ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) บทที่ 3 Dì sān kè 第三课 การแนะนาตวั Zì wǒ jiè shào 自我介绍 บทน้ีเน้อื หาเกี่ยวกบั การทกั ทายทว่ั ไป การทักทายเมื่อไม่ได้เจอกันนาน การถามสารทุกข์สุขดิบ การถามแซ่ การถามช่ือ การแนะนาตนเอง การแนะนาผู้อื่นให้ฝ่ายตรงข้ามรู้จักและการแสดงความดีใจ ที่ได้รู้จักกัน โดยเน้ือหาจะแบ่งออกเป็น คาศัพท์ใหม่ บทสนทนา คาศัพท์เพิ่มเติม บทสนทนาเพ่ิมเติม คาอธิบาย หลักภาษา วัฒนธรรมจีนและแบบฝึกหัด เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจในเนื้อหา ผู้เขียนอธิบาย คาศัพท์ก่อนอธิบายเน้ือหาในบทสนทนา ส่วนเนื้อหาในคาอธิบายและหลักภาษาเป็นการอธิบาย เก่ียวกับหลักการใช้ภาษาจีนที่ถูกต้องพร้อมท้ังยกตัวอย่าง เพ่ือให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น ส่วนเนื้อหาใน วัฒนธรรมจีนอธิบายเก่ียวกับช่ือแซ่คนจีน ส่วนเนื้อหาในแบบฝึกหัดท้ายบทเป็นแบบฝึกหัดที่ หลากหลายเพ่ือเปน็ การทบทวนความร้คู วามเขา้ ใจของผู้อ่าน Shēng cí (动) qǐng wèn ขอถาม (代) คาศพั ท์ใหม่ ( 生 词) (形) nín คุณ ท่าน (名) 1.请问 (动) guì แพง ล้าคา่ 2.您 (代) 3.贵 (名) xìng แซ่ 4.姓 (动) 5.叫 (形) jiào ชื่อ เรียกวา่ 6.什么 7.名字 shénme อะไร 8.认识 9.高兴 míngzi ชอ่ื rènshi รจู้ กั gāoxìng ดใี จ
ภาษาจีนเพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Shuō huà rén Liú Yīng ชอ่ื อิง แซ่หลวิ Luó Yáng ช่อื หยาง แซ่หลวั คสู่ นทนา ( 说 话 人) Wáng lǎoshī อาจารย์หวาง 1.刘英 2.罗阳 3.王老师 Kè wén บทเรยี น (课文) Liú Yīng Luó Yáng เนื้อหาในบทเรียนนี้เป็นการสนทนาระหว่าง “刘 英 ” กับ “罗 阳 ” โดยทั้งสอง ฝ่ายสนทนาโต้ตอบทักทายท่ัวไป ถามแซ่ ถามชื่อ การแนะนาตัวและแสดงความดีใจที่ได้รู้จักกัน Liú Yīng Nǐ hǎo 刘英 : 你好! Luó Yáng Nǐ hǎo 罗阳 : 你好! Liú Yīng Qǐng wèn Nín guì xìng 刘英 : 请 问,您 贵 姓? Luó Yáng Wǒ xìng Luó 罗阳 : 我 姓 罗。 Liú Yīng Nǐ jiào shén me míng zi 刘英 : 你 叫 什 么 名 字? Luó Yáng Wǒ jiào Luó Yáng 罗阳 : 我叫罗 阳。 Liú Yīng Rèn shi nǐ wǒ hěn gāoxìng 刘英 : 认识你我 很 高 兴。 Luó Yáng Rèn shi nǐ wǒ yě hěn gāoxìng 罗阳 : 认识你我也很 高 兴。 Bǔ chōng cí yǔ คาศัพท์เพิม่ เตมิ (补 充 词语) 1. 好久 (名) hǎo jiǔ นานมาก jiàn พบ เจอ 2. 见 (动) 38
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) 3. 了 (助) le แล้ว 4. 还 (副) hái ยัง 5. 可以 (形) kěyǐ ได้ สามารถ 6. 来 (动) lái มา 7. 介绍 (动) jièshào แนะนา 8. 一下儿 (数量) yíxiàr สกั หน่อย 9. 这 (代) zhè น่ี 10.位 (量) wèi ท่าน 11.是 (动) shì เปน็ ใช่ คอื Bǔ chōng kè wén บทเรยี นเพม่ิ เตมิ (补 充 课文) Luó Yáng Liú Yīng เนื้อหาในบทเรียนเพิ่มเติมนี้เป็นการสนทนาระหว่าง “罗 阳 ”, “刘 英 ” และ Wáng lǎo shī “ 王 老师” สนทนาทักทายกันเมื่อไม่ได้เจอกันนาน ถามสารทุกข์สุขดิบ แนะนาผู้อื่นให้ฝ่าย ตรงข้ามรู้จักและแสดงความดีใจที่ได้รู้จักกัน Luó Yáng Liú Yīng Hǎo jiǔ bú jiàn le Nǐ zuì jìn zěnme yàng 罗阳 : 刘 英 !好久不 见了,你最近怎么 样 ? Liú Yīng Hái kě yǐ Wǒ lái jiè shào yí xiàr Zhè wèi shì 刘英 : 还 可以。我来介 绍 一下儿,这 位 是 Wáng lǎo shī 王 老师。 Luó Yáng Wáng lǎo shī Nín hǎo 罗阳 : 王 老师,您 好! Wáng lǎo shī Nǐ hǎo Qǐng wèn Nǐ jiào shén me míng zi 王 老师 : 你好! 请 问,你 叫 什 么 名 字? Luó Yáng Wǒ jiào Luó Yáng Rèn shi nín wǒ hěn gāoxìng 罗阳 : 我 叫 罗 阳 。认识您我 很 高 兴。 39
ภาษาจีนเพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Wáng lǎo shī Wǒ yě shì 王 老师 : 我也是。 Zhù shì คาอธบิ าย (注释) Qǐng Hǎo jiǔ bú jiàn เนื้อหาในคาอธิบายเป็นการอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับหลักการใช้ “ 请 ” และ “好久不 见” เพอ่ื ให้ผอู้ า่ นเขา้ ใจหลักการใช้ภาษาจีนได้งา่ ยข้ึน Qǐng 1. การใช้ “ 请 ” qǐng เมื่อต้องการให้ผู้อื่นทาในสิ่งที่ตนปรารถนา มักจะข้ึนต้นด้วยคาว่า “ 请 ” มีความหมาย ในภาษาไทยว่า “เชิญ” , “กรุณา” , “ขอร้อง” มักวางไว้หนคากริยา เพ่ือแสดงถึงความมีมารยาท บางคร้ังจะใช้เป็นประโยคกล่าวนาในการทักทายหรือใช้เป็นคาขึ้นต้นเมื่อต้องการถามข้อมูล จะมี ความหมายวา่ “ขอโทษค่ะ/ครับ ขอถามหนอ่ ย.....” จะทาให้น้าเสยี งออ่ นลง นา่ ฟังยิง่ ขนึ้ ตัวอย่าง Qǐng nín shàng chē 1) 请 您 上 车。 Qǐng wèn nín guì xìng 2) 请 问,您 贵 姓? Qǐng zuò děng yí huìr 3) 请 坐, 等 一会儿。 Qǐng wèn yī yuàn zài nǎr 4) 请 问,医 院 在 哪儿? Qǐng nín gào sù wǒ nín de shǒu jī hào mǎ 5) 请 您 告诉我,您的 手 机号码。 Hǎo jiǔ bú jiàn 2. การใช้ “好久不 见” Hǎo jiǔ เป็นวลีทักทายเม่ือไม่ได้เจอกันมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง คาว่า “好” แปลว่า “ดี” “久” bú jiàn แปลว่า “นาน” “不” แปลว่า “ไม่” “见” แปลว่า “พบเจอ” ท้ังส่ีคารวมกันในภาษาไทยมี ความหมายว่า “ไม่ได้เจอมานาน” เป็นการทักทายเพื่อแสดงความสนิทสนมกันระหว่างคู่สนทนา 40
ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) ตวั อย่าง Dà jiā hǎo jiǔ bú jiàn 1) 大家好久不 见 。 Hǎo jiǔ bú jiàn nǐ hǎo ma 2) 好久不 见 ,你好 吗? Hǎo jiǔ bú jiàn nǐ zuì jìn zěnme yàng 3) 好久不 见,你最近怎么 样 ? Dà wèi hǎo jiǔ bú jiàn nǐ máng ma 4) 大卫!好久不 见,你 忙 吗? Hǎo jiǔ bú jiàn nǐ bà ba mā ma shēn tǐ hǎo ma 5) 好久不 见,你爸爸 妈妈 身 体好 吗? Yǔ fǎ หลกั ภาษา (语法) Yí xiàr Shén me เน้ือหาในหลักภาษาเป็นการอธิบายเกี่ยวกับหลักการใช้ “一下儿” และ “ 什 么” เพื่อให้ผู้อ่าน เข้าใจหลกั การใช้ภาษาจนี ไดง้ ่ายขน้ึ Yí xiàr 1. การใช้ “一下儿” มีความหมายว่า “.....สักหน่อย” , “.....นิดหน่อย” , “.....สักครู่” แสดงถึงเหตุการณ์ท่ี Yí xiàr ér เกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ สามารถใช้เป็นประโยคที่สมบูรณ์ได้โดยลาพัง “一下儿” สามารถละ “儿” Yí xiàr ได้ “一下儿” เปน็ ลกั ษณนามของคากริยา มักจะวางไว้หลังคากริยา เพ่ือทาหน้าที่เป็นบทเสริมบท กริยา ช่วยใหน้ า้ เสยี งออ่ นลง ฟังแลว้ นมุ่ นวลขน้ึ มรี ปู แบบโครงสร้างดงั ตอ่ ไปนี้ รูปแบบ คากรยิ า Yí xiàr + 一下儿 Yí xiàr สานักพิมพ์แมนดารินเอดูเคช่ัน (2557, หน้า 95) ได้ให้ความหมายของ “一下儿” ว่า บางคร้ังก็ยังส่ือความหมายเชิง “ทดลอง” อีกด้วย ซึ่งถ้าเป็นกรณีใช้ลาพังสามารถเทียบกับภาษาไทย Yí xiàr “สักหน่อย” หรือ “สักครู่” ได้ และกรณีใช้ในรูป “V. + 一下儿” จะตรงกับภาษาไทย “V. + สักหน่อย” หรือ “V. + แป๊บนงึ ” 41
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Yí xiàr เหยนิ จง่ิ เหวิน (2551, หนา้ 106) ไดใ้ ห้ความหมายของ “一下儿” ดงั ตอ่ ไปน้ี Yí xiàr 1.1 ถ้ามบี ทกรรมแล้วบทกรรมเป็นคานาม (นามวล)ี ธรรมดา ตอ้ งตามหลัง “一下儿” 1.2 ถ้าบทกรรมเป็นคานามท่ีเก่ียวกับคนหรือเป็นช่ือคน พอจะอนุโลมให้อยู่ข้างหน้า Yí xiàr “一下儿” ได้ Yí xiàr 1.3 ถ้าบทกรรมเปน็ บุรษุ สรรพนามต้องอยู่ขา้ งหนา้ “一下儿” ตวั อยา่ ง Děng yí xiàr 1) 等 一下儿。 Zài zhè lǐ zuò yí xiàr 2) 在 这里坐一下儿。 Qǐng nín shuō yí xiàr 3) 请 您 说 一下儿。 Wǒ lái jiè shào yí xiàr 4) 我来介 绍 一下儿。 Yī shēng jiǎnchá yí xiàr 5) 医 生 检查一下儿。 Shén me 2. การใช้ “ 什 么” เป็นคาปฤจฉาสรรพนามที่ใช้เพ่ือแสดงคาถาม สามารถวางไว้หลังคากริยาหรือวางไว้หน้า คานามหรือวางไว้หน้าคาคุณศัพท์ หากวางอยู่หลังคากริยาจะเป็นการขยายกริยาตัวน้ัน หากวางอยู่ หนา้ คานามหรือคาคณุ ศพั ทจ์ ะเป็นการขยายนามหรือคาคณุ ศพั ท์ตวั นน้ั มรี ปู แบบโครงสร้างดังต่อไปนี้ รปู แบบ คากรยิ า + Shénme 什么 รูปแบบ Shén me + คาคณุ ศัพท/์ คานาม ตัวอยา่ ง 什么 42
ภาษาจนี เพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Nǐ chī shén me 1) 你吃 什 么? Zhè shì shén me shū 2) 这 是 什 么 书? Nà shì shén me cí diǎn 3) 那是 什 么词典? Mā ma zuò shén me cài 4) 妈妈 做 什 么 菜? Lǎos h ī x ǐ huan h ē shénm e yǐnliào 5) 老师 喜 欢 喝 什 么 饮料? Zhōngguó wénhuà วัฒนธรรมจีน ( 中 国 文化) ชอื่ แซ่คนจนี คนจีนเรียกสกุลว่า “แซ่” ชื่อ-สกุลของคนจีนแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ช่ือและแซ่ แซ่จะ อยู่นาหน้า ส่วนชื่อจะอยู่พยางค์หลัง แซ่ของคนจีนสมัยก่อนมีหนึ่งพยางค์หรือสองพยางค์ แต่ปัจจุบัน แซม่ แี คห่ น่งึ พยางค์ แซ่ที่พบมากที่สุดได้แก่ แซ่หลี่ แซ่หวาง แซ่จาง แซ่หลิวและแซ่เฉิน ส่วนชื่อมีหน่ึง พยางค์หรือสองพยางค์ เวลาเขียนช่ือแซ่ด้วยสัทอักษรพินอิน พยัญชนะตัวแรกของแซ่และชื่อจะต้อง เขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ และต้องเว้นวรรคระหว่างแซ่และช่ือ คนจีนส่วนใหญ่ต้ังชื่อให้บุตร โดยการ เลือกความหมายทต่ี นเองชื่นชอบหรือตัง้ ชอื่ ใหค้ ล้องจองกับคนในครอบครัว เพ่ือแสดงถึงความสัมพันธ์ ของคนในครอบครัว เม่ือตอ้ งการถามแซ่ โดยมารยาทคนจีนจะแสดงการให้เกียรติหรือยกย่องฝ่ายตรงข้ามด้วย Nín guì xìng Nín Guì การถามว่า “您 贵 姓?” คาวา่ “您” แปลวา่ “คุณ” หรือ “ท่าน” คาว่า “贵” แปลว่า “มี Xìng ค่า” คาวา่ “ 姓 ” แปลว่า “แซ”่ มีความหมายในภาษาไทยว่า “แซอ่ นั สงู ส่งของท่านคืออะไร” หรือ Wǒ guì xìng “คุณแซ่อะไร” เมื่อต้องการตอบจะไม่ตอบว่า “我 贵 姓.....” เพราะจะดูเป็นการยกย่องตัวเอง Wǒ xìng จึงให้ตอบแบบทั่ว ๆ ไปว่า “我 姓.....” แปลว่า “ฉันแซ่.....” ถ้าต้องการถามช่ือแซ่คนที่อายุ Nǐ jiào shén me míng zi Nǐ de míng zi jiào shén เท่ากันหรือน้อยกว่าจะถามว่า “你 叫 什 么 名 字?”, “你的 名 字叫 什 me 么?” 43
ภาษาจีนเพื่อการส่ือสาร (Chinese for Communication) คนจีนมแี ซ่หรือนามสกุลมากว่า 5,000 ปีแล้ว หนังสือ “百家姓 ป่ายเจยาซิ่ง” (ร้อยแซ่) ซึ่งแพร่หลายในสมัยโบราณเขียนข้ึนในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ (ค.ศ. 960) หนังสือเล่มนี้รวบรวมแซ่ พยางค์เดียวไว้ 408 แซ่ แซ่หลายพยางค์ 30 แซ่ รวมท้ังหมดเป็น 438 แซ่ ต่อมามีแซ่เพ่ิมขึ้นเร่ือย ๆ รวมทง้ั หมด ประมาณ 4,000 - 6,000 แซ่ แต่แซ่ท่ีใช้จริงน้ันมีเพียงประมาณ 1,000 แซ่ช่ือ - สกุลของ คนจีนแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ชื่อและแซ่ โดยจะเรียกแซ่นาหน้าแล้วตามด้วยช่ือ เวลาเขียนช่ือแซ่ ด้วย สัทอักษรพินอินจะต้องเว้นวรรคระหว่างแซ่และชื่อ ตัวสะกดตัวแรกของแซ่และช่ือจะต้องเขียน ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ แซ่ของคนจีนมี 2 แบบ ได้แก่ แซ่พยางค์เดียวและแซ่หลายพยางค์ โดยแซ่พยางค์ เดียวมีมากกว่า ปัจจุบันแซ่พยางค์เดียวที่พบมากท่ีสุดได้แก่ แซ่หลี่ หวาง จาง หลิวและเฉิน ส่วนแซ่ หลายพยางค์ซ่ึงประกอบด้วยตัวอักษรสองตัวหรือสองตัวขึ้นไปน้ันมีน้อยมาก ท่ีพบมากท่ีสุดได้แก่ แซ่จูเก๋อ โอวหยาง ซือหม่า ตวนมู่ กงซุน เป็นต้น ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว คนจีนจะถือแซ่ตามบิดา มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นท่ีถือแซ่ตามมารดา ผู้หญิงเม่ือแต่งงานแล้ว ก็ยังคงใช้แซ่เดิมของตน ไม่ต้อง เปล่ียนแซ่ตามสามีส่วนช่ือของคนจีนน้ันมีทั้งชื่อพยางค์เดียวและช่ือสองพยางค์ ตัวอักษรตัวท่ีสอง (หรือสาม) ในชื่อสามพยางค์ของคนจีนจานวนมากมักเป็นตัวอักษรที่บ่งถึงรุ่นในตระกูล (กล่าวคือชื่อ ของคนในตระกูลที่เกิดรุ่นเดียวกัน จะใช้ตัวอักษรตัวที่สอง (หรือสาม) ของชื่อเป็นตัวเดียวกัน) หรือมี ความหมายพเิ ศษอ่ืน ๆ (ขนษิ ฐา โสรส, 2558) Liàn xí แบบฝกึ หดั (练习) Rèn dú shēng cí 1. ฝกึ อา่ นและเรยี นรู้คาศพั ท์ (认读 生 词) zhāng huáng lǐ lín 张 黄 李 林 zì jǐ xuéshēng tóngxué xìng fú 自己 学生 同学 幸福 Xuǎn cí tián kòng 2. จงเลอื กคาเตมิ ลงในชอ่ งว่างให้ถกู ตอ้ ง ( 选 词填 空 ) jiè shào hěn shì jiàn zuì jìn 介绍 / 很/ 是/ 见 / 最近 Hǎo jiǔ bú le 2.1 好久不______了。 Nǐ zěnme yàng 2.2 你______怎么 样 ? Wǒ lái yí xiàr 2.3 我来______一下儿。 44
ภาษาจนี เพื่อการส่ือสาร (Chinese for Communication) Zhè wèi Luó lǎo shī 2.4 这 位______罗 老师。 Rèn shi nǐ wǒ gāoxìng 2.5 认识你我______高 兴。 Fān yì tài yǔ 3. จงแปลภาษาจนี เปน็ ภาษาไทยให้ถูกต้อง (翻译泰语) Wǒ jiào Liú Yīng 3.1 我 叫 刘 英。 __________________________________________ Zhè wèi shì Luó lǎo shī 3.2 这 位 是 罗 老师。 __________________________________________ Wǒ lái jiè shào yí xiàr 3.3 我来介 绍 一下儿。 __________________________________________ Rèn shi nǐ wǒ hěn gāoxìng 3.4 认识你我 很 高 兴。 __________________________________________ Hǎo jiǔ bú jiàn le Nǐ zuì jìn zěnme yàng 3.5 好久不 见了,你最近怎么 样 ? __________________________________________ Zào jù 4. จงแต่งประโยคใหส้ มบรู ณ์ (造句) Qǐngwèn 4.1 请 问 = __________________________________ Rèn shi 4.2 认识 = __________________________________ Zuì jìn 4.3 最近 = __________________________________ Gāoxìng 4.4 高 兴 = __________________________________ 45
ภาษาจีนเพื่อการส่ือสาร (Chinese for Communication) Zěn me yàng 4.5 怎么 样 = ________________________________ Huí dá wèn tí 5. จงตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง (回答问题) Nín guì xìng 5.1 您 贵 姓? __________________________________________________________。 Nǐ jiào shén me míng zi 5.2 你 叫 什 么 名 字? __________________________________________________________。 Zhè wèi shì shuí 5.3 这 位 是 谁? __________________________________________________________。 Nǐ lǎo shī guì xìng 5.4 你老师贵 姓? __________________________________________________________。 Nǐ lǎo shī jiào shén me míng zi 5.5 你老师 叫 什 么 名 字? __________________________________________________________。 สรุป 1. ช่ือสกุลของคนจีนต่างกับคนไทย คนไทย “ชื่อ” วางอยู่ข้างหน้า “สกุล” วางอยู่ข้างหลัง แตค่ นจีน “สกลุ ” วางอยู่ข้างหน้า “ชือ่ ” วางอยู่ขา้ งหลัง คนจีนจะเรียกสกุลวา่ “แซ”่ 2. เมื่อต้องการถามแซ่ของฝ่ายตรงข้าม คนจีนจะให้เกียรติและยกย่องฝ่ายตรงด้วยการถาม Nín guì xìng Guì ว่า “您 贵 姓” ในประโยคจะใช้คาวา่ “贵” แปลว่า “มีค่า”มีความหมายภาษาไทยว่า “แซ่อัน สูงสง่ ของท่านคอื อะไร” หรือ “คุณแซ่อะไร” Hǎo jiǔ bú jiàn le Nǐ zuì jìn zěnme 3. เมื่อไม่ได้เจอกันนาน ถามสารทุกข์สุขดิบ “好久不 见了,你最近怎么 yàng 样 ?” ภาษาไทยมคี วามหมายว่า “นานแลว้ ไมไ่ ด้เจอกนั ชว่ งนค้ี ณุ เปน็ อย่างไรบา้ ง” 46
ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Wǒ lái jiè shào yí xiàr 4. แนะนาผู้อื่นให้ฝ่ายตรงข้ามรู้จัก “我来介 绍 一下儿” ภาษาไทยมีความหมาย ว่า “ฉันขอแนะนาสกั หนอ่ ย” Rèn shi nǐ wǒ hěn gāoxìng 5. แสดงความยินดีท่ีได้รู้จัก “认识你我 很 高 兴” ภาษาไทยมีความหมายว่า “รูจ้ กั คุณ ฉันดีใจมาก” qǐng qǐng 6. การใช้ “ 请 ” เม่อื ตอ้ งการใหผ้ อู้ ่ืนทาในสิ่งที่ตนปรารถนา มักจะขึ้นต้นด้วยคาว่า “请 ” มีความหมายในภาษาไทยว่า “เชิญ”, “กรุณา”, “ขอร้อง” มักวางไว้หนคากริยา เพ่ือแสดงถึงความมี มารยาท บางคร้ังจะใช้เป็นประโยคกล่าวนาในการทักทายหรือใช้เป็นคาขึ้นต้นเม่ือต้องการถามข้อมูล จะทาใหน้ ้าเสียงออ่ นลง น่าฟังยง่ิ ข้นึ Qǐng wèn 7. โดยมารยาทของคนจีน เม่ือต้องการถามข้อมูล มักจะข้ึนต้นด้วยคาว่า “ 请 问” ซ่ึงมี ความหมายในภาษาไทยว่า “ขอถามหนอ่ ย” Yí xiàr Yí xià 8. การใช้ “一下儿” หรือ “一下” มีความหมายว่า “....สักหน่อย”, “....นิดหน่อย”, “....สกั ครู่” เป็นลักษณนามของคากริยา มักจะวางไว้หลังคากริยา แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลา ส้นั ๆ ทาหน้าท่ีเป็นบทเสริมบทกรยิ า ช่วยให้นา้ เสยี งออ่ นลง ฟงั แล้วนุ่มนวลขน้ึ มรี ปู แบบโครงสร้างคือ Yí xiàr คากรยิ า + 一下儿 Shén me 9. การใช้ “ 什 么” เป็นคาปฤจฉาสรรพนามท่ีใช้เพื่อแสดงคาถาม สามารถวางไว้หลัง คากริยาหรือวางไว้หน้าคานามหรือวางไว้หน้าคาคุณศัพท์ หากวางอยู่หลังคากริยาจะเป็นการขยาย Shén me กริยาตัวน้ัน มีรูปแบบโครงสร้างคือ คากริยา + 什 么 หากวางอยู่หน้าคานามหรือคาคุณศัพท์จะ Shén me เป็นการขยายนามหรือคาคณุ ศัพท์ตัวน้นั มรี ูปแบบโครงสร้างคือ 什 么 + คาคุณศพั ท/์ คานาม 10. การถามชื่อแซ่คนจีน แซ่จะอยู่นาหน้า ส่วนชื่อจะอยู่ข้างหลัง เมื่อต้องการถามแซ่ Nín guì โดยมารยาทคนจีนจะแสดงการให้เกียรติหรือยกย่องฝ่ายตรงข้ามด้วยการถามว่า “您 贵 xìng Wǒ xìng 姓?” มีความหมายว่า “คุณแซ่อะไร” และจะตอบกลับว่า “我 姓.....” แปลว่า “ฉันแซ่.....” 47
ภาษาจนี เพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) Nǐ jiào shén me míng zi ถ้าต้องการถามชื่อแซ่คนที่อายุเท่ากันหรือน้อยกว่าจะถามว่า “你 叫 什 么 名 字?”, Nǐ de míng zi jiào shén me “你的 名 字叫 什 么?” 48
ภาษาจีนเพื่อการส่ือสาร (Chinese for Communication) บทท่ี 4 Dì sì kè 第四课 ครอบครวั Jiā tíng 家庭 บทน้ีเน้ือหาเก่ียวกับการถามสมาชิกในครอบครัวและถามอายุสมาชิกในครอบครัว โดยเน้ือหา จะแบ่งออกเป็น คาศัพท์ใหม่ บทสนทนา คาศัพท์เพิ่มเติม บทสนทนาเพิ่มเติม คาอธิบาย หลักภาษา วัฒนธรรมจีนและแบบฝึกหัด เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจในเนื้อหา ผู้เขียนอธิบายคาศัพท์ ก่อนอธิบายเนื้อหาในบทสนทนา ส่วนเนื้อหาในคาอธิบายและหลักภาษาเป็นการอธิบายเก่ียวกับ หลกั การใชภ้ าษาจีนท่ีถูกต้องพร้อมท้ังยกตัวอย่าง เพ่ือให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น ส่วนเน้ือหาในวัฒนธรรมจีน อธิบายเกี่ยวกับครอบครัวคนจีน ส่วนเนื้อหาในแบบฝึกหัดท้ายบทเป็นแบบฝึกหัดที่หลากหลาย เพ่ือเป็นการทบทวนความรคู้ วามเข้าใจของผู้อ่าน Shēng cí (名) jiā บ้าน ครอบครวั (代) jǐ ก่ี คาศพั ท์ใหม่ ( 生 词) (量) kǒu คน (ลกั ษณนาม) (名) rén คน 1. 家 (名) yéye ปู่ 2. 几 (名) nǎinai ยา่ 3. 口 (名) wàigōng ตา 4. 人 (名) wàipó ยาย 5. 爷爷 (名) bàba พอ่ 6. 奶奶 (名) māma แม่ 7. 外公 (名) gēge พชี่ าย 8. 外婆 (名) dìdi น้องชาย 9. 爸爸 10.妈妈 11.哥哥 12.弟弟
ภาษาจนี เพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) 13.姐姐 (名) jiějie พ่สี าว 14.妹妹 น้องสาว 15.和 (名) mèimei และ 16.他 เขา (ผ้ชู าย) 17.们 (连) hé พวก (หลายคน) 18.身体 รา่ งกาย สขุ ภาพ 19.都 (代) tā ล้วน ทัง้ หมด (名) men (副) shēntǐ dōu Shuō huà rén Lǐ Fāng ชอ่ื ฟาง แซ่หลี่ Wáng Yǒng ชอ่ื หยง่ แซ่หวาง คสู่ นทนา ( 说 话 人) 1.李芳 2.王勇 Kè wén บทเรียน (课文) Lǐ Fāng Wáng Yǒng เนื้อหาในบทเรียนนี้เป็นการสนทนาระหว่าง “李 芳 ”กับ “ 王 勇 ” โดยทั้งสอง ฝ่ายสนทนาโต้ตอบเก่ียวกับสมาชิกในครอบครัวมีกี่คน มีใครบ้าง และพวกเขาสบายดีไหม Lǐ Fāng Nǐ jiā yǒu jǐ kǒu rén 李芳 :你家有几口 人? Wáng Yǒng Wǒ jiā yǒu shí yì kǒu rén 王 勇 :我家有十一口 人。 Lǐ Fāng Nǐ jiā yǒu shén me rén 李芳 :你家有 什 么 人? Wáng Yǒng Wǒ jiā yǒu yé ye nǎi nai wàigōng wài pó bà ba 王 勇 :我家有爷爷、奶奶、外 公 、外婆、爸爸、 mā ma gē ge dì di jiě jie mèimei hé wǒ 妈妈、哥哥、弟弟、姐姐、妹妹 和我。 Lǐ Fāng Tā men shēn tǐ hǎo ma 李芳 :他 们 身 体好 吗? 50
ภาษาจนี เพื่อการส่ือสาร (Chinese for Communication) Wáng Yǒng Tā men shēn tǐ dōu hěn hǎo 王 勇 :他 们 身 体都 很 好。 Bǔ chōng cí yǔ คาศพั ท์เพม่ิ เตมิ (补 充 词语) 1. 兄弟姐妹 (名) xiōngdìjiěmèi พ่นี ้อง 2. 没有 (动) méiyǒu ไมม่ ี 3. 多 (形) duō เยอะ มาก 4. 大 (形) dà ใหญ่ 5. 今年 (名) jīnnián ปีนี้ 6. 岁 (量) suì ปี ขวบ 7. 她 (代) tā เขา (ผู้หญงิ ) Bǔ chōng kè wén บทเรียนเพ่มิ เตมิ (补 充 课文) Wáng Yǒng Lǐ Fāng เนื้อหาในบทเรียนน้ีเป็นการสนทนาระหว่าง “ 王 勇 ” กับ “李 芳 ” โดยทั้งสองฝ่าย สนทนาโต้ตอบถามสมาชิกในครอบครัวและถามอายุสมาชิกในครอบครัว Wáng Yǒng Nǐ jiā yǒu méi yǒu xiōng dì jiě mèi 王 勇 :你家有 没 有 兄 弟姐妹? Lǐ Fāng Yǒu Wǒ jiā yǒu jiě jie hé mèimei 李芳 :有。我家有 姐姐和妹妹。 Wáng Yǒng Nǐ jiě jie duō dà le 王 勇 :你姐姐多大了? Lǐ Fāng Wǒ jiě jie jīn nián èr shí èr suì le 李芳 :我姐姐今 年 二十二岁了。 Wáng Yǒng Nǐ mèimei ne 王 勇 :你妹妹呢? Lǐ Fāng Tā jīn nián shí bā suì le 李芳 :她今 年 十八岁了。 51
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Zhù shì คาอธิบาย (注释) Jǐ เนื้อหาในคาอธิบายเป็นการอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับหลักการใช้ “几” และการถามอายุ เพอื่ ให้ผู้อ่านเข้าใจหลักการใช้ภาษาจีนไดง้ า่ ยข้ึน Jǐ 1. การใช้ “几” Duōshǎo แปลว่า “ก่ี” , “เท่าไหร่” มีความหมายเหมือนกับคาว่า “多 少 ” ใช้ในประโยค Jǐ คาถามหรือบอกเล่า “几” หากใช้ในประโยคคาถาม มักวางไว้หน้าคานามท่ีต้องการถาม จะใช้ สอบถามจานวนท่ีค่อนข้างน้อย ปกติจะไม่เกินสิบ หากใช้ในประโยคบอกเล่า จะมีความหมายว่า “2 - 3” มรี ปู แบบโครงสร้างดงั ตอ่ ไปนี้ รูปแบบ จานวน + คานาม ? Jǐ พรรณาภา สิริมงคลสกุล (2554, หน้า 137) ได้ให้ความหมายของ “几” ว่า Jǐ Jǐ เมื่อนาเอา “几” มาใช้กบั การถามวนั เดือน ปี จะมีการนาเอา “几” มาใช้ดังน้ี Jǐ hào Jǐ tiān - ถามเก่ยี วกบั วัน เชน่ 几号?几天? Xīng qī jǐ jǐ ge xīng qī - ถามเกีย่ วกบั สัปดาห์ เช่น 星 期几?几个 星期? Jǐ yuè Jǐ ge yuè - ถามเกีย่ วกับเดอื น เช่น 几月?几个月? Jǐ nián - ถามเกี่ยวกบั ปี เช่น 几年? ตวั อย่าง Tā yào jǐ ge píngguǒ 1) 他要几个 苹 果。 Jīn tiān lái le jǐ ge xuéshēng 2) 今天来了几个 学 生 。 52
ภาษาจีนเพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Shàng cì nǐ mǎi jǐ běn cí diǎn 3) 上 次你买几本词典? Nǐ men de gōng sī yǒu jǐ ge rén 4) 你 们 的 公 司有几个 人? Zhè ge xué xí lǎo shī yǒu jǐ mén kè 5) 这 个 学习老师 有几 门 课? 2. การถามอายุ การถามอายุในภาษาจนี จะแบง่ ตามสถานะและวัยของผู้ที่ถูกถาม ถ้าผู้ถามมีอายุน้อยกว่า Nín duō dà le Duō ผู้ถกู ถาม ควรให้เกียรติผู้ถูกถามอย่างสุภาพว่า “您 多大了?” คาว่า “多” แปลว่า “มาก” Dà Nǐ jǐ suì ส่วนคาว่า “大” แปลว่า “ใหญ่” ถ้าผู้ถามมีอายุมากกว่าผู้ถูกถาม มักจะถามว่า “你几岁? Jǐ suì ”คาว่า “几” แปลวา่ “ก่ี” สว่ นคาว่า “岁” แปลวา่ “ขวบ ” , “ ป”ี Yǔ fǎ หลกั ภาษา (语法) Dōu เนื้อหาในหลักภาษาเป็นการอธิบายเกี่ยวกับหลักการใช้ “都” และ “การบอกจานวน” เพ่ือให้ผู้อ่านเขา้ ใจหลกั การใช้ภาษาจนี ได้ง่ายขึ้น Dōu 1. การใช้ “都” Dōu แปลว่า “ทั้งหมด” , “ล้วน” เป็นคาวิเศษณ์ คาว่า “都” มักวางไว้หลังประธานและวางไว้ Dū Shǒu dū หน้าคากริยาหรือคาคุณศัพท์ บางครั้งสามารถออกเสียงว่า “都” เช่น คาว่า “ 首 都 ” แปลว่า “เมืองหลวง” มรี ปู แบบโครงสรา้ งดังต่อไปน้ี ประธาน + Dōu + คากรยิ า/คาคุณศพั ท์ 都 53
ภาษาจนี เพื่อการส่ือสาร (Chinese for Communication) Dōu พรรณาภา สิริมงคลสกุล (2554, หน้า 115 - 116) ได้ให้ความหมายของ “都” ว่า Bù นอกจากน้ี ยังสามารถทาเป็นรูปปฏิเสธได้ โดยการนาคาว่า “不” มาใช้ร่วมด้วย โดยมีวิธีการวาง Bù “不” ดงั น้ี Bù Dōu 1.1 หากวาง “不” ไวห้ ลัง “都” จะมีความหมายวา่ “ทั้งหมดไม่.....” Bù Dōu 1.2 หากวาง “不” ไวห้ นา้ “都” จะมีความหมายวา่ “ไมท่ ั้งหมดท.ี่ ....” ตวั อย่าง Dà jiā dōu lái le 1) 大家都来了。 Wǒmen dōu ài shàng nǐ 2) 我 们 都爱 上 你。 Tā men dōu piàoliang le 3) 他 们 都 漂 亮 了。 Tóngxuémen dōu bù rènzhēn xué xí 4) 同 学 们 都 不 认 真 学习。 Lǎo shī men bù dōu shì zhōngguó rén 5) 老师 们 不 都 是 中 国 人。 2. การบอกจานวนในภาษาจีน การบอกจานวนในภาษาจีนเป็นหน่ึงในโครงสร้างประโยคของหลักภาษาที่พบบ่อยในบทสนทนา มรี ปู แบบโครงสรา้ งดงั ต่อไปน้ี จ+านวน + ลักษณ+ะนาม + คานาม ตัวอยา่ ง Mā ma mǎi le wǔ ge píngguǒ 1) 妈妈 买了五个 苹 果。 Bà ba diǎn le sì fèn jī yóufàn 2) 爸爸 点了四 份 鸡油饭。 54
ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Dì di yào chī liǎng kuài dàngāo 3) 弟弟 要 吃 两 块 蛋糕。 Zǎoshang wǒ hē le yì bēi niú nǎi 4) 早 上 我 喝了一 杯 牛奶。 Lǎo shī yǒu sān běn hàn yǔ cí diǎn 5) 老师 有 三 本 汉语 词典。 Zhōngguó wénhuà วฒั นธรรมจีน ( 中 国 文化) ครอบครวั คนจีน ประเทศจีนเป็นประเทศท่ีมีจานวนประชากรมากท่ีสุดในโลก ทาให้ครอบครัวคนจีนเป็น ครอบครัวใหญ่ เมื่อแต่งงานมีครอบครัว สามีซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวและมีอานาจการปกครองใน ครอบครัว ครอบครวั คนจีนให้ความสาคัญกับบุตรชายมากกว่าบุตรหญิง เพราะบุตรชายเป็นผู้สืบสกุล ส่วนบุตรสาวได้ค่าใช้จ่ายบางส่วน หลังจากแต่งงานบุตรสาวจะถือว่าเป็นคนในครอบครัวสามี ถึงแม้ ไมไ่ ดเ้ ปลี่ยนแซก่ ต็ าม บตุ รสาวจะไม่มีความเกยี่ วข้องทางเศรษฐกจิ ของครอบครัวเดิมอีก แต่ยังคงมีการ ไปมาหาสู่กัน เพราะคนจีนให้ความสาคัญกับความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี นอกจากนี้ยังให้ ความสาคัญกับญาติพ่ีน้อง การนับญาติของคนจีนจะคล้ายกับคนไทยคือ มีการแบ่งเป็นญาติฝ่ายพ่อ ญาติฝา่ ยแม่โยงใยกันมากมาย แต่หลังจากศตวรรษท่ี 20 ครอบครัวของคนจีนเปล่ียนแปลงไปเร่ือย ๆ โดยมแี นวโนม้ ค่อย ๆ เปล่ยี นไปเปน็ ครอบครวั ขนาดเล็กหรือครอบครัวเด่ยี วมากขนึ้ Liàn xí แบบฝึกหัด (练习) Rèn dú shēng cí 1. ฝกึ อา่ นและเรยี นรูค้ าศพั ท์ (认读 生 词) xiǎo zuì nán nǚ 小最 男 女 ā yí shūshu gū mā bó bo 阿姨 叔叔 姑妈 伯伯 Xuǎn cí tiánkòng 2. จงเติมคาลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง ( 选 词填 空 ) jīn nián wǔ shēn tǐ hé dì di 今年 / 五 / 身 体 / 和 / 弟弟 55
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Wǒ jiā yǒu kǒu rén yǒu bà ba mā ma gē ge 我 家 有 _________ 口 人。有; 爸爸、妈妈、哥哥、 dì di wǒ wǒ gē ge èr shí sān suì wǒ 弟弟 _________ 我。我 哥哥 _________ 二十 三 岁。我 jīn nián shí bā suì Tā men dōu hěn hǎo _________ 今年 十八 岁。他 们 _________ 都 很 好。 Fān yì hàn yǔ 3. จงแปลภาษาไทยเปน็ ภาษาจีนใหถ้ ูกตอ้ ง (翻译汉语) 3.1 พ่อแมฉ่ นั สขุ ภาพดี _____________________________________________________________ 3.2 คณุ ยา่ สุขภาพดไี หม _____________________________________________________________ 3.3 คณุ ปขู่ องฉันอายุ 79 ปี _____________________________________________________________ 3.4 ครอบครัวคุณมพี ช่ี ายและน้องชายไหม _____________________________________________________________ 3.5 คณุ ตาและคุณยายของคณุ ปีนอ้ี ายุเทา่ ไหร่ _____________________________________________________________ Zào jù 4. จงแตง่ ประโยคให้สมบรู ณ์ (造句) Shēn tǐ 4.1 身 体 = ___________________________________________________ Méi yǒu 4.2 没 有 = ___________________________________________________ Shén me 4.3 什 么 = ___________________________________________________ Duō dà 4.4 多大 = ___________________________________________________ Jīn nián 4.5 今年 = ___________________________________________________ Huí dá wèn tí 5. จงตอบคาถามให้ถูกต้อง (回答问题) Nǐ jiā yǒu jǐ kǒu rén 5.1 你家有几口 人? 56
ภาษาจนี เพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) __________________________________________________________。 Nǐ jiā yǒu shén me rén 5.2 你家有 什 么 人? __________________________________________________________。 Tā men shēn tǐ hǎo ma 5.3 他 们 身 体好 吗? __________________________________________________________。 Nǐ jiā yǒu méi yǒu xiōng dì jiě mèi 5.4 你家有 没 有 兄 弟姐妹? __________________________________________________________。 Tā men jīn nián duō dà le 5.5 他 们 今年 多大了? __________________________________________________________。 สรุป Xiōng dì jiě mèi 1. คาว่า “ 兄 弟姐妹” มคี วามหมายภาษาไทยวา่ “พนี่ ้อง” 2. ส่วนใหญ่คาศัพท์ท่ีใช้เรียกคนในครอบครัว มักมีสองพยางค์ พยางค์หลังจะอ่านเสียงเบา Bà ba Mā ma เช่น “爸爸” แปลว่า “พ่อ” “妈妈” แปลว่า “แม่” Jǐ 3. การใช้ “几” แปลว่า “ก่ี” , “เท่าไหร่” หากใช้ในประโยคคาถาม มักวางไว้หน้าคานาม จะใช้ถามจานวนท่คี ่อนข้างน้อย แต่ไม่เกินสิบ หากใช้ในประโยคบอกเล่า จะมีความหมายว่า “2 - 3” มรี ปู แบบโครงสรา้ งคือ จานวน + คานาม ? 4. การถามอายุ จะแบ่งตามสถานะและวัยของผู้ที่ถูกถาม ถ้าผู้ถามมีอายุน้อยกว่าผู้ถูกถาม Nín duō dà le ควรให้เกียรติผู้ถูกถามอย่างสุภาพว่า “您 多大了?” ถ้าผู้ถามมีอายุมากกว่าผู้ถูกถาม มักจะ Nǐ jǐ suì ถามวา่ “你几岁?” สองประโยคนแ้ี ปลว่า “คณุ อายเุ ทา่ ไหร่” 57
ภาษาจนี เพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Dōu 5. การใช้ “都” แปลวา่ “ท้งั หมด” “ล้วน” เป็นคาวิเศษณ์ มักวางไว้หลังประธานและวาง Dū ไว้หนา้ คากรยิ าหรือคาคณุ ศัพท์ มรี ปู แบบโครงสรา้ งคอื ประธาน + 都 + คากรยิ า/คาคณุ ศพั ท์ 6. การบอกจานวน เป็นหนึ่งในโครงสร้างประโยคของหลักภาษาจีนท่ีพบบ่อยในบทสนทนา มรี ปู แบบโครงสรา้ งคือ จานวน + ลักษณนาม + คานาม 7. ครอบครัวคนจีนเป็นครอบครัวใหญ่ สามีเป็นหัวหน้าครอบครัวและมีอานาจการปกครอง ในครอบครัว ครอบครัวคนจีนให้ความสาคัญกับบุตรชายมากกว่าบุตรหญิง หลังจากแต่งงานบุตรสาว จะถือว่าเป็นคนในครอบครัวสามี ถึงแม้ไม่ได้เปลี่ยนแซ่ก็ตาม ส่วนญาติพี่น้องจะมีการแบ่งเป็นญาติ ฝ่ายพ่อ ญาติฝ่ายแม่โยงใยกันมากมาย แต่หลังจากศตวรรษที่ 20 ครอบครัวคนจีนเปล่ียนแปลงไป เรื่อย ๆ โดยมแี นวโน้มคอ่ ย ๆ เปลย่ี นไปเป็นครอบครวั ขนาดเลก็ หรอื ครอบครวั เดี่ยวมากข้นึ 58
ภาษาจีนเพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication)
ภาษาจนี เพื่อการส่ือสาร (Chinese for Communication) บทท่ี 5 Dì wǔ kè 第五课 สัญชาติ Guó jí 国籍 บทนี้เน้ือหาเกี่ยวกับการถามสัญชาติ โดยเนื้อหาจะแบ่งออกเป็น คาศัพท์ใหม่ บทสนทนา คาศัพท์เพิ่มเติม บทสนทนาเพิ่มเติม คาอธิบาย หลักภาษา วัฒนธรรมจีนและแบบฝึกหัด เพื่อให้ ผู้อ่านเข้าใจในเนื้อหา ผู้เขียนอธิบายคาศัพท์ก่อนอธิบายเนื้อหาในบทสนทนา ส่วน เนื้อหาใน คาอธิบายและหลักภาษาเป็นการอธิบายเกี่ยวกับหลักการใช้ภาษาจีนที่ถูกต้อง พร้อมทั้ง ยกตัวอย่าง เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น เนื้อหาในวัฒนธรรมจีนจะอธิบายเกี่ยวกับชนชาติจีน เนื้อหาในแบบฝึกหัดท้ายบทเป็นแบบฝึกหัดที่หลากหลายเพื่อเป็นการทบทวนความรู้ความเข้าใจ ของผอู้ ่าน Shēng cí (代) nǎ อนั ไหน (名) guó ประเทศ คาศพั ท์ใหม่ ( 生 词) (名) Tài guó ประเทศไทย (介) zài อยู่ ที่ 1. 哪 (代) nǎr/nǎ lǐ ทไ่ี หน 2. 国 (名) Sòngkǎ สงขลา 3. 泰国 (名) péngyǒu เพื่อน 4. 在 (名) Rìběnrén คนญป่ี ุน่ 5. 哪儿/哪里 (名) Zhōng guó ประเทศจนี 6. 宋卡 (动) zuò ทา 7. 朋友 (动) lǚyóu ท่องเทย่ี ว 8. 日本人 9. 中国 10.做 11.旅游
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Shuō huà rén Zhào Fēng ชื่อเฟงิ แซ่จ้าว Lín Xīng ชอื่ ซงิ แซ่หลิน คสู่ นทนา ( 说 话 人) 1. 赵风 2. 林星 Kè wén บทเรยี น (课文) Zhào Fēng Lín Xīng เนื้อหาในบทเรียนนี้เป็นการสนทนาระหว่าง “ 赵 风 ” กับ “林 星 ” โดยทั้งสอง ฝ่ายสนทนาโต้ตอบเก่ียวกับสัญชาติ ภูมิลาเนา และจุดประสงคใ์ นการมาประเทศจีน Zhào Fēng Qǐng wèn Nǐ shì nǎ guó rén 赵 风 : 请 问,你是 哪 国 人? Lín Xīng Wǒ shì Tài guó rén 林星 :我 是 泰 国 人。 Zhào Fēng Nǐ jiā zài nǎr nǎ lǐ 赵 风 :你 家 在 哪儿/哪里? Lín Xīng Wǒ jiā zài Sòng kǎ Wǒ shì Sòng kǎ rén 林星 :我 家 在 宋 卡,我 是 宋 卡 人。 Zhào Fēng Nǐ péngyou shì nǎ guó rén 赵 风 :你 朋 友是 哪 国 人? Lín Xīng Tā shì rì běn rén 林星 :她是日本 人。 Zhào Fēng Nǐ men lái Zhōng guó zuò shén me 赵 风 :你 们 来 中 国 做 什 么? Lín Xīng Lǚ yóu 林星 :旅游。 Bǔ chōng cí yǔ bù hǎo yì si ขอโทษ cóng...lái มาจาก คาศัพทเ์ พ่มิ เติม (补 充 词语) 1. 不好意思 2. 从...来 60
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) 3. 读书 (名) dúshū เรียนหนังสือ 4. 云南大学 (名) Yúnnán dàxué มหาวทิ ยาลัยยูนนาน 5. 留学生 (副) liúxuéshēng นกั เรียนต่างชาติ 6. 真 (形) zhēn จรงิ 7. 厉害 lìhài เก่งมาก รา้ ยแรง Bǔ chōng kè wén บทเรยี นเพ่มิ เตมิ (补 充 课文) Lín Xīng Zhào Fēng เนื้อหาในบทเรียนเพิ่มเติมนี้เป็นการสนทนาระหว่าง “林 星 ” กับ “ 赵 风 ” สนทนาโต้ตอบเกี่ยวกับการถามสัญชาติ ภูมิลาเนา การกล่าวขอโทษ การกล่าวขอบคุณ และการ แสดงมารยาทในการถามของคนจีน Zhào Fēng Bù hǎo yì si Nǐ shì bú shì Zhōng guó rén 赵 风 :不 好意思!你 是 不是 中 国 人。 Lín Xīng Bú shì 林星 :不是。 Zhào Fēng Nǐ cóng nǎr nǎ lǐ lái 赵 风 :你 从 哪儿/哪里来? Lín Xīng Wǒ cóng Tài guó lái 林星 :我 从 泰 国 来。 Zhào Fēng Nǐ lái Zhōngguó zuò shén me 赵 风 :你来 中 国 做 什 么? Lín Xīng Dú shū Wǒ xiàn zài shì Yúnnán dà xué de liú xuéshēng 林星 :读书。我 现在 是 云南大学 的 留学 生 。 Zhào Fēng Zhēn de ma nǐ hěn lì hài 赵 风 : 真 的吗?你很厉害! Zhù shì คาอธิบาย (注释) Nǎr Nǎ lǐ เน้ือหาในคาอธิบายเป็นการอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับหลักการใช้ “哪儿/哪里” และ “ Bù hǎo yì si 不好意思! ” เพอื่ ใหผ้ ู้อา่ นเข้าใจหลกั การใชภ้ าษาจีนได้งา่ ยข้ึน 61
ภาษาจนี เพื่อการส่ือสาร (Chinese for Communication) Nǎr Nǎ lǐ 1. การใช้ “哪儿/哪里” Nǎr Nǎ lǐ “哪儿” หรือ “哪里” มีความหมายเหมือนกัน แปลว่า “ท่ีไหน” มักใช้ในประโยค คาถามเก่ยี วกบั สถานที่ Nǎ lǐ นอกจากนี้ คาว่า “哪里” สามารถใช้เป็นคาตอบรับคาชมเมื่อฝ่ายตรงข้ามกล่าวคาชม Nǎ lǐ nǎ lǐ พูดส้ัน ๆ ว่า “哪里哪里” มีความหมายในภาษาไทยว่า “ท่ีไหนกันล่ะ” เพ่ือเป็นการแสดง มารยาทการถ่อมตน Nǎr Nǎ lǐ ประวิทย์ เจริญประวัติ (2556, หน้า 147 - 148) ได้ให้ความหมายของ “哪儿/哪里” Zhèr Zhè lǐ และ“ 这 儿/这里” ว่า เสียงม้วนลิ้น “เอ๋อร์” เป็นลักษณะพิเศษของบางท้องถิ่นในประเทศ จีน มักใชใ้ นภาษาพูดสว่ นมากมักพบในภาษาพน้ื ถ่ินทางภาคเหนือเช่นเมืองปักกิ่ง แต่ท้องถ่ินอ่ืนก็มีเสียง มว้ นลิน้ เช่นกนั เชน่ ภาษาอู๋ (พ้ืนที่แถบเมืองซูโจว เซี่ยงไฮ้) เสียงม้วนลิ้นเป็นเรื่องละเอียดซับซ้อนมาก และยากมากสาหรับผู้เร่ิมต้นเรียนภาษาจีน กระท่ังคนจีนอย่างคนปักก่ิงรุ่นใหม่เองก็ยังไม่เข้าใจเสียง ม้วนลน้ิ เสียทงั้ หมด เ สี ย ง ม้ ว น ลิ้ น ข อ ง ภ า ษ า พ้ื น ถ่ิ น บ า ง เ สี ย ง ไ ด้ เ ข้ า ม า ป ะ ป น อ ยู่ ใ น ภ า ษ า จี น ก ล า ง ด้ ว ย แต่ภาษาจีนกลางปัจจุบันพยายามลดเสียงม้วนลิ้นลง โดยเฉพาะในภาษาจีนกลางที่เป็นทางการ มักหลีกเล่ียงการใช้เสียงม้วนล้ิน ดังน้ันสาหรับคนต่างชาติท่ีเรียนภาษาจีน ไม่จาเป็นต้องพูดเสียงม้วน ลนิ้ กส็ ามารถส่อื สารกบั คนจีนได้ Nǎr Nǎ lǐ “哪儿” (อ่าน หน่า แล้วม้วนล้ินทันที) กับ “哪里” (อ่าน หนาหลี่ ไม่ม้วนลิ้น) Nǎ ér สองคานแ้ี ปลเหมือนกนั ว่า “ไหน” หรือ “ทไ่ี หน” ทางภาคเหนือของจีนนิยมพูดม้วนลิ้นเป็น 哪+儿 กลายเปน็ เสียง หนา่ ร์ คอื อา่ น “หน่า” เสรจ็ แล้วก็ม้วนลิน้ ขึน้ ทนั ที (คาวา่ ér เวลาออกเสียงจะตัดเสียง é ทง้ิ ไปเหลอื แตต่ ัว r ซึ่งเปน็ การมว้ นลนิ้ ) Zhèr Zhè lǐ “ 这 儿” ( อ่าน เจ้อ แล้วม้วนล้ินทันที) กับ “这里” (อ่าน เจ้อหล่ี ไม่ม้วนล้ิน) สองคานแี้ ปลเหมอื นกันว่า “นี่” หรอื “ทน่ี ี่” ก็จัดอย่ใู นลกั ษณะเดียวกนั ตวั อย่าง Nǐ zài nǎ lǐ 1) 你 在 哪里? 62
ภาษาจนี เพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Tā zài nǎr xué xí 2) 他 在 哪儿学习? Xiàn zài lǎo shī zài nǎr 3) 现 在 老师 在 哪儿? Bà ba zài nǎ li chī wǔ fàn 4) 爸爸 在 哪里吃 午饭? Nǐ mā ma zài nǎr gōngzuò 5) 你妈妈 在 哪儿 工 作? Bù hǎo yì si 2. การใช้ “不好意思! ” ใช้เมอ่ื ต้องการกล่าวคาขอโทษฝ่ายตรงข้ามหรือแสดงความเกรงใจที่จะขอความช่วยเหลือ จากใหฝ้ า่ ยตรงข้ามในเรอ่ื งเล็ก ๆ นอ้ ย ๆ มีความหมายในภาษาไทยว่า “ขอโทษ” หรอื “เกรงใจ” ตวั อยา่ ง Bù hǎo yì si wǒ ràng yí xiàr 1) 不 好意思!我 让 一下儿? Bù hǎo yì si ràng nín jiǔ děng le 2) 不 好意思! 让 您久 等 了? Bù hǎo yì si gěi nín tiān má fan le 3) 不 好意思!给 您 添 麻烦了? Xiàn zài hái děng zhe wǒ Zhēn b ù hǎo yì si 4) 现 在 还 等 着 我, 真 不 好意思! Jīn tiān ràng nǐ zuò de hěn lèi Zhēn b ù hǎo yì si 5) 今天 让 你 做 得 很累, 真 不 好意思! Yǔ fǎ หลกั ภาษา (语法) De Cóng lái เนอ้ื หาในหลักภาษาเป็นการอธิบายเก่ียวกับหลักการใช้ “的” และ “ 从 .....来” เพ่ือให้ ผูอ้ า่ นเข้าใจหลักการใชภ้ าษาจนี ได้ง่ายข้ึน De 1. การใช้ “的” คานี้ที่ใช้บ่อยในภาษาจีน สามารถใช้ได้หลายรูปแบบและมีความหมายว่า “ท่ี”, “ของ”, “บ้าง”, “ก็” 63
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) De 1.1 เมอ่ื คาสรรพนามหรือคานาม ทาหน้าที่ขยายนามเพ่ือแสดงความเป็นเจ้าของ “的” มคี วามหมายว่า “ของ” วางไว้หลงั ส่วนขยายและวางไว้หนา้ คานาม ใช้เช่อื มระหว่างคาท่ีขยายกับคาท่ี ถูกขยาย ซึ่งคานามที่อยู่ด้านหลังจะเป็นคาหลัก ส่วนคาท่ีอยู่ด้านหน้าเป็นส่วนขยายคานามที่อยู่ ดา้ นหลงั เวลาแปลเป็นภาษาไทยต้องแปลจากข้างหลังไปขา้ งหนา้ มรี ูปแบบโครงสรา้ งดงั ตอ่ ไปนี้ คาสรรพนาม/คานาม + de + คานาม 的 De De 1.2 ใช้เช่ือมส่วนขยายคานามที่อยู่ข้างหน้า “的” กับส่วนหลักท่ีอยู่ข้างหลัง “的” ซึ่งคาที่ทาหน้าที่เป็นส่วนขยายคานามได้คือ คานาม คากริยาหรือคาคุณศัพท์ ส่วนคาท่ีทาหน้าที่เป็น ส่วนหลักคอื คานาม มีความหมายว่า “ซง่ึ ” “ท”ี่ มีรูปแบบโครงสร้างดังต่อไปนี้ คานาม/คากรยิ า/คาคุณศพั ท์ de คานาม + 的+ De พรรณนาภา สิริมงคลสกุล (2556, หน้า 172) ได้ให้ความหมายของการใช้ “的” “ของ” ว่า ในกรณีท่ีบุรุษสรรพนามเป็นเอกพจน์ทาหน้าท่ีขยายคานามท่ีเกี่ยวกับเครือญาติหรือ De De De ความสัมพันธ์ สามารถละ “的” ได้ กรณีวลีน้ัน มี “的” อยู่มากกว่า 1 ให้ตัด “的” ทิ้ง De เหลอื เพยี งแค่ “的” ตัวเดียว De เหยนิ จง่ิ เหวนิ (2555, หน้า 55 - 56) ไดใ้ หค้ วามหมายของ “的” ว่า กรณคี าสรรพนาม De หรือคานามทาหน้าที่เป็นบทขยายนามเพ่ือแสดงความเป็นเจ้าของ ตามปกติจะใช้ “的” เชอื่ มระหว่างคาทีข่ ยายกบั คาทถ่ี ูกขยาย 1) ในกรณีบุรุษสรรพนามท่ีเป็นเอกพจน์ทาหน้าท่ีขยายคานามซึ่งเป็นช่ือท่ี De เก่ียวกับเครือญาติ จะใช้หรือไม่ใช้ “的” ก็ได้ และในภาษาพูดมักจะละ ไว้ (แต่ใช้กถ็ กู ตอ้ งเชน่ กนั ) 64
ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) 2) ในกรณีบุรุษสรรพนาม (ไม่ว่าเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์) ทาหน้าท่ีขยาย De คานามบางส่วนที่เกี่ยวกับคน สามารถละ “的” ได้ ในกรณีเป็นวลีสั้น ๆ De ปกตจิ ะไม่ใช้ “的” ซา้ สองคา ตัวอยา่ ง Mā ma de qiánbāo 1) 妈妈 的 钱 包。 Lǎo shī de gāng bǐ 2) 老师 的 钢 笔。 Gānjìng de bàngōng shì 3) 干净 的 办 公 室。 Tā gěi wǒ mǎi piàoliang de yī fu 4) 他 给 我 买 漂 亮 的衣服。 Wǒ nánpéngyǒu xǐ huan chàng hǎotīng de gē 5) 我 男 朋 友喜 欢 唱 好听 的 歌。 Cóng lái 2. การใช้ “ 从 .....来” Cóng Lái Cóng lái คาวา่ “ 从 ” แปลว่า “จาก” “来” แปลว่า “มา” สองคานี้รวมกัน “ 从 .....来” มี ความหมายวา่ “มาจาก.....” มีรูปแบบโครงสร้างดังต่อไปน้ี Cóng สถานที่ Lái 从+ +来 ตวั อย่าง Nǐ cóng nǎr lái 1) 你 从 哪儿来? Wǒ cóng Sòng kǎ lái 2) 我 从 宋 卡来。 65
ภาษาจนี เพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Nǐ lǎo shī cóng nǎ lǐ lái 3) 你 老师 从 哪里来? Wǒ péngyou cóng Rì běn lái 4) 我 朋 友 从 日本来。 Tā men dōu cóng Zhōngguó lái 5) 他 们 都 从 中 国来。 Zhōngguó wénhuà วัฒนธรรมจีน ( 中 国 文化) ชนชาตจิ ีน ประเทศจีนเป็นประเทศท่ีมีชนชาติเป็นจานวนมาก มีทั้งหมด 56 ชนชาติ หนึ่งในนั้นเป็น Hàn zú “ชนชาติฮั่น” เรียกอีกอย่างว่า “汉族” จานวนมากที่สุดถึงร้อยละ 91.59 ของจานวนประชากร ท้ังหมด ชนชาติฮ่ันมีภาษาและตัวอักษรเป็นของตนเองหรือท่ีเรียกกันว่า “ภาษาจีนกลาง” ซ่ึงเป็นภาษาท่ี ใชส้ ่ือสารกันในปัจจุบัน ชนชาติที่เหลือของจีนอีก 55 ชนชาติเรียกรวมกันว่า “ชนกลุ่มน้อย” หรือเรียก Shǎoshù mín zú อีกอย่างว่า “ 少 数 民族” ซ่ึงมีจานวนประชากรร้อยละ 8.41 ของจานวนประชากรท้ังหมด Měng gǔ zú Huí zú Zàng zú ประกอบด้วยชนชาติมองโกล ( 蒙 古族) ชนชาติหุย (回族) ชนชาติทิเบต ( 藏 族) ชนชาติอุยกูร์ Wéi wú ěr Miáo zú Yì zú Zhuàng zú Bù yī zú (维吾尔) ชนชาติม้ง ( 苗 族) ชนชาติอี๋ (异族) ชนชาติจ้วง ( 壮 族) ชนชาติปู้อี (布依族) Cháoxiǎn zú Mǎn zú Dòng zú Yáo zú ชนชาตเิ กาหลี ( 朝 鲜族) ชนชาติแมนจู (满 族) ชนชาติต้ง ( 侗 族) ชนชาติเย้า (瑶族) ชน Bái zú Tǔ jiā zú Hā ní zú Hā sà kè ชาติไป๋ (白族) ชนชาติถู่เจีย (土家族) ชนชาติฮาหนี (哈尼族) ชนชาติคาร์ซัค (哈萨克 zú Dǎi zú Lí zú Lì sù zú Wǎ zú 族) ชนชาติไต (傣族) ชนชาติหลี (黎族) ชนชาติลี่ซวู่ (傈僳族) ชนชาติว้า (佤族) ชนชาติ Shē zú Gāoshān zú Lā hù zú Shuǐ zú เซอ (畲族) ชนชาติเกาซาน (高 山 族) ชนชาติล่าฮู่ (拉祜族) ชนชาติสุ่ย ( 水 族) ชนชาติ 66
ภาษาจนี เพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) Dōngxiāng zú Nà xī zú Jǐng pō zú ตงเซียง ( 东 乡 族) ชนชาติน่าซี (纳西族) ชนชาติจ่ิงปัว ( 景 颇族) ชนชาติเคอร์กิช ( Kē ěr kè zī zú Tǔ zú Dá hàn ér zú Mù lǎo zú 柯尔克孜族) ชนชาติถู่ (土族) ชนชาติต๋าโว่ร์ (达翰儿族) ชนชาติมู่เหลา (仫佬族) Qiāng zú Bù lǎng zú Sā lā zú ชนชาติเชียง ( 羌 族) ชนชาติปู้หลาง (布朗族) ชนชาติซาลา (撒拉族) ชนชาติเหมาหนัน ( Máonán zú Gē lǎo zú Xī bó zú ā chāng zú 毛 南族) ชนชาติเกอเหล่า (仡佬族) ชนชาติสีป๋อ (锡伯族) ชนชาติอาชาง (阿 昌 族) Pǔ mǐ zú Tǎ jí kè zú Nù zú ชนชาติผูหมี่ (普米族) ชนชาติทาจิก (塔吉克族) ชนชาตินู่ (怒族) ชนชาติอุชเบก Wū zī bié kè zú é luó sī zú è wēn kè zú (乌孜别克族) ชนชาติรัสเซีย (俄罗斯族) ชนชาติเอ้อเวินเค่อ (鄂温克族) ชนชาติ Dé áng zú Bǎo ān zú Yù gù zú Jīng zú เต๋ออั๋ง (德昂族) ชนชาติเป่าอัน (保安族) ชนชาติอวี้กู้ (裕固族) ชนชาติจิง (京族) Tǎ tǎ ěr zú Dú lóng zú è lún chūn zú ชนชาติทาทาร์ (塔塔尔族) ชนชาติตู่หลง (独龙族) ชนชาติเอ้อหลุนชุน (鄂伦 春 族) ชน Hè zhé zú Mén bā zú Luò bā zú ชาติเฮ่อเจ๋อ (赫哲族) ชนชาติเหมินปา ( 门 巴族) ชนชาติล่ัวปา (珞巴族) ชนชาติจีนัว ( Jī nuò zú 基诺族) ซึ่งแต่ละชนชาติมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีวัฒนธรรมประเพณีเป็นของตนเอง แต่ละปีจะมี เทศกาลของชนชาติต่าง ๆ รวมกว่า 1,000 เทศกาล ส่วนใหญ่เทศกาลสาคัญมักจะอยู่ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ชนชาติกลุ่มน้อยแต่ละชนชาติต่างก็มีภาษาเป็นของตนเอง มีเพียงสองชน Huí zú Mǎn zú ชาติคือ ชนชาตหิ ยุ (回族) และชนชาติแมนจู ( 满 族) ที่ใชภ้ าษาจีนกลางในการส่อื สาร Liàn xí แบบฝึกหัด (练习) Rèn dú shēng cí 1. ฝกึ อ่านและเรยี นร้คู าศัพท์ (认读 生 词) 67
ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Lǎo wō Miǎndiàn Yuènán Yīngguó 老挝 缅甸 越南 英国 Měiguó Hánguó Xīn jiā pō Mǎ lái xī yà 美国 韩国 新加坡 马来西亚 Tiánkòng 2. จงเติมคาลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ( 填 空 ) Qǐng wèn Nǐ shì guó rén A : 请 问,你是 ________ 国 人? Wǒ shì guó rén B :我 是 ________ 国 人。 Nǐ jiā zài A :你 家 在 ________ ? Wǒ jiā zài Wǒ shì B :我 家 在 ________ ,我 是 ________ 。 Nǐ shì nǎ guó rén A :你 ________ 是 哪 国 人? Tā shì běn rén B :她是 ________ 本 人。 Nǐ men lái zuò shén me A :你 们 来 ________ 做 什 么? B :______________________________。 Fān yì tài yǔ 3. จงแปลภาษาจีนเปน็ ภาษาไทยใหถ้ ูกต้อง (翻译泰语) Wǒ shì liú xué shēng 3.1 我 是留学 生 。 ___________________________________________ Tā bú shì Tài guó rén 3.2 他不是 泰国 人。 ___________________________________________ Nǐ jiā zài Sòng kǎ ma 3.3 你家 在 宋 卡吗? ___________________________________________ 68
ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Rì běn rén lái Tài guó lǚ yóu 3.4 日本 人来泰国旅游。 ___________________________________________ Wǒ péngyou lái Zhōngguó dú shū 3.5 我 朋 友来 中 国读书。 ___________________________________________ Pái jù 4. จงเรียงประโยคใหถ้ ูกต้อง (排句) lái wǒ Tài guó cóng 4.1 来 / 我 / 泰 国 / 从 ___________________________________________ shì xiàn zài liú xué shēng tā 4.2 是 / 现在 / 留学 生 / 他 ___________________________________________ nǎ lǐ cóng nǐ bà ba lái 4.3 哪里 / 从 / 你 / 爸爸 / 来 ___________________________________________ ma nǐ Zhōng guó rén shì 4.4 吗 / 你 / 中 国 / 人 / 是 ___________________________________________ zuò lái lǎo shī shén me zhè lǐ 4.5 做 / 来 / 老师 / 什 么 / 这里 ___________________________________________ Huí dá wèn tí 5. จงตอบคาถามให้ถูกตอ้ ง (回答问题) Nǐ shì nǎ guó rén 5.1 你是 哪 国 人? ___________________________________________ Nǐ jiā zài nǎr nǎ lǐ 5.2 你 家 在 哪儿/哪里? 69
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) ___________________________________________ Nǐ cóng nǎr nǎ lǐ lái 5.3 你 从 哪儿/哪里来? ___________________________________________ Nǐ shì bú shì Zhōng guó rén 5.4 你 是 不是 中 国 人? ___________________________________________ Nǐ lái Zhōngguó zuò shén me 5.5 你来 中 国 做 什 么? ___________________________________________ สรปุ Nǐ shì nǎ guó rén 1. การถามสัญชาติของฝ่ายตรงข้าม “你是 哪 国 人?” ภาษาไทยมีความหมาย ว่า “คุณเป็นคนสญั ชาติไหน” Dú shū 2. คาว่า “读书” ในภาษาจีนไม่ได้หมายความว่า “อ่านหนังสือ” แต่จะมีความหมายว่า Kàn shū “เรยี นหนงั สือ”สว่ นคาวา่ “อา่ นหนังสือ” ในภาษาจนี มกั จะใช้คาว่า “看 书” Zhēn de ma 3. “ 真 的吗?” เป็นประโยคคาถาม แปลว่า “จริงไหม” แต่บางครั้งเป็นการแสดง ความประหลาดใจ เปน็ การอุทาน ไม่ไดเ้ ป็นประโยคคาถามทีต่ ้องการคาตอบจรงิ ๆ nǐ hěn lì hài 4. ประโยค “你很厉害!” เปน็ คาชมฝา่ ยตรงขา้ ม มีความหมายว่า “คุณเกง่ มาก” nǎr nǎ lǐ 5. การใช้ “哪儿/哪里” แปลว่า “ที่ไหน” มักใช้ในประโยคคาถามเกี่ยวกับสถานท่ี “เอ๋อร์” เปน็ ลักษณะเสยี งม้วนลนิ้ ของภาษาพ้นื ถิ่นบางเสยี งไดเ้ ข้ามาปะปนอยใู่ นภาษาจนี กลางดว้ ย Nǎ lǐ 6. คาว่า “哪里” สามารถใช้เป็นคาตอบรับคาชมเม่ือฝ่ายตรงข้ามกล่าวคาชม โดยการซ้า Nǎ lǐ nǎ lǐ สองคา “哪里哪里” มคี วามหมายว่า “ท่ไี หนกันละ่ ” 70
ภาษาจนี เพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Bù hǎo yì si 7. “不 好意思” มีความหมายว่า “ขอโทษ” หรือ “เกรงใจ” ใช้เมื่อต้องการกล่าวคา ขอโทษฝา่ ยตรงขา้ มหรอื แสดงความเกรงใจที่จะขอความช่วยเหลอื Cóng lái Cóng Lái 8. คาว่า “ 从 .....来”คาว่า “ 从 ” แปลว่า “จาก” “来” แปลว่า “มา” สองคานี้ Cóng lái Cóng lái รวมกนั “ 从 ...来” มีความหมายวา่ “มาจาก...” มีรูปแบบโครงสรา้ งคอื 从 + สถานท่ี +来 Hàn zú 9. ชนชาตจิ ีนในประเทศจีนมีทั้งหมด 56 ชนชาติ “ชนชาติฮ่ัน” เรียกอีกอย่างว่า “汉族” เป็นชนชาติที่มีประชากรมากที่สุด ใช้ภาษาจีนกลางในการสื่อสาร ที่เหลือของจีนอีก 55 ชนชาติ Shǎoshù mín zú เรียกรวมกันว่า “ชนกลุ่มน้อย” หรือเรียกอีกอย่างว่า “ 少 数 民族” ซึ่งแต่ละชนชาติ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีวัฒนธรรมประเพณีเป็นของตนเอง แต่ละปีจะมีเทศกาลของชนชาติต่าง ๆ รวมกว่า 1,000 เทศกาล ชนชาติกลุ่มน้อยแต่ละชนชาติต่างก็มีภาษาเป็นของตนเอง มีเพียงสองชนชาติคือ Huí zú Mǎn zú ชนชาติหยุ (回族)และชนชาติแมนจู ( 满 族) ที่ใช้ภาษาจนี กลางในการสอ่ื สาร 71
ภาษาจนี เพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) บทที่ 6 Dì liù kè 第六课 สถานท่ี Dì diǎn 地点 บทน้ีเนื้อหาสนทนาเกี่ยวกับการถามทาง การบอกทาง การบอกทาง การบอกจุดประสงค์ ในการไปสถานที่นั้น โดยเน้ือหาจะแบ่งออกเป็น คาศัพท์ใหม่ บทสนทนา คาศัพท์เพิ่มเติม บทสนทนา เพิ่มเติม คาอธิบาย หลักภาษา วัฒนธรรมจีนและแบบฝึกหัด เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจในเนื้อหา ผู้เขียนอธิบายคาศัพท์ก่อนอธิบายเนื้อหาในบทสนทนา ส่วนเนื้อหาในคาอธิบายและหลักภาษา เป็นการอธิบายเกี่ยวกับหลักการใช้ภาษาจีนที่ถูกต้องพร้อมทั้งยกตัวอย่าง เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย ขึ้น ส่วนเนื้อหาในวัฒนธรรมจีนอธิบายเก่ียวกับกาแพงเมืองจีน ส่วนเน้ือหาในแบบฝึกหัดท้ายบทเป็น แบบฝึกหัดท่ีหลากหลายเพื่อเป็นการทบทวนความรู้ความเข้าใจของผอู้ า่ น Shēng cí (名) yīyuàn โรงพยาบาล (名) yóujú ทท่ี าการไปรษณยี ์ คาศพั ท์ใหม่ ( 生 词) (名) de ของ (名) duì miàn ตรงขา้ ม 1. 医院 (形) shūfu สบาย 2. 邮局 (副) yào อยาก ต้องการ 3. 的 (动) kàn bìng หาหมอ 4. 对面 (代) zěn me ยงั ไง อย่างไร 5. 舒服 (动) zǒu เดิน ไป 6. 要 (名) lù ทาง ถนน 7. 看病 (代) zánmen พวกเรา 8. 怎么 (副) yì qǐ ด้วยกัน 9. 走 10.路 11.咱们 12.一起
ภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) 13.吧 (助) ba เถอะ Shuō huà rén Sòng Píng ชอ่ื ผิง แซ่ซง่ Zhāng Lóng ชอื่ หลง แซ่จาง คสู่ นทนา ( 说 话 人) 1. 宋平 2. 张龙 Kè wén บทเรยี น (课文) Sòng Píng Zhāng Lóng เนื้อหาในบทเรียนนี้เป็นการสนทนาระหว่าง “ 宋 平 ” กับ “ 张 龙 ” โดยทั้ง สองฝ่ายสนทนาโต้ตอบเกี่ยวกับการถามทาง การบอกทาง การบอกอาการไม่สบาย การบอก สถานท่ีที่ต้องการไป การบอกจุดประสงค์ในการไปสถานที่นั้น Sòng Píng Qǐng wèn yī yuàn zài nǎr nǎ lǐ 宋 平 : 请 问,医 院 在 哪儿/哪里? Zhāng Lóng Zài yóu jú de duìmiàn Nǐ zěn me le 张 龙 :在 邮局 的 对 面 。你 怎 么了! Sòng Píng Wǒ bú tài shū fu Wǒ yào qù yī yuàn kànbìng 宋 平 :我 不太 舒服,我 要去医 院 看 病 。 Zhāng Lóng Nǐ zěnme zǒu 张 龙 :你怎么 走? Sòng Píng Wǒ zǒu lù 宋 平 :我 走路。 Zhāng Lóng Zánmen yì qǐ zǒu ba 张 龙 :咱 们 一起 走 吧! Bǔ chōng cí yǔ คาศัพทเ์ พ่ิมเติม (补 充 词语) 1. 银行 (名) yínháng ธนาคาร qŭ ถอน 2. 取 (动) qián เงนิ zhīdào รู้ ทราบ 3. 钱 (名) 4. 知道 (动) 72
ภาษาจนี เพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) 5. 就 (副) jiù ก็ 6. 邮局 7. 旁边 (名) yóujú ไปรษณี 8. 要 9. 长城 (代) páng biān ดา้ นข้าง (副) yào อยาก ต้องการ (名) Chángchéng กาแพงเมืองจีน Bǔ chōng kè wén บทเรยี นเพม่ิ เติม (补 充 课文) Zhāng Lóng Sòng Píng เนื้อหาในบทเรียนเพิ่มเติมนี้เป็นการสนทนาระหว่าง “ 张 龙 ” กับ “ 宋 平 ” สนทนาเกี่ยวกับการถามทาง การบอกทาง การบอกสถานที่ที่ต้องการไปและบอกจุดประสงค์ ในการไปสถานท่ีนั้น Zhāng Lóng Sòng Píng Wǒ xiǎng qù yínháng qǔ qián Nǐ zhī dào 张 龙 : 宋 平 !我 想 去 银 行 取 钱,你 知道 yín háng zài nǎr nǎ lǐ ma 银 行 在 哪儿/哪里吗? Sòng Píng Zhīdào jiù zài yóu jú de pángbiān 宋平 :知道。就 在 邮局 的 旁 边。 Zhāng Lóng Nǐ men qù nǎr 张 龙 :你 们 去哪儿? Sòng Píng Wǒmen yào qù Chángchéng 宋平 :我 们 要去 长 城 。 Zhāng Lóng Zài jiàn 张 龙 :再 见! Sòng Píng Zài jiàn 宋平 :再 见! Zhù shì คาอธบิ าย (注释) Kànbìng Zǒu lù เน้ือหาในคาอธิบายเป็นการอธิบายเพ่ิมเติมเก่ียวกับหลักการใช้ “看 病 ” , “走路”, Ba Zánmen “吧” และ “咱 们 ” เพอ่ื ให้ผอู้ ่านเขา้ ในหลกั การใชภ้ าษาจีนได้ง่ายขึ้น 73
ภาษาจนี เพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) Kànbìng 1. การใช้ “看 病 ” Kàn bìng คาว่า “看” แปลว่า “ดู” “病 ” แปลว่า “โรค” สองคานี้รวมกันมีความหมายใน ภาษาไทยว่า “หาหมอ” Zǒu lù 2. การใช้ “走路” Zǒu lù คาว่า “走” แปลว่า “เดิน” “路” แปลว่า “ทาง” สองคานี้รวมกันมีความหมายใน ภาษาไทยวา่ “เดนิ ทางด้วยเทา้ ” หรือ “เดินไป” Ba 3. การใช้ “吧” มีความหมายในภาษาไทยว่า “เถอะ สิ นะ แล้วกัน ” เป็นคาช่วยเสริมน้าเสียง มักวางไว้ ทา้ ยประโยค เพ่ือให้ประโยคนา่ ฟงั มากยิง่ ข้ึนสามารถแสดงความหมายหลายอย่าง เช่น ขอร้อง ชักชวน คาดเดา เปน็ ต้น Ba เหยิน จง่ิ เหวิน (2551, หนา้ 227 - 228) ได้ใหค้ วามหมายของการใช้ “吧” ว่า 3.1 ใช้ในประโยคบอกเล่า แสดงน้าเสียงเกล้ียกล่อม ตกลง ขอร้อง ยกตัวอย่าง ฯลฯ แปลว่า “เถอะ ก็แลว้ กนั เลย” 3.2 แสดงนา้ เสียงคาดเดา แปลว่า “ม้ัง กระม้ัง” 3.3 แสดงน้าเสียงลาบากใจกบั ทางเลอื กทง้ั สองอย่าง ตอ้ งใชซ้ ้า ตวั อย่าง Zánmen zǒu ba 1) 咱 们 走 吧! Kuài shàng chē ba 2) 快 上 车 吧! Zhè ge wèn tí tài nán le ba 3) 这 个 问题太 难了吧。 Wǒmen zài zhèr chī fàn ba 4) 我 们 在 这 儿吃 饭 吧。 Wáng lǎo shī hái méi huí jiā ba 5) 王 老师 还 没 回 家吧。 Zánmen 4. การใช้ “咱 们 ” 74
ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) แปลว่า “พวกเรา” เป็นภาษาพูด ซึ่งหมายถึงรวมคู่สนทนาทั้ง 2 ฝ่าย คาน้ีนิยมใช้ในทาง ตอนเหนือของจนี ตัวอยา่ ง Zánmen zǒu ba 1) 咱 们 走 吧! Zánmen yí kuài qù ba 2) 咱 们 一块 去 吧。 Zánmen yì qǐ chī fàn ba 3) 咱 们 一起吃 饭 吧。 Zánmen dōu shì zì jǐ rén nǐ bié kè qi lā 4) 咱 们 都 是 自己人,你 别 客气啦。 Zánmen dōu shì hǎo péngyou méi yǒu bù néng shuō de mì mì 5) 咱 们 都 是 好 朋 友,没 有 不 能 说 的 秘密。 Yǔ fǎ หลกั ภาษา (语法) Xiǎng Zěn me Yì qǐ เน้ือหาในหลักภาษาเป็นการอธิบายเกี่ยวกับหลักการใช้ “ 想 ” , “怎 么” และ “一起” เพ่ือให้ผอู้ ่านเข้าใจหลกั การใช้ภาษาจีนได้ง่ายขึ้น Xiǎng 1. การใช้ “ 想 ” เป็นคากริยาและคากริยาวิเศษณ์ มีความหมายในภาษาไทยว่า “อยากจะ”, “คิดว่า”, “คิดถงึ ” มรี ูปแบบโครงสรา้ งการใช้ดงั ตอ่ ไปนี้ Xiǎng 1.1 “ 想 ” ในความหมายว่า “อยากจะ” รปู แบบ Xiǎng คากรยิ า 想+ Xiǎng 1.2 “ 想 ” ในความหมายว่า “คดิ ว่า” รูปแบบ Xiǎng + วลีหรือประโยค 想 75
ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Xiǎng 1.3 “ 想 ” ในความหมายวา่ “คดิ ถงึ ” รปู แบบ Xiǎng + คานาม / คาสรรพนาม 想 ตวั อย่าง Wǒ xiǎng nǐ 1) 我 想 你。 Mèimèi xiǎng jiā 2) 妹妹 想 家。 Xiǎo Lì xiǎng mǎi xiāngjiāo 3) 小 丽 想 买 香 蕉。 Tā men xiǎng qù zhōngguó liú xué 4) 他 们 想 去 中 国留学。 Fù mǔ xiǎng hái zi bì yè hòu néng zhǎo dào hǎo gōngzuò 5) 父母 想 孩子毕业后, 能 找 到 好 工 作。 Zěn me 2. การใช้ “怎 么” เป็นคาปุจฉาสรรพนามท่ีใช้บ่อยในภาษาจีน มีความหมายภาษาไทยว่า “อย่างไร” , Zěn me “ทาไม” บางครั้งการใช้ “怎 么” ในประโยคคาถามไม่ได้เจตนาถามเพ่ือต้องการคาตอบ แต่อาจ เป็นการแสดงความประหลาดใจต่อสถานการณ์นน้ั ๆ Zěn me 2.1 “怎 么” ในความหมายว่า “อย่างไร” ใชข้ ยายคากรยิ าหรือคาคณุ ศพั ท์ Zěn me 2.2 “怎 么” ในความหมายว่า “ทาไม” Zěn me 2.3 “怎 么” ในความหมายว่า “เป็นอะไรไป” ทาหน้าที่เป็นบทกริยาได้ต่อเมื่อ Le Lā ใช้คู่กับ “了” หรือ “啦” ตวั อย่าง Nǐ zěnme le 1) 你 怎么了。 76
ภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) Nǐ zěnme huí shì 2) 你 怎么 回 事? Zhè ge xī guā zěnme mài 3) 这 个西瓜 怎么 卖? Tā zěnme méi lái shàng kè 4) 他 怎么 没 来 上 课? Nǐ péngyou zěnme bù chī wǎn fàn 5) 你 朋 友 怎么 不吃 晚饭? Yì qǐ 3. การใช้ “一起” มีความหมายภาษาไทยว่า “ด้วยกัน” มักวางไว้หน้าคากริยา โดยมีรูปแบบโครงสร้าง ดงั ต่อไปน้ี รูปแบบ ประธาน Yì qǐ + คากรยิ า + 一起 ตัวอยา่ ง Zánmen yì qǐ zǒu ba 1) 咱 们 一起 走 吧! Wǒmen yì qǐ shàng kè ba 2) 我 们 一起 上 课 吧。 Nǐ men yì qǐ dú yí biàn kè wén 3) 你 们 一起 读 一遍 课文。 Wǒ gēn mā ma yì qǐ qù mǎi cài 4) 我 跟 妈妈 一起 去 买 菜。 Nǐ gēn wǒ yì qǐ qù Shàng hǎi hǎo ma 5) 你 跟 我一起 去 上 海 好 吗? Zhōngguó wénhuà วฒั นธรรมจนี ( 中 国 文化) กาแพงเมืองจนี 77
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Chángchéng Cháng กาแพงเมืองจีน “ 长 城 ” ซึ่งมาจากคาว่า “ 长 ” แปลว่า “ยาว” คาว่า chéng Wàn lǐ chángchéng “ 城 ” แปลว่า “กาแพง” หรือเรียกอีกอย่างว่า กาแพงหมื่นลี้ “ 万 里 长 城 ” เป็นกาแพงทม่ี ีปอ้ มคัน่ เปน็ ช่วง ๆ สร้างเมือ่ 2,500 ปีกว่า ตั้งแตก่ อ่ นสมัยของจ๋นิ ซฮี ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรก ในประวัติศาสตร์จีน กาแพงเมืองจีนสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากชาวฮั่นหรือซฺยงหนูท่ีเข้ามา รุกรานจีนตามแนวชายแดนทางเหนือ กาแพงส่วนใหญ่ท่ีปรากฏในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน สมัยน้ันได้ส่ังให้สร้างกาแพงหมื่นล้ีตามชายแดน เพื่อป้องกันพวกซยงหนูและพวกเติร์กจากทางเหนือ เข้ามารุกราน หลังจากน้ันยังมีการสร้างกาแพงต่ออีกหลายครั้งด้วยกัน แต่ภายหลังก็มีเผ่าเร่ร่อนจาก มองโกเลยี และแมนจูเรยี สามารถบุกฝา่ กาแพงเมืองจีนได้สาเรจ็ Chángchéng Wàn lǐ chángchéng กาแพงเมืองจีน “ 长 城 ” หรือกาแพงหมื่นลี้ “ 万 里 长 城 ” สานักงาน มรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ประกาศเม่ือวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ว่านักโบราณคดีได้ตรวจวัด ความยาวของสิ่งก่อสร้างจากน้ามือมนุษย์ที่ใหญ่ท่ีสุดในโลกหรือ \"กาแพงเมืองจีน\" อย่างเป็นทางการ นานร่วม 5 ปี ต้ังแต่ 2008-2012 และพบว่ายาวกว่าที่บันทึกไว้เดิมกว่า 2 เท่า หรือ 21,196.18 กิโลเมตร จากเดิม 8,850 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลท่ัวประเทศ และนับเป็น 1 ใน 7 สิ่ง มหัศจรรยข์ องโลก Liàn xí แบบฝกึ หัด (练习) Rèn dú shēng cí 1. ฝกึ อ่านและเรียนรูค้ าศพั ท์ (认读 生 词) sì miào gōngyuán shūdiàn jiǔ diàn 寺庙 公园 书店 酒店 jǐngchá jú dòng wù yuán tú shūguǎn diànyǐngyuàn 警察局 动物园 图书 馆 电影 院 Tiánkòng 2. จงเติมคาลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง ( 填 空 ) 2.1 Qǐng wèn zài nǎr nǎ lǐ A : 请 问,_______ 在 哪儿/哪里? Zài yóu jú de B : 在 _______ 邮局 的 _______。 Wǒ xiǎng qù A : 我 想 去_______。 78
ภาษาจีนเพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Nǐ zǒu B : 你_______ 走? Wǒ xiǎng zuò qù A : 我 想 坐 _______ 去。 Wǒ nǐ qù ba B : 我_______ 你去吧! A : __________! B : __________! 2.2 Wǒ xiǎng qù Nǐ zhī dào zài nǎr nǎ lǐ ma A : 我 想 去____,你知道____在哪儿/哪里吗? Zhīdào jiù zài de Wǒ yě xiǎng qù B :知道。就在_____的_____,我也 想 去______。 Nǐ yào A :你要_____________? Wǒ yào B :我 要____________ 。 Zánmen qù hǎo ma A :咱 们 ________去 好 吗? B :____________。 Zào jù 3. จงแตง่ ประโยคสมบรู ณ์ (造句) Qù 3.1 去 = ____________________________________ Zài 3.2 在 = ____________________________________ De 3.3 的 = ____________________________________ Yì qǐ 3.4 一起 = ____________________________________ 79
ภาษาจนี เพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Nǎr 3.5 哪儿 = ____________________________________ Pái jù 4. จงเรียงประโยคใหถ้ กู ต้อง (排句) yī yuàn duìmiàn yóu jú de zài 4.1 医 院 / 对 面 / 邮局 / 的 / 在 ___________________________________________ yī yuàn qù kàn bìng xiǎng tā 4.2 医 院 / 去 / 看 / 病 / 想 /他 ___________________________________________ qián yínháng qù qǔ xiǎng dì di 4.3 钱 / 银 行 / 去 / 取 / 想 / 弟弟 ___________________________________________ de yóu jú zài yínháng jiù pángbiān 4.4 的 / 邮局 / 在 / 银 行 / 就 / 旁 边 ___________________________________________ hǎo yì qǐ Zánmen ma yī yuàn qù 4.5 好 / 一起 / 咱 们 / 吗 / 医 院 / 去 ___________________________________________ Huí dá wèn tí 5. จงตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง (回答问题) Nǐ xuéxiào zài nǎr nǎ lǐ 5.1 你学校 在 哪儿/哪里? ___________________________________________ Nǐ zěnme zǒu 5.2 你怎么 走? ___________________________________________ Nǐ xiǎng zuò chū zū chē qù ma 5.3 你 想 坐 出租车去吗? ___________________________________________ 80
ภาษาจนี เพ่ือการส่ือสาร (Chinese for Communication) Nǐ yào qù yín háng zuò shén me 5.4 你要去银 行 做 什 么? ___________________________________________ Nǐ yào huàn shén me qián 5.5 你要 换 什 么 钱? ___________________________________________ สรปุ Kànbìng 1. 看 病 มีความหมายในภาษาไทยว่า “หาหมอ” Zǒu lù 2. 走路 มีความหมายในภาษาไทยว่า “เดินทางดว้ ยเท้า” หรือ “เดินไป” Xiǎng 3. การใช้ “ 想 ” แปลว่า “อยากจะ”, “คดิ ว่า”, “คดิ ถึง” เป็นคากริยาและคากริยาวิเศษณ์ Xiǎng 3.1 ในความหมายว่า “อยากจะ” รูปแบบโครงสร้างคือ 想 + คากริยา Xiǎng 3.3 ในความหมายวา่ “คิดวา่ ” รปู แบบโครงสรา้ งคือ 想 + วลหี รอื ประโยค Xiǎng 3.3 ในความหมายวา่ “คิดถึง” รปู แบบโครงสร้างคอื 想 + คานาม/คาสรรพนาม Ba 4. คาว่า “吧” มีความหมายว่า “เถอะ สิ นะ แล้วกัน” เป็นคาช่วยเสริมน้าเสียง มักวางไว้ ทา้ ยประโยค แสดงถงึ การขอรอ้ ง ชักชวน คาดเดา เป็นตน้ Zán men 5. คาว่า “咱 们 ” แปลว่า “พวกเรา” เป็นภาษาพูด ซึ่งหมายถึงรวมคู่สนทนาท้ัง 2 ฝ่าย คานนี้ ยิ มใช้ในทางตอนเหนือของจีน Zěn me 6. การใช้ “怎 么” เป็นคาปุจฉาสรรพนามที่ใช้บ่อยในภาษาจีน มีความหมายว่า “อยา่ งไร”, “ทาไม” Zěn me 6.1 “怎 么” ในความหมายวา่ “อย่างไร” ใชข้ ยายคากรยิ าหรือคาคุณศพั ท์ Zěn me 6.2 “怎 么” ในความหมายว่า “ทาไม” 81
ภาษาจนี เพ่ือการสื่อสาร (Chinese for Communication) Zěn me 6.3 “怎 么” ในความหมายว่า “เป็นอะไรไป” ทาหน้าที่เป็นบทกริยาได้ต่อเมื่อ Le Lā ใช้คู่กับ “了” หรือ “啦” Yì qǐ 7. การใช้ “一起” มีความหมายว่า “ด้วยกัน” มักวางไว้หน้าคากริยา มีรูปแบบโครงสร้าง Yì qǐ คอื ประธาน + 一起 + คากรยิ า Chángchéng Wàn lǐ chángchéng 8. กาแพงเมอื งจีน“ 长 城 ”หรอื เรียกอีกอยา่ งว่ากาแพงหม่ืนล้ี “ 万 里 长 城 ” เป็น กาแพงที่มปี ้อมค่ันเป็นช่วง ๆ สร้างเมื่อ 2,500 ปีกว่า ต้ังแต่ก่อนสมัยของจ๋ินซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกใน ประวัติศาสตร์จีน กาแพงเมืองจีนสร้างข้ึนเพ่ือป้องกันการรุกรานจากชาวฮั่นหรือซฺยงหนูท่ีเข้ามา รุกรานจีนตามแนวชายแดนทางเหนือ สานักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ประกาศเม่ือวันท่ี 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555 วา่ นกั โบราณคดีได้ตรวจวัดความยาวของส่ิงก่อสร้างจากน้ามือมนุษย์ท่ีใหญ่ท่ีสุด ในโลกหรือ \"กาแพงเมืองจีน\" และนับเปน็ 1 ใน 7 สง่ิ มหัศจรรย์ของโลก 82
ภาษาจนี เพื่อการสื่อสาร (Chinese for Communication) บทท่ี 7 Dì qī kè 第七课 อาหารจีน Zhōng guó cài 中 国菜 บทน้ีเนื้อหาเก่ียวกับการเชิญลูกค้า การสั่งอาหาร การส่ังเครื่องดื่ม การบอกความต้องการ ในการสัง่ อาหารเพ่ิมและมารยาทการสนทนากับลูกค้า โดยเนื้อหาจะแบ่งออกเป็น คาศัพท์ใหม่ บทสนทนา คาศพั ทเ์ พมิ่ เตมิ บทสนทนาเพ่ิมเติม คาอธบิ าย หลักภาษา วัฒนธรรมจีนและแบบฝึกหัด เพ่ือให้ผู้อ่าน เข้าใจในเนื้อหา ผู้เขียนอธิบายคาศัพท์ก่อนอธิบายเนื้อหาในบทสนทนา ส่วนเน้ือหาในคาอธิบายและ หลักภาษาเป็นการอธิบายเกี่ยวกับหลักการใช้ภาษาจีนที่ถูกต้องพร้อมท้ังยกตัวอย่าง เพ่ือให้ผู้อ่าน เข้าใจง่ายขึ้น ส่วนเนื้อหาในวัฒนธรรมจีนอธิบายเก่ียวกับเป็ดปักก่ิง ส่วนเน้ือหาในแบบฝึกหัดท้ายบท เปน็ แบบฝึกหัดทหี่ ลากหลายเพ่อื เป็นการทบทวนความรู้ความเขา้ ใจของผอู้ ่าน Shēng cí (动) huányìng ยนิ ดีตอ้ งรบั (名) คาศพั ท์ใหม่ ( 生 词) (动) guāng lín มาเยอื น (名) 1. 欢迎 (量) diǎn สั่ง (อาหาร) 2. 光临 (名) 3. 点 (名) cài อาหาร 4. 菜 (名) 5. 份 (量) fèn ชดุ 6. 宫保鸡丁 (名) 7. 麻婆豆腐 (名) Gōngbǎo jīdīng ไกผ่ ัดถว่ั ลิสง 8. 蛋花汤 (量) 9. 碗 Mápó dòufu เตา้ หูผัดสไตล์เสฉวน 10.米饭 11.饮料 Dànhuātāng ไขน่ ้า 12.瓶 wǎn ถ้วย (ลักษณะนาม) mǐfàn ขา้ วสวย yǐnliào เครอื่ งด่ืม píng ขวด (ลกั ษณะนาม)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151