Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

Description: งานวิจัย/วิทยานิพนธ์

Search

Read the Text Version

32 2.6 งานวิจัยท่เี ก่ียวขอ้ ง การวิจัยครั้งนี้ เป็นการศึกษาความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชยี งคาน จังหวัดเลย ซ่ึงผู้วิจัยได้ทาการศึกษาค้นคว้าวรรณกรรม ทีเ่ กี่ยวข้องกับงานวิจยั ดังนี้ สมสุข ฐานะวร (2552) ได้ทาการศึกษาคุณภาพการให้บริการจัดเก็บภาษี : กรณีศึกษา เทศบาลตาบลตะกุด อาเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ผลการวิจัยพบว่า ผู้รับบริการท่ีมาชาระภาษีส่วน ใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 30-40 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรี/สูงกว่า ประกอบอาชีพ คา้ ขาย/อาชีพสว่ นตวั มสี ถานภาพสมรส รายได้น้อยกว่า 10,000 บาท มีความคิดเห็นต่อคุณภาพการ ให้บรกิ ารจดั เก็บภาษี กรณศี ึกษาเทศบาลตาบล ตะกดุ อาเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี ในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลางทั้งหมด ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ผู้ใช้บริการที่มีระดับการศึกษารายได้ แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณภาพการให้บริการแตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แต่ผู้ใช้บริการท่ีมีเพศ อายุ อาชีพ สถานภาพ และประเภทภาษีท่ีชาระแตกต่างกัน มีความคิด เห็นต่อคุณภาพการให้บริการไมแ่ ตกตา่ งกนั สมพิศ พานิชย์ดี (2553) ได้ทาการศึกษาความพึงพอใจของผู้ชาระภาษีต่อการให้บริการ จัดเก็บภาษีขององค์การบริหารส่วนตาบลหลักเหล่ียม อาเภอนามน จังหวัดกาฬสินธ์ุ ผลการศึกษา พบว่า 1) ความพึงพอใจของผู้ชาระภาษีต่อการให้บริการจัดเก็บภาษีขององค์การบริหารส่วนตาบล หลักเหลี่ยม อาเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อจาแนกเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ ในระดับมาก 3 ด้าน เรียงลาดับจากค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ ด้าน ความสะดวกที่ได้รับ และด้านข้อมูลท่ีได้รับจากการบริการ และอยู่ในระดับปานกลาง 2 ด้าน ได้แก่ ด้านระยะเวลาผูใ้ ห้บรกิ าร และด้านคุณภาพของการบริการ 2) ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของ ผู้ชาระภาษีต่อการให้บริการจัดเก็บภาษีขององค์การบริหารส่วนตาบลหลักเหล่ียม อาเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีเพศ อายุ และรายได้แตกต่างกัน พบว่า โดยรวมและรายด้านทุกด้านไม่แตกต่าง กันอย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ี 0.05 และ 3) ข้อเสนอของผู้ชาระภาษีต่อการให้บริการจัดเก็บภาษีของ องค์การบริหารส่วนตาบลหลักเหลี่ยม ท่ีมีค่าสูงสุดแต่ละด้านมีดังนี้ ควรมีเจ้าหน้าท่ีกรอกเอกสารให้ เพื่อความรวดเร็ว ข้อความในแบบฟอร์มท่ีกรอกควรพิมพ์ตัวโต ควรมีบริการนอกสถานที่เพราะไม่ เสยี เวลาในการเดินทาง และควรมีการอบรมความรเู้ รอ่ื งภาษี จรรยา จันทร์เตี้ย (2553) ได้ทาการศึกษาความพึงพอใจของผู้ชาระภาษีต่อการให้บริการ จัดเก็บภาษีขององค์องค์การบริหารส่วนตาบลขี้เหล็ก อาเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด ผลการศึกษา พบว่า 1) ความพึงพอใจของผู้ชาระภาษีต่อการให้บริการจัดเก็บภาษีขององค์องค์การบริหารส่วน ตาบลขเ้ี หล็ก อาเภอปทมุ รตั ต์ จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เม่ือจาแนกเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน เรียงลาดับจากค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านความเชื่อถือ

33 ได้ ดา้ นความซอ่ื สตั ย์ ด้านความสภุ าพออ่ นน้อมอ่อนโยนในการให้บริการ ด้านความสามารถ ด้านการ เข้าถึงบริการ ด้านการส่ือสาร ด้านความเข้าใจ ด้านการตอบสนอง ด้านความปลอดภัยในการใช้ อปุ กรณ์ และด้านการสร้างสิง่ ทจี่ ับตอ้ งได้ 2) ผลการเปรยี บเทียบความพงึ พอใจของผู้ชาระภาษีท่ีมีเพศ อายุ ราย อาชีพ และการศึกษาแตกต่างกัน มีความพึงพอใจต่อการให้บริการจัดเก็บภาษีขององค์องค์ การบรหิ ารสว่ นตาบลขี้เหล็ก อาเภอปทมุ รัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยรวมไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญ ทางสถติ ิท่รี ะดบั 0.05 ชวนพิศ พันธุ์โคตร (2554) ได้ทาการศึกษาคุณภาพการให้บริการการจัดเก็บภาษีบารุง ท้องที่ขององค์การบริหารส่วนตาบลชีทวน อาเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานีผลการวิจัยพบว่า 1) คุณภาพการให้บริการการจัดเก็บภาษีบารุงท้องท่ีขององค์การบริหารส่วนตาบลชีทวนในภาพรวม และรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง เรียงลาดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย คือ ด้านกระบวนการ ให้บริการ ด้านสถานที่/สิ่งอานวยความสะดวก ด้านการให้บริการของเจ้าหน้าท่ีและด้านประชา สมั พนั ธ์ 2) เปรยี บเทียบคุณภาพการให้บริการจัดเก็บภาษีบารุงท้องที่ขององค์การบริหารส่วนตาบลชี ทวน จาแนกตาม เพศ อายุ สถานภาพ การศกึ ษา อาชพี รายได้ จานวนคร้ัง/ปีท่ีมารับบริการและช่วง เวลาท่ีมารับบริการ สรุปได้ดังน้ี 2.1) ผู้ใช้บริการท่ีมีเพศ ระดับการศึกษาและช่วงเวลาที่มารับบริการ แตกต่างกนั ใหเ้ ห็นวา่ คณุ ภาพการให้บริการการจัดเก็บภาษีบารุงท้องท่ีขององค์การบริหารส่วนตาบล ชีทวน ในภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 2.2) ผู้ใช้บริการท่ีมีอายุต่างกัน เห็นว่าคุณภาพการ ให้บริการของการจัดเก็บภาษีบารุงท้องที่ขององค์การบริหารส่วนตาบลชีทวน ในภาพรวม ด้านการ ให้บริการของเจ้าหน้าทีแ่ ละด้านสถานท/ี่ สงิ่ อานวยความสะดวก แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ทร่ี ะดบั 0.01 ส่วนด้านกระบวนการใหบ้ ริการ แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 2.3) ผใู้ ชบ้ ริการท่ีมสี ถานภาพสมรสต่างกันเห็นว่าคุณภาพการให้บรกิ ารจดั เก็บภาษีบารุงท้องที่ขององค์การ บริหารส่วนตาบลชีทวน ในภาพรวมรายด้านกระบวนการและการให้บริการ ด้านการให้บริการของ เจ้าหน้าท่ี และด้านสถานท/่ี ส่งิ อานวยความสะดวก แตกตา่ งกันอยา่ งมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ส่วนด้านประชาสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 2.4) ผู้ใช้บริการที่มีอาชีพ แตกต่างกัน เห็นว่าคุณภาพการให้บริการการจัดเก็บภาษีบารุงท้องท่ีขององค์การบริหารส่วนตาบลชี ทวน ในภาพรวมแตกตา่ งกนั อยา่ งมนี ัยสาคัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั 0.05 ส่วนรายด้านพบว่า ด้านกระบวน การให้บริการ ด้านการให้บริการของเจ้าหน้าท่ี และด้านประชาสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญ ทางสถิติที่ระดบั 0.01 2.5) ผูใ้ ช้บริการท่ีมีรายได้ต่างกัน เห็นว่าคุณภาพการให้บริการการจัดเก็บภาษี บารุงท้องท่ีขององค์การบริการส่วนตาบลชีทวน ในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ ระดับ 0.05 ส่วนรายด้านพบว่า ด้านสิ่งสถานท่ี/ส่ิงอานวยความสะดวก แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญ ทางสถิติที่ระดับ 0.01 2.6) ผู้ใช้บริการที่มีจานวนครั้ง/ปีท่ีมารับบริการต่างกันเห็นว่าคุณภาพการให้ บริการการจัดเก็บภาษีบารุงท้องที่ขององค์การบริหารส่วนตาบลชีทวน ในภาพรวมและรายด้านแตก ตา่ งกันอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ทิ ี่ระดับ 0.01

34 ทัศนีย์ คาแก้ว (2554) ได้ทาการศึกษากลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดหารายได้ด้าน ภาษี ค่าธรรมเนียมและในอนุญาตขององค์การบริหารส่วนตาบลหนองนาคา อาเภอเมือง จังหวัด อุดรธานี ผลการศึกษาพบว่า ปัญหาและอุปสรรค ด้านการบริการรับชาระภาษี ข้ันตอนและวิธีการ ปฏิบัติในการขาระภาษีทุกประเภท พบว่า ส่วนใหญ่จานวน 80 % ผู้ชาระภาษีได้รับข่าวสาร การ ประชาสมั พนั ธ์ และการแนะนาข้อบัญญัติเกี่ยวกับกฎระเบียบ ข้ันตอนและวิธีการชาระภาษีระดับท่ีดี บางส่วนจานวน 20 % เห็นว่าอาคารสานักงานสาหรับการจัดเก็บภาษียังไม่มีความสะดวกเหมาะสม เนอ่ื งจากอาคารยังคบั แคบ อุปกรณ์ เครื่องมือ เทคโนโลยีในการจัดเก็บภาษียังไม่มีความเหมาะสมต่อ การชาระภาษี กลยุทธ์การเพ่ิมประสิทธิภาพด้านการให้บริการ คือ 1) ให้ของกานัลหรือรางวัลหลัง บริการชาระภาษีกับผู้ที่มาชาระภาษีทุกราย จัดบริการชาระภาษีหลายช่องทาง เช่น การชาระภาษี ผ่านทางธนาคาร ไปรษณีย์ 2) จัดเจ้าหน้าที่บริการชาระภาษีในช่วงพักกลางวันและวันหยุดราชการ (เสาร์-อาทิตย)์ ใหก้ ับประชาชนผ้ชู าระภาษี ดา้ นโครงสรา้ งระบบการชาระภาษีสว่ นใหญ่ จานวน 80% ให้ความเห็นว่า มีการจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรม เพราะเป็นไปตามวิธีการ ข้ันตอน ตามระเบียบของ กระทรวงมหาดไทยกาหนดไว้ อีกจานวน 20% ให้ความเห็นว่าการจัดเก็บภาษียังไม่เป็นธรรม คิดว่า ตนเสียเปรียบบุคคลที่ผู้บริการรู้จัก จ่ายภาษีราคาที่สูงกว่า กลยุทธ์การเพ่ิมประสิทธิภาพด้าน โครงสร้างระบบการจัดเก็บภาษี คือ 1) เจ้าหน้าท่ีต้องยึดหลักกฎหมายเป็นหลักในการจัดเก็บภาษี อย่างถูกต้องและเป็นธรรม 2) อธิบายโครงสร้าง ข้ันตอนในการชาระภาษีทุกประเภทอย่างละเอียด 3) ใหเ้ จ้าหน้าท่ีฝกึ อบรมอยา่ งสม่าเสมอ ดา้ นนโยบายการบรหิ ารการจัดเก็บภาษี ผู้ชาระภาษีส่วนใหญ่ 90% ให้ความเห็นวา่ สถานที่น้นั ผู้ชาระภาษียนิ ดีท่ีจะให้ความร่วมมือในการชาระภาษีเป็นอย่างดี อีก จานวน 10% ไม่ยินดี และผู้ชาระภาษี จานวน 60% เห็นว่าปัญหาส่วนใหญ่ท่ีพบ คือ ขาดเทคโนโลยี เพ่ือช่วยอานวยความสะดวกในการจัดเก็บภาษี เช่น ระบบแผนที่ภาษี ระบบไอที และอีก 40% ให้ ความเห็นว่า มีเทคโนโลยีและเครื่องอานวยความสะดวกเพียงพอแล้ว กลยุทธ์การเพ่ิมประสิทธิภาพ ด้านนโยบายการบริหารการจัดเก็บภาษี คือ ควรให้ขวัญกาลังใจหรือรางวัลสาหรับเจ้าหน้าท่ีต้ังใจ ปฏบิ ตั ิงานทส่ี ามารถเก็บเงินค่าภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยและผู้ท่ีมาชาระภาษีอย่างต่อเน่ือง ด้าน ความร่วมมือในการชาระภาษี ส่วนใหญ่จานวน 70% ให้ความเห็นว่า ผู้ชาระภาษีมีความเข้าใจ หลักการเหตผุ ลในการจดั เกบ็ ภาษแี ต่ละประเภทเป็นย่างดีว่าการเก็บภาษีมาเพื่อพัฒนาท้องถ่ิน แต่อีก 30% ยังไมเ่ ขา้ ใจหลักการและเหตผุ ลในการจัดเก็บภาษี รัตนา รุ่งตรานนท์ (2554) ได้ทาการศึกษาการจัดเก็บภาษีท้องถ่ินของเทศบาลตาบล หางดง อาเภอหางดง จงั หวัดเชียงใหม่ ผลการศึกษาพบว่า เทศบาลตาบลหางดงมีการดาเนินงานตาม กระบวนการข้นั ตอนการจัดเก็บภาษที ้องถิน่ อย่างมีประสิทธิภาพมีการจัดเก็บภาษีบรรลุเป้าหมายท่ีต้ัง ไว้ โดยการพัฒนาระบบฐานข้อมูลทันสมัยเป็นปัจจุบัน ทาให้การจัดข้อมูลดังกล่าวให้มีความทันสมัย ครอบคลุมเป็นปัจจุบันและสามารถสืบค้นได้อย่างเป็นระบบ ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีได้ถูกต้องครบ

35 ถ้วน มีการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง เพ่ือให้ผู้เสียภาษียอมรับและเต็มใจท่ีจะให้ความ ร่วมมือในการเสียภาษีให้กับท้องถ่ิน เป็นเลิศในด้านการจัดเก็บภาษี มีการจัดเก็บด้วยความถูกต้อง ครบถ้วน ยุติธรรมทุกราย บนพ้ืนฐานความจริง ส่งผลให้จัดเก็บได้อย่างครบถ้วนมากที่สุด บุคลากร สามารถถา่ ยทอดความรูใ้ หแ้ กผ่ ู้เสียภาษอี ยา่ งถูกตอ้ ง ทาให้จดั เกบ็ ภาษไี ด้ตามกาหนดระยะเวลา มีการ พัฒนาบริการที่เลิศเพื่อสร้างการยอมรับให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจและภาพลักษณ์ท่ีดีให้อง ค์กร กอ่ ให้เกิดประสทิ ธิภาพในการจัดเก็บ มีการจัดเก็บเชิงรุก เรียกเก็บท่ีสะดวกท่ีสุดส่งผลให้มีการจัดเก็บ ให้ตรงกับเป้าหมายเป็นเลิศในด้านการจัดเก็บ และยังพบอีกว่าการจัดเก็บภาษีท้องถ่ินท่ีมีประสิทธิ ภาพนั้น ผู้นามีความสาคัญที่สุด คือ มีนโยบายที่เป็นธรรม ชัดเจน กล้าที่เปล่ียนแปลง เจ้าหน้าท่ีมี ความทมุ่ เทในการปฏิบตั งิ าน ผู้นาในชุมชนใหค้ วามรว่ มมือเป็นอย่างดี ผู้เสียภาษียอมรับในการจัดเก็บ และมีส่วนรว่ มในการเสยี ภาษจี ึงเป็นแรงขับเคลอื่ นในการจดั เกบ็ ภาษไี ด้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ บุญเกิด สระทองแก้ว (2554) ได้ทาการศึกษาแนวทางการพัฒนาการจัดเก็บรายได้ของ เทศบาลตาบลหนองปรือ อาเภอหนองปรือ จังหวัดกาจนบุรี ผลการศึกษาพบว่า ปัญหาจากการติดต่อ เรอ่ื งการชาระภาษีของเทศบาล ประชาชนมคี วามคิดเหน็ เรอื่ งไปติดต่อสอบถามเรื่องการชาระภาษีนั้น ไม่พบปัญหาใด ๆ ส่วนส่ิงท่ีทาให้ต้องไปชาระภาษี ประชาชนมีความคิดเห็นเก่ียวกับส่ิงท่ีต้องไปชาระ ภาษีเห็นวา่ ควรปฏิบัติใหถ้ กู ตอ้ งตามกฎหมายที่ระบุไวว้ า่ ประชาชนผ้มู รี ายไดค้ วรจะเสียภาษีเพื่อนาไป พฒั นาประเทศและท้องถิ่นตนเอง วา่ มคี วามสาคัญอย่างไรและคดิ วา่ ไมจ่ าเป็นต้องเสียภาษีท้องถิ่นก็ได้ ประชาชนในเทศบาลตาบลหนองปรือเห็นว่ามีการประชาสัมพันธ์เก่ียวกับขั้นตอนหรือวิธีการและ กาหนดการย่ืนภาษีทุกปี โดยจะประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนทราบเป็นเวลาหลายวัน สื่อทางเสียง ตามสายหรือหอกระจายเสียงของชุมชนเป็นการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพดี ส่วนการใช้ป้าย ประชาสัมพันธ์ยังไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากตัวหนังสือยังไม่ชัดเจนพอ บางคร้ังการใช้สียังไม่มีความ โดดเด่นทาให้ไม่เป็นท่ีดึงดูดสนใจให้น่าอ่าน การให้ผู้นานาชุมชนแจ้งข่าวเป็นการประชาสัมพันธ์ท่ีมี ประสิทธิภาพสูงสุด เน่ืองจากสามารถเข้าถึงตัวของประชาชนทุกพื้นที่ โดยที่ประชาชนสามารถสอบ ถามรายละเอียดของข่าวนั้น ๆ ได้อย่างครอบคลุมทุกเรื่อง ประชาชนยังต้องการให้เพ่ิมเติมประชา สัมพันธ์ในด้านการกระจายเสียงตามสาย คือ ควรเพิ่มประสิทธิภาพเสียงตามสาย หอกระจายข่าว และรถกระจายเสียง การใหบ้ รกิ ารชาระภาษีของเทศบาลตาบล มีข้อดีในด้านการให้บริการประชาชน ชาระภาษีของเทศบาลมีความรวดเร็ว สะดวก และเจ้าหน้าท่ีให้ความเป็นกันเองแก่ผู้ที่มาติดต่อขอ ชาระภาษีท้องถิ่น ส่วนบริการสถานที่ การออกบริการนอกสถานที่ การแจกสิ่งของรางวัลเมื่อนามา ชาระภาษีและการประกาศเกียรติคณุ ให้เมื่อชาระภาษีตรงเวลาเปน็ ประจาทุกปี มกุ ตา ยอี มุ า (2554) ได้ศึกษาการพัฒนาประสิทธิผลในการจัดเกบ็ ภาษขี ององค์การบริหาร สว่ นตาบลกอลา อาเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ผลการศึกษาพบว่า มีปัญหาและอุปสรรคในการจัดเก็บ ภาษีใน 3 ด้าน คือ ด้านผู้บริหาร ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พบว่า ผู้เสียภาษีเห็นว่าภาษีที่รัฐบังคับ

36 จดั เกบ็ มมี ากเกนิ ไป เกดิ ภาระที่เรียกว่าภาระทับถมทวี มีผลใหภ้ าษีไม่อยใู่ นวิสยั ทีผ่ เู้ สียภาษีรับได้ส่งผล ให้เกิดการหลบเลี่ยงภาษี ผู้เสียภาษีคิดว่าเป็นภาระทับถมทวีมีความเบื่อหน่ายที่จะเสียภาษี จึงเกิด ทัศนคติท่ีเป็นเชิงลบต่อการเสียภาษี เจ้าหน้าท่ีไม่มีความรู้ความเข้าใจในด้านกฎหมายเกี่ยวกับภาษีที่ ชัดเจน ทาให้ไม่สามารถอธิบายแก่ประชาชนให้เข้าใจได้อย่างแท้จริง และเจ้าหน้าที่องค์การบริหาร ส่วนตาบลมกี ารจัดเก็บภาษีนอกสถานที่ ด้านประชาชนผู้มาเสียภาษี พบว่า ผู้เสียภาษีมาติดต่อขอรับ บริการจากส่วนราชการอ่ืนใน อบต. และไม่ได้รับการบริการท่ีสะดวก รวดเร็ว และด้านการบริหาร การจัดเก็บภาษี พบว่า มีการประชาสัมพันธ์ครบถ้วนทุกขั้นตอน มีการแจ้งชาระภาษี ให้ประชาชน ทราบล่วงหน้าและมีการติดป้ายประกาศตามหมู่บ้านอย่างทั่วถึง เจ้าหน้าที่มีการประชาสัมพันธ์ให้ ทราบถึงความสาคัญของการชาระภาษีว่ามีประโยชน์ต่อการพัฒนาชาติ และมีมาตรการจูงใจให้ ประชาชนมาชาระภาษีภายในระยะเวลาท่ีกาหนด ข้อเสนอแนะในการพัฒนาประสิทธิผลในการจัด เก็บภาษี โดยการสรรหาเจ้าหน้าท่ีและควรมีการสอนงานเพ่ือให้ปฏิบัติงานแทนกันได้ ควรส่งเสริมให้ บุคลากรเข้ารับการฝึกอบรมเพ่ือเพ่ิมทักษะ ความรู้ เกี่ยวกับระเบียบกฎหมาย แนวทางการปฏิบัติท่ี ถกู ตอ้ งในการจัดเกบ็ ภาษี อินเลียส์ หะยีมาหะมะ (2554) ได้ทาการศึกษากลยุทธ์ในการจัดเก็บรายได้ของเทศบาล ตาบลบาเจาะ อาเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ผลการศึกษาพบว่า เทศบาลตาบลบาเจาะ อาเภอบา เจาะ จังหวัดนราธิวาส มีกลยุทธ์การจัดเก็บรายได้โดยให้ผู้นาท้องถิ่น ผู้นาชุมชน กานันผู้ใหญ่บ้าน รวมทง้ั ประธานประชาคมในฐานะทเ่ี ปน็ ผู้ท่ีมคี วามรคู้ วามสามารถในการพัฒนาตาบล มีบทบาทในการ สร้างเสริมความร่วมมือร่วมใจ กระตุ้นเตือนให้ประชาชนนึกถึงหน้าที่ของตนเองในการชาระภาษี ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้ประชาชนในท้องถ่ินได้รับทราบข้อมูลข่าวสารของเทศบาลในทุกด้าน รวมทั้งการชาระภาษเี มื่อใกลถ้ งึ กาหนดระยะเวลาการชาระภาษี และเสริมสร้างความเข้าใจ และสร้าง ความสมั พันธ์อันดีระหว่างประชาชนกับบทบาทของเทศบาลตาบลไดเ้ ขา้ ใจและเห็นความสาคัญในการ พัฒนาทอ้ งถ่ิน นอกจากจะได้ชาระภาษีแล้วยังได้แจ้งให้กับผู้ชาระภาษีภายในเวลาท่ีกาหนด มีการจัด ปา้ ยประชาสมั พันธ์ ออกหนงั สอื แจ้งเตอื นล่วงหนา้ ให้ประชาชนเตรยี มตัวชาระภาษี อโนทัย ทองสุข (2555, บทคัดย่อ) ได้ทาการศึกษาความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการ ให้บริการจัดเก็บรายได้ขององค์การบริหารส่วนตาบลหันตรา อาเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัด พระนครศรีอยุธยาผลการวิจัยพบว่า 1) ประชาชนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 41-50 ปี การศึกษาระดับประถมศึกษา อาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัว/แม่บ้าน รายได้เฉล่ียต่อเดือน 7,001-10,000 บาท มีสถานภาพสมรส มีจานวนสมาชิกในครอบครัว 5 คนข้ึนไป และการบริการจัด เก็บรายได้ ส่วนใหญ่ประชาชนกลุ่มตัวอย่างใช้บริการเกี่ยวกับภาษีโรงเรือนและที่ดิน 2) ประชาชนมี ความคิดเห็นต่อการใหบ้ ริการจัดเก็บรายได้ขององค์การบริหารส่วนตาบลหันตรา เก่ียวกับการบริหาร การจัดเกบ็ รายได้โดยรวมเห็นด้วยอยู่ในระดับปานกลาง ในด้านความชัดเจนของการออกข้อบังคับใน

37 การจัดเก็บรายได้ ด้านความเปน็ ธรรมและเสมอภาคในการบริการจัดเก็บรายได้ และด้านการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ในการจัดเก็บรายได้ สาหรับด้านความสามารถในการบริการจัดเก็บรายได้ด้วยความ สะดวก รวดเร็ว และครบถ้วนน้ัน โดยรวมเห็นด้วยอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนสมรรถนะขององค์การ บริหารส่วนตาบลหันตรา โดยรวมเห็นด้วยอยู่ในระดับมากท่ีสุด ในด้านความรู้ความเข้าใจและความ สามารถของเจ้าหน้าท่ีจัดเก็บรายได้ ด้านความสุจริต โปร่งใส และมีระบบควบคุมตรวจสอบท่ีมี ประสิทธิภาพ ดา้ นความแน่นอนของระยะเวลาและสถานท่ีในการจัดเก็บรายได้ และด้านความชัดเจน ของแบบเสียภาษีรายได้แต่ละประเภท สาหรับด้านความทันสมัยและเพียงพอของเจ้าหน้าที่และ เคร่ืองมือ วัสดุ อุปกรณ์ในการจัดเก็บรายได้และด้านความรับผิดชอบของเจ้าหน้าท่ีในการจัดเก็บ รายได้ โดยรวมเห็นด้วยอยู่ในระดับมาก และ 3) ประชาชนท่ีมีอายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ เฉลีย่ ต่อเดอื น และสถานภาพสมรส ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการใช้บริการจัดเก็บรายได้ขององค์การ บรหิ ารส่วนตาบลหนั ตรา แตกตา่ งกนั อย่างมรี ะดับนยั สาคญั ทางสถิติท่ี 0.05 ฐิติรัตน์ ชุนทะเล (2555) ได้ทาการศึกษาแนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพของระบบการ จดั เก็บภาษีท้องถ่ินของเทศบาลตาบลจอกหอ ผลการศึกษาพบว่า ระบบการจัดเก็บภาษีของเทศบาล ตาบลจอหอ 1) มีการใช้ระบบแผนท่ีภาษีและทะเบียนทรัพย์สินในการจัดเก็บภาษี 2) มีการส่ง เจ้าหน้าที่เข้าร่วมอบรมตามหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ จัดอบรม 3) มีการจัดทาและใช้แผนปฏิบัติ งานเกี่ยวกับการเก็บภาษี 4) มีการจัดทาเอกสารคาแนะนา และประชาสัมพันธ์ผ่านส่ือท่ีมีในพ้ืนท่ี 5) มีการกาหนดขั้นตอนการชาระภาษีตามระเบียบท่ีกฎหมายกาหนด 6) ไม่เคยจัดทาโครงการมาตร การจงู ใจในการเสยี ภาษี 7) มกี ารตรวจสอบเรง่ รัดการจัดเก็บภาษีโดยมีหนังสือแจ้งเตือนและจัดส่งเจ้า หนา้ ออกไป 8) ไม่มีการบังคับภาษีกับผู้ไม่เสียภาษีหรือค้างจ่าย ปัญหาอุปสรรคระบบการจัดเก็บภาษี 1) เทคโนโลยีท่ีจะช่วยประกอบการในการปฏิบัติงานของแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สินและ บคุ ลากรมีไมเ่ พยี งพอ 2) ไม่มรี ะบบหรือแผนการพัฒนาบุคลากรท่ีเป็นรูปธรรม 3) การจัดทาแผนและ ข้ันตอนการจัดเก็บภาษีไม่ชัดเจน 4) ไม่มีเจ้าหน้าท่ีสาหรับแนะนาและประชาสัมพันธ์เก่ียวกับการ ชาระภาษโี ดยตรง 5) ประชาชนไม่เข้าใจขั้นตอนในการชาระภาษี 6) ไมม่ กี ารจัดทาโครงการหรือมาตร การจูงใจในการเสียภาษี 7) เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานไม่เพียงพอ ทาให้การตรวจสอบและติดตามเร่งรัด การจัดเก็บภาษีไม่ทันเวลาที่กาหนด 8) ไม่มีการดาเนินการทางด้านกฎหมายกับผู้ท่ีไม่เสียภาษีอย่าง จรงิ จงั และ 9) มกี ารคา้ งชาระภาษีและประชาชนพยายามเลี่ยงภาษี ก่ิง หวีเกษ (2555, บทคัดยอ่ ) ไดท้ าการศกึ ษาความคิดเห็นของประชาชนต่อการให้บริการ จัดเก็บรายได้ขององค์การบริหารส่วนตาบลหนองยายพิมพ์ อาเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ผลการ ศึกษาพบว่า 1) ความคิดเห็นของประชาชนต่อการให้บริการจัดเก็บรายได้ขององค์การบริหารส่วน ตาบลหนองยายพิมพ์ อาเภอนางรอง จังหวัดบรุ ีรมั ย์ โดยภาพรวมอยู่ ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณา เป็นรายด้านพบวา่ ทุกดา้ นอยู่ในระดับปานกลางเชน่ กนั โดยเรยี งลาดับจากด้านทีม่ ีคา่ เฉลยี่ สูงไปหาต่า

38 คือ ด้านกระบวนการ/ข้ันตอนการให้บริการ ด้านส่ิงอานวยความสะดวก และด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้ บริการ ตามลาดับ 2) ความคิดเห็นและข้อเนอแนะอ่ืน ๆ ท่ีมีจานวนมากที่สุดคือ ควรมีเจ้าหน้าที่คอย ให้บริการตลอดเวลา ในการให้บริการรับชาระภาษี เพ่ือความสะดวกต่อประชาชน รองลงมาคือ ควร จดั อบรมให้ความรู้แก่ผู้นาท้องถ่ินและประชากรให้มีความรู้ความเข้าใจกับการชาระภาษีท้องถิ่น และ ควรประสานกับผู้นาท้องถ่นิ เพ่ือประชาสัมพนั ธ์ให้ประชาชนทราบว่ามีการออกให้บริการรับชาระนอก สถานท่ี ลว่ งหน้าอยา่ งนอ้ ย 3 วัน ตามลาดับ สิริลักษณ์ อักษรแก้ว (2557) ได้ทาการศึกษาความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อการ ใหบ้ รกิ ารจดั เก็บรายไดข้ ององคก์ ารบริหารสว่ นตาบลเสมด็ อาเภอเมืองจงั หวดั บรุ รี ัมย์ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนมคี วามคิดเห็นตอ่ การให้บริการจดั เกบ็ รายไดข้ ององค์การบรหิ ารส่วนตาบลเสม็ดอาเภอเมือง จงั หวัดบุรีรมั ยอ์ ยู่ในระดบั ปานกลางประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับการให้บริการจัดเก็บรายได้เป็นอย่างดี สาหรับผลการทดสอบสมมติฐานพบว่าประชาชนที่มีปัจจัยส่วนบุคคลต่างกันจะมีความคิดเห็นต่อ ให้บริการจัดเก็บรายได้ขององค์การบริหารส่วนตาบลเสม็ดอาเภอเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ไม่แตกต่างกัน และพบวา่ ประชาชนทีม่ ีปัจจัยส่วนบุคคลเพศ อายุ รายได้ ตา่ งกนั มีความคิดเห็นเก่ียวกับการให้บริการ จัดเก็บรายไดไ้ มแ่ ตกต่างกัน ชัญญาภัค วัฒนสกุลชล (2558) ได้ทาการศึกษาทัศนคติของประชาชนต่อการให้บริการ จัดเก็บรายได้ของเจ้าหน้าท่ีองค์กรบริหารส่วนตาบลหนองบอนแดง อาเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ผล การศึกษาพบวา ทัศนคติของประชาชนตอการใหบริการจัดเก็บรายไดดานการใหบริการอยูในระดับ ปานกลาง ทัศนคติของประชาชนตอการใหบริการ จัดเก็บรายไดดานราคา อยูในระดับปานกลาง ทัศนคติของประชาชนตอการใหบริการจัดเก็บรายไดดานสงเสริมการตลาด อยูในระดับปานกลาง ทัศนคติ ของประชาชนตอการใหบริการจัดเก็บรายไดดานบุคลากรอยูในระดับมากเมื่อ พิจารณาถึง ทัศนคติของประชาชนตอการใหบริการจัดเก็บรายไดของเจาหนาท่ีองคการบริหารสวน ตาบลหนอง บอนแดง อาเภอบานบึง จังหวัดชลบุรี จาแนกตามเพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับ การศึกษา อาชีพ รายไดเฉลี่ยตอเดือนพบวา ประชาชนท่ีมีเพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับ การศึกษา อาชีพ รายได เฉลี่ยตอเดือน มีระดับทัศนคติไมแตกตางกัน ผูวิจัยมีขอเสนอแนะดังนี้ควร ศึกษาทัศนคติของ ประชาชนตอการใหบริการจัดเก็บรายไดนอกหนวยงานของเจาหนาที่ในเขต อาเภอเมือง จังหวัด ชลบรุ ีและนาผลท่ไี ดมาศกึ ษาเพอื่ เปรียบเทียบและปรับปรงุ 2.7 สรปุ กรอบแนวคดิ ในการวิจัย การศึกษาเรื่อง ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาล ตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ผู้วิจัยได้นาเอาแนวคิดทฤษฎีของ Parasuramanet et.al. (1998 p. 46) ซ่ึงได้กาหนดทฤษฎีไว้จานวน 10 ประการ แต่ผู้วิจัยได้นามาเป็นแนวทางการ วิจัยครง้ั นีจ้ านวน 9 ประการ สรปุ เปน็ กรอบแนวคดิ การวิจัยได้ ดงั นี้

ตัวแปรอสิ ระ 39 (Independent Variables) ตัวแปรตาม ปจั จยั ส่วนบุคคล (Dependent Variable) 1) เพศ ความต้องการของประชาชนในการให้บริการ 2) อายุ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว 3) รายได้ อาเภอเชียงคาน จงั หวัดเลย 1) ดา้ นความไวว้ างใจ 2) ดา้ นความรบั ผดิ ชอบ 3) ดา้ นความสามารถ 4) ดา้ นการเขา้ ถงึ ได้ 5) ดา้ นความสภุ าพ 6) ดา้ นการติดตอ่ ส่ือสาร 7) ดา้ นความนา่ เช่ือถือ 8) ดา้ นความเข้าใจและรจู้ ักลูกคา้ 9) ดา้ นสิง่ ทส่ี ามารถจับต้องได้ แผนภูมทิ ี่ 2.1 แสดงสรปุ กรอบแนวคิดท่ีใชใ้ นการวิจัย

บทที่ 3 วธิ ีดำเนินกำรวจิ ัย การศึกษาเร่ือง “ความต้องการในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย”ผู้ศึกษาได้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณเป็นหลัก (Quantitative Methodology Research) โดยได้ดาเนนิ การศกึ ษาตามข้นั ตอน ดังน้ี 3.1 ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ ง 3.2 เทคนิควธิ ีการส่มุ ตวั อยา่ ง 3.3 เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการวิจัย 3.4 การสรา้ งและการหาคณุ ภาพเครือ่ งมอื 3.5 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู 3.6 การวเิ คราะหข์ ้อมูล 3.7 สถิติทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูล 3.1 ประชำกรและกลุ่มตัวอยำ่ ง 3.1.1 ประชำกร (Population) ประชากรชากรท่ีใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ตัวแทน ครวั เรือนท่ีเสียภาษใี หแ้ กเ่ ทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยจานวน 1,994 ครัวเรือน หรือจานวน 1994 คน 3.1.2 กล่มุ ตวั อยำ่ ง (Sample) กล่มุ ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ตัวแทนครัวเรือนที่ เสียภาษีให้กับเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยจานวน 333 ครัวเรือนหรือจานวน 333 คน ได้จากการคานวณหากลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตร Taro Yamane (1970) อ้างใน สุวิมล ตริ กำนันท์ (2546, หนา้ 48) โดยมีสูตรการกาหนดจานวนกลุ่มอย่าง ดังนี้ N n = 1  Ne2 เมือ่ n = จานวนกลมุ่ ตัวอยา่ ง N = จานวนประชากร e = ความคาดเคลือ่ นจากการประมาณค่า (การศกึ ษาครัง้ น้ีใช้ค่า e = 0.05) ท่ีระดบั ความเชอื่ ม่ัน 95% แทนค่าดว้ ย N

41 1,994 n = 11,9940.052 จะได้ n = 333 ดังนัน้ เพ่ือให้จานวนกลุ่มตัวอย่าง 333 ครัวเรอื นหรือ 333 คน 3.2 เทคนคิ วธิ กี ำรส่มุ ตัวอยำ่ ง เทคนิควิธีการการสุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มประชากรแบบสัดส่วน (Proportional Sampling) กับประชากร ให้กระจายไปตามจานวนประชากร ตามแต่ละหมู่บ้าน จากน้ันทาการสุ่ม ตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) เพ่ือตัวอย่างของแต่ละหมู่บ้าน เพ่ือเก็บรวบรวม ข้อมลู รายละเอยี ดจาแนกตามตารางที่ 1 โดยมรี ายเอียดดงั น้ี ตำรำงท่ี 3.1 แสดงจำนวนประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำงของประชำชนท่ีเสียภำษีให้กับเทศบำลตำบล เขำแกว้ ชอื่ หมู่บ้ำน จำนวน กำรหำสดั สว่ น จำนวน ประชำกร (คน) กล่มุ ตวั อยำ่ ง 1. บ้านโสกเกา่ (หมู่ 1) 178 x 333 ÷ 1994 2. บา้ นโสกใหม่ (หมู่ 2) 178 190 x 333 ÷ 1994 30 3. บา้ นนาเบน (หมู่ 3) 190 202 x 333 ÷ 1994 32 4. บ้านนาป่าหนาด (หมู่ 4) 202 164 x 333 ÷ 1994 34 5. บา้ นวงั อาบช้าง (หมู่ 5) 164 77 x 333 ÷ 1994 27 6. บ้านตาดซอ้ (หมู่ 6) 77 225 x 333 ÷ 1994 13 7. บา้ นเขาแก้ว (หมู่ 7) 225 79 x 333 ÷ 1994 38 8. บ้านทา่ บม (หมู่ 8) 79 188 x 333 ÷ 1994 13 9. บา้ นทา่ บม (หมู่ 9) 188 147 x 333 ÷ 1994 31 10. บ้านโสกเกา่ (หมู่ 10) 147 159 x 333 ÷ 1994 24 11. บ้านโสกใหม่ (หมู่ 11) 159 138 x 333 ÷ 1994 27 12. บา้ นนาป่าหนาด (หมู่ 12) 138 138 x 333 ÷ 1994 23 13. บ้านท่าบม (หมู่ 13) 138 109 x 333 ÷ 1994 23 109 18 รวม 1,994 333 ท่มี า : เทศบาลตาบลเขาแก้ว พ.ศ. 2559

42 3.3 เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นกำรวจิ ัย เครือ่ งมอื ที่ใช้ในการวจิ ยั เป็นแบบสอบถาม ประกอบด้วย 3 ตอน ตอนที่ 1 เปน็ แบบสอบถามทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม คาตอบมีลักษณะเป็นแบบตรวจ สอบรายการ (Check list) ถามเกี่ยวกับ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพหลัก และรายได้เฉล่ียต่อ เดอื น ตอนท่ี 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับความต้องการในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ตามความคิดเห็นของประชาชนท่ีเสียภาษีให้กับ เทศบาลตาบลเขาแกว้ คาตอบมลี ักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดบั (Rating Scale) ตอนที่ 3 เป็นแบบสอบถามปลายเปิดเก่ียวกับข้อเสนอแนะของประชาชนในการให้บริการ จัดเกบ็ ภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชียงคาน จังหวดั เลย 3.4 กำรสรำ้ งและกำรหำคณุ ภำพเคร่ืองมือ เครือ่ งมือทใ่ี ช้เกบ็ รวบรวมคร้ังนี้เปน็ แบบสอบถาม ซ่งึ มีวิธีการสรา้ งเคร่ืองมือ ดงั นี้ 3.4.1 ศึกษาเอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเก่ยี วข้องกบั การใหบ้ ริการจัดเก็บภาษี แล้วรวบรวมข้อมูล ท่ีได้สร้างเป็นข้อคาถามตามกรอบแนวคิดของการวิจัย ได้แก่ความไว้วางใจ ความรับผิดชอบ ความ สามารถ การเข้าถึงได้ ความสุภาพ การติดต่อสื่อสาร ความน่าเช่ือถือ ความเข้าใจและรู้จักลูกค้า และ สงิ่ ทีส่ ามารถจับต้องได้ 3.4.2 ดาเนนิ การสรา้ งเคร่ืองมอื ที่เปน็ แบบสอบถามสาหรับการวิจัย ตามกรอบแนวคิดที่ได้ จากการศกึ ษาเอกสารและงานวิจยั ทเี่ ก่ียวข้องเพ่ือตอบวตั ถุประสงค์ของการวจิ ยั 3.4.3 นาแบบสอบถามที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น ให้ผู้เช่ียวชาญตรวจสอบ จานวน 5 ท่าน โดยให้ ผู้เช่ียวชาญตรวจสอบความเท่ียงตรงตามเน้ือหา (Content Validity) และพิจารณาความเหมาะสม ของสานวนภาษาที่ใช้ส่ือความหมายให้ชัดเจน และใช้ดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item ; Objective Congruence : IOC) โดยการนาแบบสอบถามที่สรา้ งขนึ้ ไปให้ผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่านลงความ เหน็ ซงึ่ กาหนดเกณฑก์ ารพจิ ารณาแบบสอบถามแต่ละข้อ ดังนี้ สอดคล้อง = +1 ไมแ่ นใ่ จ =0 ไมส่ อดคล้อง = -1 โดยผเู้ ชี่ยวชาญทัง้ 5 ทา่ น ได้แก่ 1. รองศำสตรำจำรย์ ดร.ภำสกร ดอกจันทร์ ตำแหนง่ ปัจจบุ นั ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์การ ปกครอง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตศรีลา้ นชา้ ง

43 2. ผศ.ดร.บรุ นิ ทร์ ภสู่ กลุ ตำแหน่งปจั จุบนั อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณ์ราชวิทยาลยั จงั หวดั ขอนแก่น 3. ดร.ทองแพ ไชยต้นเทอื ก ตำแหนง่ ปัจจุบัน อาจารยม์ หาวิทยาลัยภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ จังหวดั ขอนแกน่ 4. ดร.วนิ ิจ ผำเจริญ ตำแหน่งปจั จบุ นั อาจารย์มหาวิทยาลยั แม่โจ้ จงั หวัดเชยี งใหม่ 5. ดร. พูลสวสั ดิ์ นำทองคำ ตำแหนง่ ปัจจุบัน นายกเทศมนตรีตาบลรอ่ งคา จังหวดั กาฬสินธ์ุ 3.4.4 นาเครื่องมือไปทดลองใช้เพ่ือหาค่าความเช่ือม่ันของแบบสอบถาม (Try out) กับ ประชากรที่เป็นอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยและไม่ถูกเลือกให้ เป็นกลุ่มตัวอย่าง จานวน 30 ชุด เพื่อหาค่าสัมประสิทธิ์ของความเชื่อมั่น (Reliability Coefficient) ของครอนบาคสัมประสิทธิ์แอลฟา (-Coefficient) ที่มีค่าความเชื่อม่ันท้ังฉบับ ไม่ต่ากว่า 0.80 ผล ซ่ึงการหาค่าความเชอ่ื มน่ั ทง้ั ฉบับ ได้เท่ากบั 0.909 3.4.5 นาเคร่ืองมือที่เป็นแบบสอบถามท่ีผ่านการทดลองใช้มาปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องและ เหมาะสมแลว้ นาไปเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลในการวิจยั ผลครงั้ น้ี 3.5 กำรเก็บรวบรวมข้อมลู การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วจิ ัยดาเนินการเก็บข้อมลู ตามลาดบั ข้นั ตอน ดงั นี้ 3.5.1 ทาหนังสือแนะนาตัวผู้วิจัยและขออนุญาตเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิจัยจาก มหาวิทยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตศรลี ้านชา้ ง อาเภอเมือง จงั หวัดเลย ถึง ประชาชนในเขต เทศบาลตาบลเชียงคาน อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการเก็บรวบรวม ข้อมลู กับประชาชนท่ีถกู เลอื กใหเ้ ปน็ กลุม่ ตัวอยา่ ง 3.5.2 ผวู้ จิ ยั และผ้ชู ่วยนกั วจิ ยั จานวน 2 คน ลงพ้นื ทใี่ นเทศบาลตาบลเชยี งคาน อาเภอเชียง คาน จังหวัดเลย ทาการชี้แจงแล้วแจกแบบสอบถามให้กับประชาชนท่ีเสียภาษีให้กับเทศบาลตาบล เชียงคาน เพ่อื ใหต้ อบแบบสอบถาม จากนั้นส่งข้อมูลกลับมายังผ้วู จิ ัย 3.5.3 นาแบบสอบถามทไี่ ด้รับคนื มาดาเนนิ การวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป 3.6 กำรวิเครำะหข์ อ้ มูล การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์โดยโปรแกรม สาเร็จรปู ทางสงั คมศาสตร์ สาหรับสถติ ทิ ีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มลู มีดงั นี้

44 3.6.1 ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามท่ีเป็นแบบตรวจสอบรายการ (Check list) ใช้หาค่า ความถี่ (Frequency) และร้อยละ (percentage) แล้วนาเสนอในรปู ตาราง 3.6.2 วิเคราะห์ความต้องการในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวดั เลย ตามความคิดเห็นของประชาชนที่เสียภาษีให้กับเทศบาลตาบลเขาแก้ว โดย คานวณหาค่าเฉล่ีย (  ) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วแปลความหมายตามเกณฑ์ที่กาหนด โดยพิจารณาจากขอบเขตของคะแนนเฉล่ียที่ได้จากการแบบสอบถามผลที่ได้จากการแปลผล ดังนี้ (สาเรงิ จนั ทรส์ วุ รรณ, 2547, หนา้ 58) คา่ เฉลย่ี ระหว่าง 4.51-5.00 หมายถงึ มคี วามตอ้ งการระดบั มากทีส่ ุด คา่ เฉลยี่ ระหว่าง 3.51-4.50 หมายถึง มีความตอ้ งการระดบั มาก คา่ เฉลยี่ ระหว่าง 2.51-3.50 หมายถึง มคี วามตอ้ งการระดบั ปานกลาง ค่าเฉลย่ี ระหวา่ ง 1.51-2.50 หมายถงึ มคี วามต้องการระดับนอ้ ย คา่ เฉล่ยี ระหว่าง 1.00-1.50 หมายถงึ มคี วามต้องการระดับนอ้ ยท่ีสุด 3.6.3 วเิ คราะห์เปรยี บเทียบความตอ้ งการในการใหบ้ รกิ ารจดั เกบ็ ภาษีในเขตเทศบาลตาบล เขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย จาแนกตาม เพศ อายุ และรายได้ โดยใช้สถิติทดสอบค่าที (Independent t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA) มีนัยสาคัญ ทีร่ ะดบั 0.05 3.7 สถิตทิ ี่ใชใ้ นกำรวิเครำะหข์ ้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลการศึกษาวิจัยคร้ังนี้ผู้วิจัยวิเคราะห์โดยใช้สถิติดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด, หนา้ , 100) 3.7.1 สถติ พิ รรณนำ (Descriptive Statistics) 3.7.1.1 ความถ่ี (Frequency) 3.7.1.2 ค่าเฉลีย่ (Mean ( )) 3.7.1.3 ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D.) 3.7.2 สถติ ิทดสอบสมมตฐิ ำนได้แก่ 3.7.2.1 เปรยี บเทียบค่าเฉลีย่ t-test (Independent Samples) 3.7.2.2 การวเิ คราะห์ความแปรปรวนทางเดยี ว F-test (ANOVA)

45 3.7.3 สูตรกำรหำค่ำสถติ ิทใี่ ช้ในกำรวิจยั มดี งั น้ี 3.7.3.1 กำรหำคำ่ ร้อยละ (Percentage) X 100 P= n เม่ือ P = ค่าร้อยละ X = จานวนผูต้ อบแบบสอบถาม n = จานวนกล่มุ ตัวอย่าง 3.7.3.2 กำรหำคำ่ เฉล่ีย (Mean) X X= n เม่ือ X = ค่าเฉลีย่ ของกลุ่มตัวอยา่ ง n = จานวนกลมุ่ ตัวอย่าง 3.7.3.3 กำรหำคำ่ ส่วนเบ่ยี งเบนมำตรฐำน (Standard Deviation ; S.D.) n fx 2   fx 2 S.D = nn 1 เม่ือ S.D. = คา่ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน fX = ผลรวมคะแนนของผ้ตู อบแบบสอบถาม n = จานวนกลุ่มตวั อยา่ ง 3.7.3.4 สถิตทิ ดสอบสมมตฐิ ำน 1) สถิตทิ ดสอบคา่ เฉลี่ยของ 2 กลุ่มตวั อย่าง t-test Independent Samples t X1  X2 1S12  n2 1S22  n1    n1 n2   n1  n2  2   n1n2  เมอ่ื t = คา่ สถิตใิ ชใ้ นการเปรียบเทยี บค่าวิกฤตในการแจก แจงแบบ t เพื่อทราบความมีนัยสาคัญ X 1, X 2 = คะแนนเฉลยี่ ของกลุม่ ตวั อยา่ งที่ 1 และ กลุ่มที่ 2 ตามลาดบั n1,n2 = จานวนของกล่มุ ตัวอยา่ งที่ 1 และกลุ่มท่ี 2 ตามลาดบั S21 , S2 2 = ความแปรปรวนของกล่มุ ตัวอยา่ งท่ี 1 และกลมุ่ 2 ตามลาดับ

46 2) การวิเคราะหค์ วามแปรปรวนทางเดยี ว (One way ANOVA) F = MSb MSw เมื่อ F = ค่าสถิตใิ ชใ้ นการเปรยี บเทยี บคา่ วิกฤตในการแจกแจง แบบ F เพือ่ ทราบความมีนยั สาคัญ MSb = คา่ ความแปรปรวนระหวา่ งกลมุ่ MSw = คา่ ความแปรปรวนภายในกล่มุ 3.7.3.5 กำรหำคำ่ ดชั นีควำมสอดคล้องของแบบสอบถำมแตล่ ะข้อ X IOC = N เม่อื IOC = ดชั นีความสอดคล้องระหว่างวัตถุประสงค์กบั เนื้อหา หรือระหวา่ งข้อของแบบสอบถามกับวตั ถปุ ระสงค์ X = ผลรวมของคะแนนความคดิ เห็นของผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่าน N = จานวนผ้เู ชย่ี วชาญทงั้ หมด 3.7.3.6 สูตรกำรหำควำมเช่ือมั่นของแบบสอบถำม (ค่ำสัมประสิทธ์ิอัลฟ่ำ ; - Coefficient) k k 1 1  si2  st2  α = -     เม่อื α = ค่าสมั ประสิทธอ์ิ ัลฟ่า (ค่าความเช่ือมั่น) k = จานวนขอ้ ของแบบสอบถาม st2 = ผลรวมของค่าความแปรปรวน

บทที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในการศึกษาวจิ ัยเรอ่ื ง “ความต้องการในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขา แก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย” เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยผู้วิจัยได้ เสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล ตามลาดับดงั นี้ 4.1 สญั ลกั ษณ์ที่ใช้ในการเสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมลู 4.2 ลาดบั ขน้ั ตอนการวเิ คราะห์ขอ้ มลู 4.3 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 4.1 สัญลกั ษณ์ที่ใช้ในการเสนอผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู สัญลกั ษณ์ท่ีใช้ในการเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ผวู้ ิจยั ไดใ้ หค้ วามหมายไว้ ดงั นี้  หมายถงึ คา่ เฉลี่ย (Mean) ของกลมุ่ ตัวอยา่ ง S.D. หมายถึง สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ของกลุ่มตวั อยา่ ง n หมายถึง จานวนกล่มุ ตวั อยา่ ง t หมายถึง ค่าสถติ ิท่ใี ช้ทดสอบนัยสาคญั ของคา่ เฉลีย่ 2 กลมุ่ ตัวอยา่ ง (t-test) F หมายถึง คา่ สถิตทิ ใ่ี ชท้ ดสอบนยั สาคัญของคา่ เฉลี่ย 3 กลมุ่ ตัวอย่าง ข้นึ ไป (F-test) SS หมายถึง ผลบวกกาลังสองของคะแนน (Sum of Square) MS หมายถึง คา่ เฉล่ียผลบวกกาลงั สองของคะแนน (Mean of Square) df หมายถงึ ระดับช้นั ขององศาอิสระ (Degree of freedom) Sig. หมายถึง คา่ ระดบั นัยสาคญั ทางสถติ ิ (Significant level) 4.2 ลาดับขนั้ ตอนการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ตอนท่ี 1 สถานภาพทัว่ ไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 การวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชียงคาน จงั หวดั เลย ตอนที่ 3 การเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบล เขาแกว้ อาเภอเชียงคาน จงั หวัดเลย

48 4.3 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ตอนที่ 1 สถานภาพทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ในการวิจัยเร่ืองน้ีกลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการศึกษา ได้แก่ ตัวแทนครัวเรือนท่ีเสียภาษีให้กับ เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยจานวน 333 คน จาแนกตามเพศ อายุระดับการ ศึกษา อาชีพและรายได้เฉล่ียต่อเดือน โดยใช้สถิติค่าความถ่ี (Frequency) และร้อยละ (Percentage) จากน้ันนาเสนอในรปู ตารางประกอบการบรรยาย ปรากฏตามตารางที่ 4.1-4.5 ตารางท่ี 4.1 แสดงจานวน และรอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม จาแนกตามเพศ เพศ จานวน ร้อยละ ชาย 212 63.66 หญิง 121 36.34 333 100.00 รวม จากตารางท่ี 4.1 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศชาย จานวน 212 คน คิดเป็นร้อยละ 63.66 และเป็นเพศหญงิ จานวน 121 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 36.34 ตารางที่ 4.2 แสดงจานวน และร้อยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม จาแนกตามอายุ ไม่เกิน 30 ปี อายุ จานวน รอ้ ยละ 31 - 40 ปี รวม 79 23.72 มากกวา่ 40 ปี 114 34.24 140 42.04 333 100.00 จากตารางท่ี 4.2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม อายุมากกว่า 40 ปี จานวน 140 คน คิดเป็น ร้อยละ 42.04 รองลงมาคือ อายุ ระหว่าง 31-40 ปีจานวน 114 คน คิดเป็นร้อยละ 34.24 และอายุ ไม่เกิน 30 ปีจานวน 79 คน คิดเป็นร้อยละ 23.72

49 ตารางท่ี 4.3 แสดงจานวน และรอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จาแนกตามระดบั การศกึ ษา ระดับการศึกษา จานวน ร้อยละ ประถมศกึ ษา 33 9.91 มัธยมศึกษา 180 54.05 อนุปรญิ ญาหรอื ปวส. 17 5.11 ปริญญาตรี 102 30.63 ปริญญาโท 1 0.30 333 100.00 รวม จากตารางที่ 4.3 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าคร่ึงจบชั้นมัธยมศึกษา จานวน 180 คน คิดเป็นร้อยละ 54.05 รองลงมาคือ ปริญญาตรี จานวน 102 คน คิดเป็นร้อยละ 30.63 ประถม ศึกษาจานวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 9.91 อนุปริญญาหรือปวส. จานวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 5.11 และปรญิ ญาโท จานวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 0.30 ตารางท่ี 4.4 แสดงจานวน และรอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม จาแนกตามอาชีพ เกษตรกรรม อาชีพ จานวน ร้อยละ รับจ้างทวั่ ไป รวม 102 30.63 ธุรกิจส่วนตัว 62 18.62 รับราชการ 105 31.54 พนกั งานบริษัท 41 12.31 อาชีพอ่นื ๆ 8 2.40 15 4.50 333 100.00 จากตารางที่ 4.4 พบว่า ผู้ตอบสอบถามประมาณหน่ึงในสามประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว หรือจานวน 105 คน คิดเป็นร้อยละ 31.54 รองลงมาคือ อาชีพเกษตรกรรม จานวน 102 คน คิดเป็น ร้อยละ 30.63 อาชีพรับจ้างท่ัวไป จานวน 62 คน คิดเป็นร้อยละ 18.62 อาชีพรับราชการ จานวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 12.31 อาชีพอื่น ๆ จานวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 4.50 และ เป็นพนักงานบริษัท จานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 2.40

50 ตารางท่ี 4.5 แสดงจานวน และรอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จาแนกตามรายได้ รายได้ จานวน รอ้ ยละ ไม่เกิน 50,000 บาท 149 44.75 50,001 - 100,000 บาท 114 34.23 มากกวา่ 100,000 บาท 70 21.02 333 100.00 รวม จากตารางที่ 4.5 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบคร่ึงหน่ึงของกลุ่มตัวอย่าง มีรายได้เฉลี่ย ต่อปี ไม่เกิน 50,000 บาท จานวน 149 คน คิดเป็นร้อยละ 44.75 รองลงมาคือ รายได้ระหว่าง 50,001-100,000 บาทจานวน 114 คน คิดเป็นร้อยละ 34.23 และรายได้มากกว่า 100,000 บาท จานวน 70 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 21.02

51 ตอนท่ี 2 ผลการวิเคราะห์การวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของประชาชนใน การให้บรกิ ารจัดเกบ็ ภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชยี งคาน จงั หวดั เลย การวิเคราะห์ข้อมูลเร่ืองความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย จานวน 9 ด้าน ด้านความไว้วางใจ ด้านความ รับผิดชอบ ด้านความสามารถ ด้านการเข้าถึงได้ ด้านความสุภาพ ด้านการติดต่อส่ือสาร ด้านความ น่าเชื่อถือ ด้านความเข้าใจและรู้จักลูกค้า และด้านส่ิงท่ีสามารถจับต้องได้ โดยใช้สถิติวิเคราะห์หา ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) จากกลุ่มตัวอย่างจานวน 333 คนแล้วนาเสนอในรูป ตารางประกอบการบรรยาย ปรากฏผลการผลการศึกษาดงั ตารางที่ 4.6-4.15 ตารางที่ 4.6 แสดงคา่ เฉลย่ี ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย โดยรวมและรายด้าน ความตอ้ งการของประชาชนในการใหบ้ รกิ ารจัดเกบ็ ภาษี ระดับความต้องการ  S.D. แปลผล 1. ดา้ นความไว้วางใจ 3.24 0.49 ปานกลาง 2. ดา้ นความรบั ผิดชอบ 3.36 0.49 ปานกลาง 3. ด้านความสามารถ 3.24 0.47 ปานกลาง 4. ด้านการเขา้ ถึงได้ 4.06 0.65 มาก 5. ด้านความสุภาพ 3.71 0.54 มาก 6. ดา้ นการติดต่อส่อื สาร 3.20 0.50 ปานกลาง 7. ดา้ นความนา่ เชอื่ ถือ 3.19 0.45 ปานกลาง 8. ด้านความเขา้ ใจและรู้จกั ลูกคา้ 3.35 0.50 ปานกลาง 9. ด้านสงิ่ ท่ีสามารถจบั ต้องได้ 3.47 0.48 ปานกลาง 3.42 0.37 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.6 พบว่า ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางเม่ือพิจารณาเป็นราย ด้าน พบว่า อยู่ในระดับปานกลาง ทุกด้าน เรียงลาดับด้านท่ีมีค่าเฉล่ียจากสูงสุดไปหาต่าสุด ได้แก่ ด้าน การเข้าถึงไดร้ องลงมาคอื ด้านความสุภาพ ด้านส่ิงที่สามารถจับต้องได้ ด้านความรับผิดชอบ ด้านความ เข้าใจและรู้จักลูกค้า ด้านความไว้วางใจ ด้านความสามารถ ด้านการติดต่อส่ือสาร และด้านความ น่าเช่อื ถอื ตามลาดับ

52 ตารางที่ 4.7 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นความไว้วางใจ ด้านความไว้วางใจ ระดับความต้องการ  S.D. แปลผล 1. เจ้าหนา้ ท่ีสามารถความมั่นใจในการใหบ้ ริการแกท่ ่าน 3.38 0.55 ปานกลาง 2. เจ้าหนา้ ท่สี ามารถใหบ้ รกิ ารไดอ้ ย่างถูกต้อง แมน่ ยา 3.19 0.63 ปานกลาง 3. เจ้าหน้าทจ่ี ัดเกบ็ ภาษใี นอตั ราทเ่ี หมาะสมและอย่างเป็นธรรม 3.05 0.71 ปานกลาง 4. เจ้าหน้าท่ีบริการแก่ท่านอย่างเต็มความสามารถเป็นท่ียอมรับ 3.29 0.56 ปานกลาง และไวว้ างใจ 5. เจ้าหน้าที่ดูแลให้ความช่วยเหลือแก่ท่านกรณีมีปัญหาหรือไม่ 3.30 0.54 ปานกลาง 3.24 0.49 ปานกลาง ไดร้ บั ผลประโยชน์ รวม จากตารางที่ 4.7 พบว่า ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความไว้วางใจ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมอ่ื พจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉล่ียความต้องการสูงสุด คือ ข้อ 1 ทวี่ ่า “เจา้ หน้าท่ีสามารถความมั่นใจในการให้บริการแก่ท่าน” รองลงมาคือ ข้อ 5 ที่ว่า “เจ้าหน้าท่ี ดูแลให้ความช่วยเหลือแก่ท่านกรณีมีปัญหาหรือไม่ได้รับผลประโยชน์” และข้อ 4 ที่ว่า “เจ้าหน้าท่ี บริการแก่ท่านอย่างเต็มความสามารถเป็นท่ียอมรับและไว้วางใจ” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียความต้องการ ตา่ สุด คือ ข้อ 3 ทีว่ า่ “เจา้ หนา้ ทจี่ ัดเก็บภาษีในอัตราทีเ่ หมาะสมและอย่างเปน็ ธรรม”

53 ตารางที่ 4.8 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความรบั ผิดชอบ ดา้ นความรบั ผิดชอบ ระดบั ความต้องการ  S.D. แปลผล 1. เม่ือท่านเกิดปัญหาเจ้าหน้าที่แสดงความจริงใจ ช่วยเหลือแก้ไข ปญั หาเป็นอยา่ งดี 3.39 0.57 ปานกลาง 2. เจ้าหน้าท่ีมีความพร้อมและยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ ท่าน 3.29 0.60 ปานกลาง ตลอดเวลา 3.37 0.55 ปานกลาง 3. เจ้าหน้าที่มีความรับผิดชอบในการให้ข้อมูลเก่ียวกับการให้ บรกิ ารทถ่ี ูกต้องชัดเจน 3.34 0.53 ปานกลาง 3.40 0.54 ปานกลาง 4. เจ้าหน้าท่ีมีความรับผิดชอบโดยช่วยในการติดต่อ ประสานงาน 3.36 0.49 ปานกลาง จนบรรลเุ ปา้ หมาย 5. เจา้ หนา้ ทมี่ ีความรบั ผิดชอบในการให้บริการ รวม จากตารางที่ 4.8 พบว่า ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชยี งคาน จังหวดั เลย ด้านความรับผิดชอบ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉล่ียความต้องการสูงสุด คือ ข้อ 5 ทวี่ ่า“เจ้าหน้าท่มี คี วามรบั ผิดชอบในการใหบ้ รกิ าร” รองลงมาคือ ข้อ 1 ที่ว่า “เม่ือท่านเกิดปัญหา เจ้าหน้าท่ีแสดงความจริงใจ ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเป็นอย่างดี” และข้อ 3 ท่ีว่า “เจ้าหน้าที่มีความ รับผิดชอบในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการที่ถูกต้องชัดเจน” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียความต้องการ ต่าสดุ คือ ขอ้ 2 ที่ว่า “เจ้าหน้าที่มีความพรอ้ มและยนิ ดีทจี่ ะใหค้ วามช่วยเหลือท่านตลอดเวลา”

54 ตารางที่ 4.9 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นความสามารถ ด้านความสามารถ ระดับความต้องการ  S.D. แปลผล 1. เจ้าหน้าที่มีความรู้ความสามารถเก่ียวกับภาษีประเภทต่าง ๆ และสามารถชี้แจงใหข้ อ้ มลู แกท่ า่ นได้เป็นอย่างดี 3.25 0.56 ปานกลาง 2. เจา้ หน้าท่ีมีความรู้และประสบการณ์สามารถให้บริการแก่ ท่าน 3.24 0.53 ปานกลาง เปน็ อย่างดี 3.21 0.58 ปานกลาง 3. เจ้าหน้าท่ีมีความสามารถในการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ และ เทคโนโลยที ที่ นั สมยั ในการให้บรกิ าร 3.23 0.56 ปานกลาง 4. เจ้าหน้าท่ีมีความรู้ ความสามารถเกี่ยวกับภาษีประเภทต่าง ๆ 3.26 0.58 ปานกลาง และให้คาแนะนาเพ่อื ชว่ ยเหลือทา่ น 3.24 0.47 ปานกลาง 5. เจ้าหนา้ ท่ีสามารถตอบคาถามแก่ท่านได้อย่างถูกต้องและเข้าใจ ได้เป็นอย่างดี รวม จากตารางที่ 4.9 พบว่า ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความสามารถโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เม่ือพจิ ารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยความต้องการสูงสุด คือ ขอ้ 5 ทีว่ า่ “เจา้ หนา้ ทสี่ ามารถตอบคาถามแกท่ า่ นไดอ้ ย่างถูกต้องและเข้าใจได้เป็นอย่างดี” รองลงมาคือ ข้อ 1 ที่ว่า “เจ้าหน้าท่ีมีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับภาษีประเภทต่าง ๆ และสามารถช้ีแจงให้ข้อมูล แกท่ ่านได้เปน็ อย่างดี” และข้อ 2 ท่ีว่า “เจ้าหน้าที่มีความรู้และประสบการณ์สามารถให้บริการแก่ท่าน เป็นอย่างดี” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียความต้องการต่าสุด คือ ข้อ 3 ที่ว่า “เจ้าหน้าที่มีความสามารถในการ ใช้เคร่ืองมืออปุ กรณ์และเทคโนโลยีทท่ี นั สมยั ในการให้บรกิ าร”

55 ตารางที่ 4.10 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านการเข้าถงึ ได้ ด้านการเขา้ ถงึ ได้ ระดบั ความต้องการ  S.D. แปลผล 1. ทา่ นสามารถตดิ ต่อของรับบริการได้อย่างสะดวก 3.65 0.74 มาก 2. ทา่ นต้องการเลอื กใช้บริการชาระภาษีหลายช่องทาง เช่น ชาระ 4.05 0.85 มาก ผา่ นไปรษณีย์ ธนาคาร 3. ท่านต้องการทราบข้อมูล ข่าวสารเทศบาลได้อย่างสะดวกโดย 4.20 0.84 มาก ผา่ นเสยี งตามสาย ป้ายประชาสัมพันธ์ และทางอินเตอรเ์ น็ต 4.19 0.76 มาก 4. ท่านต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลบริการทางโทรศัพท์ได้โดย 4.22 0.74 มาก 4.06 0.65 มาก สะดวก 5. ท่านต้องการเดินทางมาท่สี านักงานเทศบาลได้อย่างสะดวก รวม จากตารางที่ 4.10 พบว่า ระดับความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยด้านการเข้าถึงได้โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยความต้องการสูงสุด คือ ข้อ 1 ที่ว่า“ท่านต้องการเดินทางมาท่ีสานักงานเทศบาลได้อย่างสะดวก” รองลงมาคือ ข้อ 3 ที่ว่า “ท่านต้อง การทราบข้อมูล ข่าวสารเทศบาลได้อย่างสะดวกโดยผ่านเสียงตามสาย ป้ายประชาสัมพันธ์ และทาง อินเตอร์เน็ต” และ ข้อ 4 ท่ีว่า “ท่านต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลบริการทางโทรศัพท์ได้โดยสะดวก” ส่วนข้อที่มีค่าเฉล่ียความต้องการต่าสุด คือ ข้อ 1 ท่ีว่า “ท่านสามารถติดต่อของรับบริการได้อย่าง สะดวก”

56 ตารางท่ี 4.11 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความสภุ าพ ด้านความสุภาพ ระดบั ความต้องการ  S.D. แปลผล 1. เจา้ หนา้ ท่ีมวี าจาท่สี ุภาพในการต้อนรบั แก่ทา่ น 3.71 0.64 มาก 2. เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือและตอบคาถามแก่ท่านด้วยความ 3.71 0.59 มาก เป็นมติ ร 3.71 0.59 มาก 3. เจ้าหนา้ ทมี่ ีกริ ิยามารยาทอ่อนนอ้ มในขณะใหบ้ รกิ าร 3.68 0.60 มาก 4. เจา้ หนา้ ทเ่ี อาใจใสด่ แู ลทา่ นอย่างเป็นกนั เอง 3.71 0.63 มาก 5. ท่านมคี วามประทับใจและเต็มใจท่ีจะกลบั มาใช้บริการในอนาคต 3.71 0.54 มาก รวม จากตารางที่ 4.11 พบว่า ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยด้านความสุภาพ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉล่ียความต้องการสูงสุด คือ ข้อ 1 ท่วี า่ “เจา้ หนา้ ทมี่ วี าจาที่สุภาพในการต้อนรับแก่ท่าน” รองลงมาคือ “เจ้าหน้าท่ีให้ความช่วยเหลือและ ตอบคาถามแก่ทา่ นดว้ ยความเป็นมติ ร” และ ข้อ 3 ที่ว่า “เจ้าหน้าท่ีมีกิริยามารยาทอ่อนน้อมในขณะให้ บริการ” สว่ นขอ้ ที่มีค่าเฉลี่ยความต้องการต่าสุด คือ ข้อ 2 ที่ว่า “เจ้าหน้าท่ีเอาใจใส่ดูแลท่านอย่างเป็น กนั เอง”

57 ตารางท่ี 4.12 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านการติดต่อส่ือสาร ด้านการติดตอ่ สือ่ สาร ระดับความต้องการ  S.D. แปลผล 1. ท่านสามารถติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าท่ีเทศบาลได้ง่ายสะดวก รวดเรว็ 3.48 0.57 ปานกลาง 3.48 0.54 ปานกลาง 2. เจ้าหนา้ ทสี่ ามารถตดิ ต่อส่ือสารได้อยา่ งถูกต้องและชัดเจน 3. เอกสานเผยแพรบ่ ริการของเทศบาลมีความน่าสนใจและสามารถ 3.26 0.60 ปานกลาง เข้าใจไดง้ ่าย 3.00 0.70 ปานกลาง 4. เสียงตามสายของเทศบาล ประชาสัมพันธ์ข่าวสารด้านชาระภาษี 2.79 0.82 ปานกลาง ไดอ้ ยา่ งชดั เจนเข้าใจง่าย 3.20 0.50 ปานกลาง 5. ทา่ นสามารถตดิ ตอ่ ชาระภาษีทางไปรษณีย์ และธนาคารได้สะดวก รวดเรว็ รวม จากตารางท่ี 4.12 พบว่า ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการติดต่อส่ือสาร โดยรวมอยู่ในระดับปาน กลาง เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยข้อท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ ข้อ 1 ท่ีว่า“ท่านสามารถติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าท่ีเทศบาลได้ง่ายสะดวก รวดเร็ว” รองลงมาคือ ข้อ 2 ที่ว่า “เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อส่ือสารได้อย่างถูกต้องและชัดเจน” และข้อ 3 ที่ว่า “เอกสารเผยแพร่บริการ ของเทศบาลมีความน่าสนใจและสามารถเข้าใจได้ง่าย” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยความต้องการต่าสุด คือ ข้อ 5 ท่วี า่ “ท่านสามารถติดตอ่ ชาระภาษีทางไปรษณีย์ และธนาคารได้สะดวกรวดเรว็ ”

58 ตารางท่ี 4.13 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นความน่าเชื่อถือ ดา้ นความนา่ เชือ่ ถอื ระดับความต้องการ  S.D. แปลผล 1. เจ้าหน้าทส่ี ามารถให้บริการได้อย่างรวดเรว็ และตรงตอ่ เวลา 3.20 0.49 ปานกลาง 2. เขา้ หน้าท่ีคาคานวณภาษที ่ีตอ้ งชาระอยา่ งถูกต้องและยตุ ิธรรม 3.16 0.59 ปานกลาง 3. มีระบบให้บริการอย่างมีมาตรฐานเป็นทย่ี อมรบั 3.24 0.53 ปานกลาง 4. เจ้าหน้าท่ีให้คาปรึกษาและชี้แจงเร่ืองภาษีต่าง ๆ ได้อย่างถูก 3.12 0.59 ปานกลาง ตอ้ งและแม่นยา 5. เจา้ หนา้ ที่สามารถอธบิ ายข้ันตอนการชาระภาษใี ห้เขา้ ใจได้อย่าง 3.25 0.51 ปานกลาง 3.19 0.45 ปานกลาง ชดั เจน รวม จากตารางที่ 4.13 พบว่า ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความน่าเช่ือถือ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ ข้อ 5 ที่ว่า “เจ้าหน้าที่สามารถอธิบายขั้นตอนการชาระภาษีให้เข้าใจได้อย่างชัดเจน” รองลงมาคือ “มีระบบ ให้บรกิ ารอย่างมีมาตรฐานเป็นท่ยี อมรับ” และ “เจา้ หนา้ ท่ีสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วและตรงต่อ เวลา” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉล่ียความต้องการต่าสุด คือ ข้อ 4 ที่ว่า “เจ้าหน้าที่ให้คาปรึกษาและช้ีแจงเร่ือง ภาษตี า่ ง ๆ ไดอ้ ย่างถูกต้องและแม่นยา”

59 ตารางที่ 4.14 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความรู้ความเขา้ ใจและรู้จักลูกค้า ด้านความรคู้ วามเข้าใจและรู้จกั ลูกค้า ระดับความต้องการ  S.D. แปลผล 1. เจา้ หนา้ ท่ีเขา้ ใจความต้องการของทา่ นได้อย่างชดั เจน 3.34 0.56 ปานกลาง 2. เจา้ หนา้ ทส่ี ามารถใหบ้ รกิ ารแกท่ ่านไดอ้ ย่างถูกต้อง 3.38 0.53 ปานกลาง 3. เจา้ หนา้ ท่ปี ฏิบัติหน้าทใ่ี ห้บริการอยา่ งรวดเร็ว 3.38 0.56 ปานกลาง 4. เจ้าหน้าทเ่ี อาใจใสต่ ่อลกู คา้ ตลอดระยะเวลาให้บริการ 3.36 0.56 ปานกลาง 5. เจ้าหน้าที่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของท่านได้ตอด 3.30 0.59 ปานกลาง เวลา 3.35 0.50 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.14 พบว่า ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความรู้ความเข้าใจและรู้จักลูกค้า โดยรวมอยู่ ในระดับปานกลาง เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉล่ีย สูงสุด คือ ข้อ 5 ที่ว่า“เจ้าหน้าท่ีสามารถให้บริการแก่ท่านได้อย่างถูกต้อง” รองลงมาคือ ข้อ 3 ท่ีว่า “เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติหน้าที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว” และข้อ 4 ท่ีว่า “เจ้าหน้าท่ีเอาใจใส่ต่อลูกค้าตลอด ระยะเวลาให้บริการ” ส่วนข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยความต้องการต่าสุด คือ ข้อ 5 ที่ว่า “เจ้าหน้าท่ีท่ีสามารถ ตอบสนองความต้องการของท่านได้ตอดเวลา”

60 ตารางที่ 4.15 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นสิ่งที่สามารถจบั ตอ้ งได้ ด้านสงิ่ ท่ีสามารถจับต้องได้ ระดบั ความต้องการ  S.D. แปลผล 1. เคร่ืองมือและเทคโนโลยีที่ใช้ในการบริการของเทศบาลมีความ ทันสมัย 3.29 0.59 ปานกลาง 3.30 0.64 ปานกลาง 2. มีส่งิ อานวยความสะดวกไวค้ อยบริการอย่างครบครนั 3.92 0.66 ปานกลาง 3. ทาเลท่ตี ั้งของเทศบาลสะดวกต่อการติดต่อใหบ้ รกิ าร 3.39 0.59 ปานกลาง 4. เจา้ หนา้ ท่ใี หค้ ะแนะนาแก่ท่านไดอ้ ย่างรวดเร็วและถกู ต้อง 3.43 0.64 ปานกลาง 5. ความเอาใจใสแ่ ละความเปน็ กันเองของเจ้าหน้าท่ี 3.47 0.48 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.15 พบว่า ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านส่ิงท่ีสามารถจับต้องได้ โดยรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง เมอ่ื พจิ ารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า อยใู่ นระดับปานกลางทุกข้อ โดยข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ 5 ทว่ี ่า “ทาเลที่ตัง้ ของเทศบาลสะดวกตอ่ การติดต่อใหบ้ รกิ าร” รองลงมาคือ ข้อ 5 ท่ีว่า “ความเอาใจใส่ และความเป็นกันเองของเจ้าหน้าท่ี” และข้อ 4 ที่ว่า “เจ้าหน้าท่ีให้คะแนะนาแก่ท่านได้อย่างรวดเร็ว และถูกต้อง” ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยความต้องการต่าสุด คือ ข้อ 1 ที่ว่า เคร่ืองมือและเทคโนโลยีท่ีใช้ใน การบรกิ ารของเทศบาลมีความทนั สมัย

61 ตอนที่ 3 การวิเคราะห์เปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้ บรกิ ารจดั เก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จงั หวัดเลย ผู้วิจัยได้ตั้งสมมติฐานการวิจัยไว้ว่า ประชาชนท่ีมีเพศ อายุ และรายได้ต่างกันมีความต้อง การของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย แตกต่างกัน แสดงตามตารางท่ี 4.16-4.35 สมมติฐานที่ 1 ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความต้องการของประชาชนในการให้บริการ จัดเกบ็ ภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชียงคาน จงั หวดั เลยแตกตา่ งกัน ตารางที่ 4.16 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย โดยรวม จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย 212 3.44 0.37 ปานกลาง หญิง 121 3.40 0.38 ปานกลาง 333 3.42 0.38 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.16 พบว่า ระดับความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โดยรวมพบว่า ประชาชนที่เป็นชายและ ประชาชนท่ีเป็นหญิงมีความต้องการอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับความ คิดเหน็ ตามตาราง ดงั ต่อไปน้ี ตารางที่ 4.17 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชยี งคาน จงั หวดั เลย โดยรวม ท่มี เี พศต่างกนั เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 3.44 0.37 0.889 0.369 หญงิ 121 3.40 0.38 จากตารางที่ 4.17 พบวา่ ประชาชนทีม่ เี พศตา่ งกนั มคี วามต้องการของประชาชนในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โดยรวม ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติ ซ่งึ ไมเ่ ป็นไปตามสมมติฐานท่ตี ้ังไว้

62 ตารางที่ 4.18 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นความไว้วางใจ จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย 212 3.21 0.49 ปานกลาง หญงิ 121 3.29 0.51 ปานกลาง 333 3.25 0.50 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.18 พบวา่ ระดบั ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยด้านความไว้วางใจพบว่า ประชาชนที่เป็นชาย และประชาชนทเ่ี ป็นหญิง มีค่าเฉลี่ยของความต้องการอย่ใู นระดับปานกลาง ซ่ึงผลการวเิ คราะห์เปรียบ เทียบระดบั ความต้องการ ตามตารางที่ 4.19 ดงั ตอ่ ไปน้ี ตารางท่ี 4.19 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความไว้วางใจ ท่ีมี เพศต่างกัน เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 3.21 0.49 1.508 0.331 หญิง 121 3.29 0.51 จากตารางท่ี 4.19 พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกัน มีความต้องการของประชาชนในการ ให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการไว้วางใจ ไมแ่ ตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ิ

63 ตารางที่ 4.20 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความรับผดิ ชอบ จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย 212 3.36 0.51 ปานกลาง หญงิ 121 3.36 0.46 ปานกลาง 333 3.36 0.49 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.20 ประชาชนมีความต้องการในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาล ตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความรับผิดชอบ อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งผลการ วเิ คราะห์เปรียบเทียบระดบั ความคิดเหน็ ตามตารางที่ 4.21 ดังต่อไปนี้ ตารางท่ี 4.21 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความรับผิดชอบ ที่ มีเพศต่างกนั เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 3.36 0.51 0.060 0.952 หญงิ 121 3.36 0.46 จากตารางที่ 4.21 พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกัน มีความต้องการของประชาชนในการ ใหบ้ ริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความรับผิดชอบ ไมแ่ ตกตา่ งกันอย่างมนี ัยสาคัญทางสถติ ิ

64 ตารางท่ี 4.22 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นความสามารถ จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย 212 3.25 0.48 ปานกลาง หญิง 121 3.22 0.46 ปานกลาง 333 3.24 0.47 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.22 พบว่า ระดบั ความตอ้ งการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชียงคาน จงั หวัดเลย พบวา่ ทง้ั ประชาชนทีเ่ ป็นชายและประชาชนท่ี เป็นหญิง มีค่าเฉล่ียของบทบาท ด้านความสามารถ อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งผลการวิเคราะห์เปรียบ เทียบระดับความคดิ เหน็ ตามตารางที่ 4.23 ดังต่อไปนี้ ตารางที่ 4.23 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความสามารถ ที่มี เพศตา่ งกัน เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 3.25 0.48 0.541 0.589 หญงิ 121 3.22 0.46 จากตารางที่ 4.23 พบวา่ ประชนชนทม่ี เี พศตา่ งกนั มคี วามต้องการในการให้บริการจัดเก็บ ภาษใี นเขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชียงคาน จงั หวัดเลย ด้านความสามารถ ไม่แตกต่างกันอย่าง มนี ยั สาคญั ทางสถติ ิ

65 ตารางที่ 4.24 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านการเข้าถงึ ได้ จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย หญิง 212 4.13 0.60 มาก รวม 121 3.94 0.70 มาก 333 4.04 0.65 มาก จากตารางที่ 4.24 พบว่า ระดับความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการเข้าถึงได้พบว่า ทั้งประชาชนท่ีเป็นชาย และประชาชนท่ีเป็นหญิง อยู่ในระดับมาก ซ่ึงผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับความคิดเห็นตาม ตารางที่ 4.25 ดังตอ่ ไปน้ี ตารางท่ี 4.25 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการเข้าถึงได้ ที่มี เพศตา่ งกัน เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 4.13 0.60 2.703 0.007* หญงิ 121 3.94 0.70 * แตกต่างกนั อยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถิติทร่ี ะดับ .05 จากตารางที่ 4.25 พบว่า ประชาชนทีม่ ีเพศต่างกัน มีความต้องการในการให้บริการจัดเก็บ ภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการเข้าถึงได้ แตกต่างกันอย่างมี นัยสาคญั ทางสถติ ิอย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดบั .05

66 ตารางท่ี 4.26 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นความสุภาพ จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย หญงิ 212 3.73 0.51 มาก รวม 121 3.66 0.58 มาก 333 3.70 0.55 มาก จากตารางที่ 4.26 พบว่า ระดับความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยพบว่า ทั้งประชาชนท่ีเป็นชายและประชาชนท่ี เปน็ หญงิ มคี ่าเฉลี่ยของความต้องการ ดา้ นความสุภาพอยู่ในระดับมาก ซึ่งผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบ ระดับความคดิ เหน็ ตามตารางท่ี 4.27 ดังต่อไปนี้ ตารางท่ี 4.27 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวดั เลย ด้านความสุภาพ ที่มีเพศ ตา่ งกนั เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 3.73 0.51 1.173 0.242 หญิง 121 3.66 0.58 จากตารางที่ 4.27 พบวา่ ประชาชนท่ีมีเพศต่างกัน มีความต้องการในการให้บริการจัดเก็บ ภาษใี นเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความสุภาพไม่แตกต่างกันอย่างมี นัยสาคัญทางสถิติ

67 ตารางที่ 4.28 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นการติดตอ่ สอื่ สาร จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย 212 3.22 0.48 ปานกลาง หญงิ 121 3.18 0.54 ปานกลาง 333 3.20 0.51 ปานกลาง รวม จากตารางท่ี 4.28 พบว่า ระดบั ความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชียงคาน จงั หวดั เลย พบว่า ท้ังประชาชนทเ่ี ป็นชายและประชาชนที่ เปน็ หญิง มีค่าเฉลยี่ ของความตอ้ งการ ดา้ นการตดิ ต่อส่ือสารอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งผลการวิเคราะห์ เปรียบเทยี บระดบั ความคดิ เห็น ตามตารางท่ี 4.29 ดังต่อไปนี้ ตารางท่ี 4.29 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการติดต่อสื่อสาร ที่มีเพศตา่ งกนั เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 3.22 0.48 0.722 0.471 หญงิ 121 3.18 0.54 จากตารางท่ี 4.29 พบว่า ประชาชนท่ีมีเพศต่างกัน มีความต้องการในการให้บริการจัดเก็บ ภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการติดต่อส่ือสารไม่แตกต่างกัน อยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถิติ

68 ตารางท่ี 4.30 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความนา่ เชื่อถอื จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย 212 3.19 0.44 ปานกลาง หญิง 121 3.19 0.48 ปานกลาง 333 3.19 0.46 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.30 พบว่า ระดับความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยพบว่า ทั้งประชาชนท่ีเป็นชายและประชาชนท่ี เป็นหญิง มีค่าเฉล่ียของความต้องการ ด้านความน่าเช่ือถือ อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งผลการวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บระดบั ความตอ้ งการ ตามตารางท่ี 4.31 ดงั ต่อไปน้ี ตารางท่ี 4.31 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความน่าเชื่อถือ ท่ีมี เพศตา่ งกัน เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 3.19 0.44 0.018 0.986 หญิง 121 3.19 0.48 จากตารางที่ 4.31 พบว่า ประชาชนท่ีมีเพศต่างกัน มีความต้องการในการให้บริการจัดเก็บ ภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความน่าเช่ือถือ ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติ

69 ตารางที่ 4.32 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความร้คู วามเขา้ ใจลูกคา้ จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย 212 3.37 0.50 ปานกลาง หญิง 121 3.33 0.50 ปานกลาง 333 3.35 0.50 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.32 พบวา่ ระดบั ความตอ้ งการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จงั หวัดเลยพบว่า ทั้งประชาชนท่ีเป็นชายและประชาชนที่ เป็นหญิง มีค่าเฉล่ียของความต้องการ ด้านความรู้ความเข้าใจลูกค้า อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งผลการ วิเคราะหเ์ ปรยี บเทยี บระดบั ความต้องการ ตามตารางที่ 4.33 ดงั ต่อไปน้ี ตารางท่ี 4.33 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความรู้ความเข้าใจ ลูกค้า ทม่ี เี พศต่างกนั เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 3.37 0.50 0.669 0.504 หญงิ 121 3.33 0.50 จากตารางท่ี 4.33 พบวา่ ประชาชนท่มี ีเพศต่างกัน มีความต้องการในการให้บริการจัดเก็บ ภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลยด้านความรู้ความเข้าใจลูกค้า ไม่แตก ต่างกนั อย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติ

70 ตารางที่ 4.34 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านสิ่งทสี่ ามารถจบั ตอ้ งได้ จาแนกตามเพศ เพศ n  S.D. แปลผล ชาย 212 3.48 0.47 ปานกลาง หญงิ 121 3.44 0.49 ปานกลาง 333 3.46 0.48 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.34 พบวา่ ระดับความตอ้ งการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีใน เขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชยี งคาน จังหวัดเลยพบว่า ทั้งประชาชนที่เป็นชายและประชาชนท่ี เป็นหญิง มีค่าเฉลี่ยของความต้องการ ด้านส่ิงที่สามารถจับต้องได้ อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งผลการ วเิ คราะห์เปรยี บเทียบระดบั ความต้องการ ตามตารางที่ 4.35 ดงั ต่อไปนี้ ตารางที่ 4.35 แสดงผลการเปรียบเทียบความต้องการของประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชยี งคาน จังหวัดเลย ด้านสิ่งท่ีสามารถจับต้อง ได้ ทม่ี เี พศตา่ งกนั เพศ n  S.D. t Sig ชาย 212 3.48 0.47 0.832 0.406 หญิง 121 3.44 0.49 จากตารางท่ี 4.35 พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกัน มีความต้องการในการให้บริการจัดเก็บ ภาษีของทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านด้านความรู้ความเข้าใจลูกค้าไม่แตก ต่างกันอย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติ

71 สมมติฐานท่ี 2 ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความต้องการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขต เทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย แตกต่างกัน ผลการวิเคราะห์แสดงตามตารางที่ 4.36-4.57 ตารางท่ี 4.36 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย โดยรวม จาแนกตามอายุ ไมเ่ กิน 30 ปี อายุ n  S.D. แปลผล 31 - 40 ปี รวม 79 3.41 0.40 ปานกลาง มากกวา่ 40 ปี 114 3.41 0.33 ปานกลาง 140 3.45 0.38 ปานกลาง 333 3.42 0.37 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.36 พบว่า ประชาชนชุมท่ีมีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการให้ บรกิ ารจดั เก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จงั หวัดเลย โดยรวม อยู่ในระดับปาน กลาง เมอื่ พิจารณาเป็นช่วงอายุที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ มากกว่า 40 ปี รองลงมาคืออายุ 31-40 ปี และ ชว่ งอายุ ไมเ่ กนิ 30 ปี เม่อื นามาเปรียบเทยี บรายด้าน ผลการวเิ คราะหแ์ สดงตามตารางที่ 4.37 ตารางที่ 4.37 แสดงผลการวิเคราะหค์ วามแปรปรวนความตอ้ งการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โดยรวม ที่มี อายุตา่ งกัน แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลมุ่ 0.110 2 0.055 0.401 0.670 ภายในกลมุ่ 45.150 330 0.137 45.260 332 รวม จากตารางที่ 4.37 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โดยรวมไม่แตกต่างกัน อยา่ งมนี ัยสาคัญทางสถิติ

72 ตารางที่ 4.38 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความไว้วางใจ จาแนกตามอายุ ไม่เกิน 30 ปี อายุ n  S.D. แปลผล 31 - 40 ปี รวม 79 3.19 0.50 ปานกลาง มากกว่า 40 ปี 114 3.19 0.45 ปานกลาง 140 3.30 0.52 ปานกลาง 333 3.24 0.49 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.38 พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการของการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการวางแผนอยู่ ใน ระดับปานกลาง เม่ือพิจารณาเป็นช่วงอายุท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุดคือ มากกว่า 40 ปีรองลงมาคือ 31-40 ปี และ ไม่เกนิ 30 ปี และเมอื่ นามาเปรียบเทยี บรายด้าน ผลการวิเคราะห์แสดงตามตารางท่ี 4.39 ตารางที่ 4.39 แสดงผลการวิเคราะหค์ วามแปรปรวนความต้องการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความ ไว้วางใจ ท่มี อี ายตุ ่างกนั แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลมุ่ 0.947 2 0.474 1.948 0.144 ภายในกลุ่ม 80.234 330 0.243 81.181 332 รวม จากตารางที่ 4.39 พบว่า ประชาชนชุมท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความไว้วางใจ ไมแ่ ตกต่างกันอยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ิ

73 ตารางที่ 4.40 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความรบั ผิดชอบ จาแนกตามอายุ ไม่เกนิ 30 ปี อายุ n  S.D. แปลผล 31 - 40 ปี รวม 79 3.35 0.48 ปานกลาง มากกว่า 40 ปี 114 3.31 0.45 ปานกลาง 140 3.41 0.53 ปานกลาง 333 3.36 0.49 ปานกลาง จากตารางที่ 4.40 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความรับผิดชอบ อยู่ ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นช่วงอายุที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ มากกว่า 40 ปี รองลงมาคือ ไม่เกิน 30 ปี และชว่ งอายทุ ม่ี ีค่าเฉล่ียต่าสดุ คือ 31-50 ปเี มื่อนามาเปรียบเทียบรายด้าน ผลการวิเคราะห์แสดง ตามตารางท่ี 4.41 ตารางที่ 4.41 แสดงผลการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนความต้องการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความ รับผิดชอบ ที่มอี ายตุ า่ งกนั แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหว่างกลมุ่ 0.585 2 0.293 1.217 0.298 ภายในกล่มุ 79.340 330 0.240 79.925 332 รวม จากตารางที่ 4.41 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บรกิ ารจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความรับผิดชอบไม่ แตกตา่ งกันอยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถิติ

74 ตารางที่ 4.42 แสดงค่าเฉลี่ย (  ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของ ประชาชนในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียง คาน จังหวัดเลย ด้านความสามารถ จาแนกตามอายุ ไม่เกิน 30 ปี อายุ n  S.D. แปลผล 31 - 40 ปี รวม 79 3.26 0.50 ปานกลาง มากกว่า 40 ปี 114 3.17 0.42 ปานกลาง 140 3.28 0.50 ปานกลาง 333 3.24 0.47 ปานกลาง จากตารางที่ 4.42 พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการ ให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชยี งคาน จังหวดั เลย ด้านความสามารถอยู่ใน ระดับปานกลาง เม่ือพิจารณาเป็นช่วงอายุที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ มากกว่า 40 ปี รองลงมาคือ ช่วงอายุ ไม่เกิน 30 ปี และช่วงอายุที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ ช่วงอายุระหว่าง 31-40 ปี และเม่ือนามาเปรียบเทียบ รายด้าน ผลการวเิ คราะห์แสดงตามตารางท่ี 4.43 ตารางที่ 4.43 แสดงผลการวิเคราะหค์ วามแปรปรวนความต้องการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความ สามารถ ทมี่ อี ายตุ า่ งกัน แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหว่างกลมุ่ 0.829 2 0.415 1.856 0.158 ภายในกลุม่ 73.719 330 0.223 74.548 332 รวม จากตารางท่ี 4.43 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บรกิ ารจัดเกบ็ ภาษใี นเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความสามารถไม่แตก ตา่ งกนั อย่างมนี ัยสาคัญทางสถิติ

75 ตารางที่ 4.44 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นการเข้าถงึ ได้ จาแนกตามอายุ ไมเ่ กิน 30 ปี อายุ n  S.D. แปลผล 31 - 40 ปี รวม 79 4.06 0.69 ปานกลาง มากกว่า 40 ปี 114 4.13 0.62 ปานกลาง 140 4.01 0.65 ปานกลาง 333 4.06 0.65 ปานกลาง จากตารางที่ 4.44 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการเข้าถึงได้อยู่ใน ระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นช่วงอายุท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ อายุระหว่าง 31-40 ปี รองลงมาคือ อายไุ มเ่ กนิ 30 ปี และช่วงอายทุ ี่มคี า่ เฉลี่ยต่าสุด คือ ช่วงอายุมากกว่า 40 ปี และเมื่อนามาเปรียบเทียบ รายดา้ น ผลการวิเคราะหแ์ สดงตามตารางท่ี 4.45 ตารางที่ 4.45 แสดงผลการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนความต้องการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการ เขา้ ถึงได้ ทมี่ อี ายตุ า่ งกนั แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหว่างกลมุ่ 0.919 2 0.459 1.097 0.335 ภายในกลุม่ 138.151 330 0.419 139.070 332 รวม จากตารางที่ 4.45 พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการเข้าถึงได้ไม่ แตกตา่ งกนั อยา่ งมีนัยสาคัญทางสถติ ิ

76 ตารางท่ี 4.46 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความสุภาพ จาแนกตามอายุ อายุ n  S.D. แปลผล รวม ไมเ่ กนิ 30 ปี 79 3.59 0.55 มาก 31 - 40 ปี มากกว่า 40 ปี 114 3.74 0.50 มาก 140 3.74 0.55 มาก 333 3.71 0.54 มาก จากตารางที่ 4.46 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความสุภาพอยู่ใน ระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นช่วงอายุท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ 31-40 ปี มีค่าเฉล่ียเท่ากับช่วงอายุมากกว่า 40 ปี ส่วนช่วงท่ีมีค่าเฉลี่ยต่าสุด คืออายุไม่เกิน 30 ปี และเม่ือนามาเปรียบเทียบรายด้าน ผลการ วเิ คราะหแ์ สดงตามตารางท่ี 4.47 ตารางที่ 4.47 แสดงผลการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนความต้องการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความ สภุ าพ ทีม่ อี ายตุ ่างกัน แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลุม่ 1.379 2 0.689 2.417 0.091 ภายในกลมุ่ 94.103 330 0.285 95.481 332 รวม จากตารางท่ี 4.47 พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บริการจดั เกบ็ ภาษใี นเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความสุภาพ ไม่แตก ตา่ งกนั อยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ิ

77 ตารางท่ี 4.48 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ดา้ นการติดตอ่ สือ่ สาร จาแนกตามอายุ ไมเ่ กิน 30 ปี อายุ n  S.D. แปลผล 31 - 40 ปี รวม 79 3.19 0.55 ปานกลาง มากกว่า 40 ปี 114 3.21 0.43 ปานกลาง 140 3.21 0.52 ปานกลาง 333 3.20 0.50 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.48 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการให้ บริการจดั เก็บภาษใี นเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการติดต่อส่ือสาร อยู่ ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นช่วงอายุท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ 31-40 ปี มีค่าเฉล่ียเท่ากับช่วงอายุ มากกว่า 40 ปี ส่วนช่วงที่มีค่าเฉล่ียต่าสุด คืออายุไม่เกิน 30 ปี และเม่ือนามาเปรียบเทียบรายด้าน ผล การวิเคราะหแ์ สดงตามตารางที่ 4.49 ตารางท่ี 4.49 แสดงผลการวเิ คราะห์ความแปรปรวนความตอ้ งการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านการ ตดิ ตอ่ สือ่ สาร ทม่ี อี ายตุ ่างกนั แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลุ่ม 0.026 2 0.013 0.051 0.950 ภายในกลมุ่ 82.571 330 0.250 82.597 332 รวม จากตารางท่ี 4.49 พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บรกิ ารจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวดั เลย ด้านการติดต่อสื่อสาร ไม่ แตกต่างกันอย่างมีนยั สาคญั ทางสถติ ิ

78 ตารางท่ี 4.50 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านความนา่ เชือ่ ถือ จาแนกตามอายุ ไม่เกนิ 30 ปี อายุ n  S.D. แปลผล 31 - 40 ปี รวม 79 3.22 0.46 ปานกลาง มากกวา่ 40 ปี 114 3.18 0.39 ปานกลาง 140 3.19 0.50 ปานกลาง 333 3.19 0.45 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.50 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเกบ็ ภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชยี งคาน จังหวัดเลย ด้านความน่าเช่ือถือ อยู่ใน ระดับปานกลาง เม่ือพิจารณาเป็นช่วงอายุที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ อายุไม่เกิน 30 ปี รองลงมาคือ อายุ มากกว่า 40 ปี ส่วนช่วงท่ีมีค่าเฉลี่ยต่าสุด คืออายุ 31-40ปี และเม่ือนามาเปรียบเทียบรายด้าน ผลการ วิเคราะหแ์ สดงตามตารางท่ี 4.51 ตารางที่ 4.51 แสดงผลการวิเคราะหค์ วามแปรปรวนความตอ้ งการของประชาชนในการให้บริการ จดั เก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชยี งคาน จังหวัดเลย ด้านความน่า เชอื่ ถือ ทมี่ อี ายตุ ่างกนั แหลง่ ความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลุม่ 0.074 2 0.037 0.179 0.836 ภายในกลุม่ 68.388 330 0.207 68.463 332 รวม จากตารางท่ี 4.51 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความน่าเชื่อถือ ไม่ แตกตา่ งกันอยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถติ ิ

79 ตารางท่ี 4.52 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย โดา้ นความรูค้ วามเขา้ ในและรจู้ กั ลูกค้า จาแนกตามอายุ ไมเ่ กิน 30 ปี อายุ n  S.D. แปลผล 31 - 40 ปี รวม 79 3.35 0.49 ปานกลาง มากกว่า 40 ปี 114 3.30 0.44 ปานกลาง 140 3.40 0.54 ปานกลาง 333 3.35 0.50 ปานกลาง จากตารางท่ี 4.52 พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการให้ บรกิ ารจดั เกบ็ ภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความน่าเช่ือถือ อยู่ใน ระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นช่วงอายุที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ อายุมากกว่า 40 ปี รองลงมาคือ อายุ ไม่เกิน 30 ปี ส่วนช่วงที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คืออายุ 31-40 ปี และเมื่อนามาเปรียบเทียบรายด้าน ผลการ วิเคราะหแ์ สดงตามตารางที่ 4.53 ตารางท่ี 4.53 แสดงผลการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนความต้องการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความรู้ ความเขา้ ในและรู้จกั ลกู คา้ ท่มี ีอายตุ ่างกนั แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหว่างกลุ่ม 0.637 2 0.318 1.300 0.274 ภายในกลุ่ม 80.855 330 0.245 81.492 332 รวม จากตารางที่ 4.53 พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านความรู้ความเข้าใจ และรูจ้ กั ลูกคา้ ไม่แตกต่างกนั อย่างมีนยั สาคัญทางสถติ ิ

80 ตารางท่ี 4.54 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย ด้านสงิ่ ที่สามารถจับต้องได้ จาแนกตามอายุ ไมเ่ กนิ 30 ปี อายุ n  S.D. แปลผล 31 - 40 ปี รวม 79 3.48 0.52 ปานกลาง มากกว่า 40 ปี 114 3.45 0.44 ปานกลาง 140 3.47 0.50 ปานกลาง 333 3.47 0.48 ปานกลาง จากตารางที่ 4.54 พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการให้ บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านส่ิงที่สามารถจับต้อง ได้ อยู่ในระดับปานกลาง เมือ่ พิจารณาเป็นชว่ งอายุทม่ี ีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ อายุไม่เกิน 30 ปี รองลงมาคือ อายุมากกวา่ 40 ปี สว่ นช่วงอายทุ ่ีมีคา่ เฉลี่ยต่าสุด คืออายุ 31-40 ปี และเมอื่ นามาเปรียบเทียบรายด้าน ผลการวิเคราะห์แสดงตามตารางที่ 4.55 ตารางที่ 4.55 แสดงผลการวิเคราะหค์ วามแปรปรวนความต้องการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านสิ่งที่ สามารถจบั ตอ้ งได้ ท่ีมอี ายตุ ่างกนั แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหว่างกล่มุ 0.028 2 0.014 0.059 0.942 ภายในกลุม่ 77.065 330 0.234 77.093 332 รวม จากตารางที่ 4.55 พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีระดับความต้องการในการให้ บริการจดั เกบ็ ภาษใี นเขตเทศบาลตาบลเขาแกว้ อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้านส่ิงท่ีสามารถจับต้อง ได้ไมแ่ ตกต่างกนั อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถติ ิ

81 สมมติฐานท่ี 3 ประชาชนท่ีมีรายได้ต่างกันมีความต้องการในการให้บริการจัดเก็บภาษี ในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย แตกต่างกันผลการวิเคราะห์แสดงตาม ตารางท่ี 4.56-87 ตารางที่ 4.56 แสดงค่าเฉล่ีย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และความต้องการของประชาชน ในการให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัด เลย โดยรวม จาแนกตามรายไดต้ อ่ ปี รายไดต้ อ่ ปี n  S.D. แปลผล ไม่เกิน 50,000 บาท 149 3.33 0.36 ปานกลาง 50,001 - 100,000 บาท 114 3.42 0.34 ปานกลาง มากกว่า 100,000 บาท 70 3.62 0.35 มาก 333 3.42 0.37 ปานกลาง รวม จากตารางที่ 4.56 พบวา่ ประชาชนท่ีมีรายได้ต่อปีแตกต่างกันมีระดับความต้องการในการ ให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โดยรวม อยู่ในระดับ ปานกลาง เม่ือพจิ ารณาเป็นช่วงรายได้ท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือช่วงรายได้มากกว่า 100,000 บาท รองลง มาคือ รายได้ระหว่าง 50,001-100,000 บาท ส่วนช่วงรายได้ท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ รายได้ไม่เกิน 50,000 บาท และเมือ่ นามาเปรยี บเทียบรายด้าน ผลการวเิ คราะหแ์ สดงตามตารางที่ 4.57 ตารางที่ 4.57 แสดงผลการวเิ คราะห์ความแปรปรวนความต้องการของประชาชนในการให้บริการ จัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โดยรวม ที่มี รายไดต้ อ่ ปีต่างกัน แหล่งความแปรปรวน SS df MS F Sig ระหวา่ งกลุ่ม 3.875 2 1.938 15.451 .000* ภายในกลุ่ม 41.385 330 .125 45.260 332 รวม * แตกตา่ งกนั อย่างมนี ัยสาคัญทางสถิติท่ี .05 จากตารางที่ 4.57 พบว่า ประชาชนที่มีรายได้ต่อปีแตกต่างกัน มีระดับความต้องการใน การให้บริการจัดเก็บภาษีในเขตเทศบาลตาบลเขาแก้ว อาเภอเชียงคาน จังหวัดเลย โดยรวมแตกต่าง กนั อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดับ .05 และเมอื่ นามาเปรยี บเทียบค่าเฉล่ียรายคู่ตามวิธีการของ LSD (Least Significant Difference) ของ Fisher ผลปรากฏตารางที่ 4.58