“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครง้ั ท่ี ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชนั้ ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ ผลการรกั ษาผู้ปว่ ยปวดหลังสว่ นลา่ งจากภาวะหมอนรองกระดกู ทับเสน้ ประสาท ระหวา่ งวิธดี ึงหลงั รว่ มกบั ประคบรอ้ นและการบรหิ ารหลงั ด้วยเทคนคิ แมคเคนซี่ กับวิธดี งึ หลังร่วมกับประคบร้อน นนั ทวนั ปิ่นมาศ E-mail: [email protected] บทคัดยอ่ ความสาคัญ: อาการปวดหลังส่วนล่าง (low back pain) เป็นกลุ่มอาการปวดเรื้อรังท่ีทาให้การเคลื่อนไหวของ ร่างกายผิดปกติ พบมากถึงร้อยละ 50-80 ของประชากรโลก ประเทศไทยพบร้อยละ 20.7 งานกายภาพบาบัด กลุ่มงานเวชกรรมฟื้นฟู โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลกพบผู้ป่วยมารักษาด้วยอาการปวดหลังบ่อย ผู้ป่วยต้องมาติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันทาให้สูญเสียค่าใช้จ่ายทั้งในการรักษาและค่าเดินทาง ซึ่งเป็นการสูญเสีย ทางตรงและยังสญู เสียทางออ้ ม วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบผลการรักษาผู้ป่ว ยปว ดหลังส่ว นล่างจากภาว ะหมอนรองกระดูก ทับเส้นประสาทระหว่างวิธีดึงหลังร่วมกับประคบร้อนและการบริหารหลังด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ี (กลุ่มท่ี 1) กับวธิ ีดงึ หลงั ร่วมกับประคบรอ้ น (กลมุ่ ท่ี 2) รูปแบบการศึกษา: ศึกษาในผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่างฯ ที่มารักษาท่ีงานกายภาพบาบัด โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ระหว่างเดือนมนี าคม ถงึ เดอื นตุลาคม พ.ศ. 2563 โดยแบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่มด้วยการจับสลาก กลุ่มละ 30 คน เปรยี บเทียบขอ้ มลู ระหวา่ งผ้ปู ่วยท้ังสองกล่มุ ดว้ ยการทดสอบ chi-square, chi-square for linear trend, Mann Whitney U และ Wilcoxon signed rank กาหนดระดบั นยั สาคัญทางสถติ ทิ ี่ 0.05 ผลการศึกษา: เพศ อายุ อาชีพ ระดบั การศึกษา อาการแสดง คะแนนความปวด และคะแนนภาวะทุพพลภาพ ก่อนรักษาของผู้ป่วยท้ังสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน คะแนนความปวดและคะแนนภาวะทุพพลภาพหลังการรักษาของ แตล่ ะกลุ่มต่ากว่าก่อนการรักษาอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ คะแนนความปวดและคะแนนภาวะทุพพลภาพหลังการ รักษาในกลุม่ ท่ี 1 ตา่ กวา่ กลุ่มท่ี 2 อยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถิติ คะแนนความปวดและคะแนนภาวะทุพพลภาพท่ีลดลง หลงั การรักษาของทั้งสองกล่มุ กแ็ ตกต่างกนั อย่างมนี ยั สาคญั ทางสถิติ แตค่ ะแนนความปวดและคะแนนภาวะทุพพล ภาพทล่ี ดลงหลงั การรกั ษาของกลมุ่ ที่ 1 ลดลงมากกวา่ กลมุ่ ท่ี 2 ข้อยุติและการนาไปใช้: สรุปได้ว่าวิธีดึงหลังร่วมกับประคบร้อนและการบริหารหลังด้วยเทคนิคแมคเคนซี่ลด อาการปวดหลังสว่ นล่างฯ ได้ดีกว่าวธิ ดี งึ หลังร่วมกับประคบรอ้ น คาสาคญั : อาการปวดหลังส่วนล่าง ภาวะหมอนรองกระดูกทบั เสน้ ประสาท การรกั ษาทางกายภาพบาบดั การบริหารหลงั ด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ี กลมุ่ งานเวชกรรมฟืน้ ฟู โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก 87
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครงั้ ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ ความเป็นมา: อาการปวดหลังส่วนล่าง (low back งานกายภาพบาบัด กลุ่มงานเวชกรรมฟื้นฟู pain) เป็นกลมุ่ อาการปวดเรื้อรังที่ทาให้การเคล่ือนไหว โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลกพบผู้ป่วยมารักษา ของร่างกายผิดปกติ พบมากถึงร้อยละ 50-80 ของ ด้วยอาการปวดหลังบ่อย เช่นเดียวกับการศึกษาท่ีพบ ประชากรโลกและเป็นอันดับที่ 2 ในทวีปยุโรป1-2 ถึงร้อยละ 60-80 มีอาการปวดหลังส่วนล่าง ซึ่งพบได้ ในประเทศกรีซพบ ร้อยละ 38 และประเทศไนจีเรีย บ่อยในประชากรทุกเพศ ทุกวัย และทุกอาชีพ พ บ ถึ ง ร้ อ ย ล ะ 4 8 โ ด ย ม า ก ก ว่ า ร้ อ ย ล ะ 5 0 จากการสารวจในคนงานอาชีพตัดเย็บ 398 คน พบว่า เป็นวัยทางานท่ีทางานในโรงงานอุตสาหกรรมถึง มีอาการปวดหลังส่วนล่างถึงร้อยละ 30.7 ในอาชีพ ร้อยละ 80 โดยร้อยละ 51 เกิดจากการบาดเจ็บขณะ แรงงานสิ่งทอแหวน 683 คน พบว่ามีอาการปวดหลัง ทางานและร้อยละ 18.4 จากท่าทางในการทางานท่ี ส่วนล่างถึงร้อยละ 46.6 และในอาชีพชาวนา 311 คน ไม่ ถู ก ต้ อ ง ใ น ปร ะ เ ท ศ ไ ท ย พ บร้ อ ย ล ะ 2 0 . 7 3 พบว่า มีอาการปวดหลังส่วนล่างถึงร้อยละ 73.311-12 ในประชาชนวัยทางานอายุระหว่าง 20-60 ปี ประมาณ ร้อยละ 43 ของคนวัยทางานเคยมีอาการปวดหลัง โปรแกรมการรักษาทางกายภาพบาบัดในผู้ป่วย ซึ่งมักเป็นเรื้อรังหายยาก4 จึงส่งผลเสียอย่างมากต่อ กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ใช้โปรแกรมการรักษาผู้ป่วยปวดหลัง ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การเจ็บป่วยทา ส่วนล่างด้วยวิธีแบบเดิม ซึ่งได้แก่ การรักษาด้วยการ ให้ประสิทธิภาพในการทางานลดลงหรือในกรณีท่ี ป ร ะ ค บ ค ว า ม ร้ อ น ( hot pack) อั ล ต ร้ า ซ า ว ด์ เจ็บป่วยรุนแรงจาเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลก็ (ultrasound) ก า ร ดึ ง ห ลั ง ด้ ว ย เ ค ร่ื อ ง ดึ ง ห ลั ง ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและยังเสียเวลา (mechanical traction)13 ซึ่งยืนยันได้จากการสารวจ ทางาน ซึ่งส่งผลใหห้ นว่ ยงานต้นสังกัดขาดกาลังคนและ ความคิดเห็นจากนักกายภาพบาบัดในประเทศไทย ผลผลิตของหน่วยงานลดลง ข้อมูลจากสานักงานสถิติ เก่ียวกับวิธีรักษาทางกายภาพบาบัดในผู้ป่วยปวดหลัง แห่งชาตปิ ี พ.ศ. 2552 ระบุว่า มผี ทู้ ่ีทางานในสานักงาน ส่วนล่างพบว่า การประคบความร้อน อัลตร้าซาวด์ ประมาณ 3,865,100 คน จากจานวนผู้มีงานทาทั้งสิ้น และการดึงหลังด้วยเคร่ืองดึงหลังเป็นวิธีรักษาท่ีใช้ 36.2 ล้านคน หรือร้อยละ 11 ของผู้มีงานทาท้ังหมด5 มากที่สุด13 ซ่ึงแตกต่างจากการรักษาในประเทศทาง ในจานวนน้ีมี 1,314,134 คน (ร้อยละ 34) ที่ป่วยเป็น ตะวันตก (western countries) ซึ่งใช้แนวทางการ โรคปวดหลังส่วนล่างในแต่ละปี เกิดความสูญเสียทาง รักษาท่สี นบั สนนุ ดว้ ยหลักฐานเชิงประจักษ์ (evidence เศรษฐกิจมีมูลค่าเท่ากับ 5.9 พันล้านบาท ต้นทุน based practice) ที่แนะนาว่าการออกกาลังกายเป็น โดยรวมของโรคปวดหลังส่วนล่างเท่ากับ 2,266 บาท วิธีรักษาท่ีได้ผลดีในผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่าง14อย่างไรก็ ต่อปีต่อคน โดยต้นทุนส่วนใหญ่เป็นเวลาท่ีสูญเสียไป ต า ม ผู้ ป่ ว ย ป ว ด ห ลั ง ส่ ว น ล่ า ง ท่ี ม า รั ก ษ า ที่ ง า น จากการเจ็บป่วย6 มีรายงานว่าร้อยละ 64 ต้องลาหยุด กายภาพบาบดั ต้องมาติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันทาให้ งานและเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา7 ร้อยละ 60 ต้อง สูญเสยี ค่าใช้จ่ายทั้งในการรักษาและค่าเดินทาง ซึ่งเป็น รักษาด้วยการผ่าตัด8-9 เช่นเดียวกับผลการศึกษาใน การสญู เสียทางตรงและยังสูญเสียทางอ้อม เช่น การลา ต่างประเทศตัวอย่างเช่นในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า งาน คนงานประมาณ 500,000 คนต่อปีลาหยุดงาน ซึ่งคิด เป็น 1 ใน 3 ของจานวนวันลาหยุดงานทั้งหมดของ คนทางาน โดยรัฐตอ้ งจ่ายเงนิ ทดแทนมากถึงร้อยละ 33 ของเงินทดแทนทงั้ หมด หรือเทา่ กบั 5,000 ล้านเหรียญ สหรัฐตอ่ ปี10 88
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครงั้ ท่ี ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชนั้ ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ วัตถุประสงค์: เพ่ือเปรียบเทียบผลการรักษาผู้ป่วย แบบประเมินระดับความปวดด้วย numerical ปวดหลังส่วนล่างระหว่างวิธีดึงหลังร่วมกับประคบร้อน rating scale (NRS) คือ เครื่องมือที่มี construct และการบริหารหลังด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ีกับวิธีดึงหลัง validity สูง (r = 0.97) เป็นตัวชี้วัดหลักในการศึกษานี้ ร่วมกับประคบร้อน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทา คะแนน 0-10 คะแนน โดยคะแนน 0 หมายถึง ไม่มี แนวทางการพัฒนาคุณภาพการรักษาผู้ป่วยปวดหลัง อาการปวดเลย และคะแนน 10 หมายถึง อาการปวด ส่วนล่างตอ่ ไป มากที่สุดในชีวิต ท้ังน้ี mild pain หมายถึง ความ นิยามศัพท์: เจ็บปวดน้อย ระดับคะแนนอยู่ในช่วง 1-3 คะแนน, moderate pain หมายถึง ความเจ็บปวดปานกลาง อาการปวดหลังส่วนล่าง คือ อาการปวดหลัง ระดับคะแนนอยู่ในช่วงมากกว่า 4-6 คะแนน, severe ส่วนล่างท่ีมีสาเหตุมาจากหมอนรองกระดูกหลังยื่น/ pain หมายถึง ความเจ็บปวดมาก ระดับคะแนนอยู่ ปลิน้ ทับเสน้ ประสาท ซ่งึ อาจมีอาการปวดร้าวลงขาร่วม ในช่วงมากกว่า 7-10 คะแนน17 ด้วยหรือไม่มีก็ได้ ไม่รวมอาการปวดหลังท่ีมีสาเหตุ ชัดเจน เช่น ankylosing spondylitis, rheumatoid, อัตราความสาเร็จในการลดระดับความปวด คือ lumbar stenosis และ infection อัตราบรรลุเป้าหมายทางกายภาพบาบัด กล่าวคือ ผู้ป่วยมีระดับความปวดลดลงมากกว่าหรือเท่ากับ วิธีดึงหลังร่วมกับประคบร้อน คือ การรักษาทาง รอ้ ยละ 50 ถอื ว่าบรรลเุ ปา้ หมายทางกายภาพบาบัด18 กายภาพบาบัดท่ีประกอบด้วยการใช้เครื่องดึงหลัง (traction) น้าหนัก 18-30 กก. ระยะเวลา 10-20 นาที แบบประเมินภาวะทุพพลภาพด้วย Roland- และการประคบร้อนระยะเวลา 10-20 นาที 3-5 คร้ัง/ Morris disability questionnaire (RMDQ) คื อ สปั ดาห์ เป็นเวลา 2 สปั ดาห์15 แบบสอบถามภาวะทุพพลภาพท่ีเกิดจากอาการปวด หลังเกี่ยวกับกิจกรรมทางกายภาพและจิตใจ มีท้ังหมด การบริหารหลังด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ี คือ 24 ข้อ โดยให้เลือกว่า ใช่หรือไม่ใช่ ถ้าผู้ป่วยตอบว่า การออกกาลงั กายโดยให้ผู้ป่วยนอนคว่ามือวางบนเตียง ใช่นับเป็นหน่ึงคะแนน คะแนนท่ีสูงบ่งบอกว่า ผู้ป่วยมี ระดับไหล่ ดันลาตัวช่วงบนขึ้นด้วยการเหยียดศอก ภาวะทุพพลภาพมาก19 โดยแบบสอบถามนี้ฉบับ ทั้งสองข้าง ผู้ป่วยไม่ควรเกร็งลาตัวช่วงล่างท่ีต่าจากเอว ภาษาไทยมีความนา่ เชอื่ ถือในระดับสงู (K = 0.83)20 ลงไป หลังจากนั้นกลับมาอยู่ในท่านอนราบเหมือนเดิม ทาซ้า 10 คร้ัง 10 ยก/วัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์16 โดยในคร้ังแรกให้ทาท่ีโรงพยาบาล หลังจากนั้น ใหก้ ลบั ไปทาที่บ้านตามแนวทางทีก่ าหนด 89
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครง้ั ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ วิ ธี ก า ร ศึ ก ษ า : เ ป็ น ก า ร ศึ ก ษ า แ บ บ ท ด ล อ ง กาหนดระดับนัยสาคัญทางสถิติที่ 0.05 อานาจการ (experimental research) ศึกษาข้อมูลไปข้างหน้า ทดสอบร้อยละ 80 (power of test : 1-β) โดยอัตรา (prospective) ในผูป้ ่วยปวดหลงั สว่ นล่างท่ีมีสาเหตุจาก ความสาเรจ็ ในการลดระดบั ความปวดในกลุ่มที่ 1 (รักษา หมอนรองกระดูกหลังกดทับเส้นประสาท ซึ่งอาจมี ด้วยวิธีดึงหลังร่วมกับประคบร้อนและการบริหารหลัง อาการปวดร้าวลงขาร่วมด้วยหรือไม่มีก็ได้ ไม่รวมผู้ที่มี ด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ี) และกลุ่มท่ี 2 (รักษาด้วยวิธีดึง อาการปวดหลังที่มีสาเหตุชัดเจน เช่น ankylosing หลังร่วมกับประคบร้อน) เท่ากับ 0.75 และ 0.39 spondylitis, rheumatoid, lumbar stenosis แ ล ะ ตามลาดับ แบ่งกลุ่มโดยให้ผู้ป่วยจับสลากด้วยวิธี infection ท่ีมารับการรักษาที่งานกายภาพบาบัด ธรรมชาติในกล่องที่มีสลาก 60 ใบ ประกอบด้วยสลาก โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ระหว่างเดือน กลุ่มท่ี 1 (รักษาด้วยวิธีดึงหลังร่วมกับประคบร้อนและ มีนาคม ถึง เดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 การคานวณขนาด การบริหารหลังด้วยเทคนิคแมคเคนซี่) 30 ใบ และกลุ่ม ตัวอย่าง21 ใช้สูตรการคานวณโดยเก็บข้อมูลผู้ป่วย ท่ี 2 (รักษาด้วยวิธีดึงหลังร่วมกับประคบร้อน) 30 ใบ ย้อนหลังจากแฟ้มประวัติผู้ป่วยปวดคอที่ได้รับการรักษา หลังจากนั้นอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจในการแบ่งกลุ่มพร้อม ที่งา นกา ยภ า พบ าบัด กลุ่ มงา นเ ว ช ก รรม ฟื้น ฟู ลงนามยอมรับการรักษาตามกลุ่มที่จับสลากได้ตาม โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ระหว่างเดือน ตารางการนดั หมายทีก่ าหนด ซ่ึงกลุ่มที่หนึ่งรักษาด้วยวิธี เมษายน พ.ศ. 2559 ถึง เดือนเมษายน พ.ศ. 2561 ดึงหลังร่วมกับประคบร้อนและการบริหารหลังด้วย คานวณสัดส่วนอัตราการบรรลุเป้าหมายระดับความ เทคนคิ แมคเคนซ่ี 30 คน ส่วนกลุ่มทีส่ องรกั ษาด้วยวิธีดึง ปวดท้ัง 2 กลุ่มจากการคานวณด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป หลงั ร่วมกบั ประคบรอ้ น 30 คน (แผนภาพท่ี 1) โดยความคลาดเคล่ือนชนิดท่ี 1 เท่ากบั 0.05 (α =0.05) ความคลาดเคล่ือนชนิดท่ี 2 เท่ากับ 0.20 (β = 0.200) ผปู้ ่วยปวดหลงั ส่วนลา่ งทม่ี ีสาเหตจุ ากหมอนรองกระดูกสนั หลงั ทบั เสน้ ประสาทวินิจฉยั โดย แพทย์เวชกรรมฟ้นื ฟู รพ.พุทธชนิ ราช พษิ ณโุ ลก จานวน 60 คนประเมนิ ก่อนการรกั ษาด้วย คะแนนความปวด (NAS) และคะแนนภาวะทพุ พลภาพ Roland-Morris 24 ขอ้ ลงนามในใบยินยอมเขา้ ร่วมการศกึ ษา จบั สลากเพอื่ แบง่ กลุ่ม กลุ่มทดลอง (กลุ่มท่ี 1) (n = 30) กลุ่มควบคมุ (กลมุ่ ท่ี 2) (n = 30) ดึงหลงั รว่ มกับประคบรอ้ นและการบริหารหลงั ด้วย ดงึ หลงั ร่วมกับประคบร้อน 3 คร้งั /สัปดาห์ เทคนิคแมคเคนซ่ี 3 คร้ัง/สัปดาห์ เปน็ เวลา 2 สัปดาห์ เปน็ เวลา 2 สัปดาห์ ประเมินหลังการรักษาด้วยคะแนนความปวด NRS และคะแนนภาวะทพุ พลภาพ Roland-Morris 24 ข้อ แผนภาพท่ี 1 การคดั ผ้ปู ่วยเข้าสู่การศกึ ษา NRS : Numerical rating scale 90
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครง้ั ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชนั้ ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ในการวิจยั ผลการศึกษา ไดแ้ ก่ แบบบันทึกข้อมูลทางกายภาพบาบัดท่ีผู้วิจัยสร้าง ระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เดือนตุลาคม พ.ศ. เองและได้ทดสอบแล้วว่าบันทึกข้อมูลได้ครบถ้วน แบบ ประเมินความปวด (numerical rating scale)17 แบบ 2563 มีผู้ป่วยมีอาการปวดหลังส่วนล่างจากภาวะ ประเมินภาวะทุพพลภาพ (Roland-Morris disability หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาททั้งหมด 60 คน questionnaire: RMDQ)19 เป็นเพศหญิง 39 คน (ร้อยละ 65) ได้รับการรักษา เกณฑ์คัดออกจากการศึกษา ได้แก่ ไม่สามารถเข้าร่วม ด้วยวิธีดึงหลังร่วมประคบร้อนและการบริหารหลังด้วย การวิจัยได้ครบตามที่กาหนดและขณะรักษามีความ เทคนิคแมคเคนซ่ี 30 คน (กลุ่มท่ี 1) และได้รับการ ผิดปกติของระบบประสาท เช่น peripheral neuropa- รักษาด้วยวิธีดึงหลังร่วมกับประคบร้อน 30 คน thy, multiple sclerosis, hemiparesis หรือ mye- (กลุ่มที่ 2) กลุ่มที่ 1 และกลุ่มท่ี 2 เป็นเพศหญิง 18 คน lopathy จากการวินิจฉัยของแพทย์เวชศาสตร์ฟ้ืนฟู (ร้อยละ 60) และ 21 คน (ร้อยละ 70) ตามลาดับ เกณฑ์ยุติการศึกษา ได้แก่ ขณะรักษามีคะแนนความ (p = 0.588) มีอายุ 15–60 ปี 27 คน (ร้อยละ 90) และ ปวดเพิ่มข้ึนมากกว่าเดิม 2 คะแนน (ในการศึกษานี้ไม่มี 21 คน (รอ้ ยละ 93.3) ตามลาดับ (p=0.182) การศึกษา ผู้ทีย่ ตุ ิการศกึ ษา) ระดับมัธยมศึกษา 9 คน (ร้อยละ 30) และ 15 คน (ร้อยละ 50) ตามลาดับ (p=0.467) อาชีพรับจ้าง ข้อมูลที่ศึกษา ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา 17 คน (ร้อยละ 56.7) เท่ากันทั้งสองกลุ่ม (p=1.000) อาชีพ และตาแหน่งท่ีปวด คะแนนความปวดจาก nu- มีอาการปวดหลงั อย่างเดยี ว 13 คน (ร้อยละ 43.3) และ merical rating scale และคะแนนภาวะทุพพลภาพ 14 คน ( ร้อ ย ละ 4 6. 7 ) ต า มล า ดับ ( p=1.000) จาก RMDQ ประเมินก่อนรักษาในคร้ังแรกและหลัง (ตารางท่ี 1) ค่ามธั ยฐานของคะแนนความปวดหลังรักษา รักษาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากตรวจสอบความ ของกลุ่มท่ี 1 และกลุ่มท่ี 2 เท่ากับ 1 และ 6 คะแนน ถูกต้องครบถ้วนของข้อมูล ระบุรหัส บันทึกลง ตามลาดับ (p<0.001) ค่ามัธยฐานของคะแนนความ คอมพิวเตอร์ ปวดก่อนและหลังรักษาของกลุ่มที่ 1 เท่ากับ 6 และ 1 การวเิ คราะห์ข้อมูล คะแนนตามลาดับ (p < 0.001) ค่ามัธยฐานของคะแนน ความปวดก่อนและหลังรักษาของกลุ่มที่ 2 เท่ากับ 6 วิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสถิติสาเร็จรูป นาเสนอ คะแนน (p = 0.041) (ตารางท่ี 2) ค่ามัธยฐานของ ข้อมลู เปน็ ค่าความถ่ี ค่าร้อยละ และคา่ มัธยฐาน (Q1,Q3) คะแนนภาวะทุพพลภาพหลังรักษาของกลุ่มที่ 1 และ เ ป รี ย บ เ ที ย บ ข้ อ มู ล ส่ ว น บุ ค ค ล ด้ ว ย ก า ร ท ด ส อ บ กลุ่มท่ี 2 เท่ากับ 0 และ 16.5 คะแนนตามลาดับ chi-square แ ล ะ chi-square for linear trend (p< 0.001) ค่ามัธยฐานของคะแนนภาวะทุพพลภาพ เปรียบเทียบคะแนนความปวดและคะแนนภาวะทุพพล ก่อนและหลังรักษาของกลุ่มที่ 1 เท่ากับ 19 และ 0 ภาพก่อนและหลังรักษาในกลุ่มเดียวกันด้วยการทดสอบ คะแนนตามลาดับ (p < 0.001) ค่ามัธยฐานของคะแนน Wilcoxon signed rank เปรียบเทียบคะแนนความ ภาวะทุพพลภาพก่อนและหลังรักษาของกลุ่มท่ี 2 ปวดและคะแนนภาวะทุพพลภาพทั้งก่อนและหลังรักษา เท่ากับ 17.5 และ 16.5 คะแนนตามลาดับ (p= 0.001) ระหว่างสองกลุ่มด้วยการทดสอบ Mann Whitney U โดยพบอตั ราความสาเรจ็ ในการลดความปวดในกลุ่มท่ี 1 กาหนดระดบั นยั สาคัญทางสถติ ทิ ่ี 0.05 ท้ังน้ี การวิจัยนี้ และกลุ่มที่ 2 เท่ากับร้อยละ 100 และ 0 ตามลาดับ ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมการ (p<0.001) รวมทั้งอัตราความสาเร็จในการลดภาวะ วิจัยในมนุษย์ โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ตาม ทุพพลภาพ ในกลุ่มท่ี 1 และกลุ่มท่ี 2 เท่ากับร้อยละ หนังสือรับรองที่ IRB NO.132/62 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 100 และ 0 ตามลาดับ (p < 0.001) (ตารางที่ 3) พ.ศ. 2562 91
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครง้ั ท่ี ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ ตารางที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่างจากภาวะหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ระหว่างผปู้ ว่ ยทงั้ 2 กลุ่ม* (n = 60) ข้อมลู ส่วนบคุ คล รวม จานวนคน (ร้อยละ) กลุม่ รักษาดว้ ย p-value การดงึ หลงั 0.588a เพศ (n = 60) กลุม่ รักษาดว้ ยการ ร่วมกบั ประคบร้อน 0.182a ชาย ดึงหลงั รว่ มกบั ประคบ 0.467b หญิง 21 (35.0) รอ้ นและการบริหาร (n = 30) 39 (65.0) 1.000a อายุ (ป)ี หลังด้วยเทคนคิ 1.000a 15-60 49 (81.6) แมคเคนซี่ > 60 11 (18.4) (n = 30) การศกึ ษา 12 (20.0) ประถมศกึ ษา 24 (40.0) 12 (40.0) 9 (30.0) มัธยมศกึ ษา 6 (10.0) 18 (60.0) 21 (70.0) อนปุ ริญญา 14 (23.3) ปรญิ ญาตรี 4 (6.7) 27 (90.0) 22 (73.3) สูงกวา่ ปริญญาตรี 3 (10.0) 8 (26.7) 35 (58.4) อาชีพ* 25 (41.6) 7 (23.3) 5 (16.7) ใช้แรงงาน 9 (30.0) 15 (50.0) ไม่ใช้แรงงาน 27 (45.0) 3 (10.0) 3 (10.0) 33 (55.0) 8 (26.7) 6 (20.0) อาการแสดง† 3 (10.0) 1 (3.3) ปวดหลังอยา่ งเดยี ว ปวดหลงั รา้ วลงขา 18 (60.0) 17 (56.7) 12 (40.0) 13 (43.3) 13 (43.3) 14 (46.7) 17 (56.7) 16 (53.3) *กล่มุ ท่ี 1 รักษาด้วยการดงึ หลงั ร่วมกบั ประคบรอ้ นและการบรหิ ารหลงั ดว้ ยเทคนิคแมคเคนซี่ *กลมุ่ ที่ 2 รักษาด้วยการดึงหลังรว่ มกับประคบรอ้ น aChi-square test bChi-square test for linear trend *อาชีพทใี่ ชแ้ รงงานประกอบดว้ ยรบั จา้ ง 34 ราย (ร้อยละ 58.6) เกษตรกร 1 ราย (ร้อยละ 1.7) *อาชีพทีไ่ มใ่ ช้แรงงานประกอบดว้ ยขา้ ราชการ 10 ราย (ร้อยละ 16.7) ค้าขาย 8 ราย (ร้อยละ 13.3), แมบ่ า้ น 6 ราย (รอ้ ยละ 10.0) นกั ศึกษา 1 ราย (รอ้ ยละ 1.7) †อาการแสดงประกอบด้วยปวดหลงั อย่างเดยี ว 27 ราย (ร้อยละ 45) ปวดหลังร้าวลงขา 33 ราย (ร้อยละ 5) ประกอบด้วยปวดหลงั รา้ วลงสะโพก 4 ราย (รอ้ ยละ 6.6) ปวดหลังรา้ วลงขาสว่ นบน 8 ราย (ร้อยละ 13.4) ปวดหลงั รา้ วลงขาสว่ นลา่ ง 14 ราย (ร้อยละ 23.4) ปวดหลังร้าวลงขา 2 ข้าง 7 ราย (ร้อยละ 11.6) 92
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครง้ั ท่ี ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ ตารางที่ 2 คะแนนความปวด รวมทง้ั อัตราความสาเร็จในการลดความปวดกอ่ นและหลงั รกั ษาระหวา่ งผปู้ ว่ ย ทง้ั 2 กลมุ่ * (n = 60) ค่ามธั ยฐาน (Q1, Q3)/ร้อยละ คะแนนความปวด กลุม่ รักษาดว้ ยการดงึ หลงั กลุ่มรักษาด้วยการดงึ หลงั p-value ร่วมกับประคบรอ้ นและ ร่วมกับประคบร้อน 0.835a คะแนนความปวด การบรหิ ารหลงั ด้วยเทคนคิ (n = 30) < 0.00 a กอ่ นรกั ษา แมคเคนซี่ (n = 30) < 0.001a หลังรักษา < 0.001c คะแนนความปวดที่ลดลง 6.00 (5.00, 8.00) 6.00 (5.00, 7.75) 1.00 (0.00, 1.00) 6.00 (5.00, 6.75) p-valueb (ก่อน-หลงั รกั ษา) 5.50 (5.00,7.00) 0.00 (0.00, 2.00) อตั ราความสาเร็จ (รอ้ ยละ) อัตราความสาเร็จในการลดความปวด < 0.001 0.041 100 0 ตารางท่ี 3 คะแนนภาวะทพุ พลภาพรวมทง้ั อัตราความสาเร็จในการลดภาวะทุพพลภาพก่อนและหลงั รักษา ระหวา่ งผปู้ ่วยท้งั 2 กลุม่ * (n = 60) ผลการศกึ ษา กลมุ่ รกั ษาด้วยการดงึ หลังร่วมกบั กล่มุ รักษาดว้ ยการดงึ หลัง p-value ประคบรอ้ นและการบริหารหลัง รว่ มกบั ประคบรอ้ น 0.329 a คะแนนทพุ พลภาพ Median (Q1, Q3) ดว้ ยเทคนิคแมคเคนซ่ี (n = 30) (n = 30) < 0.00 a ก่อนรกั ษา < 0.001a หลังรกั ษา 19.00 (16.00, 20.00) 17.50(15.25, 19.0) < 0.001c 0.0 (0.0, 1.0) 16.50(14.0, 18.0) p-value b(ก่อน-หลังรกั ษา) < 0.001 อัตราความสาเรจ็ ในการลดภาวะทพุ ลภาพ (%) 100 0.001 aMann Whitney U test 0 bWilcoxon signed rank test cChi-square test 93
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครงั้ ท่ี ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ สรุปผลและอภิปรายผลการวจิ ยั หน่ึงในห้า เช่นเดียวกับผลการศึกษา25 ที่พบว่าอาการ การศึกษาครง้ั นีพ้ บว่า ผู้ปว่ ยทม่ี ีอาการปวดหลัง ปวดหลังที่พบบ่อยเป็นอันดับแรก คือ อาการปวดหลัง ส่วนล่างจากภาวะหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท อย่างเดียว และยังตรงกับผลการศึกษา26 ที่พบว่า เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย 2 เท่า เช่นเดียวกับ22 ในชาวนามีอาการปวดหลังอย่างเดียวร้อยละ 73.3 การศึกษาที่พบความชุกของอาการปวดหลังส่วนล่างใน ปวดหลังร้าวลงขาร้อยละ 35.4 ซ่ึงจากผลการศึกษา27 ผู้ที่ทางานในสานักงานชาวเดนมาร์กที่เป็นเพศหญิง ในผู้ป่วยท่ีมีอาการปวดหลังส่วนล่างอย่างเดียวมี มากกว่าเพศชาย อาจเป็นเพราะว่าเพศหญิงมีค่า ความ ความก้าวหน้าในการรักษาได้ดี รวมทั้งผลการศึกษา28 ทนทานของกล้ามเนื้อหลังระดับต่ากว่าเพศชาย โดยพบ ในกลุ่มผปู้ ่วยท่มี อี าการปวดรา้ วเหนอื เขา่ ใชร้ ะยะเวลาใน บ่อยในช่วงวัยทางานอายุระหว่าง 15-60 ปี อายุเฉล่ีย ก า ร รั ก ษ า น้ อ ย ก ว่ า ก ลุ่ ม ที่ ป ว ด ร้ า ว ต่ า ก ว่ า เ ข่ า 46.2 ปี และเช่นเดียวกับการศึกษา23 ท่ีพบว่าผู้ท่ีมีอายุ นอกจากน้ันในการศึกษาคร้ังนี้ เม่ือเปรียบเทียบผล มากกว่า 46 ปี มีโอกาสปวดหลังส่วนล่างเพ่ิมข้ึน 1.5 ระหว่างก่อนและหลังรักษาในกลุ่มเดียวกันพบว่า เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีอายุน้อย เน่ืองจากในช่วง ท้ัง 2 กลุ่มมีคะแนนความปวดและคะแนนภาวะทุพพล วัยทางานมีภาวะเสื่อมของโครงสร้างต่าง ๆ บริเวณหลัง ภาพหลังรักษาลดลงอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ส่วนล่างเพ่ิมข้ึนตามอายุ เช่น การเส่ือมของหมอนรอง เช่นเดียวกับการศึกษาท่ีพบว่า อาการปวดหลังสามารถ กระดูกสันหลังทาให้ช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลังแต่ บรรเทาได้โดยการออกกาลังกายด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ี ละชนิ้ แคบลงส่งผลใหเ้ กดิ การปวดหลังได้เพ่ิมข้ึน และการออกกาลังกายเพ่ือความม่ันคงของกระดูก ผลการวิจัยคร้ังนี้พบว่า ผู้ป่วยเกือบคร่ึงมีระดับ สันหลังส่งผลให้ลดความปวดและทุพพลภาพได้29-31 การศึกษามัธยมศึกษาขึ้นไปและระดับปริญญาตรีเกือบ อีกทั้งพบว่า ผลการดึงหลังด้วยมุม 18 องศาร่วมกับการ หน่ึงในส่ี น่าจะเน่ืองจากตระหนักในการดูแลตัวเอง ใช้คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า การวางแผ่นประคบร้อน และการ เ ม่ื อ มี อ า ก า ร ป ว ด ห ลั ง ข้ึ น จึ ง รี บ ม า พ บ แ พ ท ย์ / ออกกาลังกายสามารถลดอาการปวดหลงั รา้ วลงขาได้32 นักกายภาพบาบัดทันทีโดยไม่ปล่อยให้มีอาการมากข้ึน อนึ่ง ผลการศึกษาน้ี ในกลุ่มที่ได้รับการรักษา นอกจากน้ีมากกว่าคร่ึงพบอาการปวดหลังส่วนล่างใน ด้วยการดึงหลังร่วมกับประคบร้อนมีคะแนนความปวด อาชีพรับจ้าง อาจเป็นเพราะการใช้ท่าทางในกิจวัตร แล ะค ะแ น นภ าว ะ ทุพ พล ภ า พ หลั งรั ก ษา ลด ล ง ป ร ะ จ า วั น ท่ี ไ ม่ ถู ก ต้ อ ง ต า ม ห ลั ก ก า ร ย ศ า ส ต ร์ อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ เช่นเดียวกับผลการศึกษาท่ี (ergonomics) เช่น การนั่งนาน ๆ การทางานที่ พบว่า จากการดึงกระดูกสันหลังช่วยให้กระดูกสันหลัง ไม่เปล่ียนท่าทางบ่อย ๆ โดยไม่หยุดพัก และการก้มหลัง แ ย ก ท า ใ ห้ ช่ อ ง โ พ ร ง ร ะ ห ว่ า ง ก ร ะ ดู ก สั น ห ลั ง หรือยกของหนักท่ีไม่ถูกวิธี ทาให้มีแรงดันในหมอนรอง (Intervertebral foramen) กว้างออก ช่วยลดการ กระดูกเพิ่มขึ้นส่งผลให้หมอนรองกระดูกปล้ินกดทับ กดทับรากประสาท ลดการบวมของรากประสาทไขสัน เส้นประสาท เชน่ เดียวกับผลการศึกษา24 ซึ่งพบความชุก หลัง และเพิ่มปริมาณเลือดบริเวณกระดูกสันหลัง ของการปวดหลังส่วนล่างในผู้ท่ีมีระดับการศึกษา ส่วนผลของอัลตร้าซาวด์และการประคบร้อนให้ผลด้าน ปริญญาตรีร้อยละ 54.3 และพบว่า ผู้ท่ีทางานใน ความร้อนซ่ึงลดความปวด เพิ่มการไหลเวียนของเลือด สานักงานมาก่อนเส่ียงต่อการเกิดอาการปวดหลัง และเพ่ิมการซ่อมแซมเน้ือเย่ือ น่ันคือโดยรวมการรักษา ส่วนล่างถึง 1.8 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ท่ีไม่เคย ด้วยเคร่ืองมือทางกายภาพบาบัดสามารถลดความปวด ทางานในสานักงานมาก่อน เพราะการทางานใน ในผปู้ ว่ ยปวดหลงั สว่ นล่างจากภาวะหมอนรองกระดูกกด สานักงานต้องอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนาน ๆ จากการวิจัย ทับเสน้ ประสาทได้33 ครั้งน้ี พบอาการปวดหลังเป็นอันดับแรก (เกือบครึ่ง) รองลงมา คือ ปวดหลังร้าวลงขาส่วนล่างซ่ึงพบประมาณ 94
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครงั้ ท่ี ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชนั้ ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ ผลการศึกษานี้ เม่ือเปรียบเทียบผลการรักษา นอกจากนี้ การศึกษาคร้ังน้ีใช้ numerical rating ระหว่างกลุ่มพบว่า คะแนนความปวดและคะแนนภาวะ scale17 ซึ่งนิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในการวัดระดับ ทุพพลภาพท้ังสองกลุ่มลดลงอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ความรุนแรงของความปวดและใช้ Roland-Morris แต่กลุ่มท่ีลดลงมากกว่า คือ กลุ่มท่ีได้ออกกาลังกายด้วย disability questionnaire19 ประเมินภาวะทุพพลภาพ เทคนิคแมคเคนซี่ เช่นเดียวกับการศึกษาท่ีพบว่า เพื่อแสดงความสามารถในการทากิจวัตรประจาวัน การออกกาลังกายด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ีสามารถลด ของผู้ป่วย ซึ่งจากการศึกษาน้ีพบว่า คะแนนภาวะ คะแนนความปวดและคะแนนภาวะทุพพลภาพท้ัง 2 ทุพพลภาพในกลุ่มออกกาลังกายลดลงมากกว่ากลุ่ม กล่มุ อย่างมนี ัยสาคัญทางสถิติ34 นา่ จะเน่ืองจากผู้ป่วยที่มี ควบคุมอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ น่าจะเน่ืองจากเม่ือ อาการปวดหลังร้าวลงขาน้ันมีสาเหตุจากหมอนรอง ความปวดลดลงและภาวะทุพพลภาพของผู้ป่วยก็ลดลง กระดูกกดทับเส้นประสาทซ่ึงการรักษาโดยวิธีทาง จึงส่งผลทาให้ความสามารถในการทากิจวัตรประจาวัน กายภาพบาบัดร่วมกับการบริหารหลังด้วยเทคนิค ของผู้ป่วยดีขึ้นตามมา ซึ่งเช่นเดียวกับผลการศึกษาที่ แมคเคนซี่สามารถลดความเจ็บปวดได้เพราะการออก พบว่า คะแนนภาวะทุพพลภาพของกลุ่มท่ีออกกาลังกาย กาลังกายด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ีในท่านอนคว่ายันตัวข้ึน แบบเพ่ิมกาลังกล้ามเนื้อหลัง (core stabilitzation ทุกชั่วโมงสามารถทาให้หมอนรองกระดูกที่ยื่น/ปลิ้นกด exercise : CSE) ลดลงมากกวา่ กลุ่มเปรียบเทียบอย่างมี ทับเส้นประสาทกลับเข้าที่ได้ดีกว่าการใช้เครื่องมือทาง นัยสาคัญทางสถิติ37-39 อีกทั้งพบว่า การปวดหลังเป็น กายภาพบาบัด เช่นเดียวกับผลการศึกษาท่ีศึกษา สาเหตุของการลางาน มีผลกระทบต่อการทางาน และ ผ ล ก า ร รั ก ษ า ผู้ ป่ ว ย ป ว ด ห ลั ง ส่ ว น ล่ า ง ด้ ว ย เ ท ค นิ ค ความสุขในการทางาน การป้องกันและรักษาตั้งแต่แรก แมคเคนซี่พบว่า คะแนนความปวดท้ังสองกลุ่มลดลง จึงเป็นแนวทางในการดแู ลรักษาทเี่ หมาะสม40 แต่กลุ่มท่ีรักษาด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ีลดความปวดได้ ดีกว่า รวมทง้ั เช่นเดยี วกบั ผลผลการรักษาผู้ปว่ ยปวดหลัง ข้อจากัดในการศึกษาในครั้งนี้พบว่า การให้ ส่วนล่างหรือปวดหลังร้าวลงขาด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ี ผู้ป่วยไปออกกาลังกายท่ีบ้านด้วยตนเองโดยการใช้ และเทคนิคการดัดดึงกระดูกข้อต่อพบว่าความปวดท้ัง เทคนิคแมคแคนซ่ีไม่สามารถควบคุมได้ตามแนวทางที่ สองกลุ่มลดลง แต่กลุ่มที่รักษาด้วยเทคนิคแมคเคนซ่ีลด กาหนด ทาให้ข้อมูลในการวิจัยคลาดเคล่ือน ดังน้ันใน ความปวดและภาวะทุพพลภาพได้ดีกว่า เนื่องจากใน การศึกษาคร้ังต่อไปผู้วิจัยควรกาหนดแนวทางในการ ผู้ ป่ ว ย ป ว ด ห ลั ง จ า ก ภ า ว ะ ห ม อ น ร อ ง ก ร ะ ดู ก ทั บ ติดตามผู้ปว่ ยให้สามารถออกกาลังกายได้ตามแนวทางที่ เส้นประสาทน้ันการรักษาโดยการออกกาลังกายด้วย กาหนด โดยวิธีติดตามสามารถทาได้หลายวิธีเช่น เทคนิคแมคเคนซีใ่ นทา่ นอนคว่ายันตัวข้ึนทุกช่ัวโมงทาให้ โทรศัพท์ติดตามหรือถ่ายวิดีโอเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพใน หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทกลับเข้าที่ได้ดีกว่า การออกกาลังกายใหค้ รบถ้วน การใช้เครื่องมือทางกายภาพบาบัด35-36 ซึ่งการศึกษานี้ พบว่า กลุ่มท่ีได้รับการรักษาด้วยการดึงหลังร่วมกับ ข้อมูลที่นาเสนอน้ีสรุปได้ว่า การรักษาผู้ป่วย ป ร ะ ค บ ร้ อ น แ ล ะ แ ล ะ ก า ร บ ริ ห า ร ห ลั ง ด้ ว ย เ ท ค นิ ค ป ว ด ห ลั ง ส่ ว น ล่ า ง จ า ก ภ า ว ะ ห ม อ น ร อ ง ก ร ะ ดู ก ทั บ แมคเคนซี่มีอัตราความสาเร็จในการลดระดับความ เส้นประสาทน้ัน สามารถรักษาได้ผลดีท้ังด้วยวิธีดึงหลัง เจ็บปวดมากกว่ากลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยการดึงหลัง ร่วมกับประคบร้อนและการบริหารหลังด้วยเทคนิค ร่ ว ม กั บ ป ร ะค บ ร้ อ น อย่ า ง มี นั ย ส า คั ญ ท า ง ส ถิ ติ แมคเคนซี่กับวธิ ดี ึงหลงั ร่วมกับประคบร้อน แต่วิธีดึงหลัง เช่นเดียวกับงานวิจัยดังกล่าวข้างต้นท่ีพบว่า การรักษา ร่วมกับประคบร้อนและการบริหารหลังด้วยเทคนิค ทางกายภาพบาบดั ร่วมกบั การออกกาลงั กายด้วยเทคนิค แมคเคนซีล่ ดอาการปวดหลงั จากภาวะหมอนรองกระดูก แมคแคนซี่สามารถลดระดับความปวดได้ดีกว่าอีกกลุ่ม ทับเส้นประสาทได้ดีกว่า อีกทั้งผู้ป่วยปวดหลังสามารถ ออกกาลงั กายท่ีบา้ นไดซ้ ึง่ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายใน การเดนิ ทาง 95
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครง้ั ท่ี ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ เอกสารอา้ งอิง 8. Bouton C, Roche G, Roquelaure Y, Legrand 1. Breivik H, Collectt B, Ventafridda V, Cohen E, Penneau-Forntbonne D, DubusV, et al. Man- R, Gallacher D. Survey of chronic pain in Eu- agement of low back pain in primary care prior rope: prevalence, impact to daily life, and to multidisciplinary functional restoration: a treatment. EJP 2006;10(4):287-333. retrospective study of 72 patients. Ann Rea- 2. Kent PM, Keating JL. The epidemiology of dapt Med Phys 2008;51(8):650-62. low back pain in primary care. Chiropr Oste- 9. Mokl C, Lee IF. Anxiety depression and pain opat 2005;13(13):1-7. intensity in patients with low back pain who 3. Unananan A. Spine matters to know. Bang- are admitted to acute care hospitals. J Clin kok, Thailand: Work of Textbooks, Journals Nurs 2008;17(11):1471-80. . and Publications, Medical Education Technolo- 10. Bureau of Labor Statistics, U.S. Department gy Institute, Faculty of Medicine, Siriraj Hospi- of Labor. Lost-work time injuries and illnesses: tal, Mahidol University; 1999. characteristics and resulting time away from 4. Juul-Kristensen B, Sogaard K, Stroyer J, Jen- work [Internet]. 2000 Apr 20 [cited 2017 Dec sen C. Computer users’ risk factors for devel- 14]. Available from: http://stats.bls.gov/ oping shoulder, elbow and back symptoms. oshhome.htm Scand J Work Environ Health 2004;30(5):390-8. 11. Krismer M, van Tulder M. Low back pain 5. National Statistical Office. Summary of the (non-specific). Best Pract Res Cl Rh 2007;21 survey results of the working conditions of the (1):77-91. population [online]. Jan 2009 [cited 2009 Mar 12. Phanthumethakul R, Bunprakob Y. Think 29]. Available from: http://service.nso.go.th// that people have a back pain. 2nd ed. Khon nsopublish/servic/Ifs52/reportJan.pdf Kaen, Thailand: Khon Kaen University; 2013. 6. Janwantanakul P, Pensri P, Jiamjarasrangsi W, p.2-19. Sinsongsook T. Prevalence, contributors and 13. Pensri P, Foster NE, Srisuk S, Baxter GD, economic loss of work-related musculoskeletal McDonugh SM. Physiotherapy management of symptoms among office workers in company in low back pain in Thailand: a study of practice. Bangkok Metropolis area. Bangkok, Thailand: Physiother Res Intern 2005;10(4):201-12. Research and Development Division, The So- 14. Hayden JA, van Tulder MW, Malmivaara AV, cial Security Officer; 2005. Koes BW. Meta-analysis: exercise therapy for 7. Dagenais S, Caro J, Haldernan S. A systemat- nonspecific low back pain. Ann Intern Med ic review of low back pain cost of illness stud- 2005;142(9):765-75. ies in the United States and internationally. 15. Palaviwat K. Electrotherapeutic equipments Spine J 2008;8(1):8-20. for physical therapy. Bangkok, Thailand: The Books Publishing; 2000. p.260-343. 96
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครง้ั ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชนั้ ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ 16. Hanshirunwadee V. Mechanical diagnosis 24. Munkai P, Jiamjarassarangs W, Phensri P, and treatment of lumbar spine. Proceedings of Janwattanakul P. The prevalence and factors the Academic Conference, Department of associated with the occurrence of lumbar sci- Physical Therapy; 2016 July 6-10; Allied Health atica in people who work at a university office. Sciences, Naresuan University, Phitsanulok, Acad J 2010;19:96-105. Thailand. 25. Wannapira P, Wannapira W. Prevalence and 17. Bijur PE, Latimer CT, Callagher EJ. Valida- factors associated to low back pain in hospital tion of a verbally administered numerical rat- personnel. Buddhachinaraj Med J 2007;24 ing scale of acute pain for use in the emergen- (2):181-6. cy department. Acad Emerg Med 2003;10 26. Puntumetakul R, Siritaratiwat W, Boon- (4):390-2. prakob Y, Eungpinichpong W, Puntumetakul 18. Bendinger T, Plunkett N. Measurement in M. Prevalence of musculoskeletal disorders in pain medicine. BJA Educ 2016;16(9):310–5. farmers: case study in Sila, Muang Khon Kaen, 19. Roland M, Morris R. A study of the natural Khon Kaen Province. J Med Tech Phy Ther history of back pain. Part I: Development of a 2011;23(3):297-303. reliable and sensitive measure of disability in 27. Donalson R, Silva G, Murphy K. Centraliza- low-back-pain. Spine J 1983;8(2):141-4. tion phenomenon. Its usefulness in evaluating 20. Jirarattanaphochai K, Jung S, Sumananont and treating referred pain. Spine 1990;15(3):211 C, Saengnipanthkul S. Reliability of the Roland -13. -Morris Disability Questionnaire (Thai version) 28. Laslett M, Michaelsen DJ. A survey of pa- for the evaluation of low back pain patients. J tients suffering mechanical low back pain syn- Med Assoc Thai 2005; 88(3):407-11. drome or sciatica treated with the \"McKenzie 21. Ngamjarus C, Chongsuvivatwong V. N4Stud- Method\". NZ J Physiother 1991;19:24-32. ies: Sample size and power calculations for IOS 29. McKenzie RA. Treat your own back. 7th ed. [online]. 2014 [cited 2019 June 12]. Available Wellington, New Zealand: Spinal Publications from: URL: https://apps.apple.com/th/app/ New Zealand LTD; 1997. n4studies/id680516901 30. Standaert CJ, Weinstein SM, Rumpelts J. 22. Juul-Kristensen B, Jensen C. Self-reported Evidence-informed management of chronic workplace related ergonomic conditions as low back pain with lumbar stabilization exer- prognostic factors for musculoskeletal symp- cises. Spine J 2008;8(1):114-20. toms: the “BIT” follow up study on office 31. Meziat Filho N, Santos S, Rocha RM. Long- workers. Occup Environ Med 2005;62(3):188-94. term effects of a stabilization exercise therapy 23. Spyropoulos P, Papathaanasiou G, Georgou- for chronic low back pain. Man Ther 2009;14 dis G, Chronopoulos E, Koutis H, Koumoutsou (4):444-7. F, Prevalence of low back pain in Greek public office workers. Pain Physician 2007;10(5): 651-9. 97
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครงั้ ท่ี ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชนั้ ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ 32. Longlalerng W. A study comparing the an- 37. Puntumetakul R, Areeudomwong P, gle of pull back, using electromagnetic, hot Emasithi A Yamauchi J. Effects of 10-week core pack and exercises to relieve pain and numb- stabilization exercise training and detraining on ness in patients with chronic spinal stenosis. pain-related outcomes in patients with clinical Proceedings of HA Southern Regional Forum, lumbar instability. Patient Prefer Adherence Faculty of Medicine; 2016 Nov 30-Dec 2; Prince 2013;7:1189-99. of Songkla University. Songkla, Thailand: Prince 38. Costa LOP, Maher CG, Latimer J, Hodger of Songkla University; 2016. p.110-3. PW, Herbert RD, Refshauge KM, et al. Motor 33. Luanjamroen N, Kitisomprayoonkul W, Su- control exercise for chronic low back pain: a konthamarn K, Chaiwanichsiri D. Effectiveness randomized placebo-controlled trail. Phys Ther of lumbar traction in patients with lumbar 2009;89(12):1275-86. spondylosis. J Thai Rehabil Med 2010;20(2):41- 39. Chalermsan R, Puntumetakul R, Dornpunha 5. W, Kamolrat T, Chatchawan U, Pitak R, et al. 34. Garcia AN, Costa Lda C, da Silva TM, Gondo Effects of core stabilization exercise in sub- FL, Cyrillo FN, Costa RA, et al. Effectiveness of acute non-specific low back pain: pilot study. J back school versus McKenzie exercises in pa- Nurs Sci Health 2016;39(1):48-60. tients with chronic nonspecific low back pain: a 40. Koleck M, Mazaux JM, Rascle N, Bruchon- randomized controlled trial. Phys Ther 2013;93 Schweitzer M. Psycho-social factors and coping (6):729-47. strategies as predictors of chronic evolution 35. Pinmas N. Therapeutic effect between and quality of life in patients with low back physical therapy alone and physical therapy pain: a prospective study. Eur J Pain 2006;10 combined with McKenzie exercise in low back (1):1-11. pain patients. Buddhachinaraj Med J 2017;34 (3):323-29. 36. Petersen T, Larsen K, Nordsteen J, Olsen S, Fournier G, Jacobsen S. The McKenzie method compared with manipulation when used ad- junctive to information and advice in low back pain patients presenting with centralization or peripheralization: a randomized controlled tri- al. Spine (Phila Pa 1976) 2011;36(24):1999-2010. 98
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครง้ั ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ การพัฒนานวัตกรรม Snow Box อญั ชลี สงิ ห์น้อย1 ไพรวัลย์ รตั นบญั ชร2 ปทั มา สีทอง3 วชิรศักดิ์ ภรู สิ วัสด์ิ3 E-mail: [email protected] บทคดั ย่อ ความสาคญั : การเก็บรกั ษาโลหิต จะต้องมีกระบวนการควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐาน และข้อกาหนดในเร่ือง ของ Blood cold chain เพื่อให้โลหิตมีคุณภาพต้ังแต่ต้นจนถึงผู้รับ จาเป็นต้องมีการบริหารจัดการเก่ียวกับ ครภุ ัณฑ์ทีใ่ ช้นอกเหนอื จากคณุ ลกั ษณะทีด่ ีตามมาตรฐานสากล วัตถุประสงค์: เพ่ือกักเก็บรักษาอุณหภูมิของเลือดให้อยู่ระหว่าง 2-10 องศาเซลเซียส ให้มีระยะเวลาเก็บรักษา อณุ หภมู ไิ ดน้ านข้นึ ไม่ให้เกดิ การสูญเสียของของเลือดและเปน็ แนวทางเดยี วกนั ใชท้ ั้งโรงพยาบาล รูปแบบการศึกษา: เป็นส่ิงที่ปรับปรุงแก้ไขใหม่ โดยนารูปแบบของกระติกเก็บความเย็นท่ีมีอยู่ก่อนนามาปรับปรุง ใหมโ่ ดยเพ่ิมอปุ กรณ์ แผน่ ควบคมุ อุณหภมู มิ าใชภ้ ายในกระตกิ ใชเ้ ก็บรักษาอุณหภมู ภิ ายในกระติกให้ได้นานมากข้ึน โดยเกบ็ ท่ีอุณหภูมิ 2-10 องศาเซลเซยี ส เป็นเวลา 14 ชวั่ โมง ผลการศกึ ษา: Snow Box มตี น้ ทุนในการผลติ 150 บาทต่อหนง่ึ ชน้ิ ซ่งึ ถกู กวา่ กระติกส่งเลือดมาตรฐาน ซึ่งมีราคา อย่ทู ี่ 3,500 บาท ทาใหไ้ ด้ลดคา่ ใชจ้ า่ ยลงได้ถึง 3,350 บาทต่อ 1 กระติก ท้ังน้ีรพ.พุทธชินราชได้ขยายผลการใช้ไป ยังหอผู้ปว่ ยในโรงพยาบาลจานวน 60 หอ ทาให้ประหยัดงบประมาณคา่ ใชจ้ ่ายไดถ้ ึง 201,000 บาท ข้อยตุ ิและการนาไปใช้: Snow box สามารถบรรจุเลือดไดค้ รัง้ ละ 1 ถงุ เป็นตามนโยบายของรพ.ที่จะจ่ายเลือดให้ ตามหน่วยงาน ครั้งละ 1 ถุง เพ่ือป้องกันการให้เลือดผิดคน ในกรณีห้องผ่าตัด ห้องฉุกเฉินไม่สามารถใช้ Snow box ได้ ต้องทากระติกทีม่ ขี นาดใหญ่ใหร้ องรับถงุ เลอื ดหลายถุง ซงึ่ เปน็ โอกาสพัฒนาในการสร้างครงั้ ต่อไป คาสาคัญ: Improvement, Snow Box, Innovation กล่มุ งานเวชกรรมฟ้ืนฟู โรงพยาบาลพุทธชนิ ราช พิษณุโลก 99
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครงั้ ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ ค วา มเ ป็น มา : กา รเ ก็บรั กษ าโ ลหิต จ ะต้ อง มี เสื่อมคุณภาพจากอุณหภูมิท่ีไม่เหมาะสม คือ น้อยกว่า กระบวนการควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐาน และ 2 องศาเซลเซยี ส หรอื มากกวา่ 10 องศาเซลเซียส ข้อกาหนดในเรื่องของ Blood cold chain เพ่ือให้ จากสาเหตุดังกล่าวข้างต้นผู้วิจัยจึงได้พัฒนานวัตกรรม โลหิตมีคุณภาพตั้งแต่ต้นจนถึงผู้รับจาเป็นต้องมีการ Snow Box เพ่ือกักเก็บรักษาอุณหภูมิของเลือดให้อยู่ บริหารจัดการเก่ียวกับครุภัณฑ์ท่ีใช้นอกเหนือจาก ระหว่าง 2-10 องศาเซลเซียส ให้มีระยะเวลาเก็บรักษา คุณลักษณะท่ีดีตามมาตรฐานสากล ยังมีส่วนอื่น ๆ ที่มี อุณหภูมิได้นานข้ึน โดยประดิษฐ์กระติกในการรักษา ความสาคัญต้องคานึงถึงในการคัดเลือกและจัดหา อุณหภูมิขณะรับส่งเลือดรวมถึงสร้างพื้นฐานของ เคร่ืองมือต่างๆสาหรับงานเก็บรักษาและขนส่งโลหิต บุคลากรในการใช้กระติก Snow Box เพ่ือไม่ให้เกิด คือ การตรวจสอบคุณสมบัติของการออกแบบตาม การสูญเสียของของเลือด และเพื่อให้เป็นแนวทาง ความต้องการใช้งาน การติดต้ังการทางานของเคร่ือง เดยี วกันใช้ทัง้ โรงพยาบาล และความถูกต้องแม่นยาของผลลัพธ์การทางานและ วตั ถุประสงค์ของนวตั กรรม ต้องมีการบารุงรักษาติดตามการใช้เครื่องมือให้มีสภาพ 1. จานวนถุงเลือดท่ีเสื่อมสภาพลดลง โดยเก็บอยู่ ดตี ลอดอายุใชง้ าน1 ระหวา่ งอุณหภมู ิ 2-10 องศาเซลเซียส จ า ก น โ ย บ า ย ก า ร บ ริ ห า ร ค ว า ม เ สี่ ย ง ใ น 2. เพื่อให้มีกระติกที่ใช้ในการรับส่งเลือดเป็นแนว โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก พบว่า การบริหาร เดียวกนั ทงั้ โรงพยาบาล เลือดปลอดภัยเป็นหนึ่งในการบริหารความเสี่ยงท่ีมี รปู แบบการศกึ ษา แนวทางการปฏิบัติการบริหารเลือดที่เป็นรูปแบบ เป็นส่ิงท่ีปรับปรุงแก้ไขใหม่ โดยนารูปแบบของ เดียวกัน หลายข้ันตอน ซ่ึงการรับส่งเลือดเป็นหนึ่งใน กระติกเก็บความเย็นท่ีมีอยู่ก่อน นามาปรับปรุงใหม่ การบริหารเลือด จากอุบัติการณ์รายงานความเส่ียง โดยเพิ่มอุปกรณ์ คือ แผ่นควบคุมอุณหภูมิมาใช้ด้านใน พบว่า มีการคืนเลือดที่ไม่เป็นตามแนวปฏิบัติ เช่น ของกระติกเพ่ือใช้เก็บรักษาอุณหภูมิภายในกระติก การส่งเลือดคืนเกิน 30 นาที เลือดเกิดเส่ือมสภาพ ให้ได้นานมากข้ึน เก็บท่ีอุณหภูมิ 2-10 องศาเซลเซียส ไม่สามารถนามาใช้ประโยชน์ได้อีก ทีมบริหารเลือด เปน็ เวลา 14 ช่วั โมง ปลอดภัยจึงสารวจสถิติการคืนเลือดและเลือด หลกั การของกระติกเกบ็ เลือด Snow Box เสื่อมสภาพพบว่าระหว่างปี 2561 ถึง 2563 คืนเลือด 1) แนวคิด หลกั การของ Snow Box 250, 78 และ 136 ถงุ เลือดเส่ือมสภาพ 104, 53 และ - การเก็บรักษาโลหิตและกระบวนการควบคุม 126 ถุง ตามลาดับ ทีมบริหารเลือดปลอดภัย ได้ลง อุณหภูมิตามมาตรฐาน และข้อกาหนดในเร่ืองของ นิเทศที่หน้างาน พบปัญหาอุปกรณ์ขนส่งเลือดใช้มา Blood cold chain เพอ่ื ให้โลหิตมีคณุ ภาพ เป็นเวลานานมีการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ท่ีใช้ - วัสดุอุปกรณ์ โดยใช้แนวคิดเร่ืองวัสดุท่ีเป็น มีสภาพไม่พร้อมใช้งาน ชารุด สูญหายจึงนากระติก ฉนวนกน้ั อุณหภมู ิมาใช้ ในการเก็บรักษาอุณหภูมิ จึงใช้ รูปแบบอื่นมาใช้ทดแทนประกอบกับการปฏิบัติของ แผ่นกันความร้อนท่ีใช้แปะฝากระโปรงรถยนต์ มาเป็น เจ้าหน้าที่ในการขนส่งเลือดท่ีไม่ได้ทาตามมาตรฐาน แผ่นควบคุมอุณหภูมิภายในกระติก ในการกักเก็บ ที่กาหนด เนื่องจากบุคลากรบางรายเป็นเจ้าหน้าที่ใหม่ อณุ หภูมิให้นานยิ่งขนึ้ ได้รับการสอนแบบบอกต่อกันมา ในบางรายขาดความ - ศึกษากระติก ที่มีราคาที่เหมาะสม หาซ้ือง่าย ตระหนัก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงไม่ได้ทาตามแนวปฏิบัติ คุ้มค่าในการใช้งาน ท่ีให้ไว้ได้ถูกต้องครบถ้วน ส่งผลกระทบต่อการรับส่ง - วธิ กี ารรกั ษาอณุ หภมู เิ ลอื ด 2-10 องศาเซลเซียส เลือดของผู้ป่วย เส่ียงต่อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ โดยใช้แผ่นควบคุมอุณหภูมิมาช่วยในการกักเก็บ จากกระบวนการรับส่งเลือดท่ีไม่ถูกต้องอีกทาให้เลือด อณุ หภมู ิ 100
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครงั้ ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ 2) วางแผนสร้าง Snow Box เริ่มจากจุดที่บกพร่อง ข้ันตอนการทา Snow Box แบบท่ี 3 ออกแบบตามความต้องการใช้งาน ปรับปรุงแก้ไขความ 1.ประดษิ ฐ์ Snow Box โดยเตรยี มอุปกรณ์ ดังนี้ บกพร่อง ทามาตรฐานวิธีใช้ Snow Box และทดสอบ 1.1 เตรียมแผ่นควบคุมอุณหภูมิ (รูปที่ 1) ความถูกต้องแม่นยาของผลลัพธ์การทางาน และ ขนาดหนา 1 cm และ 0.5 cm เพื่อใช้ทาแผ่นก้ันรอบ บารุงรกั ษาติดตามใหม้ สี ภาพดีตลอดอายใุ ช้งาน กระตกิ ทาแผ่นฝาปดิ และทาแผ่นเจาะรู 3) สรา้ งและพัฒนานวัตกรรม Snow Box 1.2 นาแผ่นควบคุมอุณหภูมิ ขนาดหนา 1 cm โดยการทดลองและพัฒนา Snow Box เป็นการนา จานวน 2 แผ่น และ 0.5 cm จานวน 1 แผน่ กระติกและถุงท่ีมีเลือดอยู่ โดยนาไปใช้กับการเก็บ - ทาแผ่นกั้นรอบกระติก ให้ตัดแผ่น อุณหภูมิเลือดในคร้ังน้ี ให้มีความเหมาะสมกับ ควบคุมอุณหภูมิ ขนาดหนา 1 cm มาทาเป็นแผ่นรอง ก า ร ท ด ล อ ง เ พ่ื อ พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ข อ ง ก ร ะ ติ ก ข้างล่างของกระติก 1 ช้ิน และตัดแผ่นกั้นโดยรอบตาม ซ่ึงการทดลองท่ีไดม้ ี 4 การทดลอง ดังน้ี ขนาดของกระติก 1 ช้นิ (รูปที่ 2) - คร้ังที่ 1 นากระติกน้าแข็ง ขนาดเท่ากับแบบเดิม - ทาแผ่นฝาปิด ให้ตัด แผ่นควบคุม แต่เลือกใช้กระติกชนิดที่เก็บความเย็นเพิ่มเป็น 2 ชั้น อุณหภูมิ ขนาดหนา 1 cm มาทาแผ่นฝาปิดตามขนาด พบว่า อุณหภูมิถุงเลือดท่ีวัดมีอุณหภูมิมากกว่า ของกระติก 1 ชนิ้ (รูปท่ี 3) 20 องศาเซลเซียส - ทาแผ่นเจาะรู ให้ตัดแผ่นควบคุม - ครั้งท่ี 2 นากระติกน้าแข็ง ขนาดเท่ากับแบบเดิม อุณหภูมิ ขนาดหนา 0.5 cm โดยใช้เคร่ืองเจาะรูตาไก่ โดยนามาฉีดโฟมเหลว ลงไปในช่องว่างระหว่างกระติก และตดั ตามรูปทรงขนาดกระติกเลือดขนาดสามารปรับ พบว่า อุณหภูมิถุงเลือดที่วัดมีอุณหภูมิมากกว่า ไดต้ ามขนาดของกระตกิ ท่ีใชอ้ ยู่ (รูปที่ 4) 15 องศาเซลเซียส และกระติกชารุดจากแรงดัน 1.3 เตรียม Ice pack แช่แข็ง ที่จะใช้วางบน ของโฟมเหลว แผ่นควบคมุ อุณหภูมิ (รปู ที่ 5) - ครั้งที่ 3 นากระติกน้าแข็งขนาดเท่ากับแบบเดิม 1.4 เตรยี มกระติกนา้ แข็ง (รูปที่ 6) โดยใช้แผ่นควบคุมอุณหภูมิมาทดลองพบว่า อุณหภูมิ 1.5 เตรยี มอุปกรณอ์ นื่ ๆ เชน่ ปากกา ไม้บรรทัด ถงุ เลอื ดท่วี ดั มีอณุ หภูมิ มากกว่า 13 องศาเซลเซยี ส กรรไกรตดั กระดาษ กาวยาง เครื่องเจาะรตู าไก่ เป็นต้น - คร้ังที่ 4 นากระติกจากคร้ังที่ 3 มาพัฒนา ซึ่งการ ทดลองทไ่ี ด้มี 3 การทดลองเปน็ 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1กระติกแบบที่ 1 ประกอบด้ว ย กระติกน้าแข็ง ICE Pack แผ่นควบคุมอุณหภูมิ (หนา 1 cm.) แผ่นควบคุมอุณหภูมิไม่ได้เจาะรู รปู ท่ี 1 แผน่ ควบคุมอณุ หภมู ิ รูปที่ 2 แผน่ กนั้ รอบกระตกิ (หนา 0.5 cm.) และ ถงุ เลือด ระยะท่ี 2 กระติกแบบท่ี 2 ประกอบด้ว ย กระติกน้าแข็ง ICE Pack แผ่นควบคุมอุณหภูมิ (หนา1 cm.) แผ่นควบคุมอุณหภูมิที่เจาะ 8 รู (หนา 0.5 cm.) และ ถงุ เลอื ด ระยะที่ 3 กระติกแบบที่ 3 ประกอบด้วย รูปท่ี 3 แผ่นฝาปดิ รปู ที่ 4 แผน่ เจาะรู กระติกน้าแข็ง ICE Pack แผ่นควบคุมอุณหภูมิ (หนา 1 cm.) แผ่นควบคุมอุณหภูมิท่ีเจาะ 18 รู (หนา 0.5 cm.) และ ถุงเลอื ด 101
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครงั้ ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ รูปที่ 5 Ice pack รปู ท่ี 6 กระติกนา้ แข็ง SDP-Filered 3.2 วิธกี ารใช้กระตกิ Snow box 2. นาอปุ กรณท์ เ่ี ตรยี มไว้มาประกอบ (รปู ที่ 7) - แพทย์มีคาสั่งขอเลือดให้นา Ice - pack 1.นาแผ่นรองข้างล่างของกระติก และแผ่นก้ัน ทแี่ ช่แขง็ ใสก่ ระติก รบั -สง่ เลอื ดทันที โดยรอบ มาประกอบ (เพ่อื ใช้เกบ็ อุณหภมู )ิ - เมอื่ ถงึ เวลารับ-ส่งเลอื ดให้ปฏิบัติดงั น้ี 2. นา Ice pack แช่แข็งวางลงด้านล่างกระติก 1.นากระติกรับ-ส่งเลือดที่มี Ice pack แช่แข็ง (เพื่อให้ความเย็น) วางลงด้านล่างของกระติก 3.นาแผ่นเจาะรู วางบน Ice pack ที่แช่แข็ง 2. นาแผ่นเจาะรู วางบน Ice pack ทีแ่ ช่แข็ง 3. นาถุงเลือดวางบนแผ่นเจาะรู (เพอื่ ใหร้ ะบายความเย็น) 4. นาแผน่ ฝาปดิ 4.นาถุงเลือดวางบนแผ่นเจาะรู (เพื่อไม่ให้สัมผัส 5. ปดิ ฝากระตกิ พรอ้ มนาถงุ เลือดสง่ 3.3 วธิ ที าความสะอาด กับถงุ เลือดโดยตรงปอ้ งกนั การเกดิ ลมิ่ เลอื ด) - เชด็ ลา้ งดว้ ยนา้ ยาล้างจาน และตากแดดใหแ้ ห้ง 5.นาแผ่นฝาปดิ มาปิดลงบนแผน่ กนั้ รอบกระติก - กรณีเปื้อนเลือด ให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ก่อน 6.ปิดฝากระติกพร้อมนาถงุ เลือดสง่ ล้างทาความสะอาด 3. วิธีการใช้ Snow Box การทดสอบนวตั กรรม Snow Box 3.1 ขอ้ บง่ ใช้ - ใช้สาหรับรับส่งเลือดท่ีต้องควบคุมอุณหภูมิ ทดลอง ชนิดกระติก อณุ หภูมิ ครั้งท่ี 1 ถุงเลือด(๐C) ระหวา่ ง 2-10 องศาเซลเซียส ครัง้ ที่ 2 กระตกิ น้าแข็งใหมข่ นาดเท่าเดิม - ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ICE –Pack ได้แก่ PRC, LPRC, ครง้ั ที่ 3 เปน็ ชนดิ ทเ่ี ก็บความเย็นเพ่ิมเปน็ 2 ชน้ั >20 กระติกน้าแข็งแบบเดมิ นามาฉีดโฟมเหลว FFP, Cryo ไปในชอ่ งวา่ งระหวา่ งกระตกิ >15 - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้ ICE –Pack ได้แก่ Plt.conc, *กระติกชารดุ กระตกิ น้าแข็งแบบเดิมทาแผน่ ก้นั รอบ >13 กระตกิ รปู ท่ี 7 กระตกิ แบบที่ 3 102
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครงั้ ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชน้ั ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ ตารางท่ี 1 การทดสอบครั้งที่ 4 ครงั้ ท่ี 4 กระติก ICE แผน่ ควบคุม ถงุ เลอื ด แผน่ ควบคุม อณุ หภมู ิถุงเลอื ด ระยะเวลาทเี่ ก็บ น้าแขง็ Pack อณุ หภมู ิ (1ถงุ ) แผน่ ฝาปิด อุณหภมู ิ วัดได้ ๐C อณุ หภมู คิ งที่ (2-10๐C) (หนา 1 cm.) (หนา 0.5 cm.) √ √ ไมไ่ ด้เจาะรู >10 ๐C ระยะท่ี 1 √ √ √ ไม่ผ่าน √ √ เจาะ 8 รู นอ้ ยกวา่ 10 ๐C 2 ช่ัวโมง 10 นาที ระยะที่ 2 √ √ √ √ √ เจาะ 18 รู นอ้ ยกว่า 10 ๐C 14 ชวั่ โมง 10 นาที ระยะที่ 3 √ √ √ สรุปผลการทดลอง: กระติกแบบท่ี 3 มีประสิทธิภาพ การนาไปใช้: ได้ snow box รูปแบบที่ 3 สามารถเก็บ มากที่สุด กักเก็บรักษาอุณหภูมิภายในกระติกโดยเก็บที่ อุณหภูมิให้อยู่ที่ 2 – 10 องศาเซลเซียส ได้นาน อุณหภูมิ 2-10 องศา ให้ได้นานมากขึ้นเป็นเวลา 14 14 ชั่วโมง 10 นาที โดยการตรวจด้วยโปรแกรมบันทึก ช่วั โมง 10 นาที (รปู ท่ี 8) ข้อมูลอุณหภูมิทุก 5 นาที เป็นต้นแบบ เพ่ือขยายผลไป วิธีวัดผล: การทดสอบประสิทธิภาพในสถานการณ์จริง ใช้ในงานจริง โดยนาไปทดลองใช้ที่หอผู้ป่วยพิเศษ หลังจากทดลองและปรับปรุงคุณภาพจนแน่ใจว่า กันตะบุตรพบว่า กระติกสามารถเก็บอุณหภูมิให้อยู่ท่ี นวัตกรรมการเรียนรู้ท่ีพัฒนาขึ้นมานั้นสามารถใช้งานได้ 2 – 10 องศาเซลเซยี ส ไดจ้ รงิ จริงจึงนามาทดสอบโดยสถานการณ์จริงพบว่า เลือดท่ี ส่งคืนมีอุณหภูมิไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส และสามารถ นาถุงเลือดกลบั มาใชไ้ ด้ใหม่ รูปท่ี 8 อณุ หภมู ิถุงเลือดทีว่ ดั ตามชว่ งเวลาจากเครือ่ งบนั ทกึ อุณหภูมิ 103
“Research to Innovation: จากงานวจิ ยั มงุ่ สนู่ วตั กรรม” การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ยั โรงพยาบาล ครง้ั ที่ ๑๓ (HoRNetS 2021) ประจาปี ๒๕๖๔ ระหวา่ งวนั ที่ ๒๘ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ 9A ชนั้ ๙ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานเุ คราะห์ ตารางที่ 2 ผลการใช้นวตั กรรม Snow box สถิติ 2561 2562 2563 2564 ต.ค. 63 - เม.ย. 64 พ.ค.-มิ.ย.64 การคนื เลอื ด 250 78 เลือดเสือ่ มสภาพ 104 53 136 147 53 ร้อยละเลอื ดท่ีเสยี 41.6 67.95 126 2 0 92.64 1.36 0 งบประมาณทใ่ี ชใ้ นการพัฒนา/คิดคน้ นวตั กรรม ปลอดภยั และธนาคารเลือด 1.แผ่นกันความร้อนขนาด 90 x 140 cm การใช้เทคโนโลยี โดยการนา Data Logger มาใช้ หนา 10 mm ราคา 420 บาท 1 แผน่ (ใชไ้ ด1้ 2 กลอ่ ง) ในการทดลอง 2.แผ่นกันความร้อน ขนาด 30 x 90 cm ผู้ปฏิบัติงานมีความพร้อมและความตั้งใจท่ีนา หนา 4 mm ราคา 29 บาท 1แผน่ (ใช้ได้ 8 กล่อง) ประสบการณก์ ารทางานมาพัฒนา 3 . ก า ว ย า ง ก ร ะ ป๋ อ ง ล ะ 1 2 0 บ า ท ปรบั ปรุงระบบการทางานอยา่ งต่อเนอื่ ง ผู้เช่ียวชาญให้ความช่วยเหลือชี้แนะ ปรับปรุง (ใช้ได้ 100 กลอ่ ง) 4.กระติกน้าแข็ง ขนาด 1.5 ลิตร กล่องละ คุณภาพ จนแน่ใจว่านวัตกรรมการเรียนรู้ท่ี พัฒนาขึ้นมาน้ันสามารถงานได้จริง และนามา 90 บาท ทดสอบโดยสถานการณ์จริง พบว่า เลือดที่ส่งคืนมี สรุปราคาโดยประมาณรวม 135 บาท ต่อกล่อง อุณหภูมิไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส และสามารถนา ถงุ เลือดกลบั มาใชไ้ ดใ้ หม่ ผลประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากนวัตกรรม ข้อยตุ ิและการนาไปใช้: ผ้ปู ฏบิ ัตงิ านท่เี ก่ยี วข้องสามารถ เชงิ ปริมาณ ปฏิบัติงานตามมาตรฐานเดียวกัน ได้ Snow Box มี ต้นทุนในการผลิต 150 บาทต่อหน่ึงช้ิน ซึ่งถูกกว่า ประหยดั คา่ ใช้จา่ ย กระติกส่งเลือดมาตรฐาน ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 3,500 บาท จานวนเลือดท่ีเส่ือมสภาพจากการใช้กระติกที่มี ทาให้ได้ลดค่าใช้จ่ายลงได้ถึง 3,350 บาทต่อ 1 กระติก ทั้งนี้ โรงพยาบาลพุทธชินราช ได้ทาจ่ายให้แก่หอผู้ป่วย อณุ หภูมไิ มค่ งท่ี มีจานวนลดลง จานวน 60 หอ ทาให้ประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายได้ เชงิ คุณภาพ ถึง 201,000 บาท เอกสารอ้างอิง บุคลากรได้มีอุปกรณ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน อบุ ลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์ และฐิติพร ภาคภมู พิ งศ์ man- รบั ส่งเลือดท้ังโรงพยาบาล agement of blood cold equipment Proposed standard definitions for surveillance of non in- สรุปบทเรียนทไี่ ด้รบั fectious adverse transfusion Reactions: Inter- 1. Snow box สามารถบรรจุเลือดได้ ครั้งละ national Society of Blood Transfusion (ISBT) Working Party on Haemavigilance, International 1 ถงุ ซ่ึงเปน็ ตามนโยบายของโรงพยาบาลที่จะจ่ายเลือด Haemovigilance Network (IHN), July 2011. ให้ตามหน่วยงาน ครั้งละ 1 ถุง เพ่ือป้องกันการให้ เลือดผดิ คน 2. กรณีห้องผ่าตัด ห้องฉุกเฉิน ไม่สามารถใช้ Snow box ได้ ต้องทากระตกิ ทม่ี ขี นาดใหญ่ให้รองรับถุง เลือดหลายถุง ซึ่งเป็นโอกาสพัฒนาในการสร้างคร้ัง ต่อไป ปจั จยั แห่งความสาเร็จ ผู้บริหารให้ความสาคัญและสนับสนุนการพัฒนา ระบบการรบั -ส่งเลอื ด โดยใช้ Snow box การมีส่วนร่วมของบุคลากรของทีมบริหารเลือด 104
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119