Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

Description: งานวิจัย/วิทยานิพนธ์

Keywords: พระสังฆาธิการ

Search

Read the Text Version

126 ตารางท่ี 4.108 แสดงผลการเปรียบเทียบบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการปกครอง จาแนกตามตาแหน่งของพระสังฆาธิการ เป็นรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ตาแหนง่ ของพระสังฆาธกิ าร เจ้าคณะอาเภอหรอื เจา้ คณะตาบล เจ้าอาวาสหรือ  รองเจ้าคณะอาเภอ รองเจา้ อาวาส เจา้ คณะอาเภอหรือ รองเจ้าคณะอาเภอ 3.88 - 0.62* 0.70* เจา้ คณะตาบล 4.50 - 0.08 เจา้ อาวาสหรือรองเจ้าอาวาส 4.58 - * แตกต่างกันอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถิตทิ ี่ .05 จากตารางท่ี 4.108 พบว่า บทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ของพระสังฆาธิการ ด้านการปกครอง จาแนกตามตาแหน่งของพระ สังฆาธิการ เปรียบเทียบรายคู่ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 จานวน 2 คู่ ได้แก่ ตาแหน่งเจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอกับเจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส และตาแหน่ง เจ้าคณะอาเภอหรอื รองเจ้าคณะอาเภอกบั ตาแหนง่ เจ้าอาวาสหรือรองเจา้ อาวาส

127 ตารางที่ 4.109 แสดงค่าเฉลี่ย (  ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับบทบาทของพระ สังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแก่น ด้านการศาสนศึกษา จาแนกตามตาแหนง่ พระสงั ฆาธิการ ตาแหนง่ พระสงั ฆาธกิ าร n  S.D. แปลผล เจา้ คณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอ 3 3.78 0.75 มาก เจา้ คณะตาบล 15 4.40 0.33 มากทส่ี ุด เจา้ อาวาสหรอื รองเจา้ อาวาส 95 4.52 0.44 มากท่สี ดุ 113 4.42 0.52 มากทส่ี ดุ รวม จากตารางที่ 4.109 พบว่า พระสงั ฆาธิการท่มี ีตาแหน่งแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหาร จดั การสงฆต์ ามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวดั ขอนแก่น ดา้ นการศาสนศึกษา อยู่ในระดับ มากที่สุด เม่ือพิจารณาเป็นตาแหน่งท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ เจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาสรองลงมาคือ เจ้าคณะตาบล และตาแหน่งที่มีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอ เม่ือนามา เปรียบเทยี บรายดา้ น ผลการวเิ คราะห์แสดงตามตารางที่ 4.110 ตารางที่ 4.110 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการ ศาสนศกึ ษา ท่มี ตี าแหน่งพระสงั ฆาธิการตา่ งกนั แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลุ่ม 5.802 2 2.901 13.24 0.00* ภายในกลมุ่ 24.086 110 0.219 29.888 112 รวม * แตกต่างกันอยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถติ ทิ ี่ .05 จากตารางท่ี 4.110 พบว่า พระสงั ฆาธิการท่มี ตี าแหน่งแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการศาสนศึกษา แตกต่าง กันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 เม่ือเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ผลปรากฏตารางท่ี 4.111

128 ตารางท่ี 4.111 แสดงผลการเปรียบเทียบบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการศาสนศึกษา จาแนกตามตาแหน่งของพระสังฆาธิการ เป็นรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ตาแหน่งของพระสงั ฆาธกิ าร เจ้าคณะอาเภอหรอื เจ้าคณะตาบล เจ้าอาวาสหรอื  รองเจ้าคณะอาเภอ รองเจา้ อาวาส เจ้าคณะอาเภอหรือ รองเจ้าคณะอาเภอ 3.78 - 0.62* 0.74* เจ้าคณะตาบล 4.40 - 0.12 เจ้าอาวาสหรอื รองเจ้าอาวาส 4.52 - * แตกตา่ งกันอย่างมนี ยั สาคญั ทางสถติ ิที่ .05 จากตารางท่ี 4.111 พบว่า ระดับบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิป- ไตย อาเภอชมุ แพ จงั หวดั ขอนแก่น ของพระสังฆาธิการ ด้านการศาสนศึกษา จาแนกตามตาแหน่งของ พระสังฆาธิการ เปรียบเทียบรายคู่ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 จานวน 2 คู่ ได้แก่ ตาแหน่ง เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอกับตาแหน่งเจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส และตาแหน่งเจา้ คณะอาเภอหรือรองเจา้ คณะอาเภอกับตาแหน่งเจ้าอาวาสหรือรองเจา้ อาวาส

129 ตารางท่ี 4.112 แสดงค่าเฉลี่ย (  ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับบทบาทของพระ สังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแก่น ด้านการศึกษาสงเคราะห์ จาแนกตามตาแหน่งพระสังฆาธกิ าร ตาแหนง่ พระสงั ฆาธิการ n  S.D. แปลผล เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจา้ คณะอาเภอ 3 3.56 0.63 มาก เจ้าคณะตาบล 15 4.21 0.49 มากทีส่ ุด เจา้ อาวาสหรือรองเจ้าอาวาส 95 4.37 0.62 มากทส่ี ุด 113 4.26 0.65 มากทีส่ ดุ รวม จากตารางที่ 4.112 พบว่า พระสังฆาธิการท่ีมีตาแหน่งแตกต่างกัน มีระดับบทบาทในการ บริหารจดั การสงฆต์ ามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการศึกษาสงเคราะห์ อยูใ่ นระดับมากท่ีสดุ เมอ่ื พจิ ารณาเป็นตาแหน่งทม่ี ีค่าเฉล่ียสงู สดุ คือ เจา้ อาวาสหรือรองเจ้าอาวาสรอง ลงมาคือ เจ้าคณะตาบล และตาแหน่งที่มีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอ เมื่อนามาเปรยี บเทียบรายด้าน ผลการวิเคราะห์แสดงตามตารางที่ 4.113 ตารางที่ 4.113 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการ ศึกษาสงเคราะห์ ที่มตี าแหน่งพระสังฆาธิการต่างกัน แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหว่างกล่มุ 7.034 2 3.517 9.53 0.00* ภายในกล่มุ 40.567 110 0.369 47.600 112 รวม * แตกต่างกนั อยา่ งมีนัยสาคัญทางสถิตทิ ่ี .05 จากตารางท่ี 4.113 พบว่า พระสงั ฆาธิการทมี่ ีตาแหน่งแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการศึกษาสงเคราะห์แตก ต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เม่ือเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ผลปรากฏตารางท่ี 4.114

130 ตารางท่ี 4.114 แสดงผลการเปรียบเทียบบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการศึกษา สงเคราะห์ จาแนกตามตาแหน่งของพระสังฆาธิการ เป็นรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ตาแหนง่ ของพระสังฆาธกิ าร เจา้ คณะอาเภอหรอื เจ้าคณะตาบล เจา้ อาวาสหรอื  รองเจา้ คณะอาเภอ รองเจ้าอาวาส เจา้ คณะอาเภอหรือ รองเจา้ คณะอาเภอ 3.56 - 0.65* 0.81* เจา้ คณะตาบล 4.21 - 0.16 เจ้าอาวาสหรอื รองเจ้าอาวาส 4.37 - * แตกต่างกันอย่างมนี ยั สาคญั ทางสถติ ทิ ี่ .05 จากตารางที่ 4.114 พบว่า บทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชมุ แพ จังหวัดขอนแก่น ของพระสังฆาธิการ ด้านการศึกษาสงเคราะห์ จาแนกตามตาแหน่งของ พระสังฆาธิการ เปรียบเทียบรายคู่ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จานวน 2 คู่ ไดแ้ ก่ ตาแหน่งเจา้ คณะอาเภอหรอื รองเจ้าคณะอาเภอกับตาแหน่งเจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส และ ตาแหนง่ เจา้ คณะอาเภอหรอื รองเจ้าคณะอาเภอ กับตาแหนง่ เจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส

131 ตารางที่ 4.115 แสดงค่าเฉลี่ย (  ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับบทบาทของพระ สังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จาแนกตามตาแหน่งพระ สังฆาธกิ าร ตาแหน่งพระสงั ฆาธกิ าร n  S.D. แปลผล เจา้ คณะอาเภอหรอื รองเจา้ คณะอาเภอ 3 3.78 0.63 มาก เจา้ คณะตาบล 15 4.37 0.33 มากทีส่ ดุ เจา้ อาวาสหรือรองเจา้ อาวาส 95 4.59 0.42 มากทสี่ ุด 113 4.47 0.50 มากท่สี ุด รวม จากตารางท่ี 4.115 พบว่า พระสังฆาธิการที่มีตาแหน่งแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา อยู่ในระดบั มากที่สดุ เมื่อพจิ ารณาเปน็ ตาแหนง่ ที่มคี ่าเฉล่ียสูงสุด คือ เจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส รอง ลงมาคือ เจ้าคณะตาบล และตาแหน่งท่ีมีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอ เม่อื นามาเปรยี บเทียบรายด้าน ผลการวเิ คราะหแ์ สดงตามตารางที่ 4.116 ตารางที่ 4.116 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการ เผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่มตี าแหน่งพระสงั ฆาธิการต่างกัน แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลุม่ 7.091 2 3.546 18.56 0.00* ภายในกลุ่ม 21.014 110 0.191 28.106 112 รวม * แตกตา่ งกนั อย่างมนี ยั สาคัญทางสถติ ทิ ี่ .05 จากตารางท่ี 4.116 พบวา่ พระสังฆาธิการที่มีตาแหน่งแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 เม่ือเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ผลปรากฏตารางท่ี 4.117

132 ตารางท่ี 4.117 แสดงผลการเปรียบเทียบบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา จาแนกตามตาแหน่งของพระสังฆาธิการ เป็นรายคู่ตามวิธีการ ของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ตาแหนง่ ของพระสงั ฆาธิการ เจา้ คณะอาเภอหรือ เจ้าคณะตาบล เจ้าอาวาสหรือ  รองเจา้ คณะอาเภอ รองเจา้ อาวาส เจ้าคณะอาเภอหรือ รองเจ้าคณะอาเภอ 3.78 - 0.59* 0.81* เจ้าคณะตาบล 4.37 - 0.22 เจ้าอาวาสหรือรองเจา้ อาวาส 4.59 - * แตกตา่ งกนั อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิตทิ ่ี .05 จากตารางท่ี 4.117 พบว่า ระดับบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิป- ไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ของพระสังฆาธิการ ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จาแนกตาม ตาแหน่งของพระสังฆาธิการ เปรียบเทียบรายคู่ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จานวน 2 คู่ ได้แก่ ตาแหนง่ เจา้ คณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอกับตาแหนง่ เจ้าอาวาสหรือรอง เจ้าอาวาส และตาแหน่งเจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอกับตาแหน่งเจ้าอาวาสหรือรองเจ้า อาวาส

133 ตารางท่ี 4.118 แสดงค่าเฉลี่ย (  ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับบทบาทของพระ สังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแกน่ ดา้ นการสาธารณูปการ จาแนกตามตาแหน่งพระสงั ฆาธิการ ตาแหนง่ พระสังฆาธกิ าร n  S.D. แปลผล เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอ 3 3.54 0.66 มาก เจา้ คณะตาบล 15 4.21 0.65 มากทีส่ ดุ เจ้าอาวาสหรือรองเจา้ อาวาส 95 4.41 0.50 มากทีส่ ดุ 113 4.29 0.60 มากทส่ี ดุ รวม จากตารางท่ี 4.118 พบว่า พระสังฆาธิการที่มีตาแหน่งแตกต่างกัน มีระดับบทบาทในการ บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการสาธารณูปการ อยู่ในระดับมากท่ีสุด เม่ือพิจารณาเป็นตาแหน่งที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ เจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส รองลงมาคือ เจ้าคณะตาบล และตาแหน่งท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะ อาเภอ เมื่อนามาเปรยี บเทยี บรายด้าน ผลการวเิ คราะหแ์ สดงตามตารางท่ี 4.119 ตารางท่ี 4.119 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการ สาธารณูปการ ท่ีมตี าแหนง่ พระสงั ฆาธิการต่างกัน แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลุ่ม 8.029 2 4.015 13.89 0.00* ภายในกลุม่ 31.736 110 0.289 39.765 112 รวม * แตกตา่ งกนั อยา่ งมีนยั สาคัญทางสถิติที่ .05 จากตารางที่ 4.119 พบวา่ พระสงั ฆาธิการท่มี ีตาแหน่งแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหาร จดั การสงฆต์ ามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชมุ แพ จังหวดั ขอนแก่น ด้านการสาธารณูปการ แตกต่าง กันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ผลปรากฏตารางท่ี 4.120

134 ตารางท่ี 4.120 แสดงผลการเปรียบเทียบบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชมุ แพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นการสาธารณูปการ จาแนกตามตาแหน่งของพระสังฆาธิการ เป็นรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ตาแหนง่ ของพระสังฆาธกิ าร เจา้ คณะอาเภอหรือ เจ้าคณะตาบล เจา้ อาวาสหรอื  รองเจ้าคณะอาเภอ รองเจ้าอาวาส เจา้ คณะอาเภอหรอื รองเจ้าคณะอาเภอ 3.54 - 0.67* 0.87* เจา้ คณะตาบล 4.21 - 0.20 เจา้ อาวาสหรือรองเจา้ อาวาส 4.41 - * แตกตา่ งกนั อยา่ งมีนยั สาคัญทางสถิติที่ .05 จากตารางที่ 4.120 พบว่า ระดับบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิป- ไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ของพระสังฆาธิการ ด้านการสาธารณูปการ จาแนกตามตาแหน่ง ของพระสังฆาธิการ เปรียบเทียบรายคู่ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จานวน 2 คู่ ได้แก่ ตาแหนง่ เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอกับตาแหน่งเจ้าอาวาสหรือรองเจ้า อาวาส และตาแหนง่ เจา้ คณะอาเภอหรือรองเจา้ คณะอาเภอกบั ตาแหน่งเจ้าอาวาสหรอื รองเจา้ อาวาส

135 ตารางที่ 4.121 แสดงค่าเฉลี่ย (  ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับบทบาทของพระ สังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแกน่ ด้านสาธารณสงเคราะห์ จาแนกตามตาแหนง่ พระสงั ฆาธิการ ตาแหน่งพระสงั ฆาธิการ n  S.D. แปลผล เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจา้ คณะอาเภอ 3 3.31 0.59 มาก เจ้าคณะตาบล 15 4.02 0.65 มาก เจา้ อาวาสหรอื รองเจา้ อาวาส 95 4.45 0.56 มากทสี่ ุด 113 4.27 0.68 มากทส่ี ุด รวม จากตารางท่ี 4.121 พบว่า พระสังฆาธิการท่ีมีตาแหน่งแตกต่างกัน มีระดับบทบาทในการ บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านสาธารณสงเคราะห์ อยู่ในระดับมากท่ีสุด เมื่อพิจารณาเป็นตาแหน่งท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ เจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส รองลงมาคือ เจ้าคณะตาบล และตาแหน่งท่ีมีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะ อาเภอ เมอื่ นามาเปรียบเทยี บรายด้าน ผลการวิเคราะหแ์ สดงตามตารางที่ 4.122 ตารางท่ี 4.122 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้าน สาธารณสงเคราะห์ ที่มตี าแหนง่ พระสังฆาธกิ ารต่างกนั แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหว่างกลมุ่ 14.976 2 7.488 22.69 0.00* ภายในกลมุ่ 36.353 110 0.330 51.329 112 รวม * แตกตา่ งกันอย่างมนี ยั สาคัญทางสถิตทิ ่ี .05 จากตารางท่ี 4.122 พบวา่ พระสังฆาธิการทีม่ ตี าแหน่งแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านสาธารณสงเคราะห์ แตก ต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 เม่ือเปรียบเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ผลปรากฏตารางที่ 4.123

136 ตารางที่ 4.123 แสดงผลการเปรียบเทียบบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการสาธารณ สงเคราะห์ จาแนกตามตาแหน่งของพระสังฆาธิการ เป็นรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ตาแหนง่ ของพระสงั ฆาธิการ เจา้ คณะอาเภอหรือ เจ้าคณะตาบล เจ้าอาวาสหรือ  รองเจา้ คณะอาเภอ รองเจา้ อาวาส เจา้ คณะอาเภอหรอื รองเจ้าคณะอาเภอ 3.31 - 0.71* 1.14* เจ้าคณะตาบล 4.02 - 0.43* เจา้ อาวาสหรอื รองเจ้าอาวาส 4.45 - * แตกต่างกนั อยา่ งมีนัยสาคัญทางสถิตทิ ่ี .05 จากตารางที่ 4.123 พบว่า ระดับบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิป- ไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ของพระสังฆาธิการ ด้านการสาธารณสงเคราะห์ จาแนกตาม ตาแหน่งของพระสังฆาธิการ เปรียบเทียบรายคู่ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จานวน 3 คู่ ได้แก่ ตาแหน่งเจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอกับตาแหน่งเจ้าอาวาสหรือรอง เจ้าอาวาส ตาแหน่งเจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอกับเจ้าคณะตาบล และตาแหน่งเจ้าคณะ อาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอกับตาแหน่งเจา้ อาวาสหรือรองเจา้ อาวาส

137 ตอนท่ี 4 ขอ้ เสนอแนะแนวทางเกี่ยวกับบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชมุ แพ จงั หวดั ขอนแกน่ ตารางท่ี 4.124 แสดงจานวน และรอ้ ยละขอ้ เสนอแนะเก่ียวกบั บทบาทของพระสังฆาธิการในการ บรหิ ารจัดการสงฆต์ ามระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชมุ แพ จังหวดั ขอนแกน่ ข้อเสนอแนะ จานวน รอ้ ยละ 1. ควรตักเตือนสติพระสงฆ์ประพฤติปฏิบัติอยู่ในการกรอบของพระวินัยอย่าง เคร่งคัด 26 23.01 2. ควรมีการสร้างอบรมเตรียมให้พระภิกษุสามเณรท่ีมีคุณภาพมาเผยแผ่ธรรมะ ให้แก่ประชาชน 20 17.70 3. ควรมกี ารปรับความเขา้ ใจระหว่างบทบาทหน้าที่ระหว่างวัดกับบ้านในเร่ืองท่ี เกี่ยวกบั การบรหิ ารจัดทรัพยส์ นิ ภายในวัดให้ถูกตอ้ ง 17 15.04 4. การปกครองคณะสงฆ์ต้องเป็นไปตามหลักพระธรรมวินัยและยึดหลัก ธรรมาธิปไตยเอาความถูกต้องเปน็ หลัก 15 13.27 5. ควรให้พระสังฆาธิการอยู่ภายใต้ระบบกฎหมายบ้านเมืองเนื่องจากพระ สงั ฆาธกิ ารปจั จบุ นั ยงั อยนู่ อกพระธรรมวนิ ยั และกฎหมาย 10 8.85 6. ควรปกครองคณะสงฆด์ ว้ ยเมตตา กรณุ า อเุ บกขาโดยใชห้ ลักพรมวหิ ารส่ี 8 7.08 7. การปกครองคณะสงฆใ์ ห้เป็นไปตามลาดบั ช้นั หรอื ระบบอาวุโส 4 3.54 8. พระภกิ ษทุ ุกรปู ควรมกี ารศึกษาพระธรรมวินัย และนักธรรม 3 2.65 หมายเหตุ : หนง่ึ คนตอบได้มากกว่า 1 คาตอบ หรือบางคนอาจไม่ตอบเลย จากตารางท่ี 4.124 พบว่า พระสังฆาธิการมีข้อเสนอแนะกับบทบาทในการบริหารจัดการ สงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เรียงลาดับตามค่าร้อยละ จากมากไป หานอ้ ย ดังน้ี ควรตักเตอื นสตพิ ระสงฆ์ประพฤติปฏิบัติอยู่ในการกรอบของพระวินัยอย่างเคร่งคัด (ร้อย ละ 23.01) รองลงมาคอื ควรมีการสรา้ งอบรมเตรียมให้พระภิกษุสามเณรที่มีคุณภาพมาเผยแผ่ธรรมะ ใหแ้ ก่ประชาชน (ร้อยละ 17.70) ควรมีการปรับความเข้าใจระหว่างบทบาทหน้าที่ระหว่างวัดกับบ้าน ในเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารจัดทรัพย์สินภายในวัดให้ถูกต้อ (ร้อยละ 15.04) การปกครองคณะสงฆ์ ต้องเปน็ ไปตามหลักพระธรรมวนิ ัยและยดึ หลกั ธรรมาธปิ ไตยเอาความถกู ต้องเปน็ หลัก (ร้อยละ 13.27) ควรให้พระสังฆาธิการอยู่ภายใต้ระบบกฎหมายบ้านเมืองเน่ืองจากพระสังฆาธิการปัจจุบันยังอยู่นอก พระธรรมวินัยและกฎหมาย ควรปกครองคณะสงฆ์ด้วยเมตตา กรุณา อุเบกขาโดยใช้หลักพรมวิหารส่ี การปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปตามลาดับช้ันหรือระบบอาวุโส และพระภิกษุทุกรูปควรมีการศึกษา พระธรรมวินัย และนกั ธรรม คิดเป็นร้อยละ 8.85, 7.08, 3.54 และ 2.65 ตามลาดับ

138 ตอนที่ 5 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลเชงิ คณุ ภาพทีไ่ ดจ้ ากแนวทางการสัมภาษณ์ ผลจากการสัมภาษณ์ เร่ืองบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธิปไตย อาเภอชมุ แพ จงั หวัดขอนแกน่ ปรากฏผลในแตล่ ะด้านดังนี้ 1. ดา้ นการปกครอง พระครูศรีทัศนคุณ ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 3 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น. ว่า“....ความจริงพระธรรมวินัยวางหลักการปกครองดีแล้ว ปัญหาก็คือ ไม่มีการปฏิบัติตามพระธรรม วนิ ยั เท่าทีค่ วร.....” พระครพู ระครูเกษมปัญญาภิรกั ษ์ ให้สมั ภาษณ์เมอ่ื วันที่ 3 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ว่า เวลา 13.30 น.“ในการปกครองท่ีเป็นปัญหา คือ บุคลากรหรือพระสงฆ์เนื่องจากไม่เข้าในใจบทบาท และหน้าท่ีของตนเอง” พระครสู ตุ คณุ วัตร (ดร.) ให้สัมภาษณเ์ มอื่ วันท่ี 4 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. ว่า“ในพระธรรมวินัยมีระเบียบบางอย่าง ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการปกครองคณะสงฆ์ แต่ระเบียบการ ปกครองหรือธรรมเนียมปฏิบัติบางอย่างก็งอกเงยมาจากธรรมวินัย การปกครองคณะสงฆ์ส่วนท่ีเป็น พระวนิ ยั กเ็ หมือนกนั แตใ่ นสว่ นเกย่ี วข้องกบั กฎหมาย แต่ละประเทศจะไม่เหมือนกนั ” พระครูรังษีธรรมสารให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 4 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น. วา่ “ไม่มีปัญหาในด้านการปกครองคณะสงฆเ์ น่ืองพระทุกรปู ยึดตามหลักธรรมวินัย” พระอธิการประสาท สนฺตสาโร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 5 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น.วา่ “ไม่มปี ญั หาในการปกครองคณะสงฆเ์ พราะพระเณรในวดั มีน้อย” พระครวู รี สทุ ธสิ นุ ทร ใหส้ มั ภาษณ์เม่อื วันที่ 5 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น. วา่ “มนุษยต์ ้องการความเป็นอสิ ระ” พระครูกิตติพัฒนากร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 6 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.00 น. วา่ “ส่วนมากการปกครองสงฆแ์ ทบไม่มปี ญั หา” พระครูสโมธานเขตคณารักษ์ ดร. ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.00 น,ว่า “ไม่มีปญั หาการปกครองเพราะสงฆม์ ีพระวนิ ัยเป็นข้อปฏบิ ตั ิอยู่แลว้ ” พระอธิการฉลวย อริยวโส ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 7 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น.วา่ “ไมม่ ีปัญหาเพราะทาตามบทบาทหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย” พระครูอรุณกิจจาภรณ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 7 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.00 น.ว่า “การปกครองกต็ ้องหาเร่ืองการมีสว่ นรว่ มแสดงความคิดเห็นแต่ก็ต้องเอาเสียงส่วนใหญ่เป็นหลัก ให้ถูกต้อง” ดังนัน้ สรุปได้วา่ ด้านการปกครอง พบว่า ส่วนใหญ่ยึดถือเอาพระธรรมวินัยเป็นหลักในการ ปกครองคณะสงฆท์ ีเ่ ปรียบเสมือนกฎหมายที่ใชใ้ นทางโลก

139 2. ด้านการศาสนศกึ ษา พระครูศรีทัศนคุณ ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 3 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น. ว่า“ปัญหาคือ ครูผู้สอนและผู้เรียนขาดความวิริยะ อุตสาหะไม่ตรงต่อเวลา ขาดเรียนบ่อย ด้วยเหตุ หลายประการ เช่น นักเรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ทาให้ข้ีเกียจมาเรียน อีกทั้งกฎหมายบังคับให้ นกั เรยี นไปโรงเรยี นยงั มชี ่องโหว่” พระครูพระครูเกษมปัญญาภิรักษ์ ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 3 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.30 น.ว่า “พระสังฆาธิการไม่ค่อยเอาใจใส่การศึกษาเท่าที่ควร โดยเฉพาะด้านการเรียนการ สอนพระปริยตั ิ จะมเี ฉพาะวดั ท่ีเนน้ ศูนย์การเรียนเท่านั้น” พระครสู ตุ คณุ วตั ร (ดร.) ใหส้ มั ภาษณเ์ มอ่ื วนั ที่ 4 เดอื น กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. ว่า“คุณภาพการศกึ ษา ความรู้ท้งั 3 ด้านโดยรวมจะหย่อน คุณภาพเนื้อหาสาระของแต่ละแผนกจะไม่ สมบูรณ์ ไม่ครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ท่ีต้ังไว้ ทาให้ไม่มีผู้ท่ีรู้บาลี นักธรรมอย่างแท้จริง และการจัด การศึกษาในวดั ท้งั แผนกธรรมบาลีอาจหยอ่ นยาน ด้อยลง มีผเู้ รยี นน้อยลง” พระครูรังษีธรรมสารใหส้ มั ภาษณ์เมอ่ื วันท่ี 4 เดอื น กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น.ว่า “หาพระเณรมาบวชเรียนยาก” พระอธิการประสาท สนฺตสาโร ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่. 5 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 10.00 น.ว่า “พระภิกษุสามเณรไม่สนใจในการศึกษาเล่าเรียน และหาสามเณรมาบวชยาก เพราะมี กฎหมายภาคบงั คบั ให้จดั การศึกษาถึงมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6” พระครูวีรสุทธิสนุ ทร ให้สัมภาษณเ์ มอ่ื วันท่ี 5 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น. วา่ “สง่ิ ทยี่ ากศกึ ษาบางอยา่ งมีไม่ตรงเวลาที่อยากศกึ ษา” พระครูกิตติพัฒนากร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 6 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.00 น. วา่ “ทกุ อย่างเป็นไปตามยุคตามสมัย” พระครูสโมธานเขตคณารักษ์ ดร. ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 6 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.00 น.ว่า “พระภกิ ษุสามเณรไมใ่ หค้ วามสาคัญในการเรยี นพระธรรมวิจัยเท่าท่ีควร” พระอธิการฉลวย อริยวโส ให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 7 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. ว่า “พยายามชว่ งใด แต่ขาดความสนใจในการศึกษา” พระครูอรุณกิจจาภรณ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.00 น. ว่า “การศึกษา คือ การพัฒนาคน ผู้ท่ีจะเป็นผู้นาชุมชนก็ต้องหาความรู้ไว้ แต่การเป็นผู้นาแล้วมา ศกึ ษากย็ ากท่ีจะใจบทเรียนที่สอน” ดังนั้นสรุปได้ว่า ด้านการศาสนศึกษา พบว่า ในด้านผู้เรียนหาคนมาบวชเพื่อศึกษาในทาง ธรรมยาก พระภิกษุไม่สนใจในการศึกษาเล่าเรียน ไม่มีความกระตือรือร้น ขาดเรียนบ่อย เนื่องจากมี การศกึ ษาภาคบังคับในทางโลก อีกทง้ั พระสังฆาธกิ ารไมใ่ ห้ความสนใจเกยี่ วการจัดการศึกษาเทา่ ที่ควร

140 3. ด้านการศกึ ษาสงเคราะห์ พระครูศรีทัศนคุณ ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 3. เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น. ว่า “การศึกษาสงเคราะห์ ผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สานักศาสนศึกษาต้องหาทุนเอง อีกประการ หน่ึงผ้เู รยี นมจี านวนลดลง ไมใ่ หค้ วามสาคญั ของการศกึ ษาด้านนี้มากนัก” พระครูพระครูเกษมปัญญาภิรักษ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 3 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.30 น. วา่ “การศึกษาสงเคราะห์ ก็คอื การสนับสนนุ ส่งเสริมการศึกษา ในส่วนของพระปริยัติ ธรรมมนี อ้ ยมาก เพราะสว่ นมากพระสังฆาธิการตอ้ งมีทนุ ในการส่งเสรมิ สนบั สนนุ ” พระครูสุตคุณวตั ร (ดร.) ใหส้ มั ภาษณเ์ ม่อื วันที่ 4 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. ว่า “การตัง้ กองทนุ สนบั สนนุ การศึกษาสาหรบั พระภิกษสุ ามเณรยังไม่เพียงพอ ควรมีการจัดต้ังกองทุน ให้พระภิกษสุ ามเณรศกึ ษาตอ่ ในระดบั ทส่ี ูงส่วนมากขาดทนุ การศึกษา” พระครูรังษีธรรมสารให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 4 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น. ว่า “ได้มีการสง่ เสริมพระภิกษุสามเณรในดา้ นการศึกษา” พระอธิการประสาท สนฺตสาโร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 5 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น.วา่ “พระในวดั ไมม่ ีจะขบฉันแลว้ จะไปชว่ ยเหลือคนอ่ืนไดอ้ ย่าง” พระครูวีรสุทธิสุนทร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 5 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น. ว่า “เวลาอยากสงเคราะห์ไม่มีใหส้ งเคราะห์ เวลาไมย่ ากสงเคราะหม์ ีมาให้สงเคราะห์” พระครูกิตติพัฒนากร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 6เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.00 น. ว่า “ยคุ นม้ี พี ระเณรมาบวชเรียนนอ้ ยมาก จึงไม่คอ่ ยมปี ญั หา” พระครูสโมธานเขตคณารักษ์ ดร. ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 6 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.00 น.ว่า “ทางวดั ได้ตัง้ โรงเรยี นสอนแผนกปริยัติสามัญและบาลี ปัญหา คือ พระภิกษุสามเณร ไมใ่ ฝก่ ารเรยี นร้ใู นพระธรรมวินัย” พระอธิการฉลวย อริยวโส ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 7 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. วา่ “ขาดงบประมาณสนับสนุนการศึกษา” พระครูอรุณกิจจาภรณ์ ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 7 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.00 น.วา่ “บางทีป่ ระชาชนมปี ญั หามักเกิดขึน้ ทงั้ ดา้ นการพฒั นาบ้านเมือง” ดังน้ันสรุปได้ว่า ด้านการศึกษาสงเคราะห์ พบว่า ขาดแคลนเงินทุนการศึกษาในการศึกษา เล่าเรียนเนื่องจากการจัดต้ังกองทุนเพ่ือการศึกษามีไม่ทั่วถึง ผู้เรียนด้านนี้มีจานวนลดลง อีกทั้ง พระภกิ ษสุ ามเณรไมส่ นใจทจี่ ะศึกษาพระธรรมวนิ ัย 4. ดา้ นการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระครูศรีทัศนคุณ ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 3. เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น. ว่า “การเผยแผพ่ ทุ ธศาสนาในปจั จุบนั เช่น การแสดงธรรม เป็นปัญหาที่ผู้ฟัง ถ้าเทศน์นานเกินไปผู้ฟัง จะไมช่ อบใจ บน่ ปวดขา นง่ั นานไมไ่ ด้”

141 พระครูพระครูเกษมปัญญาภิรักษ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 3 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.30 น. ว่า “การเผยแผ่ต้องอาศัยหลายฝ่ายช่วยกัน แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเทาไหร่นัก เพราะบคุ ลากรท่คี ุณวฒุ ินอ้ ย และไมเ่ พียงพอต่อการปฏิบัติตามนโยบาย” พระครสู ุตคุณวัตร (ดร.) ให้สัมภาษณ์เม่ือวนั ท่ี 4 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. ว่า “ขาดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดปัญญา ไม่รู้ภาษาบาลี ไม่เข้าใจความหมายที่พระสงฆ์สื่อ ชาวบ้าน ไดร้ บั ความหมายและรบั รูค้ าศัพท์ พระสงฆ์มีโอกาสเทศนาน้อย ขาดประสบการณ์และไม่มีความม่ันใจ ไมม่ คี วามรู้วิทยากรสอื่ สารยุคใหม่” พระครูรังษีธรรมสาร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 4 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น. วา่ “ประชาชนไม่ค่อยสนใจ สนใจแต่หวยเบอร์” พระอธิการประสาท สนฺตสาโร ให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 5 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560เวลา 10.00 น. ว่า “ผูร้ บั การเผยแผ่ไม่เคยเป็นผู้เผยแผ่ อยากให้เผยแผ่ให้ถูกใจตวั เขาเอง” พระครูวีรสุทธิสุนทร ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 5 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น. วา่ “ขาดแคลนเร่ืองงบประมาณสอ่ื ต่าง ๆ ทที่ นั สมัยมาใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน” พระครูกิตติพฒั นากร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 6 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.00 น. ว่า “ประชาชนไม่ให้ความสาคญั ในการฟงั ธรรม อยากไดแ้ ต่บญุ ข้อวัตรปฏิบตั ิไมค่ ่อยสนใจ” พระครูสโมธานเขตคณารักษ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 6 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.00 น. ว่า “ประชาชนไม่คอ่ ยสนใจในการเขา้ วดั ฟังธรรม อยากได้แต่บุญกุศล ข้อวัตรปฏิบัติไม่ค่อย สนใจ” พระอธิการฉลวย อริยวโส ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 7 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. ว่า “ขาดความสนใจของประชาชน” พระครูอรุณกิจจาภรณ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.00 น.ว่า “ด้านการเผยแผ่ พระทุกรูปเม่ือเรียนจบหลักสูตรแล้วอยากทาตามหน้าท่ี และบางคร้ังก็ใช้ อปุ กรณจ์ งึ จะสะดวกในการเผยแผธ่ รรมะ” ดงั นัน้ สรปุ ได้ว่า ดา้ นการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พบว่า ประชาชนไม่ให้ความสนใจหลักคา สอนทางพระพุทธศาสนา ไม่เข้าใจภาษาบาลี สนใจแต่การขอหวยเบอร์ และบุคลากรที่เป็นพระ นกั เทศน์มนี อ้ ยและขาดทป่ี ระสบการณ์ทีจ่ ะสอนญาติโยม 5. ด้านการสาธารณปู การ พระครูศรีทัศนคุณ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 3. เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น. ว่า “ปญั หาเกิดจากเศรษฐกจิ ของประเทศไมด่ ี การบริจาคทานบารุงวัดก็ลดลง เงินอุดหนุนจากรัฐบาล ได้จานวนไม่มาก”

142 พระครูพระครูเกษมปัญญาภิรักษ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 3 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.30 น.ว่า “ในด้านสาธารณูปการ คือ บุคลากรขาดการวางแผนและงบประมาณมีไม่ เพยี งพอ” พระครสู ุตคุณวตั ร (ดร.) ใหส้ มั ภาษณเ์ มื่อวันที่ 4 เดอื น กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. ว่า“การพัฒนาภายในวัดมีปัญหาหรืออุปกรณ์ในการก่อสร้าง เจ้าอาวาสต้องจัดหาเอง ประชาชนไม่มี เวลามาช่วยเหลือวัด” พระครรู ังษีธรรมสารให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 4 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น.ว่า “ให้คาแนะนาแตล่ ะวัดได้จัดการงานในดา้ นต่าง ๆ ” พระอธิการประสาท สนฺตสาโร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 5 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น. ว่า “ขาดปัจจัยในการซอ่ มแซมเสนาสนะ” พระครูวีรสุทธิสุนทร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 5 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น. ว่า “สนองความอยากไม่มีทสี่ ิน้ สุด” พระครูกิตตพิ ัฒนากร ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.00 น. วา่ “มีบา้ งแตก่ ็ไมม่ าก” พระครูสโมธานเขตคณารักษ์ ดร. ให้สัมภาษณ์เมื่อวันท่ี 6 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.00 น.วา่ “ขาดงบประมาณในการซอ่ มแซม ญาติโยมทาบุญน้อย สภาพเศรษฐกิจไม่ดี” พระอธกิ ารฉลวย อริยวโส ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 7 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น.ว่า “ทาตามกาลังศรทั ธา ขาดงบประมาณสนบั สนนุ จากส่วนกลาง” พระครอู รุณกจิ จาภรณ์ ให้สมั ภาษณ์เมือ่ วันที่ 7 เดอื น กรกฏคม พ.ศ. 2560เวลา 15.00 น. วา่ “ขาดแคลนปจั จัยในการก่อสร้างและซ่อมแซมวัด” ดังน้ันสรุปได้ว่า ด้านการสาธารณูปการ พบว่า ขาดงบประมาณและบุคลากรท่ีมีความ เช่ียวชาญในการสนับการบูรณปฏิสังขรณ์วัด อีกท้ังญาติโยมทาบุญน้อยเนื่องจากสภาวะวิฤตทาง เศรษฐกิจ 6. ด้านการสาธารณสงเคราะห์ พระครูศรีทัศนคุณ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 3. เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น. ว่า “เมื่อมีวัดผู้ทาบุญลดลง ด้วยสาเหตุทางเศรษฐกิจและสังคม การสงเคราะห์ประชาชนก็ลดลง เพราะขาดทุนทรพั ย์มาสนับสนนุ ” พระครูพระครูเกษมปัญญาภิรักษ์ ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 3 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.30 น. ว่า “การสนับสนุนส่งเสริมมีน้อย เพราะงบประมาณเป็นปัจจัยสาคัญ ก็คือขาดความ รว่ มมอื เอาใจใส่”

143 พระครูสตุ คุณวตั ร (ดร.) ใหส้ ัมภาษณ์เมอ่ื วันท่ี 4 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. ว่า“การสร้างถาวรวัตถุไม่คานึงถึงความจาเป็นมากน้อยในการก่อสร้าง การใช้ประโยชน์ด้านนี้ยังไม่ เต็มท”่ี พระครรู งั ษีธรรมสารใหส้ ัมภาษณ์เม่ือวนั ท่ี 4 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น.ว่า “แจกเสอ้ื ผ้าแกค่ นยากจนทกุ ปี ตลอดท้ังการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน และให้คาแนะนาด้านต่าง ๆ ทีม่ คี นเขา้ มาปรกึ ษา” พระอธิการประสาท สนฺตสาโร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 5 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น. วา่ “ไมม่ ปี ญั หาด้านนเี้ นือ่ งจากมอี งคก์ ารบริหารส่วนตาบลมารับผิดชอบแทน” พระครูวีรสุทธิสุนทร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 5 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.00 น. ว่า “แหลง่ ท่จี ะให้สงเคราะห์อ้างประโยชนเ์ กนิ ความจรงิ ” พระครูกติ ตพิ ัฒนากร ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 6 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.00 น. วา่ “ช่วยเหลือตามแต่กาลงั ท่มี ใี นการสงเคราะหค์ นยากจน” พระครูสโมธานเขตคณารักษ์ ดร. ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 6 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.00 น.ว่า “ขาดความรว่ มมือในชมุ ชน” พระอธิการฉลวย อริยวโส ให้สัมภาษณ์เม่ือวันท่ี 7 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 9.30 น. ว่า “ชุมชนไมใ่ ห้ความร่วมมอื เท่าทีค่ วร” พระครูอรุณกิจจาภรณ์ ให้สัมภาษณ์เม่ือวันที่ 7 เดือน กรกฏคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.00 น. วา่ “ขาดแคลนงบประมาณมาช่วยในการสนับสนนุ สงเคราะหผ์ อู้ ยากไร้และผ้ดู ้อยโอกาส” ดงั น้ันสรุปไดว้ า่ ด้านการสาธารณสงเคราะห์ พบว่า งบประมาณในการก่อสร้างและพัฒนา วัดมีจานวนจากัด การก่อสร้างไม่คานึงถึงประโยชน์ในการใช้สอย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เป็นปัญหามากนัก เน่ืองจากมีองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามารับผิดชอบแทน และขาดแคลนงบประมาณในการ สงเคราะห์คนยากจน

บทท่ี 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่อง “บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชา- ธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น” มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษา 1) บทบาทของพระสังฆาธิการใน บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น 2) เปรียบเทียบบทบาท ของพระสังฆาธิการในบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และ 3) ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติตามบทบาทของพระสังฆาธิการในบริหาร จดั การสงฆต์ ามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ประชากรท่ีใช้ในการวิจัย ได้แก่ พระสังฆาธิการในเขตอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จานวน 157 รูป กลุ่มตัวอย่างคานวณหาขนาด ตัวอย่างจากสตู รทาโรยามาเน่ (Yamane, 1973 ; อา้ งใน สุวิมล ตริ กานันท์, 2546 หน้า 198) จานวน 113 รูป เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม ท่ีมีระดับความเชื่อม่ัน 0.84 และ แนวทางการสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉล่ีย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการ ทดสอบค่าเอฟ (F-test) ด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) ในกรณี ตวั แปรต้นตงั้ แตส่ ามกลมุ่ ขึ้นไป ทร่ี ะดับนัยสาคัญทางสถติ ิ 0.05 โดยผู้วิจยั ได้นาเสนอสรุปผล อภิปราย ผล และขอ้ เสนอแนะ ดงั นี้ 5.1 สรปุ ผล 5.2 อภิปรายผล 5.3 ขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรปุ ผลการวิจยั ผลการวิจัยเรื่อง บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบ ประชาธปิ ไตย อาเภอชมุ แพ จงั หวัดขอนแกน่ สรปุ ผลตามวัตถุประสงคไ์ ดด้ งั นี้ 5.1.1 ตอนที่ 1 สถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นพระสังฆาธิการ ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-30 ปี คิดเป็น ร้อยละ 75.22 รองลงมาคือ อายุระหว่าง 41-50 ปี คิดเป็นร้อยละ 9.73 อายุระหว่าง 51-60 ปี คิด เป็นร้อยละ 7.96 และอายุระหว่าง 31-40 ปี คิดเป็นร้อยละ 7.08 มีพรรษาระหว่าง 1-10 ปี คิดเป็น รอ้ ยละ 37.17 รองลงมาคือ มากกว่า 20 ปี พรรษา คิดเป็นร้อยละ 31.86 และระหว่าง 11-20 พรรษา คิดเปน็ รอ้ ยละ 30.97 ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี คิดเป็นร้อยละ 38.05 รองลง มาคือ ต่า

145 กว่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 31.86 และสูงกว่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 30.09 มีวุฒิการศึกษา ทางธรรม นักธรรมช้ันตรี คิดเป็นร้อยละ 36.28 รองลงมาคือ นักธรรมชั้นเอก คิดเป็นร้อยละ 33.63 และนกั ธรรมช้ันโท คดิ เป็นรอ้ ยละ 30.09 ส่วนใหญ่ไม่มีวุฒิการศึกษาเปรียญธรรม เป็นร้อยละ 57.52 รองลงมาคือ มีวุฒิการศึกษาประโยค 1-2 ถึง ป.ธ. 3 คิดเป็นร้อยละ 34.52 และ ปธ.4-6 คิดเป็น ร้อยละ 7.96 ส่วนใหญ่มีตาแหน่งเป็นเจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส คิดเป็นร้อยละ 76.11 รองลงมา คือ เจ้าคณะตาบล คิดเป็นร้อยละ 13.27 รองเจ้าอาวาส เจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะอาเภอ คิด เปน็ ร้อยละ 10.62 5.1.2 ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะห์เก่ียวกับบทบาทของพระสังฆาธิการในบริหารจัดการ สงฆต์ ามระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชุมแพ จังหวดั ขอนแกน่ พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ใน ระดับมากที่สุดทุกด้าน เรียงลาดับด้านที่มีค่าเฉลี่ยจากสูงสุดไปหาต่าสุด ได้แก่ ด้านการปกครอง รองลงมาคอื ด้านการเผยแผศ่ าสนา ดา้ นการศาสนศึกษา ด้านสาธารณูปการ ด้านสาธารณสงเคราะห์ และด้านการศึกษาสงเคราะห์ เมอ่ื แยกวิเคราะห์เปน็ รายด้าน สรุปผลได้ดังน้ี 1. ด้านการปกครอง พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการปกครองคณะสงฆ์ โดยรวมอยู่ในระดับ มากท่ีสุด โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ 1 ที่ว่า “การปกครองคณะสงฆ์ด้วยความมีเมตตา กรุณา และอุเบกขา ยึดตามหลักพระธรรมวิจัยและมีระเบียบแบบแผนเหมาะสมอันดีงามบริหารกิจการวัด” รองลงมาคอื ข้อ 4 ท่ีวา่ “การควบคมุ ดแู ลพาระภกิ ษสุ ามเณรในการปกครองให้มีความสงบเรียบร้อย” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ข้อ 4 ท่ีว่า “การจัดประชุมพระภิกษุสามเณรเพ่ืออบรมสั่งสอนด้านข้อ วัตรปฏบิ ตั ติ ามหลักพระธรรมวินัย” 2. ด้านการศาสนศึกษา พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านศาสนศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด โดยข้อที่มคี ่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ 2 ท่ีว่า “การควบคุมดูแลและส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนนักธรรม บาลีแก่พระภิกษุสามเณรอย่างท่ัวถึง” รองลงมาคือ ข้อ 6 ท่ีว่า “ยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สอนพระปริยัติ ธรรม เปรยี ญธรรมประโยคตา่ ง ๆ และครูพระสอนศลี ธรรมให้มขี วัญและกาลังใจ” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉลี่ย ต่าสดุ คอื ข้อ 3 ทวี่ ่า “การสรรหาและพฒั นาครสู อนนกั ธรรมและบาลี” 3. ด้านการศึกษาสงเคราะห์ พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชมุ แพ จังหวดั ขอนแกน่ ด้านการศึกษาสงเคราะห์ โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ 6 ที่ว่า “การจัดตั้งโรงเรียนการกุศลของวัดเพ่ือสงเคราะห์

146 เด็กและเยาวชน” รองลงมาคือ ข้อ 2 ที่ว่า “การเป็นครูช่วยสอนวิชาพุทธศาสนาในสถานศึกษาต่าง ๆ ตลอดจนสนับสนุนโรงเรียนวิถีพุทธ” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ข้อ 3 ที่ว่า “การจัดต้ังศูนย์อบรม เด็กกอ่ นเกณฑภ์ ายในวัด” 4. ด้านการเผยแผศ่ าสนา พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยรวมอยู่ใน ระดับมากที่สุด โดยข้อท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ ข้อ 5 ที่ว่า “ฝึกอบรมพระภิกษุสามเณรให้มีความรู้และ วิธกี ารเผยแผธ่ รรมมะ” รองลงมาคือ ข้อ 4 ท่ีว่า “จัดให้มีกิจกรรมการปฏิบัติธรรมข้ึนภายในวัดและมี พระอาจารย์ผู้สอนการปฏิบัติธรรม” ส่วนข้อที่มีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ ข้อ 2 ที่ว่า “การเทศนาสั่งสอนแก่ ประชาชนโดยทว่ั ไปให้ตั้งอยใู่ นหลักคาสอนของพระพุทธศาสนาเป็นประจา” 5. ด้านสาธารณูปการ พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านสาธารณูปโภค โดยรวมอยู่ในระดับมาก ที่สุด โดยข้อท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ ข้อ 6 ที่ว่า “การบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปตาม กฎหมาย และพระธรรมวินัย” รองลงมาคือ “การควบคุมดูแลและปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุภายในวัด” ส่วนข้อที่มีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ ข้อ 1 ที่ว่า “การควบคุมดูแดการก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัดและที่ ธรณีสงฆ์” 6. ด้านสาธารณสงเคราะห์ พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการสาธารณสงเคราะห์ โดยรวมอยู่ใน ระดับมากทีส่ ดุ โดยขอ้ ทมี่ ีคา่ เฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ 4 ท่ีว่า “การบรรเทาช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ เชน่ อกุ ภยั อคั คีภัย ธรณีพิบัตภิ ยั เปน็ ตน้ ” กบั ขอ้ 6 ทวี่ ่า “การจัดหนว่ ยอบรมประชาชนประจาตาบล และจัดอบรมประชาชน” และข้อ 3 ท่ีว่า “การช่วยเหลือเก้ือกูลกิจการของชุมชนท่ีเป็นไปเพื่อ สาธารณประโยชน์” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสุดคือ ข้อ 1 ที่ว่า “จัดทาถนนภายในวัดให้สะดวกแก่การ สัญจรไปมา” ตอนท่ี 3 ผลการทดสอบสมมติฐานของการวจิ ัย ผลการเปรียบเทียบบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุม แพ จังหวัดขอนแก่น จาแนกตาม อายุ พรรษา วุฒิการศึกษาสายสามัญ วุฒิการศึกษาทางธรรม วุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรม และตาแหน่งพระสังฆาธิการ ท่ีแตกต่างกันตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้ สามารถสรปุ ได้ดังน้ี สมมติฐานที่ 1 พระสังฆาธิการท่ีมี อายุ แตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบว่า พระสังฆาธิ การที่มีอายุแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแกน่ โดยรวม ไม่แตกตา่ งกันอย่างมนี ยั สาคัญทางสถิติ ดังน้ันจงึ ปฏเิ สธสมมติฐานทีต่ ้งั ไว้

147 สมมติฐานท่ี 2 พระสังฆาธิการท่ีมีพรรษาแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบว่า พระสังฆาธิ การท่มี พี รรษาแตกต่างกัน มบี ทบาทในการบรหิ ารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ดังนั้นจึงยอมรับสมมติ ฐานที่ตั้งไว้ สมมติฐานท่ี 3 พระสังฆาธิการท่ีมี วุฒิการศึกษาสายสามัญ แตกต่างกัน มีบทบาทในการ บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบวา่ พระสังฆาธกิ ารทม่ี ีวฒุ ิการศึกษาสายสามัญแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธิปไตย อาเภอชมุ แพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดับ .05 ดงั น้ันจึงยอมรับสมมตฐิ านทต่ี ้ังไว้ สมมติฐานที่ 4 พระสังฆาธิการท่ีมี วุฒิการศึกษาทางธรรม แตกต่างกัน มีบทบาทในการ บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบว่า พระสังฆาธิการท่ีมีวุฒิการศึกษาทางธรรมแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม ไมแ่ ตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ดงั นัน้ จึงปฏิเสธสมมติฐานทต่ี ง้ั ไว้ สมมติฐานที่ 5 พระสังฆาธิการที่มี วุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรม แตกต่างกัน มีบทบาท ในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผล การวิจัย พบว่า พระสังฆาธิการท่ีมีวุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรมแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหาร จัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัย สาคัญทางสถติ ทิ ่ีระดบั .05 ดังนน้ั จึงยอมรบั สมมติฐานทตี่ ัง้ ไว้ สมมติฐานท่ี 6 พระสังฆาธิการท่ีมีตาแหน่งพระสังฆาธิการแตกต่างกัน มีบทบาทในการ บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบว่า พระสงั ฆาธิการท่ีมตี าแหน่งแตกตา่ งกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชา- ธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ดงั นั้นจงึ ยอมรบั สมมติฐานที่ต้ังไว้ ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะแนวทางเกี่ยวกับบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบ ประชาธปิ ไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พระสังฆาธิการมีข้อเสนอแนะกับบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชา- ธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เรียงลาดับตามค่าร้อยละ จากมากไปหาน้อย ดังน้ี ควรตัก เตือนสติพระสงฆ์ประพฤติปฏิบัติอยู่ในการกรอบของพระวินัยอย่างเคร่งคัด รองลงมาคือ ควรมีการ สร้างอบรมเตรียมให้พระภิกษุสามเณรท่ีมีคุณภาพมาเผยแผ่ธรรมะให้แก่ประชาชน ควรมีการปรับ

148 ความเข้าใจระหว่างบทบาทหน้าท่ีระหว่างวัดกับบ้านในเรื่องที่เก่ียวกับการบริหารจัดทรัพย์สินภายใน วัดใหถ้ กู ต้อง ตอนท่ี 5 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลเชิงคณุ ภาพทีไ่ ดจ้ ากแนวทางการสมั ภาษณ์ 1. ด้านการปกครอง พบว่า ส่วนใหญ่ยึดถอื เอาพระธรรมวินยั เป็นหลกั ในการปกครองคณะ สงฆท์ เี่ ปรียบเสมอื นกฎหมายทีใ่ ช้ในทางโลก 2. ด้านการศาสนศึกษา พบว่า ผู้เรียนหาคนมาบวชเพื่อศึกษาในทางธรรมยาก พระภิกษุ ไมส่ นใจในการศึกษาเล่าเรียน ไม่มีความกระตือรือร้น ขาดเรียนบ่อย เน่ืองจากมีการศึกษาภาคบังคับ ในทางโลก อกี ท้ังพระสังฆาธิการไม่ใหค้ วามสนใจเกย่ี วการจัดการศึกษาเท่าที่ควร 3. ด้านการศึกษาสงเคราะห์ พบว่า ขาดแคลนเงินทุนการศึกษาในการศึกษาเล่าเรียน เนื่องจากการจัดต้ังกองทุนเพื่อการศึกษามีไม่ท่ัวถึง ผู้เรียนด้านนี้มีจานวนลดลง อีกทั้งพระภิกษุ สามเณรไมส่ นใจท่จี ะศกึ ษาพระธรรมวนิ ยั 4. ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พบว่า ประชาชนไม่ให้ความสนใจหลักคาสอนทาง พระพุทธศาสนา ไมเ่ ขา้ ใจภาษาบาลี สนใจแตก่ ารขอหวยเบอร์ และบุคลากรที่เป็นพระนักเทศน์มีน้อย และขาดทปี่ ระสบการณ์ท่จี ะสอนญาติโยม 5. ดา้ นการสาธารณูปการ พบว่า ขาดงบประมาณและบุคลากรท่ีมีความเชี่ยวชาญในการ สนบั การบูรณปฏิสังขรณ์วดั อกี ทั้งญาติโยมทาบญุ น้อยเน่อื งจากสภาวะวฤิ ตทางเศรษฐกจิ 6. ด้านการสาธารณสงเคราะห์ พบว่า งบประมาณในการก่อสร้างและพัฒนาวัดมีจานวน จากัด การก่อสร้างไม่คานึงถึงประโยชน์ในการใช้สอย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เป็นปัญหามากนักเนื่องจากมี องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามารับผิดชอบแทน และขาดแคลนงบประมาณในการสงเคราะห์คน ยากจน 5.2 อภปิ รายผลการวิจัย จากการสรุปผลการวิจัยเร่ือง บทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชมุ แพ จงั หวัดขอนแก่น พบประเดน็ ท่ีน่าสนใจทผี่ วู้ จิ ัยนามาอภิปรายผล ดังน้ี 5.2.1 ผลการวิเคราะห์บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบ ประชาธปิ ไตย อาเภอชมุ แพ จงั หวดั ขอนแกน่ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากท่ีสุดทุกด้าน สอดคล้องกับผลการศึกษาของ พระครูสังวรสาธุวัตร (สารวย สวโร) ได้ทาการศึกษาวิจัยเรื่อง บทบาทของพระสังฆาธิการด้านการปกครองคณะสงฆ์ อาเภอนคร ชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่ีพบว่า พระสงฆ์มีความคิดเห็นต่อบทบาทของพระสังฆาธิการด้านการ ปกครองคณะสงฆ์ อาเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน สอดคล้องกับผลการวิจัยของ พระสมุห์กาพร สุชาโต (พิเชฐสกุล) ได้ทาการศึกษาบทบาทของพระ

149 สังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ในอาเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ผลการศึกษาพบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ทั้งนี้ สมพงษ์ ดุลยอนุกิจ ได้อธิบายเก่ียวกับบทบาท ว่าเป็นความคาดหวังเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคลชุดหน่ึง ที่ควรแสดงออกมาในสถานการณ์เฉพาะหน่ึง ๆ ตาแหน่งทุกตาแหน่งในสังคมถูกคาดหวังในการ แสดงบทบาทที่เหมาะสมเม่ือบุคคลน้ันครอบครองตาแหน่งสังคมเหล่านั้น แต่บางคนต้องแสดง ในหลายบทบาทและต้องเผชิญกับความขัดแย้งของบทบาท (Role conflict) เพราะขณะท่ีมี ความคาดหวังจากบทบาทหนง่ึ อาจจะมคี วามขัดแย้งอีกบทบาทหน่งึ เชน่ เดียวกับแนวคิดของ ศิริรัตน์ แอดสกุล ให้ความหมายของคาว่า “บทบาท” หมายถึง การปฏิบัติตามสิทธิหน้าท่ีของสถานภาพหรือ อาจกล่าวได้ว่าบทบาทหรือพฤติกรรมท่ีคาดหวังสาหรับผู้ที่อยู่ในสถานภาพต่าง ๆ ว่าจะต้องปฏิบัติ อย่างไร (Role expectation) เป็นบทบาทท่ีคาดหวังโดยกลุ่มหรือสังคม เพ่ือท่ีจะได้มีการกระทา ระหว่างกันได้ รวมทั้งสามารถคาดการณ์พฤติกรรมที่จะเกิดขึ้นได้ เช่น บทบาทของพระสังฆาธิการ ที่ต้องทาหน้าที่ตามท่ีได้รับมอบหมายให้เกี่ยวกับการบริหารงานกิจของสงฆ์ และเมื่อจาแนกอภิปราย ผลในแตล่ ะดา้ น พบว่า 1. ด้านการปกครอง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ 1 ท่ีว่า “การปกครองคณะสงฆ์ด้วยความมีเมตตา กรุณาและอุเบกขา ยึดตามหลักพระธรรม วจิ ัยและมีระเบียบแบบแผนเหมาะสมอันดีงามบริหารกิจการวัด” รองลงมาคือ ข้อ 4 ที่ว่า “การควบ คุมดแู ลพาระภิกษุสามเณรในการปกครองให้มีความสงบเรียบร้อย” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ ข้อ 4 ทวี่ า่ “การจัดประชุมพระภกิ ษุสามเณรเพ่ืออบรมส่งั สอนด้านข้อวัตรปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย” สอดคล้องกับผลที่ได้จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ส่วนใหญ่ยึดถือเอาพระธรรมวินัยเป็นหลักในการ ปกครองคณะสงฆ์ที่เปรียบเสมือนกฎหมายท่ีใช้ในทางโลกและไม่มีปัญหาในการปกครองสงฆ์ ทั้งนี้ อภิปรายได้ว่า ในการปกครองคณะสงฆ์นั้นพระภิกษุผู้เป็นเจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะปกครองสงฆ์ต้องมี การดาเนินสอดส่อง ดูแล รักษาความสงบเรียบร้อยอันดีงาม เพื่อให้พระภิกษุสามเณรท่ีอยู่ในวัด ให้ ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับคาสั่ง ประกาศของมหาเถรสมาคมหรือพระ บัญชาของสมเด็จพระสงั ฆราช ภารกิจดา้ นน้คี รอบคลมุ ถงึ การท่พี ระภกิ ษุไดท้ าหนา้ ที่ปกครองทุกระดับ นับตง้ั แตผ่ ู้ชว่ ยเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส เจ้าอาวาส เจา้ คณะตาบล เจ้าคณะอาเภอ เป็นตน้ 2. ด้านการศาสนศึกษา พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด โดยข้อท่ีมีค่าเฉล่ีย สูงสุด คือ ข้อ 2 ที่ว่า “การควบคุมดูแลและส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนนักธรรมบาลีแก่พระภิกษุ สามเณรอย่างทว่ั ถงึ ” รองลงมาคือ ข้อ 6 ท่ีว่า “ยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สอนพระปริยัติธรรม เปรียญธรรม ประโยคตา่ ง ๆ และครูพระสอนศลี ธรรมให้มีขวัญและกาลังใจ” ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ข้อ 3 ที่ ว่า “การสรรหาและพัฒนาครูสอนนักธรรมและบาลี” สอดคล้องผลที่ได้จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ในด้านผู้เรียนหาคนมาบวชเพื่อศึกษาในทางธรรมยาก พระภิกษุไม่สนใจในการศึกษาเล่าเรียน ไม่มี

150 ความกระตือรอื ร้น ขาดเรยี นบอ่ ย เนอื่ งจากมีการศึกษาภาคบังคับในทางโลก อีกทั้งพระสังฆาธิการไม่ ให้ความสนใจเกี่ยวการจัดการศึกษาเท่าที่ควร ท้ังนี้อภิปรายได้ว่า ปัจจุบันทางเลือกในการเข้าศึกษา มากกว่าในอดีตท้ังสถานศึกษาท่ีเป็นของรัฐบาล สถานศึกษาของเอกชน และสถานศึกษาที่สั งกัด องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ทาใหผ้ เู้ รียนมที างเลือกมากอีกทั้งยังมีโครงการกู้เงินเพื่อการศึกษา เพราะ ฉะน้ันจึงทาให้ไม่มีผูท้ ี่จะมาบวชเรยี นมากนัก 3. ด้านการศึกษาสงเคราะห์ พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัด การสงฆต์ ามระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชมุ แพ จังหวดั ขอนแก่น ด้านการศึกษาสงเคราะห์ โดยรวมอยู่ ในระดับมากที่สุด โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ 6 ที่ว่า “การจัดต้ังโรงเรียนการกุศลของวัดเพื่อ สงเคราะห์เด็กและเยาวชน” รองลงมาคือ ข้อ 2 ท่ีว่า “การเป็นครูช่วยสอนวิชาพุทธศาสนาในสถาน ศกึ ษาต่าง ๆ ตลอดจนสนับสนุนโรงเรียนวิถีพุทธ” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ ข้อ 3 ท่ีว่า “การจัดตั้ง ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ภายในวัด” อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ขาดแคลนเงินทุน การศึกษาในการศึกษาเล่าเรียนเน่ืองจากการจัดต้ังกองทุนเพ่ือการศึกษามีไม่ทั่วถึง ผู้เรียนด้านน้ีมี จานวนลดลง อีกทั้งพระภิกษุสามเณรไม่สนใจท่ีจะศึกษาพระธรรมวินัย ท้ังนี้อภิปรายได้ว่า ปัจจุบัน อตั ราการเกิดของเดก็ ได้ลดลงเปน็ จานวนมาก จึงส่งผลให้มีนักเรียนลดลงในสถานศึกษาทุกแห่ง ไม่ค่อย มีใครสนใจท่ีจะศึกษาเล่าเรียน อีกทั้งสถานศึกษามีส่ิงอานวยความสะดวกดีกว่าท่ีวัดดังนั้นจึงมีคนมา บวชเป็นพระเณรจานวนนอ้ ยเมื่อเทยี บกับสมัยในอดีต 4. ด้านการเผยแผ่ศาสนา พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการ สงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแก่น โดยรวมอยใู่ นระดับมากที่สุด โดยข้อท่ีมี ค่าเฉล่ียสูงสุด คือ ข้อ 5 ท่ีว่า “ฝึกอบรมพระภิกษุสามเณรให้มีความรู้และวิธีการเผยแผ่ธรรมมะ” รองลงมาคือ ข้อ 4 ที่ว่า “จัดให้มีกิจกรรมการปฏิบัติธรรมขึ้นภายในวัดและมีพระอาจารย์ผู้สอนการ ปฏิบัติธรรม” ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ข้อ 2 ท่ีว่า “การเทศนาส่ังสอนแก่ประชาชนโดยท่ัวไปให้ ตั้งอยู่ในหลักคาสอนของพระพุทธศาสนาเป็นประจา” ซ่ึงแตกต่างจากผลที่ได้จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ประชาชนไม่ให้ความสนใจหลักคาสอนทางพระพุทธศาสนา ไม่เข้าใจภาษาบาลี สนใจแต่การ ขอหวยเบอร์ และบุคลากรที่เป็นพระนักเทศน์มีน้อยและขาดท่ีประสบการณ์ที่จะสอนญาติโยม ทั้งนี้ อภิปรายได้ว่า ปัจจุบันเป็นยุคทุนนิยม ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสาคัญทางวัตถุมากกว่าจิตใจ ประกอบกบั นสิ ัยคนไทยให้ความสาคัญกบั การเสยี่ งโชคในขณะสอื่ มวลชนกม็ ุ่งเสนอข่าวเกี่ยวกับตัวเลข หวยเบอร์หรือคนเส่ียงโชคถูกหวยรวยเบอร์ สาเหตดุ งั กล่าวกระตุ้นจูงใจให้ประชาชนสนใจแต่เร่ืองการ เสย่ี งโชคมากกว่าสนใจหลกั คาสอนทางพระพุทธศาสนา ส่วนพระภิกษุท่ีเป็นพระนักเทศน์มีน้อยอาจมี สาเหตุเน่ืองมาจากพระท่ีบวชเรียนส่วนใหญ่มุ่งให้ได้วุฒิการศึกษามากกว่าที่จะเป็นพระนักเทศน์เพื่อ นาไปสมัครงานหลงั สกิ ขาลาบวช จึงทาให้ขาดแคลนพระนกั เทศน์ท่ีสง่ั สอนประชาชน 5. ด้านสาธารณูปการ พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด โดยข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ 6 ที่ว่า “การบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปตามกฎหมาย และพระธรรมวินัย”

151 รองลงมาคือ “การควบคมุ ดแู ลและปฏิสงั ขรณ์ถาวรวัตถุภายในวัด” ส่วนข้อที่มีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ ข้อ 1 ที่ว่า “การควบคุมดูแดการก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัดและท่ีธรณีสงฆ์” ซึ่งแตกต่างจากผลที่ได้จาก ข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ขาดงบประมาณและบุคลากรที่มีความเช่ียวชาญในการสนับการบูรณ ปฏิสังขรณ์วัด อีกทั้งญาติโยมทาบุญน้อยเน่ืองจากสภาวะวิฤตทางเศรษฐกิจ ท้ังนี้อภิปรายได้ว่า การ สาธารณูปการเปน็ การชว่ ยเหลือประโยชน์ส่วนรวม พระสังฆาธิการจึงมีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคณะ สงฆ์ มาตรา 37 (1) ที่ว่า เจ้าอาวาสมีหน้าท่ีบารุงวัด รักษาวัด จัดกิจกรรมและการศาสนสมบัติของวัด เป็นไปด้วยดี ท่ีมีลักษณะการกระทาสามประการ ได้แก่ การกระทาด้วยแรงคิด การกระทาด้วย เอกสารรายงาน และการกระทาโดยการจัดประโยชน์ การากระทา 3 อย่างน้ี เป็นหน้าท่ีของเจ้าอาวาส ที่จะต้องปฏบิ ัตโิ ดยตรง ส่วนที่ขาดงบประมาณและบุคลากรผู้เช่ียวชาญ อภิปรายได้ว่า วัดบางแห่งเป็น วัดไม่มีชื่อเสียงทางด้านวัตถุมงคลหรืออยู่ห่างไกลจากตัวเมืองนักจึงทาให้ ญาติโยมไม่มาทาบุญเท่าใด นกั จึงเป็นสาเหตทุ าให้ขาดแคลนปัจจยั ในการก่อสรา้ งวดั 6. ด้านสาธารณสงเคราะห์ พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด โดยข้อที่มีค่าเฉล่ีย สูงสุด คือ ข้อ 4 ที่ว่า “การบรรเทาช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ เช่น อุกภัย อัคคีภัย ธรณีพิบัติภัย เป็นตน้ ” กบั ข้อ 6 ทีว่ ่า “การจัดหนว่ ยอบรมประชาชนประจาตาบลและจดั อบรมประชาชน” และข้อ 3 ท่วี า่ “การช่วยเหลอื เก้ือกลู กิจการของชุมชนท่ีเป็นไปเพื่อสาธารณประโยชน์” ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ข้อ 1 ที่ว่า “จัดทาถนนภายในวัดให้สะดวกแก่การสัญจรไปมา” ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า งบประมาณในการก่อสร้างและพฒั นาวัดมีจานวนจากัด การก่อสร้างไม่คานึงถึงประโยชน์ในการ ใช้สอย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เป็นปัญหามากนักเน่ืองจากมีองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามารับผิดชอบแทน ทง้ั น้อี ภปิ รายไดว้ ่า การสาธารณสงเคราะหข์ องพระสงั ฆาธิการ ไดแ้ ก่ การดาเนินกิจการที่มีวัตถุประสงค์ ให้เป็นสาธารณประโยชน์ เช่น การอบรมประชาชนประจาตาบล การช่วยเหลือคนยากตนและผู้ด้อย โอกาส การช่วยเหลือเกื้อกูลสถานท่ีอันเป็นสาธารณสมบัติ เช่น การสร้างถนน ขุดคลอง สร้างฌาปน สถาน สรา้ งประปา เปน็ ตน้ แต่ปัจจุบันได้มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนตาบล เทศบาล ได้เข้ามามีอานาจหน้าท่ีตามบทบาทท่ีกฎหมายได้บัญญัติไว้มาทาการแทนและมีงบประมาณ ในการดาเนินโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการสงเคราะห์ผู้ยากไร้ด้อยโอกาส การสร้างสาธารณูปโภค ถนน หนทาง การก่อสร้างส่ิงอานวยความสะดวกให้แก่ประชาชน จึงทาให้ไม่มีปัญหาด้านสาธรณสงเคราะห์ ของพระสงั ฆาธกิ าร 5.2.2 ผลการเปรียบเทียบบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จาแนกตามอายุ พรรษา วุฒิการศึกษาสายสามัญ วุฒิการศึกษา ทางธรรม วฒุ ิการศกึ ษาทางเปรียญธรรม และตาแหนง่ พระสังฆาธกิ าร ทแ่ี ตกต่างกันตามสมมติฐาน ทตี่ ้ังไว้ สามารถนามาอภิปรายผลได้ดงั นี้ สมมติฐานที่ 1 พระสังฆาธิการท่ีมี อายุ แตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบว่า พระสังฆาธิการ

152 ท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ดังนั้นจึงปฏิเสธสมมติฐานท่ีตั้งไว้ นั้นแสดงว่าพระสังฆาธิการไม่ว่าจะมีอายุเท่าใดก็ตามมีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบ ประชาธิปไตยคล้ายคลึงกันหรือเหมือน ๆ กัน สอดคล้องกับผลการศึกษาของ พระครูวรสาธุวัตร (สารวย สาวโร) ได้การศกึ ษาวจิ ัยเรอื่ ง บทบาทของพระสังฆาธิการด้านการปกครองคณะสงฆ์ อาเภอ นครชัยศรี จงั หวัดนครปฐม ท่ีพบว่า ผลการทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์ความแตกต่างตัวแปร อายทุ ่แี ตกต่างกันมีความคิดเห็นของพระภิกษุสงฆ์ท่ีมีต่อบทบาทของพระสังฆาธิการด้านการปกครอง คณะสงฆ์ อาเภอนครชยั ศรี จงั หวัดนครปฐม ไมแ่ ตกต่างกัน สมมติฐานที่ 2 พระสังฆาธิการที่มีพรรษาแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบว่า พระสังฆาธิ การทีม่ ีพรรษาแตกต่างกนั มบี ทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ดังนั้นจึงยอมรับสมมติ ฐานท่ีตั้งไว้ นั้นแสดงว่าพระสังฆาธิการท่ีมีจานวนพรรษาที่หลากหลายของแต่ละรูปมีบทบาทในการ บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน โดยท่ีระดับ บทบาทในการบรหิ ารจดั การสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย ของพระสังฆาธิการ โดยรวม จาแนกตาม พรรษา เปรียบเทยี บรายคู่ พบว่า แตกตา่ งกันอยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถติ ิท่ีระดับ .05 จานวน 1 คู่ ได้แก่ 1-10 พรรษา กับมากกว่า 20 ปี พรรษา สอดคล้องกับผลการศึกษาของ พระครูวีรธรรมานุสิฐ (วีรพล ธมฺมปาโล) ได้ทาการวิจัยเรื่องบทบาทของพระสังฆาธิการท่ีมีต่อการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ในอาเภอพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่ีพบว่า พระสังฆาธิการที่มีจานวนพรรษา ที่แตกต่างกันมีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแกน่ โดยรวม แตกต่างกนั อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั .05 สมมติฐานท่ี 3 พระสังฆาธิการที่มี วุฒิการศึกษาสายสามัญ แตกต่างกัน มีบทบาทในการ บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบว่า พระสังฆาธกิ ารท่ีมวี ุฒกิ ารศึกษาสายสามัญแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ี ระดับ .05 ดังนั้นจึงยอมรับสมมติฐานที่ต้ังไว้ นั้นแสดงว่าพระสังฆาธิการที่จบระดับการศึกษาสาย สามัญต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่นแตกต่างกัน โดยท่ีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแก่น ของพระสงั ฆาธิการ โดยรวม จาแนกตามวุฒิการศึกษาสายสามัญ เปรียบเทียบรายคู่ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จานวน 1 คู่ ได้แก่ ต่ากว่าปริญญาตรีกับสูง กวา่ ปรญิ ญาตรี สอดคล้องกบั ผลการศึกษาของ สอดคล้องกับผลการศึกษาของ พระครูวีรธรรมานุสิฐ

153 (วีรพล ธมฺมปาโล) ได้ทาการวิจัยเร่ืองบทบาทของพระสังฆาธิการท่ีมีต่อการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ในอาเภอพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่ีพบว่า พระสังฆาธิการท่ีมีวุฒิการศึกษาสาย สามัญแตกต่างกันมีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดับ .05 สมมติฐานท่ี 4 พระสังฆาธิการท่ีมี วุฒิการศึกษาทางธรรม แตกต่างกัน มีบทบาทในการ บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบว่า พระสังฆาธิการท่ีมีวุฒิการศึกษาทางธรรมแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแกน่ โดยรวม ไม่แตกตา่ งกนั อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ดังนั้นจึงปฏิเสธสมมติฐานท่ีตั้งไว้ น้ันแสดงว่าพระสังฆาธิการที่มีวุฒิการศึกษาทางธรรม คือ นักธรรม ช้ันตรี นักธรรมชั้นโท และนักธรรมชั้นเอก มีรูปแบบการต่อบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นคล้ายคลึงกัน ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ พระครูวีรธรรมานุสิฐ (วีรพล ธมฺมปาโล) ได้ทาการวิจัยเรื่องบทบาทของพระสังฆาธิการท่ีมีต่อการ บรหิ ารกิจการคณะสงฆ์ในอาเภอพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่พบว่า พระสังฆาธิการ ที่มีระดับการศึกษาทางธรรมต่างกัน มีบทบาทในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัย สาคัญทางสถิติ และผลการศึกษาของ พระครูวรสาธุวัตร (สารวย สาวโร) ได้การศึกษาวิจัยเรื่อง บทบาท ของพระสังฆาธิการด้านการปกครองคณะสงฆ์ อาเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่ีพบว่า พระสังฆาธิการที่มีการศึกษาทางธรรมมีผลให้ความคิดเห็นของพระภิกษุสงฆ์ที่มีต่อบทบาทของพระ สงั ฆาธิการดา้ นการปกครองคณะสงฆ์ อาเภอนครชยั ศรี จงั หวดั นครปฐมไมแ่ ตกต่างกนั สมมติฐานท่ี 5 พระสังฆาธิการที่มี วุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรม แตกต่างกัน มีบทบาท ในการบริหารจดั การสงฆต์ ามระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชุมแพ จังหวดั ขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการ วิจัย พบว่า พระสังฆาธิการที่มีวุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรมแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัด การสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัย สาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ดังนั้นจึงยอมรับสมมติฐานท่ีตั้งไว้ น้ันแสดงว่าพระสังฆาธิการท่ีมีวุฒิการ ศึกษาทางเปรียญธรรม ได้แก่ ไม่มีวุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรม ประโยค 1-2 ถึง ปธ.3 และปธ 4-6 มบี ทบาทในการบริหารจดั การสงฆ์ตามระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นไม่เหมือน กัน โดยที่พระสังฆาธิการ จาแนกตามวุฒิการศึกษาสายสามัญ เปรียบเทียบรายคู่ พบว่า แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จานวน 1 คู่ ได้แก่ ไม่มีวุฒิการศึกษาทางเปรียญธรรมกับ ประโยค 1-2 ถึง ปธ.3 สอดคล้องกับผลการศึกษาของ พระครูวีรธรรมานุสิฐ (วีรพล ธมฺมปาโล) ได้ ทาการวิจัยเรื่องบทบาทของพระสังฆาธิการที่มีต่อการบริหารกิจการคณะสงฆ์ในอาเภอพระนครศรี - อยธุ ยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า พระสังฆาธิการท่ีมีวุฒิการศึกษาแตกต่างกันมีบทบาทในการ บริหารจดั การสงฆ์แตกต่างกนั อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดบั .05

154 สมมติฐานที่ 6 พระสังฆาธิการท่ีมีตาแหน่งพระสังฆาธิการแตกต่างกัน มีบทบาทในการ บริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน ผลการวิจัย พบว่า พระสังฆาธิการที่มีตาแหน่งแตกต่างกัน มีบทบาทในการบริหารจัดการสงฆ์ตามระบอบประชา- ธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ดงั นนั้ จึงยอมรบั สมมตฐิ านที่ตง้ั ไว้ น้ันแสดงว่าพระสังฆาธิการที่มีตาแหน่งต่างกัน ได้แก่ เจ้าคณะอาเภอ หรือรองเจ้าคณะอาเภอ เจ้าคณะตาบล และเจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาสมีบทบาทในการบริหารจัด การสงฆ์ตามระบอบประชาธปิ ไตยไม่เหมอื นกัน โดยท่ีผลการเปรียบเทียบรายคู่ พบว่า เปรียบเทียบราย คู่ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จานวน 2 คู่ ได้แก่ ตาแหน่งเจ้าคณะอาเภอ หรอื รองเจ้าคณะอาเภอกับเจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส และตาแหน่งเจ้าคณะอาเภอหรือรองเจ้าคณะ อาเภอกับตาแหน่งเจ้าอาวาสหรือรองเจ้าอาวาส สอดคล้องกับผลการศึกษาของ พระครูวีรธรรมานุสิฐ (วีรพล ธมฺมปาโล) ไดท้ าการวิจัยเร่ืองบทบาทของพระสังฆาธิการท่ีมีต่อการบริหารกิจการคณะสงฆ์ใน อาเภอพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่ีพบว่า พระสังฆาธิการที่มีตาแหน่งต่างกันมี บทบาทในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ในอาเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยรวม แตกตา่ งกนั อย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ิทรี่ ะดบั .05 5.3 ขอ้ เสนอแนะ สาหรบั การวิจัยเร่อื ง บทบาทในการบรหิ ารจดั การสงฆต์ ามระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชุม แพ จังหวดั ขอนแก่น ผูว้ ิจัยมีข้อเสนอแนะดังน้ี 5.3.1 ขอ้ เสนอแนะจากผลการศึกษา 1. ด้านการปกครอง พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการสงฆ์ ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พบว่า ข้อที่มีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ ข้อ 4 ท่ีว่า “การจัดประชุมพระภิกษุสามเณรเพ่ืออบรมสั่งสอนด้านข้อวัตรปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย” ส่วน ผลที่ได้จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ส่วนใหญ่ยึดถือเอาพระธรรมวินัยเป็นหลักในการปกครองคณะ สงฆ์ที่เปรียบเสมือนกฎหมายท่ีใช้ในทางโลก ดังน้ัน พระสังฆาธิการควรจัดประชุมอบรมคณะสงฆ์ ภายในวดั เกี่ยวกับการใชพ้ ระธรรมวนิ ัยเป็นแนวทางขอ้ วัตรปฏิบตั ิใหเ้ ข้มข้นยง่ิ ขนึ้ 2. ด้านการศาสนศึกษา พบว่า บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการ สงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ข้อ 3 ท่ีว่า “การสรรหาและพัฒนาครูสอนนักธรรมและบาลี” ดังน้ันหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควรมีการสรรหา คดั เลือกพระที่มคี วามเชีย่ วชาญเรอื่ งการสอนธรรมวินัยและภาษาบาลมี าประจาโรงเรยี นพระปริยัติ 3. ด้านการศกึ ษาสงเคราะห์ พบวา่ ขอ้ ทม่ี ีค่าเฉลย่ี ต่าสดุ คือ ข้อ 3 ท่ีว่า “การจัดตั้ง ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ภายในวัด” ส่วนผลท่ีได้จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ขาดแคลนเงินทุน

155 การศึกษาในการศึกษาเล่าเรียนเนื่องจากการจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษามีไม่ทั่วถึง ผู้เรียนด้านนี้มี จานวนลดลง ดงั นน้ั ควรมีการจัดการรายได้ของวัดให้เป็นส่วนหน่ึงสาหรับสนับสนุนการจัดการศึกษา และทนุ การศึกษาใหแ้ กพ่ ระภกิ ษสุ ามเณรทก่ี าลงั ศึกษาเลา่ เรยี น 4. ด้านการเผยแผ่ศาสนา พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ ข้อ 2 ที่ว่า “การเทศนา ส่ังสอนแก่ประชาชนโดยทั่วไปให้ตั้งอยู่ในหลักคาสอนของพระพุทธศาสนาเป็นประจา” ส่วนผลท่ีได้ จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ประชาชนไม่ให้ความสนใจหลักคาสอนทางพระพุทธศาสนา ไม่เข้าใจ ภาษาบาลี สนใจแตก่ ารขอหวยเบอร์ และบุคลากรทเี่ ป็นพระนักเทศน์มีน้อยและขาดที่ประสบการณ์ท่ี จะสอนญาติโยม ดังนั้นหน่วยงานที่เก่ียวข้องกับศาสนา ควรมีการฝึกอบรมพระวิทยากรให้สามารถ เทศนาและมเี ทคนคิ เรยี กความสนให้ญาติโยมสนใจในการฟงั เทศน์ฟังธรรมมากข้นึ 5. ดา้ นสาธารณปู การ พบว่า ข้อที่มคี ่าเฉลย่ี ตา่ สุด คือ ข้อ 1 ท่ีว่า “การควบคุมดูแล การก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัดและท่ีธรณีสงฆ์” ส่วนผลท่ีได้จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า ขาดงบ ประมาณและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการสนับการบูรณปฏิสังขรณ์วัด อีกทั้งญาติโยมทาบุญ น้อยเน่ืองจากสภาวะวิฤตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น พระสังฆาธิการหรือเจ้าอาวาสในวัดน้ัน ควรสร้าง ถาวรวัตถุในวดั เท่าท่ีจาเปน็ ใหเ้ ป็นไปอยา่ งประหยัดไมฟ่ ุม่ เฟือย 6. ด้านสาธารณสงเคราะห์ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุดคือ ข้อ 1 ท่ีว่า “จัดทาถนน ภายในวัดให้สะดวกแกก่ ารสัญจรไปมา” ส่วนผลที่ได้จากข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า งบประมาณในการ ก่อสร้างและพัฒนาวัดมีจานวนจากัด การก่อสร้างไม่คานึงถึงประโยชน์ในการใช้สอย ดังนั้นพระ สังฆาธกิ ารควรสนับสนนุ และร่วมมอื กับองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินในพื้นท่ีนั้น ๆ จัดสร้างถนนภายใน วัดใหม้ ีความสะดวกตอ่ การเดินทางของประชาชนทเ่ี ขา้ มาทาบญุ ภายในวดั 5.3.2 ข้อเสนอแนะเพ่ือการวจิ ัย 1. ควรมีการศึกษาปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของพระสังฆาธิการในจังหวัด ขอนแก่น หรือพื้นท่ีจังหวัดอ่ืน ๆ เพื่อท่ีจะได้ตัวแปรท่ีชัดเจนนามากาหนดนโยบายในการบริหารจัด การพระสงฆ์ต่อไป 2. ควรมีการศึกษาของพระสังฆาธิการในการส่งเสริมจริยธรรมแก่ชุมชนโดยการใช้ ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Research) ระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพกับการวิจัยเชิง ปริมาณเพือ่ ทีจ่ ะได้องคค์ วามอย่างรอบด้าน

บรรณานกุ รม 1. ภาษาไทย 1) หนังสอื ทั่วไป การศาสนา, กรม กองพุทธศาสนสถาน. (2545). คู่มือการพัฒนาวัด อุทยานการศึกษาในวัด กิจกรรมลานวดั ลานใจ ลานกฬี า. กรุงเทพมหานคร : การศาสนา. การศาสนา, กรม. (2540). คู่มือพระสังฆาธิการว่าด้วยเรื่องการคณะสงฆ์และการศาสนา. กรงุ เทพมหานคร : การศาสนา. _______. (2542). คู่มือพระสังฆาธิการว่าด้วยพระราชบัญญัติ กฎ ระเบียบ และคาสั่งของ คณะสงฆ์. กรงุ เทพมหานคร : การศาสนา. จีรพรรณ กาญจนจิตรา. (2544). สงั คมวทิ ยาและมานุษยวิทยาเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 18. ภาควิชา สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา. กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง. เฉลิมพล โสมอินทร์. (2546). ประวัติศาสตร์พุทธศาสนาและการปกครองคณะสงฆ์ไทย. กรงุ เทพมหานคร : สูตรไพศาล. ชาย โพธสิ ติ า. (2556). ศาสตรแ์ ละศิลปแ์ ห่งการวิจยั เชิงคณุ ภาพ. พิมพ์ครั้งท่ี 6. กรุงเทพมหานคร : บริษัท อมรินทร์พริ้นต้ิงแอนดพ์ ับลชิ ช่ิง จากัด. ชัยอนันต์ สมุทวนิช. (2545). ประชาธิปไตย สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ กับการเมืองไทย. พิมพ์ครั้งท่ี 3. กรุงเทพมหานคร: พฆิ เณศ. ชุดา จิตพิทักษ์. (2552). พฤติกรรมศาสตร์เบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์มหาวิทยาลัย สงขลานครนิ ทร์. ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร. (2545). ขบวนการเคล่ือนไหวทางสังคมรูปแบบใหม่. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรงุ เทพมหานคร : วิภาษา. ฑิตยา สุวรรณะชฎ. (2527). สงั คมวทิ ยา. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ไทยวัฒนาพานิช. นิรันดร์ จงวุฒิเวศย์. (2539). “เทคนิคการแก้ปัญหาและอุปสรรคในการทางาน” ใน เอกสารการ ฝกึ อบรมข้าราชการ หลักสูตรยุทธศาสตร์ในการทางานให้มีประสิทธิภาพ วันท่ี 11-13, 18-20 ตุลาคม 2539. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศลิ ปากร. พระเทพปริยัติมุนี (สุเทพ ผุสสธัมโม). (2546). ส.ค.ส. ปี 2546 ปฐมมนต์ มโนปีใหม่ของหลวงพ่อ พระร่วงโรจน์ฤทธ์ิ. กาญจนบุรี : ธรรมเมธี. พระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์ คังคปัญโญ). (2540ก). วัดช่วยชาวบ้านได้อย่างไร การแสวงหาเส้นทาง การพฒั นาชนบทของพระสงฆ์ไทย. กรงุ เทพมหานคร : เอกสารอดั สาเนา. พระเทพปริยัติสุธี (วรวิทย์ คังคปัญโญ). (2540ข). เอกสารประกอบคาบรรยายเร่ืองการคณะสงฆ์ และการพระศาสนา. กรงุ เทพมหานคร : มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย.

157 พระธรรมปรยิ ตั ิโสภณ (วรวิทย์ คังคปัญญา). (2545). การพัฒนาพระสังฆาธิการ ภาค 2 ภาคปฏิบัติการ. กรงุ เทพมหานคร : มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั . พระธรรมปฏิ ก (ป.อ. ปยุตโต). (2545). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบบั ประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งท่ี 11. กรงุ เทพมหานคร : สหธรรมกิ . พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ ปยุตโต). (2548). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. กรงุ เทพมหานคร : เอส. อาร์. พรน้ิ ตงิ้ แมส โปรดกั ส์. พระพุทธศาสนาแห่งชาติ, สานักงาน สถาบันพระสังฆาธิการ. (2548). การดูแลและรักษาการ จดั การศาสนสมบตั ิ. กรุงเทพมหานคร : สานกั งานพระพุทธศาสนาแหง่ ชาต.ิ พระภาวนาวิริยคุณ. (2552). คู่มือพุทธมามกะ ฉบับความรู้พ้ืนฐานก่อนไปวัด. กรุงเทพมหานคร : กราฟรคิ อารต์ พริ้นตง้ิ . พระมหาจรรยา สุทธิญาโณ. (2544). การปรับปรุงกิจการคณะสงฆ์เพ่ือธารงพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร : ประชาธรรม. พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ (วัชระ ศรีโรจน์). (2544). มงคลชีวิต ฉบับ “ทางก้าวหน้า” กรุงเทพมหานคร : อุดมศึกษา. พระมหาสมทรง สิริธโร, ประเวศ วะสี, สมบูรณ์ สุขสาราญ และ ส.ศิวรักษ์. (2525). บทบาทของวัด และพระสงฆ์ไทยในอนาคต. กรุงเทพมหานคร : เคล็ดไทย. พระมหาสุภา อุทโท. (2542). พระสงฆ์ไทยใน 2 ทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2541 -2560). กรงุ เทพมหานคร : สุขภาพใจ. พิภพ กาญจนะ. (2542). คู่มอื การบริหารและการจดั การวัดฉบบั ย่อ. กรงุ เทพมหานคร : การศาสนา. พิมลจรรย์ นามวัฒน์. (2546). “หลักการจัดการ”. ในเอกสารการสอนชุดวิชา ความรู้เบ้ืองต้น เกี่ยวกบั การบริหาร. นนทบุรี : มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช. ไพบลู ย์ เสียงกอ้ ง. (2544). “หลกั การบริหารวัด”. วัดพัฒนา. กรุงเทพมหานคร : การศาสนา. ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรมฉบับบัณฑิตราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 . กรุงเทพมหานคร : นามมบี ุ๊คส์ พับลิเคช่ันส.์ รุ่งเจริญ สายพันธ.์ (2540). แนวคดิ เกีย่ วกบั เครือ่ งชว้ี ดั คุณภาพชีวิตและสังคม : ระดบั กลุ่ม/ชุมชน. กรุงเทพมหานคร: สานักงานกองทนุ สนบั สนนุ การวิจยั . วิไลวัจน์ กฤษณะภูติ. (2558). การวิจัยเชิงคุณภาพทางรัฐประศาสนศาสตร์. เอกสารประกอบ การสอน. ขอนแกน่ : มหาวทิ ยาลยั ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื . ไวรัช เจยี มบรรจง.(2523). จติ วิทยาสังคม. พมิ พ์ครง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร : วทิ ยาลยั ครพู ระนคร, ศิริรัตน์ แอดสกุล. (2555). ความรู้เบื้องต้นทางสังคมวิทยา. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. สงวน สทิ ธเิ ลิศอรณุ . จิตวทิ ยาสงั คม. นนทบรุ ี : ชัยศริ ิการพมิ พ์, 2542.

158 ส่งเสริมการศึกษาและบริการสังคม, สานัก. (2544). บทบาทของพระสงฆ์ : ผู้นาในการอนุรักษ์ มรดก ศิลปวฒั นธรรมไทย. กรงุ เทพมหานคร : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร.์ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์. (2540). คู่มือพระสังฆาธิการว่าด้วยเร่ืองคณะสงฆ์และการ พระศาสนา การเผยแผพ่ ุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร : การศาสนา. สมพงษ์ ดลุ ยอนกุ ิจ. (2549). สงั คมศาสตร์กบั การพฒั นา. กรุงเทพมหานคร : โอ.เอส.พรน้ิ ตงิ้ เฮ้าส์. สัมพันธ์ เสริมชีพ. (2543). คู่มือพระสงฆ์ไทย เจ้าอาวาสเป็นพนักงานเจ้าหน้าท่ีหรือไม่?. กรุงเทพมหานคร : เสริมมิตรการพมิ พ.์ สาเริง จันทสุวรรณ. (2547). ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์. ขอนแก่น : ภาควิชาสังคมวิทยาและ มานษุ ยวทิ ยา คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น. สาลี รักสุทธี. (2549). ธรรมสุดยอดคาสอนของศาสนาพุทธ “ประมวลพุทธธรรมที่สาคัญจาเป็น สาหรับบคุ คลต่าง ๆ”. กรุงเทพมหานคร : ธนธชั การพิมพ์. สุวิมล ติรกานันท์. (2546). การเลือกใช้สถิติในงานวิจัยทางสังคมศาสตร์ : แนวทางสู่การปฏิบัติ. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พจ์ ุฬาลงกรณมหาวทิ ยาลยั . อุทัย หิรัญโต. (2546). การเปล่ียนแปลงสังคมกับศักยภาพของชุมชนไทย. กรุงเทพมหานคร : สมาคม สังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, สานกั พิมพ์อมรนิ ทร์ 2) วารสาร พระธรรมวรนายก. (2546). “การพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน.” ใน ธรรมปริทัศน์. 46. กรุงเทพมหานคร : มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย. พระสุธี วรญาณ (ณรงค์ จิตตโสภณ). (2541). พุทธศาสตร์ปริทัศน์ รวมผลงานวิชาการเก่ียวกับ พระพุทธศาสนา. กรงุ เทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณร์ าชวิทยาลยั . สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย.์ (2545). “สมั โมทนยี กถา”. พระสังฆาธิการ. ฉบับที่ 11, 45, 7. 3) เวบ็ ไซต์ จุไรรัตน์ มิศิริ. (2552, มิถุนายน, 11-12). การเผยแผ่พระพุทธศาสนา. มติชน. ค้นเม่ือวัน 11 พ ฤ ศ จิ ก า ย น 2 5 5 9 , จ า ก http://www.tumsrivichai.com/ข่ า ว พ ร ะ ส ง ฆ์ -ข่ า ว พระพทุ ธศาสนา/การเผยแผ่พระพุทธศาสนา.html. ประเสริฐ ปอนเถื่อน. (2551). พระสงฆ์กับงานสังคมสงเคราะห์. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ เมอ่ื วนั ท่ี 11 พฤศจิกายน 2559, จากhttp://www.swmcu.blogspot.com/ พระธรรมโกศจารย์ (ประยูร ธัมมจติ โต). (2552). การบรหิ ารวดั ประยรุ วงศาสารวิหารในช่วง 100 ค้นเมื่อวันที่11พฤศจิ กายน2559,จากhttp://watprayoon.org/index.php?topgroupid= 1&subgroupid=500&groupid=15.

159 สังเวียน พิลาพันธ์. (2553). พระสังฆาธิการ. ค้นเมื่อวันท่ี 11 พฤศจิกายน 2559, จาก http://www.songbr.org/god/sangkatikan.html. 4) วิทยานพิ นธ์ พระครูวรสาธุวัตร (สารวย สาวโร). (2556). “บทบาทของพระสังฆาธิการด้านการปกครองคณะสงฆ์ อาเภอนครชยั ศรี จังหวัดนครปฐม”. วทิ ยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบณั ฑิต. บัณฑติ วิทยาลัย : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย. พระครูวีรธรรมานุสิฐ (วีรพล ธมฺมปาโล). (2556). “บทบาทของพระสังฆาธิการท่ีมีต่อการบริหาร กิจการคณะสงฆ์ในอาเภอพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา”. วิทยานิพนธ์พุทธ ศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวทิ ยาลัย : มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย. พระครูสงั วรสาธุวัตร (สารวย สวโร). (2555). “บทบาทของพระสังฆาธิการด้านการปกครองคณะสงฆ์ อาเภอนครชัยศรี จงั หวัดนครปฐม”. วทิ ยานิพนธ์พทุ ธศาสตรมหาบัณฑติ . บณั ฑติ วิทยาลัย : มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั . พระธนดล นาคสุวัณโณ (นาคพิพัฒน์). (2550). “การบริหารกิจการคณะสงฆ์จังหวัดบุรีรัมย์”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วทิ ยาลยั . พระมหาเริงศักด์ิ พิมพ์สกุล. (2545). “รูปแบบการบริหารวัดในทศวรรษหน้า”. ปริญญานิพนธ์ การศกึ ษามหาบัณฑิต. บัณฑติ วทิ ยาลัย : มหาวิทยาลัยบูรพา. พระสมุห์กาพร สุชาโต (พิเชฐสกุล). (2555). “บทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะ สงฆ์ในอาเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิต วทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั . พระหัสนัย ปริปุณุโณ (สุวรรณจินดา). (2555). “บทบาทพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะ สงฆ์ จังหวัดสงขลา”. วิทยานิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั . 2. ภาษาอังกฤษ 1. Books Allport , Gordon W. (1973). Patten and Growth in 69 Personality. New York : Holt. Boom, J.J., & Selznick, P.(1977). Sociology. New York : Harper & Row.

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก รายชอื่ ผู้เช่ยี วชาญตรวจสอบเครื่องมอื

162 รายช่ือผู้เชีย่ วชาญตรวจสอบเคร่อื งมือ 1. รศ.ดร.ภาสกร ดอกจนั ทร์ Ph.D. (Social Science) การศึกษา อาจารย์ประจาหลักสตู รรัฐศาสตรมหาบณั ฑติ ตาแหนง่ ปัจจุบนั มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตศรลี า้ นช้าง 2. ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.บุรนิ ทร์ ภู่สกลุ การศกึ ษา Ph.D. (Political Science) ตาแหน่งปจั จุบนั อาจารย์ประจาหลักสตู รรัฐศาสตรมหาบัณฑติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย 3. ดร.ทองแพ ไชยต้นเทือก Ph.D. (Political Science) การศกึ ษา อาจารย์ประจาหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบณั ฑติ ตาแหนง่ ปัจจุบัน มหาวทิ ยาลยั ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื จังหวดั ขอนแกน่ 4. ดร.วนิ ิจ ผาเจรญิ Ph.D. (Political Science) การศกึ ษา อาจารย์ มหาวทิ ยาลัยแม่โจ้ จงั หวดั เชยี งใหม่ ตาแหนง่ ปัจจบุ นั 5. ดร.พูลสวัสด์ิ นาทองคา Ph.D. (การพฒั นา) การศึกษา นายกเทศมนตรเี ทศบาลตาบลร่องคา ตาแหน่งปัจจบุ ัน จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์

ภาคผนวก ข รายนามผู้ให้สัมภาษณ์

164 รายนามผูใ้ ห้สมั ภาษณ์ 1. พระครูศรีทศั นคณุ รองเจา้ คณะอาเภอชุมแพ 2. พระครพู ระครูเกษมปญั ญาภริ กั ษ์ จต.ขัวเรียง 3. พระครูสตุ คณุ วตั ร (ดร.) จต.หนองไผ่ เขต 2 4. พระครรู งั ษีธรรมสาร รองเจา้ คณะอาเภอชุมแพ 5. พระอธกิ ารประสาท สนฺตสาโร วดั นาสีนวน 6. พระครูวีรสุทธสิ ุนทร เจา้ อาวาสวดั โนนสะอาด 7. พระครกู ติ ตพิ ฒั นากร เจ้าอาวาสวัดสามัคคพี ัฒนาราม 8. พระครูสโมธานเขตคณารกั ษ์ ดร. เจ้าคณะอาเภอชุมแพ 9. พระอธิการฉลวย อริยวโส จต.ไชยสอ 10. พระครอู รณุ กจิ จาภรณ์ จต.หนองไผ่ เขต 3

ภาคผนวก ค หนงั สอื ขอความอนุเคราะหเ์ ป็นผเู้ ชี่ยวชาญตรวจสอบเคร่อื งมอื

166

167

168

169

$lll/- d os uo.u (te.en)/xood uriura m u r a'u rL y n n : rtivr u r a\"u {? vl u't rtJ 0rfl 5 a 1ut ''l drrnorfio.: o-.:r.rin ra u cloooo bb flqun1Ftu bdbo tt:r0.i .c, v) LnJ:o{ara'-r-iu 104'l']uoutnl13yllJufl ttu'tt'rfu9rr'rn r0ifull5 ol.flaa?ao!uo1yt0{a1 ai iJ,A{!']O2U o. UUUAoUoltl ijlu?lJ o ltr d':u n:srJrcnrBn olunI: u-nflnulrJirgrgrlvr r,ra-n4m:igrran:!u1frufi0r artritr iiivtrrraaroiuriuni.ri):r1J5onrn\" :uoyrrulyrnrinmoulyrr:dvuiirrslfri'Etl nnrr:'[lu'rrniy1r:uu'irra4-1ut{anu1r:arrllroinnuid:vruuodurlrJl:dsiturBnrrJ:tnoarpifdilr#rrn4ar quuTr dsr,lintouudu(RolEs OF ECCLESTASTTCAL ADM|N|STRAT|VE MONKS TOWARDS DEMOCMTIC ADMINISTRATION OF THE SANGHA COUNCIL IN CHUMPHAE DISTRICT, KHoN KAEN pRovtNcE)\" r'ooulurYuo,ounr:o'oririyurfir,iuiirfiorauoriorirufiniyura-a o1Q1:U,4yt!,:on'tr't?yu''lu11u0 tofl0'D tu1Lla2 tliu? lyt,tuti.JurJ rn?1r.]5 a.t.lua1u,tl0 tJ!:vaun1l0l. u4r]1salJ) 0u[a1,Ju..r4lt-t-u?-t'.]-f-um:?0-ao!ro540.:Iron'Daiu v5o1f{orauouuvnr:ioiuoilna1.] orroirgn:rrrfJio- vr:rr uavyirrtJuodrl0r'jrnrkiilnruourn:rvriornyirud'ru6 (y{:v nlU5uoalyll, o:.) :oloBnr:ud lt:rtiuu,rri v u r a-u ur,t n n u u r a-o i u u n ni d'ru{r.l uirufi niyru ra-u ivrur urnaEHrudrr Im:.odr-ar<uob Ivr5a1: odb-dmobdb

ภาคผนวก ง หนงั สือขอความอนเุ คราะห์เก็บรวบรวมขอ้ มลู

172

173

ภาคผนวก จ แบบสอบถาม

175 แบบสอบถาม เรอื่ ง บทบาทของพระสังฆาธิการในการบรหิ ารจดั การสงฆ์ตามระบอบประชาธิปไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ************** คาชีแ้ จง 1. แบบสอบถามชุดน้ีมี 2 ตอน ประกอบดว้ ย ตอนท่ี 1 เปน็ แบบสอบถามเก่ียวกับสถานภาพสว่ นบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการ สงฆต์ ามระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแกน่ ตอนท่ี 3 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อเสนอแนะการในการบริหารจัดการสงฆ์ตาม ระบอบประชาธปิ ไตย อาเภอชมุ แพ จงั หวดั ขอนแก่น 2. ในการตอบแบบสอบถามท้ัง 3 ตอนนี้ ขอได้โปรดพิจารณาตอบแบบสอบถามให้ครบ ถว้ นทกุ ขอ้ ตามความเปน็ จรงิ 3. การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ ใช้เป็นข้อมูลเพ่ือเป็นประโยชน์ในการทาวิจัยเท่าน้ัน และจะนา เสนอผลการวิจัยในภาพรวม จะไมม่ ีผลกระทบใด ๆ ต่อท่าน และขอขอบคุณท่านท่ีได้อนุเคราะห์ตอบ แบบสอบถาม ในคร้งั น้ี