ผลของโปรแกรมสขุ ศกึ ษาออนไลนเ์ พอ่ื สง่ เสรมิ ความรู้ ทศั นคติ และพฤตกิ รรมสขุ ภาพ เกยี่ วกบั ฝ่ นุ ละอองขนาดเล็กไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาหมบู่ า้ น บา้ นป่ าจน่ั หมทู่ ่ี 7 ตาบลเวยี งกาหลง อาเภอเวยี งป่ าเป้ า จงั หวดั เชยี งราย พมิ พล์ ภสั พนติ กมล*, ภผู า ธติ อิ นันตป์ กรณ์*, สนุ ทรี สรุ ตั น*์ *, ประดษิ ฐ์ ประทองคา*** *นักศกึ ษาปรญิ ญาตรี หลกั สตู รสาธารณสขุ ศาสตรบณั ฑติ สาขาวชิ าสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยแมฟ่ ้าหลวง **อาจารยป์ ระจาหลกั สตู รสาธารณสขุ ศาสตรบณั ฑติ มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ ้าหลวง ***นักวชิ าการสาธารณสขุ ผอู ้ านวยการโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตาบลเวยี งกาหลง บทคดั ยอ่ ความสาคญั : ปัญหามลพษิ ทางอากาศเป็ นวกิ ฤตเรอื้ รังทป่ี ระเทศไทยตอ้ งเผชญิ มักพบการเพม่ิ สงู ขนึ้ ของฝ่ ุนละอองในหลายพ้ืนท่ี โดยเฉพาะพ้ืนท่ีภาคเหนือ ซง่ึ ปัญหาดังกล่าวสามารถป้ องกันไดโ้ ดย การปรบั เปลย่ี นความรู ้ ทศั นคติ และพฤตกิ รรมสขุ ภาพ วตั ถปุ ระสงค:์ เพอื่ ศกึ ษาผลการใชส้ อื่ โปรแกรมการสง่ เสรมิ ความรู ้ ทัศนคติ และพฤตกิ รรมสขุ ภาพ รูปแบบศกึ ษา สถานท่ี และผปู้ ่ วย: กลุ่มตัวอยา่ ง คอื อาสาสมัครสาธารณสขุ ประจาหมบู่ า้ น จานวน 50 คน บา้ นป่ าจ่ัน หมทู่ 7่ี ตาบลเวยี งกาหลง อาเภอเวยี งป่ าเป้า จังหวัดเชยี งราย การวดั ผล และวธิ กี าร: โดยใชเ้ คร่ืองมือวจิ ัย คือ แบบประเมนิ ความรู ้ ทัศนคติ และพฤตกิ รรม ดา้ นสขุ ภาพทไี่ ดจ้ ากการทบทวนวรรณกรรมของผวู ้ จิ ัย วเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยใช ้ ความถ่ี รอ้ ยละ ค่าเฉลย่ี สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน และทดสอบความความแตกตา่ งดว้ ยสถติ ิ Paired T-test ผล: ลักษณะทว่ั ไปของกลมุ่ ตัวอยา่ งพบวา่ รอ้ ยละ 74 เป็ นผหู ้ ญงิ มอี ายรุ ะหวา่ ง 22-59 ปี (รอ้ ยละ 78) ระดบั การศกึ ษาประถมศกึ ษา (รอ้ ยละ 56) สถานภาพสมรส (รอ้ ยละ 70) รายไดต้ ่อเดอื น 0-5,000 บาท (รอ้ ยละ 52) อาศัยอยใู่ นพนื้ ทมี่ ากกวา่ 10 ปี (รอ้ ยละ 96) หลังจากไดร้ ับสอื่ โปรแกรมสขุ ศกึ ษา พบว่า ระดับความรูท้ างดา้ นสขุ ภาพอยใู่ นระดับทด่ี ี (รอ้ ยละ 90) ระดับทัศนคตทิ างดา้ นสุขภาพอยใู่ นระดับทด่ี ี (รอ้ ยละ 96) ระดับพฤตกิ รรมอยู่ในระดับที่ดี (รอ้ ยละ 92) นอกจากนี้ผลการทดสอบความแตกต่าง คา่ เฉลย่ี ความรู ้ ทัศนคติ พฤตกิ รรม เกย่ี วกบั ฝ่ นุ ละอองขนาดเล็กไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน (PM2.5) กอ่ นและ หลังการใหโ้ ปรแกรมสขุ ศกึ ษา พบว่าระดับทัศนคตเิ กยี่ วกับฝ่ ุนละอองขนาดเล็กไม่เกนิ 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ิ (p<0.001) ส่วนระดับความรูแ้ ละพฤตกิ รรม เกี่ยวกับฝ่ ุนละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ไม่แตกต่างกัน แมจ้ ะพบว่าไม่มี ความแตกต่างกันในทางสถิติ ดังนั้นผูท้ ่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ งควรมกี ารอบรมใหค้ วามรูเ้ พิ่มเติมเกี่ยวกับ ค่ามาตรฐานของฝ่ นุ ละอองขนาดเล็กไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน (PM2.5) ชว่ งระยะเวลาทสี่ ามารถทาการเผา และกฎหมายทล่ี งโทษผกู ้ อ่ มลพษิ ทางอากาศเพอ่ื เพมิ่ ทัศนคตแิ ละคาดหวังการนาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ติ ัวได ้ อยา่ งถกู ตอ้ ง ขอ้ ยตุ ิ และการนาไปใช:้ ดงั นัน้ ผลการศกึ ษาครัง้ นจ้ี ะเป็ นการพัฒนาโปรแกรมสขุ ศกึ ษาออนไลนเ์ พอ่ื เป็ นแนวทางใหอ้ าสาสมัครสาธารณสุขประจาหมบู่ า้ น ในบา้ นป่ าจ่ัน หมทู่ ี่ 7 ตาบลเวยี งกาหลง อาเภอ เวียงป่ าเป้ า จังหวัดเชียงราย และผูม้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งไดน้ าไปใชใ้ นการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ ของประชาชนในชมุ ชนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตอ่ ไป คาสาคญั : โปรแกรมสุขศกึ ษา ความรู ้ ทัศนคติ พฤตกิ รรมสุขภาพ ฝ่ ุนละอองขนาดเล็กไม่เกนิ 2.5 ไมครอน การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ัยโรงพยาบาล ครงั้ ที่ 13 (HoRNetS 2021) ประจาปี 2564
รายงานการสอบสวนโรคสกุ ใสในโรงเรยี นแหง่ หนงึ่ หมู่ 4 บา้ นเวยี ง ตาบลป่ าแดด อาเภอป่ าแดด จงั หวดั เชยี งราย ระหวา่ งวนั ที่ 13 มกราคม – 9 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2564 Report of the investigation of chickenpox in a school, Village No. 4, Ban Wiang, Pa Daet sub district, Pa Daet district, Chiang Rai province During 13 January - 9 February 2021 รซู ฮี นั เจ๊ะนุ*, สภุ าพร ธปู หอม*, อะวาฏฟี ยะผา*, ศภุ ลักษณ์ พรหมเสน**, ศริ ญิ าพร ขนั ทะสอน* Ruseehan Chanu*, Suphaphon Thuphom*, Awatif Yapha* , Supalak Phomsen** Siriyaporn Khunthason* * สานักวชิ าวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ ้าหลวง ** โรงพยาบาลป่ าแดด บทคดั ยอ่ ความสาคญั : วันที่ 13 มกราคม 2564 หน่วยบรกิ ารปฐมภมู โิ รงพยาบาลป่ าแดด ตาบลป่ าแดด อาเภอ ป่ าแดด จงั หวัดเชยี งราย ไดร้ บั แจง้ จากครวู า่ มนี ักเรยี นป่ วยเป็ นโรคสกุ ใส จากการสอบสวนโรคเบอื้ งตน้ พบวา่ มนี ักเรยี นทมี่ อี าการและอาการแสดงเขา้ กับนยิ ามโรคสกุ ใสจานวน 6 ราย ไดเ้ ขา้ รับการรักษาทโี่ รงพยาบาล เอกชน จานวน 1 ราย และไดเ้ ขา้ รับการรักษาทโี่ รงพยาบาลป่ าแดด จานวน 5 ราย แพทยว์ นิ จิ ฉัยว่าป่ วย ดว้ ยโรคสุกใส ดังนัน้ ทมี เฝ้ าระวังสอบสวนเคลอ่ื นที่เร็ว ตาบลป่ าแดด อาเภอป่ าแดด จงึ ออกดาเนนิ การ สอบสวนโรคระหวา่ งวนั ท่ี 13 มกราคม 2564 วตั ถปุ ระสงค:์ เพอ่ื ยนื ยันการวนิ จิ ฉัยและยนื ยันการระบาดของโรค ศกึ ษาลักษณะการเกดิ การกระจายของ โรคตามลักษณะบุคคล เวลา และสถานที่ เพื่อศกึ ษาปัจจัยท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการเกดิ โรคสุกใสตามหลัก สามเหลยี่ มระบาด และวางแผนการดาเนนิ งานป้องกนั และควบคมุ โรค รปู แบบศกึ ษา สถานท่ี และผปู้ ่ วย: เป็ นการศกึ ษาเชงิ ระบาดวทิ ยาเชงิ พรรณนา โดยวธิ ดี าเนนิ การทบทวน สถานการณ์ของโรคสกุ ใส ยอ้ นหลัง 5 ปี และเปรยี บเทยี บกับสถานการณ์ปัจจบุ นั ของตาบลป่ าแดด อาเภอ ป่ าแดด จงั หวดั เชยี งราย ทบทวนเวชระเบยี นการรกั ษาผปู ้ ่ วยและรวบรวมขอ้ มลู การเจ็บป่ วยของผปู ้ ่ วย การวดั ผล และวธิ กี าร: โดยการสัมภาษณ์ผูป้ กครองของนักเรยี นทมี่ อี าการป่ วยโดยศกึ ษาสง่ิ แวดลอ้ ม สารวจลักษณะสง่ิ แวดลอ้ ม และลักษณะท่ัวไปของโรงเรยี นแห่งหนงึ่ หมู่ 4 บา้ นเวยี ง ตาบลป่ าแดด อาเภอ ป่ าแดด จงั หวดั เชยี งราย ผล: โดยพบผูป้ ่ วยทัง้ สนิ้ จานวน 20 ราย คดิ เป็ นอัตราป่ วยรอ้ ยละ 69.30 เป็ นหญงิ 11 ราย ชาย 9 ราย อาการ/อาการแสดงสว่ นใหญ่มผี นื่ แดง และตุ่มใส/ตุ่มหนอง รอ้ ยละ 68.42 รองลงมามไี ข ้ รอ้ ยละ 63.15 ออ่ นเพลยี รอ้ ยละ 10.52 และแผลในปาก รอ้ ยละ 5.26 โดยผปู ้ ่ วยรายแรกเรม่ิ ป่ วยเมอื่ 4 มกราคม 2564 สว่ น รายล่าสุดเรม่ิ ป่ วยเมอ่ื 28 มกราคม 2564 พบอัตราป่ วยสูงสุดในชัน้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 3 คดิ เป็ นรอ้ ยละ 60 มาตรการควบคุมโรคไดแ้ ก่ คัดกรองนั กเรียนเพื่อคน้ หาผูป้ ่ วยที่สงสัยใหส้ ุขศกึ ษาแก่ครู และนักเรียน เพ่ือป้ องกันโดยเนน้ พฤตกิ รรมคนในโรงเรยี น พ่นคลอรีนทาความสะอาดหอ้ งเรียน สนามเด็กเล่น และ รถรบั สง่ นักเรยี น ใหเ้ ด็กทป่ี ่ วยหยดุ เรยี นจนกวา่ แผลจะตกสะเกด็ และแหง้ ขอ้ ยตุ ิ และการนาไปใช:้ สรปุ การระบาดโรคสกุ ใสในครงั้ นเ้ี กดิ ขน้ึ ทโ่ี รงเรยี นแหง่ หนง่ึ ในตาบลป่ าแดด เป็ น การระบาดที่เกดิ จากแหล่งโรคแพร่กระจาย สาเหตุการเกดิ โรคสุกใสในครัง้ น้ี จากการสอบถามครูและ ผปู ้ กครองของนักเรยี น พบว่าผปู ้ ่ วยรายแรกตดิ จากผปู ้ กครองและจากการรักษาโรคทยี่ ังไมห่ ายดผี ปู ้ กครอง ไดน้ าเด็กมาเรยี น โรงเรียนควรปิ ดเป็ นระยะฟักตัวสองเท่า ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มควรทาความสะอาด โดยใช ้ Sodium Hypochlorite ในสัดสว่ นทเ่ี หมาะสม จากการเฝ้ าระวังอย่างต่อเนื่องจนถงึ วันท่ี 9 กุมภาพันธ์ ยงั ไมพ่ บผปู ้ ่ วยเพม่ิ ขน้ึ คาสาคญั : โรคสกุ ใส, การสอบสวนโรค การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ัยโรงพยาบาล ครงั้ ท่ี 13 (HoRNetS 2021) ประจาปี 2564
ความรู้ ทศั นคตแิ ละ พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ติ วั ของแรงงานขา้ มชาตทิ มี่ ตี อ่ โควดิ -19 อาเภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งราย ภควตั รกั ษาศลิ * วลิ ดันฟิรเดาซ์ ยาคอ* วรลกั ษณ์ แกว้ จันทรา** ภมรศรี ศรวี งศพ์ ันธ*์ * มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ ้าหลวง **โรงพยาบาลเชยี งรายประชานุเคราะห์ บทคดั ยอ่ ความสาคญั : Covid-19 เป็ นโรคตดิ ต่ออบุ ัตใิ หม่ ทเี่ กดิ ขนึ้ ตัง้ แต่ปี 2562 และมกี ารระบาดอย่างตอ่ เนื่อง ท่ัวโลกรวมถงึ ประเทศไทย ซงึ่ มกี ารระบาดระลอก 2 เกดิ ขน้ึ โดยสว่ นใหญ่พบในแรงงานขา้ มชาตทิ เ่ี ขา้ มา ทางานและอาศัยในประเทศไทย จังหวัดเชยี งรายเป็ นจังหวัดทมี่ พี รมแดนตดิ กับประเทศเมยี นมารแ์ ละลาว จงึ มแี รงงานขา้ มชาตเิ ขา้ มาทางานเป็ นจานวนมาก การศกึ ษาความรูท้ ัศนคตแิ ละการปฏบิ ัตติ ัวเพอ่ื ป้ องกัน การตดิ เชอื้ Covid-19 ในแรงงานขา้ มชาติ จะชว่ ยในการวางแผนรับมอื กับการระบาดของโรคนี้ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม วตั ถุประสงค:์ เพอ่ื ศกึ ษาความรู ้ ทัศนคตแิ ละพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตติ ัวเพอ่ื ป้ องกันการตดิ เชอื้ COVID-19 ใน อ.เมอื งเชยี งราย จ.เชยี งราย รปู แบบการศกึ ษา: การศกึ ษาเชงิ พรรณนาแบบตัดขวาง สถานทศี่ กึ ษา: หน่วยตรวจสขุ ภาพแรงงานขา้ มชาติ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชยี งราย ประชากรทศ่ี กึ ษา: แรงงานขา้ มชาตทิ ี่อาศัยอยู่ในพื้นท่ีอาเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชยี งรายและ มารับบรกิ ารท่ีหน่วยตรวจสุขภาพแรงงานขา้ มชาติ โรงพยาบาลเชยี งรายประชานุเคราะห์ ในช่วงเดือน มกราคม 2564 จานวน 81 คน วธิ กี ารวเิ คราะหข์ อ้ มลู : วเิ คราะหด์ ว้ ยสถติ เิ ชงิ พรรณนาและนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ยจานวน รอ้ ยละ คา่ เฉลย่ี และ สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน วธิ กี ารวดั ผล: ใชแ้ บบวัดความรู ้ ทัศนคตแิ ละพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตติ ัวเพอื่ ป้ องกันการตดิ เชอ้ื COVID-19 แบบ Likert Scales ประกอบดว้ ยขอ้ คาถามความรูเ้ รอ่ื งโรค COVID-19 จานวน 7 ขอ้ แปลผลเป็ นระดับ ความรตู ้ ่า ปานกลาง สงู ทัศนคตติ อ่ โรค 5 ขอ้ แปลผลโดยการแบง่ เป็ น 5 ระดับ คอื สงู มาก สงู ปานกลาง ตา่ ตา่ มากและพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ติ ัวในการป้องกนั การตดิ เชอ้ื 10 ขอ้ แปลผลโดยการแบง่ เป็ น 4 ระดบั คอื สงู ปานกลาง ต่า ตา่ มาก ผล: แรงงานขา้ มชาตสิ ว่ นใหญ่เป็ นชาวเมยี นมา ส่วนใหญม่ รี ะดับความรูอ้ ยใู่ นระดับปานกลางถงึ ระดับสงู มที ัศนคตแิ ละพฤตกิ รรมการเกยี่ วกบั COVID-19 ในระดับสงู พฤตกิ รรมการป้ องกันตนเองจาก COVID-19 ส่วนใหญ่ลา้ งมือเป็ นประจา คิดเป็ นรอ้ ยละ 79.0 รองลงมาเป็ นการสวมหนา้ กากอนามัยรอ้ ยละ 75.3 ตรวจสอบอณุ หภมู ขิ องรา่ งกายเป็ นประจารอ้ ยละ 74.1 และกกั ตัวเองหลังจากลับจากพน้ื ทเ่ี สย่ี งรอ้ ยละ 74.1 ตามลาดับ ขอ้ ยุติ และการนาไปใช:้ ผลการวจิ ัยในครัง้ นี้ใชเ้ ป็ นขอ้ มูลพน้ื ฐานในการวางแผนใหค้ วามรู ้ ส่งเสรมิ พฤตกิ รรมการป้ องกัน Covid-19 ในกลุ่มแรงงานขา้ มชาติ เพอื่ ความคุมการระบาดของโรค Covid-19 ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขน้ึ คาสาคญั : ความร,ู ้ ทศั นคต,ิ พฤตกิ รรม, แรงงานขา้ มชาต,ิ COVID-19 การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ัยโรงพยาบาล ครงั้ ท่ี 13 (HoRNetS 2021) ประจาปี 2564
รายงานสอบสวนโรคฉบบั สมบรู ณ์โรคโควดิ 19 รายท่ี 65 จงั หวดั เชยี งราย วนั ที่ 20 มกราคม 2564 ชาลสิ า กอบกา*, อาซรู า จารมะ* ศภุ เลศิ เนตรสวุ รรณ*,ภฤศภคั พยงุ **, อมรรตั น์ วริ ยิ ะประสพโชค**, พไิ ลวรรณ ยอดประสทิ ธ*์ิ * ภมรศรี ศรวี งคพ์ ันธ*์ ** *นักศกึ ษาฝึกปฏบิ ตั งิ าน มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ ้าหลวง **โรงพยาบาลเชยี งรายประชานุเคราะห์ ***อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ ้าหลวง บทคดั ยอ่ ความสาคญั : เมอื่ วันท่ี 19 มกราคม 2564 เวลา 21.00 น. เจา้ หนา้ ทงี่ านป้ องกันควบคมุ โรคและระบาด วทิ ยา กลมุ่ งานเวชกรรมสงั คม โรงพยาบาลเชยี งรายประชานุเคราะห์ ไดร้ บั แจง้ จากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรนิ ทร์ว่ามผี ลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร ผูท้ ่ีมาขอรับการตรวจท่ีโรงพยาบาลแลว้ พบการตดิ เชอื้ covid-19 โดยเป็ นผูป้ ่ วยชายไทย อายุ 28 ปี อาชีพ พนักงานบริษั ท เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มภี ูมลิ าเนาอยู่ท่ี อ.แม่จัน จ.เชยี งราย มปี ระวัตกิ ารเดนิ ทางมาจากกรุงเทพมหานครและไดเ้ ดนิ ทางไป ทอ่ งเทย่ี วทจี่ งั หวัดเชยี งใหม่ วนั ที่ 26 ธนั วาคม 2563 - วันท่ี 4 มกราคม 2564 วตั ถุประสงค:์ เพอ่ื ยนื ยันการวนิ จิ ฉัยโรคและคน้ หาผูป้ ่ วยเพม่ิ เตมิ ในชมุ ชน ศกึ ษาลักษณะโรคตามหลัก ระบาดวทิ ยา เกย่ี วกับบุคคล เวลา สถานท่ี คน้ หาแหล่งแพร่โรคและปัจจัยเสย่ี งต่อการเกดิ โรค และคน้ หา แนวทางการควบคมุ และป้องกนั การระบาดของโรค รปู แบบศกึ ษา สถานที่ และผปู้ ่ วย: วธิ กี ารศกึ ษาระบาดเชงิ พรรณนา โดยการศกึ ษาขอ้ มลู ดา้ นการเจ็บป่ วย และการเดินทางของผูป้ ่ วย คน้ หาผูป้ ่ วยเพ่ิมเติมในชุมชน โดยนิยามผูส้ งสัยติดเช้ือโคโรนา 2019 ทเ่ี ขา้ เกณฑส์ อบสวน ศกึ ษาผลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร (Laboratory Criteria) โดยการตรวจหาเชอื้ SAR-CoV2 จากตัวอยา่ ง Nasopharyngeal swab (NPS) ดว้ ยวธิ กี าร Real time-PCR เพอื่ ประกอบการ วินิจฉั ย เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการสอบสวนโรคคือ แบบสอบสวนผูป้ ่ วยโรคติดเช้ือไวัสโคโรนา 2019 (Novelcorona 2) ผล: จากการศกึ ษาพบว่าผูป้ ่ วยเพศชาย อายุ 28 ปี ไดร้ ับการตรวจหาเชอื้ SAR-CoV2 ที่โรงพยาบาล เกษมราษฎร์ศรีบุรนิ ทร์ และทาการตรวจซ้าที่โรงพยาบาลเชยี งรายประชานุเคราะห์ ผลปรากฏว่า มกี าร ติดเช้ือ SAR-CoV2 ซึ่งผูป้ ่ วยมีประวัติไปในสถานที่เดียวกันกับผูป้ ่ วยยืนยันโรคโควิด 19 รายท่ี 50 ของจงั หวดั เชยี งใหมใ่ นวนั ที่ 31 ธนั วาคม 2563 โดยมผี สู ้ ัมผัสเสยี่ งสงู จานวน 7 ราย พบวา่ ไมม่ กี ารตดิ เชอื้ โรคโควดิ 19 และผสู ้ มั ผัสเสยี่ งต่า จานวน 8 ราย พบวา่ ไมม่ กี ารตดิ เชอื้ โรคโควดิ 19 ขอ้ ยตุ ิ และการนาไปใช:้ สง่ ผูป้ ่ วยรักษา ณ หอ้ งแยกโรคของโรงพยาบาลเชยี งรายประชานุเคราะห์ และ สาหรับผูส้ ัมผัสใกลช้ ดิ ผปู ้ ่ วย ใหท้ าการกักกนั ตัวเองเพอื่ สังเกตอาการ ณ ทพ่ี ักอาศัย (Home quarantine) ตดิ ตามการเฝ้ าระวังจนครบ 14 วัน เน่ืองจากว่าผูป้ ่ วยไดม้ กี ารกักตัวเองหลังจากทราบว่าเพือ่ นในกลุ่มที่ ไปเทยี่ วดว้ ยกันมกี ารตดิ เชอื้ โรคโควดิ 19 ทาใหม้ ผี สู ้ ัมผัสจากเคสนี้จานวนนอ้ ย ซง่ึ ทาใหง้ ่ายต่อการคน้ หา ผปู ้ ่ วยเพมิ่ เตมิ และการควบคมุ โรค คาสาคญั : สอบสวนโรค, โรคโควดิ 19, SAR-CoV2, รายงายสอบสวนโรคฉบบั บสมบรู ณ์ การประชมุ วชิ าการระดับชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ัยโรงพยาบาล ครงั้ ท่ี 13 (HoRNetS 2021) ประจาปี 2564
ความรอบรดู้ า้ นอนามยั สงิ่ แวดลอ้ มและพฤตกิ รรมการป้ องกนั ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ จากฝ่ นุ ละอองขนาดไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาหมบู่ า้ น ตาบลศรถี อ้ ย อาเภอแมส่ รวย จงั หวดั เชยี งราย ตรยี าพร กานุสนธ,์ิ ธนาพร ปรชั ญาภวิ ฒั น์ พลิ าสนิ ี วงษ์นุช, ชลันดา ธรรมจักร,์ ณัฐทรี สมศรี สาขาสาธารณสขุ ศาสตร์ สานักวชิ าวทิ ยาศาสตรส์ ขุ ภาพ มหาวทิ ยาลัยแมฟ่ ้าหลวง โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพสว่ นตาบลศรถี อ้ ย อาเภอแมส่ รวย จงั หวดั เชยี งราย บทคดั ยอ่ ความ สาคญั : ปั จจุบันปั ญ ห า มลภา ว ะทา งอ า ก าศ ถือ เ ป็ นปั ญ ห าสา คัญ ประก า รห นึ่งใ นประเ ด็ น ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม เป็ นปัญหาทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในภาคเหนือตอนบน หมอกควันนัน้ ปกคลุมท่ัวทัง้ จังหวัดเชยี งราย เป็ นประจาทุกปี โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในเดอื นมนี าคม สาเหตุหลักของสถานการณ์ฝ่ ุนหมอกควันนัน้ เกดิ จาก การเผาในทโ่ี ลง่ โดยเฉพาะเศษวัสดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตรและพน้ื ทป่ี ่ าไมซ้ ง่ึ ทาใหเ้ กดิ การป่ วยและเสยี ชวี ติ วตั ถุประสงค:์ เพอื่ ทดสอบและศกึ ษาความสัมพันธร์ ะหว่างตัวแปรกับความรอบรูด้ า้ นอนามัยสง่ิ แวดลอ้ ม และการป้องกนั ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพจากฝ่ นุ ละอองขนาดไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน (PM2.5) รูปแบบศกึ ษา สถานที่ และผู้ป่ วย: เป็ นการศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบตัดขวาง (Cross-sectional analytical study) ของอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาหมบู่ า้ น ตาบลศรถี อ้ ย อาเภอแมส่ รวย จานวน 107 คน จากทัง้ หมด 124 คน การวดั ผล และวธิ กี าร: ซงึ่ มเี กณฑก์ ารแยกอาสาสมคั รออกจากการวจิ ัยคอื อาสาสมัครสาธารณสขุ ชมุ ชน ทไ่ี มม่ โี ทรศพั ทม์ อื ถอื หรอื ไมม่ เี ครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยแบบสอบถามออนไลน์ (Online Questionnaire) วเิ คราะหข์ อ้ มูลดว้ ยจานวน รอ้ ยละ และค่าเฉลยี่ ความสัมพันธข์ องตัวแปรกับความรอบรู ้ ดา้ นอนามัยสง่ิ แวดลอ้ มและการป้ องกันผลกระทบต่อสุขภาพ วเิ คราะหด์ ว้ ยสถติ ิ Chi-square โดยเกณฑ์ การประเมนิ การจัดระดับคะแนนเฉลี่ยของความคดิ เห็นเกยี่ วกับความรอบรูด้ า้ นอนามัยสงิ่ แวดลอ้ ม และ พฤตกิ รรมการป้ องกันผลกระทบตอ่ สขุ ภาพจากฝ่ นุ ละอองขนาดไมเ่ กนิ 2.5 ไมครอน (PM2.5) แบ่งไดเ้ ป็ น 3 ระดับ ดังนี้ คะแนนเฉลยี่ 4.01 - 5.00 หรอื มากกว่า 80% ของคะแนนเต็ม แสดงว่าอยใู่ นระดับมาก คะแนนเฉลยี่ 3.01 - 4.00 หรอื ตัง้ แต่ 60 - 80% ของคะแนนเต็ม แสดงวา่ อยใู่ นระดับปานกลาง คะแนน เฉลยี่ 1.00 - 3.00 หรอื นอ้ ยกวา่ 60% ของคะแนนเต็ม แสดงวา่ อยใู่ นระดับนอ้ ย ผล: พบวา่ ความรอบรูด้ า้ นอนามัยสง่ิ แวดลอ้ มและพฤตกิ รรมการป้ องกันผลกระทบต่อสขุ ภาพจาก PM 2.5 มากกวา่ ครง่ึ หนงึ่ นัน้ มรี ะดับ “ ปานกลาง” ประสบการณก์ ารทางานของอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาหมบู่ า้ นมี ความสมั พันธก์ บั ความรอบรดู ้ า้ นอนามยั สง่ิ แวดลอ้ มและพฤตกิ รรมการป้ องกันผลกระทบจาก PM 2.5 อยา่ งมี นัยสาคัญทางสถติ ทิ รี่ ะดับ 0.05 จงึ มคี วามจาเป็ นทีจ่ ะตอ้ งส่งเสรมิ ความรูด้ า้ นสุขภาพแก่อาสาสมัคร สาธารณสขุ ในหมบู่ า้ น ซง่ึ เป็ นองคป์ ระกอบทสี่ าคัญในการหลกี เลย่ี งการสมั ผัสกับความเสย่ี งทส่ี ง่ ผลกระทบ ตอ่ สุขภาพตัง้ แต่ระดับบคุ คลจนถงึ ระดับชมุ ชน มุ่งส่กู ารมชี มุ ชนทเี่ ขม้ แข็ง สามารถจัดการตนเองได ้ มกี าร พัฒนาและยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ในชมุ ชน คาสาคญั : ความรอบรูด้ า้ นอนามัยสงิ่ แวดลอ้ ม, พฤตกิ รรมการป้ องกนั ผลกระทบต่อสขุ ภาพจาก PM 2.5, PM 2.5 การประชมุ วชิ าการระดับชาติ เครอื ขา่ ยวจิ ัยโรงพยาบาล ครงั้ ท่ี 13 (HoRNetS 2021) ประจาปี 2564
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106