Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 201904_somdedprachaoyuhua

201904_somdedprachaoyuhua

Description: 201904_somdedprachaoyuhua

Search

Read the Text Version

8 สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู พระผเู้ ป็นแสงสวา่ งกลางใจไทย

บทน�ำ ฝ่ายวชิ าการ สถาพรบุ๊คส์ : เรียบเรียง 9





การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มหติ ลาธเิ บศรรามาธบิ ดี จกั รนี ฤบดนิ ทร สยามมนิ ทราธริ าชบรมนาถบพติ รในหลวงรชั กาลท่ี๙ยงั ความ โศกเศร้ามาสู่ปวงชนชาวไทย ด่ังโลกทั้งใบดับมืด ดวงใจ ทกุ ดวงของพสกนิกรเหมือนถกู พราก แตใ่ นความอาลัยนัน้ เหลา่ ประชาราษฎร์ก็ยังอุ่นใจ มีขวญั และก�ำลังใจ เพราะยงั มี ผู้ซึ่งเปรียบเสมือนแสงทองส่องสว่างน�ำทางให้ประชาชน ชาวไทย น่ันคือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ในหลวงรชั กาลที่ ๑๐ ทรงปกปกั รกั ษา ประเทศไทยและชาวประชาให้ร่มเย็นและสงบสุข ดังพระ ราชด�ำรัสเมื่อคร้ังทรงปฏิญาณในพระราชพิธีถือน้�ำพระ พิพัฒน์สัตยา ท่ีมีข้ึนหลังพระราชพิธีเฉลิมพระนามาภิไธย สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร วนั ท่ี ๒๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ความวา่ “ขา้ พเจา้ ผเู้ ปน็ สยามมกฎุ ราชกมุ ารจะรกั ษาเกยี รตยิ ศ และอรยิ ศกั ดิ์ ซงึ่ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานไว้ ดว้ ยชวี ิต จะภกั ดีต่อชาติบา้ นเมอื ง จะซือ่ สตั ย์ต่อประชาชน จะปฏบิ ตั ภิ าระหนา้ ทที่ กุ อยา่ งโดยเตม็ กำ� ลงั สตปิ ญั ญาความ สามารถและโดยความเสียสละ เพ่ือความเจริญ ความสงบ สขุ และความม่ันคงไพบูลย์ของประเทศชาติไทย จนตราบ เท่าชวี ิตและร่างกายจะหาไม”่ 12 สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู พระผู้เปน็ แสงสว่างกลางใจไทย

หลังจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดช พระบรมชนกนาถ เสดจ็ สวรรคตในวนั ท่ี ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย วรางกูร ในขณะท่ียังทรงด�ำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอ รสาธิราช เจา้ ฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระ รัชทายาทท่ีพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งไว้แล้วตามกฎมณเฑียร บาล จะไดส้ ืบราชสมบัติ แตท่ รงขอผ่อนผัน ดว้ ยทรงเห็นว่ายงั ไม่ สมควรดำ� เนนิ การใดทแ่ี สดงถงึ การมพี ระมหากษตั รยิ พ์ ระองคใ์ หม่ ในระหวา่ งที่ประชาชนอย่ใู นภาวะทกุ ข์โศก ทรงขอเวลารว่ มทกุ ข์ และท�ำใจเช่นเดียวกับประชาชนจนกว่าการพระราชพิธีพระบรม ศพจะผ่านพ้นไประยะหน่ึง และมีพระราชด�ำริให้ พลเอกเปรม ตณิ สลู านนท์ ประธานองคมนตรี เปน็ ผสู้ ำ� เรจ็ ราชการแทนพระองค์ โดยตำ� แหน่งไปกอ่ น จนกระทั่งวันท่ี ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ สภา นิตบิ ัญญตั ิแห่งชาติ (สนช.) ได้รับรองตามมตคิ ณะรฐั มนตรี นำ� ความกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้า มหาวชิราลงกรณ สยามมกฎุ ราชกมุ าร ข้นึ ทรงราชยเ์ ปน็ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๑๐ ของประเทศไทย ตามหนงั สอื ดว่ นทส่ี ดุ ท่ี นร.๐๕๐๓/๔๔๕๔๙ ลงวนั ท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ความในหนังสือระบุวา่ ฝา่ ยวชิ าการ สถาพรบคุ๊ ส์ : เรียบเรยี ง 13

14 สมเดจ็ พระเจาอยหู ัวมหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู พระผูเปน แสงสวางกลางใจไทย

ฝา ยวชิ าการ สถาพรบุคส : เรยี บเรยี ง 15

ประกาศรัฐบาล เร่ือง แจ้งเร่ืองการสถาปนาแต่งต้ังพระรัชทายาท ไว้แล้วตามกฎมณเฑียรบาลด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ 16 สมเดจ็ พระเจา อยูห วั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร พระผเู ปนแสงสวางกลางใจไทย

“จากการทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช เสดจ็ สวรรคต วนั ท่ี ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ถือวา่ เปน็ กรณีท่ี ราชบลั ลงั กว์ า่ งลง และจำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารดำ� เนนิ การเกยี่ วกบั การสบื ราชสมบตั ติ อ่ ไปเพอื่ ใหเ้ ปน็ ไปตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั ร ไทย รัฐบาลได้ชะลอการด�ำเนินการเก่ียวกับขั้นตอนดังกล่าวไว้ เพอ่ื สนองพระราชดำ� รใิ นสมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร บดั น้ี การพระราชพธิ พี ระบรมศพไดล้ ว่ งเลยเวลาบำ� เพญ็ พระราชกุศลทักษิณานุปทาน จนเข้าเขตปัญญาสมวาร (ครบ ๕๐ วนั ) รัฐบาลจงึ นำ� ความกราบบงั คมทูลวา่ นับเปน็ กาลอันควร ด�ำเนินการต่อไปเพือ่ ใหเ้ ปน็ ไปตามราชประเพณแี ละรัฐธรรมนูญ โดยเมอื่ วนั พฤหสั บดที ่ี ๒๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ พระบาท สมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ไดท้ รงพระกรณุ าโปรด เกลา้ ฯ ใหต้ งั้ การพระราชพธิ สี ถาปนาเฉลมิ พระนามาภไิ ธย สมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ วชริ าลงกรณฯ เปน็ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ สยามมกฎุ ราชกุมาร ณ พระท่ีน่ังอนนั ตสมาคม พระราชวังดสุ ติ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟา้ วชริ าลงกรณ สยามมกฎุ ราชกมุ าร ไดต้ รสั ถวายสตั ยป์ ฏญิ าณสาบานในการพระราชพธิ ถี อื นำ้� พระพพิ ฒั นส์ ตั ยา ณ พระอโุ บสถ วดั พระศรรี ตั นศาสดารามแลว้ อน่ึง ต�ำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุมาร ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งต้ังนี้ เป็นต�ำแหน่ง เดียวกบั ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รชั กาลที่ ๕ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ สถาปนาสมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟ้ามหาวชิรุณหิศ เป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ฝา่ ยวชิ าการ สถาพรบุ๊คส์ : เรยี บเรียง 17

ราชกมุ าร พระองคแ์ รกของไทย เมือ่ พ.ศ. ๒๔๒๙ และสถาปนา สมเดจ็ พระเจ้าลูกยาเธอ เจา้ ฟา้ มหาวชริ าวุธ เปน็ สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์ที่สอง เม่ือ พ.ศ. ๒๔๓๗ ซ่งึ ตอ่ มาสมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าช เจา้ ฟ้ามหาวชิราวธุ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงรับราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี ๖ ตอ่ จากสมเดจ็ พระบรมชนกนาถ ตำ� แหนง่ พระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร จึงเป็นต�ำแหน่ง รชั ทายาท ตามกฎมณเฑยี รบาลดงั กล่าว และตามที่รัฐธรรมนูญ ระบุถงึ เมื่อพิจารณาตามประวัติศาสตร์ ข้อกฎหมาย ประกาศ พระบรมราชโองการสถาปนาและโบราณราชนิติประเพณีแล้ว คณะรัฐมนตรีจึงแจ้งมายังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติใน ฐานะประธานสภาเพ่ือทราบว่าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกฎุ ราชกุมาร เป็นพระรชั ทายาท ท่ีพระมหากษตั รยิ ไ์ ด้ทรงแต่งต้ังไวแ้ ล้ว ตามความในมาตรา ๒๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และ จะได้น�ำความข้ึนกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสา ธริ าช เจ้าฟ้ามหาวชริ าลงกรณ สยามมกุฎราชกมุ าร ขน้ึ ทรงราชย์ เปน็ สมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั รัชกาลที่ ๑๐ ของไทยสบื ไป” 18 สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร พระผเู้ ป็นแสงสวา่ งกลางใจไทย

ประกาศราชกิจจานุเบกษาเฉลิมพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 19 ฝา ยวิชาการ สถาพรบุค ส : เรยี บเรียง

จากนั้น วนั พฤหสั บดที ี่ ๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๑๙.๑๖ น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจา้ ฟา้ มหาวชริ าลงกรณ สยามมกฎุ ราชกมุ าร จงึ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ ผสู้ �ำเร็จราชการแทนพระองค์ นายพรเพชร วชิ ติ ชลชยั ประธานสภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทปี่ ระธาน รฐั สภา ประมขุ ฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายก รัฐมนตรี ประมขุ ฝา่ ยบริหาร และนายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธาน ศาลฎกี า ประมขุ ฝ่ายตลุ าการ เข้าเฝา้ ฯ ณ พระทีน่ งั่ อัมพรสถาน พระราชวังดสุ ติ โดยนายพรเพชร วิชติ ชลชยั ไดก้ ราบบังคมทลู อัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร องค์ รชั ทายาท เสด็จขน้ึ ครองราชยเ์ ปน็ พระมหากษัตรยิ ส์ บื ราชสนั ตติ วงศ์ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับ ชว่ั คราว) ๒๕๕๗ มาตรา ๒ วรรค ๒ ประกอบกบั รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ๒๕๕๐ มาตรา ๒๓ วรรค ๑ โดยในประกาศ สภานติ บิ ัญญตั แิ ห่งชาติ (สนช.) ความวา่ 20 สมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู พระผ้เู ปน็ แสงสว่างกลางใจไทย

“โดยทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มหติ ลาธเิ บศรรามาธิบดี จกั รนี ฤบดนิ ทร สยามินทราธิราช บรม นาถบพติ ร ผทู้ รงพระคณุ อนั ประเสรฐิ ไดเ้ สดจ็ สวรรคตแลว้ เมอื่ วนั พฤหสั บดีท่ี ๑๓ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๑๕ นาฬกา ๕๒ นาที รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบบั ชั่วคราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ มาตรา ๒ วรรค ๒ ประกอบกบั รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๓ วรรค ๑ ได้บัญญัติ เร่อื งการสืบราช สันตติวงศ์ว่า ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีท่ี พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียร บาลวา่ ด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ แล้ว ฝายวชิ าการ สถาพรบุคส : เรียบเรียง 21

ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธาน รัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบ และให้ประธานรัฐสภา อญั เชญิ องคพ์ ระรชั ทายาทขนึ้ ทรงราชยเ์ ปน็ พระมหากษตั รยิ ส์ บื ไป แล้วให้ประธานรัฐสภา ประกาศให้ประชาชนทราบ โดยทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มหิตลาธเิ บศรรามาธบิ ดี จกั รนี ฤบดินทร สยามินทราธริ าช บรม นาถบพิตร ได้ทรงแต่งตั้งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้า มหาวชริ าลงกรณ สยามมกฎุ ราชกมุ าร เปน็ พระรชั ทายาทไวต้ าม กฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ แลว้ เม่ือวันท่ี ๒๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาติ ทำ� หนา้ ทรี่ ฐั สภาตามรฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับช่ัวคราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้รับ ทราบกรณีสวรรคตดังกล่าวด้วยความโทมนัสย่ิง โดยเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๙ สภานิติบญั ญัติแห่งชาติได้มกี าร ประชุมเพื่อรับทราบการแต่งตั้งพระรัชทายาท และประธานสภา นิติบัญญัติแห่งชาติ ท�ำหน้าที่ประธานรัฐสภา ได้น�ำความกราบ บงั คมทูลอญั เชญิ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟา้ มหาวชริ าลง กรณ สยามมกฎุ ราชกมุ าร ขน้ึ ทรงราชยเ์ ปน็ พระมหากษตั รยิ ์ ตาม บทบญั ญตั ขิ องรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย (ฉบบั ชวั่ คราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ มาตรา ๒ วรรค ๒ ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจกั รไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๓ วรรค ๑ จึงขอประกาศ มาให้ทราบโดยทัว่ กันว่า สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช เจา้ ฟา้ มหา วชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ไดข้ ้นึ ทรงราชย์เปน็ พระมหา กษตั รยิ ์ ตั้งแต่วนั ท่ี ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เปน็ ตน้ ไป” 22 สมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั มหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร พระผ้เู ป็นแสงสว่างกลางใจไทย

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงตอบรับ ค�ากราบบังคมทูลเสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัช2ก3าล ท่ี ๑๐ ฝา ยวิชาการ สถาพรบคุ ส : เรียบเรียง

จากน้ันพระองค์มีพระราชด�ารัสตอบรับการขึ้นทรงราชย์ ความว่า 24 สมเด็จพระเจา อยหู ัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู พระผูเปนแสงสวางกลางใจไทย

“ตามที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปฏิบัติ หน้าที่ประธานรฐั สภา ไดก้ ลา่ วในนามของปวงชนชาวไทย เชญิ ขา้ พเจา้ ข้ึนครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ว่าเป็นไปตาม พระราชประสงคข์ องพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นไปตามบทบัญญัติ ของกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์กับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทยนน้ั ข้าพเจ้าขอตอบรับ เพื่อสนองพระราชปณธิ านและเพ่ือประโยชนข์ องประชาชน ชาวไทยท้งั ปวง” ท้ังนี้ ในทางนิตินัยถือว่าได้ข้ึนทรงราชย์เป็นพระมหา กษัตริย์ต้ังแต่วันท่ี ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้เป็นไป ตามโบราณราชประเพณีโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย และสอดคล้อง กับคตินิยมของนานาประเทศที่ราชอาณาจักรย่อมไม่ว่างเว้น ขาดตอนจากการมีพระมหากษัตริย์ โดยโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิม พระปรมาภิไธยว่า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ” ฝ่ายวิชาการ สถาพรบ๊คุ ส์ : เรียบเรยี ง 25



พระรำชประวตั ิ

การศกึ ษา ๒๔๙๙ โรงเรียนจติ รลดา ๒๕๐๙ โรงเรียนคิงสม ีด เมอื งซฟี อรด แควนซัสเซกส ประเทศอังกฤษ ๒๕๐๙ โรงเรยี นมิลลฟ ลด เมอื งสตรีต แควน ซอมเมอรเ ซต ประเทศองั กฤษ ๒๕๑๓ โรงเรียนคิงส นครซิดนีย ประเทศออสเตรเลีย ๒๕๑๕ วิทยาลัยการทหารที่ดนั ทรนู กรุงแคนเบอรรา ประเทศออสเตรเลยี ๒๕๒๐-๒๕๒๑ โรงเรียนเสนาธกิ ารทหารบก ๒๕๓๓ วิทยาลัยปองกนั ราชอาณาจกั รแหง สหราชอาณาจกั ร



“...วนั นค้ี รม้ึ ฟา ครม้ึ ฝนตงั้ แตเ ชา ฝนไมไ ดต กมานาน นาย แพทยผ ถู วายการประสตู เิ ขา ประจาํ ทส่ี กั ครกู ป็ ระสตู พิ ระราช กมุ าร เวลา ๑๗ นาฬก า กบั ๔๕ นาที ในนาทเี ดยี วกนั นน้ั เอง ฝนทแ่ี ลง มาตลอดฤดกู เ็ รม่ิ โปรยปรายละอองลงมา ดคู ลา ยๆ ฟา กร็ เู หน็ เปน ใจกบั การประสตู คิ รงั้ น้ี อารามดใี จสมประสงค ของดวงใจทุกๆ ดวง นายแพทยท่ีถวายการประสูติ ซ่ึง พรอมที่จะบอกแกท ่ีประชมุ ณ พระทน่ี ั่งอมั พรสถานวา พระ ราชโอรส หรอื พระราชธดิ า กลา วออกมาดว ยเสยี งอนั ตน่ื เตน กังวานวา ผูชาย แทนท่ีจะวา พระราชโอรส ฝนโปรยอยู ตลอดเวลา แตรสงั ขด รุ ยิ างคเ รม่ิ ประโคม ทหารบรรเลงเพลง สรรเสรญิ พระบารมี ปน ใหญท ้งั บกและเรอื ยงิ สะเทือนเลื่อน ล่ัน เสียงไชโยโหรองก็ดังอยูสน่ันหว่ันไหว สมใจประชาชน แลว... ดวงใจทกุ ดวงมีความสขุ ...”

สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ ในรชั กาลที่ ๙ และ สมเด็จพระเจ้าลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ วชริ าลงกรณ ฝายวิชาการ สถาพรบุคส : เรยี บเรียง 31

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อทรง พระเยาว์ จากค�าบอกเล่าของหม่อมราชวงศ์สุมนชาติ สวัสดิกุล ในหนังสือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กรมศลิ ปากรจดั พมิ พเ์ นอื่ งในพระราชพธิ สี ถาปนาสมเดจ็ พระบรม โอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร วัน ท่ี ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ถึงพระประสูติกาล ต้ังแต่น้ัน ประวัติศาสตร์หน้าใหม่กไ็ ด้เร่ิมต้นขึ้น

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ พร้อมด้วยพระเชษฐภคินี และพระขนิษฐภคนิ ี

สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ทรงพระราชสมภพเมอ่ื วันจันทรท์ ี่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ เวลา ๑๗ นาฬก า ๔๕ นาที ตรงกับวันจนั ทรคติกาลนยิ ม ณ วนั จนั ทร์ ขนึ้ ๖ คา�่ เดือน ๙ ปม ะโรง จัตวาศก อธกิ วาร จุลศักราช ๑๓๑๔ เวลาบ่าย ๕ โมง กบั ๔๕ นาที ณ พระทีน่ ่งั อมั พรสถาน พระราชวงั ดสุ ติ เปน็ พระราชโอรสพระองคเ์ ดยี วในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ มีพระเชษฐภคินีคือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และ พระขนิษฐภคินีสองพระองค์คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ วลยั ลกั ษณ์ อัครราชกมุ ารี 34 สมเด็จพระเจาอยหู วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู พระผูเปน แสงสวา งกลางใจไทย

เจา้ ฟา้ พระองคน์ อ้ ย

เชา้ วนั พระบรมราชสมภพไดเ้ กดิ เหตกุ ารณท์ เี่ ปน็ นมิ ติ หมาย อนั ดคี อื ทหี่ นา้ หอ้ งบรรทมของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรชั กาลที่ ๙ ณ พระทน่ี ง่ั อมั พรสถาน พระราชวงั ดสุ ติ มตี น้ รวงผงึ้ ซึ่งเปน็ พรรณไม้ท่พี ระบาทสมเดจ็ พระพุทธเจา้ หลวง รัชกาลท่ี ๕ โปรดเปน็ อนั มากและไดท้ รงปลกู ไวด้ ว้ ยพระหตั ถอ์ ยหู่ ลายตน้ ทกุ ตน้ ออกดอกบานสะพรั่งพร้อมกัน และมีละอองฝนโปรยปรายลงมา แสดงถึงศุภนิมิตที่จะมีพระประสูติกาลในวันนั้น จึงเป็นท่ีมาของ พรรณไม้ประจ�าพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิรา ลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู สมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๑๐

ทรงเล่นกับทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเชษฐภคนิ ี อยา่ งสนกุ สนาน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (ซ้าย) และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี (ขวา) เมื่อทรงพระเยาว์

เม่ือสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอประสูติได้ ๔ วัน พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ได้มพี ระราชหตั ถเลขา โปรดเกลา้ ฯ ให้สมเด็จพระสังฆราชเจา้ กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงขนานพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าพระองค์ใหญ่แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดลุ ยเดช ซงึ่ ปรากฏโดยพระนามวา่ “สมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ วชริ าลงกรณ บรมจกั รยาดศิ รสนั ตตวิ งศ เทเวศวรธา� รงสบุ รบิ าล อภคิ ณุ ปู ระการมหติ ลาดลุ เดช ภมู พิ ลนเรศวรางกลู กติ ตสิ ริ สิ มบรู ณ์ สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกมุ าร” ทรงอธบิ ายว่า เปน็ พระมงคล นามตามพระราชตระกูล คือได้เชิญพระนามฉายาในพระบาท สมเดจ็ พระปรเมนทรมหามงกฎุ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ซ่งึ ปรากฏ ในขณะทรงพระผนวชวา่ “วชริ ญาณะ” ผนวกกบั “อลงกรณ”์ จาก พระนาม “จุฬาลงกรณ์” ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา จฬุ าลงกรณ์ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว ฝายวิชาการ สถาพรบคุ ส : เรียบเรียง 39

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เม่ือคร้ัง ทรงพระเยาว์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เม่ือครั้งทรง พระเยาว์

พระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู‹ ครั้นเมื่อเจริญพระชนมายุได้ ๑ เดือน กับ ๑๘ วัน พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงพระกรณุ า โปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกอบพระราชพธิ สี มโภชเดอื นและขน้ึ พระอู่ วนั ที่ ๑๔ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๙๕ ณ พระทนี่ งั่ อมั พรสถาน พระราชวงั ดุสิต เวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ล อดลุ ยเดชและสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ในรชั กาลที่ ๙ เสดจ็ พระราชดา� เนิน ณ หอ้ งพระราชพธิ ี พระที่นัง่ อัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ทรงศีล โดย สมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์ ทรงเปน็ ประธาน พร้อมด้วยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ จบแลว้ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ฝายวชิ าการ สถาพรบคุ ส : เรยี บเรียง 41

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ และ สมเด็จพระศรี นครนิ ทราบรมราชชนนี

ต่อมาเวลา ๑๘.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ในรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดา� เนิน ณ ห้องพระราชพธิ ี พระท่ีนงั่ อัมพรสถาน พระราชวังดุสติ ทรงจดุ ธูปเทียนเครือ่ งนมัสการ ทรง ศลี แดพ่ ระสงฆส์ มณศักดิ์ ๑๐ รูป แลว้ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณประกอบพิธีน้�าสรงที่พระขัน สาคร พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงหลงั่ พระเต้าน้า� พระพทุ ธมนตล์ งในพระขนั สาคร จากนั้นพระมหาราช ครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ ลอยกรงกงุ้ ปลาทอง ปลาเงนิ มะพรา้ วทองและ มะพร้าวเงินลงในพระขันสาคร คร้ันถึงพระฤกษ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภมู ิพลอดุลยเดช ทรงหลง่ั น�า้ พระมหาสังขพ์ ระราชทานแดส่ มเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอ แล้วทรงจรดพระกรรไกรไทยขลิบพระเกศา ทรงหล่ังน�้าพระพทุ ธมนตเ์ ทพมนต์จากพระเต้าพระราชทาน ทรง เจิมพระราชทาน ทรงผูกด้วยพระขวัญ พระสงฆ์เจริญชัยมงคล คาถา พราหมณเ์ ปา่ สงั ข์ เจา้ พนกั งานภูษามาลาแกวง่ บณั เฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย แตรสังข์ และดุริยางค์ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงประเคน จตุปจจัยไทยธรรมแก่พระสงฆ์ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวาย อดเิ รก ถวายพระพรลา ฝายวชิ าการ สถาพรบุคส : เรยี บเรยี ง 43

ทรงฉายพระรูปพร้อมด้วยพระราชบิดา พระราชมารดา และพระ เชษฐภคินี



จากนน้ั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระมหาราชครพู ธิ ี ศรวี สิ ทุ ธคิ ณุ ถวายนา�้ เทพมนตท์ พี่ ระหตั ถส์ มเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ และแขวนพระอู่ปูลาดพระย่ีภู่ แล้ววางเครื่องมงคลราชพิธีลงใน พระอู่ รดนา้� สงั ขแ์ ละเจมิ พระอตู่ าม แลว้ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้เชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอบรรทมในพระอู่ พระมหา ราชครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ อา่ นเวทขบั มลู าคนี สวดคาถาสรรเสรญิ เปด ศวิ าลยั ไกรลาศ พระครพู ราหมณถ์ วายเหก่ ลอ่ ม เจา้ พนกั งานภษู า มาลาแกวง่ บณั เฑาะว์ ชาวพนกั งานประโคมฆอ้ งชยั แตรสงั ข์ และ ดุริยางค์ เสร็จแลว้ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ย เดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พราหมณ์เบิกแวน่ พระบรม วงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทเวียนเทียนสมโภชครบ รอบตามพระราชประเพณี สภาวัฒนธรรมแห่งชาติได้จัดขับไม้ มโหรขี บั กลอ่ มถวายพระพรในวาระนดี้ ว้ ย ในการนม้ี กี ารถา่ ยทอด เสยี งในพระราชพิธที างวทิ ยไุ ปทั่วประเทศ

ฝา่ ยวชิ าการ สถาพรบุ๊คส์ : เรยี บเรยี ง 47

48 สมเดจ็ พระเจาอยหู ัวมหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู พระผูเปน แสงสวางกลางใจไทย

จากซ้ายไปขวา - สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพย วรางกูร, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงฉายพระรูปพร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ และพระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช



การศกึ ษา สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ทรงไดร้ บั การศกึ ษาระดบั อนบุ าลศกึ ษา ณ โรงเรยี นจติ รลดา ตง้ั อยู่ ณ พระท่ีน่งั อุดร พระราชวังดสุ ติ เมือ่ เดอื นกันยายน พ.ศ. ๒๔๙๙ ขณะมพี ระชนมายุได้ ๔ พรรษา ทรงศกึ ษาจนถึงชั้นมัธยมศกึ ษา ปท่ี ๑ แล้วเสด็จพระราชด�าเนินไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ ระหวา่ งเดอื นมกราคมถึงเดอื นกนั ยายน พ.ศ. ๒๕๐๙ ทรงเขา้ รบั การศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาทโ่ี รงเรยี นคงิ สม์ ดี เมอื งซฟี อรด์ แควน้ ซสั เซกส์ ประเทศองั กฤษ (King's Mead School, Seaford, Sussex, England) และเดอื นกันยายนปเ ดียวกนั นัน้ ได้ เสด็จพระราชด�าเนินไปศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมิลล์ ฟลด์ เมอื งสตรีต แคว้นซอมเมอรเ์ ซต ประเทศอังกฤษ (Millfield fi School, Street, Somerset, England) จนถงึ เดอื นกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ หลงั จากนน้ั ไดท้ รงศกึ ษาระดบั เตรยี มทหารทโ่ี รงเรยี นคงิ ส์ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย (The King's School Cadet Corps, Sydney, Australia) 52 สมเด็จพระเจา อยูหวั มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู พระผูเปนแสงสวางกลางใจไทย

ทรงศึกษาในโรงเรียนจิตรลดาตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษา ปท ี่ ๑

ทรงเป็นตวั แทนถอื ปา้ ยโรงเรียนจติ รลดาในการเดนิ สวนสนาม



ลกู เสือสามญั สมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟ้าวชริ าลงกรณ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook