การคิดแยกแยะระหว่างประโยชน์ สว่ นตนและประโยชน์ส่วนรวม นางสาวธญั ญา ชานินอก เจา้ พนักงานป้องกันการทจุ รติ ชานาญการ สานักงาน ป.ป.ช. ประจาจังหวัดอทุ ัยธานี
ผลประโยชนส์ ว่ นตน ผลประโยชน์สว่ นรวม แยกแยะไม่ได้ ภัยเงยี บ ....ทารา้ ยเรา ทาลายชาติ
พฤตกิ รรมที่พบวา่ เป็นการกระทาเพ่ือประโยชน์สว่ นตน การแซงควิ การจอดรถซ้อนคัน การขบั ขรี่ ถมอเตอรไ์ ซคบ์ นทางเท้า การขายของบนทางสาธารณะ การท้ิงเศษอาหารลงในทอ่ ระบายน้า ฯลฯ
ประโยชน์ของสว่ นรวม แต่ ทาเพื่อประโยชนส์ ่วนตน
ประโยชน์ของสว่ นรวม แต่ ทาเพื่อประโยชนส์ ่วนตน
ประโยชนข์ องสว่ นรวมแต่ทาเพื่อประโยชนส์ ่วนตน
ประโยชน์ของสว่ นรวมแตท่ าเพอ่ื ประโยชนส์ ่วนตน การใช้อานาจโดยมิชอบ การใชท้ รัพย์สนิ ของทาง + การลว่ งรู้ขอ้ มูล ราชการ
วิธกี าร การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและ ปลูกฝัง ผลประโยชน์ส่วนรวม กลอ่ มเกลา การปรบั เปลี่ยน mind set
ความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั ได้ ปฏบิ ตั ิตนเหน็ แกส่ ว่ นรวม ผลลพั ธ์ที่ต้องการ
ความหมายประโยชน์สว่ นตน/ประโยชน์ส่วนรวม ประโยชนส์ ว่ นตน (Private Interest) คือ การทบ่ี คุ คลใด ๆ ไมว่ า่ จะอยู่ในสถานะของ บคุ คลทวั่ ไป เจา้ หน้าทีข่ องรฐั ไดท้ ากจิ กรรมหรือการกระทาต่าง ๆ เพอ่ื ความสนใจ ตนเอง การคานงึ ถึงประโยชน์ตนเอง ครอบครวั เครอื ญาติ พวกพอ้ ง ประโยชน์ส่วนรวม (Public Interest) คอื การท่ีบคุ คลใด ๆ ในสถานะท่ีเปน็ เจ้าหนา้ ทขี่ องรฐั (ดารงตาแหนง่ ทางการเมอื ง ขา้ ราชการ พนกั งานรัฐวสิ าหกิจ หรือ เจา้ หน้าท่ขี องรฐั ในหน่วยงานของรฐั ) ไดก้ ระทาการใด ๆ ตามหนา้ ที่หรือเกี่ยวเนื่องกบั อานาจตามกฎหมายแต่มีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สว่ นตน
ประโยชนส์ ่วนรวมเพอ่ื ประโยชนส์ ว่ นตน ถา้ ไม่สามารถแยกแยะได้ เอาประโยชน์สว่ นรวมมาเป็น ประโยชนข์ องตนเอง นาไปสู่ การทจุ รติ ต่อหนา้ ท่ี
ความสาคญั ของการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม
รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 • ม.184 หมวดที่ • ม.185 9 • ม.186 • ม.187 หมวดที่ • องค์กรอิสระ ม.248 13 วรรคสาม หมวดท่ี • การปกครอง 14 ส่วนท้องถ่ิน ม.250 วรรคห้า
พระราชบญั ญัติประกอบรฐั ธรรมนูญวา่ ดว้ ยการ ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ พ.ศ. 2561 หมวด 1 คณะกรรมการป.ป.ช. หมวด 2 การไต่สวน หมวด 3 การดาเนนิ การกับผดู้ ารงตาแหนง่ ทางการเมืองและผดู้ ารงตาแหนง่ เฉพาะ หมวด 4 การดาเนนิ การกบั เจา้ หน้าทข่ี องรัฐ หมวด 5 การดาเนินการเกยี่ วกับทรพั ยส์ ิน
พระราชบญั ญตั ิประกอบรฐั ธรรมนูญว่าดว้ ยการป้องกนั และปราบปราม การทจุ ริต พ.ศ. 2561 หมวด 6 การขัดกนั ระหวา่ งประโยชน์สว่ นบุคคลกับประโยชนส์ ่วนรวม หมวด 7 การสง่ เสรมิ การปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริต หมวด 8 ความร่วมมือกบั ตา่ งประเทศ หมวด 9 สานักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ หมวด 10 กองทนุ ป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ หมวด 11 บทกาหนดโทษ
กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การขดั กันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม 1. ประกาศคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์ การรับทรัพยส์ ินหรอื ประโยชน์อื่นใดโดยธธรรมจรรยาของเจา้ หนา้ ที่ของรฐั พ.ศ. 2563 2. ระเบียบสานกั นายกรฐั มนตรีว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจา้ หนา้ ที่ของรัฐ พ.ศ. 2544 3. ระเบยี บสานักนายกรฐั มนตรวี ่าด้วยการเรยี่ ไรข่ องหนว่ ยงานของรัฐ พ.ศ. 2544 4. บทบาทของรฐั /เจา้ หนา้ ที่ของรฐั 6. จรรยาบรรณระหวา่ งประเทศสาหรับเจา้ หน้าทีข่ องรฐั
มาตรฐานทางจรยิ ธรรมของเจา้ หนา้ ทีข่ องรฐั 7 ขอ้ 1. ยดึ ม่ันในสถาบันหลักของประเทศ อันไดแ้ ก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์เปน็ ประมขุ 2. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต มีจติ สานึกที่ดแี ละรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ี 3. กล้าตดั สินใจและกระทาในสิ่งทถี่ ูกต้องชอบธรรม
4. คิดถงึ ประโยชน์ส่วนรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนตัว และมจี ติ สาธารณะ 5.มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน 6.ปฏิบตั หิ น้าทอ่ี ยา่ งเป็นธรรมและไมเ่ ลือกปฏบิ ัติ 7.ดารงตนเปน็ แบบอย่างทีด่ แี ละรกั ษาภาพลักษณข์ อง ทางราชการ
ผลทีเ่ กิดขนึ้ จากการไมแ่ ยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม ทางสังคม ทางกฎหมาย
เลาดาร์แอร์ 26 พ.ค. 2534 ตกลงในเขตอทุ ยานแห่งชาติเขาพุเตย มีผเู้ สียชวี ติ ทั้งสน้ิ 223 คน (ผ้โู ดยสาร 213 คน นักบนิ 2 คน ลูกเรือ (พนกั งานต้อนรับ) 8 คน
ไมแ่ ยกแยะ/ไม่ยับยัง้ นาไปสูก่ ารละเมดิ สิทธิของผู้อน่ื การทาผดิ จริยธรรม ความเสย่ี งตอ่ การทาผิดกฎหมาย การทจุ ริตตอ่ หนา้ ท่ี
ถา้ จะต้องเลือก ผลประโยชน์สว่ นตน ความรบั ผิดชอบ ผลประโยชน์สว่ นรวม คุณธรรม จริยธรรม กฎหมาย ประโยชน์ส่วนรวมเป็นท่ีตั้ง
การขดั กนั ระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ไม่ใช่การทจุ รติ เสมอไป แตเ่ ป็นความเสย่ี งท่จี ะนาไปสูก่ ารทจุ รติ ตอ่ หนา้ ท่ี จรยิ ธรรม Conflict Of Interest กฎหมาย
ผิดจรยิ ธรรม มปี ระโยชนท์ บั ซอ้ น ผิดกฎหมาย ทุจริต มบี ทลงโทษ ผลประโยชน์ บางกรณไี ม่ผิดกฎหมาย แตผ่ ิดจริยธรรมและไม่ ทับซ้อน เหมาะสม บางกรณีผดิ กฎหมาย มีบทลงโทษ จริยธรรม ไม่ผดิ กฎหมาย ไม่เปน็ ประโยชน์ทบั ซอ้ น แต่ไม่ เหมาะสม ไมส่ มควรกระทา *มิได้หมายความว่ามีการทุจริตเสมอไป แต่จะเป็นต้นเหตุให้เกิดการทุจริต
หลกั การสากลในการปฏิบัติงาน ตอ้ งสามารถแยกเรือ่ ง ตาแหน่งหน้าท่ี กบั เร่ืองส่วนตวั ออกจากกนั ได้ และห้ามการกระทาทเ่ี ป็นการขดั กนั ระหวา่ งประโยชน์ส่วนตนกับประโยชนส์ ว่ นรวม
เม่ือต้องเลือก ส่วนตน หรอื สถานการณ์ ที่ 1 เจ้าหนา้ ทีข่ องรฐั ราชการ เลอื ก สถานการณท์ ี่ 2 กระทาการ/ตดั สนิ ใจ / ใชด้ ลุ พินิจ
การกระทาที่เขา้ ขา่ ยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ การเขา้ เป็ นคส่ ู ญั ญา / มีสว่ นได้ การใชต้ าแหน่งหนา้ ท่ี เสยี เออื้ ประโยชนแ์ ก่เครือ ญาติและพวกพอ้ ง การใชอ้ ทิ ธพิ ลเขา้ ไปมีผล ต่อการตัดสินใจของ เจ้าหน้าทีข่ องรฐั หรอื หน่วยงานของรฐั อ่นื
ใช้ของหลวง ใช้เวลา ใช้สถานทหี่ ลวง - วสั ดุ อปุ กรณ์ - ทำ้ เรอ่ื งสว่ นตวั - เรอื่ งส่วนตัว เชน่ จดั เลยี งวันเกดิ - ไปรษณยี ์ - น้ำ ใชต้ าแหน่ง - ไฟ - แสวงหำประโยชน์ เชน่ - รถ ต่อสัญญำจ้ำง ใชด้ ลุ พนิ ิจ ใชอ้ านาจ - เออื ประโยชน์ /อุปถัมภ์ - ให้บุคลำกร ไปท้ำธุระสว่ นตัว ใชค้ นหลวง ใช้เงินหลวง - ให้ภำรโรงไปท้ำเรื่อง - ยกั ยอก สว่ นตวั ในเวลำรำชกำร
ประโยชน์ส่วนรวมเพ่อื ประโยชน์สว่ นตน ถา้ ไมส่ ามารถแยกแยะได้ เอาประโยชนส์ ่วนรวมมาเป็น ประโยชน์ของตนเอง นาไปสู่ การทจุ ริตตอ่ หน้าที่ เชน่ - ใชอ้ านาจโดยมิชอบ - การใชท้ รัพย์สนิ ของทางราชการ - การมีหนุ้ ส่วนเกินกวา่ กฎหมายกาหนด - การเป็นกรรมการ ลกู จา้ งของบริษทั เอกชน
แยกแยะไมไ่ ดน้ าส่กู ารทุจรติ ต่อหน้าท่ี ใชอ้ านาจโดยมิชอบ การใช้ทรพั ยส์ นิ ของทางราชการ การมีหุน้ สว่ นเกินกวา่ กฎหมายกาหนด การเป็นกรรมการ ลูกจา้ งของบริษทั เอกชน
การทุจริต /ทุจริตต่อหน้าที่ ทุจรติ ต่อ ทุจริต ประพฤตชิ ่วั โกง ไมซ่ ือ่ ตรง หนา้ ที่ ปฏบิ ัตหิ รือละเว้นการปฏบิ ตั ิอย่างใดในตาแหนง่ หรือหนา้ ที่ หรอื ปฏิบตั หิ รอื ละเวน้ การปฏบิ ตั ิอย่างใดในพฤตกิ ารณท์ อ่ี าจทาให้ผ้อู ่ืนเช่ือวา่ มตี าแหน่งหรือหน้าท่ีทัง้ ที่ ตนมิได้มตี าแหนง่ หรือหน้าทีน่ ้นั หรือใชอ้ านาจในตาแหนง่ หรือหน้าท่ีท้ังนเ้ี พอ่ื แสวงหาประโยชน์ท่ีมคิ วรไดโ้ ดยชอบสาหรับตนเองหรือผ้อู น่ื การกระทาอนั เปน็ ความผิดตอ่ ตาแหน่งหนา้ ที่ราชการ หรอื การกระทาความผดิ ตอ่ ตาแหน่งหน้าท่ีในการ ยุตธิ รรม รา่ รวยผิดปกตใิ ห้ถือวา่ กระทาผิดฐานทจุ รติ ต่อหน้าท่ี
พิพากษาคดีทุจริต 1. จัดซ้อื จดั จา้ งไม่ถกู ต้อง 2. ตรวจรับงานไมถ่ กู ต้อง 3. เบิกจ่ายเทจ็ 4. ปลอมเอกสาร /ใบเสร็จรบั เงิน 5. หลีกเลย่ี งเบกิ งบประมาณโครงการตา่ ง ๆ
6. นาวัสดุมาก่อนล่วงหน้าแลว้ ทาการจดั ซื้อจัดจา้ งภายหลงั 7. ขยายเวลาเพื่อเอื้อประโยชนผ์ ู้รบั จ้าง 8. ใหเ้ ครอื ญาติจดทะเบียนพาณิชย์และให้ญาติเปน็ คู่สัญญา กับหนว่ ยงาน 9. ทาโครงการดูงาน วันแรกแจง้ ว่ามกี ารอบรม แตเ่ ป็นการ บรรยายเพื่อเตรียมตัวเดนิ ทาง ไม่มีการอบรมจรงิ 10. รายชือ่ ผูเ้ ข้าอบรม ไม่ได้อบรมจรงิ แตม่ ีการเบิกจ่าย งบประมาณ 11. ทาเอกสารโครงการศกึ ษาดูงานเทจ็
วิธกี ารแกป้ ญั หา การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตน การปรับฐานความคดิ การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วน ตนและผลประโยชน์ส่วนรวม คดิ เป็น คดิ ดี คดิ ได้
คดิ เป็น - คดิ แยกเรอ่ื งประโยชนส์ ่วนบคุ คลและประโยชนส์ ว่ นรวม ออกจากกันอยต่างอ้ ชงัดคเิดจเนป็น - คดิ แยกเร่ืองตาแหนง่ หน้าที่ กับ เรือ่ งส่วนตัวออกจากกัน - คิดทจี่ ะไม่นาประโยชนส์ ว่ นตนกับประโยชน์ส่วนรวมมา ปะปนกัน มาก้าวก่ายกนั - คดิ ทจ่ี ะไม่เอาประโยชน์สว่ นรวมมาเปน็ ประโยชนส์ ว่ นตน - คิดทจ่ี ะไม่เอาผลประโยชนส์ ่วนรวมมาตอบแทนบญุ คุณ สว่ นตน - คดิ เหน็ แกป่ ระโยชนส์ ่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เครือญาติ และพวกพ้อง
คดิ ดี - คิดแบบพอเพยี ง ไมเ่ บยี ดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียน ผ้อู น่ื และไม่เบียดเบยี นประเทศชาติ - คดิ อย่างรับผิดชอบตามบทบาทหน้าท่ี กฎ ระเบียบ - คดิ ตามคุณธรรม
คดิ ได้ - คิดก่อนทา (กอ่ นกระทาการทุจรติ ) - คดิ ถงึ ผลเสียกระทบต่อประเทศชาติ (ความเสยี หาย ท่ีเกิดข้ึนกบั ประเทศในทกุ ๆ ดา้ น) - คิดถึงผทู้ ไี่ ดร้ บั บทลงโทษจากการทุจรติ (นามาเปน็ บทเรยี น) - คดิ ถึงผลเสยี ผลกระทบท่เี กดิ ขึน้ กับตนเอง (จะตอ้ งอยู่กบั ความเส่ยี งทจ่ี ะถูกร้องเรียน ถกู ลงโทษ ถกู ตดิ คุก) - คิดถงึ คนรอบข้าง(เสอ่ื มเสยี ตอ่ ครอบครวั และวงศต์ ระกูล - คิดอยา่ งมสี ตสิ มั ปชญั ญะ
SEE ทศั นคติ GET DO ผลลพั ธ์ พฤตกิ รรม ท่มี า : นายศภุ วทิ ย์ ภาษิตนิรนั ดร์
พระราชบญั ญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญว่าดว้ ยการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริต พ.ศ. 2561 มาตรา 126 และ 127 ห้าม เจ้าพนักงานของรฐั ดาเนนิ กิจการท่ี เปน็ การขัดกนั ระหวา่ งประโยชนส์ ว่ นบคุ คลกบั ประโยชน์ส่วนรวม มาตรา 128 ห้าม เจ้าพนกั งานของรัฐรบั ทรัพยส์ ินหรอื ประโยชน์ อ่นื ใดอันอาจคานวณเป็นเงินได้
มาตรา 126 ห้ามเจ้าพนกั งานของรัฐเป็นคู่สญั ญากบั หน่วยงานของรัฐ และหา้ มเขา้ ไปมีส่วนไดเ้ สยี ในธรุ กจิ ของเอกชน ในขณะดำ้ รงต้ำแหนง่ (1) เป็นคู่สญั ญำ หรือ มีสว่ นได้เสียในสัญญำที่ทำ้ กบั หน่วยงำนของรัฐ (2) เป็นหนุ้ ส่วนในห้ำงหนุ้ ส่วน หรอื ผู้ถือหุ้นในบริษทั ท่เี ขำ้ เป็นคู่สญั ญำกบั หน่วยงำนของรฐั (3) รับสมั ปทำน หรอื คงถอื ไวซ้ ึง่ สัมปทำนจำกรัฐ หรอื เขำ้ เปน็ คู่สญั ญำอันมีลกั ษณะผูกขำด ตดั ตอน เป็นห้นุ สว่ นในห้ำงหุ้นสว่ น หรือ ผถู้ ือหนุ้ ในบรษิ ัทที่รบั สมั ปทำน หรอื เขำ้ มำเปน็ คสู่ ญั ญำ ในลักษณะดังกลำ่ ว (4) เขำ้ ไปมีส่วนได้เสียในธุรกจิ ของเอกชนในฐำนะเป็นกรรมกำร ที่ปรึกษำ ตัวแทน พนกั งำน หรือลูกจำ้ งในธรุ กจิ ของเอกชนซ่ึงอยู่ภำยใต้กำรกำ้ กบั ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ ของหน่วยงำนของรัฐ
มาตรา 127 ห้ามเจ้าพนักงานของรฐั เขา้ ไปมีส่วนได้เสยี ในธุรกิจของเอกชน ภำยใน 2 ปี หลงั จำกท่พี น้ จำกต้ำแหน่ง มำตรำนี กำ้ หนดห้ำมเจำ้ พนักงำนของรฐั ด้ำเนนิ กำรตำมมำตรำ 126 (4) คอื ห้ำมเขำ้ ไปมสี ่วนได้เสยี ในธุรกิจของเอกชนในฐำนะ กรรมกำร ท่ปี รกึ ษำ ตัวแทน พนกั งำน หรอื ลกู จำ้ ง ภำยใน 2 ปี นบั แต่ วันที่พน้ จำกตำ้ แหน่ง
ความแตกต่างระหวา่ งมาตรา 126 กับ มาตรา 127 มาตรา 126 ความแตกต่าง มาตรา 127 1. ผ้ดู ารงตาแหน่งในองค์กรอสิ ระ ตาแหนง่ ทห่ี า้ มดาเนนิ 1. ผู้ด้ำรงตำ้ แหน่งในองคก์ รอสิ ระ 2. ผูด้ ารงตาแหนง่ ทางการเมือง กจิ การ 2. ผูด้ ้ำรงต้ำแหน่งทำงกำรเมือง 3. ผู้ดารงตาแหน่งระดบั สงู 3. ผู้ด้ำรงตำ้ แหน่งระดบั สูง 4. ผบู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ - หา้ มคูส่ มรส และผ้ซู ่ึงอยกู่ ินกนั ฉนั หา้ มคูส่ มรส - ไมห่ ้ำมคู่สมรสด้ำเนนิ กิจกำร สามีภรยิ า โดยมไิ ดจ้ ดทะเบียนสมรส - ม. 126 หา้ มดาเนินกจิ การตาม กจิ การท่หี า้ มดาเนนิ การ - ม. 127 หำ้ มดำ้ เนนิ กจิ กำรเฉพำะ (1) - (4) ม. 126 (4) - บังคับใช้ขณะดารงตาแหน่ง ชว่ งเวลาที่ห้าม - บงั คับใชห้ ลงั พน้ จำกต้ำแหนง่ - จาคุกไมเ่ กิน 3 ปี หรือปรับไมเ่ กนิ โทษ - จำ้ คกุ ไม่เกิน 6 เดือน หรือปรบั ไม่ 60,000 บาท หรือ ทั้งจาท้งั ปรับ เกิน 10,000 บำท หรอื ทงั จ้ำทังปรบั
มาตรา 128 หา้ มเจา้ พนักงานของรัฐรบั ทรพั ยส์ ินหรือประโยชนอ์ ่นื ใดอนั อาจ คานวณเปน็ เงินได้ ห้ามเจ้าพนักงาน ผู้ซึ่งพน้ จากการเปน็ ของรัฐทุกคน เจา้ พนักงานของรัฐ ยังไมถ่ ึง 2 ปี ห้ามรบั ทรัพย์สนิ + ประโยชน์อื่นใดอันอาจคานวณเปน็ เงนิ ได้
ผูน้ าแบบไหนท่คี รตู อ้ งการ เย่ยี ม แย่ เฉย ๆ
ตามขอ้ เทจ็ จรงิ ภายในรว้ั กระทรวงเสมาถนนราชดาเนินนอก มกี ระแสข่าวการทจุ รติ ฉอ้ ราษฎรบ์ งั หลวง มาอยา่ งชา้ นานเป็นสบิ ๆ ปี
การพจิ ารณาแตง่ ตง้ั โยกยา้ ยครูและอาจารย์ มีการว่งิ เตน้ ซ้อื ขายตาแหน่งกนั ครูและอาจารย์ หากอยากไดต้ าแหน่งดีๆ อยากไปบรหิ ารโรงเรยี น ท่มี ชี ่ือแตล่ ะอาเภอและจงั หวดั น้นั ตอ้ งวา่ กนั ดว้ ยเงนิ ทองหลกั แสนเลยทเี ดียว บางโรงเรยี นกเ็ ป็นหลกั ลา้ นบาทเพอ่ื กรยุ ทางไปสูค่ วามยงั่ ยนื มนั่ คง และมงั่ คงั่
Search