กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาฯ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 หนว่ ยที่ 4 เรือ่ ง พลเมืองไทย วิชา สงั คมศึกษาฯ เวลา 7 ชัว่ โมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏิบัติตนตามหนา้ ที่ของการเปน็ พลเมอื งดี มีคา่ นยิ มที่ดงี ามและธารงรักษาประเพณี และวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ติ อยูร่ ่วมกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอยา่ งสันติสุข ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จุบนั ยึดมนั่ ศรทั ธา และธารงรักษาไว้ซ่งึ การ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ตัวชวี้ ดั ส 2.1 ป.1/1 บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน ส 2.1 ป.1/2 ยกตัวอยา่ งความสามารถและความดขี องตนเอง ผ้อู นื่ และบอกผลจากการกระทานั้น ส 2.2 ป.1/1 บอกโครงสร้าง บทบาท และหน้าท่ีของสมาชกิ ในครอบครวั และโรงเรยี น ส 2.2 ป.1/2 ระบุบทบาท สทิ ธิ หน้าทขี่ องตนเองในครอบครวั และโรงเรียน ส 2.2 ป.1/3 มสี ว่ นรว่ มในการตดั สินใจและทากิจกรรมในครอบครวั และโรงเรยี นตามกระบวนการ ประชาธปิ ไตย สาระสาคัญ การเป็นพลเมืองดีต้องรู้จักการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียน รู้จักใช้ ความสามารถและความดีของตนเอง เพ่อื ทาประโยชนต์ อ่ ผอู้ ่ืน และเห็นความสามารถและความดีของผ้อู ่ืน สมาชิกทุกคนในครอบครัวและโรงเรียนมีหน้าที่แตกต่างกันแต่มีเป้าหมายเพ่ือให้ครอบครัวและ โรงเรยี นมีความสงบสุข การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการทากิจกรรมในครอบครัวและโรงเรียนตามกระบวนการ ประชาธิปไตย เป็นการยอมรบั ฟังความคดิ เห็นท่ีมเี หตุผลของสมาชิก เพือ่ ให้สังคมเกิดความสงบสขุ สาระการเรียนรู้ 1. รจู้ ักหนา้ ท่แี ละทาประโยชนต์ ่อครอบครัวและโรงเรียน 2. รจู้ กั ความสามารถและความดขี องตนเองและผู้อื่น ๓. โครงสรา้ ง บทบาทหนา้ ทีข่ องสมาชิกในครอบครวั ๔. โครงสรา้ ง บทบาทหนา้ ท่ีของสมาชกิ ในโรงเรียน ๕. การมีสว่ นร่วมในการตดั สินใจทากิจกรรมในครอบครัวตามกระบวนการประชาธิปไตย ๖. การมสี ่วนรว่ มในการตัดสินใจทากจิ กรรมในโรงเรียนตามกระบวนการประชาธปิ ไตย คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่อื สตั ย์สุจริต มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งม่นั ในการทางาน
รักความเป็นไทย สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกไ้ ขปญั หา ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน ๑. ชิ้นงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง การมสี ว่ นรว่ มในการตัดสนิ ใจและการทากจิ กรรมในโรงเรยี น ตามกระบวนการประชาธิปไตย บรู ณาการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย 1. การอา่ นคา/การอา่ นประโยค การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 กจิ กรรมท่ี 1 เรื่อง การปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกท่ีดขี องครอบครัว 1. ครูนานทิ านมาเลา่ เปรียบเทียบการเปน็ สมาชิกที่ดีของสังคม และใหน้ ักเรยี นร่วมกัน แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับการปฏิบตั ติ นในฐานะสมาชิกของครอบครวั และจาแนกการปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชกิ ท่ดี ี ของครอบครัว โดยครูสรุปคาตอบเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน 2. ให้ตัวแทนนักเรียน 3-5 คน ออกมาเล่าประสบการณ์การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว หนา้ ชน้ั เรียน และให้นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นโดยการตอบคาถาม 3. ใหน้ ักเรยี นจาแนกประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกท่ีดีของครอบครวั โดยครสู รปุ คาตอบ เปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ชวั่ โมงที่ 2 กิจกรรมที่ 2 เร่ือง การปฏิบัตติ นเปน็ สมาชิกทด่ี ีของโรงเรียน 4. ครูนาสถานการณ์การปฏิบัติตนของนักเรียนให้นักเรียนฟัง จากน้ันให้นักเรียนร่วมกันแสดงความ คิดเหน็ เกย่ี วกับการปฏิบตั ิตน ตามระเบียบ กฎ และกติกาของโรงเรียน 5. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยการจาแนกการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของโรงเรียน และครูสรุปคาตอบของนกั เรยี นเปน็ แผนภาพ 6. ครูจัดบัตรคาให้นักเรียนอ่าน จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันแยกบัตรคาการปฏิบัติตน ที่เหมาะสม และการปฏิบตั ติ นทไี่ มเ่ หมาะสมในโรงเรียน ออกจากกัน 7. ให้นักเรียนร่วมกันจาแนกประโยชน์ของการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของโรงเรียน โดยครูสรุป คาตอบเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ชั่วโมงที่ 3 กจิ กรรมที่ 3 เรอ่ื ง ลักษณะความสามารถและความดีของตนเองและผอู้ น่ื 8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับความสามารถ และความดขี องตนเองและการยอมรับ ความสามารถ และความดีของบคุ คลอนื่ 9. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั จาแนกลักษณะความดีของตนเอง และบุคคลอ่นื และความดที ีค่ วรปฏบิ ตั ิ
10. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปผลของการทาความดีของตนเองและผู้อน่ื โดยสรปุ คาตอบของนักเรียน เป็นแผนภาพ 11. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดังน้ี ก า ร เ ป็ น พ ล เ มื อ ง ดี จ ะ ต้ อ ง ป ฏิ บั ติ ต น เ ป็ น ส ม า ชิ ก ที่ ดี ข อ ง ค ร อ บ ค รั ว แ ล ะ โ ร ง เ รี ย น รู้ จั กใช้ ความสามารถของตนเอง เพื่อทาประโยชนต์ ่อผู้อ่ืน ช่วยใหส้ งั คมอยู่อย่างสงบสขุ ได้ ชว่ั โมงที่ 4 กจิ กรรมที่ 4 เรอื่ ง โครงสรา้ งของครอบครัวความสมั พันธข์ องสมาชกิ ในครอบครวั ๑๒. ครูเขียนแผนภูมิโครงสร้างของครอบครัว และให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ สมาชกิ ในครอบครวั ๑๓. ให้ตัวแทนนักเรียนออกมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครวั ของตนเองให้เพื่อนฟัง และร่วมกันสรุป ประโยชนข์ องการร้จู กั สมาชกิ ในครอบครวั เปน็ แผนภาพ ๑๔. ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั จาแนกบทบาท หน้าท่ีของสมาชกิ ในครอบครัว ๑๕. สรปุ ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ ามบทบาทหน้าที่ท่ีดีของสมาชิกในครอบครวั ๑๖. ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับโครงสร้างของโรงเรียนโดยครูสรุปโครงสร้างเป็นแผนภาพ ชว่ั โมงที่ 5 กิจกรรมท่ี 5 เร่อื ง โครงสรา้ งของโรงเรยี นความสัมพันธ์ของสมาชิกในโรงเรยี น ๑๗. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั บทบาท หน้าทข่ี องบคุ คลในโรงเรียน ๑๘. ให้นักเรียนร่วมกันจาแนกและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาท หน้าท่ี และความสัมพันธ์ของ สมาชกิ ในโรงเรยี น ๑๙. สรปุ ผลของการปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทีข่ องสมาชกิ ทด่ี ใี นโรงเรยี น ช่วั โมงท่ี 6 กิจกรรมที่ 6 เรื่อง บทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรยี น ๒๐. ให้นักเรียนร่วมกันจาแนกสิทธิของตนเองในครอบครัวและในโรงเรียนและความแตกต่างของ บทบาทหนา้ ท่ีสทิ ธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน ๒๑. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นการปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ีและสิทธิของสมาชิกใน ครอบครัว ๒๒. สรุปความรู้การปฏบิ ัติตนตามบทบาทหนา้ ท่ใี นครอบครัวท่เี หมาะสม 23. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ ดังนี้ การทาหนา้ ที่ของสมาชิกทุกคนในครอบครวั และโรงเรียนมีความแตกต่างกนั แต่มเี ป้าหมายเพ่ือให้ครอบครัว และโรงเรียนมคี วามสงบสขุ ๒๔. ครูเล่านิทานเร่ือง ครอบครัวหรรษาเพื่อนาเข้าสู่บทเรียน และให้นักเรียนร่วมกัน แสดงความ คิดเหน็ เกย่ี วกับกิจกรรมท่นี กั เรียนทารว่ มกนั กับครอบครัว ชั่วโมงที่ 7 กิจกรรมที่ 7 เรื่อง กระบวนการประชาธิปไตยในครอบครวั และในโรงเรยี น ๒๕. การอธิบายการมีส่วนรว่ มตามกระบวนการประชาธิปไตยในครอบครัวโดยการสรุปความรู้ ๒๖. การให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในโรงเรียนตาม กระบวนการประชาธปิ ไตย ๒๗. สรุปความรูก้ ารมสี ่วนรว่ มตามกระบวนการประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น
๒๘. ใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น การมีสว่ นร่วมในการตดั สินใจและทากิจกรรม ในหอ้ งเรียน ตามกระบวนการประชาธิปไตย ๒๙. สรุปความรูผ้ ลของการมีส่วนรว่ มในการตดั สนิ ใจ การทากจิ กรรมตามกระบวนการประชาธิปไตย 30. นักเรยี น และครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดังน้ี ประชาธปิ ไตยเปน็ หลกั การปกครองทยี่ อมรับความคิดเห็นที่มเี หตุผลของสมาชกิ สือ่ การเรียนรู้ ๑. เพลงเขา้ แถว ๒. บัตรคา การปฏิบัตติ นที่เหมาะสมและไมเ่ หมาะสมในโรงเรียน ๓. บัตรคา โครงสร้างของครอบครัวและโรงเรยี น ๔. แผนผงั โครงสร้างของครอบครวั ๕. ตารางบทบาท หนา้ ที่ของสมาชกิ ในโรงเรียน ๖. บตั รคา บทบาท หนา้ ท่ขี องบุคคลในครอบครวั และโรงเรียน ๗. แถบประโยคเก่ยี วกับบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชิกในครอบครัว ๘. นทิ านเรอ่ื ง นิว้ ไหนใชห่ วั หน้า ๙. เกมทายได้ใหเ้ ลย ๑๐.นทิ านเรอ่ื ง ครอบครัวหรรษา ๑๑.ชุดแบบฝึกอา่ นเพม่ิ เติม 7 ชุด การประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์ 1. การประเมนิ ผลตัวช้วี ดั คะแนนผา่ นร้อย ละ 50 การวัด นกั เรียนทาใบงาน คะแนนผ่านร้อย 1.ก่อนเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรียน ละ 60 ข้นึ ไปถือ ว่าผ่านเกณฑ์ 2.ระหว่างเรยี น ใบงานที่ 4.1 เร่อื ง ประโยชน์ของการปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทดี่ ีของโรงเรียน ใบงานที่ 4.2 เรื่อง การทาความดขี องตนเองและผอู้ ืน่ นกั เรยี นมี พฤติกรรมระดับดี ใบงานที่ 4.3 เรอ่ื ง ความสัมพนั ธข์ องสมาชกิ ในครอบครวั ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น ใบงานท่ี 4.4 เรื่อง ความสมั พนั ธข์ องสมาชิกในโรงเรยี น เกณฑ์ ใบงานท่ี 4.5 เร่ือง บทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครวั และโรงเรยี น คะแนนผา่ นร้อย ใบงานท่ี 4.6 เร่อื ง การมีส่วนรว่ มตามกระบวนการประชาธิปไตย ละ 60 แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินสมรรถนะของผู้เรยี น แบบประเมินการอ่าน คิด วิเคราะหแ์ ละเขียน 3.หลงั เรยี น แบบทดสอบหลังเรยี น ภาระงานท่ี 4.1 เร่อื ง กระบวนการประชาธิปไตย
ได_้ ______คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน แบบทดสอบก่อนเรยี น ช่อื _____________________ นามสกุล______________ เลขท_่ี _______ ชนั้ ________ ให้ระบายคาตอบที่ถูกตอ้ งลงในวงกลมตัวเลอื กใหเ้ ต็มวง (หา้ มระบายนอกวง) 1. การปฏบิ ตั ิตนในข้อใดสง่ ผลใหค้ รอบครัวมีความสุข 1 เช่ือฟงั คาสัง่ สอนของพ่อแม่ 2 ปดิ บงั ความลบั ไม่ให้พอ่ แม่รู้ 3 ทางานพเิ ศษหารายได้ให้ครอบครัว 2. นกั เรยี นควรปฏบิ ัตติ นอยา่ งไรเม่ือครถู ือของหนัก 1 เขา้ ไปชว่ ยถือ 2 รีบเดินหนีไป 3 บอกเพือ่ นใหไ้ ปช่วยครู 3. ขณะครสู อน นักเรยี นควรปฏิบัตติ นอย่างไร 1 แอบกินขนมกบั เพ่ือน 2 ฟงั ท่ีครสู อนอย่างตงั้ ใจ 3 พดู คยุ กับเพ่ือนด้วยเสียงทเี่ บา 4. การเป็นสมาชกิ ที่ดีของโรงเรยี นจะส่งผลอยา่ งไร 1 มชี ื่อเสยี งเป็นทร่ี จู้ ักในโรงเรียน 2 อยูโ่ รงเรียนอย่างมีความสุข 3 โรงเรียนเกิดความวุน่ วาย 5. นักเรียนมีสว่ นร่วมกับกจิ กรรมของครอบครวั โดยวธิ ใี ด 1 ปลกู ต้นไม้ในโรงเรียน 2 ดโู ทรทศั นใ์ นห้องตนเอง 3 ช่วยพ่อแมท่ าความสะอาดบ้าน 6. นกั เรียนควรชนื่ ชมการปฏบิ ัตติ นของเพ่ือนในข้อใด 1 แอบรับประทานขนมในห้องเรยี น 2 ชว่ ยอธบิ ายบทเรียนให้เพ่ือนฟัง 3 หนีเรียนเพือ่ ไปฝึกซ้อม
7. ขอ้ ใดเป็นผลจากความสามารถในการเลน่ กฬี า 1 สอบผ่านทกุ วิชา 2 ไดร้ ับเหรยี ญรางวัล 3 ไดร้ บั เลือกเป็นหวั หน้าชั้น 8. เพราะเหตุใดนักเรียนจึงควรทาความดี 1 เพื่อใหส้ งั คมเกดิ ความสงบสุข 2 เพ่อื ให้ไดร้ างวลั ตอบแทน 3 เพอ่ื ใหผ้ อู้ น่ื ยกย่องชืน่ ชม 9. ใหเ้ พอื่ นยืมอุปกรณก์ ารเรียนเป็นการทาความดตี รงกับข้อใด 1 ความซอ่ื สตั ย์ 2 ความรบั ผิดชอบ 3 ความเอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ 10. ขอ้ ใดเป็นการทาความดีท่นี กั เรียนควรปฏิบตั ิ 1 เกบ็ เกา้ อใี้ ห้เป็นระเบียบหลงั เลกิ เรียน 2 ชวนเพ่อื นเล่นซ่อนหาในหอ้ งสมุด 3 รบี วิ่งเขา้ โรงเรยี นเม่ือได้ยินเสียงเพลงชาติ
ได_้ ______คะแนน คะแนนเตม็ 10 คะแนน แบบทดสอบหลังเรยี น ชื่อ _____________________ นามสกุล______________ เลขท_ี่ _______ ชน้ั ________ ใหร้ ะบายคาตอบท่ถี กู ต้องลงในวงกลมตัวเลือกใหเ้ ตม็ วง (ห้ามระบายนอกวง) 1. การปฏิบตั ติ นในขอ้ ใดสง่ ผลให้ครอบครัวมีความสุข 1 เชอื่ ฟังคาสั่งสอนของพ่อแม่ 2 ปิดบังความลบั ไมใ่ ห้พอ่ แม่รู้ 3 ทางานพเิ ศษหารายไดใ้ ห้ครอบครวั 2. นักเรยี นควรปฏิบตั ิตนอยา่ งไรเม่ือครูถือของหนัก 1 เขา้ ไปชว่ ยถือ 2 รีบเดนิ หนีไป 3 บอกเพื่อนใหไ้ ปชว่ ยครู 3. ขณะครสู อน นักเรยี นควรปฏิบัตติ นอยา่ งไร 1 แอบกินขนมกบั เพื่อน 2 ฟงั ท่ีครสู อนอย่างตง้ั ใจ 3 พูดคุยกบั เพื่อนด้วยเสยี งที่เบา 4. การเปน็ สมาชิกท่ีดีของโรงเรียนจะสง่ ผลอย่างไร 1 มีชื่อเสยี งเป็นทร่ี ้จู ักในโรงเรียน 2 อยูโ่ รงเรียนอยา่ งมคี วามสขุ 3 โรงเรียนเกิดความวนุ่ วาย 5. นักเรียนมสี ว่ นรว่ มกบั กิจกรรมของครอบครวั โดยวธิ ใี ด 1 ปลูกตน้ ไม้ในโรงเรียน 2 ดโู ทรทศั น์ในห้องตนเอง 3 ชว่ ยพอ่ แม่ทาความสะอาดบา้ น 6. นกั เรียนควรชืน่ ชมการปฏบิ ตั ติ นของเพ่ือนในข้อใด 1 แอบรบั ประทานขนมในห้องเรียน 2 ช่วยอธบิ ายบทเรยี นให้เพื่อนฟัง 3 หนีเรียนเพือ่ ไปฝึกซ้อม
7. ขอ้ ใดเป็นผลจากความสามารถในการเลน่ กฬี า 1 สอบผ่านทกุ วิชา 2 ไดร้ ับเหรยี ญรางวัล 3 ไดร้ บั เลือกเป็นหวั หน้าชั้น 8. เพราะเหตุใดนักเรียนจึงควรทาความดี 1 เพื่อใหส้ งั คมเกดิ ความสงบสุข 2 เพ่อื ให้ไดร้ างวลั ตอบแทน 3 เพอ่ื ใหผ้ อู้ น่ื ยกย่องชืน่ ชม 9. ใหเ้ พอื่ นยืมอุปกรณก์ ารเรียนเป็นการทาความดีตรงกับข้อใด 1 ความซอ่ื สตั ย์ 2 ความรบั ผิดชอบ 3 ความเอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ 10. ขอ้ ใดเป็นการทาความดีท่นี กั เรียนควรปฏิบตั ิ 1 เกบ็ เกา้ อใี้ ห้เป็นระเบียบหลงั เลกิ เรียน 2 ชวนเพ่อื นเล่นซ่อนหาในหอ้ งสมุด 3 รบี วิ่งเขา้ โรงเรยี นเม่ือได้ยินเสียงเพลงชาติ
เฉลยแบบทดสอบ 1. 21แผนการจดั การเรียน27ร..ทู้ ่ี 1214 เรือ่ ง การ 3. 2 4. 2 5. 3 6. 8. 1 9. 3 10. 1
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาฯ วชิ า สังคมศึกษาฯ เวลา 7 ชั่วโมง หน่วยท่ี ๔ เรอ่ื ง พลเมือไทย เวลา 1 ชว่ั โมง เรือ่ ง การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกทดี่ ขี องครอบครัว มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหน้าทขี่ องการเปน็ พลเมืองดี มีค่านยิ มท่ีดีงามและธารงรักษาประเพณี และวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ิตอยูร่ ว่ มกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุข ตวั ช้วี ัด ส 2.1 ป.1/1 บอกประโยชนแ์ ละปฏบิ ัติตนเป็นสมาชิกท่ดี ขี องครอบครัวและโรงเรยี น จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกประโยชนแ์ ละปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชกิ ท่ดี ขี องครอบครัว (K) 2. ปฏิบัติตนเป็นสมาชิกทดี่ ีของครอบครัว (P) 3. ตระหนักถึงการมสี ่วนรว่ มในครอบครวั (A) สาระสาคัญ การปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกท่ดี ีของครอบครวั จะช่วยใหอ้ ยู่รว่ มกับผู้อนื่ ได้อย่างมีความสุข สง่ ผลให้สังคม เกดิ ความสงบสุข และอยรู่ ่วมกนั อยา่ งเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย สาระการเรียนรู้ การเป็นพลเมอื งดี : การปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของครอบครัว คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่นั ในการทางาน รกั ความเป็นไทย สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ความสามารถในการคิด
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ครูเล่านิทานเรอ่ื ง หมึกยักษจ์ อมขยนั ใหน้ กั เรยี นฟงั ดงั น้ี นิทานเรื่อง หมึกยกั ษ์จอมขยัน ใตท้ อ้ งทะเลแสนงามอนั มีปลาหมึกยกั ษ์เป็ นหัวหนา้ ฝูงปลาท้งั หลาย วนั หน่ึงปลาหมึกยกั ษ์ เรียกสมาชิกปลาท้งั หมดประชุมเก่ียวกบั การทาความสะอาดท้องทะเลอนั เปรียบเสมือนบา้ นของ พวกปลาท้งั หลาย ซ่ึงเหล่าฝูงปลาต่างก็เห็นดว้ ยวา่ ควรทาความสะอาดทอ้ งทะเลแห่งน้ีเสียที เพื่อความ สะอาดน่าอยู่ แต่แมงกะพรุนกบั ดาวทะเลแยง้ ดว้ ยความข้ีเกียจวา่ “ทาทาไมเพราะตอนน้ีก็อยสู่ บายดีแลว้ ทาไปกเ็ หนื่อยเปล่า ๆ” วนั ต่อมาหมึกยกั ษจ์ ึงถามความคิดเห็นปลาท้งั หลายวา่ “เราควรจะออกกาลงั กาย ก่อนทางานดีไหม” เม่ือปลาท้งั หลายต่างก็เห็นดว้ ยจึงพากนั ออกกาลงั กายแลว้ ช่วยกนั ทาความสะอาด ทอ้ งทะเลจนสะอาด ยกเวน้ แมงกะพรุนและดาวทะเลเท่าน้นั ที่นอนเฉยไม่สนใจ แต่ก็ตอ้ งตกใจตื่น เพราะมีเศษขยะลอยมาทบั จนหายใจไม่ออกตอ้ งให้เหล่าฝูงปลาช่วยจึงรอดชีวิตมาได้ จากน้นั ท้งั ดาว ทะเลและแมงกะพรุนกช็ ่วยฝงู ปลาท้งั หลายทาความสะอาดทอ้ งทะเล เพราะกลวั วา่ ถา้ ทอ้ งทะเลสกปรก แลว้ จะไดร้ ับอนั ตรายอีก ผลของการช่วยกนั ทาความสะอาดทอ้ งทะเลอนั เปรียบเหมือนบา้ นของปลา ทาใหเ้จหาลก่านฝ้นั งู ใปหลน้ าักทเ้งัรหยี นลารย่วมมีทกนัอ้ แงทสดะเงลคทว่ีสามะคอดิาดเหงน็ดเงกาย่ีมวไกวับอ้ นยอู่ทิ าาศนยั เตร่ืออ่ งไดปงั กล่าว โดยครูใชค้ าถาม ดังนี้ จากนิทานเรอ่ื งน้ี ใครเป็นหวั หน้าฝูงปลา (หมึกยักษ์) จากนิทานเรอ่ื งนี้ ใครไม่ยอมช่วยทาความสะอาดท้องทะเล (ดาวทะเลและแมงกะพรุน) จากนิทานเรอื่ งนีฝ้ งู ปลาทาอะไรกอ่ นทาความสะอาด (ออกกาลงั กาย) เหล่าฝงู ปลาเตม็ ใจออกกาลังกายหรือไม่ (เตม็ ใจ) การออกกาลังกายของฝูงปลามีผลตอ่ สุขภาพของปลาอย่างไร (แข็งแรง) เกิดเหตุการณ์ใดกับแมงกะพรุนและดาวทะเลในขณะนอนหลับ (เศษขยะหล่นทับ ทาให้ หายใจไมอ่ อก) ใครเป็นคนช่วยเอาเศษขยะออกจนดาวทะเลกบั แมงกะพรุนรอดชวี ติ (เหล่าฝูงปลาท้ังหลาย) เพราะเหตุใดดาวทะเลกับแมงกะพรุนจึงเปลี่ยนใจช่วยทาความสะอาด (กลัวได้รับอันตราย ถ้าท้องทะเลสกปรก) เม่ือฝูงปลาช่วยทาความสะอาดท้องทะเลแล้วทาให้ท้องทะเลเป็นอย่างไร (สะอาด น่าอยู่ อาศัย) นกั เรียนคดิ วา่ ฝงู ปลามีคุณธรรมข้อใด (ความสามคั คี) ครูสรุปเก่ียวกับนิทานเร่ืองน้ีให้นักเรียนฟังว่า ฝูงปลาในท้องทะเลเปรียบเสมือนสมาชิก ในครอบครัว เดียวกนั ถ้าสมาชิกในครอบครัวเปน็ แบบฝงู ปลาทง้ั หลายคือมีความสามัคคี ทาตามหนา้ ท่ีของตนอย่างเต็มที่และ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น จะทาให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ถ้าสมาชิกครอบครัวเป็นเหมือนดาวทะเล และแมงกะพรุน จะทาให้ครอบครัววุ่นวายและไมม่ ีความสุข ดงั นนั้ ในฐานะทน่ี กั เรียนเป็นสมาชิกคนหน่ึงของ ครอบครวั ควรยึดฝูงปลาเปน็ แบบอยา่ งและไม่ควรทาตาม ดาวทะเลและแมงกะพรนุ
ชน้ั สอน 2. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการปฏิบัติตนท่ีบ้านของนักเรียน โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี นกั เรยี นชว่ ยทางานบ้านอะไรบ้าง ครบู นั ทกึ คาตอบของนักเรยี นเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ดังน้ี ตัวอย่างแผนภาพ กวาดบา้ น ช่วยแม่ทากบั ขา้ ว การปฏบิ ัติตนทบ่ี ้าน ปลูกตน้ ไม้ ของนักเรียน รดน้าตน้ ไม้ นักเรียนรู้สึกอย่างไรเม่ือได้ทางานบ้านร่วมกับสมาชิกคนอ่ืนในครอบครัว (ตัวอย่างคาตอบ มีความสุข สนกุ ) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว จะต้องปฏิบัติตนตามกฎระเบียบ กติกาของครอบครวั เชน่ ปฏิบตั ิหนา้ ทีข่ องตนเองใหค้ รบถว้ น ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกนั ในการทางานต่าง ๆ ใน บ้านด้วยความเต็มใจ รู้จักช่วยเหลือตนเองเท่าที่จะทาได้เพื่อแบ่งเบาภาระของ พ่อแม่และทาตนเป็นเด็กดีให้ พอ่ แมม่ คี วามสขุ 3. ให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับการทากจิ กรรมรว่ มกันในครอบครวั โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี ครอบครัวของนักเรียนเคยทากิจกรรมอะไรร่วมกันบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ เท่ียวพักผ่อน ออกกาลงั กาย ทางานบา้ น) ครอบครัวของนักเรียนเคยร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรมท่ีจะทาด้วยกันหรือไม่ (ตวั อยา่ งคาตอบ เคย) นักเรยี นรู้สึกอย่างไรเมอ่ื แสดงความคดิ เห็น (ตวั อย่างคาตอบ ดใี จ ภูมิใจ) การรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อ่ืนเกดิ ผลดีอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ทาให้ทุกคนรว่ มกิจกรรม ด้วยความเต็มใจ และมคี วามสุข) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัวควรให้ความร่วมมือในการทากิจกรรมต่าง ๆ โดยในการทากจิ กรรมจะต้องให้สมาชิกในครอบครัวยอมรับและเตม็ ใจท่ีจะทาร่วมกัน มีการแสดงความคิดเห็น และตกลงกนั อย่างมีเหตผุ ลเพอ่ื ให้ทุกคนในครอบครวั มีความสุข กอ่ ใหเ้ กดิ ความรกั ความผกู พันในครอบครวั
4. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีในครอบครัว โดยครูใช้ คาถาม ดังนี้ นักเรียนจะปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัวอย่างไรบ้าง ครูบันทึกคาตอบของนักเรียนเป็น แผนภาพลงบนกระดาน ดงั นี้ ตัวอย่างแผนภาพ กตญั ญูต่อพอ่ แม่ ช่วยทางานบา้ น และญาติผใู้ หญ่ การปฏิบัติตนเป็ นสมาชิก ทดี่ ีของครอบครัว เคารพเชื่อฟัง มีส่วนร่วมในกิจกรรม คาสงั่ สอนของพอ่ แม่ ต่าง ๆ ของครอบครัว ขัน้ สรปุ การเรียนรู้ ครูอธบิ ายสรุปเรอื่ ง การปฏิบัติตนเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องครอบครวั ดังนี้ การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว สามารถปฏิบัติได้โดยการปฏิบัติตนตามกฎระเบียบกติกา ของครอบครัว ช่วยเหลือการทางานต่าง ๆ ในบ้าน มีความกตัญญูต่อพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ ใช้คาพูดที่ไพเราะ นา่ ฟงั เช่ือฟังคาส่ังสอนของพอ่ แม่ และมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของครอบครวั อยา่ งเตม็ ใจ เปน็ ตน้ 5. ให้นักเรยี นและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดงั น้ี การปฏิบัติตนเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั จะชว่ ยให้อยู่กบั ผอู้ นื่ ได้อย่างมคี วามสุข ส่งผลให้ สังคมเกิดความสงบสขุ และอยรู่ ่วมกนั อย่างเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย 6. ครใู ห้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คาถามท้าทาย ดังนี้ ถา้ สมาชิกในครอบครวั ไมป่ ฏิบัตติ นเปน็ สมาชิกท่ีดีของครอบครัว นกั เรยี นจะแนะนาสมาชิกผู้ นน้ั อยา่ งไร 7. นกั เรียนอา่ นแบบฝึกอา่ นเลม่ ที่ 1 ครอบครวั เปีย่ มสุข สือ่ การเรยี นรู้ - นทิ านเรื่อง หมกึ ยักษ์จอมขยนั - แบบฝึกอ่านเลม่ ท่ี 1 ครอบครวั เปี่ยมสุข
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วิธปี ระเมิน เครื่องมือ เกณฑ์ จดุ ประสงค์ แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม (แผนผงั ความคิดลงสมุด) (แผนผงั ความคิดลงสมดุ ) นกั เรียนบอก 1. บอกประโยชน์และปฏิบัติตนเป็น ประโยชนแ์ ละปฏบิ ัติ สมาชกิ ท่ีดขี องครอบครวั (K) แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม ตนเป็นสมาชกิ ท่ีดี ของครอบครัว ผ่าน 2. ปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม สมุดร้อยละ 60 ขึน้ ครอบครัว (P) ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์ 3. ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมใน นักเรียน. ปฏบิ ตั ิตน ครอบครัว (A) เป็นสมาชิกทดี่ ขี อง ครอบครัว ระดบั ดี ข้นึ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ นักเรยี นมีพฤตกิ รรม ระดบั ดขี น้ึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษาฯ วิชา สังคมศกึ ษาฯ เวลา 7 ชว่ั โมง หน่วยที่ ๔ เรอื่ ง พลเมืองไทย เวลา 1 ชัว่ โมง เรอ่ื ง การปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชิกทดี่ ขี องโรงเรยี น มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ิตนตามหน้าทขี่ องการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นิยมทด่ี ีงามและธารงรักษาประเพณี และวัฒนธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ว่ มกันในสังคมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสันติสุข ตัวชี้วดั ส 2.1 ป.1/1 บอกประโยชนแ์ ละปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ดี ีของครอบครัวและโรงเรียน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกประโยชน์และปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชกิ ที่ดีของโรงเรียน (K) 2. ปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชกิ ท่ดี ขี องโรงเรยี น (P) 3. ตระหนกั ถึงการมสี ว่ นรว่ มในโรงเรียน (A) สาระสาคญั การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของโรงเรียนจะช่วยให้อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข เกิดความเป็น ระเบยี บเรยี บรอ้ ย สาระการเรียนรู้ การเป็นพลเมืองดี : แนวทางปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องโรงเรียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเป็นไทย สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการคิด
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครตู ิดเน้อื เพลง เพลงเขา้ แถวลงบนกระดาน ดังนี้ เพลงเข้าแถว เขา้ แถว เขา้ แถว อยา่ ล้าแนว เดินเรียงกนั อยา่ มวั แชเชือน เดินตามเพอื่ นใหท้ นั ระวงั จะเดินชนกนั เขา้ แถวพลนั วอ่ งไว ครูอ่านเน้ือร้องของเพลงทีละวรรค แล้วให้นักเรียนอ่านและร้องตาม จานวน 2 รอบ จากนั้นให้ นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เพลงดงั กลา่ ว โดยครใู ชค้ าถาม ดงั นี้ นกั เรียนเข้าแถวเวลาที่ทากิจกรรมใดบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ เคารพธงชาติ ซื้ออาหาร กลางวัน) เวลาเข้าแถวนกั เรียนเคยชนกันกับเพื่อนหรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย) เวลาชนกับเพอ่ื นนกั เรยี นทาอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ กลา่ วคาขอโทษ เฉย ๆ ไม่สนใจ) การเข้าแถวเป็นสง่ิ ทท่ี ุกคนควรปฏิบตั หิ รอื ไม่ (ควรปฏบิ ตั ิ) ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา่ การเขา้ แถวถอื วา่ เป็นระเบียบที่ทุกคนในโรงเรยี นต้องปฏิบตั ิ เพื่อความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อยของโรงเรียน ขั้นสอน 2. ครเู ล่าสถานการณ์เก่ยี วกับการปฏิบตั ติ นของนักเรียนให้นกั เรยี นฟงั ดงั นี้ สถานการณ์ ป้อมมกั จะมาโรงเรียนสายและขีดเขียนตามฝาผนงั อาคารเรียน แต่ปั๊ม จะมาโรงเรียน แตเ่ ชา้ และทาความเคารพครูทุกคน เวลาเรียนก็ต้งั ใจเรียน และช่วยทาความสะอาดโรงเรียน ทา ใหไ้ ดร้ ับคาชมจากครูเสมอ จากน้ันให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตนของนักเรียน โดยครู ใช้คาถาม ดังนี้ ปอ้ มปฏิบตั ติ นอยา่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ มาโรงเรยี นสาย ขดี เขียนตามฝาผนงั อาคารเรยี น) ปั๊มปฏิบัติตนอย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ มาโรงเรียนแต่เช้า ทาความเคารพครูทุกคน ต้ังใจ เรียนและชว่ ยทาความสะอาดโรงเรยี น)
นกั เรยี นควรปฏิบัตติ นเหมือนใคร (ปั๊ม) การปฏบิ ัตติ นของปั๊มได้รบั รางวลั จากครูในฐานะเป็นเด็กดีเป็นอะไร (ตัวอยา่ งคาตอบ คา ชม) ถ้านักเรยี นได้รบั คาชมจากครูจะรสู้ ึกอย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ ชนื่ ใจ มีความสุข) 3. ให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั การปฏิบตั ิตนตามระเบียบ กฎ และกติกาของ โรงเรยี น โดยครใู ช้คาถาม ดงั นี้ ระเบียบ กฎ และกติกาของโรงเรียนข้อใดบ้างที่นักเรียนปฏบิ ัติเป็นประจา (ตัวอย่างคาตอบ ไม่ท้ิงขยะ ไม่สง่ เสียงดงั ในห้องสมดุ แตง่ กายถูกระเบยี บ) ระเบียบ กฎ และกติกาของโรงเรียนข้อใดบ้างท่ีนักเรียนไม่ได้ปฏิบัติเป็นประจา (ตัวอย่าง คาตอบ ไมพ่ ดู คุยกับเพื่อนในขณะครสู อน มาโรงเรยี นใหท้ นั เวลา) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า โรงเรียนเป็นสถานที่ท่ีให้ความรู้ และอบรมส่ังสอนให้นักเรียนเป็น คนดี มี ระเบียบวนิ ยั นักเรียนจงึ ควรปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกท่ีดีของโรงเรยี นโดยการปฏบิ ัติตนตามกฎระเบยี บ กตกิ าของ โรงเรียน เช่น มาโรงเรียนให้ทันเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ ไม่ส่งเสียงดังในห้องสมุด แต่งกายเรียบร้อย ถูก ระเบยี บ เพ่อื ใหส้ มาชกิ ในโรงเรยี นอยรู่ ่วมกันอยา่ งเป็นระเบยี บ เกดิ ความสงบสุขในสังคม 4. ให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับการปฏบิ ัติตนเป็นสมาชิกทีด่ ีของโรงเรยี นโดยครใู ช้ คาถาม ดังน้ี นักเรยี นจะปฏบิ ัติตนเป็นสมาชิกท่ดี ีของโรงเรียนอย่างไร ครูบนั ทึกคาตอบของนกั เรียนเป็นแผนภาพ ลงบนกระดาน ดงั นี้ ตัวอย่างแผนภาพ ปฏิบตั ิตามกฎ แสดงความเคารพครู กติกาของโรงเรียน การปฏิบตั ิตนเป็ นสมาชิก ทด่ี ีของโรงเรียน ต้งั ใจเรียน มีน้าใจเอ้ือเฟ้ื อเผือ่ แผผ่ ูอ้ ่ืน
ครอู ธิบายสรุปเร่อื ง การปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของโรงเรียน ดงั นี้ นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกทด่ี ีของโรงเรียนไดโ้ ดยการปฏบิ ตั ิตามกฎ ระเบยี บ กตกิ าของ โรงเรียน ตั้งใจเรยี น เช่ือฟังคาส่งั สอนของครู มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมของหอ้ งเรียน มีน้าใจ เอ้อื เฟือ้ เผื่อแผผ่ ู้อนื่ เป็นตน้ 5. ให้นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกับการปฏิบตั ิตนของนักเรียน โดยครูใช้คาถาม ดังน้ี นกั เรียนมาโรงเรยี นทันเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติหรือไม่ (ตัวอยา่ งคาตอบ ทนั เวลา) นกั เรยี นเคยแบ่งปนั ส่ิงของให้เพอื่ นรว่ มช้นั หรือไม่ (เคย/ไมเ่ คย) เม่อื กระทาส่ิงดงั กลา่ ว นกั เรยี นร้สู ึกอย่างไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ภูมิใจ) 6. ครูตดิ แถบประโยคเกีย่ วกับการปฏิบัตติ นในโรงเรยี นลงบนกระดาน ดงั น้ี คุยเสียงดงั ในหอ้ งเรียน มีน้าใจ แบ่งปันสิ่งของใหเ้ พ่ือน มาโรงเรียนทนั เวลาเขา้ แถว ขีดเขียนโตะ๊ เกา้ อ้ีเรียน แตง่ กายไมเ่ รียบร้อย ต้งั ใจเรียนหนงั สือ ครูเขียนตารางเก่ียวกับการปฏิบัติตนในโรงเรียนท่ีเหมาะสมและไม่เหมาะสมลงบนกระดาน แล้วให้ นกั เรียนรว่ มกันจาแนกแถบประโยคให้สมั พันธ์กับตาราง ดังนี้ ตวั อยา่ งตาราง การปฏิบัติตนในโรงเรียน การปฏบิ ตั ิตนในโรงเรยี น ท่ีเหมาะสม ท่ไี มเ่ หมาะสม ตง้ั ใจเรียนหนังสอื คยุ เสียงดังในห้องเรียน 6. ใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับผลของการปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชิกท่ีดีของโรงเรียน โดย ครใู ช้คาถาม ดงั น้ี ถา้ นกั เรียนปฏิบัติตนตามระเบยี บ กฎ กติกาของโรงเรียนจะเกิดผลดีอย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ สมาชิกอยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบ สงบสุข มีแนวปฏิบัติที่เหมือนกัน ทาให้สังคมไม่ วุ่นวาย) ถา้ นักเรียนไม่ปฏิบตั ติ นตามระเบยี บ กฎ กติกาของโรงเรยี นจะเกดิ ผลอย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ สมาชิกในโรงเรียนมีแนวปฏิบตั ิที่ไม่เหมือนกัน ก่อให้เกดิ ความวุ่นวายและไม่สงบสุข)
ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมว่า การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชกิ ทดี่ ีของโรงเรียน จะสง่ ผลให้สมาชิกอยรู่ ่วมกนั อย่างเปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย มแี นวปฏบิ ตั ิทเ่ี หมือนกนั เพื่อใหส้ งั คมสงบสุข ไมว่ ุ่นวาย 7. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชน์ของการปฏิบัติตนเป็นสมาชิก ท่ีดีของ โรงเรยี น โดยครูใชค้ าถาม ดงั นี้ ประโยชน์ของการปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกทดี่ ขี องโรงเรยี นมีอะไรบา้ ง ครบู นั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ดังน้ี ตวั อยา่ งแผนภาพ เกิดความเป็ น ประโยชน์ของ โรงเรียนเกิดความ ระเบียบเรียบร้อย การปฏบิ ัติตนเป็ น สงบสุข สมาชิกทดี่ ขี องโรงเรียน สร้างวนิ ยั ใหต้ นเอง ลดปัญหาความวนุ่ วาย ในโรงเรียน ขั้นสรุปการเรยี นรู้ ครูอธบิ ายสรุปเร่ือง ประโยชนข์ องการปฏบิ ัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน ดงั นี้ การปฏบิ ัตติ นเป็น สมาชกิ ทด่ี ขี องโรงเรียนจะส่งผลให้สมาชิกในโรงเรียน มีความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย สร้างวนิ ัยใหต้ นเอง ทาให้ โรงเรียนเกดิ ความสงบสุข ลดปัญหาความวุ่นวายภายในโรงเรียน 8. ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของโรงเรียนส่งผลให้สมาชิกทุกคนในโรงเรียนอยู่ร่วมกันอย่างมี ความสขุ เกดิ ความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย และมวี นิ ยั 9. ให้นกั เรียนทาใบงานที่ 4.1 เรือ่ ง ประโยชน์ของการปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกทดี่ ีของโรงเรียน 10.ชดุ แบบฝกึ อา่ นเลม่ ที่ 2 รอบรั้วโรงเรียน
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ วธิ ีประเมนิ เครื่องมือ เกณฑ์ จดุ ประสงค์ ตรวจใบงานท่ี 4.1 เรื่อง ใบงานท่ี 4.1 เร่ือง นกั เรียนบอก 1. บอกประโยชนแ์ ละปฏิบัติตนเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องโรงเรียน (K) ประโยชน์ของการปฏบิ ัติ ประโยชนข์ องการปฏิบัติ ประโยชน์และปฏบิ ตั ิ 2. ปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกทีด่ ขี อง ตนเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของ ตนเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของ ตนเป็นสมาชิกที่ดี โรงเรียน (P) โรงเรยี น โรงเรยี น) ของโรงเรยี น ผา่ นใบ 3. ตระหนักถึงการมสี ่วนรว่ มใน โรงเรยี น (A) งานร้อยละ 60 ข้ึน ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนปฏิบัติตน เปน็ สมาชิกท่ีดขี อง โรงเรียน ระดบั ดีข้ึน ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์ แบบสังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรม ระดบั ดีขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ สอื่ การเรยี นรู้ 1. เนอื้ เพลง เพลงเข้าแถว 2. แถบประโยคเกีย่ วกับการปฏิบตั ิตนในโรงเรียน 3. ชุดแบบฝกึ อ่านเลม่ ท่ี 2 รอบรวั้ โรงเรียน
ใบงานที่ 4.1 วชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระท่ี 2 หน้าท่ีพลเมอื งฯ ส 2.1 ป.1/1 เรอ่ื ง ประโยชนข์ องการปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชิกท่ดี ขี องโรงเรียน ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ช่ือ........................................................................................ชนั้ .......................เลขท่ี......................... คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นเคร่ืองหมาย √ ลงหน้าขอ้ ความทป่ี ฏิบตั ไิ ด้ถูกต้องและทาเครือ่ งหมาย × หนา้ ข้อความทีไ่ ม่ควรปฏิบตั ิ ช่วยทางานบา้ นในหนา้ ท่ีของตน ไม่ช่วยผอู้ ื่นทางานบา้ นเลย ไม่ชอบทางานบา้ น รับประทานอาหารร่วมกนั รับประทานอาหารเฉพาะที่ตนเองชอบ ถูกบงั คบั ใหไ้ ปเท่ียวดว้ ยกนั ไปเท่ียวกบั สมาชิกในบา้ นดว้ ยความเตม็ ใจ ไม่ฟังความคิดเห็นของคนในหอ้ ง มีน้าใจ แบง่ ปันส่ิงของใหเ้ พื่อน คุยเสียงดงั ในหอ้ งเรียน มาโรงเรียนทนั เวลาเขา้ แถว ขีดเขียนโตะ๊ เกา้ อ้ีเรียน ต้งั ใจเรียนหนงั สือ แตง่ กายไมเ่ รียบร้อย
ใบงานท่ี 4.1 วิชาสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 2 หน้าท่พี ลเมอื งฯ ส 2.1 ป.1/1 เร่อื ง ประโยชนข์ องการปฏิบัตติ นเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องโรงเรียน ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ช่อื ........................................................................................ชั้น.......................เลขท่ี......................... คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นเคร่ืองหมาย √ ลงหน้าขอ้ ความทีป่ ฏิบัติได้ถูกต้องและทาเครอื่ งหมาย × หน้าข้อความทีไ่ ม่ควรปฏิบตั ิ √ ช่วยทางานบา้ นในหนา้ ท่ีของตน × ไมช่ ่วยผอู้ ่ืนทางานบา้ นเลย × ไม่ชอบทางานบา้ น √ รับประทานอาหารร่วมกนั × รับประทานอาหารเฉพาะที่ตนเองชอบ × ถูกบงั คบั ใหไ้ ปเท่ียวดว้ ยกนั √ ไปเที่ยวกบั สมาชิกในบา้ นดว้ ยความเตม็ ใจ × ไม่ฟังความคิดเห็นของคนในหอ้ ง × คุยเสียงดงั ในหอ้ งเรียน √ มีน้าใจ แบ่งปันส่ิงของใหเ้ พ่ือน √ มาโรงเรียนทนั เวลาเขา้ แถว × ขีดเขียนโตะ๊ เกา้ อ้ีเรียน × แตง่ กายไม่เรียบร้อย √ ต้งั ใจเรียนหนงั สือ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาฯ วิชา สังคมศกึ ษาฯ เวลา 7 ช่ัวโมง หน่วยที่ ๔ เรื่อง พลเมืองไทย เวลา 1 ชวั่ โมง เร่อื ง ลกั ษณะความสามารถและความดีของตนเองและผู้อนื่ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ทขี่ องการเปน็ พลเมืองดี มคี ่านยิ มท่ดี ีงามและธารงรักษาประเพณี และวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอย่รู ว่ มกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอย่างสันติสุข ตวั ชี้วัด ส 2.1 ป.1/2 ยกตวั อย่างความสามารถและความดขี องตนเอง ผอู้ ื่น และบอกผลจากการกระทานนั้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ยกตวั อยา่ งความสามารถ บอกผลจากการกระทาน้นั ของความดีของตนเอง ผ้อู ืน่ (K) 2. สามารถปรับใช้ความดขี องตนเองและผูอ้ ืน่ สู่สงั คมไทย (P) 3. เห็นคณุ ค่าและความสามารถและความดีของตนเองและผู้อน่ื (A) สาระสาคัญ การยอมรับความสามารถและเหน็ คุณคา่ ของตนเองและผอู้ ืน่ เป็นสง่ิ ท่นี ักเรยี นควรปฏบิ ัติ เพ่ือใหท้ ุกคน อยู่รว่ มกันในสังคมอยา่ งสงบสขุ การทาความดีเปน็ ส่ิงที่ทุกคนควรปฏิบัติ เพื่อให้อย่รู ่วมกันในสงั คมอย่างมคี วามสขุ สาระการเรยี นรู้ การจาแนกความสามารถและความดขี องตนเองและผู้อน่ื คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน รักความเปน็ ไทย สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการสื่อสาร
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ให้นกั เรียนร่วมกันสนทนาเกยี่ วกบั ความสามารถของนักเรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั นี้ ใครเรยี นเกง่ ท่สี ดุ ในหอ้ ง (ตัวอยา่ งคาตอบ วรายุทธ) ใครวาดภาพสวยทส่ี ดุ ในห้อง (ตัวอย่างคาตอบ ปิยพงษ์) ใครลายมอื สวยทีส่ ดุ ในหอ้ ง (ตัวอยา่ งคาตอบ กรกนก) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า นักเรียนแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกันช่ืนชมและยอมรับความสามารถ ของตนเองและผอู้ ื่น ขั้นสอน 2. ครูเลา่ สถานการณเ์ กี่ยวกับการยอมรับความสามารถของตนเองให้นกั เรยี นฟัง ดงั น้ี สถานการณ์ท่ี 1 นาครเป็ นนกั มวยที่ขาดความมน่ั ใจในความสามารถของตนเอง ทาใหเ้ ขาชกแพค้ ู่ต่อสู้ทุกคร้ัง สถานการณ์ที่ 2 สุดเขตเป็ นนักมวยท่ีมีความมน่ั ใจในความสามารถของตนเอง ดงั น้นั เขาจึงชกชนะคูต่ อ่ สู้ทุกคร้ัง จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั สถานการณ์โดยครใู ชค้ าถาม ดงั น้ี การกระทาของนาครเป็นอยา่ งไร (ขาดความม่นั ใจในตนเอง) การขาดความมัน่ ใจในตนเองของนาครส่งผลต่อตนเองอยา่ งไร (ชกแพค้ ตู่ อ่ สทู้ กุ คร้งั ) การกระทาของสดุ เขตเป็นอย่างไร (มคี วามมน่ั ใจในตนเอง) การมีความม่ันใจในตนเองของสุดเขตส่งผลต่อตนเองอยา่ งไร (ชกชนะค่ตู อ่ สทู้ กุ ครง้ั ) นกั เรียนควรปฏบิ ัตติ นตามบุคคลในสถานการณ์ใด (สถานการณ์ที่ 2) 3. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถของนักเรียนแต่ละคนโดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี นักเรยี นมีความสามารถอะไรบ้าง ครบู นั ทึกคาตอบของนกั เรยี นเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ดงั น้ี
ตัวอย่างแผนภาพ เล่นดนตรีเก่ง เรียนเก่ง ความสามารถของ นักเรียน วาดภาพเก่ง เล่นกีฬาเก่ง เมื่อทากจิ กรรมเหล่าน้ไี ดส้ าเร็จ นักเรยี นรูส้ ึกอย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ ดใี จ ภูมิใจ) 4. ใหน้ กั เรียนเลน่ เกมลมเพลมพัด โดยมวี ิธกี ารเลน่ ดังน้ี ครูกล่าวคาว่า ลมเพลมพดั นักเรยี นถามว่า พัดอะไร ครูตอบตามเง่ือนไขต่อไปนี้ทีละเงอ่ื นไข พัดคนทว่ี าดภาพสวยใหย้ กมือขนึ้ พัดคนที่เรียนเกง่ ใหย้ นื ขึ้น พดั คนทว่ี ่งิ เรว็ ใหท้ าท่าเป็ด พัดคนทีเ่ ลน่ ฟตุ บอลเกง่ ทาท่าลิง พดั คนทร่ี ้องเพลงเก่งร้องเพลงให้เพื่อนฟงั พัดคนทเ่ี ลน่ ดนตรีเกง่ ใหแ้ สดงทา่ ทางการเลน่ ดนตรี พัดคนที่ลายมือสวยให้ทาท่าปลา จากนน้ั ให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การยอมรับความสามารถและเห็นคุณคา่ ของ ตนเอง โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี การยอมรบั ความสามารถและเห็นคุณค่าของตนเอง จะก่อใหเ้ กิดประโยชน์ ตอ่ ตนเองอย่างไร (ตวั อยา่ งคาตอบ เกดิ ความม่นั ใจในการทากจิ กรรมและสามารถทาไดด้ ีประสบความสาเรจ็ ) ถ้าทุกคนในสังคมยอมรับความสามารถและเห็นคุณค่าของตนเอง จะส่งผลต่อสังคมอย่างไร (ตวั อย่างคาตอบ สังคมไดร้ บั การพัฒนาเพราะสมาชิกทมี่ ีคณุ ภาพ)
5. ครเู ล่าสถานการณ์เกี่ยวกบั การยอมรับความสามารถของผู้อืน่ ใหน้ ักเรยี นฟัง ดงั น้ี สถานการณ์ท่ี 1 เดก็ ชายณฐั ภทั รไดร้ ับรางวลั นกั เรียนดีเด่น ดา้ นผลการเรียน ยอดเยย่ี มของระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 2 สถานการณ์ท่ี 2 เด็กชายปิ นุวฒั น์เป็ นนกั กีฬาของโรงเรียนท่ีได้รับรางวลั นักกีฬา ดีเด่นระดบั จงั หวดั จากนั้นใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั สถานการณด์ ังกลา่ วโดยครูใช้คาถามดังนี้ เด็กชายณฐั ภัทรมีความสามารถอะไร (ผลการเรียนยอดเยี่ยม) ถ้านักเรียนเป็นเพื่อนของเดก็ ชายณัฐภทั รควรพดู กับเด็กชายณฐั ภัทรท่ไี ด้รบั รางวัลวา่ อย่างไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ดใี จด้วยทไ่ี ดร้ บั รางวัล เธอเก่งมาก) ถา้ นักเรยี นทาได้เหมอื นเด็กชายณัฐภทั รจะรู้สึกอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ภูมใิ จ) เด็กชายปินุวัฒน์มีความสามารถอะไร (เป็นนกั กีฬาดเี ด่นระดับจังหวัด) ถา้ นกั เรยี นเปน็ เพอ่ื นของเด็กชายปนิ วุ ัฒน์ควรพดู กับเดก็ ชายปนิ วุ ฒั นท์ ่ไี ดร้ ับรางวลั วา่ อย่างไร (ตัวอยา่ งคาตอบ เธอเก่งมากดใี จดว้ ยนะ) ถา้ นกั เรยี นทาไดเ้ หมือนเด็กชายปินวุ ัฒน์จะรสู้ ึกอยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ภูมใิ จ) ครูอธิบายเพิ่มเตมิ ว่า การอยูร่ ่วมกันกับเพอ่ื นในโรงเรียน นกั เรียนควรยอมรับความสามารถและเห็น คณุ ค่าของเพ่ือน 6. ให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับความดีทค่ี วรปฏิบตั ิ โดยครใู ช้คาถาม ดงั น้ี ความดที นี่ ักเรยี นควรปฏบิ ตั ิมีอะไรบา้ ง ครบู นั ทกึ คาตอบของนักเรยี นเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ดังน้ี (ตวั อย่างแผนภาพ) ขยนั อดทน มีความกตญั ญู ความดที คี่ วร มีความเมตตา ต่อพอ่ แม่ ปฏบิ ัติ กรุณา มีความซ่ือสัตย์
ขั้นสรุปการเรยี นรู้ ครอู ธิบายสรุปเรอ่ื ง ความดีท่ีควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี การทาความดเี ปน็ ส่ิงท่นี กั เรยี นควรปฏบิ ัติ เชน่ การต้งั ใจ เรียน รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย ขยัน อดทน มีความซื่อสัตย์ พูดแต่ ความจริง กตัญญูต่อพ่อแม่ครู อาจารย์ มีความเมตตา กรณุ า เอื้อเฟ้ือเผอ่ื แผ่ และชว่ ยเหลือผ้อู ่ืน 7. ใหน้ ักเรียนและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดงั นี้ การทาความดีและการเหน็ คุณค่าของความดีเปน็ ส่ิงที่ทุกคนควรปฏบิ ตั ิ เพือ่ ให้อยใู่ นสงั คม อย่างสงบสขุ 8. ให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 4.2 เรอื่ ง การทาความดีของตนเองและผ้อู ืน่ 9. นกั เรียนอ่านแบบฝกึ อ่าน ชุดท่ี 3 ความดีความสามารถ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ วิธีประเมนิ เคร่ืองมือ เกณฑ์ 1. ยกตวั อยา่ งความสามารถ บอกผล ตรวจใบงานท่ี 4.2 เรื่อง ใบงานท่ี 4.2 เรือ่ ง การ นกั เรียนยกตัวอย่าง ความสามารถ บอก จากการกระทานัน้ ของความดีของ การทาความดขี องตนเอง ทาความดีของตนเอง ผลจากการกระทานน้ั ของความดขี อง ตนเอง ผ้อู ืน่ (K) และผู้อืน่ และผอู้ ื่น ตนเอง ผูอ้ ่ืน ผา่ นใบ งานรอ้ ยละ 60 ข้ึน 2. สามารถปรับใช้ความดีของตนเอง แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ และผู้อ่นื สู่สังคมไทย (P) นักเรียนสามารถปรบั 3. เห็นคณุ ค่าและความสามารถและ แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ใช้ความดีของตนเอง ความดีของตนเองและผู้อ่นื (A) และผู้อนื่ สู่สังคมไทย ระดบั ดีขน้ึ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์ นักเรียนมพี ฤตกิ รรม ระดับดีข้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ ส่อื การเรยี นรู้ 1. สถานการณส์ มมตุ ิ 2. แบบฝึกอา่ น ชดุ ที่ 3 ความดีความสามารถ
ใบงานท่ี 4.2 วิชาสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระท่ี 2 หน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ส 2.1 ป.1/2 เร่อื ง การทาความดีของตนเองและผ้อู ืน่ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 ช่อื ........................................................................................ช้นั .......................เลขที่......................... คาช้แี จง : ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งการปฏบิ ัติตนเปน็ คนดีในบทบาทหน้าทต่ี ่างๆและผลของการทาความดี ฉันเป็ นลูกทด่ี ขี องพ่อแม่ ครู เพื่อน ...................................................................................... ฉันมคี วามสามารถ เป็ นเดก็ ดแี ล้วดอี ย่างไร
ใบงานที่ 4.2 วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระท่ี 2 หน้าท่พี ลเมืองฯ ส 2.1 ป.1/2 เร่ือง การทาความดขี องตนเองและผูอ้ น่ื ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ช่ือ........................................................................................ชั้น.......................เลขท่ี......................... คาช้แี จง : ให้นักเรียนยกตวั อย่างการปฏิบัติตนเปน็ คนดใี นบทบาทหนา้ ที่ต่างๆและผลของการทาความดี ฉันเป็ นลูกทดี่ ขี องพ่อแม่ ครู เพื่อน ...................................................................................... ฉันมคี วามสามารถ เป็ นเดก็ ดแี ล้วดอี ย่างไร ***คาตอบเป็ นไปตามดุลยพินิจของครูผสู้ อน
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษาฯ วชิ า สงั คมศึกษาฯ เวลา 7 ชัว่ โมง หนว่ ยท่ี ๔ เรอื่ ง พลเมืองไทย เวลา 1 ชว่ั โมง เรื่อง โครงสรา้ งของครอบครัวความสัมพันธ์ของสมาชกิ ในครอบครวั มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธา และธารงรักษาไว้ซ่ึงการ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ ตัวชว้ี ัด ป.1/1 บอกโครงสร้าง บทบาทและหน้าทข่ี องสมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน ป.1/2 ระบบุ ทบาท สิทธิ หน้าที่ของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน จุดประสงคก์ ารเรียนร้สู ตู่ วั ช้ีวดั 1. บอกโครงสร้าง ระบบุ ทบาท สทิ ธิ หน้าทข่ี องตนเองและหนา้ ทข่ี องสมาชิกในครอบครัว (K) 2. ปฎิบตั ิตามบทบาทตามโครงสรา้ งของครอบครวั ตนเอง (P) 3. เห็นประโยชนข์ องการรจู้ กั สมาชิกในครอบครวั (A) สาระสาคญั สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน ทุกคนจึงควรรู้จักบทบาทหน้าท่ีของตนเอง และปฏบิ ัตใิ หเ้ หมาะสม สาระการเรยี นรู้ ลาดับสมาชกิ หรือโครงสร้างของครอบครัวและการจาแนกบทบาทหนา้ ที่ของสมาชกิ ในครอบครวั คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน รักความเปน็ ไทย สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน 1. ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความเห็นเกยี่ วกับครอบครัวของนกั เรยี น โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี ครอบครัวของนักเรียนมีสมาชกิ ท้ังหมดกี่คน ประกอบด้วยใครบา้ ง (ตวั อย่างคาตอบ 5 คน พ่อ แม่ พช่ี าย ตนเอง น้องสาว) ท่ีบ้านของนักเรียนมีญาติอาศยั อย่หู รือไม่ (มี/ไม่มี) ถา้ ไม่มี ญาตขิ องนักเรยี นอาศัยอยู่ท่ีใด (ตัวอยา่ งคาตอบ จังหวดั ลาปาง) นักเรียนเคยเดินทางไปเยย่ี มญาติหรือไม่ (เคย/ไมเ่ คย) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า ครอบครัวประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ในแต่ละครอบครัว จะมีโครงสร้างของ ครอบครัวที่แตกต่างกัน บางครอบครัวเป็นครอบครัวเดียว มีพ่อ แม่ และลูก เป็นสมาชิกในครอบครัว บาง ครอบครวั เปน็ ครอบครวั ใหญ่ มีญาตพิ ่ีนอ้ งอาศยั อยู่ดว้ ย เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ลงุ ปา้ นา้ อา ขัน้ สอน 2. ครูอธบิ ายเกยี่ วกับแผนผังครอบครวั โดยครูเขียนช่ือลงบนกระดานและลาดับการอธิบายแผนผงั ให้ นกั เรียนดู ดังน้ี นักเรยี นเป็นลกู ของพ่อกบั แม่ วาดแผนผัง การ แม่ สงั เก พอ่ ตเพ่ือ สร้าง นกั เรียน องค์ ความ รู้ คนทเี่ กดิ ก่อนนักเรยี นเรยี กว่า พี่ คนทเ่ี กดิ หลังนักเรยี นเรียกว่า น้อง วาดแผนผงั (ต่อ เติม) ดว้ ย กตานรเอ พอ่ แม่ สง งั เก ตกเพารื่อ สรา้ารง พ่ี นกั เรียน นอ้ ง อวงจค์ คสว่ิงาแม รวู้ดล้ พ่อกับแม่ของนกั เรยี นก็มีพ่อกับแม่เหมือนกัน เราเรยี กพ่อของพ่อวา่ ปู่ เราเรียกแม่ของ พอ่ ว่า ยา่ อดพมว้่อยของแม่เราเรียกวา่ ตา แมข่ องแม่เราเรียกวา่ ยาย วาดแผนผัง (ต่อเตมิ ) ตนกเาอร ง สงั เก กตารเพื่อ สาสรร้าง วจองค์
ป่ ู ยา่ ตา ยาย พอ่ แม่ พ่ี นกั เรียน นอ้ ง พ่อและแม่ของเราก็มพี นี่ ้อง พ่ีชายของพ่อและแมเ่ ราเรยี กว่า ลงุ พี่สาวของพ่อและแม่ เรยี กว่า ป้า วาดแผนผงั (เพิ่มเติม) การ ป่ ู ยา่ ตา ยาย สงั เก ตลเพุง่อื หรื อป้า พอ่ ลุงหรือป้า แม่ สร้าง องค์ พ่ี นกั เรียน นอ้ ง ความ รู้ นอ้ งของพ่อเราเรยี กว่า อา นอ้ งของแมเ่ ราเรยี กวา่ น้า วาดดแว้ผยนผัง (เพิม่ เติม) ตกนาเรอ ป่ ู ยา่ ตา ยาย งสงั เก กตาเพรอ่ื พอ่ อา ลุงหรือป้า แม่ นา้ สสาร้าลง ุงหรื อป้า วอจงค์ สคิ่งวแาม พี่ นกั เรียน นอ้ ง วรดู้ ล้ 3. อมคดรว้ ตูยดิ บตั รคาเกย่ี วกบั โครงสรา้ งของครอบครัวลงบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นตามจานวน 1 รอบ ดังนี้ ตนเอ ง ป่ ู ยา่ ตา ยาย ลุง ป้า การ นา้ อา พอ่ แม่ สาร วจ พี่ชาย พส่ี าว นอ้ งชาย นอ้ งสาว สิ่งแ วดล้ อม
จากนน้ั ให้นักเรียนรว่ มกนั ตอบคาถามเก่ียวกบั สมาชิกในครอบครัว โดยครูใช้คาถาม ดงั นี้ พอ่ ของพ่อเรยี กวา่ อะไร (ปู่) แม่ของพ่อเรียกวา่ อะไร (ยา่ ) พอ่ ของแมเ่ รียกว่าอะไร (ตา) แม่ของแม่เรียกว่าอะไร (ยาย) พี่ชายของพ่อเรยี กวา่ อะไร (ลุง) พส่ี าวของพ่อเรยี กวา่ อะไร (ป้า) น้องชายหรือน้องสาวของพ่อเรียกวา่ อะไร (อา) พชี่ ายของแมเ่ รยี กวา่ อะไร (ลุง) พส่ี าวของแม่เรยี กว่าอะไร (ป้า) น้องชายหรือน้องสาวของแม่เรียกว่าอะไร (น้า) ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา่ โครงสร้างของครอบครัว ประกอบด้วย ปู่ ยา่ ตา ยาย ลงุ ปา้ น้า อา พ่อ แม่ ตนเอง พ่ชี าย พสี่ าว น้องชาย และน้องสาว เปน็ ตน้ นักเรียนควรรจู้ ักสมาชิกในครอบครวั ของตนเองเพ่อื การอยู่ รว่ มกันในครอบครัวอย่างมีความสขุ 4. ให้ตวั แทนนกั เรียน 2-3 คน ออกมาพูดเล่าเร่ืองราวเกยี่ วกับครอบครวั ของตนเองให้เพือ่ นฟังหน้า ชน้ั เรียน จากน้ันใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับ ประโยชนข์ องการรู้จักสมาชิกในครอบครวั โดย ครูใชค้ าถาม ดงั น้ี นกั เรียนรจู้ กั สมาชิกในครอบครวั ทุกคนหรือไม่ (รูจ้ ัก/ไมร่ ู้จกั ) การรูจ้ กั สมาชิกในครอบครัว มีประโยชนต์ ่อนกั เรยี นอย่างไร ครบู นั ทกึ คาตอบของนกั เรียนเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ดังนี้ ตวั อยา่ งแผนภาพ ประโยชน์ของการรู้จัก เกิดความสุขใน สมาชิกในครอบครัว ครอบครัว ทราบประวตั ิความ เป็ นมาของครอบครัว ช่วยเหลือกนั เวลา เดือดร้อน ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า การรู้จกั สมาชิกในครอบครัว ทาใหน้ กั เรียนทราบประวัตคิ วามเป็นมาของตนเอง และครอบครัว เกิดความสขุ ในครอบครวั สมาชกิ ในครอบครวั ชว่ ยเหลือดแู ลกนั ครูอธบิ ายเพิ่มเติมว่า การอยู่ร่วมกนั ควรมหี วั หน้าเพื่อดูแลให้ความช่วยเหลอื สมาชกิ ของตนเองให้อยู่ ร่วมกันอยา่ งมคี วามสขุ 5. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับบทบาทหน้าท่ีของสมาชิกในครอบครัว โดยครูใช้ คาถาม ดังน้ี ครอบครวั ของนักเรียนแตง่ ต้ังใหใ้ ครเป็นหัวหนา้ ครอบครัว (ตัวอย่างคาตอบ พอ่ /แม่)
ทาไมครอบครวั ส่วนใหญจ่ งึ แต่งตั้งใหพ้ ่อเปน็ หัวหน้าครอบครวั (ตวั อยา่ งคาตอบ เพราะพ่อเป็นคนหารายได้ เปน็ คนเข้มแข็งดแู ลครอบครัวได้) ทาไมบางครอบครัวจึงให้พอ่ และแมเ่ ปน็ หวั หน้าครอบครัวร่วมกนั (ตวั อยา่ งคาตอบ เพราะพ่อและแมเ่ ป็นคนหารายได้ เพราะทัง้ สองคน ช่วยดูแลครอบครวั เทา่ เทยี มกัน) 6. ให้ตัวแทนนักเรียน 2-3 คน ออกมาเล่าเร่ืองราวเกี่ยวกับบทบาทหน้าท่ีของหัวหน้าครอบครัวของ ตนเอง โดยครูใช้คาถาม ดังนี้ ครอบครัวของนักเรียนมสี มาชิกทั้งหมดก่ีคน (ตัวอยา่ งคาตอบ 5 คน) ประกอบดว้ ยใครบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ พ่อ แม่ พ่ี ตนเอง นอ้ ง) ใครเป็นหวั หน้าครอบครัว (ตัวอย่างคาตอบ พ่อ) หัวหนา้ ครอบครวั มบี ทบาทหน้าทอ่ี ยา่ งไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ ทางานหารายได้ ช่วยทางานบ้าน ดูแลสมาชกิ ในครอบครวั ไมใ่ หท้ ะเลาะกนั ) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า การอยู่ร่วมกันในครอบครัว จะมีหัวหน้าครอบครัว ทาหน้าที่ดูแลสมาชิกใน ครอบครัว เป็นผู้นาในการปรึกษาหารือเร่ืองต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับสมาชิกในครอบครัว สมาชิกในครอบครัวจึง ควรเคารพและเชอื่ ฟงั หัวหน้าครอบครัว เพือ่ ให้สมาชิกในครอบครวั อยรู่ ว่ มกนั อย่างมีความสุข 7. ครูตดิ บัตรคาลงบนกระดานให้นกั เรยี นดู แล้วใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั บทบาทหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัวโดยครใู ชค้ าถาม ดงั น้ี พอ่ แม่ ลูก พ่อทาหนา้ ที่อะไรบา้ งในครอบครัว (ตวั อย่างคาตอบ ทางานหารายได้ ดแู ลสมาชิก ในครอบครัว เป็นผูน้ าการประชุมในครอบครวั ) แม่ทาหนา้ ท่ีอะไรบ้างในครอบครวั (ตัวอย่างคาตอบ ดูแลความเป็นอย่ขู องสมาชิก ในครอบครัว) ลูกทาหนา้ ที่อะไรบา้ งในครอบครวั (ตวั อย่างคาตอบ ต้งั ใจเรียน เชื่อฟังคาส่ังสอนของพ่อ แม่) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า สมาชิกในครอบครัวทุกคน มีบทบาทหน้าท่ีของตนเองพ่อมีหน้าท่ีเป็นผู้นาการ ประชุมในครอบครัว ทางานหารายได้ ดูแลสมาชิกในครอบครัวให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แม่มีบทบาท หน้าที่เป็นผู้ดูแลความเป็นอยู่ของสมาชิกในครอบครัว และทาหน้าที่อื่นร่วมกับพ่อ ลูกมีบทบาทหน้าท่ีในการ ตัง้ ใจเรียนหนังสอื เชื่อฟังคาสง่ั สอนของพอ่ แม่ เป็นตน้ 8. ให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ิตนตามบทบาทหน้าทที่ ่ีดี ของสมาชิกในครอบครวั โดยครใู ช้คาถาม ดังน้ี หวั หนา้ ครอบครัวท่ดี ีควรปฏบิ ัตติ นอยา่ งไร สมาชิกในครอบครวั ทดี่ ีควรปฏิบตั ิตนอย่างไร ครูบันทึกคาตอบของนักเรียน เป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดังนี้
ตัวอย่างแผนภาพ ดูแลความเป็นอยขู่ อง สมาชิกในครอบครัว รับฟังความคิดเห็นของ สมาชิกในครอบครัว การปฏบิ ัติตน เป็ นหวั หน้าครอบครัวทดี่ ี สร้างความสุข ตดั สินใจเรื่องตา่ ง ๆ ในครอบครัว ดว้ ยความเป็นกลาง ช่วยเหลืองานบา้ น ต้งั ใจเรียน การปฏิบตั ติ นเป็ นสมาชิก ในครอบครัวทดี่ ี เคารพและเช่ือฟัง ช่วยเหลือตนเอง หวั หนา้ ครอบครัว เทา่ ท่ีทาได้ การปฏิบัตติ นตามบทบาทหน้าทที่ ่ดี ขี องสมาชิกในครอบครัว มปี ระโยชนอ์ ย่างไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ครอบครัวเกดิ ความสามคั คกี ลมเกลยี วกันและอยูร่ ่วมกันอย่างมคี วามสขุ ) ข้นั สรุปการเรียนรู้ ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ที่ดีของสมาชิกในครอบครัว เป็นส่ิงที่ทุกคนใน ครอบครัวควรปฏบิ ัติ หัวหน้าครอบครัวควรดูแลความเป็นอยู่ของสมาชกิ ในครอบครัว รับฟังความคิดเหน็ ของ สมาชิกในครอบครัว ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ด้วยความเป็นกลาง เป็นต้น นักเรียนในฐานะสมาชิกในครอบครัวจงึ ควรปฏิบัติตนเป็นสมาชิกทด่ี ีในครอบครัว ช่วยเหลือ งานบ้าน ต้ังใจเรียน เคารพและเชือ่ ฟังหัวหน้าครอบครัว เพ่ือใหค้ รอบครัวเกิดความสงบสุข มีระเบียบเรยี บร้อย 9. ให้นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปความรู้ ดงั น้ี สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีบทบาทหน้าท่ีแตกต่างกัน ทุกคนจึงควรรู้จักบทบาทหน้าที่ของ ตนเอง และปฏบิ ตั ิตนให้เหมาะสม เพ่อื ให้ครอบครัวเกดิ ความสงบสขุ 10.ให้นกั เรียนทาใบงานท่ี 4.3 เร่อื ง ความสมั พันธข์ องสมาชกิ ในครอบครวั
11.นกั เรียนอา่ น แบบฝึกอา่ น ชุดท่ี 4 โครงสร้างครอบครวั การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ วิธปี ระเมิน เครอ่ื งมอื เกณฑ์ 1. บอกโครงสร้าง ระบุบทบาท ตรวจใบงานที่ 4.3 เรอื่ ง ใบงานที่ 4.3 เรื่อง นกั เรยี นบอก สิทธิ หน้าทขี่ องตนเองและหนา้ ที่ ความสัมพนั ธ์ของสมาชิก ความสัมพนั ธข์ องสมาชิก โครงสร้าง ระบุ ของสมาชิกในครอบครวั (K) ในครอบครัว ในครอบครวั บทบาท สทิ ธิ หน้าที่ของตนเองและ หนา้ ทีข่ องสมาชกิ ใน ครอบครัว ผา่ นใบ งานรอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ 2. ปฎบิ ตั ติ ามบทบาทตามโครงสร้าง แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นปฎบิ ตั ิตาม ของครอบครวั ตนเอง (P) บทบาทตาม โครงสรา้ งของ ครอบครวั ตนเอง ระดบั ดขี ึ้นไปถือว่า ผ่านเกณฑ์ 3. เห็นประโยชน์ของการรูจ้ กั สมาชกิ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนมพี ฤตกิ รรม ในครอบครัว (A) ระดบั ดีข้นึ ไป ถือว่า ผา่ นเกณฑ์ ส่อื การเรียนรู้ 1. บตั รคาเกีย่ วกับโครงสรา้ งของครอบครัว 2. แผนผังโครงสรา้ งของครอบครัว 3. บัตรคา พ่อ แม่ ลกู 4. แบบฝึกอา่ น ชดุ ที่ 4 โครงสร้างครอบครัว
ใบงานท่ี 4.3 วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 2 หนา้ ทพ่ี ลเมืองฯ ส 2.2 ป.1/2 เร่ือง ความสัมพันธข์ องสมาชกิ ในครอบครวั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ชอื่ ........................................................................................ชั้น.......................เลขที่......................... คาช้แี จง : ให้นกั เรียนเลือกคาตอบต่อไปนี้ไปเตมิ ลงในข้อคาถามให้ถูกต้อง ป่ ู ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พ่อ แม่ 1. พ่อของพ่อเรียกวา่ อะไร................................ 2. แม่ของพ่อเรียกวา่ อะไร................................ 3. พอ่ ของแม่เรยี กวา่ อะไร................................ 4. แม่ของแมเ่ รียกวา่ อะไร................................ 5. พช่ี ายของพอ่ เรยี กว่าอะไร................................ 6. พี่สาวของพอ่ เรียกว่าอะไร................................ 7. นอ้ งชายหรือน้องสาวของพอ่ เรยี กว่าอะไร................................ 8. น้องชายหรอื นอ้ งสาวของแม่เรียกว่าอะไร...............................
ใบงานที่ 4.3 วชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระท่ี 2 หนา้ ทพี่ ลเมืองฯ ส 2.2 ป.1/2 เรือ่ ง ความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครวั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 ชือ่ ........................................................................................ช้นั .......................เลขท่ี......................... คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบต่อไปนี้ไปเตมิ ลงในข้อคาถามให้ถกู ต้อง ป่ ู ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พ่อ แม่ 1. พ่อของพ่อเรียกวา่ อะไร................ป.ู่ ............... 2. แมข่ องพอ่ เรียกวา่ อะไร.................ย่า............... 3. พ่อของแม่เรยี กวา่ อะไร..............ตา.................. 4. แมข่ องแม่เรียกวา่ อะไร................ยาย................ 5. พี่ชายของพ่อเรยี กว่าอะไร.............ลุง................... 6. พส่ี าวของพ่อเรยี กว่าอะไร............ป้า.................... 7. นอ้ งชายหรอื นอ้ งสาวของพอ่ เรียกวา่ อะไร..............อา.................. 8. น้องชายหรอื น้องสาวของแมเ่ รยี กว่าอะไร..............นา้ .................
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 7 ชว่ั โมง หนว่ ยท่ี ๔ เรือ่ ง พลเมืองไทย เวลา 1 ชวั่ โมง เรอื่ ง โครงสร้างของโรงเรียนความสัมพนั ธ์ของสมาชิกในโรงเรยี น มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธา และธารงรักษาไว้ซึ่งการ ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ ตัวช้วี ดั ป.1/1 บอกโครงสร้าง บทบาท และหน้าที่ของสมาชิกในครอบครวั และโรงเรยี น ป.1/2 ระบบุ ทบาท สิทธิ หน้าทขี่ องตนเองในครอบครวั และโรงเรียน จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ตู่ ัวช้ีวดั 1. บอกโครงสร้าง ระบบุ ทบาท และหน้าที่ของตนเองของโรงเรยี น (K) 2. ปฏบิ ัติตามบทบาท สทิ ธิ ตามโครงสร้างของโรงเรียนตนเอง (P) 3. ตระหนักถงึ ความสาคัญสิทธิของบุคคลทมี่ บี ทบาทในโรงเรยี น (A) สาระสาคัญ โครงสร้างของโรงเรยี นเป็นสงิ่ ทีน่ กั เรยี นควรทราบเพื่อให้สมาชกิ ในโรงเรียนอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมคี วามสขุ เป็นระเบยี บเรียบร้อย สาระการเรยี นรู้ บทบาทหน้าท่ี ของสมาชกิ ในโรงเรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ความสามารถในการแกไ้ ขปัญหา
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับโครงสรา้ งของโรงเรยี น โดยครใู ช้คาถามดังนี้ ในโรงเรียนประกอบดว้ ยใครบ้าง ครบู นั ทึกคาตอบของนักเรยี นเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดังน้ี ตวั อยา่ งแผนภาพ ครู เจา้ หนา้ ที่ ผอู้ านวยการโรงเรียน โครงสร้าง ภารโรง ของโรงเรียน นกั เรียน หวั หนา้ หอ้ งเรียน ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ ว่า โครงสร้างของโรงเรยี น ประกอบดว้ ย ผ้อู านวยการโรงเรียน ครู เจ้าหนา้ ที่ นักเรียน หัวหนา้ หอ้ งเรียนและภารโรง เปน็ ตน้ 2. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับบทบาทหน้าที่ของบคุ คลในโรงเรียน โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี ผูอ้ านวยการโรงเรยี นของเราชื่ออะไร (ตัวอยา่ งคาตอบ นายอาทติ ย์ คนดี) นักเรียนพบผู้อานวยการโรงเรียนในเวลาใดบ้าง (ตวั อย่างคาตอบ เวลาเชา้ ตอนเขา้ แถวเคารพธงชาต)ิ ผู้อานวยการได้รบั การแต่งต้ังหรือได้รับการเลือกต้งั (การแต่งตั้ง) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า บุคคลที่มีอานาจบริหารโรงเรียน ได้แก่ ผู้อานวยการโรงเรียน ซึ่งได้รับ การแต่งตั้งมาทาหน้าท่ีบริหารโรงเรียน ผู้อานวยการโรงเรียนจึงมีบทบาทหน้าที่ในการบริหาร ดูแลโรงเรียนให้ เปน็ ระเบยี บเรียบรอ้ ย 3. ให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั โครงสรา้ งของหอ้ งเรยี น โดยครูใชค้ าถามดงั นี้ ในหอ้ งเรยี นประกอบด้วยใครบ้าง (ตวั อย่างคาตอบ ครู นกั เรยี น หัวหน้าหอ้ งเรยี น) หัวหนา้ หอ้ งเรียนเราช่อื อะไร (ตวั อย่างคาตอบ เด็กชายอธิชาติ ทาดี)
หัวหน้าห้องเรียนมีหน้าที่อะไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ บอกนาสวัสดีครู ช่วยดูแลเพ่ือนใน หอ้ งเรยี น) หวั หน้าหอ้ งเรียนได้รับการแตง่ ต้งั หรือได้รบั การเลอื กต้ัง (การเลอื กต้งั ) ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า โครงสร้างของห้องเรียนประกอบด้วย ครู หัวหน้าห้องเรียน และสมาชิกใน ห้องเรียน หัวหน้าห้องเรียนมีหน้าท่ีดูแลความสงบเรียบร้อยในห้องเรียน โดยหัวหน้าห้องเรียน อาจได้รับการ แต่งตั้งจากครู หรอื ไดร้ ับการเลอื กต้งั จากนกั เรียนในห้องเรียนตามกระบวนการประชาธิปไตย ขัน้ สอน 4. ครูตดิ บตั รคาเกีย่ วกับบุคคลที่มีบทบาทหนา้ ทีใ่ นโรงเรียน ลงบนกระดาน ดงั นี้ ผอู้ านวยการโรงเรียน หวั หนา้ ห้องเรียน ให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 2 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กัน แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มออกมาเลอื ก บตั รคาบนกระดาน เพ่อื เลือกหวั ข้อในการแสดงบทบาทสมมตุ ิ จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุม่ ฝกึ ซ้อมตามหัวขอ้ ท่ีไดร้ บั และออกมาแสดงใหเ้ พ่อื นกลมุ่ อน่ื ๆดู จากน้ันให้นักเรียน รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับความสาคญั ของบคุ คลท่ีมบี ทบาทหนา้ ที่ ในโรงเรียน โดยครใู ช้คาถาม ดงั น้ี ผอู้ านวยการโรงเรยี น และหัวหน้าหอ้ งเรยี นมีความสาคัญต่อโรงเรยี นอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ดแู ลความสงบเรยี บร้อยในโรงเรียน) ในฐานะท่นี ักเรยี นมีบทบาทหนา้ ที่เป็นสมาชิกในโรงเรยี น นักเรียนจะปฏิบตั ติ น อย่างไรให้โรงเรียนเกิดความสงบสุข (ตวั อย่างคาตอบ ตั้งใจเรยี น เคารพและเชอ่ื ฟังคาสอนของคร)ู 6. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับบทบาทหน้าท่ีของตนเองในโรงเรียน โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี นักเรียนมีบทบาทหน้าท่ใี นโรงเรียนอย่างไร ครูบนั ทึกคาตอบของนักเรียนเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ดงั นี้ ตัวอย่างแผนภาพ บทบาทหน้าที่ ต้งั ใจเรียนหนงั สือ ในโรงเรียนของนักเรียน ปฏิบตั ิตามกฎ ระเบียบของโรงเรียน เชื่อฟังคาสั่งสอน ของครู
ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า การเป็นสมาชิกท่ีดีของโรงเรียน นักเรียนควรรู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง เพ่ือให้นักเรียนปฏิบตั ติ นในโรงเรียนได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม 3. ครตู ดิ บตั รคาเกยี่ วกับบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในโรงเรยี นลงบนกระดาน แล้วให้นกั เรียนอ่านตาม จานวน 1 รอบ ดงั น้ี ผอู้ านวยการโรงเรียน ครู นกั เรียน ภารโรง เจา้ หนา้ ท่ีของโรงเรียน 7. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน แล้วให้ตัวแทนกลุ่มออกมาเลือก บัตรคา บนกระดาน กลุ่มละ 1 ใบ จากน้ันให้นักเรียน แต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคาถามเกี่ยวกับบัตรคา โดยครูใช้คาถาม ดงั นี้ บคุ คลในบตั รคามีบทบาทหนา้ ทใ่ี นโรงเรยี นอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ครู มหี น้าทีส่ อนหนงั สอื อบรมสงั่ สอนนกั เรียนให้เป็นคนดี) ครเู ขียนตารางเก่ียวกบั บทบาทหนา้ ทขี่ องสมาชกิ ในโรงเรียนลงบนกระดานใหน้ กั เรยี นดู ดงั นี้ บทบาท หน้าที่ ผ้อู านวยการโรงเรยี น บริหารโรงเรียน ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสมาชิกทุกคน ใน โรงเรียน ครู สอนหนงั สอื อบรมสง่ั สอนนกั เรยี นให้เป็นคนดี เจา้ หน้าทีข่ องโรงเรียน ดูแลจดั เก็บเอกสารข้อมูลท่เี ก่ียวกบั โรงเรยี น ภารโรง ดูแลความสะอาดภายในบรเิ วณโรงเรียน นกั เรยี น เรียนหนังสือ เช่ือฟังคาสั่งสอนของครู และปฏิบัติตามกฎระเบียบของ โรงเรยี น จากนั้นครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า สมาชิกในโรงเรียนมีบทบาทหน้าท่ีที่แตกต่างกัน สมาชิกทุกคน ใน โรงเรยี นจงึ ควรร้จู ักบทบาทหนา้ ที่ของตนเองเพ่อื ใหโ้ รงเรยี นเกิดความสงบสุข 8. ให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับผลของการปฏิบตั ิตนตามบทบาทหน้าที่ของสมาชิกท่ี ดใี นโรงเรยี น โดยครูใชค้ าถาม ดงั นี้ ถ้าสมาชกิ ทุกคนในโรงเรยี นปฏบิ ัตติ นตามบทบาทหนา้ ทขี่ องตนเอง จะเกิดผล อย่างไร ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า ถ้าสมาชิกทุกคนในโรงเรียนปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง สมาชิกทุก คนในโรงเรียนจะอยู่ร่วมกันอยา่ งสงบสขุ เกิดความเป็นระเบยี บเรียบร้อย และความสามัคคภี ายในโรงเรยี น ข้ันสรุปการเรียนรู้ 9. ให้นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้ สมาชกิ ทุกคนในโรงเรียนมบี ทบาทหน้าที่แตกต่างกัน แต่มีความสัมพนั ธ์เกี่ยวขอ้ งกัน ทุกคน ในโรงเรยี นจงึ ควรรจู้ ักบทบาทหน้าท่ขี องตนเองและปฏิบัติตนให้เหมาะสม 10. ให้นักเรยี นทาใบงานที่ 4.4 เร่ือง ความสมั พันธข์ องสมาชกิ ในโรงเรียน 11. นักเรียนอ่านแบบฝึกอา่ น ชุดท่ี 5 โรงเรยี นของหนู
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ วธิ ปี ระเมนิ เครื่องมอื เกณฑ์ จุดประสงค์ ตรวจใบงานที่ 4.4 เรอื่ ง ใบงานท่ี 4.4 เร่อื ง ความสัมพนั ธข์ องสมาชิก ความสมั พันธข์ องสมาชิก นักเรียนบอก 1. บอกโครงสร้าง ระบบุ ทบาท และ ในโรงเรยี น ในโรงเรียน โครงสรา้ ง ระบุ หน้าทข่ี องตนเองของโรงเรยี น (K) บทบาท และหน้าท่ี แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม ของตนเองของ 2. ปฏบิ ัติตามบทบาท สทิ ธิ ตาม โรงเรียน ผ่านใบงาน โครงสรา้ งของโรงเรียนตนเอง (P) แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 3. ตระหนกั ถงึ ความสาคัญสิทธขิ อง บคุ คลท่มี ีบทบาทในโรงเรยี น (A) นักเรียนปฏบิ ตั ติ าม บทบาท สิทธิ ตาม โครงสร้างของ โรงเรียนตนเอง ระดับ ดี ขึ้นไปถอื ว่า ผา่ นเกณฑ์ นกั เรยี นมีพฤตกิ รรม ระดับดขี ้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ ส่อื การเรียนรู้ 1. บตั รคาเกีย่ วกบั บทบาทหน้าทข่ี องสมาชิกในโรงเรยี น 2. ตารางบทบาทหนา้ ท่ีของสมาชกิ ในโรงเรียน 3. แบบฝึกอา่ น ชดุ ท่ี 5 โรงเรียนของหนู
ใบงานท่ี 4.4 วิชาสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระท่ี 2 หนา้ ทีพ่ ลเมอื งฯ ส 2.2 ป.1/2 เร่อื ง ความสัมพันธข์ องสมาชิกในโรงเรียน ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ช่ือ........................................................................................ชั้น.......................เลขที่......................... คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นเลอื กตอบคาตอบตอ่ ไปน้ไี ปเตมิ ในข้อที่ถูกตอ้ งและระบายสีภาพใหส้ วยงาม ครู หัวหนา้ หอ้ ง นกั เรยี น ผูอ้ านวยการ ภารโรง 1. ใครทาหนา้ ทบ่ี ริหารโรงเรยี น_____________________________________________ 2. ใครทาหน้าทสี่ อนหนงั สือ อบรมส่งั สอนนักเรียน____________________________ 3. ใครทาหน้าทด่ี ูแลความสะอาดภายในโรงเรยี น______________________________ 4. ใครมหี น้าที่เรยี นหนังสือและปฏิบัตติ ามกฎระเบียบของโรงเรยี น______________ 5. ใครมีหน้าท่ดี ูแลความเรยี บร้อยในหอ้ งเรียนแทนคุณครู______________________
ฉบบั เฉลย ใบงานท่ี 4.4 วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 2 หนา้ ที่พลเมอื งฯ ส 2.2 ป.1/2 เร่ือง ความสัมพนั ธข์ องสมาชิกในโรงเรยี น ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ชือ่ ........................................................................................ชัน้ .......................เลขที่......................... คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกตอบคาตอบต่อไปนี้ไปเติมในข้อทถ่ี ูกต้องและระบายสภี าพใหส้ วยงาม ครู หัวหนา้ หอ้ ง นกั เรยี น ผูอ้ านวยการ ภารโรง 1. ใครทาหนา้ ที่บรหิ ารโรงเรียน__________________ผ_้_อู _า_น__ว_ย_ก_า_ร_________________ 2. ใครทาหนา้ ท่สี อนหนังสือ อบรมสั่งสอนนักเรยี น______________ค__ร_ู ___________ 3. ใครทาหน้าท่ดี ูแลความสะอาดภายในโรงเรยี น____________ภ_า_ร__โ_ร_ง____________ 4. ใครมีหน้าที่เรยี นหนังสอื และปฏบิ ัติตามกฎระเบียบของโรงเรยี น___น__ัก_เ_ร_ีย_น_____ 5. ใครมีหน้าที่ดูแลความเรียบรอ้ ยในหอ้ งเรยี นแทนคณุ ครู_____ห__วั _ห__น_้_า_ห_้อ__ง______
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษาฯ วิชา สงั คมศึกษาฯ เวลา 7 ชว่ั โมง หน่วยที่ ๔ เร่ือง พลเมืองไทย เวลา 1 ชัว่ โมง เรื่อง บทบาทหน้าที่ สทิ ธิของตนเองในครอบครัวและโรงเรยี น มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธา และธารงรักษาไว้ซึ่งการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข ตัวชว้ี ัด ป.1/2 ระบุบทบาท สิทธิ หน้าท่ีของตนเองในครอบครวั และโรงเรียน จดุ ประสงค์การเรยี นร้สู ู่ตัวช้ีวัด 1. ระบบุ ทบาทหนา้ ท่ี สิทธิของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน (K) 2. ปฏบิ ัตติ ามบทบาทหน้าที่ สทิ ธขิ องตนเองในครอบครวั และโรงเรียน (P) 3. ตระหนักถงึ บทบาทหน้าที่ สิทธิของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน (A) สาระสาคัญ บทบาทหนา้ ท่ี สิทธิ เปน็ สิง่ ทท่ี ุกคนควรปฏบิ ัตใิ หถ้ ูกตอ้ ง เพือ่ ให้สมาชกิ ในครอบครัว และโรงเรยี นอยู่ รว่ มกันอย่างมีความสขุ สาระการเรยี นรู้ 1. บทบาทหน้าที่ สิทธขิ องตนเองในครอบครวั 2. บทบาทหนา้ ที่ สทิ ธิของตนเองในโรงเรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสตร์ กษตั ริย์ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ มั่นในการทางาน รักความเป็นไทย สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ความสามารถในการแก้ไขปัญหา
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏบิ ัติตนของตนเองในครอบครัว และโรงเรยี น โดยครูใช้คาถาม ดังนี้ นักเรียนปฏบิ ัตติ นอยา่ งไรในครอบครัว (ตัวอยา่ งคาตอบ เชอ่ื ฟังคาสงั่ สอนของ พอ่ แม่ ช่วยเหลืองานบา้ น) นักเรียนปฏิบัติงานของตนอย่างไรในโรงเรียน (ตัวอย่างคาตอบ ตั้งใจเรียน เช่ือฟังคาสั่ง สอนของคร)ู ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ ว่า การปฏิบตั ติ นเปน็ เด็กดี นกั เรยี นควรปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและ โรงเรียน ข้ันสอน 2. ครตู ดิ บัตรคาเก่ียวกบั บทบาทหน้าที่ ลงบนกระดาน แลว้ ให้นักเรียนอ่านตามจานวน1 รอบ ดังนี้ ลูก นกั เรียน เรียนหนงั สือ เช่ือฟังคาส่งั สอนของพอ่ แม่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ความหมายของบทบาทหนา้ ท่ี โดยครใู ชค้ าถาม ดงั น้ี เมื่ออยูบ่ ้านเรามีบทบาทเป็นอะไร (ลูก) เม่ืออยูโ่ รงเรยี นเรามบี ทบาทเปน็ อะไร (นกั เรียน) การเช่ือฟังคาส่ังสอนของพ่อแม่เปน็ หนา้ ท่ขี องลูกท่ีดีหรือไม่ (เปน็ ) การตง้ั ใจเรียนหนังสือ เปน็ หน้าทข่ี องนกั เรยี นทีด่ หี รอื ไม่ (เป็น) ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า บทบาท คือ สิ่งท่ีเราเป็นอยู่ในขณะนั้น เช่น เม่ือเราอยู่บ้าน เรามีบทบาท เปน็ ลกู เมอื่ อยูโ่ รงเรยี น เราจะมีบทบาทเปน็ นกั เรียน หน้าที่ คือ สิง่ ทีเ่ ราตอ้ งปฏิบตั ติ ามบทบาทที่ไดร้ บั เชน่ ลูก มีหน้าที่ต้องเชื่อฟังคาส่ังสอนของพ่อแม่ นักเรียนมีหน้าที่เรียนหนังสือ บทบาทหน้าที่จึงเป็นสิ่งท่ีเราต้องปฏบิ ตั ิ ใหถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสมทง้ั ในครอบครัวและโรงเรยี น 3. ใหน้ ักเรียนเล่นเกมทายไดใ้ ห้เลย โดยครูแบง่ นักเรยี นออกเป็น 2 กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั กลุม่ ที่ 1 ให้บตั รคา พอ่ แม่ ลูก นกั เรียน กลมุ่ ที่ 2 ใหบ้ ตั รคา เล้ียงดูลูก ช่วยเหลืองานบา้ น เรียนหนงั สือ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มปรึกษากันว่าจะเลือกบัตรคาใดก่อน โดยไม่ให้อีกกลุ่มทราบ จากนั้นแต่ละ กลุ่มเลือกตัวแทนกลุ่ม กลุ่มละ 1 คน ถือบัตรคาออกมาท่ีหน้าชั้นเรียน เมื่อครูให้สัญญาณเปิดบัตรคา ให้ ตัวแทนทั้ง 2 กลุ่ม เปิดบัตรคา ถ้าบัตรคาบทบาทหน้าที่สัมพันธ์กันท้ัง 2 กลุ่มจะได้คะแนนกลุ่มละ 1 คะแนน ถ้าบัตรคาไม่สัมพันธ์กันท้ัง 2 กลุ่ม จะไม่ได้คะแนน ดาเนินกิจกรรมนี้จนจับคู่บัตรคาได้ถูกต้องครบทั้ง 3 คู่ กลุ่มใดไดค้ ะแนนมากกวา่ ใหถ้ อื เปน็ ผชู้ นะ ครูอา่ นข้อความใหน้ ักเรยี นฟัง ถ้าถูกต้องใหน้ ักเรียนยกมอื ขวาขน้ึ ถ้าไม่ถูกต้องใหน้ ักเรียนยกมือสอง ขา้ งขึ้นไขว้กนั เป็นเคร่ืองหมายกากบาทโดยครอู ่านข้อความ ดังน้ี
หวั หนา้ ครอบครวั ไมต่ ้องทางานบ้านเลย (ไม)่ ผูอ้ านวยการควรเฆ่ียนตนี ักเรียนทีท่ าผิด (ไม่) หวั หน้าหอ้ งควรแนะนาให้เพื่อนปฏิบัติตามระเบียบ (ถูกต้อง) หวั หนา้ ครอบครวั ควรดูแลให้สมาชกิ อยูร่ ว่ มกนั อยา่ งสงบสุข (ถูกต้อง) ผ้อู านวยการตอ้ งเข้มงวดกบั ครูและนักเรยี นให้มาก ๆ (ไม)่ หวั หนา้ หอ้ งควรชว่ ยครูดแู ลเพื่อน ๆ (ถูกตอ้ ง) ครูและนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า สมาชิกทุกคนในครอบครัวและโรงเรียนมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน ทุกคนควร รูจ้ กั บทบาทหนา้ ทขี่ องตนเองและปฏิบตั ิตามบทบาทหนา้ ที่ของตนเองให้เหมาะสม 4. ครูติดบัตรคา สิทธิ ลงบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตามจานวน 1 รอบ จากนนั้ ให้ นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั ความหมายของสิทธิ โดยครใู ชค้ าถาม ดงั นี้ นักเรยี นร้จู กั สงิ่ ที่อยใู่ นบตั รคาหรอื ไม่ (ตวั อย่างคาตอบ รจู้ ัก) การไดเ้ รียนหนงั สือ เป็นสิทธิทน่ี ักเรยี นได้รบั หรือไม่ (เปน็ ) การมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ในครอบครวั เปน็ สทิ ธิทีน่ ักเรียนไดร้ บั หรอื ไม่ (เป็น) ครูอธิบายให้นกั เรยี นฟังวา่ สิทธิ หมายถงึ อานาจอนั ชอบธรรมของบุคคล โดยอย่ภู ายใต้ ขอบเขตของกฎหมาย เชน่ สิทธิท่จี ะได้รบั การปกป้องคมุ้ ครอง สทิ ธทิ ี่จะได้รับการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน 5. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิทธิของตนเองในครอบครัวและโรงเรียน โดยครูใช้ คาถาม ดังน้ี สิทธทิ ี่เราได้รบั ในครอบครัวมีอะไรบ้าง สิทธทิ ี่เราไดร้ บั ในโรงเรยี นมีอะไรบ้าง ครบู ันทกึ คาตอบของนกั เรยี นเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน ดังน้ี (ตวั อยา่ งแผนภาพ) ไดร้ ับการปกป้อง ไดร้ ับการเล้ียงดู คุม้ ครองจากพอ่ แม่ จากพอ่ แม่ อแม่ สิทธิของตนเอง ในครอบครัว มีส่วนร่วมแสดงความ คิดเห็นร่วมกบั สมาชิกในครอบครัว
ไดร้ ับการศึกษา มีส่วนร่วมในกิจกรรม ข้นั พ้ืนฐาน ตา่ งๆ ภายในโรงเรียน สิทธิของตนเอง ในโรงเรียน มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ร่วมกบั ผอู้ ่ืน ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า ในฐานะประชาชนของประเทศ นักเรียนมีสิทธิได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย เช่น สิทธทิ ่ีไดร้ ับการปกป้องคุ้มครอง และเลี้ยงดจู ากพ่อแม่ สิทธทิ ่ไี ด้รบั การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน สิทธิในการมีส่วน รว่ มแสดงความคดิ เหน็ หรือทากิจกรรมร่วมกบั สมาชกิ ในครอบครวั และโรงเรียน 6. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับความแตกตา่ งของบทบาทหน้าท่ี สทิ ธิของตนเองใน ครอบครัวและโรงเรียน โดยครูใชค้ าถาม ดงั นี้ บทบาทหนา้ ท่ีของนักเรียนในครอบครวั คืออะไร (ตัวอย่างคาตอบ ช่วยพ่อแม่ทางานบ้าน เชื่อฟังคาส่งั สอนของพ่อแม่) บทบาทหน้าท่ีของนักเรียนในครอบครวั แตกต่างกบั สิทธทิ นี่ ักเรียนได้รบั หรือไม่ (ตัวอย่าง คาตอบ ไม)่ บทบาทหน้าท่ีของนกั เรยี นในโรงเรียนคืออะไร (ตวั อย่างคาตอบ ตง้ั ใจเรยี นหนงั สอื เคารพ และเชื่อฟังคาสั่งสอนของครู) บทบาทหน้าท่ีของนกั เรียนในโรงเรยี น แตกตา่ งกับสิทธิทน่ี ักเรยี นไดร้ บั หรือไม่ (ตวั อย่างคาตอบ ไม่) ครูอธิบายเพม่ิ เติมว่า บทบาทหน้าทเ่ี ปน็ ส่งิ ที่เราควรปฏิบัติ แตส่ ทิ ธเิ ป็นสง่ิ ท่เี ราต้องได้รบั ตามกฎหมาย บทบาทหน้าที่ของนักเรียนในครอบครัวและโรงเรียนอาจแตกต่างกับสิทธิที่นักเรียนควรได้รับ ท้ังน้ีขึ้นอยู่กับ ครอบครวั และโรงเรียนของนกั เรยี น ขนั้ สรปุ การเรยี นรู้ 7. ให้นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้ บทบาทหน้าที่ และสทิ ธเิ ปน็ สิ่งที่ทกุ คนควรปฏิบัติให้ถูกต้อง เพอ่ื ให้ครอบครัวและโรงเรยี น เกดิ ความสงบสุข เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย 8. ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ช้คาถามทา้ ทาย ดงั น้ี หน้าทขี่ องเดก็ ดีมอี ะไรบ้าง 9. ให้นกั เรยี นทาใบงานท่ี 4.5 เร่อื ง บทบาทหน้าที่ สิทธขิ องตนเองในครอบครวั และโรงเรยี น 10. ใหน้ ักเรียนอ่านแบบฝกึ อ่าน ชุดท่ี 6 บทบาทหน้าที่
Search