83 ตารางที่ 4.38 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับความเข้าใจทาง การเมอื งในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอ ชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านความสนใจบทบาททางการเมือง จาแนกตามระดับ การศึกษา ระดับการศึกษา n S.D. แปลผล ประถมศกึ ษา มัธยมศึกษาตอนตน้ 61 2.95 1.06 ปานกลาง มัธยมศกึ ษาตอนปลาย/ปวช. อนุปริญญา/ปวส. 46 3.50 .91 มาก ปรญิ ญาตรหี รือสูงกว่า 49 3.46 .83 มาก รวม 102 3.71 .81 มาก 136 3.83 .88 มาก 394 3.58 .94 มาก จากตารางท่ี 4.38 พบว่า ประชาชนท้ังห้าระดับการศึกษา มีความเข้าใจทางการเมืองใน ระบอบประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านความสนใจบท บาททางการเมืองพบว่าอยู่ในระดับมาก มี 4 ระดับ ลาดับจากค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยคือ ระดับ ปริญญาตรีหรือสูงกว่า ระดับอนุปริญญาตรี/ปวส. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย/ปวช.อยูใ่ นระดับปานกลาง คอื ระดับประถมศึกษา ตารางที่ 4.39 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านความสนใจบทบาททางการเมอื ง ท่ีมรี ะดบั การศึกษาต่างกัน แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลมุ่ 35.78 4.00 8.94 11.287 .000* ภายในกล่มุ 308.28 389.00 0.79 344.06 393.00 รวม จากตารางที่ 4.39 พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีความเข้าใจทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านความสนใจ บทบาททางการเมืองแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 จึงได้ทาการทดสอบความ แตกตา่ งเป็นรายคู่ ดว้ ยวธิ กี ารของ Scheffe’ ปรากฏผลดังตารางท่ี 4.40
84 ตารางท่ี 4.40 แสดงการวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ด้านความสนใจบทบาททางการเมือง จาแนกตามระดับการศึกษา ด้วย วิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe’) ระดับการศกึ ษา ประถม มัธยมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษา อนปุ ริญญา/ ปริญญาตรี ศกึ ษา ตอนตน้ ตอนปลาย/ ปวส. หรือสูงกวา่ ประถมศกึ ษา 2.95 มัธยมศึกษาตอนต้น 3.50 ปวช. มธั ยมศึกษาตอนปลาย/ - .55* .51 .77* .88* ปวช. 3.46 อนปุ รญิ ญา/ปวส. 3.71 - .03 .22 .33 ปรญิ ญาตรีหรอื สูงกว่า 3.83 - .25 .37 - .12 - * มนี ยั สาคญั ทางสถิติทรี่ ะดบั .05 จากตารางท่ี 4.40 พบว่า ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นด้านความสนใจบทบาททางการเมือง แตก ต่างกัน จึงได้พิจารณาความแตกต่างรายคู่ ด้วยวิธีของ Scheffe’ พบว่า มีจานวน 3 คู่ ได้แก่ คู่ที่ 1 ศึกษาประถมศึกษา กับมัธยมศึกษาตอนต้น คู่ท่ี 2 ประถมศึกษา กับ อนุปริญญา/ปสว. และคู่ท่ี 3 ประถมศึกษา กับ ปริญญาตรีหรือสูงกว่า นอกน้ันไม่พบความแตกตา่ งเปน็ รายคู่
85 ตารางท่ี 4.41 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับความเข้าใจทาง การเมอื งในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอ ชุมแพ จงั หวัดขอนแกน่ โดยรวม จาแนกตามอาชีพ อาชพี n S.D. แปลผล รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ รบั จ้าง/เกษตรกรรม 114 4.13 .65 มาก คา้ ขาย/ธุรกจิ ส่วนตวั แมบ่ า้ น/นักศกึ ษา 135 3.23 .92 มาก รวม 102 3.80 .60 มาก 43 3.49 .98 มาก 394 3.67 .86 มาก จากตารางท่ี 4.41 พบว่า ประชาชนแต่ละอาชีพ มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธปิ ไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแก่น โดยรวม อยู่ในระดับมากเม่ือ พิจารณาเป็นรายอาชีพ พบว่า อยู่ในระดับมาก ทั้ง4อาชีพ ลาดับจากค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ อาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัวอาชีพแม่บ้าน/นักศึกษา และอาชีพรับจ้าง/ เกษตรกรรม ตารางที่ 4.42 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม ทม่ี อี าชีพตา่ งกนั แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหว่างกลุม่ 53.22 3.00 17.74 29.026 .000* ภายในกล่มุ 238.37 390.00 0.61 291.59 393.00 รวม จากตารางที่ 4.42 พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีความเข้าใจทางการเมืองใน ระบอบประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมอื งชมุ แพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จึงได้ทาการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ ด้วยวิธีการของ Scheffe’ ปรากฏผลดังตารางท่ี 4.43
86 ตารางที่ 4.43 แสดงการวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น โดยรวม จาแนกตามอาชีพ ด้วยวิธกี ารของเชฟเฟ่ (Scheffe’) อาชีพ รับราชการ/ รับจ้าง/ ค้าขาย/ แม่บ้าน/ รัฐวสิ าหกิจ เกษตรกรรม ธรุ กิจส่วนตวั นกั ศึกษา รบั ราชการ/รัฐวสิ าหกจิ รับจ้าง/เกษตรกรรม 4.13 - .89* .32* .63* ค้าขาย/ธุรกิจสว่ นตัว แมบ่ า้ น/นักศกึ ษา 3.23 - .57* .27 3.80 - .31 3.49 - * มีนัยสาคัญทางสถติ ิทีร่ ะดบั .05 จากตารางที่ 4.43 พบว่า ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นโดยรวมแตกต่างกัน จึงได้พิจารณาความ แตกต่างรายคู่ ด้วยวิธีของ Scheffe’ พบว่า มีจานวน 4 คู่ ได้แก่ คู่ท่ี 1รับราชการ/รัฐวิสาหกิจกับ อาชีพรับจ้าง/เกษตรกรรม คู่ท่ี 2 รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ กับ อาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว คู่ท่ี 3 รับ ราชการ/รัฐวิสาหกิจ กับอาชีพแม่บ้าน/นักศึกษา และคู่ท่ี 4 รับจ้าง/เกษตรกรรม กับอาชีพค้าขาย/ ธรุ กิจส่วนตวั นอกนั้นไมพ่ บความแตกต่างเปน็ รายคู่
87 ตารางท่ี 4.44 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับความเข้าใจทาง การเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอ ชมุ แพ จงั หวัดขอนแก่น ด้านหลกั การของระบอบประชาธิปไตย จาแนกตามอาชพี อาชพี n S.D. แปลผล รบั ราชการ/รฐั วิสาหกิจ รับจ้าง/เกษตรกรรม 114 4.34 .67 มากท่ีสดุ คา้ ขาย/ธุรกจิ สว่ นตัว แม่บา้ น/นักศกึ ษา 135 3.33 .94 มาก รวม 102 3.84 .70 มาก 43 3.61 .91 มาก 394 3.78 .90 มาก จากตารางที่ 4.44 พบว่า ประชาชนทั้งสี่อาชีพ มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านหลักการของระบอบ ประชาธิปไตย พบว่าอย่ใู นระดับมากทสี่ ุด คือ อาชพี รับราชการ/รัฐวิสาหกิจอยู่ในระดับมาก มี 3 อาชีพ ลาดับจากค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย คือ อาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัวอาชีพแม่บ้าน/นักศึกษา และ อาชีพรับจา้ ง/เกษตรกรรม ตารางท่ี 4.45 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นหลกั การของระบอบประชาธปิ ไตย ทม่ี อี าชีพตา่ งกนั แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลุ่ม 64.57 3.00 21.52 33.280 .000* ภายในกลมุ่ 252.22 390.00 0.65 316.79 393.00 รวม จากตารางท่ี 4.45 พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกัน มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านหลักการของระบอบ ประชาธปิ ไตยแตกตา่ งกันอยา่ งมนี ัยสาคัญทางสถติ ิที่ระดบั .05 จงึ ไดท้ าการทดสอบความแตกต่างเป็น รายคู่ ดว้ ยวิธีการของ Scheffe’ ปรากฏผลดงั ตารางที่ 4.46
88 ตารางที่ 4.46 แสดงการวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ด้านหลักการของระบอบประชาธิปไตย จาแนกตามอาชีพ ด้วยวิธีการ ของเชฟเฟ่ (Scheffe’) อาชีพ รบั ราชการ/ รับจ้าง/ คา้ ขาย/ แม่บ้าน/ รฐั วิสาหกิจ เกษตรกรรม ธุรกจิ สว่ นตวั นกั ศกึ ษา รบั ราชการ/รฐั วิสาหกิจ รับจา้ ง/เกษตรกรรม 34.34 - .89* .32* .63* ค้าขาย/ธุรกจิ สว่ นตวั .27 แม่บ้าน/นกั ศกึ ษา 3.33 - .57* .31 - 3.84 - 3.61 * มนี ัยสาคญั ทางสถติ ิทีร่ ะดบั .05 จากตารางที่ 4.46 พบว่า ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นด้านหลักการของระบอบประชาธิปไตย แตกต่างกนั จึงได้พิจารณาความแตกต่างรายคู่ ด้วยวิธีของ Scheffe’ พบว่า มีจานวน 4 คู่ ได้แก่ คู่ท่ี 1 รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ กับ อาชีพรับจ้าง/เกษตรกรรม คู่ที่ 2 รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ กับ อาชีพ ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว คู่ที่ 3 รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ กับ อาชีพแม่บ้าน/นักศึกษา และคู่ท่ี 4 รับจ้าง/ เกษตรกรรม กับ คา้ ขาย/ธุรกจิ สว่ นตัว นอกนัน้ ไมพ่ บความแตกต่างเป็นรายคู่
89 ตารางท่ี 4.47 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับความเข้าใจทาง การเมอื งในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอ ชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านพฤติกรรมเก่ียวกับวัฒนธรรมทางการเมือง จาแนก ตามอาชพี อาชีพ n S.D. แปลผล รบั ราชการ/รฐั วิสาหกิจ รบั จ้าง/เกษตรกรรม 114 4.08 .71 มาก คา้ ขาย/ธุรกิจสว่ นตัว แมบ่ า้ น/นักศกึ ษา 135 3.17 .95 ปานกลาง รวม 102 3.82 .65 มาก 43 3.49 1.02 มาก 394 3.63 .91 มาก จากตารางท่ี 4.47 พบว่า ประชาชนทั้งส่ีอาชีพ มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านพฤติกรรมเก่ียวกับ วัฒนธรรมทางการเมืองอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายอาชีพ พบว่า อยู่ในระดับมาก มี 3 อาชีพ ลาดบั จากคา่ เฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ อาชีพรับราชการ/รัฐวสิ าหกจิ อาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัวและ อาชพี แมบ่ า้ น/นักศึกษา อยใู่ นระดบั ปานกลาง คืออาชีพรบั จ้าง/เกษตรกรรม ตารางที่ 4.48 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านพฤตกิ รรมเกีย่ วกบั วฒั นธรรมทางการเมอื ง ทมี่ อี าชพี ต่างกนั แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกล่มุ 42.10 3.00 14.03 18.125 .000* ภายในกลุ่ม 301.96 390.00 0.77 344.06 393.00 รวม จากตารางท่ี 4.48 พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพต่างกัน มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านพฤติกรรมเกี่ยวกับ วัฒนธรรมทางการเมืองแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จึงได้ทาการทดสอบความ แตกตา่ งเป็นรายคู่ ดว้ ยวธิ กี ารของ Scheffe’ ปรากฏผลดงั ตารางที่ 4.49
90 ตารางที่ 4.49 แสดงการวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ด้านพฤติกรรมเก่ียวกับวัฒนธรรมทางการเมือง จาแนกตามอาชีพ ด้วย วิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe’) อาชพี รบั ราชการ/ รบั จา้ ง/ คา้ ขาย/ แม่บา้ น/ รัฐวิสาหกิจ เกษตรกรรม ธรุ กจิ สว่ นตัว นกั ศึกษา รบั ราชการ/รฐั วิสาหกิจ รบั จ้าง/เกษตรกรรม 4.08 - .91* .26 .59* คา้ ขาย/ธุรกจิ ส่วนตวั แมบ่ ้าน/นักศึกษา 3.17 - .65* .32 3.82 - .33 3.49 - * มีนยั สาคัญทางสถิติท่ีระดบั .05 จากตารางท่ี 4.49 พบว่า ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นด้านพฤติกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรมทาง การเมอื งจาแนกตามอาชีพ แตกต่างกนั จึงไดพ้ จิ ารณาความแตกต่างรายคู่ ด้วยวิธีของ Scheffe’ พบว่า มีจานวน 3 คู่ ได้แก่ คู่ที่ 1รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ กับ อาชีพรับจ้าง/เกษตรกรรม คู่ที่ 2 รับราชการ/ รฐั วิสาหกิจ กบั แมบ่ า้ น/นักศกึ ษา และคู่ที่ 3 รับจ้าง/เกษตรกรรม กบั ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว นอกน้ันไม่ พบความแตกต่างเป็นรายคู่
91 ตารางที่ 4.50 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับความเข้าใจทาง การเมอื งในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอ ชมุ แพ จงั หวัดขอนแก่น ดา้ นความสนใจบทบาททางการเมอื ง จาแนกตามอาชพี อาชีพ n S.D. แปลผล รับราชการ/รฐั วิสาหกจิ รบั จา้ ง/เกษตรกรรม 114 3.96 .81 มาก ค้าขาย/ธุรกิจสว่ นตวั แม่บา้ น/นักศึกษา 135 3.19 .98 มาก รวม 102 3.75 .67 มาก 43 3.38 1.12 มาก 394 3.58 .94 มาก จากตารางท่ี 4.50 พบว่า ประชาชนท้ังส่ีอาชีพ มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านความสนใจบทบาททาง การเมือง อยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายอาชีพ พบว่าอยู่ในระดับมาก ท้ัง 5 ระดับ ลาดับจาก ค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ อาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ อาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัวอาชีพ แม่บ้าน/นกั ศกึ ษา และอาชพี รบั จ้าง/เกษตรกรรม ตารางท่ี 4.51 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านความสนใจบทบาททางการเมอื ง ทม่ี อี าชพี ตา่ งกนั แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหว่างกล่มุ 42.10 3.00 14.03 18.125 .000* ภายในกลมุ่ 301.96 390.00 0.77 344.06 393.00 รวม จากตารางที่ 4.51 พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกัน มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านความสนใจบทบาท ทางการเมอื งแตกตา่ งกนั อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 จึงได้ทาการทดสอบความแตกต่างเป็น รายคู่ ดว้ ยวธิ ีการของ Scheffe’ ปรากฏผลดังตารางท่ี 4.52
92 ตารางที่ 4.52 แสดงการวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชา ธิปไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ด้านความสนใจบทบาททางการเมือง จาแนกตามอาชีพ ด้วยวิธีการของ เชฟเฟ่ (Scheffe’) อาชพี รับราชการ/ รบั จ้าง/ คา้ ขาย/ แม่บา้ น/ รฐั วสิ าหกจิ เกษตรกรรม ธรุ กิจสว่ นตัว นกั ศกึ ษา รบั ราชการ/รฐั วิสาหกิจ รับจา้ ง/เกษตรกรรม 3.96 - .77* .21 .58* คา้ ขาย/ธุรกิจส่วนตัว แม่บ้าน/นักศกึ ษา 3.19 - .57* .20 3.75 - .37 3.38 - * มีนยั สาคัญทางสถิติทร่ี ะดบั .05 จากตารางที่ 4.52 พบว่า ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นด้านพฤติกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรมทาง การเมืองจาแนกตามอาชีพ แตกต่างกัน จึงได้พิจารณาความแตกต่างรายคู่ ด้วยวิธีของ Scheffe’ พบว่า มีจานวน 3 คู่ ได้แก่ คู่ที่ 1รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ กับ อาชีพรับจ้าง/เกษตรกรรม คู่ท่ี 2 รับ ราชการ/รฐั วิสาหกิจ กับ แม่บา้ น/นกั ศึกษา และคู่ท่ี 3 รับจ้าง/เกษตรกรรม กับ ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว นอกนนั้ ไม่พบความแตกต่างเปน็ รายคู่
93 ตอนที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะเก่ียวกับความเข้าใจทางการเมืองใน ระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ผู้วิจัยได้ต้ังคาถามแบบปลายเปิด (Open Ends Questionnaire) สาหรับให้ผู้ตอบแบบ สอบถามได้เสนอแนะเก่ียวกับปัญหาและแนวทางแก้ไขความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิป - ไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยใช้การวิเคราะห์หา ค่าความถี่ (Frequency) และนาเสนอในรูปตารางประกอบการบรรยาย ปรากฏดงั ตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 4.53 แสดงคา่ ความถี่ข้อเสนอแนะเกย่ี วกับความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธิป ไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้าน หลักการของระบบประชาธปิ ไตย ขอ้ ท่ี ข้อเสนอแนะ ความถ่ี 1. รฐั บาลตอ้ งมาจากการเลอื กตง้ั ไม่ใช่มาจากการยดึ อานาจ 20 2. รฐั บาลควรนานโยบายที่เสนอมาให้ประชาชนเลอื กและทาอย่างจริงจัง 17 3. ควรมีการสนับสนุนส่งเสริมการจัดกิจกรรมเก่ียวกับประชาธิปไตยอย่างเสรี และ จรงิ จงั 14 รวม 51 จากตารางท่ี 4.53 พบว่า ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านหลักการ ของระบบประชาธิปไตย มีความถี่มากที่สุด คือ รัฐบาลต้องมาจากการเลือกตั้งไม่ใช่มาจากการยึด อานาจ รองลงมา คือ รัฐบาลควรนานโยบายที่เสนอมาให้ประชาชนเลือกและทาอย่างจริงจัง และน้อย ท่ีสุด คือ ควรมีการสนับสนุนส่งเสริมการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับประชาธิปไตยอย่างเสรีและจริงจังจาก ประชาชนท่ีตอบแบบสอบถามท้ังหมด 51 คน
94 ตารางท่ี 4.54 แสดงค่าความถขี่ อ้ เสนอแนะเก่ียวกับความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิป ไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้าน พฤติกรรมเกยี่ วกับวฒั นธรรมทางการเมอื ง ข้อที่ ขอ้ เสนอแนะ ความถ่ี 1. ควรพดู คยุ ถึงประวัติของนักการเมืองวา่ เปน็ คนดีหรอื ไม่ ไมช่ กั ชวนเอนเอยี ง 11 2. ชักชวนพดู คยุ เป็นกลางสนทนาเชิงบวก ให้เกดิ การพฒั นาสร้างสรรค์ 10 3. ควรเปดิ โอกาสใหป้ ระชาชนได้แสดงความคดิ เหน็ อย่างเสรี 10 4. ควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมมาก ๆ ที่จะได้ตัดสินใจเลือกนักการเมืองท่ีไม่เข้ามา 10 กอบโกยผลประโยชน์ 5. ต้องปลูกฝังและเพ่ิมหลักสูตรการเรียนการสอนให้เยาวชนรุ่นใหม่ในวัยเรียนต้ัง 10 51 แต่ระดบั ประถมถึงอดุ มศึกษา รวม จากตารางท่ี 4.54 พบว่า ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชา- ธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านพฤติกรรมเกี่ยว กับวัฒนธรรมทางการเมอื ง มีความถ่มี ากทสี่ ดุ คือ ควรพูดคุยถึงประวัติของนักการเมืองว่าเป็นคนดีหรือ ไม่ ไม่ชักชวนเอนเอียง รองลงมา คือ ชักชวนพูดคุยเป็นกลางสนทนาเชิงบวก ให้เกิดการพัฒนาสร้าง สรรค์ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมมาก ๆ ที่ จะได้ตดั สินใจเลือกนกั การเมอื งที่ไมเ่ ขา้ มากอบโกยผลประโยชน์ และน้อยที่สุด คือ ต้องปลูกฝังและเพ่ิม หลกั สตู รการเรียนการสอนใหเ้ ยาวชนรนุ่ ใหมใ่ นวัยเรียนตั้งแต่ระดับประถมถึงอุดมศึกษา จากประชาชน ทตี่ อบแบบสอบถามท้ังหมด 51 คน
95 ตารางท่ี 4.55 แสดงคา่ ความถี่ขอ้ เสนอแนะเกยี่ วกับความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธิป ไตยของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้าน ความสนใจในบทบาททางการเมอื ง ขอ้ ที่ ขอ้ เสนอแนะ ความถ่ี 1. ต้องแนะนาสรา้ งความเข้าใจในการออกไปใช้สิทธเิ์ ลอื กบุคคลที่ดี 11 2. การเลือกตั้งเม่ือสิ้นสุดแล้ว นักการเมืองที่ได้ตาแหน่งควรเข้ามาดูแลประชาชน 10 ทีไ่ ด้ให้นโยบายทกุ ครัง้ 10 3. กิจกรรมควรสร้างความรู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมีประโยชน์ อยา่ งไร 10 ตอ่ ชุมชนและส่วนรวม 10 4. ควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมเร่ืองผลประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ใช่นักการเมืองคิด เอง 10 ทาเอง สรุปเอง 10 5. ควรให้ประชาชนรับฟังความเคล่ือนไหวทางการเมือง รับข้อมูลข่าวสารมาก ๆ เพอื่ 10 ตดั สินใจไม่ผิดพลาด และไมเ่ ป็นการเลอื กต้งั 10 รวม 51 จากตารางท่ี 4.55 พบว่า ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชา- ธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านความสนใจใน บทบาททางการเมือง มีความถี่มากท่ีสุด คือ ต้องแนะนาสร้างความเข้าใจในการออกไปใช้สิทธิ์เลือก บุคคลที่ดี รองลงมา คือ การเลือกตั้งเมื่อสิ้นสุดแล้ว นักการเมืองท่ีได้ตาแหน่งควรเข้ามาดูแลประชาชน ที่ได้ให้นโยบายทุกครั้ง กิจกรรมควรสร้างความรู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมีประโยชน์ อย่างไร ต่อชุมชนและส่วนรวม ควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมเรื่องผลประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ใช่ นักการเมืองคิดเอง ทาเอง สรุปเอง และน้อยที่สุด คือ ควรให้ประชาชนรับฟังความเคล่ือนไหวทาง การเมือง รับข้อมูลข่าวสารมาก ๆ เพื่อตัดสินใจไม่ผิดพลาด และไม่เป็นการเลือกตั้ง จากประชาชนที่ ตอบแบบสอบถามทง้ั หมด 51 คน
บทที่ 5 สรุปผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ การวิจัย เรื่อง ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในเขต เทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นมีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือศึกษาความเข้าใจทาง การเมือง ในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น 2) เพื่อเปรียบเทียบความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขต เทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ท่ีมีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพต่างกัน และ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ของ ประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นซ่ึงผู้วิจัยได้ศึกษา ค้นคว้า เอกสาร ทฤษฎี แนวคิดและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพ่ือนามากาหนดกรอบแนวคิดในการวิจัยโดยต้ังสมมติฐาน ของการวิจัยว่า ประชาชนที่มี เพศ อายุ การศึกษา และอาชีพต่างกันมีความเข้าใจทางการเมืองใน ระบอบประชาธิปไตย ตา่ งกนั ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยในคร้ังนี้ได้แก่ ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกต้ังในเขตท้องท่ี เทศบาลเมอื งชมุ แพ อาเภอชมุ แพ จงั หวดั ขอนแก่นจานวน 24,800 คน และได้ใช้วิธีกาหนดขนาดกลุ่ม ตัวอยา่ งโดยใชส้ ูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ไดก้ ลุ่มตัวอยา่ งจานวน 394 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคร้ังน้ี คือ แบบสอบถาม (Questionnaire) มีลกั ษณะเป็นแบบตรวจเช็ครายการ (Check List) การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าความถ่ี (Frequency) คา่ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉล่ีย (Mean)คา่ ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) สถิติท่ีใช้ ในการวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยประชากร (Independent t-test) และวิเคราะห์ความแปร ปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) หรือ F-test ทดสอบความแตกต่างของค่า โดยใช้วิธี Scheffe และวิเคราะห์ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ใน เขตเทศบาลเมอื งชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ใช้การวิเคราะห์โดยวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) แล้วเรียงลาดับความถ่ี (Frequency) และนาเสนอในรูปตารางประกอบการบรรยาย ซ่ึง สามารถสรุปผลของการวจิ ยั ตามข้อคน้ พบไดด้ งั ตอ่ ไปนี้ 5.1 สรุปผล 5.2 อภปิ รายผล 5.3 ขอ้ เสนอแนะ
97 5.1 สรปุ ผลการวจิ ยั ผลการศึกษาความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในเขต เทศบาลเมอื งชมุ แพ อาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแก่น สามารถสรปุ ผลไดด้ ังน้ี 5.1.1 ผลการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ผู้ตอบแบบ สอบถามสว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญิง จานวน 221 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 56.09 เป็นเพศชาย จานวน 173 คน คิดเป็นร้อยละ 43.91 ส่วนใหญ่มีอายุ 31-40 ปี จานวน 114 คน คิดเป็นร้อยละ 28.93 รองลงมา มอี ายุ 41-50 ปี จานวน 103 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 26.14 อายุ 51-60 ปี จานวน 97 คน คิดเป็นร้อยละ 24.62 อายุ 18-30 คน จานวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 12.44 และอายุ 61 ปีข้ึนไป จานวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 7.87 ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาปริญญาตรีหรือสูงกว่า จานวน 136 คน คิดเป็น ร้อยละ 34.52 รองลงมา ระดับอนุปริญญาตรี/ปวส. จานวน 102 คน คิดเป็นร้อยละ 25.89 ระดับ ประถมศึกษา จานวน 61 คน คิดเป็นร้อยละ 15.48 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. จานวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 12.44 และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 11.68 และ ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง/เกษตรกรรมจานวน 135 คน คิดเป็นร้อยละ 34.26 รองลงมา อาชีพรับ ราชการ/รฐั วสิ าหกิจ จานวน 114 คน คดิ เป็นร้อยละ 28.93 อาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว จานวน 102 คน คิดเปน็ ร้อยละ 25.89 และอาชีพแมบ่ ้าน/นักศึกษา จานวน 43 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 10.91 5.1.2 ผลการวิเคราะห์ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พบว่า ความเข้าใจทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉล่ีย 3.67 เม่ือพิจารณารายด้าน โดยเรียงตามค่าเฉล่ียจากมากไปน้อย ดา้ นท่ีมีคา่ เฉลยี่ มากที่สุด คือ ดา้ นหลกั การของระบอบประชาธิปไตย มีค่าเฉลี่ย 3.78 รองลงมา ได้แก่ ด้านพฤติกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรมทางการเมือง มีค่าเฉลี่ย 3.63 ส่วนด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ดา้ นความสนใจบทบาททางการเมืองมีค่าเฉลีย่ 3.58 5.1.3 ผลการทดสอบสมมตฐิ านการวิจัย โดยผู้วิจัยได้ตั้งสมมติฐานการวิจัยไว้ว่าประชาชน ท่ีมีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพต่างกัน มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย แตกต่างกนั ผลการวิจัยพบว่า ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุม แพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแกน่ โดยรวมทัง้ 3 ดา้ น จาแนกตามเพศ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.67 และเม่ือจาแนกตามเพศ พบว่า มากท่ีสุด คือ เพศชาย และเม่ือจาแนกตามอายุ อยู่ในระดับมาก มีค่า เฉล่ีย 3.67 และเม่ือจาแนกช่วงอายุ พบว่า อายุ 51-60 ปี มีค่าเฉล่ีย 3.90 และเม่ือจาแนกตามระดับ การศึกษา พบว่า อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉล่ีย 3.67 และเมื่อแยกตามระดับการศึกษา พบว่าระดับ การ ศึกษามากท่ีสุด คือ ระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าระดับอนุปริญญาตรี/ปวส. รองลงมา คือ ระดับมัธยม ศึกษาตอนต้นและน้อยท่ีสุด คือ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. และเมื่อจาแนกตามอาชีพ พบว่า
98 อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.67 และเมื่อจาแนกแต่ละอาชีพ พบว่า อาชีพท่ีมีมากท่ีสุดคืออาชีพรับ ราชการ/รฐั วสิ าหกิจ รองลงมา คือ อาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว และอาชีพที่น้อยที่สุด คืออาชีพรับจ้าง/ เกษตรกรรม ผลการเปรียบเทียบ ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ใน เขตเทศบาลเมอื งชมุ แพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวมทั้ง 3 ด้าน จาแนกตามเพศ อายุ ระดับ การศึกษา และอาชีพ พบว่า เพศ ไม่แตกต่าง ส่วนอายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ แตกต่างกันอย่างมี นยั สาคญั ทางสถิตทิ ่ีระดบั .05 และเมอ่ื แยกทดสอบในแตล่ ะด้าน มรี ายละเอยี ดดงั นี้ 1) ดา้ นหลกั การของระบอบประชาธปิ ไตยพบว่าความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านหลักการของระบอบ ประชาธิปไตยจาแนกตามเพศ อยู่ในระดับมาก และเม่ือแยกตามเพศ พบว่า มากท่ีสุดคือเพศ เพศหญงิ จาแนกตามอายุอยู่ในระดับมากเมอื่ พิจารณาเป็นรายช่วงอายุ พบว่า อยู่ในระดับมาก ลาดับ จากค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย คือ อายุ 51-60 ปี อายุ 41-50 ปี และอายุ31-40 ปี ส่วนช่วงอายุ ท่ีอยู่ในระดับปานกลาง ลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย คือ อายุ 61 ปีขึ้นไป และอายุ 18-30 ปี จาแนกตามระดับการศึกษา อยู่ในระดับมาก และเมื่อจาแนกตามช่วงระดับการศึกษา พบว่า ระดับ การศึกษามากท่ีสดุ คือ ปริญญาตรีหรือสงู กว่า รองลงมาคอื อนุปริญญา/ปวส. และน้อยท่ีสุดคือ มัธยม ศึกษาตอนต้น จาแนกตามอาชีพ อยู่ในระดับมาก และเม่ือพิจารณาตามอาชีพ พบว่า อาชีพ ท่ีมาก ท่ีสุดคือ อาชีพรับจ้าง/เกษตรกรรม รองลงมาคือ อาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ และน้อยท่ีสุดคือ อาชีพแม่บ้าน/นักศึกษา ผลการเปรียบเทียบความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านหลักการของระบอบ ประชาธิปไตย จาแนกตามอายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ที่ระดบั .05 2) ดา้ นพฤตกิ รรมเกยี่ วกบั วัฒนธรรมทางการเมือง พบว่าความเข้าใจทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านหลักการ ของระบอบประชาธปิ ไตย จาแนกตามเพศ อยู่ในระดับมาก และเม่ือแยกตามเพศ พบว่า มากที่สุดคือ เพศ เพศหญิง จาแนกตามอายุอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายช่วงอายุ พบว่าอยู่ในระดับมาก มี 3 ชว่ งอายุ ลาดบั จากค่าเฉลย่ี จากมากไปหาน้อย คือ อายุ 51-60 ปี อายุ 41-50 ปี และอายุ 31-40 ปี อยรู่ ะดบั ปานกลาง มี 2 ชว่ งอายุ ลาดับจากคา่ เฉลย่ี จากมากไปหาน้อยคือ อายุ61 ปีข้ึนไป และอายุ 18-30 ปี จาแนกตามระดับการศึกษา พบว่า อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายช่วงระดับการ ศึกษา พบว่าอยู่ในระดับมาก มี 4 ระดับ ลาดับจากค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ระดับปริญญาตรี หรือสูงกว่าระดับอนุปริญญาตรี/ปวส. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ ปวช. อยู่ในระดับปานกลาง คือ ระดับประถมศึกษาจาแนกตามอาชีพ พบว่าอยู่ในระดับมาก มี 3 อาชีพ ลาดับจากค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย คือ อาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ อาชีพค้าขาย/ธุรกิจ
99 ส่วนตัว และอาชีพแม่บ้าน/นักศึกษา อยู่ในระดับปานกลาง คืออาชีพรับจ้าง/เกษตรกรรมผลการ เปรียบเทยี บความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาล เมืองชุม แพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านพฤติกรรมเก่ียวกับวัฒนธรรมทางการเมืองจาแนก ตามอายุ ระดับการศกึ ษา และอาชพี แตกตา่ งกันอย่างมนี ยั สาคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดับ .05 3) ดา้ นความสนใจบทบาททางการเมือง พบว่าความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านหลักการของระบอบ ประชาธิปไตย จาแนกตามเพศ อยู่ในระดับมาก และเม่ือแยกตามเพศ พบว่า มากที่สุดคือเพศ เพศหญงิ จาแนกตามอายุ พบวา่ อยู่ในระดบั มาก เม่ือพิจารณาเป็นรายช่วงอายุ พบว่าอยู่ในระดับมาก มี 3 ชว่ งอายุ ลาดบั จากค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ อายุ 41-50 ปี อายุ 31-40 ปี และอายุ 51-60 ปีอยู่ในระดับปานกลาง มี 2 ช่วงอายุ ลาดับจากค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ อายุ 18-30 ปี และ อายุ 61 ปีขึ้นไป จาแนกตามระดับการศึกษา พบว่า อยู่ในระดับมาก มี 4 ระดับ ลาดับจากค่าเฉล่ีย จากมากไปหาน้อย คือ ระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า ระดับอนุปริญญาตรี/ปวส. ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น และระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย/ปวช.อยู่ในระดับปานกลาง คือ ระดับประถมศึกษา จาแนก ตามอาชีพพบว่า อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายอาชีพ พบว่าอยู่ในระดับมาก ท้ัง 5 ระดับ ลาดับจากค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย คือ อาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ อาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว อาชีพแม่บา้ น/นักศึกษา และอาชีพรบั จา้ ง/เกษตรกรรม 5.2 อภปิ รายผลการวจิ ัย จากการสรปุ ผลการวจิ ัย สามารถนามาอภิปรายผลไดด้ ังนี้ 5.2.1 ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาล เมอื งชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พบวา่ ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวดั ขอนแก่น โดยรวมอยู่ในระดับมากทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่า ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองเพื่อรักษาอานาจและผลประโยชน์ของตนเอง มกี ารออกกฎหมายท่สี ่งเสรมิ ให้ประชาชนมสี ว่ นร่วมในการปกครองตนเอง เม่อื ประชาชนมีความเข้าใจ ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแล้ว ย่อมทาให้ทราบบทบาทสิทธิและหน้าท่ีของตนเอง ถือเป็น เร่ืองสาคัญประการหน่ึงเป็นการปกครองที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนท่ีมากท่ีสุด ซ่ึงไม่ สอดคลอ้ งกับงานวิจัยของ ยุทธพงษ์ เขื่อนแก้ว ได้ศึกษา เรื่อง ความรู้ความเข้าใจด้านประชาธิปไตย ความร้คู วามเข้าใจ ทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนส่วน ใหญม่ คี วามรู้ความเข้าใจดา้ นประชาธิปไตยอยู่ในระดับปานกลาง และไม่สอดคล้องกับผลการวิจัยของ วราพรรณ สมีกลาง ได้ศึกษา เรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของ ประชาชนคลองเตย ชุมชนแฟลต 1-10 กรุงเทพมหานคร” พบว่า ประชาชนเขตคลองเตย ชุมชน
100 แฟลต 1-10 กรุงเทพมหานครมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยรวมอยรู่ ะดบั ปานกลาง และไม่สอดคล้องกับ ผลการวิจัยของ กาวี สารบุตร ได้ศึกษาเร่ือง ความเข้าใจหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยของ นักเรียนในช่วงชั้นท่ี 2 : ศึกษาเฉพาะกรณี โรงเรียนบ้านหนองเหล็ก ตาบลโพธ์ิชัย อาเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ผลการวิจัยพบว่า การเข้าใจหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนใน ช่วงช้ันท่ี 2 : ศึกษาเฉพาะกรณี โรงเรียนบ้านหนองเหล็ก ตาบลโพธ์ิชัย อาเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด อยใู่ นระดับปานกลาง ถึง น้อย ไม่สอดคลอ้ งกับผลการวิจัยของ นิฤบล รูปเรี่ยม ได้ทาการศึกษาความ เขา้ ใจของประชาชนต่อการปกครองท้องถ่ินองค์การบริหารส่วนตาบลธาตุ อาเภอวานรนิวาส จังหวัด สกลนคร ผลการวิจัยพบว่า ระดับความเข้าใจของประชาชนต่อการปกครองท้องถ่ินองค์การบริหาร ส่วนตาบลธาตุ อาเภอวานรนวิ าส จงั หวดั สกลนคร โดยรวมอยูใ่ นระดับปานกลาง และไม่สอดคล้องกับ งานวิจัยของครองชยั ภรู ิเมธางกรู ไดศ้ ึกษา เรื่อง การมสี ว่ นร่วมทางการเมอื งในระบอบประชาธิปไตย ระดบั ทอ้ งถ่นิ ของประชาชนในเขตเทศบาลตาบลหนองโก อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ผลการวิจัย พบว่า การมีสว่ นรว่ มทางการเมอื งในระบอบประชาธิปไตยระดับท้องถิ่นของประชาชนในเขตเทศบาล ตาบลหนองโก อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ทั้ง 4 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ถึง ระดับ น้อย โดยพจิ ารณา เปน็ รายดา้ นดังตอ่ ไปนี้ 1) ด้านหลักการของระบอบประชาธิปไตย พบว่า ความเข้าใจทางการเมืองใน ระบอบประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านหลักการของ ระบอบประชาธิปไตย อยู่ในระดับมาก ไม่สอดคล้องกับผลการวิจัยของ ยุทธพงษ์ เข่ือนแก้ว ได้ศึกษา เร่อื ง ความรคู้ วามเขา้ ใจด้านประชาธิปไตย ความรู้ความเข้าใจ ทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัย กาฬสินธ์ุ พบว่า ระดับความรู้ความเข้าใจด้านประชาธิปไตย ความรู้ความเข้าใจ ทางการเมืองของ นกั ศกึ ษามหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ อยู่ในระดับปานกลาง และไม่สอดคล้องกับผลการวิจัยของ วราพรรณ สมีกลาง ได้ศึกษา เรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนคลองเตย ชุมชนแฟลต 1-10 กรุงเทพมหานคร” พบว่า ประชาชนเขตคลองเตย ชุมชนแฟลต 1-10 กรุงเทพ- มหานครมีส่วนรว่ มทางการเมืองโดยรวมอยู่ระดับปานกลาง 2) ดา้ นพฤติกรรมเกย่ี วกับวัฒนธรรมทางการเมือง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งน้ีอาจเป็นเพราะว่า ประชาชนมีส่วนร่วมในการสนทนาหรือแสดงความคิดเห็นทางการเมืองกับ บคุ คลในครอบครวั มสี ่วนร่วมในการตดิ ตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมีส่วนร่วมในการติดตามผล การเลือกตง้ั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เห็นคุณค่า ความสาคัญในการรับฟังรายการสนทนา พูด คุยทางการเมืองผา่ นสอ่ื เหน็ คณุ ค่าความสาคัญของการไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานชุมชนคณะกรรมการ ชุมชน และมีความเข้าใจในวัฒนธรรมทางการเมืองของชนช้ันกลาง ในการเข้าชื่อถอดถอนผู้ดารง ตาแหน่งทางการเมืองออกจากตาแหน่งท่ีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งไม่สอดคล้องกับผลการวิจัยของ พระสรรเสริฐ เมติโก (ธีโรภาส) ได้ศึกษา เรื่อง พฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนในระบอบ
101 ประชาธปิ ไตยในพื้นทเี่ ทศบาลเมอื งลดั หลวง จังหวดั สมุทรปราการ” พบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมทาง การเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยรวมท้ัง 4 ด้าน คือ ด้านสิทธิเสรีภาพด้านความเสมอภาค ด้าน ภราดรภาพ และด้านการมีส่วนร่วมทางการเมือง อยู่ในระดับปานกลาง ไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ ปดิษฐ์ คาดี ได้ศึกษาเร่ือง ปัจจัยบางประการท่ีส่งผลต่อวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตย ของประชาชนในจังหวัดเลย ผลการวิจัยพบว่า วัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของ ประชาชนในจังหวดั เลยโดยรวมอยใู่ นระดับสูง 3) ดา้ นความสนใจบทบาททางการเมือง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งน้ีอาจ เป็นเพราะว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมือง ที่จะเป็นสมาชิก พรรคการเมืองระดับชาติมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมือง ท่ีจะเป็นแกนนากลุ่ม การเมืองระดับท้องถ่ินมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมืองที่จะสมัครเป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมืองท่ีจะสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภามีความ เข้าใจในบทบาททางการเมืองที่จะเข้าร่วมชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง และมีความเข้าใจในความ สนใจบทบาททางการเมืองที่จะสมัครเป็นผู้นากลุ่มการเมืองซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ จอร์น ฮอสเปอร์ (John Hospers) ชใ้ี หเ้ ห็นวา่ “ความเข้าใจเป็นขั้นตอนต่อมาจากความรู้ โดยเป็นข้ันตอน ที่จะต้องใช้ความสามารถของสมองและทักษะในชั้นท่ีสูงขึ้น จนถึงระดับของการส่ือความหมาย ซึ่ง อาจเป็นไปได้โดยการใช้ปากเปล่า ข้อเขียน ภาษา หรือการใช้สัญลักษณ์ โดยมักเกิดขึ้นหลังจากที่ บคุ คลได้รับข่าวสารต่าง ๆ แล้ว อาจจะโดยการฟัง การเห็น การได้ยิน หรือเขียนแล้วแสดงออกมาใน รูปของการใชท้ กั ษะหรอื การแปลความหมายต่าง ๆ เชน่ การบรรยายข่าวสารที่ได้ยินมาโดยคาพูดของ ตนเอง หรอื การแปลความหมายจากภาษาหนึง่ ไปเป็นอีกภาษาหนึ่ง โดยคงความหมายเดิมเอาไว้ หรือ อาจเป็นการแสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อสรุปหรือการคาดคะเนก็ได้ ”สอดคล้องกับงานวิจัยของ วราพรรณ สมีกลาง ได้ศึกษา เร่ือง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ของ ประชาชนคลองเตย ชุมชนแฟลต 1-10 กรุงเทพมหานคร” ผลการวิจัยพบว่าด้านการแสดงความคิด เหน็ ทางการเมือง พบว่า อยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกับผลการวิจัยของ นิคม คมชยหยก ได้ศึกษา ความเข้าใจของทหารท่ีมีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย : ศึกษาเฉพาะกรณีกองร้อยมณฑล ทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ทหารกองร้อยมณฑลทหารบกท่ี 33 ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ มีความเข้าในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยรวมทั้ง 3 ด้าน อยู่ใน ระดับมาก 5.2.2 การเปรยี บเทยี บความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ท่ีมีเพศ อายุ การศึกษา และอาชีพ ต่างกัน มีรายละเอียดดังตอ่ ไปน้ี 1) จากสมมติฐานของการวิจัยว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความเข้าใจทาง การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ต่างกันผลการวิจัยพบว่า ประชาชนท่ีมีเพศต่างกัน มีความเข้าใจ
102 ทางการเมอื งในระบอบประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดย รวมไม่แตกต่างกัน ผลการวิจัยไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้ ท้ังนี้อาจเป็นเพราะว่า ความเข้าใจทาง การเมืองในระบอบประชาธิปไตยถึงแม้ว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตยไมเ่ หมือนกัน ก็ไม่ส่งผลต่อความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้แตกต่าง กันแต่อยา่ งใด ซง่ึ สอดคล้องกับงานวิจัยของ นิฤบล รูปเรี่ยม ได้ทาการศึกษาความเข้าใจของประชาชน ตอ่ การปกครองทอ้ งถ่ินองค์การบรหิ ารส่วนตาบลธาตุ อาเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ผลการวิจัย พบว่า ผลการเปรยี บเทียบความเข้าใจของประชาชนตอ่ การปกครองท้องถ่ินองค์การบริหารส่วนตาบล ธาตุ อาเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ตามคุณลักษณะส่วนบุคคล ด้านเพศ พบว่า ไม่แตกต่างกัน และไมส่ อดคลอ้ งกับผลการวจิ ัยของ ครองชยั ภูริเมธางกูร ได้ศกึ ษา เรอ่ื ง การมีส่วนร่วมทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยระดับท้องถ่ินของประชาชนในเขตเทศบาลตาบลหนองโก อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น พบว่า เพศ กับมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยระดับท้องถ่ินของ ประชาชนในเขตเทศบาลตาบลหนองโก อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น แตกต่างกันอย่างมีนัย สาคญั ทางสถติ ิทร่ี ะดับ 0.05 2) จากสมมติฐานของการวิจัยว่า ประชาชนท่ีมี อายุ ต่างกันมีความเข้าใจทาง การเมอื งในระบอบประชาธิปไตย ตา่ งกันผลการวจิ ัยพบวา่ ประชาชนท่ีมีอายุต่างกัน มีความเข้าใจทาง การเมอื งในระบอบประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ผลการวิจัยเป็นไปตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้ ท้ังน้ีอาจ เป็นเพราะว่าความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย ถงึ แม้วา่ ประชาชนจะมีอายุต่างกันแต่ก็ มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยต่างกัน สอดคล้องกับงานวิจัยของ ครองชัย ภูริ เมธางกูร ได้ศึกษา เรื่อง การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยระดับท้องถ่ินของ ประชาชน ในเขตเทศบาลตาบลหนองโก อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ผลการเปรียบเทียบพบว่า ประชาชนที่มีอายุ ต่างกันจะมีการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยระดับท้องถิ่นโดย รวมท้ัง 4 ด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และสอดคล้องกับผลการวิจัยของ วราพรรณ สมีกลาง ได้ศึกษา เรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของ ประชาชนคลองเตย ชุมชนแฟลต 1-10 กรุงเทพมหานคร พบว่า อายุ กับการมีส่วนร่วมทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนคลองเตย ชุมชนแฟลต 1-10 กรุงเทพมหานคร แตกต่างกัน อยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถิติที่ระดบั 0.05 3) จากสมมตฐิ านของการวิจัยว่า ประชาชนท่ีมี การศึกษา ต่างกันมีความเข้าใจทาง การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ต่างกันผลการวิจัยพบว่าประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาต่างกัน มี ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น โดยรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยเป็นไปตามสมมติ
103 ฐานทีต่ ้งั ไว้ ทัง้ นอ้ี าจเป็นเพราะว่าความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย ถึงแม้ว่าประชาชน ที่มีระดับการศึกษาต่างกันแต่ก็มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยต่างกัน สอดคล้อง กับงานวิจัยของ ครองชัย ภูริเมธางกูร ได้ศึกษา เรื่อง การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชา- ธิปไตยระดับทอ้ งถิ่นของประชาชนในเขตเทศบาลตาบลหนองโก อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ผล การเปรียบเทียบพบว่า ประชาชนท่ีมีการศึกษาต่างกันจะมีการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบ ประชาธิปไตยระดับทอ้ งถนิ่ โดยรวมท้งั 4 ด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ สอดคลอ้ งกบั งานวิจัยของ นิฤบล รูปเร่ียม ได้ทาการศึกษาความเข้าใจของประชาชนต่อการปกครอง ท้องถ่ินองค์การบริหารส่วนตาบลธาตุ อาเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ผลการวิจัยพบว่า คณุ ลกั ษณะ การศึกษา กับความเข้าใจของประชาชนต่อการปกครองท้องถ่นิ องค์การบริหารส่วนตาบล ธาตุ อาเภอวานรนวิ าส จงั หวดั แตกตา่ งกนั อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดับ .01 4) จากสมมติฐานของการวิจัยว่า ประชาชนที่มี อาชีพ ต่างกันมีความเข้าใจทาง การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ต่างกันผลการวิจัยพบว่าประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีความ เข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย ในเขตเทศบาลเมอื งชุมแพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิจัยเป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ถึงแม้ว่าประชาชนที่มีอาชีพ ต่างกันแต่ก็มีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยต่างกัน สอดคล้องกับงานวิจัยของ นิฤบล รูปเรี่ยม ไดท้ าการศกึ ษาความเขา้ ใจของประชาชนต่อการปกครองท้องถิ่นองค์การบริหารส่วน ตาบลธาตุ อาเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ผลการวิจัยพบว่า ผลการเปรียบเทียบความเข้าใจของ ประชาชนต่อการปกครองท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตาบลธาตุ อาเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ตามคุณลักษณะส่วนบุคคล ด้านอาชีพ พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 และ สอดคล้องกับผลการวิจัยของ ครองชัย ภูริเมธางกูร ได้ศึกษา เรื่อง การมีส่วนร่วมทางการเมืองใน ระบอบประชาธิปไตยระดับท้องถ่ินของประชาชนในเขตเทศบาลตาบลหนองโก อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น พบว่า อาชีพ กับการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยระดับท้องถ่ิน ของประชาชนในเขตเทศบาลตาบลหนองโก อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น แตกต่างกันอย่างมี นยั สาคญั ทางสถติ ิที่ระดบั 0.05 5.2.3 แนวทางแก้ไขความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชมุ แพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จากผลการวิจัย ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขต เทศบาลเมอื งชุมแพ อาเภอชมุ แพ จังหวดั ขอนแก่น มีขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย ดงั น้ี 1) ด้านหลักการของระบอบประชาธิปไตย ผลการศึกษา พบว่า ประชาชนมีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ในระดับปานกลาง ซ่ึงหมายความว่า ประชาชนมีความสนใจให้ความสาคัญในด้านหลักการของ
104 ระบอบประชาธิปไตยพอสมควร ดังนั้น รัฐบาล ควรมีนโยบายปรับปรุงและพัฒนาความเข้าในทาง การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ด้านหลักการของระบอบประชาธิปไตย ของประชาชนให้มากข้ึน เช่น รัฐบาลต้องมาจากการเลือกตั้งไม่ใช่มาจากการยึดอานาจ รัฐบาลควรนานโยบายท่ีเสนอมาให้ ประชาชนเลือกและทาอย่างจริงจัง และ ควรมีการสนับสนุนส่งเสริมการจัดกิจกรรมเก่ียวกับ ประชาธปิ ไตยอย่างเสรแี ละจริงจงั 2) ด้านพฤติกรรมเก่ยี วกับวฒั นธรรมทางการเมอื ง ผลการศึกษา พบว่า ประชาชนมีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ในระดับปานกลาง ซ่ึงหมายความว่า ประชาชนมีความสนใจให้ความสาคัญในด้านพฤติกรรม เก่ยี วกบั วัฒนธรรมทางการเมอื งพอสมควร ดังนัน้ รัฐบาล ควรมีนโยบายปรับปรุงและพัฒนาความเข้า ในทางการเมอื งในระบอบประชาธิปไตย ดา้ นพฤตกิ รรมเกี่ยวกับวฒั นธรรมทางการเมืองของประชาชน ให้มากข้ึน เช่น ควรพูดคุยถึงประวัติของนักการเมืองว่าเป็นคนดีหรือไม่ ไม่ชักชวนเอนเอียง ชักชวน พูดคุยเป็นกลางสนทนาเชิงบวก ให้เกิดการพัฒนาสร้างสรรค์ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดง ความคดิ เห็นอย่างเสรี ควรใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มมาก ๆ ท่ีจะได้ตัดสินใจเลือกนักการเมืองท่ีไม่เข้ามา กอบโกยผลประโยชน์ และ ต้องปลูกฝังและเพ่ิมหลักสูตรการเรียนการสอนให้เยาวชนรุ่นใหม่ในวัย เรยี นตงั้ แตร่ ะดบั ประถมถึงอุดมศึกษา 3) ดา้ นความสนใจในบทบาททางการเมอื ง ผลการศึกษา พบว่า ประชาชนมีความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ในระดับปานกลาง ซ่ึงหมายความว่า ประชาชนมีความสนใจให้ความสาคัญในด้านความสนใจใน บทบาททางการเมืองพอสมควร ดังนั้น รัฐบาล ควรมีนโยบายปรับปรุงและพัฒนาความเข้าในทาง การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ด้านความสนใจในบทบาททางการเมืองของประชาชนให้มากข้ึน เช่น ต้องแนะนาสร้างความเข้าใจในการออกไปใช้สิทธ์ิเลือกบุคคลที่ดี การเลือกต้ังเม่ือสิ้นสุดแล้ว นักการเมืองท่ีได้ตาแหน่งควรเข้ามาดูแลประชาชนที่ได้ให้นโยบายทุกครั้ง กิจกรรมควรสร้างความรู้ ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมีประโยชน์อย่างไร ต่อชุมชนและส่วนรวม ควรให้ประชาชนมี ส่วนร่วมเรอื่ งผลประโยชนต์ อ่ ส่วนรวม ไม่ใช่นักการเมืองคิดเอง ทาเอง สรุปเอง และควรให้ประชาชน รับฟังความเคล่ือนไหวทางการเมอื ง รบั ขอ้ มูลขา่ วสารมาก ๆ เพื่อตัดสินใจไม่ผิดพลาด และไม่เป็นการ เลอื กต้งั 5.3 ข้อเสนอแนะ จากผลการวจิ ัย จึงมขี อ้ เสนอแนะเพอ่ื การวจิ ัย ดงั นี้ 5.3.1 ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ของประชาชนในเขตเทศบาลเมอื งชมุ แพ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแกน่
105 5.3.2 ควรศกึ ษาในประเด็นความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชมุ แพ จังหวัดขอนแก่น ต่อความสนใจบทบาททางการเมือง 5.3.3 ควรศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของ ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองชมุ แพ อาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแกน่ เพ่อื จะไดท้ ราบข้อมูลเชงิ ลึก
บรรณานกุ รม 1. ภาษาไทย 1) หนังสอื ท่ัวไป กนลา สุขพาณิช. (2532). ระบบการเมืองเปรียบเทียบ. นนทบุรี : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช. กระมล ทองธรรมชาต.ิ (2515). หลกั ประชาธปิ ไตย. กรงุ เทพมหานคร : จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. โกวิทย์ พวงงาม. (2552). การปกครองท้องถ่ินไทย. พิมพ์คร้ังที่ 7. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์ วญิ ญูชน. โกวทิ วงศ์สวุ ฒั น.์ (2534). รฐั ศาสตร์กบั การเมอื ง. กรงุ เทพมหานคร : สานักพิมพ์ตะเกียง. เกษียร เตชะพีระ. (2545). การตอบสนองต่อภาวะวิกฤตเศรษฐกิจของภาคประชาสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร : วศนิ การพมิ พ์. จรญู สภุ าพ. (2535). ระบบการเมอื งเปรยี บเทียบ. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พว์ ฒั นาพานิช. จกั ร พนั ธช์ ูเพชร. (2538). รัฐศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พมิ พโ์ อเดียนสโตร์. จิระโชค วีระสัย และคณะ. (2540). รัฐศาสตร์ทั่วไป. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์มหาวิทยาลัย รามคาแหง. จานง พรายแย้มแข. (2535). เทคนิคการวัดและประเมินผลการเรียนรู้กันการสอนซ่อมเสริม (ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพไ์ ทยวฒั นาพานิช. ชัยอนันต์ สมทุ รวณิช. (2527). การมสี ่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนา. กรุงเทพมหานคร : ศักด์ิ โสภาการพิมพ์. ชะวัชชัย ภาติณธุ. (2548). กระบวนการเรียนรแู้ ละปฏิบตั กิ ารสิทธิมนษุ ยชน. กรุงเทพมหานคร : นักพมิ พ์โอเดยี นสโตร์. ชชู ยั ศภุ วงศ.์ (2541). ขบวนการประชาสังคมในสังคมไทย. กรงุ เทพมหานคร : ประชามติ. นิยม รัฐอมฤต. (2552). ตาราหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสาหรับนัก บริหารระดับสูงกลุ่มวิชาท่ี 7 : การปกครองระบอบประชาธิปไตยเปรียบเทียบ. นนทบุรี : วิทยาลยั การเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกลา้ . ประภาเพญ็ สวุ รรณ. (2520). ทัศนคติ. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พ์ไทยวฒั นาพานชิ . ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม. (2549).การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะโดยภาคประชาสังคม. กรงุ เทพมหานคร : ประชาสงั คม. ไพศาล หวังพานชิ . (2526). การวดั ผลการเรยี น. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช.
107 เยาวดี วิบูลย์ศรี. (2540). การวัดผลและการสร้างแบบสอบผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพมหานคร : สานกั พมิ พจ์ ุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542. กรุงเทพมหานคร : นามมีบคุ๊ สพ์ บั ลิเคชนั่ ส์. ร่งุ พงษ์ ชยั นาม. (2554). รวมบทความสทิ ธมิ นษุ ยชน ประวัตศิ าสตร์ และภาษา. กรุงเทพมหานคร : ห้างหุ้นสว่ นจากัด พมิ พ์อักษร. ลิขติ ธรี เวคิน. (2546). ประชาธปิ ไตยและการปฏริ ูปการเมอื งไทย. กรุงเทพมหานคร : แมค็ . วทิ ยากร เชียงกูล. (2532). พจนานุกรมศพั ท์เศรษฐศาสตร์การเมือง. กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพ์ ผลึก. สนธิ เตชานนท์. (2543). พ้ืนฐานรัฐศาสตร์. พิมพ์ครั้งท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์. สมศักดิ์ เก่ียวกิ่งแก้ว. (2526). ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับรัฐศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ มนิ ตราการพิมพ์. สมศักดิ์ ศรีสนั ติสุข. (2538). ระเบยี บวธิ ีวจิ ยั ทางสงั คมศาสตร์. ขอนแก่น : ขอนแกน่ การพมิ พ์. สมุทร เซ็นเชาวนิช. (2545). เทคนิคการอ่านภาษาอังกฤษเพ่ือความเข้าใจ. พิมพ์คร้ังที่ 8. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. สุขุม นวลสกุล และวิศิษฐ์ ทวีเศรษฐ. (2530). การเมืองการปกครองไทย. กรุงเทพมหานคร : กิง่ จนั ทรก์ ารพมิ พ์. เสกสรรค์ ประเสริฐกุล. (2548). การเมืองภาคประชาชนในระบอบประชาธิปไตยไทย. กรงุ เทพมหานคร : อมั รินทรพ์ มิ พ.์ อนันต์ สมุทรวณชิ . (2527). ลทั ธิการเมือง. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทศั น์. อเนก เหลา่ ธรรมทศั น.์ (2541). สองนคราประชาธปิ ไตย. กรุงเทพมหานคร : ประชามติ. 2) วารสาร ยุทธพงษ์ เขื่อนแก้ว. (2559).“ความรู้ความเข้าใจทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์” วารสารวิชาการแพรวากาฬสินธ์ุ. กาฬสินธุ์ : มหาวิทยาลยั กาฬสนิ ธ์ุ. 3) วทิ ยานิพนธ์/สารนพิ นธ์/รายงานวิจัย กาวี สารบุตร. (2551). “ความเข้าใจหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนในช่วงชั้นที่ 2 : ศึกษาเฉพาะกรณีโรงเรยี นบา้ นหนองเหล็ก ตาบลโพธชิ์ ยั อาเภอพนมไพร จงั หวัดร้ อ ย เ อ็ ด ” . สารนพิ นธ์ศาสนศาสตรมหาบณั ฑิต. บัณฑติ วทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย.
108 ครองชัย ภูริเมธางกูร. (2555).“การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยระดับท้องถ่ิน ของประชาชนเทศบาลตาบลหนองโก อาเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น”. สารนิพนธ์ ศาสนศาสตรมหาบณั ฑิต. บณั ฑติ วทิ ยาลยั : มหาวิทยาลัยมหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย. จักรกริช ใจดี. (2542).“ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตย ของนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตร ” วิทยานพิ นธ์สงั คมศาสตรมหาบณั ฑติ . บณั ฑติ วิทยาลัย : มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. นิคม คมชยหยก. (2553). “ความเข้าใจของทหารที่มีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย : ศึกษา เฉพาะกรณีกองร้อยมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่”. สารนิพนธ์ ศาสนศาสตรมหาบณั ฑติ . บณั ฑติ วิทยาลยั : มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลัย. บุหงา ทาระพันธ์. (2550). “ความเข้าใจเร่ืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยของนักเรียนช่วงชั้น ท่ี 4 : ศกึ ษาเฉพาะกรณี โรงเรยี นโสธรพทิ ยาคม อาเภอเมือง จังหวัดยโสธร”. วิทยานิพนธ์ ศาสนศาสตรมหาบัณฑติ . บัณฑติ วทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั . พระสรรเสริญ เมติโก (ธีโรภาส). (2556).“พฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนในระบอบ ประชาธิปไตยในพื้นท่ีเทศบาลเองลัดหลวง จังหวัดสมุทรปราการ”. สารนิพนธ์ศาสน- ศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลยั . วราพรรณ สมีกลาง. (2556).“การมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน เขต คลองเตย ชุมชนแฟลต 1-10 กรุงเทพมหานคร”. สารนิพนธ์ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. บณั ฑิตวทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. วัชระ จุนสาลี. (2544). “ปัจจยั ที่มผี ลต่อความรคู้ วามเข้าใจในเนอ้ื หาสาระในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2540” . วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบณั ฑติ . บณั ฑติ วทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. สายสุณี ศักรางกูร. (2542).“ความรู้ความเข้าใจในรูปแบบและเนื้อหาเรื่องการเมืองการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตยของนักเรยี นมัธยมศกึ ษาช้ันปที ่ี 1 และนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 : ศกึ ษาเฉพาะกรณี โรงเรียนในอาเภอเมือง จงั หวดั สมุทรสาคร”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรม หาบัณฑิต. บัณฑติ วทิ ยาลัย : มหาวิทยาลัยรามคาแหง. เสกสรร กาวี. (2553).“ความเข้าใจในวัฒนธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตยของผู้ปฏิบัติงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.มาช่เมาะ)” สารนิพนธ์ศาสนศาสตรมหา บณั ฑิต. บัณฑติ วิทยาลยั : มหาวิทยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลัย. แสงจันทร์ โสภากาล. (2544). “ปัจจัยท่ีมีความสัมพันธ์กับความรู้ความเข้าใจของบุคลากรเก่ียวกับ องค์การบริหารส่วนตาบล : กรณีศกึ ษาจงั หวดั เลย”. วทิ ยานพิ นธศ์ ิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บณั ฑิตวิทยาลยั : สถาบันราชภัฏเลย.
109 สุเมธ โยทุม. (2552). “ความรู้ความเข้าใจการปกครองระบอบประชาธิปไตยของนักศึกษาอาชีวศึกษา : ศึกษาเฉพาะกรณี วิทยาลัยการอาชีพด่านซ้าย อาเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย”. สารนิพนธ์ ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวทิ ยาลยั : มหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย. อุทุมพร วิลาทอง. (2541).“ความรู้ความเข้าใจและทัศนคติเร่ืองการเมืองการปกครองของนักเรียน มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 : ศึกษาเฉพาะกรณี โรงเรียนใน อาเภอศรีราชาจังหวัดชลบุรี”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยรามคาแหง.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก รายชอื่ ผู้เช่ยี วชาญตรวจสอบเครื่องมอื
112 รายช่ือผู้เชยี่ วชาญตรวจสอบเครอ่ื งมือ 1. รศ.ดร.ภาสกร ดอกจันทร์ Ph.D. (Social Science) การศกึ ษา อาจารย์ประจาหลักสตู รรัฐศาสตรมหาบณั ฑติ ตาแหน่งปัจจบุ นั มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตศรีลา้ นช้าง 2. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.บุรนิ ทร์ ภู่สกลุ การศึกษา Ph.D. (Political Science) ตาแหนง่ ปจั จบุ ัน อาจารย์ประจาหลกั สูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑติ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 3. ดร.ทองแพ ไชยตน้ เทือก Ph.D. (Political Science) การศกึ ษา อาจารย์ประจาหลักสตู รรัฐศาสตรมหาบณั ฑติ ตาแหนง่ ปัจจบุ ัน มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนอื จังหวัดขอนแกน่ 4. ดร.วนิ ิจ ผาเจรญิ Ph.D. (Political Science) การศึกษา อาจารย์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรแม่โจ้ ตาแหน่งปัจจบุ ัน Ph.D. (การพฒั นา) 5. ดร.พูลสวัสดิ์ นาทองคา นายกเทศมนตรเี ทศบาลตาบลรอ่ งคา การศกึ ษา จังหวดั กาฬสินธุ์ ตาแหน่งปัจจุบนั
ภาคผนวก ข หนงั สอื ขอความอนุเคราะหเ์ ป็นผเู้ ชี่ยวชาญตรวจสอบเคร่อื งมอื
ภาคผนวก ค หนังสือขอความอนเุ คราะห์เก็บรวบรวมขอ้ มลู
ภาคผนวก ง แบบสอบถาม
123 แบบสอบถาม เรือ่ ง ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชมุ แพ อาเภอชมุ แพ จงั หวัดขอนแก่น -------------------------------------------------------------- คาชีแ้ จง ขอความกรุณาท่านได้โปรดอ่านและขอความร่วมมือตอบตามที่เป็นจริงมากท่ีสุด เพราะ ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริงเท่าน้ันที่จะทาให้การศึกษาดาเนินไปด้วยความถูกต้องผู้ศึกษาจะถือว่า คาตอบของท่านเป็นความลับ และแปลผลเฉพาะในภาพรวมเท่าน้ันไม่มีผลกระทบต่อหน้าท่ีการงาน แต่ประการใด แบบสอบถามฉบบั นแี้ บง่ ออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนท่ี 1 ปัจจยั ดา้ นคุณลักษณะสว่ นบคุ คลของประชาชน ตอนท่ี 2 ระดบั ความเข้าใจทางการเมอื งในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะเกีย่ วกบั การส่งเสรมิ ด้านความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชา- ธปิ ไตยของประชาชน ขอขอบคุณ นางสาวกัญญาภทั ร สอนสุดชา นกั ศกึ ษาปรญิ ญาโท คณะบัณฑิตวิทยาลยั สาขารฐั ศาสตร์การปกครอง มหาวทิ ยาลัยมหามกุฎราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตศรีล้านชา้ ง จงั หวัดเลย
124 ตอนท่ี 1 ปจั จยั สว่ นบคุ คลของผูต้ อบแบบสอบถาม คาช้ีแจง กรุณาทาเคร่ืองหมาย ลงชอ่ ง ตามความเปน็ จริงมากท่ีสดุ 1. เพศ 2. หญิง 1. ชาย 2. อายุ 4. 51 - 60 ปี 1. 18 - 30 ปี 5. 61 ปีขึน้ ไป 2. 31 - 40 ปี 3. 41 - 50 ปี 3. การศึกษา 1. ระดบั ประถมศกึ ษา 4. ระดบั อนุปรญิ ญาตรี/ปวส. 2. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 5. ระดับปรญิ ญาตรีหรอื สงู กว่า 3. ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. 4. อาชีพ 3. ค้าขาย/ธรุ กิจสว่ นตวั 1. รับราชการ/รฐั วสิ าหกิจ 4. แม่บ้าน/นักศึกษา 2. รบั จ้าง/เกษตรกรรม
125 ตอนท่ี 2 แบบทดสอบเกี่ยวกับความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของ ประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชมุ แพ จงั หวัดขอนแก่น คาช้แี จง โปรดทาเครอ่ื งหมาย ลงในช่องวา่ งท่ตี รงกบั ความคิดเหน็ ของท่านมากท่ีสุด ระดับความเข้าใจ ความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ทส่ี ุด กลาง ที่สุด (5) (4) (3) (2) (1) ด้านหลักการของระบอบประชาธิปไตย 1. ท่านมีความเข้าใจในอานาจนิติบัญญัติ อานาจบริหาร และ อานาจตุลาการต้องมกี ารถว่ งดุลซง่ึ กันและกนั 2. ทา่ นมคี วามเข้าใจในการให้ประชาชนมีอานาจในการเลือกผู้ ปกครองอาจทาให้ได้ผู้ปกครองท่ีไม่ดี เพราะมีการซื้อสิทธิ ขายเสยี งกนั มาก 3. ท่านมีความเข้าใจในการเลือกตั้งเป็นการแสดงออกซึ่งเสรี ภาพในทางการเมอื งของประชาชนในการเลือกผูน้ าประเทศ 4. ท่านมีความเข้าใจในการมีเสรีภาพในการเลือกผู้ปกครอง ประชาชนที่ดอ้ ยการศกึ ษาอาจเลือกคนไม่ดีมาเป็นผู้ปกครอง จึงไมค่ วรให้เสรภี าพประชาชนในการเลือกผู้ปกครอง 5. ท่านมีความเข้าใจในความเสมอภาคการปกครองประเทศ จาเป็นตอ้ งใช้ความรู้ความสามารถ ดังน้ันคนด้อยการศึกษา จงึ ไมค่ วรเปน็ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 6. ท่านมคี วามเขา้ ใจในนโยบายรัฐบาลควรให้ความเสมอภาคใน การสนับสนุนประชาชนทุกคนได้มีโอกาสในการศึกษาอย่าง เท่าเทียมกันแม้จะต้องส้ินเปลืองทรัพยากรและงบประมาณ แผ่นดินจานวนมากก็ตาม 7. ท่านมีความเข้าใจในการมีส่วนร่วมรณรงค์ให้ไปใช้สิทธ์ิ เลือกตัง้ ในระดับใด
126 ระดบั ความเขา้ ใจ ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ทสี่ ดุ กลาง ท่สี ดุ (5) (4) (3) (2) (1) 8. ทา่ นมีความเขา้ ใจในหลักการทีว่ ่า “ชนชน้ั ใดบัญญัติกฎหมาย ก็เพื่อประโยชน์ของชนช้ันน้ัน” เป็นหลักการท่ีไม่สอดคล้อง กับความเปน็ จริงเพราะคนจนและไร้การศึกษาย่อมไม่มีความ รู้ท่ีจะบัญญัติกฎหมาย จึงไม่สมควรให้โอกาสบุคคลเหล่าน้ีมี สว่ นรว่ มในการบัญญตั ิกฎหมาย 9. ท่านมีความเข้าใจในเรื่องที่รัฐบาลได้รับเสียงข้างมากแสดงว่า ไดร้ บั ฉนั ทาอนุมัติจากประชาชนในทุกกรณีรัฐบาลจึงสามารถ ตดั สนิ ใจได้โดยไม่ต้องฟงั เสยี งจากฝ่ายค้านแต่อย่างไร 10. ทา่ นมีความเข้าใจในกาหนดให้ผู้ปกครองคนเดียวมีอานาจ ในการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จะทาให้การบริหารประเทศ มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะการฟังเสียงส่วนใหญ่อาจทา ใหล้ ่าช้าเปลา่ ประโยชน์ ดา้ นพฤติกรรมเก่ียวกบั วัฒนธรรมทางการเมือง 11. ท่านมีความเข้าใจการมีส่วนร่วมในการสนทนาหรือแสดง ความคิดเห็นทางการเมืองกบั บุคคลในครอบครัว 12. ทา่ นมคี วามเข้าใจการมีส่วนร่วมในการติดตามการอภิปราย ไม่ไว้วางใจรฐั บาล 13. ทา่ นมีความเขา้ ใจการมสี ว่ นรว่ มในการติดตามผลการเลือก ตัง้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร (สส.) 14. ท่านมีความเข้าใจในการเห็นคุณค่า ความสาคัญในการรับ ฟังรายการสนทนา พดู คยุ ทางการเมอื งผ่านสอื่ 15. ท่านมคี วามเข้าใจในการเห็นคุณค่าความสาคัญของการไป ใชส้ ทิ ธิเลอื กตั้งประธานชมุ ชน คณะกรรมการชมุ ชน 16. ท่านมีความเข้าใจในวัฒนธรรมทางการเมืองของชนช้ัน กลาง ในการเข้าช่ือถอดถอนผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง ออกจากตาแหนง่ ทป่ี ฏิบตั ิหนา้ ที่โดยมชิ อบ
127 ระดบั ความเข้าใจ ความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย มาก มาก ปาน น้อย น้อย ที่สุด กลาง ท่สี ดุ (5) (4) (3) (2) (1) 17. ท่านมีความเข้าใจในวัฒนธรรมทางการเมืองของชนชั้น กลางในการตรวจสอบทางการเมือง โดยการนาประชา พิจารณ์ซ่ึงมีประโยชน์ต่อกระบวนการตัดสินในกาหนด นโยบายของชาติ 18. ทา่ นมีความเข้าใจการกล่อมเกลาทางการเมืองท่ีเกี่ยวข้องกับ ระบอบการปกครองของประเทศเราในปัจจุบันเหมาะสม กับ เรามากที่สดุ ถงึ แมว้ ่าจะมีความบกพร่องอย่บู า้ งก็ตาม 19. ท่านมคี วามเขา้ ใจการกล่อมเกลาทางการเมือง ในการสนับ สนุนต่อระบบการเมือง ท่ีท่านสามารถไว้วางใจคนมาเป็น รัฐบาลเพื่อใหท้ าในสงิ่ ท่ถี ูกต้อง 20. ท่านมีความเข้าใจการกล่อมเกลาทางการเมืองในความซับ ซ้อนของการเมืองการปกครองจนยากที่จะเข้าใจประชาชน ธรรมดาอยา่ งเราไม่มีอิทธิพลใด ๆ ต่อการทางานของรัฐบาล ด้านความสนใจบทบาททางการเมอื ง 21. ทา่ นมคี วามเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมือง ที่จะ เป็นสมาชกิ พรรคการเมอื งระดบั ชาติ 22. ท่านมีความเขา้ ใจในความสนใจบทบาททางการเมือง ท่ีจะ เปน็ แกนนากล่มุ การเมอื งระดับทอ้ งถิ่น 23. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมืองทาง อ้อมโดยเปน็ ผ้รู ณรงค์ทางการเมือง ได้เชิญชวนให้ไปมีส่วน กิจกรรมการลงคะแนนเลือกต้ัง 24. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมืองท่ีจะ เข้ารว่ มกับกลุ่มการเมอื งระดับทอ้ งถ่ิน 25. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมืองท่ีจะ สมคั รเป็นสมาชิกสภาทอ้ งถิน่ 26. ท่านมคี วามเขา้ ใจในความสนใจบทบาททางการเมือง ท่ีจะ สมัครเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชมุ แพ
128 ระดับความเขา้ ใจ ความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย มาก มาก ปาน น้อย น้อย ท่สี ุด กลาง ทสี่ ุด (5) (4) (3) (2) (1) 27. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมืองที่จะ สมคั รเป็นสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 28. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมืองท่ีจะ สมัครเปน็ สมาชกิ วุฒิสภา 29. ท่านมีความเข้าใจในบทบาททางการเมืองท่ีจะเข้าร่วม ชุมนมุ เรยี กร้องทางการเมือง 30. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการเมืองที่จะ สมัครเปน็ ผู้นากลมุ่ การเมือง
129 ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหา และแนวทางการแก้ไขความเข้าใจทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแกน่ 3.1 ข้อเสนอแนะเกยี่ วกบั ปญั หา 3.1.1 ดา้ นหลกั การของระบบประชาธิปไตย ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3.1.2 ด้านพฤตกิ รรมเกีย่ วกบั วัฒนธรรมทางการเมอื ง ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3.1.3 ด้านความสนใจในบทบาททางการเมอื ง ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3.2 แนวทางการแกไ้ ข 3.2.1 ด้านหลักการของระบอบประชาธปิ ไตย ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3.2.2 ด้านพฤติกรรมเกย่ี วกบั วฒั นธรรมทางการเมอื ง ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. 3.2.3 ดา้ นความสนใจในบทบาททางการเมือง ........................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................
ภาคผนวก จ คา่ ดัชนคี วามสอดคล้องของขอ้ คาถาม (IOC)
131 ค่าดชั นคี วามสอดคลอ้ ง (IOC) ของแบบสอบถาม เรอื่ ง ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมอื งชมุ แพ อาเภอชมุ แพ จงั หวดั ขอนแก่น ตอนที่ 2 แบบสอบถามเก่ียวกับความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชุมแพ อาเภอชมุ แพ จงั หวดั ขอนแกน่ ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย คะแนนผเู้ ช่ยี วชาญคนท่ี ค่า แปลผล 12345 IOC ด้านหลักการของระบอบประชาธปิ ไตย 1. ท่านมีความเข้าใจในอานาจนิติบัญญัติ อานาจ บริหาร และอานาจตุลาการต้องมีการถ่วงดุลซ่ึงกัน และกัน +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 2. ท่านมีความเข้าใจในการให้ประชาชนมีอานาจใน การเลือกผู้ปกครองอาจทาให้ได้ผู้ปกครองท่ีไม่ดี เพราะมกี ารซอื้ สิทธิขายเสียงกนั มาก +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 3. ท่านมีความเข้าใจในการเลือกต้ังเป็นการแสดงออก ซ่ึงเสรีภาพในทางการเมืองของประชาชนในการ เลือกผู้นาประเทศ +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 4. ท่านมีความเข้าใจในการมีเสรีภาพในการเลือกผู้ ปกครองประชาชนท่ีด้อยการศึกษาอาจเลือกคนไม่ ดีมาเป็นผู้ปกครอง จึงไม่ควรให้เสรีภาพประชาชน ในการเลอื กผูป้ กครอง +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 5. ท่านมีความเข้าใจในความเสมอภาคการปกครอง ประเทศจาเป็นต้องใช้ความรู้ความสามารถ ดังนั้น คนด้อยการศึกษาจึงไม่ควรเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้
132 ความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย คะแนนผ้เู ช่ียวชาญคนท่ี คา่ แปลผล 12345 IOC 6. ท่านมีความเข้าใจในนโยบายรัฐบาลควรให้ความ เสมอภาคในการสนับสนุนประชาชนทุกคนได้มี โอกาสในการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันแม้จะต้องสิ้น เปลืองทรัพยากรและงบประมาณแผ่นดินจานวน มากกต็ าม +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 7. ท่านมีความเข้าใจในการมีส่วนร่วมรณรงค์ให้ไปใช้ สิทธเิ์ ลอื กตงั้ ในระดบั ใด +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 8. ทา่ นมคี วามเข้าใจในหลักการท่ีว่า “ชนชั้นใดบัญญัติ กฎหมายก็เพ่ือประโยชน์ของชนชั้นน้ัน” เป็นหลัก การที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะคนจน แ ล ะ ไ ร้ ก า ร ศึ ก ษ า ย่ อ ม ไ ม่ มี ค ว า ม รู้ ท่ี จ ะ บั ญ ญั ติ กฎหมาย จึงไม่สมควรให้โอกาสบุคคลเหล่าน้ีมีส่วน ร่วมในการบัญญตั ิกฎหมาย +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใชไ้ ด้ 9. ท่านมีความเข้าใจในเร่ืองท่ีรัฐบาลได้รับเสียงข้าง มากแสดงว่า ได้รับฉันทาอนุมัติจากประชาชนใน ทุกกรณี รัฐบาลจึงสามารถตัดสินใจได้โดยไม่ต้อง ฟังเสียงจากฝ่ายคา้ นแตอ่ ย่างไร +1 0 +1 +1 +1 0.8 ใช้ได้ 10. ท่านมีความเขา้ ใจในกาหนดให้ผู้ปกครองคนเดียวมี อานาจในการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดจะทาให้การ บริหารประเทศมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะการ ฟังเสยี งสว่ นใหญอ่ าจทาใหล้ ่าช้าเปล่าประโยชน์ +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ ดา้ นพฤติกรรมเก่ยี วกับวัฒนธรรมทางการเมือง 11. ท่านมีความเข้าใจการมีส่วนร่วมในการสนทนา หรือแสดงความคิดเห็นทางการเมืองกับบุคคลใน ครอบครวั +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 12. ทา่ นมคี วามเข้าใจการมสี ว่ นรว่ มในการติดตามการ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 13. ท่านมีความเข้าใจการมีส่วนร่วมในการติดตามผล การเลอื กตัง้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร (สส.) +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้
133 ความเขา้ ใจทางการเมืองในระบอบประชาธปิ ไตย คะแนนผ้เู ชี่ยวชาญคนที่ คา่ แปลผล 12345 IOC 14. ทา่ นมีความเข้าใจในการเห็นคุณค่าความสาคัญใน การรับฟงั รายการสนทนาพูดคุยทางการเมืองผ่าน สือ่ +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 15. ท่านมีความเข้าใจในการเห็นคุณค่าความสาคัญ ของการไปใช้สิทธิเลือกต้ังประธานชุมชน คณะ กรรมการชมุ ชน +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 16. ท่านมีความเข้าใจในวัฒนธรรมทางการเมืองของ ชนชัน้ กลางในการเข้าช่อื ถอดถอนผู้ดารงตาแหน่ง ทางการเมืองออกจากตาแหน่งท่ีปฏิบัติหน้าท่ีโดย มชิ อบ +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 17. ท่านมีความเข้าใจในวัฒนธรรมทางการเมืองของ ชนชั้นกลางในการตรวจสอบทางการเมือง โดย การนาประชาพิจารณ์ซ่ึงมีประโยชน์ต่อกระบวน การตัดสนิ ในกาหนดนโยบายของชาติ +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 18. ท่านมีความเข้าใจการกล่อมเกลาทางการเมืองท่ี เก่ียวข้องกับระบอบการปกครองของประเทศเรา ในปัจจบุ นั เหมาะสมกับเรามากที่สุด ถึงแม้ว่าจะมี ความบกพรอ่ งอย่บู ้างกต็ าม +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 19. ทา่ นมีความเข้าใจการกล่อมเกลาทางการเมือง ใน การสนับสนุนต่อระบบการเมือง ที่ท่านสามารถ ไว้วางใจคนมาเป็นรฐั บาลเพ่อื ให้ทาในส่งิ ที่ถกู ต้อง +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 20. ท่านมีความเข้าใจการกล่อมเกลาทางการเมืองใน ความซับซ้อนของการเมืองการปกครองจนยากท่ี จะเข้าใจประชาชนธรรมดาอย่างเราไม่มีอิทธิพล ใด ๆ ต่อการทางานของรัฐบาล +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ ดา้ นความสนใจบทบาททางการเมอื ง 21. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการ เมือง ทจ่ี ะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองระดบั ชาติ +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้
134 ความเข้าใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย คะแนนผู้เชีย่ วชาญคนที่ ค่า แปลผล 12345 IOC 22. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการ เมอื ง ท่จี ะเป็นแกนนากลมุ่ การเมืองระดับท้องถ่ิน +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 23. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการ เมืองทางอ้อมโดยเป็นผู้รณรงค์ทางการเมืองได้ เชิญชวนให้ไปมีส่วนกิจกรรมการลงคะแนน เลอื กตัง้ +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 24. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการ เมอื งที่จะเขา้ ร่วมกับกลุ่มการเมืองระดับท้องถ่นิ +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 25. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการ เมืองที่จะสมัครเป็นสมาชิกสภาท้องถ่นิ +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 26. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการ เมืองที่จะสมัครเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมือง ชุมแพ +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 27. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการ เมอื งทจี่ ะสมคั รเป็นสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 28. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการ เมืองที่จะสมัครเป็นสมาชิกวุฒสิ ภา +1 0 0 +1 +1 0.6 ใช้ได้ 29. ทา่ นมีความเข้าใจในบทบาททางการเมืองท่ีจะเข้า ร่วมชมุ นุมเรียกรอ้ งทางการเมอื ง +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้ 30. ท่านมีความเข้าใจในความสนใจบทบาททางการ เมอื งทีจ่ ะสมคั รเปน็ ผนู้ ากลมุ่ การเมือง +1 0 0 +1 +1 0.6 ใชไ้ ด้
ภาคผนวก ฉ คา่ สัมประสทิ ธิ์แอลฟา
136 RELIBILITY ANALYSIS-SCALE (ALPHA) Item-Total Statistics Scale Scale Corrected Cronbach's ข้อที่ Mean if Variance if Item-Total Alpha if Item Deleted Item Deleted Correlation Item Deleted 1 106.2259 645.236 .776 .984 2 106.2342 647.683 .786 .984 3 106.2342 645.318 .794 .984 4 106.3251 643.833 .832 .984 5 106.2590 644.121 .813 .984 6 106.3444 643.552 .821 .984 7 106.3747 648.428 .794 .984 8 106.3609 645.695 .829 .984 9 106.4160 644.757 .847 .984 10 106.2645 645.250 .824 .984 11 106.4325 650.274 .766 .984 12 106.4270 644.732 .856 .984 13 106.4187 646.261 .831 .984 14 106.4132 645.967 .828 .984 15 106.4573 643.951 .846 .984 16 106.4325 641.484 .853 .984 17 106.4683 642.294 .864 .984 18 106.4683 644.277 .848 .984 19 106.4931 643.919 .855 .984 20 106.4738 643.228 .850 .984 21 106.4160 645.592 .789 .984 22 106.4077 643.817 .844 .984 23 106.4105 642.248 .868 .984 24 106.3994 644.915 .809 .984
137 Scale Scale Corrected Cronbach's ข้อที่ Mean if Variance if Item-Total Alpha if Item Deleted Item Deleted Correlation Item Deleted 25 106.4518 644.978 .779 .984 26 106.4793 646.195 .777 .984 27 106.6309 642.786 .821 .984 28 106.7218 642.925 .816 .984 29 106.5730 640.030 .829 .984 30 106.7025 645.221 .724 .984 Reliability Coefficients N of Cases = 30 N of Item = 30 Alpha = 0.985
138 ประวตั ิผู้วจิ ัย ช่อื - สกลุ : นางสาวกญั ญาภัทร สอนสุดชา วัน เดอื น ปี เกดิ : วันที่ 25 กันยายน 2521 ทีอ่ ยู่ปัจจบุ นั : 78/8 หมู่ท่ี 1 ตาบลชมุ แพ อาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแก่น การศึกษา รหสั ไปรษณีย์ 40130 พ.ศ. 2534 พ.ศ. 2538 : ประถมศกึ ษา โรงเรียนบา้ นชมุ แพ พ.ศ. 2541 : มธั ยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนชุมแพศกึ ษา : ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) สาขาการบญั ชี พ.ศ. 2543 โรงเรยี นขอนแกน่ บรหิ ารธุรกิจ พ.ศ. 2548 : การศึกษานอกโรงเรยี น (กศน.) อาเภอชมุ แพ จังหวดั ขอนแกน่ พ.ศ. 2560 : ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาการบญั ชี ประสบการณก์ ารทางาน โรงเรยี นขอนแกน่ บรหิ ารธรุ กจิ : ปรญิ ญาตรี (รฐั ประศาสนศาสตร)์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเลย : ปรญิ ญาโท (รฐั ศาสตร์การปกครอง) มหาวิทยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลยั : งานบตั รประจาตัวประชาชน สานักงานเทศบาลเมอื งชุมแพ ตาบลชุมแพ อาเภอชมุ แพ จังหวดั ขอนแกน่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149