หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สังคม ป.3 Coding

บันทึกข้อความ สว่ นราชการ โรงเรียนวัดพืชนมิ ิต (คาสวสั ด์ริ าษฎรบ์ ารุง) ท…ี่ …………………วันที่ 8 เดือน กนั ยายน พ.ศ.2564 เรอื่ ง ขออนญุ าตใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ เรยี น ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั พืชนิมิต (คาสวสั ดริ์ าษฎรบ์ ารุง) ดว้ ยข้าพเจ้า นางสาวจรี วรรณ ปฏิวงศ์ ตาแหน่ง ครู โรงเรยี นวดั พืชนิมติ (คาสวัสด์ิราษฎร์บารุง) ได้รบั มอบหมายใหป้ ฏิบตั หิ นา้ ท่กี ารสอน รายวิชาสังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส13101 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คม ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 ปกี ารศึกษา 2564 บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทาแผนการสอนโดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ Coding กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ศิลปะ การงานอาชีพ และบูรณาการของเศรษฐกิจพอเพียง ข้าพเจ้าจึง ขออนุญาตดาเนนิ การสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ทจี่ ัดเตรียมไว้ ซ่งึ แนบเอกสาร หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง เศรษฐศาสตรพ์ น้ื ฐาน เวลาเรยี น 7 ชั่วโมง มาพรอ้ มกบั เอกสารน้ี จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบ ลงชื่อ.............................................................. (นางสาวจรี วรรณ ปฏิวงศ์) ตาแหนง่ ครู ลงชอ่ื .............................................................. (นางสาวสวุ ดี กาญจนาภา) ผูช้ ว่ ยผูอ้ านวยการกลุม่ บริหารวิชาการ ความเหน็ ผูอ้ านวยการโรงเรยี น อนญุ าต ไม่อนญุ าต เพราะ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ลงชื่อ ( นางสาวกนั ยาภัทร ภทั รโสตถิ ) ผ้อู านวยการโรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คาสวัสดร์ิ าษฎร์บารงุ ) 8/กนั ยายน/2564

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษาฯ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 หน่วยท่ี 4 เรอ่ื ง เศรษฐศาสตรพ์ ้ืนฐาน วิชา สงั คมศึกษาฯ เวลา 7 ชัว่ โมง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดารงชีวิตอย่างมี ดุลยภาพ ส 3.2 เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกจิ ต่าง ๆ ความสัมพันธท์ างเศรษฐกิจและความจาเป็นของ การร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสังคมโลก ตัวชี้วัด ส 3.1 ป.3/1 จาแนกความต้องการและความจาเป็นในการใช้สินค้าและบรกิ ารในการดารงชีวิต ส 3.1 ป.3/2 วเิ คราะหก์ ารใช้จา่ ยของตนเอง ส 3.1 ป.3/3 อธบิ ายไดว้ า่ ทรัพยากรท่ีมีอยู่อยา่ งจากดั มีผลตอ่ การผลิตและบริโภคสินคา้ และบริการ ส 3.2 ป.3/1 บอกสินคา้ และบรกิ ารทีร่ ฐั จัดหาและให้บริการแกป่ ระชาชน ส 3.2 ป.3/2 บอกความสาคญั ของภาษีและบทบาทของประชาชนในการเสียภาษี ส 3.2 ป.3/3 อธิบายเหตุผลการแขง่ ขนั ทางการค้าทม่ี ผี ลทาให้ราคาสนิ ค้าลดลง สาระสาคญั ปัจจัย 4 เปน็ ปัจจัยพื้นฐานท่มี นุษยใ์ ชใ้ นการดารงชวี ิตประจาวนั นอกจากน้นั มนษุ ย์ยังมีความต้องการ สินคา้ ทชี่ ่วยอานวยความสะดวกในชวี ิตประจาวนั ตามความต้องการของตนเอง การวางแผนการใช้จ่ายเงินต้องคานึงถึงรายได้ของตนเอง และรจู้ ักการนาเงินทเ่ี หลือจากการใชจ้ ่ายมา วางแผนใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ตลอดถงึ การวางแผนเพอื่ หารายได้ท่สี จุ ริตอยา่ งเหมาะสม ทรัพยากรมอี ยู่อย่างจากัด ผ้ผู ลิต และผู้บรโิ ภคสนิ ค้า ควรรู้จักใชแ้ ละบริหารจัดการทรัพยากรให้คุ้มค่า ประหยดั และเกิดประโยชน์สูงสุด ภาษีเป็นรายได้ท่ีรัฐเก็บจากประชาชนผู้มีรายได้ นามาพัฒนาสาธารณูปโภคบริการให้แก่ประชาชน การแขง่ ขันทางการค้าทาใหเ้ กดิ การแข่งขันทางด้านราคา คุณภาพ และปรมิ าณ จงึ ทาให้ราคาสินค้าลดลง สาระการเรียนรู้ 1. ปจั จยั 4 2. สินค้าท่เี ป็นความตอ้ งการเพ่ือใช้อานวยความสะดวก 3. การวางแผนการใช้จา่ ยเงนิ โดยทาบัญชรี ายรับ-รายจ่าย 4. การวางแผนนาเงนิ ท่ีเหลือใชจ้ ่ายมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ละการวางแผนหารายไดท้ ส่ี ุจรติ 5. การผลิต และบรโิ ภคทรัพยากรท่มี ีอย่อู ย่างจากัด 6. สนิ ค้า และบรกิ าร 7. ภาษที างตรง ภาษที างออ้ ม

8. สินคา้ และบรกิ ารทรี่ ฐั จัดให้แกป่ ระชาชน 9. ความสาคญั และผลกระทบจากการแขง่ ขนั ทางการคา้ จดุ ประสงค์ ด้าน อยู่อย่างพอเพยี ง...สมดลุ และพร้อมรับการเปล่ียนแปลงในดา้ นต่าง ๆ วดั วตั ถุ สังคม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม ความรู้ -ได้ความรู้ เร่ือง - มคี วามร้ใู นการ -มคี วามรอบรใู้ นการ -การเรียนรสู้ อดคล้องกับ ทักษะ หลักการ เปา้ หมาย ค่านยิ ม ปรัชญาของเศรษฐกจิ ทางานเปน็ ใช้แหลง่ เรยี นรู้ใน วถิ ีชวี ิตของคน พอเพยี ง - ปัญหาการใช้ กระบวนการกลมุ่ โรงเรียน -เห็นคณุ ค่าของการใช้ ทรัพยากร -มคี วามรู้ในการ -ร้สู าเหตแุ ละปญั หา ทรัพยากร -มที กั ษะในการใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์อย่างประหยดั นาเสนองาน ของการใชท้ รัพยากร และคมุ้ คา่ - การเลอื กใช้วัสดุ -การวางแผนการ อยา่ งไม่ถูกตอ้ ง อุปกรณ์ได้อย่าง เหมาะสม ทางานรว่ มกนั เป็น เหมาะสม - ใชท้ รพั ยากรอย่าง กลุ่ม คมุ้ ค่า - ใช้งบประมาณอยา่ ง -มีทักษะในการ -ใช้ประโยชน์จาก -ดารงตนอยู่ในสังคมอย่าง ประหยัด ทางาน สิ่งแวดลอ้ มด้วยความ มคี วามสุข -ระบปุ ัญหาและ เคารพและ -มีทกั ษะในการใช้ภาษา สามารถแก้ปัญหา ระมัดระวงั เขียน สื่อสารไดเ้ หมาะสม โดยใชห้ ลักการ กบั วฒั นธรรม ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง -มีความรบั ผิดชอบ -มีจติ สานกึ ในการใช้ -สบื สานการอนรุ ักษ์ ต่อสังคมใชช้ ีวิตอยา่ ง ทรัพยากร ทรพั ยากร พอเพยี ง -ใชท้ รพั ยากรและ -การใชแ้ หลง่ เรียนรู้โดยใช้ -เหน็ คณุ คา่ สิง่ แวดลอ้ มอย่าง ทรพั ยากรภายในโรงเรยี น -เปน็ ผนู้ าผตู้ ามทดี่ ี ประหยดั -รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อืน่ -มีความสามคั คี เสียสละ บาเพญ็ ประโยชน์ต่อ ส่วนรวม

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมคิ ุ้มกันในตัวทดี่ ี อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทางาน มจี ติ สาธารณะ มีวินัย เง่อื นไขความรู้ - สามารถบริหารจดั การทรพั ยากรในการผลิตและการบรโิ ภค การใช้ทรพั ยากรท่ีมอี ยูจ่ ากัดได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพและคุม้ ค่า รวมทง้ั เข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพอ่ื การดารงชีวติ อย่างมดี ลุ ยภาพ - ทรัพยากรเป็นสิ่งสาคัญที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ หรือส่ิงท่ีมนุษย์สร้างข้ึน เพ่ือใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มนษุ ย์จึงควรช่วยกนั ดแู ลรักษาและใช้ทรัพยากรใหเ้ กดิ ประโยชน์ และคุม้ ค่ามากที่สุด เงือ่ นไขคณุ ธรรม - ความมวี ินยั ในตนเอง - มคี วามมงุ่ ม่นั ที่จะทางานให้สาเรจ็ - ความรับผดิ ชอบ - มจี ิตสาธารณะทรัพยากรสว่ นรวม - ความสามัคคี มีนาใจ มุ่งมน่ั ในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ความสามารถในการคิด ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ความสามารถในการแกไ้ ขปญั หา ชิน้ งานหรอื ภาระงาน 1. ชนิ้ งานที่ 4.1 เรือ่ ง ประดิษฐ์ส่งิ ของจากสิง่ เหลือใช้ บูรณาการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์/ศลิ ปะ/การงานอาชพี - จาแนกทรพั ยากรที่มนุษย์สรา้ งขึ้นและธรรมชาตสิ ร้างขึ้น (วิทยาศาสตร์) - ประดษิ ฐส์ งิ่ ของจากส่งิ เหลือใช้ (ศิลปะ/การงานอาชีพ) - วาดรปู (ศิลปะ) - วทิ ยาการคานวณ Coding (วิทยาศาสตร์) การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 กิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื ง สินคา้ และบรกิ ารในชีวิตประจาวัน 1. ครูนาบัตรคาสินค้าที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตของมนุษย์ ให้นักเรียนร่วมกันจาแนกสินค้าที่เป็น ปัจจยั พ้นื ฐานในการดารงชวี ิต กับสินคา้ ท่ชี ว่ ยอานวยความสะดวก 2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกนาเสนออภิปรายสินค้าที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตของมนุษย์ จบการนาเสนอครูใชค้ าถามให้นกั เรยี นร่วมกันสนทนา 3. ใหน้ ักเรียนร่วมกันสรปุ ปจั จยั 4 ทีม่ คี วามจาเปน็ ตอ่ การดารงชีวติ ของมนษุ ย์

ช่วั โมงที่ 2 กจิ กรรมท่ี 2 เรื่อง การวางแผนใช้จา่ ยเงิน 1. ครูนาสถานการณ์เก่ียวกับการใช้จ่ายเงินของครอบครัวหน่ึงมาให้นักเรียนอ่านและครูใช้คาถามให้ นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น 2. ครูให้ตวั แทนนักเรียนมาเล่าประสบการณ์เกยี่ วกบั การใช้จา่ ยเงนิ ของตนเองภายใน 1 วนั โดยครใู ช้ คาถาม จากนน้ั ครูให้นักเรยี นสารวจรายรบั -รายจา่ ยของตนเองภายในหนึ่งวนั บนั ทึกลงในตารางและตอบ คาถาม โดยครูสรุป ช่ัวโมงท่ี 3-4 กจิ กรรมที่ 3 เร่อื ง การบริหารจัดการทรัพยากร 1.ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ระบชุ ่อื ทรัพยากรทีม่ ีอยู่อยา่ งจากดั ท่ีมีความจาเป็นต่อการดารงชีวติ ของมนุษย์ และครูใช้คาถามใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็น 2.ให้นักเรียนศึกษาความหมายของผู้ผลิตและบริโภค โดยครูเขียนเป็นแผนภาพผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยเวน้ ช่องว่างให้นักเรียนเตมิ ขอ้ ความที่ตรงกบั ความหมายของผู้ผลิตและผบู้ ริโภค 3.ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาความหมายของสินค้าและบริการ โดยครูเขียนเป็นบัตรคา ใหน้ กั เรียนอา่ นและจาแนกบัตรคาตามความหมาย และสรปุ เปน็ แผนภาพ ช่ัวโมงท่ี 5 กิจกรรมท่ี 4 เรอ่ื ง ภาษีท่เี กี่ยวข้องกับชีวติ ประจาวัน 1. ครูนาภาพเก่ียวกับสาธารณูปโภคที่เป็นของรัฐให้นักเรียนดู จากนั้นใช้คาถามถึงที่มาของ สาธารณปู โภคให้นกั เรียนรว่ มกนั สนทนา 2.ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาประเภทของภาษี โดยเขียนจาแนกเป็นแผนภาพลงบนกระดานและให้ นกั เรียนทาเป็นรายงานนาเสนอหน้าช้ันเรยี น จบการนาเสนอครูใช้คาถามจาแนกประเภทของภาษี ให้นกั เรียน ตอบคาถาม 3. ใหน้ กั เรยี นร่วมกันสรุปประโยชน์ของการเสยี ภาษี เป็นแผนภาพ ชั่วโมงที่ 6 กิจกรรมท่ี 5 เรือ่ ง ภาษีของประชาชนท่รี ฐั จัดให้แก่ประชาชน 1. ครูนาบัตรคาเกี่ยวกับสวัสดิการต่าง ๆ ที่รัฐจัดให้แก่ประชาชนในรูปของสินค้าและบริการและ แบง่ กลมุ่ นกั เรยี นจาแนกบัตรคาทเ่ี ปน็ สนิ คา้ กับบรกิ ารของรัฐ จากน้นั รว่ มกันสนทนาแสดงความคิดเห็น 2. สรุปความสาคัญและประโยชนข์ องเงินภาษเี ป็นแผนภาพ 3. ครูสร้างสถานการณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าจากร้าน 2 ร้านที่ขายสินค้าชนิดเดียวกัน และให้นักเรียนร่วมกันให้เหตุผลการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าจากร้านท้ัง 2 จบแล้วครูสรุปและให้เหตผุ ล เพ่ิมเติม ชว่ั โมงที่ 7 กจิ กรรมที่ 6 เรอ่ื ง การแขง่ ขนั ทางการค้าท่ีมีผลทาใหร้ าคาสนิ ค้าลดลง 1. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ซื้อและกลุ่มผู้ขาย มานาเสนอการซื้อสินค้าและการขาย สินค้า ใหเ้ หตผุ ลในการเลือกซอ้ื หรือขายสินค้า และปัจจัยท่ตี ้องตัดสนิ ใจซอ้ื หรอื ขายสนิ คา้ 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ปัจจัยที่ทาให้การแข่งขันทางการค้ามีผลทาใหร้ าคาสินค้าลดลง โดยครู ใชค้ าถามใหน้ ักเรียนรว่ มกันตอบ 3. สรปุ ความรู้เกย่ี วกับการแข่งขันทางการค้า

สือ่ การเรียนรู้ เกณฑ์ 1. บัตรคา ปจั จัย 4 คะแนนผา่ นร้อยละ 50 2. บัตรคา สนิ คา้ ทเี่ ปน็ ความต้องการของมนุษย์ นักเรยี นทาใบงาน 3. สถานการณ์ รายรบั -รายจา่ ยของครอบครวั คะแนนผ่านร้อยละ 60 4. แบบสารวจ บัญชีรายรบั -รายจ่าย ข้ึนไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์ 5. บตั รคา ผูผ้ ลติ ผบู้ ริโภค สินค้าและบรกิ าร 6. ภาพ ทรัพยากร นักเรยี นมพี ฤตกิ รรม 7. บตั รคา ภาษที างตรง และภาษที างออ้ ม ระดบั ดขี ้ึนไป ถือวา่ ผา่ น 8. บัตรคา สินค้าและบริการทรี่ ัฐจัดใหแ้ ก่ประชาชน เกณฑ์ 9. ตวั อยา่ งสนิ คา้ คะแนนผ่านร้อยละ 60 การประเมินผล 1. การประเมินผลตัวชีว้ ดั การวดั เครอ่ื งมือ 1.กอ่ นเรยี น แบบทดสอบก่อนเรียน 2.ระหว่างเรยี น ใบงานที่ 4.1 เร่อื ง สินค้าและบรกิ ารในชวี ิตประจาวนั ใบงานท่ี 4.2 เรื่อง การวางแผนการใช้จ่ายของตนเอง (Coding) ใบงานที่ 4.3 เรื่อง เงนิ เสยี ภาษขี องประชาชนทีร่ ัฐจดั ให้แกป่ ระชาชน ใบงานท่ี 4.4 เรือ่ ง การแข่งขนั ทางการค้า แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ สมรรถนะของผเู้ รยี น แบบประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน 3.หลงั เรียน แบบทดสอบหลังเรียน ช้นิ งานที่ 4.1 เรื่อง ประดิษฐ์ส่ิงของจากสิง่ เหลือใช้

แบบทดสอบก่อนเรียน ได้_______คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน ชอ่ื ______________________ นามสกุล________________ เลขท_่ี _______ ชั้น ________ ใหร้ ะบายคาตอบท่ีถกู ต้องลงในวงกลมตัวเลอื กใหเ้ ต็มวง (หา้ มระบายนอกวง) 1. ข้อใดไม่ใช่สินค้าท่เี ปน็ ปจั จยั 4 1 นา้ ดืม่ 2 หมวก 3 ยาแกไ้ อ 4 ไข่เจยี ว 2. การเลือกซือ้ สินคา้ และบรกิ ารในข้อใดเหมาะสมท่ีสดุ 1 เลือกซือ้ ตามคนอื่นแนะนา 2 เลอื กซอ้ื ตามความจาเปน็ 3 เลอื กซอื้ ตามความพอใจ 4 เลอื กซื้อตามโฆษณา 3. รา้ นขายสนิ คา้ และบริการในข้อใดขายสนิ คา้ ที่จาเป็นต่อการดารงชีวติ 1 ร้านหนงั สือ 2 ร้านอาหาร 3 รา้ นขายเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ 4 รา้ นขายของเล่น 4. ขอ้ ใดเป็นการวางแผนการใช้เงนิ ที่ถกู ต้อง 1 นาเงินไปซ้ือขนมทงั้ หมด 2 นาเงนิ ไปซือ้ ของเลน่ ท้ังหมด 3 ซอื้ ขนมและของเล่นอย่างละครึง่ 4 ใชเ้ ทา่ ทจ่ี าเปน็ ท่เี หลือเก็บใส่กระปกุ ออมสนิ 5. ข้อใดคอื ประโยชนข์ องการทาบญั ชใี ช้จา่ ยเงนิ 1 ทาใหซ้ อื้ สิง่ ของฟุ่มเฟอื ยได้ 2 ทาให้ช่วยเหลือครอบครวั อน่ื ได้ 3 ทาใหค้ รอบครวั มีรายจ่ายเพม่ิ มากขึ้น 4 ทาใหร้ ู้รายรับ-รายจ่ายของตนเองในแต่ละวัน 6. การบรกิ ารมลี กั ษณะตรงกบั ขอ้ ใด 1 สามารถเก็บรวบรวมไว้ได้ 2 สามารถจ่ายโอนไปให้ผู้อื่นได้ 3 นามาแลกเปลย่ี นซ้ือขายกนั ได้ 4 ทาให้เกดิ ความสะดวกสบายได้

7. การใชท้ รัพยากรท่ีมีอยอู่ ย่างจากดั ในข้อใดถูกต้อง 1 ใชแ้ ร่อย่างฟุ่มเฟอื ย 2 ใชน้ ้ามันใหม้ ากเทา่ ทต่ี อ้ งการ 3 ใช้แก๊สธรรมชาตอิ ย่างประหยดั 4 ใชน้ า้ มนั สาหรบั รถโดยสารเท่านน้ั 8. นักเรียนมีความสัมพันธเ์ กยี่ วข้องกับภาษอี ยา่ งไร 1 ต้องเสียภาษใี ห้กับรฐั บาล 2 ช่วยดูแลรักษาสถานท่สี าธารณะ 3 ตรวจสอบการเกบ็ ภาษขี องรฐั บาล 4 สรา้ งสาธารณประโยชน์ให้กับชุมชน 9. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องเก่ยี วกบั การแขง่ ขนั ทางการค้า 1 ราคาสินคา้ ไมม่ ีผลตอ่ การแขง่ ขนั ทางการค้า 2 ราคาสินค้าเปน็ ตวั กาหนดคุณภาพของสนิ ค้า 3 สินค้าทีม่ ีราคาถูกจะขายไดม้ ากกว่าสินค้าทีม่ ีราคาแพง 4 สินค้าทีม่ ีราคาแพงจะขายไดม้ ากกว่าสินค้าทีม่ ีราคาถูก 10. การแขง่ ขันทางการค้าในข้อใดสง่ ผลใหร้ าคาสินค้าลดลง 1 การขายสินคา้ ทม่ี ีคณุ ภาพ 2 การขายสนิ ค้าชนิดเดียวกัน 3 การขายสินคา้ ที่แตกตา่ งกัน 4 การขายสินค้าปรมิ าณนอ้ ย ๆ

แบบทดสอบหลงั เรียน ได้_______คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน ชอ่ื ______________________ นามสกุล________________ เลขท_่ี _______ ชั้น ________ ใหร้ ะบายคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งลงในวงกลมตัวเลอื กใหเ้ ตม็ วง (หา้ มระบายนอกวง) 1. ข้อใดไม่ใช่สนิ คา้ ท่ีเปน็ ปจั จัย 4 1 นา้ ด่มื 2 หมวก 3 ยาแก้ไอ 4 ไข่เจยี ว 2. การเลือกซือ้ สินคา้ และบรกิ ารในข้อใดเหมาะสมท่สี ดุ 1 เลือกซือ้ ตามคนอื่นแนะนา 2 เลอื กซอ้ื ตามความจาเปน็ 3 เลอื กซอื้ ตามความพอใจ 4 เลอื กซื้อตามโฆษณา 3. รา้ นขายสินคา้ และบริการในข้อใดขายสนิ คา้ ที่จาเปน็ ตอ่ การดารงชีวติ 1 ร้านหนังสือ 2 ร้านอาหาร 3 รา้ นขายเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ 4 รา้ นขายของเล่น 4. ขอ้ ใดเป็นการวางแผนการใช้เงนิ ที่ถกู ต้อง 1 นาเงนิ ไปซ้ือขนมทงั้ หมด 2 นาเงินไปซือ้ ของเล่นท้ังหมด 3 ซอ้ื ขนมและของเล่นอย่างละครึง่ 4 ใชเ้ ท่าทีจ่ าเปน็ ท่เี หลือเกบ็ ใส่กระปกุ ออมสนิ 5. ข้อใดคอื ประโยชนข์ องการทาบญั ชใี ชจ้ า่ ยเงนิ 1 ทาใหซ้ ือ้ สิง่ ของฟุ่มเฟอื ยได้ 2 ทาใหช้ ่วยเหลือครอบครวั อน่ื ได้ 3 ทาใหค้ รอบครวั มีรายจ่ายเพม่ิ มากขึ้น 4 ทาใหร้ ูร้ ายรับ-รายจ่ายของตนเองในแตล่ ะวนั 6. การบรกิ ารมลี ักษณะตรงกบั ขอ้ ใด 1 สามารถเก็บรวบรวมไว้ได้ 2 สามารถจ่ายโอนไปให้ผู้อืน่ ได้ 3 นามาแลกเปลย่ี นซ้ือขายกันได้ 4 ทาให้เกิดความสะดวกสบายได้

7. การใช้ทรัพยากรทีม่ อี ยู่อย่างจากดั ในข้อใดถกู ต้อง 1 ใชแ้ ร่อยา่ งฟ่มุ เฟอื ย 2 ใช้น้ามันให้มากเทา่ ทต่ี อ้ งการ 3 ใชแ้ ก๊สธรรมชาตอิ ยา่ งประหยดั 4 ใช้นา้ มนั สาหรบั รถโดยสารเท่านน้ั 8. นักเรียนมคี วามสมั พันธเ์ กยี่ วขอ้ งกับภาษอี ย่างไร 1 ตอ้ งเสียภาษใี ห้กับรฐั บาล 2 ชว่ ยดูแลรกั ษาสถานท่สี าธารณะ 3 ตรวจสอบการเกบ็ ภาษขี องรฐั บาล 4 สรา้ งสาธารณประโยชน์ให้กับชุมชน 9. ข้อใดกล่าวถกู ต้องเกี่ยวกบั การแขง่ ขนั ทางการค้า 1 ราคาสนิ คา้ ไมม่ ีผลตอ่ การแขง่ ขนั ทางการค้า 2 ราคาสินค้าเป็นตวั กาหนดคุณภาพของสินค้า 3 สินค้าทีม่ ีราคาถูกจะขายไดม้ ากกว่าสินค้าทีม่ ีราคาแพง 4 สินค้าทีม่ ีราคาแพงจะขายไดม้ ากกว่าสินค้าทีม่ ีราคาถูก 10. การแข่งขันทางการคา้ ในข้อใดสง่ ผลใหร้ าคาสินค้าลดลง 1 การขายสนิ คา้ ทม่ี ีคุณภาพ 2 การขายสินคา้ ชนดิ เดียวกัน 3 การขายสนิ คา้ ที่แตกตา่ งกัน 4 การขายสนิ ค้าปรมิ าณนอ้ ย ๆ

1. 2 2. 2 เฉลยแบบทดสอบ 4. 4 5. 4 6. 4 7. 3 9. 3 10. 2 3. 2 8. 2

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษาฯ วชิ า สงั คมศกึ ษาฯ เวลา 7 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง เศรษฐศาสตร์พ้ืนฐาน เวลา 1 ช่วั โมง เรอ่ื ง สนิ ค้าและบรกิ ารในชีวิตประจาวนั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดารงชีวิตอย่างมี ดลุ ยภาพ ตัวชี้วัด ป.3/1 จาแนกความตอ้ งการและความจาเป็นในการใช้สินค้าและบริการในการดารงชวี ิต จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายสนิ ค้าและการบริการที่เปน็ ความต้องการของมนุษย์ (K) 2. จาแนกความตอ้ งการและความจาเปน็ ในการใช้สินคา้ และบรกิ ารในการดารงชีวติ (P) 3. ตระหนักและรคู้ ุณค่าในการใช้สินค้าตามความต้องการท่ีเหมาะสม (A) สาระสาคัญ ปจั จยั ท่เี ป็นส่ิงจาเป็นต่อการดารงชวี ติ ของมนุษย์ ไดแ้ ก่ อาหาร ทีอ่ ย่อู าศยั เครอ่ื งนุ่งห่ม และยา รักษาโรค สินคา้ ทมี่ ีอยใู่ นปจั จบุ ันมีความหลากหลายในการสนองความต้องการของมนษุ ย์ ทงั้ ท่จี าเป็นตอ่ การ ดารงชีวติ ของมนุษย์และไม่จาเป็นตอ่ การดารงชีวิตของมนษุ ย์ เพอื่ อานวยความสะดวกและเพื่อความบนั เทิง สาระการเรียนรู้ สนิ คา้ ท่ีเปน็ ปัจจัย 4 ในการดารงชวี ติ ประจาวัน และสนิ ค้าทีเ่ ปน็ ความต้องการของมนุษย์ ในยุค ปจั จบุ นั คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มั่นในการทางาน มีจติ สาธารณะ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ ที่ 1 ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูนาบัตรคาสินคา้ ทีจ่ าเป็นตอ่ การดารงชวี ิตของมนษุ ย์ ติดท่ีบนกระดาน ดังนี้ อาหาร รถยนต์ บา้ นท่ีอยอู่ าศยั โทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ี ยารักษาโรค เคร่ืองสาอาง เครื่องนุ่งห่ม คอมพวิ เตอร์ ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นบัตรคาบนกระดาน จากน้ันครูใหน้ ักเรียนส่งผแู้ ทนออกมาหยบิ บัตรคาทเ่ี ป็นปจั จยั จาเปน็ ต่อการดารงชวี ิตของมนุษย์มากทส่ี ุด 4 บตั รคา โดยให้ออกมาหยบิ ทีละคนแล้วนาไปติดท่ชี ่องกระดานท่ีแบ่งไว้ โดยครูแบ่งกระดานออกเป็น 2 ช่อง ดังน้ี ปัจจัยท่ีจาเป็นพืน้ ฐานในการดารงชวี ติ ปจั จยั รองหรือส่ิงอานวยความสะดวก กตกิ าของการตดิ บัตรคา • ใหน้ กั เรยี นนาบตั รคามาตดิ ช่องท่ี 1 ให้ครบ 4 บตั รคาใหถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ครคู ่อยนาบตั รคาที่เหลือติดช่องที่ 2 พร้อมตรวจสอบความถกู ต้อง ขน้ั ท่ี 2 ขัน้ กจิ กรรมการเรียนรู้ 2. ให้นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ปัจจัย 4 ท่มี คี วามจาเปน็ ต่อการดารงชีวติ ของมนุษย์เป็นแผนภาพลงบน กระดาน ดงั น้ี เป็นที่พกั อาศยั ที่อยู่ ป้องกนั ลม แดด ฝน เป็นท่ีหลบภยั อาศยั เป็นที่ป้องกนั อนั ตรายตา่ ง ๆ ใชบ้ าบดั ความหิว ใหค้ วามอบอุ่นร่างกาย ทาใหร้ ่างกายมีชีวติ อยตู่ ่อได้ ใชป้ กปิ ดร่างกาย อาหาร ปัจจัย 4 เคร่ือง ทาใหร้ ่างกายมีพละกาลงั ทจี่ ำเป็ นต่อกำร นุ่งห่ม ทาใหร้ ่างกายเจริญเติบโต ดำรงชีวติ ใชป้ ้องกนั ลม แสงแดด ใชบ้ าบดั ความร้อน ฟ้ื นฟูร่างกาย ยารักษา รักษาความเจบ็ ไข้ ใชป้ ้องกนั โรคภยั โรค บรรเทาอาการบาดเจบ็ ของร่างกาย

3. ครูนาบัตรคาสินคา้ และบริการที่เปน็ ความต้องการของมนษุ ย์ มาติดบนกระดานเพ่ือให้นกั เรยี น แยกประเภทของสินคา้ และบริการท่เี ปน็ ความตอ้ งการของมนุษยใ์ นดา้ นต่าง ๆ ดังนี้ ตัวอยา่ งบัตรคา รถยนต์ โทรทศั น์ เส้ือผา้ สวยงาม หนงั สือนิตยสาร ภาพยนตร์ เพลง คอมพวิ เตอร์ โทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ เคร่ืองประดบั เคร่ืองสาอาง 4. ครูให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเปน็ 3 กล่มุ จากนน้ั ครูให้นักเรยี นกลมุ่ ท่ี 1 ออกมาแยกบัตรคา เกีย่ วกบั สนิ คา้ ที่เปน็ ความต้องการของมนษุ ย์ทางดา้ น เพ่อื อานวยให้เกิดความสะดวก จานวน 3 บตั รคา โดยให้นักเรียนชว่ ยกันวิเคราะหว์ ่าควรจะหยิบบตั รคาไหนจึงจะตรงกับความหมาย โดยครูคอยตรวจสอบความ ถูกต้อง จากน้ัน ครใู ห้ตัวแทนนักเรยี นกลุม่ ท่ี 1 จานวน 3 คน ยนื เรียงแถวถือบตั รคา ดงั นี้ ตวั อย่างบัตรคา โทรศพั ทเ์ คล่ือนที่ รถยนต์ คอมพวิ เตอร์ ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมวา่ “สินคา้ และบรกิ ารตามบตั รคาเปน็ สินคา้ ตวั อย่างท่ีชว่ ยอานวยความสะดวกใน การดาเนินชีวิตประจาวนั ของมนษุ ย์ ยังมีสินคา้ และบริการลักษณะดงั กล่าวนี้อกี มากมายท่มี นุษย์พัฒนาตาม เทคโนโลยสี มยั ใหม่เพ่ือชว่ ยใหเ้ กดิ ความสะดวกรวดเรว็ ......” ไมส่ ร้างความเดอื•ดนรัก้อเนรยีแนกเต่ ลนือเกอใงช(ส้ ตินัวคอ้ายแ่าลงะคบารติกอาบรนอ้ีใชยเ้่าทงไา่ รทจ่มี งึคี จวะาเมกจิดาปเรปะน็ โยตช่อนกต์า่อรดตานเเนอนิงแชลีวะติ ไมใ่ ชเ้ กิน จานวนรายไดข้ องครอบครวั เชน่ ใชโ้ ทรศพั ทส์ าธารณะแทนการใช้โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ นัง่ รถโดยสารแทนการน่ังรถยนต์ส่วนตวั ใช้คอมพิวเตอรเ์ พอ่ื ประโยชน์ทางการศึกษา) 5. ครูให้นักเรยี นกลมุ่ ที่ 2 ออกมาแยกบัตรคาบนกระดานท่ีมีความหมายตรงกับสนิ คา้ และบรกิ ารท่ี ชว่ ยให้เกดิ ความสนกุ สนานทางดา้ น ความบนั เทงิ และใหต้ ัวแทนกลุม่ ที่ 2 จานวน 3 คน ยนื เรียงแถวถือบัตรคา ดังน้ี ตัวอยา่ งบัตรคา โทรทศั น์ ภาพยนตร์ เพลง หนงั สือนิตยสาร ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า “สินค้าและบริการตามตัวอย่างบัตรคาเป็นสินค้าและบริการที่ตอบสนองความ ต้องการทางด้านความบันเทิงของมนุษย์ในยามว่าง หรือเพ่ือการพักผ่อน และ ผ่อนคลายหลังจากการ ทางาน ซ่ึงมีทั้งด้านลบและด้านบวก นักเรียนควรจะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับวัยหรือตามคาแนะนาของ ผูป้ กครอง” • นักเรียนมวี ิธีการใช้สินคา้ และบรกิ ารประเภทนี้อยา่ งไร จึงจะเกดิ ประโยชน์และ

ไมเ่ กิดผลเสียตอ่ ตนเอง (ตัวอย่างคาตอบ ใช้หรือชมหลงั จากว่างจากการทางานชว่ ยพ่อแม่หรือหลังจากทา การบ้านและอ่านหนังสอื เสร็จ) 6. ครใู ห้นกั เรียนกลุ่มท่ี 3 ออกมาหยบิ บตั รคาบนกระดานที่มีความหมายตรงกบั สินค้าและบริการ ทางด้าน ความสวยงาม โดยให้ผูแ้ ทนกลมุ่ จานวน 3 คนยืนเรียงแถวถือบัตรคา ดังนี้ ตัวอย่างบตั รคา เส้ือผา้ สวยงาม เคร่ืองประดบั เคร่ืองสาอาง • นักเรยี นควรจะใช้สนิ คา้ ประเภทนีอ้ ยา่ งไร จงึ จะเกิดประโยชน์และไม่สรา้ ง ปญั หาใหแ้ กต่ นเองและครอบครัว (ตัวอยา่ งคาตอบ ใช้เฉพาะทจ่ี าเปน็ ตอ่ ตนเอง ไม่ควรสวมเครือ่ งประดบั หรือใชเ้ คร่ืองสาอางทไี่ มจ่ าเป็นตอ่ วัยของตนเอง) ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั สรปุ การเรยี นรู้ 7. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้การใชส้ นิ คา้ และบริการทเ่ี ปน็ ความต้องการของมนุษย์อย่างมี ประโยชนแ์ ละรคู้ ุณคา่ ตามความจาเปน็ ตอ่ การดารงชีวติ เป็นแผนภาพลงบนกระดาน ดังน้ี ตัวอยา่ งแผนภาพ ไม่ใชเ้ กินความจาเป็ นของตนเอง คานึงถึงรายไดข้ องครอบครัว ใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ตนเอง กำรใช้สินค้ำ ใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั วยั ของตนเอง ใชเ้ ทา่ ท่ีมีความจาเป็น และบริกำรตำมควำม ใชใ้ หเ้ กิดประโยชนท์ างการศึกษา ต้องกำรของมนุษย์ 8. ให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 4.1 เร่ือง สินคา้ และบริการในชีวติ ประจาวัน กิจกรรมบูรณาการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - การวาดรปู สินค้า และบริการ ส่ือการเรยี นรู้ 1. บตั รคา ปัจจยั 4 2. บัตรคา สนิ คา้ ทเ่ี ป็นความต้องการของมนษุ ย์

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ วธิ ีประเมนิ เครือ่ งมอื เกณฑ์ 1. อธบิ ายสนิ ค้าและการ ตรวจใบงานท่ี 4.1 เร่อื ง ใบงานที่ 4.1 เรือ่ ง นกั เรียนอธบิ ายสินคา้ บริการท่เี ป็นความตอ้ งการของมนุษย์ สินค้าและบริการใน สนิ ค้าและบริการใน และการบริการทีเ่ ปน็ ความตอ้ งการของ (K) ชวี ิตประจาวัน ชีวติ ประจาวนั มนษุ ย์ ผา่ นใบงาน รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป 2. จาแนกความต้องการ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ และความจาเปน็ ในการใช้สินคา้ และ บรกิ ารในการดารงชวี ติ (P) นกั เรียนจาแนกความ ตอ้ งการและความ 3. ตระหนกั และรคู้ ุณค่าใน แบบสงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม จาเป็นในการใช้ การใช้สนิ ค้าตามความต้องการที่ สนิ ค้าและบริการใน เหมาะสม (A) การดารงชีวติ ระดับ 3 ขอ้ ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ นักเรียนมีพฤติกรรม ระดับดขี นึ้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

ใบงานท่ี 4.1 วิชาสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ ส 3.1 ป.3/1 เรอื่ ง สินค้าและบริการในชวี ติ ประจาวัน ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ชอ่ื ........................................................................................ชน้ั .......................เลขท่ี......................... คาชีแ้ จง : ให้นักเรียนเขียนช่ือสินคา้ และบริการมาอย่างละ 15 ข้อ ลงใหช้ ่องว่างให้ถูกต้อง สนิ คา้ 15 ขอ้ บรกิ าร 15 ขอ้ 1. ……………………………… 1. ……………………………… 2. ……………………………... 2. ……………………………... 3. ……………………………... 3. ……………………………... 4. ……………………………... 4. ……………………………... 5. …………………………….. 5. …………………………….. 6. …………………………….. 6. …………………………….. 7. …………………………….. 7. …………………………….. 8. …………………………….. 8. …………………………….. 9. ……………………………... 9. ……………………………... 10. …………………………… 10. …………………………… 11. …………………………… 11. …………………………… 12. …………………………… 12. …………………………… 13. …………………………… 13. …………………………… 14. …………………………… 14. …………………………… 15. …………………………… 15. ……………………………

ใบงานที่ 4.1 วชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ ส 3.1 ป.3/1 เรอื่ ง สนิ คา้ และบรกิ ารในชวี ติ ประจาวนั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ชื่อ........................................................................................ช้ัน.......................เลขที่......................... คาชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นเขยี นช่ือสนิ คา้ และบริการมาอยา่ งละ 15 ข้อ ลงให้ช่องว่างให้ถูกตอ้ ง สนิ คา้ 15 ขอ้ บรกิ าร 15 ขอ้ 1. ……………………………… 1. ……………………………… 2. ……………………………... 2. ……………………………... 3. ……………………………... 3. ……………………………... 4. ……………………………... 4. ……………………………... 5. …………………………….. 5. …………………………….. 6. …………………………….. 6. …………………………….. 7. …………………………….. 7. …………………………….. 8. …………………………….. 8. …………………………….. 9. ……………………………... 9. ……………………………... 10. …………………………… 10. …………………………… 11. …………………………… 11. …………………………… 12. …………………………… 12. …………………………… 13. …………………………… 13. …………………………… 14. …………………………… 14. …………………………… 15. …………………………… 15. …………………………… คาตอบตามดุลยพนิ ิจของครู

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 2 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษาฯ วิชา สังคมศึกษาฯ เวลา 7 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง เศรษฐศาสตร์พืน้ ฐาน เวลา 1 ชัว่ โมง เร่ือง การวางแผนใช้จา่ ยเงนิ มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดารงชีวิตอย่างมี ดุลยภาพ ตัวชว้ี ดั ป.3/2 วิเคราะห์การใชจ้ ่ายของตนเอง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. วิเคราะหก์ ารใชจ้ า่ ยของตนเอง(K) 2. จาแนกโดยการทาบัญชีรายรับรายจ่ายในการวางแผนใช้จา่ ยเงิน (P) 3. ตระหนกั ในการวางแผนใช้จ่ายเงนิ ของตนเองอย่างเหมาะสม (A) สาระสาคญั การวางแผนใชจ้ ่ายเงนิ เป็นสิง่ ทีจ่ าเปน็ ต้องปฏิบัติ โดยคานึงถงึ รายได้ ควรใชจ้ า่ ยน้อยกว่ารายรบั และ ทาบนั ทึกการใช้จ่ายของตนเอง เพอ่ื ให้สามารถวเิ คราะหก์ ารใชจ้ ่ายของตนเองได้ สาระการเรียนรู้ การวางแผนการใช้จา่ ยเงินและการฝกึ ทาบญั ชรี ายรับ-รายจ่าย คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มงุ่ มน่ั ในการทางาน มจี ติ สาธารณะ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ความสามารถในการแก้ไขปญั หา การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครนู าสถานการณต์ วั อยา่ งมาเขยี นที่บนกระดานให้นกั เรียนอา่ นพร้อมกนั

พ่อได้รับเงินเดือน 20,000 บาท แบ่งเป็ นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ดังน้ี ค่าอาหาร 6,000 บาท ออมเงินกบั ธนาคาร 6,000 บาท ค่าใชจ้ ่ายในบา้ น 5,000 บาท ค่า ขนมบุตร 1,000 บาท ค่าใชจ้ ่ายยามเจบ็ ป่ วย 2,000 บาท ใหน้ ักเรียนร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกับสถานการณ์ทกี่ าหนดให้ โดยครใู ช้คาถาม ดังน้ี • พ่อมีรายได้เป็นเงินเดือนจานวนกีบ่ าท (20,000 บาท) • รายจ่ายในครอบครวั ท่ีพ่อต้องจ่ายมีอะไรบ้าง (ค่าอาหาร ค่าใชจ้ า่ ยในบ้าน ค่าขนมบุตร คา่ ใชจ้ ่ายยามเจ็บปว่ ย) • พ่อมเี งินออมหรือไม่ อยา่ งไร (มีเงนิ ออมท่ีฝากไวใ้ นธนาคารเดอื นละ 6,000 บาท) • นกั เรียนคิดวา่ ถ้าครอบครัวไมม่ ีเงินเหลอื เกบ็ จะเกิดผลเสยี อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ จะไม่มเี งนิ เหลอื ไวใ้ ชใ้ นยามจาเปน็ ) • ทุกวนั นี้ นกั เรยี นมรี ายรับจากใคร (จากผ้ปู กครอง) • ในเมอ่ื นักเรยี นยังไม่สามารถหารายได้เองได้ นักเรยี นจะใชจ้ ่ายเงนิ อยา่ งไร (ใช้จา่ ย อยา่ งประหยัด ร้จู ักการเกบ็ ออม) ขั้นท่ี 2 ขัน้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 2. ครเู ลอื กผู้แทนนักเรยี นออกมาเลา่ ประสบการณเ์ กย่ี วกับการใช้จา่ ยของตนเองภายใน 1วัน โดยครใู ช้คาถาม ดังน้ี • นกั เรียนได้รบั เงินมาโรงเรียนวันละกีบ่ าท (ตัวอยา่ งคาตอบ 50 บาท) • นกั เรยี นนาเงนิ ไปซื้อส่ิงใดบ้าง (ตวั อยา่ งคาตอบ อาหาร ขนม น้าดม่ื ) • นกั เรยี นมเี งินเหลือหรือไม่ จานวนกี่บาท (ตัวอย่างคาตอบ เหลือเงินจานวน 15 บาท) 3. ให้น•ักถเร้ายี มนีเงสินาเรหวลจือรนายักรเรบั ีย-รนาจยะจท่าายอขยอา่ งงตไนรเ(อตงัวภอายยา่ในงค1าตวอนั บบนั นทากึไปลหงใยนอตดากรรางะแปลกุ ะอตออมบสคินา)ถาม สารวจรายรบั -รายจา่ ยของนกั เรยี น ประจาวัน_______________ท_ี่ ________เดือน_________________พ.ศ.___________ ลาดับท่ี รายการ รายรบั (บาท) รายจ่าย คงเหลอื (บาท) (บาท) 1 2 3 4 รวม จากนั้นครสู ารวจรายรบั -รายจ่ายของนกั เรียนวา่ มีนักเรยี นท่ีรายจา่ ยน้อยกว่ารายรับกี่คน และรายจ่าย พอกับรายรบั กค่ี น และใหน้ กั เรยี นแต่ละคนออกมาบอกสาเหตขุ องการใชจ้ ่ายของตนเอง เพราะเหตุใดรายจ่าย

จึงน้อยกว่ารายรับและมีประโยชน์ต่อตนเองอย่างไร เพราะเหตุใดรายรับจึงพอกับรายจ่าย เสร็จแล้วให้ นกั เรียนตอบคาถาม ดังนี้ นกั เรียนเคยทาบัญชีรายรบั -รายจา่ ยหรอื ไม่ (เคย / ไมเ่ คย) • การวางแผนการใช้จ่ายเงนิ ของตนเองอยา่ งไร (ทาบัญชีบนั ทึกรายรับ-รายจ่าย) • การทาบญั ชีวางแผนการใช้จ่ายมีประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้าง • ครูสรุปคาตอบของนกั เรยี นเป็นแผนภาพลงบนกระดาน ทาใหม้ ีรายรับพอกบั รายจ่าย สามารถควบคุมการใชจ้ า่ ยได้ ประโยชน์ของ กำรวำงแผน กำรใช้จ่ำยเงนิ ทาใหม้ ีเงินเหลือเก็บออม 4.ให้นกั เรยี นทาใบงานที่ 4.2 เรื่อง การวางแผนการใชจ้ า่ ยของตนเอง (Coding) ข้นั ท่ี 3 ขน้ั สรปุ การเรยี นรู้ 5. ให้นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังนี้  การวางแผนการใช้จ่ายเงิน โดยการทาบัญชีรายรับ - รายจ่าย ทาให้สามารถวิเคราะห์ และรจู้ ักวางแผนวิธกี ารใช้จ่ายของตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม กิจกรรมบรู ณาการ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ - วทิ ยาการคานวณ Coding สอื่ การเรยี นรู้ 1. สถานการณ์ รายรับ-รายจา่ ยของครอบครัว 2. แบบสารวจ บญั ชีรายรบั -รายจา่ ย 3. ตวั อย่าง แบบฟอร์มการทาบญั ชรี ายจบั - รายจา่ ย

การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ วธิ ีประเมนิ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ จุดประสงค์ ตรวจใบงานที่ 4.2 เรือ่ ง การวางแผนการใช้ ใบงานท่ี 4.2 เร่ือง การ นกั เรยี นวเิ คราะห์การ 1. วิเคราะหก์ ารใชจ้ า่ ยของ จ่ายของตนเอง ตนเอง(K) (Coding) วางแผนการใชจ้ า่ ยของ ใช้จา่ ยของตนเอง แบบสังเกตพฤติกรรม 2. จาแนกโดยการทาบัญชี ตนเอง (Coding) ผา่ นใบงานรอ้ ยละ รายรบั รายจา่ ยในการวางแผนใช้ แบบสังเกตพฤติกรรม จา่ ยเงนิ (P) 60 ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น 3. ตระหนกั ในการวางแผน เกณฑ์ ใชจ้ ่ายเงนิ ของตนเองอย่างเหมาะสม (A) แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นจาแนกโดย การทาบัญชีรายรบั รายจ่ายในการ วางแผนใช้จ่ายเงนิ ระดับ 3 ข้อข้ึนไปถือ ว่าผา่ นเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นมพี ฤติกรรม ระดบั ดีขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

ใบงานที่ 4.2 วชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ ส 3.1 ป.3/2 เรอ่ื ง การวางแผนการใช้จ่ายของตนเอง (Coding) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชื่อ........................................................................................ช้นั .......................เลขท่ี......................... คาชี้แจง : ให้นักเรยี นการวางแผนการใชจ้ า่ ยของตนเอง (Coding)

ใบงานท่ี 4.2 วชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ ส 3.1 ป.3/2 เรอ่ื ง การวางแผนการใชจ้ ่ายของตนเอง (Coding) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 ช่ือ........................................................................................ชนั้ .......................เลขที่......................... คาช้แี จง : ให้นกั เรียนการวางแผนการใชจ้ ่ายของตนเอง (Coding) คาตอบตามดุลยพนิ ิจของครู

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาฯ วชิ า สงั คมศกึ ษาฯ เวลา 7 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 เรอ่ื ง เศรษฐศาสตรพ์ ืน้ ฐาน เวลา 2 ชว่ั โมง เรื่อง การบรหิ ารจัดการทรพั ยากร มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดารงชีวิตอย่างมี ดลุ ยภาพ ตวั ชี้วัด ป.3/3 อธบิ ายได้วา่ ทรัพยากรทีม่ ีอย่จู ากดั มีผลต่อการผลติ และบรโิ ภคสินคา้ และบริการ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายได้วา่ ทรัพยากรทมี่ ีอยูจ่ ากัดมีผลตอ่ การผลติ และบรโิ ภคสินคา้ และบรกิ าร (K) 2. จาแนกปญั หาทางเศรษฐกิจทเี่ กิดจากการใช้ทรัพยากร (P) 3. ตระหนกั ถงึ การใช้ทรัพยากรอยา่ งรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สงู สดุ (A) สาระสาคญั ทรัพยากรมปี รมิ าณจากดั การผลติ หรือใช้ทรัพยากรอยา่ งไม่จากดั ทาใหเ้ กิดปญั หาการ ขาดแคลนทรพั ยากร ส่งผลกระทบและเกดิ ปญั หาทางเศรษฐกิจ สาระการเรียนรู้ ปญั หาพ้นื ฐานทางเศรษฐกจิ กับความตอ้ งการทรัพยากรทไี่ ม่จากดั ของมนุษย์ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง ม่งุ ม่นั ในการทางาน มจี ิตสาธารณะ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ความสามารถในการแก้ไขปัญหา

การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั ท่ี 1 ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูให้นกั เรยี นช่วยกันระบุช่อื ทรพั ยากรท่ีมีอยู่อย่างจากัดท่มี คี วามจาเปน็ ตอ่ การดารงชีวติ ของ มนุษย์ ดังนี้ ตัวอยา่ ง ตน้ ไม้ แก๊สธรรมชาติ น้ามนั แร่ธาตุ สตั วป์ ่า หนิ อากาศ น้า จากนัน้ ครูใช้คาถามให้นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ดังนี้ • ทรพั ยากรทางธรรมชาติมีคุณคา่ ต่อการดารงชีวติ ของมนุษย์อยา่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ช่วยใหม้ นุษย์สามารถดารงชวี ติ อยไู่ ด)้ แร่ธาตุ หนิ ) • ทรพั ยากรธรรมชาติชนิดใดท่ีนามาใชแ้ ล้วหมดไป (แก๊สธรรมชาติ น้ามนั • นักเรยี นจะใช้ทรัพยากรอยา่ งไรให้เกดิ ประโยชนแ์ ละคุ้มคา่ มากทีส่ ดุ (ตวั อยา่ งคาตอบ ใชเ้ ทา่ ท่จี าเปน็ และเกดิ ประโยชนส์ ูงสุด) • มนุษย์นาทรัพยากรไปใช้ประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ นาไปใชใ้ น การดารงชีวติ ประจาวนั เพ่อื อปุ โภคและบริโภค) ขั้นท่ี 2 ข้ันกิจกรรมการเรยี นรู้ 2. ให้นักเรียนศกึ ษาความหมายของผู้ผลติ และผบู้ ริโภค โดยครูเขยี นเป็นแผนภาพผ้ผู ลิตและผบู้ รโิ ภค โดยเว้นชอ่ งวา่ ง ให้นักเรยี นเติมขอ้ ความที่ตรงกับความหมายของผ้ผู ลิตและผบู้ ริโภค ดงั น้ี ตัวอยา่ งแผนภาพ ชาวนา ผลิต (ขา้ ว) ซ้ือสินคา้ ชาวสวน ผลิต (พืชผกั ผลไม)้ ผู้ บริโภค เจา้ ของฟาร์มเล้ียงสตั ว์ ผลิต (เน้ือสตั วต์ ่าง ๆ) ซ้ือบริการ เมอื่ นกั เรยี นเตมิ ข้อความทต่ี รงกบั ความหมาย ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดังนี้ แปรรปู จากทรัพ•ยนาักกเรรมยี านเเปข็น้าใตจัวคสวินามคหา้ แมลายะบขอริกงผาู้ผรเลพติ อ่ืวตา่ ออยบ่าสงนไรอง(ตตัวามอยค่าวงาคมาตต้อองบการผขู้ทอางกผาูบ้ รรผิโลภติ คห)รือ • ผูบ้ รโิ ภคมีความหมายวา่ อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ผู้ทีท่ าการซอ้ื สนิ คา้ มา ตอบสนองความต้องการของตนเอง 3. ครใู หน้ ักเรียนร่วมกนั ศึกษาความหมายของสินคา้ และบริการ จากน้ันครูกาหนดชือ่ สินคา้ และ บริการ โดยเขียนเปน็ บตั รคาใหน้ ักเรยี นอ่าน ดงั นี้

เส้ือผา้ ตดั เยบ็ เส้ือผา้ รถโดยสาร ปากกา ร้านเสริมสวย หนงั สือเรียน ร้านอาหาร ยารักษาโรค ท่องเที่ยว กรรไกร ร้านอินเทอร์เน็ต รองเทา้ กติกา 12 คน • เลน่ เกมจัดบตั รคาเปน็ แผนภาพ โดยให้นกั เรียนส่งผแู้ ทนออกมาหน้าชน้ั เรียน • ครูแจกบตั รคาให้นักเรยี นคนละ 1 แผ่น • ครแู บง่ กระดานออกเป็น 2 ช่อง คือ ชอ่ งที่ 1 สนิ คา้ และชอ่ งท่ี 2 บริการ • ใหน้ ักเรยี นศึกษาบตั รคาของตนเองตรงกบั ความหมายบนกระดานช่องใดให้นาไป ตดิ เป็นแผนภาพใหต้ รงกบั ช่องนั้น • กลมุ่ ใดเสรจ็ ก่อนและถกู ตอ้ งเป็นผ้ชู นะ ส่วนนกั เรียนทตี่ ิดผิดช่องของกลุม่ ตนเอง ครใู หแ้ สดงความสามารถทตี่ นเองมใี ห้เพ่ือนดู ชวั่ โมงที่ 2 4. ครนู าภาพทรพั ยากร เชน่ ตน้ ไม้ หนิ ทราย นา้ มนั มาให้นกั เรยี นดู จากนนั้ ครใู ช้คาถาม เพือ่ ใหน้ ักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ • ภาพที่นักเรยี นเห็นเรียกวา่ (ทรัพยากรธรรมชาต)ิ เกิดความสมดุล•) มคี วามสาคัญอย่างไร (เปน็ สิ่งทมี่ ีอยูค่ ู่กับโลกท่ีเราอาศยั ทาให้โลกสวยงาม • มนุษย์ใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรเหล่านอ้ี ยา่ งไร (นามาผลิตแปรรูปใชใ้ นการ ดารงชีวิต ทัง้ ผลติ ใช้เองและเป็นสนิ ค้าจาหน่าย) 5. ครูนาภาพมาจัดเรียงเป็นแผนภาพถึงกระบวนการการนาทรัพยากรมาใช้เพ่ือตอบสนองความ ต้องการของมนุษย์ โดยครูและนักเรียนร่วมกันจาแนกการนาทรัพยากรแต่ละประเภทนามาใช้ประโยชน์เพ่ือ การดารงชีวิตของมนษุ ย์ ดังน้ี

ตวั อย่างแผนภาพ สร้างบา้ น ตน้ ไม้ ผลิต ทาเฟอร์นิเจอร์ หิน ผลิต ทากระดาษ ก่อสร้างอาคารบา้ นเรือน ทราย ผลิต ก่อสร้างอาคารบา้ นเรือน ก่อสร้างถนน ผลิตเป็ นปูนซีเมนต์ ทาผลิตเป็นแกว้ กระจก ก่อสร้างถนน ผลิตเป็ นเช้ือเพลิง น้ามนั ผลิต ใชผ้ ลิตกระแสไฟฟ้า ใชใ้ นโรงงานอุตสาหกรรม จากนั้นให้นกั เรียนรว่ มกันศึกษาแผนภาพบนกระดาน โดยครูใช้คาถามเพ่ือให้นักเรยี น รว่ มกันแสดงความคิดเหน็ ดังนี้ •• ทรพั ยากรท่ีมีอยใู่ นปัจจบุ นั มีปรมิ าณเพ่ิมขนึ้ หรือลดลง (ลดลง) ปริมาณการใช้ เกดิ จากสาเหตุใดบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ การนามาใชอ้ ย่างไมจ่ ากดั เพม่ิ มากขึน้ ตามการเพม่ิ จานวนของมนุษย์ มนุษยไ์ ม่รจู้ ักคณุ ค่า ขาดการวางแผนการใช้ทรัพยากร) • การใชท้ รัพยากรมากเกินปริมาณส่งผลกระทบตอ่ โลกและมนษุ ย์อยา่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เกดิ ปัญหาภาวะโลกรอ้ น ทรัพยากรขาดแคลนทาใหเ้ กดิ ปัญหาทางด้านเศรษฐกจิ ตามมา เช่น ภาวะราคาสนิ ค้าสงู ขึน้ ) ใช้เทา่ ที่จาเป็น •ลนดักกเรายีรนนจาะทใรชพั ท้ ยราัพกยรามการใอชยใ้ ่าหง้นไร้อใยหล้เกงิดปนราะขโอยงชเนด์สิมงูทส่ีมุดอี (ยตู่มวั าอใยชา่ใ้ หงคเ้ กาิดตปอบระโยชนส์ ูงสุด) 6. ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกนั ระบุสาเหตุทที่ าให้เกดิ ปัญหาความขาดแคลนทรัพยากรมาคนละ 1 ขอ้ ตามความคดิ เห็นของตนเอง

ขั้นท่ี 3 ขน้ั สรุปการเรยี นรู้ 4. ให้นักเรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี  การผลิตสนิ คา้ และบริการ ผู้ผลติ และผู้บริโภค ควรนาทรัพยากรทม่ี อี ยู่อย่างจากดั มาใช้ให้ เกิดประโยชน์สูงสุดและคุม้ ค่า 5. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คาถามท้าทาย ดงั นี้ • นักเรียนมีแนวทางใชท้ รัพยากรให้เกดิ ประโยชน์ และคมุ้ ค่ามากทสี่ ดุ ไดอ้ ย่างไร 6. ทาชิ้นงานที่ 4.1 เร่ือง ประดษิ ฐ์ส่งิ ของจากสง่ิ เหลอื ใช้ กิจกรรมบูรณาการ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์/ศลิ ปะ/การงานอาชพี - จาแนกทรัพยากรท่ีมนุษยส์ ร้างข้ึนและธรรมชาตสิ ร้างขึ้น (วิทยาศาสตร์) - ประดษิ ฐส์ ่งิ ของจากสิ่งเหลือใช้ (ศลิ ปะ/การงานอาชีพ) สอ่ื การเรียนรู้ 1. บตั รคา ผ้ผู ลติ ผบู้ รโิ ภค สินคา้ และบรกิ าร 2. ภาพ ทรัพยากร การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ วธิ ปี ระเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์ ชิ้นงานที่ 4.1 เร่ือง จดุ ประสงค์ ตรวจช้นิ งานที่ 4.1 ประดิษฐ์สิง่ ของจากส่งิ นักเรยี นอธิบายได้ว่า 1. อธิบายไดว้ า่ ทรัพยากรที่ เรื่อง ประดิษฐส์ งิ่ ของ เหลือใช้ ทรพั ยากรทม่ี ีอยู่ มอี ยู่จากัดมีผลต่อการผลติ และ จากสงิ่ เหลอื ใช้ จากดั มีผลตอ่ การ บริโภคสนิ ค้าและบริการ (K) แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผลิตและบรโิ ภค สนิ ค้าและบริการ 2. จาแนกปัญหาทาง แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นใบงานรอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป ถือว่าผ่าน เศรษฐกิจท่ีเกิดจากการใช้ทรัพยากร เกณฑ์ (P) นักเรยี นจาแนก ปัญหาทางเศรษฐกิจ 3. ตระหนกั ถงึ การใช้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ทเี่ กิดจากการใช้ ทรัพยากรอยา่ งรู้คุณคา่ และเกิด ทรพั ยากร ระดบั 3 ประโยชน์สูงสดุ (A) ขอ้ ขึ้นไปถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ นักเรียนมพี ฤตกิ รรม ระดบั ดขี น้ึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษาฯ วิชา สงั คมศกึ ษาฯ เวลา 7 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง เศรษฐศาสตรพ์ น้ื ฐาน เวลา 1 ชวั่ โมง เร่อื ง เงนิ เสยี ภาษีของประชาชนทร่ี ฐั จดั ให้แก่ประชาชน มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 3.2 เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและ ความจาเป็นของการร่วมมอื กันทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก ตัวชว้ี ัด ป.3/1 บอกสนิ คา้ และบริการทรี่ ฐั จดั หาและให้บริการแก่ประชาชน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกสนิ ค้าและบริการทรี่ ัฐจดั หาและให้บรกิ ารแกป่ ระชาชน (K) 2. จาแนกการนาเงนิ ภาษีไปบรหิ ารพฒั นาประเทศในด้านต่าง ๆ ของรฐั บาล (P) 3. ตระหนกั ในความเป็นพลเมอื งท่ีดีของชาตโิ ดยการเสียภาษีตามกฎหมาย (A) สาระสาคัญ เงินเสยี ภาษีท่ีรฐั จัดเกบ็ จากประชาชน เป็นเงนิ ทรี่ ัฐนาไปพัฒนาบรหิ ารประเทศ และจัดสวสั ดิการตา่ ง ๆ ให้แกป่ ระชาชน สาระการเรียนรู้ 1. สินคา้ ทร่ี ัฐบาลจดั ให้แก่ประชาชน 2. บริการท่ีรฐั บาลจดั ใหแ้ ก่ประชาชน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสตั ยส์ ุจริต มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง มงุ่ ม่ันในการทางาน มีจติ สาธารณะ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ความสามารถในการแก้ไขปัญหา

การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสนทนา โดยครใู ช้คาถาม ดงั น้ี • การเสียภาษขี องผูป้ กครองนักเรยี นเปน็ การปฏบิ ัติตนอย่างไร (ตัวอย่างคาตอบ เป็นการทาหนา้ ที่พลเมืองท่ดี ีของชาติ โดยการเสียภาษตี ามกฎหมาย) • เงนิ ภาษขี องผปู้ กครองนักเรยี นมีประโยชน์ต่อประเทศชาติอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคาตอบ เป็นรายไดข้ องประเทศในการนาไปบริหารและพัฒนาประเทศ) ขน้ั ที่ 2 ข้นั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 2. ครนู าบัตรคาที่เกยี่ วกับสวัสดิการต่าง ๆ ทีร่ ัฐจัดให้แก่ประชาชนในรูปของสินคา้ และบรกิ าร ดงั นี้ ตัวอยา่ งบตั รคา ไฟฟ้า น้าประปา โทรศพั ทส์ าธารณะ ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล สินคา้ ราคาธงฟ้า สวนสาธารณะ จากนัน้ ให้นกั เรียนอา่ นบตั รคาพร้อมกัน 3. ครูแบ่งนกั เรยี นออกเป็น 2 กลุม่ ตามแถวทีน่ ั่ง จากนั้นให้กลมุ่ ที่ 1 ส่งผ้แู ทนกลุ่มจานวน 4 คน ออกมาเลือกบตั รคาท่ตี รงกับสวสั ดกิ ารท่ตี รงกับความหมายของ สนิ ค้า ท่ีรฐั บาลจดั ให้แกป่ ระชาชน จานวน 4 บัตรคา จากน้ันครตู รวจสอบความถูกต้อง จากนน้ั ครูให้นักเรยี นกลมุ่ ท่ี 1 ถือบตั รคายนื เรียงแถว ดังน้ี สินคา้ ราคาธงฟ้า โทรศพั ทส์ าธารณะ ไฟฟ้า น้าประปา ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ ว่า “สวัสดกิ ารที่รฐั จดั ขึน้ ในรูปของตัวสินค้าเพื่ออานวยความสะดวกให้แก่ ประชาชน โดยประชาชนเปน็ ผู้ซอื้ สนิ คา้ ท่ีรัฐจดั บริการให้ รายไดจ้ ากทป่ี ระชาชนซื้อสวัสดิการจากรฐั ก็จะกลบั เปน็ รายไดใ้ นการนามาพัฒนาประเทศอกี ครัง้ ” 4. ให้นักเรียนกลมุ่ ที่ 2 สง่ ผู้แทนจานวน 4 คน ออกมาเลือกบตั รคาท่ีมีความหมายตรงกบั สวสั ดิการท่ีเปน็ การบรกิ าร จากรฐั ดังนี้ ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล สวนสาธารณะ

จากน้นั ครใู ชค้ าถามใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เหน็ ดงั นี้ • การที่รฐั บาลจัดสวัสดิการในรูปแบบการบรกิ ารให้แกป่ ระชาชนมีประโยชน์ อยา่ งไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ เป็นการอานวยความสะดวกใหแ้ ก่ประชาชนทาให้ประชาชนมคี วามสุขใน การดาเนนิ ชวี ติ เกิดการพฒั นาประเทศในรปู แบบตา่ ง ๆ) • สรปุ แล้วเงนิ ภาษที ่รี ัฐจดั เกบ็ จากประชาชนทัง้ ทางตรงและทางอ้อมมีความสาคญั และเกิดประโยชน์ตอ่ ประเทศอยา่ งไรบ้าง • ครสู รุปคาตอบของนกั เรยี นเป็นแผนภาพ ใชเ้ ป็นเงินบริหารพฒั นาประเทศ เป็นรายไดห้ ลกั ของประเทศ ควำมสำคญั ใชเ้ ป็นเงินเดือนของขา้ ราชการ เป็ นงบประมาณของประเทศ และ ใชเ้ ป็นเงินสร้างสาธารณูปโภคแก่ ประโยชน์ของ ประชาชน เงนิ ภำษี ประเทศเกิดความมนั่ คงทางดา้ นเศรษฐกิจ ขน้ั ที่ 3 ขั้นสรุปการเรยี นรู้ 5. ใหน้ กั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังนี้  เงินภาษขี องประชาชนเป็นรายได้ทรี่ ฐั บาลนาไปบริหารจดั การพัฒนาประเทศเพ่ือความม่ันคง ของประเทศและเกิดความสงบสุขแก่ประชาชน 6. ให้นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดังน้ี • การเสียภาษตี ามกฎหมายมีความสาคญั ตอ่ ประเทศชาตอิ ย่างไร 7. ให้นกั เรียนทาใบงานท่ี 4.3 เร่ือง เงนิ เสียภาษีของประชาชนท่รี ฐั จัดให้แกป่ ระชาชน ส่อื การเรยี นรู้ 1. บัตรคา ผูผ้ ลิต ผบู้ รโิ ภค สนิ ค้าและบริการ 2. ภาพ ทรพั ยากร

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ วธิ ีประเมนิ เคร่อื งมอื เกณฑ์ จุดประสงค์ ตรวจใบงานท่ี 4.3 ใบงานที่ 4.3 เรื่อง เงนิ นกั เรียนอธบิ ายเงนิ 1. อธบิ ายเงนิ ภาษขี อง เรอื่ ง เงนิ เสียภาษขี อง ประชาชนทีร่ ัฐบาลนาไปบริหาร ประชาชนทร่ี ฐั จัดให้แก่ เสียภาษขี องประชาชนท่ี ภาษขี องประชาชนท่ี พัฒนาประเทศ (K) ประชาชน รฐั จดั ให้แกป่ ระชาชน รฐั บาลนาไปบริหาร พัฒนาประเทศ ผ่าน ใบงานรอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป ถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ 2. จาแนกการนาเงนิ ภาษีไป แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนจาแนกการ บริหารพัฒนาประเทศในดา้ นต่าง ๆ ของรฐั บาล (P) นาเงนิ ภาษีไปบรหิ าร พฒั นาประเทศใน ดา้ นต่าง ๆ ของ รฐั บาลระดบั 3 ข้อ ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน เกณฑ์ 3. ตระหนักในความเปน็ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนมีพฤตกิ รรม พลเมืองทด่ี ขี องชาตโิ ดยการเสยี ภาษี ตามกฎหมาย (A) ระดบั ดขี ึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

ใบงานท่ี 4.3 วชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ ส 3.2 ป.3/1 เรื่อง เงนิ เสียภาษีของประชาชนทีร่ ัฐจัดให้แก่ประชาชน ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 ชื่อ........................................................................................ชั้น.......................เลขท่ี......................... คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนระบายสใี นชอ่ งทเ่ี ปน็ สนิ คา้ และบรกิ ารของรฐั จดั ให้แกป่ ระชาชน โรงพยาบาล หา้ งสรรพสนิ คา้ ไฟฟา้ โทรทศั น์ โรงเรยี น ประปา โทรศพั ท์ สถานตี ารวจ

ใบงานท่ี 4.3 วชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ ส 3.2 ป.3/1 เรื่อง เงนิ เสียภาษีของประชาชนทีร่ ัฐจัดให้แก่ประชาชน ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 ชื่อ........................................................................................ชั้น.......................เลขท่ี......................... คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนระบายสใี นชอ่ งทเ่ี ปน็ สนิ คา้ และบรกิ ารของรฐั จดั ให้แกป่ ระชาชน โรงพยาบาล หา้ งสรรพสนิ คา้ ไฟฟา้ โทรทศั น์ โรงเรยี น ประปา โทรศพั ท์ สถานตี ารวจ

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาฯ วชิ า สงั คมศกึ ษาฯ เวลา 7 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรือ่ ง เศรษฐศาสตร์พืน้ ฐาน เวลา 1 ชัว่ โมง เร่อื ง ภาษที เี่ ก่ียวข้องกับชีวติ ประจาวัน มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 3.2 เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและ ความจาเปน็ ของการร่วมมอื กนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ตวั ช้วี ดั ป.3/2 บอกความสาคญั ของภาษี และบทบาทของประชาชนในการเสียภาษี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความสาคัญของภาษี และบทบาทของประชาชนในการเสยี ภาษี (K) 2. จาแนกประเภทของภาษีท่ีรัฐเก็บจากประชาชน (P) 3. เห็นประโยชน์และความสาคญั ของการเสยี ภาษีใหแ้ กร่ ัฐ (A) สาระสาคญั ภาษีเป็นเงินทรี่ ัฐเก็บจากประชาชนผูม้ ีรายได้ เพ่ือนาไปพัฒนาประเทศในดา้ นต่าง ๆ มีภาษีทางตรง และภาษที างอ้อม สาระการเรียนรู้ 1. ภาษที างตรง 2. ภาษที างอ้อม คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอื่ สัตยส์ ุจริต มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุง่ มน่ั ในการทางาน สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ความสามารถในการคิด ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ความสามารถในการแกไ้ ขปญั หา

การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูนาภาพถนน โรงเรยี น โรงพยาบาล ใหน้ ักเรยี นดู จากนั้นใหน้ กั เรียนรว่ มกนั สนทนาโดยครใู ช้ คาถาม ดังน้ี • ภาพทน่ี กั เรียนเห็น เชน่ ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล มกี ารนาเงิน จากท่ีใดมาทาการก่อสรา้ ง (เงินงบประมาณของรัฐ โดยการเกบ็ ภาษีเงนิ ได้จากประชาชน) • ผู้ปกครองนักเรียนคนใดทเ่ี ป็นข้าราชการบา้ ง (ยกมอื ) • ผู้ปกครองมีรายได้อย่างไร ใครเป็นผู้จ้างและเงนิ เดือนที่ได้มาจากที่ใด (มรี ายได้จากเงินเดือน รัฐบาลเป็นผู้จา่ ยเงนิ เดือน โดยเงนิ ที่จ่ายมาจากการเสยี ภาษีของประชาชน) บรหิ ารและพฒั น• าสปรปุระแเลท้วศภ) าษี หมายถงึ (เงนิ ทผี่ ู้มีรายได้มหี นา้ ทีจ่ ะต้องจ่ายใหแ้ ก่รฐั บาลเพอ่ื ใชจ้ ่าย ขั้นท่ี 2 ข้ันกิจกรรมการเรยี นรู้ 2. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาประเภทของภาษี โดยครูเขียนเป็นแผนภาพบัตรคาบนกระดาน ดงั น้ี ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพม่ิ ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ภาษีสรรพสามิต ภาษีการประกนั สงั คม ภาษีศุลกากร ภำษีทำงตรง ภำษที ำงอ้อม จากนนั้ ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลมุ่ ใหท้ าเป็นรายงานนาเสนอความหมายและความสาคัญของ ภาษหี นา้ ชั้นเรยี น 3. ครใู หน้ กั เรียนกลมุ่ ท่ี 1 ออกนาเสนอ จบการนาเสนอกลุ่มที่ 1 ครใู ชค้ าถามให้นักเรียนแสดง ความคิดเห็น ดังน้ี ฐานรายไดข้ องบ•ุคนคกั ลเรแยี ลนะเนขติา้ ใิบจคุคควลาม)หมายภาษีทางตรงและทางอ้อมอย่างไร (เปน็ ภาษที ่ีเก็บจาก • คาว่า “บคุ คล” และ “นิตบิ ุคคล” ต่างกันอย่างไร (บคุ คล หมายถึง ผู้มรี ายไดจ้ าก การทางานทมี่ ีเงินเดือนประจาตามอัตราที่กฎหมายกาหนดใหเ้ สยี ภาษี นิติบคุ คล หมายถงึ หา้ ง ร้าน บริษทั ท่จี ดทะเบียนทาการค้าซ่งึ มีหน้าทตี่ อ้ งเสยี ภาษ)ี

4. ครใู ห้นักเรียนกลุม่ ที่ 2 ออกมานาเสนอผลงาน หลงั จากจบการนาเสนอ ครนู าใบแจง้ ค่าไฟฟ้า น้าประปา หรอื ใบรายการซ้ือสนิ คา้ ใหน้ ักเรียนดูพรอ้ มอธบิ ายให้นกั เรียนฟัง จากน้นั ครูใชค้ าถามเพ่ือให้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น ดังน้ี • นักเรียนเข้าใจความหมายภาษที างออ้ มวา่ อย่างไร (เปน็ ภาษที ี่เก็บจากการใชจ้ า่ ยหรือการ ซื้อขายโดยการหักเงนิ ณ ท่ีจ่าย) • ภาษที างอ้อมทีร่ ฐั จดั เก็บจากเรามีอะไรบ้างที่นกั เรียนรจู้ ัก (ตัวอย่างคาตอบ ภาษมี ูลค่าเพิ่มท่เี ก็บจากบิลคา่ ไฟฟา้ ประปา และการซ้ือขายสินคา้ ตามหา้ งสรรพสินค้า) • นอกจากภาษีมลู ค่าเพิ่มแล้วมีภาษที างอ้อมอะไรบ้าง (ภาษีสรรพสามติ ภาษี ศลุ กากร เป็นภาษที ่ีเก็บจากสนิ ค้าประเภทฟุม่ เฟือย และภาษจี ากสินค้านาเขา้ และส่งออกจากต่างประเทศ เปน็ ตน้ ) 5. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ประโยชน์ของการเสยี ภาษีเป็นแผนภาพ ดังน้ี รัฐบาลมีเงินบริหารพฒั นาประเทศ ทาใหป้ ระชาชนมีสวสั ดิการจากรัฐบาล ทาใหป้ ระเทศมีรายได้ ประโยชน์ของ เศรษฐกิจของประเทศมน่ั คง กำรเสียภำษี ข้นั ท่ี 3 ข้นั สรุปการเรียนรู้ 6. ให้นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี ภาษที ่ีรฐั เกบ็ จากประชาชน ได้แก่ ภาษีทางตรง และภาษีทางอ้อมเปน็ เงนิ ท่ีรัฐเก็บจาก ประชาชนผูม้ รี ายได้เพอ่ื นาไปพฒั นาประเทศในทางด้านต่าง ๆ มีท้งั ทางตรงและทางอ้อม 7. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คาถามท้าทาย ดังน้ี การเสยี ภาษีมีปร•ะโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไร ส่อื การเรยี นรู้ 1. บตั รคาภาษีทางตรงและภาษที างออ้ ม 2. ภาพถนน โรงเรียน โรงพยาบาล 3. ใบแจ้งคา่ ไฟฟ้า นา้ ประปา ใบรายการซ้ือสนิ คา้

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ วธิ ปี ระเมนิ เครื่องมือ เกณฑ์ จุดประสงค์ ตรวจ ตอบคาถาม 8 ขอ้ ตอบคาถาม 8 ข้อ นักเรยี นบอก 1. บอกความสาคัญของ ความสาคญั ของภาษี ภาษี และบทบาทของประชาชนใน (ลงสมุด) (ลงสมดุ ) และบทบาทของ การเสยี ภาษี (K) ประชาชนในการเสีย ภาษผี ่านใบงานรอ้ ย 2. จาแนกประเภทของภาษี แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม ละ 60 ขึน้ ไป ถือวา่ ทร่ี ัฐเก็บจากประชาชน (P) ผ่านเกณฑ์ 3. เหน็ ประโยชนแ์ ละ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นจาแนก ความสาคญั ของการเสยี ภาษีใหแ้ กร่ ฐั ประเภทของภาษที ร่ี ฐั (A) เก็บจากประชาชน ระดบั 3 ข้อข้นึ ไปถือ วา่ ผ่านเกณฑ์ นักเรยี นมีพฤตกิ รรม ระดบั ดขี ้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 6 ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาฯ วิชา สังคมศกึ ษาฯ เวลา 7 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรื่อง เศรษฐศาสตร์พน้ื ฐาน เวลา 1 ชัว่ โมง เรอื่ ง การแขง่ ขนั ทางการคา้ ท่มี ีผลทาให้ราคาสินค้าลดลง มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.2 เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและ ความจาเป็นของการร่วมมอื กันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก ตวั ช้วี ัด ป.3/3 อธบิ ายเหตุผลการแขง่ ขันทางการค้าทีม่ ีผลทาให้ราคาสนิ ค้าลดลง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายเหตผุ ลการแขง่ ขันทางการค้าทมี่ ีผลทาใหร้ าคาสินคา้ ลดลง (K) 2. บอกความสาคัญและผลกระทบของการแข่งขันทางการค้า (P) 3. สนใจศกึ ษาเรียนรรู้ าคาสนิ ค้าทต่ี นเองต้องใชจ้ ่ายในชวี ติ ประจาวนั (A) สาระสาคัญ การแขง่ ขันทางการค้า ทัง้ ดา้ นราคา คุณภาพและปรมิ าณทาใหร้ าคาสนิ ค้าลดลง สาระการเรยี นรู้ ความสาคญั และผลกระทบจากการแข่งขันทางการคา้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ ม่ันในการทางาน สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ความสามารถในการแก้ไขปัญหา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันที่ 1 ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูนาผลไม้ เชน่ ส้ม จากร้านคา้ 2 ร้านมาให้นักเรียนดเู ปรยี บเทียบกันทง้ั ทางด้านราคา คุณภาพ ปริมาณ เชน่ ตวั อยา่ ง ส้ม ส้มเปลือกบางไมส่ วย แตเ่ น้ือขา้ งในสมบรู ณ์มีนา้ มากและรสชาติดี ร้านท่ี 1

ส้ม ส้มเปลือกหนามันเงาสวยและเนอื้ ข้างในสมบูรณ์ แตล่ ูกเล็กกว่าร้านท่ี 1 เล็กนอ้ ย ร้านท่ี 2 โดยท่รี า้ นทง้ั 2 ขายในราคาเท่ากัน จากนนั้ ให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครู ใชค้ าถาม ดงั นี้ • ระหวา่ งส้มท้งั 2 ร้าน นกั เรยี นจะเลอื กซอื้ ร้านไหน (ตัวอย่างคาตอบ ร้านท่ี 1 / ร้านที่ 2) จากนั้นครูให้ผู้แทนนักเรียนท่ีตอบร้านท่ี 1 และตอบว่าร้านท่ี 2 ออกมาแสดงความคิดเห็นและให้ เหตผุ ล จบแล้วครอู ธิบายเหตุผลการตัดสนิ ใจเลือกซอ้ื สนิ คา้ ให้นกั เรียนฟังเพิ่มเตมิ ดงั น้ี “การเลือกซ้ือสินค้าควรพิจารณาดูคุณภาพของสินค้าก่อนและมาเปรยี บเทียบราคา อยา่ งสม้ ร้านท่ี 1 คุณภาพเน้ือส้มจะดีกวา่ ร้านที่ 2 ถ้าราคาเท่ากัน ควรเลือกซื้อสินค้าท่ีมีคุณภาพมากกวา่ ความสวยงาม ร้านท่ี 2 ส้มเปลอื กสวยแต่เปลือกหนา ปรมิ าณเนือ้ ส้มจะน้อยกวา่ ร้านท่ี 1 ดังนน้ั ควรพิจารณาเลือกซื้อรา้ นที่ 1” ขั้นท่ี 2 ขน้ั จัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2. ครแู บง่ นกั เรียนออกเปน็ 2 กลุ่ม คอื กลุม่ ท่ี 1 กลุม่ ผู้ซ้ือสินคา้ ร่วมกนั คดิ สนิ ค้าทม่ี ีความจาเปน็ ต่อการดารงชวี ิต 3 ตวั อยา่ งสินคา้ โดยให้นักเรยี นนาเสนอตามหัวข้อทค่ี รูกาหนดให้ ดังนี้ 1 ชอ่ื สนิ ค้า 2 เหตุผลในการเลือกซอ้ื สินค้า 3 ประโยชนข์ องสนิ คา้ 4 ปัจจยั ทมี่ ีผลต่อการตดั สินใจซื้อสินค้า กลุ่มท่ี 2 กลุม่ ผู้ขายสินคา้ ร่วมกนั คดิ สินค้าที่ควรจะนามาทาการคา้ ขายมา 1 ตวั อย่าง โดย ใหน้ กั เรยี นทาเปน็ รายงานนาเสนอตามหัวข้อทีค่ รูกาหนด 1 ช่ือสินคา้ 2 เหตุผลในการขายสินค้าชนดิ น้ี 3 ประโยชนข์ องสนิ ค้า 4 ปัจจยั ทม่ี อี ทิ ธิพลตอ่ การขายสนิ ค้า จากนัน้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มออกนาเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น 3. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปปจั จยั ท่ีทาใหก้ ารแข่งขันทางการค้ามีผลทาใหร้ าคาสนิ คา้ ลดลง โดยครู ใช้คาถาม ดังน้ี • การซอื้ สนิ คา้ ต้องคานงึ ถึงปัจจัยใดในการพจิ ารณาสินค้า (ตวั อย่างคาตอบ ซ้ือ สนิ ค้าทต่ี รงกบั ความต้องการ มคี ณุ ภาพ และสนิ คา้ บางชนดิ ควรซ้ือตามฤดูกาลเพราะจะมจี านวนมากและ ราคาถกู เช่น ผลไม้ ) • การคา้ ขายสินค้าต้องคานงึ ถึงปจั จยั ใดบ้างในการทาการคา้ (ตัวอยา่ งคาตอบ ความต้องการของผบู้ ริโภค มคี ุณภาพดี และมผี ู้จาหนา่ ยไม่มากและจาหน่ายในราคาทีเ่ ป็นธรรม) • การแข่งขันทางการค้ามีความสาคญั และเกิดผลกระทบต่อระบบผู้บริโภคและผทู้ าการค้าอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ทาให้เกดิ การผลติ สินคา้ ออกส่ตู ลาดเพิ่มมากขึ้น มีผลดตี ่อผู้บรโิ ภคเพราะสามารถเลือก ซื้อสนิ ค้าได้หลากหลาย ราคาสินคา้ ถูกลง แต่ผู้ทท่ี าการคา้ ตอ้ งมกี ารแข่งขนั กนั สูงท้ังปรมิ าณ คณุ ภาพและ ราคา)

ขนั้ ที่ 3 ขนั้ สรุปการเรยี นรู้ 4. ใหน้ ักเรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้  สนิ ค้าท่มี ีการแขง่ ขันทางดา้ นราคา คณุ ภาพและปรมิ าณ ทาให้สินคา้ มรี าคาลดลง สง่ ผลดี ต่อผบู้ รโิ ภคท่สี ามารถเลือกซ้ือสินค้าตามราคาและคณุ ภาพท่ีตนเองต้องการ 5. ให้นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คาถามท้าทาย ดงั น้ี • นักเรยี นมวี ธิ กี ารเลือกซื้อสินคา้ อย่างไรจึงจะไมถ่ ูกเอาเปรยี บจากผู้ทาการค้า 6. ให้นักเรยี นทาใบงานท่ี 4.4 เรือ่ ง การแขง่ ขันทางการค้า สือ่ การเรียนรู้ วธิ ปี ระเมิน เคร่ืองมือ เกณฑ์ 1. ตัวอยา่ งสินคา้ ตรวจใบงานที่ 4.4 ใบงานท่ี 4.4 เรอ่ื ง การ นกั เรยี นอธิบาย การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การแขง่ ขันทาง การค้า แข่งขนั ทางการคา้ เหตผุ ลการแขง่ ขนั จุดประสงค์ 1. อธิบายเหตุผลการ ทางการคา้ ที่มผี ลทา แข่งขนั ทางการค้าที่มผี ลทาให้ราคา สินค้าลดลง (K) ใหร้ าคาสินคา้ ลดลง ผา่ นใบงานร้อยละ 60 ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ น เกณฑ์ 2. บอกความสาคัญและ แบบสังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นบอก ผลกระทบของการแข่งขันทางการค้า (P) ความสาคญั และ 3. สนใจศึกษาเรียนรู้ราคา แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผลกระทบของการ สินค้าทตี่ นเองต้องใชจ้ ่ายใน ชวี ิตประจาวนั (A) แขง่ ขนั ทางการค้า ระดบั 3 ขอ้ ขนึ้ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นมพี ฤติกรรม ระดับดขี ึ้นไป ถือว่า ผา่ นเกณฑ์

ใบงานที่ 4.4 วชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ ส 3.2 ป.3/3 เรื่อง การแข่งขนั ทางการค้า ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ช่อื ........................................................................................ชน้ั .......................เลขท่ี......................... คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นเครอ่ื งหมายถกู √ ลงใน ขอ้ ความทถี่ ูกต้องเกยี่ วกบั เหตุผลการแข่งขนั ทาง การค้าที่มผี ลทาใหร้ าคาสินค้าลดลง 1. 2.ราคาเป็นส่ิงจูงใจให้ผู้ซ้ือตัดสนิ ใจ เลอื กซ้อื สินค้า 1.สินค้าที่มีคณุ ภาพส่วนใหญ่จะ ราคาแพง 3.ผลไม้นอกฤดูกาลจะมรี าคาแพง กว่าผลไมใ้ นฤดูกาล 4.การผลิตสินคา้ ทีม่ ีคุณภาพต่าจะ 5.สนิ ค้าท่มี ีคณุ ภาพและปรมิ าณ ทาให้ขายสินค้าได้มากขน้ึ เท่ากัน ผซู้ ือ้ จะเลอื กซือ้ ชนดิ ทร่ี าคา แพงกวา่

ใบงานที่ 4.4 วชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ ส 3.2 ป.3/3 เรื่อง การแข่งขนั ทางการค้า ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ช่อื ........................................................................................ชน้ั .......................เลขท่ี......................... คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นเขยี นเครอ่ื งหมายถกู √ ลงใน ขอ้ ความทถี่ ูกต้องเกยี่ วกบั เหตุผลการแข่งขนั ทาง การค้าที่มผี ลทาใหร้ าคาสินค้าลดลง 1. 2.ราคาเป็นส่ิงจูงใจให้ผู้ซ้ือตัดสนิ ใจ เลอื กซ้อื สินค้า 1.สินค้าที่มีคณุ ภาพส่วนใหญ่จะ ราคาแพง 3.ผลไม้นอกฤดูกาลจะมรี าคาแพง กว่าผลไมใ้ นฤดูกาล 4.การผลิตสินคา้ ทีม่ ีคุณภาพต่าจะ 5.สนิ ค้าท่มี ีคณุ ภาพและปรมิ าณ ทาให้ขายสินค้าได้มากขน้ึ เท่ากัน ผซู้ ือ้ จะเลอื กซือ้ ชนดิ ทร่ี าคา แพงกวา่

บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ สรุปผลหลังการจดั การเรียนรู้ 1.นกั เรยี นจานวน ............. คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ................ ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ........-.........คนคิดเปน็ รอ้ ยละ................... 2. แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................... ................................................................................................... ......................................................... 3.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ไมผ่ ่าน............คน ผ่าน............คน ดี...............คน ดีเยีย่ ม..............คน ระดับดีขึน้ ไป ร้อยละ..................... 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ไม่ผ่าน...........คน ผ่าน............คน ดี...............คน ดีเยี่ยม.............คน ระดับดขี ้ึนไป ร้อยละ..................... 5.นักเรียนเกดิ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ใดบ้าง ทาเครอ่ื งหมาย  ในชอ่ งวา่ งท่ีตรงกบั ทักษะทีเ่ กดิ 3R  อ่านออก  เขียนได้  มที กั ษะในการคานวณ 8C  การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปัญหา  การสรา้ งสรรค์  ความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์  การสือ่ สาร  ดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา  ทักษะการเปลีย่ นแปลง  การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร  ทกั ษะอาชีพ และทักษะการ เรยี นรู้ 6.บรู ณาการกลุม่ สาระการเรียนรู้ ............................................................................................................. ผลการจดั การเรียนการสอน/ปัญหา/ อุปสรรค และแนวทางแก้ไข  แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง สนิ คา้ และบรกิ ารในชวี ิตประจาวัน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ............................................................................................................................. .............................................. .................................................................................... ....................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………  แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง การวางแผนใชจ้ ่ายเงิน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ............................................................................................................................. .............................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… .......................................................................................................................................... .................................

 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง การบริหารจดั การทรัพยากร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ............................................................................................................................. .............................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..  แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง ภาษที ี่เกี่ยวข้องกบั ชวี ิตประจาวนั ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… .......................................................................................................................................................... ................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ............................................................................................................................. ..............................................  แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 เร่อื ง ภาษีของประชาชนทร่ี ฐั จัดให้แกป่ ระชาชน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ............................................................................................................................. ......................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ............................................................................................................................. ..............................................  แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 เร่อื ง การแข่งขันทางการค้าที่มีผลทาให้ราคาสินค้าลดลง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ............................................................................................................................. .............................................. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ....................................................................................................................................................... .................... ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ)์ ตาแหนง่ ครู ความคิดเห็นหวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู/้ ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. ..................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………………… (นางสาวจีรวรรณ ปฏวิ งศ์ ) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ...................../......................./................

ความเห็นของหัวหน้าสถานศกึ ษา ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ลงชอ่ื …………………………………………………… (นางสาวกันยาภัทร ภทั รโสตถิ) ผ้อู านวยการโรงเรยี นวัดพืชนิมติ (คาสวัสด์ิราษฎร์บารงุ ) ...................../......................./...................

โรงเรียนวดั พืชนิมิต (คาสวัสดิร์ าษฎรบ์ ารงุ ) แบบประเมินหน่วยการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 4 เร่อื ง เศรษฐศาสตร์พ้นื ฐาน เวลาท่ใี ช้ 7 ชว่ั โมง รหัสวชิ า ส 13101 รายวิชา สังคมศกึ ษา ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 ครูผูส้ อน นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน มคี วามสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสุดที่สุด 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถึง น้อยทสี่ ดุ ขอ้ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ที่ 54321 1 ช่อื หน่วยการเรียนร้นู ่าสนใจ กะทัดรดั ชดั เจน ครอบคลุมเนอื้ หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์มคี วามเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วัด/ผล การเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพันธก์ นั ระหวา่ งช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด / ผลการเรยี นรูส้ าระสาคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรยี นรู้และกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้และสาระการ เรยี นรู้ 7 กจิ กรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพัฒนาผเู้ รยี นให้มคี วามรทู้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรียนร้มู คี วามเหมาะสมสามารถนาผเู้ รียนไปสูก่ ารสร้างชน้ิ งาน/ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจริงและสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชีว้ ัด/กิจกรรม การเรียนรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑก์ ารประเมินสามารถสะท้อนคณุ ภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการเรยี นรู้/ ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ 11 ส่อื การเรียนรูใ้ นแต่ละกิจกรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนาไปประยุกตใ์ ช้ไดจ้ รงิ 12 กาหนดเวลาได้เหมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนาไปปฏิบัตจิ รงิ ได้ ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................... ............................................................................................ ...................................................... ................ ลงชอื่ .................................................................. (.................................................................) ผู้ประเมิน

โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คาสวสั ด์ริ าษฎร์บารงุ ) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 4 เร่อื ง เศรษฐศาสตร์พ้นื ฐาน เวลาท่ใี ช้ 7 ชว่ั โมง รหัสวชิ า ส 13101 รายวิชา สังคมศกึ ษา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 ครูผูส้ อน นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน มคี วามสอดคล้อง/เช่ือมโยง/เหมาะสม 5 หมายถงึ มากสุดที่สุด 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถงึ น้อย 1 หมายถงึ นอ้ ยที่สุด ขอ้ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ที่ 54321 1 ช่อื หน่วยการเรียนร้นู ่าสนใจ กะทัดรดั ชดั เจน ครอบคลุมเนอ้ื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นร/ู้ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์มคี วามเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอดกบั มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วัด/ผล การเรียนรู้ 4 ความสอดคล้องของสาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพันธก์ นั ระหวา่ งชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด / ผลการเรยี นรูส้ าระสาคัญ/ความคดิ รวบยอดสาระการเรียนร้แู ละกิจกรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการ เรยี นรู้ 7 กจิ กรรมการเรียนรมู้ ีความครอบคลุมในการพฒั นาผเู้ รียนใหม้ คี วามร้ทู ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 กิจกรรมการเรียนร้มู คี วามเหมาะสมสามารถนาผเู้ รยี นไปสูก่ ารสร้างชนิ้ งาน/ภาระงาน 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจริงและสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้วี ัด/กิจกรรม การเรียนรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑก์ ารประเมินสามารถสะท้อนคณุ ภาพผูเ้ รียนตามมาตรฐานการเรยี นรู้/ ตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ 11 ส่อื การเรียนรูใ้ นแต่ละกิจกรรม มคี วามเหมาะสมกับเวลาและการนาไปประยุกต์ใช้ไดจ้ ริง 12 กาหนดเวลาได้เหมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนาไปปฏิบตั ิจริงได้ ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ..................................... .................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................................. (.................................................................) ผู้ประเมิน