กระโดดขา้ มไม้ ผู้ใหญ่คุกเข่า ถือไม้ แล้ว ให้เด็กกระโดดข้ามไม้โดยค่อยๆ ปรับไม้ขึ้นให้มีความสูงที่ระดับ ต่างๆ กนั ผลท่ีได้รับ ช่วยส่งเสริมให้เดก็ ไดเ้ รยี นรู้จงั หวะการก้าวในระดบั ต่างๆ เล่นกระโดดขา้ มหว้ ย นําเทปกาวหรือชอล์กขีด เส้น ตรงไว้เพื่อกําหนดขอบเขต บนพ้ืน (ทําเสมือนเป็นเขตห้วย หรอื ลําธาร) แล้วให้เด็กกระโดด ขา้ ม อาจจะใหเ้ ด็กกระโดดข้าม โดยการเปลี่ยนความกว้างของ เทปกาวออกทีละนิด แต่ต้อง คอยระวงั เดก็ จะล่นื ลม้ ผลทไี่ ด้รบั ฝึกการเหวี่ยงแขนทั้งสองข้างเพื่อกระโดดโดยใช้สองขา จะสงั เกตพัฒนาการของเดก็ จากการแกว่งแขนและย่อขาเพ่อื กระโดด 49 สําหรบั เด็กเล็ก
เลน่ ยืดกล้ามเนอื้ ใหเ้ ดก็ ยืดกลา้ มเน้อื โดยให้เดก็ น่ังลงบนพื้น สองแขนยกเท้าท่ีละ ข้างขึ้น โดยนําเท้าไปแตะท่ีคาง หรือหขู องเดก็ เอง ผลท่ีไดร้ บั เพื่อฝึกให้เด็กมีการยืดกล้ามเนื้อ เน้นทําการยืดเหยียด กล้ามเนือ้ แบบงา่ ยๆ ไม่ซบั ซอ้ น เลน่ แซมซนั ทรงพลงั ใ ห้ เ ด็ ก ยื น ห่ า ง จ า ก กํ า แ พ ง เล็กน้อย ลําตัวตรงและสน้ เท้าอยู่ติด พื้น แล้วใช้มือสองข้างยันกําแพง ดันและค่อยๆ ผ่อนลง เอาจมูกแตะ กําแพงทําสลับกัน ในขณะเดียวกัน บอกเด็กว่าเน้นการยืดเหยียดแขน อก น่อง ข้อเท้า ถามเด็กว่า รู้สึกตึง ที่ขาและน่องใช่ไหม ผลทีไ่ ดร้ บั เพ่ือฝึกให้เด็กหัดมีการยืดกล้ามเนื้อ เน้นการทํายืดเหยียด กล้ามเนื้อแบบง่ายๆ ไม่ซบั ซอ้ น อยากสุขภาพดี ต้องมี 3 อ. 50
เลน่ จิงโจ้กระโดด ผ้ใู หญ่จบั มือสองข้างของเด็กไว้ แลว้ ให้เดก็ กระโดด (อาจจะ กระโดดเรว็ ช้าสลบั กันกไ็ ด)้ แนะนําเด็กวา่ เหนื่อยกห็ ยดุ หายเหนื่อยกก็ ระโดดใหม่ ผลทไ่ี ด้รบั เพื่อฝึกการใช้ขาท้ังสองข้างให้สัมพันธ์กัน เมื่อหายใจแรง หอบ แสดงว่า เหนื่อย ให้หยุดกระโดดเป็นช่วงๆ 51 สําหรับเด็กเลก็
เลน่ ฝกึ ทรงตวั ให้เด็กนําหนังสือหรือส่ิงของวางไว้ บนศีรษะ แล้วเดินโดยที่ของบนศีรษะไม่ ตกหลน่ ผลท่ไี ด้รบั เพื่อฝึกการทรงตัว ซ่ึงต้องมีทั้งความสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อ ในการเดินและประสาทสัมพันธ์ มีการเกร็งต้นคอ การถ่ายนํ้าหนักมา ดา้ นซ้ายและขวาของแตล่ ะส่วนของรา่ งกาย เลน่ โยกเยกเอย ผู้ใหญ่นง่ั บนพื้น เหยียดเทา้ แยกขาออก เด็กนง่ั ระหว่างขา มอื จับกบั ผู้ใหญ่ ให้เด็ก นอนขณะจับมอื แล้วดึงมือให้เด็กน่ัง แล้วปล่อยนอนลงอีก ร้องเพลง “โยกเยกเอย น้ําท่วม เมฆ กระตา่ ยลอยคอ หมาหางงอ ขค่ี อโยกเยก” ผลทไี่ ดร้ บั เพื่อฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนลําตัว หน้า ท้อง โดยการชว่ ยดงึ ตัวเดก็ ข้ึนในขน้ั แรกๆ อยากสขุ ภาพดี ต้องมี 3 อ. 52
เลน่ ไถนา ให้เด็กนอนควํ่ามือยันพื้น ผู้ใหญ่ค่อยๆ จับข้อ เทา้ ของเด็กยกขึ้น พอให้แขนตึง แล้วให้เด็กเดินโดย ใชแ้ ขนของเด็กเอง โดยผใู้ หญ่คอยเดินตาม ผลท่ีได้รบั เพ่ือฝึกความแข็งแรงของแขนท้ังสองข้างที่ต้องรองรับ นํา้ หนักตัวของตวั เองและเรียนรู้การถ่ายนํ้าหนักที่แขนซ้าย-ขวาสลับกัน เด็กที่ไมแ่ ข็งแรงจะไมส่ ามารถยกตัวขึ้นได้ เลน่ ยนื กระตา่ ยขาเดยี ว ให้เด็กยืนเท้าเดียว ยกขาไป ข้างหลัง แล้วนับ 1-5 ช้าๆ แล้ว ค่อยๆ นับเพ่ิม สลับกับให้ยืนทรง ตัวท่าอ่ืนบ้าง เช่น ยืนแล้วยกขา ไปขา้ งหน้าบ้าง ผลทีไ่ ด้รับ เพือ่ ฝึกการสรา้ งสมดลุ โดยการถว่ งน้ําหนกั ตัว และการใช้ แขนและลําตวั ส่วนบนช่วยในการถา่ ยนาํ้ หนัก 53 สาํ หรบั เด็กเลก็
เล่นเดนิ เขยง่ ให้เด็กเดินเขย่งปลาย เท้า (จะแกว่งแขนหรือเอา ของวางไว้บนศีรษะด้วยก็ ได้) เป็นการฝึกในข้ันตอน ก้าวหน้าขึ้น หลังจากท่ีทํา ท่าฝกึ การทรงตวั ได้แลว้ ผลท่ีได้รับ เพ่ือฝึกให้มีความพร้อมในการเคลื่อนท่ีในรูปแบบที่ แตกต่างกัน ซง่ึ การเขย่งทําให้พน้ื ที่ในการรองรบั นํา้ หนักตัวแคบลง เลน่ ตัง้ ไข่ล้ม เดก็ นัง่ บนพนื้ กางขาออกแลว้ งอเขา่ สองขา้ งใหฝ้ ุาเทา้ ประกบเข้าหากัน (คล้ายท่านั่ง ขัดสมาธิ) มือเด็กจับข้อเท้าไว้ จากนั้นให้เด็กโยกตัวซ้าย-ขวา สลับกนั ผลที่ไดร้ ับ เพอ่ื ฝกึ การยดื เหยยี ดกล้ามเนอ้ื และการทรงตัว โดยใช้การ โยกตวั ไป-มา อยากสขุ ภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 54
เลน่ กายภรรม ให้เด็กนอนหงายบนที่นอน ต้องให้คางเด็กอยู่ชิดอก แล้วยกขาขึ้นลง พรอ้ มกนั ให้ไหลเ่ ป็นตวั รบั นาํ้ หนัก ผลท่ีไดร้ ับ เพ่ือฝึกความสามารถในการถ่ายนํ้าหนักตัว เกร็งกล้ามเนื้อ ท้อง และตน้ คอ เล่นบอลกัน ข้ันแรกใหโ้ ยนบอลใกลๆ้ ให้เดก็ รับได้ ตอ่ มา ทาํ ทา่ ให้ยากขน้ึ ตามลาํ ดบั เช่น ให้ลกู บอล ตกพน้ื เพื่อกระดอน 1 ครั้ง จงึ ให้เด็กรับลูกบอล แลว้ ประยุกต์ ทา่ อนื่ ๆ ให้ยากขนึ้ ตามลาํ ดบั ผลทไ่ี ดร้ บั เพอ่ื ฝกึ ความสัมพนั ธข์ องมอื ทัง้ สองขา้ งกับสายตา 55 สําหรับเด็กเลก็
เคลื่อนไหวรา่ งกาย/ออกกาลังกายเป็นประจา...มีประโยชน์อย่างไร การนงั่ ๆ นอนๆ เช่น การดูทีวี การใช้คอมพิวเตอร์ มีความสัมพันธ์กับ ภาวะอ้วน งานวิจัยพบว่าการดูทีวีมักจะมีพฤติกรรมบริโภคขนมกรุบกรอบ ได้รับพลังงานมากเกินความตอ้ งการ จงึ แนะนําใหด้ ูทวี ไี มเ่ กินวนั ละ 2 ชว่ั โมง และส่งเสริมใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวร่างกายและ/หรือออกกาํ ลงั กายเป็นประจาํ ทุก วัน เช่น ทํางานบ้าน เดิน ว่ิงเล่น กิจกรรมเข้าจังหวะ กระโดดเชือก ว่ายนํ้า เลน่ กีฬา เป็นตน้ การเคล่ือนไหวเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมน การเจริญเติบโตเพ่ิมข้นึ การย่อยอาหารและการขับถ่ายดีข้ึน สร้างมวลกระดูก มากข้ึน กล้ามเนื้อแข็งแรง เป็นผลให้เด็กมีการเจริญเติบโตดีความสูงเพิ่มขึ้น น้าํ หนักตัวเหมาะสม อยากสุขภาพดี ต้องมี 3 อ. 56
และปลูกฝังทักษะทางสังคมให้ลูกน้อย พญ.นลนิ ี เชือ้ วณชิ ชากร* สิ่งหนงึ่ ทพี่ ่อแม่และผใู้ หญห่ ลายคนต้องการ คือ อยากให้เด็กที่ตนเลี้ยง ดเู ตบิ โตข้ึนเป็นคนท่ีมีอารมณ์มั่นคง รับมือกับความเครียดในชีวิตประจําวัน ได้ และสามารถอยู่รว่ มกบั ผอู้ ่ืนในสังคมได้ แต่จะทาํ อย่างไรท่ีจะชว่ ยให้เดก็ มี พัฒนาการด้านอารมณ์และสงั คมทีด่ ไี ด้ ครงั้ นม้ี คี ําตอบให้ค่ะ เพอ่ื ให้งา่ ยตอ่ การทาํ ความเข้าใจ คณุ หมอจงึ ใครแ่ นะนาํ แนวทางสังเกต ลู ก แ ล ะ วิ ธี เ ล้ี ย ง ดู เ พ่ื อ ส่ ง เ ส ริ ม พั ฒ น า ก า ร ด้ า น อ า ร ม ณ์ -สั ง ค ม ใ ห้ แ ก่ เ ด็ ก ดังตอ่ ไปน้ี เด็กแรกเกดิ ถงึ อายุ 6 เดือน ทารกใช้วิธีร้องไห้เพื่อส่ือความหมายให้รู้ว่าเขาหิวและไม่สบายตัว มักจะหยุดร้องไห้เมื่อคุณปลอบโยน ชอบจ้องหน้าและสบตาคุณ แต่เพียง แค่ 2-3 วินาที จะส่งเสียงในลําคอเวลาสบายใจ เม่ืออายุ 2–3 เดือน จะย้ิม หัวเราะและทําเสียงเอ๊ิกอ๊ากเมื่อมีความสุข และชอบให้ผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยอุ้ม โอบกอดและเห่กล่อม เขาเล่นกับเด็กหรือคนแปลกหน้าได้ แต่ก็อาจงอแง เป็นบางคร้ังเวลาที่อยากให้คุณสนใจ เม่ืออายุประมาณ 5 เดือนเขาจะหยุด ร้องไห้ได้เวลาที่คุณคุยด้วย เขามกั ปีนบนตวั คุณ ชอบใหค้ ุณกอด ชอบเลน่ มอื * กมุ ารแพทยด์ า้ นพัฒนาการและพฤติกรรม ศูนยก์ ารแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ อยากสขุ ภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 58
เทา้ นวิ้ มอื และน้ิวเทา้ ของตวั เอง จาํ เสียงคนท่ีคุ้นเคยได้ ทารกอมน้ิวหรือมือ ของเขาเพอ่ื ทาํ ให้ตนเองสบายใจขึ้น กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสงั คม-อารมณ์ สาหรบั เด็กแรกเกดิ ถงึ อายุ 6 เดือน รอ้ งเพลงกล่อมเดก็ พดู คุยกับเขาด้วยนาํ้ เสยี งท่ีออ่ นโยน ให้ทารกฟังเสียงที่อ่อนโยนหลากหลายชนิด เช่น ของเล่นที่มีเสียง ดนตรหี รอื กรุ๋งกรง๋ิ อุ้มทารกให้หันหน้ามาหาคุณ สบตา ย้ิม และพูดคุยกับเขา เช่น เขา เป็นเด็กน่ารักและคุณก็รักเขามาก ในขณะเดียวกันก็สัมผัสเขาอย่าง ออ่ นโยน คณุ ควรอมุ้ และปลอบโยนเวลาที่เขาร้องไห้ เพราะเขาอาจจะหิวหรือ รู้สกึ ไมส่ บายตัว พูดคุยกับเขา ถึงส่ิงที่เขามองเห็น ได้ยินและสัมผัสด้วยเสียงที่เบา และอ่อนโยนระหว่างที่ดูแลเขา เช่น ปูอนนม เปลี่ยนผ้าอ้อม พูดคุย กับเขา ถึงส่ิงที่เขาชอบหรือไม่ชอบ เช่น หนูไม่ชอบเสียงดัง หนูชอบ นมอ่นุ ๆ พาเขาไปสถานที่ใหม่ๆ หรือพบส่ิงต่างๆ โดยมีคุณคอยดูแลความปลอด- ภัยใหเ้ ขา ชมเชยเขาบอ่ ยๆ โดยพูดกับเขาว่า เขาช่างเปน็ เด็กท่ีนา่ รักและแข็งแรง และคณุ กร็ ักเขามาก เล่นเกมสง์ ่ายๆ กับเขา เช่น เล่นจ๊ะเอ๋ โดยคณุ อาจใช้ผา้ บงั หน้า ใหเ้ ขาได้เลน่ ของเลน่ ทีห่ ลากหลาย และปลอดภยั เชน่ ภาชนะพลาสติก และช้อนไม้เพอื่ เรยี นร้สู ง่ิ ต่างๆ วัยนี้ไม่ถือว่าเร็วเกินไปที่จะเริ่มอ่านหนังสือกับเขา โดยหาหนังสือ ภาพและพูดคุยเกีย่ วกับภาพท่เี ขาเห็นในขณะทค่ี ุณกอดเขาอยู่ 59 สําหรับเด็กเล็ก
วัยนี้ไม่ถือว่าเร็วเกินไปที่จะเร่ิมอ่านหนังสือกับเขา โดยหาหนังสือ ภาพและพดู คุยเกีย่ วกบั ภาพทเ่ี ขาเหน็ ในขณะทคี่ ณุ กอดเขาอยู่ เรยี นรูภ้ าษาของเขา เม่ือเขาพยายามพูดและแสดงท่าทางให้คุณรู้ว่า กาํ ลงั รสู้ กึ อย่างไร เชน่ มคี วามสุข หิว หรือไมส่ บายตัว โอบกอดและเห่กล่อมเขาเบาๆ ตามจังหวะของเสียงเพลง เขาชอบ ถกู เหก่ ลอ่ มและได้ใกล้ชิดกบั คุณ เด็กอายุ 6 เดอื นถงึ 1 ปี เด็กวัยนี้เร่ิมตอบสนองเวลาท่ีคุณยิ้มให้และหัวเราะเวลาจ้องมองคุณ เร่ิมออกเสียง 2 เสียงติดกัน เช่น “มามามา” “บาบาบา” “ดาดาดา” เขาตอบ- สนอง เชน่ หยุดงอแง เมอ่ื คุณเหก่ ล่อม เขาชอบที่ถกู สัมผสั และโอบกอด เขา ตอบสนองต่อการแสดงความรักของคุณ และเร่ิมแสดงสัญญาณว่าเขาเองก็ รักคุณ ชอบจ้องมองทารกและเด็กๆ พยายามส่งเสียงพูดคุยกับคุณและ สนใจเสียงของคุณโดยหันไปหาเสียงคน และบางคร้ังอาจหันไปหาคุณ เวลา ถกู เรยี กช่ือ อาจกลัวเสยี งทด่ี ังหรอื ไม่คุ้นเคย เวลาปลอบโยนใหเ้ ขาหยุดงอแง บางคร้งั เขาต้องการความเงียบสงบ แตบ่ างครั้งเขาก็อยากให้คุณคุยและเล่น กับเขา สนุกกับเกมส์ เช่น เล่นจ๊ะเอ๋ ส่วนใหญ่แล้วเขาต้องการคุณ (พ่อแม่ หรือผเู้ ลย้ี งดู) ไมใ่ ช่ผ้ใู หญ่คนอืน่ กิจกรรมส่งเสรมิ พฒั นาการทางสงั คม-อารมณ์ สาหรบั เด็กอายุ 6 เดอื นถงึ 1 ปี เรียนรู้จังหวะชีวิตของเขา จัดเป็นตาราง เวลา และปฏิบัติอย่างสมํ่าเสมอทุกวัน เช่น เวลากินนม เวลานอน เปลี่ยนผ้าอ้อม พูด คุยกับเขาขณะปูอนนมหรือเหก่ ล่อม จะช่วย ให้เขารู้สึกมน่ั คงปลอดภัยและมคี วามสขุ อยากสขุ ภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 60
เดก็ ชอบและสนใจทจ่ี ะได้ยินเสยี งใหม่ๆ เชน่ เสียงกระดิ่ง เสยี งกระซิบ เสยี ง หมาเหา่ และบอกเขาวา่ เสียงท่เี ขาง กาํ ลงั ไดย้ ินคือเสียงของอะไร นอนลงบนพนื้ ขา้ งๆ เขา เลน่ ของเล่น อา่ น หนังสือและสนุกสนานรว่ มกนั สรา้ งช่วงเวลาทด่ี ีระหวา่ งกนั ควรตอบสนองเวลาทีเ่ ขารอ้ งงอแง โดยอาจกระซิบเบาๆ หรอื อุ้มและ ปลอบโยนด้วยเสียงทอี่ ่อนโยน เขาจะรู้สึกม่ันคงทางอารมณ์และรู้ว่า คณุ จะคอยอยู่ดแู ล ปกปูองเขาตลอดเวลา เล่นจะ๊ เอแ๋ ละตบมอื แผะๆ ยม้ิ และหวั เราะอยา่ งมคี วามสุขขณะเล่น อ่านหนังสือกับเขา ในขณะท่ีเขานอนในอ้อมกอดคุณ ให้ช้ีภาพและ พูดคุยเก่ียวกับภาพนั้น เมื่อเขาโตขึ้น ควรให้เขาเลือกหนังสือท่ีเขา อยากอา่ นกบั คุณ ให้เขาฝึกปูอนตนเอง โดยใส่อาหารจํานวนเล็กน้อยลงในถ้วย พลาสตกิ และให้เขาใชช้ ้อนสาํ หรับเด็ก เขาจะรสู้ ึกสนุกเมอ่ื ไดท้ ําอะไร ด้วยตนเอง ขณะกําลังแต่งตัวให้เขา หรือปูอนข้าวเขา คุณควรพูดว่า “นี่ขาของ ....(ชอื่ เขา)” “นีป่ ากของ.....” เป็นต้น ให้เขาได้สํารวจสิ่งใหม่ๆ เพราะเขากําลังสนใจทุกๆ อย่างรอบตัว เชน่ ให้เขาเล่นถว้ ยพลาสติก ช้อนไม้ พูดคุยโต้ตอบหรือทําเสียงเลียนแบบเขา เวลาท่ีเขาส่งเสียงให้นาน ทส่ี ดุ เทา่ ทท่ี าํ ได้ ร้องเพลงและท่องบทกลอนให้เขาฟัง คุณอาจแปลงเพลงโดยใส่ช่ือ ของเขา ทําใหเ้ ขารสู้ ึกว่าเปน็ คนพิเศษและรับร้ถู งึ ความรักทคี่ ุณมใี ห้ พาเขาไปบ้านเพื่อนที่มีลูก ควรอยู่ใกล้เขาตลอดเพื่อให้เขารู้สึกมั่นใจ ทีจ่ ะไปทําความรจู้ กั คนใหมๆ่ (เด็กบางคนอาจใชเ้ วลาบ้าง) 61 สําหรบั เด็กเลก็
เดก็ อายุ 1 ปถี งึ 1 ปี 6 เดือน ลูกหันหาเสียงเรียกชื่อของคุณ มักสนใจทารกและเด็กอ่ืน สามารถแสดง อารมณ์ได้หลากหลาย เช่น ความสุข เสียใจ โกรธ หรือหงุดหงิด เร่ิมกลัวหรือ อายเวลาเจอคนแปลกหน้า และอิจฉาถ้าคุณไปสนใจคนอ่ืน เด็กบางคนต้องใช้ เวลาในการปรับตวั เข้ากับสิ่งแวดลอ้ มใหม่ๆ หรือคนแปลกหน้า เด็กอาจกลัวส่ิง บางอย่าง เช่น น้ําตก ความมืด สัตว์ตัวใหญ่ เสียงดัง หรือการเปล่ียนกิจวัตร ประจําวัน เขาตอบสนองต่อคนแปลกหน้าไม่เหมือนกับท่ีแสดงกับคนคุ้นเคย เขาต้องการเห็นคุณตลอดเวลา และอาจโกรธถ้าเห็นคุณไปกับคนอื่น มักจะ เลียนแบบคนอื่น เช่น เลียนเสียง ท่าทางหรือสีหน้า เขาแสดงความรักโดย การกอดและจูบพ่อแม่ หรือสัตว์ท่ีเลี้ยงหรือตุ๊กตา เวลาท่ีเขาเห็นคนอ่ืนไม่ สบายใจ เขาอาจร้องไห้หรือแสดงความไม่สบายใจ เขาเร่ิมแสดงให้รู้ได้ว่า ชอบและไม่ชอบ โดยอาจผลกั สง่ิ ท่ไี มช่ อบออกไป และติดของเล่นหรือผ้าห่ม ที่ชอบ เขาเริ่มเป็นตัวของตัวเอง และดูเหมือนดื้อหรืองอแงเวลาท่ีเขาไม่ สามารถทําบางอยา่ งดว้ ยตนเอง กิจกรรมส่งเสรมิ พฒั นาการทางสังคม-อารมณ์ สาหรบั เด็กอายุ 1 ปีถึง 1 ปี 6 เดอื น จัดกิจวัตรประจําวันให้เป็นตารางเวลา เช่น กิน นอน เล่น อาบน้ํา พูดคยุ กบั เขาว่าตอนนี้เขาทําอะไรอยู่และจะทําอะไรต่อไป (เป็นการ สง่ เสริมความรสู้ กึ มนั่ คงปลอดภยั ทางจิตใจ) พดู และแสดงให้เขาร้วู า่ คุณรกั เขาและ เขาเป็นคนพิเศษสาํ หรบั คณุ ทุกวนั ท้ังเวลาตน่ื นอนและก่อนนอน เล่นบนพนื้ กบั เขา คลานไปรอบๆ กบั เขา หรือเพียงแคน่ ง่ั ลงกับเขา เขาก็จะร้สู กึ ดใี จทม่ี ีคุณอยใู่ กล้ อยากสขุ ภาพดี ต้องมี 3 อ. 62
คณุ อาจใหเ้ ขาชว่ ยขณะทําอาหาร เช่น ตวงขา้ วสาร เลน่ เกมสถ์ ามช่อื เช่น คนไหนหนูแดง คนไหนแม่เล็ก ชวนเขาเดินเล่นในสวนหรอื สนาม เดก็ เลน่ ใหเ้ ขาดเู ดก็ คนอ่นื เลน่ โดย อาจร่วมเล่นดว้ ยหรือไมก่ ไ็ ด้ ชวนเขาเลน่ กับหนา้ กระจกเงาถามเขาวา่ เขาเห็นอะไรบา้ ง อ่านหนังสือกับเขาทุกวันก่อนเข้านอน ให้ลูกได้เลือกหนังสือและ นอนขดในออ้ มกอดคณุ ให้ลูกได้เลือกสิ่งท่ีเก่ียวกับตัวเขา เช่น อาหาร เสื้อผ้า ของเล่น เพราะ เขาจะรูส้ ึกสนกุ ทีไ่ ดเ้ ลือก ชวนเพ่ือนท่ีมีลูกมาบ้าน และจัดเตรียมของเล่นให้พอ เพ่ือฝึกให้เขา รจู้ กั แบ่งปนั ของเล่นกบั เดก็ อืน่ ขณะแต่งตัวหรือเปล่ียนผ้าอ้อม ให้คุยเก่ียวกับอวัยวะของเขาหรือคุณ เชน่ จมกู แม่อยู่ตรงน้ี น่จี มกู ของหนู เด็กอายุ 1 ปี 6 เดอื นถงึ 2 ปี เด็กวัยน้ีร่าเริง มีความสุขและมักย้ิมให้คนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ เดก็ ด้วยกนั ชา่ งพูดช่างคยุ และมักพดู คาํ ใหมๆ่ ได้ทุกวัน ชอบมากอดจูบพ่อ แม่หรือผู้เลี้ยงดู เขาสามารถแสดงอารมณ์ได้หลากหลาย เช่น กลัว เห็นใจ สํานึกผิด หรือกระอักกระอ่วน ชอบทําอะไรด้วยตนเอง ทําให้ดูเหมือนด้ือ ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะปกติ ชอบช่วยเหลืองานบ้านง่ายๆ เม่ือเผชิญกับปัญหา จะมาขอความช่วยเหลือจากคุณ ชอบเล่นใกล้ๆ กับเด็กคนอ่ืน แต่ยังไม่เล่น ด้วยกนั เขาอาจยนื่ ของเลน่ ใหเ้ ดก็ คนอื่น แต่จริงๆ แล้วเขายังไม่รู้จักแบ่งปัน และจะทวงของเลน่ ชน้ิ นัน้ กลบั ทนั ที เขาสามารถเล่นตามลาํ พงั คนเดยี วได้ใน ช่วงเวลาส้ันๆ เขาแสดงความชอบและไมช่ อบอะไรอยา่ งชัดเจน เด็กวยั นีม้ ัก 63 สําหรบั เดก็ เล็ก
ชอบพูดว่า “ไม่” และอารมณ์เสียหรืองอแงได้ง่ายเวลาที่ไม่ได้ดังใจ ชอบท่ี จะถูกกอดและอ่านหนังสือกับคุณ แต่ก็จะอารมณ์เสียเวลาท่ีต้องแยกจาก คุณ เดก็ วัยนีช้ อบเลียนแบบคนอื่นและต้องการการได้รับความสนใจจากคน อน่ื เวลาส่องกระจกหรือดรู ูปถ่ายของตนเอง เขาร้วู ่านั่นคอื ตัวเขา กิจกรรมสง่ เสริมพัฒนาการทางสงั คม-อารมณ์ สาหรบั เดก็ อายุ 1 ปี 6 เดือนถงึ 2 ปี เดก็ วยั นชี้ อบถูกโอบกอด หอมแก้ม และบอกเขาว่า “คุณรักเขามาก แค่ไหน” จัดงานเลี้ยงสมมติขึ้น โดยให้ตุ๊กตาหลายๆ ตัวเป็น “แขกรับเชิญ” และตัดภาพจากนิตยสารมาทําเป็น “ของขวัญ” และ “ขนมเค้ก” หาของเล่นทเ่ี ลียนแบบเคร่อื งเรือนภายในบ้านให้เขาได้เล่น เช่น เตา พลาสติก ชอ้ นไม้ หรอื อาจใชก้ ล่องกระดาษมาสมมตเิ ป็นตู้เย็น เด็กวัยนี้ชอบเคลื่อนไหวและออกกําลังกาย จึงควรพาเขาไปเดินเล่นท่ี สนามเด็กเล่นหรือสวนสาธารณะหรอื ตลาด วัยนี้ชอบช่วยทํางานบ้าน จึงควรมอบ-หมาย “หน้าท่ี” ให้เขาภูมิใจใน ตนเอง เช่น เช็ดโต๊ะ เก็บของเลน่ กวาดบา้ น เป็นต้น ช่วยเขาให้รู้จักอารมณ์ของตนเอง โดยเล่นเกมทายอารมณ์จากสีหน้า (เล่นหนา้ กระจกเงา) เช่น มีความสุข หน้าเศร้า หน้าโกรธ เปน็ ต้น คุณอาจใช้ผา้ ห่มหรือเส่อื มาทําเปน็ “มมุ สว่ นตัว” ใหเ้ ขาไดเ้ ล่นอย่ขู า้ งใน ให้เขาเล่นกับเด็กคนอ่ืน เน่ืองจาก วัยน้ียังไม่รู้จักการแบ่งปัน ดังน้ัน จึงควรจัดหาของเล่นให้พอสําหรับ เด็กทุกคน คุณควรอยู่ใกล้เขาเพ่ือ ชว่ ยให้เขาเรียนร้วู ธิ ีทจ่ี ะเล่นกับเด็ก คนอืน่ อยากสขุ ภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 64
เขาอยากทําสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง ควรให้เขาได้กินอาหาร-ด่ืมนํ้าเอง ต้องทําใจว่าอาจจะหกเลอะเทอะบา้ ง การเลา่ นิทานกอ่ นนอนเปน็ วธิ ีชว่ ยลด ความต่ืนเตน้ ใหเ้ ขา ควรให้เขาเลอื ก หนงั สอื พลกิ หนา้ หนงั สอื และบอกช่ือ รูปภาพในหนังสือ (โดยมีคุณคอยช่วย) เด็กอายุ 2 ปีถงึ 2 ปี 6 เดอื น เด็กวัยนี้ชอบเลียนแบบคุณ ผู้ใหญ่คนอื่นและเพื่อนของเขา ต้องการทํา ทุกอย่างด้วยตนเอง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทําได้ ชอบพูดคําว่า “ของหนู” “ไม่” “หนูทําเอง” เขามีอารมณ์หลากหลายและแสดงออกอย่างเต็มที่ จึงไม่ น่าแปลกใจหากเวลาท่ีเขาโกรธแล้วจะโวยวายมาก เช่น นอนดิ้นกับพ้ืน ช่วงน้ี จะชอบเลียนแบบงานบ้านและสามารถเก็บของเล่นของตัวเองได้ (โดยมีคุณ คอยช่วย) ชอบลองทําส่ิงใหม่ๆ ไปในที่ๆ ไม่เคยไป แต่จะรู้สึกอุ่นใจหากมีคุณ อยู่ใกล้ๆ เขาสนใจเด็กคนอื่น และกําลังเรียนรู้ว่าจะเล่นกับเด็กอ่ืนอย่างไร ชอบเลน่ ใกล้เดก็ คนอนื่ แตย่ งั ไม่ได้เลน่ ด้วยกันและยังไม่รู้จักการแบ่งปัน ยังรอ คอยไม่เป็น เวลาท่ีอยากได้อะไรจะต้องได้ทันที ยังต้องการให้ผู้ใหญ่หรือเด็ก คนอื่นที่เขาคุ้นเคยสนใจเขา ในขณะเดียวกันก็อายคนแปลกหน้า รู้วิธีแสดง ความรู้สึก เช่น เมื่อถูกกอดหรือหอมแก้ม เขาจะกอดและหอมแก้มคนนั้น นอกจากนี้เขายังปลอบใจเวลาที่คนค้นุ เคยไม่สบายใจ รู้จกั ชือ่ ของตนเอง และรู้ว่าตวั เขาเองชอบหรือ ไม่ชอบอะไร เขาอาจจะตดิ สิง่ ของบางอย่าง เช่น ผ้าห่ม ตุ๊กตา เป็นต้น ของเล่นสมมติ เช่น เล่นทาํ ครัว หรือคุยโทรศัพท์ของเล่น เรียนรกู้ จิ วตั รประจําวนั ของบา้ น แตย่ ังไมเ่ ขา้ ใจ กฎเกณฑ์เท่าไหรน่ ัก 65 สําหรบั เดก็ เลก็
กิจกรรมสง่ เสริมพัฒนาการทางสงั คม-อารมณ์ สาหรับเด็กอายุ 2 ปถี ึง 2 ปี 6 เดือน ต้งั กฎสัน้ ๆ งา่ ยๆ และปฏิบตั ติ ามกฎอย่างสม่ําเสมอ (เขากาํ ลังเรียนรู้ กฎระเบยี บแต่ต้องการใหค้ ณุ คอยเตือนบ่อยๆ) กาํ หนดชว่ งเวลาทํากิจกรรมร่วมกันกับเขา ได้ขดตัวนอนเล่นด้วยกัน หรอื อ่านหนังสือรว่ มกนั กอ่ นนอน ทําให้เขารู้สึกว่าเป็น “คนพิเศษ” และชมเวลาท่ีเขาทําอะไรใหม่ๆ ได้ ควรพูดว่า “หนูทํา...ได้เอง” “ขอบใจจ้ะท่ีช่วยแม่เก็บของ” อย่าลืม บอกเขาว่าคุณรักเขามากในขณะที่คุณกอดและหอมเขา สัมผัสเขา อย่างนมุ่ นวลจะชว่ ยใหเ้ ขาเข้าใจได้ ควรอยู่ใกล้ๆ ขณะที่เขากําลังเล่นกับเพ่ือน เพื่อชี้แนะวิธีสลับกันเล่น เพราะเด็กวัยน้ียังไม่รู้จักแบ่งปัน แต่การสลับกันเล่นจะช่วยให้เขา เรยี นรู้วธิ ีแบ่งปนั ให้ทางเลือกง่ายๆ แก่เขา เช่น หนูจะใส่เสื้อสีฟูาหรือสีแดง หนูจะกิน ขา้ ว หรอื กว๋ ยเต๋ยี ว ให้เขาทําอะไรด้วยตัวเองมากข้ึน เช่น วางเก้าอี้ใกล้อ่าง เพื่อให้เขาปีน ขึ้นไปลา้ งมอื หรือแปรงฟัน ให้เขาเลอื กและหยบิ เส้ือผา้ ด้วยตวั เขาเอง เลน่ กบั เขาบนพ้นื ให้เขาเปน็ ผนู้ ําวา่ อยากเลน่ ของเลน่ อะไร ด้วยวิธีไหน กระตุ้นให้เขาเล่นสมมติ โดยหาของเล่นประเภทเคร่ืองครัวของเด็ก และชวนเขาเล่นทําครัว อย่าลืมชมเวลาเขาเอามาให้คุณกิน ช่วยให้เขาได้เข้าใจอารมณ์ตัวเองมากข้ึน โดยสะท้อน ให้เขาฟงั เชน่ หนูดมู ีความสุข หนกู ําลังโกรธ เวลาท่เี ขาร้องงอแงหรือลงไปนอนดนิ้ กับพน้ื คณุ ควรสงบและพูดกับเขาดว้ ย นํา้ เสียงน่ิงๆ ถ้าหากทาํ ได้ ให้เพิกเฉย จนกว่าเขาจะหยดุ ไปเอง อยากสขุ ภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 66
เดก็ อายุ 2 ปี 6 เดือนถึง 3 ปี เขาชอบเล่นข้างๆ เด็กคนอ่ืน เขามีจินตนาการมากข้ึน ดังน้ัน หุ่นมือ ตุ๊กตา หรือของเล่นสมมติเป็นของเล่นที่เหมาะสําหรับวัยนี้ เริ่มเข้าใจอารมณ์ ของคนอื่น เขาบอกได้ว่าเด็กคนอ่ืนรู้สึกโกรธ หรือมีความสุข เด็กวัยนี้เร่ิมรู้จัก แบ่งปันได้เป็นบางคร้ัง มักส่งเสียงดังและชอบบงการผู้อื่น เขาอาจจะพูดดัง และเร็ว เริ่มปฏิบัติตามคําสั่งง่ายๆ ท่ีทําอยู่เป็นประจํา เช่น “ไปเอาเสื้อผ้าใน ห้องหนูมาซิ” “ไปเอาถ้วยมาให้แม่หน่อย”เขาชอบฟังนิทานและเพลงซํ้าไปซํ้า มา เขาต้องการเป็นอิสระจากคุณ แต่บางครั้งก็ต้องการให้คุณอยู่ใกล้ๆ เขา สามารถแยกจากคุณได้ง่าย ถ้าไปในท่ีที่คุ้นเคย เขาสามารถบอกได้ว่าเขาเป็น เด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง อาจทักทายผู้ใหญ่ท่ีคุ้นเคยได้ และมักจะดีใจเวลาได้ พบกับเพ่ือน อาจกรีดร้องและอาละวาดเวลาไม่ได้ดั่งใจ เขาชอบถูกโอบกอด แต่ตอ้ งไม่ใช่ตอนที่กาํ ลังเลน่ อยู่ กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการทางสังคม-อารมณ์ สาหรับเดก็ อายุ 2 ปี 6 เดอื นถงึ 3 ปี ทําหนงั สือ “พเิ ศษ” สําหรับเขา โดยตดิ รูปเขา คนในครอบครัว และส่ิง ท่ีพเิ ศษเก่ยี วกบั ตวั เขา เล่าใหเ้ ขาฟงั เก่ยี วกับเรื่องสนุกๆ ที่เขาทําตอนที่ยังเป็นทารก บางครั้ง เล่าเรื่องท่ีเขาชอบไปสักพักแล้วลองหยุดดูว่าเขาสามารถเล่าต่อได้ หรอื ไม่ ให้เขาช่วยคุณทําอาหารและทําความสะอาดบา้ น เช่น เดด็ ผัก เก็บช้อน เข้าทเ่ี ป็นต้น เขาชอบเลียนแบบคุณ คุณจึงควรพูดคําใหม่ๆ ทําเสียงสัตว์ต่างๆ และทําเสยี งหลายๆ แบบ และดวู ่าเขาเลียนแบบท่าทางและเสียงของ คุณไดห้ รอื ไม่ วาดรูปภาพที่แสดงอารมณ์ต่างๆ เช่น โกรธ หงุดหงิด มีความสุข และ กระตุน้ ให้เขาใช้ภาพพวกน้ีเวลาต้องการบอกถงึ ความร้สู กึ ของเขา 67 สาํ หรบั เด็กเลก็
กาํ หนดช่วงเวลาพเิ ศษอ่านหนงั สอื รว่ มกัน อาจ นอนขดตวั ใกล้ๆ กนั ขณะอ่าน อ่านเปน็ ช่วงกอ่ นนอน) ใหเ้ ขาทําอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น เช่น วางเก้าอี้ใกลอ้ า่ ง เพื่อให้เขาปนี ขน้ึ ไป ล้างมือหรอื แปรงฟนั ใหเ้ ขาเลือกและ หยิบเส้ือผา้ ดว้ ยตวั เขาเอง เล่นกับเขาและฝึกให้เขาร้จู ักแบง่ ปัน ชมเชย เมอ่ื เขาทาํ ได้ แต่อย่าเพ่ิงคาดหวงั วา่ เขาจะทาํ ไดด้ ี พาเขาไปสนามเด็กเล่น เล่นกับเขาใกล้ๆ เด็กอ่ืน เขาอาจเพียงจ้องมอง ดู เม่ือพรอ้ มเขาจึงจะเล่นกบั คนอน่ื เด็กอายุ 3 ปีถงึ 4 ปี เดก็ วยั นสี้ ามารถทําสิ่งตา่ งๆ ได้ดว้ ยตนเอง และมกั จะพูดวา่ “หนูจะทํา มนั เอง” แมว้ า่ เขาจะเปน็ ตวั ของตวั เองมากข้ึน แต่เขากําลังเรียนรู้การทําตาม กฎเกณฑ์ และต้องการให้คุณเตือนเขาอย่างนุ่มนวล สามารถเล่นกับเด็กอื่น ได้ในช่วงสั้นๆ เขากําลังเรียนรู้การแบ่งปันและสลับกันเล่นกับเพ่ือน อาจมี เพือ่ นทีเ่ ขาชอบเลน่ ด้วยเป็นพิเศษ เดก็ วยั นี้จะชอบเลน่ กบั เพอื่ นเพศเดียวกัน เขาเป็นตัวของตัวเองมากและไม่เกาะมือคุณตลอด (เพียงแค่อยู่ใกล้ๆ) เวลา ออกไปนอกบ้าน อารมณ์ของเขาสามารถเปลี่ยนไปมาได้เร็ว เช่น กําลัง หัวเราะเปลี่ยนมาร้องไห้ เขากําลังเรียนรู้การควบคุมอารมณ์ของตัวเอง บางคร้ังเขาพูดได้ว่าเขากําลังรู้สึกอย่างไร เร่ิมเรียนรู้ความรู้สึกของคนอ่ืน และอาจบอกได้ว่าคนอื่นกําลังรู้สึกอย่างไร เขาใช้จินตนาการแต่งเรื่อง และ เล่นสมมติกับตุ๊กตาหรือของเล่น เช่น คุยโทรศัพท์พร้อมกับออกท่าทาง เขา อาจทําตัวเป็นเจ้านายและออกคําสั่งกับคนรอบข้าง เพราะเขาเป็นตัวของ ตวั เองและใหค้ ณุ ค่ากับตวั เอง เขาอาจทาํ ตามทคี่ นอ่ืนบอกแตเ่ ขาเตม็ ใจทีจ่ ะ อยากสขุ ภาพดี ต้องมี 3 อ. 68
ทําในส่ิงท่ีเป็นความคิดของเขาเอง เขาอาจรู้สึกกลัวและฝันร้าย การดู โทรทัศน์โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เร่ืองที่น่ากลัวทําให้เขานอนฝันร้าย เขาจดจ่อใน กิจกรรมไดย้ าวนานขึ้น (อย่างนอ้ ย 5 นาที) กิจกรรมส่งเสรมิ พฒั นาการทางสังคม-อารมณ์ สาหรับเดก็ อายุ 3 ปถี งึ 4 ปี เลา่ เรื่องสนุกหรือน่าสนใจเกี่ยวกับตัวเขา สังเกตว่าเขาเล่าเร่ืองอ่ืนที่ เก่ยี วกับตวั เองไดห้ รอื ไม่ ใหเ้ ขาได้เลน่ กับเดก็ อ่นื อาจเปน็ เพื่อนบา้ นหรอื เด็กที่เลน่ ในสนามเดก็ เล่น เด็กวัยนี้จะมีเพื่อนในจินตนาการ ให้เขาได้พูดคุยและเล่นกับ เพ่ือนทเ่ี ขาสมมติขึน้ มา (ถา้ มี) ให้เขาได้เลือกเสื้อผ้าหรืออาหาร เช่น “หนูจะ ใส่เสื้อสีฟูาหรือสีเขียว” “หนูจะกินไข่เจียวหรือ ไขต่ ้ม” เลน่ เกมส์ท่ีตอ้ งสลบั กันเลน่ เชน่ โยนบอล เล่นสมมติกับตุ๊กตา 2 ตัวท่ีทะเลาะกัน พูด คุยกับเขาว่าอะไรเกิดข้ึน แต่ละตัวรู้สึก อย่างไร และจะแกป้ ญั หานอ้ี ยา่ งไร มชี ่วงเวลา “พิเศษ” ทุกวนั นอนขดตวั ใกลก้ ันแล้วอ่านหนังสือร่วมกัน ค่อยๆ เพม่ิ ระยะเวลาขนึ้ ทลี ะน้อยเท่าทเ่ี ขาสนใจฟังได้ เล่าเร่ืองตลกที่ เข้าใจง่ายใหเ้ ขาฟัง เพราะจะเปน็ ช่วงเวลาทด่ี ีทีจ่ ะได้หวั เราะรว่ มกัน วาดภาพใบหนา้ แสดงอารมณ์ต่างๆ และ ตัดภาพไปตดิ กบั ไมไ้ อศกรีม และใหเ้ ขา ใช้ประกอบเวลาเขามีอารมณ์ตรงกบั ภาพนนั้ ๆ บอกใหเ้ ขาร้วู ่าคุณรักเขาและเขาเป็นเด็ก ท่นี ่ารกั มาก พร้อมกับกอดและหอม 69 สําหรับเด็กเลก็
เด็กอายุ 4 ปีถงึ 5 ปี เด็กวัยน้ีชอบเล่นกับเด็กอ่ืน และมักมีเกมส์และเพื่อนที่ “ถูกใจ” เร่ิม แบ่งปันและสลบั กนั เล่นกบั เพื่อนได้ แตย่ งั หวงของเลน่ ท่เี ป็น “ชิ้นโปรด” เขา บอกได้ว่ารู้สึกอย่างไร เริ่มเข้าใจกฎระเบียบง่ายๆ สั้นๆ ท้ังที่บ้านและ โรงเรียน เริ่มเข้าใจถึงอันตรายและรู้ว่าจะต้องอยู่ห่างจากส่ิงท่ีอาจก่อให้เกิด อนั ตราย ชอบเร่ืองตลกและเข้าใจมุขตลก เขาเร่ิมควบคุมความรู้สึกอึดอัดคับ ข้องใจได้ ช่วงนี้เขาใช้จินตนาการอย่างมากมาย และมีความคิดสร้างสรรค์ เวลาเล่น เขามักใช้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับตนเอง เช่น ไปซ้ือของ ไป โรงเรียน มักมีเพื่อนในจินตนาการมาเล่นกับเขา เข้านอนพร้อมกัน และไป โรงเรียนด้วยกัน เขาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นและชอบการผจญภัย ดังนั้น เขาจะสนใจและพยายามทําส่ิงใหม่ เขามีความเห็นอกเห็นใจและใส่ใจใน ปัญหาของผู้อ่ืนมากข้ึน สามารถแสดงความเห็นใจเวลาท่ีน้องหรือเพื่อน อารมณ์ไม่ดีหรือไดร้ ับบาดเจบ็ กิจกรรมส่งเสรมิ พัฒนาการทางสังคม-อารมณ์ สาหรับเดก็ อายุ 4 ปีถึง 5 ปี แนะนําให้เขารูจ้ กั กับอารมณ์ความรู้สึกใหม่ๆ โดยใช้ภาพ ท่าทางและ ภาษาพดู กระตุ้นใหเ้ ขาพดู ถึงความร้สู กึ ของตนเอง กระตุ้นให้เขาทํากิจกรรมที่ต้องแบ่งปัน เช่น ดินสอสี แปูงโดว์ หรือ หนังสือนิทาน ให้เขาไดเ้ ล่นกบั เด็กอื่นมากๆ ให้เขาใช้ความคิดสร้างสรรค์ผ่านการประดิษฐ์ของเหลือใช้ เช่น กล่องเปลา่ กาว กระดาษ หนงั ยางรดั ของ และนิตยสาร พาเขาไปร้านขายของหรือร้านอาหาร ให้เขาสังเกตสถานท่ีใหม่ๆ ผูค้ นใหมๆ่ วา่ มีความเหมอื นหรอื แตกต่างกนั อย่างไร ใหเ้ ขาช่วยทํางานบ้านหรือทําสวน โดยแบ่งเป็นพ้ืนที่ส่วนตัวของเขา รวมถงึ ใหเ้ ขาชว่ ยเทขยะหรือปัดฝุนออกจากโต๊ะ อยากสุขภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 70
พูดคุยกับเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดข้ึนภายในบ้าน เช่น ปล๊ักไฟ เตา รวมถึงภายนอกบา้ น เช่น เวลาเดินข้ามถนน การพูดคุยกับคนแปลก หนา้ กระตุ้นใหเ้ ขาเป็นตวั ของตัวเอง โดยให้เตรียมอาหารด้วยตนเอง เช่น ไปหยบิ นมมาเทใสแ่ กว้ เลอื กเสอ้ื ผา้ ท่ีจะใส่เอง แต่งเร่ืองว่าตุ๊กตา 2 ตัวกําลังเถียงกัน พูดถึงความรู้สึกของตุ๊กตาแต่ ละตวั และปรกึ ษากบั เขาวา่ ควรจะแก้ข้อขัดแย้งนอี้ ยา่ งไร จัดให้ตุ๊กตามาเล่นกันเป็นกลุ่ม และให้แต่ละตัวแต่งตัวเล่นเป็นคนที่ ทาํ งานตา่ งกัน เช่น ครู ตํารวจ หมอ และให้เขาลองพากย์เป็นตัวละคร ต่างๆ เขาเข้าใจกฎกติกามากข้ึน แต่ก็ยังต้องการให้เตือนอยู่บ้าง คุณควรตั้ง กฎท่ีสนั้ เข้าใจงา่ ย และปฏิบตั ติ ามกฎอยา่ งสมํ่าเสมอ อย่าลืมกอดเขา ชมเชยในสง่ิ ท่เี ขาทาํ ได้ใหม่ๆ (ความคดิ สร้างสรรค)์ การพูดแสดงความ ร้สู ึก (แทนการตหี รือแสดงพฤตกิ รรม ไมเ่ หมาะสม) และการแบง่ ปันของเล่นกับคนอื่น เดก็ อายุ 5 ปีถึง 6 ปี เขาชอบเล่นเป็นกลุ่มท้ังที่สนามเด็กเล่นและที่โรงเรียน และสามารถ เล่นไดก้ บั เพื่อนทุกคนที่อยู่ห้องเรียนเดียวกัน แต่บางครั้งก็เล่นได้ดีกับเพื่อน เพียง 1-2 คน มักเลือกเพ่ือนสนิทด้วยตัวเอง ชอบเล่นเกมที่มีกฎกติกาง่ายๆ ได้ เช่น งูตกบันได บิงโก โดมิโน เข้าใจและปฏิบัติตามกฎ ระเบียบได้ ทั้งที่ บ้านและโรงเรียน สามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้หลากหลาย บางครั้งก็ อาจอิจฉานอ้ งทไ่ี ด้รับความสนใจจากพ่อแม่ เปน็ ตวั ของตัวเอง และชอบท่ีจะ 71 สาํ หรับเด็กเล็ก
เลือกสิง่ ตา่ งๆ ดว้ ยตัวของเขาเอง ไม่ว่า จะเปน็ เส้ือผา้ อาหาร หรือกจิ กรรม ที่สนใจ เขาไวต่อความรสู้ ึกของ เด็กคนอืน่ และสามารถบอกไดว้ า่ คนอน่ื รู้สกึ อยา่ งไร เชน่ เพอ่ื นหนู กําลังเศรา้ ชอบพูดคยุ กบั ผู้ใหญ่ และเด็กทค่ี ุ้นเคย เขา้ ใจและรูจ้ กั การแบ่งปนั และสลับกนั เลน่ แต่ อาจยังไมส่ ามารถปฏบิ ัติได้ตลอด เร่มิ เขา้ ใจถึงความ“ถูกต้อง” และ “ไม่ถูกต้อง”แต่ยังไม่สามารถปฏิบัติตน ได้ “ถกู ตอ้ ง” ทกุ ครง้ั การไดร้ บั อนญุ าตจากผู้ใหญ่เป็นส่ิงสําคัญสําหรับเขา ดังนั้น เขาต้องการ ให้ผู้ใหญ่สนใจและรับรู้สิ่งท่ีเขาปฏิบัติ เขาเริ่มควบคุมตนเองได้มากขึ้นใน สถานการณ์ที่อยู่กับกลุ่มเพ่ือนและยืนในแถวเพื่อรอคอยให้ถึง “คิว” ของ ตนเองได้ สามารถตอบสนองตอ่ คําขอเช่น พูดเบาๆ หรือเดินที่ทางเท้าเขามี สมาธิหรือความสนใจจดจ่อยาวนานขึ้น ทําให้ทําส่ิงท่ีได้รับมอบหมายจน เสร็จหรอื ฟังนิทานไดจ้ นจบ กิจกรรมสง่ เสรมิ พฒั นาการทางสงั คม-อารมณ์ สาหรับเดก็ อายุ 5 ปีถึง 6 ปี เด็กทกุ คนมักรูส้ ึกดีทเ่ี ขาไดช้ ่วยงานบ้าน คุณควรชมเชยว่าเขาเก่งและ ชว่ ยคณุ ไดม้ าก กระตนุ้ ให้เขาเลือกสง่ิ ต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่วา่ จะเป็นเส้ือผ้าหรืออาหาร โดยให้ทางเลือกสกั 2-3 ขอ้ เขาอาจต้องการความช่วยเหลือจากคุณบ้างเมื่อมีปัญหา โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเวลาท่ีทะเลาะกับเพ่ือน คุณควรบอกให้เขาพูดด้วยตนเอง (โดยมีคณุ คอยชี้แนะ) อยากสขุ ภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 72
พูดคุยเรอื่ งตลกหรือใหท้ ายคําถาม “อะไรเอย่ ” ทอ่ งโคลงสําหรับเด็กที่เขาชอบ โดยเน้นเรื่องที่เกี่ยวกับความ “ถูกต้อง” และ “ไม่ถูกต้อง” และถกเถียงกับเขาว่าอะไรเป็นลักษณะที่เรียกว่า “คนดี” และ “คนไมด่ ี” ให้เขาดูรูปในนิตยสารท่ีเก่ียวกับคนต่างวัฒนธรรม พูดคุยถึงความ แตกต่างระหวา่ งครอบครัวของเขากับคนอ่ืน ฝึกให้เขาจํา “วันเกิดของเขา” “เบอร์โทรศัพท์” “ช่ือ-นามสกุลของ เขา” เผ่อื เวลาท่ีเขาพลดั หลง เล่นเกมส์ท่ีมกี ฎตัง้ แต่ 3 ข้อขึ้นไป เช่น งูตกบันได บิงโก ใชภ้ าพจากนิตยสารมาพูดคุยกับเขาถึงสิ่งท่ีเป็นอันตราย “ของจริง” เชน่ ปนื ไฟไหม้ และสิ่งทไ่ี ม่จรงิ เชน่ ผี ความมืด ใช้กล่องเปล่าสร้างเป็นร้านค้า บ้าน หรือสถานีดับเพลิง และให้เขา ชวนเพ่ือนมาเล่นโดยใช้สิ่งเหล่านี้ เช่น ขายของ ดับเพลิง หรือเล่น หุ่นมือ เวลาที่เขาอยู่กับเพื่อน คุณควรให้พวกเขาได้เล่นเกมส์ท่ีต้องช่วยกัน เชน่ ช่วยสรา้ งบ้าน (จากผา้ ห่มเก่า) หรือเตะบอล กระตุ้นให้เขาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกฎท่ีบ้านกับโรงเรียน และอธิบายเหตผุ ลทต่ี อ้ งมีกฎเหลา่ น้ี 73 สําหรบั เด็กเล็ก
ภาคผนวก นอนเท่าไหร่...จงึ จะเพียงพอ การนอนหลับมีความสาํ คัญตอ่ การ เจรญิ เติบโต การพฒั นาสมองและ สุขภาพของเดก็ โดยเวลานอนทําให้ ร่างกายหลั่งฮอร์โมนการเจริญเตบิ โต (growth hormone) มากขึน้ ส่งผล กระตนุ้ การเจรญิ เติบโตและควบคุมสัดส่วนของไขมันในกล้ามเนื้อ เด็กที่นอน ไม่เพียงพอจะเกดิ ปญั หาการเจริญเตบิ โตไม่ดี การเรยี นรู้ชา้ ลง ความจําลดลง การสร้างภูมิต้านทานโรคลดลง ทําให้ติดเชื้อได้ง่าย จึงต้องส่งเสริมให้เด็ก นอนหลบั พกั ผ่อนเพียงพอ อย่างนอ้ ยวนั ละ 8-10 ชว่ั โมง น้าหนักและสว่ นสูงอยใู่ นเกณฑด์ แี ละเพ่ิมขึน้ ดีหรือไม่ นํ้าหนักและส่วนสูงเป็นเครื่องบ่งช้ีถึงการเจริญเติบโต เด็กๆ ควรเฝูา ระวังการเจรญิ เตบิ โตด้วยตนเอง โดยติดตามนาํ้ หนกั และส่วนสูงทุก 6 เดือน เพื่อประเมินว่าได้รับอาหารเพียงพอต่อการเจริญเติบโตหรือไม่ โดยการจุด นํ้าหนักและส่วนสูงบนกราฟส่วนสูงตามเกณฑ์อายุและกราฟน้ําหนักตาม เกณฑ์ส่วนสูง ทําให้ทราบทั้งภาวการณ์เจริญเติบโตและแนวโน้มการเจริญ- เติบโต โดยทกี่ ราฟส่วนสงู ตามเกณฑ์อายุควรอยู่ในระดับ “ส่วนสูงตามเกณฑ์ ค่อนข้างสูง และ สูง” และกราฟน้าํ หนักตามเกณฑ์ส่วนสูงควรอยู่ในระดับ “สมส่วน” หากน้ําหนักและส่วนสูงไม่อยู่ในระดับท่ีกล่าวไว้ข้างต้น เด็กควร สํารวจการกินอาหารของตนว่าเปน็ ไปตามทีแ่ นะนําหรือไม่ ต้องปรับปรงุ การ กินอาหารให้ถูกต้องตามที่แนะนํา เพื่อให้น้ําหนักและส่วนสูงกลับมาอยู่ใน ระดบั ตามเกณฑ์ค่อนข้างสงู หรอื สงู และนํ้าหนักกลับมาอยู่ในระดับสมส่วน เพอื่ จะไดม้ ีภาวการณ์เจริญเติบโตดี ปกติ มรี ปู รา่ งสมสว่ น อยากสุขภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 74
เทคนคิ การชัง่ นา้ หนกั 1. ไม่ควรชงั่ นาํ้ หนักหลังกนิ อาหารทันที 2. ควรชั่งนํ้าหนักในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อติดตามการเปล่ียนแปลงนํ้าหนัก หรือภาวะโภชนาการเป็นรายบคุ คล 3. ควรถอดเสื้อผ้าออกให้เหลือเท่าที่จาํ เป็นโดยเฉพาะเสื้อผ้าหนาๆ รวมทั้ง รองเท้า ถุงเทา้ และนาํ ส่งิ ของออกจากตวั 4. ในกรณที ่ีใชเ้ ครอ่ื งช่งั นาํ้ หนกั แบบยนื ชนิดเข็ม - ผู้ทท่ี าํ การชัง่ นาํ้ หนักจะตอ้ งอยู่ในตาํ แหน่งตรงกนั ข้ามกบั เดก็ ไมค่ วร อยดู่ ้านขา้ งทง้ั ซ้ายหรอื ขวา เพราะจะทาํ ให้อ่านค่าน้ําหนกั มากไปหรือน้อยไปได้ - เขม็ ท่ีช้ีไม่ตรงกับตวั เลยหรอื ขีดแบง่ นํา้ หนกั ตอ้ ง อ่านคา่ นํ้าหนกั อย่างระมดั ระวงั เชน่ 10.1 หรอื 10.2 หรือ 10.8 กิโลกรัม 5. อ่านค่าให้ละเอยี ดมที ศนิยม 1 ตาํ แหน่ง เช่น 10.6 กโิ ลกรัม 6. จดน้าํ หนกั ใหเ้ รียบร้อยกอ่ นลงจากเครอื่ งชง่ั เทคนคิ การวดั สว่ นสงู 1. ถอดรองเท้า ถงุ เท้า 2. ผหู้ ญิง ถ้ามีก๊บิ ที่คาดผม หรอื มัดผม ควรนาํ ออกกอ่ น 3. ยืนบนพน้ื ราบ เทา้ ชิด 4. ยืดตัวขนึ้ ไปข้างบนให้เต็มท่ี ไมง่ อเขา่ 5. ศรี ษะ หลงั กน้ ส้นเทา้ สมั ผสั กับไม้วัด 6. ตามองตรงไปข้างหน้า ศรี ษะไม่เอียงซ้าย-เอียงขวา ไม่ แหงนหน้าข้นึ หรือก้มหนา้ ลง 7. ใชไ้ ม้ฉากในการอ่านคา่ ส่วนสงู 8. อา่ นคา่ สว่ นสงู ใหอ้ ยู่ในระดับสายตาผู้วดั โดยอา่ นคา่ ให้ ละเอยี ดมีทศนยิ ม 1 ตาํ แหนง่ เช่น 118.4 เซนตเิ มตร 75 สาํ หรับเดก็ เลก็
อยากสุขภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 76
77 สาํ หรับเดก็ เลก็
บรรณานกุ รม กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการบันทึกและ ประเมินการบริโภคอาหารทั่วไปและอาหารที่เป็นแหล่งแคลเซียม. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, 2548. กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือแนวทางการใช้ เกณฑ์อ้างอิงนํ้าหนัก ส่วนสูง เพ่ือประเมินภาวะการเจริญเติบโตของ เด็กไทย. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์องค์การสงเคราะหท์ หารผา่ นศกึ , 2543. คณ ะ กรร มกา รจั ดทํา ข้อกํ าห นดค วาม ต้อง กา รสา รอา หา รท่ีค วรไ ด้ รั บ ประจําวันสําหรับคนไทย. อาหารทารก อายุแรกเกิด-12 เดือน. กอง โภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ . ม.ป.ท.: ม.ป.พ., 2555. คณะกรรมการจัดทําหนังสือแคลเซียมและสุขภาพ. แคลเซียมและสุขภาพ. กองโภชนาการ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2545. คณะทํางานจัดทําเกณฑ์อ้างอิงนํ้าหนัก ส่วนสูง และเคร่ืองชี้วัดภาวะ โภชนาการของประชาชนไทย. เกณฑ์อ้างอิงนํ้าหนัก ส่วนสูง และเคร่ืองชี้ วัดภาวะโภชนาการของประชาชนไทยอายุ 1 วัน-19 ปี. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ . พมิ พค์ รง้ั ที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2542. คณะทํางานจัดทําข้อกําหนดสารอาหารที่ควรได้รับประจําวันสําหรับคน ไทย.ปริมาณสารอาหารอ้างอิงท่คี วรไดร้ บั ประจําวนั สําหรบั คนไทย พ.ศ. 2546. พิมพ์คร้ังท่ี 3. กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพฯ: โรงพิมพอ์ งคก์ ารรบั สง่ สินค้าและพัสดุภัณฑ์, 2546. คณะทาํ งานจัดทําข้อปฏิบัติการกินอาหารเพ่ือสุขภาพที่ดีของคนไทย. คู่มือ ธงโภชนาการ. พิมพ์ครั้งท่ี 2. กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุข. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์, 2552. อยากสุขภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 78
คณะทํางานจัดทําคู่มือแนวทางการใช้เกณฑ์อ้างอิงนํ้าหนัก ส่วนสูงเพื่อ ประเมินภาวะการเจริญเติบโตของเด็กไทย. คู่มือแนวทางการใช้เกณฑ์ อ้างอิงน้ําหนัก ส่วนสูงเพื่อประเมินภาวะการเจริญเติบโตของเด็กไทย. กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. พิมพ์ครั้งท่ี 2 กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์องค์การสงเคราะหท์ หารผ่านศกึ , 2547. ลัดดา เหมาะสุวรรณ. พัฒนาการด้านกายของเด็กไทย: การเจริญเติบโต ภาวะโภชนาการ และสมรรถภาพทางกาย. ในโครงการวิจัยพัฒนาการ แบบองคร์ วมของเด็กไทย. หาดใหญ่: เอกสารหาดใหญ่, 2547. วิทยา กุลสมบูรณ์. ปญหาสุขภาพเด็กจากขนมขบเคี้ยวและแนวทางการ แกไข (ออนไลน์). สืบค้นข้อมูลจาก: http://www.noasbestos.org/hcp/ images/mydata/work/food_child/healthproblemfromsnack.pdf. สมพล สงวนรังศิริกุล. ข้อแนะนําการออกกําลังกายสําหรับเด็ก (อายุ 2-12 ปี). กองออกกําลังกายเพ่ือสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. 2546. สาคร ธนมิตต์. ผลกระทบของภาวะทุพโภชนาการตลอดวงจรชีวิตมนุษย์. การประชุมวิชาการโภชนาการ 44 เรื่องอาหารและโภชนาการเพื่อการ สรา้ งเสริมสุขภาพ วันท่ี 21-23 มกราคม 2545. สํานักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข. รายงานสุขภาพโลก 2002 ลดปัจจัยเสี่ยงสร้างเสริมสุขภาวะ (The World Health Report 2002 Reducing Risks, Promoting Healthy Life). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สามเจริญพาณชิ ย์, 2546. สํานักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการพัฒนาสู่ องค์กรส่งเสริมเด็กไทยเติบโตเต็มศักยภาพ. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์สามเจรญิ พาณิชย.์ 2556. สาํ นักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ . แนวทางการดําเนินงาน เฝูาระวังการเจริญเติบโตของเด็กอายุ 6-18 ปี. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย. 2556. 79 สําหรับเดก็ เลก็
อุมาพร สุทัศน์วรวุฒิ, สุภาพรรณ ตันตราชีวธร, สมโชค คุณสนอง. คู่มือ อาหารตามวยั สาํ หรับทารกและเดก็ เล็ก สนับสนุนโดยสํานักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. กรุงเทพฯ: บียอนด์ เอ็นเตอร์ไพรซ์, 2552. Black RE, Allen LH, Bhutta ZA, Caulfield LE, Onis M de, Ezzati M, Mathers C, Rivera J. Maternal and child undernutrition: global and regional exposures and health consequences. Lancet 2008; 371: 243-60. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Fact Sheets- Underage Drinking (Online). Available: http://www. cdc.gov/ alcohol/fact-sheets/underage-drinking.htm. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). Fact Sheets- Underage Drinking (Online). Available: http://www. cdc.gov/ alcohol/fact-sheets/underage-drinking.htm. Food Agriculture Organization. Human energy requirements. Re- port of a joint FAO/WHO/UNU Expert Consultation. Rome, 17- 24 October 2001. Rome: FAO, 2004. Lucas BL, Escott-Stump S. Nutrition in childhood. In: Mahan LK, Escott-Stump S. Krause’s Food & Nutrition Therapy. St. Louis: Saunders Elsevier 2008; 222-245. Rojroongwasinkul N, Kijboonchoo K, Wimonpeerapattana W, Purtti- ponthanee S, Yamborisut U, Boonpraderm A, et al. SEANUTS: The nutritional status and dietary intakes of Thai children 0.5-12 years old. Br J Nutr 2013; 110: S36-S44. The Academy of Breastfeeding Medicine Protocol Committee. ABM clinical protocol #7: Model of breastfeeding policy (revision 2010). Breastfeeding Medicine 2010; 5: 173-177. อยากสขุ ภาพดี ตอ้ งมี 3 อ. 80
World Health Organization. Complementary feeding of a young children in developing countries: a review of current scientific knowledge. WHO/UNU/98.1. Geneva: World Health Organiza- tion, 1998. World Health Organization. The optimal duration of exclusive breast-feeding. Report of an expert consultation. Geneva, Switzerland, 28-30 March 2001. World Health Organization, 2002. 81 สําหรับเด็กเลก็
Search