34 2.4.2.4 ลักษณะภูมิอากาศ ลกั ษณะภูมิอากาศของอาเภอชมุ แพ แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ 1. ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิเฉล่ียประมาณ 30.13 องศาเซลเซยี ส 2. ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ปริมาณน้าฝนวัดได้ 845 มิลลิเมตร 3. ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉล่ียประมาณ 23.48 องศาเซลเซียส 2.4.2.5 ทรพั ยากร อาเภอชุมแพ มีทรัพยากรที่สาคัญทางธรรมชาติ ดังนี้ ดิน ลักษณะของดินเป็นดิน ร่วน เหมาะแก่การเพาะปลูก ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพทานา ทาไร่ ทาสวน แหล่งน้าท่ีสาคัญของ อาเภอชุมแพ คือ ลาน้าเชิญ เป็นแม่น้าท่ีสาคัญที่หล่อเล้ียงประชากรในอาเภอชุมแพและอาเภอ ใกล้เคียง ชาวอาเภอชุมแพได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มี การสร้างเขื่อนกั้นลาน้าเชิญที่บ้านดอนหัน ซึ่งเป็นเขื่อนที่เอ้ือประโยชน์ให้ชาวชุมแพใช้ด้าน การเกษตรและสาธารณูปโภค ปา่ ไม้ อาเภอชุมแพ มีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงลานท่ี ให้ประโยชน์แก่ประชาชนท่ีอยู่ใกล้เคียงทั้งทางตรงและทางอ้อม สัตว์ ประชากรในอาเภอนิยมเลี้ยง สกุ ร โค กระบือ ไวบ้ ริโภคและจาหน่าย บางครอบครวั ยงั ได้ยดึ เป็นอาชีพหลกั 2.4.2.6 สถานศึกษา โรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 รวม 61 แห่งโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมเขตที่ 25 จานวน 6 แห่ง บุคลากรทางการศึกษา ครูสังกัด สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 5 - ครู โรงเรียนประถมศึกษา จานวน 280 คน - ครูโรงเรียนขยายโอกาส จานวน 220 คน - ครูโรงเรียน เอกชน จานวน 170 คน โรงเรียนในสังกัดสานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ จานวน 12 แห่ง เปิดสอนระดับก่อนประถมศึกษา ถึงระดับประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองชุมแพ 1 แห่ง วิทยาลัยในสังกัดสานักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา จานวน 1 แห่ง เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.)” โรงเรยี นในสงั กัดองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั ขอนแก่น 2 แห่ง 2.5 หลักธรรมสาหรบั ปฏบิ ัตงิ านในองค์กร ในฐานะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แนวคิดที่ถูก นาเสนอหรือหยิบยกข้ึนมาพูดกันมากก็คือ การนา “ธรรมะ” หรือหลักธรรมของพระพุทธศาสนามา
35 ประยุกต์ใช้เพื่อสร้างบรรยากาศการทางานท่ีพึงประสงค์ คือ งานสัมฤทธ์ิ ชีวิตร่ืนรมย์ โดยให้ ความสาคัญกับธรรมะที่เกี่ยวข้องกับการทาหน้าท่ีตามบทบาทของแต่ละคนท่ีเป็นอยู่ในหน่วยงาน องค์กร คือ ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือผู้ร่วมงาน ท้ังนี้ ก็เพื่อให้แต่ละคนรู้จักทา หนา้ ทีต่ ามบทบาทของตนได้อยา่ งถูกตอ้ ง ชวี ติ ของผู้คนในหน่วยงานหรือองค์กรก็จะมีความหมายและ บรรยากาศในองคก์ รกจ็ ะเป็นมิตรและร่มเย็นเป็นสุข การทางานทุกอย่าง ไม่สามารถทาสาเร็จด้วยตน เพียง คนเดียว ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจซึ่งกันและกัน ดังน้ัน ธรรมะที่เหมาะสมสาหรับการ ทางานร่วมกัน คือ สังคหวัตถุ 4 ซึ่งหมายถึง หลักธรรมท่ีเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้าใจของผู้อ่ืน ผูกไมตรี และเออื้ เฟือ้ เกือ้ กูล โดยหลกั ธรรมในสงั คหวัตถุ 4 ประกอบด้วย 1. ทาน : เก้ือกูลกันด้วยการให้ หมายถึง การให้ การเสียสละ หรือการเอ้ือเฟื้อแบ่งปัน ของๆตนเพ่ือประโยชน์แก่บุคคลอื่น ไม่ตระหน่ีถี่เหนียว ไม่เป็นคนเห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว ดังน้ัน การทางานจะต้องช่วยเหลือกนั แบ่งปนั ไมเ่ ห็นแก่ตัว รวมถงึ การมนี ้าใจทดี่ ตี อ่ กัน 2. ปิยวาจา : ใช้วาจาประสานไมตรี หมายถึง การพูดจาด้วยถ้อยคาที่ไพเราะอ่อนหวาน พูดด้วยความจริงใจ ไม่พูดหยาบคาย ก้าวร้าว พูดในส่ิงที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมกับกาลเทศะ ดังนน้ั การทางานรว่ มกันจะตอ้ งพูดหรอื ปรกึ ษาหารือกันโดยยึดถือหลักเกณฑ์ 4 ประการ คือ 1) เว้นจาก การพดู เทจ็ 2) เว้นจากการพูดส่อเสียด 3) เว้นจากการพูดคาหยาบ 4) เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ และที่ สาคญั อย่างย่ิง คอื จะตอ้ งพดู หรอื เจรจากนั ดวั ยไมตรแี ละความปรารถนาดีต่อกัน 3. อัตถจริยา : ร่วมสร้างสรรค์อุดมการณ์ หมายถึง การสงเคราะห์ทุกชนิดหรือ การปฏิบัติ ในส่ิงที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ดังน้ัน การทางานร่วมกันจะต้องช่วยเหลือกันด้วยกาลังกายกาลังความคิด และกาลงั ทรัพย์ 4. สมานัตตา : ร่วมทุกข์ร่วมสุขในทุกคราว หมายถึง การเป็นผู้มีความสม่าเสมอ หรือมี ความประพฤติเสมอต้นเสมอปลาย ดังน้ัน การทางานร่วมกันจะต้องนึกถึงคติว่า “มีทุกข์ร่วมทุกข์ มีสุข ร่วมเสพ”และผู้ทางานร่วมกันทุกคนจะต้องไม่ถือตัว มีความเสมอภาค วางตนเสมอต้นเสมอปลาย ทาตนใหเ้ ป็นท่ีน่ารัก น่าเคารพนับถือ และน่าให้ความร่วมมือช่วยเหลือ รวมถึง การทาตนให้คงเส้นคงวา มีความมั่นคงในอารมณ์ (Maturity) หรือการมี EQ ที่ดี ผ้ปู ฏบิ ัติงานหรือคนทางาน คือ ผู้ที่ถูกมอบหมายให้ทางานจากผู้บริหารหรือผู้บังคับบัญชา ซึ่งผปู้ ฏบิ ัติงานหรือคนทางานทกุ คนต่างก็ปรารถนาท่ีจะประสบความสาเร็จในการทางานด้วยกันทุกคน ดังนั้น ธรรมะที่เหมาะสมสาหรับผู้ปฏิบัติงาน คือ อิทธิบาท 4 ซ่ึงหมายถึง ธรรมแห่งความสาเร็จ โดยหลกั ธรรมในอิทธบิ าท 4 ประกอบดว้ ย 1. ฉันทะ : ความพอใจ หมายถึง ความรักงาน พอใจกับงานท่ีทาอยู่ ผู้ปฏิบัติงานจะต้อง ชอบหรอื ศรัทธางานที่ทาอยู่ จะตอ้ งพอใจที่จะทาและมีความสุขท่ีได้ทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย
36 2. วิริยะ : ความพากเพียร หมายถึง ขยันหมั่นเพียรกับงาน ผู้ปฏิบัติงานจะต้องมีความ ขยันหม่นั เพียรในการทางานที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้ง หม่ันฝึกฝนตนเองอย่างต่อเนื่องเพ่ือให้การทางาน มปี ระสิทธภิ าพมากยิง่ ข้ึน 3. จิตตะ : ความเอาใจใส่ หมายถึง ความเอาใจรับผิดชอบงาน ผู้ปฏิบัติงานจะต้องมีจิตใจ หรอื สมาธิจดจอ่ กบั งานที่ทา รวมถงึ มีความรอบคอบและความรับผดิ ชอบในงานทที่ าอย่างเต็มสติกาลงั 4. วมิ ังสา : ความสอดส่องในเหตุและผล หมายถึง การพินิจพิเคราะห์ใช้ปัญญาตรวจสอบงาน ผู้ปฏิบัติงานจะต้องทางานด้วยปัญญา ด้วยสมองคิด รวมถึง การมีความเข้าใจในงานอย่างลึกซึ้งท้ังในแง่ ขั้นตอนและผลสาเร็จ ผลสมั ฤทธขิ์ องงาน จะเหน็ ได้ว่า หลักธรรมท่ีใช้ในการทางานที่กล่าวมา ทั้ง อิทธิบาท 4 และสังคมวัตถุ 4 เป็น เรอ่ื งใกล้ตัวที่เราปฏิบัติกันอยู่แล้วในฐานะปัจเจกชน (Individualism) แต่อาจยังขาดการปฏิบัติอย่าง จริงจัง หากทุกคนสามารถปฏิบัติได้พร้อมกับทาหน้าท่ีของตนเต็มกาลังความสามารถอย่างสมบูรณ์ เชอื่ วา่ บรรยากาศในการทางาน “งานสมั ฤทธ์ิ ชีวิตรื่นรมย์” คงเกิดข้ันได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการรักงาน ท่ีทา ขยันทางาน รับผิดชอบงาน และรู้จักไตร่ตรองให้ถ่ีถ้วน รวมถึงการให้ การเกื้อกูลกันและการ ปฏิบัติตอ่ คนอนื่ เหมอื นกับการปฏบิ ัติต่อตนเอง 2.6 งานวิจัยทเ่ี กย่ี วขอ้ ง อกั ษา ทองพลอย (2554) ได้ทาการศึกษาการมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กรณีเลือกตั้งซ่อม พ.ศ. 2554 ผลการศึกษาพบว่า เพศและรายได้ท่ีต่างกัน ทาให้การมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดไม่แตกต่างกัน ระดับอายุ สถานภาพ ระดับ การศกึ ษา และอาชพี ตา่ งกัน ทาใหก้ ารมีสว่ นรว่ มทางการเมอื งของผ้มู สี ทิ ธเิ ลือกต้งั สมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจงั หวดั แตกตา่ งกนั อัญชนั กฤตรนตร์ ัศมี (2554) ไดท้ าการศกึ ษาปัญหาการบริการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภา เทศบาลและนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสวรรค์ อาเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ผลการศึกษาพบว่า การกาหนดหน่วยเลือกต้ังและสถานท่ีเลือกต้ังไม่เหมาะสม การสรรหาคณะกรรมการประจาหน่วย เลอื กตั้งและเจา้ หนา้ ท่มี รี ะยะเวลาจากดั การลงคะแนนและการนับคะแนนผู้มาใช้สิทธิเลือกต้ังมีความ สับสนในการกาบตั รเลือกตัง้ การรายงานผลการนับคะแนนมีความล่าช้า ไม่รอบครอบต้องแก้ไขหลาย คร้ัง การอบรมเจ้าพนักงานผู้ดาเนินการเลือกตั้งและเจ้าหน้าท่ีไม่มีการสาธิตการดาเนินการเลือกตั้ง การรายงานผลการเลือกตั้งของคณะกรรมการนับคะแนน การตรวจสอบเอกสารขาดความรอบคอบ ไมม่ ีการตรวจทานสง่ ผลให้การรายงานผลการเลือกต้ังล่าช้าไปด้วย ผู้ดาเนินการเลือกตั้งไม่ปฏิบัติตาม ขั้นตอนที่กฎหมายและคณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด ขาดความรู้ความเข้าใจ ปฏิบัติงาน ไม่
37 รอบคอบ การติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภายในเทศบาลไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร หนว่ ยงานตา่ งๆ ไม่เขา้ ใจเกยี่ วกบั กฎระเบยี บกฎหมายและบทบาทหนา้ ท่ีของตนเอง อุดม พิริยสิงห์ (2538, 135 หน้า) ได้ศึกษาเร่ือง การซ้ือสิทธิ-ขายเสียงและผลจากการ รณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิ-ขายเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคาม พบว่า มีการซ้ือเสยี งผา่ นกระบวนการจดั ต้ังและควบคุมหัวคะแนนอย่างเป็นระบบต้ังแต่ระดับหมู่บ้าน จนถงึ ระดับจงั หวดั มกี ารจัดเล้ียงอาหาร แจกขา้ วของและคูปองแลกเงินตลอดจนมกี ารบริจาคเงินหรือ สาธารณปู โภคใหแ้ กช่ มุ ชน ปริญญา นาคฉัตรีย์ (2545, 140 หน้า) ได้ทาการศึกษาเรื่อง การจัดการเลือกต้ังสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ปัญหาและแนวทางแก้ไข พบว่า ด้านปัญหาของผู้สมัครรับการ เลอื กตั้งนัน้ มพี ฤติกรรมแบบเดิมๆ มีการใช้เงินเพ่ือให้ชนะการเลือกต้ัง มีทั้งอาศัยกลุ่มอิทธิพลในท้องถ่ิน กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น ดาเนินการแจกจ่ายส่ิงของก่อนมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง มีการจัดตั้งเครือข่ายเหมือนแชร์ลูกโซ่ เครือข่ายพนันต่อรอง กิจกรรมเหล่านี้มักทาผ่านหัวคะแนนเป็น หลกั อุดม คูมา (2555) ไดท้ าการศึกษา ความสัมพันธ์และรูปแบบระบบอุปถัมภ์ของผู้นาชุมชน และประชาชนของชมุ ชนตาบลพระบาท อาเภอเมือง จังหวัดลาปาง พบว่าการช่วยเหลือ พ่ึงพาอาศัย เอ้ือเฟื้อต่อกัน เป็นความสัมพันธ์ท่ีมีความสาคัญอย่างย่ิงต่อวิถีชีวิตของสังคมไทยเพราะความสัมพันธ์ เชิงอุปถัมภ์เน้นความช่วยเหลือเก้ือกูลและการตอบแทนท่ีเราเรียกว่า “บุญคุณ” ความสัมพันธ์ ในลักษณะเช่นน้ีนับว่ามีผลดีต่อคนไทยทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจการเมือง ในส่วนของรูปแบบ เครือข่ายโครงสร้างทางสังคม พบว่า พัฒนามาจากระบบเครือญาติในชุมชนเป็นส่วนใหญ่ จึงทาให้ ระบบอุปถัมภ์ที่เกิดขึ้นในชุมชนย่ิงเกาะเกี่ยวแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นน่ันเอง รวมทั้งความเก่ียวข้องของ ความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ของผู้นาชุมชนกับประชาชนที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองน้ัน พบว่า หากผ้นู าชมุ ชนมีคุณลักษณะหรือคณุ สมบัติและความรู้ ความสามารถที่ดี จะเป็นคุณสมบัติท่ีสนับสนุน ให้ประชาชนในชุมชนมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยผ่านสายสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ของผู้นาชุมชนกับ ประชาชน พชั โรดม ลิมปิษเฐียร (2543) ซึ่งได้ทาการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการคัดค้านการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พบว่า กระบวนการคัดค้านการเลือกต้ังของ คณะกรรมการการเลือกตง้ั ยงั มีขอ้ บกพร่องและมีความไมเ่ หมาะสมหลายประการ กล่าวคือ ระยะเวลา ในการดาเนินการเรื่องคัดค้านการเลือกต้ังเร่ืองหนึ่ง ๆ เป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากการสืบสวน สอบสวนพยานหลักฐานใช้เวลานาน อีกท้ังกฎหมายไม่มีการกาหนดระยะเวลาเป็นบทบังคับ ในการ ดาเนินการเรื่องคัดค้านการเลือกต้ังไว้ ส่วนการลงมติในการท่ีจะมีคาสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่หรือ เลือกต้ังใหม่กฎหมายกาหนดให้ใช้คะแนนเสียงเอกฉันท์ทาให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ นอกจากน้ี
38 คาวินิจฉัยไม่มีการให้เหตุผลประกอบการออกคาสั่งทาให้คาวินิจฉัยไม่เป็นที่ยอมรับของผู้ท่ีเกี่ยวข้อง และสาธารณชนโดยท่วั ไป ปราณี โภชน์เจริญ (2549, 140 หน้า) ศึกษาเร่ือง ความคิดเห็นต่อประสิทธิภาพในการจัด การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตาบล (อบต.) ในจังหวัดพะเยา พบว่า ประชาชนท่ีมี เพศ อายุ สถานภาพการสมรส ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ต่อเดือน แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ ประสทิ ธภิ าพในการจัดการเลือกตัง้ องค์การบริหารสว่ นตาบล (อบต.) ในจังหวดั พะเยา ไมแ่ ตกต่างกนั อภิศักด์ิ จันทรโคตร (2553) ได้ทาการศึกษาเร่ือง ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภา เทศบาลและนายกเทศมนตรี เทศบาลตาบลบึงโขงหลง อาเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย พบว่า เพศ ตาแหน่ง และ ระดับการศึกษา กับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาเทศบาลและ นายกเทศมนตรี เทศบาลตาบลบึงโขงหลง อาเภอบึงโขงหลง จงั หวัดหนองคาย ไมแ่ ตกตา่ งกนั 2.7 สรปุ กรอบแนวคิดที่ใช้ในการวจิ ยั จากการศึกษาแนวคิดและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง ผู้วิจัยได้นาแนวคิดด้านบุคลากรที่จัดการ เลือกตั้ง ด้านผู้สมัครรับการเลือกต้ัง ด้านประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ด้านการบริหารการเลือกตั้งและ ด้านการประกาศผลการเลือกต้ัง ของการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ของ สานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (2554) และแนวคิดของ ภรณ์รวี บุญพรหม (2552) มากาหนดเปน็ กรอบแนวคดิ ในการวิจยั แสดงได้ดังนี้ ตวั แปรตน้ ตัวแปรตาม ปัจจยั ส่วนบุคคล ปัญหาการจดั การเลือกต้ังสมาชกิ สภาองคก์ าร บรหิ ารสว่ นจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลอื กต้งั 1. เพศของกรรมการการเลือกตั้ง 2. ตาแหนง่ ของกรรมการการ อาเภอชุมแพ จังหวดั ขอนแก่น เลอื กต้ัง 1. ด้านบุคลากรท่จี ดั การเลอื กตั้ง 3. ระดบั การศกึ ษาของกรรมการ 2. ดา้ นผสู้ มัครรับการเลอื กต้งั 3. ดา้ นประชาชนผมู้ ีสิทธเิ ลอื กตงั้ การเลือกตง้ั 4. ดา้ นการบริหารการเลือกตั้ง 5. ด้านการประกาศผลการเลือกต้งั แผนภูมิท่ี 2.2 แสดงสรปุ กรอบแนวคิดท่ใี ช้ในการวจิ ัย
39 บทที่ 3 วิธดี ำเนินกำรวิจยั การวิจัย เรื่อง ปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดของแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ครั้งน้ี เป็นการใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research Methods) เป็นหลัก ผู้วิจัยได้กล่าวถึงรายละเอียดของวิธีดาเนินการวิจัย ตามลาดบั ดังน้ี 3.1 ประชากรและกล่มุ ตวั อย่าง 3.2 เคร่ืองมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั 3.3 การสรา้ งเคร่อื งมอื วจิ ัย 3.4 วธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 3.5 วธิ กี ารวิเคราะหข์ ้อมลู 3.6 สถติ ทิ ี่ใช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล 3.1 ประชำกรและกลุ่มตวั อยำ่ ง 3.1.1 ประชำกร (Population) ประชากรในการวิจัยคร้ังน้ี ใช้หน่วยวิเคราะห์ข้อมูล (Unit of Analysis) เป็นระดับปัจเจกบุคคล ได้แก่ กรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดขอนแกน่ ในเขตเลือกตัง้ อาเภอชมุ แพ ในระดับหน่วยการเลือกตั้ง ที่จัดการเลือกต้ังสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ปี พ.ศ. 2555 จาก 12 ตาบล 181 หมู่บ้านหรือชุมชน คณะกรรมการประจาหนว่ ยเลอื กตั้งหน่วยละ 7 คน (หน่วยเลือกต้ัง/จานวนผู้มีสิทธิเลือกต้ัง 800 คน) ไดจ้ านวนหนว่ ยเลอื กตั้งท้ังหมด 172 หนว่ ย รวมกรรมการเลือกตั้ง จานวน 1,204 คน (ตารางที่ 3.1)
40 ตำรำงท่ี 3.1 แสดงจำนวนตำบล หมูบ่ ้ำนหรือชุมชน และกรรมกำรเลอื กตง้ั สมำชกิ สภำองคก์ ำร บริหำรส่วนจังหวดั ขอนแก่น ในเขตเลอื กตงั้ อำเภอชุมแพ ตำบล หนว่ ยเลือกต้ัง จำนวนคณะกรรมกำรฯ (คน) 1. ชุมแพ 28 196 2. หนองไผ่ 28 196 3. ไชยสอ 15 105 4. นาเพียง 14 98 5. หนองเสาเล้า 10 70 6. โนนอุดม 11 77 7. ขวั เรียง 12 84 8. นาหนองทุม่ 13 91 9. หนองเขยี ด 10 70 10. วงั หนิ ลาด 12 84 11. โนนหัน 10 70 12. โนนสะอาด 9 63 172 1,204 รวม ท่ีมา : สถติ ิรวมการเลอื กต้งั ส.อบจ. ขก . 26 สิงหาคม 2555 (อาเภอชุมแพ) 3.1.2 กลุ่มตัวอย่ำง (Samples) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ กาหนดมาจาก ประชากรท่ีเป็นกรรมการการเลือกต้ัง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เฉพาะเขต เลอื กตัง้ อาเภอชมุ แพ ท่จี ัดการเลือกตัง้ สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด (ส.อบจ.) ปี พ.ศ. 2555 ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง จานวน 300 คน โดยคานวณหาขนาดตัวอย่างจากสูตรทาโร ยามาเน่ (Yamane, 1975 อ้างใน สุวิมล ตริ กานันท์, 2546, หน้า 198) จากสูตร n = N 1 Ne2 เม่ือ n = จานวนกลุ่มตัวอยา่ ง N = จานวนประชากรทั้งหมด e = ความคลาดเคลอ่ื นของสัดส่วนหนว่ ยตัวอยา่ งต่างไปจาก สัดส่วนประชากรทยี่ อมให้เกดิ ขึน้ ไดก้ าหนดไว้ที่ .05
41 แทนค่าในสตู ร n = 1204 1 (1204) (0.05)2 = 300 3.1.3 กำรส่มุ ตัวอย่ำง (Sampling Random) การสมุ่ ตัวอยา่ ง ผวู้ จิ ยั ใช้วิธกี ารสมุ่ แบบง่ายกับประชากรทเ่ี ปน็ กรรมการการเลือกต้ังสมาชิก สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ให้กระจายไป ตามจานวนประชากรท่ีเป็นเฉพาะกรรมการการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ของแต่ละตาบล ตามตารางที่ 3.2 โดยมี รายละเอยี ดดงั นี้ ตำรำงที่ 3.2 จำนวนประชำกรและกล่มุ ตัวอย่ำง จำแนกตำมตำบลท่ใี ช้ในกำรเก็บรวบรวมขอ้ มูล ของอำเภอชมุ แพ ตำบล หนว่ ยเลือกตงั้ จำนวนคณะกรรมกำรฯ (คน) จำนวนกลมุ่ ตัวอย่ำง (คน) 1. ชุมแพ 28 196 50 2. หนองไผ่ 28 196 49 3. ไชยสอ 15 105 26 4. นาเพียง 14 98 24 5. หนองเสาเลา้ 10 70 17 6. โนนอุดม 11 77 19 7. ขวั เรยี ง 12 84 21 8. นาหนองท่มุ 13 91 23 9. หนองเขยี ด 10 70 17 10. วังหนิ ลาด 12 84 21 11. โนนหนั 10 70 17 12. โนนสะอาด 9 63 16 172 1,204 300 รวม
42 3.2 กำรสรำ้ งเคร่ืองมอื ท่ีใช้ในกำรวจิ ยั เคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการวิจัย เปน็ แบบสอบถาม ประกอบด้วย 3 ตอน ดังนี้ ตอนท่ี 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลบางประการของผู้ตอบแบบสอบถาม คาตอบ มลี ักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ (Check List) ถามเก่ียวกบั เพศ ตาแหน่ง และระดบั การศกึ ษา ตอนท่ี 2 เปน็ แบบสอบถามเก่ียวกบั ปัญหาการจัดการเลือกตง้ั สมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนจงั หวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น คาตอบมีลักษณะเป็นแบบมาตรส่วน ประมาณคา่ 5 ระดบั (Rating Scale) โดยกาหนดค่าระดับปัญหา ดงั นี้ ปญั หามากที่สดุ กาหนดให้ 5 คะแนน ปัญหามาก กาหนดให้ 4 คะแนน ปัญหาปานกลาง กาหนดให้ 3 คะแนน ปญั หาน้อย กาหนดให้ 2 คะแนน ปญั หาน้อยทีส่ ดุ กาหนดให้ 1 คะแนน ตอนที่ 3 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เป็นแบบปลายเปดิ ที่เปดิ โอกาสใหผ้ ตู้ อบแบบสอบถามแสดงความคิดเห็นได้อสิ ระ 3.3 เคร่อื งมอื ที่ใชใ้ นกำรวจิ ยั เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั ครั้งน้ีเป็นแบบสอบถาม ผู้วิจยั สร้างจากแนวคดิ ทฤษฎีและงานวิจัย ท่ีเก่ียวขอ้ ง โดยมขี น้ั ตอนการสรา้ งเคร่อื งมอื สาหรบั การวจิ ยั ตามลาดบั ดงั นี้ 3.3.1 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวข้องกับการวัดระดับปัญหาการจัดการเลือกต้ัง สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนจังหวัด ศึกษากฎหมายพระราชบัญญัตกิ ารเลอื กต้ังสมาชิกสภาท้องถ่ิน หรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2554 แล้วรวบรวมข้อมูลที่ได้สร้างเป็นข้อคาถาม ตามกรอบ แนวคิด ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าท่ีของกรรมการการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด แล้วจาแนกออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ด้านบุคลากรที่จัดการเลือกตั้ง ด้านผู้สมัครรับ การเลือกต้ัง ดา้ นประชาชนผู้มสี ิทธิเลือกตงั้ ด้านการบรหิ ารการเลอื กตง้ั ดา้ นการประกาศผล การเลอื กต้ัง 3.3.2 ด้านการสร้างเคร่ืองมือที่เป็นแบบสอบถามสาหรับการวิจัย ตามกรอบแนวคิดท่ีได้ จากการศึกษาเอกสารและงานวิจยั ทเ่ี กยี่ วข้อง เพอื่ ตอบวัตถุประสงค์ของการวิจยั 3.3.2.1 นาแบบสอบถามทผี่ ูว้ ิจัยสรา้ งข้ึน ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ จานวน 5 ท่าน โดยให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเที่ยงตรงตามเนื้อหา (Content Validity) และพิจารณาความเหมาะสม ของสานวนภาษาที่ใช้สื่อความหมายให้ชัดเจน และใช้ดัชนีความสอดคล้องหรือค่า IOC โดยการนา แบบสอบถามทีส่ รา้ งขึ้นไปใหผ้ ูเ้ ช่ยี วชาญ 5 ท่าน ลงความเห็น
43 3.3.2.2 จากนั้นนาเครื่องมือที่เป็นแบบสอบถามไปทดลองใช้ เพื่อหาค่าความเช่ือมั่น ของแบบสอบถาม (Try out) กับประชากรท่ีเปน็ กรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน จังหวัด ในเขตเลือกต้ังอาเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น จานวน 30 ชุด เพ่ือหาค่าสัมประสิทธิ์ของความ เชื่อมน่ั (Reliability Coefficient) ของครอนบาค สัมประสิทธิ์แอลฟา (α- Coefficient) ที่มีค่าความ เชื่อมน่ั ท้งั ฉบับ เท่ากับ 0.958 3.3.2.3 นาเครอื่ งมอื ท่เี ป็นแบบสอบถามท่ีผ่านการทดลอง มาปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง และเหมาะสมแล้วนาไปเก็บรวบรวมข้อมลู การวิจัยในครง้ั น้ี 3.4 วิธีกำรเก็บรวบรวมข้อมูล การเกบ็ รวบรวมข้อมลู ผ้วู จิ ัยดาเนินการเกบ็ ขอ้ มลู ตามลาดบั ขั้นตอน ดงั น้ี 3.4.1 ทาหนังสือแนะนาตัวผู้วิจัยและขออนุญาตเก็บรวบรวมข้อมูล เพ่ือการวิจัย จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง อาเภอเมือง จังหวัดเลย ถึงนายอาเภอ ชุมแพ เพ่ือขอความอนุเคราะห์ในการเก็บข้อมูลกับกรรมการการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร สว่ นจังหวดั ขอนแกน่ ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแก่น ทถ่ี กู เลือกใหเ้ ป็นกล่มุ ตัวอยา่ ง 3.4.2 ผู้วิจัยและผู้ช่วยนักวิจัยจานวน 2 คน ลงพ้ืนที่ในหมู่บ้านเพ่ือสอบถามกรรมการ ประจาหน่วยเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ของแต่ละหมู่บ้านที่ถูกเลือกให้เป็นกลุ่ม ตัวอย่างพร้อมทง้ั ทาการชแี้ จงวัตถุประสงคข์ องการเก็บรวบรวมขอ้ มลู จากน้ันแจกแบบสอบถามให้กับ กรรมการการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแก่น เพื่อใหต้ อบแบบสอบถาม แลว้ สง่ ข้อมูลกลบั มายังผวู้ ิจัย 3.4.3 นาแบบสอบถามท่ีได้รับคืนมาตรวจสอบความครบถ้วน และดาเนินการวิเคราะห์ ขอ้ มูลต่อไป 3.5 วิธีกำรวิเครำะห์ขอ้ มูล ในการวิจัยครั้งน้ี ได้ดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โดยโปรแกรม สาเรจ็ รูปทางสังคมศาสตร์ สาหรับสถิตทิ ี่ใชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู มีดังนี้ 3.5.1 ข้อมูลท่ีได้จากแบบสอบถามที่เป็นแบบตรวจสอบรายการ (Check List) ใช้หา ค่าความถ่ี (Frequency) และค่าร้อยละ (percentage) 3.5.2 วิเคราะห์ปัญหาการจดั การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยการหาค่าเฉลี่ย (X) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) แล้วแปลความหมายตามเกณฑ์ท่ีกาหนด โดยพิจารณาจากขอบเขตของคะแนนเฉล่ียท่ีได้จากแบบสอบถาม โดยใช้เกณฑ์การแปลผล ดังน้ี (สาเรงิ จันทร์สุวรรณ, 2547)
44 คา่ เฉลย่ี ระหว่าง 4.50-5.00 หมายถึง มปี ญั หาการปฏิบตั ิงาน อยใู่ นระดบั มากทสี่ ุด ค่าเฉลี่ยระหว่าง 3.50-4.49 หมายถึง มีปัญหาการปฏบิ ตั งิ าน อยใู่ นระดบั มาก ค่าเฉล่ียระหวา่ ง 2.50-3.49 หมายถึง มปี ัญหาการปฏิบัตงิ าน อย่ใู นระดบั ปานกลาง ค่าเฉลี่ยระหว่าง 1.50-2.49 หมายถึง มปี ญั หาการปฏบิ ัตงิ าน อยู่ในระดบั นอ้ ย ค่าเฉลย่ี ระหว่าง 1.00-1.49 หมายถึง มีปญั หาการปฏบิ ัติงาน อยใู่ นระดบั นอ้ ยท่สี ดุ 3.5.3 วิเคราะห์เปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จาแนกตามเพศ ตาแหน่ง และระดับการศึกษา โดยใชส้ ถติ ิทดสอบคา่ ที (Independent t-test) และสถิตทิ ดสอบค่าเอฟ (F-test) 3.5.4 การวิเคราะห์ข้อมูลของข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ซ่ึงเป็นข้อมูล เชิงคุณภาพ โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดหมวดหมู่และพรรณนาวิเคราะห์ นาเสนอแบบบรรยายความเรยี ง (สุภางค์ จันทรวานิช, 2553) 3.6 สถติ ทิ ี่ใช้ในกำรวิเครำะห์ขอ้ มูล การวิจัยเรือ่ งน้ี มสี ถิติท่ีใช้ในการทาวจิ ยั 2 ประเภท ได้แก่ 3.6.1 สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ได้แก่ ค่าความถ่ี (Frequency) และ คา่ ร้อยละ (percentage) คา่ เฉลยี่ (X) และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D) เพอ่ื บรรยายข้อมลู ทั่วไป 3.6.2 สถิติอนุมานหรืออ้างอิง (Inferential Statistics) ได้แก่ การทดสอบค่าที (t-test) ถ้าพบความแตกต่างอย่างมีนัยสาคัญ จะทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ และการทดสอบค่า (F-test) จะเปรียบเทยี บความแปรปรวนของประชากรสองกลมุ่ สูตรกำรคำนวณ 1. การแจกแจงความถี่ (Frequency) 2. หาค่ารอ้ ยละ (Percentage) เพอื่ วเิ คราะหข์ อ้ มูลทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถามโดยใช้ สตู ร P = F x 100 N เม่ือ P แทนคา่ ร้อยละ F แทนความถท่ี ตี่ อ้ งการแปลงเปน็ ร้อยละ N แทนจานวนความถี่ทง้ั หมด 3. การหาคา่ เฉล่ีย (Mean) โดยใช้ สูตร x =∑ N
45 เมอ่ื X แทนค่าเฉล่ีย ∑ แทนผลรวมของคะแนนทง้ั หมดในกลมุ่ N จานวนคะแนนในกลุม่ 4. สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้ สูตร S.D. = √∑ ̅2 N-1 เมอื่ S.D แทน ค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน X แทน คะแนนแตล่ ะตวั ̅ แทน ค่าเฉลย่ี N แทน จานวนคะแนนในกลุ่ม ∑ แทน ผลรวม 5. ค่า t-test ในการเปรยี บเทยี บตัวแปรอสิ ระของกลุม่ คานวณจาก สูตร t = ̅1, ̅2 √ 21 22 12 เมอ่ื ̅1 , ̅2 แทน ค่าเฉลี่ยของกลมุ่ ตวั อย่างที่ 1 และ 2 ตามลาดับ Ѕ Ѕ แทน ความแปรปรวนของกลมุ่ ตัวอยา่ งท่ี 1 และ 2 ตามลาดับ 1 2 แทน ขนาดของกลมุ่ ตัวอยา่ งท่ี 1 และ 2 ตามลาดับ 6. คา่ F-test ในการการวเิ คราะห์ความแปรปรวนทางเดียว คานวณจาก สตู ร F = MSb MSw เมือ่ MSb แทนผลรวมกาลัง 2 เฉลี่ยระหว่างกลุ่ม MSw แทนผลรวมกาลัง 2 เฉลยี่ ภายในกล่มุ
บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล การวิจัย เร่ือง ปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ผู้วิจัยได้ดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามขั้นตอน ดังตอ่ ไปนี้ 4.1 สญั ลักษณ์ที่ใชใ้ นการเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมลู 4.2 ข้ันตอนการวิเคราะห์ข้อมลู 4.3 ผลการวิเคราะห์ข้อมลู 4.1 สญั ลักษณ์ทใี่ ช้ในการเสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ผู้วิจัยได้กาหนดความหมายของสัญลักษณ์เพ่ือให้เกิดความเข้าใจในการแปลความหมาย และการเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล ดังนี้ X แทน ค่าเฉล่ีย (Mean) S.D. แทน ค่าสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) n แทน กลุ่มตัวอย่าง (Sample Size) t แทน ค่าทพ่ี จิ ารณาใน t-Distribution F แทน คา่ สถิติทใ่ี ชพ้ จิ ารณา F-Distribution MS แทน คา่ เฉล่ยี ของผลบวกกาลังสองของคะแนน (Mean of Squares) SS แทน ผลบวกกาลงั สองของคะแนน (Sum of Squares) df แทน ระดบั ชน้ั ของความเป็นอสิ ระ (Degree of Freedom) sig แทน ระดับนยั สาคญั ทางสถติ ิ (Significant) * แทน มีนัยสาคัญทางสถติ ทิ ี่ระดับ .05 4.2 ขนั้ ตอนการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลครั้งน้ี ผู้วิจัยได้ดาเนินการวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปวิเคราะห์ ตอ่ ไปน้ี ตอนที่ 1 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลพื้นฐานบางประการของผตู้ อบแบบสอบถาม
47 ตอนท่ี 2 ผลการวิเคราะห์ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาจังหวัดขอนแก่น ในเขต เลอื กตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ตอนท่ี 3 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดบั ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารสว่ นจงั หวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแก่น จาแนกตาม เพศ อายุ และ ระดบั การศึกษา โดยใช้สถติ ิทดสอบค่าที (Independent t-test) และสถิติทดสอบค่าเอฟ (F-test) ตอนท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะเก่ียวกับการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บรหิ ารสว่ นจังหวัดขอนแกน่ ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวดั ขอนแก่น
48 4.3 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล ตอนที่ 1 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู พ้ืนฐานบางประการของผ้ตู อบแบบสอบถาม ผลการวเิ คราะหป์ รากฏตามตารางที่ 4.1-4.3 ตารางที่ 4.1 แสดงจานวน และร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม จาแนกตามเพศ เพศ จานวน รอ้ ยละ ชาย 118 39.33 หญิง 182 60.67 300 100.00 รวม จากตารางที่ 4.1 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน 182 คน คิดเปน็ ร้อยละ 60.67 เป็นเพศชาย จานวน 118 คน คดิ เป็นร้อยละ 39.33 ตารางท่ี 4.2 แสดงจานวน และรอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม จาแนกตามตาแหนง่ ตาแหนง่ จานวน ร้อยละ ประธานกรรมการ 69 23.00 กรรมการ 231 77.00 300 100.00 รวม จากตารางท่ี 4.2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีตาแหน่งเป็นกรรมการ จานวน 231 คน คิดเป็นร้อยละ 77.00 รองลงมา มีตาแหน่งเป็นประธานกรรมการ จานวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 23.00
49 ตารางที่ 4.3 แสดงจานวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จาแนกตามระดบั การศกึ ษา การศกึ ษา จานวน รอ้ ยละ มธั ยมศกึ ษา 113 37.67 ปรญิ ญาตรี 150 50.00 สงู กวา่ ปริญญาตรี 37 12.33 300 100.00 รวม จากตารางที่ 4.3 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาปริญญาตรี จานวน 150 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 50 รองลงมา ระดับมัธยมศึกษา จานวน 113 คน คิดเป็นร้อยละ 37.67 และ สูงกว่าปริญญาตรี จานวน 37 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 12.33 ตามลาดับ
50 ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บรหิ ารส่วนจงั หวดั ขอนแกน่ ในเขตเลอื กต้ังอาเภอชมุ แพ จงั หวดั ขอนแกน่ ผลการวเิ คราะห์ปรากฏตามตารางท่ี 4.4-4.9 ตารางที่ 4.4 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลือกต้ังสมาชิกสภาจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม การจัดการเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาจังหวดั ขอนแก่น ในเขต ระดับปญั หา เลอื กต้งั อาเภอชมุ แพ จังหวัดขอนแก่น X S.D. แปลผล 1. ดา้ นบุคลากรทีจ่ ดั การเลอื กตง้ั 2.44 .79 น้อย 2. ด้านผสู้ มคั รรับการเลอื กตั้ง 2.74 .94 ปานกลาง 3. ดา้ นประชาชนผ้มู สี ทิ ธเิ ลือกตงั้ 3.43 .95 ปานกลาง 4. ดา้ นการบริหารการเลอื กต้ัง 2.73 .91 ปานกลาง 5. ดา้ นการประกาศผลการเลอื กต้ัง 2.94 1.04 ปานกลาง 2.86 .80 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.4 พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณา รายด้าน โดยเรียงตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ด้านที่มีค่าเฉล่ียมากที่สุด คือ ด้านประชาชนผู้มีสิทธิ เลือกต้ัง รองลงมา คือ ด้านการประกาศผลการเลือกต้ัง ส่วนด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้าน บุคลากรท่จี ัดการเลอื กตง้ั ตามลาดับ
51 ตารางที่ 4.5 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลอื กตงั้ สมาชิกสภาจังหวัดขอนแกน่ ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นบคุ ลากรท่ีจัดการเลอื กตง้ั ท่ี ด้านบุคลากรท่ีจัดการเลอื กตัง้ ระดับปญั หา X S.D. แปลผล 1. การแตง่ ตงั้ กรรมการประจาหนว่ ยเลอื กต้ังไมม่ ีความเปน็ กลาง 2.72 1.05 ปานกลาง 2. การส่งคาส่ังแต่งต้ังกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งไม่ถึงตัว ล่าชา้ ทาให้เข้าอบรมไม่ทัน 2.64 1.12 ปานกลาง 3. การแต่งต้ังข้าราชการ อบจ. เป็นกรรมการประจาหน่วย เลือกตัง้ ทาให้ไม่มคี วามเป็นกลาง 2.79 1.10 ปานกลาง 4. วิทยากรที่ทาหน้าที่อบรมกรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังขาด ความรู้ ประสบการณ์ในการจัดการเลือกต้งั 2.67 1.12 ปานกลาง 5. การจดั การอบรมการเลอื กตัง้ แตล่ ะครั้งมจี านวนมากเกินไปทา ใหก้ รรมการประจาหน่วยเลือกตั้งขาดความสนใจ 3.01 1.13 ปานกลาง 6. การแต่งต้ังผู้มีสิทธิเลือกต้ังหรือข้าราชการท่ีอยู่นอกเขต เลอื กต้งั เป็นกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งทาให้ไม่สะดวกใน การไปใช้สิทธิเลอื กต้ัง 3.20 1.22 ปานกลาง 7. การปฏิบัตหิ น้าที่ของกรรมการประจาหนว่ ยเลือกต้ังมาช้ากว่า เวลาที่กาหนดหรือมาไมค่ รบ 2.39 1.05 นอ้ ย 8. กรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งไม่มีการปรึกษาหารือเพื่อ ซักซ้อมขน้ั ตอนการปฏบิ ัติงานตามกฎหมาย 2.55 1.07 ปานกลาง 9. กรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งบางคนไม่มีความรู้และ ประสบการณ์การจดั การเลือกตงั้ 2.76 1.15 ปานกลาง 10. คณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นกับผู้อานวยการการ เลือกต้งั ประจาองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ มีความขัดแยง้ กนั 2.39 1.11 นอ้ ย 11. กรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังไม่บันทึกเหตุการณ์ในแบบ บันทกึ รายงานเหตุการณ์เม่ือพบเหตุการณ์ไมป่ กติ 2.48 1.06 นอ้ ย 12. การแต่งต้ังบุคคลท่ีไม่มีความเป็นกลางให้เป็นคณะกรรมการ การนบั คะแนนเลือกตง้ั 2.49 1.11 ปานกลาง
52 ตารางที่ 4.5 (ต่อ) ที่ ดา้ นบุคลากรที่จดั การเลือกต้ัง ระดับปญั หา X S.D. แปลผล 13. กรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังฝ่ายนับบัตรเลือกต้ังขาด ความสามารถในการวินิจฉัยบตั รเลอื กตงั้ 2.62 1.08 นอ้ ย 14. กรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังถูกซ้ือตัวโดยผู้สมัครรับ เลือกต้งั 2.27 1.18 น้อย รวม 2.44 .79 นอ้ ย จากตารางที่ 4.5 พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านบุคลากรที่จัดการเลือกตั้ง อยู่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด คือ ข้อ 6. การแต่งต้ังผู้มีสิทธิเลือกต้ังหรือ ข้าราชการท่ีอยู่นอกเขตเลือกต้ังเป็นกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งทาให้ไม่สะดวกในการไปใช้สิทธิ เลือกตั้ง รองลงมา คือ ข้อ 5. การจัดการอบรมการเลือกต้ังแต่ละคร้ังมีจานวนมากเกินไปทาให้กรรมการ ประจาหน่วยเลือกตง้ั ขาดความสนใจ ส่วนข้อทมี่ คี า่ เฉล่ียน้อยที่สุด คือ ข้อ 14. กรรมการประจาหน่วย เลอื กตงั้ ถกู ซ้อื ตวั โดยผสู้ มัครรับเลอื กตั้ง
53 ตารางท่ี 4.6 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การ เลือกต้ังสมาชิกสภาจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นผ้สู มัครลงรบั การเลอื กต้ัง ท่ี ดา้ นผูส้ มัครลงรบั การเลอื กตั้ง ระดบั ปัญหา X S.D. แปลผล 1. การใช้อิทธิพลของผู้สมัครรับเลือกต้ังบังคับข่มขู่ประชาชน และคแู่ ข่งดว้ ยวิธกี ารทผี่ ิดกฎหมาย 1.20 2.53 ปานกลาง 2. หัวคะแนนยังไม่มีความเข้าใจและไม่มีความรู้ในระบบการ เลือกต้ังท่ดี ีพอ 2.93 1.17 ปานกลาง 3. การเลือกต้ังบางแห่งมีการซื้อสิทธ์ิขายเสียงด้วยการว่าจ้าง 2.98 1.15 ปานกลาง ให้ประชาชนมาฟังการปราศรัย 2.96 1.22 ปานกลาง 4. ผูส้ มคั รรบั เลือกตัง้ มีการสัญญาว่าจะให้ส่ิงของหรือสิ่งอื่นกับ ผูน้ าชมุ ชนเพ่อื จูงใจใหเ้ ลือกตน 2.79 1.20 ปานกลาง 5. การจา่ ยค่าตอบแทนในรูปเบ้ียเลี้ยงประชุมจานวนมากแทน 3.01 1.19 ปานกลาง การแจกเงนิ โดยตรงแกห่ วั คะแนน 2.67 1.12 ปานกลาง 6. การนานโยบายทีเ่ กนิ กว่างบประมาณของ อบจ. มาหาเสียง 2.39 1.16 น้อย เพือ่ จงู ใจใหเ้ ลือกตนเอง 2.49 1.08 ปานกลาง 7. การซอื้ ตัวผู้สมคั รรบั เลือกต้ังฝา่ ยตรงขา้ ม 8. การใช้มอื ปืนของหัวคะแนนหรอื ผู้สนับสนุนเพ่ือข่มขู่คู่แข่งที่ 2.85 3.10 ปานกลาง เป็นผสู้ มัครรับเลือกตัง้ ฝ่ายตรงขา้ ม 2.68 1.05 ปานกลาง 9. การร้ือทาลายป้ายหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกต้ังท่ีเป็น 2.62 1.10 ปานกลาง คู่แข่งทุกรปู แบบ 2.74 .94 ปานกลาง 10. การปราศรัยหาเสียงมีการใส่ร้ายโจมตีผู้สมัครรับเลือกต้ังที่ เปน็ คูแ่ ขง่ 11. การจ้างวานบุคคลท่ีได้รับความนิยมในพื้นที่น้ัน ๆ ไม่ให้ลง รับสมคั รเลอื กตัง้ ในพน้ื ที่ของตนเอง 12. การเล่นพนันเพ่ือให้ผู้เอาพนันต้องไปช่วยกันลงคะแนนให้ ฝ่ายตนเพอื่ ชนะเพราะหวังเงนิ พนนั รวม
54 จากตารางที่ 4.6 พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านผู้สมัครลงรับการเลือกต้ัง อยู่ในระดับ ปานกลาง เม่ือพิจารณารายข้อพบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อ 6. การนานโยบายท่ีเกินกว่า งบประมาณของ อบจ. มาหาเสียงเพ่ือจูงใจให้เลือกตนเอง รองลงมา คือ ข้อ 3. การเลือกตั้งบางแห่ง มกี ารซอื้ สิทธข์ิ ายเสยี งดว้ ยการว่าจา้ งให้ประชาชนมาฟังการปราศรัย ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คือ ข้อ 8. การใช้มือปืนของหัวคะแนนหรือผสู้ นบั สนุนเพ่ือข่มขู่คู่แข่งที่เปน็ ผู้สมัครรับเลือกต้งั ฝา่ ยตรงข้าม
55 ตารางที่ 4.7 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกต้ังสมาชิกสภาจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแกน่ ดา้ นประชาชนผู้มสี ิทธิเลือกตั้ง ท่ี ด้านประชาชนผู้มสี ิทธิเลือกตั้ง ระดบั ปญั หา X S.D. แปลผล 1. ประชาชนส่วนใหญ่ขาดความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องเก่ียวกับ 3.21 1.04 ปานกลาง กฎหมายเลอื กต้งั 3.55 1.18 มาก 2. ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเป็นเร่ืองปกติ เลือกใครก็เหมอื นกันหมด 3.41 1.12 ปานกลาง 3. ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้จักผู้สมัครรับเลือกตั้งดีพอ จึงไม่ 3.60 1.18 มาก สามารถวิเคราะห์คุณสมบตั เิ พอ่ื ตดั สินใจเลอื กได้ 3.40 1.09 ปานกลาง 4. ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในสังคมระบบอุปถัมภ์ท่ีพ่ึงพิงกับผู้มี อทิ ธิพลหรือนกั การเมืองท้องถ่นิ 3.37 1.13 ปานกลาง 3.43 .95 ปานกลาง 5. ประชาชนส่วนใหญ่การศึกษาไม่สูงนัก จึงตกเป็นเครื่องมือ ของผู้สมัครรบั เลอื กตั้งชกั จงู ใหค้ ะแนน 6. ประชาชนท่ีเป็นผู้สูงอายุไม่เข้าใจวิธีการลงคะแนนเสียง เลือกต้งั รวม จากตารางท่ี 4.7 พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อยู่ในระดับ ปานกลาง เม่ือพิจารณารายข้อพบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ ข้อ 4. ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ใน สังคมระบบอุปถัมภ์ที่พึ่งพิงกับผู้มีอิทธิพลหรือนักการเมืองท้องถิ่น รองลงมา คือ ข้อ 2. ประชาชน สว่ นใหญเ่ ห็นว่าการซ้ือสิทธิ์ขายเสียงเป็นเร่ืองปกติเลือกใครก็เหมือนกันหมด ส่วนข้อที่มีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คอื ข้อ 1. ประชาชนสว่ นใหญข่ าดความร้คู วามเขา้ ใจทีถ่ กู ตอ้ งเก่ียวกับกฎหมายเลือกต้งั
56 ตารางที่ 4.8 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแกน่ ด้านการบริหารการเลือกตงั้ ท่ี ดา้ นการบรหิ ารการเลอื กต้ัง ระดบั ปญั หา 1. ผ้อู านวยการประจาหนว่ ยเลือกตั้งบางส่วนไม่สามารถตัดสินใจ X S.D. แปลผล แก้ไขปัญหาเฉพาะไดใ้ นระหว่างทจ่ี ดั การเลือกต้ัง 2.61 1.07 ปานกลาง 2. กรรมการการประจาหน่วยเลือกตั้งบางส่วนไม่สามารถ ตดั สนิ ใจแกไ้ ขปัญหาเฉพาะได้ในระหว่างทจ่ี ัดการเลือกตงั้ 2.63 1.02 ปานกลาง 3. กรรมการตรวจนับคะแนนไม่ได้ทราบแนวปฏิบัติที่ดีพอต่อ กระบวนการจัดการเลือกตงั้ ในระหว่างนับคะแนน 2.66 1.12 ปานกลาง 4. กรรมการตรวจนับคะแนนบางส่วนเป็นผู้สูงอายุ สุขภาพไม่ดี ทาให้การทางานลา่ ช้า 2.76 1.06 ปานกลาง 5. ระบบการนบั และรวมคะแนนใช้เวลานานเกินไป 2.78 1.17 ปานกลาง 6. เอกสารการจัดการเลือกตั้งมีจานวนมากทาให้เกิดข้อผิดพลาด ในการกรอกเอกสารของกรรมการประจาหนว่ ยเลือกตั้ง 2.80 1.21 ปานกลาง 7. ข้ันตอนการรับ – ส่งหีบบัตรมีความล่าช้าหลังจากส่งหีบบัตร แลว้ ตอ้ งใชเ้ วลานานมาก 3.06 1.15 ปานกลาง 8. บัญชรี ายชื่อผมู้ ีสิทธิเลือกต้ังตกหล่นเกิดข้อขัดแย้งระหว่างผู้ใช้ สทิ ธิ์กับกรรมการประจาหนว่ ยเลือกต้ัง 2.64 1.12 ปานกลาง 9. สถานที่จัดเป็นหน่วยเลือกตั้งและตรวจนับคะแนนไม่ได้ มาตรฐาน 2.65 1.07 ปานกลาง รวม 2.73 .91 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.8 พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการบริหารการเลือกตั้ง อยู่ในระดับปานกลาง เม่ือพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อ 7. ข้ันตอนการรับ – ส่งหีบบัตรมีความล่าช้า หลังจากส่งหีบบัตรแล้วต้องใช้เวลานานมาก รองลงมา คือ ข้อ 6. เอกสารการจัดการเลือกต้ังมีจานวน มากทาให้เกดิ ข้อผิดพลาดในการกรอกเอกสารของกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้ง ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ย นอ้ ยท่ีสุด คอื ขอ้ 1. ผอู้ านวยการประจาหนว่ ยเลอื กตงั้ บางส่วนไมส่ ามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาเฉพาะ ได้ ในระหวา่ งท่ีจดั การเลือกต้ัง
57 ตารางท่ี 4.9 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการประกาศผลการเลือกตงั้ ระดับปญั หา ที่ ด้านการประกาศผลการเลือกตง้ั X S.D. แปลผล 1 การประกาศผลการเลือกต้ังหลังจากการตรวจนับคะแนนมี 2.88 1.14 ปานกลาง ความลา่ ช้า 2 คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ออกคาวินิจฉัยเป็นหนังสือก่อน 2.75 1.14 ปานกลาง การประกาศให้มกี ารเลอื กต้งั 3 การประกาศผลการเลือกตั้งต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ตามท่ี 3.11 1.22 ปานกลาง กฎหมายเลือกตง้ั ไดก้ าหนดไว้ 4 การร้องเรียนของผู้สมัครรับการเลือกตั้งหรือประชาชนผู้มี สิทธ์ิในท้องถิ่นส่งผลให้การประกาศผลการเลือกตั้งมีความ 2.93 1.27 ปานกลาง ลา่ ชา้ 5 คณะกรรมการการเลือกต้ังส่ังให้มีการเลือกตั้งใหม่ส่งผลให้ 3.01 1.26 ปานกลาง การประกาศผลการเลือกตง้ั มีความล่าชา้ 6 คณะกรรมการการเลอื กต้ังเพิกถอนสทิ ธเิ ลอื กตัง้ แก่ผู้สมัครรับ 2.96 1.28 ปานกลาง เลอื กต้งั สง่ ผลใหก้ ารประกาศผลการเลอื กต้ังมคี วามลา่ ชา้ รวม 2.94 1.04 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.9 พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการประกาศผลการเลือกตั้ง อยู่ในระดับ ปานกลาง เม่ือพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด คือ ข้อ 3. การประกาศผลการเลือกต้ัง ต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ตามท่ีกฎหมายเลือกตั้งได้กาหนดไว้ รองลงมา คือ ข้อ 5. คณะกรรมการการเลือกต้ัง สั่งใหม้ กี ารเลือกต้งั ใหม่สง่ ผลให้การประกาศผลการเลือกตั้งมีความล่าช้า ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยท่ีสุด คอื ข้อ 2. คณะกรรมการการเลอื กตั้งไมอ่ อกคาวินิจฉยั เปน็ หนงั สือก่อนการประกาศให้มกี ารเลือกตง้ั
58 ตอนท่ี 3 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภา องค์การบริหาร ส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น จาแนกตามเพศ อายุ และระดับการศึกษา ผลการเปรียบเทียบปรากฏตามตารางที่ 4.10-4.45 ระหว่างกลุ่มตัวอย่างท่ีมีเพศ ตาแหน่ง และระดับการศึกษาตา่ งกนั โดยใช้สถติ ิ t-test และ F-test ตารางท่ี 4.10 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ัง อาเภอ ชุมแพ จังหวัดขอนแกน่ โดยรวม จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. แปลผล ชาย 118 2.81 .80 ปานกลาง หญิง 182 2.89 .81 ปานกลาง 300 2.86 .80 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.10 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท้ังเพศชายและเพศหญิง มีปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวมอยู่ในระดบั ปานกลาง ตารางที่ 4.11 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. t Sig ชาย หญงิ 118 2.81 .80 .78 .51 182 2.89 .81 จากตารางที่ 4.11 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีเพศต่างกัน มีปัญหาการจัดการเลือกต้ัง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม ไม่แตกต่างกนั
59 ตารางที่ 4.12 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ัง อาเภอชมุ แพ จงั หวัดขอนแกน่ ด้านบคุ ลากรทจ่ี ัดการเลือกตั้ง จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. แปลผล ชาย 118 2.38 .80 น้อย หญิง 182 2.49 .78 นอ้ ย 300 2.44 .79 น้อย รวม จากตารางท่ี 4.12 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งเพศชายและเพศหญิง มีปัญหาการจัด การเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นบุคลากรท่ีจัดการเลอื กตงั้ อยู่ในระดับนอ้ ย ตารางที่ 4.13 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นบุคลากรที่จดั การเลือกต้งั จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. t Sig ชาย 118 2.38 .80 1.18 .79 หญิง 182 2.49 .78 จากตารางที่ 4.13 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีเพศต่างกัน มีปัญหาการจัดการเลือกต้ัง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นบุคลากรที่จดั การเลือกตั้งไม่แตกต่างกัน
60 ตารางที่ 4.14 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ัง อาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแกน่ ดา้ นผู้สมัครรับการเลอื กตั้ง จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. แปลผล ชาย 118 2.65 .88 ปานกลาง หญิง 182 2.81 .98 ปานกลาง 300 2.74 .94 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.14 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งเพศชายและเพศหญิง มีปัญหาการจัด การเลอื กต้งั สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นผสู้ มัครรบั การเลอื กต้ัง อยู่ในระดับปานกลาง ตารางท่ี 4.15 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านผสู้ มคั รรับการเลือกตง้ั จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. t Sig ชาย หญงิ 118 2.65 .88 1.44 .22 182 2.81 .98 จากตารางที่ 4.15 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีเพศต่างกัน มีปัญหาการจัดการเลือกต้ัง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านผูส้ มคั รรบั การเลือกต้งั ไมแ่ ตกตา่ งกนั
61 ตารางที่ 4.16 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การ เลอื กต้งั สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้ง อาเภอชุม แพ จงั หวัดขอนแก่น ดา้ นประชาชนผมู้ ีสทิ ธิเลอื กตั้ง จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. แปลผล ชาย 118 3.44 .95 ปานกลาง หญงิ 182 3.42 .95 ปานกลาง รวม 300 3.43 .95 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.16 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งเพศชายและเพศหญิง มีปัญหาการจัด การเลอื กตง้ั สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านประชาชนผู้มสี ทิ ธเิ ลือกตง้ั อยู่ในระดบั ปานกลาง ตารางท่ี 4.17 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นประชาชนผูม้ สี ิทธิเลือกต้ัง จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. t Sig ชาย 118 3.44 .95 .16 .44 หญิง 182 3.42 .95 จากตารางที่ 4.17 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีเพศต่างกัน มีปัญหาการจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นประชาชนผู้มสี ิทธิเลือกตงั้ ไม่แตกต่างกัน
62 ตารางท่ี 4.18 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้ง อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแกน่ ด้านการบริหารการเลอื กต้งั จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. แปลผล ชาย 118 2.67 .90 ปานกลาง หญงิ 182 2.77 .92 ปานกลาง 300 2.73 .91 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.18 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งเพศชายและเพศหญิง มีปัญหาการจัด การเลือกตัง้ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นการบริหารการเลอื กตง้ั อย่ใู นระดับปานกลาง ตารางท่ี 4.19 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้าน การบรหิ ารการเลอื กตงั้ จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. t Sig ชาย 118 2.67 .90 .92 .70 หญงิ 182 2.77 .92 จากตารางท่ี 4.19 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีเพศต่างกัน มีปัญหาการจัดการเลือกต้ัง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการบริหารการเลือกต้ังไม่แตกตา่ งกัน
63 ตารางที่ 4.20 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้ง อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการประกาศผลการเลอื กตั้ง จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. แปลผล ชาย 118 2.93 1.05 ปานกลาง หญงิ 182 2.95 1.04 ปานกลาง 300 2.94 1.04 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.20 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท้ังเพศชายและเพศหญิง มีปัญหาการจัด การเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นการประกาศผลการเลอื กต้ัง อยใู่ นระดบั ปานกลาง ตารางท่ี 4.21 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพจังหวัดขอนแก่น ด้าน การประกาศผลการเลอื กต้ัง จาแนกตามเพศ เพศ n X S.D. t Sig ชาย หญิง 118 2.93 1.05 .15 .49 182 2.95 1.04 จากตารางท่ี 4.21 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีเพศต่างกัน มีปัญหาการจัดการเลือกต้ัง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้าน การประกาศผลการเลือกต้ังไมแ่ ตกต่างกัน
64 ตารางท่ี 4.22 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ัง อาเภอชมุ แพ จงั หวัดขอนแกน่ โดยรวม จาแนกตามตาแหนง่ ตาแหน่ง n X S.D. แปลผล ประธานกรรมการ 69 3.01 .68 ปานกลาง กรรมการ 231 2.81 .83 ปานกลาง 300 2.86 .80 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.22 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีเป็นประธานกรรมการและกรรมการ มีปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอ ชุมแพ จังหวดั ขอนแก่น โดยรวม อยใู่ นระดับปานกลาง ตารางที่ 4.23 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม จาแนกตามตาแหน่ง ตาแหน่ง n X S.D. t Sig ประธานกรรมการ 69 3.01 .68 2.07 .04* กรรมการ 231 2.81 .83 * มนี ัยสาคญั ท่รี ะดบั .05 จากตารางที่ 4.23 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งต่างกัน มีปัญหาการจัดการ เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวดั ขอนแกน่ ในเขตเลือกต้งั อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวมแตกตา่ งกนั อยา่ งมีนัยสาคญั ทร่ี ะดับ .05
65 ตารางที่ 4.24 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้ง อาเภอชุมแพ จังหวดั ขอนแก่น ด้านบุคลากรที่จดั การเลือกต้ัง จาแนกตามตาแหนง่ ตาแหนง่ n X S.D. แปลผล ประธานกรรมการ 69 2.53 .69 ปานกลาง กรรมการ 231 2.42 .82 น้อย 300 2.44 .79 นอ้ ย รวม จากตารางท่ี 4.24 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีเป็นประธานกรรมการและกรรมการ มีปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอ ชมุ แพ จังหวัดขอนแกน่ ด้านบคุ ลากรที่จดั การเลอื กต้ัง อยใู่ นระดับนอ้ ย ตารางที่ 4.25 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้าน บุคลากรที่จดั การเลือกต้ัง จาแนกตามตาแหน่ง ตาแหน่ง n X S.D. t Sig ประธานกรรมการ 69 2.53 .69 1.14 .00* กรรมการ 231 2.42 .82 * มีนัยสาคญั ทร่ี ะดับ .05 จากตารางท่ี 4.25 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งต่างกัน มีปัญหาการจัดการ เลอื กตงั้ สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลอื กตง้ั อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านบคุ ลากรที่จัดการเลอื กต้งั แตกตา่ งกัน อยา่ งมนี ัยสาคัญท่ีระดับ .05
66 ตารางท่ี 4.26 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้ง อาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแก่น ด้านผูส้ มคั รรับการเลือกตั้ง จาแนกตามตาแหนง่ ตาแหน่ง n X S.D. แปลผล ประธานกรรมการ 69 2.99 .78 ปานกลาง กรรมการ 231 2.67 .98 ปานกลาง 300 2.74 .94 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.26 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นประธานกรรมการและกรรมการ มี ปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุม แพ จังหวัดขอนแก่น ด้านผู้สมัครรบั การเลือกตง้ั อยใู่ นระดบั ปานกลาง ตารางที่ 4.27 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นผ้สู มัครรับการเลอื กตงั้ จาแนกตามตาแหน่ง ตาแหนง่ n X S.D. t Sig ประธานกรรมการ 69 2.99 .78 2.78 .00* กรรมการ 231 2.67 .98 * มีนยั สาคญั ที่ระดับ .05 จากตารางที่ 4.27 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งต่างกัน มีปัญหาการจัดการ เลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้งั อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นผูส้ มคั รรับการเลอื กตง้ั แตกต่างกนั อย่างมนี ัยสาคัญท่ีระดับ .05
67 ตารางท่ี 4.28 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลือกตัง้ สมาชกิ สภาองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ัง อาเภอชุม แพ จังหวัดขอนแก่น ด้านประชาชนผู้มสี ิทธเิ ลอื กต้ัง จาแนกตามตาแหน่ง ตาแหน่ง n X S.D. แปลผล ประธานกรรมการ 69 3.73 .68 มาก กรรมการ 231 3.33 1.00 ปานกลาง รวม 300 3.43 .95 ปานกลาง จากตารางที่ 4.28 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีเป็นประธานกรรมการและกรรมการ มีปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอ ชุมแพ จงั หวัดขอนแกน่ ดา้ นประชาชนผู้มสี ทิ ธเิ ลือกตั้ง อยูใ่ นระดบั ปานกลาง ตารางท่ี 4.29 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านประชาชนผู้มีสิทธิเลือกต้งั จาแนกตามตาแหนง่ ตาแหนง่ n X S.D. t Sig ประธานกรรมการ 69 3.73 .68 3.83 .00* กรรมการ 231 3.33 1.00 * มีนัยสาคัญทร่ี ะดับ .05 จากตารางที่ 4.29 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งต่างกัน มีปัญหาการจัดการ เลือกตง้ั สมาชกิ สภาองคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั ขอนแกน่ ในเขตเลือกตง้ั อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านประชาชนผมู้ สี ทิ ธเิ ลือกต้งั แตกตา่ งกนั อย่างมีนัยสาคัญทีร่ ะดับ .05
68 ตารางท่ี 4.30 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ัง อาเภอชมุ แพ จงั หวัดขอนแกน่ ดา้ นการบรหิ ารการเลอื กต้งั จาแนกตามตาแหนง่ ตาแหนง่ n X S.D. แปลผล ประธานกรรมการ 69 2.72 .93 ปานกลาง กรรมการ 231 2.74 .91 ปานกลาง 300 2.73 .91 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.30 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีเป็นประธานกรรมการและกรรมการ มีปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอ ชมุ แพ จงั หวดั ขอนแกน่ ดา้ นการบริหารการเลือกตงั้ อยู่ในระดับปานกลาง ตารางที่ 4.31 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นการบริหารการเลือกตั้ง จาแนกตามตาแหน่ง ตาแหนง่ n X S.D. t Sig ประธานกรรมการ 69 2.72 .93 .14 .62 กรรมการ 231 2.74 .91 จากตารางที่ 4.31 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีตาแหน่งต่างกัน มีปัญหาการจัดการ เลอื กต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวดั ขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการบริหารการเลอื กตั้งไมแ่ ตกตา่ งกัน
69 ตารางที่ 4.32 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้ง อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการประกาศผลการเลือกต้ัง จาแนกตาม ตาแหนง่ ตาแหนง่ n X S.D. แปลผล ประธานกรรมการ 69 3.10 .98 ปานกลาง กรรมการ 231 2.89 1.06 ปานกลาง 300 2.94 1.04 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.32 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นประธานกรรมการและกรรมการ มีปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอ ชุมแพ จงั หวัดขอนแก่น ดา้ นการประกาศผลการเลอื กตัง้ อยู่ในระดบั ปานกลาง ตารางท่ี 4.33 แสดงผลการเปรียบเทียบระดับปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการประกาศผลการเลือกตั้ง จาแนกตามตาแหน่ง ตาแหนง่ n X S.D. t Sig ประธานกรรมการ 69 3.10 .98 1.45 .69 กรรมการ 231 2.89 1.06 จากตารางท่ี 4.33 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีตาแหน่งต่างกัน มีปัญหาการจัดการ เลอื กตง้ั สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจงั หวดั ขอนแกน่ ในเขตเลอื กตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นการประกาศผลการเลือกตัง้ ไมแ่ ตกต่างกนั
70 ตารางท่ี 4.34 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอ ชมุ แพ จงั หวัดขอนแก่น โดยรวม จาแนกตามระดบั การศึกษา ระดบั การศึกษา n X S.D. แปลผล มัธยมศกึ ษา 113 2.89 .77 ปานกลาง ปริญญาตรี สงู กวา่ ปริญญาตรี 150 2.87 .82 ปานกลาง รวม 37 2.73 .85 ปานกลาง 300 2.86 .80 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.34 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการ จัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น โดยรวม อยู่ในระดบั ปานกลาง ตารางที่ 4.35 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของปัญหาการจดั การเลือกตั้งสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนจงั หวดั ขอนแกน่ ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวม จาแนกตามระดบั การศกึ ษา แหลง่ ความแปรปรวน SS Df MS F Sig ระหวา่ งกลุ่ม .69 2 .35 .53 .59 ภายในกลุ่ม 191.76 297 .65 รวม 192.45 299 จากตารางที่ 4.35 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการ จัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแกน่ โดยรวม ไมแ่ ตกต่างกัน
71 ตารางท่ี 4.36 แสดงค่าเฉล่ีย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลือกต้งั สมาชิกสภาองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านบคุ ลากรทจ่ี ดั การเลือกตัง้ จาแนกตามระดับการศกึ ษา ระดบั การศึกษา n X S.D. แปลผล มัธยมศึกษา 113 2.25 .77 ปานกลาง ปริญญาตรี 150 2.38 .77 ปานกลาง สูงกวา่ ปรญิ ญาตรี 37 2.41 .90 ปานกลาง 300 2.74 .78 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.36 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการ จัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ดา้ นบุคลากรทจ่ี ดั การเลือกตง้ั อยูใ่ นระดบั ปานกลาง ตารางที่ 4.37 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภา องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นบคุ ลากรจัดการเลอื กต้ัง จาแนกตามระดบั การศกึ ษา แหล่งความแปรปรวน SS Df MS F Sig ระหวา่ งกลุ่ม 1.19 2 .59 .95 .39 ภายในกลุ่ม 185.00 297 .62 รวม 186.89 299 จากตารางท่ี 4.37 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการ จัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ดา้ นบคุ ลากรทีจ่ ัดการเลอื กตัง้ ไม่แตกตา่ งกัน
72 ตารางที่ 4.38 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลอื กต้งั สมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวดั ขอนแก่น ดา้ นผสู้ มัครรบั การเลอื กตั้ง จาแนกตามระดบั การศึกษา ระดบั การศกึ ษา n X S.D. แปลผล มัธยมศึกษา 113 2.74 .96 ปานกลาง ปรญิ ญาตรี 150 2.76 .93 ปานกลาง สูงกวา่ ปริญญาตรี 37 2.62 .90 ปานกลาง 300 2.74 .94 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.38 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการ จัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแกน่ ดา้ นผู้สมคั รรบั การเลือกตงั้ อยู่ในระดบั ปานกลาง ตารางที่ 4.39 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภา องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัดขอนแกน่ ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านผู้สมคั รรับเลอื กต้ัง จาแนกตามระดบั การศกึ ษา แหลง่ ความแปรปรวน SS Df MS F Sig ระหว่างกลุ่ม .69 2 .35 .32 .73 ภายในกลุ่ม 323.79 297 1.09 รวม 324.48 299 จากตารางที่ 4.39 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการ จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแกน่ ดา้ นผสู้ มัครรับการเลือกตั้ง ไม่แตกต่างกัน
73 ตารางที่ 4.40 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลอื กต้งั สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแก่น ด้านประชาชนผ้มู ีสทิ ธิเลอื กต้งั จาแนกตามระดับการศึกษา ระดบั การศึกษา n X S.D. แปลผล มัธยมศกึ ษา 113 3.46 .93 ปานกลาง ปริญญาตรี 150 3.45 .97 ปานกลาง สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี 37 3.20 .92 ปานกลาง 300 3.42 .95 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.40 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการ จัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ดา้ นประชาชนผมู้ สี ทิ ธเิ ลือกตัง้ อยู่ในระดับปานกลาง ตารางที่ 4.41 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนจังหวดั ขอนแกน่ ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านประชาชนผู้มีสทิ ธเ์ิ ลอื กต้ัง จาแนกตามระดบั การศกึ ษา แหล่งความแปรปรวน SS Df MS F Sig ระหว่างกล่มุ .60 2 1.05 .33 .72 ภายในกลุ่ม 264.94 297 .89 รวม 265.53 299 จากตารางที่ 4.41 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการ จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแกน่ ด้านประชาชนผู้มีสิทธิ์เลอื กตง้ั ไมแ่ ตกตา่ งกัน
74 ตารางท่ี 4.42 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลอื กต้งั สมาชกิ สภาองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแก่น ด้านการบริหารการเลือกต้ัง จาแนกตามระดับการศึกษา ระดบั การศกึ ษา n X S.D. แปลผล มัธยมศึกษา 113 2.75 .88 ปานกลาง ปริญญาตรี 150 2.74 .92 ปานกลาง สูงกว่าปรญิ ญาตรี 37 2.60 .98 ปานกลาง 300 2.73 .91 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.42 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการ จัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแกน่ ด้านการบริหารการเลือกตงั้ อยใู่ นระดบั ปานกลาง ตารางท่ี 4.43 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภา องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการบริหารการเลอื กตง้ั จาแนกตามระดบั การศกึ ษา แหลง่ ความแปรปรวน SS Df MS F Sig ระหวา่ งกลุม่ 2.10 2 1.05 1.16 .31 ภายในกลมุ่ 267.85 297 .90 รวม 269.95 299 จากตารางที่ 4.43 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ดา้ นการบรหิ ารการเลอื กต้งั ไม่แตกต่างกนั
75 ตารางที่ 4.44 แสดงค่าเฉลี่ย ( X ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และระดับปัญหาการจัดการ เลือกตั้งสมาชิกสภาองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการประกาศผลการเลือกต้ัง จาแนกตามระดบั การศกึ ษา ระดบั การศึกษา n X S.D. แปลผล มธั ยมศึกษา 113 2.94 1.0 ปานกลาง ปรญิ ญาตรี 150 2.96 1.0 ปานกลาง สูงกวา่ ปริญญาตรี 37 2.81 1.0 ปานกลาง 300 2.93 1.0 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.4 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทีม่ รี ะดบั การศกึ ษาตา่ งกนั มีปญั หาการจัดการ เลอื กตงั้ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจงั หวัดขอนแก่น ในเขตเลอื กตงั้ อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นการประกาศผลการเลือกตั้ง อยใู่ นระดับปานกลาง ตารางที่ 4.45 แสดงผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแกน่ ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นกา ด้านประกาศผลการเลือกตัง้ จาแนกตามระดบั การศึกษา แหลง่ ความแปรปรวน SS Df MS F Sig ระหว่างกลมุ่ .73 2 .37 .44 .65 ภายในกลมุ่ 248.66 297 .84 รวม 249.39 299 จากตารางที่ 4.45 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีปัญหา การจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแกน่ ดา้ นการประกาศผลการเลือกตง้ั ไมแ่ ตกตา่ งกนั
76 ตอนที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น ตารางท่ี 4.46 แสดงคา่ ความถ่ีข้อเสนอแนะเกย่ี วกับปัญหาการจัดการเลือกตัง้ สมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้าน บุคลากรท่ีจดั การเลอื กตัง้ ท่ี ข้อเสนอแนะ ความถ่ี 1. ใหห้ นว่ ยงานกลางเปน็ ผ้จู ัดการการเลือกตัง้ โดยตรง 32 2. แตง่ ตง้ั คณะกรรมการประจาหนว่ ยเลอื กต้งั ทเี่ ปน็ บุคคลท่ีมคี วามรู้ 18 ความเข้าใจเกีย่ วกับการเลือกตง้ั เป็นอยา่ งดี 15 3. มีการซักซอ้ มขนั้ ตอนปฏบิ ตั ิการเลือกตั้งตามกฎหมาย จากตารางท่ี 4.46 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามได้เสนอความคิดเห็นเก่ียวกับปัญหาการจัด การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านบุคลากรที่จัดการเลือกตั้ง มากที่สุด คือ ให้หน่วยงานกลางเป็นผู้จัดการการเลือกต้ังโดยตรง รองลงมา คือ แต่งตั้งคณะกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งท่ีเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ การเลอื กตง้ั เป็นอยา่ งดแี ละมีการซกั ซ้อมขั้นตอนปฏบิ ัติการเลือกตงั้ ตามกฎหมาย
77 ตารางที่ 4.47 แสดงคา่ ความถ่ขี ้อเสนอแนะเกยี่ วกบั ปัญหาการจัดการเลือกตัง้ สมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านผู้ ลงสมัครรบั การเลอื กตั้ง ที่ ขอ้ เสนอแนะ ความถี่ 1. ควรให้มีการประชาสัมพนั ธ์หรือหาเสียงใหป้ ระชาชนได้ทราบขอ้ มูล 40 ของผู้ลงสมัครรบั เลือกต้งั ใหม้ าก 9 2. ผ้สู มคั รรบั เลอื กตั้งควรเขา้ ไปพบปะประชาชนตามหมบู่ ้าน จากตารางท่ี 4.47 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามได้เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการจัด การเลอื กต้ังสมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านผู้ลงสมัครรับการเลือกต้ัง พบว่า มากท่ีสุด คือ ควรให้มีการประชาสัมพันธ์หรือหาเสียงให้ประชาชน ได้ทราบข้อมูลของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งให้มาก รองลงมา คือ ผู้สมัครรับเลือกต้ังควรเข้าไปพบปะ ประชาชนตามหม่บู า้ น
78 ตารางที่ 4.48 แสดงค่าความถ่ขี ้อเสนอแนะเกย่ี วกบั ปญั หาการจดั การเลือกตงั้ สมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้าน ประชาชนผู้มสี ิทธเิ ลือกตงั้ ที่ ขอ้ เสนอแนะ ความถี่ 1. ประชาสัมพันธใ์ ห้ประชาชนผมู้ สี ิทธิเ์ ลอื กตงั้ ได้ไปลงคะแนนอย่างทั่วถึง 37 2. จัดหนว่ ยเลือกตั้งให้ประชาชนได้ไปใช้สทิ ธิอ์ ยา่ งสะดวก 8 3. จัดป้ายประชาสมั พันธ์ หรอื ประชาสมั พนั ธต์ ามหอกระจายขา่ ว 4 ของหม่บู า้ น ชมุ ชน จากตารางที่ 4.48 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามได้เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการจัด การเลือกต้งั สมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พบว่า มากท่ีสุด คือ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งได้ไป ลงคะแนนอย่างท่ัวถึง รองลงมา คือ จัดหน่วยเลือกต้ังให้ประชาชนได้ไปใช้สิทธ์ิอย่างสะดวกและจัดป้าย ประชาสมั พนั ธ์หรอื ประชาสมั พนั ธ์ตามหอกระจายขา่ วของหมูบ่ า้ น ชุมชน
79 ตารางท่ี 4.49 แสดงคา่ ความถข่ี อ้ เสนอแนะเกยี่ วกับปญั หาการจัดการเลอื กต้งั สมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นการบรหิ ารการเลือกต้งั ท่ี ขอ้ เสนอแนะ ความถ่ี 1. ควรมอี งคก์ รทีร่ ับผิดชอบโดยตรงเข้ามาดาเนินการเลือกต้ัง 49 และตรวจสอบการทุจรติ โดยตรง จากตารางท่ี 4.49 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามได้เสนอความคิดเห็นเก่ียวกับปัญหาการจัด การเลือกตง้ั สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการบริหารการเลือกตั้ง พบว่า ควรมีองค์กรที่รับผิดชอบโดยตรงเข้ามาดาเนินการเลือกตั้ง และตรวจสอบการทุจริตโดยตรง
80 ตารางท่ี 4.50 แสดงคา่ ความถีข่ ้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการจัดการเลือกต้งั สมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ดา้ นการประกาศผลการเลอื กตัง้ ที่ ขอ้ เสนอแนะ ความถ่ี 1. ควรมีการประกาศผลการเลือกต้ังอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มีการนับ คะแนนเสรจ็ ทันที 37 2. ควรให้ประชาชนได้ทราบผลการเลือกต้ังอย่างรวดเร็ว แล้วพิจารณาการ ทจุ รติ ภายหลัง 12 จากตารางที่ 4.50 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามได้เสนอความคิดเห็นเก่ียวกับปัญหาการจัด การเลอื กตัง้ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการประกาศผลการเลือกตั้ง พบว่า มากท่ีสุด คือ ควรมีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มีการนับคะแนนเสร็จทันที รองลงมา คือ ควรให้ประชาชนได้ทราบผลการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว แล้วพิจารณาการทุจรติ ภายหลัง
บทที่ 5 สรปุ ผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การวิจัย เรื่อง ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นมีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือศึกษาปัญหาการจัดการเลือกตั้ง สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดขอนแกน่ ในเขตเลอื กตง้ั อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น 2) เพ่ือ เปรียบเทยี บปญั หาการจัดการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ัง อาเภอชุมแพ จงั หวัดขอนแก่น และ 3) เพอ่ื ศึกษาข้อเสนอแนะการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งผู้วิจัยได้ศึกษา ค้นคว้า เอกสาร แนวคิด ทฤษฎีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อนามากาหนดกรอบแนวคิดในการวิจัย โดย ตั้งสมมติฐานของการวิจัยว่า ประชาชนที่มี เพศ ตาแหน่ง และระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็น เก่ียวกับปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ัง อาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น แตกต่างกัน ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยในครั้งน้ีได้แก่ กรรมการการ เลือกต้งั สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั ขอนแก่น ในระดับหน่วย การเลือกตั้งที่จัดการเลือกต้ัง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอ ชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ปี พ.ศ. 2555 จานวน 1,204 คน และไดใ้ ชว้ ธิ ีกาหนดขนาดกลุม่ ตวั อยา่ ง โดยใชส้ ตู รของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่างจานวน 300 คน แล้วจึงใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เคร่ืองมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคร้ังนี้ คือ แบบสอบถาม (Questionnaire) มี ลกั ษณะเปน็ แบบตรวจเช็ครายการ (Check List) และปลายเปดิ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉล่ีย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) สถิติท่ใี ชใ้ นการวเิ คราะหค์ วามแตกต่างของค่าเฉล่ียประชากร (Independent t-test) ถ้า พบความแตกต่างอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติจะทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ โดยใช้ วิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffé) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว One-Way ANOVA (F-test) โดย วิเคราะห์ ข้อมูลและประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์โปรแกรมสาเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ ซึ่งสามารถ สรุปผลของการวิจัยตามขอ้ คน้ พบ (Fact Finding) ไดด้ งั ต่อไปนี้ 5.1 สรปุ ผล 5.2 อภิปรายผล 5.3 ขอ้ เสนอแนะ
82 5.1 สรุปผลการวิจัย ผลการศึกษาปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลอื กตง้ั อาเภอชุมแพ จงั หวดั ขอนแกน่ สามารถสรปุ ผลไดด้ งั นี้ 5.1.1 ผลการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ผู้ตอบ แบบสอบถามส่วนใหญเ่ ป็นเพศหญิง จานวน 182 คน คิดเป็นร้อยละ 60.67 เป็นเพศชาย จานวน 118 คน คิดเป็นร้อยละ 39.33 มีตาแหน่งเป็นกรรมการ จานวน 231 คน คิดเป็นร้อยละ 77.00 รองลงมา มีตาแหน่งเป็นประธานกรรมการ จานวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 23.00 และมีระดับการศึกษา ปริญญาตรี จานวน 150 คน คิดเป็นร้อยละ 50.00 รองลงมา ระดับมัธยมศึกษา จานวน 113 คน คิดเปน็ ร้อยละ 37.67 และระดับสูงกว่าปริญญาตรี จานวน 37 คน คดิ เป็นร้อยละ 12.33 5.1.2 ผลการวิเคราะห์ปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน จังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกต้ัง สมาชกิ สภาองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โดยรวมทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้าน โดยเรียงตามค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย ด้านท่ีมี ค่าเฉลี่ยมากทสี่ ุด คอื ดา้ นประชาชนผมู้ สี ทิ ธเิ ลือกต้ัง รองลงมา คือ ด้านการประกาศผลการเลือกต้ัง ส่วน ด้านท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยที่สุด คือ ด้านการบริหารการเลือกต้ัง และเมื่อแยกเป็นรายด้าน มีรายละเอียดของ ผลการวจิ ยั ดังต่อไปนี้ 1) ด้านบุคลากรท่ีจัดการเลือกตั้ง พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านบุคลากรท่ีจัดการ เลือกตั้ง อยู่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด คือ ข้อ 6. การแต่งตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือข้าราชการท่ีอยู่นอกเขตเลือกตั้งเป็นกรรมการประจาหน่วยเลือกตั้งทาให้ ไม่สะดวกในการไปใช้สิทธิเลือกต้ัง รองลงมา คือ ข้อ 5. การจัดการอบรมการเลือกต้ังแต่ละคร้ังมีจานวน มากเกินไปทาให้กรรมการประจาหน่วยเลือกต้ังขาดความสนใจ ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ขอ้ 14. กรรมการประจาหน่วยเลือกต้งั ถกู ซื้อตัวโดยผู้สมัครรบั เลอื กตัง้ 2) ด้านผู้สมัครรับการเลือกต้ัง พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บรหิ ารส่วนจังหวัดขอนแกน่ ในเขตเลือกตงั้ อาเภอชมุ แพ จังหวัดขอนแก่น ด้านผู้สมัครรับการเลือกต้ัง อยู่ในระดับปานกลาง เม่ือพิจารณารายข้อพบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ ข้อ 6. การนานโยบาย ท่ีเกินกว่างบประมาณของ อบจ. มาหาเสียงเพ่ือจูงใจให้เลือกตนเอง รองลงมา คือ ข้อ 3. การเลือกตั้ง บางแห่ง มีการซื้อสิทธ์ิขายเสียงด้วยการว่าจ้างให้ประชาชนมาฟังการปราศรัย ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยน้อย ท่ีสุด คือ ข้อ 8. การใช้มือปืนของหัวคะแนนหรือผู้สนับสนุนเพื่อข่มขู่คู่แข่งที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ฝา่ ยตรงขา้ ม
83 3) ด้านประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกต้ังอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านประชาชนผู้มีสิทธิ เลือกตง้ั อยใู่ นระดับปานกลาง เม่อื พจิ ารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อ 4. ประชาชน ส่วนใหญอ่ ยใู่ นสังคมระบบอุปถัมภ์ท่พี ่ึงพิงกับผู้มีอิทธิพลหรือนักการเมืองท้องถ่ิน รองลงมา คือ ข้อ 2. ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าการซื้อสิทธ์ิขายเสียงเป็นเรื่องปกติเลือกใครก็เหมือนกันหมดส่วนข้อท่ีมี ค่าเฉล่ียน้อยที่สุด คือ ข้อ 1. ประชาชนส่วนใหญ่ขาดความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องเกี่ยวกับกฎหมาย เลือกตัง้ 4) ด้านการบริหารการเลือกตั้ง พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการบริหารการ เลือกต้ัง อยู่ในระดับปานกลาง เม่ือพิจารณารายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ ข้อ 7. ขั้นตอน การรับ – ส่งหีบบัตรมีความล่าช้าหลังจากส่งหีบบัตรแล้วต้องใช้เวลานานมาก รองลงมา คือ ข้อ 6. เอกสารการจัด การเลือกต้ังมีจานวนมาก ทาให้เกิดข้อผิดพลาดในการกรอกเอกสารของกรรมการ ประจาหน่วยเลือกตั้ง ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คือ ข้อ 1. ผู้อานวยการประจาหน่วยเลือกตั้ง บางส่วนไมส่ ามารถตัดสนิ ใจแกไ้ ขปัญหาเฉพาะได้ในระหว่างท่จี ดั การเลอื กตัง้ 5) ดา้ นการประกาศผลการเลือกตัง้ พบว่า ปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ด้านการประกาศผล การเลือกต้ัง อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉล่ียมากที่สุด คือ ข้อ 3 การประกาศผลการเลือกต้ังต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ตามที่กฎหมายเลือกตั้งได้กาหนดไว้ รองลงมา คือ ข้อ 5 คณะกรรมการการเลือกตั้งส่ังให้มีการเลือกต้ังใหม่ส่งผลให้การประกาศผลการเลือกต้ังมีความล่าช้า ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียน้อยท่ีสุด คือ ข้อ 2. คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ออกคาวินิจฉัยเป็นหนังสือก่อน การประกาศใหม้ กี ารเลือกตัง้ 5.1.3 ผลการทดสอบสมมติฐานการวิจัย โดยผู้วิจัยได้ต้ังสมมติฐานการวิจัยไว้ว่า กรรมการการเลือกต้ังท่ีมี เพศ ตาแหน่ง และระดับการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นต่อปัญหาการจัด การเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น แตกต่างกัน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีเพศ และระดับการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นต่อปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ในเขต เลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ไม่แตกต่างกัน ซ่ึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้ ส่วนผู้ตอบ แบบสอบถามที่มีตาแหน่งต่างกัน มีความคิดเห็นต่อปัญหาการจัดการเลือกต้ังสมาชิกสภาองค์การ บริหารสว่ นจงั หวัดขอนแกน่ ในเขตเลือกตั้งอาเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญ ท่ีระดบั .05 ซึง่ เป็นไปตามสมมติฐานทีต่ งั้ ไว้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142